คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 3 : เนโรเคลื่อนพล
ที่คฤหาสน์ของนายพลเนโร
ในขณะที่เนโรกำลังฉลองด้วยการดื่มวิสกี้จากอเมริกา ในตอนนั้นเองมาร์ธ่ากับซาร่าก็เข้าไปต่อว่าเนโรด้วยความโกรธ
เนื่องจากที่เนโรสั่งฆ่านอร์ดิกได้ลงคอ
มาร์ธ่า : เนโร
นี่ลูกทำอะไรลงไป รู้ตัวบ้างมั้ย
วิเวียน : อุ๊ย
คุณแม่คะ มาถึงที่นี่เลยเหรอคะเนี่ย
เนโร : ผมทำอะไรเหรอครับแม่
ก็แค่ประกาศสงครามหน่ะ
นอสต้า : นั่นสิครับ
เราจะได้รวมประเทศนี้กันซักทีนะครับ
มาร์ธ่า : นี่
แกจะไปรบไปฆ่าใครที่ไหนฉันไม่ว่า
แต่แกทำกับเด็กไร้เดียงสาแบบนั้นนี่แกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า
โซรอน : นี่คุณป้าครับ
ไปเอาเรื่องนี้มากจากไหนครับ
ซาร่า : พี่ได้ยินทุกอย่างที่พวกเราคุยกันหมดแล้วนะ
มาร์ธ่า : นี่แก
แกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า
เนโร : อะไรกันครับแม่
ถ้าแม่ไม่อยากให้ฆ่ามัน ผมสั่งให้ทหารถอยกลับก็ได้ ทหาร
เลิกตามล่าตัวไอ้เด็กนั้นได้แล้ว
คูเปอร์ : ท่านครับ
พูดตรงๆนะครับ ผมก็ไม่เห็นด้วยนะครับกับเรื่องนี้
เนโร : ก็สั่งให้เลิกตามล่ามันแล้วยังไงหล่ะ
ฮ่าๆๆๆ
และในขณะเดียวกัน
ที่โซราบอลก็มีการเกณฑ์ทหารเข้าร่วมกองทัพ ชายหนุ่มคนหนึ่งดูมีสง่าราศีคนหนึ่ง
ได้เดินเข้าไปดูใบประกาศใบหนึ่ง เขาเดินไปดูใบประกาศ
จากนั้นเรื่องราวเก่าๆของเขาก็เข้ามาในหัว
“พระองค์ เราโดนยึดอำนาจแล้ว รีบหนีเถอะขอรับ”
“พาลูกของเราหนีไป ลูกเราต้องไม่ตกอยู่ในมือพวกมัน”
ใช่แล้วหล่ะ เขาคือ แอนโทนี่ เอ็ดเวิร์ด จอห์นสัน
องค์รัชทายาทของกษัตริย์จอห์นสัน
พ่อของเขาถูกชิงบัลลังค์จนทำให้เกิดสงครามกลางเมืองมายาวนานหลายปี
แม่ของเขาต้องพาเขาลี้ภัยไปยังเกาะวอลล์พีอยู่กับชนพื้นเมืองแถบนั้น
วันนี้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาจึงออกจากเกาะวอลล์พีมาสืบเรื่องคนที่ฆ่าพ่อของเขา
เอ็ดเวิร์ดไปยังโต๊ะสมัครทหาร
จากนั้นก็ไปลงรายชื่อกับนายทะเบียนคนหนึ่ง
“เอ้า ชื่ออะไร มาจากไหนงั้นเหรอ”
เอ็ดเวิร์ด : ผมเอ็ดเวิร์ด
จอ.. เอิ่ม เอ็ดเวิร์ด โจสครับ
“มาจากไหนหล่ะ ไม่บอกด้วยหล่ะ”
เอ็ดเวิร์ด : เกาะวอลล์พีครับผม
“เอ้า นึกว่าวอลล์พีจะมีแต่พวกคนป่าซะอีก รีบลงชื่อแล้วไปรับชุดกับปืนตรงนั้นซะ”
เอ็ดเวิร์ดรีบลงชื่อจากนั้นก็ไปรับชุดกับปืนของเขาทันที
และอีกด้านหนึ่ง อาบาตูควบรถม้าไปเรื่อยๆ
