ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My War - สงครามที่ไม่ได้เลือก

    ลำดับตอนที่ #20 : EP 14 : หาของครั้งใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 62


    ที่อพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน หลังจากที่ซีโร่ไปขโมยเสบียงมาได้ส่วนหนึ่ง พวกเขาก็เริ่มเบาใจกันมากเนื่องจากว่าเสบียงนั้นพอจะเลี้ยงทุกคนได้ไปสองสามวัน แต่พวกเขายังขาดแค่อุปกรณ์ที่จะใช้ทำอาวุธและซ่อมแซมอพาร์ทเม้นท์เพิ่มเติม พวกเขาตกลงกันว่าจะออกไปหาวัสดุเพิ่มเติมเพื่อมาทำอุปกรณ์ จากนั้นพวกเขาก็ไปนั่งพักกันก่อนที่จะออกเดินทางในตอนกบลางคืน ทางด้านนอร์รีน เขาขออาสาไปแทนซีโร่เนื่องจากว่าซีโร่กำลังบาดเจ็บอยู่ ในตอนนั้นเองเขาก็นั่งคุยกับมิเชลอยู่ในห้อง โดยที่มิเชลทำอะไรให้นอร์รีนทานก่อนที่จะให้เขาออกไปด้านนอก

    มิเชล : กินก่อนสินอร์รีน จะได้มีแรงนะ // นอร์รีนเอาอาหารจากมิเชลมานั่งทาน

    นอร์รีน : ขอบใจมากนะ ไม่รู้ว่าได้กินอะไรแบบนี้ครั้งสุดท้ายตอนไหนเลยเนี่ย

    มิเชล : เธอแน่ใจว่าจะไปแทนซีโร่เขาหน่ะ

    นอร์รีน : แน่นอน เขากำลังเจ็บอยู่ แถมตอนนี้ฉันก็หายดีแล้วหล่ะ

    มิเชล : ยังไงนายก็ต้องระวังตัวไว้ด้วยนะ

    นอร์รีน : แน่นอน แล้วฉันจะรีบกลับมาหาเธอนะ

    มิเชล : แหม่ น่ารักที่สุดเลยคนนี้ // เธอพูดพลางเช็ดปากให้กับนอร์รีน

    นอร์รีน : ก็ฉันพูดจริงนี่นะ

    ทางด้านของยูจีน เธอช่วยดูอาการให้ทั้งโทนี่และมินโฮที่พักรักษาตัว หลังจากที่โทนี่ฟื้น เธอก็ช่วยดูแลโทนี่ และในตอนนั้นเองเอสเทอร์ก็เอาน้ำกับกระดาษทิชชู่มาให้กับโทนี่ด้วย

    เอสเทอร์ : นี่ค่ะ น้ำกับกระดาษที่คุณต้องการนะ

    ยูจีน : ขอบใจมากเลยนะ // ยูจีนหยิบกระดาษชุบน้ำคอยเช็ดแผลสะเก็ดระเบิดให้กับโทนี่

    มินโฮ : ให้ฉันช่วยอะไรเธอมั้ยยูจีน

    ยูจีน : โอเค นายช่วยฉันเช็ดแผลให้เขาหน่อยสิ

    มินโฮหยิบผ้าแล้วเช็ดแผลให้กับโทนี่ด้วย

    โทนี่ : เออนี่ พี่เป็นใครกันเหรอครับ

    มินโฮ : พี่ชื่อมินโฮ พี่มารักษาตัวที่นี่หน่ะ

    ยูจีน : แค่นายโรคจิตคนหนึ่งอย่าไปสนใจมากเลยย่ะ

    เอสเทอร์ : แหม่ ยูจีน ไปว่าเขาอีกนะ เขาอุตส่าห์ช่วยเนี่ย

    มินโฮ : อ้อ ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจอยู่แล้ว

    โทนี่ : แล้ว พี่เป็นใครมาจากไหนกันหล่ะเนี่ย

    มินโฮ : พี่เป็นกบฏมาจากในเมืองหน่ะ โดนยิงมา เพื่อนพี่พามารักษาที่นี่

    เอสเทอร์ : เออใช่ ตอนนี้การรบเป็นยังไงบ้างหล่ะคะ

    มินโฮ : ตอนนี้ทางรัฐบาลเริ่มล่าถอยแล้วหล่ะครับ

    ยูจีน : เดี๋ยวยังไงพวกนั้นก็กลับมาอีก

    มินโฮ : กลับมาอีกเราก็จัดการมันอีกสิครับ

    ยูจีน : รักษาแผลนายให้หายก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันต้องล้างแผลให้นายอีกเนี่ย

    มินโฮ : ได้สิครับ ขอบคุณมากๆนะครับ

    ทางด้านของไลฟ์และเอจิ ในตอนนั้นเอจิก็ได้รับมอบหมายให้ออกไปหาเสบียงเพิ่มเติมด้านนอก โดยที่เขาคิดว่าจะพาเจ้าฮาจิไปด้วย ไลฟ์ต้องมาคอยเช็ดปืนและดาบให้เขาเพื่อให้คมอยู่เสมอ

