คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : EP 11 : กองทัพเคลื่อนพล
ในช่วงเช้ามืดของวันต่อมา
หลังจากที่ผ่านค่ำคืนอันเลวร้ายที่พวกเขาต้องเสียสมาชิกในกลุ่มไป
พวกเขาก็เริ่มจะหมดอาลัยตายอยากกันถ้วนหน้า ที่ด้านล่างของห้องโถง
นอร์รีนนั่งกอดเข่าเศร้าอยู่ซักพัก
ในตอนนั้นเองมิเชลก็มานั่งข้างๆเขาและปลอบใจเขาเอาไว้
มิเชล
: นอร์รีน เป็นอะไรหรือเปล่า ดูเศร้าๆนะ
นอร์รีน
: เหตุการณ์ที่เจอวันนี้ ไม่รู้สิ มันทำผมกลัวเลยหล่ะ
มิเชล
: เธอจะกลัวไปทำไมหล่ะ
นอร์รีน
: ผมไม่รู้สิ ก็แค่ ไม่อยากเห็นภาพเพื่อนเราต้อง…
มิเชล
: ฉันเข้าใจ ฉันเองก็ไม่ต่างจากคุณเท่าไหร่หรอก
นอร์รีน
: เมื่อไหร่เรื่องนี้มันจะจบลงซะทีเนี่ย
มิเชล
: คงอีกไม่นานหล่ะนะ คิดในแง่ดีไว้สิ
นอร์รีน
: ผมจะพยายามนะครับ
ทางด้านของยูจีน
ในคืนนี้เธอนอนไม่หลับ เธอนั่งกอดเข่าคิดอะไรไปเรื่องทั้งคืน
เธอเอาแต่โทษตัวเองที่ช่วยซิลเวียไว้ไม่ได้ และในตอนนั้นเอง
โทนี่ก็เอาน้ำมาให้เธอดื่ม เผื่อว่าจะช่วยอะไรเธอได้
โทนี่
: พี่ยูจีน กินน้ำหน่อยสิครับพี่
ยูจีน
: ไม่เป็นไร นายวางไว้ตรงนั้นก็แล้วกัน
โทนี่
: นี่พี่ไม่ได้นอนเลยทั้งคืนเหรอครับเนี่ย
ยูจีน
: ปล่อยพี่เถอะ พี่อยากอยู่คนเดียวหน่ะ // โทนี่เดินหน้าเจือนออกมาจากห้อง
โดยที่เอสเทอร์รอโทนี่อยู่ที่หน้าห้อง
เอสเทอร์
: พี่เธอเป็นยังไงบ้างหล่ะ
โทนี่
: ยังไม่ยอมพูดกับใครเลยครับตอนนี้
เอสเทอร์
: ฉันเข้าใจนะ ถ้าเป็นฉันก็คงเป็นแบบพี่เธอหล่ะ
โทนี่
: ผมเข้าใจนะ แต่เสียใจไปแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะครับ
เอสเทอร์
: ฉันรู้หน่ะ แต่มันทำใจลำบากนะ
ทางด้านของอลิซกับมิสซึ
วันนี้เขาตื่นเร็วเพื่อมาจัดการเรื่องในห้องครัว
และเป็นตอนที่อลิซบังเอิญตื่นมาพร้อมกับเขาพอดีด้วย อลิซตามมิสซึเข้าไปในห้องครัว
ดูว่าเขากำลังทำอะไร
อลิซ
: มิสซึ นายทำอะไรอยู่งั้นเหรอ
มิสซึ
: มาดูน้ำที่เรากรองไว้หน่ะ ได้เยอะกว่าที่คิดซะอีก
อลิซ
: เออนี่ นายทำเหล้าเป็นหรือเปล่าหล่ะ
มิสซึ
: เคยทำอยู่ครั้งนึงนะ ถ้ามีของพอผมก็ทำได้นะ
อลิซ
: ฉันว่า จะให้นายทำเหล้าเพื่อแลกเปลี่ยนของกับคนข้างนอกหน่ะ
มิสซึ
: ว่าแต่ เรื่องการซ่อมอพาร์ทเม้นท์นี่ยังไงต่อหล่ะ เรามีที่ทำอาวุธ
เครื่องกรองน้ำและกับดักสัตว์ เหลือแต่การป้องกันนี่แหละ
อลิซ
: ต้องมีวัสดุเพิ่มเติมหน่ะ ต้องหาให้ได้ก่อนนะ
ทางด้านของไลฟ์
เธอร้องไห้อยู่ตลอดเวลาเนื่องจากพี่ชายของเธอที่ตายไป ในตอนนั้นเอง
เอจิก็เดินเข้าไปดูเธอเนื่องจากว่าเป็นห่วง
เอจิ
: ไม่เป็นไรนะครับ // ไลฟ์กอดเอจิในทันที
ไลฟ์
: ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้วเอจิ
