คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : EP 3 : พันธมิตรใหม่
เวหาพาวินและเซบไปยังคอนโดของเขา
เมื่อพวกเขามาถึง เวหาก็เปิดประตูคอนโดของเขาให้วินและเซบเข้าไป และเวหาพาวินและเซบไปนั่งที่โซฟาของเขาก่อน
“นั่งตรงนี้ไปก่อนก็แล้วกันนะ
เดี๋ยวฉันไปหาอะไรให้ดื่ม” เวหาเดินเข้าไปในห้องครัว ในตอนนั้นเองวินและเซบก็กลับมานั่งคุยกัน
“นายว่าไอ้หมอนี่มันคิดดีหรือคิดร้ายกับเราวะ”
วินลองถามเซบเพื่อนของเขา
“ฉันก็ไม่รู้
แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนี้” เซบเข้าไปในห้องๆหนึ่งที่เปิดคาไว้ เซบเดินเข้าไปอย่างใจเย็น
จากนั้นเขาก็พบรูปต่างๆที่เวหาถ่ายไว้ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นรูปของคน
และหนึ่งในนั้นก็มีเจ้าพ่อดังๆมากมาย เซบถึงลากวินให้เข้ามาดูด้านใน
วินตกตะลึงเป็นอย่างมากเมื่อได้เจอ จากนั้นเอง เวหาก็ตามพวกเขาเข้าไปในห้อง
“มันน่าสนใจใช่หรือเปล่าหล่ะ”
วินและเซบหันกลับมาด้วยความตกใจ
จากนั้นเวหาก็ยื่นน้ำอัดลมกระป๋องให้พวกเขาทั้งคู่
“เอ้า
ฉันรู้ว่านายน่าจะหิวน้ำ” ทั้งวินและเซบหยิบน้ำอัดลมมาเปิดดื่ม
“เออนี่
นายมีรูปเจ้าพ่อเคี้ยงได้ยังไง” วินยิงคำถามใส่เวหาไปตรงๆ
“ฉันมียิ่งกว่านี้อีก
ฉันรู้เรื่องทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นด้วย นายสนใจมั้ยหล่ะ”
“เรื่องอะไรงั้นเหรอ
พอจะเล่าให้ฟังได้มั้ยหล่ะ” เซบถามอย่างสนใจ
“โอเค
ฉันจะเริ่มเล่าตั้งแต่ต้นเลย”
.
.
คือก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้
มีกลุ่มก่อการร้ายสากลไม่ทราบชื่อ บุกเข้าก่อการในสหรัฐอเมริกา
หลังจากที่อเมริกาถูกยึด ประเทศอื่นๆทุกภูมิภาคก็ล้มไปราวกับโดมิโน่ จากนั้น
ผู้ก่อการร้ายแต่ละภูมิภาค
และเจ้าพ่อต่างๆก็ประกาศตัวว่าตัวเองปกครองเขตไหนต่อเขตไหน หลักๆที่ฉันรู้
ตอนนี้กลุ่มก่อการร้ายในไทยอาจจะไม่มีบทบาท
แต่พวกเจ้าพ่อในแต่ละพื้นที่นี่ตัวเป๋งๆทั้งนั้น พวกนั้นทำศึกกันมาตลอด
จนชาวบ้านธรรมดาๆต้องพลอยซวยไปด้วย
แต่ว่าก็ยังมีคนบางกลุ่มตั้งองค์กรลับเพื่อกอบกู้โลกนี้
แต่ว่านั่นก็เป็นแค่ข่าวลือหน่ะ
“องค์กร องค์กรอะไรกันงั้นเหรอ”
วินถามอย่างตั้งใจ
“ได้ยินว่าชื่อ
The Nation ก่อตั้งโดยกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐเก่าไม่กี่คน
ได้ยินว่าพวกเขารวบรวมพลเมืองที่นี่เพื่อกอบกู้ประเทศหน่ะ”
