คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ลุยครั้งแรก
แมงมุมแม่ม่ายดำเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับจอมยุทธ์และคนของเขา
พวกเขาจึงวางแผนเรื่องนี้กันว่าจะรับมือยังไง
จอมยุทธ์ : ผมว่า
ถ้าทุกอย่างเป็นอย่างที่แม่ม่ายดำว่าจริงๆ ผมว่าพวกมันคงจะลงมือเร็วๆนี้แหละ
แมงมุมแม่ม่ายดำ : ใช่ค่ะ เพื่อนฉันกลัวกันมากเลย ฉันว่าเราต้องรีบทำอะไรหน่อยแล้วหล่ะ
เงา : อืม
แล้วนี่เธอพอจะรู้มั้ยว่าแหล่งกบดานของพวกมันอยู่ที่ไหน
แมงมุมแม่ม่ายดำ : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
โซ่ตวง : ถ้าแบบนั้น
เราคงต้องสืบจากพวกที่อยู่รอบๆร้านของเพื่อนเธอแล้วหล่ะ
แมงมุมแม่ม่ายดำ : อ้อ จำได้หล่ะ มีผู้ต้องสงสัยคนนึงมันมาจีบเพื่อนฉันหน่ะ
ฉันว่ามันอาจจะรู้อะไรก็ได้
จอมยุทธ์ : โอเค
งั้นพวกเราไปกันเลย เผื่อจะสืบได้อะไรบ้าง
จากนั้นพวกของจอมยุทธ์ก็ขึ้นรถไปยังร้านของผ้าฝ้าย
เผื่อว่าเธอจะรู้อะไรบ้างอย่าง
ที่ร้านของผ้าฝ้าย ซึ่งตอนนั้นผ้าฝ้ายกับแฮมเตอร์กำลังคุยกันอยู่ในร้าน
สายลับโซเวียตคนเดิมที่มาจีบผ้าฝ้ายก็เดินเข้ามาในร้านพอดี
จากนั้นเขาก็เข้ามาคุยกับผ้าฝ้าย
สายลับโซเวียต : สวัสดีจ้าคนสวย
ผ้าฝ้าย : สวัสดีค่ะ
มาตัดชุดเหรอคะ
สายลับโซเวียต : ไม่หรอกครับ ความจริง ผมมาทำอะไรพิเศษกว่านั้น
แฮมเตอร์ : อะไร
ทำอะไรกับเพื่อนฉันหน่ะ
สายลับโซเวียต : ไม่มีไรหรอกคร้าบ แค่อยากเดทกับเพื่อนคุณหน่ะ
ผ้าฝ้าย : เอิ่ม
วันนี้ฉันไม่ว่างค่ะ
สายลับโซเวียต : ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะมาเดทที่นี่แหละ // จากนั้นก็ชักปืนออกมา ทั้งสองคนก็ตกใจ
แฮมเตอร์ : นี่คุณต้องการอะไรเนี่ย
จะปล้นเราเหรอ
สายลับโซเวียต : ผมแค่อยากสอบสวนแบบตัวต่อตัวกับเพื่อนคุณหน่อย
หรือคุณอยากจะมาด้วยก็ได้นะ ฮิๆๆๆๆ // ทั้งสองคนพยายามร้องให้คนช่วย
แต่ไม่มีคนอยู่แถวนั้น ทั้งสองคนกำลังตกอยู่ในอันตราย
แต่ทันใดนั้น ก็มีรถมาจอดอยู่ที่หน้าร้าน
ซึ่งนั้นก็คือรถของจอมยุทธ์และพรรคพวกนั้นเอง
สายลับโซเวียตจึงจับแฮมเตอร์ล็อคคอไว้
จอมยุทธ์เห็นจึงชักปืนออกมาเล็งที่สายลับคนนั้น
จอมยุทธ์ : ใจเย็นๆนะ
นายต้องการอะไร
สายลับโซเวียต : ถอยไปห่างๆเลยนะ
เงา : ผมจัดการเองครับ
// จากนั้นเงาก็เดินเข้าก็เดินเข้าไปใกล้สายลับคนนั้น
จากนั้นก็พูดว่า “แกกล้ายิงคนมั้ย ถ้ากล้า ก็ลองกับฉันดูสิ”
สายลับโซเวียต : ถอยไปนะเว้ยไอ้สัส ไม่งั้นฉันยิงนังนี่แน่
