คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : EP 16 : เหตุการณ์ดูปกติ
หลังจากที่อนูวารักษายูจีนเสร็จ เธอก็ปล่อยให้ยูจีนพักผ่อน
ส่วนคนอื่นๆก็ไปพักผ่อนกันตามอัธยาศัย เนื่องจากว่าเหนื่อยกันมามาก
ทางด้านของนอร์รีน นอร์รีนไปนั่งพักอยู่คนเดียวในห้อง ไม่ยอมพูดกับใคร
มิเชลถึงกับต้องตามไปดูเขาในห้องทันที
มิเชล : นอร์รีน เธอเป็นยังไงบ้างอ่ะ ดูซึมๆนะ
นอร์รีน : ไม่มอะไรหรอกครับ ผมแค่เหนื่อยๆหน่ะ
มิเชล : ดูท่าวันนี้จะเหนื่อยกว่าทุกวันเลยนะ
นอร์รีน : ก็ใช่นะ วันนี้ไปก็เจอทหารเป็นสิบพร้อมอาวุธ
เราเกือบหนีไม่ทันหน่ะ
มิเชล : แล้วเธอบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าอ่ะ
นอร์รีน : ไม่หรอก ฉันเป็นห่วงยูจีนมากกว่าหน่ะ
มิเชล : ตอนนี้เธอไม่เป็นไรแล้วหล่ะ
คุณอนูวาดูอาการให้เธอแล้ว
นอร์รีน : ก็หวังไว้แบบนั้นครับ
ทางด้านของยูจีนที่กำลังนอนอยู่
เธอหลับไม่ได้สติเนื่องจากพิษของบาดแผล ยูจีนในตอนนั้นเกิดเห็นหน้าของซิลเวียร์
เธอจึงรีบวิ่งไปหาแล้วคว้าเธอเข้ามากอดในทันที
ยูจีน : เธอรู้มั้ยว่าฉันคิดถึงเธอแค่ไหน
จากนั้นทั้งคู่ก็จูบกันราวกับฟ้าดินจะถล่ม ทุกอย่างดูช่างหวานชื่น
แต่เมื่อยูจีนรู้สึกตัว ก็พบว่าเธอกำลังจูบกับมินโฮโดยที่มินโฮตกใจมาก
ยูจีนรีบผละตัวออกจากเขาในทันทีจากนั้นก็พยายามจะทุบตีเขา
ยูจีน : ไอ้บ้า นี่แกจะลวนลามฉันงั้นเหรอ
มินโฮ : เฮ้ย อะไรกันคุณ คุณนั่นแหละดึงผมไปจูบหน่ะ
ยูจีน : ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นหล่ะ
มินโฮ : ผมจะไปรู้เหรอ คุณคงจะเพิ่งฝันหน่ะ
หลังจากที่ยูจีนได้ยิน เธอก็ร้องไห้อยู่ตรงนั้น
มินโฮเข้ามาดูเธอในทันที
มินโฮ : เป็นอะไรหรือเปล่าหน่ะ
ยูจีน : ช่างฉันเถอะ อย่ามายุ่งกับฉันเลย
มินโฮ : คุณนั่งท่านั้นขามันจะอักเสบเปล่าๆ คุณนอนลงซะ
ผมแค่จะเอาผ้าพันแผลมาให้คุณหน่ะ
จากนั้นไม่นานมินโฮก็เดินออกจากห้องไป
ส่วนยูจีนก็นอนร้องไห้อยู่ตรงนั้น
ทางด้านของโทนี่และเอสเทอร์ ในตอนนั้นเองพวกเขากำลังจะไปเยี่ยมยูจีน
แต่ดันไปเดินสวนกับมินโฮซะก่อน
มินโฮ : ปล่อยให้ยูจีนเธอพักก่อนนะ //
จากนั้นมินโฮก็เดินจากไป
โทนี่ : นี่มันอะไรกัน หมอนั่นไปทำอะไรห้องพี่ฉัน
เอสเทอร์ : หรือว่าเราจะลองไปเปิดห้องเธอดูกันดี
ทั้งคู่เดินไปเปิดห้องของยูจีน
ก็พบยูจีนกำลังหลับไปพร้อมกับน้ำและผ้าพันแผล
โทนี่ : ดูท่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ
เอสเทอร์ : ก็คงจะเป็นแบบนั้นหล่ะ นายหน่ะคิดมาก
โทนี่ : แหม่ มาว่ากันอีก ก็ฉันเป็นห่วงพี่ฉันนี่หว่า
ทางด้านของอลิซและมิสซึ
