คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : EP 16 : ติดตาม
รถที่ใช้ลักพาตัวเวหาและเกรซขับไปตามทางเรื่อยๆ
จนกระทั่งมาถึงโกดังแห่งหนึ่ง เมื่อรถได้หยุดลง พวกเขาทั้งคู่ก็ถูกพาตัวลงมาจากรถ
แล้วพาไปที่ไหนซักแห่งด้านในโกดัง
“เอ็ย
มึงรู้มั้ยว่ากำลังทำอะไร พวกมึงไม่ตายดีแน่”
เวหาพูดกับพวกมัน
แต่มันก็ต่อยหน้าเวหาจนคว่ำ
“อย่าทำอะไรเขานะ
พวกแกเป็นใครกันแน่”
พวกมันไม่พูดอะไรมาก
มันยังลากทั้งสองคนไปด้านใน
จนกระทั่งมาถึงห้องๆหนึ่งซึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนรออยู่
“ได้ตัวมันมาแล้วงั้นเหรอ”
“ครับคุณเกรท
แล้วเราจับไอ้หมอนี่มาด้วยครับ”
เกรซได้ยินดังนั้นจึงตกใจมาก
เธอจึงต้องดูด้วยตาของตัวเอง
“เกรท นี่เธอ”
“ขอบคุณที่ยังจำฉันได้
พี่สาว”
“นี่คุณ
คุณเป็นคนที่เราช่วยไว้นี่” เวหาพูดขึ้น
“นี่
คุณมาเกี่ยวอะไรด้วย จับเขามาทำไมเนี่ย” เกรทถามอย่างสงสัย
“ไอ้หมอนี่อยู่กับเธอ
ตอนเราจับมันมาครับ”
“นี่
คุณจับพี่คุณ จับผมมาทำไม” เวหายังคงย้ำคำถามเดิม
“คุณไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า”
“เกรท
พี่รู้ว่าเธอกำลังโกรธพี่ แต่อย่าทำแบบนี้เลย”
“แหม่
กลัวตายขึ้นมาเลยนะแก” เกรทตบหน้าพี่สาวเธอไปหนึ่งที
“นี่คุณ
มันเกินไปแล้วนี่” เวหาพยายามพูดขึ้น แต่ก็โดนคนของเกรทต่อยไปอีกหนึ่งที
“มันคิดจะแย่งเพื่อนคุณไปจากฉัน
ฉันต้องกำจัดมัน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ” เกรทพูดอย่างเกรี้ยวกราด
“นี่คุณ
คุณรักเพื่อนผม หรือต้องการแก้แค้นพี่สาวคุณกันแน่
คุณอย่าคิดนะว่าเพื่อนผมจะปล่อยคุณไป” เวหาโต้กลับบ้าง
“เอาตัวมันทั้งคู่ไปขังไว้ก่อน
ไป๊” เกรทสั่งให้ลูกน้องเอาตัวทั้งเวหาและเกรซไปขังอยู่ในห้องเดียวกัน
“เฮ้อ
ฉันขอโทษด้วยนะคะที่พาคุณมาเสี่ยงด้วย” เกรซพูดกับเวหา
“ไม่เป็นไรหรอกครับ
เราต้องไปจากที่นี่ให้ได้”
“ฉันได้ยินว่าเพื่อนคุณชอบน้องฉันนี่คะ”
“เฮ้อ
ผมน่าจะดูออกแต่แรกแล้ว แต่ช่างมันเถอะครับ”
“ฉันมันก็ผิดเองหล่ะ
ที่ทำให้น้องฉันเป็นแบบนี้” เกรซพูด
“อย่าโทษตัวเองเลยครับ
ไม่ว่ายังไงผมจะพาคุณออกไปให้ได้”
“ขอบคุณมากนะคะ
ฉันเชื่อคุณค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงครับ
เพื่อนผมหาเราเจอแน่ๆ”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นหล่ะคะ”
เกรซถามอย่างสงสัย
ในขณะที่เวหายิ้มที่มุมปากอย่างมีเลศนัย
กลับมายังหน่วย
Nation หลังจากที่พวกเขาเพิ่งจะบุกทลายรังของเจ้าพ่อเคี้ยง
