คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : เรื่องไม่คาดฝัน
พวกเขาพยายามแฝงตัวเข้าไปในห้องพักของพวกเขาที่โรงงานแห่งหนึ่ง
พวกเขาพยายามจะฝ่าตำรวจพวกนั้นเข้าไป หลังจากที่ผ่านเข้ามาที่ห้องของพวกเขาได้
พวกเขาก็รีบหยิบเงินที่ตัวเองสะสมมาทั้งหมดไปทันที เพราะพวกเขาต้องหนีไปจากที่นี่
แต่ในระหว่างเดียวกัน ก็มีชายคนหนึ่งพยายามมาที่ห้องพักของพวกเขาด้วย
ซึ่งนั้นก็คือดไวด์นั้นเอง
ดไวด์ : พวกนาย
ยังอยู่เหรอ ดีใจจังเลย
นาวิน : มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอดไวด์
ดไวด์ : อยู่ดีๆพวกเกสตาโปก็มาจับพวกเราทั้งโรงงาน
คุณจอร์จี้บอกกับฉันว่า ถ้าฉันเจอพวกนาย ให้ฉันบอกพวกนายว่า ให้หนีไปโปแลนด์กับฉันซะ
โอ๊ค : แล้วมันจะทำอะไรคุณจอร์จี้หรือเปล่าอ่ะ
ดไวด์ : ฉันก็ไม่รู้
ได้ยินว่าจะขังลืมด้วยอ่ะ
อเล็กซ์ : ต้องเป็นฝีมือยัยนั่นแน่ๆ
คอยดูนะ ถ้าฉันเจอฉันฟันหน้าไม่เลี้ยงแน่
ธิน : เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ
ว่าแต่เราจะหนีไปยังไงหล่ะ
ดไวด์ : ฉันนัดเพื่อนฉันไว้หลังโรงงานอ่ะ
เราเตรียมรถบรรทุกหนีกันแล้ว
โซเซีย : เราจะไปโปแลนด์จริงๆเหรอ
อยากไปฝรั่งเศสมากกว่า
แซค : นั่นสิ
เพราะโปแลนด์อีกไม่นานก็คงจะ
เอม : คงจะอะไรเหรอคะพี่
แซค : ไม่มีอะไรหรอก
ถ้ามันปลอดภัยก็โอเค
ดไวด์ : ไม่ต้องห่วง
ที่นั่นมีงานให้พวกนายทำทุกคน ฉันรับรองได้
ออย : ก็ดีเหมือนกันค่ะ
ฉันว่าที่นี่ก็ชักไม่ปลอดภัยแล้วหล่ะ
พวกเขารีบพากันหนีไปขึ้นรถบรรทุกที่เตรียมไว้
จากนั้นรถก็ค่อยๆเคลื่อนไป พวกเขาใช้เส้นทางลับ
ที่ทำให้เข้าสู่โปแลนด์ได้โดยที่ไม่โดนพวกเกสตาโปจับได้
สองเดือนต่อมา พวกของเทราน์เนอร์ก็ได้ดิบได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
เทราน์เนอร์กับวิคเตอร์ถึงขั้นเป็นตัวเต็งในการแข่งรถแรลลี่ประจำปีที่ฝรั่งเศส
วิคเตอร์ : ยินดีด้วยนะ
ต่อไปนี้นายจะคว่ำศัตรูทุกรายบนถนนเหมือนฉัน
เทราน์เนอร์ : ยินดีครับ
แล้วจะลงแข่งเมื่อไหร่ครับ
วิคเตอร์ : ไม่กี่เดือนนี่แหละครับ
ถ้าเราชนะ ท่านผู้นำจะต้องภูมิใจแน่ๆ
เทราน์เนอร์ : แด่ท่านผู้นำ
// เขาชูมือขึ้น ส่วนคนอื่นๆก็ชูมือขึ้นตามเขา
ส่วนฮัมบูร์ก
เธอได้ไปเรียนวิชาทหารเพิ่มเติมในกองทัพแวร์มัค เธอทำผลงานได้ดีจนคนอื่นๆต้องอิจฉา