    ไลฟ์ : เอจิ ฉันทำความสะอาดปืนและดาบให้นายแล้วนะ

    เอจิ : ขอบใจมากเลยนะที่ช่วยฉันหน่ะ

    ไลฟ์ : ว่าแต่ นายจะพาฮาจิไปด้วยงั้นเหรอ

    เอจิ  :แน่นอน มันอาจจะช่วยอะไรได้ก็ได้นะ

    ไลฟ์ : ยังไงนายก็ดูแลมันให้ดีๆหล่ะ

    เอจิ : ไม่ต้องห่วง ฉันฝึกมันมากับมือ ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง

    ไลฟ์ : ฉันรู้ แต่ฉันแค่เป็นห่วงนายนะ

    ทางด้านของตะวันและอนูวา ในตอนนั้นเองตะวันก็อาสาออกไปหาของด้านนอก แต่ในขณะเดียวกัน อนูวาก็ได้รับสัญญาณวิทยุมาจากพ่อของเธอ หลังจากที่เธอคุยกับพ่อเธอเสร็จแล้วเธอก็กลับมาหาตะวันในทันที

    ตะวัน : อนูวา มีอะไรหรือเปล่าครับ

    อนูวา : อ้อ พ่อฉันส่งข้อความมาหาฉันหน่ะ

    ตะวัน : อ้อ เรื่องอะไรงั้นเหรอครับ

    อนูวา : พ่อบอกว่ามีคนจากสหประชาชาติมาคุยกับพ่อหน่ะ เรื่องการก่อกบฏหน่ะ

    ตะวัน : แสดงว่า ทางสหประขาชาติเริ่มจะตอบโต้แล้วสินะ

    อนูวา : ฉันก็เห็นว่าเป็นแบบนั้นหน่ะค่ะ

    ตะวัน : ก็ขอให้สงครามบ้านี่มันจบลงซะทีนึงนะ

    อนูวา : แล้วคุณคงจะได้กลับบ้านสินะ

    ตะวัน : แต่ผมว่า ผมอยากกลับมาหาคุณอีกหน่ะ // อนูวาถึงกับหน้าแดงไปเลย

    ทางด้านของอลิซและมิสซึ ทั้งคู่ช่วยกันจัดแจงเสบียงไว้ในที่ปลอดภัย เนื่องจากว่าเสบียงพวกนี้มีความสำคัญกับพวกเขามากๆ

    อลิซ : เอาหล่ะ จัดไว้ตรงนี้คงจะปลอดภัยแล้วนะ

    มิสซึ : โอเค ตอนนี้ที่เราขาดก็แค่อุปกรณ์เพิ่มเติมสินะ

    อลิซ : ใช่ เผื่อเราจะได้ทำอาวุธและของจำเป็นเพิ่มหน่ะ

    มิสซึ : ฉันจะออกไปข้างนอกกับพวกเขาด้วย อยากได้อะไรก็บอกมานะ

    อลิซ : ฉันจดเอาไว้แล้วหล่ะ ถ้านายหาได้นะ

    มิสซึ : แน่นอน เดี๋ยวฉันจะหาให้

    ในห้องของซีโร่ ในตอนนั้นเองบารีร่าตามซีโร่เข้าไปในห้อง ซีโร่เห็นบารีร่าก็เอาตุ๊กตาและลูกอมที่เขาขโมยมาเอามาให้กับบารีร่า

    ซีโร่ : ฉันคิดว่าเธอคงจะชอบมันนะ

    ในตอนนั้นเองบารีร่าเดินออกจากห้องไป แล้วกลับมาพร้อมกับกระดาษทิชชู่และยารักษาแผล บารีร่าเช็ดแผลและทายาให้กับซีโร่ทันทีโดยที่ซีโร่ยังไม่ทันได้ขอ

    ซีโร่ : บารีร่า นี่เธอ

    บารีร่า : อย่าทำแบบนี้อีกนะ ฉันใจไม่ดีทุกครั้งเลยที่เธอหายไป

    ซีโร่ : ฉันขอโทษ แต่ฉันรักเธอนะบารีร่า

    บารีร่า : ก็เพราะรักไง ฉันถึงไม่อยากเสียเธอไปหน่ะ

    ซีโร่ไม่รอช้าไปจูบประกบปากกับบารีร่า บารีร่าก็จูบเขาตอบกลับไป ในระหว่างนั้นเอง ซีโร่ดันเหลือบไปเห็นของอย่างหนึ่ง จึงไปหยิบมา ซึ่งในนั้นมีถุงยางอนามัยอยู่ เขาพยายามจะโยนทิ้งแต่บารีร่ามาเจอซะก่อน ซีโร่พยายามจะคว้าเอาไปทิ้งแต่บารีร่าดันหยิบไปทั้งกล่อง

    บารีร่า : ถุงยางงั้นเหรอ ซีโร่ นายเคยมีอะไรกับผู้หญิงหรือเปล่า

    ซีโร่ : จะบ้าเหรอ ฉันไม่เคยอยู่แล้วสิ

    บารีร่า : ถ้างั้น ฉันจะมีอะไรกับเธอนะ // บารีร่าเข้าไปจูบซีโร่ จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็อยู่ในห้องกันทั้งคืน

     

    ณ ที่ทำการชั่วคราวรัฐบาล หลังจากที่พวกเขาได้ข่าวว่ากองทัพของพวกเขาพ่ายแพ้ยับในเมือง ประธานาธิบดีถึงกับหัวเสียมากที่ได้รับรู้เรื่องนี้

    บ้าเอ้ย ทหารเรามีตั้งเยอะ แพ้พวกมันได้ยังไงวะ

    และในตอนนั้นเอง เลขาของเขาก็เข้ามาในห้องของเขาเพื่อมารายงานเรื่องสำคัญ

    ท่านครับ มีรายงานมาครับ

    เรื่องอะไรอีกหล่ะห่ะ

    ตอนนี้ทางสหประชาชาติมีมติให้เรามีข้อสรุปเรื่องนี้ในหนึ่งอาทิตย์ครับ ไม่งั้น...

