คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : EP 12 : เริ่มเข้าปะทะ
ในอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน
พวกเขาต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ของตัวเอง
นอร์รีนและมิเชลช่วยอลิซสร้างเครื่องมือและอุปกรณ์เพิ่มเติม
ส่วนคนอื่นๆก็คอยเฝ้าอพาร์ทเม้นท์เอาไว้ตรวจดูว่าจะมีใครเข้ามาหรือเปล่า
ในระหว่างนั้นเอง ก็มีเสียงเคาะประตูมาจากด้านหน้า ซีโร่และบารีร่ารีบไปดูในทันที
จากนั้นพวกเขาก็เปิดประตูให้คนที่อยู่หน้าบ้านเข้ามา
ตะวัน : อ้าว
ซีโร่ คนอื่นๆหายไปไหนกันหมดงั้นเหรอ
ซีโร่ : พี่ตะวัน
ตอนนี้คนอื่นๆกำลังทำงานกันอยู่เลยครับ
บารีร่า : แล้วพวกพี่ไปทำอะไรกันมาคะ
กลับมาช้าจัง
อนูวา : มีธุระนิดหน่อยจ้ะ
ว่าแต่ ขอคุยกับทุกคนได้หรือเปล่าจ๊ะ
ซีโร่รีบไปเรียกทุกคนที่ทำงานอยู่ด้านบนมาทั้งหมด
แล้วก็ยูจีนที่ไม่ค่อยเต็มใจจะมาแต่โทนี่ก็ลากตัวเขามาจนได้
อลัน : เอาหล่ะครับทุกคน
ผมมีอะไรต้องแจ้งนิดหน่อยหน่ะ
นอร์รีน : มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ
ร้ายแรงหรือเปล่า
ฮาน่า : ตอนนี้รัฐบาลกำลังเดินหน้าบุกเข้ามาในเมืองแล้วค่ะ
มิเชล : จริงเหรอ
ดูเหมือนว่าพวกมันต้องการจะจบเรื่องนี้แล้วสินะ
เอสเทอร์ : แล้วแบบนี้พวกเราจะตายกันหมดหรือเปล่าหล่ะเนี่ย
โทนี่ : ไม่ต้องกลัวหรอก
เราจะไม่ตายถ้าเราอยู่ด้วยกัน
อลิซ : ว่าแต่
ตอนนี้พวกเรามีปืนกี่กระบอกกันหล่ะ
มิสซึ : มีของเอจิหนึ่งกระบอก
ของคุณตะวัน คุณอนูวา และที่ยึดมาได้จากพวกโจรอีกก็ประมาณ 5 กระบอกหน่ะ
เอจิ : แต่คงต้องทำกระสุนเดี๋ยวนี้เลย
กระสุนเราเหลือน้อยแล้ว
ไลฟ์ : จะทำยังไง
เราไม่มีดินปืนกับปลอกกระสุนเลยนะ
ยูจีน : ถ้าจะเรียกมาแค่นี้
ไม่ต้องเรียกฉันมานะ // ยูจีนจะกลับขึ้นห้องไป แต่โทนี่ดึงแขนเธอไว้
โทนี่ : นี่พี่
จะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนเนี่ย ผมไม่ให้พี่ไปไหนหรอก
ยูจีน : ปล่อยฉัน
ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน // ยูจีนต่อยโทนี่จนร่วง คนอื่นๆพยายามไปห้ามเอาไว้
และในระหว่างนั้นเอง ก็มีเสียงเคาะประตูมาจากหน้าบ้าน ตะวันรีบไปดูที่หน้าบ้าน
ก็พบว่ามีชายคนหนึ่งมาขอแลกเปลี่ยนสินค้ากับพวกเขา
“มีของมาขายจ้า สนใจจะแลกหน่อยมั้ยครับ”
ในตอนนั้นเอง ยูจีนเห็นคนแลกของ
เธอก็ตะโกนโวยวายใส่เขา
“แก แกฆ่าแฟนฉัน นายแกอยู่ไหน ฉันจะไปฆ่ามัน” นอร์รีนต้องลากยูจีนเข้าไปในบ้าน แล้วก็มาแลกของกับชายคนนั้น
โดยแลกวัสดุจำเป็น แล้วก็อาหารสดนิดหน่อย
รวมถึงวัตถุดิบทำอาวุธอื่นๆที่มีประโยชน์อย่างมาก
จากนั้นพวกเขาก็มาดูยูจีนที่กำลังคลั่งอยู่
ตะวัน : ยูจีน
คุณพูดอะไรของคุณ ที่ว่าเขาฆ่าแฟนคุณหน่ะ
