ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My War - สงครามที่ไม่ได้เลือก

    ลำดับตอนที่ #22 : EP 16 : เหตุการณ์ดูปกติ

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 62


    หลังจากที่อนูวารักษายูจีนเสร็จ เธอก็ปล่อยให้ยูจีนพักผ่อน ส่วนคนอื่นๆก็ไปพักผ่อนกันตามอัธยาศัย เนื่องจากว่าเหนื่อยกันมามาก ทางด้านของนอร์รีน นอร์รีนไปนั่งพักอยู่คนเดียวในห้อง ไม่ยอมพูดกับใคร มิเชลถึงกับต้องตามไปดูเขาในห้องทันที

    มิเชล : นอร์รีน เธอเป็นยังไงบ้างอ่ะ ดูซึมๆนะ

    นอร์รีน : ไม่มอะไรหรอกครับ ผมแค่เหนื่อยๆหน่ะ

    มิเชล : ดูท่าวันนี้จะเหนื่อยกว่าทุกวันเลยนะ

    นอร์รีน : ก็ใช่นะ วันนี้ไปก็เจอทหารเป็นสิบพร้อมอาวุธ เราเกือบหนีไม่ทันหน่ะ

    มิเชล : แล้วเธอบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าอ่ะ

    นอร์รีน : ไม่หรอก ฉันเป็นห่วงยูจีนมากกว่าหน่ะ

    มิเชล : ตอนนี้เธอไม่เป็นไรแล้วหล่ะ คุณอนูวาดูอาการให้เธอแล้ว

    นอร์รีน : ก็หวังไว้แบบนั้นครับ

    ทางด้านของยูจีนที่กำลังนอนอยู่ เธอหลับไม่ได้สติเนื่องจากพิษของบาดแผล ยูจีนในตอนนั้นเกิดเห็นหน้าของซิลเวียร์ เธอจึงรีบวิ่งไปหาแล้วคว้าเธอเข้ามากอดในทันที

    ยูจีน : เธอรู้มั้ยว่าฉันคิดถึงเธอแค่ไหน

    จากนั้นทั้งคู่ก็จูบกันราวกับฟ้าดินจะถล่ม ทุกอย่างดูช่างหวานชื่น แต่เมื่อยูจีนรู้สึกตัว ก็พบว่าเธอกำลังจูบกับมินโฮโดยที่มินโฮตกใจมาก ยูจีนรีบผละตัวออกจากเขาในทันทีจากนั้นก็พยายามจะทุบตีเขา

    ยูจีน : ไอ้บ้า นี่แกจะลวนลามฉันงั้นเหรอ

    มินโฮ : เฮ้ย อะไรกันคุณ คุณนั่นแหละดึงผมไปจูบหน่ะ

    ยูจีน : ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นหล่ะ

    มินโฮ : ผมจะไปรู้เหรอ คุณคงจะเพิ่งฝันหน่ะ

    หลังจากที่ยูจีนได้ยิน เธอก็ร้องไห้อยู่ตรงนั้น มินโฮเข้ามาดูเธอในทันที

    มินโฮ : เป็นอะไรหรือเปล่าหน่ะ

    ยูจีน : ช่างฉันเถอะ อย่ามายุ่งกับฉันเลย

    มินโฮ : คุณนั่งท่านั้นขามันจะอักเสบเปล่าๆ คุณนอนลงซะ ผมแค่จะเอาผ้าพันแผลมาให้คุณหน่ะ

    จากนั้นไม่นานมินโฮก็เดินออกจากห้องไป ส่วนยูจีนก็นอนร้องไห้อยู่ตรงนั้น

    ทางด้านของโทนี่และเอสเทอร์ ในตอนนั้นเองพวกเขากำลังจะไปเยี่ยมยูจีน แต่ดันไปเดินสวนกับมินโฮซะก่อน

    มินโฮ : ปล่อยให้ยูจีนเธอพักก่อนนะ // จากนั้นมินโฮก็เดินจากไป

    โทนี่ : นี่มันอะไรกัน หมอนั่นไปทำอะไรห้องพี่ฉัน

    เอสเทอร์ : หรือว่าเราจะลองไปเปิดห้องเธอดูกันดี

    ทั้งคู่เดินไปเปิดห้องของยูจีน ก็พบยูจีนกำลังหลับไปพร้อมกับน้ำและผ้าพันแผล

    โทนี่ : ดูท่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ

    เอสเทอร์ : ก็คงจะเป็นแบบนั้นหล่ะ นายหน่ะคิดมาก

    โทนี่ : แหม่ มาว่ากันอีก ก็ฉันเป็นห่วงพี่ฉันนี่หว่า

    ทางด้านของอลิซและมิสซึ มิสซึรีบนำของที่สำคัญไปหาอลิซเพื่อที่จะให้เธอดูว่ามีอะไรใช้ได้บาง ซึ่งในตอนนั้นเองตะวันกับอนูวาก็อยู่ด้วย

    อลิซ : มิสซึ นายกลับมาแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง

    มิสซึ : ไม่เป็นไรหรอก คุณนอร์รีนช่วยฉันไว้หน่ะ

    ตะวัน : วันนี้เราได้ของดีๆมาเพียบเลย วัสดุ ชิ้นส่วนปืน กระสุน แม้แต่ปืนจริงๆก็มีนะ

