คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : EP 17 : หักหลัง
วินและเซบบุกเข้าไปยิงกับพวกลูกน้องของเกรท
มีการต่อต้านกันเพียงเล็กน้อย วินและเซบยิงพวกนั้นอย่างไม่ปรานี
โดยที่พวกเขาก็พยายามหาตัวเวหาไปด้วย
“เฮ้ย เซบ
นายว่าเวหาจะอยู่ที่ไหน”
“ไม่รู้สิ
อาจจะด้านในหล่ะมั้ง”
“แล้วนี่พวกมันมีกันแค่นี้เองเหรอ”
“สงสัยอาจจะเป็นพวกโจรกระจอกหล่ะมั้ง”
“เอางี้
ฉันจะไปด้านนั้น นายไปดูด้านนี้แล้วกัน”
“ได้เลย
แล้วมาเจอกันหล่ะ”
วินและเซบแยกย้ายกันไปตามหาตัวเวหา
และอีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ของ Nation ก็ระดมกำลังออกตามหาตัวพวกเวหาและเกรซ
ในระหว่างที่พวกเขากำลังระดมกำลัง พวกเขาก็พบกับเครื่องจักรผลิตยาเสพติดมากมาย
รวมถึงสารเคมีที่ใช้ผลิต พวกเขารีบตรวจสอบมันในทันทีหลังจากที่เจอ
“โห
นี่พวกมันใช้ที่นี่ผลิตยางั้นเหรอ” เอกพูดขึ้น
“นั่นสิครับ
แล้วเราจะเอายังไงกับเครื่องพวกนี้ดีหล่ะ” เอย์จิถามไป
“นายกับซากิริ
ออกตามหาพวกเขา ส่วนเอเรียน่า เธอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบที”
“รับทราบค่ะ
ยังไงก็โชคดีนะคะ”
เอย์จิกับซากิริแยกย้ายกันออกไปตามหาเกรซ
ส่วนเอเรียน่าก็ตรวจสอบเครื่องผลิตยาเสพติดอย่างละเอียด
“คุณเอกคะ
ดูเหมือนว่านี่จะผลิตสารสีเขียวค่ะ”
“งั้นเหรอ
ถ้างั้นเราเจอแหล่งของมันแล้วหล่ะ”
“แล้วจะเอายังไงต่อดีคะ”
“ส่งข้อมูลกลับไปที่หน่วย
แล้วทำลายเครื่องพวกนี้ให้หมด”
“รับทราบค่ะ”
เอเรียน่าจัดการถ่ายรูปและบันทึกข้อมูลของเครื่องผลิต
จากนั้นคนของเธอก็จัดการวางระเบิดมัน จนเครื่องผลิตระเบิดเป็นเสี่ยงๆ
“ดีมาก
คราวนี้ก็เคลียร์พื้นที่ด้วยหล่ะ”
ทางด้านของเกรท
เธอพยายามจะพาเวหาและเกรซหนีออกไปอีกทาง แต่ดูเหมือนว่าพวก Nation จะปิดล้อมที่นี่เอาไว้หมดแล้ว
ทางออกสำหรับพวกเขาถูกปิดไปแล้ว
“นี่คุณ
จะหนีไปไหน ไม่พ้นหรอกน่า” เวหาพยายามเตือนสติ
“หุบปาก
ฉันบอกให้หุบปากเดี๋ยวนี้” เกรทเล็งปืนใส่เวหา
“ไม่เกรท
เธออย่าทำแบบนี้เลย พี่ขอหล่ะ”
“ฉันบอกให้หุบปาก”
ในขณะเดียวกัน
ลูกน้องของเกรทก็วิ่งมารายงานเธอ
“นี่ มีอะไรงั้นเหรอ”
“พวกมันปิดทางออกหมดเลยครับ”
และในตอนนั้นเอง
เอย์จิกับซากิริก็บุกมายิงลูกน้องของเกรทจนตายหมด
เธอจับเกรซเป็นตัวประกันเอาไว้ทันที
“ยอมมอบตัวซะดีๆ
แกไม่มีทางรอดแล้ว” เอย์จิพูดขึ้น
“ใช่
