ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My War - สงครามที่ไม่ได้เลือก

    ลำดับตอนที่ #5 : EP 2 : เข้าสู่คืนนรก

    • อัปเดตล่าสุด 5 มิ.ย. 63


    หลังจากที่แต่ละคนตกลงว่าจะแยกย้ายกันไปหาของ พวกเขาก็ค้นหาทุกซอกทุกมุมของอพาร์ทเม้นต์ เผื่อว่าจะมีอะไรที่พอจะใช้งานได้บ้าง ในตอนนั้นเอง นอร์รีนกับมิเชลก็ไปหาของด้วยกัน โดยที่ทั้งคู่ก็คุยกันถึงเรื่องเก่าๆของทั้งคู่ด้วย

    มิเชล : นี่ เราไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้วเนี่ย // มิเชลพูดพลางหาของไปด้วย

    นอร์รีน : นั่นสิ ฉันยังไม่ทันได้เตรียมใจเท่าไหร่เลยนะตอนนั้น

    มิเชล : แต่ฉันยังรักเธออยู่นะนอร์รีน

    นอร์รีน : ฉันคิดถึงเธอเสมอนั้นแหละ ว่าแต่ เธอเป็นยังไงบ้างกับชีวิตนักข่าวเนี่ย

    มิเชล : ฉันมีงานต้องสะสาง เรื่องของรัฐบาลหน่ะ

    นอร์รีน : ทำไมงั้นเหรอ เธอไปรู้อะไรมาหล่ะ

    มิเชล : มันเป็นความลับใหญ่มาก ฉันต้องส่งมันไปยังโลกภายนอกให้ได้เลย

    นอร์รีน : ถ้างั้นฉันจะช่วยเธออย่างเต็มที่เลยก็แล้วกัน

     

    อีกด้านหนึ่ง ยูจีน ซิลเวียและโทนี่ก็ไปหาของกันที่ห้องพักชั้นสอง ซึ่งมีไม่กี่ห้องพัก พวกเขาแยกย้ายกันไปเปิดประตูแต่ละบานเพื่อหาของจำเป็น ในตอนนั้นโทนี่พยายามจะเปิดประตูแต่เปิดไม่ได้ เขาจึงเรียกทุกคนมาช่วย ทุกคนรีบมาตามที่โทนี่เรียกทันที

    โทนี่ : ผมเปิดไม่ออกหน่ะครับ ช่วยหน่อยสิครับ

    ยูจีน : ฉันไปเจอ pick lock อยู่ตัวหนึ่ง ลองเอาไปไขดูสิ // โทนี่ลองไขประตู จากนั้นประตูก็เปิดออกได้ ด้านในห้องพวกเขาเห็นของมากมาย ซึ่งเป็นของที่จำเป็นต้องใช้ทั้งนั้น

    ซิลเวีย : ดูสิ เราคงจะมาไม่เสียเที่ยวแล้วหล่ะ

    ยูจีน : โอเค รีบเก็บของที่ใช้ได้ เอาไปรวมกันด้านล่าง // จากนั้นทุกคนก็หาของด้านในอย่างแข็งขัน จนกระทั่งได้ของมามากพอสมควร พวกเขาก็มารวมตัวกันในทันที

    โทนี่ : เฮ้อ โคตรเหนื่อยเลยพี่ แล้วจะเอายังไงต่อดีหล่ะครับ

    ซิลเวีย : ก็คงต้องไปรวมตัวกันที่ด้านล่างหล่ะนะ

     

    และอีกด้านหนึ่งของอพาร์ทเม้นต์ ไลฟ์กับเอสเทอร์ก็ไปเดินสำรวจเพื่อหาของ แต่สภาพของอพาร์ทเม้นต์โดนถล่มเละอย่างหนัก พวกเธอแทบจะสิ้นหวังเพราะไม่รู้จะหาของอะไรได้

    ไลฟ์ : นี่ เละขนาดนี้จะมีอะไรให้เก็บหล่ะเนี่ย

    เอสเทอร์ : นั่นสิ เราจะเก็บอะไรกันได้หล่ะ มีแต่เศษซากแบบนี้

    ไลฟ์ : ลองเอาพวกเศษวัสดุพวกนี้ไปดูนะ // พวกเธอทั้งคู่พยายามตะกุยเศษซากเพื่อหาวัสดุจำเป็น แต่ว่าเศษซากพวกนั้นทับถมกันอย่างมาก ทำเอาพวกเธอแทบจะมือพังกันเลยทีเดียว