ยูจีน : ฉันสาบานได้
ฉันจำมันได้ คนที่ฆ่าแฟนฉันอยู่ในกลุ่มเดียวกับพวกมัน
อนูวา : เธอแน่ใจได้ยังไง
เธออาจจะจำผิดก็ได้
ยูจีน : จำไม่ผิดหรอก
ต่อไปนี้ทุกคนห้ามไปแลกของกับมันอีกเด็ดขาด //
จากนั้นยูจีนก็หัวเสียขึ้นไปที่ห้องของเธอ
เอจิ : น่าจะหายาคลายเครียดให้เธอกินบ้างนะ
เอสเทอร์ : เธอเพิ่งจะเสียคนรักไป
เข้าใจเธอหน่อยสิ
ไลฟ์ : แล้วแบบนี้เราจะเอายังไงต่อ
ถ้าไม่ให้แลกของ เราอยู่ไม่ได้แน่
มิสซึ : เอาแบบนี้สิ
เราก็แลกตอนนี้ยูจีนไม่อยู่สิ แค่นี้ง่ายๆ
อลิซ : ไอเดียดีนี่
ต้องไปแลกในที่ลับตาหน่อยหน่ะ ดูสิเราได้วัสดุทำกำแพงแล้วก็ดินปืนมาด้วย
ฉันจะรีบซ่อมบ้านแล้วหล่ะ
อลัน : เยี่ยมไปเลย
อย่างน้อยก็คงจะกันกระสุนได้หล่ะนะ
ฮาน่า : ว่าแต่
เรื่องที่กองทัพรัฐบาลจะบุกมานี่จะเอายังไงต่อหล่ะ
นอร์รีน : ผมว่า
เราควรจะดูสถานการณ์ไปก่อน รอจนกว่าอะไรๆจะดีขึ้นครับ
มิเชล : หวังว่าข้อมูลที่ฉันให้กลุ่มกบฏคงจะมีเพียงพอนะคะ
ซีโร่ : โอเค
ถ้างั้นช่วงนี้ผมจะไปหาของเพิ่มเติมให้ทุกคนซักครู่นะครับ
บารีร่า : เดี๋ยวก่อนสิ
มันอันตรายนะซีโร่
ในตอนนั้นเอง ซีโร่ก็รีบออกจากบ้านไป
โดยที่ไม่ยอมฟังเสียงใครเลย ทำเอาทุกคนถึงกับแปลกใจ
นอร์รีน : เอาหล่ะครับ
ตอนนี้ผมวาเราแยกย้ายกันไปทำงานก่อนดีกว่านะครับ
จากนั้นทุกคนต่างก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของแต่ละคน
เนื่องจากเวลาของพวกเราที่เริ่มเหลือน้อยลงทุกที
กลับมายังหน่วยดอว์นซอร์ด
ในตอนนั้นเองพวกเขาได้เตรียมอาวุธเพื่อทำการกวาดล้างกลุ่มกบฏ
เควินใช้เครื่องมือชองเขาในการดักฟังสัญญาณวิทยุของฝ่ายกบฏ ในตอนนั้นเอง เควินเรียกทุกคนมาคุยในทันที
อเล็กซานเดอร์ : เออนี่ เรียกพวกเรามามีอะไรกันงั้นเหรอ
เควิน : ผมดังฟังวิทยุของพวกมัน
ตอนนี้พวกมันกำลังเคลื่อนไหว แล้วก็กำลังติดต่อกับหน่วยทหารภายนอกอยู่ครับ
ซิลเวสเตอร์ : หน่วยภายนอก
หมายถึงทหารต่างประเทศอย่างงั้นเหรอ
เควิน : อาจเป็นไปได้ครับ
เราเพิ่งได้รับรายงานมาว่ามีเครื่อง c-130 ไม่ทราบสัญชาติมาบินรอบชายแดนเราครับ
อีริค : งั้นก็แสดงว่า
ทางสหประชาชาติเริ่มตอบโต้แล้วสินะ
คาสเตอร์ : จะกลัวอะไรหล่ะ
พวกมันมาก็ฆ่าให้หมดเลยสิ
อเล็กซ่า : จะบ้าเหรอ
เราสู้กับนาวิกโยธินสหรัฐได้ที่ไหนหล่ะ
เควิน : เออใช่
ผมเพิ่งได้ยินข่าวจากรัฐบาล
พวกเขากำลังหาตัวนักบินสัญชาติไทยที่หายตัวเข้ามาในนี้ครับ
อเล็กซานเดอร์ : เข้าใจหล่ะ เราต้องตามหาตัวนักบินคนนั้นให้ได้
ซิลเวสเตอร์ : แต่เราไม่รู้นะว่านักบินคนนั้นอยู่ที่ไหนหน่ะ
เควิน : แต่ว่าเท่าที่ได้ยินสายข่าวรายงานมา
เหมือนเขาจะกบดานในเมืองหลวงนะครับ
อีริค : ใจกลางเมืองหลวงเลยเหรอ
ใต้จมูกพวกมันเลยนะ
