คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : EP 24 : ป้องกันตัว
เช้ามืดของวันต่อมา
นอร์รีนซึ่งในตอนนั้นกำลังจะเข้ามาเยี่ยมยูจีนที่ไม่ได้ออกจากห้องมานาน
เขาเคาะประตูเรียกยูจีนในทันที
“ยูจีน
ออกมากินอะไรหน่อยสิ”
แต่เมื่อนอร์รีนเปิดประตูเข้าไปในห้อง เขาก็พบแต่ความว่างเปล่า
ไม่มีร่องรอยของยูจีนเลย มินโฮก็ไม่อยู่ด้วย
ในตอนนั้นเองเขาก็เจอกับจดหมายอยู่ฉบับหนึ่ง นอร์รีนอ่านเนื้อความแล้วก็รู้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
จากนั้นเขาก็เรียกทุกคนที่อยู่ในบ้านมาในทันที เพื่ออ่านจดหมายให้กับทุกคนได้รู้
เมื่อนอร์รีนเรียกทุกคนมารวมตัวกัน จากนั้นนอร์รีนก็เริ่มอ่านจดหมายในทันที
“ทุกคน
นี่ยูจีนนะ ฉันไม่ค่อยได้เขียนอะไรแบบนี้เท่าไหร่ แต่ฉันอยากจะบอกกับทุกคนว่า
ฉันขอโทษสำหรับทุกอย่าง เพราะความใจร้อนของฉันทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนไปด้วย ความจริงฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้ทุกคนต้องตาย
แต่ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องให้ทุกคนมาลำบากกับฉันแล้ว
ส่วนมินโฮ เขาฝากมาบอกเพื่อนๆทุกคนว่าดูแลตัวเองด้วย ฉันขอลาก่อนนะทุกคน”
มิเชล : มินโฮจะไปแก้แค้นพวกนั้นอย่างงั้นเหรอ
อัลเบิร์ต : ฉันจะไปช่วยมินโฮ ใครจะไปกับฉันบ้าง
อลิซ : อย่าดีกว่า เดี๋ยวเขารู้จะเสียใจแย่เลยแบบนั้น
ทาเคชิ : เธอพูดถูกแล้วหล่ะ เดี๋ยวเขาก็คงจะกลับมาเองหล่ะ
มิสซึ : แล้วแบบนี้เราจะเอายังไงกันต่อหล่ะครับเนี่ย
อนูวา : ตอนนี้สหประชาชาติกำลังบุกมาแล้ว เรารอดีกว่าค่ะ
ตะวัน : นั่นสินะครับ อีกไม่นานสงครามคงจบหล่ะ
ชินเฮ : ฉันกลัวว่ามันคงจะไม่จบง่ายๆหรอกค่ะ
อามินะ : อ้าว ทำไมเธอคิดแบบนั้นหล่ะ
เทโจ : คือว่าฉันเพิ่งได้รับข่าวมา
ตอนนี้เซบาสเตียนและทหารของเขากำลังบุกเข้าเมือง
ได้ยินว่าเย็นนี้พวกเขาจะยึดเมืองได้หน่ะ
ไคล่า : จริงเหรอคะเนี่ย เป็นไปได้ยังไงกันคะ
อลัน : พวกนั้นใช้อาวุธเคมีนำร่อง
ทำเอาแนวรับของเราแตกหน่ะ
ฮาน่า : ฉันอยากจะกลับไปที่นั่นจังเลยค่ะ
เอจิ : อย่าเลยครับ อยู่ที่นี่ปลอดภัยกว่า เดี๋ยว UN คงจะมาจัดการเองหล่ะครับ
ไลฟ์ : ใช่ค่ะพี่ หนูว่าพี่ควรอยู่ที่นี่ดีกว่านะคะ
ไซม่อน : แล้วแบบนี้ในเมืองจะเป็นยังไงบ้างหล่ะเนี่ย
ริกโก้ : เออหว่ะ ฉันก็คิดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน
ชิสา : แล้วพวกนายจะกลับเข้าไปอย่างงั้นเหรอ
ซนแซ : ไม่เอานะ แบบนั้นมันอันตรายเกินไป
ซุนฮยอน : ฉันไม่กลับเข้าไปหรอก
ป่านนี้พวกทหารคงเข้าใกล้เรามากแล้ว
ยู่อี๋ : แล้วแบบนี้พวกนั้นจะมาฆ่าเราหรือเปล่าคะ
มีกัส : คงไม่หรอก ถ้าเราเก็บตัวเงียบแบบนี้
ก็คงจะไปรอดหล่ะนะ
จียอน : ก็ขอให้เป็นแบบนั้นจริงๆเถอะนะ
แต่ในขณะเดียวกัน มีชายคนหนึ่งบุกเข้ามาด้านใน
เขาใส่ชุดทหารยุคเก่าพร้อมอาวุธ
ทุกคนที่อยู่ด้านในตกใจรีบชักปืนออกมาเล็งเขาในทันที