แล้วก็ปล่อยเพื่อนเรามาเดี๋ยวนี้” ซากิริพูดเสริม
“ถอยไปนะ
ไม่งั้นฉันฆ่ามันแน่” เกรทพูดอย่างเกรี้ยวกราด ในมือก็เอาปืนจ่อเกรซไปด้วย
“อย่าทำอะไรโง่ๆนะ
วางปืนลง” เอย์จิพูดขึ้น
“ใช่
ปล่อยพี่เธอเดี๋ยวนี้ ฉันรู้ว่าเธอเป็นใคร” ซากิริพูดเสริม
“ทุกคนถอยไปให้หมด”
แต่ในขณะเดียวกัน
เซบและวินก็วิ่งมาเจอพอดี วินตะโกนบอกเธอไปทันที
“ปล่อยเพื่อนผมซะ
เดี๋ยวนี้” วินตะโกนพร้อมเล็งปืนใส่เธอ
“ใจเย็นๆนะคะ
อย่าทำอะไรรุนแรงเลย” เกรซพยายามบอกให้ทุกคนใจเย็น
“หุบปาก
แล้วเอารถมาให้ฉัน คุณวิน คุณต้องไปกับฉัน ไม่งั้นยัยนี่ตาย” เกรทพูดอย่างเกรี้ยวกราด
“ก็ได้
คุณปล่อยพวกเขาไป แล้วเอาตัวผมไปแทน”
วินพูดจากนั้นเขาก็วางอาวุธลง
เกรทค่อยๆปล่อยพี่สาวของเธอออกมา เกรซค่อยๆเดินเข้ามาสลับกับวิน
วินค่อยๆเดินเข้าไปหาเกรท
“หันหลังด้วยค่ะคุณวิน”
“คุณไม่ควรเป็นแบบนี้เลย”
วินหันหลังไปให้กับเกรท
จากนั้นเกรทก็ล็อคตัววินเอาไว้ แล้วพยายามจะเดินออกไปที่ด้านนอก
“หาคนขับรถให้ฉันด้วย
คนนึง เอาคนของฉันมา”
พวกเขาปล่อยตัวชายคนหนึ่งให้ไปหาเกรท
และในขณะเดียวกัน เอกกับเอเรียน่าก็ตามมาดูสถานการณ์ในตอนนั้นด้วย
“นี่
ปล่อยตัวเขาเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นคุณโดนโทษหนักแน่” เอกพูดขึ้น
“ถอยไป
ไม่งั้นฉันยิง” เกรทยังคงตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด
“นี่
ถ้าไม่ปล่อยเพื่อนผม ผมรับรองว่าคุณไม่ตายดีแน่” เซบพูดอย่างโมโห
“อย่ามาขู่ฉัน
คุณวิน ขึ้นรถไป”
“ก็ได้
คุณเลือกเองแล้วนะ”
วินอาศัยจังหวะนั้นหันหลังกลับเตะปืนของเกรทกระเด็นไป
เกรทพยายามจะวิ่งไปหยิบแต่วินจับตัวเธอเอาไว้
ส่วนลูกน้องของเกรทก็โดนเซบยิงตายคาที่ วินจับเธอยันติดกับตัวรถเอาไว้
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคุณวิน”
“ปล่อยให้ได้อะไรหล่ะครับ”
“ฉันรักคุณ
คุณวิน ฉันมีทองเยอะแยะเลย ไปอยู่กับฉันเถอะ ฉันยกทุกอย่างให้คุณเลย”
“ผมไม่ต้องการหรอก”
หน่วยของเอกมาจับตัวเกรทเอาไว้
โดยที่เกรทพยายามขัดขืนสุดชีวิต
“คิดว่าแค่นี้มันจะจบงั้นเหรอ
ถ้าแกจับฉัน การค้ายาเสพติดระหว่างแก๊งค์จะขาดสะบั้น
แล้วพวกเจ้าพ่อจะตามล่าพวกคุณแน่ รับรอได้เลย”
“ถ้าอย่างงั้นคุณก็ไปคุยกับพวกมันในคุกดีกว่า
เพราะตอนนี้ พวกนั้นถ้าไม่ตายก็ติดคุกกันหมดแล้ว” เวหาพูดอย่างสะใจ
จากนั้นเขาก็ไปดูเกรซที่ยังบาดเจ็บอยู่
