The Mask Land - สมรภูมิแยกแผ่นดิน

ลำดับตอนที่ #2 : พายุลูกแรก

The Mask Land ดินแดนที่แห่งความสงบสุขแห่งหนึ่งในแถบเอเชีย ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรมากมาย ประกอบกับมีสถานที่สวยงามหลายแห่ง จึงเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ดินแดนแห่งนี้ปกครองโดย คิงอีกาดำ ซึ่งราชวงศ์ของพวกเขาได้ปกครองดินแดนแห่งนี้มาอย่างสงบสุขหลายร้อยปี คิงอีกาดำมีควีนมังกรซึ่งเป็นราชินีแห่งดินแดนนี้ และเจ้าชายน้อยสองคน ซึ่งก็คือทุเรียนและจิงโจ้ ซึ่งจิงโจ้คนพี่ค่อนข้างจะเอาแต่ใจ แต่ทุเรียนคนน้องดูเรียบร้อยน่ารัก

แต่ในระหว่างนั้น เพลิงแห่งสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังเดือดถึงขีดสุด เมื่อฝ่ายอักษะเข้ารุกรานหลายประเทศทั่วโลก ทางแถบเอเชีย จักรวรรดิญี่ปุ่นก็เข้ารุกรานหลายประเทศในแถบเอเชีย The Mask Land ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่จักรวรรดิญี่ปุ่นหมายตาไว้ด้วยพวกเขาจึงต้องรบเพื่อปกป้องบ้านเกิดของตัวเอง คิงอีกาดำตัดสินใจประกาศสงครามกับจักรวรรดิญี่ปุ่น และระดมพลปกป้องประเทศอย่างสุดกำลัง

ในช่วงแรกของสงคราม กองทัพญี่ปุ่นได้บดขยี้กองทัพของชาว Mask Land อย่างโหดเหี้ยมและง่ายดาย เนื่องจากชาว Mask Land ยังมีอาวุธที่ด้อยกว่าของจักรวรรดิญี่ปุ่นมาก

6 ธ.ค. 1941 ชายหาดวาลู

กองทัพญี่ปุ่นระดมยิงชาดหาดทั้งวันทั้งคืน พวกเขาได้แต่หลบอยู่ในบังเกอร์ที่สร้างเพื่อป้องกันแรงระเบิด พวกเขาภาวนาขอให้การยิงหยุดลงซักทีเถอะ

แต่ทันใดนั้น การยิงก็หยุดลงทันที จากนั้นทหารราบของกองทัพญี่ปุ่นก็กระหน่ำบุกมาราวกับพายุ ทหาร Mask Land พยายามยิงต้านสุดกำลัง แต่กองทัพญี่ปุ่นมีจำนวนมากและอาวุธที่ดีกว่า ทหาร Mask Land จึงถอยร่นออกจากชายหาด กองทัพญี่ปุ่นยึดหัวหาดได้แล้ว

ที่พระราชวัง ระฆังซึ่งเป็นราชองค์รักษ์ประจำวังและเป็นน้องชายแท้ๆของควีนมังกร ได้วิ่งอย่างไม่คิดชีวิตตามหาคิงอีกาดำเพื่อส่งสาสน์ไปถึงเขา

ระฆัง : พระองค์ขอรับๆ

คิงอีกาดำ : มีอะไรหรือระฆัง

ระฆัง : กองทัพญี่ปุ่น ยึดหัวหาดวาลูได้แล้วขอรับ

คิงอีกาดำ : ห่ะ อะไรนะ รีบเรียกประชุมชุนนางอยู่เลย // จากนั้นระฆังก็ไปเรียกประชุมขุนนางทุกคนอย่างเร่งด่วน

ในห้องประชุมขุนนาง หลังจากที่เหล่าขุนนางมากันครบ คิงอีกาดำจึงเริ่มการประชุมทันที

คิงอีกาดำ : ทุกคน ผมมีเรื่องใหญ่มาประชุมกับทุกคน

แมวตาเดียว : เรื่องอะไรขอรับพระองค์

คิงอีกาดำ : กองทัพญี่ปุ่นยึดหัวหาดวาลูได้แล้ว

กลองชุด : จริงเหรอขอรับ กระผมว่า อีกไม่นานพวกมันคงต้องบุกเมืองวินแน่ๆ

คิงอีกาดำ : ไหนใครมีอะไรจะเสนอมั้ย

วัว : กระผมว่า เราควรจะยอมจำนนพวกนั้น เพราะเราไม่ใช่เป้าหมายหลักของพวกมัน

นกอินทรี : ไม่มีทาง ผมดูอย่างเหตุการณ์ที่นานกิงมาแล้ว พวกมันคงล้างโคตรพวกเราไม่เหลือแน่

