NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Killer Academy - สถาบันนักฆ่าล่าเดือด (ปิดรับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 2 : การประลองและเพื่อนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ค. 66


    ตัวของเนชินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำรวมของชั้น 7 และไม่นานนัก เขาก็รีบเช็ดตัวแต่งตัวและออกมาด้านนอก ซึ่งในตอนนั้นพรรคพวกรูมเมทของเขาก็กำลังรอเขาอยู่พอดี

    “เฮ้ เสร็จแล้วเหรอ??” อุโมจาถามเนชิน

    “อ้อ โอเคแล้วหล่ะ ไปโรงอาหารกันดีกว่า” เนชินตอบไป และไม่นานนักพวกเขาก็รีบเดินไปที่โรงอาหารกันในทันที ระหว่างนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันไปด้วย

    “เฮ้ย เนชิน ในคุกเป็นยังไงบ้างวะ??” อัลลันถามเนชินไป

    “ก็เหมือนคุกทั่วไปนี่หล่ะ ไม่มีอะไรมาก” เนชินตอบไป

    “เออ ถ้านายอยากไปสัมผัส ก็ลองเข้าไปดูสิเพื่อน” ฟิลิปบอกอัลลันไป

    “เฮ้อ ใครจะเข้าก็เข้าเถอะ ฉันไม่เอาหรอก” คริสโตเฟอร์พูดขึ้น

    “เออ แต่ฉันกังวลนิดหน่อย ไม่รู้ว่าไอ้นาซีบ้านั่นมันจะจ้องเล่นงานเราหรือเปล่า” เขตแดนพูดขึ้น

    “ถ้ามันมาก็กระทืบมันเลยสิ” คิมยูจินพูดขึ้น

    “ฉันว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก มันเป็นผู้คุมกฎ อีกอย่างไอ้คาร์ลก็ถือหางมันด้วย” โจบอกกับทุกคนไป

    “ถ้ามันอยากจะวัด ฉันก็จะให้มันวัด” อุโมจาบอกไป

    “เอาเถอะ เรื่องยังไม่เกิดอย่าเพิ่งไปกังวลเลย หาไรกินก่อนดีกว่า” เนชินพูดกับทุกคน พวกเขาเดินกันมาเรื่อยๆ ไม่นานนัก พวกเขาก็เดินมาถึงโรงอาหารจนได้ ซึ่งกลุ่มของเนชินก็เดินไปต่อแถว แต่คนทั้งโรงอาหารมองเนชินเป็นตาเดียวเลย เนชินเองก็แปลกใจเล็กน้อย

    “นายดังแล้วพวก” อุโมจาบอกกับเนชินไป พวกเขารออยู่ไม่นานก็ได้รับอาหาร ซึ่งอาจารย์โกเมซเป็นคนจัดการเรื่องอาหาร อาหารในจานตอนนี้มีมันบด เบค่อน ผักรวม รวมถึงน้ำผลไม้และนม พวกเขาได้รับแล้วไปนั่งที่นั่งที่ว่างๆแถวนั้นในทันที

    “เฮ้ นายเป็นคนดังแล้วนะพวก” อัลลันบอกกับเนชินไป

    “เฮ้อ เป็นคนดังแลกกับการโดนหมายหัวก็ไม่เอานะ” เนชินบอกไป

    “นี่ นายกลัวไอ้นาซีนั่นหรือไงพวก??” ฟิลิปถามไป

    “ไอ้นาซีเด็กน้อยนั่นฉันไม่กลัวหรอก แต่ฉันกลัวไอ้ตัวใหญ่มากกว่า” เนชินบอกไป

    “ถ้ามองแง่ดีนะ ฉันว่ามันไม่กล้าทำอะไรขนาดนั้นหรอก” คริสโตเฟอร์พูดขึ้น

    “แต่ก็ต้องระวังไว้หน่อยนะ ได้ข่าวมาว่าไอ้บ้านั่น ขนาดผู้บริหารมันยังไม่กลัวเลย” โจพูดไป

    “เอาเถอะ ถ้ามันมา เราก็แค่ตั้งรับมัน” เขตแดนพูดขึ้น

    “เฮ้อ ถ้ามันมาฉันจะยันหน้ามันให้ฟันร่วงเลย” คิมยูจินพูดขึ้น

    “ใจเย็นไอ้เสือ อาจจะเป็นนายที่ฟันร่วง ว่าแต่พวกนาย ไปยังไงมายังไง ถึงมาอยู่ที่นี่หล่ะ??” อุโมจาถามทุกคนไป 

    “ฉันเริ่มก่อนแล้วกัน ฉันเป็นคนอังกฤษ พ่อฉันเป็นไอ้เลว วันนึงมันฆ่าแม่ตาย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน มันติดคุก ส่วนฉันกับน้องสาวถูกส่งไปอยู่กับคุณตาคุณยาย แต่วันนึงพวกเด็กเจ้าถิ่นมันมาแกล้งน้องสาวฉัน ฉันเอาไม้ฟาดพวกมันจนตายคาที่ โชคดีที่พวกแม่งเป็นเด็กไร้บ้านเหลือขอ เลยไม่มีตำรวจมาสืบคดีมากนัก แล้ว ตากับยายฉันก็ส่งฉันมาที่นี่” อัลลันบอกกับทุกคนไป จากนั้นเขาก็หันไปทางนั้นทีทางนี้ทีเพื่อดูว่าใครจะเล่าเป็นคนต่อไป

    “งั้นฉันขอต่อแล้วกัน ฉันเป็นคนรัสเซีย ฉันเกิดในสลัม ฉันเห็นคนตายมานักต่อนักแล้ว บางคนตายคาบ้าน บางคนตายคาถนน วันนึงฉันก็เกือบตายเหมือนกัน แต่มีคนมาช่วยฉันไว้ เขาพาฉันมาที่นี่หน่ะ” คริสโตเฟอร์เล่าบ้าง

    “ฉันเป็นคนกรีซ บ้านฉันหน่ะจนมาก วันนึงพวกระยำมันบุกมาบ้านฉัน ฆ่าพ่อฉันตาย ข่มขืนแม่ฉันตายคาเตียงอีก ฉันฆ่าพวกแม่ง ฝังพวกแม่งจนหมดเลย แล้วก็มีคนพาฉันมาที่นี่หน่ะ” ฟิลิปตอบไปในขณะที่ตักมันบดเข้าปาก

    “ฉันเป็นคนเกาหลี เกิดในสลัมเหมือนพวกนาย แล้วก็มีตาแก่ขี้ข่นคนนึงสอนฉันทุกอย่าง ทั้งเรื่องการต่อสู้ แย่งชิง รู้ว่าอันไหนกินได้กินไม่ได้ เขาสอนฉันทุกอย่าง จนตาแก่นั่นตายจากไป แม่บุญธรรมรับฉันมาเลี้ยง และส่งมาที่นี่หน่ะ” คิมยูจินบอกไป

    “ฉันเกิดในอเมริกา เราเป็นครอบครัวคริสต์ แต่ความจริงพ่อฉันเป็นฆาตกรโรคจิต จนวันที่เขาตาย ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อ แล้วก็มีคนพาฉันมาที่นี่ ก็แค่นั้น” เขตแดนพูดไป

    “เฮ้ย ฉันก็เกิดที่อเมริกาเหมือนกัน ฉันหากินข้างถนนตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ไม่รู้ว่ายังไง มีคนลากฉันมาที่นี่เหมือนกัน แต่ก็ยังดีที่ฉันได้เจอกับพวกนาย” โจพูดต่อ ตอนนี้ก็หลือแค่อุโมจากับเนชินแล้ว ในตอนนั้นทั้งคู่ก็จะแย่งกัน แต่เนชินเองให้อุโมจาได้พูดก่อน

    “อ่า ฉันมาจากเคนย่า แต่กิดสงครามยาเสพติด พวกคนขาวมันฆ่าชาวเผ่าที่ฉันรู้จักไปหมด องค์กรใหญ่ช่วยฉันไว้ ฝึกฉัน แล้วพวกเขาก็ยังให้ฉันมาฝึกที่นี่ต่อหน่ะ” 

    “โอ้ว เสียใจด้วยนะเพื่อน” อัลลันที่เป็นคนขาวบอกกับอุโมจาไป

    “ก็ นายอย่าคิดว่าฉันเป็นเหมือนพวกระยำนั่นแล้วกัน” ฟิลิปบอกไป

    “เออ เหลือนายแล้ว ยังไม่ได้เล่าเลย??” โจหันไปถามเนชิน

    “อ้อ คือว่า ฉันเกิดในอเมริกา ลืมตาดูโลกมาก็ไม่มีพ่อแม่ ฉันหาเลี้ยงตัวเอง ขอทานข้างถนนมาตั้งแต่ยังเด็ก ฉันเยมีเพื่อนขอทานด้วยกันนะ เธอชื่อคริสตี้ วันนึง ไอ้พวกระยำจากอีกกลุ่ม มันฉุดเธอไปข่มขืนและฆ่าทิ้ง ฉันบุกไปจะสู้กับพวกมัน แต่พวกมันมีเยอะกว่า จนคนที่ชื่อชาร์ลีอะไรเนี่ย เขามาช่วยฉัน แล้วพาฉันมาที่นี่หน่ะ” เนชินบอกไป

    “เออ จะว่าไป ฉันไปได้ยินที่พวกเด็กที่อื่นพูดกัน เขาบอกว่าเนชินเป็นหน่วยเก็บกวาดและสังหารนะ” คิมยูจินพูดขึ้น

    “เออ ฉันเองก็อยากเป็นพวกสังหารเหมือนกันนะ” เขตแดนพูดขึ้น

    “ฝันเถอะ สอบโคตรยาก มีแต่คนอยากอัพเกรดฝีมือเพื่อเข้าสอบ รีบเรียนให้จบและออกไปทำงานข้างนอกดีกว่า” คริสโตเฟอร์พูดไป 

    “ก็นะ ยังไงก็ต้องลองเรียนดูก่อนหล่ะนะ” เนชินพูดจบก็กินอาหารต่ออย่างตายอดตายอยาก

     