    อนูวา : โห ได้มาขนาดนี้ถือว่าดีมากเลยนะเนี่ย

    มิสซึ : ผมว่านะ งานนี้เราคงจะทำอะไรดีๆได้ล่ะ

    อลิซ : โอเค ในส่วนนี้ฉันจะลองทำกระสุนเพิ่มเติม แล้วก็ประตูเสริมเหล็กด้วย

    ตะวัน : ถ้าอย่างงั้นเธอช่วยซ่อมปืนกับมีดพกให้ฉันหน่อยสิ

    อนูวา : โห สั่งอย่างกับสั่งขนมเลยนะ

    อลิซ : ได้ค่ะ ของง่ายๆแค่นี้เอง

    มิสซึ : ผมยังได้อาหารสดเพิ่มเติมด้วย ผมจะทำอาหารให้พรุ่งนี้เองครับ

    อลิซ : ให้ไวเลยนะ ฉันกำลังหิวพอดี

    ตะวัน : คุณอนูวา คุณได้ฟังวิทยุบ้างหรือเปล่าครับ มีข่าวอะไรอัพเดทบ้างครับ

    อนูวา : อ้อ ตอนนี้ทางสหประชาชาติเริ่มแทรกแซงแล้วช่วยกลุ่มกบฏแล้วค่ะ

    ตะวัน : เยี่ยมไปเลย เรื่องนี้จะได้จบลงซะที

    ทางด้านของอลันและฮาน่า  พวกเขาอยู่ที่ห้องชั้นล่างเพื่อนั่งคุยกันและเฝ้ายามให้คนอื่นๆไปด้วย

    ฮาน่า : คุณอลันทำไมถึงได้อยากอยู่ที่นี่หล่ะคะ

    อลัน : ไลฟ์น้องสาวผมอยู่ที่นี่หน่ะครับ

    ฮาน่า : อ้อ เด็กน่ารักคนนั้นเหรอคะ กับผู้ชายแล้วหมาตัวนึง

    อลัน : อ้อครับ คุณหมายถึงเอจิสินะ

    ฮาน่า : ท่าทางเขาจะชอบน้องสาวคุณนะคะ

    อลัน : ก็คงจะเป็นอย่างงั้นหล่ะครับ

    ฮาน่า : ว่าแต่ จบเรื่องนี้เราไปอยู่ด้วยกันมั้ยคะ

    อลัน : ได้สิ ถ้าคุณอยากอยู่กับผมนะ

    ทางด้านของไลฟ์และเอจิ ในตอนนั้นไลฟ์นอนบนตักของเอจิโดยที่เอจิกำลังเฝ้ายามให้เธอ ส่วนฮาจิก็หลับไปแล้ว

    เอจิ : หลับสบายมั้ยครับคุณไลฟ์

    ไลฟ์ : ก็ดีนะคะ แต่ฉันรู้สึกหนาวๆค่ะ

    เอจิ : เออใช่ นี่จะหน้าหนาวแล้วนี่หน่า เราต้องมีที่ผิงไฟแล้วหล่ะ

    ไลฟ์ : ถ้าอย่างงั้นคงต้องไปบอกอลิซแล้วสินะ

    เอจิ : เตาผิงที่อยู่ด้านล่างไม่รู้จะใช้ได้หรือเปล่านะ เราไม่มีถ่านซะด้วย

    ไลฟ์ : ถ้างั้นคงต้องตัดไม้แถวนี้แล้วเผาถ่านแล้วหล่ะ

    ทางด้านของซีโร่และบารีร่า ในตอนนั้นเองบารีร่าเกิดหนาวสั่นเนื่องจากอากาศหนาว ซีโร่ต้องคอยกอดเธอเอาไว้ เขาหาผ้าที่คิดว่าหนาที่สุดมาช่วยคลุมตัวเธอไว้ไม่ให้เธอหนาวไปกว่านี้

    ซีโร่ : ไม่เป็นไรนะบารีร่า

    บารีร่า : ฉันไม่เป็นไรหรอก แต่ฉันหนาวหน่ะ

    ซีโร่ : สงสัยนี่จะเข้าหน้าหนาวแล้วสินะ

    บารีร่า : จริงสิ ฉันอยากไปดูหิมะจังเลย

    ซีโร่ : ถ้างั้นฉันจะลองออกไปหาเสื้อกันหนาวให้เธอนะ

    บารีร่า : ไม่ต้องเลย เธอไม่ต้องไปไหนอีกแล้วนะ

    ซีโร่ : แต่ว่า....