คาสเตอร์ : กว่าจะช่วยมาได้คงจะโดนกวาดล้างหมดก่อนหล่ะนะ
อเล็กซ่า : เรื่องนี้คงต้องดำเนินการแบบลับๆ
หัวหน้าว่ายังไงคะ
อเล็กซานเดอร์ : ฉันจัดการเอง หาคนเอเชียในใจกลางเมืองคงไม่ยากเท่าไหร่นะ
ในเขตเมืองหลวงของโซราติก
หน่วยรบพิเศษไทยรีบเดินทางเข้าไปยังใจกลางเมืองหลวงเพื่อตามหานายทหารที่หายตัวไป
พวกเขารีบเดินทางแข่งกับเวลาก่อนที่ทหารของรัฐบาลจะตามมาจัดการพวกเขา
ในระหว่างที่กำลังเดินทาง ก็มีด่านๆหนึ่งซึ่งมีกลุ่มกบฏถืออาวุธครบมือเล็งปืนใส่พวกเขา
โจอี้และเดวิดต้องรีบไปคุย และในตอนนั้นเอง
ชายคนที่หน่วยทหารไทยช่วยไว้ก็มาเจอพอดี
“ทุกคน พวกเขาช่วยผมเอาไว้ครับ”
“นี่คุณช่วยเพื่อนของเรางั้นเหรอครับ”
เดวิด : ใช่แล้วหล่ะ
เออนี่ เขาคือหน่วยรบพิเศษไทยที่หัวหน้าบอกให้คุ้มกันเขาหน่ะ
“สวัสดีครับ เดินทางเป็นยังไงบ้างครับ”
อรุณ : ไม่เป็นไรหรอกครับ
ว่าแต่สถานการณ์ที่นี่เป็นยังไงบ้างครับ
“เราเตรียมแนวรับพร้อมที่จะจัดการพวกมันแล้ว
รอแค่พวกมันมาเท่านั้นครับ”
โจอี้ : นี่
พวกนายมีอาวุธต่อสู้รถถังเพียงพอหรือเปล่าหล่ะ
“เรามี RPG อยู่พอที่จะสกัดพวกมันไว้ครับ”
เดชา : แต่ว่า
กำลังคนแค่นี้ไม่พอจะรับมือพวกมันหรอกนะ
จินตโล : ใล่ๆ
ผมคิดว่าพวกคุณคงต้องหาคนเพิ่มหน่อยนะครับ
“เราขอกำลังช่วยเหลือเพิ่มเติมไปแล้วหล่ะครับ”
เนตร : แล้วพวกเขาจะมาเมื่อไหร่กันหล่ะ
อีกนานหรือเปล่า
“อีกประมาณ 200 คนจะมาใน 20 นาทีครับ”
เจตนา : พอได้
ยังไงก็อย่าประมาทก็แล้วกัน // แต่ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงเฮลิคอปเตอร์ดังมาแต่ไกล
ออจู่โจมและฮอลำเลียงบางส่วนของพวกมันก็บุกมากวาดล้างเบื้องต้นก่อนที่ทหารราบหน่วยอื่นจะบุกเข้ามา
อรุณ : ทุกคน
รีบไปแอบอยู่ด้านข้างก่อน เดชา เอาจรวดมา
พวกเขารีบหาที่หลบเฮลิคอปเตอร์
ฮอลำเลียงก็กำลังจะปล่อยคนลงมา แต่จินตโลและเนตรช่วยกันยิงมันเอาไว้ก่อน
จินตโล : เราต้องจัดการฮอจู่โจมของพวกมันก่อน
เนตร : จะทำอะก็รีบทำหน่อยสิโว้ย
เดชา : ใจเย็นๆ
// เดชาเล็งจรวดไปยังเฮลิคอปเตอร์จู่โจม สอยมันจนร่วง จากนั้นก็สอยฮอลำเลียงเพิ่มเติม
ทำเอาฮอลำอื่นถึงกับต้องถอยร่น
เจตนา : เออ
กลับบ้านพวกแกไปเลยไอ้ระยำเอ้ย
อรุณ : รีบไปกันเถอะ
ก่อนที่พวกมันจะกลับมา // พวกเขารีบออกเดินทางกันต่อไปยังใจกลางเมืองหลวง
ทางด้านของกลุ่มกบฏ
เอ็ดเวิร์ดกับเร็นไปรวมกำลังกับกลุ่มกบฏเพื่อจัดการตั้งรับทหารของรัฐบาล
โดยที่กลุ่มของเทเรซ่าไปด้วย
เอ็ดเวิร์ด : เทเรซ่า
เธอกลับไปแนวหลังก่อนดีกว่านะ มันอันตราย
เทเรซ่า : เธอคิดว่าในสนามรบจะไม่มีคนเจ็บอย่างงั้นเหรอ
ว่าแต่ นี่เพื่อนใหม่เธอเหรอ
เร็น : อ้อ
ผมชื่อเร็น ผมเจอกับเอ็ดเวิร์ดเขาโดยบังเอิญหน่ะครับ
