ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My War - สงครามที่ไม่ได้เลือก

    ลำดับตอนที่ #23 : EP 17 : การโจมตีระลอกสอง

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 62


    เช้าวันต่อมา พวกของนอร์รีนก็ตื่นมาในยามเช้าเพื่อรับวันใหม่ แต่ละคนในวันนี้ก็ต่างคนต่างทำงานกันไป เช้าวันนี้ดูเหมือนเหตุการณ์จะปกติดี ไม่มีเสียงปืนและการสู้รบอะไรเกิดขึ้น ทำเอาพวกเขาโล่งใจขึ้นมาหน่อย ในห้องของนอร์รีน เขาไปเยี่ยมซีโร่ที่เพิ่งจะพักฟื้นในห้อง สภาพของซีโร่ในตอนนี้ก็ดีขึ้นมากเนื่องจากบารีร่าคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง

    นอร์รีน : ซีโร่ นายเป็นยังไงบ้างหล่ะตอนนี้

    ซีโร่ : ผมหายดีแล้วหล่ะครับ พอจะออกไปข้างนอกได้แล้วหล่ะ

    มิเชล : ดีแล้วหล่ะ ตอนนี้เราต้องหาเสบียงเพิ่มอีกหน่ะ

    บารีร่า : พี่คะ สัญญากับหนูได้หรือเปล่าคะ ไม่ว่ายังไงต้องพาซีโร่กลับมาให้ได้นะคะ

    ซีโร่ : ใจเย็นๆน่า ฉันยังไม่ได้ออกไปไหนเลยนะ

    บารีร่า : ก็ฉันเป็นห่วงเธอนี่หน่า ฉันใจไม่ดีทุกครั้งที่เธอไปเลยนะ

    นอร์รีน : ผมจะพยายามพาเขากลับมาให้ได้ ไม่ว่ายังไงครับ

    มิเชล : ใช่ อย่าเพิ่งเป็นห่วงอะไรตอนนี้เลยนะ

    บารีร่า : ขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วยหนูค่ะ

    ซีโร่ : ว่าแต่ คืนนี้เราจะไปหาของเพิ่มเติมมั้ยครับพี่

    นอร์รีน : ก็อาจจะนะ เผื่อสร้างอะไรเพิ่มเติมอีกหน่ะ

    มิเชล : ใช่ แล้วตอนนี้ยาของเราก็เริ่มจะขาดแคลนแล้วหน่ะ

    บารีร่า : ที่โรงพยาบาลแถวชานเมืองน่าจะยังมียาอยู่นะคะ

    ซีโร่ : ฉันเคยเห็นนะ ที่นั่นโดนทหารยึดครองอยู่นี่

    นอร์รีน : ผมคิดว่าพวกนั้นถอยไปแล้วซะอีก

    มิเชล : พวกมันคงกำลังแทรกซึมอยู่แถวนี้หน่ะ ถ้าไปก็ระวังตัวกันด้วยนะ

    ซีโร่ : แน่นอนครับผม ผมอยากยืดเส้นยืดสายหล่ะ

    บารีร่า : อยากไปเดินเล่นมั้ยหล่ะ เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อนให้

    นอร์รีน : ยังไงก็ระวังด้วยหล่ะ แถวนี้มันไว้ใจไม่ได้ด้วย

    มิเชล : เอาน่านอร์รีน อย่าเพิ่งคิดมากไปเลยนะ

    ในห้องของยูจีน หลังจากที่เธอตื่นมาโดยที่คราบน้ำตายังนองหน้าอยู่ เธอยังคงนั่งเศร้าอยู่ในห้อง ในตอนนั้นเองมินโฮก็เอาน้ำมาให้เธอล้างหน้าแล้วก็หาอะไรให้กิน

    มินโฮ : ฉันเอาน้ำมาให้เธอล้างหน้าหน่ะ

    ยูจีน : อย่ามายุ่งกับฉันได้หรือเปล่า

    มินโฮ : เอ้า ผมอยากช่วยคุณจริงๆนะ น้ำตานองหน้าแบบนี้มันก็ไม่สดชื่นหน่ะสิ // มินโฮเอาทิชชู่ของเขาชุบน้ำจากนั้นก็ค่อยๆเช็ดคราบน้ำตาให้กับยูจีน

    ยูจีน : ขอโทษด้วยนะที่ทำนายเมื่อคืนหน่ะ

    มินโฮ : ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่ทำไมเธอถึง... ฉันไม่ถามดีกว่า

    ยูจีน : คือ แฟนเก่าฉันเพิ่งตายหน่ะ เธอตายที่นี่ด้วย

    มินโฮ : ฉันเสียใจด้วยนะ ถ้ามีอะไรก็คุยกับฉันได้นะ

    ยูจีน : ขอบใจมากนะมินโฮ // มินโฮยิ้มจากนั้นก็เช็ดน้ำตาให้ยูจีนต่อ จากนั้นเขาก็ป้อนอาหารให้กับยูจีน ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆของมินโฮก็แอบมองเขาอยู่ในห้อง พร้อมทั้งแอบแซวเขาอย่างสนุกปาก

    ริกโก้ : ดูท่าหมอนั่นจะได้แฟนใหม่แล้วนะเนี่ย

    ไซม่อน : จริงด้วย น่ารักมากๆเลยนะเนี่ยคู่นี้

    แต่ในขณะเดียวกัน 7 สาวเกิร์ลกรุ๊ปก็แอบมาสะกิดเหล่าหนุ่มๆที่อยู่ตรงนั้นพอดี

    ชิสา : นี่ แอบดูอะไรกันอยู่เหรอพวกนายเนี่ย

    ซุนฮยอน : อ่า คือ ไม่มีอะไร แค่มาเดินเล่นแถวนี้หน่ะ

    ยู่อี๋ : แหม่ ไม่ต้องปิดบังกันก็ได้นะพวกนาย

    ไคล่า : ใช่ๆ ขอแค่ส่องนิดเดียวว่ามีอะไรกันหน่ะ

    อามินะ : อืม ว่าแต่ พวกคุณมีแผนจะทำอะไรกันวันนี้หน่ะ

    ทาเคชิ : ผมว่า ผมจะไปเดินเล่นแถวนี้หน่ะ แหะๆ // พวกหนุ่มพยายามจะเดินออกไปแต่สาวๆขวางเอาไว้ก่อน