เข้าสู่ดินแดนมอร็อค เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาก็หยุดรถที่ชายป่าแห่งหนึ่ง
ซึ่งเหมาะสำหรับเป็นที่พักค้างแรมแถวนั้น
อาบาตู : คุณชายครับ
ที่นี่เหมาะจะพักค้างแรมสำหรับเรา ผมจะไปก่อกองไฟกับกางเต้นท์นะครับ
นอร์ดิก : ผมเข้าใจหล่ะ
เคจา ตอนนี้เรามีอาวุธอะไรบ้างหล่ะ
เคจา : ตอนนี้เรามีแค่ปืนลูกโม่
4 กระบอก กับปืนยาววินเชสเตอร์ 3 กระบอกหน่ะ
ไซโซ : ใช่
แถมตอนนี้กระสุนเราก็เหลือไม่มากเท่าไหร่ แล้วก็ดาบประจำตัวของพวกเราหน่ะ
นอร์ดิก : คุณอาบาตู
เก็บไรเฟิลไว้ใช้ดีกว่าครับ ผมใช้แค่ลูกโม่ก็พอหล่ะ
อาบาตู : ขอรับ
งั้นกระผมจะไปก่อกองไฟนะขอรับ
ระหว่างนั้นเอง พวกเด็กๆก็ช่วยกันกางเต้นท์
จากนั้นก็เข้ามานอนด้วยกันทั้งสามคน ในตอนนั้นเอง
พวกเขาทั้งสามคนก็คุยกันถึงเรื่องราวต่างๆ ที่พวกเขาเคยร่วมเผชิญด้วยกันมา
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เคจาและไซโซถูกปล้นบ้าน และพ่อแม่พวกเขาถูกฆ่าตาย
พวกเขาทั้งคู่ได้มาร่ำเรียนวิชาการต่อสู้และการทหารกับ “โอเชนัส” อดีตทหารเอกของกษัตริย์
ซึ่งมาร์ธ่าเป็นคนฝากพวกเด็กๆทั้งสามคนไปร่ำเรียนวิชากับเขา
เพราะมาร์ธ่าก็เคยเป็นอดีตแม่นมเอกของกษัตริย์เหมือนกัน
พวกเขาทั้งสามคนเรียนวิชาดาบในตำนานที่สืบทอดต่อกันมานาน ที่อาจารย์ของพวกเขาภูมิใจนักหนา
“วิชาดาบที่ฉันจะสอนให้พวกนาย
เป็นวิชาดาบที่สืบทอดต่อกันมา เมื่อฝึกจนแกร่ง อานุภาพจะร้ายแรงกว่าปืนชนิดไหนๆ
เพราะปืนมันมีวันหมดกระสุน แต่วิชาดาบที่ฉันให้พวกนาย
จะเป็นพลังสำคัญสำหรับพวกนาย”
เคจา : ดูดาบที่ฉันได้สิ
ดาบวารีพิฆาตหน่ะ
ไซโซ : ของฉันได้ดาบวายุเหินเวหา
นอร์ดิก : ของผมได้ดาบเพลิงโลกันต์
ว่าแต่อีกเล่มหนึ่งอยู่ที่ไหนหล่ะ
ไซโซ : ช่างมันก่อนเถอะ
ไหนๆเราก็ได้มาแล้วนี่หน่า
และที่อาณาจักรของเนโร
ซิลเวียร์กลับมาอีกครั้งเพื่อฝากตัวเป็นหมอของตระกูลไซเบอร์ตัน
เธอได้งานแรกของเธอคือการรักษามาร์ธ่า
ซาร่า : หนูซิลเวียร์จ๊ะ
สบายดีนะจ๊ะ
มาร์ธ่า : ฉันเสียใจด้วยนะเรื่องครอบครัวของเธอ
ต่อไปนี้เธอมาอยู่กับฉันนะ // ใช่แล้วหล่ะ
ซิลเวียรืเพิ่งจะเสียครอบครัวของเธอจากอุบัติเหตุ
หลังจากนั้นเธอก็มาเรียนหมอกับนายแพทย์ชาวดัชต์ แล้วก็ได้มารักษามาร์ธ่า
ซิลเวียร์ : แล้วนอร์ดิกเขาอยู่ที่ไหนเหรอคะ
ซาร่า : เขาถูกตามล่าหน่ะ
ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
ซิลเวียร์ : หนูเป็นห่วงเขาจัง
หวังว่าจะเจอเขาเร็วๆนี้นะคะ
