คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : EP 20 : ความช่วยเหลือ
นอร์รีน โทนี่ ซีโร่และเอจิต่างแยกย้ายกันไปหาของใช้ที่จำเป็นในโกดัง
เนื่องจากโกดังมีแค่โกดังใหญ่โกดังเดียวทำให้พวกเขาหาของค่อนข้างง่าย
พวกเขาจัดการยามที่อยู่รอบๆ จากนั้นก็ค่อยๆเก็บของใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋าของพวกเขา
แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังเก็บของกันอยู่ จู่ๆมันคนหนึ่งดันมาเจอตัวโทนี่จนได้
โทนี่ยกมือขึ้นในทันทีเมื่อมันเล็งปืนใส่เขา
“อยู่เฉยๆ
อย่าทำอะไรตุกติกนะเว้ย”
โทนี่ : พี่ ดูเหมือนพวกมันเจอตัวผมแล้วหล่ะ //
โทนี่กระซิบบอกคนอื่นๆที่กำลังซ่อนตัวอยู่แถวนั้น
เอจิ : เราจะทำไงกันดีหล่ะนอร์รีน
นอร์รีน : ผมจะลอบไปข้างหลัง แล้วจะเล่นงานมันเอง
ซีโร่ : ถ้างั้นผมจะล่อพวกมันไปอีกทางก็แล้วกัน
แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังโดนล้อม
ในตอนนั้นเองฮาจิก็กระโดดไปกัดคนที่เอาปืนจ่อโทนี่ ทำเอามันร้องตะโกนอย่างเจ็บปวด จากนั้นโทนี่ก็วิ่งไปแย่งปืนจากมันแล้วใช้สันปืนตอกที่หน้ามัน
โทนี่ : ทางสะดวกแล้วครับทุกคน หนีเร็ว
แต่โทนี่ยังไม่ทันจะได้หนีออกไป
พวกมันก็บุกเข้ามาพร้อมกับปืนกลอัตโนมัติ พวกนั้นยิงใส่โทนี่ที่ชายโครงจนล้ม
คนที่เหลือจึงเข้าไปช่วยลากโทนี่ออกมาในทันที
นอร์รีน : ทำใจดีๆไว้นะ ฉันจะพานายไปจากที่นี่เอง
เอจิ : พวกมันล้อมเราที่นี่ไว้เต็มเลย เอายังไงดีหล่ะ
ซีโร่ : ก็เผาที่นี่มันซะเลยสิครับ
ซีโร่โยนตะเกียงน้ำมันแถวนั้นใส่สินค้าของพวกมัน
จากนั้นไฟก็ลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนพวกนั้นต้องรีบแบ่งคนมาช่วยดับไฟ
พวกเขาพยายามจะอาศัยจังหวะนั้นหนี ฮาจิพยายามจะวิ่งออกมาจากโกดัง
แต่ก็โดนพวกมันยิงเข้าให้ที่ลำตัวถึงสามนัด
“ฮาจิ”
เอจิเดือดจัดไล่ยิงพวกมันจากนั้นก็พาเอาร่างของฮาจิออกมา
ส่วนนอร์รีนกับซีโร่ก็ช่วยกันแบกร่างของโทนี่ออกมาด้วย
โดยที่มีทหารบางส่วนออกมาไล่ล่าพวกเขา
นอร์รีน : ซีโร่ พอจะมีทางหนีที่ไหนบ้างหล่ะ
ซีโร่ : มาทางนี้เลยครับผม
ซีโร่นำทางพวกเขาเข้ามาในท่อระบายน้ำท่อหนึ่ง
ซึ่งพวกเขารีบเข้ามาในท่อแล้วหลบหลีกจากพวกทหารที่ไล่ตามเขามา
โทนี่ : ทิ้งผมไว้ที่นี่เถอะ ผมไปไม่ไหวหรอก
ซีโร่ : อย่าเพิ่งถอดใจสิพี่ เดี๋ยวก็ถึงบ้านเราแล้ว
นอร์รีน : ใช่แล้วครับ คุณอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะครับ
เอจิ : ฮาจิ อดทนหน่อยนะ นายต้องไม่เป็นไร
พวกเขาต่างแบกคนเจ็บออกมาอย่างทุลักทุเล และที่โกดังที่โดนไฟไหม้
ในตอนนั้นเองเจ้าของโกดังซึ่งก็คือมาร์ค ได้ออกมาดูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเขา
ซึ่งเปลวเพลิงได้เผาผลาญทุกสิ่งที่ขวางหน้า ทำเอาเขาถึงกับกัดฟันกรอดอยู่ตรงนั้น