“ฉันไม่สนหรอก
ฉันขอจัดการกับไอ้สิงห์ก่อนดีกว่า” เซบพูดขึ้น
“เจ้าพ่อสิงห์
ตอนนี้เป็นถึงหนึ่งในสี่เจ้าพ่อทรงอิทธิพลในกรุงเทพเลยนะ
แม่งจ้างนักฆ่าเก่งๆไว้เพียบ นายคนเดียวเอาไม่อยู่หรอก”
“ฉันว่า
ควรจะเก็บลูกน้องมือดีของมันทีละคนนะ” วินพูดกับเซบ
“นั่นสิ
ให้พวกมันรู้สึกสูญเสีย แล้วฉันจะไปเจอกับมันเอง” เซบประกาศกร้าวในบ้าน
“ก็ลองดูแล้วกัน
แต่ฉันขอร่วมกับพวกนายด้วย ฉันจะช่วยพวกนายตามสืบเอง”
“ก็แล้วแต่
แต่เกิดอะไรขึ้นฉันไม่รับรองให้นายนะ” วินพูดและตบไหล่เวหา ก่อนที่จะออกไปนอกห้อง
ณ โรงพยาบาลของวาเดลเรีย
ในขณะที่เธอกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ จู่ๆบุรุษพยาบาลคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในห้อง
จากนั้นก็มาบอกเรื่องใหญ่กับเธอ
“คุณวาเดลเรียครับ
แย่แล้วครับ”
“มีอะไรเหรอ
ว่ามาสิ” วาเดลเรียถามชายคนนั้น
“มีคนเจ็บเป็นสิบมาที่นี่ครับผม”
เมื่อวาเดลเรียได้ยิน
เธอจึงรีบวิ่งออกไปข้างนอก จากนั้นเองเธอก็พบกับคนเจ็บนับสิบมาที่โรงพยาบาลมากมาย
มีทั้งเด็กและคนแก่เข้ามาในโรงพยาบาล
พยาบาลคนอื่นๆพยายามช่วยเหลือเท่าที่จะช่วยได้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย”
วาเดลเรียถามพวกเขา
“พวกแก๊งค์มันเปิดศึกกันครับ
ชาวบ้านพวกนี้เลยโดนลูกหลงไปด้วย”
“รีบพาเข้าไปด้านในเลย”
วาเดลเรียสั่งให้นำผู้ป่วยเข้าไปรักษาด้านใน
โดยที่เธอเป็นผู้ทำการรักษาด้วยตนเอง ทั้งทำแผลและผ่าตัดช่วยเหลือ
ทำเอาเธอและคนอื่นๆแทบจะหัวปั่น
“หมอครับ
ทางนี้ด้วยครับผม”
“โอเค
ฉันกำลังไป” วาเดลเรียรีบตามพยาบาลไป
“หมอคะ
กินน้ำหน่อยค่ะ” วาเดลเรียรับน้ำจากพยาบาลมาดื่ม จากนั้นก็เข้าไปทำแผลให้ห้องถัดไป
“นี่มันเกิดอะไรกัน
ยังมีคนป่วยอีกเท่าไหร่กัน”
“อีกเป็นสิบคนเลยครับ”
“ถ้าเป็นแบบนี้
หมอกับยาเราไม่พอแน่ๆ”
ณ
คอนโดของซากิริ หลังจากที่เธอตื่นมาหลังจากการนอนพักผ่อน
เธอถอดเสื้อแล้วเข้าไปอาบน้ำด้านใน เธออาบน้ำซักพักจากนั้นก็เช็ดตัวออกมาด้านนอก
พร้อมกับมีข้อความใหม่ในอีเมลล์ของเธอ เธอจัดการเปิดอ่านในทันทีโดยไม่รีรอ
“ซากิริ
ฉันมีงานใหม่ ให้เธอมาที่สำนักงาน ส่งของไปที่โรงพยาบาลเซนต์มารี
ฉันส่งที่อยู่ให้เธอแล้ว”
ซากิริดูโรงพยาบาลในแผนที่
เธอก็พบว่ามันอยู่ในเขตปะทะของพวกเจ้าพ่อทั้งสองแก๊งค์
ในตอนนั้นเองเธอไม่รอช้าหยิบปืนและกระสุนไปให้มากที่สุด เพราะว่าเธออาจต้องปะทะกับทั้งสองแก๊งค์แน่ๆ