    เอสเทอร์ : โอ๊ย เล็บฉันพังหมดแล้วมั้งเนี่ย

    ไลฟ์ : นี่ ว่างๆก็ไปตัดเล็บซะนะ สถานการณ์แบบนี้ไม่เหมาะกับการไว้เล็บหรอก

    เอสเทอร์ : เฮ้อ อุตส่าห์ไว้มานานตั้งหลายปี เอาเถอะ เดี๋ยวกลับไปตัดก็ได้ // พวกเธอทั้งคู่ยังคงตะกุยหาของต่อจนได้วัสดุไม้กับโลหะบางส่วนเพื่อสร้างของขึ้นมา

     

    ทางด้านของอลิซกับมิสซึ ในตอนนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็พยายามหาของจำเป็นเพื่อสร้างอุปกรณ์เหมือนกัน ในตอนนั้นอลิซก็นำไม้ส่วนหนึ่งมาดัดแปลงและติดตรงนั้นทีตรงนี้ที ทำเอามิสซึได้แต่มองตาปริบๆ

    อลิซ : นี่นาย ไม่ว่านะถ้านายจะไปหาฟูกนอนให้ฉันหน่อย // มิสซึรีบวิ่งไปหาฟูกนอนแถวๆนั้นมา จากนั้นก็เอามาให้กับอลิซ

    มิสซึ : ฟูกนอนไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ ลองดูแล้วกัน // อลิซทำต่อไปเรื่อยๆจนมันกลายเป็นเตียงนอนสำหรับนอนได้สามคน ทำเอามิสซึอึ้งไปเลย

    มิสซึ : ว้าว นี่เธอทำได้ยังไงเนี่ย

    อลิซ : พ่อฉันสอนหน่ะ ท่านสอนทุกอย่างแบบที่โรงเรียนยังอายเลย

    มิสซึ : แล้วนี่เธอทำเพิ่มได้หรือเปล่าหล่ะ

    อลิซ : ทำได้นะถ้ามีอุปกรณ์พอ นายไปหามาให้ได้ก่อนก็แล้วกัน

     

    ทางด้านของบารีร่า ในขณะที่เธอกำลังหาของจำเป็นอยู่ด้านล่างของตึก อยู่ดีๆเธอก็ได้ยินเสียงเคาะประตูมาจากด้านนอก บารีร่ารู้สึกแปลกใจนิดหน่อย จากนั้นเธอก็เปิดประตูไป ปรากฏว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งมายืนอยู่ด้านนอก สายตาของทั้งคู่จ้องประสานกัน และในขณะนั้นราวกับว่าโลกกำลังหยุดหมุนเลยทีเดียว

    บารีร่า : เออ เธอเป็นใครอย่างงั้นเหรอ ถึงมาที่นี่

    ซีโร่ : ฉันชื่อซีโร่ ฉันมาหาที่พักแถวนี้หน่ะ

    บารีร่า : แล้ว บ้านเธออยู่ที่ไหนหล่ะ ไม่มีอยู่แล้วงั้นเหรอ

    ซีโร่ : อ้อ บ้านฉันโดนระเบิดลงหน่ะ ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว

    ในขณะเดียวกัน นอร์รีนและพรรคพวกคนอื่นๆก็ลงมาพอดี นอร์รีนเห็นบารีร่าคุยกับเด็กหนุ่มแปลกหน้าอยู่เลยเข้ามาหาเธอทันที

    นอร์รีน : เออ บารีร่า เขาเป็นใครกันงั้นเหรอ

    บารีร่า : อ้อ นี่ซีโร่ค่ะ เขามาหาที่พักหน่ะค่ะ พอจะช่วยเขาได้หรือเปล่าคะ

    ซีโร่ : นี่ ผมไม่อยากรบกวนคุณเท่าไหร่หรอกนะครับ

    นอร์รีน : เข้ามาก่อนสิ ด้านนอกมันค่อนข้าหนาวอยู่นะ // นอร์รีนต้อนรับสมาชิกใหม่เข้ามา จากนั้นพวกเขาก็มารวมตัวกันเพื่อรวบรวมของที่หามาได้ เพื่อดูว่ามีใครเก็บอะไรมาได้บ้าง