    บารีร่า : ฉันไม่ยอมให้นายไปไหนอีกแล้วหล่ะ ถ้าไม่มีเธอฉันจะอยู่ยังไงหล่ะ

     

    กลับมายังหน่วยดอว์นซอร์ด อเล็กซานเดอร์พาคนอื่นๆเดินทางลัดเลาะมายังป่าในแถบชายแดนซึ่งพวกเขาสงสัยว่าจะเป็นที่กบดานของโจเซฟ หัวหน้ากบฏเซิร์บ เควินพยายามแกะรอยสัญญาณวิทยุเข้าไปเรื่อยๆในป่าทึบ จนพวกเขาได้สัญญาณวิทยุที่จะบอกที่ตั้งของพวกนั้น

    เควิน : ผมแกะรอยสัญญาณได้แล้วครับตอนนี้

    อเล็กซานเดอร์ : จริงเหรอ พวกมันอยู่ที่ไหนกันหล่ะ

    เควิน : เท่าที่ดูความแรงสัญญาณ อยู่ประมาณ 3 ไมล์ห่างจากที่นี่ครับ

    อเล็กซานเดอร์ : อีริค ลองไปสำรวจด้านหน้าหน่อยสิ

    อีริครีบวิ่งไปโดยใช้กล้องส่องทางไกลของเขาหาทิศทาง ในตอนนั้นเองอีริคก็มองไปเห็นค่ายๆหนึ่งที่ตั้งตระหงานอยู่ไกลออกไป เขาไม่รอช้าวิ่งไปบอกคนอื่นๆในทันที

    อีริค : ท่านครับ ตอนนี้เราเจอค่ายๆหนึ่งอยู่กลางป่าครับ

    ซิลเวสเตอร์ : ต้องเป็นค่ายของพวกมันแน่ๆ

    คาสเตอร์ : ถ้าง้นเราก็บุกไปฆ่ามันให้หมดเลยสิครับ

    ซิลเวสเตอร์ : 5 คนเนี่ยนะ เลิกคิดได้เลย ไอ้พวกนี้มีแต่หัวรุนแรงทั้งนั้น

    อเล็กซ่า : ถ้างั้นเราต้องโจมตีจุดที่มันอ่อนแอที่สุดสินะ

    อีริค : เห็นด้วยนะ เราน่าจะหาจุดอ่อนของค่ายแล้วโจมตี

    คาสเตอร์ : โธ่เอ้ย หมดสนุกกันเลยทีนี้

    อเล็กซ่า : ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงนายก็ได้สนุกแน่ๆ

    อเล็กซานเดอร์ : อีริค เราต้องตรวจสอบดูว่าพวกมันมีมากแค่ไหนนะ

    อีริค : รับทราบครับท่าน

    ซิลเวสเตอร์ : ผมว่า เราเล่นงานโจเซฟคนเดียวจะง่ายกว่านะครับ

    คาสเตอร์ : แต่ท่านครับ ผมคิดว่าแค่โจเซฟตาย เรื่องมันก็ไม่จบหรอกครับ

    อเล็กซ่า : เอาน่า อย่างน้อยก็จะได้ตัดศัตรูไปได้หนึ่งไง

     

    กลับมายังเขตของกลุ่มกบฏ หน่วยรบพิเสษไทยได้พยายามติดต่อกับหัวหน้าของกลุ่มกบฏเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ไทยที่หายตัวไป ท่ามกลางเครื่องบินทิ้งระเบิดที่บินข้ามหัวพวกเขาทั้งวันทั้งคืน พวกเขาเดินเข้าไปยังตึกแห่งหนึ่งซึงเป็นตึกใหญ่ของกลุ่มกบฏ จากนั้นก็ไปติดต่อกับหัวหน้ากลุ่มในทันที

    อรุณ : ฉันขอติดต่อกับผู้รับผิดชอบที่นี่หน่อย

    เชิญทางนี้เลยครับ

    ชายคนนั้นพาหน่วยรบไทยเดินเข้าไปยังสำนักงานของกลุ่มกบฏ ซึ่งพวกเขากำลังทำการจัดการอาวุธและเสบียง เงินทุนที่ได้จากสหประชาชาติอยู่

    เอาหล่ะ แจกจ่ายเงินให้ทหาร พยายามซื้อเสบียงเพิ่มจากหลายๆที่ เราคงต้องรบยืดเยื้ออีกนานแน่ๆ

    ท่านครับ มีคนมาขอพบท่านครับชายคนนั้นไปรายงานหัวหน้าของเขา จากนั้นอรุณก็เดินเข้าไปหาคนที่เป็นหัวหน้าทันที

    อรุณ : สวัสดีครับ ผมอรุณ จากหน่วยรบพิเศษกองทัพไทย

    สวัสดีครับ ผมอาร์เทอร์ รับผิดชอบเขตนี้หน่ะครับ มีอะไรคุยกับผมได้เลยครับ

    เดชา : ครับ คือว่ เราต้องการเบาะแสของทหารไทยที่เครื่องบินตกที่นี่หน่ะครับ

    อาร์เทอร์ : ทหารไทยเหรอครับ จะว่าไปเราเจอชายเอเชียคนหนึ่งตอนที่ประชุมที่นี่ด้วยครับ

    เนตร : ผมว่านั่นต้องเป็นผู้พันตะวันแน่ๆเลยครับ

    เจตนา : ว่าแต่ คุณพอจะรู้มั้ยครับว่าเขาอยู่ที่ไหน

    อาร์เทอร์ : อ้อ เขาชอบไปอยู่กับคนกลุ่มหนึ่งบ่อยๆ ที่อพาร์ทเม้นท์แถวนี้ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ

    จินตโล : งมเช็มชัดๆเลย แถวนี้อพาร์ทเม้นท์เต็มไปหมดนะ

    อาร์เทอร์ : แต่อพาร์ทเม้นท์ที่ว่าอยู่ตรงถนนเวสเตอร์ 569 นะครับ

    เดชา : ถนนเส้นนั้น ผมเคยเห็นผ่านๆอยู่นะครับ

    จินตโล : แสดงว่านายรู้สินะว่ามันอยู่ที่ไหน

    อาร์เทอร์ : ว่าแต่ กำลังสหประชาชาติจะว่ายังไงกับเรื่องนี้ครับ

    อรุณ : พวกเขากำลังหาทางตอบโต้อยู่ ไม่ต้องห่วงครับ

    อาร์เทอร์ : ผมเชื่อว่าคนไทยอย่างคุณรักความยุติธรรมนะ และผมก็ยังเชื่อแบบนั้น // จากนั้นทั้งคู่ก็จับมือกัน

    เจตนา : ผมว่าเรารีบไปตามหาผู้พันกันดีกว่านะครับ

     

    กลับมายัง 7 หนุ่มที่กำลังคุ้มกันสาวๆทั้ง 8 ชีวิตเพื่อให้เธอรอดกลับบ้าน พวกเขาชักชวนพวกเธอไปหาเพื่อนของเขาที่กำลังรักษาตัวอยู่ พวกเขาเดินทางมาเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงอพาร์ทเม้นท์ที่ซุนฮยอนแบกมินโฮมาถึง

    ยู่อี๋ : แน่ใจนะคะว่าเพื่อนคุณอยู่ที่นี่หน่ะ

    ซุนฮยอน : แน่ใจสิครับ ผมเป็นคนแบกเขามาที่นี่เองหล่ะครับ

    ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ๆก็มีคนเปิดประตูออกมา

    คีธ : อ้าว พวกคุณ มาที่นี่ได้ยังไงครับเนี่ย

    จูซม : หะ นี่นาย มาทำอะไรที่นี่เนี่ย

    คีธ : ผมก็มาเยี่ยมพี่ผมที่นี่หน่ะสิ

    ทาเคชิ : ว่าแต่ เพื่อนเราอยู่ที่นี่หรือเปล่าหล่ะ

    คีธ : คุณมินโฮเหรอครับ เขาอยู่ด้านในหน่ะครับ

    อามินะ : ดีจังเลยนะคะที่มาไม่เสียเที่ยวเนี่ย

    จูซม : ว่าแต่ นายจะไปไหนอย่างงั้นเหรอ

    คีธ : ผมจะขี่รถไปแจ้งข่าวด้านนอก อยากไปด้วยกันมั้ยครับ

    จูซม : จะดีเหรอ // เพื่อนๆของเธอทุกคนเชียร์ให้เธอไปกับเขา จนจูซมต้องใจอ่อน

    จูซม : โอเค แต่ขับเบาๆหน่อยก็แล้วกันนะ // คีธพาจูซมนั่งมอไซค์ไปด้วยกัน ส่วนคนอื่นๆก็เข้าไปในอพาร์ทเม้นท์เพื่อเยี่ยมมินโฮ โดยที่มินโฮอยู่ด้านล่างพอดี

    มินโฮ : เฮ้ย พวกนาย มาที่นี่ได้ยังไงกันเนี่ย

    อัลเบิร์ต : ก็ซุนฮยอนนำทางมาที่นี่ยังไงหล่ะเพื่อน

    ริกโก้ : ใช่ นึกว่านายตายไปแล้วซะอีกนะเนี่ย

    ไคล่า : โห เหมือนว่าครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้ากันเลยนะ

    ชิสา : นั่นสิ อยากให้ชินเฮมาอยู่ที่นี่จัง

    มินโฮ : สาวๆพวกนี้เป็นใครงั้นเหรอ

    ดราก้อน : พวกเราได้รับคำสั่งให้คุ้มกันพวกเธอหน่ะ

    จียอน : แต่ที่นี่ท่าทางจะอยู่สบายนะคะเนี่ย

    ซนแซ : ใช่ๆ อยากอยู่ที่นี่จัง มีห้องพักให้เรามั้ยอ่ะ

    มินโฮ : ก็คงจะมีนะครับ ห้องที่นี่เยอะจะตาย

    ไซม่อน : เยี่ยมเลย อยากขออยู่ที่นี่จัง ห้องนี่เดิร์นมากเลย

    มีกัส : แต่เราต้องทำงานของเราไม่ใช่เหรอ

    ริกโก้ : งานของเราคือคุ้มกันพวกผู้หญิงนี่ เราก็ทำงานอยู่นี่

    ซาซอน : ใช่ พวกคุณก็ทำงานกันอยู่นี่นะ

    ในระหว่างนั้นเอง นอร์รีนและมิเชลก็ลงมาจากชั้นล่างเพื่อมาดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น

    นอร์รีน : อ้าว สวัสดีครับทุกคน

    มินโฮ : นี่พวกนาย นี่คุณนอร์รีน เขาเป็นเจ้าของที่นี่หน่ะ

    ทาเคชิ : สวัสดีครับ ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยเพื่อนเรา

    มิเชล : ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เพื่อนเธอก็คือเพื่อนฉันหน่ะ