เธอใส่กระสุนลงในซอง จากนั้นเธอก็แบกปืนขึ้นรถ จากนั้นเธอสตาร์ทรถขับออกไป
จากนั้นเธอก็เปิดเพลงฟังไปด้วย
“เฮ้อ
งานนี้คงจะเหนื่อยแน่ๆ แต่ก็คุ้มนะ เพราะหลายชีวิตอาจจะได้รอดตายก็ได้”
เธอขับรถไปเรื่อยๆตามถนนที่แทบจะไม่มีรถซักคัน
กลับมายังสำนักงาน
The Nation ในตอนนั้นเอง เอกได้รับงานใหม่จากสำนักงาน
เมื่อเขาได้รับรายละเอียดงานเขาก็เรียกเอย์จิ เกรซ
และเอเรียน่ามาคุยกันถึงเรื่องนี้
พวกเขาไปคุยกันในห้องๆหนึ่งซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยสูง เมื่อทุกคนมากันครบแล้ว
เอกก็เปิดประเด็นในทันที
“เอาหล่ะ
ในเมื่อมากันครบแล้ว ก็เริ่มคุยกันเลยดีกว่า”
“ครับคุณเอก
มีอะไรอย่างงั้นเหรอครับ” เอย์จิสอบถามอย่างตั้งใจ
“มีงานใหม่มาให้ช่วย
เราต้องลำเลียงยา เสบียงและหมออาสาไปที่โรงพยาบาลของคุณวาเดลเรียหน่ะ” เอกตอบไป
“ที่โรงพยาบาลเซนต์มารีใช่หรือเปล่าคะ
นึกว่าปิดไปแล้วซะอีก” เอเรียน่าพูดขึ้น
“อ้อ
คุณวาเดลเรีย ลูกสาวของอดีตสมาชิกมาเปิดใหม่หน่ะ” เกรซพูดเสริม
“แล้วเราจะขนยาไปยังไงหล่ะครับเนี่ย”
เอย์จิถาม
“จะมีรถมาที่นี่
พวกนายต้องคุ้มกันพวกเขาหน่ะ” เอกตอบเอย์จิ
“แล้วใครจะกล้ามารับงานนี้หล่ะคะ”
เกรซถามอย่างสงสัย
“ใช่ๆ
ใครมันจะกล้ารับ เหยียบจมูกพวกมันเลยนะ” เอเรียน่าพูดเสริม
“เอาน่า
เธอคนนี้มีฝีมือ พวกเธอต้องชอบแน่ๆ” เอกตอบกลับไป
“ถ้าอย่างงั้นผมขออาสาเองครับ”
เอย์จิยกมือขึ้น
“ฉันขอไปด้วย
ฉันไม่ยอมให้เอย์จิไปคนเดียวหรอก” เอเรียน่ายกมือขึ้นตาม
“อย่าดีกว่า มันอันตรายสำหรับเธอนะ”
เกรซพยายามพูดห้ามเธอไว้
“เอาหล่ะ
งานนี้คงต้องฝากนายหน่อยหล่ะเอย์จิ” เอกพูดกับเขา
“ครับผม
ไว้ใจผมได้เลยครับ”
“ผมจะส่งคนคุ้มกันพร้อมอาวุธไปด้วยสามคน
น่าจะพอนะ” เอกพูดขึ้น
“แค่สามคนมันจะพอเหรอคะ”
เอเรียน่าถามอย่างสงสัย
“งานนี้ไม่ได้ต้องการกำลัง
แต่ต้องแนบเนียนนะ” เกรซพูดขึ้น
“ถูกต้อง
ส่วนตอนนี้ก็รอให้คนของเรามาดีกว่า” เอกพูดส่งท้าย
ณ
ตึกหลังหนึ่งตรงข้ามเหลามังกรฟ้า ซึ่งในตอนนั้นเองชนและโซระก็คอยเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ด้านนอก
พวกเขามองเห็นคนใส่เสื้อยีนส์อยู่ด้านนอกพร้อมอาวุธนับสิบคนอยู่รอบๆเหลา
เขาดูสัญลักษณ์บนแขนเสื้อพวกมัน ก็รู้ว่าเป็นพวกของเถ้าแก่หยงแน่ๆ
“เฮ้ย
พวกเถ้าแก่หยงมีเป็นสิบเลยหว่ะ” ชนพูดขึ้น