    ไม่งั้นทำไม บอกฉันมาสิ

    พวกเขาจะส่งนาวิกโยธินสหรัฐบุกเข้ามาครับ

    ถ้างั้น ติดต่อทุกกองทัพ รีบจบศึกโดยเร็วที่สุด ถ้าใครยังจะคิดยึดเยื้อ สั่งประหารมันได้เลย

    ได้ครับท่าน ท่านครับ ตอนนี้กบฏเซิร์บที่ชายแดนกำลังอาละวาดครับ

    บ้าเอ้ย ส่งทหารกองไหนก็ได้ไปจัดการกับพวกมันเซ่

    และอีกด้านหนึ่ง ค่ายทหารด้านตะวันออก ซึ่งพ่อของอนูวาประจำการอยู่ที่นั่น และได้ทำการพูดคุยกับตัวแทนทางสหประชาชาติที่เข้ามาเจรจาเรื่องสงคราม พวกเขาประชุมกันในห้องลับ ซึ่งห้ามไม่ให้ใครรู้แม้แต่ทางรัฐบาลเอง เมื่อทุกคนมากันครบ การประชุมก็เริ่มขึ้น

    เอาหล่ะครับ ผมขอเริ่มเลยแล้วกัน พวกคุณต้องการให้ผมทำอะไรนายพลพูดขึ้นถามผู้แทนจากสหประชาชาติ

    เราอยากจะให้ท่านนายพลช่วยออกหน้าสนับสนุนเงินทุนและเสบียงให้กลุ่มกบฏหน่ะครับ

    หมายความว่า จะให้ผมช่วยเหลือกลุ่มกบฏแทนพวกคุณไปก่อนงั้นเหรอ

    ใช่ครับ เพราะทางรัฐบาลจะได้ไม่สงสัยหน่ะครับ

    ว่าแต่ คุณไม่ลองไปคุยกับนายพลคนอื่นดูหล่ะ

    ตอนนี้มีแค่คุณที่กุมอำนาจทางการทหารได้เด็ดขาดที่สุด ทางเราเตรียมจะดำเนินการตอบโต้รัฐบาลโซราติกไว้แล้วหล่ะครับ

    แล้วพวกคุณจะทำยังไงต่อหล่ะ

    ทางเราจะช่วยเหลือกลุ่มกบฏทุกทางครับ

     

    กลับมายังหน่วยดอว์นซอร์ด หลังจากที่พวกเขาหนีจากการตามล่ามาได้ พวกเขาก็มาสำรวจความเสียหายที่พวกเขาได้รับ แล้วก็มาวางแผนกันใหม่ว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป

    อเล็กซานเดอร์ : เอาล่ะ มีใครบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า

    เควิน : ไม่มีครับ ยังดีที่เราหนีกันมาได้

    คาสเตอร์ : พวกมันเป็นใครวะ มาทำกับเราแบบนี้

    อีริค : อาจจะเป็นทหารรับจ้างธรรมดาก็ได้นะ

    อเล็กซ่า : แต่ว่า พวกกบฏมีปัญญาใช้ทหารรับจ้างงั้นเหรอ

    ซิลเวสเตอร์ : เธอพูดถูก น่าจะเป็นทาง UN ส่งมาหน่ะ

    อเล็กซานเดอร์ : งั้นก็หมายความว่า สหประชาชาติเริ่มตอบโต้เราแล้วสินะ

    คาสเตอร์ : อย่าให้ฉันเจอมันอีกรอบนะ ฉันจะหักคอมันให้

    เควิน : ใจเย็น นายเพิ่งโดนมันเตะหน้ามาไม่ใช่เหรอ

    อีริค : แล้วแบบนี้เราจะเอายังไงกันต่อดีหล่ะ

    ซิลเวสเตอร์ : เราน่าจะรอข่าวจากทางหน่วยเหนือแจ้งมานะ

    อเล็กซ่า : นั่นสิคะ เควิน นายคงต้องรอฟังข่าวไว้ด้วยหล่ะ

    เควิน : ได้เลย เรื่องนี้ฉันจัดการเอง

    อเล็กซานเดอร์ : ตอนนี้เราคงต้องหายหัวกันไปซักพัก จนกว่าจะมีคำสั่งมาใหม่หน่ะ

    อีริค : ได้เลยครับ

    พวกเขารีบหาที่กบดานใหม่ เพื่อพักผ่อนและรอคำสั่งจากทางหน่วยเหนือต่อไป

     