ลูลู่ : ดูท่าทางจะเป็นสายลับเหมือนกันสินะคะ
เดม่อน : แหม่เธอ
จะอะไรกับเขานักหนาหล่ะเนี่ย
เร็น : ใช่ครับ
ความจริงผมกับเอ็ดเวิร์ดเราอยู่หน่วยเดียวกันหน่ะ
เอ็ดเวิร์ด : เออๆ
ว่าแต่หัวหน้าของเธอให้เรามารับคนที่อพยพมางั้นเหรอ
เทเรซ่า : ใช่ๆ
ได้ยินว่าอพยพมากันเป็นร้อย แถมกลุ่มของกบฏกลุ่มอื่นตั้งแนวรับที่นั่นด้วย
ลูลู่ : ดูนั่นสิ
พวกเขาเริ่มจะมากันแล้ว //
ลูลู่ชี้ให้เห็นขบวนของกลุ่มผู้อพยพที่เริ่มจะเดินทางเบียดเสียดกันมา
โดยที่มีเทโจเป็นผู้นำกลุ่มในการอพยพ
กลุ่มของเทเรซ่าไม่รอช้าไปรับพวกของเทโจในทันที
เทเรซ่า : สวัสดีค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างหล่ะคะ
เทโจ : เราโดนเล่นงานหนักเลยครับ
พวกนั้นตามเรามาทุกทีๆ
เอ็ดเวิร์ด : คุณมีคนของคุณอยู่ประมาณเท่าไหร่กันหล่ะครับ
เทโจ : ตอนนี้ที่เหลือมีประมาณพันคนได้ครับ
กำลังตั้งแนวรับอยู่
ในตอนนั้นเอง
อันนาที่มากับเทโจด้วยก็พยายามจะถามคนอื่นเกี่ยวกับลูกของเธอ
แต่เนื่องจากเธอเหนื่อยและอ่อนล้าเธอจึงเป็นลมตรงนั้น
เร็นรีบมาคว้าเธอมาอยู่ในอ้อมแขนทันที
เร็น : ดูท่าทางเธอจะเหนื่อยนะครับเนี่ย
เทโจ : เธอมาตามหาลูกชายของเธอหน่ะครับ
ยังไงผมฝากดูเธอด้วยนะครับ
เร็น : ได้ครับ
// เร็นพาอันนาไปหาที่พักแถวนั้น จากนั้นผู้อพยพก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนในที่ของแต่ละคน
ทางด้านของเทโจ
เขาไปนั่งพักอยู่แถวๆม้านั่งแห่งหนึ่ง แต่ในตอนนั้นเอง ชินเฮก็มานั่งข้างๆเขา
จากนั้นก็มาคุยกับเขาด้วย
ชินเฮ : คุณเทโจคะ
ขอบคุณมากๆนะคะที่ช่วยพวกเรา
เทโจ : ไม่ต้องห่วงหรอกครับ
ผมเต็มใจอยู่แล้ว
ชินเฮ : ว่าแต่
คุณอยู่ที่ญี่ปุ่น แล้วจากบ้านมาทำไมคะ
เทโจ : ผมมาหางานทำที่นี่หน่ะครับ
ชินเฮ : เหมือนกันเลยค่ะ
ฉันมาเล่นคอนเสิร์ตที่นี่ แล้วก็แบบว่า ติดแหงกอยู่ที่นี่หน่ะค่ะ
เทโจ : เสียใจด้วยนะ
แต่ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะพยายามหาทางพาคุณกลับบ้านให้ได้
ชินเฮ : ขอบคุณมากๆนะคะ
ยินดีที่ได้รู้จักคุณค่ะ
ทางด้านของหนุ่มคีธ
ในตอนนั้นเองเขาเอามอไซค์ของเขาไปเติมน้ำมัน เพื่อที่จะใช้เดินทางไปต่อ
และในตอนนั้นเอง จูซมก็วิ่งไปหาคีธอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ในตอนที่เขากำลังเติมน้ำมันอยู่
จูซม : คุณคะ
คือว่า คุณทำของตกไว้หน่ะค่ะ
คีธ : อ้อ
ขอบคุณครับ แต่นั่นไม่ใช่ของๆผมหรอกครับ
จูซม : อ้าวเหรอคะ
ว่าแต่ คุณชื่ออะไรเหรอคะ
คีธ : ผมคีธ
เรียกผมว่าคีธก็ได้คุณจูซม
จูซม : รู้ชื่อฉันด้วยเหรอคะ
คีธ : ผมได้ยินเพื่อนของคุณเรียกคุณแบบนั้นหน่ะครับ
และในตอนนั้นเอง
เพื่อนๆของเธอก็มาแอบมองอยู่ห่างๆ จากนั้นก็หัวเราะคิกคักกันอย่างสนุกสนาน
อามินะ : แหม่ๆ