    มิเชล : ว่าไงทุกคน ได้ของอะไรกันมาบ้างหล่ะ

    ยูจีน : ของพวกฉันมียาส่วนหนึ่ง อาหารสด อาหารกระป๋อง กับน้ำสะอาดส่วนหนึ่งหน่ะ

    เอสเทอร์ : ของฉันมีแต่วัสดุพวกนี้หน่ะ น่าจะใช้ทำอะไรได้อยู่นะ

    นอร์รีน : ตอนนี้เราคงต้องประหยัดเสบียงเอาไว้ก่อน เอาเป็นว่าค่อยกินกันพรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน

    ไลฟ์ : ห่ะ ต้องพรุ่งนี้เช้าเลยอย่างงั้นเหรอ

    มิเชล : ฉันเห็นด้วยนะ เสบียงของเรามีน้อย ถ้าไม่ประหยัดเราตายกันหมดแน่ๆ

    อลิซ : ก็ได้นะ เดี๋ยวฉันจะลองไปซ่อมเตาทำอาหารเอง มิสซึ นายไปกับฉันได้หรือเปล่า

    มิสซึ : ได้สิ เอายังไงก็แล้วแต่เลยนะ

     

    และอีกด้านหนึ่งของเมือง หลังจากที่หน่วยดอว์นซอร์ดตามล่านอร์รีน แต่พวกเขาก็หาตัวนอร์รีนไม่เจอ ในตอนนั้นพวกมันก็เริ่มจะฟิวส์ขาดเนื่องจากว่ามีคนรู้ความลับของพวกเขา

    ซิลเวสเตอร์ : จะเอายังไงต่อ มันคงเปิดโปงพวกเราหมดแน่

    อีริค : นั่นสิ พวกมันเห็นหน้าพวกเรากันหมดแล้วด้วย

    อเล็กซานเดอร์ : ตามล่ามันทุกที่ ไปทุกตึกที่มันอยู่ มันอาจจะเป็นกลุ่มเดียวกับพวกกบฏก็ได้

    คาสเตอร์ : เยี่ยมไปเลย อย่าให้ฉันเจอมันอีกก็แล้วกัน มันตายแน่ // ในขณะเดียวกัน เควินเห็นอเล็กซ่าท่าทางไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขาจึงเข้าไปถามเธอในทันที

    เควิน : นี่ อเล็กซ่า เธอเป็นอะไรของเธอ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

    อเล็กซ่า : ไม่มีอะไรหรอก แต่พวกนายจะตามล่าเขาไปถึงรังพวกกบฏเลยเหรอ

    อเล็กซานเดอร์ : แน่นอน ต้องขุดรากถอนโคนมันให้หมดเลย

    ซิลเวสเตอร์ : แต่ว่า ตอนนี้พวกกบฏกำลังเข้มแข็งอยู่ เราควรจะมีแผนการที่ดีกว่านี้นะ

    เควิน : ฉันจะลองใช้วิธีแกะรอยพวกมันจากสัญญาณการสื่อสารเอง

    อีริค : เยี่ยมไปเลย งานนี้คงต้องพึ่งนายหน่อยหล่ะ

    คาสเตอร์ : เยี่ยม ได้เวลาฆ่าของฉันซะที // ในระหว่างที่ทุกคนกำลังวุ่นวายกับแผนการของพวกเขา อเล็กซ่าเป็นคนเดียวที่คิดเรื่องอะไรของเธอไปเรื่อย เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่เจอกับเขา จากนั้นก็คิดในใจว่า นี่เธอยังไม่ตายเหรอ นอร์รีน

     

    ณ เรือบรรทุกเครื่องบินสหประชาชาติ ตะวันได้รับคำสั่งให้นำเครื่องขึ้นบินเพื่อคุ้มกันน่านฟ้าสำหรับอพยพทูตของแต่ละประเทศ หลังจากที่เครื่องบินของเขาเข้าสู่น่านฟ้าโซราติก เขาก็สำรวจและคุ้มกันความปลอดภัยของน่านฟ้าในทันที แต่ในทันทีนั้นเอง ก็มีเครื่องบินไม่ระบุสัญชาตินับสิบลำเข้ามารุมกินโต๊ะเขา เขาต้องพยายามสู้กับพวกมันทั้งๆที่เป็นรองอยู่