เอจิ
: ใจเย็นๆนะ ฉันอยู่กับเธอตรงนี้แล้ว
ไลฟ์
: เอจิ ฉันกลัว กลัวว่าคนอื่นๆ รวมทั้งนายจะ
เอจิ
: ไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่ตายง่ายๆหรอกครับ
ไลฟ์
: นายสัญญากับฉันแล้วนะ
และในตอนนั้นเอง
ฮาจิก็วิ่งเข้ามาในห้อง เพื่อมานอนใกล้กับเอจิ แต่ไลฟ์กลับลูบหัวมันอย่างเอ็นดู
ไลฟ์
: บางทีฉันก็อยากจะอยู่แบบฮาจิอ่ะนะ ไม่ต้องไปกังวลอะไรดี
เอจิ
: อยู่แบบคนดีแล้วหล่ะครับ อย่าเพิ่งสิ้นหวังแค่นั้นก็พอ
ทางด้านของบารีร่า
เธอนอนเฝ้าซีโร่อยู่ทั้งคืน จนกระทั่งเขาฟื้นขึ้นมา
บารีร่ารีบกอดเขาในทันทีเมื่อรู้ว่าเขาไม่เป็นอะไร
บารีร่า
: ซีโร่ เธอปลอดภัยนะ
ซีโร่
: ฉันเจ็บหน้าอกจังเลย รู้สึกไม่ค่อยดีเลย
บารีร่า
: ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวเธอก็ไม่เป็นไรแล้ว
ซีโร่
: ว่าแต่ มีอะไรให้กินบ้างหรือเปล่าเนี่ย
บารีร่า
: เออใช่ กินนี่ก่อนสิ ฉันเก็บส่วนของเธอเอาไว้หน่ะ
ซีโร่รีบกินอาหารแล้วก็ทานยาที่บารีร่าให้ไปทีหลัง
ซีโร่
: อาหารเราก็หมดแล้ว เราต้องออกไปหาเพิ่ม
บารีร่า
: เข้าใจ แต่อย่าเพิ่งคิดถึงอนาคตเลย พักผ่อนก่อนดีกว่านะ
กลับมายังหน่วยดอว์นซอร์ด
พวกเขามีภารกิจต้องตามล่ากลุ่มกบฏที่มีอยู่ในรายชื่อ ในตอนนั้นเควินพยายามจะแกะรอยกลุ่มกบฏโดยการดักฟังสัญญาณวิทยุสื่อสารของพวกนั้น
แต่ในตอนนั้นเองคาสเตอร์ก็มาก่อกวนการทำงานของเควิน
คาสเตอร์
: เฮ้ อุปกรณ์ของนายนี่มันกะจึ๋ดริดดีหว่ะ
เควิน
: อย่าแตะมันเด็ดขาดนะเฟ้ย ไม่งั้นฉันไม่เกรงใจแน่
คาสเตอร์
: แล้วจะทำไม
ในตอนนั้นเองอีริคกับอเล็กซ่าก็ต้องมาห้ามศึกก่อนที่ทั้งคู่จะปะทะกันไปมากกว่านี้
คาสเตอร์โดนอเล็กซ่าลากไปทางอื่น
คาสเตอร์
: น่าจะหากัญชาให้มันพี้บ้างนะ
อเล็กซ่า
: อย่างน้อยเขาก็ทำงานดีกว่าคนอื่นเป็นกองแหละน่า นายไปเตรียมอาวุธเถอะ
อีริค
: ได้ยินมั้ยพวก เขาทำงานเก่งกว่านายอีกหว่ะ
อเล็กซ่า
: เออนี่อีริค สถานที่ๆเราจะไปอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ
อีริค
: ห่างจากที่นี่ 2 กิโลเมตรได้หน่ะ ง่ายๆเอง
ซิลเวสเตอร์
: เอาหล่ะทุกคน งานนี้เราต้องรีบทำ แล้วก็ให้สำเร็จด้วย
อเล็กซานเดอร์
: เท่าที่ดูนะ พวกกบฏกลุ่มนี้มันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
ซิลเวสเตอร์
: ก็ว่างั้นหล่ะ ยังไงก็รีบทำงานให้เสร็จก็แล้วกันนะ
อเล็กซานเดอร์
: แน่นอน เตรียมอาวุธให้พร้อมก็แล้วกัน
ณ
เขตเมืองหลวงของโซราติก ชายในกลุ่มกบฏสองคนพาทหารไทยไปตามทางเรื่อยๆ
เพื่อไปตามหาผู้พันที่หายไป ในระหว่างที่พวกเขากำลังเดินกันอยู่
ชายสองคนก็บอกให้พวกเขารีบหลบเข้าไปในตึกหลังหนึ่งในทันที
เดวิด
: พวกรัฐบาลมา ท่าทางจะเป็นหมู่หน่ะ