(เพราะเธอรู้เรื่องยุทธวิธีจากโลกอนาคตด้วย) ถึงขั้นจอมพลรอมเมลต้องเรียกเธอเข้าพบทันที
เนื่องจากประสิทธิภาพของเธอโดดเด่นเกินกว่าใครในช่วงนั้น
วันที่เธอเข้าพบรอมเมล เธอตื่นเต้นมาก
เมื่อเธอเจอเขา เธอขอจับมือเขาทันที
ฮัมบูร์ก : ท่านนายพลคะ
เป็นเกียรติที่ได้เจอท่านค่ะ
รอมเมล : สวัสดีสาวน้อย
กาแฟหน่อยมั้ย // เลขาชงกาแฟให้เธอดื่ม แต่เธอเผลอทำกาแฟหกใส่เธอ
เลขาต้องคอยเช็ดแขนให้เธอ
เลขา : ขอโทษนะคะๆ
// เธอเช็ดไปเรื่อยๆ
แต่ไม่มีทีท่าว่าฮัมบูร์กจะเจ็บปวดแต่อย่างใด ทำเอารอมเมลถึงกับสงสัย
รอมเมล : ไม่เจ็บไม่ปวดอะไรเลยเหรอ
ฮัมบูร์ก : อ้อ
ฉันเป็นโรค congenital
analgesia
หรือโรคไร้ความเจ็บปวดตั้งแต่เด็กหน่ะค่ะ ขนาดรถชนหนูยังไม่เป็นอะไรเลย
รอมเมล : งั้นเหรอ
ฉันอยากให้เธอรู้จักกับผู้ช่วยของฉัน คนนี้ร้อยเอกลูกา ฮอฟฟ์แมน กองทัพบกแวร์มัค
ร้อยเอกมิลเล่อร์ หน่วย Panzergrenadier และร้อยโทเมอร์ลิน กองทัพอากาศลุควาฟ รู้จักกันไว้สิ
พวกเขาจับมือกัน จากนั้นรอมเมลก็พูดต่อ
รอมเมล : ท่านผู้นำมีแผนการจะทำสงครามครั้งใหม่หน่ะ
ลูกา : ว่าแต่
จะเริ่มที่ไหนหล่ะครับ
รอมเมล : ท่านผู้นำหมายตาโปแลนด์ไว้หน่ะ
มิลเลอร์ : ผมว่า
งานนี้คงต้องใช้ทหารเยอะมากๆในการบุกหน่ะครับ
ฮัมบูร์ก : แต่ฉันว่าไม่จำเป็นนะคะ
// เธอโต้แย้งขึ้นมาทันที
เมอร์ลิน : ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้นหล่ะ
บอกหน่อยสิ
ฮัมบูร์ก : ฉันมองว่า
ศักยภาพของพวกเขาคงจะต้านพวกเราไม่ได้หรอกค่ะ
ลูกา : แต่เราก็จะประมาทไม่ได้นะ
มิลเลอร์ : นั่นสิ
เรายังไม่รู้ศักยภาพของพวกนั้นดีพอเลยนะ
ฮัมบูร์ก : ฉันมีวิธีที่ทำให้ได้ผลอย่างรวดเร็วที่สุด
และใช้คนน้อยที่สุดค่ะ
เมอร์ลิน : ว้าว
น่าสนใจแหะ อยากรู้จริงๆว่าเธอจะทำยังไง
รอมเมล : เอาหล่ะ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ท่านผู้นำจะเรียกเข้าพบ ยังไงพวกเธอก็ไปกับฉันด้วยก็แล้วกันนะ
ส่วนชีวิตของโยชิตะ เขาฝึกได้ไม่เท่าไหร่ก็มีพัฒนาการนำหน้าเด็กคนอื่นๆ
เขากำลังจะได้พบท่านผู้นำเพื่อรับเหรียญจากเขาแล้ว เด็กคนอื่นๆพากันยินดีกับเขา
“ยินดีด้วยนะๆ”
“จะได้พบท่านผู้นำด้วย เยี่ยมไปเลย”
ระหว่างที่โยชิตะกำลังพักผ่อน ก็มีคนมาเยี่ยมเขา
ซึ่งนั้นก็คืออลิส พี่สาวของเขานั้นเอง ตัวของรินเองก็มาด้วย