เงา : งั้นเหรอ
มึงคงไม่รู้สินะ ว่ามึงกำลังโดนปืนจ่อข้างหลังอยู่ // สายลับโซเวียตมองไปด้านหลัง แต่เงาก็จับปืนของมันได้และหักแขนมัน
จากนั้นโซ่ตวงก็ไปล็อคตัวของสายลับโซเวียตคนนั้นไว้ จากนั้นเงาก็เอาตัวแฮมเตอร์ออกมา
เงา : นี่เธอ
เจ็บตรงไหนมั้ยอ่ะ
แฮมเตอร์ : ฉันไม่เป็นไรหรอก
โซ่ตวง : เราจะทำยังไงกับไอ้บ้านี่ดีหล่ะ
แมงมุมแม่ม่ายดำ : ฉันจัดการกับมันเอง // จากนั้นแมงมุมแม่ม่ายดำก็ลากสายลับโซเวียตคนนั้นไปหลังร้าน
ณ สหรัฐอเมริกา
เนสซีซึ่งกำลังนั่งเขียนจดหมายอยู่ในบ้านพักของเขา
เขาอยากเขียนจดหมายถึงผ้าฝ้ายนะ เลยหยิบปากกามา
พร้อมกับเขียนสิ่งที่เขาคิดลงไปในกระดาษแผ่นนั้น เขานั่งฮัมเพลงไปมา
หลังจากที่เขียนเสร็จ เขาคิดไปคิดมา ไปเที่ยวข้างนอกดีกว่า เขาขับรถที่เช่าออกไปใจกลางเมือง
ระหว่างนั้นที่ขับรถไปเรื่อยๆนั้น เขาโดนขว้างหินใส่รถ ทำให้รถเสียหลักชนข้างทาง
เนสซีงงว่าเกิดอะไรขึ้นจึงชักปืนออกมามองไปนอกรถ
เห็นกลุ่มคนถือไม้กำลังที่จะเข้ามาทำร้ายเขา เนสซีพยายามยิงปืนขู่แต่พวกมันก็ไม่แสดงความเกรงกลัวอะไรเลย
เนสซีจึงยิงมันเข้าไปนัดนึง แต่มันก็พยายามที่จะกระทืบเนสซีให้ได้
แต่ระหว่างนั้นก็มีรถคันหนึ่งขับมาจากถนนใหญ่
จากนั้นพวกเขาก็ลงมายิงพวกที่จะเข้ามาทำร้ายเนสซี เนสซีก็ยิงช่วย
จนพวกมันส่วนหนึ่งหนีไป จากนั้นเนสซีก็ออกมาจากรถ
ชายสองคนในหน้ากากก็ออกมาจากรถเช่นกัน
“ปลอดภัยนะนาย”
เนสซี : ขอบใจมากเลยนะ
พวกนายเป็นใครหล่ะ
“ฉันความมืด แล้วนี่ก็เพื่อนฉันกระดาษ แล้วนายหล่ะ”
“ฉันเนสซี ยินดีที่ได้รู้จัก
นายรู้มั้ยว่าพวกมันเป็นใครหน่ะ”
ความมืด : ฉันว่า
พวกสายลับคอมมิวนิสต์เจ้าเดิมนั้นแหละ
กระดาษ : นั้นสิ
เดือนนี้เจอมาสิบกว่าครั้งแล้วนะเนี่ย
ความมืด : แล้วนายเป็นใคร
ทำไมมันต้องทำร้ายนายหล่ะ
เนสซี : ฉันเป็นเลขาธิการ
UN จาก Mask Land หน่ะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมมันจะมาทำร้ายฉัน
ความมืด : ว้าว
ฉันรู้แหละ นายเป็นคนดังนี่เอง
เนสซี : คนดัง
ยังไงอ่ะ
กระดาษ : ไม่รู้จริงดิ
ที่นายพูดกลางที่ประชุม UN
หน่ะ ทางโซเวียตเขาสั่งเก็บนายแบบลับๆแล้วนะเฟ้ย
เนสซี : จริงเหรอ
ตายหล่ะ แล้วพวกนายรู้ได้ไงหล่ะ
ความมืด : ฉันเป็นสายลับหน่ะ
กวาดล้างพวกมันมาเป็นเดือนแล้ว
เนสซี : เพื่อนนายด้วยเหรอ
กระดาษ : เปล่า
ฉันทำงานในแล็ปวิทย์หน่ะ แต่ก็พอยิงปืนเป็นบ้าง
ความมืด : งั้นก็คงไม่มีทางเลือกแล้วหล่ะ