    ซาซอน : นี่ ไม่ต้องคิดจะเดินหนีพวกเราเลยนะ

    จียอน : ใช่ๆ พวกนายต้องคุ้มกันพวกฉันไม่ใช่เหรอ

    อัลเบิร์ต : หรือพวกคุณอยากไปเดินเล่นกับเราหล่ะ

    มีกัส : แต่มันอันตรายหน่อยนะ พวกคุณจะไปหรือเปล่าล่ะ

    ซนแซ : ทำไมฉันจะไม่ไปหล่ะ พวกเรากลัวที่ไหนหล่ะ

    ดราก้อน : โอเค งั้นก็ไปกันดีกว่าเน้อ

    พวกเขาไม่รอช้าพาพวกผู้หญิงออกไปเดินเล่นด้านนอก ซึ่งบรรยากาศภายนอกค่นข้างดีเนื่องจากว่ายังไม่มีการยิงปะทะกันในเขตเมือง

    อามินะ : ฉันรู้สึกเติมเต็มอย่างบอกไม่ถูกเลยนะ

    ทาเคชิ : เติมเต็ม หมายความว่ายังไงกันครับเนี่ย

    ไคล่า : คือว่า พวกเรารู้สึกเป็นตัวของตัวเองหน่ะ

    อัลเบิร์ต : แล้วพวกคุณไม่เป็นตัวของตัวเองยังไงหล่ะครับ

    ชิสา : ก็ชีวิตเกิร์ลกรุ๊ปอย่างเรา ไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงที่อยู่ในกรงเลยหน่ะ

    ซนแซ : ใช่ วันๆต้องเอาใจแฟนคลับแบบโน่นแบบนี้ ทำตามที่ผู้จัดการบอก

    ไซม่อน : ฉันเองก็เคยอยู่ในวงการแบบนี้นะ มันเป็นของธรรมดาอยู่แล้ว

    ดราก้อน : ที่พวกเราทำก็ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่นะ ผมไม่อยากมารบที่นี่เลย

    มีกัส : แต่ทำยังไงได้หล่ะ สถานการณ์แบบบน้ำไม่สู้ก็ตายสินะ

    ซาซอน : นั่นสิ แต่ฉันรู้สึกดีนะที่ได้มากับพวกคุณ

    ริกโก้ : ว้าว ยินดีนะครับที่ได้ยินแบบนี้

    จียอน : แน่นอนค่ะ ถ้าสงครามจบเราไปเที่ยวด้วยกันนะ

    ยู่อี๋ : ซุนฮยอน นายอยากไปจีนมั้ย ฉันจะพานายไปหลังจบเรื่องนี้นะ

    ซุนฮยอน : ขอบคุณครับ ผมต้องไปกับคุณอยู่แล้วหล่ะ

     

    ทางด้านของตะวันและอนูวา ทางด้านห้องรับแขก ในตอนนั้นเองพวกเขากำลังคุยกับคนอื่นๆด้านในเพื่อประชุมเกี่ยวกับที่พักของพวกเขา และสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้

    ตะวัน : คุณอนูวา ตอนนี้สถานการณ์ไปถึงไหนแล้วครับ

    อนูวา : เท่าที่ฟังข่าว อีกไม่กี่วันทางสหประชาชาติจะตอบโต้รัฐบาลถ้ายังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดหน่ะค่ะ

    อลัน : ขอให้พวกเขารีบมาเถอะ มันจะได้จบๆซะที

    ฮาน่า : ใช่ ตอนนี้การต่อสู้มันยืดเยื้อมานานแล้ว

    ไลฟ์ : แบบนี้ไม่นานสงครามก็คงจะจบแล้วสินะคะ

    เอจิ : แต่ว่าตอนนี้ยังเหลืออีกตั้ง 6 วันนี่ ไม่รู้จะพอหรือเปล่านะ

    ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงเคาะประตูมาจากด้านนอก พวกเขาเตรียมอาวุธเพื่อป้องกันตัวเอง จากนั้นเอง ตะวันก็เตรียมเปิดประตูเพื่อที่จะให้พวกนั้นเข้ามา เพื่อยิงสังหารทั้งหมด แต่ในระหว่างที่เขาเปิดประตู ก็มีชายห้าคนถืออาวุธจ่อเขาไว้ ชายห้าคนเห็นหน้าตะวันจึงพูดขึ้นทันที

    อรุณ : คุณคือผู้พันตะวันหรือเปล่าครับ

    ตะวัน : ใช่ครับ พวกคุณเป็นใครกันหล่ะ

    อรุณ : ผมร้อยเอกอรุณ หน่วยจู่โจมพิเศษรายงานตัวครับ

    ตะวัน : อ่า เข้ามาด้านในก่อนสิ // ตะวันเปิดประตูเชิญพวกเขาเข้ามาด้านในอพาร์ทเม้นท์

