คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : EP 15 : การช่วยเหลือ
ที่อพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน หลังจากที่นอร์รีนออกจากที่พักไป
พวกเธอก็นั่งพักกันอยู่ด้านใน เพื่อรอให้คนที่ออกไปหาของด้านนอกได้กลับมา
อนูวา : มิเชล เธอไม่ไปนอนเหรอจ๊ะ
มิเชล : ไม่เป็นไรกรอก เธอไปนอนดีกว่า ฉันเฝ้ายามให้เอง
อนูวา : กำลังรอนอร์รีนเขาอยู่สินะเธอ
มิเชล : รอคุณตะวันงั้นเหรอ
อนูวา : ก็รอสิฉันถึงได้มานั่งเป็นเพื่อนเธอนี่ไง
และในขณะเดียวกัน
ไลฟ์และเอจิที่ต้องจัดการเฝ้ายามให้คนในที่อพาร์ทเม้นท์
ก็เดินมาคุยกับมิเชลและอนูวาในทันที
ไลฟ์ : สวัสดีค่ะ ทำอะไรกันอยู่คะ
มิเชล : อ้อ คือว่าเรานอนไม่หลับหน่ะ
เอจิ : พวกคุณไปนอนก็ได้นะครับ ผมจะอยู่เฝ้าที่นี่เอง
ไลฟ์ : เออนี่ นายว่าพี่ฉันจะกลับมาเมื่อไหร่
เอจิ : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คงจะเร็วๆนี้แหละ
ไลฟ์ : ทำไมเธอถึงรู้หล่ะ
เอจิ : ก็ตอนนี้การรบยุติลงแล้วนี่
ฉันว่าพี่เธอคงจะกลับมาแล้วหล่ะ
แล้วที่ด้านล่าง อลันและฮาน่าก็พากันกลับมาพอดี
และในตอนนั้นพวกเขาก็นั่งคุยกันถึงเรื่องในวันนี้
อลัน : ในที่สุดก็กลับมาถึงซะทีนะเนี่ย
ฮาน่า : ใช่ๆ เดี๋ยวฉันขอตัวกลับก่อนนะ
อลัน : เออ คือ คุณจะไม่ค้างกับผมหน่อยเหรอ
ฮาน่า : เอ๊ะ จะดีเหรอคะ
อลัน : หรือว่าถ้าคุณไม่ว่าง ก็ไม่เป็นไรนะครับ
ฮาน่า : ก็ได้ค่ะ ยังไงก็เข้าไปที่ห้องดีกว่าค่ะ
และที่ด้านล่างของห้อง โทนี่และมินโฮกำลังรักษาตัว
โดยที่คีธและเอสเทอร์ก็คอยดูแลเขาอยู่ที่ด้านล่าง
มินโฮ : เอ๊ะ คุณยูจีนไปไหนเหรอครับเนี่ย
โทนี่ : ออกไปหาของข้างนอก ว่าแต่
นายเป็นอะไรกับพี่ฉันมากเปล่าเนี่ย
คีธ : นั่นสิ เห็นเรียกหาแต่พี่ฉันเนี่ย
บอกก่อนพี่ฉันชอบผู้หญิงนะ
เอสเทอร์ : ใจเย็นๆสิ เขาอาจเป็นห่วงก็ได้
อย่าเพิ่งออกตัวแรงน่า
มินโฮ : ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่เป็นห่วงเธอนิดหน่อยหน่ะ
ในขณะเดียวกัน
อลิซก็ลงมาด้านล่างเพื่อมาดูว่าคนอื่นๆกำลังทำอะไรกันอยู่
อลิซ : อ้าวนี่ทุกคน คุยอะไรกันอยู่เหรอ
เอสเทอร์ : อ้อ ก็คุยอะไรไปเรื่อยหน่ะ
โทนี่ : ว่าแต่ เธอมาที่นี่มีอะไรงั้นเหรอ
อลิซ : ก็ไม่มีอะไร ฉันว่าฉันจะทำประตูนิรภัยหน่ะ
คีธ : ประตูนิรภัย เอาไว้กันอะไรเหรอ
อลิซ : ก็เอาไว้ป้องกันพวกโจรที่บุกมายังไงหล่ะ
มินโฮ : น่าสนใจนะครับ คุณซ่อมอาวุธได้หรือเปล่าครับ //
มินโฮยื่นปืนพกให้กับอลิซ
อลิซ : เดี๋ยวฉันจะลองดูให้ก็แล้วกันนะ
ที่ห้องของซีโร่ หลังจากที่ซีโร่และบารีร่ามีความสุขด้วยกัน
บารีร่าก็นอนเอาเสื้อปิดตัวเองเอาไว้
เนื่องจากว่านี่ก็เพิ่งจะเป็นครั้งแรกของบารีร่าเหมือนกัน
