ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My War - สงครามที่ไม่ได้เลือก

    ลำดับตอนที่ #19 : EP 13 : สถานการณ์คุกรุ่น

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.พ. 62


    หลังจากมีการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อให้สัญญาณ กองทัพของรัฐบาลก็บุกเข้ามาในเมืองทันที พวกเขาเดินทัพแล้วยิงศัตรูเพื่อเปิดทาง เสียงระเบิดและเสียงปืนดังสนั่นไปทั่วเมือง ในขณะที่ปืนใหญ่ก็ยิงกดหัวกลุ่มกบฏที่อยู่ด้านใน ที่อพาร์ทเม้นท์ของนอรืรีนก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างจากที่อื่นๆ พวกเขาต้องหลบกระสุนปืน จรวดที่หลงเข้ามายังอพาร์ทเม้นท์ของเขา พวกเขาพยายามอยู่ด้วยกันไว้

    นอร์รีน : ไม่รู้ว่าไอ้ที่เราสร้างขึ้นมาเนี่ยมันป้องกันระเบิดได้หรือเปล่า

    มิเชล : ไม่รู้สิ ภาวนาขอให้มันไม่โดนเราก็แล้วกัน

    นอร์รีน : ว่าแต่ ตอนนี้คนอื่นๆหายไปไหนกันหมดหล่ะ

    มิเชล : คงจะแยกย้ายไปดูอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาหล่ะมั้ง

    นอร์รีน : เออใช่ มีใครไปดูที่กรองน้ำหรือยัง ถ้าพังขึ้นมาจะแย่เอานะ

    มิเชล : ไม่ต้องห่วง คุณตะวันกับคุณอนูวาไปดูให้แล้วหล่ะ

    นอร์รีน : เฮ้อ กว่าสงครามจะจบ ฉันคงจะตายก่อนหล่ะ

    มิเชล : เราต้องไม่ตายสิ อย่าเพิ่งสิ้นหวังไปเลยนะ

    ทางด้านของยูจีน ในตอนนั้นเองเธอนึกอะไรได้บางอย่าง เธอพยายามจะขึ้นไปที่ดาดฟ้า แต่โทนี่กับเอสเทอร์ที่อยู่แถวนั้นมทาเห็นเธอก่อน เขาจึงพยายามลากเธอลงมาจากดาดฟ้า

    โทนี่ : พี่จะทำอะไร อย่านะพี่

    ยูจีน : ปล่อยฉัน ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน

    เอสเทอร์ : นี่ เธอต้องการอะไรกันแน่ อยากตายหรือไง

    ยูจีน : เธอมายุ่งอะไรด้วย มันเรื่องของฉัน

    ระหว่างที่กำลังโต้เถียงกัน ก็มีระเบิดมาลงบนดาดฟ้าต่อหน้าพวกเขา ทั้งสามคนกระเด็นไปคนละทิศละทาง โทนี่นอนสลบเหมือดอยู่ตรงนั้น เอสเทอร์ต้องมาคอยดูเขาทันที

    เอสเทอร์ : โทนี่ อย่าเป็นอะไรนะ มองหน้าฉันไว้สิ

    ยูจีนได้สติกลับคืนมา เธอรีบมาดูโทนี่ในทันที

    ยูจีน : ฉันจะแบกเขาไปข้างล่างเอง ไปเรียกคุณตะวันกับอนูวาหน่อยสิ

    เอสเทอร์ : ก็ได้ รีบพาโทนี่ไปเดี๋ยวนี้เลยนะ

    ยูจีนแบกโทนี่ลงไปด้านล่าง ส่วนเอสเทอร์ก็รีบวิ่งไปหาตะวันกับอนูวาที่อยู่ด้านบน คอยเฝ้าเครื่องกรองน้ำอยู่ ในตอนนั้นเอง ตะวันกับอนูวาทั้งคู่ก็นั่งอยู่ด้วยกันในห้อง ป้องกันเครื่องกรองน้ำและของเพิ่มเติม

    ตะวัน : เมื่อไหร่มันจะหยุดยิงหล่ะเนี่ย

    อนูวา : ฉันว่ายากหล่ะ ทางรัฐบาลคงจะกำจัดไม่ให้เหลือซากหล่ะ

    ตะวัน : แล้วเราต้องมานั่งเฝ้าเจ้าเครื่องนี้ด้วยเหรอครับ

    อนูวา : แน่นอนสิ ถ้ามันพัง เราไม่มีน้ำดื่มแน่ๆ

    ตะวัน : ว่าแต่ เรื่องของกลุ่มกบฏนี่คุณจะเอายังไงต่อหล่ะ

    อนูวา : ต้องรอดูว่าพ่อฉันจะเอายังไงต่ออ่ะ

    ตะวัน : เข้าใจหล่ะ ถ้าพ่อเธอมาช่วยไม่แน่อาจจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นก็ได้

    และในตอนนั้นเอง เอสเทอร์ก็รีบวิ่งมาตามอนูวากับตะวันให้ไปรักษาโทนี่ในทันที เนื่องจากว่าเขาโดนสะเก็ดระเบิดอาการสาหัส

    เอสเทอร์ : ใครก็ได้ช่วยหน่อยค่ะ มีคนโดนสะเก็ดระเบิดค่ะ

    อนูวา : ฉันไปเอง คุณอยู่ที่นี่ไปก่อนนะคะ

    อนูวารีบตามเอสเทอร์ไปด้านล่าง เพื่อไปดูอาการของยูจีน ก่อนที่เขาจะเป็นอะไรไป

    ทางด้านอลิซ มิสซึ เอจิและไลฟ์ ในตอนนั้นพวกเขาก็ช่วยกันปกป้องเสบียงและกลุ่มโจรที่คิดจะบุกเข้ามา แต่เสียงระเบิดและเสียงปืนด้านนอกทำเอาพวกเขาแทบจะเป็นบ้ากันหมดแล้ว