“งานนี้เราจะไม่ปะทะแบบตรงๆแน่ๆ”
โซระพูดเสริม
“เออนี่
แล้วเถ้าแก่ยังไม่มีอีกเหรอวะ”
“มึงก็รู้เถ้าแก่มาสายตลอด”
โซระพูด
“เออนี่ แบบนี้กูนั่งกินข้าวรอก่อนได้เปล่า”
ชนพูดประชด
“เอ้านี่
ข้าวกล่อง กินไปก่อนก็แล้วกัน” โซระยื่นข้าวให้กับชน
“แหม่
ประชดเฉยๆเว้ย กินตอนเที่ยงก็ได้”
และในขณะเดียวกันนั้นเอง
รถของเถ้าแก่หยงก็มาพอดี เมื่อรถจอดเถ้าแก่หยงก็รีบเข้าไปในร้านทันที
จากนั้นนักฆ่าทั้งคู่ก็เตรียมเล็งสไนเปอร์ของเขาไปยังห้อง VIP ของร้าน
และในห้อง VIP
ของร้าน
เรย์ได้จัดอาหารต้อนรับเถ้าแก่หยงและสมาชิกระดับสูงในแก๊งค์
ในตอนนั้นเองเรย์เข้าไปหลังร้านหลังจากที่คุมคนของเธอให้ดูแลเถ้าแก่
เธอรีบคุยกับลูกนองของเธอในทันที
“เออนี่
แขกของเราเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดีค่ะ
แล้วทำไมคุณไม่วางยาพวกเขาเลยหล่ะคะ” พนักงานถาม
“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาหน่ะ”
“แล้วเมื่อไหร่จะถึงหล่ะคะ
ฉันเกลียดพวกมัน มันจับก้นฉันด้วย”
“เอาน่า
ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานหรอก”
“ก็ได้ค่ะ
วันนี้เราปิดร้านให้พวกมัน ทำเอาขาดรายได้ไปเยอะเลย”
“เอาน่า
เถ้าแก่เขาจ่ายหนักอยู่นะ” จากนั้นเองเธอก็ยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้กับพนักงาน
“นี่มันอะไรเหรอคะ”
“ให้เธอไปส่งที่เดิมหน่ะ”
เรย์พูดกับพนักงาน
“ได้เลยค่ะ”
เธอรีบออกจากร้าน
ส่วนเรย์ก็กลับไปดูแลแขกต่อ หลังจากที่พวกเขาอิ่มหน่ำสำราญกับอาหารบนโต๊ะ พวกเขาก็เปิดประเด็นคุยกันในทันที
“เอาหล่ะทุกคน
วันนี้ที่อั๊วเรียกพวกลื้อมา ก็น่าจะรู้นะว่าเรื่องอะไร”
“โธ่เฮีย
ทำไมจะไม่รู้หล่ะ ถ้าเฮียลุยอั๊วก็ลุย” ลูกน้องคนหนึ่งพูดขึ้น
“ใช่เถ้าแก่
ผมก็เหม็นขี้หน้าไอ้เจ้าพ่อสิงห์มานานแล้ว ยึดเขตมันมาเลย”
“ถ้าเราจะลุย
เราต้องลุยไม่ให้มันรู้ตัวนะ”
“ตอนนี้มันเริ่มมาก่อกวนคนของเราแล้ว
จะปล่อยไว้ไม่ได้นะเถ้าแก่”
“อั๊วรู้
อั๊วถึงพยายามรวบรวมคนอยู่นี่ไงหล่ะ” เถ้าแก่พูดขึ้น
“แต่ได้ยินว่ามันจะส่งนักฆ่ามาฆ่าเถ้าแก่นี่”
“จะกลัวอะไรหล่ะ
แค่ส่งมือดีไปตามล่ามันก็สิ้นเรื่อง”
แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังนั่งคุยกัน
จู่ๆก็มีกระสุนปลิวเข้ามาใส่แขนของเถ้าแก่หยง
จากนั้นทุกๆคนก็หาที่หลบกระสุนกันให้วุ่น
“ตามล่าไอ้มือปืนนั้น
เร็ว!!”