ซีโร่ : ฉันขอโทษนะบารีร่า
บารีร่า : กอดฉันหน่อยสิซีโร่ ฉันต้องการเธอนะ //
ซีโร่ไปนอนกอดบารีร่าในทันที
ซีโร่ : ฉันรักเธอนะบารีร่า
บารีร่า : ฉันก็รักเธอนะซีโร่ ฉันอยากอยู่กับเธอนานๆจังเลย
ซีโร่ : ฉันจะไม่ไปไหนอีกแล้วนะ ฉันจะอยู่กับเธอตรงนี้เอง
ณ โกดังร้างแห่งหนึ่ง
ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเป็นแหล่งเก็บวัสดุอุปกรณ์สำคัญในการทำของ
นอร์รีนพาพรรคพวกมาถึงที่ด้านหน้า
แต่ในตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นทหารกลุ่มหนึ่งกำลังหาของและซ้อมยิงปืนกันเล่นๆในตึก
นอร์รีนและคนอื่นๆคุยกันทันทีว่าจะทำยังไงต่อ
นอร์รีน : มีทหารอยู่ที่นี่ด้วย ทำไงดีหล่ะ
ตะวัน : ท่าทางจะมีไม่กี่คนเองนะ น่าจะพอสู้ได้หน่ะ
ยูจีน : แล้วเราจะเก็บพวกมันเลยหรือเปล่า
มิสซึ : ฉันว่า พยายามเลี่ยงพวกมันดีกว่านะ
ตะวัน : เอาแบบนี้นะ พยายามเก็บทหารพวกนั้น แค่สลบก็พอ
แล้วเอาปืนมันมาด้วย
ยูจีน : เยี่ยมเลย ฉันจะลุยพวกมันเอง
มิสซึ : ฉันจดลิสต์ของที่ต้องการมาให้พวกนายแล้วนะ
อย่าลืมเอามาด้วยหล่ะ
นอร์รีน : โอเค ถ้างั้นเรารีบไปกันเลยดีกว่า
พวกเขาแยกย้ายกันไปในแต่ละทางของโกดัง เพื่อออกหาของที่จำเป็น
นอร์รีนเดินไปด้านหนึ่งแล้วจัดการทุบหัวทหารพวกนั้นจนสลบ แล้วเขาก็เอาเสื้อเกราะ หมวกและอาวุธของพวกมันมา
จากนั้นนอร์รีนก็เก็บวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นตามลิสต์ที่อบลิซขอมา
ทางด้านของตะวันและมิสซึ พวกเขาทั้งคู่ไปด้วยกัน
ตะวันพยายามจัดการทหารสองคนที่ถืออาวุธอยู่
แต่ในตอนนั้นเองทหารอีกคนหนึ่งก็เดินเข้ามาจะยิงตะวัน แต่มิสซึวิ่งไปผลักมันจนล้ม
ตัวมันตกตึกลงไปตายคาที่ ส่วนตะวันก็จัดการทหารสองคนนั้นได้จนอยู่หมัด
ตะวัน : มิสซึ นายเป็นอะไรหรือเปล่า
มิสซึ : ฉันไม่เป็นไรหรอก นายหล่ะเป็นอะไรหรือเปล่า
ตะวัน : ฉันไม่เป็นไรหรอก รีบไปหาของต่อดีกว่า
มิสซึ : ฉันรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน รีบไปกันเถอะ
ทางด้านของยูจีน ในตอนนั้นยูจีนเกิดสติแตก
ฆ่าทหารที่อยู่บนดาดฟ้าไม่มีเว้น เธอเชือดคอมันจากนั้นก็ทิ้งศพมันไว้แถวนั้น
จากนั้นเธอก็ฉกเอาปืน ชุดเกราะมาจากพวกมัน แต่ในตอนนั้นเอง
มันคนหนึ่งถือปืนขึ้นมาจ่อเธอที่ดาดฟ้า
“หยุด วางอาวุธ
และคุกเข่าลงด้วย”
ยูจีนทิ้งปืนและคุกเข่าลง แต่ในตอนนั้นเอง นอร์รีนก็บังเอิญขึ้นมาพอดี
ทำเอานอร์รีนและทหารคนนั้นเกิดต่อยกันขึ้น
ยูจีนวิ่งเข้ามาช่วยโดยการที่เธอเข้าไปเตะและต่อยมันจนเละ จากนั้นเธอก็ไปดูนอร์รีน
ยูจีน : นี่ นายเป้นอะไรหรือเปล่า
นอร์รีน : ฉันไม่เป็นไรหรอก ทุกคนหาของกันเสร็จแล้ว
ไปกันเถอะ
ยูจีน : ได้สิ ฉันเก็บของก่อนนะ
หลังจากที่ทุกคนหาของกันเสร็จ