อลิส : เป็นยังไงบ้าง
อยู่ที่นี่สบายดีนะ
โยชิตะ : สบายดีครับพี่
แล้วพี่หล่ะ เป็นไงบ้าง
อลิส : ฝึกเสร็จแล้วหล่ะ
อีกไม่กี่วันฉันกับรินจะได้ทำงานแล้ว
ริน : ฉันจะได้งานทำเป็นนักร้องบังหน้าหน่ะ
โยชิตะ : ห่ะ
อย่างเธอร้องเพลงเป็นด้วยเหรอ
ริน : นี่
อยากโดนอีกหรือไงห่ะ แล้วนี่นายหน่ะ ไปถึงไหนแล้ว
โยชิตะ : พรุ่งนี้ท่านผู้นำจะมอบเหรียญให้ผมครับ
อลิส : ฉันเข้าใจนะ
แต่อย่าลำพองมากเกินไปหล่ะ อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่ยุคของเรา
โยชิตะ : ผมเข้าใจครับพี่
ริน : เฮ้อ
คิดๆไปแล้ว อยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกันนะพี่
อลิส : เข้าใจ
แต่อย่าหลงระเริงมากหล่ะ พี่เตือนเพราะหวังดีนะ
ริน : อย่างโยชิตะเขาไม่ฟังหรอกพี่
555
โยชิตะ : โว๊ะ
ปัญญาอ่อน ผมไปนอนพักก่อนนะ // โยชิตะหัวเสียเข้าไปนอนพักอยู่ในแค้มป์ของเขา
ทางด้านเทเรซ่า ซึ่งเธอต้องกลับประเทศของเธอ
เธอนั่งอยู่บนเรือลำใหญ่ นั่งครุ่นคิดถึงบ้านเกิดของเธอ
แต่อยู่ดีๆเธอก็คิดถึงชายอีกคนหนึ่ง
“เฮ้อ นาวิน
ฉันจะได้เจอกับนายอีกเมื่อไหร่หล่ะเนี่ย”
เธอร้อนใจอยากจะกลับมาเยอรมันเร็วๆอีกครั้ง
แต่เธอคงไม่รู้ว่าเขาต้องหนีไป เนื่องจากโดนตามล่า เธอไปขอไวน์ที่ห้องรับรองดื่ม
แล้วเธอก็นั่งอยู่มุมเล็กๆคนเดียว ไม่คุยกับใครเลย
ส่วนทางด้านรัตที่กำลังจะกลับบ้านพร้อมกับเพื่อนทหารคนอื่นๆ
เขาได้หยิบสร้อยเส้นหนึ่งที่โอ๊คให้มามอง แล้วก็พูดกับตัวเองไปเรื่อย
“เฮ้อ เมื่อไหร่ฉันได้เจอนายหล่ะเนี่ย
ความจริงฉันน่าจะขอที่อยู่นายนะ”
ระหว่างนั้นเอง ทหารอีกคนหนึ่งก็เดินเข้าไปคุยกับเขา
“สร้อยนั้นได้มาจากใครเหรอ รัต”
“ก็ ฉัน ได้จากเพื่อนฉันหน่ะ”
“เพื่อนนายคงจะสนิทกับนายมากนะ
เพ้อถึงเขาตลอดเวลาเลยเนี่ย”
รัตไม่ได้พูดอะไรมาก
และยังคงมองดูสร้อยเส้นนั้นต่อไป
ณ สถานทูตสหรัฐอเมริกาในเยอรมัน
ชายคนหนึ่งกำลังทำงานบนโต๊ะอย่างเคร่งขรึม เนื่องจากงานบนโต๊ะกองเป็นภูเขาเลากา ในขณะเดียวกัน
ก็มีชายคนหนึ่ง รีบร้อนเข้ามาต้องการขอพบกับเขาให้ได้
“ตอนนี้ยังไม่ได้ครับ คุณโจสกำลังทำงานอยู่ครับ”
“ผมมีของสำคัญต้องเอาให้เขาดูครับ”
โจสรู้ได้ถึงความเคลื่อนไหว
จึงเรียกเขาให้เข้ามาพบ ผู้ชายคนนั้นเรียกรีบมาหาเขาทันทีด้วยความกลัว
โจส : ใจเย็นๆนะ