    มิสซึ : ที่เราซ่อมอพาร์ทเม้นท์กันมาจะได้ผลหรือเปล่าเนี่ย

    อลิซ : มันต้องได้สิ พวกนั้นแค่ปะทะกันรอบนอกหน่ะ

    เอจิ : ว่าแต่ อลันพี่เธอหายไปไหนงั้นเหรอ

    ไลฟ์ : เห็นออกไปข้างนอกกับพี่ฮาน่าหน่ะ

    ในตอนนั้นเอง ฮาจิก็วิ่งเข้ามาหลบในอ้อมอกของเอจิ เอจิต้องคอยดูแลมันตลอดเวลา

    ไลฟ์ : ฮาจิคงจะไม่เป็นไรนะ

    เอจิ : ถ้าไม่ออกไปวิ่งด้านนอกคงจะไม่เป็นไรหล่ะครับ

    มิสซึ : ต้องระวังหน่อยนะ เสบียงของเราทั้งหมดมีแค่นี้หล่ะ

    อลิซ : พอจะออกไปหาเพิ่มได้หรือเปล่าหล่ะ

    มิสซึ : น่าจะได้นะ แต่คงต้องไปเขตทหารเลยหล่ะ

    อลิซ : เฮ้อ เราไม่รอดกลับมาที่นี่แน่ๆ

    เอจิ : ก็ไม่แน่นะ ถ้าวางแผนดีๆ อาจจะทำได้ก็ได้

    ไลฟ์ : อย่าเพิ่งไปคิดถึงอนาคตเลย เอาตัวรอดจากที่นี่ไปให้ได้ก่อนดีกว่านะ

    และในตอนนั้นเอง บารีร่าก็วิ่งเข้ามาในห้องอีกคน เพราะเอไม่รู้จะไปหลบอยู่ที่ไหนในบ้านดี

    บารีร่า : พี่คะ ขอหลบด้วยคนนะคะ

    ไลฟ์ : ได้สิจ๊ะ

    บารีร่า : ตอนนี้พี่โทนี่โดนสะเก็ดระเบิด ยังไม่ฟื้นเลยค่ะ

    อลิซ : จริงเหรอ เราคงต้องรีบไปดูเขาหน่อยหล่ะ

    บารีร่า : ตอนนี้ซีโร่ของหนูเขายังไม่กลับมาเลยค่ะ

    มิสซึ : เดี๋ยวเจ้าหนูนั่นคงกลับมาเองหล่ะมั้งนะ

     

    ทางด้านของหน่วยดอว์นซอร์ด พวกเขาเริ่มการค้นหาและตามล่าสมาชิกคนสำคัญของกลุ่มกบฏ พวกเขาออกเดินทางแทรกซึมเข้าไปยังแนวรับของกลุ่มกบฏที่ตั้งมั่นอยู่ ฆ่ากลุ่มกบฏทุกคนที่ขวางทางของพวกเขา จนกระทั่งพวกเขาเดินทางมาเรื่อยๆ ถึงแนวรับชั้นสองของกลุ่มกบฏที่กำลังตั้งมั่นอย่างแข็งขัน พวกเขาใช้กล้องส่องทางไกลตรวจดูความเคลื่อนไหว พวกเขาพบกับเป้าหมายทั้งแปดคน ซึ่งเป็นแกนหลักในการต่อสู้กับทหารของรัฐบาล เควินไม่รอช้าติดต่อไปยังหน่วยเหนือในทันที

    เควิน : ดอว์นซอร์ดเรียกหน่วยเหนือ ขณะนี้เราพบเป้าหมายแปดคน ในแนวรับข้าศึก

    จำนวนข้าศึกมีเท่าไหร่ เปลี่ยน

    เควิน : มีครบทั้งแปดคน เปลี่ยน

    คุณได้รับคำสั่งให้ฆ่าพวกเขา

    เควิน : ท่านครับ เราได้รับคำสั่งให้เก็บพวกเขาทันทีครับ

    อเล็กซานเดอร์ : โอเค อีริค นายขึ้นไปบนตึก ไปจัดการมันบนนั้น

    อีริควิ่งขึ้นไปยังตึก จากนั้นก็เล็งสไนเปอร์ของเขาไปยังเป้าหมาย และอีกด้านหนึ่ง กลุ่มของทาเคชิ พวกเขากำลังจัดการแนวรับของพวกเขา แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่ากำลังจะมีคนไล่ตามเก็บพวกเขา เป็นจังหวะเดียวกับที่หน่วยรบพิเศษไทยกำลังเดินทางมาตรวจสอบแนวรับของกลุ่มกบฏ ในตอนนั้นเอง จินตโลเผลอมองไปบนตึก ซึ่งตอนนั้นอีริคกำลังจะยิงเพื่อสังหารกลุ่มกบฏ

    มีซุ่มยิง ระวัง

    อีริคยิงใส่ทาเคชิ แต่กระสุนพลาดไปถูกมินโฮ ทำเอาคนอื่นต้องมาดูมินโฮในทันที

    ทาเคชิ : มินโฮ นายทำใจดีๆเอาไว้นะ

     ในตอนนั้นเอง เดชายิงใส่หน้าต่างตรงนั้นจนอีริคถึงกับต้องถอย แล้วรายงานไปที่หน่วยในทันที

    อีริค : ผมต้องถอยแล้ว มีคนมาช่วยพวกมันครับ

    อเล็กซานเดอร์ : โอเค ถอยออกมาก่อน แล้วซ่อนตัวไปซักพัก ถอนกำลังด่วน

    ทางด้านของอรุณ

    อรุณ : พวกเรา ไปดูสิว่ามือปืนมันเป็นใคร

    หน่วยของอรุณไล่ตามพวกดอว์นซอร์ดไปอีริควิ่งลงมาด้านล่าง เพื่อมาพบกับลูกทีมคนอื่นๆ ที่กำลังรอเขาอยู่