“มันจบแล้วคุณเกรท
ไปทบทวนตัวเองในคุกซะเถอะ” เซบพูดขึ้น
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ของหน่วยก็พาตัวเธอไปขึ้นรถเพื่อตัดสินคดีของเธอต่อไป
ในระหว่างนั้นเอง หน่วย Nation ก็มารวมตัวกันเพื่ออัพเดทงานของพวกเขา
“เอาหล่ะ
ทุกคนทำได้ดีมาก
เราได้ช่วยเหลือเกรซและจัดการเครือข่ายยาเสพติดชนิดใหม่นี้ได้สำเร็จ
ทางหน่วยเหนือพึงพอใจกันมาก งานนี้กรุงเทพของเราจะกลับมาสะอาดอีกครั้ง
แต่ยังมีอีกอย่าง ที่พวกผมจะต้องรายงานให้พวกคุณทราบหน่ะ”
“มีอะไรเหรอครับท่าน”
เอย์จิถามไป
“ตอนนี้มีทหารรับจ้างกลุ่มหนึ่งกำลังโจมตีกรุงเทพ
ทาง NSA แจ้งว่าเป็นพวกของนายสุวรรณ เราต้องยันพวกมันเอาไว้”
“แต่ว่า
กำลังคนของเราจะไม่พอหน่ะสิคะ” ซากิริพูดขึ้น
“เราจะป้องกันพวกมันในเขตของเรา
พวกมันมีกำลังคนไม่ถึงสามพัน เราน่าจะยันพวกมันไว้ได้”
“แล้วอาวุธ
หน่วยสนับสนุนของเราหล่ะคะ” เอเรียน่าถามไป
“ผมได้ยินว่าจะมีกองกำลังมาจากทางเหนือ
มาช่วยพวกเราหน่ะ เอาหล่ะ งานนี้เราคงต้องเตรียมพร้อมกันหน่อย แยกย้ายกันได้”
จากนั้นไม่นานทุกคนก็แยกย้ายกันไป
ทางด้านของเซบและซากิริ ทั้งคู่มาคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
“คุณเซบ
ฉันต้องทำงานชิ้นหนึ่งหน่ะ”
“มีอะไรงั้นเหรอ”
“ฉันต้องไปป้องกันเขตของฉัน
ตอนนี้พวกมันกำลังบุกมา”
“พวกของสุวรรณนั่นเหรอ
ผมอยากช่วยคุณนะ”
“ขอบคุณมากนะ
แล้วเราจะได้เจอกันอีกมั้ย”
“ไม่ต้องห่วงนะ
ผมจะตามหาคุณเอง” เซบหอมแก้มซากิริ ทำเอาซากิริหน้าแดงก่ำ
ทางด้านของเอย์จิและเอเรียน่า
เอย์จิรวบรวมความกล้าของเขาทุกอย่างเพื่อเดินเข้าไปคุยกับเธอ
“นี่ เอย์จิ
นายจะพูดอะไรอีกเนี่ย ขอแบบมีสาระหน่อยนะ” เอเรียน่าพูดแซวเขา
“คือว่า ฉัน… ฉันชอบเธอนะ”
“นี่นาย…..”
“ฉันต้องพูด
เผื่อว่าวันหนึ่ง ฉันอาจไม่ได้พูดแล้วหน่ะ” เอเรียน่าได้ยินจึงเอาตัวเอย์จิมาจูบ
จากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า
“ไม่ต้องกลัวหรอก
ฉันก็อยู่กับเธอเสมอแหละ”
ทางด้านของเวหา
เขาไปหาเกรซเพื่อดูอาการของเธอว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เนื่องจากว่าเธอเพิ่งจะเสียน้องสาวของเธอ
“คุณเกรซครับ
ไม่เป็นไรนะครับ”
“ค่ะเวหา
ฉันไม่เป็นไร”
“คุณน่าจะใจเย็นลงนะครับ
เธอไม่เป็นไรหรอก”
“ฉันก็แค่…”
“ผมเป็นห่วงคุณนะ
ผมอยากดูแลคุณด้วย”
“นี่คุณ…..”