มาร์ค : ไอ้บ้าเอ้ย ใครกันมันทำกับฉันแบบนี้
“ผมก็ไม่รู้ครับนาย
น่าจะเป็นชาวบ้านแถวนี้ครับ”
มาร์ค : แล้วเสียหายไปเท่าไหร่
“เสบียงของเรายังไม่เป็นไรมาก
แต่ยาเสพติดของเราเสียหายหมดเลยครับ”
และในขณะเดียวกัน เวร่าก็ตามมาร์คออกมาข้างนอกในทันที
เวร่า : นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย
มาร์ค : มีไอบ้าพวกไหนไม่รู้มาทำลายยาเสพติดของผมหมดเลย
เวร่า : หะ พอรู้ไหมว่าพวกนั้นเป็นใครกัน
มาร์ค : พวกมันหนีไปได้หน่ะ
เวร่า : ฉันจะส่งคนออกตามแกะรอยพวกมันเอง
มาร์ค : ถ้าเจอพวกมัน จับเป็นมาให้ผมด้วยก็แล้วกัน
เวร่า : แน่นอนค่ะ พวกมันไม่รอดแน่ๆ
แต่ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน
จู่ๆทหารของเวร่าก็มารายงานข่าวอะไรบางอย่างกับเธอ
“ท่านครับ มีข่าวใหม่จากรัฐบาลครับ”
เวร่า : มีอะไรอีกงั้นเหรอ
“ตอนนี้ประธานาธิบดีมีคำสั่งให้จับกุมคุณแล้วครับ”
เวร่า : ในที่สุดมันก็เริ่มแล้วหล่ะสินะ
มาร์ค : หะ นี่ประธานาธิบดีสั่งจับคุณแล้วเหรอ
เวร่า : ใช่ แต่ฉันเตรียมการเอาไว้แล้วหล่ะ
มาร์ค : คุณอย่าบอกนะว่าคุณจะยึดอำนาจจากรัฐบาลหน่ะ
เวร่า : ถ้ามันจำเป็นฉันก็จะทำหล่ะนะ
มาร์ค : ยาเสพติดเสียหายขนาดนี้
จะได้เงินเพิ่มก็คงลำบากหล่ะ
เวร่า : คุณไม่ต้องห่วง ยังไงตอนนี้เงินของเราก็น่าจะหนีไปจากที่นี่ได้
มาร์ค : แต่ผมแค่เจ็บใจ อย่าให้รู้นะว่าใครมันเป็นคนทำ
เวร่า : เรื่องนี้ฉันจัดการเอง ไม่เกิน 2
วันคุณรู้ตัวคนทำแน่
มาร์ค : ก็ขอให้เป็นอย่างงั้นเถอะ
กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ในห้องวิทยุของอนูวา ในตอนนั้นเองอนูวาก็ติดต่อไปยังพ่อของเธอซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารหน่วยตะวันออกเมื่อเธอต่อสายถึงพ่อของเธอ
พ่อเธอก็ตอบรับกลับมาในทันที
อนูวา : คุณพ่อคะ นี่หนูอนูวานะคะ
สถานการณ์ที่โน่นเป็นยังไงบ้างคะ
“คนของสหประชาชาติมาพบพ่อทุกวัน
ตอนนี้พ่อต้องมีคำตอบให้พวกเขา เรื่องการก่อการหน่ะ”
อนูวา : พ่อคะ หนูอยากจะขอกำลังพลของพ่อเพิ่มหน่ะค่ะ
“อ้อ ได้สิ
พ่อมีกำลังพลที่จะส่งไปได้แค่ 10000 คนนะ”
อนูวา : แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ
แล้วก็อย่าให้พวกรัฐบาลรู้นะคะ
“ได้
แล้วพ่อจะรีบดำเนินการเลย”
จากนั้นอนูวาก็ตัดสายไป
อนูวา : ตอนนี้พ่อฉันรับปากว่าจะส่งทหารมาช่วยเพิ่มหน่ะ
เอ็ดเวิร์ด :
แต่ผมว่า แค่หมื่นคนไม่น่าจะรับมือไหวนะครับ
เดม่อน : ผมว่าตอนนี้ เราต้องใช้ทุกอย่างที่มีก่อนนะครับ
ลูลู่ : ถ้าหมื่นคน
เราอาจจะต้านได้จนกว่าสหประชาชาติจะส่งคนมานะคะ
เทเรซ่า : แล้วคุณจะเอายังไงต่อหล่ะเอ็ดเวิร์ด
เอ็ดเวิร์ด :
ผมจะเอากำลังพลที่มีไปสกัดพวกนั้นไว้ที่เขตนอกก่อน
ลูลู่ : พวกที่มีนี่ไม่กี่หมื่นนะคะ
แต่พวกของผู้พันเซบาสเตียนมีเป็นแสน
เดม่อน : แต่มันก็ต้องเสี่ยง