เทโจ : เฮ้ย แกเป็นใครกันวะเนี่ยหะ เข้ามาได้ยังไง
อลัน : แต่หน้ามันคุ้นๆนะ เหมือนประธานาธิบดีอดัมส์เลยหว่ะ
“ใจเย็นๆสิ
ผมตามหาคนๆหนึ่งอยู่หน่ะ ผมชื่อโรแมน ปาลาวิค”
นอร์รีน : ใจเย็นๆนะทุกคน แล้วคุณมาหาใครกันหล่ะครับ
“สัญชาตญาณของผมมันบอกว่าเธออยู่ที่นี่”
เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงขึ้นไปบนชั้นสอง จากนั้นเขาก็เงียบหายไปซักพัก
แล้วก็ลงมาพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่งที่มีหูแมวดูแปลกตากว่าคนอื่นๆ
อัลเบิร์ต : เอ๊ะ หน้าคุ้นๆนะ คล้ายๆคุณเอสเมอรันด้าเลยเนี่ย
“เหมือนเหรอครับ
ผมว่าไม่นะ เอาเป็นว่าผมไปก่อนนะครับ”
จากนั้นโรแมนก็พาหญิงสาวคนนั้นกลับไป โดยที่ไม่บอกลาใครซักคำ
ท่ามกลางความสงสัยของคนอื่นๆ
ชินเฮ : แปลกนะ เธอมาอยู่ข้างในนี้ได้ยังไงกันเนี่ย
ไคล่า : นี่ เธอถามฉันแล้วฉันจะรู้กับเธอมั้ยล่ะ
ฮาน่า : เออใช่ พูดถึงประธานาธิบดี
มีข่าวลือกันว่าเขาถูกรัฐประหารนี่
ตะวัน : แล้วข่าวจริงแค่ไหนหล่ะ หรือแค่ข่าวลือหล่ะ
อนูวา : นั่นสิ ไม่มีสายข่าวของฉันบอกมาเลยนะ
มีกัส : ถ้าเป็นแบบนั้นจริง
แสดงว่าเซบาสเตียนคงกุมอำนาจทั้งหมดหน่ะสิ
ไซม่อน : แน่นอน เซบาสเตียนไงจะใครซะอีกหล่ะ
จียอน : แล้วถ้าเกิดพวกกบฏเสียที่มั่นเราจะทำยังไงคะ
ชิสา : นั่นสิ ฉันกลัวว่าจะไม่ได้กลับบ้านแล้วหล่ะ
ซุนฮยอน : ไม่ต้องห่วงครับ ผมเชื่อว่าพวกเขาไม่แพ้ง่ายๆแน่
ยู่อี๋ : ฉันก็หวังไว้แบบนั้นนะคะ
เอจิ : เรื่องยูจีนก็ว่าแย่แล้ว ไหนจะสงครามบ้าๆนี่อีก
ไลฟ์ : เอาน่าค่ะ ฉันว่ามันไม่แย่เกินไปหรอกค่ะ
มิสซึ : งานนี้เราคงทำได้แค่ซ่อนตัวไปซักพักหน่ะ
อลิซ : ภาวนาไว้เลย ขอให้พวกมันอย่าบุกมาเลย
มิเชล : แล้วคุณจะเอายังไงต่อหล่ะคะนอร์รีน
นอร์รีน : ผมจะปักหลักที่นี่ ไม่ว่าจะยังไงครับ
ณ โกดังของมาร์ค ในตอนนั้นเองมาร์คและเวร่ากำลังรอข่าวที่สำคัญ
ซึ่งนั้นก็คือเครื่องบินส่วนตัวของเขานั่นเอง
ที่จะมาขนสมบัติที่เหลือแล้วหนีไปพร้อมกับเวร่าที่แคนาดา และในตอนนั้นเอง
มาร์คก็ได้รับข่าวจากลูกน้องของเขามาในทันทีเพื่อรายงานข่าวนั้น
“นายครับ
มีข่าวมาครับ”
มาร์ค : มีเรื่องอะไร ว่ามาเลยสิ
“เครื่องบินของนายจะมาช่วงบ่ายๆนี่หล่ะครับ”
มาร์ค : ดีมาก ไปเตรียมของเอาไว้เลย เราจะออกเดินทางหล่ะ
“ครับนาย”
ลูกน้องของเขาเตรียมของให้กับมาร์ค ในตอนนั้นเองเวร่าก็เดินมาหามาร์คในทันที
เวร่า : เป็นยังไงบ้างคะที่รัก
มาร์ค : เครื่องบินของเราจะมาช่วงบ่ายนี่นะจ๊ะ
เวร่า : ถ้างั้นเราคงต้องรีบออกเดินทางหล่ะ
มาร์ค : ทำไมกันหล่ะ สนามบินก็อยู่ไม่ไกลนี่
เวร่า : ลูกน้องของฉันตามติดฉันอย่างกับตังเม
สงสัยอยากได้ส่วนแบ่งหน่ะ
มาร์ค : แล้วเราจะเอายังไงดีล่ะ
เวร่า : ฉันจะไปแบบเงียบๆ ห้ามให้ลูกน้องฉันรู้แล้วกัน
มาร์ค : ถ้าอย่างงั้น ผมมีวิธี
เวร่า : คุณจะทำยังไงหล่ะคะ
มาร์ค : คอยดูก็แล้วกันนะครับ
และที่ด้านนอก