    ขอย้ำ คุณกำลังประกาศสงครามกับสหประชาชาติ ยุติการโจมตีเดี๋ยวนี้

    ตะวันพยายามจะติดต่อกับเครื่องบินพวกนั้นแต่ก็ไม่เป็นผล พวกมันพยายามยิงเครื่องของตะวันให้ตก แต่ตะวันก็ยิงพวกมันกลับจนเครื่องบินของพวกมันตกไปหลายลำ

    มีดีแค่นี้เองเหรอวะ

    คราวนี้มันปล่อยจรวดติดตามความร้อนใส่ จรวดลูกนั้นโดนเข้าไปยังไอพ่นของเขาพอดี ทำเอาเครื่องบินของเขาเสียการทรงตัวอย่างหนัก

    เมย์เดย์ๆ ผมกำลังจะตก ย้ำ เครื่องผมกำลังจะตก

    เครื่องบินของตะวันกำลังจะดิ่งพสุธาลงกลางเมือง ตะวันจึงดีดตัวออกจากเครื่องบิน ปล่อยให้เครื่องบินตกลงไปใส่ตึกจนระเบิดยับ ส่วนตะวันก็ลงโดยใช้ร่มชูชีพของเขา เขามาลงยังใจกลางเมือง จากนั้นก็พยายามจะมองหาความช่วยเหลือเพื่อออกไปจากเมืองนี้ ก่อนที่พวกมันจะมาตามล่าเขาอีกครั้ง

    ซวยชิบหายเลย ลองไปแถวนี้ดูก่อนดีกว่า

    เขาเดินไปตามตรอกตามซอยเรื่อยๆ เผื่อว่าจะมีใครที่พอจะช่วยเขาได้บ้าง

     

    ณ เขตเหนือโซราติก ในขณะนั้น อนูวากำลังเตรียมความพร้อมของเธอเพื่อแฝงตัวเข้าไปในเมือง เพื่อพยายามติดต่อกับกลุ่มกบฏ ระหว่างที่เธอกำลังเตรียมอุปกรณ์ พ่อของเธอก็คอยมาดูเธอก่อนที่เธอจะแฝงตัวเข้าไปในเมืองนั้น

    เป็นยังไงบ้างลูก โอเคนะ

    หนูโอเคค่ะพ่อ ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้วค่ะ

    โอเคลูก พ่อจะเฝ้าอยู่หน้าวิทยุตลอดเวลาเลยนะ

    ค่ะพ่อ หนูใช้คลื่นสัญญาณพิเศษที่สามารถส่งข้อความได้ถึงพวกเราเท่านั้นค่ะ

    สมกับเป็นลูกพ่อเลยนะเนี่ย

    ในขณะเดียวกัน มีนักบินคนหนึ่งเดินเข้ามารายงานกับผู้บังคับบัญชาของเขาเกี่ยวกับเรื่องเครื่องบิน

    ท่านครับ เครื่องของเราพร้อมแล้วครับ

    อนูวาไม่รอช้า รีบขึ้นเครื่องที่เตรียมพร้อมไว้ในทันที จากนั้นเครื่องบินก็ค่อยๆออกตัวไป ซึ่งพ่อของเธอยืนโบกมือให้เธอ หลังจากที่ขึ้นมายังน่านฟ้าเรียบร้อยแล้ว ไม่กี่นาทีก็มีสัญญาณให้อนูวาเตรียมกระโดดร่มลงได้

    ท่านครับ อีก 30 วินาทีเตรียมโดดครับ ขอให้โชคดีนะครับ

    หลังจากนั้นไม่นาน อนูวาก็โดดร่มดิ่งพสุธาลงมาทันที เธอร่อนลงมาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงจุดที่กางร่ม เธอก็กางร่มในทันที เมื่อเธอถึงพื้น เธอก็เก็บร่มชูชีพ จากนั้นเธอก็มองไปรอบด้าน เผื่อว่าจะมีใครคอยจะซุ่มยิงเธอหรือเปล่า

    เอาหล่ะ ไปสำรวจแถวนี้ดีกว่า

    เธอลัดเลาะไปตามตรอกและซอยต่างๆ เพื่อติดต่อกับกลุ่มกบฏเพื่อเริ่มแผนการใหม่ของเธอในทันที