จะได้ช่วยประวิงเวลาให้ฝ่านเราได้ยังไงหล่ะ
เทเรซ่า : เอ็ดเวิร์ด ยังไงคุณต้องระวังตัวไว้ด้วยนะคะ
และที่ด้านนอก
มิเชลและคนอื่นๆกำลังรอคอยให้พวกของนอร์รีนที่ออกไปข้างนอก
มิเชล : เมื่อไหร่นอร์รีนจะกลับมาหล่ะเนี่ย
เอสเทอร์ : ใจเย็นๆสิ เดี๋ยวพวกเขาก็คงกลับมาหน่ะ
บารีร่า : หนูชักสังหรณ์ใจยังไงแล้วหล่ะสิ
ไลฟ์ : นี่ ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้สิ
อลัน : ไม่รู้ว่าโกดังที่พวกเขาไปหาของนี่มันอยู่ที่ไหนกันนะ
ฮาน่า : ถ้าแถวนี้มีแค่โกดังใหญ่ของชายคนหนึ่งหน่ะ
มันไปแลกของกับชาวบ้านไปทั่วเลย // ในตอนนั้นเองยูจีนได้ยินก็นึกอะไรได้
ยูจีน : เธอพอจะรู้มั้ยว่าโกดังนั้นอยู่ที่ไหน
มินโฮ : ทำไมหล่ะ เธอรู้จักไอ้หัวหน้าของโกดังอย่างงั้นเหรอ
ยูจีน : ฉันว่า มันต้องเป็นคนเดียวกับที่ฉันคิดแน่ๆ
อลิซ : ใครกัน พวกฉันพอจะรู้จักหรือเปล่าหล่ะ
มิสซึ : ฉันว่านะ เธอไม่น่าจะรู้จักหรอก
ตะวัน : เออนี่
เธอพอจะนึกออกได้อีกหรือเปล่าว่าพวกนั้นเป็นใคร
ยูจีนยังไม่ทันจะได้พูดอะไร จู่ๆนอร์รีนก็เข้ามาในอพาร์ทเม้นท์โดยที่แบกร่างของโทนี่มาด้วย
จากนั้นพวกเขาก็วางร่างของโทนี่ไว้ตรงนั้น ยูจีนตกใจมากจึงมาดูร่างเขาในทันที
ยูจีน : โทนี่ ใครทำอะไรนาย ทำไมถึงเป็นแบบนี้
เอสเทอร์ : โทนี่ อย่าเป็นอะไรนะ ฉันจะรีบไปตามคุณอนูวาให้
// เอสเทอร์วิ่งเข้าไปในห้องของอนูวาในทันที
มินโฮ : เขาโดนอะไรมาครับเนี่ย
นอร์รีน : พวกที่เฝ้าโกดังมันยิงเขาหน่ะครับ
บารีร่า : ซีโร่ เธอไม่เป็นอะไรนะ //
บารีร่าวิ่งเข้าไปกอดซีโร่
ซีโร่ : ผมไม่เป็นไรครับ ผมห่วงพี่โทนี่อ่ะ
เอจิ : ใครก็ได้ช่วยฮาจิของผมด้วย //
เอจิวางร่างฮาจิไว้ตรงนั้น พยายามดูแผลให้มัน
ไลฟ์ : ฮาจิ ใครทำอะไรเธอ ใครก็ได้ช่วยด้วย
อลัน : ใจเย็นก่อนนะ คุณอนูวากำลังจะมาหน่ะ
แต่ไม่ทันแล้ว ฮาจิสิ้นลมในอ้อมกอดของเอจิ เอจิร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
ไลฟ์ต้องไปคอยปลอบใจเขา
ฮาน่า : ฉันเสียใจด้วยนะ อย่าเศร้าไปเลยนะ
โทนี่ : ทุกคน ผมคงตามเจ้าฮาจิไปอีกไม่นานหน่ะ
ถ้าเจอเจ้าคีธ บอกด้วยให้มันดูแลตัวเองดีๆนะ
อลิซ : ใจเย็นๆนะโทนี่ คุณอนูวากำลังจะมาแล้ว
มิสซึ : แข็งใจไว้นะโทนี่ นายต้องไม่เป็นอะไร
เอสเทอร์รีบพาอนูวารักษาโทนี่ แต่ไม่ทันแล้ว
โทนี่สิ้นลมไปต่อหน้าทุกคน เอสเทอร์ถึงกับคุกเข่าร้องไห้ที่หน้าศพของเขา
อนูวาต้องคอยปลอบใจเธอเอาไว้
ยูจีน : ถ้าฉันรู้ว่าใครมันทำแบบนี้ แนไม่เอาไว้แน่
มินโฮ : ใจเย็นก่อนสิ
ผมว่าช่วยกันจัดการร่างของเขาก่อนดีกว่านะ
แต่ไม่ทันไร
เอสเทอร์ก็คว้าปืนพกของอนูวาที่เหน็บเอวเอาไว้แล้วยิงตัวเองจนสมองกระจาย
เสียงดังไปทั่วอพาร์ทเม้นท์ ทำเอาทุกคนต้องมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นอร์รีน : คุณเอสเทอร์ ไม่น่าเลย....