มิสซึรีบนำของที่สำคัญไปหาอลิซเพื่อที่จะให้เธอดูว่ามีอะไรใช้ได้บาง
ซึ่งในตอนนั้นเองตะวันกับอนูวาก็อยู่ด้วย
อลิซ : มิสซึ นายกลับมาแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง
มิสซึ : ไม่เป็นไรหรอก คุณนอร์รีนช่วยฉันไว้หน่ะ
ตะวัน : วันนี้เราได้ของดีๆมาเพียบเลย วัสดุ ชิ้นส่วนปืน
กระสุน แม้แต่ปืนจริงๆก็มีนะ
อนูวา : โห ได้มาขนาดนี้ถือว่าดีมากเลยนะเนี่ย
มิสซึ : ผมว่านะ งานนี้เราคงจะทำอะไรดีๆได้ล่ะ
อลิซ : โอเค ในส่วนนี้ฉันจะลองทำกระสุนเพิ่มเติม
แล้วก็ประตูเสริมเหล็กด้วย
ตะวัน : ถ้าอย่างงั้นเธอช่วยซ่อมปืนกับมีดพกให้ฉันหน่อยสิ
อนูวา : โห สั่งอย่างกับสั่งขนมเลยนะ
อลิซ : ได้ค่ะ ของง่ายๆแค่นี้เอง
มิสซึ : ผมยังได้อาหารสดเพิ่มเติมด้วย ผมจะทำอาหารให้พรุ่งนี้เองครับ
อลิซ : ให้ไวเลยนะ ฉันกำลังหิวพอดี
ตะวัน : คุณอนูวา คุณได้ฟังวิทยุบ้างหรือเปล่าครับ
มีข่าวอะไรอัพเดทบ้างครับ
อนูวา : อ้อ
ตอนนี้ทางสหประชาชาติเริ่มแทรกแซงแล้วช่วยกลุ่มกบฏแล้วค่ะ
ตะวัน : เยี่ยมไปเลย เรื่องนี้จะได้จบลงซะที
ทางด้านของอลันและฮาน่า
พวกเขาอยู่ที่ห้องชั้นล่างเพื่อนั่งคุยกันและเฝ้ายามให้คนอื่นๆไปด้วย
ฮาน่า : คุณอลันทำไมถึงได้อยากอยู่ที่นี่หล่ะคะ
อลัน : ไลฟ์น้องสาวผมอยู่ที่นี่หน่ะครับ
ฮาน่า : อ้อ เด็กน่ารักคนนั้นเหรอคะ กับผู้ชายแล้วหมาตัวนึง
อลัน : อ้อครับ คุณหมายถึงเอจิสินะ
ฮาน่า : ท่าทางเขาจะชอบน้องสาวคุณนะคะ
อลัน : ก็คงจะเป็นอย่างงั้นหล่ะครับ
ฮาน่า : ว่าแต่ จบเรื่องนี้เราไปอยู่ด้วยกันมั้ยคะ
อลัน : ได้สิ ถ้าคุณอยากอยู่กับผมนะ
ทางด้านของไลฟ์และเอจิ
ในตอนนั้นไลฟ์นอนบนตักของเอจิโดยที่เอจิกำลังเฝ้ายามให้เธอ ส่วนฮาจิก็หลับไปแล้ว
เอจิ : หลับสบายมั้ยครับคุณไลฟ์
ไลฟ์ : ก็ดีนะคะ แต่ฉันรู้สึกหนาวๆค่ะ
เอจิ : เออใช่ นี่จะหน้าหนาวแล้วนี่หน่า
เราต้องมีที่ผิงไฟแล้วหล่ะ
ไลฟ์ : ถ้าอย่างงั้นคงต้องไปบอกอลิซแล้วสินะ
เอจิ : เตาผิงที่อยู่ด้านล่างไม่รู้จะใช้ได้หรือเปล่านะ
เราไม่มีถ่านซะด้วย
ไลฟ์ : ถ้างั้นคงต้องตัดไม้แถวนี้แล้วเผาถ่านแล้วหล่ะ
ทางด้านของซีโร่และบารีร่า
ในตอนนั้นเองบารีร่าเกิดหนาวสั่นเนื่องจากอากาศหนาว ซีโร่ต้องคอยกอดเธอเอาไว้
เขาหาผ้าที่คิดว่าหนาที่สุดมาช่วยคลุมตัวเธอไว้ไม่ให้เธอหนาวไปกว่านี้
ซีโร่ : ไม่เป็นไรนะบารีร่า
บารีร่า : ฉันไม่เป็นไรหรอก แต่ฉันหนาวหน่ะ
ซีโร่ : สงสัยนี่จะเข้าหน้าหนาวแล้วสินะ
บารีร่า : จริงสิ ฉันอยากไปดูหิมะจังเลย
ซีโร่ : ถ้างั้นฉันจะลองออกไปหาเสื้อกันหนาวให้เธอนะ
บารีร่า : ไม่ต้องเลย เธอไม่ต้องไปไหนอีกแล้วนะ
ซีโร่ : แต่ว่า....