     

    กลับมายังเมืองหลวงของโซราติก หลังจากที่เร็นติดต่อกับหน่วยของเขาได้สำเร็จ เขาเตรียมอาวุธเพื่อที่จะจัดการกับประธานาธิบดีโซราติก แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงดังมาจากประตูหน้าห้องของเขา เขาดูที่กล้องวงจรปิดก็พบว่ามีหน่วยรบพิเศษกำลังล้อมห้องของเขาอยู่ จากนั้นไม่นานเขาก็กดสัญญาณอะไรบางอย่าง ทำให้เกิดไฟสีแดงที่หน้าประตู จากนั้นเขาก็ไปหลบอยู่หลังโซฟา

    ตู้ม

    ระเบิดที่หน้าประตูทำงาน ทำเอาพวกมันตายไปบางส่วน เร็นคว้าปืนกลมือของเขามายิงปะทะกับพวกมัน พวกนั้นพยายามบุกเข้ามาเรื่อยๆแต่เร็นก็สกัดพวกมันเอาไว้ได้

    จากนั้นไม่นาน พวกมันก็เอาระเบิดควันยิงใส่เร็น เร็นเห็นท่าไม่ดีจึงใส่แว่นมองผ่านควันของเขาจากนั้นก็วิ่งไปยังระเบียง แล้วไต่เชือกลงมาจนถึงชั้นล่าง จากนั้นเขาก็กดโทรศัพท์ของเขา

    ตู้ม

    เขาระเบิดห้องของเขา ทำเอาเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว จากนั้นเขาก็ขึ้นรถของเขาเพื่อหนีไปจากที่นั่น เขากดโทรศัพท์ไปมาเพื่อกู้ข้อมูลบางส่วนของเขา

    เฮ้อ ได้มาแค่นี้เองเหรอ แต่ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็จัดการมันได้อยู่แล้ว

    เขาพูดพลางขับรถไปเรื่อยๆ โดยหวังว่าจะไปให้พ้นจากทหารกลุ่มที่ตามล่าเขา

     

    ณ เขตของกลุ่มกบฏ ในตอนนั้นเองแพททริค รองหัวหน้าของกลุ่มพาเทเรซ่าและพรรคพวกออกหาเสียงและอุปกรณ์จำเป็นเพิ่มเติม พวกเขาต้องพยายามหลบพลซุ่มยิงของทหารที่อยู่ตรงเขตยึดครองของรัฐบาล ในระหว่างนั้นเอง พวกเขาก็พยายามเสาะหากลุ่มพันธมิตรที่เหลือ เพื่อติดต่อขอกำลังมาเพิ่ม

    แพททริค : นี่ เดม่อน ติดต่อกับคนอื่นๆไม่ได้เลยงั้นเหรอ

    เดม่อน : พวกมันตัดสัญญาณหมด อินเทอร์เน็ต ไวไฟ เน็ตมือถือ กระทั่งสัญญาณวิทยุหน่ะ

    เทเรซ่า : แบบนี้ไม่ได้แน่ๆ ถ้าเราติดต่อกับคนอื่นๆไม่ได้เลยหน่ะ

    ลูลู่ : นี่ พวกนายเห็นตึกตรงนั้นหรือเปล่า มันน่าจะมีของให้เราเก็บหน่อยนะ

    แพททริค : เห็นด้วย พวกเราไปทางนั้นกันดีกว่า // แพททริคนำคนของเขาไปยังตึกร้างแห่งหนึ่ง เมื่อพวกเขาเข้ามาด้านใน พวกเขาก็พบกับของใช้ที่จำเป็นบางส่วน พวกเขาโล่งใจที่มาในครั้งนี้ไม่เสียเที่ยว แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เห็นกลุ่มคนแก่และคนเจ็บบางส่วนที่นอนรอความช่วยเหลืออยู่ในนั้น แววตาของพวกเขาดูน่าสงสารมาก

    ช่วยพวกเราด้วย เขาบาดเจ็บหน่ะ

    เทเรซ่ารีบวิ่งไปดูอาการของเขาในทันที จากนั้นเธอก็รีบรักษาเขาด้วยยาที่มีอยู่

    เทเรซ่า : แผลติดเชื้อหน่ะ ฉันจะลองรักษาเขาดูนะ พวกนายมียาฆ่าเชื้อเพิ่มเติมหรือเปล่า