ในตอนนั้นเองยูจีนและมินโฮที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ด้านนอก ทั้งคู่เตรียมอาวุธเพื่อที่จะบุกเข้าไปฆ่ามาร์คด้วยตัวเอง
มินโฮ : มีการ์ดอยู่เป็นโหลเลย เราสู้ไม่ได้แน่ๆ
ยูจีน : รอให้มันออกมา ฉันจะยิงมันเอง
มินโฮ : ดูเหมือนพวกนั้นจะไปไหนกันนะ
ยูจีน : นั่นสิ พวกมันกำลังจะไปไหนกันนะ
และในตอนนั้นเอง พวกเขาก็เห็นรถคันหนึ่งมารับตัวมาร์คและเวร่า ยูจีนและมินโฮเห็นจึงรีบปรึกษากันในทันที
ยูจีน : ดูนั่น พวกมันกำลังจะหนีนี่หน่า
มินโฮ : นั่นสิ แบบนี้เราต้องตามมันไปนะ
ยูจีน : โอเค นายตามฉันมาเลย
ยูจีนชักอาวุธออกมา แล้วบุกเข้าไปในโกดังของมาร์คในทันที
และในโกดังของมาร์ค ในตอนนั้นเองลูกน้องของเวร่าก็แปลกใจที่เห็นรถคันหนึ่งเข้ามาแล้วก็ออกไป
จากนั้นเองลูกน้องของมาร์คก็เดินเข้ามาหาพวกเขาในทันที
“เฮ้ย พวกมึง
เห็นคุณเวร่าหรือเปล่า”
“เธอไปแล้ว
เธอสั่งว่าให้พวกนายไปกบดานที่อื่น ที่นั่นเธอมีส่วนแบ่งให้”
“เฮ้ย
จริงเหรอวะ แล้วที่ไหนวะ”
“ก็นรกไง
ไอ้พวกโง่”
ลูกน้องของมาร์คกระหน่ำยิงคนของเวร่าจนตายกันหมด
จากนั้นพวกมันเตรียมจะออกไป แต่ในตอนนั้นเอง
ยูจีนและมินโฮก็เข้ามาจัดการพวกมันจนเละ ยูจีนและมินโฮตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ทำไมพวกนั้นต้องหักหลังกันเองด้วย
ยูจีน : นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย
ในตอนนั้นเอง ลูกน้องของเวร่าคนหนึ่งยังไม่ตาย
แต่หายใจรวยระรินและใกล้จะจากไปเต็มที มินดฮเห็นจึงเรียกยูจีนมา
มินโฮ : ยูจีน หมอนี่ยังไม่ตาย //
มาร์คลากเขาขึ้นมาคุยในทันที
มินโฮ : นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย
“เวร่ามันหักหลังเรา
มันขนสมบัติหนีไปหมดเลย”
ยูจีน : พวกมันไปที่ไหน นายพอจะรู้ไหม
“สนามบิน
ด็อกซ่.....” จากนั้นมันก็หมดลมไปในทันที
มินโฮ : ฉันรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน
ยูจีน : งั้นรีบไปดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ทันการ
พวกเขารีบไปขึ้นมอไซค์คันหนึ่ง ซึ่งสตาร์ทรออยู่แล้ว
จากนั้นพวกเขาก็รีบขี่ไปยังสนามบินในทันที
ณ ห้องรับรองในค่ายของโจเซฟ ในตอนนั้นเองเอสเมอรันด้ายังคงรอคอยอย่างมีความหวังว่าจะได้เจอกับอดัมส์อีกครั้ง
และการรอคอยของเธอก็เป็นผล อดัมส์เดินเข้ามาในห้อง
จากนั้นก็วิ่งเข้ามากอดกับเอสเมอรันด้าในทันที
อดัมส์ : ที่รัก ผมขอโทษสำหรับทุกอย่าง
เอสเมอรันด้า :
ที่รัก ไม่เป็นไรนะคะ
อดัมส์ : ผมไม่รู้ว่าพวกเขาปล่อยผมมาได้ยังไงหน่ะ
เอสเมอรันด้า :
ไม่เป็นไรนะคะ เราปลอดภัยแล้ว
อดัมส์ : ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะมอบตัวหน่ะ
เอสเมอรันด้า :
หะ คุณว่าอะไรนะคะ
อดัมส์ : ผมจะมอบตัวกับสหประชาชาติ เพื่อขอลดโทษหน่ะ
เอสเมอรันด้า :
ไม่ ฉันพาคุณหนีไปได้นะคะ
อดัมส์ : ไม่ ถ้าผมหนี ผมก็ต้องหนีไปทั้งชีวิต
เอสเมอรันด้า :
แต่ว่า...