    มีกัส : ที่นี่ดูแข็งแรงมากเลยนะครับ ไม่โดนพวกมันโจมตีด้วย

    นอร์รีน : ใช่ครับ เรามีคนซ่อมแซมที่นี่ มีที่ซ่อมอาวุธด้วยครับ

    ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ๆก็มีเสียงมาจากริมอพาร์ทเม้นท์ อัลเบิร์ตพาคนไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ในตอนนั้นเองสิ่งที่เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังจะออกไปจากอพาร์ทเม้นท์ อัลเบิร์ตวิ่งเข้าไปชาร์จแต่เธอสามารถสู้กับอัลเบิร์ตได้ ดราก้อน ริกโก้ และไซม่อนไม่รอช้าวิ่งเข้าไปช่วยอัลเบิร์ต แต่เธอก็สามารถรับมือคนอื่นๆได้หมด จนพวกเขาจนปัญญาจะทำอะไร

    ไซม่อน : นี่มันคนหรือแรดเนี่ย โคตรทนเลย

    เธอว่าใครแรดจ๊ะพ่อหนุ่ม

    ริกโก้ : นี่แกคิดจะมาทำอะไรที่นี่เนี่ย

    ฉันแค่จะมาช่วยพวกเธอ เอาข้อความนี่ไปอ่านซะจากนั้นเธอก็ออกจาอพาร์ทเม้นท์ไป มีกัสหยิบข้อความในกระดาษมาอ่านในทันที

    ดราก้อน : จดหมายมันเขียนว่าอะไรกันหล่ะ

    มีกัส : ได้ยินว่าทางรัฐบาลกำลังเริ่มกวาดล้างและปิดล้อมเมืองนี้หน่ะ

    ซุนฮยอน : เธอรู้เยอะขนาดนั้น หรือว่าจะเป็น คุณเอสเมอรันด้า

    ริกโก้ : จะบ้าเหรอ เมียเก่าประธานาธิบดีตายไปนานแล้วเฟ้ย

    อัลเบิร์ต : แต่อาจจะเป็นไปได้นะที่เธอยังไม่ตาย

     

    กลับมายังพวกของเอ็ดเวิร์ด หลังจากที่เร็นพยายามตามหาลูกของอันนาแต่ไม่พบ เขาก็มานั่งพักอยู่ด้านในตึกหลังหนึ่ง ในขณะที่คนอื่นๆยังต้องคอยตามมาดูเขา

    เอ็ดเวิร์ด : ใจเย็นๆสิ พักหน่อยก็ได้

    เร็น : ไม่รู้สิ ฉันตามหามาตั้งนานแล้ว ยังไม่เจอเขาเลยซะที

    เทเรซ่า : เขาอาจจะไม่อยู่ที่นี่แล้วก็ได้นะ

    ลูลู่ : หรือไม่ เขาก็อาจจะ.....

    เดม่อน : นี่ ไม่ต้องพูดบั่นทอนเลยนะ

    แต่ในระหว่างนั้นเอง มีเด็กชายคนหนึ่งมาสะกิดเร็น จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า

    พี่ครับ เห็นแม่ผมหรือเปล่าครับ

    เร็นหันมามองเด็กคนนั้น เขาแปลกใจจึงถามเด็กคนนั้นไป

    เร็น : เธอเป็นลูกสาวของอันนาใช่หรือเปล่า

    ใช่ครับ ผมอเล็กซ์ คุณรู้จักแม่ผมเหรอครับ

    เร็น : พี่รู้จักแม่เธอจ้ะ เดี๋ยวพี่จะพาเธอไปหาแม่เธอเอง

    เอ็ดเวิร์ด : ดูเหมือนว่าเรื่องจะจบดีแล้วสินะ

    เทเรซ่า : ว่าแต่ ตอนนี้คุณอันนาหายไปไหนกันนะ

    ลูลู่ : ได้ยินว่าออกไปนอกเมือง แต่แบบนั้นมันอันตรายมากเลยนะ

    เดม่อน : เธอมีบัตรผ่านทางนี่ น่าจะกลับมาได้นะ

     

    ที่เขตชายแดน หลังจากที่เธอกลับไปบรรทุกองุ่นอบแห้งที่เธอทำไว้ จะนำมาขายในเมือง ในระหว่างที่เธอขับรถผ่านชายแดน จะไปเยี่ยมบ้านพ่อของเธอ เมื่อเธอไปถึง เธอก็พบว่าบ้านของพ่อเธอถูกทำลาย เธอแทบจะเข่าทรุดเมื่อได้เจอกับเหตุการณ์นั้น เธอรีบเข้าไปดูในบ้านทันทีแต่เธอก็ไม่พบร่างของพ่อเธอเลย จากนั้นก็มีชาวบ้านคนหนึ่งเดินโซซัดโซเซมาแถวนี้ เธอเห็นจึงรีบเข้าไปถามในทันที