“ใช่
คุณไม่ต้องห่วงนะ ผมจะดูแลคุณเอง” เกรซยิ้มอ่อนๆให้กับเขา จากนั้นก็กอดเขาเอาไว้
กลับมายังโรงพยาบาลของวาเดลเรีย
ในตอนนั้นเองมีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาหาเธอ เธอรีบรับสายในทันที
“วาเดลเรีย
คุณเป็นยังไงบ้าง”
“คุณเอกคะ
คุณโอเคนะคะ”
“ผมไม่เป็นไรครับ
ตอนนี้ก็ดีแล้ว”
“ฉันเป็นห่วงคุณจัง
ได้ยินว่าคุณต้องไปทำสงครามกับพวกทหารรับจ้างนี่หน่า”
“ไม่ต้องห่วงผมหรอก
ผมอยู่ในเขตของผม รอพวกมันมาโจมตีหน่ะ”
“แล้วนี่คุณจะมาหาฉันเมื่อไหร่คะ”
“ไม่ต้องห่วงนะ
ผมไปหาคุณแน่”
“ค่ะ
แล้วฉันจะรอคุณนะคะ”
“คุณต้องดูแลตัวเองให้มากๆนะครับ
ผมไม่อยากให้คุณเป็นอะไร”
“ค่ะ
ฉันจะดูแลตัวเองค่ะ”
“ผมรักคุณนะ”
“ฉันก็รักคุณค่ะคุณเอก”
จากนั้นเอกก็วางสายไป
ส่วนวาเดลเรียก็นั่งร้องไห้อยู่แถวนั้น
และที่เตียงของเจ้าพ่อเคี้ยง
หลังจากที่เคี้ยงถูกรักษาจนอาการดีขึ้น
แองเจลล่าก็ให้เจ้าหน้าที่มาพาตัวเจ้าพ่อเคี้ยงไปในทันที
ท่ามกลางความตกใจของไข่มุก
“นี่
จะพาพี่ฉันไปไหนเหรอคะ”
“เราจะพาพี่เธอไปตัดสินคดีหน่ะ”
“เฮ้ย
ฉันไม่ยอมติดคุกหรอกนะเฟ้ย” เจ้าพ่อเคี้ยงดิ้นรนสุดชีวิต
“ไม่ทันแล้วหล่ะ
ยังไงนายก็ต้องไป”
เจ้าหน้าที่สองคนเอาตัวเจ้าพ่อเคี้ยงใส่กุญแจมือ
จากนั้นก็พาเจ้าพ่อเคี้ยงเดินไปขึ้นรถที่เตรียมไว้
“ไข่มุก
ช่วยพี่ด้วย”
“พี่คะ
พี่ต้องเข้มแข็งนะ แค่ติดคุกมันไม่ตายหรอกนะคะ”
“แต่พี่ไม่เอา
พี่ต้องหนีไปให้ได้”
“พี่คะ
พอเถอะค่ะ ให้มันจบลงแค่นี้เถอะ”
เจ้าหน้าที่สองคนพาตัวเจ้าพ่อเคี้ยงขึ้นรถไป
จากนั้นรถก็ค่อยๆขับออกไปจากโรงพยาบาลทันที
“นี่เธอ
อยากไปเยี่ยมพี่เธอหรือเปล่า” แองเจลล่าถามไข่มุกไป
“ไปค่ะ
หนูเป็นห่วงพี่หนู”
“ถ้าอย่างงั้นก็ตามมาเลย”
แองเจลล่าพาไข่มุกขึ้นมอไซค์
จากนั้นเธอก็บึ้งรถตามเจ้าหน้าที่ของเธอไปในทันที
กลับมายังค่ายของสุวรรณ
ช่วงดึก คนของสุวรรณก็พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ โดยที่ไม่มีศัตรูหน้าไหนมากวนใจ
สิ่งที่เขาคาดการณ์นั่นถูกต้อง เนื่องจากว่าศัตรูอ่อนแอ ไม่กล้าออกมาสู้กับเขา ในตอนนั้นเอง
กลุ่มลูกน้องของสุวรรณก็นั่งพักผ่อนกันแถวๆคาเฟ่ร้างที่หนึ่ง
ท่ามกลางแสงเทียนสลัวๆ
“เฮ้ยนี่
แกว่าเราจะยึดกรุงเทพได้เมื่อไหร่เนี่ย” ภาคินถามคนในกลุ่ม
“ถ้าง่ายขนาดนี้
ไม่น่าจะเกิน 3 วันหรอก” เสือตอบไป
“เออนี่
แล้วถ้ายึดกรุงเทพแล้วยังไงต่อ” ฟาฟาถามอย่างสงสัย
“ก็คงจะประกาศว่าพวกเรายึดประเทศนี้ได้แล้วหล่ะ”
ติ๋มพูดขึ้น
“นั่นสิ
พวกนั้นคงต้องฟังคำสั่งกรุงเทพแน่ๆ เพราะไม่มีใครแกร่งกว่าพวกเราอีกแล้ว” คูไกพูดขึ้นจากนั้นก็ดื่มเหล้าไปด้วย
“แต่ฉันมาคิดอีกที
มันอาจไม่ง่ายแบบนั้นแน่ๆ” ภาคินพูดขึ้น
“อ้าว ทำไมหล่ะ