    และที่โต๊ะอื่นๆ ในตอนนี้ก็คุยกันบ้างประปราย ที่โต๊ะตัวหนึ่งซึ่งมีสมาชิกห้อง 602 มานั่งด้วยกัน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังมองกลุ่มของเนชินแล้วก็คุยกันด้วย

    “เฮ้ย หมอนั่นออกจากคุกมาแล้วหว่ะ” จอห์นพูดขึ้น

    “ฉันอยากจะวัดกับพวกแม่งหว่ะ” อินเฟอร์โน่พูดขึ้น

    “เฮ้ย ใจเย็น พรรคพวกมันเอาเรื่องอยู่นะเว้ย โดยเฉพาะพี่หมึกนั่น ฉันว่าหมอนั่นไม่ธรรมดา” คนในกลุ่มที่ชื่อนากะตะพูดขึ้น

    “เฮ้ย ถ้าพูดกัน นายว่าใครน่าจะเล่นงานง่ายสุดวะ??” ชายในกลุ่มที่ชื่อแม็กซ์ถามไป

    “ฉันว่านะ ไอ้เตี้ยนั่นแน่นอน” เรนาวอสพูดขึ้น

    “เฮ้ย ฉันว่าเอาตัวรอดจากกลุ่มอื่นด้วยก็ดีนะเว้ย” เอ็ดวาร์ดพูดขึ้นในขณะที่กำลังนั่งดูแหวนเพชรที่เขาสวมมันอยู่

    “แหวนสวยดีนี่ ฉันชอบนะ” ลาเกียครูซพูดขึ้น

    “แม่งเอ้ย ฉันโคตรเกลียดผักเลย” ชายอาหรับที่ชื่อวาดีนพูดขึ้น

    “เฮ้ ถ้าไม่กินก็ส่งมาให้ฉันก็ได้นะ” จอห์นพูดไป

    “เออ ได้ยินว่าอยู่ที่นี่อย่ากินทิ้งกินขว้างด้วยดิ” นากะตะพูดขึ้น

    “ห่าเอ้ย ออกไปข้างนอกได้จะปล้นร้านไก่ทอดซะ” อินเฟอร์โน่พูดขึ้น

    “เดี๋ยวๆๆ จะหัวร้อนอะไรนักหนาเนี่ย??” ลาเกียครูซถามไป

    “เออแม็กซ์ ว่างๆสอนฉันขับรถถังหน่อยดิ” เรนาวอสบอกกับเขาไป เพราะแม็กซ์มีความสามารถในการขับยานพาหนะได้แทบทุกอย่าง

    “เออๆๆ หารถถังมาให้ได้ก่อนแล้วกัน” แม็กซ์ตอบไป 

    “กลับไปฉันจะทำของดีๆซะหน่อย” ลาเกียครูซพูดขึ้น

    “อยากทำไรก็ทำเถอะ” เอ็ดวาร์ดพูดจบก็สวมแหวนใส่นิ้วของเขาต่อ

    “เออ ว่าแต่พวกนายเป็นไงมาไงถึงมาอยู่ที่นี่กันวะ ของฉันพ่อฉันพาฉันมาที่นี่หน่ะ ง่ายๆ ว่าแต่ของพวกนายหล่ะ??” แม็กซ์ถามไป

    “อ้อ ของฉันไม่มีอะไรหรอก ฉันมาที่นี่เพราะได้ยินที่คนเขาเล่ากันหน่ะ ฉันอยากทำงานที่ได้เงินไวๆ” นากะตะพูดต่อ

    “เฮ้ย คิดอยากได้อยากมีเกินตัว จะเสียใจทีหลังนะ ครอบครัวฉันรวย ที่บ้านฉันเลยส่งฉันมา น่าจะหาประสบการณ์หน่ะ” เอ็ดวาร์ดพูดขึ้น

    “ของฉันเหรอ ฉันก็มีครอบครัวแบบคนปกตินี่หล่ะ แต่ฉันชอบอ่านตำนานโน่นนี่นั่น แล้วก็มีคนชักชวนให้ฉันมาที่นี่หน่ะ” จอห์นพูดต่อ

    “เออ ของฉันเหรอ ฉันเป็นผู้อพยพจากปากีสถานหน่ะ ฉันมาที่ยุโรป แต่ไม่มีงานทำสุดท้ายก็ต้องปล้นเขากิน แล้วก็มีคนชวนฉันมาที่นี่หน่ะ” วาดีนพูดขึ้น

    “เฮ้อ จะขิงกันเรื่องรวยใช่หรือเปล่า บ้านฉันก็รวยเหมือนกัน ฉันมีความสามารถ ครอบครัวเลยส่งฉันมาที่นี่หน่ะ” ลาเกียครูซพูดขึ้น

    “ฉันเหรอ ฉัมาจากองค์กรลับ องค์กรลับส่งฉันมาที่นี่เพื่อเรียนเพิ่มหน่ะ ว่าแต่นายหล่ะ??” เรนาวอสหันไปถามอินเฟอร์โน่ต่อ

    “ถ้าอยากรู้ฉันจะบอกให้ ฉันฆ่าคนตั้งแต่ 8 ขวบ ฉันชอบไฟมาตั้งแต่เด็ก เวลาฉันฆ่าใคร ฉันจะเผามันไม่ให้เหลือซากเลย” อินเฟอร์โน่พูดจบก็หยิบเอานมช็อกโกแลตมากินต่อ

     

    และที่โต๊ะของนักเรียนหญิงห้องพัก 305 หลังจากที่เหล่านักเรียนหญิงห้องนี้ได้มองดูกลุ่มของเนชิน พวกเธอก็กลับมาทานอาหารกันต่อ ระหว่างนั้นพวกเธอก็พูดคุยกันไปด้วย

    “โอเค ฉันเริ่มก่อนแล้วกัน แม่ฉันเป็นอีตัวหน่ะ ส่วนฉันก็คอยขโมยของพวกแขกที่มาใช้บริการแม่ฉัน วันนึงพวกมันจับได้ แม่รับความตายแทนฉัน ฉันเองก็เผลอฆ่าพวกมันเหมือนกัน แล้วมีคนๆนึง ช่วยฉันเอาไว้ เขาพาฉันมาที่นี่หน่ะ” เจน่าพูดขึ้น

    “ฉันเหรอ ฉันเป็นเด็กกำพร้า แล้วทางโบสถ์เลี้ยงดูฉันมา ถ้าใครมาปากดีกับพระเจ้า ฉันไม่เว้นมันแน่ หัวหน้าองค์กรฉันส่งฉันมาที่นี่เพื่อเรียนเพิ่มเติมหน่ะ” เอเลนอร์พูดไป

    “อ้อ ดีจังเลยนะ ฉันมาจากศรีลังกา ตอนนี้ประเทศของฉันกำลังแย่ แม่ฉันขายฉันไปให้พวกมาเฟีย ฉันไต่เต้าขึ้นมาได้เรื่อยๆ จนถูกส่งมาที่นี่หน่ะ ถ้าฉันเรียนจบ ฉันจะไปฆ่าแม่ฉันให้ตายห่าซะ” บาตาพูดไป

    “ฉันถูกรัฐบาลจีนรับเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเด็ก ทางนั้นส่งฉันมาที่นี่หน่ะ” หลิวซิงหยินตอบไป

    “ฉันเองก็เกิดที่อเมริกานั่นหล่ะ ฉันเป็นชนพื้นเมืองเกิดที่แคลิฟอร์เนีย ฉันเป็นพวกไร้บ้าน วันนึงมีคนมาช่วยฉันตอนกำลังจะโดนรีดไถ่ เขาพาฉันมาที่นี่หน่ะ” อีชีเตบอกไป

    “ของฉันเหรอ ที่บ้านฉันทำธุรกิจหน่ะ เบื้องหน้าเป็นธุรกิจแฟชั่น แต่เบื้องหลังขายอาวุธ ฉันเรียนรู้เรื่องอาวุธมาตั้งแต่เด็กๆ ครอบครัว จนตอนนี้ฉันใช้อาวุธได้ทุกชนิดเลย” แคทเทอรีนพูดขึ้น

    “ฉันมาจากวาติกัน ฉันเป็นเด็กที่ทางวาติกันรับมาเลี้ยง พวกเขาส่งฉันมาที่นี่เพื่อเรียนแลกเปลี่ยนหน่ะ ว่าแต่ของเธอหล่ะ??” โครี่หันไปถามฮอร์ตุส

    “อ้อ ของฉันไม่มีอะไรมากหรอก แค่ทางโบสถ์รับเลี้ยงฉันมา แล้วมีคนพาฉันมาที่นี่หน่ะ” ฮอร์ตุสพูดเหมือนพยายามจะปกปิดอะไรบางอย่าง แต่คนอื่นก็ไม่สงสัยอะไรมาก

    “เออนี่ เธอว่าพวกนั้นจะอยู่รอดที่นี่หรือเปล่า??” เจน่าถามทุกคนไป

    “ฉันว่าอาจจะไม่ โดนหมายหัวซะขนาดนั้นหน่ะ” อีชีเตบอกไป

    “แต่ฉันว่าพวกนั้นก็มีดีเหมือนกันนะ อย่าดูเบาไปสิ” โครี่พูดขึ้น

    “ใช่ แต่ฉันกังวลเรื่องครูใหญ่นั่นหน่ะแหละ ดูท่านจะเหยียดแบบเข้มข้นเลย” หลิวพูดไป

    “ฉันเกลียดพวกบ้านี่ชิบหายเลย” บาตาพูดขึ้น

    “เกลียดมันแต่จะทำอะไรมันได้หล่ะตอนนี้ คงต้องรอดูสถานการณ์ก่อน” แคทเทอรีนพูดไป

    “แต่ฉันว่าฉันได้กลิ่นแปลกๆจากไอ้นาซีนั่นนะ” ฮอร์ตุสพูดขึ้น

    “หือ กลิ่นแปลกๆยังไงเหรอ??” เอเลนอร์ถามไป

    “ไม่รู้สิ เหมือนว่ามันไม่น่าใช่คนดีหน่ะ” ฮอร์ตุสบอกไป

    “มีพวกนาซีที่ไหนเป็นคนดีบ้างหล่ะ” บาตาบอกไป

    “นั่นดิ แล้วลูกศิษย์หมอนั่นอีกคน ฉันว่าโคตรน่าหมั่นไส้เลย” หลิวพูดขึ้น

    “เอ้ย แต่หมอนั่นก็หล่อใช้ได้เหมือนกันนะ ได้ยินว่าเป็นผู้คุมกฎด้วยนี่” แคทเทอรีนพูดขึ้น