อดัมส์ : ผมตัดสินใจแล้ว
มันจะได้ชดใช้บาปของผมที่ทำมาทั้งหมด ผมฝากคุณดูแลลูกเราด้วยนะ
เอสเมอรันด้า :
ได้ค่ะ ฉันจะดูแลลูกเอง
อดัมส์ : อย่างน้อยเราก็ยังได้เห็นหน้ากันอยู่นะที่รัก
และทางด้านของโจเซฟและมากิ ในตอนนั้นเองมากิขับรถพาพ่อของเธอมายังที่ๆหนึ่ง
ซึ่งอยู่ในเขตชานเมือง พวกเขาขับรถมาท่ามกลางบรรยากาศสงครามที่คุกรุ่น
มากิเริ่มเปิดประเด็นคำถามกับพ่อของเธอในทันที
มากิ : พ่อคะ หนูถามอะไรหน่อยสิ
โจเซฟ : มีอะไรหรือเปล่า
มากิ : ทำไมพ่อถึงไว้ชีวิตเขาหล่ะ
โจเซฟ : เขาไม่เหลืออะไรแล้วหล่ะ
มากิ : หมายความว่ายังไงคะ
โจเซฟ : หมอนั่นไม่เหลืออะไรให้พ่อต้องเอากับมันแล้วหล่ะ
มากิ : พ่อกับเขามีอดีตอะไรกันหรือเปล่าคะ
โจเซฟ : เราเคยอยู่หน่วยรบเดียวกัน เขาหักหลังพ่อ
และฆ่าทุกคนในทีม
มากิ : แบบนี้เขาก็สมควรตายสิคะพ่อ
โจเซฟ : แบบนั้นมันเร็วไป
มันต้องให้เขาถูกจองจำไว้แบบนั้น จะดีกว่า
มากิ : อ้อ หนูเข้าใจแล้วค่ะ แล้วเราจะไปไหนกันคะ
โจเซฟ : พ่อจะไปหาคนรู้จักคนหนึ่งหน่ะ
มากิขับรถไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงกระท่อมหลังหนึ่ง
ซึ่งเธอจอรถแล้วโจเซฟก็ลงจากรถไปในทันที
“รอพ่ออยู่นี่หล่ะ”
โจเซฟเดินเข้าไปในกระท่อมหลังนั้น
จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไปโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
ไปหาชายคนหนึ่งที่นั่งหันหลังให้เขาอยู่
“มีคนเดียวที่กล้าเข้าบ้านผมโดยไม่ยอมบอก
ไม่ใช่ใครอื่น คุณโจเซฟ”
โจเซฟ : เป็นยังไงบ้าง สบายดีนะอันเต้
อันเต้ : สบายดีครับ เงินที่คุณให้นี่ใช้ยังไม่หมดเลยครับ
โจเซฟ : แบบนั้นก็ดีแล้วหล่ะ
อันเต้ : ว่าแต่ คุณมาที่นี่มีอะไรหรือเปล่าครับ
โจเซฟ : ฉันมีงานๆหนึ่งให้นายทำ //
โจเซฟโยนเอกสารแผ่นหนึ่งให้เขา อันเต้เปิดมาดูก็แปลกใจมาก
อันเต้ : โห เอาจริงเหรอครับ
โจเซฟ : แน่นอน แล้วฉันจะมีรางวัลให้อย่างงามเลย
อันเต้ : ได้ครับ
อันเต้หยิบเอกสารใส่กระเป๋า จากนั้นก็เข้าไปในห้องอาวุธของเขาในทันที
กลับมายังหน่วยดอว์นซอร์ด พวกเขาขโมยรถคันหนึ่งเพื่อเป้าหมายเดียวของพวกเขา
ตามล่าผู้พันเซบาสเตียน เขาขับรถมาเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงค่ายหลักของเซบาสเตียน
จากนั้นพวกเขาก็เตรียมอาวุธเพื่อตามล่าตัวเขาในทันที
คาสเตอร์ : ถ้าผมเจอเซบาสเตียน ผมจะถลกหนังหัวมันออกมา
อีริค : เออ ขอให้มันได้อย่างงั้นเถอะวะ
อเล็กซานเดอร์ : นายแต่ใจแล้วนะที่จะทำแบบนี้หน่ะ
ซิลเวสเตอร์ :
แน่นอน ไม่ต้องเอาอเล็กซ่ามาเกี่ยวหรอก
ทุกคนพร้อมนะ
เมื่อได้สัญญาณ พวกเขาก็บุกเข้าไปในค่าย
ยิงกราดใส่ทหารของเซบาสเตียนตายไปมากมาย โดยที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัว
พวกเขาใช้ความเป็นหน่วยรบพิเศษจัดการทหารของเซบาสเตียนได้อย่างง่ายดาย
คาสเตอร์ : เข้ามาเลย กูจะฆ่าพวกมึงให้หมด
อีริค : เฮ้ย ทำอะไรระวังๆด้วยนะเว้ย
คาสเตอร์และอีริคเห็นตัวเซบาสเตียน ทั้งคู่พยายามจะบุกเข้าไป
แต่คาสเตอร์โดนส่องไปก่อนจนล้มลง อีริคพยายามจะช่วยแต่ก็โดนยิงเข้าเหมือนกัน
ซิลเวสเตอร์ :
อีริค คาสเตอร์!!