    อันนา : ขอโทษนะคะ มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่คะ

    พวกทหารโจมตีที่นี่หน่ะ

    อันนา : ทำไมเขาต้องทำแบบนี้หล่ะคะ

    พวกเขาคิดว่าที่นี่เป็นแหล่งกบดานของพวกกบฏหน่ะ

    อันนา : คุณเห็นคนในบ้านนี้วิ่งออกมาหรือเปล่าคะ

    ทุกคนที่อยู่ในบ้านตายหมด ผมเองก็เกือบตายครับ

    อันนาถึงกับร้องไห้ทรุดตัวลงอยู่ตรงนั้น ทำเอาชาวบ้านพูดกับเธอว่า

    รีบไปจากที่นี่เถอะ ที่นี่มันกลายเป็นนรกบนดินไปแล้ว

    อันนา : ไม่ ฉันต้องไปตามหาลูกของฉันในเมืองหน่ะ

    ถ้างั้นก็ขอให้โชคดีก็แล้วกันนะครับ

    อันนารีบไปขึ้นรถกระบะของเธอแล้วขับรถเข้าไปในตัวเมืองทันที

     

    ณ ค่ายทหารในเขตตัวเมือง กลุ่มของดีซได้นำพรรคพวกของเขามาเพื่อลอบสังหารผู้พันเซบาสเตียน พวกเขาจัดการกับทหารที่อยู่รอบนอกจนหมด จากนั้นพวกเขาก็ไปสังเกตการณ์อยู่บนหอคอยสูง จากนั้นก็วางแผนกันในทันที

    จอห์นนี่ : เท่าที่ดูมีทหารอยู่สองกองร้อยคุ้มกัน มีปืนกลและอาวุธหนักด้วย

    ดีซ : เราสนใจแต่ผู้พันเซบาสเตียนดีกว่า

    เดอร์ริก : จริงด้วย ห้องพักของมันน่าจะอยู่ตรงนั้น ไม่มีการคุ้มกันด้วย // เดอร์ริกชี้ไปยังห้องๆหนึ่งในอาคาร

    เอิร์ล : โอเค ไปประจำตำแหน่งกันเลยทุกคน

    พวกเขาแยกย้านกันไปประจำตำแหน่งตามที่ได้วางแผนกัน เขาเล็งไปในห้องของผู้พันเซบาสเตียน ซึ่งผู้พันกำลังนั่งตรวจเอกสารอยู่

    ดีซ : เอาหล่ะทุกคน ยิงได้เลย

    แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังจะยิง ผู้พันเซบาสเตียนเผลอทำดินสอหล่นจึงก้มลงไปหยิบ ทำให้กระสุนพลาดไปโดนทหารในห้อง

    จอห์นนี่ : ตายหล่ะ ยิงถล่มเข้าไปเลย

    พวกเขากระน่ำยิงเข้าไปในห้องของผู้พัน แต่ผู้พันก็หมอบลงบนพื้น จากนั้นเขาก็กดสัญญาณเตือนให้ทหารรู้ตัว

    เอิร์ล : แย่แล้ว พวกมันกดสัญญาณแล้ว

    เดอร์ริก : รีบไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า

    ผู้พันเซบาสเตียนสั่งทหารให้ตามล่ามือปืนพวกนั้น เหล่าทหารพยายามจะไปจับตัวพวกของดีซแต่คนของดีซสกัดพวกมันเอาไว้ได้ก่อน จากนั้นพวกเขาก็มารวมตัวกันที่จุดนัดพบ

    เอิร์ล : บ้าเอ้ย เกือบฆ่ามันได้อยู่แล้วเชียว

    จอห์นนี่ : แบบนี้คงต้องเปลี่ยนแผนใหม่เลย หัวหน้าว่าไงครับ

    ดีซ : ต่อไปมันคงสั่งคนมาคุ้มกันแน่ๆ กลับไปเริ่มต้นใหม่ดีกว่า

    เดอร์ริก : เห็นด้วยนะครับหัวหน้า

     

    กลับมายังโกดังของมาร์ค หลังจากที่มาร์คและเวร่าร่วมรักกันอย่างจัดหนักจัดเต็ม ในตอนนั้นเองลูกน้องทั้งของมาร์คและเวร่าก็ขอเข้ามาในห้องเพื่อรายงานข่าวกับเขาทั้งคู่ เวร่าใส่แค่ผ้าขนหนูผืนเดียวไปเรียกคนของเธอมา

    เวร่า : มีอะไรถึงมารบกวนฉันตอนนี้

    ท่านครับ ตอนนี้ทางรัฐบาลกดดันให้ท่านบุกโจมตีพวกกบฏครับ

    เวร่า : ก็รายงานไป พวกกบฏเข้มแข็งมาก ฉันพยายามจะปราบแล้ว

    แต่ว่า ทางรัฐบาลบอกถ้ายังไม่มีความคืบหน้าใน 1 อาทิตย์ เขาจะปลดคุณจากการป็ผู้บัญชาการครับ

    มาร์ค : อะไรกัน ตอนนี้รัฐบาลไม่มีน้ำยาแล้วเหรอ

    เวร่า : ก็คงจะเป็นแบบนั้นค่ะ เห็นทีฉันต้องทำอะไรหน่อยแล้วหล่ะ

    มาร์ค : คุณอย่าบอกนะว่าคุณจะโจมตีเลยเนี่ย

    เวร่า : แน่นอน แต่ไม่ถึงกับให้พวกมันตายกันหมดหรอก

    มาร์ค : นี่แก ออกไปข้างนอกก่อนได้หรือเปล่าวะ // มาร์คสั่งลูกน้องของเวร่า

    คุณเป็นใครถึงมาสั่งผม

    เวร่า : อย่าเสียมารยาทกับเขา แกต้องฟังเขาด้วย // ทหารคนนั้นเดินออกไปอย่างเสียหน้า