    “ผู้คุมกฎที่รังแกคนไปทั่วหน่ะเหรอ เจริญหล่ะโรงเรียนนี้??” อีชีเตบอกไป

    “เอาเถอะ ถ้าเป็นไปได้ พยายามอย่ามีปัญหากับพวกมันแล้วกัน” เอเลนอร์พูดไป

    “ก็นะ แต่ถ้ามันมากวนบาทาเราก่อน ฉันไม่ยอมนะ” เจน่าพูดไป

    “เอาเถอะ มาสวดก่อนกินกัน” โครี่บอกกับทุกคนไป

     

    ที่โต๊ะของเด็กห้อง 402 ซึ่งในตอนนั้นทุกคนก็เล่าเรื่องของทุกคนเพื่อแลกเปลี่ยนประวัติกัน

    “ฉันมาจากนอร์เวย์ ฉันเป็นหัวขโมย ฉันขโมยได้ทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่พวกเธอหล่ะ??” เอสการ์

    “ของฉัน ตาแก่นั่นส่งฉันมาที่นี่ คิดว่าจะดัดสันดานฉันได้ แต่เขาคิดผิดแล้วหล่ะ คราวนี้ฉันจะเรียนให้หนัก จบออกไปจะป่วนมันทั้งโลกเลย” แมรี่พูดไป

    “ของฉันเหรอ พ่อฉันมันเป็นไอ้ชั่วที่บังคับให้แม่ขายตัว ฉันฆ่ามันและพาแม่หนีมา แต่ยัยนั่นรักมันมากกว่าฉัน ฉันเลยฆ่ามันทิ้งด้วย และหากินข้างถนนมาเรื่อยๆหน่ะ” จินนี่พูดขึ้น

    “ฉันเกิดในบ้านเด็กกำพร้า ไอ้เจ้าของกับพวกเจ้าหน้าที่บ้านเด็กกำพร้ามันโกงเงินไปหมด ฉันกินแต่ข้าวกับผักทุกวัน ฉันเลยเผาที่นั่นทิ้งซะ แล้วมีครอบครัวนึงรับฉันไปเลี้ยง และส่งฉันมาที่นี่หน่ะ” คามิลล่าบอกไป

    “เออ คือว่า เท่าที่จำได้ มีไอ้บ้าขี้เมาคนนึงที่มันเรียกตัวเองว่าพ่อฉัน คิดว่านะ มันขี้เมา พึ่งพาไม่ได้ ฉันเลยต้องหากินเองตั้งแต่เด็ก สุดท้ายก็มีคนรับฉันไป ฉันมาที่นี่ ฉันจะฆ่าพวกแม่งให้หมดเลย” ซาชินพูดอย่างน่ากลัว

    “ของฉันเหรอ ฉันก็เป็นพวกหากินข้างถนนธรรมดานี่หล่ะ พ่อแม่ฉันเป็นใครยังไม่รู้เลย” โดรธีพูดไป

    “พ่อฉันเป็นนักฆ่า ฆาตกรหน่ะ แล้วก็เปิดร้านอาหารด้วย บางทีก็เอาเนื้อไอ้พวกนั้นมาทำอาหาร สะใจดี ต่อมาพ่อฉันก็ส่งฉันมาเรียนที่นี่หน่ะ” ริวโซพูดขึ้น

    “ฉันเป็นลูกดาราดัง ราเชล เซนซัวร์ริตี้หน่ะ ไม่รู้พวกเธอรู้จักหรือเปล่า ฉันเดินตามแม่ไปตั้งแต่เด็ก ฉันเสียซิงครั้งแรกให้พระเอกดัง พูดชื่อไปพวกเธอร้องอ๋อแน่ๆ จากนั้นฉันก็ชอบไปมีอะไรกับพวกดาราดังๆ และคนดังอีกเพียบเลย จนโดนตามล่าและมีองค์กรนึงมาช่วยฉันหน่ะ” โรสพูดไป

    “อ้อ ฉันรู้จักนะ เคยดูหนังเธออยู่เรื่องสองเรื่องหน่ะ” แมรี่พูดขึ้น

    “เออ พระเอกคนไหนงั้นเหรอ??” โดโรธีถามไป

    “พวกเธอต้องตกใจแน่ๆ วอลเตอร์ เดนิสหน่ะ แต่บอกเลยว่าหมอนั่นไม่มีน้ำอดน้ำทนเลย ไม่กี่นาทีก็แตกหล่ะ” โรสบอกไป

    “เฮ้ย จริงดิ เหลือเชื่อ เขาเป็นขวัญใจของฉันเลยนะ??” เอสการ์พูดขึ้น

    “ก็นะ มุมมืดของบางคนก็มืดจนน่ากลัวเลยนะ” จินนี่พูดขึ้น

    “เฮ้อ มันคงไม่มืดมากไปกว่าฉัน” ซาชินพูดขึ้น

    “นี่ ไม่ต้องเข้าโหมดโรคจิตตลอดก็ได้” ริวโซพูดไป

    “เออนี่ พวกนายว่าหมอนั่นที่ไปท้าทายไอ้นาซีนั่นจะมีชีวิตได้นานกี่วันหล่ะ??” คามิลล่าถามทุกคนไป

    “ฉันว่าไม่น่าจะนานหรอก ดูทรงแล้ว ฮ่าๆๆ” ซาชินพูดขึ้น

    “แต่ฉันว่าหมอนั่นก็มีดีนะ ไม่เป็นไรง่ายๆหรอก” โดโรธีพูดขึ้น

    “แหม่ เธอชอบเขาก็บอกมาเถอะ” จินนี่พูดไป

    “อืม แต่จะว่าไป หมอนั่นก็มีเสน่ห์อยู่นะ เวลาถือปืนหน่ะ” โรสพูดขึ้น

    “เอาเถอะ แต่ไม่รู้ว่าจะเป้นยังไงต่อนะ อย่าเพิ่งไปห่วงคนอื่นเลย” คามิลล่าพูดขึ้น

    “เอาจริงๆ ฉันเชียร์เขาอยู่นะ เพื่อนๆเขาแต่ละคนก็ดูไม่ธรรมดา” เอสการ์พูดขึ้น

    “งั้นไปนั่งใกล้พวกเขาเลยมั้ยหล่ะ??” แมรี่ถามไป

    “เฮ้อ ไม่เท่าไหร่เลยนะโต๊ะเรา” ริวโซพูดไป

     

    และที่โต๊ะของนักเรียนหญิงห้อง 603 พวกเธอนั่งทานอาหารด้วยกันและเล่าเรื่องราวของแต่ละคนเพื่อแลกเปลี่ยนกันไปด้วย

    “เธอรู้หรือเปล่า ฉันเคยเรียนเกี่ยวกับช่างหน่ะ ฉันชอบงานช่างมาก ฉันเคยมีครอบครัว แต่ก็นะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครพาฉันมาที่นี่ แต่ก็ดีใจที่ได้พบกับพวกเธอ” มาเรียน่าพูดขึ้น

    “ฉันเป็นคนญี่ปุ่น บ้านฉันมีพ่อที่เป็นทหารบ้าอำนาจ วันนึงเขาทำแม่แต่ก็ไม่ได้รับโทษอะไร ฉันเลยฆ่ามันเอง แล้วก็มีคนพาฉันมาโรงเรียนนี้หน่ะ” คามาคุริพูดขึ้น

    “บ้านฉันทำร้านอาหารหน่ะ ฉันชอบทำอาหารมาก ฉันเลยเรียนรู้เอาการฆ่ามาดัดแปลงกับการทำอาหารด้วย” เอลซ่าพูดขึ้น

    “ฉันมาจากเอธิโอเปีย ฉันเป็นเด็กที่องค์กรลับรับมาเลี้ยงหล่ะ” อดาเน็คพูดขึ้น

    “บ้านฉันหน่ะรวยมาก ฉันชอบเรื่องการทหารมาตั้งแต่ยังเด็ก ฉันชอบยิงธนูด้วย ดูเหมือนที่บ้านอยากลับฝีมือฉัน” มาเรียพูดต่อ

    “ของฉันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีไอ้ระยำเอาฉันไปทดลองเป็นนักฆ่า แต่ฉันก็ฆ่ามันไปแล้ว สะใจชิบเป๋ง” เมอร์ลิน่าพูดขึ้น

    “ที่บ้านฉันเป็นหมอหน่ะ แต่วันนึงเกิดไฟไหม้ มันฆ่าทุกคนจนหมด ฉันเกลียดไฟ อย่ามาเล่นให้ฉันเห็นหล่ะ” สเตลล่าพูดขึ้น ตัวของนานะเองก็นิ่งไปเล็กน้อย

    “เฮ้อ ความจริงฉันอยากจะลืมมันแล้วอ่ะนะ แต่ช่างเถอะ ฉันมันก็แค่ไอดอลดวงซวยคนนึงหน่ะ” นานะพูดขึ้น แต่เหมือนว่าตัวของนานะเองจะเอาแต่เหลือบไปมองเนชิน

    “เฮ้ ดูท่าเธอจะชอบหมอนั่นจริงๆนะเนี่ย” มาเรียน่าพูดขึ้น

    “นั่นดิ พวกนั่นอยู่ข้างๆด้วย ให้ฉันคุยมั้ยหล่ะ??” เมอร์ลิน่าถามไป

    “อืม ถ้าเธอไม่เอาฉันขอนะ” มาเรียพูดขึ้น แต่นานะเองพูดขึ้นมาก่อน

    “นี่ ไม่ต้องเลยนะ” นานะพูดขึ้น

    “นั่นแน่ ในที่สุดก็หลุดออกมาแล้ว” สเตลล่าพูดขึ้น

    “เฮ้อ พวกเธอนี่ก็จริงๆเลย เรามาเรียนกันนะ??” อดาเน็คพูดไป

    “ฮ่าๆๆ พวกเธอจะเอายังไงก็เอาเถอะนะ” คามาคุริพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง ตัวของเอลซ่าก็ลองเอาผงอะไรบางอย่างหย่อนใส่อาหารของทุกคน ในตอนนั้นทุกคนก็ตกใจกันมาก