วัว : แต่อาวุธของพวกเราสู้กองทัพพวกมันไม่ได้หน่ะสิ

นกอินทรี : งั้นคุณก็ไปยอมแพ้พวกมันเลยสิ

คิงอีกาดำ : เอาหล่ะ พอก่อนทุกคน ผมว่าเราควรจะรอดูสถานการณ์ก่อนดีกว่า

แต่ในระหว่างนั้นเอง ระฆังก็วิ่งเข้ามาในที่ประชุมนั้นด้วยความตื่นเต้น

ระฆัง : พระองค์ขอรับๆ

คิงอีกาดำ : มีอะไรเหรอระฆัง

ระฆัง : อเมริกาโดนญี่ปุ่นถล่มที่เพิร์ล ฮาร์เบอร์ขอรับ ตอนนี้ทางอเมริกาประกาศสงครามกับญี่ปุ่นแล้วขอรับ

คิงอีกาดำ : งั้นก็ดีสิ เราคงไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกแล้ว แมวตาเดียว ให้ทูตของเราให้ไปเจรจากับทางอเมริกาขอความช่วยเหลือ ส่วนทางเราต้องยันมันไว้ให้ได้นานที่สุด จนกว่าทางสหรัฐจะส่งความช่วยเหลือมาถึงเรา

ความหวังของพวกเขาสัมฤทธิ์ผล อเมริกาส่งความช่วยเหลือมาให้ทั้งอาวุธ เสบียง และครูฝึกทหารมาฝึกให้กองทัพของ Mask Land

ในฝรั่งเศส ซึ่งจิงโจ้กับทุเรียนไปได้เรียนมัธยมต่อที่นั่น ในขณะนั้นฝรั่งเศสอยู่ภายใต้การปกครองของนาซีเยอรมัน จิงโจ้กับทุเรียนไม่ชอบพวกนาซีที่ชอบเหยียดเชื้อชาติอื่นที่ไม่ใช่อารยัน

ทหารนาซี : เฮ้ พวกเรา มาดูไอ้ลิงเหลืองนี่สิ

จิงโจ้ : มึงว่าใครลิงเหลืองวะ

ทหารนาซี : ก็มึงนั่นแหละ คิดว่าใครหล่ะ

จิงโจ้ : ตัวๆกับกูมั้ยห่ะ

ทุเรียน : ใจเย็นพี่ พวกมันมีปืนนะ // จิงโจ้ข่มใจจากนั้นก็เดินทางไปเรียนต่อ

จิงโจ้ : น่าโมโหชิบหาย พวกมันใหญ่มาจากไหนวะมาด่าเราแบบนั้นหน่ะ

ทุเรียน : เอาน่าพี่ ตอนนี้พวกมันยังครองอำนาจอยู่ ตอนนี้เราทำได้แค่ทนไปก่อนหน่ะ

จิงโจ้ : อย่าให้พี่เจอพวกนั้นอีกนะ พี่จะต่อยหน้าให้

ทุเรียน : โธ่พี่ ให้เก่งแบบนี้ตอนเจอหน้าพวกเกสตาโป(ตำรวจลับของนาซี)นะพี่

จิงโจ้หัวเราะลั่น จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น เกสตาโปไล่ยิงชายคนหนึ่งที่กำลังวิ่งหนี

เกสตาโป : จับมันให้ได้ มันเป็นกลุ่มต่อต้าน จับมัน

เสียงปืนดังสนั่นไปมา ทุเรียนเห็นหญิงสาวคนหนึ่งใส่ชุดสีชมพูดสดใสกำลังยืนตกใจอยู่ ทุเรียนเลยวิ่งไปพาหญิงคนนั้นมาหลบกระสุนปืน จากนั้นพวกเกสตาโปก็ยิงชายคนนั้นล้มลง จากนั้นพวกเขาก็มาดูศพ แล้วก็จากไป ทุเรียนเห็นผู้หญิงที่ตนช่วยมายังกลัวๆอยู่ ทุเรียนจึงเขาไปถามผู้หญิงคนนั้น