คนสนิทของเถ้าแก่สั่งคนตามล่ามือปืนพวกนั้น
หลังจากที่ทำงานเสร็จ ชนและโซระก็รีบหนีออกจากตึก เขาฆ่าปาดคอทุกคนที่ขวางทางเขา
จากนั้นเขาก็รีบขี่มอไซค์ของเขาไปในทันที
“รีบไปจากที่นี่เร็ว”
โซระพูดขึ้น
“เออ
เกาะแน่ๆก็แล้วกัน”
ชนขี่มอไซค์ออกจากร้านไป
หลังจากนั้นเองลูกน้องของเถ้าแก่หยงก็พาตัวเขาออกไปจากร้าน
ก่อนที่เรย์และพนักงานคนอื่นๆจะมาทำความสะอาดร้านในทันที
“แหม่
เสียดายน่าจะยิงโดนหัวมันนะคะ” พนักงานคนหนึ่งพูดขึ้น
“อย่าเพิ่งพูดเลย
รีบทำความสะอาดที่นี่ก่อนดีกว่า”
เรย์สั่งให้พนักงานทำความสะอาดร้าน
ส่วนตัวเธอก็จัดการช่วยเหลือพนักงานคนอื่นๆ
ณ
เขตหนึ่งแถวรัชดา เพลิงรีบหนีจากการโดนซ้อมของวินและเซบมาเรื่อยๆ เขาโซซัดโซเซมาตามถนน
แต่ในระหว่างนั้นเอง เขาก็ดันไปชนกับคนๆหนึ่งเขา ทำเอาเพลิงถึงกับล้มลงไปกับพื้น
“เฮ้ย ไอ้น้อง
มึงเป็นใครมาชนกูวะ”
ลูกน้องของชายคนนั้นจับตัวเพลิงขึ้นมา
จากนั้นก็เตรียมจะซ้อมเพลิง
“เดี๋ยวๆๆๆครับพี่
อย่าเพิ่งทำอะไรผม”
“ทำไมวะ
มึงมาเดินชนกู กูยิ่งรีบๆอยู่” ชายคนนั้นพูดขึ้น
“อ้าว
พี่จะไปไหนครับพี่”
“แล้วมึงมายุ่งอะไรด้วยวะ”
“ก็เผื่อผมจะได้ช่วยพี่ไงพี่”
เพลิงพูดด้วยความกลัว
“กูตามหาคนที่ฆ่าเพื่อนกูอยู่หว่ะ”
“ผมรู้ว่ามันเป็นใคร
จริงๆนะพี่”
“มึงรู้เหรอ
มึงอย่าคิดจะหลอกกูนะ”
“ผมรู้จริงๆครับพี่”
เพลิงพูดย้ำจนมันเริ่มเชื่อ
“ว่าแต่มันเป็นใครกันวะ”
“มันก็เพิ่งจะกระทืบผมมา
ผมรู้ ผมเห็นมันฆ่าเพื่อนพี่ด้วย”
“จริงเหรอวะ
มึงรู้เหรอว่ามันเป็นใคร”
“มันมีสองคนหน่ะพี่”
“แค่สองคนเองเหรอ
แสดงว่าไอ้เวรนี่ต้องไม่ธรรมดา” ชายคนนั้นพูดต่อ
“ว่าแต่
พี่ชื่ออะไรครับเนี่ย”
“กูชื่อพง
ว่าแต่มึงหล่ะ”
“ผมเพลิงครับพี่”
“ถ้างั้นมึงพากูไปหามันหน่อย
แล้วกูจะมีรางวัลอย่างงาม” พงพูดเพื่อให้เพลิงพาตัวเขาไปหาวิน
“ได้เลยพี่
ตามผมมาเลยครับ”
เพลิงนำทางพวกมันและแกะรอยของวินไปด้วย
เพื่อที่จะยืมมือของมันกำจัดวินไป
ณ สำนักงานของ
The Nation หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในสำนักงานด้วยความมั่นใจ
เสื้อผ้าชั้นดีและกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆดึงดูดผู้ชายแถวนั้นให้มองเธอ
เธอรีบเดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ที่นั่นทันที
“สวัสดีค่ะ
ดิฉันมาพบคุณเอกค่ะ”
“จากคุณอะไรคะ”
พนักงานคนหนึ่งถาม
“ฉันแองเจลล่า
แวน มีเรื่องจะคุยกับคุณเอกค่ะ”
“เดินตรงไปแล้วซ้ายมือเลยค่ะ”