หรือว่าพวกมันยังเข้มแข็งกว่าเราอยู่” ฟาฟาถามอย่างสงสัย
“ฉันเห็นด้วยกับมันนะ
ฉันว่าทุกอย่างมันดุง่ายเกินไป” เสือพูดพลางขมวดคิ้ว
“เฮ้ย
คิดมากน่า มันอาจไม่ขนาดนั้นก็ได้” คูไกพูดขึ้น
“อย่าเพิ่งคิดเรื่องอนาคตเลย
วันนี้เต็มที่ก่อนดีกว่า” ติ๋มพูดขึ้น จากนั้นเธอก็หยิบเอาบุหรี่ในกระเป๋าของเธอมาสูบ
ที่ห้องของสุวรรณ
ในตอนนั้นเองเขากำลังนั่งมองแผนที่ที่อยู่บนโต๊ะของเขา ในขณะเดียวกัน โมเอกะก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับน้ำมะนาวแก้วหนึ่ง
เธอเอามาให้กับสุวรรณในทันทีหลังจากที่เจอเขา
“น้ำมะนาวหน่อยมั้ยคะ”
“ขอบคุณมากครับ”
สุวรรณหยิบน้ำแก้วนั้นมาดื่มในทันที
“ดูท่าทางคุณจะจริงจังกับเรื่องนี้มากนะคะ”
“แน่นอน
ผมเคยพลาดมาแล้ว ผมจะไม่พลาดอีกแน่นอน”
“ทำไมคะ
เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นเหรอ”
“ผมเคยเป็นทหาร
หน่วยของเราเคยต่อต้านพวกก่อการร้ายและพวกเจ้าพ่อหน่ะ แต่ว่า”
“แต่ว่าอะไรหล่ะคะ”
โมเอกะถามอย่างสงสัย
“แต่ก็ไม่ต่างกับพวกเจ้าพ่อ
พวกเขาก็อย่างที่รู้ๆกัน ชิงอำนาจกันเอง ประชาชนก็พลอยเดือดร้อน ผมเกลียดอนาธิปไตย
ผมเลยแยกตัว พาคนของผมมาจัดการมันเอง”
“คุณว่าคนทุกคนมีสิทธิ์ปกครองตัวเองงั้นเหรอคะ”
โมเอกะถามอย่างสงสัย
“แน่นอน
มันไม่ยากอะไรหรอก ว่าแต่ เราเปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่ามั้ยครับ”
“จะดีเหรอคะ”
โมเอกะพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
“ครับ
ผมเองก็มีมุมผ่อนคลายเหมือนกันนะ”
สุวรรณยื่นหน้าเข้าไปใกล้โมเอกะ
โมเอกะเอามือลูบหน้าเขา แต่จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตู สุวรรณต้องออกไปดูในทันที
“มีอะไร
ถึงมารบกวนฉันตอนนี้” ลูกน้องของเขาสังเกตผู้หญิงในห้องของเขา
“ขอโทษครับท่าน
ผมจะมารายงานว่า มีข้อมูลลับหลุดออกมาจากสายของเราครับ” สุวรรณรับกระดาษแผ่นหนึ่งมาอ่าน
เขาอ่านไปก็ตกใจในทันที
“นี่มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”
โมเอกะถามอย่างสงสัย
“พวกต่างชาติกำลังจะออกจากพื้นที่อ่าวไทยครับ”
“ถ้าอย่างงั้นก็ดีสิคะ”
“แต่ว่า
ทั้งๆที่ปะทะกันหนักขนาดนั้นเนี่ยนะ ฉันว่าไม่ใช่นะ”
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อหล่ะคะ”
“ผมจะสำรวจให้ทั่วอ่าวเลย
ไม่แน่มันอาจจะเล่นข่าวลวงกับเราก็ได้”
“อ้อค่ะ”
กลับมายังเรือของยามาโมโตะ
ในตอนนั้นเองเขาได้รับคำสั่งให้หยุดยิงชั่วคราว โดยที่เขาเริ่มจะรอไม่ไหวแล้ว
เนื่องจากว่าถ้าปล่อยให้พวกของสุวรรณเข้มแข็งขึ้น อาจจะยากต่อการบุก
แต่ในขณะเดียวกัน ลูกน้องของเขาก็ได้รับข้อความลับข้อความหนึ่งมาถึงเขา
“ท่านครับ
มีข้อความส่งมาครับ”
ยามาโมโตะรีบหยิบกระดาษมาอ่านในทันที
“หน่วย Nation