ซึ่งพวกเขาจับคนของเจ้าพ่อเคี้ยงไปได้มากมาย และยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังได้ทำลายเครื่องผลิตยาเสพติดเป็นสิบๆเครื่อง
และยังช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกจับมาขายเป็นทาส ในระหว่างที่ตำรวจของ Nation กำลังดำเนินการเคลียร์พื้นที่
ในตอนนั้นเอง เอเรียน่าก็หาตัวเกรซไม่พบ ติดต่อก็ไม่ได้
เธอจึงรีบมาบอกกับพวกของเธอในทันที
“คุณเอกคะ
เกรซหายไปไหนไม่รู้ หนูติดต่อก็ไม่ได้ค่ะ”
“หะ จริงเหรอ
แล้วเธอหายไปไหนของเธอกันนะ” เอกถามอย่างสงสัย
“จะว่าไป
เวหาเขาก็ด้วยนะ ผมหาตัวไม่เจอเลย” เซบพูดขึ้น
“หรือว่าใครจะมาลักพาตัวพวกเขาไปคะ”
ซากิริพูดขึ้น
“แล้วใครมันจะกล้าทำแบบนี้หล่ะ
เธอว่ามั้ย” เอย์จิถามอย่างสงสัย
“ถ้าอย่างงั้นลองใช้วิธีนี้สิ
เซบ กดสัญญาณเลย” วินบอกกับเซบ เซบจึงเอารีโมทอะไรบางอย่างมากด
จากนั้นสัญญาณภาพก็ขึ้นมายังหน้าจอมือถือของเซบในทันที
“นั่นไง
พวกเขาอยู่ที่นี่ไง” วินชี้ไปยังโทรศัพท์ของเซบ
“แล้วพวกคุณทำได้ยังไงคะเนี่ย”
ซากิริถามอย่างสงสัย
“เวหาเคยบอกผม
ว่าถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งหายตัวไป ให้กดรีโมทตรงนี้
แล้วสัญญาณจะขึ้นที่โทรศัพท์ของแต่ละคนครับ” เซบพูดขึ้น
“โห
ฉลาดดีนี่หว่า เราน่าจะทำบ้างนะ” เอย์จิพูดขึ้น
“ว่าแต่
พวกเขาตอนนี้อยู่ที่ไหนกันคะ” เอเรียน่าถามด้วยความกังวล
“ผมพอจะรู้จักที่นี่อยู่นะ
ไม่ห่างจากที่นี่เท่าไหร่” เอกดูแผนที่
จากนั้นก็วางตำแหน่งไว้บนแผนที่ของเขา
“ถ้าอย่างงั้นรีบไปช่วยเขาดีกว่า”
วินพูดขึ้นจากนั้นพวกเขาก็รีบขึ้นรถในทันทีเพื่อไปช่วยเหลือเพื่อนของเขาที่โดนจับไป
ในระหว่างที่อยู่ในรถ พวกเขาก็คุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไปด้วย
“พวกคุณพอจะรู้มั้ย
ว่ามันจับเพื่อนคุณไปทำไม” วินถามไป
“ฉันก็ไม่รู้
เกรซไม่เคยมีศัตรูที่ไหนเลยนะคะ” เอเรียน่าตอบไป
“นั่นสิ
ใครจะจับตัวเกรซไปทำไมกันนะ” เอย์จิถามอย่างสงสัย
“ไม่แน่อาจเป็นพวกเจ้าพ่อที่ต้องการต่อรองก็ได้”
เซบพูดขึ้น
“แต่จะว่าไป
เกรซเธอเคยบอกว่ามีน้องสาวนี่ ไม่ใช่เหรอ” ซากิรินึกได้แล้วพูดขึ้น
“แล้วน้องสาวของเขามาเกี่ยวอะไรด้วยหล่ะ”
วินถามอย่างสงสัย
“ฉันเคยได้ยินเกรซเล่าให้ฟังว่า
น้องสาวเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตัวใหม่หน่ะ” เอเรียน่าพูดขึ้น
“ถ้าอย่างงั้นก็เริ่มเข้าเค้าแล้วหล่ะนะ”
เอย์จิพูดขึ้น
“ว่าแต่
น้องสาวจะจับพี่ตัวเองไปทำไมกันหล่ะนะ” ซากิริถาม
“ผมก็ไม่รู้
อาจเป็นปัญหาส่วนตัวก็ได้” เซบพูดขึ้น
“แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร
ถ้าอยู่เบื้องหลังยาเสพติด ต้องได้รับโทษแน่นอน” เอกพูดขึ้น
“ก็ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะ”
วินพูดขึ้น
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรติดต่อเข้ามาหาเอก เอกรีบรับสาย
จากนั้นซักพัก เขาก็วางสายไปในทันที
“ใครติดต่อมาคะท่าน”
ซากิริถามอย่างสงสัย
“ที่หน่วยของเราติดต่อมา
เห็นทีเราคงต้องรีบหน่อยหล่ะ”
“มีเรื่องอะไรกันอย่างงั้นเหรอครับ”
เซบถามไป
“ตอนนี้พวกผู้ก่อการร้ายกำลังจะโจมตีกรุงเทพ
เราต้องรีบสกัดพวกมันไว้หน่ะ”
“มันเป็นพวกไหนกันหล่ะคะ”
เอเรียน่าถามไป
“พวกของนายสุวรรณ
ฉันคิดว่านะ”
“พวกที่เราเคยเจอ
ใช่หรือเปล่าเซบ” วินหันไปถามเซบ
“ฉันขอเตือนนะ
เขาไม่ใช่แบบที่พวกนายคิดนะ”
“ท่านคะ
เซบเขาอาจจะไม่รู้ก็ได้ค่ะ” ซากิริพูดขึ้น
“เอาเถอะ
ยังไงก็ช่วยเกรซให้ได้ก่อนก็แล้วกัน”
ขบวนรถของพวกเขาขับไปตามทางเรื่อยๆ
ไปยังเป้าหมายที่เวหาและเกรซถูกจับไป
กลับมายังโรงพยาบาลของวาเดลเรีย
หลังจากที่เจ้าพ่อเคี้ยงได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้
เขาก็ถูกควบคุมตัวมายังโรงพยาบาลที่วาเดลเรียประจำอยู่
โดยที่แองเจลล่าได้จัดให้เขาอยู่ในห้องที่มีการควบคุมอย่างแน่นหนาโดยคนของ Nation
ในระหว่างนั้นเอง
ไข่มุกก็ได้ถูกอนุญาตให้เยี่ยมพี่ชายของเธอ
เธอจึงไปอยู่พี่ของเธอที่กำลังนอนบนเตียงในทันที
“ไข่มุก
พี่ขอโทษสำหรับทุกอย่าง สำหรับเรื่องไอ้เพลิงด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่
หนูไม่เป็นไร”
“พี่สาบาน
ถ้าพี่เจอมัน พี่ฆ่ามันแน่”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะพี่
ไม่เป็นไรแล้ว”
ในขณะเดียวกัน
วาเดลเรียก็เดินเข้ามาในห้อง จากนั้นก็มาดูอาการของเขา
โดยที่ไข่มุกถามถึงอาการของเขากับหมอด้วย
“หมอคะ
พี่หนูเป็นยังไงบ้างคะ”
“เขาไม่เป็นอะไรมากหรอก
กระสุนไม่ทำอันตรายเขาได้ หมอทำแผลให้แล้วหล่ะ”
“แล้วพี่หนูจะออกไปจากที่นี่ได้เมื่อไหร่คะ”
“ไม่น่าจะเกิน
3 วันจ้ะ”
“ขอบคุณคุณหมอมากๆนะคะ”
“แล้วนี่
เธอรู้มั้ย ถ้าออกไปจากที่นี่ได้ ก็ต้องโดนตัดสินคดีอยู่ดี” วาเดลเรียพูดกับไข่มุก
“อยากทำอะไรก็ทำเถอะครับหมอ”
เคี้ยงพูดอย่างเซงๆ
“อ้อ
ฉันไม่ได้เป็นคนจัดการเรื่องนี้ค่ะ”
“ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณคุณหมอมากนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
ยังไงก็รักษาตัวด้วยนะคะ” วาเดลเรียเดินออกจากห้องไปหลังจากนั้น
“พี่ต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้”