    คาสเตอร์ : เป็นไงพวก โดนยิงตรงไหนหรือเปล่าวะ

    อีริค : ไม่เป็นไรหรอก แต่เกือบไปแล้วหว่ะ

    ในตอนนั้นเอง หน่วยรบพิเศษไทยก็ตามพวกนั้นทันพอดี จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น

    อเล็กซ่า : รีบถอนกำลังก่อน คาสเตอร์คุ้มกันด้วย

    อรุณ : เดชา จินตโล นายไปทางซ้าย ที่เหลือไปทางขวานะ

    พวกเขารีบไล่ตามหน่วยดอว์นซอร์ดไป ส่วนทางดอว์นซอร์ดก็พยายามยิงสกัดเอาไว้ เพื่อทำการถอนกำลังโดยด่วน

    เดชา : เฮ้ย ทำอะไรเข้าหน่อยสิวะ มันกำลังจะหนีไปแล้ว

    จินตโล : ใจเย็นดิวะ มันต้องไม่ใช่ทหารธรรมดาแน่ๆ

    เนตร : ฉันจะไปดักที่ทางออกของมัน นายยิงคุ้มกันฉันด้วย

    เจตนา : เออ ยังไงก็ขอกระสุนนายให้ฉันหน่อยสิ // เนตรโยนแม็คกระสุนให้กับเจตนาในตอนนั้น

    ซิลเวสเตอร์ : รีบหนีเถอะ ไม่งั้นเราไม่รอดแน่ๆ

    อเล็กซ่า : เดี๋ยวฉันจะพาไปที่ทางลัดเองค่ะ

    ในตอนนั้นเอง เนตรกระโดดเข้าไปยังใจกลางวงพวกมัน จากนั้นก็ชักมีดออกมาหมายจะเด็ดหัวตัวหัวหน้ามัน แต่คาสเตอร์มาขวางเอาไว้แล้วเตะมีดเขาล้ม จากนั้นพวกเขาก็สู้มือเปล่าด้วยกัน อรุณเห็นลูกน้องตัวเองกำลังแย่จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วย คนที่เหลือก็บุกตามเข้าไป พวกเขาสู้กันอย่างดุเดือดโดยที่ไม่มีใครยอมใคร

    อเล็กซานเดอร์ : อย่างพวกตุณนี่คงไม่ใช่พวกกบฏกระจอกๆแน่ๆ

    อรุณ : พวกคุณก็คงไม่ใช่ทหารธรรมดาแน่นอน

    ซิลเวสเตอร์ : พวกคุณสังกัดหน่วยไหนอย่างงั้นเหรอ

    เดชา : พวกแกจะรู้ไปทำไมวะ

    คาสเตอร์ : ปากดีแบบนี้อยากโดนเลาะฟันออกมาหรือไงวะ

    เนตร : อยากลองดูอีกซักรอบก็ได้นะไอ้ทุยเอ้ย

    อีริค : ว่าแต่ พวกแกรู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังจะยิงคน

    จินตโล : ไม่ยากเกินเดาหรอก ว่าแต่พวกแกมาทำอะไรกันที่นี่

    เควิน : เป็นใครไม่สำคัญเว้ย สำคัญที่ว่าใครจะตายก่อน

    เจตนา : ปากดีนะไอ้เวร พนันกันมั้ยหล่ะฉันจะควักหัวใจแกออกมาแน่

    อเล็กซ่า : ฉันว่า เรารีบหนีไปจากที่นี่กันก่อนดีกว่าค่ะ

    อเล็กซานเดอร์ : ผมไม่รู้ว่าพวกคุณมาจากไหน แต่ผมอยากจะบอกให้คุณรู้ คุณไม่ควรมาที่นี่เลยนะครับ

    อรุณ : เรามาตามหาคนของเรา หวังว่าคุณคงจะเข้าใจนะ

    ซิลเวสเตอร์ : ถ้างั้นคุณคงต้องผิดหวังแล้วหล่ะ เราไม่รู้ว่าคนไทยของคุณอยู่ที่ไหน

    เดชา : นี่พวกแกรู้งั้นเหรอเรามาจากไหน

    อเล็กซานเดอร์ : ก็เดาไม่ยากหรอกครับ เอาเป็นว่า เราขอตัวก่อนนะ

    หน่วยดอว์นซอร์ดรีบถอนกำลังออกไป ปล่อยให้ทางอรุณและลูกน้องยืนเหนื่อยกันอยู่ตรงนั้น


    ทางด้านของกลุ่มทาเคชิ ที่กำลังดูอาการของมินโฮอยู่ ซุนฮยอนช่วยปฐมพยาบาลให้เบื้องต้น แต่ในตอนนั้นเอง แนวรับของเขาก็โดนจู่โจมโดนกองทัพรัฐบาล พวกนั้นใช้ทั้งรถถัง เฮลิคอปเตอร์และอาวุธหนักมากมายประเคนเข้าใส่แนวรับของกลุ่มกบฏ ทาเคชิเห็นท่าไม่ดีจึงพามินโฮหนีไปที่แนวหลัง

    ทาเคชิ : ทุกคน รีบพามินโฮไปจากที่นี่ก่อน เร็ว

    อัลเบิร์ต : อ้าว แล้วทุกคนที่อยู่ที่นี่หล่ะครับ

    มินโฮ : ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับ สู้กับพวกมันเถอะครับ

    ทาเคชิ : ก็ได้ ซุนฮยอน ไซม่อน นายสองคนพามินโฮไปหลบในแนวหลัง ส่วนฉันจะสกัดพวกมันเอาไว้เอง

    พวกเขาแยกย้ายกันไปตั้งรับทหารพวกนั้น ทาเคชิและอัลเบิร์ตหยิบปืนกลยิงใส่พวกมัน ส่วนดราก้อนพยายามยิงอาวุธหนักใส่รถถังและเฮลิคอปเตอร์ ไม่ให้พวกนั้นบุกเข้ามา