ซิลเวสเตอร์เดือดจัดยิงถล่มพวกนั้น
แต่จู่ๆก็มีระเบิดลูกหนึ่งปาใส่พวกเขา ทำเอาร่างของซิลเวสเตอร์ลอยไปไกล
อเล็กซานเดอร์ถึงกับโกรธจัดที่เห็นแบบนั้น
อเล็กซานเดอร์ : ซิลเวสเตอร์
ไม่!!
อเล็กซานเดอร์โดนยิงเข้าที่แขนอีกคน จากนั้นพวกมันก็มาล้อมกรอบเขาไว้
และในตอนนั้นเอง ก็ปรากฏร่างของเซบาสเตียนเดินเข้ามาหาอเล็กซานเดอร์ที่โดนยิงจนล้ม
อเล็กซานเดอร์ : แก ไอ้ระยำ
เซบาสเตียน :
โทษทีหว่ะ พวกแกมันหมดประโยชน์แล้ว
อเล็กซานเดอร์ : แกคิดว่าเรื่องนี้มันจะจบลงยังไงวะ
เซบาสเตียน :
เฮ้อ ฉันก็ไม่รู้หว่ะ แต่ตอนนี้ แกตาย //
เซบาสเตียนยิงหัวอเล็กซานเดอร์จนตายคาที่ จากนั้นเขาก็กลับไปด้านในที่พักของเขา แต่ในตอนนั้นเอง
อเล็กซ่าที่ขี่มอไซค์ตามมาด้วยเมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เธอโกรธมาก
เธอชักปืนออกมาสู้ในทันที
อเล็กซ่า : พวกแก แกตายซะเถอะ
อเล็กซ่าแบกปืนไปยิงพวกนั้น แต่พวกเขาระดมยิงกลับมาโดนที่แขนของเธอ
เธอจึงต้องหนีกลับออกมา โดยที่พวกมันส่งคนมาตามล่าเธอด้วย
และในบ้านของเซบาสเตียน ในตอนนั้นเองทหารของเขาก็มารายงานเรื่องของเขาให้กับเซบาสเตียนได้ฟัง
“ท่านครับ
ยัยนั่นหนีไปได้แล้วครับ”
เซบาสเตียน :
จับมันมาเป็นๆให้ได้ ฉันอยากได้ตัวมัน
“ครับท่าน”
เซบาสเตียน :
แล้วเรื่องพวกกบฏหล่ะ
“ตอนนี้เรากำลังจะยึดที่มั่นของพวกมันได้แล้วครับ”
เซบาสเตียน :
ดีมาก ขยี้มันให้จบภายในวันนี้ เดี๋ยวนี้เลย
“ครับท่าน”
ณ เขตของกลุ่มกบฏ ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ถูกกองทัพถล่มอย่างหนัก
พวกเขาตายกันมากมาย กองทัพยึดเขตที่มั่นไปได้มากมาย สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต
จนตอนนี้ต้องมีการเรียกประชุมกลุ่มกบฏอย่างเร่งด่วน เพื่อหาทางออกของปัญหานี้
“เราจะทำยังไง
ต่อนี้พวกมันกำลังบุกเข้ามาแล้ว”
“คนของเราที่มีไม่พอสู้กับมันแน่ๆ”
“ใช่ๆ
ถ้าเราต้านไม่ได้ถึงพรุ่งนี้ ทุกอย่างก็จบ”
“คนของเซบาสเตียนตอนนี้มีราวๆหนึ่งแสน
แต่พวกเรามีไม่กี่หมื่นนะครับ”
“ใช่
พวกมันพังตึกทั้งหลังเพื่อฆ่าพวกเรา”
หัวหน้ากลุ่มกบฏถึงกับทุบโต๊ะปัง จากนั้นก็พูดขึ้นมาในทันที
“จะไม่มีใครยอมแพ้เด็ดขาด
ไม่ว่ายังไง”
“แล้วเราจะทำยังไงหล่ะครับ”
“ผมจะไปป้องกันพวกมันด้วยตัวเอง”
เขาหยิบปืนกลขึ้นมา จากนั้นก็พูดขึ้นว่า
“ผมยอมตายที่นี่
แต่ไม่ยอมให้ทรราชย์มันครองแผ่นดินแน่ๆ”
ทางด้านของเอ็ดเวิร์ด เอ็ดเวิร์ดอาสาไปยันทัพของพวกมัน
เพื่อไม่ให้พวกนั้นทำลายกองทัพกบฏ พวกเขาเตรียมอาวุธทุกชนิดเพื่อยันพวกมันเอาไว้
เทเรซ่า : ตอนนี้พวกเรากำลังป้องกันอยู่ ไม่ต้องห่วงนะ
เอ็ดเวิร์ด :
ถ้าเธอจะไปจากที่นี่ ไปได้เลยนะ ไม่ต้องห่วงผม
เทเรซ่า : ไม่ ถ้าฉันจะตาย ฉันขอตายพร้อมกับเธอนะ
เอ็ดเวิร์ด :
ผมรักคุณนะที่รัก
เอ็ดเวิร์ดและเทเรซ่าจูบกัน