เตรียมเข้าตีในวันพรุ่งนี้ ช่วงบ่าย”
“นี่มันข่าวจริงหรือเปล่า”
ยามาโมโตะถามอย่างสงสัย
“จริงครับท่าน
ยืนยันได้ครับ”
“มันแปลกๆนะ
พวก Nation จะหากำลังพลจากไหนมางั้นเหรอ”
“ไม่ทราบครับ
ทางเราไม่รู้เลย”
“อืม
ยังไงก็เตรียมพร้อมแล้วกัน พรุ่งนี้เราจะยกพลขึ้นบกมันทุกจุดเลย”
“อ่า ท่านครับ
มีอีกอย่างนึงครับ”
“มีเรื่องอะไรอีกหล่ะ”
“พวกเขาขอให้เราส่งกำลังไปควบคุมทางใต้หน่ะครับ”
“งั้นเหรอ
ถ้างั้นก็ส่งไปก่อนก็แล้วกัน”
“ได้ครับท่าน”
ณ
เซฟเฮ้าส์ของนายพลอภิชาติ เขาได้ยินข่าวเกี่ยวกับการจัดส่งกองกำลัง Nation เพื่อจู่โจมพวกของนายสุวรรณ
เขารู้สึกสงสัยอะไรบางอย่าง จึงเรียกนายทหารของเขามาประชุมในทันที
“นี่
พวกคุณกำลังทำอะไร คุณจะให้พวกเราบุกขับไล่มันอย่างงั้นเหรอ”
“ใช่ครับท่าน
เรามีกองกำลังที่จะขับไล่พวกมันไปครับ” ลูกน้องของเขาตอบไป
“แต่ว่า กำลังพลของเรายังไม่พร้อมจะสู้นี่หน่า
คุณยามาโมโตะตอนนี้ทำอะไรอยู่”
“เขากำลังส่งกองกำลังรุกรานเราอยู่ทางใต้หน่ะ”
“เป็นไปไม่ได้
พวกเขาเป็นมิตรเรา ใครเป็นคนสั่งเนี่ย”
“คุณสั่งไง”
ชายคนหนึ่งยื่นเอกสารราชการฉบับหนึ่งให้อภิชาติอ่าน
อภิชาติอ่านแล้วก็รู้สึกตกใจ
“นี่มันกบฏชัดๆ
พวกนายกำลังทำอะไร”
“ไม่
ท่านต่างหาก” ลูกน้องของเขาชักปืนออกมา จากนั้นก็จับตัวอภิชาติเอาไว้
“พวกนายคิดว่าเรื่องนี้จะจบแบบไหนกันหล่ะ”
พวกมันเอาตัวนายพลไป
จากนั้นมันคนหนึ่งก็โทรศัพท์หาชายปริศนาในสาย
“ท่านครับ
เราจัดการนายพลชาติแล้วครับ”
“ดีมาก แล้วแผนของนายเตรียมพร้อมหรือเปล่า”
“พร้อมครับ
ถึงเวลาเก็บเบี้ยอย่างๆไอ้สุวรรณแล้วครับ”
“ยังมีอีกคนที่อาจขัดขวางเรา
สารวัตรเอกยังไงหล่ะ”
“ผมจะจับตาดูเขาไว้
ถ้าเกิดอะไรขึ้น จะให้ผมทำยังไงครับ”
“เก็บมันซะ
สายข่าว ลูกน้องของมันทั้งหมดด้วย เพื่อความปลอดภัยของเรา”
“เดี๋ยวจัดให้ครับท่าน”
จากนั้นสายก็วางไป
ณ
เหลามังกรฟ้า ในช่วงเย็น หลังจากที่เหตุการณ์สงบลง เธอก็เปิดร้านตามปกติ
เนื่องจากว่ายังมีลูกค้าต้องการทานอาหารที่ร้านของเธอจำนวนมาก
แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าของเธอจะพกอาวุธเข้ามาด้วย เรย์สังเกตเห็นชายกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งคุยอะไรกันบางอย่าง
เธอรีบเงี่ยหูฟังในทันทีตอนนั้น
“เฮ้ยนี่ มึงว่าท่านนายพลชาติจะเป็นยังไงบ้างวะ”
“ท่านนายพล
มันอะไรกันเนี่ย” เรย์คิดในใจ
“ก็คงโดนเก็บหล่ะมั้งนะ”
“ใช่ๆ
คงจะรวมคนอื่นๆไปด้วยหน่ะ”
“เราจะทำอะไรได้วะ
มันงานเรานี่หว่า”
“เออๆ
แล้วนี่เป็ดย่างเราเมื่อไหร่จะมาเนี่ย”
เรย์รู้สึกตกใจ
ในตอนนั้นเองเธอก็เห็นลูกน้องของเธอกำลังเอาเป็ดย่างมาเสิร์ฟ
เธอรีบหยิบจานมาเสิร์ฟแทน ให้กับชายสองคนนั้น
“สวัสดีค่ะ