    อัลเบิร์ต : หวังว่านี่คงจะยื้อเวลาให้มินโฮซักพักนึงนะ

    ดราก้อน : เออ เอาเถอะ ตอนนี้เราสกัดพวกมันก่อนดีกว่า

    ริกโก้ : ตอนนี้ซุนฮยอนพามินโฮไปไกลหรือยังเนี่ย

    มีกัส : ก็น่าจะไกลแล้วหล่ะ เท่าที่เดานะ

    ในระหว่างนั้นเอง รถถังอีกกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามาในแนวรับของกลุ่มกบฏ พวกกบฏพยายามหาที่หลบเนื่องจากไม่มีอาวุธที่ดีพอในการต่อสู้รถถัง แต่ในตอนนั้นเอง ดราก้อนหยิบปืนพ่นไฟกระบอกหนี่งมา ทำเอาคนอื่นๆตกใจเล็กน้อย

    ริกโก้ : เอ้ย นี่แกจะใช้มันยิงรถถังเหรอ

    ดราก้อน : มันก็น่าลองนะเฟ้ย ปะระเบิดควันให้ฉันหน่อย

    มีกัสขว้างระเบิดควันเพื่ออำพรางตัวให้กับดราก้อน จากนั้นดราก้อนก็ใช้ปืนพ่นไฟใส่รถถังของพวกทหาร รถถังของพวกมันถูกไฟคลอก ทำเอาพวกมันต้องออกมาจากรถถังแล้วหนีเอาตัวรอด ส่วนทหารรัฐบาลคนอื่นๆ เนื่องจากพวกเขาถูกยิงอย่างหนัก พวกเขาจึงรีบถอนกำลังกลับไปในทันที

    อัลเบิร์ต : ทุกคน พวกมันถอยไปแล้ว เยี่ยมไปเลย

    มีกัส : ว้าว ปืนนี้ยังได้ผลเหมือนเดิมนะเนี่ย

    ทาเคชิ : เยี่ยมมากทุกคน ยึดอาวุธและของมีค่าของพวกมันให้หมด

    กลุ่มกบฏเริ่มเคลียร์พื้นที่และปลดอาวุธทหารของรัฐบาล ก่อนที่พวกนั้นจะกลับมาโจมตีอีกครั้ง

    ทางด้านของมินโฮ ซุนฮยอนและไซม่อนพยายามหาสถานที่ในการรักษามินโฮ และเนื่องจากว่ามินโฮเริ่มจะไม่ไหวแล้ว พวกเขาจึงต้องรีบหาที่พักให้กับมินโฮในทันที

    จนแล้วจนรอด พวกเขามาเจอกับอพาร์ทเม้นท์หลังหนึ่ง พวกเขารีบแบกมินโฮไปยังอพาร์ทเม้นท์หลังนั้น แล้วไปเคาะประตูหน้าอพาร์ทเม้นท์ในทันที เมื่อมีคนเปิดประตูออกมา พวกเขาก็รีบพามินโฮเข้าไปรักษาในทันที

    ซุนฮยอน : ทำใจดีๆไว้นะ เดี๋ยวฉันดูอาการให้เอง

    เอจิ : อ้าว พวกนาย พวกนายเป็นใครกัน // เขาซึ่งเป็นคนเปิดประตูให้

    ไซม่อน : พวกเราเป็นกลุ่มกบฏหน่ะ ช่วยเพื่อนของเราด้วย

    เอจิรีบไปเรียกทุกคนให้มาช่วยในทันที ตอนนี้พวกเขามีคนป่วยอยู่สองคน คือโทนี่แล้วก็มินโฮ พวกเขารีบรักษามินโฮและโทนี่ไปพร้อมๆกัน จนกระทั่งเวลาผ่านไปซักพัก การรักษาก็สำเร็จไปได้ด้วยดี

    ซุนฮยอน : เฮ้อ เสร็จซะที ที่เหลือก็แค่พักฟื้นหน่ะ

    นอร์รีน : ว่าแต่ เขาไปโดนอะไรมาเหรอครับ

    ไซม่อน : โดนยิงหน่ะครับ ยังไงเราฝากเพื่อนเราไว้ที่นี่หน่อยนะครับ เรามีงานต้องทำหน่ะ

    มิเชล : ค่ะ ยังไงพวกคุณก็ระวังตัวด้วยนะ

    หลังจากที่มินโฮได้รับการรักษา ทั้งไซม่อนและซุนฮยอนก็รีบกลับไปยังแนวรับของกลุ่มกบฏในทันทีเพื่อไปดูเพื่อนคนอื่นๆ

     

    อีกด้านหนึ่งของแนวรับกลุ่มกบฏ เอ็ดเวิร์ดและเร็นพาคนของเขาไปดูสถานการณ์การรบที่เกิดขึ้น พวกเขาปะทะกับกลุ่มทหารสอดแนม แต่พวกเขาก็ฆ่าพวกนั้นได้ทั้งหมด จากนั้นก็กลับมาตรวจสอบแนวรับของตัวเองมาเป็นอย่างไรบ้าง

    เทเรซ่า : เอ็ดเวิร์ด ทางแนวหน้าเป็นยังไงบ้าง

    เอ็ดเวิร์ด : ตอนนี้เราผลักดันทหารรัฐบาลให้ถอยกลับไปได้แล้ว

    เร็น : แต่ปัญหาคือ เราปะทะกับพวกสอดแนมด้วยหน่ะ

    เดม่อน : หวังว่านายคงจะฆ่าพวกมันไปหมดแล้วนะ

    ลูลู่ : ว่าแต่ ทำไมพวกมันถึงได้ถอยกันง่ายจังหล่ะ

    เทเรซ่า : ให้เดานะ พวกนั้นคงเริ่มจะมีปัญหาภายในกันแล้วหล่ะ การโจมตีถึงได้ไม่เต็มที่