    เดม่อน : เอานี่ไป เราเหลือน้อยแล้ว ต้องประหยัดหน่อยหล่ะ // เดม่อนยื่นยาให้กับเทเรซ่า จากนั้นเธอก็ทำแผลให้กับคนเจ็บทันที

    ลูลู่ : นี่ เรารีบเก็บของแล้วไปจากที่นี่กันก่อนดีกว่ามั้ย

    แพททริค : เราต้องช่วยคนที่เหลือก่อน พวกเขาต้องการเราอยู่ใน // พวกเขาพยายามช่วยเหลือคนที่อยู่ด้านใน จนกระทั่งเทเรซ่ารักษาเขาได้สำเร็จ

    ขอบคุณพวกคุณมากเลยนะครับ

    แพททริค : เราพยายามติดต่อกับกลุ่มกบฏแถวนี้ พวกคุณพอจะรู้มั้ยครับว่าเขาอยู่ที่ไหน

    ตอนนี้พวกเขากระจัดกระจายกันไป พวกคุณต้องลองไปตามหาด้านในเมืองหน่ะ

    แพททริค : ขอบคุณมากนะครับ

     

    กลับมายังโกดังเก็บสินค้าของมาร์ค ในระหว่างที่ด้านนอกกำลังวุ่นวายอย่างหนัก มาร์คกับลูกน้องของเขาก็เริ่มที่จะวางแผนเพื่อนำเสบียงไปแลกเปลี่ยนกับของมีค่ากับคนในเมือง

    นายครับ ตอนนี้เรามีของพอที่จะอยู่ได้เป็นปี เราจะเอาไปแลกจริงๆเหรอครับ

    มาร์ค : เชื่อฉันเถอะ สงครามนี้อยู่ได้ไม่เกินสองเดือนหรอก

    นายรู้ได้ยังไงครับ

    มาร์ค : ฉันพอจะเดาได้ พวกกบฏคงต้านได้ไม่นานหรอก เมื่อพวกกบฏยอมแพ้ ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน

    เยี่ยมไปเลยครับนาย แบบนี้เราก็รวยเละเลยสิครับ

    มาร์ค : ว่าแต่ตอนนี้แกไปสำรวจหรือยังว่ามีผู้รอดชีวิตอยู่ตรงไหนบ้าง

    เราสำรวจมาหมดแล้วครับ รู้แม้กระทั่งฐานของพวกกบฎครับ

    มาร์ค : ดีมาก หลังจากจบเรื่องนี้เมื่อไหร่ เราจะรวยกันแน่นอน

    ดีครับนาย งั้นผมขอทำงานให้นายตลอดไปเลยครับ

    มาร์ค : ตอนนี้เรามาเริ่มทำงานก่อนดีกว่า เย็นนี้หลังสองทุ่ม เริ่มออกลาดตระเวนได้เลย

    ครับนาย

     

    ในช่วง 6 โมงเย็นของวัน ชายคนหนึ่งเดินไปตามถนนเพื่อที่จะหาที่นอนและอาหารของเขาไปเรื่อยๆ เขาเดินทางมาอย่างสิ้นหวัง เนื่องจากไม่มีที่นอนดีๆให้เขานอนมาหลายวันแล้ว เขาเคยนอนข้างถนนมาหนึ่งคืน ซึ่งเขาไม่อยากจะนอนแล้ว เขาเดินมาจนเหนื่อยจึงถอดใจนั่งพักอยู่แถวนั้น พร้อมกับหยิบอาหารของเขาขึ้นมาเพื่อที่จะนั่งกินแถวนั้น ระหว่างที่เขากำลังจะกินมัน ในตอนนั้นเอง มีหมาตัวหนึ่งท่าทางกำลังหิวโซมายืนจ้องหน้าเขา พร้อมกับทำสีหน้าราวกับว่ามันไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน

    หิวหล่ะสิเจ้าหมาน้อย ใช่หรือเปล่า

    หมาตัวนั้นทำท่ายิ้มจากนั้นก็แลบลิ้นห้อยๆของมันออกมา ทำให้เขาต้องแบ่งอาหารส่วนหนึ่งไปให้มัน หมาตัวนั้นกินอย่างหิวโหย หลังจากที่มันกินเสร็จ มันก็มานอนใกล้กับชายคนนั้น