จากนั้นเทเรซ่าก็ไปหยิบปืนเพื่อเตรียมเข้าปะทะ
เทเรซ่า : ให้พวกมันเข้ามาได้เลย
เอ็ดเวิร์ด :
ดุได้ใจเลยจริงๆนะเนี่ย
แต่ในตอนนั้นเอง รถถังของพวกนั้นก็บุกตะลุยเข้ามา ระดมยิงใส่ที่มั่นของพวกเขา
พวกกบฏต้องป้องกันตัวเองจากรถถัง เดม่อนเตรียมจรวด RPG เพื่อทำลายรถถัง แต่ในตอนนั้นเองเขาก็โดนยิงใส่จนล้มลง
ลูลู่เห็นดังนั้นจึงรีบไปดูร่างของเขาในทันที
ลูลู่ : เดม่อน ทำใจดีๆเอาไว้นะ
เดม่อน : ลูลู่ เธอต้องอยู่ให้รอดนะ
ลูลู่ : ไม่ เธอจะต้องไม่ตายสิเดม่อน ฉันชอบเธอนะ
เดม่อน : แล้วเธอมาบอกทำไมตอนนี้หล่ะยัยบ๊องเอ๋ย //
เธอถึงกับหน้าแดง เนื่องจากเธอชอบให้คนเรียกว่ายัยบ๊อง แต่ไม่มีใครกล้าเรียก
เดม่อน : เธอต้องอยู่ให้รอดนะ
เดม่อนสิ้นใจคาอ้อมอกของลูลู่ ลูลู่โกรธจัดหยิบ RPG ของเดม่อนมา จากนั้นก็ยิงใส่รถถังของพวกมันในทันที
ทางด้านของเร็นและอันนา พวกเขาพาอเล็กซ์ฝ่าแนวล้อมของพวกทหาร
ที่ยิงกันหูดับตับไหม้ โดยเร็นต้องอุ้มอเล็กซ์ออกมาด้วยตัวเอง
จากนั้นพวกเขาก็หาทางลัดเลาะไปยังท่าเรือที่ว่า
เร็น : อเล็กซ์ ไม่ต้องกลัวนะ พ่อจะปกป้องลูกเอง
อเล็กซ์ : ผมไม่กลัวหรอกครับพ่อ
อันนา : นี่ลูก อย่าพูดเล่นแบบนี้สิ
เพวกเขาพากันฝ่าวงล้อมออกมา
จนกระทั่งมาถึงท่าเรือแห่งหนึ่งในเขตชานเมือง ที่ประชาชนหลายคนพยายามจะออกไปจากประเทศ
ทหารของรัฐบาลคุมกำลังไว้อย่างแน่นหนาราวกับไม่ยอมให้ใครออกไปจากที่นี่เลย
“ขณะนี้ทางรัฐบาลโซราติกควบคุมท่าเรือไว้แล้ว
ใครก็ตามที่ถือสัญชาติอื่น ที่ไม่ใช่โซราติก จะได้รับอนุญาตไปเซอร์เบีย”
เร็น : ทางนี้ครับ ผมรู้จักคนๆหนึ่งหน่ะ
เร็นพาอันนาไปชายคนหนึ่ง โดยที่เขาเป็นคนคุมเรือสินค้า
แต่ในตอนนั้นเอง มีนายทหารคนหนึ่งคอยคุมเขาเอาไว้ด้วย
“หวัดดีเร็น
โทษทีนะ ช่วงนี้เขาตรวจเข้มหน่ะ”
ในตอนนั้นเอง นายทหารคนนั้นก็เดินเข้ามาหาเร็น
“ขอพาสปอร์ตด้วยครับ”
เร็นยื่นพาสปอร์ตให้เขา และเขาก็ขอของอันนาด้วย
จากนั้นเขาก็ตรวจสอบอย่างละเอียด
“คุณคนอังกฤษนี่
แล้วผู้หญิงคนนี้คือ”
เร็น : เธอเป็นภรรยาของผมเองครับ เราเพิ่งจะสมรสกัน
แต่หลักฐานโดนระเบิดไปแล้วหน่ะครับ
“อ้อครับผม”
อันนา : ค่ะ แล้วนี่ก็ลูกชายของเรา สวัสดีเขาสิลูก //
อเล็กซ์โบกมือทักทาย
“ถ้างั้นก็ตามสบายเลยครับ”
นายทหารคนนั้นผละตัวไปตรวจสอบคนอื่น จากนั้นเพื่อนของเร็นก็พาเขาไปยังเรือสินค้าลำหนึ่ง
ซึ่งจอดคอยอยู่นานแล้ว จากนั้นเขาก็ส่งเร็นและครอบครัวขึ้นเรือในทันที
“เรือลำนี้ไปเซอร์เบีย
พอถึงที่นั่น แก้ปัญหาเอาเองนะเว้ย”
เร็น : ขอบใจนะเว้ย ไว้ฉันจะจ่ายเงินนายเอง
“ว่าแต่นายไม่ได้ทำภารกิจแล้วงั้นเหรอ”
เร็น : ฉันว่าจะถอนตัวแล้วหล่ะหว่ะ
“เออ ดีแล้ว ฉันได้ข่าวมาว่าประธานาธิบดีโดนรัฐประหารแล้ว
นายรู้หรือยังวะ แต่ช่างมันเถอะ ยังไงก็โชคดี เจอกันที่อังกฤษนะเว้ย”
เร็น : เออ โชคดีนะ