พวกเรา ดูนั่นสิ แม่สาวใจแข็งของเรา
ไคล่า : แต่หัวหน้าวงของเราก็ใช่ย่อยนะ
เธอเห็นหรือเปล่า
ชิสา : นี่
ถ้าผู้จัดการวงมาเห็นนะ คงโดนด่าตายแน่ๆ
ซาซอน : ใครสนหล่ะ
ป่านนี้ผู้จัดการวงคงจะหนีไปแล้วล่ะ
จียอน : ว่าแต่
เราจะกลับบ้านกันยังไงหล่ะเนี่ย
ซนแซ : คงต้องรอดูหล่ะว่าจะติดต่อใครที่พอช่วยเราได้หรือเปล่า
ยู่อี๋ : ใช่ๆ
พวกเขาคงจะมาหลบภัยอยู่ที่นี่กันหมดนะ
และในตอนนั้นเอง จูซมก็มาด้านหลังพวกเธอ
ทำเอาคนอื่นๆตกใจกันมาก
จูซม : นี่พวกเธอ
มาอยู่อะไรกันตรงนี้หล่ะเนี่ย
อามินะ : อ่ะ
คือ เรามาคุยกันไปเรื่อยหน่ะจ้ะ
ชิสา : ว่าแต่
เธอกับพ่อหนุ่มคนนั้นนี่ยังไงกันเหรอ
จูซม : ไม่มีอะไร
แค่เขาทำของตกเอาไว้หน่ะ
ไคล่า : เฮ้อ
ฉันอยากกลับบ้านจริงๆเลยตอนนี้
ซาซอน : ใครๆก็อยากกลับบ้านกันทั้งนั้นหล่ะ
ยู่อี๋ : ใช่ๆ
คิดถึงมาม๊าที่บ้านจังเลย ถ้ากลับไปได้นะ
จียอน : ฉันว่าเราเข้าไปหลบในตึกก่อนดีกว่านะ
อย่างน้อยก็น่าจะติดต่อใครได้บ้าง
ซนแซ : ก็ดีเหมือนกันนะ
ฉันกลัวเสียงระเบิดจะตายอยู่แล้วเนี่ย
จากนั้นไม่นาน กลุ่มสาวๆก็กลับเข้าไปในตึกกำบัง
เพื่อไปติดต่อกับคนต่างชาติที่หลบภัยอยู่ในนั้น
ทางด้านของเร็น
ในตอนที่เขากำลังดูแลอันนาที่กำลังนอนซมอยู่ จู่ๆอันนาก็ลุกขึ้นมา
แล้วก็เรียกหาลูกชายของเธออย่างรวดเร็ว
อันนา : ลูก
ลูกฉันอยู่ที่ไหน
เร็น : ใจเย็นๆนะครับ
คุณเพิ่งจะสลบไปหน่ะครับ
อันนา : คุณคะ
คุณเคยเห็นเด็กคนนี้หรือเปล่าคะ // อันนาโชว์รูปให้เขาดู
เร็น : ไม่เคยเห็นนะครับ
แต่คงจะอยู่ในค่ายหน่ะครับ
อันนา : คุณรีบพาฉันไปในค่ายหน่อยได้หรือเปล่าคะ
เร็น : ใจเย็นๆครับ
คุณกำลังเหนื่อยอยู่ อย่าเพิ่งทำอะไรเลยนะครับ
อันนา : ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยฉัน
คุณเป็นใครกันเหรอคะ
เร็น : ผมชื่อเร็นครับ
อันนา : ฉันชื่ออันนาค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
กลับมายังแนวรับของกลุ่มกบฏ
ซึ่งทางรัฐบาลกำลังจะเริ่มต้นกวาดล้างอย่างเร่งด่วน
ชายคนหนึ่งกำลังใช้กล้องส่องทางไกลมองไปยังพื้นที่ของรัฐบาล
เขาเห็นกองทัพและรถถังจำนวนมากเตรียมเคลื่อนพลเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่เขาสำรวจเสร็จ
เขารีบวิ่งลงไปชั้นล่างในทันที เพื่อไปรวมตัวกับพรรคพวกคนอื่นๆ
“เฮ้ จอห์นนี่ สถานการณ์เป็นยังไงบ้างอ่ะ” ชายคนหนึ่งถามคนที่เพิ่งจะไปสำรวจด้านบนมา
“กองทัพรัฐบาลที่กำลังจะมาตอนนี้
ใหญ่กว่าที่เราคิดไว้มากครับ ขบวนรถหุ้มเกราะก็คงจะมาถึงในไม่กี่ชั่วโมงครับ
หัวหน้าดีซ” เขาตอบหัวหน้าของเขาไป
“แย่หล่ะ แบบนี้เราแค่สิบกว่าคนคงทำอะไรไม่ได้แน่
ว่ามั้ยเอิร์ล”
“ไม่รู้สิเดอร์ริก เราควรจะถอนกำลังก่อนดีกว่านะ”