เป็ดย่างคุณได้แล้วค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ”
“อาหารร้านเราเป็นยังไงบ้างคะ”
“อร่อยมากเลยครับ”
“ค่ะ ดีใจที่พวกคุณชอบนะคะ”
เรย์พูดจากนั้นก็เดินออกมา
จากนั้นไม่นาน เธอก็รีบไปโทรศัพท์ติดต่อกับเอกในทันที
แต่ในตอนนั้นเองเอกก็ยังไม่รับสาย เนื่องจากอะไรบางอย่าง
“รับหน่อยสิคุณเอก”
เธอพยายามโทรศัพท์เท่าไหร่ก็ไม่ติด
ทำเอาเธอถอดใจไปเลยในตอนนั้น
กลับมายังถนนเส้นหนึ่ง
หลังจากที่ชนและโซระหนีการโจมตีของพวกนายสุวรรณมาได้
พวกเขาก็หาที่หลบอยู่ในเขตที่ห่างจากเขตเจ้าพ่อไม่มากนัก
พวกเขาขับรถเข้าไปหลบในร้านๆหนึ่ง ซึ่งน่าจะใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวชั่วคราวได้ พวกเขาซ่อนรถเอาไว้แถวๆนั้น
จากนั้นโซระก็แบกชนเข้ามาในร้านทันที แล้วก็วางเขาลงบนโซฟาแถวนั้น
“เฮ้ย ชน
พอทนไหวหรือเปล่าวะ” โซระถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรมากหรอก
พอไหวอยู่หน่ะ”
“งั้นแป๊ปนึงนะ”
โซระเปิดแขนของชนมา
จากนั้นเขาก็เอาแอลกอฮอล์ราดลงไปบนแผลในทันที
“เจ็บหน่อยนะเว้ย
เดี๋ยวจะผันแผลให้”
โซระพันแผลให้กับเขา
จากนั้นก็เอาผ้าที่เปื้อนเลือดออกไปทิ้งด้านนอก
“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย”
โซระถามอย่างสงสัย
“กูก็ไม่รู้
แต่เดี๋ยวเราได้รู้แน่ๆ”
“เออนี่
ว่าแต่พวกมันเป็นใครกันวะ”
“ฉันไม่รู้
แต่ไม่น่าใช่พวกแก๊งค์กระจอกๆแน่ๆ”
“แล้วพวกมันต้องการอะไรจากเราหล่ะวะ”
“เอ้า ถามฉันแล้วฉันจะถามใครหล่ะ”
“เออ ช่างเถอะ
แล้วนี่เราจะเอาไงต่อเนี่ย”
“ตอนนี้ก็กบดานไปซักพัก
รอดูว่ามันจะทำอะไรต่อ”
“นั่นดิ
แล้วเราจะกลับไปในเมืองหรือเปล่าวะ”
“ถ้าเหตุการณ์เป็นแบบนี้
พวกเจ้าพ่อสิงห์คงเละหมดแล้วหล่ะ”
“เอาเถอะ
ค่อยหาทางก็แล้วกัน วันนี้อยู่ที่นี่ไปก่อนเถอะ”
ชนและโซระช่วยกันหาที่นอนเพื่อพักผ่อนสำหรับวันนี้
เพื่อพวกเขาจะได้มีแรงสืบว่ามันเกิดอะไรขึ้น
กลับมายังค่ายของสุวรรณ
ผู้กองคนหนึ่งพาตัวเพลิงไปพบกับหัวหน้าของเขาที่รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยที่เพลิงถูกพาตัวมาที่ร้านๆหนึ่ง
ซึ่งพวกของเสือกำลังนั่งพักผ่อนกันอยู่
“คุณเสือครับ
หมอนี่มาจากในเมือง บอกว่ารู้จักพวกเจ้าพ่อเคี้ยงครับ”
เสือรีบผละตัวจากกลุ่มของเขาแล้วเดินเข้ามาถามจากปากเพลิงในทันที
“นายเนี่ยนะ
รู้จักยังไง”
“ผมเคยอยู่ในกลุ่มครับผม”
“แล้วทำไมถึงหนีออกจากกลุ่มมาหล่ะ”
“ผมทนไม่ไหวแล้วครับกับพวกมัน”
“เอาเถอะ
ว่าแต่แกรู้อะไรบ้างหล่ะ”
“ผมรู้ว่าพวกมันตอนนี้กำลังซ่องซุมกำลังขยายอิทธิพลครับ
พวกมันปั๊มยาเสพติดขายเองด้วย”
“งั้นเหรอ
คิดว่าจะมีอะไรใหม่ซะอีก แต่เอาเถอะ นายจะเอายังไงต่อหล่ะ”
“ผมไม่มีที่ไปแล้ว