ทุเรียน : เธอเจ็บตรงไหนมั้ย

โพนี่ : ไม่เป็นไรจ้ะ

ทุเรียน : เธอชื่ออะไรเหรอ

โพนี่ : ฉันชื่อโพนี่จ้า แล้วเธอหล่ะ

ทุเรียน : ฉันทุเรียน เธอมาจากไหนหล่ะเนี่ย

โพนี่ : The Mask Land จ้า

ทุเรียน : เอ้ยจริงดิ ฉันก็มาจาก Mask Land เหมือนกัน

โพนี่ : จริงดิ แล้วพ่อนายทำอาชีพอะไรอ่ะ // ทุเรียนไม่อยากให้ใครรู้ว่าพ่อเขาเป็นราชา เพราะเขาต้องการปกปิดตัวเอง เลยตอบโพนี่ไปว่า “พ่อฉันทำงานเกี่ยวกับการส่งออกหน่ะ แล้วครอบครัวเธออ่ะ”

โพนี่ : พ่อฉันเป็นชาวฝรั่งเศสหน่ะ ท่านพาฉันมาเรียนที่นี่

จิงโจ้ : คงได้เพื่อนใหม่แล้วสินะเรา

ทุเรียน : เออใช่ นี่พี่เรา จิงโจ้นะ // จิงโจ้ทักทายโพนี่ จากนั้นโพนี่ก็ชักชวนสองคนนี้มาทำอะไรสนุกๆด้วย

โพนี่ : พวกนายอยากรู้มั้ยฉันกำลังทำอะไรอยู่หน่ะ

ทุเรียน : ทำอะไรอ่ะ

โพนี่ : ตามฉันมาสิ // จากนั้นโพนี่ก็พาทุเรียนและจิงโจ้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมือง จากนั้นโพนี่ก็ไปคุยกับยามแถวนั้น จากนั้นก็เข้ามาในตัวตึก โพนี่เห็นเพื่อนของเขาจึงเข้าไปทักทายทันที

โพนี่ : เฮ้ อังเดร

อังเดร : เฮ้ โพนี่ ยูเป็นไงบาง บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า

โพนี่ : ไม่เป็นไรหรอก ดีที่ได้พวกเขาช่วยไว้ เออนี่อังเดร นี่จิงโจ้กับทุเรียน พวกเขาช่วยฉันไว้

อังเดร : เฮ้ สวัสดีทั้งสองคน หน้ากากพวกนายจ๊าบมาก

จิงโจ้ : อ่าๆ แล้วพวกนายกำลังทำอะไรกันที่นี่หน่ะ

อังเดร : พวกไอเป็นกลุ่มต่อต้านนาซีหน่ะ เราทำงานตั้งแต่พวกมันมายึดครองที่นี่หน่ะ

ทุเรียน : นี่เธอเป็น

โพนี่ : ใช่ พ่อฉันเป็นนายทหารฝรั่งเศสหน่ะ เราต่อต้านพวกนาซีที่เขามายึดครองประเทศนี้หน่ะ

อังเดร : โอ้ว จริงด้วย ฉันได้ข่าวว่ากองทัพญี่ปุ่นบุกประเทศพวกนาย ฉันเสียใจด้วยนะ แต่ไม่ต้องห่วง อเมริกาเข้าร่วมสงครามแล้ว อีกไม่นานพวกมันจะต้องแพ้กลับบ้านไปแน่

จิงโจ้ : น่าสนุกดีนี่ งั้นฉันขอร่วมด้วยคนนะ

ทุเรียน : จะดีเหรอพี่ ถ้าพวกนั้นรู้ว่าเราเป็นสาย เราโดนประหารเลยนะพี่

จิงโจ้ : ไม่ต้องห่วง พวกนาซีมันโหดเหี้ยมจะตาย แถมพวกอักษะยังเป็นศัตรูกับประเทศเราด้วย เราต้องทำเพื่อประเทศของเราสิ

ทุเรียนลำบากใจนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็ต้องเข้าร่วม ทำให้ตอนนี้จิงโจ้กับทุเรียนกลายเป็นหน่วยต่อต้านไปโดยปริยาย จิงโจ้กับทุเรียนเริ่มทำงานเป็นคนส่งข่าว จากนั้นก็ไต่เต้าขึ้นมาเป็นหน่วยสังหารเต็มตัว