    “ลองดูสิ” เอลซ่าพูดขึ้น และทุกคนก็ลองกินมันดู ปรากฏว่าทุกคนถูกใจมันมาก

    “เอ้ย อร่อยมาก มันคืออะไรอ่ะ??” เมอร์ลิน่าถามไป

    “มันเป็นผงพิเศษที่ฉันคิดค้น มันจะช่วยเปิดต่อมรับรสให้ดีขึ้นหน่ะ” เอลซ่าบอกไป

    “โห ถ้าเปิดขายมันนี่รับรองว่ากำไรงามเลยนะ” สเตลล่าพูดขึ้น

    “จริงด้วย เธอไม่ลองขายมันดูหล่ะ??” คามาคุริพูดไป 

    “เออ ฉันอยากให้ทุกคนได้ลองกกินมันจริงๆ” อดาเน็คพูดขึ้น 

    “เออนี่ ว่าแต่ เรื่องของหมอนั่นเธอจะเอายังไงต่อหล่ะ??” มาเรียน่าถามนานะไป

    “อืม ไม่รู้สิ เดี๋ยวก็ทำความรู้จักกันไปเรื่อยๆหล่ะนะ” นานะพูดขึ้น

    “เอ้ย ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวฉันช่วยพูดเอง” มาเรียพูดไป แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรต่อ ในตอนนั้นก็ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มในชุดนาซีคนหนึ่งเดินเข้ามาในโรงอาหาร นั่นก็คือไฮน์ริชหนึ่งในผู้คุมกฎนั่นเอง ทำเอาทุกคนถึงกับสะดุดตา บางส่วนเองก็นินทาเขาไปด้วย ไฮน์ริชเห็นพวกของเนชินตอนนั้นก็เดินไปที่โต๊ะของพวกเขาในทันที 

    “ไงหล่ะมึง ออกจากคุกตั้งแต่เมื่อไหร่หล่ะ??” ไฮน์ริชถามอย่างยียวน แต่กลุ่มของเนชินก็ต้องอดทนฝืนเอาไว้ เพราะเขาคือผู้คุมกฎ

    “ก็ออกมาเมื่อเช้าครับ” เนชินตอบไป แต่ไฮน์ริชก็เอาเท้าขึ้นมาบนโต๊ะอาหาร ทำเอาทั้งโรงอาหารตกใจมาก

    “ลิงเหลืองอย่างมึงไม่มีสิทธิ์มองหน้ากูเว้ย!!” ไฮน์ริชพูดขึ้น ในตอนนั้นฟิลิปทนไม่ไหวเลยลุกขึ้นมา

    “เฮ้ย ผู้คุมกฎหาเรื่องนักเรียนได้เหรอ??” ฟิลิปถามไป

    “ทำไม มึงยุ่งอะไรด้วยวะ??” ไฮน์ริชตอบกลับอย่างเอาเรื่อง ในตอนนั้นคิมยูจินก็พยายามจะรั้งเขาไว้

    “เออ ว่าแต่พี่มีอะไรหรือเปล่าครับ??” เขตแดนถามไป

    “ก็รู้สึกหงุดหงิดหว่ะ อยากมีเรื่องอ่ะ” ไฮน์ริชบอกไป จากนั้นก็พยายามจะเคลื่อนเท้าเตะไปที่จานอาหารของทุกคน แต่ในตอนนั้นอุโมจาก็เอามือยันไฮน์ริชเอาไว้ก่อน ไฮน์ริชถึงกับขยับเท้าไม่ได้

    “เฮ้ย ปล่อยนะเว้ยไอ้มืดสวะ!!” ไฮน์ริชตะโกนออกมา จนในตอนนั้นอุโมจาก็ยกเท้าเขาขึ้นและผลักออกไปจนไฮน์ริชถึงกับเซหนัก

    “เฮ้อ สมน้ำหน้า” อัลลันพูดขึ้น

    “โธ่ ไอ้เราก็นึกว่าจะแน่” คริสโตเฟอร์พูดขึ้น ในตอนนั้นไฮน์ริชเองก็อยากจะมีเรื่องเต็มที่แล้ว

    “นี่ พี่ครับ ลูกผู้ชายหน่ะ เขาไม่เอาอำนาจมาเบ่งคนที่อ่อนแอกว่าหรอก ถ้ามีอะไร เขาวัดกันตัวต่อตัวครับ” เนชินบอกกับไฮน์ริชไป

    “อ้อ นี่จะท้ากูเหรอ ได้ งั้นกูขอท้าพวกมึง พวกมึงมี 8 คนใช่หรือเปล่า ได้ กูจะหาอีก 8 คน แล้วลงสังเวียนกัน พวกมึงกล้าหรือเปล่าหล่ะ??” ไฮน์ริชตะโกนท้าพวกเขากลางโรงอาหารไป

    “นึกว่าไอ้สวะขาวแบบพวกมึงจะไม่กล้าซะอีก ได้ ถ้าอย่างงั้นก็ เย็นนี้เจอกัน” อุโมจาพูดขึ้น

    “ได้ แล้วพวกมึงจะรู้สำนึก!!” ไฮน์ริชตะโกนออกมา แต่ในตอนนั้น ก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น และเดินมาใกล้พวกเขา

    “เฮ้ย แกพูดเองแล้วนะไอ้ลิงเผือก ถ้าแกเทเหมือนคราวก่อนนี่หมาเลยนะเว้ย!!”

    “เฮ้ย นั่นมอร์ตี้ ขาใหญ่ของเรานี่หว่า” โจบอกกับทุกคนไป

    “เฮ้ย มอร์ตี้ แกออกจากคุกตั้งแต่เมื่อไหร่??” ไฮน์ริชถามไป

    “แกคิดว่าฉันจะติดได้นานงั้นเหรอ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับแกเนี่ย แกท้าไว้ก็ทำตามสัญญาด้วยหล่ะ หรือจะให้ฉันจัดการแทนเด็กพวกนี้ก็ได้นะ??” มอร์ตี้พูดขึ้น และในตอนนั้นไฮน์ริชก็เดินออกไปอย่างหัวเสีย และในตอนนั้นมอร์ตี้ก็มาทักทายกับเนชินด้วย

    “เฮ้ เป็นยังไงบ้างเด็กๆ??”

    “ขอบคุณมากที่ช่วยนะครับพี่” เนชินบอกกับมอร์ตี้ไป

    “ไม่ต้องห่วง พวกนายเตรียมพร้อมสู้กับพวกมันเถอะ เย็นนี้” มอร์ตี้พูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินออกไป

     

    ที่ห้องพักของเหล่าผู้คุมกฎ ในขณะที่พวกเขากำลังพักผ่อนกันอยู่บริเวณศาลาประจำของพวกเขา ในตอนนั้นเอง ลิลิธก็รีบเดินมาหาพวกเขาอย่างรวดเร็วเพื่อคุยด้วย

    “เฮ้ ทุกคน ไฮน์ริชมันไปท้าเด็กใหม่สู้ที่งานประลองหน่ะ เย็นนี้!!” 

    “เฮ้ย จริงดิ น่าสนุกนี่หว่า” เอาส์ติสพูดขึ้น

    “จะว่าไปไม่เห็นมันท้าใครมานานแล้วนะเนี่ย” ซองชวาพูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้นคืนนี้ก็มีมวยเด็ดแล้วสิ” อารีแอ็คเน่พูดขึ้น

    “ฉันพนันได้เลย ไอ้ไฮน์ริชมันเละแน่” โทโมเอะพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง ริคกี้ก็เดินเข้ามาพร้อมกันนั้นก็ทำท่ามองหาใครไปด้วย

    “เฮ้ย พวกนาย เห็นไฮน์ริชหรือเปล่า??” 

    “เอ้า นึกว่าตัวติดกันซะอีก” ออร์ฟิอุสพูดไป

    “เฮ้ย อย่ามากวนฉันนะ ฉันถามดีๆเนี่ย??” ริคกี้ถามไป

    “เฮ้อ เพื่อนนายไปท้าเด็กใหม่สู้หน่ะ ไม่รู้เหรอ??” ซองชวาถามไป ในตอนนั้นริคกี้เองก็งงเป็นไก่ตาแตก

    “ไม่รู้ว่าไปกินอะไรมา ถึงได้กล้าขนาดนี้เนี่ย??” เอาส์ติสพูดขึ้น

    “เอาเถอะ อย่างน้อยก้มีโชว์ให้ดูหล่ะ” อารีแอ็คเน่พูดไป

    “เฮ้ ลิลิธ พนันกับฉันมั้ย ฉันว่าไฮน์ริชเดี้ยงแน่ๆ??” โทโมเอะถามไป

    “บ้าเอ้ย ฉันกำลังพนันแบบเดียวกันเลย” ลิลิธพูดไป

    “เออ งั้นฉันพนันข้างไฮน์ริชก็ได้” ออร์ฟิอุสพูดล้อเลียนไป

    “เฮ้ย อย่ามาดูถูกไฮน์ริชนะเว้ย!!” ริคกี้พูดขึ้น

    “อะไรของนายเนี่ย ฉันลืมบอกไปเลยว่างานนี้สู้ 8 ต่อ 8 เลย??” ลิลิธถามไป

    “8 ต่อ 8 ฉันว่านายไปเตรียมตัวไว้เถอะริคกี้” ซองชวาพูดขึ้น

    “ใช่ หรือว่านายไม่กล้าหล่ะ??” โทโมเอะถามไป และในตอนนั้น ริคกี้เองก็เดินออกไปอย่างหัวเสีย