    ลูลู่ : ถ้าแบบนั้นก็ดีหน่ะสิ เราอาจจะชนะเร็วๆก็ได้

    เอ็ดเวิร์ด : แต่มันก็ยังไม่แน่นะครับ กองทัพใหญ่ของรัฐบาลยังอยู่

    เร็น : ถ้างั้น เราคงทำได้แค่ป้องกันไปเรื่อยๆสินะ

    เอ็ดเวิร์ด : ไม่ต้องห่วงหรอก เสบียงของเราตอนนี้คงจะมีพอยันพวกมันไปได้เป็นเดือนหน่ะ

     

    ทางด้านของอันนา เธอยังคงออกตามหาลูกชายของเธอ เธอเดินตามหาตรงนั้นทีตรงนี้ทีแต่ก็ยังไม่เจอ จนเธอมานั่งพักอยู่แถวๆม้านั่งแห่งหนึ่ง ในตอนนั้นเองชินเฮที่เห็นอันนานั่งพักอยู่ก็มานั่งข้างๆเธอด้วย

    ชินเฮ : คุณอันนาคะ สบายดีนะคะ

    อันนา : อ้อ ฉันไม่เป็นไรจ้ะ

    ชินเฮ : ว่าแต่ คุณอันนาเจอลูกคุณหรือยังคะ

    อันนา : ยังเลยจ้ะ ไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน

    ชินเฮ : เหรอคะ ถ้าอย่างงั้นหนูจะให้เพื่อนหนูช่วยหานะคะ

    อันนา : ขอบคุณมากเลยนะจ๊ะที่หนูช่วยพี่

    ชินเฮ : ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอบแทนที่พี่ช่วยหนูไงคะ

    อันนา : แต่พี่คงต้องออกจากเมือง ไปเอาของมาขายในนี้หน่ะ

    ชินเฮ : พี่จะออกไปได้ยังไง มันอันตรายนะคะ

    อันนา : พี่มีใบผ่านทางอยู่หน่ะจ้ะ

    ชินเฮ : ถ้างั้น พี่ต้องระวังตัวให้มากๆเลยนะคะ

    อันนา : ขอบคุณมากๆจ้ะ

     

    ทางด้านของหนุ่มคีธ หลังจากที่เขาซ่อมและเติมน้ำมันมอไซค์ของเขาเรียบร้อยแล้ว คีธก็เตรียมพร้อมที่จะออกลาดตระเวน แต่ในระหว่างนั้นเอง เทโจก็รีบมาบอกเรื่องสำคัญกับคีธ ซึ่งดูท่าจะเป็นเรื่องสำคัญมากเลยทีเดียว

    เทโจ : คีธ เจอตัวนายพอดีเลย

    คีธ : พี่เทโจเหรอ มีอะไรหรือเปล่าหล่ะ

    เทโจ : หัวหน้ามีงานใหม่ให้นายทำหน่ะ

    คีธ : งานอะไรเหรอครับพี่

    เทโจ : นายไปติดต่อคุณอนูวาด่วนเลย เธอน่าจะอยู่อพาร์ทเม้นท์แชงกรีล่าหน่ะ

    คีธ : งั้นเหรอครับ ก็อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นี่ครับ

    เทโจ : โอเค ฝากนายด้วยก็แล้วกันนะ แล้วอีกอย่าง ไปบอกสาวๆกลุ่มนั้นด้วยนะ ว่าให้หลบเข้ามาอยู่ในเขตปลอดภัยซะ ถ้าไม่อยากเป็นอะไรไปหน่ะ

    คีธ : ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจัดการให้

    เทโจ : โอเค ระวังตัวด้วยหล่ะ // คีธขี่มอไซค์ไปบอกสาวๆกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ปที่กำลังนั่งพักกันอยู่ด้านนอก

    คีธ : นี่ทุกคนครับ เข้าไปหลบอยู่ด้านในเขตปลอดภัยก่อนดีกว่านะครับ

    จูซม : อ้อ ได้สิคะ // จากนั้นคีธก็ขี่มอไซค์ออกไป ในตอนนั้นชิสาก็แอบไปสะกิดเธอเข้า

    ชิสา : แหม่ มองตาไม่กระพิบเลยนะจ๊ะ

    จูซม : อะไรของเธอเนี่ย เลิกแซวกันได้แล้ว

    ไคล่า : นี่ เธอชอบเขาก็รีบบอกไปดีกว่านะจ๊ะ

    อามินะ : อย่าเพิ่งคิดเรื่องนี้เลยนะ เรารีบเข้าไปหลบข้างในก่อนดีกว่านะ

    ซาซอน : ว่าแต่ นี่เรายังติดต่อใครไม่ได้เลยงั้นเหรอ

    ซนแซ : นี่ๆ ฉันไปแอบได้ยินมานะ ได้ยินว่ามีทหารไทยเข้ามาที่นี่ด้วย

    จียอน : ว่าแต่ ทำไมทหารไทยมาอยู่ที่นี่ได้งั้นเหรอ

    ยู่อี๋ : ก็เรื่องข่าวที่มีเครื่องบินทหารไทยโดนยิงตกไงหล่ะ

    ชิสา : คนไทยงั้นเหรอ ถ้างั้นฉันน่าจะพอพูดกับเขาได้นะ

    อามินะ : จริงด้วย ให้พวกเขาช่วยพาเราไปจากที่นี่หน่อยหน่ะ

    ซนแซ : ถ้างั้นเรื่องนี้คงต้องพึ่งเธอแล้วหล่ะนะ

    ไคล่า : เออนี่ มือถือพวกเธอเน็ตใช้ได้หรือเปล่าหล่ะ // ทุกคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แต่ไม่มีสัญญาณอะไรเลยแม้กระทั่งสัญญาณโทรศัพท์ ทุกอย่างนิ่งสนิทหมด