    กลับมายังเขตของกลุ่มกบฏ หน่วยทหารไทยในตอนนั้นก็กลับมาทำงานของตัวเองกันต่อ พวกเขาพยายามตามหาคนไทยที่เครื่องบินตกมาในนี้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครรู้เลยว่าเขาอยู่ที่ไหน จนกระทั่งพวกเขามานั่งพักในร้านอาหารร้างแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะมาคุยกันถึงเรื่องภารกิจของเขา

    จินตโล : เฮ้อ เดินกันจนขาลากยังตามหาผู้พันไม่เจอเลย

    เดชา : นั่นสิ ไม่รู้ป่านนี้ตายหรือยังนะครับ

    อรุณ : ถึงท่านจะตาย ยังไงเราก็ต้องเอาศพกลับเมืองไทยให้ได้

    เจตนา : ผมว่า เราน่าจะลองไปหาในเขตอพยพดูนะครับ

    เนตร : ถ้างั้นก็คงต้องกลับไปยังใจกลางเมืองอีกสินะเนี่ย

    อรุณ : โอเค เราจะไปที่เขตอพยพกัน เผื่อว่าชาวบ้านจะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน

    เดชา : เข้าใจแล้วครับหัวหน้า แล้วจะเดินทางเมื่อไหร่ครับ

    อรุณ : ตอนนี้เลย เตรียมกระสุนให้พร้อมก็แล้วกัน

    จินตโล : เออนี่เนตร นายคิดว่าพวกที่ต่อยกับเราเป็นใครวะ

    เนตร : ฉันว่าคงจะเป็นหน่วยรบพิเศษหน่ะ

    เจตนา : อย่าให้ฉันเจอมันอีกก็แล้วกัน ฉันจะเตะหน้าแหกเลย

     

    กลับมายังพวกของทาเคชิ ในตอนนั้นเองพวกเขาก็เดินทางกลับไปยังเขตอพยพเพื่อเติมกระสุนและเสบียง และในตอนนั้นเองซุนฮยอนกับริกโก้ก็ไปรออยู่ที่นั่นแล้ว พร้อมกับตุนกระสุนและเสบียงที่พวกเขาต้องการ ท่ามกลางความแปลกใจของคนอื่นๆ

    อัลเบิร์ต : เอ้า พวกนาย มาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี่ย

    ไซม่อน : ก็ฉันรู้ไงว่าพวกนายต้องกลับมาที่นี่หน่ะ

    ทาเคชิ : เออใช่ ซุนฮยอน มินโฮเขาเป็นยังไงบ้างอ่ะ

    ซุนฮยอน : ปลอดภัยแล้วครับ ผมพาเขาไปพักฟื้นที่อพาร์ทเม้นท์ของพันธมิตรครับ

    ดราก้อน : ขอบใจมากเลยที่เตรียมกระสุนให้หน่ะ

    ริกโก้ : เตรียมเสร็จก็ต้องกลับไปแนวหน้าอยู่ดีแหละนะ

    มีกัส : กลัวอะไรหล่ะ ก็แค่กลับไปยิงกับพวกมันหน่ะ

    และในระหว่างนั้นเอง คนสนิทของหัวหน้ากลุ่มกบฏคนหนึ่งก็มาคุยกับพวกเดขา เพื่อแจ้งเรื่องภารกิจใหม่ที่พวกเขาจะต้องเจอ

    เออนี่ พวกนาย หัวหน้ามีภารกิจใหม่ให้พวกนายทำ นายไม่ต้องไปแนวหน้าแล้วหล่ะ

    อัลเบิร์ต : งานใหม่งั้นเหรอ ให้ทำอะไรอีกหล่ะ

    พวกนายต้องคุ้มกันผู้หญิง 9 คน พวกเธอมาจากเอเชียหน่ะ เราต้องคุ้มครองพวกเธอเพื่อให้ออกไปจากที่นี่

    ทาเคชิ : ผู้หญิงเหรอ ผู้หญิงกลุ่มไหนหล่ะ

    ตรงนั้นไงเขาชี้ไปยังกลุ่มสาวๆทั้ง 9 คนที่กำลังคุยกันอยู่อีกด้านหนี่ง

     

    กลับมายังกลุ่มของเอ็ดเวิร์ด ในตอนนั้นเองหัวหน้าของกลุ่มกบฏก็เรียกเจ้าหน้าที่คนสำคัญๆมาคุยกัน โดยที่เอ็ดเวิร์ดนำทีมคนอื่นๆมาประชุมกันด้วย เมื่อเอ็ดเวิร์ดมาถึง พวกเขาก็พูดคุยกันในทันที

    เอาหล่ะเอ็ดเวิร์ด ทุกๆคนด้วย ฉันมีข่าวดีจะบอก

    เอ็ดเวิร์ด : มีอะไรหรือเปล่าครับ

    ตอนนี้ทางสหประชาชาติได้ช่วยเหลือเราเรื่องอาวุธและเงินทุนอย่างลับๆหน่ะ

    เทเรซ่า : หมายความว่าทางนั้นจะมาช่วยแล้วใช่หรือเปล่าคะ

    ก็ใช่ แต่ยังไม่มาอย่างเป็นทางการหล่ะนะ

    ลูลู่ : แบบนี้ก็ดีหน่ะสิ จะได้ไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกแล้ว

    เดม่อน : แต่ว่า ผมได้ข่าวจากสายของผม บอกมาว่าทางรัฐบาลกำลังซื้ออาวุธจากรัสเซียนี่ครับ