    “โธ่ นึกว่าจะแน่” เอาส์ติสพูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้นช่วงเย็นๆ คงต้องมีคนไปดูเยอะแน่ๆ” อารีแอคเน่พูดขึ้น

    “เออเนอะ งานนี้สนุกแน่ๆ” ออร์ฟิอุสพูดขึ้น

    “เออ แต่ว่าครูคาร์ลจะว่ายังไงหล่ะ ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้??” อารีแอคเน่พูดไป

    “มันเป็นกฎ ยิ่งถ้าเกิดผู้คุมกฎเป็นคนท้าประลองด้วย ยังไงก็ต้องรักษาคำพูด ไม่งั้นติดคุกแน่” ซองชวาพูดขึ้น

    “ถ้าเกิดว่าไอ้ไฮน์ริชพลาด งานนี้มันได้นอนคุกแน่” เอาส์ติสพูดขึ้น

    “เออ ว่าแต่มอร์ตี้ออกมาหรือยังหล่ะ??” โทโมเอะถามไป

    “ออกมาแล้วหล่ะ เธอติดคุกได้ไม่นานหรอก” ลิลิธตอบไป

     

    ณ ลานฝึกฝนและสนามยิงปืนในโรงเรียน ซึ่งตอนนี้กลุ่มสังหารและเก็บกวาดก็กำลังฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาฝีมือเพิ่มเติม ในตอนนี้พวกเขาใช้อาวุธที่พวกเขาถนัดทำการฝึกฝน โรแลนด์ใช้ปืนสไนเปอร์ไรเฟิลของเขาและยิงไปยังเหรียญที่ปักอยู่บนแอปเปิ้ล ลุดวิกเองฝึกซ้อมการใช้มีดร่วมกับหุ่นยนต์ซ้อมที่เคลื่อนที่ได้ มินโฮเองฝึกเทควันโด้และวิชาเตะของเขากับหุ่นฝึก เบลลาทริกซ์เองก็ฝึกบริหารร่างกายไปด้วย ฮิลด้าและมาทิลด้าเองก็ฝึกยิงปืนที่พวกเธอถนัด บาลอร์ก็ทำการฝึกจู่โจมประชิดด้วยปืน UZI เว่ยเฟยหลงเองก็ฝึกทั้งมีดและปืนผสมผสานกันไป และเมื่อพวกเขาฝึกกันจนเหนื่อย พวกเขาก็มารวมตัวกันเพื่อพูดคุยกัน

    “เฮ้อ เรียกเหงื่อได้ดีเลยวันนี้” ลุดวิกพูดขึ้น

    “นั่นดิ เสียดาย อยากกลับไปยิงคนจริงๆเหมือนกัน” โรแลนด์พูดขึ้น ก่อนที่ในตอนนั้นเอง ภารโรงของสนามซ้อมก็เอาน้ำดื่มและเครื่องดื่มเกลือแร่มาให้กับพวกเขาในทันที

    “โอเค มาพอดี ขอบคุณครับ” มินโฮบอกกับภารโรง

    “เฮ้อ กำลังเหนื่อยพอดี ฉันขอรสนี้” เบลลาทริกซ์ก็หยิบน้ำขวดสีฟ้าไป

    “เฮ้ นายชอบสีส้มไม่ใช่เหรอ ทำไมวันนี้เอาสีแดงหล่ะ??” บาลอร์หันไปถามเว่ยเฟยหลง

    “เอ้า ก็ขอเปลี่ยนบรรยากาศมั่งดิ” เว่ยเฟยหลงตอบไป

    “เฮ้อ เมื่อไหร่เราจะได้ออกไปลุยซะทีหล่ะเนี่ย??” ฮิลด้าถามไป

    “ก็งานของพวกเรามันต้องเป็นงานใหญ่จริงๆอ่ะ ถึงจะได้ออกไป” มาทิลด้าพูดไป

    “เออ เมื่อเช้าผมเพิ่งผ่านโรงอาหาร ได้ยินว่าผู้คุมกฎที่ชื่อไฮน์ริชไปท้าพวกเด็กใหม่สู้ด้วยครับ”

    “ห่ะ เดี๋ยวนะ ไฮน์ริชเนี่ยนะ??” บาลอร์ถามไป

    “ดูเหมือนว่าหมอนั่นคงไม่ชอบหน้าเด็กใหม่จริงๆ” เฟยหลงตอบไป

    “เฮ้อ แล้วพวกนั้นจะแข่งกันยังไงหล่ะ??” เบลลาทริกซ์ถามไป

    “มีข่าวมาว่าพวกเขาจะท้ากัน 8 ต่อ 8 เลยครับ” ภารโรงตอบไป

    “โห แบบนี้ท่าทางจะมันส์แหะ” โรแลนด์พูดขึ้น

    “นั่นดิ อยากเห็นไฮน์ริชมันสู้จริงๆจังๆดูมั่ง” ลุดวิกพูดเสริม

    “แล้วพวกนั้นจะสู้กันตอนไหนคะ??” ฮิลด้าถามไป

    “น่าจะช่วงเย็น ที่ลานประลองครับ”

    “โห ลานประลองด้วย ท่าทางจะเดือดแน่ๆ” มาทิลด้าพูดอย่างตื่นเต้น

    “เออ ว่าแต่ 8 คนเนี่ย จะมีใครบ้างครับ??” มินโฮถามไป

    “ก็จะมีฝ่ายเด็กใหม่ ที่มีหน้าใหม่ที่เพิ่งจะออกจากคุกมา 8 คนครับ ส่วนของไฮน์ริช คงจะกำลังหาทีมอยู่ครับ” ภารโรงคนนั้นพูดขึ้น ในตอนนั้นมินโฮก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

    “เฮ้ เดี๋ยวฉันมานะ” มินโฮพูดจบก็รีบเดินออกไปในทันที ท่ามกลางความประหลาดใจของพรรคพวก เว้นแต่บาลอร์ที่ยิ้มแบบมีเลศนัย

    “จะรีบไปไหนของเขานะ??” เฟยหลงถามไป

    “สงสัยจะจะไปหาเพื่อนหมอนั่นหล่ะมั้ง ที่เป็นผู้คุมกฎด้วยหน่ะ??” มาทิลด้าถามไป

    “ห่ะ ไอ้หน้าสำอางนั่นเนี่ยนะ น้อยหน่อย!!” ลุดวิกพูดขึ้น

    “เออ นั่นดิ ไม่รู้ว่ามันมาเป็นผู้คุมกฎได้ยังไง” โรแลนด์พูดขึ้น

    “เฮ้ย เบาๆหน่อยดิ เดี๋ยวมินโฮได้ยิน” ฮิลด้าพูดปรามทุกคนไป

    “ไม่หรอก หมอนั่นไม่มาได้ยินตอนนี้หรอก” บาลอร์พูดขึ้น

    “เอาเถอะ สงสัยงานนี้คงต้องเตรียมตัวไปดูโชว์หน่อย ฉันพนันข้างพวกเด็กใหม่นะ” เบลลาทริกซ์พูดไป

     

    กลับมายังห้องพักอาจารย์ ซึ่งในตอนนี้กลุ่มอาจารย์ก็ได้มักผ่อนก่อนที่จะเตรียมพร้อมในการสอนนักเรียนในอีกไม่กี่วันที่กำลังจะมาถึง ในตอนนั้นเอง นาตาลีที่เป็นอาจารย์ประจำห้องพยาบาลก็รีบเข้ามาในห้อง จากนั้นก็คุยอะไรบางอย่างกับพวกเขา

    “เฮ้ ทุกคน ฉันได้ยินข่าวจากมอร์ตี้ ไฮน์ริชท้ากลุ่มของเนชินประลองหน่ะ ได้ยินมาว่าประลอง 8 ต่อ 8 ที่สนามประลองด้วยนะ”

    “เฮ้ย จริงดิ ไฮน์ริชเนี่ยนะ ไม่อยากจะเชื่อเลย สงสัยจะกินยาม้ามาหล่ะมั้ง??” อาจารย์เดธพูดขึ้น

    “เฮ้อ จะว่าไป ไม่เคยเห็นไฮน์ริชท้าใครเลยช่วงนี้” โกเมซพูดขึ้น

    “ฮ่าๆๆๆ พวกนักเรียนคงกลัวไอ้คาร์ลจนหัวหดเลยไม่กล้าสู้ไง” เชเพิร์ดพูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้น ฉันขอไปเป็นกรรมการในเกมนี้เอง” ดู๊ดพูดขึ้น

    “เฮ้อ ยังไงก็รอดูสถานการณ์ก่อนแล้วกัน” อิซาเบลล่าพูดขึ้น

    “หวังว่าจะไม่ถึงเลือดถึงเนื้อกันนะคะ” ซินพูดขึ้นอย่างกังวล

    “เฮ้อ ขอให้ไอ้ไฮน์ริชเจอของจริง จะได้หายซ่าส์” เก็นโซพูดขึ้น ก่อนที่ในตอนนั้นเอง เอ็ดมันด์ที่เป็นผู้บริหารของโรงเรียนแห่งนี้ก็เดินเข้ามาในห้อง

    “เฮ้ สวัสดีทุกคน เป็นยังไงกันบ้าง??”