    อนูวา : พวกเขาเป็นใครกันเหรอคะ

    ตะวัน : อ้อ พวกเขาเป็นหน่วยรบพิเศษจากประเทศของผมหน่ะ

    อรุณ : ท่านครับ เราได้รับคำสั่งมาให้พาท่านกลับไปครับ

    เดชา : ครับ เราเตรียมเฮลิคอปเตอร์มารับแล้วครับ

    ตะวัน : ไกลจากที่นี่หรือเปล่าครับ

    จินตโล : ห่างจากเมือง 3 กิโลเมตรครับท่าน

    อนูวา : แล้วพวกคุณจะพาเขาไปอย่างงั้นเหรอคะ // เธอพูดอังกฤษใส่พวกเขา

    เนตร : ใช่ครับ เราได้รับคำสั่งมาแบบนั้นครับ

    จินตโล : ว่าแต่พวกคุณเป็นใครกันอย่างงั้นเหรอครับ

    ตะวัน : พวกเขาช่วยผมไว้หน่ะ ผมยังไม่อยากไปตอนนี้เลย

    อรุณ : อ้าว ทำไมอย่างงั้นหล่ะครับ

    ตะวัน : ผมยังไม่พร้อมเท่าไหร่หน่ะ // จากนั้นเขาก็ไปพูดกับอนูวา

    ตะวัน : พวกเขาจะพาผมไปหน่ะ แต่ผมยังไม่อยากไปตอนนี้เลย

    อนูวา : อ้าว ทำไมอย่างงั้นหล่ะคะ

    ตะวัน : ผมยังไม่อยากทิ้งคุณไป คุณยังมีปัญหาที่นี่อยู่นี่ // เขากุมมืออนูวาไว้ทันที

    อนูวา : ก็แล้วแต่คุณนะคะ ความจริงฉันก็ยังไม่อยากให้คุณไปเหมือนกัน

    เอจิ : เออนี่ ดูเหมือนว่าคู่นี้จะยังไงกันซะแล้วนะ // เขากระซิบข้างหูไลฟ์

    ไลฟ์ : นั่นสิ ดูท่าคุณตะวันคงไม่อยากไปไหนแล้วหล่ะ

    อลัน : ถ้าคุณพร้อมจะไป เดี๋ยวผมจะไปส่งเองนะครับ

    ฮาน่า : ใช่ค่ะ ฉันจะช่วยคุณเต็มที่เลยค่ะ

    ทางด้านของเหล่าทหารไทย พวกเขาพอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จึงได้ปรึกษากันในทันที

    จินตโล : ดูท่าผู้พันเขาคงยังไม่อยากกลับตอนนี้แล้วหล่ะ

    เนตร : ฉันสงสัยตั้งแต่จับมือกันแล้วหล่ะเพื่อน

    เจตนา : แล้วเราจะรายงานทางหน่วยว่ายังไงดีหล่ะ

    เดชา : รายงานไปว่าเจอตัวผู้พันแล้วแต่ข้าศึกกำลังล้อมเมืองอยู่สิ

    และในขณะเดียวกัน ตะวันพาอนูวาเข้าไปในห้องของเขา แล้วพูดความในใจทุกอย่างก่อนที่มันจะสายเกินไป

    ตะวัน : คุณอนูวาครับ ทีผมไม่อยากไป คือผมเป็นห่วงคุณนะ ผมรักคุณ

    อนูวา : คุณตะวัน ฉันเป็นห่วงว่าคุณจะไม่ได้กลับไปที่นั่นหน่ะ

    ตะวัน : ใช่ ผมกลัวว่าผมจะไม่ได้เจอคุณอีก

    อนูวา : ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันไม่เป็นไรอยู่แล้ว ฉันจะรอคุณคนเดียวนะคะ

    อีกด้านหนึ่งในห้อง เอสเทอร์กำลังนวดหลังให้โทนี่เพราะว่าโทนี่ยังมีอาการปวดเมื่อยอยู่ เอสเทอร์คอยดูแลโทนี่อยู่ตลอดไม่ห่าง

    โทนี่ : เธอนวดดีจริงๆเลยนะเนี่ย

    เอสเทอร์ : แน่นอน นายหายเมื่อยแล้วนะ ว่าแต่ไม่ไปดูพี่สาวเธอหน่อยเหรอ

    โทนี่ : ไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนี้พี่เขามีคนดูแลแล้วหล่ะ

    เอสเทอร์ : แหม่ น่าอิจฉาจังเลยนะเนี่ย

    โทนี่ : ว่าแต่คุณหล่ะ คุณยังไม่มีคนดูแลเลยนี่ // เอสเทอร์ถึงกับหน้าแดงเมื่อได้ยิน

    เอสเทอร์ : นายนี่ พูดอะไรก็ไม่รู้

    โทนี่ : ก็จริงนี่นะ ผมอยากจะดูแลคุณเหมือนกันนะ // เอสเทอร์หน้าแดงขึ้นแต่ก็ต้องเก็บอารมณ์เอาไว้

    เอสเทอร์ : ห่วงตัวเองก่อนดีกว่า แบร่ // เอสเทอร์แกล้งนวดให้โทนี่แบบเจ็บๆ

    โทนี่ : โอ้ย เจ็บนะ อะไรกันเนี่ย

    เอสเทอร์ : ก็อยากแกล้งฉันก่อนทำไมหล่ะจ้ะ

    ทางด้านของอลิซและมิสซึ อลิซหลังจากที่ซ่อมอพาร์ทเม้นท์จนเสร็จ ในตอนนั้นเองมิสซึก็ทำอาหารให้กับอลิซทาน เนื่องจากว่าเธอเพิ่งจะเหนื่อยแล้วยังไม่ได้กินอะไรมาเลย

    อลิซ : โห น่ากินจังเลยนะมิสซึ

    มิสซึ : แน่นอน ฉันทำเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะเลยเนี่ย // อลิซไปนั่งทานอาหารบนโต๊ะ

    มิสซึ : แล้วนี่ ซ่อมที่นี่ถึงไหนแล้วหล่ะ

    อลิซ : ซ่อมหมดแล้วหล่ะ คราวนี้ใครก็เข้ามาไม่ได้แล้ว

    มิสซึ : ดีเลย แล้วเธอจะทำอะไรเพิ่มอีกหล่ะ

    อลิซ : ฉันจะซ่อมปืนแล้วก็ซ่อมเก้าอี้เพิ่มหน่ะ

    มิสซึ : อ้อ เข้าใจหล่ะ แต่ว่าเธอต้องทำเตาผิงด้วยหน่ะ เริ่มจะหนาวแล้ว

    อลิซ : ฉันกำลังทำถ่านและซ่อมเครื่องทำความร้อนเพิ่มหน่ะ

    มิสซึ : เธออยากได้ไม้หรือถ่านเพิ่มก็บอกได้นะ

    อลิซ : ได้สิ แต่ตอนนี้เรายังพอมีเชื้อเพลิงเหลืออยู่นะ

     