เคี้ยงพูดขึ้น
“ออกไปแล้วตายข้างนอกเหรอคะ
พอเถอะพี่ ให้มันจบแค่นี้เถอะ”
“แต่ว่า…”
“หนูไม่อยากให้พี่ถลำลึกไปกว่านี้อีกแล้ว
พอเถอะพี่” ไข่มุกมองเข้าไปนัยน์ตาของเคี้ยง ทำเอาเคี้ยงถึงกับหยุดนิ่งไป
ทางด้านของแองเจลล่า
ในขณะที่เธอกำลังรักษาความปลอดภัยอยู่ เธอก็เหลือบไปเห็นห้องๆหนึ่ง
ซึ่งเธอเห็นรามกำลังรักษาตัวอยู่ เธอเปิดประตูเข้าไปในห้องทันที
รามเจอกับเธอก็ตกใจมาก
“คุณรามคะ
เป็นยังไงบ้างคะ”
“คุณแอน เอ๊ะ
คุณคงไม่ได้ชื่อนั้นสินะ”
“สำหรับคุณ
เรียกฉันว่าแอนแบบเดิมก็ได้ค่ะ”
“งานของคุณเรียบร้อยแล้วสินะ
เถ้าแก่ก็โดนจับไปแล้วนี่”
“ฉันเป็นห่วงคุณก็เลยมาดูหน่ะค่ะ”
“ผมขอบคุณมากเลยนะ
แต่ผมรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง”
“ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะคะ”
“แต่เอาเถอะ
คุณได้ทุกอย่างแล้ว ผมคงไม่จำเป็นแล้วนี่”
“ถ้าคุณไม่จำเป็น
แล้วฉันจะมาหาคุณทำไมกัน” คำพูดนั้นทำให้รามหยุดนิ่งไป
“แล้วคุณต้องการอะไรกันแน่
ถ้าจะถามเรื่องคุณเปียว ผมไม่รู้หรอกนะ”
“ฉันแค่เป็นห่วงคุณ
ก็เท่านั้นเอง”
“คุณจะมาห่วงผมทำไมหล่ะ”
รามถามไป
“ก็เพราะคุณเป็นคนเดียวที่ฉันคุยแล้วสบายใจยังไงหล่ะ”
แองเจลล่าพูดอย่างหนักแน่น
คำพูดนั้นทำให้รามถึงกับนิ่งไป
ณ
จังหวัดนครราชสีมา พื้นที่ของกลุ่มอาเปียว หลังจากที่เขาเดินทางมาถึง
พวกเขาก็เตรียมระดมพลเพื่อที่จะไปช่วยเถ้าแก่หยงออกมา
“เฮ้ย
เรามีคนอยู่เท่าไหร่ตอนนี้”
“200 กว่าคนได้ครับเฮีย”
ลูกน้องของเขาบอกไป
“เราจะไปช่วยเตี่ยอั๊วกลับมาให้ได้”
“แล้วเรื่องของพวกชุดดำในแถบนี้หล่ะครับ”
“แก๊งค์อื่นจัดการได้อยู่แล้ว
ไม่ต้องห่วงหรอก” อาเปียวตอบไป
“แต่ตอนนี้พวกมันเริ่มรุกคืบลงมาทางใต้แล้วนะครับ”
“มันไม่มีทางยึดภาคอีสานได้หมดหรอก
รีบไประดมคนได้แล้ว”
“ครับเฮีย”
ลูกน้องของอาเปียวเตรียมกำลังคนและอาวุธกันอย่างบ้าคลั่ง
เพื่อไปชิงตัวเถ้าแก่หยงออกมาให้ได้
กลับมายังชายแดนกรุงเทพ
หลังจากที่สุวรรณประกาศสงครามกับกรุงเทพ
กองกำลังของเขาก็เริ่มเข้าตีกรุงเทพในทุกๆด้าน
พวกเขาจัดการกลุ่มของเจ้าพ่อหลายกลุ่มแต่ได้รับการปะทะเพียงเล็กน้อย
เนื่องจากกลุ่มแก๊งค์ที่อยู่แถบนั้นอ่อนแอมาก จนพวกเขาสามารถบดขยี้ได้อย่างสบาย
ในขณะเดียวกันสุวรรณก็มาชมความสำเร็จด้วยตัวเอง
ณ เขตบางนา
“เฮ้อ
ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าเราจะยึดบางนาได้ในไม่กี่ชั่วโมง” สุวรรณพูดพลางจิบเหล้าของเขา
“นั่นสิครับท่าน
ไม่น่าเชื่อพวกมันจะอ่อนแอขนาดนี้” ภาคินพูดเสริม