มิเชล : รีบฝังพวกเขาทั้งคู่ไว้ด้วยกันดีกว่านะคะ
พวกเขารีบแบกร่างของทั้งคู่ไปยังสวนด้านหลัง
โดยที่พวกของทาเคชิที่เพิ่งจะมาถึงก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
ทาเคชิ : มินโฮ นี่มันเกิดอะไรขึ้นหน่ะ
เสียงดังไปทั้งอพาร์ทเม้นท์เลย
มินโฮ : น้องของยูจีนโดนยิงตาย
แฟนเขาก็เพิ่งจะยิงตัวตายหน่ะ
อามินะ : ตายแล้ว น่าเศร้าจังเลย ไม่น่าเลยนะคะทาเคชิ
อัลเบิร์ต : แล้วพวกไหนเป็นคนยิงเขามาหล่ะ
ดราก้อน : ไม่รู้เหมือนกัน แต่น่าจะเป็นพวกมือดีแน่ๆ
มินโฮ : ได้ยินว่าเป็นพวกคนเฝ้าโกดังแถวนี้หน่ะ
ซาซอน : ไม่น่าเชื่อเลยนะคะที่แถวนี้มีโกดังด้วย
ไคล่า : พวกคุณพอจะรู้มั้ยคะว่าเป็นโกดังของใคร
ซุนฮยอน : ถ้าผมเดานะ น่าจะเป็นโกดังของนายมาร์คหน่ะ
ชิสา : แล้วเขาเป็นใครกันหล่ะนายมาร์คเนี่ย
มีกัส : ที่ฉันเคยได้ยินมานะ มันเป็นพ่อค้าของเถื่อนหน่ะ
ซนแซ : ตายแล้ว แบบนี้พวกนั้นจะตามล่าเราหรือเปล่าคะ
จียอน : ไม่หรอก พวกนั้นคงไม่รู้หรอกว่าเราทำหน่ะ
ไซม่อน : เฮ้อ แบบนี้เราคงได้ศัตรูใหม่แล้วสินะ
ริกโก้ : จะกลัวอะไรหล่ะ มันมาเราก็ฆ่ามันแค่นั้นหล่ะ
ยู่อี๋ : แต่ว่า ไม่รู้ว่าพวกนั้นจะมีเยอะแค่ไหนหน่ะสิคะ
ซุนฮยอน : เท่าที่ดูนะครับ
ถึงพวกนั้นจะมีคนเยอะแต่ไม่ใช่ทหารเก่งๆแน่นอนครับ
ริกโก้ : ว่าแต่ ถ้าพวกมันตามมาที่นี่จะทำยังไงกันหล่ะ
ไซม่อน : ถ้างั้นคงต้องเพิ่มการเฝ้ายามที่นี่แล้วหล่ะ
ซาซอน : หรือว่าเราจะไปจากที่นี่กันก่อนดีหล่ะ
ซนแซ : ไม่หรอก ข้างนอกสงครามกำลังปะทุหนักเลยนะ
มีกัส : ว่าแต่ เรื่องสงครามในตอนนี้จะเอายังไงต่อหล่ะ
อัลเบิร์ต : อืม ตอนนี้ก็เหลือเวลาแค่ 5 วัน
เราต้องทนไว้จนกว่า UN จะมาหน่ะ
ไคล่า : ฉันก็หวังว่าพวกเขาจะมากันเร็วๆนะ
ชิสา : ใช่ๆ ฉันเริ่มจะเบื่อสงครามบ้าๆนี่แล้วหล่ะ
จียอน : ใช่ ฉันอยากกลับบ้านที่สุดเลยตอนนี้
ดราก้อน : ไม่ต้องห่วงหรอก ผมจะปกป้องพวกคุณเอง
ยู่อี๋ : ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่ช่วยพวกเรา
ทาเคชิ : ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไปช่วยพวกเขาฝังศพดีกว่า
อามินะ : ถ้างั้นฉันขอไปกับคุณด้วยนะคะ
กลับมายังดาดฟ้าตึกแห่งหนึ่งแถวอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน
ที่ๆหน่วยรบพิเศษไทยกำลังเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ พวกเขาเฝ้าระวังภัยกันอย่างขันแข็ง แต่ในระหว่างนั้นเอง
ก็มีสัญญาณดังมาจากวิทยุของเขา จินตโลรีบไปฟังสัญญาณ จากนั้นก็สนทนากับอีกฝ่าย
แล้วก็มารายงานหัวหน้าของเขาในทันที
จินตโล : ท่านครับ มีข่าวมาจากหน่วยใหญ่
เขาบอกให้เราพาผู้พันออกมาใน 2 วันครับ
อรุณ : หะ 2 วันงั้นเหรอ แบบนี้ไม่ได้การซะแล้ว
เดชา : ฝ่าพวกมันออกไปไม่ได้แน่ๆ
กว่าเรื่องนี้จะจบก็คงเป็นอาทิตย์หล่ะ
เนตร : แล้วเราพอจะมีวิธีฝ่าออกไปได้หรือเปล่าครับ
เจตนา : ใช่ ทางนั้นเขาบอกอะไรเรามาบ้างหรือเปล่าหล่ะ
จินตโล : เขาบอกให้พวกเราฝ่าไปยังเขตเดิม
จะมีเฮลิคอปเตอร์ไปรับครับ
เดชา : ฆ่าตัวตายชัดๆ พวกเขาอยากจะฝังเราที่นี่งั้นเหรอ
อรุณ : พวกนั้นคงอยากจะหยุดความขัดแย้งนี้มากกว่า
เนตร : เฮ้ย ถ้างั้นนายไปบอกผู้พันเองก็แล้วกัน //
เขาสะกิดเจตนา
เจตนา : กูอีกหล่ะ เอาแบบนั้นก็ได้โว้ย
ฉันก็อบากกลับบ้านเหมือนกัน
ที่ห้องของประธานาธิบดีอดัมส์