พวกเขาก็มารวมตัวกันแล้วเช็คว่าใครเอาอะไรมาได้บ้าง จากนั้นเองพวกเขาก็เดินทางกลับ
แต่ระหว่างนั้นเอง ก็มีเสียงปืนดังขึ้น กระสุนเฉียดเข้าไปที่ขาของยูจีน
ตะวัน : ยูจีน หาที่หลบเร็ว
ทหารที่ยังไม่ตายใช่ปืนสไนเปอร์ตามไล่ยิงพวกเขา
พวกเขารีบหาที่หลบกันก่อนที่กระสุนจะมาโดนพวกเขา
นอร์รีน : ผมจะแบกเธอไปเอง มิสซึ นายถือของได้หรือเปล่า
มิสซึ : ได้สิ ไม่ต้องห่วงหรอก
ยูจีน : ฉันพอเดินไหวน่า รีบไปกันดีกว่า //
พวกเขารีบกลับไปยังอพาร์ทเม้นท์ของพวกเขาในทันที ก่อนที่จะโดนตามล่าไปมากกว่านี้
กลับมายังหน่วยดอว์นซอร์ด
หลังจากที่พวกเขากบดานอยู่ในตึกหลังหนึ่งได้ซักพัก
เควินก็ได้รับคำสั่งใหม่จากทางหน่วยเหนือ
จากนั้นเควินก็เรียกทุกคนให้มาฟังข่าวในทันที ทุกคนมารวมตัวกันที่หน้าวิทยุ
จากนั้นเควินก็เปิดวิทยุในทันที
“หน่วยเหนือเรียกดอว์นซอร์ด
เปลี่ยน”
เควิน : ดอว์นซอร์ด รีบทราบเปลี่ยน
“ขณะนี้ โจเซฟ
มิโลลาฟ หัวหน้ากลุ่มกบฏเซิร์ฟที่ชายแดนทางเหนือหนีไปได้ พวกคุณมีหน้าที่ตามล่าเขา
ที่ฐานที่มั่นตามจุดที่เราส่งข้อมูลไป”
อเล็กซานเดอร์ : โจเซฟ
นี่ฉันคิดว่ามันโดนประหารไปแล้วนะเนี่ย
ซิลเวสเตอร์ :
แต่มันยังไม่ตาย แถมพวกกบฏเซิร์ฟก็เข้มแข็งด้วย
คาสเตอร์ : มันจะซักแค่ไหนกันเชียวหล่ะหะ
อีริค : ก็เก่งกว่าพวกกบฏนั่นแหละ อย่าเพิ่งปากดีเลย
อเล็กซ่า : ที่มั่นของพวกมันอยู่แถบชายแดน
งั้นฉันจะไปเตรียมของให้นะคะ
เควิน : นี่ ทำไมเขาส่งเราไปแค่หน่วยเดียวไปสู้กับพวกมันหล่ะ
ซิลเวสเตอร์ :
นั่นเป็นคำสั่งนะ เราต้องทำตามสิ
ในระหว่างนั้นเอง ก็มีเสียงกระจกแตกดังมา พวกเขารีบไปดู
ก็พบว่ากระจกหน้าต่างแตกพร้อมกับปรากฎข้อความบนกระดาษใบหนึ่ง
อเล็กซานเดอร์หยิบมาอ่านในทันที
“ขอให้โชคดีกับการรบนะอเล็กซานเดอร์”
คาสเตอร์ : มันเป็นใครกันวะ บังอาจมาแหย่พวกเรา
อีริค : ถามฉันแล้วันจะรู้กับนายมั้ยหล่ะเพื่อน
อเล็กซานเดอร์ : อย่าเพิ่งสนใจเรื่องนั้นเลย
รีบไปทำงานต่อดีกว่า
อเล็กซ่า : ถ้างั้น ดิฉันจะไปเตรียมของให้นะคะ
กลับมายังที่มั่นของกลุ่มกบฏ หน่วยรบพิเศษไทยเดินตามหานายทหารไทยที่หายตัวไปกับชาวบ้านที่อยู่แถวนั้น
แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครรู้จัก
พวกเขาคอตกเดินกลับมาหาที่พักแถวนั้นในทันทีหลังจากที่เดินหาอยู่พักใหญ่ๆ
เนตร : โอ้ย เดินกันจนขาลากก็ยังไม่เจอผู้พันเลยเนี่ย
จินตโล : นั่นดิ ขอพักก่อนดีกว่า เดชา ขอน้ำหน่อยสิ //
เดชาโยนกระติกน้ำให้จินตโล
เดชา : เหลือไว้ให้ฉันด้วยนะเฟ้ย อย่าหมดหล่ะ
เจตนา : หัวหน้าครับ เราจะเอายังไงต่อดีครับ
อรุณ : ฉันก็กำลังคิดอยู่ มีใครมีความเห็นอะไรบ้างมั้ย
เดชา : ผมว่า เราลองไปถามพวกระดับสูงๆนะครับ