“สั่งกำลังคน
คืนนี้ให้พักผ่อนกันให้เต็มที่ ก่อนจะเดินทางกันต่อไป”
“แล้วพวกมันจะไม่จู่โจมพวกเราตอนกลางคืนเหรอคะ”
ติ๋มถามค้าน
“นั่นสิคะ
ถ้าเราประมาท พวกมันอาจตลบหลังเราก็ได้” ฟาฟาพูดเสริม
“ไม่หรอก
พวกมันไร้ระเบียบ มันไม่โจมตีตอนกลางคืนหรอก
ป่านนี้มันอาจกำลังนั่งเมายากันอยู่ก็ได้”
“นั่นสิครับท่านถ้าอย่างงั้นเราจะรีบยึดกรุงเทพโดยเร็วครับ”
เสือพูดขึ้น
“เออนี่
แล้วพวก Nation มีฐานอยู่ที่ไหนกันครับ”
“เราคาดว่าน่าจะแถวๆรัชดาครับท่าน”
คูไกพูดขึ้น
“ถ้าไปถึงที่นั่น
อย่าเพิ่งโจมตีก่อน ให้ตรึงกำลังเอาไว้”
“ทำไมหล่ะคะท่าน
มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฟาฟาถามอย่างสงสัย
“พวกมันไม่ใช่แก๊งค์ธรรมดาๆ
มีแต่คนมีฝีมือทั้งนั้น เราต้องรอบคอบกว่านี้”
“ได้ค่ะท่าน
เราจะดำเนินการค่ะ” ติ๋มพูดขึ้น
“แล้วพวกเจ้าพ่อที่จับได้เนี่ย
เราจะเอายังไงกับมันครับ” ภาคินถามไป
“ก็ฆ่ามันให้หมดสิ
คิดอะไรมากหล่ะ” เสือพูดขึ้น
“นั่นสิ
เลี้ยงไว้ก็เปลืองอาหาร ฆ่าทิ้งก็หมดเรื่อง” คูไกพูดขึ้น
“ก็แล้วแต่เลยนะ
เดี๋ยวฉันมาก็แล้วกัน” ในตอนนั้นเอง เขาก็เดินไปหลบมุมอยู่ในร้านๆหนึ่ง
ซึ่งในตอนนั้นเองเขาก็เจอกับโมเอกะที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่
สุวรรณเห็นจึงเดินไปหาเธอในทันที
“คุณครับ
ที่นี่สบายดีหรือเปล่าครับ”
“อ้อ
สบายดีมากค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” โมเอกะตอบไป
“ว่าแต่
คุณคิดว่าคุณจะไปที่ไหนต่อครับ”
“ฉันไม่มีที่ไหนให้ไปแล้วหล่ะค่ะ”
“อ้อ
น่าเสียดายจัง ถ้างั้นคุณอยู่กับผมไปก่อนก็ได้นะครับ”
“ขอบคุณมากค่ะ
คุณสุวรรณเหนื่อยมั้ยคะ”
“นิดหน่อยครับ
แต่ตอนนี้ผมไม่เป็นไรแล้วครับ”
“เหนื่อยหน่อยนะคะงานแบบนี้
ฉันเคยเป็นแม่บ้านอยู่ เหนื่อยพอๆกัน”
“จริงเหรอครับ
ถ้างั้นคุณลองไปทำที่บ้านผมสิ ผมจ้างได้นะ”
“ได้ค่ะ
ถ้ามีโอกาสนะคะ”
กลับมายังกองเรือของยามาโมโตะ
ในตอนนั้นเองพวกเขาได้ข่าวการดจมตีกรุงเทพแล้ว
พวกเขาและนายทหารคนอื่นๆรีบไปประชุมกันในเรือแม่ของเขาเพื่อปรึกษาถึงแผนการของพวกเขาในการจัดการกับนายสุวรรณ
“ท่านครับ
ตอนนี้พวกมันยึดเขตบางนาไปได้แล้ว ถ้าเรายังไม่ทำอะไรซักอย่าง
พวกมันอาจจะยึดได้ครึ่งหนึ่งของกรุงเทพเลยนะครับ”
“ใช่ครับ
ถ้ามันยึดกรุงเทพได้ ภูมิภาคนี้อาจตกเป็นของมันเลยนะครับ”
“แล้วพวก Nation
หายไปไหนกันหมดหล่ะ”
ยามาโมโตะถาม
“พวกเขาไม่มีกำลังหลักพอที่จะคุ้มกันได้ทั้งหมดครับ
พวกเขายันมันได้แค่บางเขตครับ”
“แล้วพวกเจ้าพ่อในพื้นที่หล่ะ”