เขานั่งอยู่บนที่นั่งเก้าอี้ตัวโปรดของเขา พลางนึกถึงอะไรบางอย่างที่เขาคิดอยู่ใน
ในระหว่างที่เขากำลังนั่งอยู่ จู่ๆนายทหารทั้งสามคนก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับปืนพกคนละกระบอก
“ท่านประธานาธิบดี
ท่านถูกจับแล้ว”
ประธานาธิบดียังนั่งนิ่งไม่ไหวติง
“ท่านครับ กรุณามากับเราซะดีๆครับ”
“คุณคิดว่าเรื่องนี้มันจะจบแบบไหนกันหล่ะ” ประธานาธิบดีพูดขึ้น
“ตอนนี้ทหารของผมล้อมที่นี่ไว้แล้ว
ท่านไม่มีรอดหรอก”
“แน่ใจงั้นเหรอ” หลังจากที่ประธานาธิบดีพูดจบ
ก็เกิดเสียงระเบิดด้านนอก
จากนั้นหน่วยดอว์นซอร์ดก็บุกเข้ามาจับตัวนายทหารทั้งสามคนเอาไว้
ทำเอาสามคนนั้นงงเป็นไก่ตาแตก
“อเล็กซานเดอร์
ทำไมแกถึงมาอยู่ที่นี่”
อเล็กซานเดอร์ : ผมว่าน่าจะไปโทษการข่าวของท่านที่รั่วออกมาดีกว่านะครับ
คาสเตอร์ : ตอนนี้พวกแกด้านนอกวางอาวุธยอมแพ้กับหน่วยของเราหมดแล้วเฟ้ย
“พวกแก
ทำไมกันหล่ะ”
อีริค : ผมว่าท่านสารภาพมาดีกว่านะครับ ว่ามีใครอีกบ้าง
เควิน : ใช่ครับ ไม่แน่พวกท่านอาจจะได้รับการเว้นโทษนะ
“เว้นโทษเหรอ
ฉันไม่ขออะไรจากพวกแกทั้งนั้น”
อเล็กซ่า : กรุณราระวังคำพูดของพวกคุณเอาไว้ด้วยนะ
ซิลเวสเตอร์ :
เอาตัวพวกนี้ไปให้หมด พวกมันโดนแขวนคอแน่
“งั้นเหรอ
ไอ้คนทรยศอย่างแกจะอยู่รอดได้นานแค่ไหนอดัมส์
คิดว่าฉันไม่รู้เหรอเรื่องหน่วยเก่าของแก ที่แกทำอะไรเอาไว้บ้าง คนทรยศ”
แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ หน่วยดอว์นซอร์ดก็ลากตัวทั้งสามคนออกไป
ก่อนที่ประธานาธิบดีจะนึกถึงแผนการที่เขาคุยกับหน่วยดอว์นซอร์ดทางโทรศัพท์
อเล็กซานเดอร์ : ท่านครับ
จะมีการรัฐประหารท่านนะครับ
“ฉันรู้ตั้งนานแล้ว
ฉันถึงได้โทรหาพวกแกยังไงหล่ะ”
เควิน : ท่านรีบออกมาจากที่นั่นก่อนดีกว่านะครับ
“ไม่หรอก
ฉันมีแผนแล้ว พวกแกเกณฑ์คนในหย่วยของพวกแกมาให้หมด”
คาสเตอร์ : ได้ครับ ผมจะรีบไปเกณฑ์มาทันทีครับ
อเล็กซ่า : โอเค ถ้างั้นฉันจะรีบติดต่อพวกเขาไปก็แล้วกัน
อีริค : แล้วท่านคิดจะทำอะไรกันแน่หล่ะครับ
“ฉันแค่อยากเห็นหน้าไอ้คนที่มันกล้าลองดีกับฉัน”
ซิลเวสเตอร์ :
ได้ครับ แล้วเราจะจัดการให้ครับ
“แล้วก็วางคนล้อมตึกของฉันเอาไว้ให้ทั่วหล่ะ”
จากนั้นเองประธานาธิบดีก็กลับมานั่งเก้าอี้ของตัวเองต่อ
แต่ทันใดนั้นเอง เลขาของเขาก็เปิดประตูเข้ามาโดยที่ไม่ยอมบอกเขาก่อน
ทำเอาเขาหัวเสียมาก แต่ในตอนนั้นเลขาก็พูดขึ้นมาทันที
“ท่านครับ
มีคนอยากพบท่านครับ” จากนั้นเขาก็รีบวิ่งออกไป
ปรากฏร่างของเอสเมอรันด้าเข้ามาหาเขาในห้องทันที
“เอสเมอรันด้า
เธอมาจนได้นะ”
“เป็นไงบ้างคะท่าน
ข่าวของฉันได้ผลนะคะ” เธอพูดอย่างกวนอารมณ์
“แล้วเธอมาที่นี่มีอะไรงั้นเหรอ”
“ก็แค่จะมาบอกคุณว่า
คุณติดหนี้ฉันครั้งนึงแล้วนะ”
“เธอมาเพราะแค่นี้เองงั้นเหรอ”
“แล้วเรื่องพวกกบฏหล่ะ
ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำอะไรรุนแรงนะ”
“ฉันกำลังจะจัดการให้มันจบๆต่างหากหล่ะ”
“อย่าทำให้ฉันผิดหวังเด็ดขาด
ไม่งั้น ฉันอาจไม่ช่วยคุณอีกนะ”
เอสเมอรันด้าเดินออกจากห้องไปทันที ส่วนประธานาธิบดีก็กลับไปนั่งเก้าอี้ของเขาต่อ
กลับมายังตึกร้างที่เดิม ซึ่งหลังจากที่คีธและจูซมนอนด้วยกันมาแล้ว
พวกเขาตื่นมาพร้อมกัน จากนั้นคีธก็หาน้ำให้จูซมล้างหน้าล้างตา
จากนั้นก็เตรียมรถเพื่อพาเธอไปส่งเพื่อนๆของเธอ
จูซม : นี่ คีธ เมื่อคืนฉันมีความสุขมากเลยนะ