บารีร่า : ฉันไม่ยอมให้นายไปไหนอีกแล้วหล่ะ
ถ้าไม่มีเธอฉันจะอยู่ยังไงหล่ะ
กลับมายังหน่วยดอว์นซอร์ด
อเล็กซานเดอร์พาคนอื่นๆเดินทางลัดเลาะมายังป่าในแถบชายแดนซึ่งพวกเขาสงสัยว่าจะเป็นที่กบดานของโจเซฟ
หัวหน้ากบฏเซิร์บ เควินพยายามแกะรอยสัญญาณวิทยุเข้าไปเรื่อยๆในป่าทึบ
จนพวกเขาได้สัญญาณวิทยุที่จะบอกที่ตั้งของพวกนั้น
เควิน : ผมแกะรอยสัญญาณได้แล้วครับตอนนี้
อเล็กซานเดอร์ : จริงเหรอ
พวกมันอยู่ที่ไหนกันหล่ะ
เควิน : เท่าที่ดูความแรงสัญญาณ อยู่ประมาณ 3
ไมล์ห่างจากที่นี่ครับ
อเล็กซานเดอร์ : อีริค
ลองไปสำรวจด้านหน้าหน่อยสิ
อีริครีบวิ่งไปโดยใช้กล้องส่องทางไกลของเขาหาทิศทาง
ในตอนนั้นเองอีริคก็มองไปเห็นค่ายๆหนึ่งที่ตั้งตระหงานอยู่ไกลออกไป
เขาไม่รอช้าวิ่งไปบอกคนอื่นๆในทันที
อีริค : ท่านครับ ตอนนี้เราเจอค่ายๆหนึ่งอยู่กลางป่าครับ
ซิลเวสเตอร์ :
ต้องเป็นค่ายของพวกมันแน่ๆ
คาสเตอร์ : ถ้าง้นเราก็บุกไปฆ่ามันให้หมดเลยสิครับ
ซิลเวสเตอร์ :
5 คนเนี่ยนะ เลิกคิดได้เลย
ไอ้พวกนี้มีแต่หัวรุนแรงทั้งนั้น
อเล็กซ่า : ถ้างั้นเราต้องโจมตีจุดที่มันอ่อนแอที่สุดสินะ
อีริค : เห็นด้วยนะ เราน่าจะหาจุดอ่อนของค่ายแล้วโจมตี
คาสเตอร์ : โธ่เอ้ย หมดสนุกกันเลยทีนี้
อเล็กซ่า : ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงนายก็ได้สนุกแน่ๆ
อเล็กซานเดอร์ : อีริค
เราต้องตรวจสอบดูว่าพวกมันมีมากแค่ไหนนะ
อีริค : รับทราบครับท่าน
ซิลเวสเตอร์ :
ผมว่า เราเล่นงานโจเซฟคนเดียวจะง่ายกว่านะครับ
คาสเตอร์ : แต่ท่านครับ ผมคิดว่าแค่โจเซฟตาย
เรื่องมันก็ไม่จบหรอกครับ
อเล็กซ่า : เอาน่า อย่างน้อยก็จะได้ตัดศัตรูไปได้หนึ่งไง
กลับมายังเขตของกลุ่มกบฏ
หน่วยรบพิเสษไทยได้พยายามติดต่อกับหัวหน้าของกลุ่มกบฏเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ไทยที่หายตัวไป
ท่ามกลางเครื่องบินทิ้งระเบิดที่บินข้ามหัวพวกเขาทั้งวันทั้งคืน
พวกเขาเดินเข้าไปยังตึกแห่งหนึ่งซึงเป็นตึกใหญ่ของกลุ่มกบฏ
จากนั้นก็ไปติดต่อกับหัวหน้ากลุ่มในทันที
อรุณ : ฉันขอติดต่อกับผู้รับผิดชอบที่นี่หน่อย
“เชิญทางนี้เลยครับ”
ชายคนนั้นพาหน่วยรบไทยเดินเข้าไปยังสำนักงานของกลุ่มกบฏ
ซึ่งพวกเขากำลังทำการจัดการอาวุธและเสบียง เงินทุนที่ได้จากสหประชาชาติอยู่
“เอาหล่ะ
แจกจ่ายเงินให้ทหาร พยายามซื้อเสบียงเพิ่มจากหลายๆที่
เราคงต้องรบยืดเยื้ออีกนานแน่ๆ”
“ท่านครับ
มีคนมาขอพบท่านครับ” ชายคนนั้นไปรายงานหัวหน้าของเขา
จากนั้นอรุณก็เดินเข้าไปหาคนที่เป็นหัวหน้าทันที
อรุณ : สวัสดีครับ ผมอรุณ จากหน่วยรบพิเศษกองทัพไทย
“สวัสดีครับ
ผมอาร์เทอร์ รับผิดชอบเขตนี้หน่ะครับ มีอะไรคุยกับผมได้เลยครับ”
เดชา : ครับ คือว่
เราต้องการเบาะแสของทหารไทยที่เครื่องบินตกที่นี่หน่ะครับ
อาร์เทอร์ : ทหารไทยเหรอครับ
จะว่าไปเราเจอชายเอเชียคนหนึ่งตอนที่ประชุมที่นี่ด้วยครับ
เนตร : ผมว่านั่นต้องเป็นผู้พันตะวันแน่ๆเลยครับ
เจตนา : ว่าแต่ คุณพอจะรู้มั้ยครับว่าเขาอยู่ที่ไหน
อาร์เทอร์ : อ้อ เขาชอบไปอยู่กับคนกลุ่มหนึ่งบ่อยๆ