ดีซ : เราจะไม่ถอยเด็ดขาด
บอกพวกเราให้ส่งคนมาเพิ่มด่วนเลย
เอิร์ล : แต่ผมเห็นด้วยกับเดอร์ริกนะครับ
ที่นี่ไม่เหมาะกับการต่อสู้ยืดเยื้อนะครับ
ดีซ : ก็ได้
บอกพวกเราให้กลับไปตั้งรับที่แนวรับชั้นสอง
เดอร์ริก : ถ้างั้นเรารีบไปกันดีกว่า
จอห์นนี่ ไปบอกพวกเราให้ถอนตัวก่อน
จอห์นนี่ : ได้เลยครับพี่
กลับมายังโกดังของมาร์ค
ซึ่งมาร์คกำลังรับของที่กำลังจะลำเลียงมาจากกองทัพของเวร่า
เวร่าเธอยอมลงทุนกับมาร์คเพื่อผลประโยชน์อันมหาศาลแห่งนี้ แต่ในขณะเดียวกัน
ก็มีรายงานจากรัฐบาลมาถึงกองทัพของเวร่า เธอรีบอ่านรายงานในทันที
มาร์ค : มีอะไรหรือเปล่าครับ
เวร่า :ฉันต้องนำกองทัพบุกเข้าเมืองหล่ะ เซงชะมัด
มาร์ค : งั้นเหรอ
แล้วทำไมคุณไม่บุกเข้าไปหล่ะ
เวร่า : ถ้างั้นรอฉันแป๊ปนึงนะ
// เวร่าเรียกคนของเธอมาพบ
“ท่านครับ เรียกผมมีอะไรครับ”
เวร่า : นายนำกำลังพลบางส่วนบุกเข้าเมืองไปก่อน
แค่พอหอมปากหอมคอหล่ะ
“ทำไมกันหล่ะครับ”
เวร่า : ฉันยังอยากเลี้ยงธุรกิจของฉันไว้ก่อนหน่ะ
“แต่ว่า นี่มันขัดคำสั่งรัฐบาลนะครับ”
เวร่า : ทำไมหล่ะ
หรือว่าคุณอยากจะขัดกับฉันหล่ะ
“ได้ครับ ผมจะจัดการเองครับ” จากนั้นนายทหารคนนั้นก็เดินออกไปจากห้อง
มาร์ค : แหม่
เด็ดขาดดีจริงๆเลยครับ
เวร่า : แน่นอน
ใครจะกล้าหือกับฉันงั้นหล่ะ
มาร์ค : ว่าแต่
ของๆเราจะมาถึงเมื่อไหร่หล่ะ
เวร่า : อีกไม่นานหรอกค่ะ
รอฟังข่าวดีได้เลย
มาร์ค : แล้วผมก็จะรอดูก็แล้วกันนะ
กลับมายังตึกร้างแห่งหนึ่ง
ซึ่งซีวิลพยายามจะหาทางออกไปจากที่นี่ ก่อนที่เขาจะโดนพวกนั้นกินเขา
เขาพยายามจะไขประตูทุกวิถีทาง แต่มันไม่ได้ผลเลย
“เอ้ย ไม่ได้ผลหรอก พอเถอะ”
ซีวิล : เฮ้ย
ฉันไม่ยอมโดนพวกมันจับกินหรอก
“ตอนนี้ภาวนาให้คนมาช่วยเราเถอะ”
ซีวิล : ใครจะมาช่วยเราหล่ะวะ
แกบ้าหรือเปล่า
แต่ในตอนนั้นเอง
ด้านในตึกก็เกิดมีเสียงปืนดังขึ้น ทำเอาคนด้านในตกใจ
“เฮ้ย เสียงปืน เกิดอะไรขึ้นวะ”
ซีวิล : ไม่รู้เว้ย
ฉันจะไปถามใครได้หล่ะ
จากนั้นเอง เสียงปืนก็ดังมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
จากนั้นเองพวกนั้นก็เข้ามาในห้องพร้อมกับปืนพก ดูท่าทางจะกระวนกระวาย
“เฮ้ย เราจะเอายังไงต่อกันดีวะ”
“ไม่รู้ดิ ทหารล้อมตึกไว้หมดแล้วเนี่ย”
ซีวิล : พวกแกไม่รอดแล้ว
ยอมแพ้เถอะวะ
“หืม มึงมานี่เลย” มันเปิดห้องขังแล้วก็ลากตัวซีวิลออกมา
จากนั้นมันก็เอาปืนเล็งที่เขาไว้
“แกคิดว่าแกจะรอดจากฉันไปได้งั้นเหรอ”
แต่ในตอนนั้นเอง ทหารกลุ่มหนึ่งก็บุกเข้ามาในห้อง
ซีวิลอาศัยจังหวะที่พวกนั้นตกใจเอาตัวรอดไป
จากนั้นทหารก็ยิงทุกคนที่อยู่ในห้องนั้นจนหมด ส่วนซีวิลก็วิ่งหนีออกจากตึก
ก่อนที่ทหารจะตามมาจับตัวเขาอีกรอบ
และที่อีกด้านหนึ่งของเมือง