คีธ : คุณไม่ต้องห่วงนะ ผมจะรับผิดชอบคุณทุกอย่างเอง
ผมจะแต่งงานกับคุณแล้วก็อยู่กับคุณนะ
จูซม : ฉันคงต้องลาออกจากการเป็นไอดอลแล้วสินะ
คีธ : ผมจะกลับไปทำงานนักแสดงนะถ้าเรื่องนี้จบ
จูซม : คุณเป็นนักแสดงงั้นเหรอคะ
คีธ : ก็สตั๊นท์แมนหน่ะครับ ผมว่าเรารีบไปจากที่นี่ดีกว่านะครับ
จากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้ยินเสียงปืนดังมาแต่ไกล
จนจูซมตกใจวิ่งเข้ามากอดคีธในทันที
จูซม : ฉันกลัวจังเลยค่ะ
คีธ : คุณไม่ต้องกลัวนะ ผมจะปกป้องคุณเอง ไปกับผมเถอะ
คีธพาจูซมนั่งมอไซค์กลับไปยังที่พักของพวกเขา ก่อนที่กลุ่มทหารจะบุกเข้ามาจับตัว
ในเขตของกลุ่มกบฏ หลังจากที่เร็นพาอันนาและอเล็กซ์หนีรอดจากเงื้อมมือจากกลุ่มทหารมาได้
พวกเขาก็ขับรถต่อมาเรื่อยๆจนกระทั่งมาจอดที่ตึกแห่งหนึ่งซึ่ง
จากนั้นเร็นก็ไปดูสภาพรถของอันนาว่าเป็นยังไงต่อ
เขาตรวจเช็ครถดูทุกที่จากนั้นก็มาคุยกับอันนา
เร็น : คุณอันนาครับ เราคงต้องหาน้ำมันเพิ่มหน่ะครับ
อันนา : แถวนี้ก็ไม่มีน้ำมันซะด้วยนี่คะ
เร็น : ถ้างั้นคืนนี้เราพักที่นี่ก่อน
ผมจะไปหาน้ำมันมาให้นะครับ
อันนา : ก็ดีนะคะ เดี๋ยวฉันพาอเล็กซ์ไปด้านในก่อนนะคะ
อันนาพาอเล็กซ์ไปพักผ่อนด้านใน ส่วนเร็นออกไปด้านนอกเพื่อหาน้ำมันเพิ่ม
อันนากอดอเล็กซ์ไว้ทั้งคืนเนื่องจากว่าเธอเป็นห่วงลูกชายของเธอมากๆ
อันนา : อย่าไปไหนห่างแม่อีกนะลูก
อเล็กซ์ : ครับแม่ แม่ครับ ผมถามอะไรหน่อยสิครับ
อันนา : มีอะไรจะถามงั้นเหรอลูก
อเล็กซ์ : แม่ว่าคุณเร็นเขาเป็นยังไงครับ
อันนา : แม่ว่าเขาก็ดีนะลูก เขาช่วยลูกเอาไว้นี่
อเล็กซ์ : ผมก็ชอบเขานะครับแม่ แม่ไม่สนใจเขาหน่อยเหรอครับ
อันนา : คือแม่
ที่แม่ยังไม่แต่งงานใหม่ก็เป็นห่วงลูกนี่แหละ
อเล็กซ์ : แม่ครับ ผมอยากให้แม่มีคนดูแลนี่ครับ
อันนา : แหม่ ลูกอยากหาพ่อใหม่ก็บอกสิลูก
และในขณะเดียวกัน เร็นก็กลับเข้ามาในห้องของสองแม่ลูกพร้อมกับน้ำมันประมาณหนึ่งแกนลอน
เร็น : คุณอันนาครับ ผมมีน้ำมันอยู่แค่นี้
แต่น่าจะพาเรากลับไปได้
อันนา : ยังไงฉันก็ขอบคุณคุณมากนะคะที่ช่วยเหลือฉัน
เร็น : ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเต็มใจครับ
อเล็กซ์ : พี่ชอบแม่ผมก็บอกมาเถอะครับ แหะ
อันนา : นี่ อเล็กซ์ พูดอะไรของลูกเนี่ยจ๊ะ
เร็น : อ้อ นี่แซวกันตลอดเลยนะอเล็กซ์
ไปนอนกันดีกว่าครับ พรุ่งนี้จะได้ออกเดินทาง
อันนา : โอเคค่ะ อเล็กซ์ ฝันดีพี่เขาก่อนสิลูก
กลับมายังเขตในของกลุ่มกบฏ
ซึ่งในตอนนั้นเองเทโจพาชินเฮไปตามหาเพื่อนๆของเธอ พวกเขาเดินทางผ่านเมืองที่เงียบเหงา
รอบข้างไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตใดๆเลย หลังจากที่พวกเขาเดินทางมาได้ซักพัก
จู่ๆพวกเขาก็ได้ยินเสียงปืนใหญ่มาแต่ไกล จากนั้นก็มีอะไรบางอย่างลอยอยู่บนฟ้า
“หาที่หลบเร็ว”
ลูกปืนใหญ่ตกลงมาใส่พวกเขา พวกเขารีบหาที่หลบกันให้วุ่น
แต่ในตอนนั้นเองชินเฮก็โดนแรงระเบิดไปด้วย
เทโจเห็นจึงรีบวิ่งฝ่าระเบิดไปอุ้มเธอมาหลบอยู่ในตึกแห่งหนึ่ง จากนั้นเขาก็ดูอาการของเธอในทันที
เทโจ : ชินเฮ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ
เทโจพยายามชะปั๊มหัวใจให้เธอ แต่เธอไม่ตอบสนอง
เทโจพยายามจะช่วยเธอผายปอด แต่ในตอนนั้นเองเธอก็ตื่นมาพอดี เธอเจอเทโจกำลังจะผายปอดเธอ
เธอก็ตกใจทันที
ชินเฮ : คุณเทโจ...