นับแต่นี้ไป นายกับฉันคงต้องร่วมมือกันมากขึ้นแล้วหล่ะ
เนสซี : ห่ะ
เอาจริงเหรอ
กระดาษ : จริงดิ
หรือนายอยากโดนพวกมันเก็บก็ตามใจนะ // เนสซีจำใจรับเพื่อนใหม่จอมซนทั้งสองคน
จากนั้นตำรวจก็เข้ามาเคลียร์เหตุการณ์ทั้งหมด จากนั้นพวกเขาก็ขึ้นรถออกไป
เนินเขาเบค่อน อินชอน เกาหลีใต้
หมาป่าดำนำคนไปสำรวจรอบเขาทั้งวันทั้งคืน
ทุกวันจะต้องมีการปะทะกันเกิดขึ้น แล้วพวกมันก็มากันอย่างไม่หยุดหย่อนด้วย
บางครั้งเธอก็คิดในใจ ถ้ามีใครมาช่วยเธอก็ดีเหมือนกันนะ
หลังจากที่เธอกลับมายังฐาน ช่วงเที่ยง
ระหว่างที่ทหารของเธอกำลังกินข้าวเที่ยงกันอยู่นั้น
“ปืนใหญ่มา หาที่กำบัง”
ทหารทุกนายเข้าไปหลบในสนามเพลาะ
ในขณะที่ปืนใหญ่ยิงมาลูกแล้วลูกเล่า
ระหว่างนั้นก็มีทหารนายหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามารายงานสิ่งที่เกิดขึ้นกับเนินเขานั้น
ทหาร : หัวหน้าครับ
พวกมันยิงมากกว่าปกติเลยครับวันนี้
หมาป่าดำ : ยังไงเราก็ต้องยันมันไว้ให้ได้
ทหาร : เราจะทำไงต่อดีครับ
หมาป่าดำ : รอดูสถานการณ์ต่อไปก่อน
แต่หลบในสนามเพลาะไว้ ยังไงพวกมันก็ไม่บุกเข้ามาหรอก
จากนั้นปืนใหญ่ก็หยุดยิง
แต่ปืนใหญ่จากรถถังกลับยิงมาแทน พวกมันระดมกำลังเพื่อที่จะยึดเขาแห่งนั้น
หมาป่าดำระดมทหารไปตั้งรับ แต่พวกมันก็บุกขึ้นมาอย่างหนัก
จนหมาป่าดำต้องบังคับปืนกลเอง ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างหนัก
ในตอนนั้นหมาป่าดำไม่มีทางเลือกเลยเลยต้องขอกำลังสนับสนุนจากปืนใหญ่ยิงสกัดพวกมัน
จนพวกมันต้องถอยกลับอีกครั้ง
หมาป่าดำเช็คสถานการณ์รอบๆตรงนั้น
มันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยนะที่ทหารหญิงคนหนึ่งต้องรับผิดชอบกองพันหนึ่งและต้องมาคุ้มกันเนินเขานรกแห่งนี้
Mask Land หลังร้านขายเสื้อของผ้าฝ้าย
แมงมุมแม่ม่ายดำกำลังรีดข้อมูลจากสายลับโซเวียตคนนั้น
แมงมุมแม่ม่ายดำ : บอกฉันมา ทำไมแกต้องมาสืบเรื่องของผ้าฝ้าย
แล้วถึงต้องมาเผาร้านคุณฟินิกซ์ด้วย
สายลับโซเวียต : ถ้าฉันไม่บอก เธอจะทำอะไรฉัน
แมงมุมแม่ม่ายดำถกกางเกงมันขึ้นถึงแค่ช่วงข้อเท้า
จากนั้นก็กรีดข้อเท้าของมันจนมันร้องอย่างเจ็บปวด แล้วมันก็สารภาพจนหมดเปลือกเลย
จนแมงมุมแม่ม่ายดำพอใจเอาผ้ามาพันแผลมันไว้
จากนั้นก็มาคุยกับพวกของจอมยุทธ์ที่อยู่ในร้าน
จอมยุทธ์ : ตกลงมันพูดอะไรบ้างหล่ะ
แมงมุมแม่ม่ายดำ : มันบอกว่าจะสืบจากผ้าฝ้ายเพราะมันคิดว่าผ้าฝ้ายรู้ว่าฉันเป็นใคร