ที่อพาร์ทเม้นท์แถวนี้ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ
จินตโล : งมเช็มชัดๆเลย แถวนี้อพาร์ทเม้นท์เต็มไปหมดนะ
อาร์เทอร์ : แต่อพาร์ทเม้นท์ที่ว่าอยู่ตรงถนนเวสเตอร์ 569
นะครับ
เดชา : ถนนเส้นนั้น ผมเคยเห็นผ่านๆอยู่นะครับ
จินตโล : แสดงว่านายรู้สินะว่ามันอยู่ที่ไหน
อาร์เทอร์ : ว่าแต่
กำลังสหประชาชาติจะว่ายังไงกับเรื่องนี้ครับ
อรุณ : พวกเขากำลังหาทางตอบโต้อยู่ ไม่ต้องห่วงครับ
อาร์เทอร์ : ผมเชื่อว่าคนไทยอย่างคุณรักความยุติธรรมนะ
และผมก็ยังเชื่อแบบนั้น // จากนั้นทั้งคู่ก็จับมือกัน
เจตนา : ผมว่าเรารีบไปตามหาผู้พันกันดีกว่านะครับ
กลับมายัง 7 หนุ่มที่กำลังคุ้มกันสาวๆทั้ง 8
ชีวิตเพื่อให้เธอรอดกลับบ้าน
พวกเขาชักชวนพวกเธอไปหาเพื่อนของเขาที่กำลังรักษาตัวอยู่ พวกเขาเดินทางมาเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงอพาร์ทเม้นท์ที่ซุนฮยอนแบกมินโฮมาถึง
ยู่อี๋ : แน่ใจนะคะว่าเพื่อนคุณอยู่ที่นี่หน่ะ
ซุนฮยอน : แน่ใจสิครับ ผมเป็นคนแบกเขามาที่นี่เองหล่ะครับ
ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ๆก็มีคนเปิดประตูออกมา
คีธ : อ้าว พวกคุณ มาที่นี่ได้ยังไงครับเนี่ย
จูซม : หะ นี่นาย มาทำอะไรที่นี่เนี่ย
คีธ : ผมก็มาเยี่ยมพี่ผมที่นี่หน่ะสิ
ทาเคชิ : ว่าแต่ เพื่อนเราอยู่ที่นี่หรือเปล่าหล่ะ
คีธ : คุณมินโฮเหรอครับ เขาอยู่ด้านในหน่ะครับ
อามินะ : ดีจังเลยนะคะที่มาไม่เสียเที่ยวเนี่ย
จูซม : ว่าแต่ นายจะไปไหนอย่างงั้นเหรอ
คีธ : ผมจะขี่รถไปแจ้งข่าวด้านนอก
อยากไปด้วยกันมั้ยครับ
จูซม : จะดีเหรอ //
เพื่อนๆของเธอทุกคนเชียร์ให้เธอไปกับเขา จนจูซมต้องใจอ่อน
จูซม : โอเค แต่ขับเบาๆหน่อยก็แล้วกันนะ //
คีธพาจูซมนั่งมอไซค์ไปด้วยกัน ส่วนคนอื่นๆก็เข้าไปในอพาร์ทเม้นท์เพื่อเยี่ยมมินโฮ
โดยที่มินโฮอยู่ด้านล่างพอดี
มินโฮ : เฮ้ย พวกนาย มาที่นี่ได้ยังไงกันเนี่ย
อัลเบิร์ต : ก็ซุนฮยอนนำทางมาที่นี่ยังไงหล่ะเพื่อน
ริกโก้ : ใช่ นึกว่านายตายไปแล้วซะอีกนะเนี่ย
ไคล่า : โห เหมือนว่าครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้ากันเลยนะ
ชิสา : นั่นสิ อยากให้ชินเฮมาอยู่ที่นี่จัง
มินโฮ : สาวๆพวกนี้เป็นใครงั้นเหรอ
ดราก้อน : พวกเราได้รับคำสั่งให้คุ้มกันพวกเธอหน่ะ
จียอน : แต่ที่นี่ท่าทางจะอยู่สบายนะคะเนี่ย
ซนแซ : ใช่ๆ อยากอยู่ที่นี่จัง มีห้องพักให้เรามั้ยอ่ะ
มินโฮ : ก็คงจะมีนะครับ ห้องที่นี่เยอะจะตาย
ไซม่อน : เยี่ยมเลย อยากขออยู่ที่นี่จัง
ห้องนี่เดิร์นมากเลย
มีกัส : แต่เราต้องทำงานของเราไม่ใช่เหรอ
ริกโก้ : งานของเราคือคุ้มกันพวกผู้หญิงนี่
เราก็ทำงานอยู่นี่
ซาซอน : ใช่ พวกคุณก็ทำงานกันอยู่นี่นะ
ในระหว่างนั้นเอง นอร์รีนและมิเชลก็ลงมาจากชั้นล่างเพื่อมาดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น
นอร์รีน : อ้าว สวัสดีครับทุกคน
มินโฮ : นี่พวกนาย นี่คุณนอร์รีน
เขาเป็นเจ้าของที่นี่หน่ะ
ทาเคชิ : สวัสดีครับ ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยเพื่อนเรา