และในขณะเดียวกัน ที่เมืองโมโรวิน แคว้นมอร็อค
มีกลุ่มใต้ดินกลุ่มหนึ่ง กำลังประชุมกันถึงเรื่องของอนาคตของกลุ่มลับ
นำโดยเอลิซ่าคนเดิม เพิ่มเติมคือเติบโตขึ้น
เธอร่วมมือกับเฟรย์อาและพี่น้องตระกูลเรสแจนมิสฟราย์เป็นแกนนำหลัก
ในการต่อต้านนายพลเนโร แถมยังมีโอลลี่
จอมโจรสาวที่ทางการโซราบอลต้องการตัวมาร่วมกลุ่มด้วย
เอลิซ่า : เอาหล่ะทุกท่าน
ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมประชุมกันในวันนี้ อย่างที่รู้ นายพลเนโรกำลังระดมทัพ
เพื่อเข้าโจมตีริงก้า
เฟรย์อา : ว่าแต่
พวกเขาจะเดินทัพมาทางไหนหล่ะ
มาร์ธิว : เท่าที่สายข่าวของผมทราบมา
พวกมันอาจจะเดินทัพผ่านที่นี่หน่ะ
แมทธิว : ทำไมพวกมันต้องผ่านมาทางนี้หล่ะ
ป่าที่นี่รกจะตาย
เอเทอร์ : ก็พวกมันคงไม่อยากจะเดินทัพผ่านฟิลล์บอนที่มีแต่ทะเลทรายหน่ะสิ
เลออน : แบบนี้เราก็ซุ่มโจมตีพวกมันสบายหน่ะสิ
หวานหมูไปเลย
โอลลี่ : ว่าแต่ตอนนี้
กำลังของพวกนั้นมีเท่าไหร่หล่ะ
เมเทอร์ : เท่าที่ดูนะ
ทหารไม่ต่ำกว่า 5 แสนได้ แถมยังมีปืนใหญ่และเรือรบอีกตั้งเยอะหน่ะ
เอลิซ่า : แต่ถึงกระนั้น
เราก็ไม่ยอมแพ้หรอก ให้พวกมันบุกเข้ามา เราจะทำให้พวกมันอยู่ที่นี่ไม่ได้เลย
มาร์ธิว : เอาหล่ะ
แด่สมาคมเพื่อประชาชนของเรา
เฟรย์อา : เพื่อสมาคมลับของเรา
ดื่มหมดแก้วเลย // พวกเขายกแก้วไวน์มาดื่ม
เพื่อเป็นการประกาศศักดาของสมาคมลับ
ณ น่านน้ำแปซิฟิก ท้องทะเลที่ดูเหมือนจะสงบ
แต่ก็มีกองเรือกองใหญ่ของจักรวรรดิเยอรมนีแล่นไปตามคลื่นลม
เป้าหมายก็คือดินแดนนอลโวร่า ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ขนาดนั้นเอง ในตอนนั้นเอง
ทหารนายหนึ่งวิ่งขึ้นไปรายงานเรื่องกับผู้บังคับบัญชาบนหอบังคับการเรือ
“ท่านแอนตาร์กครับ
ตอนนี้เรากำลังจะถึงท่าเรือบารอน ของแคว้นเดลล์แล้วครับ” ใช่แล้ว แอนตาร์กติก หลังจากที่เธอเติบโตขึ้น
เธอได้สมัครเข้าเป็นนายทหารเรือของราชนาวีเยอรมัน
หน้าที่ของเธอในตอนนี้คือการรักษาผลประโยชน์ของเยอรมันในเขตนี้
เนื่องจากได้ข่าวถึงความวุ่นวายที่กำลังจะมาถึง
แอนตาร์กติก : ดีหล่ะ
ฉันก็อยากจะไปหาอะไรกินบนฝั่งเหมือนกัน
“เมื่อไปถึง ท่านต้องไปเยี่ยมท่านทูตก่อนนะครับ”
แอนตาร์กติก : ฉันเข้าใจหล่ะ
ว่าแต่น่านน้ำตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
“ตอนนี้มีกองเรือสัญชาติรัสเซียตามเรามาติดๆครับ”
แอนตาร์กติก : อย่าเพิ่งทำอะไร
พวกนายไม่อยากก่อสงครามหรอกนะ ใช่ไหม
และอีกด้าน