กลับมาที่ Mask Land ซึ่งกองทัพญี่ปุ่นบุกมาอีกแค่ 40 กิโลเมตรก็ถึงเมืองหลวงแล้ว ผบ.แมวตาเดียวได้สั่งให้ทหารของเขายันพื้นที่ไว้เป็นคนสุดท้าย ซึ่งกองทัพของเขามีหน่วย Ranger ของอเมริกาที่มาสนับสนุนด้วย ผบ.แมวตาเดียวสั่งให้ร้อยตรีจอมยุทธ์เป็นผู้นำในการป้องกันเนินพาเนิลแห่งนี้

กองทัพญี่ปุ่นระดมยิงปืนใหญ่มายังเนินนั้นอย่างไม่มีหยุดหย่อน แต่จอมยุทธ์ก็วางแนวป้องกันที่ได้เรียนมาประกอบกับการที่เขาดัดแปลงยุทธวิธีการรบ ซึ่งเขาปรับปรุงการรบแบบกองโจรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

หลังจากที่ปืนใหญ่หยุดยิง กองพันรถถังของญี่ปุ่นก็นำรถถัง Type-97 chi-ha เคลื่อนบุกเข้าสู่เนินพาเนิลแห่งนั้น แต่จอมยุทธ์สั่งให้ทหารซุ่มตามต้นไม้ แล้วใช่ Bazooka ของอเมริกายิงเข้าใส่รถถังของญี่ปุ่น รถถังของพวกนั้นแหลกไม่มีชิ้นดี จากนั้นพวกมันก็ใช้ทหารราบบุกแทน

“เทนโนเฮย์คะ บันไซ”

จากนั้นพวกนั้นก็บุกเข้ามายังเนินนั้นราวสายน้ำหลาก แต่จอมยุทธ์สั่งให้ทหารซุ่มยิงตามต้นไม้ สนามเพลาะใต้ดิน แม้จะมีอาวุธที่ทันสมัยจากอเมริกา แต่ถึงกระนั้นกองทัพญี่ปุ่นก็บุกเข้าเรื่อยๆเหมือนไม่มีวันหมด จอมยุทธ์เห็นท่าไม่ดีจึงขอกำลังสนับสนุนทางปืนใหญ่ที่เตรียมไว้ยิงกระหน่ำเข้าใส่พวกญี่ปุ่น

“ขอปืนใหญ่ยิงสนับสนุน ที่ 879 ขวา 453 ปฏิบัติ”

จากนั้นปืนใหญ่รุ่นใหม่ของอเมริกาได้ยิงเข้าใส่กองทัพญี่ปุ่นจนพวกนั้นทนไม่ไหว ต้องยอมถอยกลับไป จอมยุทธ์เห็นดังนั้นสั่งให้รถจิ๊ปติดปืนกล .30 cal ตามสังหารพวกญี่ปุ่นจนหมด ทหารบางส่วนก็โดนจับเป็นเชลย นับเป็นชัยชนะครั้งแรกของชาว The Mask Land ที่ทำให้ญี่ปุ่นถอยร่นไป ชัยชนะครั้งนี้รู้ไปถึงหูของคิงอีกาดำ คิงอีกาดำจึงมีคำสั่งให้ร้อยตรีจอมยุทธ์เข้าเฝ้าด่วน คิงอีกาดำภูมิใจกับผลงานของจอมยุทธ์ในครั้งนี้มาก ได้เลื่อนยศให้เขาเป็นพันตรีหน่วยรบพิเศษเฉพาะกิจ ซึ่งมีหน้าที่แทรกซึมและทำลายล้างกองทัพญี่ปุ่นโดยเฉพาะ จากนั้นผบ.แมวตาเดียวก็ได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่อง ผบ.แมวตาเดียวคนนั้นกลายเป็นนายพลที่ทหารญี่ปุ่นเกรงกลัวกันมาก ถึงกับมีการล่าค่าหัวกันด้วย

ช่วงปลายสงคราม

จิงโจ้กับทุเรียนร่วมกันสู้ต่อต้านพวกเยอรมันจนกองทัพอเมริกาเข้าปลดปล่อยฝรั่งเศส ชาวฝรั่งเศสดีใจกันทั้งประเทศ ร่วมทั้งกลุ่มต่อต้านด้วย