มิเชล : ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เพื่อนเธอก็คือเพื่อนฉันหน่ะ
มีกัส : ที่นี่ดูแข็งแรงมากเลยนะครับ
ไม่โดนพวกมันโจมตีด้วย
นอร์รีน : ใช่ครับ เรามีคนซ่อมแซมที่นี่ มีที่ซ่อมอาวุธด้วยครับ
ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ๆก็มีเสียงมาจากริมอพาร์ทเม้นท์
อัลเบิร์ตพาคนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ในตอนนั้นเองสิ่งที่เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังจะออกไปจากอพาร์ทเม้นท์
อัลเบิร์ตวิ่งเข้าไปชาร์จแต่เธอสามารถสู้กับอัลเบิร์ตได้ ดราก้อน ริกโก้
และไซม่อนไม่รอช้าวิ่งเข้าไปช่วยอัลเบิร์ต แต่เธอก็สามารถรับมือคนอื่นๆได้หมด
จนพวกเขาจนปัญญาจะทำอะไร
ไซม่อน : นี่มันคนหรือแรดเนี่ย โคตรทนเลย
“เธอว่าใครแรดจ๊ะพ่อหนุ่ม”
ริกโก้ : นี่แกคิดจะมาทำอะไรที่นี่เนี่ย
“ฉันแค่จะมาช่วยพวกเธอ
เอาข้อความนี่ไปอ่านซะ” จากนั้นเธอก็ออกจาอพาร์ทเม้นท์ไป
มีกัสหยิบข้อความในกระดาษมาอ่านในทันที
ดราก้อน : จดหมายมันเขียนว่าอะไรกันหล่ะ
มีกัส : ได้ยินว่าทางรัฐบาลกำลังเริ่มกวาดล้างและปิดล้อมเมืองนี้หน่ะ
ซุนฮยอน : เธอรู้เยอะขนาดนั้น หรือว่าจะเป็น
คุณเอสเมอรันด้า
ริกโก้ : จะบ้าเหรอ เมียเก่าประธานาธิบดีตายไปนานแล้วเฟ้ย
อัลเบิร์ต : แต่อาจจะเป็นไปได้นะที่เธอยังไม่ตาย
กลับมายังพวกของเอ็ดเวิร์ด
หลังจากที่เร็นพยายามตามหาลูกของอันนาแต่ไม่พบ เขาก็มานั่งพักอยู่ด้านในตึกหลังหนึ่ง
ในขณะที่คนอื่นๆยังต้องคอยตามมาดูเขา
เอ็ดเวิร์ด :
ใจเย็นๆสิ พักหน่อยก็ได้
เร็น : ไม่รู้สิ ฉันตามหามาตั้งนานแล้ว
ยังไม่เจอเขาเลยซะที
เทเรซ่า : เขาอาจจะไม่อยู่ที่นี่แล้วก็ได้นะ
ลูลู่ : หรือไม่ เขาก็อาจจะ.....
เดม่อน : นี่ ไม่ต้องพูดบั่นทอนเลยนะ
แต่ในระหว่างนั้นเอง มีเด็กชายคนหนึ่งมาสะกิดเร็น
จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า
“พี่ครับ
เห็นแม่ผมหรือเปล่าครับ”
เร็นหันมามองเด็กคนนั้น เขาแปลกใจจึงถามเด็กคนนั้นไป
เร็น : เธอเป็นลูกสาวของอันนาใช่หรือเปล่า
“ใช่ครับ
ผมอเล็กซ์ คุณรู้จักแม่ผมเหรอครับ”
เร็น : พี่รู้จักแม่เธอจ้ะ
เดี๋ยวพี่จะพาเธอไปหาแม่เธอเอง
เอ็ดเวิร์ด :
ดูเหมือนว่าเรื่องจะจบดีแล้วสินะ
เทเรซ่า : ว่าแต่ ตอนนี้คุณอันนาหายไปไหนกันนะ
ลูลู่ : ได้ยินว่าออกไปนอกเมือง
แต่แบบนั้นมันอันตรายมากเลยนะ
เดม่อน : เธอมีบัตรผ่านทางนี่ น่าจะกลับมาได้นะ
ที่เขตชายแดน หลังจากที่เธอกลับไปบรรทุกองุ่นอบแห้งที่เธอทำไว้
จะนำมาขายในเมือง ในระหว่างที่เธอขับรถผ่านชายแดน จะไปเยี่ยมบ้านพ่อของเธอ
เมื่อเธอไปถึง เธอก็พบว่าบ้านของพ่อเธอถูกทำลาย
เธอแทบจะเข่าทรุดเมื่อได้เจอกับเหตุการณ์นั้น
เธอรีบเข้าไปดูในบ้านทันทีแต่เธอก็ไม่พบร่างของพ่อเธอเลย
จากนั้นก็มีชาวบ้านคนหนึ่งเดินโซซัดโซเซมาแถวนี้ เธอเห็นจึงรีบเข้าไปถามในทันที
อันนา : ขอโทษนะคะ มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่คะ
“พวกทหารโจมตีที่นี่หน่ะ”