    ณ เขตชายแดน หน่วยดอว์นซอร์ดดักฟังสัญญาณของกลุ่มกบฏเซิร์ฟที่ชายแดน พบว่าพวกนั้นกำลังจะเปลี่ยนที่มั่นของพวกเขาไปใกล้เขตเมืองมากขึ้น พวกเขาตรวจสอบถนนที่พวกนั้นจะเดินทางมาจนพบกับถนนเส้นหลัก พร้อมกับปั๊มน้ำมันร้างกลางป่า พวกเขาฆ่าหน่วยสอดแนมของกบฏเซิร์บ จากนั้นก็เตรียมประจำที่ก่อนที่พวกกบฏจะเดินทางมาตามแผ่น

    เควิน : อีริค ถ้าพวกนั้นมาบอกพวกเราด้วยนะ

    อีริค : รับทราบ ฉันเตรียมพร้อมไว้แล้วหล่ะ

    คาสเตอร์ : อยากเห็นหน้าโจเซฟมานานแล้วเนี่ย

    อเล็กซ่า : อย่าเสียสมาธิสิ เดี๋ยวนายก็ได้เห็นแน่

    ซิลเวสเตอร์ : ใจเย็นๆหน่อยเด็กๆ พวกมันกำลังจะมาแล้ว

    อเล็กซานเดอร์ : ทุกคนสามารถจับตายทุกคนได้ ถ้าพวกนั้นไม่ยอมแพ้

    และในระหว่างนั้นเอง อีริคก็เห็นขบวนรถของกลุ่มกบฏ จึงแจ้งให้ทุกคนเตรียมพร้อม

    ทางด้านของโจเซฟ หลังจากที่ขบวนรถของเขาเดินทางมา ในตอนนั้นเองโจเซฟก็เริ่มได้กลิ่นแปลกๆ ดูเหมือนว่ามีคนกำลังดักรอเล่นงานพวกเขาอยู่

    โจเซฟ : ทุกคน เตรียมตัวไว้นะ ดูเหมือนว่ามันแปลกๆหล่ะ

    มากิ : ไม่ต้องห่วงค่ะ หนูเตรียมพร้อมไว้แล้ว

    ซีวิล : อ่า คือ มันเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอครับ

    มากิ : ไม่มีอะไรหรอก นายหลบอยู่หลังฉันก็แล้วกัน

    ซีวิล : แน่นอน ผมคงไม่ไปไหนไกลหรอกน่า

    โจเซฟ : โอเค เตรียมพร้อมเอาไว้ก็แล้วกัน

    หลังจากที่ขบวนรถของเขามาถึงปั๊มน้ำมัน พวกเขาก็ลงจากรถมาในทันที พวกเขาเตรียมพร้อมเนื่องจากว่าไม่เห็นหน่วยสอดแนมของเขาอยู่ที่นั่น

    อเล็กซานเดอร์ : ทุกคน ยิงเลย

    พวกนั้นยิงใส่กลุ่มของโจเซฟ โจเซฟและคนอื่นๆก็หลบอยู่ด้านหลังรถแล้วยิงปะทะกับพวกนั้น ทำเอาเสียงปืนดังสนั่นป่า

    อีริค : ผมเจอตัวโจเซฟแล้ว เอาไงต่อดี

    คาสเตอร์ : ฆ่ามันให้ได้ อย่าให้ฉันต้องแย่งนายฆ่าเลย // คาสเตอร์ยิงปืนกลหนักใส่กลุ่มของโจเซฟ แต่คนของโจเซฟก็มากันมากมายราวกับว่ามากันหมดทั้งทัพ

    อเล็กซ่า : ทุกคน พวกมันมาเยอะมาก เอายังไงต่อ

    ซิลเวสเตอร์ : ฉันจะสกัดพวกมันไว้ พวกนายจัดการโจเซฟให้ได้

    เควิน : ผมจะเรียกกำลังสนับสนุนแถวนี้มาเอง // เควินรีบติดต่อหน่วยที่ใกล้ที่สุด แต่ก็ยังไม่มีใครมา ฝนตอนนั้นเองพวกเขาก็โยนระเบิดใส่เพื่อถล่ม ตอนนั้นเองซีวิลวิ่งหาที่หลบแต่ก็โดนแรงระเบิด ทำเอาเขาหูเกือบหนวก เขาเดินโซซัดโซเซฝ่าแนวกระสุนไปเรื่อยๆ มากิพยายามจะเข้าไปช่วย

    ซีวิล : นี่นาย อย่าออกไปไหนนะ

    ในตอนนั้นเองหน่วยดอว์นซอร์ดต้องรีบถอย เนื่องจากว่ากำลังเสริมของโจเซฟมากันเยอะเกินไป พวกเขารีบถอยกลับเข้าไปในป่า ส่วนกำลังเสริมคนอื่นๆก็รีบไปช่วยโจเซฟในทันที

    ท่านครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ

    โจเซฟ : ฉันไม่เป็นไร แต่ซีวิลหายไปไหนหล่ะ

    มากิ : หนูก็ไม่รู้ค่ะ สงสัยเขาคงไปแถวๆนั้นหน่ะ

    โจเซฟ : สั่งคนออกตามหาเขา แล้วก็ ถ้าเจอพวกดอว์นซอร์ดก็อย่าเพิ่งทำอะไรหล่ะ นายสู้พวกนั้นไม่ได้หรอก