    นายก็คงไม่มีบ้านเหมือนกับฉันสินะ ฉันชื่ออายาซากะ เอจิ นายคงจะฟังฉันรู้เรื่องนะจากนั้นเขาก็ลูบหัวมัน มันก็ยอมให้เขาลูบหัวอย่างยินดี

    ตอนนี้นายคงเป็นเพื่อนคนเดียวของฉันตอนนี้สินะ เดี๋ยวสิ ฉันยังไม่ได้ตั้งชื่อให้นายนี่ เอาไว้ฉันจะตั้งให้ทีหลังก็แล้วกัน

    ในระหว่างนั้นเอง ก็มีเสียงปืนดังมาแต่ไกล ทำเอาหมาตัวนั้นตกใจแล้วมาหลบหลังเขา

    เราคงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วหล่ะ ไปกันดีกว่า

    เขาพาหมาตัวนั้นไปหลบอยู่ที่ตึกแห่งหนึ่ง ซ่อนตัวจากสไนเปอร์ที่พร้อมจะฆ่าทุกคนที่ออกมาเดินอยู่ริมถนน

    และอีกด้านหนึ่งของเมือง หลังจากที่เสียงปืนใหญ่ดัง กลุ่มกบฏส่วนหนึ่งได้หลบหนีพวกทหารและกระจายตัวไปยังตึกต่างๆ และในตอนนั้นเองชายคนหนึ่งกับเพื่อนของเขาอีกสองคนก็กำลังหาทางหนีออกไปจากจุดปะทะ

    นี่ อลัน เราจะไปจากที่นี่ยังไงเนี่ยชายคนหนึ่งถามเพื่อนของเขา

    เราต้องเข้าไปยังใจกลางตัวเมือง เผื่อว่าพวกเราจะยังอยู่ที่นั่น

    แต่ยังไม่ทันไร เพื่อนของเขาสองคนก็โดนยิงตาย อลันจึงต้องหนีตายจากพวกทหารโดยลำพัง เขาวิ่งและยิงสหัดพวกมันเป็นระยะๆ แต่พวกมันก็ไล่ยิงเขาตามมาติดๆ

    บ้าเอ้ย จะถามถึงไหนวะ

    เขาไม่มีทางเลือก ในตอนนั้นเขาเห็นถังขยะใบใหญ่ใบหนึ่ง เขากระโดเข้าไปแอบในนั้น และในตอนนั้นพวกทหารก็วิ่งผ่านเขาไปอย่างหวุดหวิด

    ตามล่าพวกกบฏให้ได้ ฆ่ามันให้หมด

    เขาอยู่ด้านในซักพัก จากนั้นก็โผล่ออกมา โดยที่มีนกเหยี่ยวขาวตัวหนึ่งบินมาเกาะที่ไหล่ของเขา เขาดีใจมากๆที่นกตัวนั้นบินมาหาเขา

    นึกว่าแกจะถึงฉันไปแล้วนะเนี่ย มาเถอะ เราต้องหนีก่อนหล่ะ

    เขากับนกตัวนั้นหนีเข้าไปยังใจกลางเมือง โดยหวังว่าพวกทหารจะไม่มาพบเขาเข้าเสียก่อน

     

    ณ เขตชานเมืองหลวง ในขณะที่กองทหารกำลังคุมกำลังเพื่อป้องกันกลุ่มกบฏอยู่ด้านนอก ในตอนนั้นเอง มีหญิงสาวคนหนึ่ง ขับรถกระบะที่ดูท่าทางไม่เก่ามาก มาพร้อมกับองุ่นหลายพวงที่เธอขนมาด้วย ในระหว่างนั้นเองทหารกลุ่มหนึ่งก็ให้เธอหยุดรถในทันที

    สวัสดีครับคนสวย คุณกำลังจะไปไหนครับ

    ดิฉันกำลังจะไปเยี่ยมลูกดิฉันหน่ะค่ะ

    คุณผู้หญิงไม่รู้เหรอครับ ที่นี่อยู่ในระหว่างการควบคุมนะครับ

    ดิฉันเป็นห่วงลูกฉันจริงๆนะคะ

    เราขอดูบัตรประชาชนคุณหน่อยครับเธอยื่นบัตรให้กับทหารคนนั้น ทหารคนนั้นดูอยู่พักหนึ่ง