อันนา : ทำไมเขาต้องทำแบบนี้หล่ะคะ
“พวกเขาคิดว่าที่นี่เป็นแหล่งกบดานของพวกกบฏหน่ะ”
อันนา : คุณเห็นคนในบ้านนี้วิ่งออกมาหรือเปล่าคะ
“ทุกคนที่อยู่ในบ้านตายหมด
ผมเองก็เกือบตายครับ”
อันนาถึงกับร้องไห้ทรุดตัวลงอยู่ตรงนั้น ทำเอาชาวบ้านพูดกับเธอว่า
“รีบไปจากที่นี่เถอะ
ที่นี่มันกลายเป็นนรกบนดินไปแล้ว”
อันนา : ไม่ ฉันต้องไปตามหาลูกของฉันในเมืองหน่ะ
“ถ้างั้นก็ขอให้โชคดีก็แล้วกันนะครับ”
อันนารีบไปขึ้นรถกระบะของเธอแล้วขับรถเข้าไปในตัวเมืองทันที
ณ ค่ายทหารในเขตตัวเมือง
กลุ่มของดีซได้นำพรรคพวกของเขามาเพื่อลอบสังหารผู้พันเซบาสเตียน
พวกเขาจัดการกับทหารที่อยู่รอบนอกจนหมด
จากนั้นพวกเขาก็ไปสังเกตการณ์อยู่บนหอคอยสูง จากนั้นก็วางแผนกันในทันที
จอห์นนี่ : เท่าที่ดูมีทหารอยู่สองกองร้อยคุ้มกัน
มีปืนกลและอาวุธหนักด้วย
ดีซ : เราสนใจแต่ผู้พันเซบาสเตียนดีกว่า
เดอร์ริก : จริงด้วย ห้องพักของมันน่าจะอยู่ตรงนั้น
ไม่มีการคุ้มกันด้วย // เดอร์ริกชี้ไปยังห้องๆหนึ่งในอาคาร
เอิร์ล : โอเค ไปประจำตำแหน่งกันเลยทุกคน
พวกเขาแยกย้านกันไปประจำตำแหน่งตามที่ได้วางแผนกัน
เขาเล็งไปในห้องของผู้พันเซบาสเตียน ซึ่งผู้พันกำลังนั่งตรวจเอกสารอยู่
ดีซ : เอาหล่ะทุกคน ยิงได้เลย
แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังจะยิง
ผู้พันเซบาสเตียนเผลอทำดินสอหล่นจึงก้มลงไปหยิบ ทำให้กระสุนพลาดไปโดนทหารในห้อง
จอห์นนี่ : ตายหล่ะ ยิงถล่มเข้าไปเลย
พวกเขากระน่ำยิงเข้าไปในห้องของผู้พัน แต่ผู้พันก็หมอบลงบนพื้น
จากนั้นเขาก็กดสัญญาณเตือนให้ทหารรู้ตัว
เอิร์ล : แย่แล้ว พวกมันกดสัญญาณแล้ว
เดอร์ริก : รีบไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า
ผู้พันเซบาสเตียนสั่งทหารให้ตามล่ามือปืนพวกนั้น
เหล่าทหารพยายามจะไปจับตัวพวกของดีซแต่คนของดีซสกัดพวกมันเอาไว้ได้ก่อน
จากนั้นพวกเขาก็มารวมตัวกันที่จุดนัดพบ
เอิร์ล : บ้าเอ้ย เกือบฆ่ามันได้อยู่แล้วเชียว
จอห์นนี่ : แบบนี้คงต้องเปลี่ยนแผนใหม่เลย หัวหน้าว่าไงครับ
ดีซ : ต่อไปมันคงสั่งคนมาคุ้มกันแน่ๆ
กลับไปเริ่มต้นใหม่ดีกว่า
เดอร์ริก : เห็นด้วยนะครับหัวหน้า
กลับมายังโกดังของมาร์ค
หลังจากที่มาร์คและเวร่าร่วมรักกันอย่างจัดหนักจัดเต็ม
ในตอนนั้นเองลูกน้องทั้งของมาร์คและเวร่าก็ขอเข้ามาในห้องเพื่อรายงานข่าวกับเขาทั้งคู่
เวร่าใส่แค่ผ้าขนหนูผืนเดียวไปเรียกคนของเธอมา
เวร่า : มีอะไรถึงมารบกวนฉันตอนนี้
“ท่านครับ
ตอนนี้ทางรัฐบาลกดดันให้ท่านบุกโจมตีพวกกบฏครับ”
เวร่า : ก็รายงานไป พวกกบฏเข้มแข็งมาก
ฉันพยายามจะปราบแล้ว
“แต่ว่า
ทางรัฐบาลบอกถ้ายังไม่มีความคืบหน้าใน 1 อาทิตย์ เขาจะปลดคุณจากการป็ผู้บัญชาการครับ”
มาร์ค : อะไรกัน ตอนนี้รัฐบาลไม่มีน้ำยาแล้วเหรอ
เวร่า : ก็คงจะเป็นแบบนั้นค่ะ
เห็นทีฉันต้องทำอะไรหน่อยแล้วหล่ะ
มาร์ค : คุณอย่าบอกนะว่าคุณจะโจมตีเลยเนี่ย
เวร่า : แน่นอน แต่ไม่ถึงกับให้พวกมันตายกันหมดหรอก
มาร์ค : นี่แก ออกไปข้างนอกก่อนได้หรือเปล่าวะ //
มาร์คสั่งลูกน้องของเวร่า