“ถ้าไม่โดนฆ่าก็หนีกันไปหมดแล้วครับ”
“โธ่เอ้ย
ถ้างั้นเราคงต้องจู่โจมมันทันทีแล้วหล่ะ”
“แต่กำลังและกองเรือของเรายังเป็นรองนะครับ
เกรงว่าเราอาจแพ้ได้ครับ”
“เราคงต้องอาศัยความเงียบ
และให้หน่วย Nation จัดการไปก่อนหน่ะ”
ในระหว่างทที่กำลังประชุมแผนการกัน
จู่ๆก็มีวิทยุมารายงานพวกเขา
“นี่ยามาโมโตะพูด”
“ครับท่าน
เรือที่ท่านสั่งได้แล้วครับ”
ยามาโมโตะแปลกใจ
เลยออกจากห้องของเรือออกไปดู
ก็พบว่ามีเรือประจัญบานลำใหญ่พร้อมปืนใหญ่มากมายติดตั้งไว้
นี่คงจะเป็นเรือที่ยามาโมโตะขอมาได้ ยามาโมโตะดีใจมากที่ได้เห็นมันอีกครั้งหนึ่ง
“ท่านครับ
เรือลำนี้ที่ท่านขอใช่หรือเปล่าครับ”
“ใช่แล้วหล่ะ”
“แล้วมันจะได้ผลเหรอครับ”
“เรือลำนี้ทนจรวดได้หลายลูก
ให้มันยิงมาเลย เราจะยิงปูพรมหาดของมัน
จากนั้นก็ส่งกองกำลังของเราบุกอย่างหมาบ้าไปเลย”
“ได้ครับท่าน”
ณ
เหลามังกรฟ้า
เสียงปืนที่ดังขึ้นทุกวันทำเอาคนในร้านตกใจ
เรย์พยายามปิดร้านหนีเนื่องจากว่ากลัวจะได้รับอันตรายไปด้วย
แต่ไม่ว่าจะยังไงเสียงปืนก็ไม่ได้หยุดดังไปเลย คนในร้านไม่เป็นอันทำอะไร
แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ต้องปกป้องของในร้านตัวเองต่อไป
“คุณเรย์คะ
นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย”
“พวกแก๊งค์มันยิงกันหน่ะ
คิดว่านะ”
“แต่ว่า
พวกมันไม่น่าจะยิงกันนานขนาดนี้นะคะ”
“ฉันก็ไม่รู้
แต่ยังไงก็อดทนไว้ก่อนนะ”
“ว่าแต่
พรุ่งนี้เราต้องเปิดร้านมั้ยคะ”
“เปิดสิ
ไม่มีใครทำอะไรเราหรอก”
ในขณะเดียวกัน
ลูกน้องของเธอคนหนึ่งก็วิ่งมาหาเธออย่างเร่งรีบ
“คุณเรย์ครับ
ผมเก็บอาหารไว้ชั้นใต้ดินหมดแล้วครับ”
“ดีแล้วหล่ะ
เราคงต้องหลบที่นี่กันนานเลยเนี่ย”
“ผมอยากรู้จังมันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
“ฉันก็ไม่รู้
แต่ยังไงก็อดทนเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน”
“ผมเองก็นึกว่าเรื่องของพวกแก๊งค์จะจบไปแล้วซะอีก”
“มันไม่จบง่ายๆหรอก
อย่าลืมสิตอนนี้เราอยู่ในโลกที่ไม่มีกฎหมายนะ”
“นั่นสินะครับ
ถ้างั้นผมขอตัวนะครับ”
ลูกน้องของเธอเดินออกไป
ส่วนตัวเธอก็หลบอยู่ในห้อง รอจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ณ
ถนนเส้นหนึ่ง
ซึ่งชนและโซระกำลังขับรถหนีการตามล่าของพวกเจ้าพ่อสิงห์ที่ตามมาเอาเงินของพวกเขา
โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าข้างหน้าจะมีอะไรรอพวกเขาอยู่
ท่ามกลางเสียงปืนที่ดังไปทั่วโดยรอบ ซึ่งพวกเขาก็แปลกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“เฮ้ย ชน
มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะ” โซระขับรถแล้วถามชน
“ไม่รู้เหมือนกัน
แต่เดี๋ยวคงรู้หล่ะ” ชนตอบไป
“เฮ้ย
แล้วแขนมึงเป็นไงบ้างวะ”
“แค่เฉี่ยวๆหน่ะ
ไม่เป็นไรหรอก”
“เออๆ
เดี๋ยวไปถึงกูจะทำแผลให้แล้วกัน”
“เออน่า
แค่นี้สบายอยู่แล้วหล่ะ”
ในระหว่างที่พวกเขากำลังจะขับรถไป
จู่ๆก็มีด่านๆหนึ่งจอดรออยู่ด้านหน้า พวกเขาแปลกใจมากว่าใครเป็นคนตั้งด่าน
“เฮ้ย
พวกไหนกันวะเนี่ย แต่งตัวเหมือนทหารเลย” โซระถามอย่างสงสัย
“ไม่รู้ดิ
เตรียมปืนให้พร้อมก็แล้วกัน”
รถของโซระไปจอดอยู่ที่หน้าด่าน
จากนั้นมันสองคนก็เดินมาที่รถของพวกเขา
“สวัสดีครับ
พวกคุณจะไปไหนกัน”
“เราจะกลับบ้านครับ
ที่สมุทรปราการหน่ะ” โซระตอบไป
“อ้าว แล้วนี่
คุณบาดเจ็บนี่ ไปโดนอะไรมา”
“พวกนักเลงปะทะกัน
เราโดนลูกหลงครับ” ชนตอบไป
“อ้อครับ
เดี๋ยวผมจะเรียกหมอให้ แต่ขอดูบัตรประชาชนหน่อยครับ”
ในตอนนั้นเองทั้งคู่กำลังจะยื่นบัตรประชาชนให้
แต่จู่ๆมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง บังเอิญรู้จักกับทั้งคู่
“เฮ้ย
จับพวกมันไว้”
ชนและโซระถึงกับชักปืนออกมายิงกับยามพวกนั้น
แต่ในขณะเดียวกัน พวกมันอีกนับสิบคนก็ตามมาจับตัวทั้งคู่เอาไว้
“เฮ้ย
รีบเผ่นเร็ว”
โซระรีบบึ้งรถกลับไป
ก่อนที่พวกมันจะไล่ตามจับพวกเขาได้ทัน
“ไอ้บ้านั่นมันใครวะเนี่ย”
โซระถามอย่างสงสัย
“กูก็ไม่รู้
แต่เดี๋ยวได้รู้กันแน่”
ณ
เขตชายแดนกรุงเทพ เพลิงลักรถมอไซค์ที่เขาหามาได้รีบหนีออกไปจากกรุงเทพ
เนื่องจากว่าเขาอยู่ที่นั่นไม่ได้แล้ว ถ้าเกิดว่าเจ้าพ่อเคี้ยงรู้เรื่องของเขา
เขาได้กลายเป็นปุ๋ยแน่ๆ เขาจึงรีบออกจากเมืองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แต่ในระหว่างที่เขากำลังขี่รถ
จู่ๆก็มีด่านๆหนึ่งของพวกนายสุวรรณมาขวางทางเอาไว้ก่อน
เพลิงถึงกับต้องหยุดรถในทันที ยามสองคนที่อยู่แถวนั้นก็มาดูเพลิงในทันที
“เฮ้ยนี่
แกเป็นใครกันวะ”
“อย่ายิงผมครับพี่
ผมมาดีครับ”
“แล้วมาทำอะไรแถวนี้ไอ้น้อง”
“ผมหนีออกมาครับพี่
พวกเจ้าพ่อมันตามล่าผม”
“ทำไมวะ
แกไปรู้อะไรมาเหรอวะ”
“ผมรู้ความลับของพวกมันหน่ะครับ
เครือข่ายของมันทั้งหมดเลยครับ”
“เฮ้ย
จริงเหรอวะ งั้นลงจากรถมา ตามมานี่”
เพลิงรีบลงจากรถมา
จากนั้นก็เดินตามยามคนนั้นไปในห้องๆหนึ่ง โดยที่ยามก็ให้เขานั่งพักผ่อน
แล้วก็เอาน้ำมาให้กับเพลิง
“เออนี่
แกบอกว่ารู้เครือข่ายพวกมัน”
“ใช่ครับ
ผมรู้จักพวกเจ้าพ่อเคี้ยงครับ”
“จริงเหรอ
เรากำลังกวาดล้างพวกมันอยู่ แกรู้อะไรบ้าง”