    “อ้าว คุณเอ็ดมันด์ พวกเราไม่มีอะไรค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ??” โอเด็ตถามไป 

    “อ้อ แค่อยากมีปรึกษาเรื่องเฮนรี่หน่ะครับ” เอ็ดมันด์ตอบไป ก่อนที่ไม่นานนัก อาจารย์คาร์ลก็จะเดินเข้ามาในห้องอย่างหัวเสีย

    “คุณเอ็ดมันด์ ผมเจอคุณพอดี”

    “อ้าว คุณคาร์ล ว่าไงหล่ะ??” เอ็ดมันด์ถามไป

    “คุณรู้เรื่องการท้าประลองเย็นนี้หรือเปล่าครับ??” คาร์ลถามเขาไป 

    “อ้าว ผมก็นึกว่าเป็นศิษย์รักซะอีก นึกว่าจะรู้แล้วซะอีก” โกเมซพูดขึ้น

    “คุณเอ็ดมันด์ อย่าให้เขาสู้เลยครับ” คาร์ลบอกกับเอ็ดมันด์

    “เดี๋ยวๆๆ ศิษย์รักของคุณท้าเขาก่อนนะ” เดธพูดขึ้น

    “แหะๆๆ คนเราพูดอะไรก็ต้องรับผิดชอบสิครับครูใหญ่” เก็นโซพูดไป

    ”เรื่องนี้ผมเห็นด้วยนะ” เอ็ดมันด์พูดขึ้น

    “อ้าว คุณเห็นด้วยเหรอ??” คาร์ลถามไป

    “ก็ถ้าเขาเป็นคนท้าเอง เขาก็ต้องสู้อย่างลูกผู้ชายสิ” เอ็ดมันด์พูดขึ้น ก่อนที่ตัวของอาจารย์คาร์ลจะเดินออกไปอย่างหัวเสีย

    “เฮ้อ ไปซะได้ก็ดี” เชเพิร์ดพูดขึ้น

    “เออ ถ้าอย่างงั้นเราคุยกันทีหลังดีกว่า” เอ็ดมันด์พูดจบก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

    “เออ แล้วนี่จะยังไงต่อหล่ะ??” อิซาเบลล่าถามไป

    “ฉันจะไปเตรียมพร้อมเป็นกรรมการให้เอง” ดู๊ดพูดขึ้น

    “เอางี้ พวกเธอจะเล่นข้างใครกันหล่ะ??” นาตาลีถามไป

    “ฉันเล่นข้างพวกไฮน์ริชแล้วกัน” โอเด็ตพูดขึ้น

    “ได้ งั้นฉันพนันข้างพวกเด็กใหม่” ซินตอบไป

     

    เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงช่วงเย็น ช่วงที่ทั้งฝ่ายของเนชินและฝ่ายของไฮน์ริชต้องเตรียมตัวเพื่อการประลอง ในตอนนี้บรรดาเด็กนักเรียนทุกคนก็รีบมาจองที่นั่งเพื่อรับชมการต่อสู้ ประกอบกับคืนนี้จะมีปาร์ตี้ปฐมนิเทศสำหรับเด็กใหม่ด้วย ในตอนนั้นกลุ่มของเนชินก็มาคุยกันว่าจะรับมือยังไง

    “โอเค เราจะแบ่งคนสู้กันยังไงหล่ะ??” เนชินถามไป

    “ไอ้ไฮน์ริชฉันจัดการเอง พรรคพวกของมันน่าจะเป็นนักเรียนเหมือนกัน คงจะจัดการได้ไม่ยาก” อุโมจาพูดขึ้น

    “แหม่ ฉันอยากจะยัดหน้าไอ้ไฮน์ริชซะหน่อยเชียว แต่เอาเถอะ ฝากนายจัดการด้วยแล้วกัน” ฟิลิปพูดไป

    “หวังว่าพวกที่เหลือคงไม่ตึงมากนะ” คิมยูจินพูดขึ้น

    “เอาน่า อย่ากลัวไปเลยพวก” อัลลันบอกกับคิมไป

    “แต่ยังไงก็อย่าประมาทนะ พวกมันอาจจะเตรียมอะไรรอเราอยู่ก็ได้” คริสโตเฟอร์พูดขึ้น

    “ก็นะ ยังไงก้ต้องลุย เกิดหนเดียว ตายหนเดียว” โจพูดปลุกใจทุกคน  

    “แหม่ แต่ฉันขอตายช้ากว่านี้หน่อยสิ” เขตแดนพูดไป และในตอนนั้นเอง ตัวของมอร์ตี้ก็เข้ามาในห้องพักของลานประลองที่กลุ่มของเนชินอยู่ด้วย

    “อ้าว พี่มอร์ตี้!!” เนชินพูดขึ้น

    “เฮ้ เด็กๆ ฉันมาเป็นโค้ชให้พวกนาย” มอร์ตี้บอกกับทุกคนไป

     

    และที่ห้องพักของฝ่ายไฮน์ริช ไฮน์ริชคัดเลือกคนที่จะเข้ากลุ่มเพื่อเตรียมประลองกับกลุ่มของเนชิน โดยเขาเลือกคนขาวมาประมาณ 7 คนเพื่อเข้าทีม รวมถึงริคกี้ที่มาช่วยเขาด้วย

    “เฮ้ ริคกี้ นายไม่ต้องลงมาเล่นเองก็ได้นะ” ไฮน์ริชพูดขึ้น

    “เฮ้ย แค่นี้เอง ฉันก้สู้ได้เหมือนกันนะ” ริคกี้พูดขึ้น และในตอนนั้นเอง มินโฮก็เข้ามาในห้องพักนั้นด้วย ริคกี้เองรีบไปรับเขาในทันที

    “เฮ้ มินโฮ”

    “ริคกี้ นายจะลงสนามจริงเหรอ??” มินโฮถามเขาไป

    “แน่นอน ฉันอยากจะลองกับพวกเด็กใหม่เหมือนกัน” ริคกี้ตอบไป

    “นายรอดูอยู่ข้างสนามแล้วกัน” ไฮน์ริชพูดขึ้น

    “ถ้านายจะลง ฉันลงด้วย” มินโฮพูดขึ้น

    “เฮ้ย จะเล่น 9 เลยเหรอ แบบนี้ก็มีมากกว่ามันสิ??” ไฮน์ริชถามไป

    “จะกลัวอะไรหล่ะ ยังไงเราก็คุมเกมอยู่แล้ว” ริคกี้ตอบไป ก่อนที่ในตอนนั้น ตัวของอาจารย์คาร์ลจะเดินเข้ามาในห้องพัก เพื่อพูดคุยกับกลุ่มของไฮน์ริชด้วย

    “ไฮน์ริช เธอคิดดีแล้วเหรอ??” คาร์ลถามไฮน์ริชไป 

    “ครับอาจารย์ ผมไม่กลัวพวกมันหรอกครับ” ไฮน์ริชตอบไป

     

    หลังจากนั้นไม่นานนัก บรรดากองเชียร์ทั้งสองฝ่ายก็มาพร้อมหน้ากันแล้ว และไม่นานนัก พิธีกรก็ประกาศเตรียมเริ่มการประลอง และไม่นานนัก ทั้งสองฝ่ายก็ลงสนามพร้อมๆกัน ท่ามกลางเสียงเฮของทั้งสองฝ่าย แต่สิ่งที่แปลกไปก็คือ ในตอนนี้ฝ่ายของไฮน์ริชมีถึง 9 คน ทำเอากองเชียร์ถึงกับแปลกใจ

    “เฮ้ย อะไรกันวะ ฝั่งนั้นมี 9 คนเลยเหรอ??”

    “เฮ้ย ขี้โกงนี่หว่า!!”

    “ทุกคน ไอ้ไฮน์ริชมันจะโกงเว้ย!!”

    ในตอนนั้นเสียงโห่และเสียงนินทาดังกันเซ็งแซ่ไปหมด และไม่นานนัก ทั้งสองฝ่ายก็มาจ้องกันตรงหน้า โดยมีเดธและดู๊ดเป็นกรรมการ ท่ามกลางความแปลกใจของฝ่ายเนชิน ที่เห็นฝ่านของไฮน์ริชมี 9 คน

    “เฮ้ย ฝั่งพี่มี 9 คนเลยเหรอ??” เนชินถามไป

    “ทำไม เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ พวกแกก็แค่มาเลียรองเท้าให้ฉัน” ไฮน์ริชพูดไป ก่อนที่ในตอนนั้น ตัวของมอร์ตี้จะเดินลงสนามไปด้วย ท่ามกลางความงุนงงของผู้ชมทุกคน

    “เฮ้ย มึงเสือกอะไรด้วยวะ มอร์ตี้??” ไฮน์ริชถามไป

    “ถ้าพวกมึงจะเอาแบบนี้ ฉันจะเป็นคนที่ 9 เอง เอามั้ย??” มอร์ตี้ถามไป ในขณะที่กลุ่มของไฮน์ริชเริ่มหน้าเจื่อนเพราะเห็นมอร์ตี้

    “ว่าไง พวกแกจะรับหรือเปล่า หรือถ้าไม่เอา ก็ให้พวกแกคนนึงออกไป??” ดู๊ดถามกลุ่มของไฮน์ริช ซึ่งในตอนนั้นบรรดาผู้ชมในสนามต่างก็โห่ร้องเหมือนจะท้าไฮน์ริช ไฮน์ริชเองที่ทนไม่ได้ก็พูดขึ้น และไฮนืริชไม่อยากให้ใครออกไป เพราะคนที่เขาเลือกมานั้นไว้ใจได้และค่อนข้างมีฝีมือสำหรับเขา

    “ก็ได้ ถ้างั้นก็ระวังตัวให้ดีเถอะ” ไฮน์ริชพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก อาจาร์ยคาร์ลจะรีบเดินลงสนามอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงโห่ของเหล่าผู้ชม ว่าเขาจะลงมาทำไม

    “เฮ้ย อะไรวะ ขี้โกงนี่หว่า!!” ผู้ชมนิรนามคนหนึ่งตะโกนออกมา

    “พวกแก พวกแกจะเล่นโกงเหรอ??” คาร์ลชี้หน้าไปหามอร์ตี้

    “คุณคาร์ลครับ ไฮน์ริชรับคำท้าเอง ลูกผู้ชายเขาพูดแล้วไม่คืนคำ อีกอย่างตามกฎ อาจารย์ไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายการประลองนะครับ??” ดู๊ดถามแบบกวนๆ ในตอนนั้นคาร์ลเองก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะตัวของเขายึดศักดิ์ศรี ทำเอาตัวของคาร์ลเดินออกจากสนามไปเพื่อไปรับชม ก่อนที่ไม่นานนัก อาจารย์ดู๊ดจะขอไมค์จากพิธีกรมาพูด