ยังไงผมขออยู่ที่นี่นะครับ แล้วผมจะบอกเรื่องของพวก Nation ด้วย”
“พวก Nation
มีอะไรก็ว่ามา”
“ตอนนี้พวก Nation
มีคนสามคนกำลังทำงานกวาดล้างศัตรูของหน่วยอย่างลับๆอยู่หน่ะครับ”
เพลิงพยายามใส่ร้ายวินและพรรคพวก
“สามคนที่ว่า
หมายถึงพวกนี้หรือเปล่า” เสือสั่งให้ลูกน้องเอารูปของวินและเพื่อนๆให้เขาดู
“ใช่ครับ
มันเลยครับท่าน”
“คิดไม่ผิดจริงด้วย
แล้วตอนนี้มันอยู่ที่ไหนหล่ะ”
“ผมปะทะกับมันครั้งสุดท้าย
ผมจะบอกสถานที่ครับ”
“ดี
ถ้างั้นพรุ่งนี้ ตอนเราโจมตี นายพาเราไปด้วย”
“ครับผม”
เพลิงยิ้มมุมปากอยู่ในใจ
กลับมาที่หน่วย
Nation พวกของเอกและวินพากันมายังหน่วยหลังจากที่จับกุมตัวเกรทได้แล้ว เอกยากแนะนำให้วินและพวกได้รู้จักกับผู้ใหญ่ในหน่วย
เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาก็พาเกรทเข้าไปขังไว้ในคุกลับแห่งหนึ่ง ในระหว่างนั้นเอง
วินก็เห็นไข่มุกกำลังเยี่ยมพี่ชายของเธอ วินรีบเดินเข้าไปหาไข่มุกในทันที
“วิน
ไม่เป็นไรนะคะ” ไข่มุกไปจับมือวิน ท่ามกลางความสงสัยของเจ้าพ่อเคี้ยง
“นี่
เธอรู้จักกับมันได้ยังไงเนี่ย”
“ทำไมวะ ห่ะ
มึงจำได้ไหมมึงทำอะไรพ่อแม่กูไว้” วินหันไปปะทะวาจากับเคี้ยงแทน
“มึงจะแก้แค้นกับน้องสาวกูงั้นเหรอ
กูขอร้อง อย่าทำอะไรน้องกู กูขอโทษที่ทำแบบนั้น”
“ขอโทษเหรอ
สายไปแล้วหว่ะ น้องกูก็เพิ่งตายไป แต่ช่างเถอะ ถ้ามึงออกจากคุกเมื่อไหร่
กูจะไปต้อนรับมึงอย่างสาสมเลย ส่วนน้องสาวมึง ก็ให้เป็นเรื่องในอนาคตดีกว่า”
เคี้ยงทั้งเจ็บทั้งเสียใจกับสิ่งที่เขาทำ
เกรทที่เพิ่งจะโดนขังคุกก็ถึงกับโวยวายใส่ไข่มุก
“นี่แก
แกจะแย่งวินไปจากฉันเหรอ อีระยำ ฉันจะฆ่าแก”
“มึงเป็นใครจะมาทำน้องกูวะ”
เคี้ยงทำเสียงดุใส่เกรทไป
ในระหว่างที่ในคุกกำลังดุเดือด
จู่ๆชายคนหนึ่งในชุดสูทดูมีภูมิฐานก็เดินลงมาหาเอก แต่ที่น่าแปลกก็คือเขาพายามติดอาวุธมาด้วย
“คุณเอก
คุณทำได้ดีมาก คุณช่วยกำจัดพวกมัน”
“ยินดีครับท่านรอง
เราคงต้องรีบตัดสินคดีพวกเขา”
“พวกนั้นไม่ต้องการให้ตัดสินคดีหรอก
พวกนั้นต้องการไปลงนรกมากกว่า” ท่านรองชักปืนออกมายิงเจ้าพ่อเคี้ยงและเกรทตายคาคุกไป
ทำเอาไข่มุกและเกรซตกใจมาก
“พี่เคี้ยง พี่เคี้ยง” ไข่มุกร้องไห้เสียใจอย่างหนักเมื่อพี่ชายโดนยิงตายในคุก
“นี่
ท่านยิงพวกเขาทำไมครับ”
“ปัญหาคือทำไมนายถึงยิงเขา”
ท่านรองเล็งปืนใส่เอก
แต่ในตอนนั้นเอง วินและเซบช่วยกันยิงยามติดอาวุธพวกนั้น
ส่วนท่านรองก็รีบหนีไปด้านบน วินและเซบช่วยกันหยิบอาวุธเพื่อเตรียมพร้อม
“ไปจากที่นี่เถอะครับ”
=====================================================================================
พวกของวินกำลังโดนใส่ความอะไรบางอย่าง แล้วพวกเขาจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ความคิดเห็น