จินตโล
: ดูท่าจะเป็นพวกสอดแนมนะครับท่านครับ
เดชา
: ไหนว่าพวกมันกำลังจะบุกแล้วยังไงหล่ะ
อรุณ
: พวกมันคงจะมาดูหล่ะมั้ง ว่าเส้นทางข้างหน้าปลอดภัยหรือเปล่า
ในตอนนั้นเอง
ทหารสองคนพาเชลยมาด้วยประมาณสามสี่คน จากนั้นพวกมันก็จับเชลยให้คุกเข่า
เจตนา
: นั่นเชลย พวกมันจะฆ่าเชลยแน่ๆครับท่าน
เนตร
: จะเอายังไงต่อดีครับท่าน เหมือนพวกมันจะฆ่าเขานะ
อรุณ
: โจอี้ เรามีเวลาเท่าไหร่ที่จะหนีเข้าเมืองได้หน่ะ
โจอี้
: ราว 1 ชั่วโมงได้ครับ
อรุณ
: ยังพอมีเวลา ทุกคน ยิงประสานใส่พวกมัน เลือกเป้าตามใจชอบเลย
พวกเขาต่างเล็งเป้าไปยังเป้าหมาย
รอสัญญาณจากหัวหน้าของพวกเขา
อรุณ
: เอาหล่ะ ยิงเลย
หลังจากมีคำสั่ง
พวกเขาก็ยิงใส่ทหารรัฐบาล ทำเอาพวกมันระส่ำระส่าย บางคนรีบหนีกลับไปยังค่ายทหาร
ส่วนเชลยก็รีบหนีเข้าไปในเมืองก่อนที่ทหารจะตามมาจับเขา
โจอี้
: ขอบคุณมากนะครับที่ช่วย
เนตร
: เราคงอยู่ที่นี่ได้ไม่นานหน่ะ รีบเข้าไปยังแนวรับของกลุ่มกบฏเถอะ
เจตนา
: โอเค รีบไปกันดีกว่า เหลือแค่ชั่วโมงเดียวเองนะ
จินตโล
: ว่าแต่ เราจะไปถึงที่นั่นในกี่นาทีหล่ะ
เดชา
: ถ้ารีบเดินก็ถึงเองหล่ะ รีบไปกันดีกว่า
พวกเขาเดินทางกันต่อ
ก่อนที่ทหารรัฐบาลจะตามมาจัดการพวกเขา
และอีกด้านหนึ่ง
เร็นกับเอ็ดเวิร์ดรีบหนีออกมาจากค่ายทหาร
พวกเขาหารถแถวนั้นเพื่อขับรถกลับเข้าเมือง พวกเขารีบมาก ก็แหงะหล่ะ
กลุ่มรัฐบาลกำลังตามก้นพวกเขามาหน่ะ
เร็น
: บ้าเอ้ย งานของฉันพังหมดเลย
เอ็ดเวิร์ด
: เอาน่า วันนี้ไม่ได้วันหลังค่อยทำก็ได้นี่
เร็น
: แล้วนี่เรากำลังจะไปไหนกันเนี่ย
เอ็ดเวิร์ด
: เราจะรีบกลับไปยังค่ายกลุ่มกบฏ ไปตั้งหลักกันก่อนหน่ะ
พวกเขารีบขับรถกลับไปยังค่าย
ในขณะนั้นเองพวกเขาก็เผลอแหกด่านของกลุ่มกบฏ จากนั้นรถก็เสียหลักแล้วชนกำแพง
ในตอนนั้นเองกลุ่มกบฏก็มาเปิดประตูรถพวกเขา
“อ้าว เอ็ดเวิร์ด ไหงขับมาแบบนี้วะ เกือบตายแล้วเนี่ย”
เอ็ดเวิร์ด
: ขอโทษทีหว่ะ ฉันหนีทหารมา พาฉันไปพบกับหัวหน้าหน่อยสิ
ชายคนนั้นพาเร็นและเอ็ดเวิร์ดไปยังค่ายของกลุ่มกบฏ
ในตึกซึ่งเป็นตึกใหญ่
ในตอนนั้นเองก็มีคนจากกลุ่มอื่นมาร่วมประชุมเพื่อรับมือเหล่าทหารของรัฐบาลด้วย
“อ้าว เอ็ดเวิร์ด เรากำลังคุยกันเลย นี่เทเรซ่า เธอไปพา VIP ของเรามาด้วย เอาหล่ะ อย่าเสียเวลาเลย เริ่มคุยกันดีกว่า” หลังจากที่คุยกัน พวกเขาก็เริ่มประชุมในทันที
เทเรซ่า
: เอาหล่ะค่ะ คุณอนูวา บอกสาเหตุที่คุณมาที่นี่ด้วยค่ะ
อนูวา
: ฉันมาเพื่อติดต่อกับกลุ่มกบฏ แล้วประเมินสถานการณ์หน่ะ
เดม่อน
: ว่าแต่ กองทัพของเธอเมื่อไหร่จะมาที่นี่หล่ะ
อนูวา
: พ่อฉันต้องแน่ใจก่อน ว่าถ้าทำแล้วจะไม่พลาดหน่ะ
ลูลู่