    “สวัสดีไอ้พวกนักเรียนส้นตีนทั้งหลาย วันนี้ พ่อหนุ่มเผือกของเราต้องการท้าประลองกับเด็กใหม่มาแรง เนิ่องจากคืนนี้จะมีปาร์ตี้ปฐมนิเทศ เราก็เลยจะปล่อยให้พวกเขาฟัดกันในกรงนั้น ถ้าคนของฝ่ายไหนยืนได้เป็นคนสุดท้าย ถือว่าฝ่ายนั้นชนะไป งานนี้สู้กันมือเปล่า เพื่อป้องกันการบาดเจ็บเกินกว่าเหตุ ไฮน์ริช ถ้าพวกแกชนะ พวกแกจะเอายังไง??” ดู๊ดถามไป

    “ถ้าพวกเราชนะ พวกแกติดคุก 10 วัน เอามั้ย??” ไฮน์ริชถามไป

    “ได้ ถ้าพวกพี่แพ้ ก็เอาเหมือนกัน เอามั้ยครับ??” เนชินที่ได้ยินก็ถามกลับไป 

    “โอเค ทั้งสองฝ่ายท้ากันแล้ว ถ้าฝ่ายไหนแพ้ ติดคุก 10 วัน ถ้าอย่างงั้น เชิญทั้งสองฝ่ายเข้ากรงให้ไวๆเลย!!” ดู๊ดตะโกนออกมา ก่อนที่ไม่นานนัก ทั้งสองฝ่ายจะเข้าไปในกรงต่อสู้อย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงเฮของกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    “เฮ้ย ฉันเล่นไอ้มืดนั่นเอง” ไฮนืริชบอกกับทุกคนไป

    “ส่วนไอ้เด็กใหม่นั่นฉันขอ” ริคกี้มองหน้าเนชินและพูดขึ้น

    “ระวังด้วยนะ มอร์ตี้อยู่ด้วย” มินโฮบอกกับทุกคนไป

    “เฮ้ย ไอ้มินโฮนั่นฉันจัดการเอง พวกนายจะทำอะไรก็ทำ แต่ระวังด้วย” มอร์ตี้บอกกับฝ่ายของเนชินบ้าง

    “โอเค ทุกคนอย่าประมาท พวกมันอาจจะมีดีอะไรก็ได้” อุโมจาพูดขึ้น

    “อืม เอาไงก็เอาเลย” เนชินพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก ระฆังก็ดังขึ้น

    “ลุยกันเลยไอ้ควาย!!” ดู๊ดตะโกนใส่ไมค์ออกมา ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเข้าตะลุมบอนกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาพยายามลุยดูเชิงกันไปมา ในตอนนั้นริคกี้ที่เห็นเนชินก็รีบพุ่งเข้าใส่ แต่เนชินหลบได้และถีบมันออกไป

    “ริคกี้!!” มินโฮตะโกนออกมาแล้วจะวิ่งใส่เนชิน แต่มอร์ตี้เองกระโดดถีบมินโฮจนกระเด็นติดลูกกรง

    “เฮ้ย คนจะสู้กันอย่าสอดดีกว่า!!” มอร์ตี้พูดขึ้น มินโฮพยายามจะลุยฝ่ามอร์ตี้ไปช่วยริคกี้แต่มอร์ตี้ก็ขวางเอาไว้ ทำให้ริคกี้ต้องฟัดกับเนชินลำพัง ส่วนไฮน์ริชก็วิ่งเข้าใส่อุโมจา แต่อุโมจากระโดดหันหลังถีบไฮน์ริชจนกระเด็น

    “อยากเจอฉัน ฉันก็มาแล้ว!!” อุโมจาตะโกนออกมาและวิ่งเข้าสู้กับไฮน์ริช ในขณะที่คนอื่นๆก็ฟัดกับคนของไฮน์ริช คริสโตเฟอร์โดนมันคนหนึ่งต่อย มันจะต่อยเขาอีกทีแต่คริสก็หลบได้และเตะตัดลำตัวของมัน จากนั้นก็กระโดดถีบมันกลับไป ฟิลิปเองสู้กับไอ้ยักษ์คนหนึ่ง มันจับฟิลิปจะทุ่มลงพื้น

    “ย้าก!!”

    ในตอนนั้นฟิลิปจับนิ้วมันแล้วหักนิ้วมัน พอมันปล่อย ฟิลิปก็ใช้ขาสองข้างล็อคคอมันจากด้านหลัง คิมยูจินเองหลบหมัดของมันคนหนึ่งไปมา จากนั้นก็ใช้จังหวะต่อยเตะตัดกำลังของมัน โจเองใช้วิธีการโจมตีจากที่สูง ด้วยการไต่ลูกกรงและถีบมันลงมาจากด้านบน อัลลันยื้อกับมันคนหนึ่งบนพื้นและปลุกปล้ำกันไปมา จากนั้นก็พยายามจะฟาดใส่มัน เขตแดนโดนมันถีบติดกรง มันจะต่อยเขาอีกที แต่เขตแดนเองก็จับแขนมันเอาไว้ จากนั้นก็ต่อยมันแบบไม่ยั้ง ในตอนนี้การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดท่ามกลางเสียงเชียร์ของทั้งสองฝ่าย

    “โอโหทุกคน ผ่านมา 5 นาทีแล้ว ยังยื้อกันมาได้ขนาดนี้ ศึกนี้โคตรเดือดเลยคร้าบ!!” ดู๊ดตะโกนออกมา ในขณะที่ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็เริ่มหมดแรงกันแล้ว โดยเฉพาะฝ่ายของไฮน์ริช ไฮน์ริชเองถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก แต่ในตอนนั้นอุโมจาก็เตะเข้าที่ยอดหน้าของไฮน์ริชในทันที

    “เฮ้ย อย่ามองไปทางอื่นดิวะ!!” อุโมจาตะโกนออกมา แต่ในตอนนั้น ไฮน์ริชก็หยิบเอาผงอะไรบางอย่างออกมาจากหน้าอกเสื้อ ไฮน์ริชพยายามจะปาใส่อุโมจา แต่เนชินที่เพิ่งจะต่อยริคกี้คว่ำก็เห็นเข้าก่อน เขาและวิ่งไปผลักไฮน์ริชออกไป ทำเอาผงนั่นถึงกับหกลงพื้น 

    “ระยำเอ้ย!!” ไฮน์ริชตะโกนออกมาและพยายามจะเอาผงในมือป้ายหน้าเนชิน แต่อุโมจาก็เหยียบเข้าที่มือของอุโมจาก่อน ทำให้เขาทำอะไรไม่ได้

    “เนชิน ไปเร็ว ตรงนี้ฉันจัดการเอง!!” อุโมจาตะโกนออกมา เนชินลากสังขารตัวเองลุกขึ้นมา ในตอนนั้นริคกี้ก็จับหัวเนชินและพยายามจะลากมา แต่เนชินจับแขนริคกี้หักและเตะเข้าที่ชายโครงเขา มินโฮที่เห้นก็พยายามจะไปช่วย แต่มอร์ตี้เองก็จับตัวมินโฮเอาไว้ได้ จากนั้นเธอก็ทั้งเตะทั้งต่อยเขาจนร่างแทบน่วม และดูเหมือนว่าจะมีบางคนสะใจด้วย 

    “นี่ มินโฮ เวลาต่อสู้ ไม่ต้องห่วงคนอื่นนะ” มอร์ตี้จับหัวมินโฮและกระซิบข้างหูเขา มินโฮพยายามขืนแต่มอร์ตี้ก็เตะหน้าเขาจนร่วง จนในตอนนี้ทุกคนในสนามก็แทบร่วงลงไปกองกับพื้นแล้ว เว้นแต่เนชิน ริคกี้ อุโมจา ไฮน์ริช มอร์ตี้และมินโฮ ในตอนนี้เนชินเองก็ต่อยหน้าริคกี้จนริคกี้แทบจะลุกไม่ไหวแล้ว ไฮน์ริชโดนอุโมจาอัดจนแทบช้ำไปทั้งตัว ไฮน์ริชคุกเข่าลงกับพื้น อุโมจาจะปิดฉากด้วยการต่อยหน้าไฮน์ริช แต่ในตอนนั้นเอง

    “ปังๆๆ!!” 

    เสียงยิงปืนดังขึ้นฟ้าสามนัด ซึ่งนั่นเป็นฝีมือของคาร์ลนั่นเอง เขายิงปืนและรีบเดินลงมาที่ด้านล่างเวที จากนั้นก็เล็งปืนใส่คาร์ล

    “ปล่อยเขานะไอ้มืดโสโครก!!” คาร์ลตะโกนออกมา

    “อาจารย์คาร์ล นี่คุณจะก้าวก่ายการต่อสู้เหรอ??” ดู๊ดตะโกนผ่านไมค์ออกมา ในตอนนั้นบรรดาผู้ชมในสนามต่างก็พากันโห่ใส่

    “โห อะไรวะ ไอ้ขี้โกง!!”

    “ไฮน์ริชมันจะขี้โกง ฆ่าแม่งเลย!!”