    ซาซอน : เปิดอะไรไม่ได้เลยอ่ะ เสษเหล็กดีๆนี่เอง

    จียอน : สงสัยพวกนั้นคงจะตัดสัญญาณพวกเราหมดแล้วหล่ะ

    ยู่อี๋ : ฉันว่า เรารีบกลับเขตปลอดภัยดีกว่า ฉันหิวแล้วเนี่ย

    จูซม : นั่นสิ ฉันเองก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน

     

    ทางด้านของอลันและฮาน่า ทั้งคู่ออกมาจากอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีนเพื่อมาสมทบกับกลุ่มกบฏที่อยู่ด้านอก ในตอนนั้นเองในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทาง พวกเขาก็เจอแค้มป์ของกลุ่มทหารที่เพิ่งถูกทิ้งร้าง พวกเขาทั้งคู่เห็นว่าไม่มีทหารอยู่คุ้มกัน จึงเข้าไปสำรวจด้านในทันที

    อลัน : ฮาน่า ดูสิ ดูเหมือนพวกมันจะเพิ่งจะไปได้ไม่นาน

    ฮาน่า : ทำไมถึงคิดแบบนั้นหล่ะ

    อลัน : ก็ดูสิ พวกมันเอาของไปไม่หมดด้วย

    ฮาน่า : ก็คงงั้นหน่ะ ที่นี่บรรยากาศดีจังเลยนะ // จากนั้น จู่ๆฮาน่าก็เข้าไปกอดอลันจากด้านหลัง ทำเอาอลันตกใจมาก

    ฮาน่า : อลัน ฉันชอบเธอนะ

    อลัน : ฮาน่า เธอก็คิดเหมือนฉันงั้นเหรอ

    ฮาน่า : ฉันรู้อยู่แล้วหล่ะ แต่ไม่บอกนายหน่ะ

    อลัน : เฮ้อ ความจริงสงครามนี่มันก็ดีเหมือนกันนะ

     

    กลับมายังแนวรับด้านนอกของกลุ่มกบฏ ซึ่งพวกของดีซกำลังนำคนเดินทัพกลับเข้าไปตั้งรับด้านใน เพื่อเสริมกำลังกับคนอื่นๆ แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง พวกนั้นก็เห็นกองทัพของรัฐบาลกำลังล่าถอยอย่างต่อเนื่อง พวกเขาไปหลบในตึกข้างทางก่อน เพื่อดูสถานการณ์

    เอิร์ล : หัวหน้าครับ ดูเหมือนพวกมันกำลังจะถอยนะครับ

    จอห์นนี่ : จะเอายังไงต่อดีหัวหน้า เรากำลังรออยู่นะ

    ดีซ : ไล่ยิงพวกมัน ตัดกำลังพวกมันให้ได้มากที่สุด

    เดอร์ริก : จัดเลย ผมกำลังรอคำสั่งอยู่พอดี

    ดีซ : ทุกคน ยิงได้ตามสะดวกเลย

    พวกเขาไล่ยิงพวกทหารที่กำลังถอยทัพ ทหารรัฐบาลพยายามจะยิงป้องกันตัวแต่ก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากว่าพวกเขาแทบจะไม่เหลืออาวุธอะไรที่จะสู้แล้ว แต่ในระหว่างนั้นเอง ก็มีเฮลิคอปเตอร์จู่โจมมาไล่ยิงพวกเขาในตึก ทำเอากลุ่มกบฏของเขาต้องหาที่หลบกันให้วุ่น

    เอิร์ล : หัวหน้าครับ เอายังไงต่อดีครับ

    ดีซ : พวกมันคงมาคุ้มกันการถอนกำลังหน่ะ ถอยก่อนเร็ว

    ในตอนนั้นเอง เฮลิคอปเตอร์ก็ยิงใส่หน้าต่างของตึก ทำเอาจอห์นนี่ที่อยู่แถวนั้นกระเด็นไปเพราะแรงระเบิด เดอร์ริกเห็นเขาโดนระเบิดจึงเข้าไปช่วยทันที

    เดอร์ริก : จอห์นนี่ นายพอเดินไหวหรือเปล่า

    จอห์นนี่ : เดินไหวอยู่ รีบหนีไปจากที่นี่ดีกว่า

    พวกเขารีบถอนกำลังออกจากตัวตึก เนื่องจากว่าไม่มีอาวุธที่ดีพอจะต่อสู้กับเฮลิคอปเตอร์ของข้าศึก

     

    กลับมายังโกดังของมาร์ค หลังจากที่เวร่ากลับไปคุมแนวรบของเธอเอง เขาต้องจัดการเกี่ยวกับสินค้าสำคัญที่จะถูกจัดส่งมาจากค่ายทหารของเวร่า ในตอนนั้นมาร์คก็มาคุมการจัดส่งด้วยตัวเอง ซึ่งมีเสบียงต่างๆรวมถึงของจำเป็นในการดำรงชีวิต ซึ่งมีประโยชน์กับพวกเขามาก

    มาร์ค : ดูนี่สิพวกเรา ของพวกนี้จะทำให้เรารวยแล้ว

    นั่นสิครับนาย ไม่น่าเชื่อว่านายจะได้หุ้นส่วนๆดีๆแบบนี้

    มาร์ค : แน่นอน มันอยู่ที่หน้าตาและคารมเฟ้ย

    ว่าแต่ ตอนนี้กลุ่มกบฏกำลังรบกับรัฐบาล เราจะขายให้รัฐบาลด้วยดีหรือเปล่าครับ

    มาร์ค : แน่นอน ทหารในสงครามจะต้องชอบของพวกนี้แน่ๆ // มาร์คดีดนิ้วแล้วจู่ๆก็มีชายคนหนึ่งเอากล่องๆหนึ่งมาให้กับเขา