กองเรือจักรวรรดิรัสเซียก็แล่นตามกองเรือเยอรมันมาติดๆ
ซึ่งแม่ทัพเรือคนนี้มีชื่อว่า นาวาตรี โทมารอฟ
ซึ่งเขาได้รับคำสั่งให้ปกป้องผลประโยชน์และชีวิตของชาวรัสเซียที่อยู่บนดินแดนแห่งนี้
โทมารอฟ : เมื่อไหร่จะขึ้นบกหล่ะเนี่ย
อยากเที่ยวเต็มแก่หล่ะ
“อีก 3 ชั่วโมงครับท่าน”
โทมารอฟ : พวกนายดูสิ
อังกฤษ ฝรั่งเศส มากันหมดเลย ฉันว่าต้องมีเรื่องใหญ่แน่ๆ
“แน่หล่ะสิครับ นายพลเตเวียสตาย
นายพลเนโรก็ก่อสงครามอีก”
โทมารอฟ : อย่าให้มันมามีปัญหากับเราก็แล้วกัน
ณ แคว้นฟิลล์บอน ดินแดนทะเลทรายอันร้อนระอุ
แทบไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆอาศัยอยู่ได้เลย แต่ถึงกระนั้น
นักสำรวจกลุ่มหนึ่งก็ไม่หวั่น สำรวจอะไรบางอย่างท่ามกลางผืนทะเลทรายแห่งนี้
“นี่ โคน่า แถวนี้ร้อนจังเลย
จะมีอะไรให้พวกเราหรือเปล่าเนี่ย” โคน่า
ปัจจุบันเธอและพ่อแม่พี่น้องของเธอย้ายมาอยู่ที่ฟิลล์บอน
เพื่อทำการสำรวจสิ่งที่เธอได้ร่ำเรียนมา
โคน่า : อดทนหน่อยสิคาลิมบ่า
ฉันรับรองว่าต้องเจออะไรแน่ๆ
คาเนส : นี่
น้องโคน่า พี่ไม่อยากจะขัดเราหรอกนะ แต่ที่นี่นอกจากทองคำยังจะมีอะไรอีกเหรอ
โคน่า : ลองดูเถอะพี่
หนูลองมาร์กจุดเอาไว้แล้ว
ในขณะนั้นเอง
คาลิมบ่าก็ได้เจอน้ำอะไรบางอย่างสีดำผุดขึ้นมาจากรูที่พวกเขาขุด
ในตอนนั้นเองพวกเขาตกใจกันมาก เนื่องจากไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลย
คาลิมบ่า : นี่
พวกเรา ฉันเจออะไรด้วยหล่ะ มานี่สิ // พวกเขารีบวิ่งมายังจุดที่มาร์กเอาไว้
ซิกนัส : นี่
มันใช่สิ่งที่พี่อยากจะเจอหรือเปล่า น้ำดำๆเนี่ย // ซิกนัส น้องชายของโคน่าที่กำลังเรียนทหารอยู่กล่าวขึ้น
โคน่า : เยี่ยมไปเลย
เก็บตัวอย่างมันเอาไว้ งานนี้เรารวยเละแน่ๆ
อาเรีย : เดี๋ยวฉันจะลองส่งตัวอย่างกลับไปนะคะ
ไม่แน่อาจเจออะไรดีๆก็ได้ //
อาเรีย หนึ่งในลูกทีมนักสื่อสารของโคน่า
พวกเขารีบเก็บตัวอย่างน้ำมันที่ได้มาไปวิจัยทันที
เพื่อเสาะหาวิธีการอื่นเพื่อนำมันมาใช้ เนื่องจากโคน่าได้เล็งเห็นว่า
น้ำดำชนิดนี้จะกลายเป็นหัวใจหลักของยุคเครื่องจักรนี้
ที่แคว้นเดลล์ ซึ่งในตอนนั้นการเมืองของแคว้นยังอยู่ในความวุ่นวาย หลังจากที่ผู้ครองแคว้นคนเก่าตาย ก็เกิดการชิงอำนาจกันขึ้น แต่ชาวต่างชาติก็ไม่หวั่น เข้ามาหากินยังดินแดนแถบนี้เรื่อยๆ และกับชายชาวดัชต์คนหนึ่ง ซึ่งเข้ามาค้าขายกับประเทศแห่งนี้หลายครั้ง เขารักที่นี่ราวกับเป็นบ้านหลังที่สองของเขา และเป็นวันเดิมๆที่เขาจะต้องไปเจอเพื่อนพ่อค้าของเขา ซึ่งในตอนนั้นเองเขากำลังนั่งนับของอยู่ในบ้านของเขา ชายคนนั้นปาหินก้อนเล็กใส่บ้านเขาทันที “เฮ้ย ใครเล่นแบบนี้วะ”