    เอ็ดเวิร์ด : รัสเซียคงช่วยอะไรไม่ได้มากหรอก เชื่อสิ

    ลูลู่ : ฉันว่าตอนนี้เราอย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องนั้นเลยนะ

    เดม่อน : ก็คงงั้นหน่ะ ถ้าได้อาวุธใหม่ก็คงจะดีอ่ะนะ

    เทเรซ่า : เออนี่ เอ็ดเวิร์ด เร็นหายไปไหนหล่ะ

    ทางด้านของอันนา ในตอนนั้นเธอกำลังจะขึ้นรถของเธอเพื่อออกจากเขตของกลุ่มกบฏ กลับไปยังไร่องุ่นของเธอ ในระหว่างนั้นเอง เร็นก็ตามอันนาไปเพื่อที่ดูว่าเธอจะไปไหน

    เร็น : คุณอันนา คุณจะไปไหนครับ

    อันนา : ฉันจะกลับบ้านไปเอาของมาขายค่ะ

    เร็น : แต่ว่ามันอันตรายนะครับ

    อันนา : ฉันไม่กลัวหรอกค่ะ ไม่ว่าจะเจออะไร

    เร็น : แล้วเรื่องลูกของคุณหล่ะครับ

    อันนา : ฉันจะกลับมาตามหาเองค่ะ

    เร็น : ถ้าอย่างงั้นผมจะช่วยตามหาเองนะครับ

    อันนา : ขอบคุณมากนะคะ แล้วเจอกันนะคะ // อันนาขึ้นรถกระบะของเธอ จากนั้นเธอก็ขับออกไปจากเขตของกลุ่มกบฏในทันที

     

    ในขณะเดียวกัน สาวๆทั้ง 9 คนก็ก็กำลังนั่งคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังคุกรุ่นอยู่

    ชินเฮ : นี่ทุกคน ฉันได้ข่าวมาว่าจะให้คนมาคุ้มครองพวกเรา

    จูซม : ทำไมงั้นเหรอ ต้องคุ้มครองกันด้วยเหรอ

    อามินะ : คงจะเห็นว่าเราเป็นคนต่างชาติหล่ะมั้งนะ

    ชิสา : นั่นสิ ถ้าคนต่างชาติมาตายที่นี่คงไม่ดีเท่าไหร่นะ

    ไคล่า : เฮ้อ แล้วเมื่อไหร่เราจะได้กลับบ้านซะทีเนี่ย

    ซาซอน : ใจเย็นๆน่า เดี๋ยวก็ได้กลับเองหล่ะ

    ซนแซ : แล้วเมื่อไหร่กันล่ะ ฉันคิดถึงบ้านจะแย่อยู่แล้ว

    ยู่อี๋ : เอาน่า แต่ยังไงเราก็ยังได้อยู่ด้วยกันนะ

    จียอน : เออนี่ แล้วคนที่จะมาคุ้มครองเรานี่จะเป็นใครกันนะ

    ไคล่า : ก็คงจะเป็นทหารธรรมดานี่แหละนะ

    อามินะ : ไม่น่าใช่นะ ที่นี่ไม่มีทหารซะหน่อยนี่

    ชิสา : หะ นี่แปลว่า ไม่มีใครมาช่วยเรางั้นเหรอ

    ซนแซ : แล้วเราอยู่กับพวกเขาด้วย เราจะไม่ฌโดนประหารเหรอ

    จูซม : เขาจะประหารเราทำไม เราไม่เกี่ยวอะไรซะหน่อย

    ซาซอน : เห็นด้วย ตอนนี้เรามาคิดกันดีกว่าเราจะเอายังไงต่อ

    ยู่อี๋ : ก็หาความช่วยเหลือจากคนต่างชาติด้วยกันสิ

    จียอน : แต่เรายังไม่เจอคนต่างชาติที่ช่วยเราได้ซักคนเลยนะ

    ในระหว่างที่พวกเธอกำลังคุยกัน เทโจก็เดินมาหาพวกเธอ ชินเฮจึงเข้าไปคุยกับเขาในทันที

    ชินเฮ : คุณเทโจ มีอะไรหรือเปล่าคะ

    เทโจ : อ้อ ผมแค่จะพาคุณไปหาคนที่จะคุ้มครองคุณหน่ะ

    ชินเฮ : ว่าแต่ พวกเขาเป็นใครเหรอคะ

    เทโจ : พวกเขาเป็นมือดีที่สุดที่มีตอนนี้หน่ะ ตามผมมาเลยครับ

    ในตอนนั้นเองเทโจก็พาสาวๆ ทั้ง 9 คนมาหากลุ่มของทาเคชิ ซึ่งกำลังยืนคุยกันอยู่อีกด้านหนี่งของห้อง

    เทโจ : เอาหล่ะครับ นี่คือภารกิจของพวกคุณ ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ

     