เทโจ : อ่า ขอโทษด้วยนะ ผมแค่อยากให้คุณฟื้นหน่ะ
ชินเฮ : ฉันมึนหัวจังเลยค่ะ
เทโจ : เหรอครับ ถ้างั้นผมจะพาคุณไปหาหมอก่อนนะครับ
ชินเฮ : ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไปหาเพื่อนฉันต่อดีกว่าค่ะ
เทโจ : แต่ผมเป็นห่วงคุณนี่ครับ
ชินเฮ : ทำไมหล่ะ คุณชอบฉันงั้นเหรอ //
เทโจถึงกับตกใจเมื่อเธอยิงคำถามใส่
เทโจ : คือ ผม..... แบบว่า
ชินเฮ : ฉันรู้น่า เอาไว้รอคุณพร้อมแล้วค่อยบอกฉันนะ
เทโจ : เอาเป็นว่า
ผมจะหาที่หลบภัยให้คุณก่อนดีกว่านะครับ
เทโจอุ้มชินเฮไปดูอาการอยู่ด้านบนห้องของตึก
เพื่อหลบกระสุนปืนใหญ่ของรัฐบาลที่ยิงใส่พวกเขา
กลับมายังกลุ่มของดีซ ซึ่งพวกเขายังคงเดินทางมากันต่อเพื่อรวมกำลังพลกับกลุ่มกบฏของเขา
ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ยิงเข้าไปยังใจกลางเขตของกลุ่มกบฏ ในตอนนั้นเองพวกเขาก็คุยกันต่อถึงเรื่องการโจมตีครั้งนี้
จอห์นนี่ : สงสัยว่างานนี้พวกแม่งคงจะเล่นพวกเราให้ได้หน่ะ
เอิร์ล : นั่นดิ หัวหน้าคิดว่ายังไงหล่ะครับ
ดีซ : ก็เท่าที่ดูนะ
เราต้องยันมันเอาไว้ให้ได้นานที่สุด เหลือเวลาอีกเท่าไหร่นะ
เดอร์ริก : เท่าที่ดูตอนนี้ น่าจะประมาณ 5 วันครับ
จอห์นนี่ : 5 วัน
แต่ว่าเซบาสเตียนคงจัดการเราได้ในสามวันแน่ๆ
เดอร์ริก : แล้วจะเอายังไงหล่ะ จะให้ยอมแพ้มันงั้นเหรอ
เอิร์ล : ฉันไม่ยอมแน่ๆ แล้วหัวหน้าว่ายังไงหล่ะครับ
ดีซ : อย่าเพิ่งพูดถึงอนาคตเลย เดินทางกันต่อดีกว่า
พวกเขาเดินทางเข้าไปในเมืองต่อ เพื่อเข้าร่วมการป้องกันทหารของรัฐบาลที่จะมาโจมตีในเร็วๆนี้
กลับมายังบริเวณค่ายลับของโจเซฟ โจเซฟกลับมาที่ค่ายของเขา
จากนั้นก็เตรียมวางกำลังพลเพื่อก่อการในโซราติก ในขณะเดียวกันนั้นเอง
มากิลูกสาวของเขาก็เข้ามาบอกข่าวกับเขาในทันทีเรื่องที่เธอได้ยินมา
โจเซฟ : อ้าว มากิ มีอะไรหรือเปล่าลูก
มากิ : ค่ะพ่อ ตอนนี้มีการปฏิวัติในรัฐบาลโวราติกค่ะ
โจเซฟ : แล้วสำเร็จหรือเปล่าหล่ะ
มากิ : ไม่ค่ะ
หน่วยดอว์นซอร์ดมาช่วยพวกนั้นไว้ได้ก่อนค่ะ
โจเซฟ : เฮ้อ
อเล็กซานเดอร์คือไพ่ตายใบสุดท้ายที่อดัมส์มีอยู่ตอนนี้จริงๆ
มากิ : แล้วแบบนี้พ่อจะเอายังไงต่อดีหล่ะ
โจเซฟ : เออจริงด้วย
ว่าแต่เซบาสเตียนโจมตีพวกกบฏไปถึงไหนแล้วหล่ะ
มากิ : อ้อค่ะ พสกนั้นโจมตีที่รอบนอก
กลุ่มกบฏยังคงต้านไว้ได้อย่างเข้มแข็ง ราวกับว่ากลุ่มกบฏมีกำลังมาเสริมหน่ะค่ะ
แล้วก็อีกอย่าง ผู้พันเวร่าถูกประกาศจับด้วยค่ะ
โจเซฟ : อืม แสดงว่ามีการแบ่งพรรคแบ่งพวกในหมู่พวกอูสตาเช่สินะ
อดัมส์ผู้น่าสงสาร อุตส่าห์เป็นประธานาธิบดีแต่กลับคุมอะไรไม่ได้เลย
มากิ : แล้วพ่อจะเอายังไงต่อหล่ะคะ
โจเซฟ : ไปรวบรวมกำลังคนของเรามาให้หมด
เราจะตีตลบหลังเซบาสเตียน
มากิ : แต่กำลังของเราตอนนี้ยังน้อยกว่าของพวกเขานะคะ
โจเซฟ : พวกนั้นอ่อนแรง แถมยังมีอาวุธน้อย
เราจะใช้โอกาสนี้โจมตีพวกมันแบบสายฟ้าแลบ