: ว่าแต่ คุณตะวัน คุณติดต่อกับโลกภายนอกได้หรือยังคะ
ตะวัน
: ยังเลยครับ ผมไม่รู้ว่ากองทัพของผมกำลังทำอะไรอยู่
เอ็ดเวิร์ด
: ผมว่างานนี้เราต้องรีบดำเนินการหน่อยนะครับ
เร็น
: ใช่ พวกเราเห็นกองทัพกำลังจะบุกมาที่นี่
“เออใช่ ว่าแต่ กลุ่มกบฏที่เหลือตอนนี้ทำอะไรกันอยู่หล่ะ” หัวหน้าของกลุ่มได้สอบถามคนอื่นๆ
เทเรซ่า
: ตอนนี้เรายังติดต่อพวกเขาไม่ได้เลยค่ะ
ลูลู่
: ได้ยินว่าบางส่วนเริ่มการปะทะกับทหารรัฐบาลแล้วนะคะ
ตะวัน
: ว่าแต่ พวกคุณรู้หรือเปล่า ว่าทางสหประชาชาติจะเอายังไงกับเรื่องนี้
เดม่อน
: เท่าที่ได้ยินมา ตอนนี้พวกเขายังไม่มีท่าทีอะไรนะครับ
เร็น
: ผมขอพูดอะไรหน่อยนะครับ ถ้าเราจะจัดการ เราต้องจัดการเดี๋ยวนี้เลยครับ
เอ็ดเวิร์ด
: ฉันรู้ ตอนนี้พวกเขากำลังเตรียมพร้อมแล้วหล่ะ
อนูวา
: มีใครมีวิทยุบางคะ // เดม่อนนำวิทยุสื่อสารให้อนูวา
จากนั้นอนูวาก็ติดต่อไปยังฐานบัญชาการของพ่อเธอในทันที
“พ่อคะ หนูอนูวาเองค่ะ”
“อนูวา เป็นยังไงบ้างลูก ไม่ติดต่อมาหลายวันเลย ติดต่อกลุ่มกบฏได้มั้ย”
“ติดต่อได้ค่ะ พวกเขาอยากคุยกับพ่อเลยค่ะ” อนูวาให้วิทยุกับหัวหน้ากลุ่ม
“ท่านนายพลครับ ผมเชสเตอร์ หัวหน้ากลุ่มกบฏเขตกลางครับ”
“สถานการณ์การรบเป็นยังไงบ้างหล่ะ”
“ทหารรัฐบาลบีบเราเต็มที่ ตอนนี้พวกเขากำลังจะโจมตีกวาดล้างเราครับ”
“เอาหล่ะ ผมจะหาทางส่งอาวุธให้พวกคุณก่อน”
“ว่าแต่ เมื่อไหร่กองทัพของท่านจะมาหล่ะครับ”
“ไม่ต้องห่วง ผมจะรีบจัดการเอง” จากนั้นไม่นาน
สัญญาณก็ถูกตัดไป
เชสเตอร์
: เอาหล่ะทุกคน แยกย้ายกันไปได้ พวกรัฐบาลกำลังจะมาแล้ว คีธ นายหาทางไปติดต่อกับกบฏกลุ่มอื่นนะ
// พวกเขารีบแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของแต่ละคน
ในตอนนั้นเองเอ็ดเวิร์ดรีบวิ่งไปกอดเทเรซ่าทันที
เนื่องจากว่าทั้งคู่ได้รักกันมาซักพักนึงแล้ว
เทเรซ่า
: ฉันคิดถึงคุณจังเลยเอ็ดเวิร์ด
เอ็ดเวิร์ด
: ผมก็คิดถึงคุณ ตอนนี้ผมได้อยู่กับคุณแล้วนะ // เอ็ดเวิร์ดจูบเทเรซ่าเข้าไปอีกครั้ง
ทางด้านของฮาน่า เธอพาตะวันและอนูวากลับไปยังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีนก่อน
เพื่อให้พวกเขาไปพักผ่อน
ฮาน่า
: ฉันจะพาพวกเขาสองคนไปพักก่อน
อลัน
: ผมว่า ผมจะไปรวมกลุ่มกับคนอื่นเพื่อปะทะกับพวกมัน
ฮาน่า
: ว่าแต่ คุณจะรู้เหรอว่ากลับมายังไงหล่ะ
อลัน
: ผมรู้น่า คุณพาพวกเขาไปส่งก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวผมรีบกลับไปหาคุณเองนะ
และทางด้านของคีธ
เขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปยังค่ายของกลุ่มกบฏแหล่งที่สอง
ในตอนนั้นเองเขาคิดอยู่แค่ว่าต้องรีบไปเตือนพวกเขาว่ากองทัพของรัฐบาลกำลังจะไล่ตามเขา