จินตโล : จริงด้วย ทำไมฉันไม่คิดเรื่องนี้เลยเนี่ย
เนตร : ว่าแต่ เราจะรู้ได้ครับว่าดับหัวหน้าอยู่ที่ไหน
อรุณ : ลองถามพวกที่ถือปืนก็ได้ว่าใครเป็นหัวหน้า
เจตนา : ก็ดีนะครับ แต่เขาจะไว้ใจเราหรือเปล่า
จินตโล : ถ้าไม่ไว้ใจก็แค่ยิงกับมันสิครับ
เนตร : นี่ เก็บชีวิตนายไว้กินข้าวเถอะเพื่อน
เจตนา : เราน่าจะไปลองถามคนที่ถูกยิงเมื่อตอนนั้นนะครับ
เดชา : จริงด้วย พวกนั้น่าจะรู้อะไรบ้างนะ
ว่าไงครับหัวหน้า
อรุณ : โอเค ลองไปตามหาคนพวกนั้นก่อนดีกว่า
กลับมายังพวกของทาเคชิ
ในตอนนั้นพวกเขาได้รับคำสั่งให้คุ้มกันสาวๆเกิร์ลกรุ๊ปทั้ง 9
คนที่มาติดอยู่ในประเทศนี้ ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าจะพาเธอไปส่งที่เขตปลอดภัย
แต่ในตอนนั้นเองพวกเขาก็เป็นห่วงมินโฮกัน พวกเขาจึงคิดว่าจะออกไปตามหามินโฮกันก่อน
ทาเคชิ : ฉันอยากจะไปหามินโฮเขาก่อนหน่ะ พวกนายว่าไง
อามินะ : มินโฮ เขาเป็นใครอย่างงั้นเหรอคะ
ซุนฮยอน : อ้อ เขาเป็นเพื่อนเราหน่ะครับ
แต่ตอนนี้เขาบาดเจ็บ
ยู่อี๋ : จริงเหรอคะ ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างคะ
ไซม่อน : ตอนนี้ไม่รู้ว่าเขาฟื้นหรือยังหน่ะจ้ะสาวๆ
ชินเฮ : ถ้าอย่างงั้นฉันขออยู่ที่นี่ก่อนนะ
จูซม : อ้าว ทำไมเธอจะอยู่ที่นี่ต่อหล่ะ
ชินเฮ : ฉันว่า ฉันจะไปตามหาคุณอันนาหน่ะ
จูซม : ยังไงก็รักษาตัวด้วยนะ แล้วเราจะกลับมา
อัลเบิร์ต : ถ้าคุณมีปัญหา ไปหาคุณเทโจได้นะครับ
ชิสา : ฉันว่า เรารีบไปกันดีกว่า
เพื่อนคุณอยู่ที่ไหนหล่ะ
หลังจากนั้นไม่นาน
พวกของทาเคชิก็เดินทางไปยังสถานที่ที่มินโฮพักรักษาตัวอยู่
ดราก้อน : ขอบคุณนะครับที่ยอมมาด้วยกับพวกเรา
ไคล่า : แต่ไม่ว่ายังไง พวกคุณต้องปกป้องฉันด้วย
ซาซอน : ใช่ๆ ถ้าพวกเราเป็นอะไรเราจะงอนพวกคุณด้วย
ริกโก้ : คร้าบ ไม่ต้องห่วง ดูแลด้วยชีวิตเลย
ซนแซ : ว่าแต่ พวกคุณเป็นคนต่างชาติกันเหรอคะ
มีกัส : อ้อครับ เราได้ทุนมาเรียนต่อที่นี่หน่ะครับ
จียอน : แล้วทำไมพวกคุณถึงไม่กลับบ้านคุณหล่ะ
ทาเคชิ : ผมไม่กลับหรอกครับ ถ้ายังโค่นล้มรัฐบาลนี้ไม่ได้
อามินะ : โห พวกคุณไม่ห่วงชีวิตกันเลยเหรอคะ
ดราก้อน : คนเราเกิดครั้งเดียวตายหนเดียว
จะไปกลัวทำไมหล่ะครับ
มีกัส : ใช่ครับ แล้วอีกอย่าง
ก่อนตายเราขอทำอะไรที่มันเปลี่ยนโลกซักครั้งหน่ะ
ไคล่า : โห กล้าหาญมากเลยนะคะพวกคุณ
จูซม : แต่ไม่รู้สิ ยังไงฉันก็อยากกลับบ้านหน่ะ
ชิสา : นั่นสิ แต่ปัญหาคือเรายังไปไหนไม่ได้หน่ะสิ
อัลเบิร์ต : ไม่ต้องห่วงครับ เราจะหาทางพาคุณกลับบ้านให้ได้
ซนแซ : ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยพวกเรา
ซาซอน : อยากกินอะไรร้อนๆซักจานจังเลย
ไซม่อน : จริงด้วย ฉันก็อยากกินเหมือนกัน ฉันอยากกินพิซซ่า