มากิ : ได้ค่ะ ถ้าคุณพ่อต้องการแบบนั้น
กลับมายังเขตชานเมือง ซีวิลกับฮายังคงเดินทางไปเรื่อยๆเพื่อหาอะไรกินประทังชีวิต
พวกเขาพยายามฝ่ากระสุนของเหล่าทหารและกลุ่มโจร รอบด้านยังคงยิงกันอย่างหูดับตับไหม้
แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่สนใจอะไรเท่าไหร่
จนกระทั่งพวกเขามาเจอกับตึกร้างตึกหนึ่งซึ่งดูเหมือนถูกปรับปรุงใหม่ ซึ่งพอมีอาหารกระป๋องเหลือ
และมีน้ำอยู่ในถังใหญ่ใบหนึ่ง ในตอนนั้นเองฮาก็เข้าไปในห้องที่มีถังน้ำในทันที
ฮา : ว้าว มีน้ำกับที่ตักด้วย งั้นฉันขออาบน้ำก็แล้วกัน
ซีวิล : ก็เชิญตามสบายเลยแล้วกันนะ
ฮา : นายจะอาบด้วยมั้ย ฉันจะได้เหลือน้ำไว้ให้ เอ๊ะ
หรือว่านายจะมาอาบกับฉันดี
ซีวิล : คุณไปอาบเถอะ ผมไม่รบกวนคุณหรอก
ฮา : ตามใจ //
ซีวิลไปนั่งกอดเข่าอยู่ริมห้องน้ำส่วนฮาก็อาบน้ำอย่างสบายใจ อีกซักพักต่อมา ฮาก็แก้ผ้าออกมาท่ามกลางสายตาของซีวิล
ซีวิลถึงกับต้องหันหน้าไปทางอื่น
ฮา : เป็นอะไรไปหล่ะ ไม่ชอบงั้นเหรอ
ซีวิล : เปล่าหรอก ก็จะให้มองได้ยังไงเนี่ย
คุณโป๊อยู่เนี่ย
ฮา : ก็ได้ๆ งั้นรอแป๊ปนึงนะ // ฮาไปใส่เสื้อผ้าของเธอ
จากนั้นก็มานั่งกับซีวิลด้วย
ฮา : นายไม่อาบน้ำหน่อยงั้นเหรอ ฉันไม่ดูของนายหรอกน่า
ซีวิล : ตอนนี้เก็บน้ำไว้กินดีกว่าม้าง
ฮา : เท่าที่ดูเนี่ย ฉันว่านายน่าจะอับโชคมานานนะ
ซีวิล : แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณหล่ะ
ฮา : ก็ไม่มีอะไร ฉันเองก็ไม่ต่างจากนายนักหรอก
ซีวิล : งั้นเหรอ ดูถ้าเธอจะใจกล้าน่าดูเลยนะ
ฮา : ก็มีบ้าง แต่ถ้าจะวัดจากที่ฉันแก้ผ้าให้นายดู
ก็คงไม่ใช่ทั้งหมดหรอก
ซีวิล : ช่างมันเถอะ ว่าแต่คุณจะเอายังไงต่อกับเรื่องนี้
ฮา : ก็หาอะไรกินไปเรื่อยๆ จนกว่าเรื่องจะจบหน่ะ
ซีวิล : ก็คงจะต้องเป็นแบบนั้น ผมไปอาบน้ำดีกว่า
ซีวิลผละตัวออกจากฮา จากนั้นเขาก็ไปอาบน้ำคนเดียวในห้องนั้น
กลับมายังฐานทัพของเซบาสเตียน ในขณะที่เขากำลังวางแผนการรบอยู่ในห้อง
จู่ๆก็มีนายทหารคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง จากนั้นก็มารายงานข่าวกับเขา
“ท่านครับ
มีข่าวดีและข่าวร้ายมารายงานครับ”
เซบาสเตียน :
บอกมาทั้งสองข่าวเลย
“ข่าวดีคือ
เราเตรียมจะบุกเข้าไปในเขตในของพวกมันแล้วครับ”
เซบาสเตียน :
ดีมาก แล้วข่าวที่สองหล่ะ
“พวกมันมีกำลังพลมาเสริมครับ”
เซบาสเตียน :
เป็นไปไม่ได้ ต้องมีคนในรัฐบาลช่วยเหลือแน่ๆ
ตามสืบเรื่องนี้ให้รู้ว่ามันเป็นใคร แล้วมาบอกฉัน
“ได้ครับท่าน”
จากนั้นลูกน้องของเขาก็ออกจากห้องไป ส่วนเซบาสเตียนก็เตรียมอาวุธใหม่ที่รัสเซียขายให้เพื่อทำการอะไรบางอย่าง
====================================================================
กองทัพของเซบาสเตียนกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ แล้วสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ความคิดเห็น