    ครับท่าน

    หลังจากที่ได้รับคำสั่ง พวกนั้นก็ออกเดินทางตามหาซีวิลในทันที

    และในขณะเดียวกันที่ซีวิลวิ่งหนีเข้าไปในป่า จู่ๆเขาก็โดนสันปืนฟาดเข้าที่หน้า จากนั้นเขาก็ล้มลงไปในทันที

    ซีวิล : อย่า อย่าทำอะไรผมเลยครับ

    อีริค : ดูเหมือนว่าเราจะได้ตัวคนของโจเซฟมาแล้วนะ

    คาสเตอร์ : ถ้างั้นก็ฆ่ามันเลยสิ

    อเล็กซ่า : อย่าเพิ่ง เราต้องรีดเอาข้อมูลจากเขาก่อนสิ

    เควิน : ใช่ ดูท่าทางมันขี้กลัวนะ น่าจะพูดง่ายอยู่

    ซิลเวสเตอร์ : เอางี้ พวกนายพามันกลับไปด้วย ฉันจะถามมันเอง // อีริคและคาสเตอร์เมื่อได้รับคำสั่งก็ลากตัวซีวิลไปในทันที

     

    ณ ถนนเส้นหนึ่งในเขตเมือง คีธพาจูซมไปนั่งรถเล่นท่ามกลางสายลมหนาวพัดมาพร้อมกับหิมะสีขาวโพลน พวกเขาทั้งคู่สนุกกันมาก จนกระทั่งพวกเขามาจอดรถแล้วนั่งพักที่ปั๊มน้ำมันร้างแห่งหนึ่งซึ่งเจ้าของทิ้งปั๊มเพื่อหนีสงครามไปแล้ว

    คีธ : ว้าว โชคดีจังที่ยังมีน้ำมันเหลือ // คีธรีบหยิบหัวจ่ายมาเพื่อเติมน้ำมันรถทันที

    จูซม : ฉันหิวจังเลย ยังไม่ได้กินอะไรเลยเนี่ย

    คีธ : อ้อ ไม่รู้ว่าในร้านยังมีอะไรให้กินหรือเปล่านะ

    จูซมรีบเดินเข้าไปในร้าน เธอพยายามหาอาหารตามชั้นวางของและในห้องเก็บสินค้า แล้วเธอก็ไม่ผิดหวังเนื่องจากเธอหาของกินได้จริงๆ และในตอนนั้นเองคีธก็ตามมาดูที่ด้านใน

    คีธ : หาอะไรกินได้หรือยังครับ

    จูซม : ได้แล้วค่ะ ขอกินก่อนเลยนะคะ // จูซมไปนั่งทานอาหารที่หน้าร้านโดยที่คีธคอยดูแลเธอ

    จูซม : คุณไม่กินหน่อยเหรอ

    คีธ : อ้อ ผมไม่หิวหรอกครับตอนนี้

    จูซม : ฉันอยากมาเที่ยวกับคุณทุกวันเลยค่ะ

    คีธ : อ้อ ยินดีครับ

     

    ณ เขตของกลุ่มกบฏ ในตอนนั้นเองเร็นก็ต้องคอยดูแลอเล็กซ์ ลูกชายของอันนา โดยที่พวกเขากำลังรอแม่ของเขามารอรับอยู่

    เอ็ดเวิร์ด : ลูกของอันนาน่ารักนะ ว่างๆเรามามีลูกด้วยกันมั้ยเทเรซ่า

    เทเรซ่า : แหม่ เธอเนี่ย รอจบสงครามนี้ก่อนสิ

    ลูลู่ : แล้วนายหล่ะเดม่อน ไม่คิดจะหาเมียบ้างเหรอ

    เดม่อน : ยังอ่ะ ตอนนี้ฉันมีคนในใจของฉันไว้แล้วหล่ะ

    เทเรซ่า : หะ เธอเนี่ยเหรอเดม่อน อยากรู้จริงๆว่าเป็นใคร

    ลูลู่ : ใช่ หวังว่าจะไม่ใช่แฟนในจินตนาการนะ

    เดม่อน : แน่นอน วันหนึ่งเธอจะได้รู้แน่ๆ

    ในระหว่างที่เร็นกำลังอยู่กับอเล็กซ์ จากนั้นรถกระบะของอันนาก็กลับมายังเขตของกลุ่มกบฏ ในตอนนั้นเองเธอก็ยังตามหาลูกของเธออยู่ตลอด และในระหว่างนั้นเอง เร็นก็พาอเล็กซ์ไปหาแม่ของเขาในทันที เมื่ออเล็กซ์เจอแม่ของเขา อเล็กว์ก็รีบวิ่งเข้าไปหาแม่ของเขาทันที อันนาดีใจมากที่ลูกของเธอยังไม่เป็นอะไร

    อเล็กซ์ : แม่ครับ

    อันนา : อเล็กซ์ ลูกแม่ ลูกยังไม่ตาย // อันนารีบวิ่งเข้าไปกอดอเล็กซ์ในทันที

    อันนา : แม่คิดถึงลูกมากเลยนะ

    อเล็กซ์ : ผมขอโทษที่ออกจากบ้านมานะครับแม่

    อันนา : ไม่เป็นไรจ้ะลูก กลับบ้านกับแม่นะ

    อเล็กซ์ : แม่ครับ พี่เร็นเขาช่วยผมไว้ด้วยหน่ะครับ

    อันนา : ขอบคุณมากนะคะที่ช่วย ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงเร็น

    เร็น : อ้อ ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมขอไปส่งคุณด้วยดีกว่า