    ทางด้านของคีธ เขาขี่มอไซค์ไปตามถนนเพื่อติดต่อกับกลุ่มกบฏกลุ่มอื่นที่ยังอยู่ในพื้นที่ เขาติดต่อมาได้หลายกลุ่มแล้วเหลือแค่พื้นที่ๆหนึ่ง ซึ่งมีอพาร์ทเม้นท์หลังหนึ่งตั้งอยู่ ดูเหมือนว่ามันจะมีคนอยู่ ในตอนนั้นเองคีธได้เคาะประตูแล้วก็ชักปืนออกมา แต่ยังไม่มีใครเปิดประตูออกมา ในตอนนั้นเองคีธกำลังจะถีบประตูแล้ว แต่ในระหว่างที่เขากำลังง้างขา ก็มีคนเปิดประตูมาเสียก่อน

    ยูจีน : คีธ นั่นนายใช่หรือเปล่า

    คีธ : พี่ยูจีน // คีธวิ่งไปกอดยูจีนในทันทีเมื่อเจอเขา

    ยูจีน : นายหายไปไหนมาเนี่ย

    คีธ : ตั้งแต่เกิดเรื่อง ผมก็หนีไปอยู่กับกลุ่มกบฏหน่ะพี่

    ยูจีน : โทนี่ก็อยู่ด้วยนะ นายรู้มั้ยเนี่ย

    คีธ : โทนี่เหรอพี่ เขายังไม่ตายเหรอพี่

    ยูจีน : แน่นอน เข้าไปด้านในมั้ยหล่ะ

    คีธ : ได้สิครับพี่

     

    กลับมายังอลันและฮาน่า หลังจากที่พวกเขาทั้งคู่ได้เข้าไปสำรวจค่ายทหารร้างแถวนั้น พวกเขาก็เดินทางกลับไปยังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีนในทันทีเนื่องจากว่าต้องไปรวมตัวกับคนอื่นๆแล้ว

    อลัน : ฮาน่า ฉันถามอะไรเธอหน่อยสิ

    ฮาน่า : มีอะไรงั้นเหรอ

    อลัน : ถ้ารอดไปได้ เธอจะทำอะไรอย่างแรก

    ฮาน่า : เธอทำอะไรฉันก็ทำด้วยนั่นแหละ

    อลัน : ถ้างั้น หลังจบเรื่อง เราไปอยู่ด้วยกันนะ

    ฮาน่า : ได้สิ ฉันอยากไปแคนาดาหน่ะ

    อลัน : ได้สิ ฉันมีญาติอยู่ที่นั่น ไว้เราไปด้วยกันนะ

    ฮาน่า : ขอบคุณมากๆเลยนะ

     

    กลับมายังเขตแนวรับของกลุ่มกบฏ หลังจากที่กลุ่มของดีซจัดการไล่ต้อนทหารโซราติกกลับไปได้ พวกเขาก็มานั่งพักอยู่ในตึกแห่งหนึ่ง ซึ่งพวกเขาดัดแปลงมันให้เป็นป้อมปราการขนาดย่อมๆ จากนั้นพวกเขาก็ทำอาหารเย็นกินกันเพื่อเพิ่มพลังในวันนี้

    จอห์นนี่ : หัวหน้า กระป๋องนี้ผมใส่รวมไปเลยนะ

    ดีซ : เอาสิ นายทำเก่งอยู่แล้วนี่หน่า // จอห์นนี่ใส่อาหารกระป๋องลงในหม้อต้ม เอามันมาต้มรวมกัน

    เอิร์ล : เร็วๆหน่อยสิพวก ฉันเริ่มหิวแล้วเนี่ย

    เดอร์ริก : ใช่ๆ ฉันจะกินหมีได้ทั้งตัวอยู่แล้วเนี่ย

    จากนั้นไม่นาน จอห์นนี่ก็ยกหม้อออกมา แล้วตักอาหารใส่จานให้ทุกคน

    จอห์นนี่ : เอาหล่ะ รีบๆกินเลยนะ กำลังร้อนๆเนี่ย

    ทุกคนตักอาหารเข้าปากแบบไม่เกรงใจใครเนื่องด้วยความหิว

    เอิร์ล : หัวหน้า อาหารในจานทุกวันนี้น้อยลงทุกทีแล้วนะครับ

    เดอร์ริก : นั่นสิครับ เราควรจะไปขอเสบียงเพิ่มจากแนวหลังนะครับ

    ดีซ : โอเค ถ้างั้นพรุ่งนี้เราไปที่แนวหลัง ไปขอเสบียงเพิ่มก็แล้วกัน

     

    กลับมายังค่ายทหารของเวร่า หลังจากที่ทหารของฝ่ายรัฐบาลเพิ่งจะพ่ายแพ้มาได้ไม่นาน เธอก็กลับไปยังโกดังของมาร์ค พร้อมกับเสบียงที่ยักยอกมาจากทางรัฐบาล เพื่อจะเอามาขายให้กับกลุ่มกบฏต่อไป

    เวร่า : เอาหล่ะ รีบขนไปอย่าให้เสียหายหล่ะ

    ครับ เรากำลังรีบดำเนินการอยู่ครับ

    เวร่า : ตอนนี้มีข่าวอะไรคืบหน้าหรือเปล่า

    สายของเรารายงานมาว่า ทางสหประชาชาติเริ่มจะให้การช่วยเหลือทางด้านเงินทุน อาวุธและเสบียงกับพวกกบฏครับ