    คุณอันนาเหรอครับ คุณต้องมีบัตรผ่านแดนด้วยนะครับ

    แล้วฉันต้องไปเอาที่ไหนเหรอคะทหารคนนั้นพาเธอไปหานายทหารคนหนึ่ง ซึ่งนายทหารคนนั้นกำลังนั่งตรวจแผนที่ของเขาอยู่

    ท่านครับ ผู้หญิงคนนี้ต้องการบัตรผ่านแดนหน่ะครับนายทหารคนนั้นให้ลูกน้องออกไปก่อน จากนั้นเขาก็คุยกับอันนาตัวต่อตัว

    ได้ยินว่าคุณอันนาต้องการบัตรผ่านแดนนี่ครับ

    ค่ะ ฉันต้องการไปเยี่ยมลูกดิฉันค่ะ

    เอาเจ้านี่ไปยื่นให้กับลูกน้องผมนะ บัตรนี้ใช้ผ่านได้ตามเวลาที่กำหนดนะครับ

    ขอบคุณมากนะคะจากนั้นอันนาไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบขับรถผ่านแดนโดยการยื่นบัตรผ่านให้ทหารดู จากนั้นทหารก็ปล่อยเธอออกมา

    ท่านครับ จะปล่อยเธอไปจริงๆเหรอครับ

    นายก็จับตาดูเธอไว้สิ ฉันมีอะไรจะทำกับเธอหน่อยหน่ะ ฉันจะไปนอนก่อนนะนายทหารคนนั้นเดินกลับเข้าไปที่ห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อนในทันที

     


    กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ในคืนที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในตอนนั้นเอง ยูจีนเกิดนึกอะไรได้บางอย่าง เขาจึงพยายามจะเดินออกไปที่ด้านนอก ซิลเวียเห็นเขาจึงถามเขาทันที

    ซิลเวีย : นี่ ยูจีน นายจะไปไหนงั้นเหรอ

    ยูจีน : ฉันว่า ฉันจะไปหาของนิดหน่อยหน่ะ เผื่อว่าจะมีอาหารหรืออุปกรณ์อะไรเพิ่มเติมหน่ะ

    โทนี่ : น่าสนนี่พี่ ผมขอไปด้วยคนสิ

    เอสเทอร์ : แต่ว่า คืนนี้ต้องมีคนเฝ้ายามด้วยหน่ะสิ

    ไลฟ์ : นั่นสิ ใครจะเป็นคนเฝ้ากันหล่ะคืนนี้

    นอร์รีน : ผมเองครับ คืนนี้ผมนอนไม่ค่อยหลับ ทุกคนพักผ่อนกันดีกว่านะ

    มิเชล : ถ้าอย่างงั้นให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณนะคะ

    ซีโร่ : ผมไปด้วย เรื่องหาของนี่ผมถนัดนักครับ

    บารีร่า : นี่ ถ้านายไปนายต้องระวังตัวด้วยนะ

    มิสซึ : พวกนายต้องรีบกลับมาก่อนเช้านะ ได้ยินว่าพวกทหารมันจะลาดตระเวนช่วงเช้ามืดหน่ะ

    อลิซ : ใช่ๆ ถ้าพวกนายเป็นอะไรไปงานนี้เราจะเป็นยังไงหล่ะ

    ยูจีน : ไม่ต้องห่วง แล้วเราจะรีบกลับไป ซิลเวีย เธออยู่ที่นี่แหละ

    ซิลเวีย : ได้ นายต้องระวังตัวด้วยนะ

    หลังจากที่พวกเขาตกลงกันได้ พวกของยูจีนก็ออกลาดตระเวนไปหาของในทันที ส่วนคนอื่นๆก็เฝ้าอพาร์ทเม้นท์นี้เอาไว้ เผื่อว่าจะมีใครเข้ามาขโมยของพวกเขาหรือเปล่า

    ====================================================================

    พวกเขาได้เริ่มออกสำรวจหาของจำเป็นกันแล้ว แต่มันจะง่ายเกินไปหรือเปล่า แล้วจะมีอะไรที่รอพวกเขาอยู่ด้านหน้า ติดตามชมต่อตอนต่อไปจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยครัช


     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×