ให้พวกเขาเตรียมเข้าปะทะในทันที เขาขี่มอเตอร์ไซค์มาเรื่อยๆ
จนกระทั่งมาเจอกับขบวนชาวบ้านผู้อพยพ ที่กำลังเดินทางเข้าไปในเขตใจกลางเมือง
“ทุกคน รีบกลับเข้าไปในเมืองเร็ว พวกทหารกำลังมาแล้ว”
ชาวบ้านอพยพที่ได้ยินก็ตกใจ
รีบวิ่งกลับเข้าไปในเมืองในทันที จากนั้นเองคีธก็เจอกับเทโจ
หัวหน้ากลุ่มกบฏอีกกลุ่มหนึ่งที่พาชาวบ้านมาด้วย
เทโจ
: นี่นายเป็นใครเนี่ย
คีธ
: ผมก็เป็นพวกคุณนั่นแหละ ผมชื่อคีธ ผมมาเตือนพวกคุณว่าทหารรัฐบาลกำลังตามมา
เทโจ
: คิดว่าเราไม่รู้หรือไง เราก็รีบอยู่เนี่ย
คีธ
: ว่าแต่ คุณติดต่อกับกลุ่มอื่นได้หรือเปล่าครับ
เทโจ
: ผมพยายามอยู่ แต่การสื่อสารเข้าขั้นแย่มากเลย
และในขณะเดียวกัน
อันนาก็พาสาวๆเกิร์ลกรุ๊ปเดินทางตามเทโจมาเรื่อยๆ เพื่อที่จะหาที่ปลอดภัยในการหลบภัยสงคราม
อันนา
: เอาหล่ะเด็กๆ ยังไงก็เกาะกลุ่มรวมกันไว้นะจ๊ะ
อามินะ
: ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่พาพวกเรามาหน่ะ // ในตอนนั้นเอง
จูซมแอบมองคีธอยู่ห่างๆ เพื่อนคนอื่นๆก็มาสะกิดเธอ
ชิสา
: จูซม มองอะไรอยู่เหรอจ๊ะ ตาไม่กระพิบเลย
จูซม
: อะไรของพวกเธอเนี่ย ไม่ได้มองอะไรซะหน่อย
ซนแซ
: แหม่ ปากแข็งตามเคยเลยนะจ๊ะแม่คนสวย
ซายอน
: นี่พวกเธอ อย่าไปแซวเธอมากสิ หน้าแดงหมดแล้วเนี่ย
จูซม
: นี่พวกเธอ
จียอน
: ใจเย็นๆสิแหม่ แซวกันไปได้เนี่ย
ไคล่า
: เฮ้อ เหนื่อยจัง เดินมาตั้งไกลแล้วนะเนี่ย
ยู่อี๋
: ว่าแต่ ต้องเดินอีกไกลหรือเปล่าเนี่ยถึงจะไปถึง
ชินเฮ
: ไม่รู้สิ แต่ยังไงก็เดินไปก่อนก็แล้วกันนะ // และในตอนนั้นเอง
เครื่องบินของฝ่ายรัฐบาลก็บินผ่านหัวพวกเธอ
ในตอนนั้นพวกเธอก็พยายามหาที่หลบที่ข้างทาง แต่พวกผู้ชายพยายามห้ามเธอเอาไว้
เทโจ : ใจเย็นๆน่าคุณ
พวกเราไม่ใช่เป้าหมาย มันคงมาสอดแนมหน่ะ
ชินเฮ : แต่ฉันกลัวนี่หน่า
คุณเข้าใจหรือเปล่า
เทโจ : เอาแบบนี้นะ
ผมจะปกป้องคุณเองไม่ว่าจะยังไง
จูซม : ว่าแต่
ถ้าพวกเธอไปถึงที่หลบภัย เธอจะเอายังไงต่อหล่ะ
ไคล่า : พยายามติดต่อคนต่างชาติ
หรือสถานทูตที่ไหนก็ได้สิ
ซาซอน : เธอคิดว่าพวกเขาจะอยู่รอพวกเรางั้นเหรอ
จียอน : แต่ยังไงก็ต้องลองดูก่อนนะ
เราอาจจะได้กลับบ้านก็ได้
ซนแซ : ตอนนี้ฉันหิวจังเลยเนี่ย
อยากกินอะไรหน่อยหล่ะ
ชิสา : แหม่
เพิ่งจะกินไปเมื่อกี้เองนะจ๊ะตัวเธอ
อามินะ : เอาเป็นว่า
ถ้าเราไปถึงที่ค่ายแล้วค่อยคุยกันก็แล้วกัน
ยู่อี๋ : เบื่อเสียงเครื่องบินจริงๆเลยเนี่ย
มันทำฉันเป็นบ้าแล้ว
ในตอนนั้นเอง ตอนอันนาเจอคีธ เธอรีบเข้าไปถามเขาเรื่องลูกของเธอในทันที
อันนา : ขอโทษนะคะ
ไม่ทราบว่าเคยเห็นเด็กชายคนนี้หรือเปล่าคะ // เธอยื่นรูปให้เขาดู
คีธ : เหมือนจะเคยเห็นอยู่นะครับ
อันนา : จริงเหรอคะ