    อเล็กซ์ : แม่ครับ คุณปู่เป็นยังไงบ้างครับ

    อันนา : คุณปู่ตายแล้วลูก ลูกอย่าทิ้งแม่ไปไหนอีกนะ

    เร็น : คุณจะกลับบ้านมั้ยครับ ผมจะไปส่งคุณเอง

    อันนา : ฉันว่าจะพากลับค่ะ แต่ฉันยังมีงานที่ต้องทำอีกค่ะ

    เร็น : ถ้างั้นผมจะไปกับคุณเองนะครับ

    และอีกด้านหนึ่ง เทโจกับชินเฮกำลังเดินตามหาคุณอันนาอยู่ ในตอนนั้นเองพวกเขาทั้งคู่ก็ได้เจอคุณอันนาพร้อมกับลูกของเขา ทำให้พวกเขาใจชื้นขึ้นมาในทันที

    ชินเฮ : เทโจ คุณดูสิ คุณอันนาเจอลูกของเธอแล้ว

    เทโจ : จริงด้วยครับ น่าดีใจจังเลยครับ

    ชินเฮ : เยี่ยมเลยค่ะ ฉันดีใจที่สุดเลยนะ // ในตอนนั้นเองชินเฮเผลอไปกอดเทโจ ทำเอาทั้งคู่หน้าแดงก่ำไปเลย

    ชินเฮ : ขอโทษด้วยนะคะ

    เทโจ : ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณจะไปไหนต่อหล่ะครับ

    ชินเฮ : ฉันว่าจะไปหาเพื่อนฉันหน่ะ แล้วคุณหล่ะคะ

    เทโจ : ผมคงจะไปแนวหน้า ไปสู้กับพวกรัฐบาลหน่ะครับ

    ชินเฮ : ฉันว่าคุณพักเรื่องนี้ก่อน แล้วไปส่งฉันหาเพื่อนฉันหน่อยสิ นะคะ

    เทโจ : อ้อ ได้สิครับ // เทโจจูงมือชินเฮไปทันที

     

    ณ ห้องพักของประธานาธิบดี ในตอนนั้นเองประธานาธิบดีกำลังหาทางออกเรื่องสถานการณ์ของกลุ่มกบฏ เตรียมความพร้อมที่จะนำกำลังพลบุกมาใหม่ ในตอนนั้นเอง จู่ๆห้องก็ถูกปิดหมด ประธานาธิบดีหยิบปืนพกใต้โต๊ะเขามา จากนั้นก็เล็งไปยังเป้าหมาย แต่ผู้หญิงคนหนึ่งก็จับปืนแล้วแย่งมาได้อย่างง่ายดาย

    ใจคอนี่คิดจะยิงฉันได้ลงคงเลยเหรอคะที่รัก

    เอสเมอรันด้า นี่เธอจะมาอะไรกับฉันอีก

    ก็ฉันเป็นห่วงคุณเลยมาหายังไงหล่ะ ลูกเราเป็นยังไงบ้างหล่ะ

    ลูกผม ไม่ใช่ลูกคุณซะหน่อย

    แหม่ๆๆ ยังไงเราก็ร่วมทำมาด้วยกันนะ ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง เราอาจเป็นศัตรูกัน แต่ในฐานะครอบครัว เราก็ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่นะคะ นี่แสดงว่าคุณคงคิดถึงฉันมากๆ ยังไม่เห็นมีคนใหม่เลย

    เฮ้อ ฉันไม่ยอมให้เธอมาขวางทางความสำเร็จของฉันหรอก

    ความสำเร็จของคุณมันอาจเป็นความหายนะก็ได้นะคะ

    เธอไม่ต้องมาบอกฉันหรอก ปล่อยฉันไปเถอะ

    เพราะฉันรักคุณฉันถึงไม่ปล่อยให้คุณเป็นแบบนี้ไงในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน จู่ๆก็มีคนมาเคาะประตูห้อง

    ท่านครับ ผมจะพังประตูไปช่วยแล้วครับ

    จากนั้นไม่นาน เอสเมอรันด้าก็กระโดดหน้าต่างหนีออกไปทางด้านนอก

    แล้วเจอกันนะหลังจากที่เธอไปได้ไม่นาน ทหารก็เข้ามาช่วยประธานาธิบดีในห้องทันที

    ท่านครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ

    ฉันไม่เป็นไร แล้วเรื่องบุกเข้าเมืองครั้งใหม่นี่ไปถึงไหนแล้วหล่ะ

    ตอนนี้รัสเซีนรับปากจะส่งอาวุธมาเพิ่มแล้วครับ

    ดี ไปจัดการเรื่องนั้นเถอะ แล้วอีกอย่างไม่ต้องตามล่าเมียฉันด้วย

    คุณเอสเมอรันด้าเหรอครับ แต่ว่า

    นี่เป็นคำสั่ง ไปได้แล้วหลังจากที่มีคำสั่ง ทหารก็ไปเตรียมพร้อมการโจมตีครั้งใหม่ทันที

     

    กลับมายังกลุ่มของดีซ หลังจากที่พวกเขาลอบสังหารผู้พันเซบาสเตียนไม่สำเร็จ พวกเขาและลูกน้องคนอื่นๆก็กลับมายังที่ซ่อนตัวของพวกเขาเพื่อหลบหนีจากการตามล่า หลังจากที่หลบหนีมาได้ พวกเขาก็ประชุมกันในทันที

    เดอร์ริก : เฮ้อ เกือบตายแล้วมั้ยหล่ะพวกเรา

    เอิร์ล : นั่นสิ แล้วแบบนี้จะเอายังไงต่อหล่ะ

    จอห์นนี่ : จากนี้เราคงฆ่ามันลำบากแล้วหล่ะ มันคงเสริมกำลังป้องกันค่ายของมันแน่ๆ

    ดีซ : ฉันรู้ เห็นทีเราคงต้องเปลี่ยนแผนใหม่แล้วหล่ะ พวกนายมีความเห็นอะไรหรือเปล่า

    เอิร์ล : ผมว่านะ หาโอกาสที่มันออกมานอกค่ายจัดการมันดีกว่า

    จอห์นนี่ : แต่ว่าเราต้องมีสายข่าวที่แม่นยำพอนะ

    เดอร์ริก : เรื่องนั่นไม่ต้องห่วง ฉันมีเพื่อนอยู่ในค่ายนั้น เขาน่าจะพอช่วยเราได้

    ดีซ : เห็นทีคงต้องจัดการมันตอนมันเผลอแล้วหล่ะ พวกนายไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่า แล้วค่อยฟังข่าวจากฉันก็แล้วกันนะ