“คุณเป็นใครถึงมาสั่งผม”
เวร่า : อย่าเสียมารยาทกับเขา แกต้องฟังเขาด้วย //
ทหารคนนั้นเดินออกไปอย่างเสียหน้า
มาร์ค : ว่าแต่ คุณวางแผนหาทางหนีหรือยังล่ะ
เวร่า : แน่นอน ฉันมีเช็คจากธนาคารสวิสของคุณ
ฉันจะหนีไปแคนาคาหน่ะ
มาร์ค : ผมก็เหมือนกัน ผมลงทุนกับธุรกิจชาวจีนที่นั่นด้วย
// ในตอนนั้นเองลูกน้องของมาร์คก็เดินมาหาเขา
“นายครับ
เราขายเหล้าและยาได้อีกแล้วครับ พวกเขาขอสั่งซื้อ 5 ล้านดอลล่าห์เลยครับ”
มาร์ค : เยี่ยมมาก ขนของไปขายให้พวกเขา
เอาเงินไปฟอกแล้วเอาเช็คมาให้ฉันสองใบ ใบละ 2.5 ล้านนะเฟ้ย
“ครับนาย”
เวร่า : ฉันว่า กว่าจะจบเรื่องนี้
เราคงได้กำไรอื้อซ่ากันเลยหล่ะ
มาร์ค : แน่นอนครับ อย่างต่ำคงจะสิบล้านได้หน่ะ
เวร่า : เยี่ยม
ตอนนี้ฉันขอตัวไปทำงานของฉันก่อนก็แล้วกันนะ
มาร์ค : เดี๋ยวผมไปส่งให้ก็แล้วกันนะ
ณ เขตชายแดนโซราติก ที่มั่นของกลุ่มกบฏเซิร์บ
ลูกน้องของโจเซฟได้ตั้งค่ายและคุ้มกันความปลอดภัยให้กับโจเซฟ
เนื่องจากโจเซฟเชื่อว่าพวกหน่วยพิเศษจะมาจัดการเขาแน่ๆ
และในตอนนั้นเองเขาก็สั่งรถของเขาไปส่งยังเขตที่มั่นใหม่ที่ใกล้กับตัวเมืองมากขึ้น
แล้วเขตนั้นมีคนมากพอจะคุ้มกันเขาด้วย
มากิ : พ่อคะ หนูเตรียมรถให้พ่อแล้วหล่ะค่ะ
โจเซฟ : ดีมาก เฮ้ยนี่ซีวิล เดี๋ยวไปขึ้นรถกัน
ซีวิล : อ้าว นี่เราจะไปไหนกันครับเนี่ย
โจเซฟ : เราจะไปจากที่นี่ ไปที่ค่ายใหม่หน่ะ
มากิ : เรามีที่กบดานใหม่ให้คุณหน่ะ ปลอดภัยด้วยนะ
ซีวิล : เอางั้นเหรอครับ
โจเซฟ : แน่นอน รีบไปขึ้นรถดีกว่า
พวกเขาทั้งสามคนรีบไปขึ้นรถจิ๊ปทหารที่เตรียมไว้แล้ว
แต่ซีวิลมีลางสังหรณ์แปลกๆกับเรื่องนี้มาก
เพราะเรื่องการเอาตัวรอดไอ้หมอนี่ที่หนึ่งอยู่แล้ว
มากิ : ซีวิล คุณเป็นอะไรหรือเปล่า
ซีวิล : เปล่าหน่ะ ผมแค่สังหรณ์ใจนิดหน่อยหน่ะ
โจเซฟ : จะกลัวอะไรหล่ะ รีบไปจากที่นี่ดีกว่าน่า
ณ เขตเมืองหลวง ใกล้เขตของกลุ่มกบฏ
เวสต์และเจซซินพาลูกๆของพวกเขาเดินทางไปหาเสบียงในเขตของกลุ่มกบฏ
ซึ่งที่นั่นค่อนข้างจะอันตราย ความจริงพวกเขาอยากให้ลูกๆอยู่ที่บ้าน
แต่ทำยังไงได้หล่ะ อยู่ที่บ้านอันตรายกว่า พวกเขาเลยจำต้องพามาด้วย ในตอนนั้นเอง
พวกเขาก็เห็นทหารจำนวนหนึ่งกำลังจัดการเสบียงอยู่ตรงนั้น
เขาจึงปรึกษากับเจซซินว่าจะเอายังไงต่อ
เวสต์ : คุณเจซซิน ทำไมมีทหารที่นี่ด้วยหน่ะ
เจซซิน : ฉันว่า พวกนั้นคงจะยึดที่นี่ไว้แล้วหล่ะ เด็กๆ
ยังไหวหรือเปล่า // เด็กสองคนนั้นนอนงีบด้วยกันอยู่ข้าวถนน
เจซซินจึงต้องไปปลุกพวกเขาทั้งคู่
อดอลล่า : แม่ ปลุกหนูทำไมเหรอเนี่ย กำลังฝันดีเลย
เจซซิน : หลับแบบนี้แล้วยังจะมากับแม่อีกนะ
อนาตาเซีย : เออพ่อ พ่อไปหาของก่อนได้เปล่า
ผมขอนอนแถวนี้ก่อนนะ
เวสต์ : ตามพ่อมาก่อน เดี๋ยวพ่อหาที่นอนให้นะ
พวกเขาพากันบุกเข้าไปในค่าย จัดการทหารยามที่เฝ้าอยู่แถวนั้นทีละคน
ทำเอาพวกนั้นไม่ทันตั้งตัว จากนั้นเองพวกเขาก็มาถึงที่เก็บรวบรวมเสบียง
จากนั้นเด็กสองคนก็แอบหลับในเต้นท์ๆหนึ่งแถวนั้น ส่วนพ่อแม่ของเด็กๆก็จัดการรวบรวมเสีบยงมาให้ได้มากที่สุด