ริกโก้ : ถ้าอย่างงั้นฉันทำให้กินก็แล้วกันนะ
ซุนฮยอน : โอ้ยตาย อย่าเลย ฉันไม่เอาด้วยนะ
จียอน : ทำไมล่ะ เขาทำได้ไม่ดีอย่างงั้นเหรอคะ
ยู่อี๋ : แต่ว่าก็น่าจะลองทำกันดูก่อนนะคะ
เหล่าผู้ชายในกลุ่มมองหน้ากันพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่
ส่วนริกโก้ก็ไปตีซี้เหล่าสาวๆพวกนั้น
กลับมายังกลุ่มของเอ็ดเวิร์ด
ในขณะนั้นเองพวกเขาก็มานั่งพักกันที่ลานกว้างในตัวเมือง
ซึ่งพื้นที่ส่วนนั้นยังไม่ถูกทำลายไปมาก ในตรงนั้นมีแต่ชาวบ้านที่หลบหนีมาพักผ่อน
พวกเขาไปนั่งลงด้านข้างสนามซึ่งเป็นที่พื้นที่ยังว่างอยู่
เอ็ดเวิร์ด :
เฮ้อ เรามาพักที่นี่ก็ดีเหมือนกันนะครับ
ว่ามั้ยเทเรซ่า
เทเรซ่า : นั่นสิคะ โชคดีจังที่มันยังไม่โดนทำลาย
ลูลู่ : เดม่อน นายน่าจะพักผ่อนให้เยอะๆหน่อยนะ
เดม่อน : ก็พยายามอยู่ เออนี่เร็น เป็นอะไรไปหน่ะ ดูซึมๆนะ
เร็น : ไม่มีอะไรหรอก ฉันไม่เป็นไรหรอก
เอ็ดเวิร์ด :
ทำไมล่ะ คิดถึงอันนาอยู่สินะ
เร็น : คิดดูสิ
ผู้หญิงตัวคนเดียวจะเข้าๆออกๆเมืองไปได้ยังไง
เทเรซ่า : ฉันว่านะ พ่อแม่เธออาจจะเป็นทหารใหญ่ก็ได้
ลูลู่ : ถ้าเป็นทหารใหญ่จริงๆ
ทำไมถึงปล่อยให้ลูกสาวมาลำบากที่นี่หล่ะ
เดม่อน : ใช่ๆ ดูไม่สมเหตสมผลเลยนะ
และในระหว่างนั้นเอง เร็นดันไปสะดุดตาเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
จากนั้นเร็นก็วิ่งไล่ตามเด็กคนนั้นไป โดยที่คนอื่นๆก็ตามเข้าไปติดๆ
เร็นไปสะกิดเด็กชายคนนั้น เด็กชายคนนั้นหันมาท่าทางตกใจ
“มีอะไรครับพี่”
เร็นมองหน้าเด็กคนนั้น พบว่าไม่ใช่เด็กที่เขาตามหา
จากนั้นเร็นก็เอารูปให้เด็กคนนั้นดู
เร็น : นี่หนู เคยเห็นเด็กคนนี้หรือเปล่า
“ไม่เคยครับพี่” จากนั้นเด็กคนนั้นก็วิ่งหนีเขาไป
ส่วนคนอื่นๆก็วิ่งตามเขาทันพอดี
เอ็ดเวิร์ด :
เฮ้ยเร็น ทำไมถึงวิ่งมาไม่บอกกันเลยเนี่ย
เทเรซ่า : เออใช่ เด็กคนนั้นเป็นใครงั้นเหรอ
เร็น : อ้อ ฉันนึกว่าเขาเป็นลูกของอันนาหน่ะ
ลูลู่ : เฮ้อ เด็กคนนั้นหายไปไหนกันแน่หล่ะเนี่ย
เดม่อน : ไม่แน่นะ
ในค่ายของเราอาจจะมีร่องรอยของเด็กคนนั้นก็ได้
กลับมายังเขตชายแดน หลังจากที่อันนาขับรถกระบะของเธอมาตามทางเรื่อยๆ
จากนั้นเองเธอก็เห็นทหารกลุ่มหนึ่งคอยขวางทางเธอไว้
จากนั้นทหารก็มาขอตรวจค้นรถของอันนาในทันที
“ขอโทษนะครับ
คุณกำลังจะไปไหนครับ”
อันนา : อ้อ ฉันกำลังจะออกไปที่บ้านฉันหน่ะค่ะ
“เราขอตรวจค้นหน่อยนะครับ”
อันนา : อ้อ ได้สิคะ
ทหารค้นรถของอันนาทุกที่ ทั้งในรถและท้ายรถ จากนั้นเขาก็มาคุยกับเธอ
“มีบัตรผ่านหรือเปล่าครับ”
อันนา : อ้อ นี่ค่ะ //
เธอยื่นบัตรของนายทหารที่เคยให้กับเธอ ให้เจ้าหน้าที่คนนั้นดู
“ผู้พันเซบาสเตียนงั้นเหรอ