โพนี่ : ดีใจจังเลยทุเรียน

ทุเรียน : สงครามคงใกล้จบแล้วหล่ะ

อังเดร : แน่นอน อเมริกามาแล้ว ส่วนพวกนาซีกำลังโดนเตะโด่งกลับบ้านไปเลย

จิงโจ้ : โคตรสบายใจเลยนะอังเดร บนถนนวันนี้ไม่มีพวกเกสตาโปซักคน

อังเดร : ใช่เลย โว้ๆๆ เพื่อนอเมริกาของไอมาแล้ว ไอไปต้อนรับเขาก่อนนะพวก // จากนั้นอังเดรก็ไปตอนรับเพื่อนของเขาที่นั่น จากนั้นผบ.ไอเซนฮาวร์ก็มาแสดงความของคุณกับหน่วยใต้ดินของฝรั่งเศสนั้น

ไอเซนฮาวร์ : โอ้ สวัสดี เจ้าชายทุเรียน เจ้าชายจิงโจ้

อังเดร : ท่านรู้จักเพื่อนเราด้วยเหรอครับ

ไอเซนฮาวร์ : องค์ชายแห่ง Mask Land ทำไมฉันจะไม่รู้หล่ะ

อังเดร : โอ้ว ถ้าแบบนั้น ถวายบังคมฝ่าบาท

ทุเรียน : ใจเย็น เรียกฉันทุเรียนแบบเดิมก็ได้

โพนี่ : เอิ่ม ถวายบังคมองค์ชาย

ทุเรียน : ไม่เอาสิโพนี่ เราอยากให้โพนี่เรียกเราแบบเดิมนะ

โพนี่ : แต่..

ทุเรียน : ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น โพนี่เป็นเพื่อนฉันคนหนึ่ง โพนี่ไม่ต้องถวายบังคมฉันก็ได้

โพนี่ : อ่ะ ค่ะ

จิงโจ้ : เราจะชนะสงครามอีกไม่นานใช่มั้ยครับท่าน

ไอเซนฮาวร์ : ใช่ขอรับ ตอนนี้พวกเราล้อมเยอรมันไว้แล้ว แล้วเรากำลังจะบุกเข้าไปใจกลางกรุงเบอร์ลินด้วย

จิงโจ้ : ขอแสดงความยินดีครับ

กลับมายัง Mask Land พันตรีจอมยุทธ์ขับไล่กองทัพญี่ปุ่นที่อ่อนแรงออกไปจากเกาะได้สำเร็จ หลังากที่กองทัพญี่ปุ่นออกไปจากดินแดน Mask Land ชาวเมืองและชาวบ้านต่างโห่ร้องดีใจกันสุดขีด คิงอีกาดำเรียกพันตรีจอมยุทธ์ไปเข้าเฝ้า และมอบรางวัลให้มากมายในการที่ขับไล่อริราชศัตรูออกไปจากแผ่นดินได้

ไม่กี่เดือนต่อมา ระฆังได้มาเข้าเฝ้าคิงอีกาดำ เพื่อรายงานเรื่องสงคราม

ระฆัง : ท่านขอรับๆ เรามีข่าวดีครับ

คิงอีกาดำ : มีอะไรหล่ะระฆัง

ระฆัง : ญี่ปุ่นยอมจำนนแล้วขอรับ สงครามสิ้นสุดแล้วขอรับ

คิงอีกาดำ : ดีมาก สิ้นสุดซะที ความทุข์เข็ญที่แสนยาวนานนี้

ควีนมังกร : นั่นสิคุณ นี่คุณ ลูกเราเรียนจบกำลังจะกลับมาแล้วนะ

คิงอีกาดำ : ห่ะ งั้นก็ดีสิ ถ้าลูกเรามาถึง จัดงานเลี้ยงต้อนรับไว้เลยนะ

ควีนมังกร : ได้ค่ะคุณ

ชาวเมืองต่างมีฉลองกันอย่างสุขสันต์ ทั้งสงครามสงบ และองค์ชายน้อยทั้งสองกำลังกลับมาแล้วด้วย พันตรีจอมยุทธ์เข้าพบผบ.แมวตาเดียวเพื่อแสดงความยินดีที่แมวตาเดียวได้ประดับยศเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด

จอมยุทธ์ : ยินดีด้วยครับท่าน

แมวตาเดียว : ขอบใจมากนะ แต่ถ้าไม่ได้ทหารพี่น้องทุกคน ฉันก็คงไม่มีวันนี้หรอก

จอมยุทธ์ : แต่ท่านก็เหมาะสมกับตำแหน่งนี้อยู่แล้วนี่ครับ

แมวตาเดียว : เฮ้อ พูดแล้วก็คิดถึงเหล่าพี่น้องของเราที่ตายเพื่อประเทศนี้เลยนะ

จอมยุทธ์ : นั่นสิครับท่าน ผมก็คิดถึงพี่น้องทุกคนที่สู้เคียงข้างผมเหมือนกัน

แมวตาเดียว : ได้ข่าวว่าคุณจะต้องไปฝึกต่อที่อเมริกานี่

จอมยุทธ์ : ใช่ครับ เป็นโครงการแลกเปลี่ยนหน่ะครับ

แมวตาเดียว : อืม งั้นผมขอให้คุณโชคดีก็แล้วกัน เอาวิชาความรู้มาพัฒนาประเทศนี้ให้ดีขึ้นนะ ผมดีใจที่ได้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับคุณ

จอมยุทธ์ : ขอบคุณครับท่าน

หลังจากที่งานเลี้ยงเลิกรา ไม่กี่วันต่อมาจอมยุทธ์ก็ต้องไปฝึกต่อที่อเมริกา ไม่กี่วันต่อมา ทุเรียนและจิงโจ้ก็กลับมายัง Mask Land โดยมีโพนี่กับนางอังเดรและพรรคพวกของเขามาด้วย เมื่อมาถึง ประชาชนก็มาต้อนรับกันอย่างหนาแน่น

อังเดร : ว้าว ประเทศนี้บิวตี้ฟูลมากๆ ทำไมผู้คนต้องใส่หน้ากากกันด้วยหล่ะ

ทุเรียน : เป็นธรรมเนียมมานานมากแล้วหล่ะ

ไมเคิล : เฮ้ อังเดร แบบยูก็คงต้องเป็นหน้ากากหมาบ้าหน่ะสิ

อังเดร : โธ่ ยูก็ไอ้หน้ากากแมลงสาบเหมือนกันนั้นแหละ

ทุเรียน จิงโจ้ และโพนี่หัวเราะไมเคิลและอังเดร จนกระทั่งพวกเขามาถึงพระราชวัง คิงอีกาดำและควีนมังกรก็มารอต้อนรับลูกๆของพวกเขา

คิงอีกาดำ : จิงโจ้ ทุเรียน

ควีนอีกาดำ : ลูกแม่ โธ่ โตขึ้นมากเลยนะลูก

จิงโจ้ : แน่นอนท่านแม่

ทุเรียน : แม่ นี่โพนี่ อังเดรและไมเคิล เพื่อนของผมเองครับ

อังเดร ไมเคิล : ถวายบังคมฝ่าบาท

คิงอีกาดำ : เอาน่า ทักทายผมแบบธรรมดาก็ได้ กลับมาเหนื่อยๆ เข้ามาข้างในก่อนสิลูก

จากนั้นเด็กๆก็พักผ่อนกันอย่างสนุกสนาน และมีงานเลี้ยงต้อนรับแขกที่มาเยือน ประเทศดูคล้ายว่าจะสงบอีกครั้งหนึ่ง

แต่ก็แค่ชั่วคราว เพราะอีกไม่นาน พายุลูกใหม่กำลังจะเข้ามา

======================================================================

ตอนนี้จะเป็นปฐมบทของประเทศนี้ก่อนนะครับ ต่อไปรับรองว่ามันส์แน่ๆ

ตอนนี้จะเป็นการเกริ่นเกี่ยวกับจอมยุทธ์และชาว Mask Land เล็กๆน้อยๆสำหรับเรื่องนี้ 

ตอนหน้าเหล่า OC จะเริ่มออกมามีบทบาทแน่ๆ 

ติดตามชมตอนต่อไปได้จ้า

ซับแนลผมด้วย

https://www.youtube.com/channel/UC7xjJSszZWbBH9gTW34-T8g