นายมีอะไรว่ามาเลย
“คุณโจสครับ ข้อมูลที่ผมได้มา
อาจจะทำให้ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้ครับ”
โจสได้อ่านข้อความเหล่านั้น
ซึ่งเป็นเอกสารลับจากทางราชการ ซึ่งโจสดูเนื้อหาด้านใน
ทำให้เขาต้องรีบเก็บข้อมูลนั้นไปทันที
โจส : เอาหล่ะ
ฉันขอบใจมากนะ ว่าแต่ นายต้องการอะไรเพิ่มเติมมั้ย นอกจากเงินหน่ะ
“ผมต้องการ passport อเมริกาครับ ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว”
โจส : ได้สิ
เดี๋ยวนายไปรอที่ห้องนั้นก่อนนะ ฉันจะให้เลขาเอาของไปให้ // เขาให้ชายคนนั้นไปรอ
จากนั้นเองตัวเขาก็เก็บข้อมูลนั้นอย่างมิดชิด เพราะหากข้อมูลนี้รั่วไหลไป
เขาอาจจะตายในต่างแดนนี้ก็ได้
“นี่ค่ะ ของที่คุณต้องการอยู่ในซองนี้แล้ว”
ชายคนนั้นรับซองนั้นมา ซึ่งในนั้นมี passport อยู่หนึ่งเล่มกับเงินดอลล่าห์อีกจำนวนหนึ่ง
จากนั้นเขาก็รีบร้อนออกไปอย่างระแวง
แต่ในขณะเดียวกันไม่นาน
ก็มีรถคันหนึ่งของเจ้าหน้าที่เยอรมันขับมาที่หน้าสถานทูต
โจสสั่งให้เจ้าหน้าที่ด้านในเตรียมการต้อนรับเป็นอย่างดี
“หัวหน้าของเราอยู่ในห้อง เชิญค่ะ”
เธอเดินเชิดหน้าอย่างไม่แคร์สื่อ
เข้าไปในห้องของโจนที่กำลังตรวจงานอยู่
โจส : เชิญนั่งครับ
// เธอลากเก้าอี้มานั่ง
“ดิฉันนูโวร่า เบียงกี้ คุณน่าจะรู้จักชื่อฉันนะ”
โจส : คุณคือนูโวร่าผู้โด่งดัง
ว่าแต่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ
นูโวร่า : เราอยากทราบความเคลื่อนไหวของนักโทษหนีคดีคนนี้
// เธอยื่นรูปให้เขาดู
โจส : เขาเป็นใครกันหล่ะ
นูโวร่า : ไม่สำคัญหรอกค่ะ
เราได้ยินว่าเขาติดต่อสถานทูตอเมริกาหน่ะ
โจส : ผมรู้จักเขา
เขามาขอลี้ภัยหน่ะ แต่ตอนนี้เราไม่ได้ติดต่อกันแล้ว
นูโวร่า : น่าเสียดายจังเลย
ถ้าคุณเจอเขา ฉันหวังว่าคุณคงจะให้ความร่วมมือนะ // เธอเดินออกไปโดยไม่บอกลา สร้างความน่าหมั่นไส้ให้กับเจ้าหน้าที่ในนั้นมากๆ
วันต่อมา ซึ่งเป็นวันแถลงข่าวการแข่งรถแรลลี่ยุโรปประจำปี
ทีมนักแข่งจากเยอรมันเตรียมให้สัมภาษณ์นักข่าวถึงการเตรียมพร้อมเข้าแข่งขัน
นักข่าว : คุณวิคเตอร์คะ
ดิฉันอยากทราบถึงความมั่นใจของคุณในการแข่งครั้งนี้ค่ะ
วิคเตอร์ : ครั้งนี้เรามีความมั่นใจมากที่สุด
ที่จะได้ชัยชนะมาฝากท่านผู้นำ
นักข่าว : แล้วคุณเทราน์เนอร์คะ