งั้นเชิญครับคุณผู้หญิง ไม่ต้องค้นแล้วหล่ะ”
อันนา : อ้อ ขอบคุณค่ะ
ที่ด่านปล่อยให้อันนาผ่านไปได้อย่างง่ายดาย
ส่วนเธอก็รีบขับไปยังไร่องุ่นของเธอทันที
กลับมายังแนวรับของกลุ่มกบฏ หลังจากที่มื้ออาหารของดีซและพวกได้จบลง
พวกเขาก็ได้รับคำสั่งใหม่ให้บุกเข้าไปยังค่ายทหารแห่งหนึ่ง
“นี่ ดีซ
บอกลูกน้องนายให้เตรียมพร้อม พวกนายต้องไปค่ายทหารหน่ะ” ชายคนหนึ่งถือคำสั่งของหัวหน้าหน่วยเดินมาหาเขา
ดีซ : ค่ายทหาร จะให้เราไปทำอะไรกันหล่ะ
“หัวหน้าต้องการให้พวกนายสังหารนายทหารคนหนึ่ง
ผู้พันเซบาสเตียนหน่ะ”
จอห์นนี่ : ผู้พันเซบาสเตียน หมอนี่มันตัวแสบเลยนะ
เอิร์ล : ใช่
เขาว่าหมอนี่อยู่เบื้องหลังการกวาดล้างครั้งใหญ่ด้วย
เดอร์ริก : แล้วตอนนี้มันอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ
“ตอนนี้เขาซ่อนตัวอยู่ในค่ายทหาร
ไม่ยอมออกไปไหนมานานแล้ว”
จอห์นนี่ : แต่เอ๊ะ นั่นไม่ใช่ผู้พันเซบที่เรารู้จักเลยนะ
เอิร์ล : สงสัยคงจะมั่วกับผู้หญิงที่จับมาได้แน่ๆ
เดอร์ริก : แล้วเราจะเอายังไงต่อครับหัวหน้า
ดีซ : เตรียมอาวุธและกระสุนให้พร้อม
เราจะเล่นงานมันทันที
กลับมายังโกดังของมาร์ค ในตอนนั้นเอง
เวร่าก็ได้เดินทางกลับไปยังโกดังเพื่อที่จะดูว่าการค้าขายของเธอกับมาร์คเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อเวร่ามาถึง มาร์คก็เข้าไปจูบเวร่าในทันที
เวร่า : นี่ ใจเย็นๆสิ ฉันเขินนะเนี่ย
มาร์ค : คุณหายไปซะตั้งนานเลยนะ
ไม่เห็นว่าเรากำลังทำอะไรอยู่
เวร่า : เออใช่ การค้าขายเป็นยังไงบ้าง
มาร์ค : ดีมากเลยหล่ะ เหล้าและกัญชาที่ส่งไปขายในกองทัพ
ทำกำไรได้ดีมาก
เวร่า : ฉันได้ยินว่าทางสหประชาชาติเพิ่งจะให้เงินทุนสนับสนุนพวกกบฏหน่ะ
มาร์ค : ว้าว แบบนี้ก็ดีหน่ะสิ
พวกมันจะได้มีเงินมาซื้อของฉันหน่ะ
เวร่า : ตอนนี้ฉันเอาเสบียงกับอาวุธที่ยักยอกมาได้มาขายเพิ่มด้วยหล่ะ
นายสนใจลองดูหน่อยมั้ยหล่ะ
เวร่าพามาร์คไปดูอาวุธล๊อตใหม่ที่ส่งมาจากรัสเซีย
มาร์คเจออาวุธในตอนนั้นถึงกับตกตะลึง
มาร์ค : ว้าว แบบนี้ขายได้ราคาแน่ๆ
เวร่า : แน่นอน ฉันจะขายไปให้กลุ่มกบฏและฝ่ายรัฐบาลด้วย
มาร์ค : ผมว่าท่าทางรัฐบาลคงจะไม่มีอาวุธดีๆแบบนี้แน่
เวร่า : ตอนนี้เหลือเวลาแค่หนึ่งอาทิตย์
ก่อนที่สหประชาชาติจะเริ่มตอบโต้อย่างรุนแรงหน่ะ
มาร์ค : หนึ่งอาทิตย์ก็พอแล้ว
ผมมีเงินอยู่ห้าล้านดอลล่าห์ในธนาคารสวิส สำหรับคุณผมมีกำไรให้สองล้าน
เวร่า : เยี่ยมไปเลย อย่าลืมเซนเช็คให้ฉันด้วยหล่ะ
มาร์ค : แต่ก่อนอื่น ผมคิดถึงคุณจังเลย //
มาร์คพยายามรุกเข้าไปหอมแก้มเวร่า
เวร่า : แหม่ ไปต่อกันที่ห้องของเราดีกว่าค่ะ
กลับมายังเขตชายแดนโซราติก ที่มั่นของกลุ่มกบฏเซิร์ฟ ในตอนนั้นเองโจเซฟพาซีวิลและคนอื่นๆมาพักที่ค่ายของเขาก่อน