    “ไอ้นาซีสวะ บู!!” อุโมจาในตอนนั้นที่เห็นว่าไฮน์ริชแทบจะลุกไม่ขึ้นแล้ว เขาเลยผลักไฮน์ริชติดลูกกรงในทันที ส่วนเนชินก็ปล่อยมือจากริคกี้ มินโฮในตอนนั้นรีบวิ่งไปดูริคกี้ในทันที

    “อาจารย์ ทำแบบนี้แปลว่าฝ่ายคุณแพ้นะ” มอร์ตี้พูดขึ้น และในตอนนั้น เอ็ดมันด์ที่ดูโชว์ก็ลุกขึ้น จากนั้นก็รีบลงมาดูสถานการณ์ในทันที จากนั้นเขาก็พูดขึ้น

    “คุณคาร์ล ทำแบบนี้มันผิดกฎนะ”

    “ผมไม่ยอมให้ไฮน์ริชเป็นอะไรไปหรอก!!” คาร์ลตะโกนออกมา

    “เอาหล่ะ ผู้ชนะคือฝ่ายเด็กใหม่เว้ย!!” ดู๊ดตะโกนออกมา ท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงเฮของเหล่าผู้ชมทั่วทั้งสนาม 

    “เฮ้ย ใครบอกว่าพวกมันชนะวะ??” คาร์ลถามไป

    “นี่ คุณอย่ามาทำเป้นขี้แพ้ชวนตีดีกว่านะคะ อาจารย์!!” มอร์ตี้ตะโกนออกมา

    “เอาหล่ะ คุณคาร์ล แพ้เป้นแพ้ ชนะเป็นชนะ อย่าเก็บเอามาคิดอีกเลย หลังจากจบเรื่องนี้ ทั้งสองฝ่ายจะไม่จองเวรกัน ตกลงมั้ย??” เอ็ดมันด์ถามไป

    “แต่ว่า ตามสัญญา ฝ่ายแพ้จะต้องเข้าคุกเป็นเวลา 10 วันครับ!!” ดู๊ดตะโกนออกมา แต่คาร์ลเองก็เล็งปืนใส่ดู๊ดต่อ

    “ถ้าใครอยากแตะต้องเขา ก็เข้ามาเลย!!” เดธที่เห็นในตอนนั้นก้ชักปืนออกมาและเล็งใส่เขาบ้าง

    “คุณคาร์ล นี่คุณเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า??” เดธถามไป ดูเหมือนสถานการณ์จะเริ่มมาคุ เพราะคาร์ลจะไม่ยอมให้ไฮน์ริชเข้าคุกเด็ดขาด แต่ในตอนนั้น เนชินเองก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมา

    “ก็ได้ครับ พวกคุณไม่ต้องเข้าคุกก็ได้ แต่พวกคุณบอกว่า 10 วันใช่หรือเปล่า ถ้าอย่างงั้น ก็สามารถให้พวกเราทำผิดกฎโรงเรียนโดยไม่ต้องรับโทษได้ 10 ครั้ง คุณกล้ารับข้อเสนอหรือเปล่าหล่ะ??” เนชินตะโกนออกมา ทำเอาทั้งเอ็ดมันด์และคาร์ลถึงกับแปลกใจ

    “เฮ้ย ไอ้เด็กใหม่ ใจมึงมันได้หว่ะ มึงเป็นศิษย์รักกูแน่!!” ดู๊ดตะโกนออกมา

    “ถ้าคุณไม่ให้ไฮน์ริชเข้าคุกตามคำท้า ถ้างั้นก็รับข้อเสนอเขาซะ เอามั้ยหล่ะ??” เอ็ดมันด์ถามไป ในตอนนั้นคาร์ลทำอะไรไม่ถูก เขาเลยเก็บปืนแล้วเดินออกจากสนามไปอย่างหัวเสีย

    “โอเค เป็นตามข้อตกลง!!” เอ็ดมันด์บอกกับเนชินไป และไม่นานนัก กลุ่มพยาบาลก็มาช่วยกันแบกหามกลุ่มของไฮน์ริชขึ้นเตียงสนามเพื่อเอาไปรักษาต่อ แต่ในตอนนั้นทุกคนในสนามก็โห่ใส่ไฮน์ริชไปตลอดทาง ส่วนกลุ่มของเนชินเองก็พากันลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมไปรักษาตัวกัน

    “เฮ้ ยินดีที่ได้สู้ร่วมกับพวกนาย” มอร์ตี้พูดกับทุกคนไป 

    “ครับ พวกเราขอบคุณมากครับ” เนชินตอบไป

    “เออ รักษาตัวไว้ คืนนี้พวกนายต้องเก็บแรงไว้ดิ้นนะ” มอร์ตี้พูดไป

     

    ตัดภาพมาที่ปาร์ตี้ของเหล่าเด็กนักเรียนหลังปฐมนิเทศ หลังจากการต่อสู้จบลง พวกเด็กๆต่างพากันมานั่งดื่มและเต้นกันอย่างสนุกสนาน ก่อนที่พวกเขาจะต้องเตรียมไปเรียน กลุ่มของเนชินหลังจากที่ได้พักกันแล้ว พวกเขาก็เดินทางเข้ามาสู่งานปาร์ตี้ ซึ่งที่นั่นกลุ่มของเนชินแทบจะกลายเป็นคนดังไปแล้ว ทุกคนต่างพากันชื่นชมกลุ่มของเขา ไม่นานนัก มอร์ตี้ที่อยู่ในปาร์ตี้ก็เห้นพวกของเนชิน เธอตะโกนเรียกพวกเขาในทันที

    “เฮ้ พวกนาย มาเร็ว!!” 

    กลุ่มของเนชินรีบวิ่งไปหาพวกเขาในทันที พวกเขารีบไปทักทายเธอในทันที

    “เป็นยังไงบ้างครับพี่??” เนชินถามไป

    “เออ ก็กำลังรอพวกนายอยู่นี่หล่ะ” มอร์ตี้ตอบไป

    “พวกเราได้รับการยกเว้นทำผิดตั้ง 10 ครั้งด้วยนะพี่” คริสโตเฟอร์พูดขึ้น

    “เฮ้อ ฉันคงหมดก่อนพวกนาย แต่ช่างมันเถอะ ฉันไม่วอรี่อะไรหรอก แต่หลังจากนี้พวกนายต้องระวัง ไอ้ไฮน์ริชมันเล่นงานพวกนายหนักขึ้นแน่” 

    “เฮ้อ ให้มันมาเถอะ ผมจะซัดมันกับมือเอง” ฟิลิปพูดขึ้น

    “เออ แต่ตอนนี้เรากลายเป็นคนดังไปแล้วนะพวก” อัลลันพูดขึ้น 

    “นั่นสิ แบบนี้ทำอะไรก็ได้เลยนี่หว่า” โจพูดขึ้น

    “เฮ้ แต่ฉันว่าทำแบบนี้มันจะยั่วตีนคนอื่นมากขึ้นนะ” เขตแดนพูดปรามทุกคนไป

    “ใครสนหล่ะ เรามันไร้เทียมทานอยู่แล้ว” คิมยูจินตอบไป

    “เอาเถอะครับ ถึงยังไงพวกเราก็ไม่กลัวพวกมันอยู่แล้ว” อุโมจาบอกไป 

    “โอเค งั้นเราดื่มกันเถอะ” มอร์ตี้พูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ชนแก้วดื่มกัน แต่ในตอนนั้นตัวของเนชินก็ขอเดินไปเข้าห้องน้ำหน่อย เขาเดินไปแล้วก้มาหยุดหน้าห้องน้ำ เนื่องจากว่าเจ็บแผลที่ริคกี้ฝากไว้ให้เขาที่ด้านหลังคอ แต่เขาเองก็ยังไม่ได้ทำแผลอะไร และในตอนนั้นเอง จู่ๆ เด็กสาวคนหนึ่งก็เดินมาตามทางห้องน้ำ ซึ่งเธอก็คือนานะ เธอเห็นเนชินก็เดินมาหาเขาในทันที

    “เฮ้ เป็นยังไงบ้างอ่ะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า??”

    “อ้อ ไม่มีอะไรหรอกครับ” เนชินบอกไป แต่ในตอนนั้นนานะเองก็สังเกตเห็นว่าด้านหลังคอขเงเนชินมีแผล ในตอนนั้นเธอก็ลากเขามาที่ด้านนอกในทันที และให้เขานั่งที่นั่งแถวนั้น ก่อนที่เธอจะเอายาของเธออกมา

    “ไม่เป็นไรครับ เล็กนิดเดียวเอง” เนชินบอกนานะไป

    “ไม่ต้องพูดหรอก นายรู้มั้ย ฉันเคยปล่อยให้แผลมันเน่า ฉันนอนซมไปเป็นวันเลย” นานะพูดจบก็ค่อยๆเอายาใส่กระดาษทิชชู่ที่เธอพกมา จากนั้นก็ค่อยๆใส่ยาให้กับเนชิน

    “ที่นายทำนี่บ้ามากเลยนะ” นานะพูดขึ้น

    “เฮ้อ ถ้าพวกมันมาหยามผมกับเพื่อน ผมก็ไม่ยอมหรอก” เนชินตอบไป

    “อืม ก็ดีแล้วหล่ะ ฉันเคยโดนหยามมาครั้งหนึ่ง บอกเลยว่าครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว” นานะพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เธอจะใส่ยาให้เขาจนเสร็จเรียบร้อย แล้วเธอก็เอาผ้าพันแผลที่เตรียมไว้ปิดให้กับเขา

    “ขอบใจมากนะ เธอ..”

    “ฉันนานะ นายชื่อเนชินสินะ??” นานะพูดขึ้น

    “อ้อ ใช่ ขอบใจมากนะนานะ แล้วฉันจะได้เจอกับเธออีกหรือเปล่าอ่ะ??” เนชินถามไป

    “ถามอะไรแปลกๆ เราเรียนด้วยกัน ยังไงก็ได้เจอกันอยู่แล้ว” นานะตอบไป 

    “เออ คือว่า ฉันขอเต้นกับเธอได้หรือเปล่า??” เนชินถามไป

    “อ้อ ได้สิ แต่ฉันไม่ถนัดเต้นแบบนั้นอ่ะ” นานะตอบไป

    “อ้อ เต้นรำก็ได้นะ ฉันเต้นเป็นอยู่นะ ฉันไปจำจากคนอื่นมา” เนชินพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็เดินออกไปที่สนามหญ้าแถวนั้น ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะเต้นรำด้วยกัน เนชินเองดูจะเต้นไม่ค่อยพลิ้วเท่าไหร่ นานะเองก็เลยช่วยสอนเขาด้วย เนชินหันไปยิ้มให้กับเธอ เธอก็ยิ้มตอบ โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่า ในขณะนี้บรรดาเพื่อนๆของพวกเขาทั้ง 2 กลุ่มต่างก็แอบมองพวกเขา รวมถึงแอบแซวและหัวเราะกันคิกคักด้วย ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้จะเป็นค่ำคืนที่มีความสุขสำหรับพวกเขาทั้งคู่

    =====================================================================

    เพื่อนใหม่ของเนชินจะเป็นยังไง และเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า 

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย 

    ให้ของขวัญเป็นกำลังใจกันได้ครัช ไหว้หล่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×