คุณเป็นนักแข่งหน้าใหม่ คุณรู้สึกตื่นเต้นกับการแข่งขันในครั้งนี้หรือเปล่าคะ
เทราน์เนอร์ : คือ
ถึงแม้ว่า ผมจะเป็นนักแข่งใหม่ แต่ฝีมือของผมนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอนครับ
ในขณะเดียวกัน ฮัมบูร์ก โยชิตะ อลิส ริน
และนายทหารอีกสามคน มิลเลอร์ เมอร์ลินและลูก้าก็อยู่ด้วยในการสัมภาษณ์ครั้งนั้น
ฮัมบูร์ก : ดูท่าทางจะสั่นๆนะ
พูดยังดูไม่ต่อเนื่องชอบกล
โยชิตะ : เอาน่าพี่
ก็พี่เทราน์เนอร์เขาเพิ่งจะออกสื่อครั้งแรกนี่พี่
อลิส : อยากเห็นพี่เขาลงแข่งเร็วๆจังเลยนะเนี่ย
ริน : นั้นสิ
อยากเห็นฝีมือพี่เขาจัง ตั้งแต่ขับโกคาร์ทครั้งนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย
ลูก้า : ท่าทางเพื่อนเธอจะดูประหม่านิดหน่อยนะ
ฮัมบูร์ก : ฉันว่าไม่นิดหน่อยแล้วหล่ะ
มิลเลอร์ : แต่อย่าลืมนะ
ทางฝรั่งเศสยังมีนักแข่งชื่อดังคนนั้นอยู่นี่
เมอร์ลิน : แล้วยังไงหล่ะ
คิดจะยอมแพ้พวกฟร็อกกี้งั้นเหรอ (ฟร็อกกี้เป็นคำที่เรียกชาวฝรั่งเศสอย่างดูแคลน
เนื่องจากพวกเขาชอบนำขากบมาทำอาหาร)
นักข่าว : แต่ปีที่แล้ว
ฝรั่งเศสเพิ่งจะได้แชมป์สมัยที่ 3 ต่อเนื่องกันแล้ว
คุณว่าศักยภาพของคุณจะพอสู้ได้หรือเปล่าคะ
วิคเตอร์ : ผมเชื่อว่าปีนี้พวกเขาคงต้องผิดหวังแล้วหล่ะครับ
การสัมภาษณ์เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และในตอนนั้นเอง
ก็เป็นการเดินแบบจากชุดนานาชาติ หนึ่งในนั้นมีสยาม ซึ่งกัสเป็นนางแบบอยู่ด้วย
เธอทำให้สายตาหลายคู่หยุดมองที่เธอ แม้แต่วิคเตอร์ยังแอบมอง จนกระทั่งเดินเสร็จ
วิคเตอร์เดินเข้าไปหาเธอถึงห้องแต่งตัวของเธอทันที
วิคเตอร์ : สวัสดีครับคุณผู้หญิง
ผมวิคเตอร์ ยินดีรับใช้ครับ // เขาพูดจากนั้นก็จูบมือเธอ
กัส : เรียกฉันว่ากัสก็ได้นะคะ
คุณวิคเตอร์ คุณมีตำแหน่งอะไรเหรอคะ
วิคเตอร์ : ผมเป็นเจ้าหน้าที่เกสตาโปหน่ะครับ
กำลังจะได้ตำแหน่งหัวหน้าหน่วย ss ด้วยครับ
กัส : ดีจังเลยค่ะ
คุณคงเก่งเรื่องการหาคนนะ
วิคเตอร์ : ก็นิดหน่อยครับ
ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่าครับ
กัส : นอยากให้คุณตามล่าคนกลุ่มหนึ่งหน่ะค่ะ
(พวกของนาวิน) พวกนั้นเป็นพวกผิดกฎหมายที่เข้ามาประเทศคุณ
เขาทำร้ายฉันอย่างไม่ใยดี ถ้าคุณช่วยฉัน จะเป็นพระคุณต่อฉันมากเลยค่ะ // เธอทำท่าทางอ่อยเขาด้วย
วิคเตอร์ : ไม่ต้องห่วงครับ