“นี่ฉันเอง แกจะทำไมวะ”
“อ้าว นิโคลัสเหรอ เข้ามาในบ้านก่อนสิพวก” ชายเจ้าของบ้านเชิญแขกเข้ามาในบ้านทันที
สภาพในบ้านมีแต่กล่องสินค้าเต็มไปหมด เขาชวนชายคนนั้นไปนั่งดื่มอะไรด้านหลัง
นิโคลัส : นี่เอ็น
อยู่ที่นี่นายสบายดีนะ
เอ็น : แน่นอน
ไม่มีปัญหา ฉันก็ค้าขายเรื่อยๆนั้นแหละ // เอ็น
ชายหนุ่มนายหน้าหน้า นักขายทุกอย่างบนแผ่นดินนี้
นิโคลัส : นี่
แต่ฝิ่นที่นายขโมยมาจากอังกฤษเนี่ย ให้ฉันไปขายที่จีน ฉันเกือบติดคุกแล้วมั้ยหล่ะ
เอ็น : แหงะหล่ะ
ก็เขาอนุญาตให้อังกฤษขายได้นี่ นายไม่ปลอมสินค้าหน่อยเหรอ
นิโคลัส : ก็ปลอมแล้วไง
ถึงได้รอดมาที่นี่หล่ะ
เอ็น : แล้วของที่ฉันต้องการได้หรือเปล่า
อาวุธและกระสุนหน่ะ
นิโคลัส : แน่นอนสิ
ทำอย่างกับว่าจะมีสงครามอย่างงั้นแหละ
เอ็น : นี่นายไม่รู้เหรอ
สงครามกำลังจะเกิดนะเฟ้ย ตั้งแต่นายพลเตเวียสตายไป โซราบอลกำลังระดมคนทำสงครามอยู่
นิโคลัส : เอาหล่ะ
ยังไงก็ตามแต่ อย่าให้เราไปเกี่ยวก็แล้วกัน
และอีกด้านหนึ่งของแคว้นเดลล์ ที่เมืองยารัสต้า
เมืองหลวงของแคว้น หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่ในห้องๆหนึ่อย่างเงียบๆ
ในขณะนั้นเอง คนรับใช้ของเธอก็วิ่งเข้ามาในห้อง เพื่อมารายงานข่าวๆหนึ่งกับเธอ
“คุณอาร์เทมิสครับ ได้ข่าวหรือยังครับ
โซราบอลประกาศสงครามกับริงก้าแล้วครับ” อาร์เทมิส
บุตรสาวของหนึ่งใน 5 ผู้บริหารแคว้นนี้
ที่เพิ่งจะได้รับตำแหน่งจากพ่อของเธอ
อาร์เทมิส : งั้นเหรอ
งานนี้แผ่นดินได้ลุกเป็นไฟแน่ๆ
“งานนี้เนโรไม่ยอมปล่อยพวกเราไปแน่ๆครับ”
อาร์เทมิส : เรียกประชุมคณะผู้บริหารที่เหลือด่วนเลย
“ได้ครับ ผมจะรีบส่งม้าเร็วไปครับ”
อาร์เทมิส : พ่อของฉันเคยทำสงครามกับเนโร
งานนี้เราไม่รอดแน่ถ้าพวกเขามาถึงที่นี่
อาร์เทมิสรีบไปแต่งตัวจากนั้นก็รีบควบม้าออกไปยังสภาของแคว้นเดลล์
เพื่อทำการประชุมใหญ่เกี่ยวกับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น
ที่ชายฝั่งของบาส์ก เรือขนส่งลำหนึ่งแล่นจากเกาะวอลล์พีมาเทียบท่าที่ท่าเรือ
เพื่อขนคนจากวอลล์พี่มายังเมืองแห่งนี้ สองหญิงสาวรีบลงจากเรือเมื่อเรือเทียบท่า
“เมด รอฉันด้วยสิ จะรีบไปไหนเนี่ย”
“ต้องรีบหน่อยหล่ะแพท ไม่งั้นพวกเราไม่รอดแน่ๆ” เมดและแพท