โซ่ตวง : แล้วมันบอกอะไรอีกมั้ยอ่ะ
อย่างเรื่องที่พวกมันจะเผาร้านเพื่อนเธออ่ะ
แมงมุมแม่ม่ายดำ : อ้อ จริงดิ ได้ยินว่าพวกมันจะยกพวกเผาร้านกันเย็นนี้หน่ะ
แฮมเตอร์ : จริงเหรอ
ตายหล่ะ งั้นฉันต้องรีบไปเตือนคุณฟินิกซ์หน่อยหล่ะ
เงา : นี่เธอจะไปจริงเหรอ
แฮมเตอร์ : ใช่สิ
นี่เป็นร้านและชีวิตของฉัน ขอร้องหล่ะเงา ช่วยฉันหน่อยสิ
เงา : คงต้องถามคุณยุทธ์ก่อนนะว่าจะเอายังไงอ่ะ
แล้วเราจะทำไงต่อครับหัวหน้า
จอมยุทธ์ : งานนี้เราคงช้าไม่ได้หล่ะ
เราต้องไปเดี๋ยวนี้เลยหล่ะ
โซ่ตวง : แล้วไอ้บ้าข้างหลังร้านหล่ะ
จะเอายังไงกับมันดีหล่ะ
ผ้าฝ้าย : เดี๋ยวฉันเรียกตำรวจมาเอง
พวกเธอรีบไปกันเถอะ // จากนั้นจอมยุทธ์และพวกก็รีบขึ้นรถไปยังร้านอาหารของฟินิกซ์
ณ ร้านฟินิกซ์แลนด์
ซึ่งฟินิกซ์กำลังจัดเลี้ยงเพื่อนสาวของเขาที่ไม่ได้เจอหน้ากันนานมาก
ซึ่งก็มีโพนี่ หมูป่า อียิปต์ เดวิล
พยาบาล ปลาหมึก ซึ่งพวกในร้านมีแต่เสียงดนตรี อาหารเลิศรส แล้วก็อีกมากมาย
ซึ่งนั้นก็คือสวรรค์บนดินดีๆนี่เอง
หมูป่า : นี่พวกเราไม่เจอกันนานมากเลยนะเนี่ย
พวกเธอทำงานอะไรกันบ้างเนี่ย
โพนี่ : ฉันเหรอ
ฉันมีกิจการที่เมืองนอกอยู่อ่ะ เหมือนเธอนั้นแหละ
เดวิล : ฉันเหรอ
ลิงเผือกแฟนฉันทำงานที่อเมริกาหน่ะ ส่วนฉันก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก
อียิปต์ : ฉันทำธุรกิจทัวร์รอบโลกหน่ะ
ซึ่งมันก็เยี่ยมมากด้วย
พยาบาล : ฉันเป็นหมอหน่ะ
ในโรงพยาบาล The Mask หน่ะ
ปลาหมึก : แหม่
มาสายช่วยชีวิตคนเหรอจ๊ะ
พยาบาล : แหม่
แล้วนี่เธอก็ไม่บอกฉันเลย ว่าเธอทำอะไร
ปลาหมึก : ฉันเหรอ
รอบริหารธุรกิจต่อจากพ่อหน่ะ
ฟินิกซ์ : จ๊ะๆๆๆๆ
ดีๆกันทั้งนั้นเลย
หมูป่า : แหม่ๆๆๆ
ร้านนี้ของเธอก็ดีมากเลยนะ อาหารก็อร่อยด้วย
ฟินิกซ์ : แน่นอน
แต่เสียดาย ถ้าวันนี้แม่ครัวมือดีของฉันไม่หยุดวันนี้
เธอคงได้กินที่อร่อยกว่านี้หล่ะ
โพนี่ : ฉันว่าเท่านี้ก็อร่อยมากแล้วหล่ะ
แต่ระหว่างที่พวกเธอกำลังคุยกันอยู่นั้น
พวกนักเลงนับสิบก็บุกเข้ามาในร้านของฟินิกซ์ พร้อมกับไม้และปืนในมือ
มันทำร้ายคนในร้าน บังคับให้คนในร้านมาอยู่รวมกันด้านล่าง
ระหว่างที่พวกมันกำลังจะขึ้นไปที่ห้องจัดเลี้ยงที่ฟินิกซ์และเพื่อนๆกำลังฉลองกันอยู่
ฟินิกซ์ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นเลยว่าจะลงไปดู ทันใดนั้นพวกมันก็พังประตูเข้าไปในห้อง
บังคับให้พวกสาวๆมานั่งรวมกันที่กลางห้อง
ฟินิกซ์ : พวกแกเป็นใครห่ะ
มีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้เนี่ย
นักเลง : เฮ้อ
ที่เราเตือนพวกแกไปคราวก่อน แกไม่ฟังเลยใช่มั้ย
ยังคงมารับใช้พวกเศษเดนทุนนิยมพวกนี้
หมูป่า : นี่
แกกำลังซ่าส์ผิดคนแล้วนะเฟ้ย แกรู้มั้ยพ่อฉันเป็นใคร
นักเลง : อ้อ
ลูกคนรวยเหรอ “จากนั้นมันก็ตบหน้าหมูป่า” ไงห่ะ อยากโดนอีกมั้ย
หมูป่า : คอยดูเถอะ
พ่อฉันจะเล่นพวกแกทั้งหมดเลย
จากนั้นหัวหน้าของมันคนหนึ่งในหน้ากากเทวดาก็เดินเข้ามาในห้อง
เทวดา : เก่งดีนี่สาวน้อย
ฉันอยากจะรู้จริงว่าเก่งแค่ไหน // จากนั้นมันก็ลากหมูป่าไปพยายามจะพาไปปู้ยี้ปู้ยำ
ระหว่างนั้นก็มีหน้ากากสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
ราชินี : นี่พี่จะทำอะไรเนี่ย
เทวดา : นี่มันเรื่องของฉัน
เธอไม่เกี่ยว
ราชินี : นี่เรามาเพื่อแค่เตือนร้านนี้นะพี่
พี่ทำแบบนี้ได้ไงเนี่ย
เทวดา : อย่ามายุ่งดีกว่าน่า
เธอไปคุมเชิงด้านล่างไป
ราชินีหัวเสียเดินออกจากห้องไป
ในขณะที่เทวดากำลังจะพาหมูป่าไป
เพื่อนๆของเธอพยายามจะช่วยแต่ลูกน้องของเทวดาขว้างไว้หมด
ระหว่างนั้นรถของจอมยุทธ์ก็มาถึงหน้าร้าน
แต่ไม่ทันไรนักเลงที่อยู่หน้าร้านห้าคนก็เข้ามาเคาะรถคันนั้น พวกจอมยุทธ์ทุกคนก็ลงจากรถมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
จอมยุทธ์ : ฉันมาหาเพื่อนฉันร้านนี้
นักเลง : ร้านนี้ปิด
มาวันหลัง
แฮมเตอร์ : ฉันทำงานที่นี่นะ
วันนี้ร้านไม่หยุด พวกนายเป็นใครกันห่ะ
โซ่ตวง : หรือว่าแกกำลังทำอะไรกันอยู่ในร้านนี่วะ
นักเลง : หุบปาก
ถ้าพวกแกไม่กลับไป อย่าหาว่าเราไม่เตือนนะ
เงา : พวกมึงพูดแบบนี้
ก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้วหล่ะ
นักเลง : หรือมึงจะเอาห่ะ
ไอ้นักเลงคนนั้นพยายามจะต่อยเงา
แต่เงาหลบได้และสวนกลับไป ทางด้านคนอื่นๆก็ต่อยกับนักเลงพวกนั้น
จนพวกมันล้มลงไปหมด
แมงมุมแม่ม่ายดำ : พวกมันคงมาแล้ว ตอนนี้เราต้องเข้าไปดูในร้านหล่ะ
จอมยุทธ์ : โอเค
งั้นโซ่ตวง เงา นายไปดูข้างๆร้านเผื่อพวกมันจะอยู่แถวนั้น
เดี๋ยวฉันกับแมงุมุมแม่ม่ายดำจะจัดการข้างในเอา
เงา : จะดีเหรอครับหัวหน้า
จอมยุทธ์ : เอาน่า
ถ้าข้างนอกไม่มีอะไรนายก็ไปช่วยฉันข้างในก็ได้
โซ่ตวง : ได้ครับ
จอมยุทธ์ : โอเค
งั้นลุยกันเลย
======================================================================
เหตุการณ์จะเป็นไงต่อไป ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ เพื่อเป็นกำลังใจจ้า
ความคิดเห็น