    หะ นี่มันกัญชานี่ครับ

    มาร์ค : แน่นอน กัญชา เหล้า พวกนี้จะสร้างรายได้ให้เรา

    แบบนี้ขายดีในหมู่พวกทหารแน่นอนครับ

    มาร์ค : ใช่ เอาไปขายตามค่ายทหาร รับรองเงินดีแน่ๆ ไปจัดการได้

    ในระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน ที่ด้านนอกโกดัง ซีโร่ที่แอบลักลอบไปยังโกดังของมาร์ค เขาแอบไปขโมยของใช้ที่จำเป็นแล้วก็ยาอีกหลายขนาน ในตอนนั้นเองซีโร่ก็เหลือบไปเห็นลูกอมหลากสีกับตุ๊กตาผู้หญิงแบบใหม่ ซึ่งซีโร่รู้ว่าบารีร่าต้องชอบมันแน่ๆ เขาจึงหยิบมันติดมือไปด้วย จากนั้นเขาพยายามจะหนีออกไปด้านนอก แต่ในตอนนั้นเอง ยามคนหนึ่งก็ดักต่อยเขาอยู่ด้านหน้า ทำเอาซีโร่ลงไปกองกับพื้นทันที

    มึงอีกแล้วนะไอ้ซีโร่ วันนี้มึงเสร็จกูหล่ะ

    พวกมันอีกสองสามคนเดินเข้ามาหาซีโร่ จากนั้นพวกมันก็รุมซ้อมซีโร่อย่างหนัก มันคนหนึ่งค้นกระเป๋าของซีโร่ แต่ดันมาเจอกับตุ๊กตาผู้หญิงก่อน

    เฮ้ย อะไรวะซีโร่ เดี๋ยวนี้ขโมยของแบบนี้แล้วเหรอวะ 555พวกมันหัวเราะเยาะซีโร่ จนเขาต้องกำหมัดเอาไว้

    แหม่ เพิ่งรู้ว่าซีโร่มันแต๋วนะเนี่ย 5555 เฮ้ย แล้วพวกมึงจะไปกระทืบมันทำไมวะ

    แต่ในระหว่างนั้นเอง ก็มีเสียงปืนดังออกมาจากด้านนอก ซีโร่ได้จังหวะจึงอาศัยจังหวะนี้เหยียบเท้ามันแล้วเอาตุ๊กตามา จากนั้นก็คว้ากระเป๋าใส่ของออกไป

    เฮ้ย จับตัวมันไว้ให้ได้

    พวกมันพยายามไล่จับซีโร่ ซีโร่ลากสังขารของเขาวิ่งออกมาเรื่อยๆ หาที่หลบตรงนั้นทีตรงนี้ที เพื่อไม่ให้พวกมันเห็น

    เฮ้ย มันไม่ได้อยู่ทางนี้หว่ะ

    ถ้างั้น แกไปทางนั้น ฉันจะไปทางนี้เอง

    พวกมันแยกย้ายกันไปหาตัวซีโร่ ซีโร่ปีนกำแพงแถวนั้นออกมาจากโกดัง แล้วก็รีบวิ่งต่อไปเรื่อยๆหนีจากพวกมันที่ตามล่าเขาอยู่

     

    ที่ค่ายทหารเขตชานเมือง ในตอนนั้นเวร่าต้องมานำกำลังพลของเธอบุกเข้าไปในเมืองตามคำสั่งของรัฐบาล ในตอนนั้นเองเธอก็ได้รับรายงานจากทหารของเธอที่เพิ่งจะวิ่งมาหาเธอไม่นานมานี่เอง

    ท่านครับ มีรายงานจากแนวหน้าครับ

    เวร่า : เรื่องอะไรอีกหล่ะ

    ตอนนี้ทหารของรัฐบาลกำลังล่าถอยครับ

    เวร่า : อืม แบบนี้สิเยี่ยมไปเลย

    แล้วเราจะส่งกำลังไปช่วยพวกเขาดีหรือเปล่าครับ

    เวร่า : อย่าเพิ่ง ต้องให้สงครามยึดเยื้อออกไป ไม่งั้นธุรกิจฉันพังแน่

    แต่ว่า แบบนี้มันขัดคำสั่งรัฐบาลนะครับ

    เวร่า : ไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนี้รัฐบาลอ่อนแอ ขายของๆเราให้พวกกบฏให้มากที่สุดก็แล้วกัน

    ได้ครับ

    เวร่า : ว่าแต่ สถานการณ์นอกประเทศเป็นยังไงบ้างหล่ะ

    ตอนนี้ทางสหประชาชาติเริ่มจะมีมติให้ตอบโต้ประเทศเราแล้วครับ

    เวร่า : อืม ถ้าแบบนี้เราก็พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสซะเลยสิ 

     

    กลับมายังเขตเมือง หลังจากที่ซีวิลหนีออกมาจากตึกของกลุ่มกินคนได้ เขาก็เดินทางต่อมาเรื่อยๆเพื่อหาอะไรกิน เขาเดินฝ่ากระสุนปืนของทหารและกลุ่มกบฏที่คอยซุ่มยิงใครก็ตามที่ไม่ใช่พวกเขา ซีวิลเดินทางไปเรื่อยๆจนกลุ่มกบฏเล็งปืนไปที่เขา เนื่องจากว่าเขารุกล้ำพื้นที่ของพวกนั้น

    เฮ้ย นี่แกเป็นใครกันวะ

    ซีวิล : อย่ายิงผมครับพี่ ผมหนีมาเฉยๆ

    เป็นสายให้พวกรัฐบาลหรือเปล่าวะ

    ซีวิล : เปล่าครับพี่ ผมหนีจากพวกทหารมาเหมือนกัน

    งั้นเหรอ ขอตรวจอาวุธแกดูหน่อยก็แล้วกัน

    พวกนั้นค้นตัวซีวิลทุกส่วนของร่างกาย ค้นอยู่ซักพักก็ปล่อยตัวเขาออกมา

    แกมากับฉัน ฉันจะพาไปข้างในเอง อย่าเสือกตุกติกหล่ะ

    ซีวิล : ได้เลยครับ

    มันคนหนึ่งพาซีวิลไปยังฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏ เพื่อหาที่หลบภัยให้กับเขา ซีวิลดีใจคิดว่าตัวเองกำลังจะรอดตายแล้ว