เห็นที่ไหนอย่างงั้นเหรอคะ
คีธ : ลองไปที่ค่ายหลักของเราก่อนครับ
เผื่อเขาจะอยู่ที่นั่น
จากนั้นไม่นาน
ขบวนของพวกเขาก็รีบออกเดินทางไปยังค่ายหลักในทันที
ก่อนที่กองทัพรัฐบาลจะตามพวกเขามา
กลับมายังโกดังสินค้าของมาร์ค
ในตอนนั้นเองมาร์คก็พาเวร่ามายังที่เก็บของ ขนาดโกดังมันใหญ่มาก
ตามที่มาร์คเปรยให้กับเวร่าฟัง เวร่าพอใจมากที่ได้มาร่วมงานกับเขา
เวร่า : ที่นี่ใหญ่มาก
น่าจะพอกักเก็บเสบียงให้พวกของฉันได้
มาร์ค : แน่นอนครับ แต่เรายังขาดคนเฝ้าอยู่หน่ะ
เวร่า : เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง
ฉันให้ทหารของฉันมาเฝ้าก็ได้
มาร์ค : แต่ว่า
คุณต้องให้ทหารของคุณใส่ชุดพลเรือนนะครับ
เวร่า : ต้องการจะพรางตัวสินะ
ฉันเข้าใจน่า
มาร์ค : โอเค
ว่าแต่ จะส่งสินค้ามาเมื่อไหร่ดีหล่ะครับ
เวร่า : ฉันจะรีบส่งสัญญาณให้ทหารมาส่งของ
แต่ช่วงนี้คงต้องระวังหน่อย
มาร์ค : เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นเหรอครับ
เวร่า : ทางรัฐบาลสั่งให้ฉันนำกำลังบุกเข้าจัดการกลุ่มกบฏหน่ะ
มาร์ค : งั้นเหรอ
สงสัยผมคงจะต้องเก็บตัวแล้วสินะ
เวร่า : ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า
ในตอนนั้นเอง
ลูกน้องของมาร์คก็หยิบไวน์ขวดหนึ่งมาให้กับเขา
มาร์ค : ดื่มหน่อยมั้ยครับคุณผู้หญิง
เวร่า : แน่นอน
คนอย่างฉันดื่มไม่เคยพอหรอก // ทั้งคู่นั่งดื่มไวน์ด้วยกัน
เวร่า : ท่าทางคุณจะอยู่กับฉันได้
มีเหล้าให้ฉันเยอะๆแบบนี้
มาร์ค : เฮ้อ
แพงกว่านี้ก็มีให้คุณดื่มน่า เราเป็นหุ้นส่วนกันแล้วสินะ ว่าแต่
จะเป็นมากกว่านั้นได้หรือเปล่าหล่ะ // มาร์คยื่นหน้าไปหาเวร่า
เธอเอามือปิดปากเขาไว้ก่อน
เวร่า : ไปต่อที่ห้องดีกว่า
ฉันไม่อยากให้พวกนั้นมาเจอฉันหน่ะ
กลับมาในเขตตัวเมือง
ซีวิลวิ่งหนีจากการจับกุมของทหารมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงในตัวเมือง
ในตอนนั้นเขาคิดว่าเขาหลุดพ้นจากการตามล่าของทหารแล้ว เขาก็เดินต่อไปในเมือง
เผื่อว่าจะมีอะไรให้เขากินจนจบสงคราม
แต่ในระหว่างที่เขากำลังเดินเล่น จู่ๆเขาก็โดนตีหัวเข้าที่ด้านหลัง ทำเอาซีวิลสลบในทันที
จากนั้นพวกมันก็ลากซีวิลมาในตึกแห่งหนึ่ง จากนั้นไม่นาน
เขาก็ตื่นขึ้นมาอยู่ในห้องขังห้องหนึ่ง
ซึ่งในตอนนั้นมีคนอื่นๆก็อยู่ในห้องเดียวกับเขาด้วย
ซีวิล : เฮ้ย
พวกนาย นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นหล่ะเนี่ย
“ฉันก็ไม่รู้ โดนจับมาที่นี่เหมือนกับนายนี่แหละ”
“ฉันมาแถวนี้เพื่อมาหาอาหาร แต่จู่ๆก็โดนตีสลบแล้วก็มาฟื้นที่นี่หน่ะ”
จากนั้นเอง พวกที่อยู่ด้านนอกก็เริ่มคุยกัน
ซีวิลไปแอบฟังพวกเขาพูดด้วยในตอนนั้น