เธอบอกทางให้กับแองเจลล่า
แองเจลล่าเดินไปที่ห้องของเอกตามที่พนักงานบอก
เธอเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งเอกก็เดินออกมาจากห้องพอดี
“อ้าว
คุณแองเจลล่า ไม่เจอกันนานเลยนะ”
“สวัสดีค่ะมิสเตอร์เอก”
“เดินทางเป็นยังไงบ้างหล่ะครับเนี่ย”
“กว่าจะฝ่าพวกกุ๊ยนั่นมาได้
เกือบโดนจับแล้วเหมือนกันค่ะ”
“ผมได้ยินเรื่องของพ่อคุณแล้ว
ผมเสียใจด้วยนะครับ”
“ที่ฉันมาก็เพื่อพ่อฉันนั่นแหละค่ะ”
“คุณวิคเตอร์คงต้องภูมิใจแน่ๆ
ที่ได้ยินแบบนี้หน่ะ”
“ว่าแต่
ข้อมูลที่คุณพอจะรู้มีแค่ไหนคะ”
“ก็
ไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่หน่ะ รู้แต่ว่าแหล่งกบดานของเถ้าแก่หยงจะอยู่เขตเยาวราชหน่ะ”
“เยาวราชเหรอ
ฉันเคยมาครั้งหนึ่ง เป็ดปักกิ่งอร่อยดีนะ”
“แล้วคุณคิดจะทำอะไรต่อหล่ะ มีแผนอะไรมั้ย”
“ฉันว่าฉันจะแฝงตัวไปอยู่ในแก๊งค์มันหน่ะค่ะ”
“มันจะไม่เสี่ยงไปหน่อยอย่างงั้นเหรอครับ”
“คนอย่างฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้วค่ะ”
“ถ้างั้นผมก็คงทำได้แค่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมหล่ะครับ”
“อ่า
พวกคุณกำลังมีแผนอะไรกันอยู่หรือเปล่าคะ”
“เรากำลังเตรียมขนยาและเสบียงไปเพิ่มให้กับโรงพยายาบาลหน่ะครับ”
“ค่ะ
ถ้างั้นก็ขอให้โชคดีนะคะ”
“ครับ
คุณมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะครับ”
เอกพาแองเจลล่าไปยังห้องพักรับรองของเจ้าหน้าที่
ซึ่งห้องไม่ได้ดูดีอะไรมากแต่ก็พอจะนอนได้
กลับมายังคอนโดของเกรท
เธอกำลังวุ่นอยู่กับการปั๊มยาชนิดใหม่ขายให้กับพวกมาเฟีย
ซึ่งยาชนิดนี้ออกฤทธิ์ค่อนข้างดีและยังมีต้นทุนที่ถูกกว่ายาชนิดอื่น
เธอสกัดมันเป็นเกล็ดใสคล้ายน้ำแข็ง แต่มีสีเขียว เธอตั้งชื่อมันใหม่ว่า
Green Ice เธอสกัดเพิ่มให้มันเป็นก้อนขนาดไม่ใหญ่มาก ใช้ผสมกับบุหรี่ในการสูบ มันจะทำให้ออกฤทธิ์ดีมาก
ในขณะที่เธอกำลังจัดการเรื่องยาเสพติด จู่ๆก็มีคนมาเคาะประตูห้องเธอ
เธอเปลี่ยนชุดแล้วไปเปิดประตูในทันที
“คุณเกรทใช่หรือเปล่าครับ”
“ใช่ ฉันเอง
มีอะไรหรือเปล่า”
“มีคนฝากนี่มาให้คุณครับ”
ชายคนนั้นยื่นกล่องๆหนึ่งให้กับเธอ
เธอหยิบมันเข้ามาในห้อง จากนั้นก็เปิดออก ก็พบกับเหรียญทองจำนวนหนึ่ง เธอรีบหยิบมันมานับในทันที
ซึ่งเหรียญทองมีราวๆ 5 แสนเหรียญได้ เธอรีบเก็บทองในเซฟทันที
“เฮ้อ
ไปอาบน้ำหน่อยดีกว่า”
เธอเปิดประตูเข้าไปอาบน้ำด้านในอย่างสบายอารมณ์
โดยที่เปิดเพลงช้าฟังไปด้วย
ที่บ้านของเจ้าพ่อเคี้ยง