    ดีซเดินออกไปสูบบุหรี่ด้านนอก ส่วนคนอื่นๆก็พากันนั่งพักผ่อนเนื่องจากเหนื่อยกันมามาก

     

    กลับมายังค่ายทหารของเวร่า ในตอนนั้นเองเวร่ากำลังกลุ้มใจกับคำสั่งของรัฐบาลที่สั่งให้เธอปราบกบฏให้ได้ภายใน 1 อาทิตย์ เนื่องจากเธอต้องการให้สงครามยืดเยื้อออกไปและไม่อยากให้กำลังพลของเธอเสียหาย ในตอนนั้นเอง เธอมีเช็คเงินสดอยู่ใบหนึ่ง ราคา 1 ล้านดอลล่าห์ เธอต้องการใช้เงินส่วนนั้นในการซื้อทหารของเธอ เธอจึงเรียกนายทหารของเธอมาคุยด้วยในทันที

    ท่านเวร่าครับ เรียกผมมีอะไรหรือเปล่าครับ

    เวร่า : ฉันถามอะไรหน่อยสิ นายคิดว่าเราจะชนะสงครามนี้หรือเปล่า

    ผมว่า เราน่าจะชนะได้ไม่ยากนะครับ

    เวร่า : งั้นเหรอ แม้ว่าพวกกบฏจะเข้มแข็ง แล้วตอนนี้ทางสหประชาชาติก็เริ่มช่วยเหลือพวกนั้นงั้นเหรอ

    อ่า คือว่า

    เวร่า : ฉันดูออกน่าว่าสงครามครั้งนี้จะจบลงแบบไหน

    ท่านมีอะไรหรือเปล่าครับ

    เวร่า : ฉันก็แค่คิดว่า รัฐบาลนี้คงจะล่มสลายไปอีกไม่นานแน่ๆ

    นี่ท่านจะก่อกบฎเหรอครับ

    เวร่า : นายคิดว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้นานอย่างงั้นเหรอ ฉันมี 1 แสนดอลล่าห์ให้นาย นายจะเอาหรือเปล่า

    แต่ว่า ถ้ารัฐบาลรู้ เราโดนแขวนคอกันหมดแน่ๆครับ

    เวร่า : ตอนนี้รัฐบาลทำอะไรไม่ได้แล้วหล่ะ อีกไม่นาน กองกำลังรักษาความสงบของ UN ก็คงจะบุกมาในไม่ช้า รัฐบาลได้ล่มสลายแน่ๆ เราอยู่ข้างผู้ชนะไมดีกว่าเหรอ

    อ่า ครับท่าน ท่านจะให้ผมทำอะไรหล่ะครับ

    เวร่า : รวบรวมกำลังพลของเราให้ได้มากที่สุด เราจะก่อกบฏแบบเงียบๆ ไม่ให้พวกนั้นรู้ตัว

    ได้ครับท่าน

    ที่โกดังของมาร์ค มาร์คยังคงขายกัญชาและเหล้า รวมถึงอาวุธบางชนิดให้กลุ่มกบฏและทหาร จนเขาได้กำไรอย่างมหาศาล ตอนนี้เขามีทรัพย์สินราว 20 ล้านดอลล่าห์ เขารีบนำเงินไปฟอกแล้วให้ส่งเป็นเช็คกลับมาในทันที และมาร์คก็ได้รับเช็คมาสองใบ ราคา 5 ล้านหนึ่งใบและ 15 ล้านหนึ่งใบ

    มาร์ค : นี่ ของๆเราตอนนี้เหลือมากแค่ไหนแล้วครับ

    เรากำลังซื้อจากต่างประเทศมาเพิ่มครับ

    มาร์ค : อืม ดี เราคงต้องอยู่ที่นี่กันอีกนานเลยหล่ะ

    ท่านครับ แล้วเช็ค 5 ล้านนี่ท่านจะเอาให้ใครครับ

    มาร์ค : นี่เป็นส่วนแบ่งของเวร่าเขาหน่ะ ผมจะให้เขาเอง

    แล้วคุณเวร่าต้องไปจัดการกลุ่มกบฎหรือเปล่าครับ

    มาร์ค : ฉันรู้ว่าคุณเวร่าต้องทำยังไงหน่ะ

    อ้อครับ แล้วที่ท่านให้ผมหาสนามบินพร้อมเครื่องบินให้หล่ะครับ

    มาร์ค : ฉันจะเตรียมหนีไปจากที่นี่กับคุณเวร่าหน่ะ

    ครับ ผมจะรีบหาให้เลยนะครับ

     

    กลับมายังบ้านพักของเจซซิน ทั้งเวสต์และเจซซินรีบกระเตงลูกๆของพวกเขากลับมาที่บ้าน ฝ่าเสียงกระสุนที่อยู่ตามแนวชายแดน วันนี้พวกเขาได้สิ่งของและเสบียงมามาก แต่ก็เกือบจะทำให้ลูกๆของพวกเขาได้รับบาดเจ็บ ในตอนนั้นเองอนาตาเซียก็หลับไปในอ้อมอกของเวสต์ทันทีที่ถึงบ้าน

    เวสต์ : อนาตาเซีย ลูก ฟื้นสิ อย่าเป็นอะไรนะลูก

    เจซซิน : ฉันดูเองค่ะ // เจซซินตรวจชีพจรของอนาตาเซีย

    เจซซิน : คงเหมือนลูกฉันหน่ะ แกคงเหนื่อยเลยหลับไป พาพวกแกไปหลับในบ้านก่อนดีกว่า

    เวสต์ : ได้เลย!!