“เฮ้ย ได้ข่าวหรือยัง พวกรัฐบาลกำลังจะบุกเข้ามาหน่ะ”
“งั้นเหรอ แบบนี้ก็ไม่ต้องกินคนแล้วสินะ”
“เออ ถ้างั้นพรุ่งนี้ก็รีบๆฆ่ามันให้หมด เอาเฉพาะพวกที่พอกินได้ก็แล้วกัน”
“โอเค เดี๋ยวฉันคัดเลือกเองก็แล้วเอง”
ซีวิล : เฮ้ย
พวกแกคิดจะทำอะไรฉันเหรอวะ
“เงียบปากเดี๋ยวนี้ หรือแกอยากเจ็บตัวห่ะ” มันตะโกนกลับใส่ซีวิล
ซีวิล : บ้าเอ้ย
กูไม่ยอมเป็นอาหารของพวกมึงหรอกนะเว้ย
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้กัน คืนนี้ปากดีไปเถอะหว่ะ” จากนั้นพวกมันสองตัวก็ออกไปด้านนอก
“เฮ้ย นี่เราจะโดนมันกินเหรอวะเนี่ย”
ซีวิล : เรื่องอะไรหล่ะวะ
ฉันต้องหนีไปจากที่นี่ให้ได้
ซีวิลพยายามหาทางหนีออกไปจากตึกนรกแห่งนี้
เพราะไม่เช่นนั้นเขาคงเป็นอาหารของพวกมันแน่ๆ
กลับมายังกลุ่มกบฏแปดหนุ่ม
หลังจากที่พวกเขาไปสกัดทัพของรัฐบาลที่เข้ามาสอดแนมในเมือง
พวกเขาก็รีบกลับเข้ามายังเขตปลอดภัยเพื่อที่จะรับมือกับกลุ่มรัฐบาล
พวกเขามาที่ร้านค้าแห่งหนึ่งพร้อมกับอาหารกระป๋องบางส่วน
จากนั้นพวกเขาก็นั่งพักถอนหายใจกันพักใหญ่
อัลเบิร์ต : เฮ้อ
กว่าจะหนีกันมาได้ เกือบตายแล้วมั้ยหล่ะ
ริกโก้ : มีอาหารกระป๋องมาด้วย
เดี๋ยวฉันทำให้พวกนายกินเอง // ในตอนนั้นทุกคนพร้อมใจกันจะแกะกระป๋องเพื่อที่จะรีบกินเดี๋ยวนี้
ริกโก้ : หยุดก่อน
เดี๋ยวนี้เลย ทำไมรีบกินจัง
มีกัส : นี่พวกเรายังโดนมาหนักไม่พอหรือไงเนี่ย
ทาเคชิ : นั่นสิ
วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์เท่าไหร่ วันหลังแล้วกันนะริกโก้
ไซม่อน : ใช่
ฉันว่านายอย่าทำอีกเลยนะตัวเอง ฉันขอหล่ะ
ริกโก้ : นี่แก!!
มินโฮ : ช่างมันก่อนเถอะ
ว่าแต่ เราจะเอายังไงต่อเรื่องนี้
ดราก้อน : จะยังไงหล่ะ
ทหารรัฐบาลบุกมาแน่ๆ ไม่ว่าจะยังไง
ซุนฮยอน : ตอนนี้คนของเราก็เป็นรอง
ไหนจะอาวุธอีกต่างหาก
ทาเคชิ : เอาแบบนี้นะ
ฉันจะลองไปติดต่อกับกลุ่มกบฏกลุ่มอื่นดู
อัลเบิร์ต : ฉันว่า
พวกนั้นก็คงหัวปั่นไม่ต่างกับเราหรอก
มีกัส : ว่าแต่
เราจะไปกันต่อไหนดีหล่ะเพื่อน
ดราก้อน : เราต้องรีบไป
ยิ่งช้าแผนการตั้งรับจะยิ่งไม่ได้ผลมากขึ้นหน่ะ
ริกโก้ : แต่ก่อนอื่น
พวกนายไม่ให้ฉันทำอะไรให้กินจริงๆเหรอ // ทุกคนถึงกับรีบตักอาหารกระป๋องเข้าปาก
ซุนฮยอน : เฮ้อ
เหนื่อยจัง ได้กินอะไรแบบนี้ค่อยดีหน่อย
ไซม่อน : วันนี้เราขอซักวันเถอะนะริกโก้
ริกโก้ : ฮืม
พวกนายนี่มันเหลือเกินจริงๆเลยนะเฟ้ย
มินโฮ : เฮ้อ
ฉันว่าเราคงจะไม่รอดถึงพรุ่งนี้แน่ๆ // มินโฮพูดพลางตักอาหารเข้าปากอย่างรวดเร็ว
กลับมายังร้านกาแฟแห่งหนึ่งในตัวเมือง
หลังจากที่อนาตาเซียตื่นขึ้นมา
ในตอนนั้นเองพ่อของเขาก็เอาน้ำมาให้เขาล้างหน้าล้างตา
เพื่อทำให้เขาสดชื่นก่อนที่จะมาทานอาหารเช้าต่อ