โจเซฟ : นายพักที่นี่ก่อนได้นะ
ซีวิล : ครับ ว่าแต่มีอะไรให้กินหรือเปล่าครับ
โจเซฟ : แน่นอน
เดี๋ยวฉันให้คนของฉันไปส่งให้ที่เต้นท์แล้วกัน
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ลูกน้องของโจเซฟก็นำข่าวมาบอกกับเขา
“ท่านครับ ลูกสาวท่านมาแล้วครับ”
โจเซฟ : หะ จริงเหรอ ให้เธอมาหาฉันหน่อยสิ
จากนั้นเอง ก็ปรากฏร่างหญิงสาวคนหนึ่ง เดินเข้ามาหาโจเซฟในตอนนั้น
“หวัดดีค่ะคุณพ่อ”
โจเซฟ : อ้าว มากิ หนีมาจนได้นะลูก
มากิ : ก็กว่าจะหนีมาได้ก็เกือบแย่หน่ะค่ะ
โจเซฟ : ซีวิล นี่ลูกสาวฉัน มากิ รู้จักกันไว้สิ
มากิเดินเข้าไปใกล้ซีวิล
มากิ : นายนี่ท่าทางขี้กลัวนะเนี่ย
ซีวิล : อะไรของเธอเนี่ย ใครกลัวอะไรกัน
มากิ : อยู่ที่นี่ไม่ต้องกลัวใครทำอะไรนายหรอกน่า
โจเซฟ : เอาหล่ะๆ สถานการณ์ในเมืองเป็นยังไงบ้างหล่ะ
มากิ : อ้อ
ตอนนี้ทางสหประชาชาติให้ความช่วยเหลือกลุ่มกบฏอย่างลับๆ
อีกไม่นานพวกเขาจะให้เงินทุนเราทำสงครามแล้วค่ะ
โจเซฟ : ดีมาก
ตอนนี้เราต้องเคลื่อนพลไปประชิดเมืองให้ได้มากที่สุดในตอนนี้หล่ะ
มากิ : อีกอย่าง
ได้ยินว่าตอนนี้รัฐบาลส่งหน่วยรบพิเศษมาจัดการพ่อหน่ะ
โจเซฟ : คงจะเป็นพวกดอว์นซอร์ดแน่ๆ พวกนี้มันหมาล่าเนื้อ
ซีวิล : แล้วพวกคุณจะเอายังไงกันต่อหล่ะ
โจเซฟ : ฉันไม่กลัวพวกมันหรอก
กลับมายังเขตหนึ่งของเมืองหลวง บ้านของเจซซิน
เธอกับเวสต์กำลังนั่งปรึกษาปัญหาการขาดแคลนเสบียงกันในบ้าน ส่วนลูกๆของพวกเขาก็เล่นกันอยู่อีกด้านหนึ่งของบ้าน
เวสต์ : ปัญหาของพวกเราตอนนี้คือขาดแคลนเสบียงหน่ะครับ
เราถึงได้ออกตามหา
เจซซิน : ฉันเองก็ทราบค่ะ เสบียงของฉันก็คงไม่พอเหมือนกัน
เวสต์ : ผมก็ว่าจะออกไปหาเสบียงด้านนอกอยู่หน่ะครับ
เจซซิน : ดิฉันได้ยินจากเพื่อน ได้ยินว่าที่มั่นของกลุ่มกบฏเพิ่งจะได้เสบียงจากสหประชาชาติมาหน่ะค่ะ
เวสต์ : นี่คุณจะบอกว่า น่าจะหาเสบียงได้จากเขตกบฏงั้นเหรอครับ
เจซซิน : ฉันว่าคิดว่างั้น แถวนี้กับเขตกบฏอยู่ไม่ไกลด้วย
เวสต์ : ถ้างั้น ผมน่าจะไปสำรวจดูก่อนนะ
เจซซิน : ว่าแต่ เด็กๆของเราจะเอายังไงดีหล่ะ // และอีกด้านหนึ่ง
เด็กๆทั้งสองก็กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน
อดอลล่า : นี่ๆเธอรู้มั้ย แม่ฉันคือชีร่า
นักรบที่เก่งที่สุดในโลกเลยนะ
อนาตาเซีย : นี่เธอไปดูการ์ตูนเรื่องไหนมาเนี่ย
อดอลล่า : She-ra and The Princess of Power ไงหล่ะ
อนาตาเซีย : สนุกเหรอเรื่องนี้
อดอลล่า : สนุกจะตายเรื่องนี้ นายต้องลองดู
ถ้ามีเน็ตนะฉันจะเปิดให้นายดูจนตาแฉะเลย
อนาตาเซีย : เฮ้อ พ่อฉันก็เก่งเหมือนกันนะ
อดอลล่า : แม่ฉันเก่งกว่า เพราะแม่ฉันคือ…
อนาตาเซีย : ชีร่า นักรบที่เก่งที่สุดในโลก เฮ้อ….