    มาร์ค : ว่าแต่ คุณวางแผนหาทางหนีหรือยังล่ะ

    เวร่า : แน่นอน ฉันมีเช็คจากธนาคารสวิสของคุณ ฉันจะหนีไปแคนาคาหน่ะ

    มาร์ค : ผมก็เหมือนกัน ผมลงทุนกับธุรกิจชาวจีนที่นั่นด้วย // ในตอนนั้นเองลูกน้องของมาร์คก็เดินมาหาเขา

    นายครับ เราขายเหล้าและยาได้อีกแล้วครับ พวกเขาขอสั่งซื้อ 5 ล้านดอลล่าห์เลยครับ

    มาร์ค : เยี่ยมมาก ขนของไปขายให้พวกเขา เอาเงินไปฟอกแล้วเอาเช็คมาให้ฉันสองใบ ใบละ 2.5 ล้านนะเฟ้ย

    ครับนาย

    เวร่า : ฉันว่า กว่าจะจบเรื่องนี้ เราคงได้กำไรอื้อซ่ากันเลยหล่ะ

    มาร์ค : แน่นอนครับ อย่างต่ำคงจะสิบล้านได้หน่ะ

    เวร่า : เยี่ยม ตอนนี้ฉันขอตัวไปทำงานของฉันก่อนก็แล้วกันนะ

    มาร์ค : เดี๋ยวผมไปส่งให้ก็แล้วกันนะ

     

    ณ เขตชายแดนโซราติก ที่มั่นของกลุ่มกบฏเซิร์บ ลูกน้องของโจเซฟได้ตั้งค่ายและคุ้มกันความปลอดภัยให้กับโจเซฟ เนื่องจากโจเซฟเชื่อว่าพวกหน่วยพิเศษจะมาจัดการเขาแน่ๆ และในตอนนั้นเองเขาก็สั่งรถของเขาไปส่งยังเขตที่มั่นใหม่ที่ใกล้กับตัวเมืองมากขึ้น แล้วเขตนั้นมีคนมากพอจะคุ้มกันเขาด้วย

    มากิ : พ่อคะ หนูเตรียมรถให้พ่อแล้วหล่ะค่ะ

    โจเซฟ : ดีมาก เฮ้ยนี่ซีวิล เดี๋ยวไปขึ้นรถกัน

    ซีวิล : อ้าว นี่เราจะไปไหนกันครับเนี่ย

    โจเซฟ : เราจะไปจากที่นี่ ไปที่ค่ายใหม่หน่ะ

    มากิ : เรามีที่กบดานใหม่ให้คุณหน่ะ ปลอดภัยด้วยนะ

    ซีวิล : เอางั้นเหรอครับ

    โจเซฟ : แน่นอน รีบไปขึ้นรถดีกว่า

    พวกเขาทั้งสามคนรีบไปขึ้นรถจิ๊ปทหารที่เตรียมไว้แล้ว แต่ซีวิลมีลางสังหรณ์แปลกๆกับเรื่องนี้มาก เพราะเรื่องการเอาตัวรอดไอ้หมอนี่ที่หนึ่งอยู่แล้ว

    มากิ : ซีวิล คุณเป็นอะไรหรือเปล่า

    ซีวิล : เปล่าหน่ะ ผมแค่สังหรณ์ใจนิดหน่อยหน่ะ

    โจเซฟ : จะกลัวอะไรหล่ะ รีบไปจากที่นี่ดีกว่าน่า

     

    ณ เขตเมืองหลวง ใกล้เขตของกลุ่มกบฏ เวสต์และเจซซินพาลูกๆของพวกเขาเดินทางไปหาเสบียงในเขตของกลุ่มกบฏ ซึ่งที่นั่นค่อนข้างจะอันตราย ความจริงพวกเขาอยากให้ลูกๆอยู่ที่บ้าน แต่ทำยังไงได้หล่ะ อยู่ที่บ้านอันตรายกว่า พวกเขาเลยจำต้องพามาด้วย ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็เห็นทหารจำนวนหนึ่งกำลังจัดการเสบียงอยู่ตรงนั้น เขาจึงปรึกษากับเจซซินว่าจะเอายังไงต่อ

    เวสต์ : คุณเจซซิน ทำไมมีทหารที่นี่ด้วยหน่ะ

    เจซซิน : ฉันว่า พวกนั้นคงจะยึดที่นี่ไว้แล้วหล่ะ เด็กๆ ยังไหวหรือเปล่า // เด็กสองคนนั้นนอนงีบด้วยกันอยู่ข้าวถนน เจซซินจึงต้องไปปลุกพวกเขาทั้งคู่