เธอสองคนเป็นชาวพื้นเมืองของเกาะวอลล์พี เธอสองคนถูกจับไปขายเป็นทาส
พวกเธอจึงต้องหนีออกมาจากเกาะวอลล์พีเพราะกลัวว่าพวกนายทาสจะตามล่าตัวพวกเธอ
แพท : ว่าแต่
เราจะไปไหนกันอย่างงั้นเหรอ
เมด : เราจะหนีไปเดลล์
ที่นั่นมีเรือออกจากนอลโวร่าได้
แพท : ว่าแต่ทำไมเราต้องรีบร้อนขนาดนี้หล่ะ
จากนั้นไม่ทันขาดคำ
ก็มีเสียงปืนใหญ่ดังมาอย่างต่อเนื่อง
ทำเอาชาวบ้านแถวนั้นรวมถึงพวกเธอสองคนตกใจกันมาก
เมด : ที่เราต้องรีบก็เพราะแบบนี้ยังไงหล่ะ
แต่ในตอนนั้นเอง ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมาชนเธอ
ในตอนนั้นเองเมดก็คอยประคองคนที่วิ่งมาชนเธอเอาไว้
“ขอโทษนะคะ เป็นอะไรมากมั้ย”
แพท : นี่
เธอจะรีบไปงั้นเหรอ เธอเป็นใครเนี่ย
โรส : ฉันชื่อโรส
ฉันกับครอบครัวจะรีบหนีไปที่เกาะลับของเราหน่ะ
เมด : เกาะลับเหรอ
ทำไมต้องไปที่นั่นหล่ะ
โรส : ก็พวกของนายพลเนโรกำลังจะมาที่นี่หน่ะสิ
แพท : นายพลเนโรจะมายึดที่นี่งั้นเหรอ
แย่หล่ะ พาพวกเราไปด้วยสิ
โรส : ได้สิ
เรือของฉันอยู่ตรงนั้น รีบตามมาเร็วก่อนที่ทหารของโซราบอลจะมา
ในระหว่างที่ชาวบาส์กกำลังหนีหัวซุกหัวซุน
อีกด้านหนึ่งของภูเขา นายพลนอร์ทกับลูกสาวของเขา สการ์เล็ต
กำลังมองดูชาวบ้านที่กำลังหนีอยู่ตรงนั้น
สการ์เล็ต : พ่อคะ
ชาวบ้านพวกนั้นจะเอายังไงต่อหล่ะคะ
นอร์ท : ชาวบ้านพวกนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเรา
ที่เราต้องการคือกองโจรของรูดิวกับมอร็อคหน่ะ
สการ์เล็ต : พวกมันมาก่อเรื่องที่นี่ด้วยเหรอคะ
นอร์ท : ใช่แล้วหล่ะ
ตรงนั้นไงหล่ะ
นายพลนอร์ทชี้ให้เห็นทหารของโซราบอลกำลังไล่ยิงกองโจรของมอร็อค
ซึ่งกองโจรพวกนั้นมีอาวุธที่ไม่ทันสมัยเท่าไหร่ บางคนก็ใช้ธนูในการสู้รบ
แต่ทหารของโซราบอลใช้ปืนไฟอย่างดีกันทั้งทัพ
ทำเอาพวกกองโจรแตกกระจายกันไปคนละทิศหล่ะทาง
สการ์เล็ต : นี่คงจะเป็นอีกครั้ง
ที่ชาวนอลโวร่าต้องมาฆ่ากันเองสินะ
นอร์ท : นี่
หุบปากไปซะ
และกลับมาที่แคว้นมอร็อค นายพลใหญ่ของมอร็อคเรียกประชุมพลเป็นการด่วนเพื่อรับศึกจากโซราบอล
ในขณะนั้นเอง ฟีนด์ โฟทิออส เด็กหนุ่มซึ่งบัดนี้กลายเป็นนายทหารคนหนึ่งของมอร็อคมาประจำการตามที่นายพลคนหนึ่งร้องขอทันที
ฟีนด์ : ท่านนายพลอัลเบิร์ตครับ
อัลเบิร์ต : ที่ผมเรียกคุณมาวันนี้
เพราะเราต้องรีบรับศึกจากโซราบอลหน่อยหล่ะ
ฟีนด์ : ท่านครับ
พวกเขากำลังจะผ่านแคว้นรูดิวมาถึงเราแล้วนี่ครับ
อัลเบิร์ต : ใช่แล้ว
ผมเลยเรียกคุณมายังไงหล่ะ พวกมันมีกำลังพลมากกว่าเรามาก ราวๆครึ่งล้านได้