ในระหว่างที่เขากำลังตรวจสอบยาเสพติดล็อตใหม่ซึ่งกำลังจัดการเพื่อเตรียมนำไปขายที่เขตอื่น
ในตอนนั้นเอง ลูกน้องของเขาก็มารายงานข่าวกับเขาหลังจากที่มีข่าวมาใหม่
“พี่เคี้ยงครับ
มีข่าวมาแจ้งครับพี่”
“มีอะไรก็ว่ามาสิวะ”
“ตอนนี้เถ้าแก่หยงโดนลอบยิงครับ”
“จริงเหรอ
แล้วตายหรือเปล่าวะ”
“มีข่าววงในมาว่าไม่ตายครับ”
“กูว่างานนี้เถ้าแก่คงเอาจริงแล้วแน่ๆ
แล้วมีอะไรอีกมั้ยวะ”
“อ่า
ตอนนี้พี่พงแกตามรอยคนฆ่าไอ้จิตรไปครับ กำลังจะเจอตัวมันแล้วครับ”
“เออ
บอกไอ้พงด้วย จับเป็นมาให้ฉัน ฉันอยากเห็นหน้ามันหน่อย”
“ได้ครับพี่”
“เออ
แล้วอีกอย่าง เอายาตัวนี้ไปให้ไอ้เด็กที่อยู่ข้างล่างด้วย”
“ได้ครับพี่”
ชายคนนั้นรีบเอายาไปให้กับเด็กชายคนหนึ่งที่ถูกล่ามโซ่เหมือนกับหมาตัวหนึ่ง
เขาโดนเปลือยกายและโดนกระทำทารุณมานาน จากนั้นเองชายคนนั้นก็โยนยาให้เด็กไป
“เอาไปซะไอ้ลูกหมา”
จากนั้นไม่นาน
มือของชายคนนั้นก็เอื้อมไปหยิบยาขึ้นมาเสพในทันที
ที่คอนโดของเวหา
ในตอนนั้นเองหลังจากที่วินและเซบพักผ่อนกันที่บ้านของเวหาและจัดการหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเจ้าพ่อที่คุมย่านนี้
โดยเริ่มจากเจ้าพ่อเคี้ยง เจ้าพ่อสิงห์ และเถ้าแก่หยง
ซึ่งเป็นเจ้าพ่อที่มีอิทธิพลระดับต้นๆ เขาเริ่มหาข้อมูลของลูกน้อง กิจการที่ทำ
และข้อมูลอื่นที่พวกเขาพอจะหาได้
“นี่ ดูสิ
เจ้าพ่อเคี้ยงคุมกิจการเถื่อนทุกอย่างในรัชดาหมดเลย” เวหาพูดให้วินและเซบได้ดู
“อ้อ
ฉันว่าแล้วทำไมมันถึงเลี้ยงลูกน้องเยอะขนาดนั้นได้” วินพูดขึ้น
“ไอ้เจ้าพ่อสิงห์ก็ไม่เบา
มันรีดไถ่ชาวบ้าน และกิจการอื่นๆที่มีของมีค่า ทองคำ เสบียง ประมาณว่าเก็บค่าคุ้มครองหน่ะ” เซบพูด
“เออ
อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะ ถ้านายจะลุยกับพวกนี้ นายต้องมีกองหนุนเยอะกว่านี้นะ”
เวหาพูดเตือนพวกเขา
“เราจะไม่ปะทะตรงๆกับมัน
เราจะตัดแขนตัดขามันไปเรื่อยๆ ไม่ให้มันรู้ตัวหน่ะ” วินพูดขึ้น
“ใช่ๆ
เริ่มจากจัดการสมุนหลักๆของมันก่อน ที่เหลือก็เล็งไปที่หัวของมันเลย” เซบพูดเสริม
แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังพูดกัน
จู่ๆก็มีเสียงเตือนภัยมาจากด้านนอก
ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณเตือนที่เวหาติดเอาไว้ที่ด้านหน้าของคอนโด เวหารีบไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในทันที
“ท่าทางเรามีแขกไม่ได้รับเชิญนะเพื่อน”
วินและเซบรีบเตรียมปืนของเขา