     

    กลับมายังร้านกาแฟของเวสต์ หลังจากที่อนาตาเซียตื่นมาหลังจากที่หลับไปได้ไม่นาน เขาก็ร้องหาพ่อของเขาในทันทีหลังจากนั้น

    อนาตาเซีย : พ่อครับ ผมหิวน้ำจังเลยครับ

    เวสต์ : รอเดี๋ยวนะลูก // เวสต์ไปรินน้ำใส่แก้วให้อนาตาเซียดื่ม

    เวสต์ : ช่วงนี้เราคงต้องประหยัดน้ำหน่อยนะ

    อนาตาเซีย : ผมว่าเราน่าจะลองไปหาอาหารข้างนอกนะพ่อ

    เวสต์ : แล้วใครจะอยู่ดูแลลูกหล่ะ

    อนาตาเซีย : ผมดูแลตัวเองได้น่าพ่อ

    เวสต์ : ไม่ได้เด็ดขาด มันอันตรายนะลูก

    อนาตาเซีย : เข้าใจครับ แต่ว่า อาหารของเรากำลังจะหมดหน่ะสิครับ // เวสต์ยืนคิดอะไรอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาก็พูดขึ้น

    เวสต์ : หรือว่า ลูกอยากจะไปกับพ่อหล่ะ

    อนาตาเซีย : อยากไปนะครับ ผมอยากจะออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง

    เวสต์ : เฮ้อ ลูกจะทนได้หรือเปล่าหล่ะ

    อนาตาเซีย : โธ่ นิดเดียวน่าคุณพ่อเวสต์

    เวสต์ : ก็ได้ งั้นพ่อจะรอดูก็แล้วกันนะ

     

    กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ในตอนนั้นทุกคนก็อยู่ด้านล่างเพื่อดูอาการของโทนี่และมินโฮที่เพิ่งจะมาใหม่ ในตอนนั้นยูจีนไปทำแผลให้มินโฮ แต่ในตอนนั้นเองมินโฮก็เกิดอาการเพ้อแล้วจับมือยูจีนไว้

    ยูจีน : เฮ้ย ปล่อยฉันนะนายบ้าเอ้ย // และในตอนนั้นเองมินโฮก็เผลอกระชากยูจีนลงไปคร่อมตัวเขาแล้วเขาดันตื่นพอดี สายตาทั้งสองจ้องมองกันซักพัก แต่เมื่อยูจีนได้สติเขาก็ผละตัวออกมาจากมินโฮทันที

    มินโฮ : นี่ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย

    ยูจีน : เพื่อนนายลากนายมารักษาที่นี่

    มินโฮ : ขอบคุณมากนะครับ ขอโทษด้วยนะครับที่ทำแบบนั้นกับคุณ

    ยูจีน : ช่างมันเถอะ แต่อย่าทำอีกก็แล้วกัน

    ในระหว่างนั้นเอง นอร์รีนและคนอื่นๆก็มาคุยกับมินโฮที่อยู่ข้างล่างด้วยความเป็นห่วง

    นอร์รีน : อ้าว ฟื้นแล้วเหรอครับ นอนพักไปก่อนนะครับ

    มิเชล : ว่าแต่ คุณเป็นใครกันหล่ะคะ

    มินโฮ : ผมมินโฮ เป็นหนึ่งในกลุ่มกบฏหน่ะครับ ผมโดนยิงแล้วส่งมาที่นี่หน่ะ

    ตะวัน : เออใช่ ตอนนี้สถานการณ์การรบคงไม่ค่อยสู้ดีนักนะ

    อนูวา : แต่ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่ชัดเจนนะ รอดุต่อก่อนดีกว่า

    ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน ในตอนนั้นมีคนมาเคาะประตูหน้าบ้าน บารีร่าไปเปิดประตู ก็พบซีโร่ที่ลากสังขารตัวเองมาที่อพาร์ทเม้นท์ บารีร่ารีบพาเขาเข้าไปด้านในทันทีท่ามกลางความตกใจของทุกคน

    บารีร่า : ซีโร่ ใครทำอะไรเธอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้

    ซีโร่ : ไม่มีอะไรหรอก แค่ไปหาของมาหน่ะ // ซีโร่เอาของกินและยาจำนวนหนึ่งมาให้กับทุกคนในนั้น ซึ่งมีประโยชน์สำหรับพวกเขามาก

    เอจิ : โห เอามาได้เยอะเลยนะเนี่ยนาย

    ไลฟ์ : แบบนี้คงน่าจะกินได้เป็นอาทิตย์หล่ะ ว่ามั้ย

    เอสเทอร์ : จริงด้วย ว่าแต่นายไปเอามาจากไหนหล่ะ

    ซีโร่ : เอามาจากโกดังเก็บของในเมืองหน่ะ

    อลิซ : เดี๋ยวฉันเอาของไปเก็บให้ดีกว่านะ

    มิสซึ : ฉันว่า นายรีบไปพักก่อนดีกว่านะ

    ซีโร่ไม่รอช้า คว้าเอาตุ๊กตากับลูกอมจำนวนหนึ่งพร้อมกับจูงมือบารีร่าไปด้วย จากนั้นเองทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนกันตามปกติของทุกคน

    ====================================================================

    ดูเหมือนเหตุการณ์จะกลับมาคลี่คลายอีกครั้ง แต่พวกเขายังไม่รู้ว่านี่เพิ่งจะแค่เริ่มต้น พวกเขาจะเอาชีวิตรอดกันยังไงต่อไป ติดตามชมต่อได้ตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×