    เวร่า : อืม ดีมาก แบบนี้สิดี

    แต่พวกกบฏอาจจะเข้มแข็งมากขึ้นนะครับ มันอาจทำให้

    เวร่า : เป็นผลดีกับเราไม่ใช่เหรอ ถ้ากลุ่มกบฏมีเงินทุนมากและเข้มแข็ง สงครามก็ยืดเยื้อ ฉันก็จะได้ขายของได้เรื่อยๆไง

    ท่านฉลาดจริงๆครับ

    เวร่า : รับรองว่าหลังจากนี้เราจะสบายกันแน่นอน

    ครับผม

     

    กลับมายังโกดังของมาร์ค ในตอนนั้นเองมาร์คกำลังคุมการส่งเสบียงและนับเงินจากการขายเหล้าและกัญชาให้ทหารในแนวหน้า ซึ่งมันทำกำไรให้เขามากมาย ตอนนี้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีในเมืองเนื่องจากการค้าของเถื่อน เขานั่งนับเงินที่เก็บไว้ในห้องอย่างไม่หวาดไม่ไหว

    นายครับ เงินเยอะมากเลยนะครับ

    มาร์ค : แน่นอน แกเอาเงินพวกนี้ไปแลกเงินดอลล่าห์ซะ

    อ้าว ต้องเอาไปแลกทำไมครับ

    มาร์ค : จบเรื่องขึ้นมาพวกเราจะหนีไปจากที่นี่ จะได้ไม่มีใครโดนหางเลขไงหล่ะ

    ครับนาย ผมจะรีบไปแลกเลยครับ

    มาร์ค : ตอนนี้ที่มีน่าจะแลกได้ราวๆ 2 ล้านดอลล่าห์เลยหล่ะ

    โห แลกได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ

    มาร์ค : นี่เพิ่งจะเริ่ม จบเรื่องนี้เราอาจจะได้หลาบสิบล้านดอลเลยหล่ะ

    เยี่ยมเลยครับนาย

    มาร์ค : ตอนนี้ฉันขอไปนั่งกินเหล้าหน่อยก็แล้วกันนะ

     

    กลับมายังเขตของกลุ่มกบฏ หลังจากที่กลุ่มกบฏสามคนพาตัวซีวิลไปยังเขตปลอดภัย ในตอนนั้นเองพวกเขาก็โดนมือที่สามลอบยิงเอา กลุ่มกบฏพยายามจะป้องกันตัวเอง แต่พวกนั้นดักซุ่มโดยที่ไม่ให้ใครเห็น จากนั้นพวกนั้นก็บุกมาด้านล่าง ฆ่ากลุ่มกบฏจนหมด ซีวิลพยายามยกมือร้องขอชีวิต

    อย่า อย่าทำอะไรฉันเลยนะ

    มันไม่ฟังจัดการเอาด้ามปืนซัดใส่หน้าของซีวิลจนเขาสลบไป เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าเขาอยู่ในคุกกับชายคนหนึ่ง ซึ่งท่าทางของชายคนนั้นดูจะใจเย็นมากๆ ซีวิลจึงไปคุยกับเขาในทันที

    ซีวิล : นี่ผมมาอยู่ที่ไหนกันหล่ะเนี่ย

    รังของพวกกินคน โรคจิต วิตถารหน่ะ

    ซีวิล : หะ อีกแล้วเหรอเนี่ย ฉันต้องเจอแต่พวกกินคนหรือไงเนี่ย

    อย่าบอกนะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายเจอ

    ซีวิล : ก็ใช่หน่ะสิ คิดว่ายังไงหล่ะ ว่าแต่ ทำไมคุณถึงดูไม่กลัวอะไรเลยหล่ะ

    ก็เพราะ ฉันจะไม่ตายยังไงหล่ะ นายอยากรอดมั้ยหล่ะ ถ้าอยาก ก็ต้องทำตามที่ฉันบอก

    ซีวิล : ได้ครับ ผมจะทำตามที่คุณบอก

    ก็ได้ ก่อนอื่น นายไปยืนตรงนั้นก่อนนะชายปริศนาพาซีวิลไปยืนริมลูกกรง จากนั้นกำแพงด้านหลังพวกเขาก็เกิดระเบิด แล้วก็มีชายติดอาวุธราวห้าคนบุกเข้ามาด้านใน

    ท่านครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ

    ฉันไม่เป็นไร ฉันจะไปหาไอ้คนที่จับฉันมาหน่อย

    พวกนั้นบุกขึ้นไปชั้นบนของตึก ยิงทุกคนที่ขวางหน้า เมื่อไปถึงชั้นบน พวกนั้นพยายามจะยิงต่อสู้แต่ก็โดนยิงซะก่อน

    แกรู้มั้ยฉันเป็นใคร

     ฉันไม่รู้ แต่อย่าฆ่าฉันเลยนะชายคนหนึ่งที่ดูเป็นหัวหน้าพูด

    ฉันโจเซฟ มิโลลาฟ หัวหน้ากลุ่มกบฏเซิร์ฟ แกทำพลาดที่จับฉันจากนั้นนายโจเซฟก็ยื่นปืนให้ซีวิล