จากนั้นก็ไปที่ประตูเพื่อเตรียมรับมือพวกที่คิดจะบุกเข้ามา
พวกมันถามหาคนสองคนตามที่เพลิงบอกลักษณะ ทุกคนชี้มาที่ห้องของเวหา
จากนั้นพวกมันก็มาเฝ้าที่หน้าห้อง
“เฮ้ย
เปิดประตูดิ”
“พวกนายสองคนถอยห่างประตูดีกว่า”
เวหาเตือนวินและเซบ
เมื่อพวกมันพังประตูเข้ามา ระเบิดที่ติดอยู่ที่ประตูก็ทำงานในทันที
ทุกคนที่อยู่หน้าประตูโดนแรงระเบิดจนแหลก
ลูกน้องคนอื่นๆที่ยังไม่ตายก็บุกเข้ามาถล่มในห้อง แต่วินและเซบยิงสกัดพวกมัน
จากนั้นก็ชักดาบออกมาเล่นงานพวกมันจนมันถอยออกจากห้อง และในตอนนั้นเอง
วินและเซบก็ออกไปสำรวจด้านนอก ดูว่ายังมีใครรอดชีวิตอยู่อีกบ้าง
“วิน
ไอ้หอกนี่ยังไม่ตายหว่ะ”
เซบลากคอมันขึ้นมา
จากนั้นวินก็ดูหน้ามัน
“นี่แก
แกคือไอ้พงใช่หรือเปล่า”
“มึงรู้ชื่อกูได้ยังไงวะ”
มันพูดด้วยอาการที่ใกล้จะตายทุกที
“ก็กูกำลังตามล่ามึงอยู่นี่ไง
แต่ก็ดีหล่ะที่มึงมาให้ฆ่าถึงที่” เซบพูด
“มึงมาที่นี่ได้ยังไง
บอกกูมา” วินถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“มีคนนำทางกูมา
มันบอกว่ามึงฆ่าคนของนายกูตาย ไอ้จิตร”
“มึงรู้ได้ไงว่ากูเป็นคนทำวะ”
วินถามไป
“นั่นดิ
แสดงว่ามึงต้องมีสายอยู่แน่ๆ” เวหาพูดขึ้น
“นี่พวกมึงเป็นคนฆ่างั้นเหรอ พวกมึงกำลังทำอะไรอยู่วะ”
“กูกำลังล่าตัวนายมึงไปลงนรกยังไงหล่ะ”
วินพูดใส่หน้ามัน
“นายแกอยู่ที่ไหนหล่ะตอนนี้”
เวหาถาม
“ไม่ต้องหรอก
เดี๋ยวนายกูก็ตามล่าพวกมึงเองนั่นแหละ”
“เออ
ให้มันรีบมาเลย” วินยิงหัวมันจนตายคาที่ ส่วนเพลิงที่แอบอยู่แถวนั้นก็รีบหนี
เซบพยายามจะไล่ตามแต่ก็ไม่ทัน
“ไอ้เพลิง
มันรู้ได้ไงว่าเราฆ่าลูกน้องเจ้าพ่อเคี้ยงหน่ะ” เซบถามอย่างสงสัย
“สงสัยคงต้องตามล่าไอ้เพลิงแล้วหล่ะ
เวหา ฉันขอโทษที่พานายมาเสี่ยง ฉันว่านายรีบไปจากที่นี่ ลืมเรื่องนี้ซะเถอะ”
แต่ในตอนนั้นเอง
เวหาก็กลับเข้าไปในห้องของเขา เก็บอุปกรณ์ที่ยังใช้ได้บางส่วนออกมาหาวิน
“ฉันหันหลังกลับไม่ได้แล้ว
มันพังบ้านฉัน ถือว่ามันประกาศสงครามกับฉันด้วย
แล้วนายจะทิ้งพันธมิตรได้ลงงั้นเหรอ” เวหาพูดกับวินและเซบ
“ถ้างั้นนายก็ตามมา
ฉันจะกลับไปที่บ้านฉันก่อน”
วินและเซบเดินออกจากคอนโดมา
โดยที่เวหาก็ตามมาด้วย
=====================================================================
วินและเซบได้เพื่อนใหม่ แล้วดูเหมือนว่าพวกเขากำลังโดนหมายหัว พวกเขาจเอาตัวรอดกันได้หรือไม่ ติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ความคิดเห็น