กลุ่มของทาเคชิได้เดินทางมาเรื่อยๆเพื่อกลับมายังแนวรับของตัวเอง
พวกเขาต้องรีบแข่งกับเวลา ไม่เช่นนั้นทหารของรัฐบาลจะตามพวกเขามาได้
พวกเขาเดินทางฝ่าลูกปืนใหญ่ของทหาร จนมาถึงแนวตั้งรับของกลุ่มกบฏได้แล้ว
ทาเคชิ : เอาหล่ะทุกคน
รีบไปเตรียมกระสุนให้พร้อมเลยนะ
มิกัส : ว่าแต่
อีกกี่ชั่วโมงหล่ะกว่าพวกมันจะมาถึง
ดราก้อน : เท่าที่ได้ข่าวมานะ
คงอีกไม่กี่ชั่วโมงนี่แหละ
ไซม่อน : ตายแล้ว
นี่มันจะมาเร็วไปไหนกันหล่ะเนี่ย
ริกโก้ : ถ้ามาช้าสิแปลก
นายนี่พูดไม่คิดเลยนะ
อัลเบิร์ต : ไม่มีเวลาแล้ว
รีบไปหากระสุนเพิ่มเติมดีกว่า
ซุนฮยอน : เออนี่
ว่าแต่ เราพอจะมียาเพิ่มหรือเปล่าเนี่ย
มินโฮ : เดี๋ยวฉันจะลองไปถามที่พลาธิการดูให้นะ
ตอนนี้แยกย้ายกันไปก่อนดีกว่า
พวกเขาแยกย้ายกันไปเสริมแนวรับ
บรรจุกระสุนเพิ่มเติม เพื่อรับมือกับกองทัพของรัฐบาลที่กำลังจะบุกเข้ามา
พวกเขาต้องรีบทำงานแข่งกับเวลาเพื่อที่จะป้องกันตัวเอง
ทาเคชิ : งานนี้คงต้องใช้อาวุธเยอะๆหน่อยหล่ะ
รัฐบาลคงอยากรีบจบเกมนี้หล่ะ
ไซม่อน : น่าจะลองขอความช่วยเหลือจากภายนอกดูนะ
อัลเบิร์ต : ใครจะมาช่วยเราหล่ะ
ตอนนี้เราไม่เหลือใครมาแล้วนะ
และในตอนนั้นเอง
มินโฮก็รีบวิ่งกลับมาบอกทุกคนเกี่ยวกับเรื่องยาของหน่วย
มินโฮ : นี่
ซุนฮยอน ตอนนี้ยาของเราเริ่มจะเหลือน้อยแล้วหล่ะ
ซุนฮยอน : จริงเหรอ
ถ้าเป็นแบบนี้เราลำบากแน่ๆ
ดราก้อน : เราคงจะสู้แบบยืดเยื้อไม่ได้อีกแล้วหล่ะนะ
ริกโก้ : เอานี่
ของนายมินโฮ นายชอบกระบอกนี้นี่ // ริกโก้โยนปืนไรเฟิลจู่โจมให้มินโฮหนึ่งกระบอก
ก่อนที่มินโฮจะรีบบรรจุกระสุนใส่เข้าไป
มีกัส : ไม่รู้ว่าระเบิดที่ฉันวางไว้จะถ่วงพวกมันได้นานแค่ไหนกันนะ
ทาเคชิ : ไม่ต้องห่วงหรอกนะ
ฉันรู้ว่านายทำได้น่า
กลับมายังร้านกาแฟของเวสต์ หลังจากที่อนาตาเซียกินอะไรจนอิ่ม
เขาก็นอนหนุนตักของพ่อเขา เวสต์ต้องคอยปลอบลูกของเขาไว้ไม่ให้กลัวไปมากกว่านี้
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ความจริงดีว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป
แต่เขาก็ยังเลือกที่จะอยู่ที่ร้านนี้ ไม่ยอมหนีไปไหนอีกแล้ว
เวสต์ : พ่อขอโทษนะลูก
พ่อจะปกป้องลูกให้ได้
อนาตาเชียเอามือของเวสต์มากอด เวสต์เอามือกอดลูกของเขาไว้ไม่ให้ไปไหน
และในตอนนั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงคนเดินมาด้านหลังบ้าน เวสต์หยิบปืนขึ้นมาขึ้นลำ
จากนั้นก็เดินย่องไปดู จากนั้นเขาก็เล็งปืนไปด้านหลัง ซึ่งไม่มีอะไรเลย
จสงสัยเขาคงหูฝาดไปเอง จากนั้นเขาก็กลับไปหาลูกของเขาที่กำลังนอนอยู่
อนาตาเซีย : ไปไหนมาครับพ่อ
เวสต์ : ไม่มีอะไรหรอก สงสัยพ่อคงหูฝาดหน่ะ
อนาตาเซีย : ระวังหน่อยก็ดีนะครับพ่อ
เวสต์ : แหม่ลูก