เรือลำนั้นค่อยๆออกจากท่า เพื่อเดินทางออกไปยังเซอร์เบียในทันที เร็น
อันนาและอเล็กซ์ก็กอดกันกลมราวกับว่าไม่เคยกอดกันมาก่อน
กลับมายังกลุ่มของดีซ
ในตอนนั้นเองเขายิงปะทะกับกลุ่มทหารของรัฐบาลเพื่อหนีเอาตัวรอดเข้ามาในเมือง ในตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นกองทัพของรัฐบาลกำลังบุกเข้าไปในตึกหลังหนึ่ง
พวกเขารีบประชุมกันต่อว่าจะทำอย่างไรกันต่อไปจากเรื่องนี้
ในขณะที่เหตุการณ์เลวร้ายลงทุกที
จอห์นนี่ : หัวหน้า เอาไงดีครับ
เราต้องผ่านตึกนี้ถึงจะไปต่อได้ครับ
ดีซ : ใช้กระบอกเก็บเสียง เราจะฝ่าพวกมันไปเงียบๆ
พวกเขาทั้งสี่คนใช้ปืนเก็บเสียงบุกเข้าไป
พวกเขาจัดการพวกมันทีละคนเพื่อฝ่าวงล้อมออกไป
เดอร์ริก : เอิร์ล ข้างหลังนายมีพวกมันอยู่ // เอิร์ลหันหลังกลับไปยิงมัน
เอิร์ล : ฉันเก็บมันหล่ะ ขอบใจมากนะเพื่อน
พวกเขาเดินทางกันต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งออกมาจากตึกได้
พวกเขารีบวิ่งสุดชีวิตเพื่อไปหลบที่แนวหลังของพรรคพวกของเขาในทันที
เดอร์ริก : โอ้ย กว่าจะหนีมาได้ เกือบตายแน่ะ
จอห์นนี่ : นั่นดิ หัวหน้าจะเอายังไงต่อหล่ะครับ
ดีซ : ฉันจะสู้ที่นี่ ฉันไม่หนีไปไหนอีกแล้วหล่ะ
เอิร์ล : ครับหัวหน้า เราก็จะอยู่ด้วยครับ
แต่จากนั้นไม่นาน
ทหารหน่วยใหม่ของรัฐบาลก็บุกเข้ามาที่แนวรับของพวกเขา
ดีซและคนอื่นๆพยายามต่อต้านอย่างสุดกำลังเพื่อไม่ให้พวกมันผ่านเขามาได้
ทางด้านของซีวิลและฮา ในตอนนั้นเองซีวิลเริ่มจะไม่ไหวเต็มที ฮาพยายามช่วยเขาทุกวิถีทาง
แต่ในขณะเดียวกัน มีทหารกลุ่มหนึ่งมาเคลียร์พื้นที่ในห้อง พวกมันเอาปืนจ่อซีวิล
แล้วก็จับตัวฮาเอาไว้
“ฮืม
อีนี่สวยดีหว่ะ ขอหน่อยก็แล้วกันโว้ย”
พวกมันจับตัวฮานอนหงาย จากนั้นพวกมันพยายามจะรุมฉีกเสื้อเธอทิ้ง
ซีวิลพยายามจะคลานออกมาในระหว่างที่มันสนใจฮา เขาลากสังขารตัวเองจะออกมาจากห้อง
แต่ในตอนนั้นเองเขาดันไปเจอกับปืนกระบอกหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ
ประกอบกับทหารคนหนึ่งมาเจอซีวิลกับปืนพอดี
“เฮ้ย
มึงจะทำอะไรวะ”
พวกมันหันมารุมซ้อมซีวิลในทันที ฮาที่กำลังดูอยู่ถึงกับต้องทำอะไรซักอย่าง
“คิดจะช่วยผู้หญิงเหรอวะมึง”
ซีวิล : เปล่าพี่ ผมไม่เกี่ยว ผมไม่ได้จะทำอะไร
“อย่ามาโกหกไอ้เวร”
ในตอนนั้นเอง ฮาแอบเอามีดของพวกมันคนหนึ่ง
จากนั้นเธอก็เอาปืนของมันยิงทหารพวกนั้น
ฮา : ซีวิล รีบหนีออกไปเร็ว
พวกทหารกระหน่ำยิงฮา ในตอนนั้นเองซีวิลเกิดลูกบ้าขึ้นมา
แย่งปืนกลของพวกนั้นยิงใส่พวกมัน พวกมันก็ยิงกลับสี่วิล ในห้องยิงกันมั่วไปหมด
จนกระทั่งเสียงปืนหยุดลง ทหารพวกนั้นก็ตายกันหมด ส่วนฮาและซีวิลเองก็เจ็บหนักทั้งคู่
แต่ฮาเองยังพอลากสังขารมาหาซีวิลได้
ฮา : เป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนมั้ย
ซีวิล : ยัยบ้าเอ้ย เธอทำฉัน!!