อดอลล่า : นี่ เธอล้อฉันงั้นเหรอ // อดอลล่ากระโดใส่อนาตาเซีย
ทั้งคู่กระโดดฟัดกันไปมา จนพ่อแม่ของเด็กทั้งคู่ได้แต่หัวเราะคิกคัก
ณ เขตยึดครองของทหารรัฐบาล
ทหารกลุ่มหนึ่งจับผู้หญิงคนหนึ่งมานอนบนเตียงในร้านเก่าๆที่โดนระเบิด
พวกมันพยายามจะรุมโทรมเธอเนื่องจากเหน็ดเหนื่อยและอดอยากผู้หญิงมานาน
พวกนั้นจึงแสดงความเป็นสัตว์ของเธอเต็มที่
“อีนี่แม่งหุ่นดีหว่ะ
ขอจัดซักหน่อยเถอะ”
ทหารคนหนึ่งเอาหน้าไปไซร้คอเธอ แต่เธอกัดหูทหารคนนั้นจนขาด
“ฮืม อีนี่
มึงกล้ากัดหูกูเหรอ”
เธอเตะเข้าที่หัวของมัน จากนั้นก็หยิบปืนพกของมันกระหน่ำยิงไปที่พวกมัน
จากนั้นเธอก็รีบหนีออกมา โดยที่พวกมันบางส่วนพยายามตามตัวเธอ
“แกจะไปไหน
มาให้จับซะดีๆ”
เธอคนนั้นรีบหนีไปเรื่อยๆ เข้ามาในซอยแห่งหนึ่ง เธอจับทหารคนหนึ่งที่ไล่ตามเธอมาทำอะไรบางอย่าง
จากนั้นเธอก็วิ่งหนีไปทหารคนอื่นๆที่ตามมาดู
ก็เห็นร่างเพื่อนของเขากำลังนอนคว่ำอยู่ เพื่อนๆของเขาพยายามจะเข้าไปช่วย
“อย่าเข้ามา
ถอยไป”
ทุกคนแปลกใจ แต่ก็ยังจะเข้าไปช่วยแบกร่างเขาขึ้นมา
ในตอนนั้นเองที่ระเบิดที่ผู้หญิงคนนั้นแกะสลักเอาไว้ก็ทำงานทันที
ระเบิดพวกมันจนแหลกเป็นผุยผง
เธอหนีออกมาได้โดยที่พกเนื้อตากแห้งของทหารมาด้วย
เธอหยิบมันขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย
ฮา คือชื่อของเธอ เนื่องจากว่าชีวิตเธอรันทดตั้งแต่เด็ก
ใครๆก็เรียกเธอแบบนี้ เธอเลยใช้มันเป็นชื่อของตัวเองซะเลย
ณ ทำเนียบรัฐบาล ในขณะที่ประธานาธิบดีกำลังประชุมกับทหารเหล่าทัพอยู่เพื่อทำการต่อสู้กับกบฎ จู่ๆก็มีกระดาษใบหนึ่งพุ่งเข้ามายังหน้าต่างของห้องประชุม มายังประธานาธิบดี ประธานาธิบดีสั่งทหารไปตามหาตัวคนทำ จากนั้นเขาก็หยิบจดหมายฉบับนั้นมาอ่าน เมื่อเขาอ่านแล้วจึงรู้ทันทีว่าเป็นใครทำ
"ท่านครับ มันฝีมือใครครับเนี่ย"
"เฮ้อ เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้ซะทีเนี่ย"
"ข้อความเขียนว่ายังไงครับ"
ประธานาธิบดียื่นข้อความให้เลขาดู เขียนว่า "จะทำอะไรให้คิดหน้าคิดหลังให้ดีก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน"
"มันเป็นใครกันครับ"
"เอสเมอรันด้า พอลโก้ เมียเก่าฉันเองหล่ะ" และในขณะเดียวกัน ทหารคนหนึ่งก็เข้ามารายงานข่าวกับประธานาธิบดี
"ท่านครับ เราจับตัวมันไม่ได้ครับ แต่เราพยายามจับมันอยู่"
"ช่างเถอะ นายจับเธอไม่ได้หรอก"
กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ในตอนนั้นเองพวกเขารีบแบกยูจีนที่กำลังบาดเจ็บที่เท้ามายังอพาร์ทเม้นท์
หลังจากนั้นเองพวกเขาก็เปิดประตูแล้วแบกร่างของยูจีนมาไว้บนฟูกในทันที
คนอื่นๆก็รีบมาดูอาการของยูจีนด้วย
นอร์รีน : อนูวาครับ มาดูตรงนี้หน่อยครับ
อนูวารีบมาดูอาการของยูจีนในทันที เธอค่อยๆจับเท้าของยูจีนมาดูอาการ
อนูวา : กระสุนแค่เฉี่ยวขาหน่ะ โชคดีนะ
โทนี่ : แล้วแบบนี้พี่เขาจะเป็นยังไงครับ
อนูวา : อ้อ แค่รักษาแผลหน่อยก็หายแล้วหล่ะ
พวกเขาช่วยกันรักษายูจีนในทันที ก่อนที่แผลของเธอจะแย่ไปมากกว่านี้
=====================================================================
อาการของยูจีนจะเป็นอย่างไรต่อไป และเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ความคิดเห็น