พ่อรู้น่าว่าควรจะทำอะไรดี นอนซะเถอะลูก
กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน
ซึ่งพวกเขาแต่ละคนเตรียมความพร้อมเพื่อหาที่หลบภัยจากกลุ่มทหารที่กำลังจะโจมตีเมืองในเร็วๆนี้
ในตอนนั้นเองพวกเขาช่วยกันนำวัสดุที่แลกมาได้ทำการปิดช่องหน้าต่างและเส้นทางที่พัง
ไม่ให้ใครเข้ามา ด้านหนึ่ง นอร์รีนและมิเชลช่วยกันตอกตะปูใส่ไม้เพื่อสร้างแนวป้องกันสำหรับหน้าต่าง
มิเชล : นอร์รีน ตะปูฉันหมดหน่ะ นายพอมีอีกหรือเปล่า
นอร์รีน : มีสิ ใช่ประหยัดๆหน่อยหล่ะ // เขายื่นตะปูให้กับเธอ
มิเชล : หวังว่าตะปูน่าจะพอสำหรับเรานะ
นอร์รีน : ก็หวังไว้แบบนั้นนะ
ขอแค่ปืนใหญ่อย่าตกมาแถวนี้ก็พอ
ในตอนนั้นเอง อลิซกับมิสซึก็ช่วยกันซ่อมแซมอพาร์ทเม้นท์เพื่อป้องกันตัวด้วย
อลิซ : เอาหล่ะ
คงต้องทำแข่งกับเวลากันหน่อย พวกนั้นคงกำลังจะมา
มิสซึ : เธอคิดว่า
พวกนั้นจะมาทางเราหรือเปล่า
อลิซ : ไม่น่าจะเหลือนะ
ยังไงพวกมันก็มาแน่
มิสซึ : ก็คงจะเป็นแบบนั้นอ่ะนะ
และอีกด้านหนึ่ง โทนี่กับเอสเทอร์ก็มาช่วยกันซ่อม
โดยดทนี่จัดการตอกตะปู ส่วนเอสเทอร์ก็ช่วยที่เหลือ
เอสเทอร์ : เออนี่
อีกนานมั้ยกว่าจะเสร็จเนี่ย
โทนี่ : ไม่นานหรอ
ยังไงก็ต้องเสร็จก่อนแน่ๆ
เอสเทอร์ : ว่าแต่
ยูจีนพี่สาวนายตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
โทนี่ : เธอคงสงบสติอารมณ์อยู่หน่ะ
ไม่เป็นไรหรอก
ที่ชั้นล่างของอพาร์ทเม้นท์
กลุ่มของตะวันได้เตรียมกระสุนปืนบางส่วนเอาไว้ป้องกันตัว พวกเขาเรียกทุกคนมารวมตัวกันเพื่อตกลงอะไรบางอย่าง
ดูเหมือนว่าทุกคนจะจริงจังกันมากในนั้น
อนูวา : เอาหละค่ะ
ว่าแต่มากันครบหรือยังคะ
ไลฟ์ : กลุ่มของนอร์รีนกำลังซ่อมหน้าต่างอยู่ค่ะ
ตะวัน : ไม่เป็นไรครับ
เอาหล่ะ ผมคิดว่าเราคงต้องอยู่ในนี้กันซักพักนะครับ
อลัน : อ้าว
ทำไมเป็นอย่างงั้นหล่ะ
ตะวัน : ผมว่าเราต้องหลบอยู่ในนี้
จนกว่าการปะทะจะสิ้นสุดหน่ะ
อลัน : ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่นานๆหรอก
ฉันจะออกไปหาของให้เอง
ไลฟ์ : ฉันว่าพี่เขาพูดถูกนะ
ข้างนอกมันอันตรายมากนะ
เอจิ : ตอนนี้เสบียงเราแทบจะไม่เหลือแล้ว
เรารอได้แค่พรุ่งนี้ แล้วต้องออกไปหาของต่อหน่ะ
อนูวา : ฉันเข้าใจนะ
ว่าแต่ ซีโร่เข้าหายไปไหนงั้นเหรอ
บารีร่า : เขาออกไปข้างนอก
หนูไม่รู้ค่ะว่าเขาไปไหน
ฮาน่า : ช่างมันก่อนเถอะ
พวกคุณจะไม่ออกไปช่วยพวกเราสู้เหรอคะ
บารีร่า : พวกหนูคงไม่มีกำลังมากพอจะไปสู้กับใครหรอกค่ะตอนนี้
ในตอนนั้นเอง มีเสียงปืนใหญ่ดังออกมาด้านนอก
ร่วมทั้งเสียงเครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์ดังมาแต่ไกล
อนูวาได้ยินจึงรู้ว่าเสียงนั้นเป็นอะไร
ไลฟ์ : เสียงนั่น
พวกมันคงจะมาแล้วนะคะ
ความคิดเห็น