    อดอลล่า : แม่ ปลุกหนูทำไมเหรอเนี่ย กำลังฝันดีเลย

    เจซซิน : หลับแบบนี้แล้วยังจะมากับแม่อีกนะ

    อนาตาเซีย : เออพ่อ พ่อไปหาของก่อนได้เปล่า ผมขอนอนแถวนี้ก่อนนะ

    เวสต์ : ตามพ่อมาก่อน เดี๋ยวพ่อหาที่นอนให้นะ

    พวกเขาพากันบุกเข้าไปในค่าย จัดการทหารยามที่เฝ้าอยู่แถวนั้นทีละคน ทำเอาพวกนั้นไม่ทันตั้งตัว จากนั้นเองพวกเขาก็มาถึงที่เก็บรวบรวมเสบียง จากนั้นเด็กสองคนก็แอบหลับในเต้นท์ๆหนึ่งแถวนั้น ส่วนพ่อแม่ของเด็กๆก็จัดการรวบรวมเสีบยงมาให้ได้มากที่สุด แต่ในระหว่างนั้นเอง จู่ๆก็มีทหารสองคนจับเด็กสองคนนั้นไว้เป็นตัวประกัน เวสต์และเจซซินตกใจมากไม่รู้จะทำอย่างไร

    พวกแก คืนเสบียงให้เรา ไม่งั้นเด็กพวกนี้ตายแน่

    อนาตาเซีย : พ่อครับ ช่วยผมด้วยครับพ่อ

    อดอลล่า : นี่ แม่ฉันเป็นนักรบที่เก่งที่สุดนะ แม่ฉันจะเล่นงานพวกแก

    ปากดีนะไอ้เด็กพวกนี้ อยากตายหรือไง

    เวสต์ชักปืนออกมายิงหัวมัน ในตอนนั้นพวกมันจะยิงอดอลล่า แต่เจซซินใช้มีดพกของเธอขว้างไปที่ข้อมือของมัน อดอลล่าได้จังหวะจึงเหยียบเท้ามันแล้วจะพาอนาตาเซียหนี มันจะชักปืนยิงเด็กๆแต่เวสต์จับกระบอกปืนของมันแล้วก็หมุนไปด้านหลังของมันให้รัดคอมันจนตาย จากนั้นพวกเขาก็รีบไปดูเด็กๆในทันที

    เจซซิน : เป็นยังไงบ้างลูก เจ็บตรงไหนหรือเปล่า

    อดอลล่า : ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูรู้ยังไงหนูแม่ต้องช่วยหนูได้แน่ๆ

    เวสต์ : แล้วลูกหล่ะ ยืนขาแข็งเลยเชียวนะเนี่ย

    อนาตาเซีย : แหม่ ก็ลองโดนปืนจ่อหัวดูสิครับคุณพ่อเวสต์

    เวสต์ : แนะ ปากแบบนี้ตลอดเลยนะ ผมว่าเราไปจากที่นี่กันดีกว่านะครับ นี่ก็ใกล้จะเช้าหล่ะ

    เจซซิน : นั่นสิคะ รีบไปจากที่นี่กันเถอะเด็กๆ

     

    กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ในขณะที่พวกเขากำลังช่วยกันต้อนรับสมาชิกใหม่ที่มาถึง แต่พักหนึ่งพวกของอัลเบิร์ตก็เดินกลับมาจากทางด้านข้างของอพาร์ทเม้นท์ ในตอนนั้นเองนอร์รีนก็สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นั่น

    นอร์รีน : มีอะไรกันหรือเปล่าครับ

    อัลเบิร์ต : ท่าทางที่นี่จะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาหน่ะครับ

    มิเชล : ตายแล้ว แบบนี้จะเป็นอันตรายหรือเปล่าครับ

    ดราก้อน : ไม่หรอกครับ ผมรู้จักเธอดี เธอไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก

    ทาเคชิ : นี่ ว่าแต่มันเป็นใครกันแน่ // อัลเบิร์ตยื่นข้อความให้ทาเคชิอ่าน ทาเคชิอ่านจึงเข้าใจว่าคนเขียนเป็นใคร

    ไลฟ์ : มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าคะ

    เอจิ : หรือว่าพวกนายมีลับลมคมในอะไรกันหรือเปล่า

    ริกโก้ : อะไรกันพวก อย่าเพิ่งปอดแหกสิ

    อลัน : แกว่าใครกันปอดแหกกันวะ

    มินโฮ : หยุดเดี๋ยวนี้เลย อย่าเพิ่งปากดีตอนนี้สิริกโก้

    ทาเคชิ : เธอคือเมียเก่าประธานาธิบดีหน่ะครับ

    มิสซึ : เมียเก่า ทำไมไม่จับตัวมาเรียกค่าไถ่เลยหล่ะ

    อลิซ : จะได้ผลเหรอ ก็เขาบอกอยู่นี่ว่าเป็นเมียเก่าหน่ะ

    ทาเคชิ : ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ยังไงคืนนี้ทุกคนก็ปลอดภัยกันแน่ ไปพักผ่อนกันดีกว่าครับ

    นอร์รีน : นั่นสิครับ วันนี้พวกเราแยกย้ายกันดีกว่านะ

    ======================================================================

    ดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะยังดูปกติ แต่เอสเมอรันด้ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่ อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
    ผมมีนิยายใหม่ ไปสมัครด้วยเน้อ
    https://writer.dek-d.com/dekd/writer/view.php?id=1924526


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×