ฮา : แหม่ เธอก็ทำฉันเหมือนกันนั่นแหละ
ซีวิล : จะให้ฉันทำยังไงหล่ะถ้างั้น
ฮา : ก็ ฉันขอนอนข้างๆเธอซักพักได้หรือเปล่าหล่ะ
ฮานอนในอ้อมอกของซีวิลอยู่ซักพัก จากนั้นเธอก็สิ้นลมไปคาอ้อมอกของเขา
ส่วนซีวิลก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวตายลงไปตรงนั้น
ทางด้านของเวสต์และอนาตาเซีย พวกเขากลับไปที่ร้านกาแฟของพวกเขา
ที่ยังคงปลอดภัยอยู่ เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาก็มาคุยกันที่หน้าบ้านก่อน
ว่าจะเอายังไงต่อ
เวสต์ : ลูก เดี๋ยวไปเก็บของตามที่พ่อบอกไว้นะ
อนาตาเซีย : ในที่สุดก็จะได้กลับบ้านแล้วสินะพ่อ
เวสต์ : ก็คงอย่างงั้นหล่ะ หยิบมาเท่าที่จำเป็นนะ
อนาตาเซีย : ได้ครับพ่อ
พวกเขารีบกลับเข้าไปในบ้าน เก็บของเท่าที่จำเป็นใส่กระเป๋าเดินทาง
เวสต์เอาของมีค่าในบ้านบางส่วนมา ส่วนอนาตาเซีบก็แบกของเล่นเท่าที่เขาจะเอามาได้
จากนั้นพวกเขาก็มารวมตัวกันที่หน้าบ้านในทันที
เวสต์ : โห เอาของเล่นมาเยอะนะเนี่ย
อนาตาเซีย : โธ่คุณพ่อเวสต์ ผมเอามาแค่พอไหวน่า
เวสต์ : โอเค อย่าเสียเวลาเลย รีบไปกันดีกว่า
พวกเขารีบเดินทางกันต่อ เพื่อกลับไปยังบ้านของเจซซิน
เพื่อรวมตัวกันหนีออกจากเมืองแห่งนี้ และที่บ้านของเจซซิน
สองแม่ลูกก็ช่วยกันเก็บของใช้ที่จำเป็น เพื่อจะหนีไปกับเวสต์ด้วย
เจซซิน : นี่ลูก จำไว้นะว่าเอาของที่จำเป็นเท่านั้น
อดอลล่า : หนูรู้แล้วแม่ หนูเอาไปไม่กี่อย่างหรอ
เจซซิน : แหม่ ของเล่นเยอะขนาดนั้นเนี่ยนะ
อดอลล่า : แล้วเครื่องสำอางของแม่หล่ะคะ
เจซซิน : ก็นี่มันของแพงเลยนะลูก
อดอลล่า : แล้วเมื่อไหร่คุณเวสต์จะมาหล่ะคะ
เจซซิน : เดี๋ยวก็คงมาหน่ะ รีบเก็บของก่อนดีกว่า
กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ในตอนนั้นเองพวกเขากำลังนั่งพักผ่อนกัน
แต่ดันมีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเปิดประตูเข้ามาในอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน
คนอื่นๆพยายามจะห้ามเธอเอาไว้ แต่เมื่อเธอมาเจอกับนอร์รีน
เธอก็รีบเข้าไปหานอร์รีนในทันที นอร์รีนก็เข้ามาหาเธอด้วย
นอร์รีน : อเล็กซ่า นี่เธอยังไม่ตายเหรอเนี่ย // อเล็กซ่าไปกอดนอร์รีน
อเล็กซ่า : นอร์รีน เธอต้องรีบไปจากที่นี่
มีคนกำลังตามล่าฉัน
ทาเคชิ : ใครกันที่ตามล่าคุณหน่ะ
อเล็กซ่า : ทหารของเซบาสเตียน พวกมันกำลังมาที่นี่
ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงปืนข้างนอกดังมา
พวกมันค้นบ้านและตึกทุกหลังเพื่อค้นหาตัวอเล็กซ่า พวกมันฆ่าทุกคนที่สงสัยว่าให้ที่พักพิงศัตรูอย่างไม่ปราณี
อัลเบิร์ต : ฉันจะสั่งสอนพวกมันเอง
อลัน : ฉันว่าเราตั้งรับพวกมันที่นี่ดีกว่า
นอร์รีน : ไปเตรียมตั้งแนวรับกันเถอะครับ
ทุกคนในบ้านเตรียมอาวุธ ไปประจำที่จุดต่างๆ
เพื่อป้องกันอพาร์ทเม้นท์ไม่ให้พวกนั้นบุกเข้ามา
==================================================================
อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้ว เม้นท์กันหน่อยทุกคน
แล้วเดี๋ยวจะจริงจังกับเรื่องนี้หล่ะ
https://writer.dek-d.com/shinobinon/writer/view.php?id=1924526
ความคิดเห็น