ผมจะดูแลเรื่องนี้เอง
ทางด้านกลุ่มของนาวิน
หลังจากที่เดินทางรอนแรมมาหลายวัน ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงกรุงวอร์ซอร์
ประเทศโปแลนด์แล้ว พวกเด็กๆตื่นเต้นกันมากๆ
เอม : ที่นี่สวยงามมากๆเลย
เธอว่าหรือเปล่าออย
ออย : แน่นอน
ที่นี่กรุงวอร์ซอร์เลยนะ อากาศดีจริงๆ
นาวิน : แล้วพวกเราต้องทำงานที่ไหนกันเหรอ
ดไวด์
ดไวด์ : โรงงานแถวนี้นี่แหละ
ตามฉันมาก็แล้วกัน // ดไวด์นำทางพวกเขาไปยังโรงงานเป้าหมาย
ระหว่างนั้นเอง พวกเขาก็แวะซื้อขนมปังแถวนั้นทาน
ซึ่งเป็นร้านของหญิงสาววัยกลางคนท่านหนึ่ง กำลังนั่งพักอยู่
โอ๊ค : คุณน้าครับ
ขอซื้อขนมปังแถวนึงครับ ขอเนยกับแฮมด้วยนะครับ
“ได้จ้ะ แล้วพวกเธอมาจากไหนกันหล่ะ ท่าทางมาจากต่างถิ่นนะเรา”
ธิน : พวกเราเพิ่งหนีมาจากเยอรมันหน่ะครับ
ที่นั่นเราโดนตามล่าหน่ะครับ
“เสียใจด้วยนะหนู พวกมันเดรัจฉาน ว่าแต่พวกหนูเป็นใครหล่ะ”
อเล็กซ์ : หนูอเล็กซ์
โนว่าสตอร์ม ว่าแต่คุณน้าหล่ะคะ // น้าคนนั้นแปลกใจ
ทำไมถึงคิดว่าอเล็กซ์นามสกุลเหมือนเธอ แต่เธอก็บอกชื่อของเธอไป
“ป้าชื่อ แคทเทอรีน โนว่าสตอร์มหน่ะหลาน”
อเล็กซ์อึ้งไปอยู่นาน ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก เพราะเธอคนนี้เป็นยายทวดของเธอในอนาคต
ซึ่งแม่ของเธอชอบเล่าถึงยายทวดคนนี้ให้ฟังบ่อยๆ
แซค : อเล็กซ์
เป็นอะไรไปอ่ะ ไม่สบายหรือเปล่า
โซเซีย : นั่นดิ
เห็นดูมึนๆตั้งแต่เมื่อกี้แล้วเนี่ย
อเล็กซ์กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
แคทเทอรีนก็รู้สึกผูกพันกับเด็กคนนี้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แคทเทอรีน : พวกหนูจะไปไหนกันเหรอจ๊ะ
ดไวด์ : พวกเราจะไปโรงงานของคุณมาร์ตินหน่ะครับ
แคทเทอรีน : ไปอีกตั้งไกลนะหนู
น้าว่ามาพักในบ้านน้าก่อนดีกว่านะ
แคทเทอรีนช่วยเด็กๆหล่านั้นเข้ามาในบ้านของเธอ
ส่วนอเล็กซ์แทบจะพูดอะไรไม่ออก แคทเทอรีนก็มาช่วยปลอบเธอ
แคทเทอรีน : หนูร้องไห้ทำไมเหรอจ๊ะ
อเล็กซ์ : หนูว่า
หนูมีอะไรต้องคุยกับคุณเยอะและเลยหล่ะ
======================================================================
อเล็กซ์จะทำยังไง เธอจะบอกเรื่องราวทั้งหมดหรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์แล้วก็กดหัวใจ กดติดตามด้วยนะครัช
ความคิดเห็น