แต่ในระหว่างนั้นเอง จู่ๆก็มีทหารสองคนจับเด็กสองคนนั้นไว้เป็นตัวประกัน
เวสต์และเจซซินตกใจมากไม่รู้จะทำอย่างไร
“พวกแก
คืนเสบียงให้เรา ไม่งั้นเด็กพวกนี้ตายแน่”
อนาตาเซีย : พ่อครับ ช่วยผมด้วยครับพ่อ
อดอลล่า : นี่ แม่ฉันเป็นนักรบที่เก่งที่สุดนะ
แม่ฉันจะเล่นงานพวกแก
“ปากดีนะไอ้เด็กพวกนี้
อยากตายหรือไง”
เวสต์ชักปืนออกมายิงหัวมัน ในตอนนั้นพวกมันจะยิงอดอลล่า แต่เจซซินใช้มีดพกของเธอขว้างไปที่ข้อมือของมัน
อดอลล่าได้จังหวะจึงเหยียบเท้ามันแล้วจะพาอนาตาเซียหนี
มันจะชักปืนยิงเด็กๆแต่เวสต์จับกระบอกปืนของมันแล้วก็หมุนไปด้านหลังของมันให้รัดคอมันจนตาย
จากนั้นพวกเขาก็รีบไปดูเด็กๆในทันที
เจซซิน : เป็นยังไงบ้างลูก เจ็บตรงไหนหรือเปล่า
อดอลล่า : ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
หนูรู้ยังไงหนูแม่ต้องช่วยหนูได้แน่ๆ
เวสต์ : แล้วลูกหล่ะ ยืนขาแข็งเลยเชียวนะเนี่ย
อนาตาเซีย : แหม่ ก็ลองโดนปืนจ่อหัวดูสิครับคุณพ่อเวสต์
เวสต์ : แนะ ปากแบบนี้ตลอดเลยนะ ผมว่าเราไปจากที่นี่กันดีกว่านะครับ
นี่ก็ใกล้จะเช้าหล่ะ
เจซซิน : นั่นสิคะ รีบไปจากที่นี่กันเถอะเด็กๆ
กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน
ในขณะที่พวกเขากำลังช่วยกันต้อนรับสมาชิกใหม่ที่มาถึง
แต่พักหนึ่งพวกของอัลเบิร์ตก็เดินกลับมาจากทางด้านข้างของอพาร์ทเม้นท์ ในตอนนั้นเองนอร์รีนก็สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นั่น
นอร์รีน : มีอะไรกันหรือเปล่าครับ
อัลเบิร์ต : ท่าทางที่นี่จะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาหน่ะครับ
มิเชล : ตายแล้ว แบบนี้จะเป็นอันตรายหรือเปล่าครับ
ดราก้อน : ไม่หรอกครับ ผมรู้จักเธอดี เธอไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก
ทาเคชิ : นี่ ว่าแต่มันเป็นใครกันแน่ // อัลเบิร์ตยื่นข้อความให้ทาเคชิอ่าน
ทาเคชิอ่านจึงเข้าใจว่าคนเขียนเป็นใคร
ไลฟ์ : มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าคะ
เอจิ : หรือว่าพวกนายมีลับลมคมในอะไรกันหรือเปล่า
ริกโก้ : อะไรกันพวก อย่าเพิ่งปอดแหกสิ
อลัน : แกว่าใครกันปอดแหกกันวะ
มินโฮ : หยุดเดี๋ยวนี้เลย อย่าเพิ่งปากดีตอนนี้สิริกโก้
ทาเคชิ : เธอคือเมียเก่าประธานาธิบดีหน่ะครับ
มิสซึ : เมียเก่า ทำไมไม่จับตัวมาเรียกค่าไถ่เลยหล่ะ
อลิซ : จะได้ผลเหรอ ก็เขาบอกอยู่นี่ว่าเป็นเมียเก่าหน่ะ
ทาเคชิ : ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ยังไงคืนนี้ทุกคนก็ปลอดภัยกันแน่
ไปพักผ่อนกันดีกว่าครับ
นอร์รีน : นั่นสิครับ วันนี้พวกเราแยกย้ายกันดีกว่านะ
======================================================================
ดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะยังดูปกติ แต่เอสเมอรันด้ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่ อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ผมมีนิยายใหม่ ไปสมัครด้วยเน้อ
https://writer.dek-d.com/dekd/writer/view.php?id=1924526
ความคิดเห็น