อนาตาเซีย : ผมขอกินเลยได้หรือเปล่าครับพ่อ
เวสต์ : ไม่ได้
อย่าอิดออด เดี๋ยวก็ได้กินเองหล่ะ
อนาตาเซีย : คุณพ่อเวสต์สอนไว้
ต้องล้างหน้าแปรงฟันก่อนกินข้าว // อนาตาเซียฮัมเป็นเพลง
เวสต์ : นี่
จะต้องให้พ่อเอาหัวกดน้ำมั้ยห่ะ // อนาตาเซียรีบล้างหน้าอย่างไว
จากนั้นก็รีบลงมาด้านล่าง กินอาหารเช้ากับพ่อของเขา
อนาตาเซีย : ว่าแต่
เราจะเอายังไงต่อดีหล่ะครับพ่อ
เวสต์ : อยู่ในนี้เราปลอดภัยน่า
ไม่ต้องห่วงไปหรอก
อนาตาเซีย : แต่เสบียงของเรากำลังจะหมดนะครับพ่อ
เวสต์ : อีกไม่นานสงครามคงจบแล้วหล่ะ
อีกอย่าง เสบียงของเรามีมากพออยู่แล้วน่า ลูกเบื่อที่นี่ใช่มั้ยหล่ะ
อนาตาเซีย : ก็แหงะหล่ะครับ
เสียงปืนใหญ่ดังทั้งคืน ผมนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้วเนี่ย
เวสต์ : อดทนหน่อยนะลูก
มันต้องจบลงอีกไม่นานแน่ๆ
อนาตาเซีย : ก็หวังไว้แบบนั้นครับ
// อนาตาเซียตักอาหารเข้าปากไปเรื่อยๆ
เวสต์ต้องคอยปลอบใจลูกของเขาไม่ให้ขวัญเสียไปมากกว่านี้
กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน
พวกของนอร์รีนยังคงแยกย้ายกันพักผ่อน บางส่วนก็ช่วยกันทำอุปกรณ์เพิ่มเติม
เพื่อรับมือกับกลุ่มโจรที่จะบุกมาต่อไป แต่ในระหว่างนั้นเอง เสียงปืนใหญ่ก็ดังมาแต่ไกล
ทำเอาพวกเขาตกใจกันมาก จนต้องมารวมตัวกันอยู่ที่ห้องโถงใหญ่
โทนี่ : นี่
ทุกคน สงสัยว่าพวกมันคงจะเริ่มการบุกแล้วหล่ะ
เอสเทอร์ : นั่นสิ
ว่าแต่คุณอนูวาเมื่อไหร่จะกลับมาหล่ะ
ไลฟ์ : อาจจะไม่กลับมาแล้วมั้ง
นางอยู่กับพวกกบฏแล้วนี่
นอร์รีน : ว่าแต่
ยูจีนเขาหายไปไหนกันหล่ะเนี่ย
มิเชล : ฉันก็ไม่รู้
สงสัยคงจะอยู่แถวนี้แหละ
เอจิ : ไม่ว่าจะยังไง
เราต้องอยู่ด้วยกันเอาไว้นะครับ
จากนั้นไม่นาน ลูกปืนใหญ่ก็มาตกที่บริเวณอพาร์ทเม้นท์ของพวกเขา
ทำเอาพวกเขาถึงกับต้องรีบหมอบลงกับพื้น
บารีร่า : นี่เราจะตายกันหมดอย่างงั้นเหรอเนี่ย
ซีโร่ : ไม่หรอกครับ
ผมจะไม่ยอมตายอยู่ที่นี่หรอก
มิสซึ : ตอนนี้อลิซกำลังซ่อมอพาร์ทเม้นท์อยู่
ภาวนาอย่าให้มันยิงมาโดนเราก็แล้วกัน
อลิซ : ตอนนี้ฉันยังขาดอุปกรณ์เพิ่มเติมอยู่
พอจะหาได้หรือเปล่าหล่ะ
นอร์รีน : เดี๋ยวคืนนี้ผมจะไปหาของเอง
พวกคุณไม่ต้องห่วงนะ
หลังจากที่เสียงปืนใหญ่ดับลง พวกเขาก็ออกมาจากที่ซ่อนอย่างหมดกังวล
แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า กองทัพของรัฐบาลกำลังจะเริ่มกวาดล้างผู้คนในเมืองแล้ว
=================================================================
สงครามระหว่างกลุ่มกบฏกับรัฐบาลกำลังจะเปิดฉากขึ้นแล้ว พวกเขาจะทำอย่างไรกันต่อไป ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ความคิดเห็น