    โจเซฟ : เอาหล่ะ ฆ่ามันให้ฉันดูหน่อยสิ ไม่งั้นฉันจะฆ่านาย

    ซีวิลยิงทันทีอย่างไม่ลังเล ทำเอาโจเซฟพอใจมาก

    โจเซฟ : ตอนนี้ที่นี่ไม่ปลอดภัยสำหรับนายแล้ว ไปชายแดนกับฉัน แล้วนายจะปลอดภัย

    ท่านครับ เรายังไม่เจอตัวลูกสาวท่านเลยนะครับ

    โจเซฟ : เราจะกลับมาหาเธอทีหลัง ตอนนี้ไปจากที่นี่กันก่อน

    พวกเขาทำการเผาตึกหลังนั้น จากนั้นก็รีบออกจากตึกไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่เตรียมเอาไว้

     

    กลับมายังเขตหนึ่งของเมืองหลวง ซึ่งเวสต์และอนาตาเซียออกจากบ้านไปหาเสบียงเพิ่มเติม ในตอนนั้นเองเขาค้นตามบ้านนั้นบ้านนี้ที ได้เสบียงมามากมาย ส่วนอนาตาเซียก็กึ่งหลับกึ่งตื่น เวสต์ก็ต้องคอยปลุกเขาอยู่ตลอด จนกระทั่งพวกเขามาถึงบ้านหลังหนึ่ง เวสต์รู้สึกได้ถึงสัมผัสของสิ้งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในบ้าน เวสต์เดินเข้าไปอย่างใจเย็น ฝ่ากับดักที่อยู่ตรงหน้าบ้าน จากนั้นก็เข้ามาในบ้านทางหน้าต่าง ในตอนนั้นเองเวสต์ชักปืนขึ้นมา เนื่องจากว่ามีเงาของคนๆหนึ่งเอาปืนมาจ่อรอเขาอยู่แล้ว

    แกเป็นใคร เข้ามาในบ้านฉันทำไม

    เวสต์ : ใจเย็น ผมแค่หลงทางมา มีอะไรค่อยๆพูดกันก็ได้

    และในตอนนั้นเอง อนาตาเซียก็โผล่เข้ามา เวสต์พยายามจะห้ามแต่เธอก็ไม่ทำอะไรเขา

    ลูกชายงั้นเหรอ นายออกไปซะ ฉันมีลูกสาวที่ต้องดูแลเหมือนกัน

    เวสต์ : เสบียงของเราหมด เราแค่ออกมาหาเพิ่มหน่ะครับ อย่าถือสาเราเลย // เธอลดปืนลงในทันทีส่วนเวสต์ก็ลดปืนลงเหมือนกัน จากนั้นเธอก็เรียกลูกสาวของเธอออกมา

    คนพวกนี้เป็นใครเหรอคะ

    อนาตาเซีย : ก็เป็นคนแบบเธอนี่แหละ // อนาตาเซียพูดแบบกวนๆ

    นี่ นายพูดระวังปากหน่อย แม่ฉันเก่งที่สุดในโลกเลยนะ

    เวสต์ : ลูกสาวคุณน่ารักดี คุณชื่ออะไรหล่ะ

    ฉันเจซซิน ส่วนลูกสาวฉันอดอลล่าหน่ะ

    เวสต์ : ผมเวสต์ นี่ก็ลูกชายผม อนาตาเซียครับ

    อดอลล่า : อนาตาเซีย ชื่อผู้หญิงจังเลยนะ แถมยังตัวเล็กด้วย

    อนาตาเซีย : แหม่ ถามจริง ชื่อเธอนี่มันมาจากไหนกันหล่ะ

    อดอลล่า : มาจากการ์ตูนที่ฉันชอบ แล้วจะทำไมหล่ะหะ

    เจซซิน : แหม่ ท่าทางจะเข้าขากันดีนะเนี่ย

    เวสต์ : ก็คงจะอย่างงั้นหน่ะครับ

     

    กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน พวกเขารวมตัวกันเพื่อออกไปหาเสบียงเพิ่มเติมที่ด้านนอก ซึ่งคนที่ไปก็มีนอร์รีน ตะวัน ยูจีน และมิสซึ ทั้งสี่คนนี้อาสาจะไป จากนั้นพวกเขาทั้ง 4 คนก็ปรึกษากันก่อนว่าจะไปที่ไหน

    ตะวัน : โอเค ว่าแต่คราวนี้เราจะไปที่ไหนกันหล่ะ

    มิสซึ : อลิซบอกว่าต้องการวัสดุทำของกับเสบียงเพิ่มเติม จะไปที่ไหนดีหล่ะ

    ยูจีน : ลองไปที่ร้านฮาร์ดแวร์ใหญ่ในย่านดาวน์ทาวน์สิ ไม่ห่างจากที่นี่เท่าไหร่

    นอร์รีน : อ้อ ฉันไม่เคยไปดาวน์ทาวน์มาก่อน ยังไงเธอก็นำทางแล้วกัน

    ยูจีน : งั้นอย่ารอช้าเลย รีบเดินทางกันดีกว่า

    พวกเขารีบออกเดินทางไปดาวน์ทาวน์ในทันทีเพื่อหาของใช้จำเป็นและวัสดุเพิ่มเติมให้กับกลุ่มเพื่อสร้างของป้องกันตัวต่อไป

    ======================================================================

    นอร์รีนและพรรคพวกเตรียมตัวออกตามหาอุปกรณ์ในการทำของ แต่พวกเขาจะรอดกลับมาได้หรือเปล่า ติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
    ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครัช


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×