    พวกเขาทั้งคู่พาอนาตาเซียและอดอลล่าไปหลับบนเตียง จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็กลับลงมาคุยกันที่ด้านล่าง

    เจซซิน : คุณจะเอายังไงต่อหล่ะคะ

    เวสต์ : ผมว่า น่าจะให้เด็กๆฟื้นขึ้นมาก่อนแล้วค่อยว่ากันดีกว่า

    เจซซิน : ความจริงเราได้ของมามากพอแล้วนะคะ

    เวสต์ : ผมก็ว่างั้น ผมว่าผมจะกลับบ้านก่อนหน่ะ แต่เท่าที่ดูอนาตาเซียคงจะหลับไปอีกนานเลยหน่ะ

    เจซซิน : พอๆกับลูกดิฉันเหมือนกันค่ะ

    เวสต์ : เมื่อไหร่สงครามนี่จะจบซะทีเนี่ย

    เจซซิน : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เราควรจะอดทนนะคะ

    เวสต์ : ผมหน่ะอดทนได้ แต่ลูกผมหน่ะสิ

    เจซซิน : จริงด้วย ฉันก็ห่วงอดอลล่าเหมือนกัน

    เวสต์ : ผมคิดว่า ถ้าเรื่องนี้จบ ผมจะกลับอเมริกาหน่ะ

    เจซซิน : เหรอคะ ถ้างั้นก็ขอให้โชคดีนะคะ

    เวสต์ : คุณจะไปกับผมมั้ยครับ ผมพาคุณกับอดอลล่าไปได้

    เจซซิน : อ่า คือว่า….

    เวสต์ : ผมไม่อยากทิ้งคุณกับอดอลล่าไว้ที่นี่หน่ะ มันอันตราย

    เจซซิน : ฉันขอคุยกับลูกฉันก่อนดีกว่านะคะ  

    เวสต์ : ได้สิ แล้วผมจะรอนะ

     

    กลับมายังเขตชานเมือง ฮาเดินทางกลับเข้าไปในเมืองเนื่องจากเธอรู้ว่าทหารพวกนั้นไว้ใจไม่ได้ เธอเดินทางมาเรื่อยๆเพื่อหาของกินเท่าที่เธอจะหาได้ ในระหว่างที่เธอกำลังเดินทาง จู่ๆเสียงปืนใหญ่ก็ดังไปทั่ว แล้วลูกปืนใหญ่ก็ไปตกในตัวเมืองมากมาย เธอต้องหาที่หลบก่อนที่จะโดนลูกปืนใหญ่ไปด้วย

    เฮ้อ คิดจะบุกอีกแล้วเหรอเนี่ย

    ในขณะเดียวกันนั้นเอง เธอก็เห็นชาวบ้านแถวนั้นกำลังหลบระเบิดกัน และในระหว่างนั้นเองเธอก็เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งกำลังล้มลง เธอไม่รอช้ารีบวิ่งไปเอาตัวเด็กคนนั้นเข้ามาด้านในทันที จากนั้นก็พาเธอนอนอยู่ริมกำแพง

    ฮา : ไม่เป็นไรนะจ๊ะหนู ปลอดภัยแล้วนะ

    หนู หนูเจ็บจังเลยค่ะพี่

    ฮาพลิกตัวเด็กคนนนั้นดูด้านหลัง พบว่าเธอโดนสะเก็ดระเบิดลูกใหญ่เข้าให้แล้ว ฮาพอรู้ว่าเด็กคนนี้คงจะไม่รอดแน่ๆ

    หนูเจ็บจังเลยค่ะพี่

    ฮา : ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ หนูหิวมั้ย กินก่อนสิ // ฮายื่นขนมปังให้กับเด็กหญิงคนนั้น เด็กหญิงคนนั้นกินขนมปังอย่างเอร็ดอร่อย

    ฮา : อร่อยมั้ยจ๊ะหนู

    อร่อยดีค่ะพี่ หนูอยากกลับบ้านฮาได้แต่ลูบหัวเด็กผู้หญิงคนนั้น จากนั้นก็ร้องเพลงเด็กปลอบใจเธอ จนเด็กคนนั้นกลับมายิ้มได้อีกครั้ง แต่ตาเธอก็เริ่มจะหลับลง

    ฮา : หนูจ๊ะ หนูจะได้กลับบ้านแน่นอน หนูชื่ออะไรจ๊ะ

    หนูชื่อคลาร่า สไต…” เด็กหญิงคนนั้นยังพูดไม่ทันจบ เธอก็หลับไปซะสนิท ฮาปิดตาเด็กหญิงคนนั้นจากนั้นก็ร้องไห้ออกมา

    ได้กลับบ้านแล้วนะคลาร่า

     

    กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ทุกๆคนที่อยู่ในบ้านต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของพวกเขา ในขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงปืนใหญ่ก็ดังเข้ามาใกล้พวกเขา พวกเขาไม่รอช้ารีบเข้าไปหลบในชั้นใต้ดินทันที แม้ว่าลูกปืนใหญ่จะไม่ตกมาใส่พวกเขาแต่เสียงนั่นก็ทำเอาสิ่งรอบข้างสั่นสะเทือนได้

    นอร์รีน : นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย

    มิเชล : ฉันก็ไม่รู้ อีกไม่นานก็คงจะรู้แน่

    นอร์รีน : ยังไงเธอก็อยู่ใกล้ฉันเอาไว้นะ 

    ===================================================================

    ดูเหมือนว่ารัฐบาลเริ่มจะทำการเคลื่อนไหวอีกครั้ง คราวนี้พวกของนอร์รีนจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า 
    ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครัช

    เพิ่มเติมเกี่ยวกับนิยาย Evillands 
    ไปส่งกันได้เรื่อยๆเน้อ ขาดเยอะมาก 

    https://writer.dek-d.com/shinobinon/writer/view.php?id=1924526


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×