“ผมรู้ว่าตอนนี้พวกมันกำลังซ่องซุมอิทธิพลของมันเพื่องานใหญ่ครับ”
“งานใหญ่อะไรวะ”
ยามคนนั้นถามอย่างแปลกใจ
“พวกนั่นคิดจะยึดกรุงเทพจากพวกที่แก๊งค์อื่นครับ”
“จริงเหรอ
แล้วแกรู้อะไรบ้าง บอกมาหน่อยสิ”
“ผมยังรู้อีกเยอะเลยครับ
รู้ว่าตอนนี้แก๊งค์อื่นเริ่มระส่ำระส่ายเพราะโดนเก็บจากพวกตำรวจนี่หล่ะครับ”
“หมายถึงพวก Nation
ใช่หรือเปล่า”
“ใช่ครับๆ
ผมก็เพิ่งจะรู้ชื่อพวกมันนี่แหละครับ”
“เยี่ยม
ถ้าอย่างงั้นฉันจะพาแกไปพบนายฉัน ตอนนี้แกอยู่ที่นี่ไปก่อนแล้วกัน”
“ได้ครับพี่”
ในขณะเดียวกัน
ยามคนนั้นก็ไปโทรศัพท์หาใครคนหนึ่ง ปล่อยให้เพลิงคิดอะไรอยู่ในใจคนเดียว
“เฮ้อ
ไอ้เคี้ยง ไอ้วิน พวกแกไม่รอดแน่”
กลับมายังห้องขังของเวหาและเกรซ
เกรซรู้สึกหนาวอยู่ในห้อง เวหาถอดเสื้อแจ๊คเก็ตของตัวเองให้กับเกรซ
เพราะกลัวว่าเธอจะหนาวจนทนไม่ไหว
“ขอบคุณมากนะคะคุณเวหา”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
“แล้วนี่
คุณบอกว่าเพื่อนคุณจะมาช่วยคุณ จริงหรือเปล่าคะ”
“แน่นอนครับ
ผมมีวิธี”
“ฉันขอโทษนะคะที่พาคุณมาเจอเรื่องนี้”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ
สำหรับคุณผมเต็มใจอยู่แล้ว”
ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน
จู่ๆเกรทก็เข้ามาในห้อง จากนั้นก็ลากทั้งคู่ออกไป โดยที่มีลูกน้องของเธอนับสิบล้อมเอาไว้อยู่
“วันนี้แหละ
แกกับฉันจะได้รู้กันไปซะที” เกรทพูดอย่างเกรี้ยวกราด
“คุณว่าเรื่องนี้มันจะจบยังไงหล่ะ
ห่ะ” เวหาพูดขึ้น
“นี่
อย่าบังคับให้ฉันต้องทำคุณนะ”
“ทำไมหล่ะ
ผมไม่เคยเห็นคนสวยแต่ใจสัตว์แบบคุณมาก่อนเลย ไม่แปลกที่เพื่อนผมจะไม่ชอบคุณ”
“นี่
แกพูดอะไรนะ”
เกรทไปตบหน้าเวหา
แต่จู่ๆเครื่องมือของเวหาก็หลุดออกมา เกรทรีบหยิบมันมาดูในทันที
“นี่มันอะไรเนี่ย
เครื่องติดตามอย่างงั้นเหรอ”
“ใช่
แล้วถ้าคิดจะหนีก็คงไม่ทันหล่ะ ป่านนี้เพื่อนผมคงมาอยู่หน้าบ้านคุณแล้วหล่ะ”
เวหาพูดอย่างยิ้มเยาะ
และที่หน้าโกดัง
ขบวนรถของหน่วย Nation ก็ยิงคนของเกรทที่เฝ้าอยู่ตายไปมากโข จากนั้นพวกเขาก็จอดรถอยู่ที่หน้าโกดัง
แล้วลงจากรถในทันที
“เซบ
นายมากับฉัน เวหาต้องอยู่ด้านในนี่หล่ะ” วินพูดกับเขา
“เออ
เข้าใจแล้ว เตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน”
พวกเขาทั้งคู่รีบบุกเข้าไปด้านหน้า
เพื่อตามหาตัวเวหาในทันที
===================================================================================
วินและเซบจะเข้าไปช่วยเวหาได้ทันการหรือไม่ อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ความคิดเห็น