ฟีนด์ : แต่กำลังพลของเรามีแค่แสนกว่าเองนะครับ
อัลเบิร์ต : ใช่
คุณพอจะมีแผนอะไรหรือเปล่า
ฟีนด์ : เราต้องใช้ชัยภูมิของเราเพื่อความได้เปรียบครับ
เนื่องจากเขตของเราเป็นป่าทึบ น่าจะรบแบบกองโจรกับพวกเขาได้
อัลเบิร์ต : จัดการโดยด่วน
ถ้าเรายันไว้ไม่ได้ เราคงต้องถอยไปเดลล์หล่ะ
ฟีนด์ : ได้ครับท่าน
ผมจะจัดการเองครับ
และที่เมืองโมโรวิน
พวกของนอร์ดิกก็เพิ่งจะมาถึงเมืองแห่งนี้ได้ไม่นาน
เขาต้องรีบหาเสบียงและของจำเป็นเพื่อเดินทางไปยังริงก้าต่อไป
แต่ในเมืองแทบจะเงียบเหงา เพราะแต่ละคนไม่กล้าออกจากเมืองเนื่องจากภัยสงคราม
เคจา : ทำไมที่นี่มันเงียบจังเลยเนี่ย
ไซโซ : นั่นดิ
ป่านนี้ทหารมอร็อคน่าจะไปรบอยู่หล่ะมั้ง
อาบาตู : คุณชายครับ
ผมจะไปซื้อเสบียงซักครู่นะครับ
นอร์ดิก : ผมว่า
ชาวบ้านคงยังไม่ออกมาขายของตอนนี้หรอกครับ เราน่าจะหาที่พักกันก่อนนะ
ไซโซ : นั่นสิ
นอนในป่ามาสามวันแล้ว ยุงก็เยอะชิบเป๋ง
เคจา : แต่หาที่ประหยัดๆหน่อยนะ
เราต้องเดินทางอีกไกลกวาจะถึงริงก้าเลยหล่ะ
นอร์ดิก : คุณอาบาตูครับ
คุณไปหาเสบียงนะครับ ผมจะหาที่พักในเมืองนี้เอง
อาบาตู : ได้ขอรับ
และกลับมายังโซราบอล
นายพลเนโรกับกองทัพครึ่งล้านของเขา กำลังประจำการที่รูดิว เพื่อเตรียมเข้าตีมอร็อค
โดยมีโซรอน เป็นรองแม่ทัพ นอสตันก็เข้าร่วมในการรบครั้งนี้ด้วย
โซรอน : ท่านพี่ครับ
พลเรือเอกเจมส์แห่งราชนาวีสหรัฐกำลังจะนำกองเรือมาช่วยเราครับ
เนโร : เยี่ยมไปเลย
งานนี้เราจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด
นอสต้า : ท่านพ่อครับ
ผมอยากนำในการรบครั้งนี้ด้วยครับ
เนโร : ลูกได้รบแน่
ไม่ต้องห่วง คูเปอร์ สั่งทหารม้าเตรียมเข้าโจมตีได้
คูเปอร์ : ได้ครับ
// คูเปอร์รีบขึ้นม้าแล้วก็ชักดาบออกมา
จากนั้นก็ไปนำกองพลม้าของตัวเอง
เนโร : ปืนใหญ่ของเราเตรียมพร้อมนะ
โซรอน : พร้อมครับท่านพี่
เนโร : เอาหล่ะ
ยิงได้!!
หลังจากสิ้นเสียงของนายพลเนโร
ปืนใหญ่นับพันกระบอกยิงถล่มเข้ามอร็อคทันที
=====================================================================
กองทัพของเนโรเคลื่อนพลเตรียมจะบุกมอร็อคแล้ว พวกของนอร์ดิกจะไปถึงริงก้าโดยปลอดภัยหรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
เรื่องนี้อัพบ่อยเพราะความชอบส่วนตัว แหะๆๆๆ
ตัวละครของทุกคนมาแล้วน้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยครัช
ความคิดเห็น