คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 13 : จุดเริ่มต้นของการเผชิญหน้า
หลังจากที่นอร์ดิกได้มีคำสั่งให้จัดเตรียมกองทัพ
นอร์ดิกก็นั่งเตรียมแผนการเพื่อตอบโต้พวกโซราบอลในทันที
เขากับอาร์เทอร์นั่งปรึกษากันในห้องอยู่นาน ในขณะเดียวกัน
อาร์เทมิสกับเอลิซ่าก็เดินเข้ามาในห้องเพื่อเข้ามาร่วมแผนการด้วย
เอลิซ่า : สวัสดีค่ะ
ดิฉันรบกวนหรือเปล่าคะ
นอร์ดิก : อ้อ
ไม่รบกวนหรอกครับ เชิญก่อนสิครับ
อาร์เทมิส : ตอนนี้คุณก็นำกำลังเตรียมเข้าสู้กับพวกโซราบอลแล้วสินะ
อาร์เทอร์ : ตอนนี้เราแค่รอดูสถานการณ์ก่อนหน่ะครับ
นอร์ดิก : ใช่ครับ
ตอนนี้พวกโซราบอลต้องผ่านแคว้นเดลล์ ซึ่งตอนนี้กำลังวุ่นวายหนัก
พวกมันคงจะอ่อนกำลังลงในไม่ช้าครับ
ในขณะเดียวกัน
อาบาตูในตอนนั้นเองก็วิ่งเข้ามาส่งจดหมายให้กับนอร์ดิก
เนื่องจากเขาได้รับข้อความจากมาร์ธ่ามาแล้ว
อาบาตู : คุณหนูครับ
มีจดหมายจากคุณหญิงมาส่งหน่ะครับ // นอร์ดิกรีบหยิบมา
จากนั้นก็เก็บเอาไว้ก่อน
นอร์ดิก : เดี๋ยวผมอ่านทีหลังเองครับคุณอาบาตู
และในตอนนั้นเอง
นิโคลัสก็เดินเข้ามาพร้อมกับแผนโครงการใหม่เกี่ยวกับทางรถไฟของเขา
เขาเข้ามาโดยที่นอร์ดิกกำลังคุยกับคนอื่นๆอยู่
นิโคลัส : นอร์ดิก
พวก ฉันมีแผนทางรถไฟมาเสนอให้นายหน่ะ
เอลิซ่า : ทางรถไฟ
นี่จะสร้างกันตอนนี้เลยงั้นเหรอ
นิโคลัส : แน่นอนครับ
เพราะเส้นทางจากที่นี่ไปโซราบอลลำบากมาก แถมฟิลล์บอนกำลังมีคนเดินทางไปขุดน้ำมัน
งานนี้จึงเหมาะมากเลยครับ
อาร์เทมิส : เฮ้อ
หัวการค้ามากๆเลยเพื่อนนอร์ดิกคนนี้
นอร์ดิก : งั้นเหรอ
แล้วแผนการสร้างจะมีกี่เดือน แล้วค่าใช้จ่ายหล่ะ
นิโคลัส : ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่หรอก
เพราะเรามีคนงานอพยพมาใหม่เยอะมาก ส่วนเงินเราค่อยคุยกันทีหลังก็ได้
อาร์เทอร์ : คุณหนูว่ายังไงครับ
นอร์ดิก : ผมว่าน่าสนใจนะ
เพราะในอนาคตเราอาจต้องใช้มัน เอาเป็นว่า นายไปจัดการหาของมาก่อนแล้วกัน
นิโคลัส : ได้เลย
ฉันรู้ว่าจะต้องไปหาที่ไหน
และในพระราชวัง ห้องรับรองแขก สี่หนุ่มพร้อมหนึ่งสาวจากตระกูลดังก็กำลังนั่งพักผ่อนอย่างสบายใจ
เนื่องจากว่าเขาเป็นแขกคนสำคัญของนอร์ดิก
เมเทอร์ : นี่พวกนาย
เบาๆหน่อยสิ เล่นเป็นเด็กไปได้
มาร์ธิว : นั่นสิ
ทำอะไรเป็นเด็กๆไปได้นะพวกนายเนี่ย
เอเทอร์ : โธ่พี่
มาอยู่ในที่สบายๆแบบนี้ทั้งทีนะเนี่ย
เลออน : ใช่
งานนี้ต้องขอบคุณพี่เอลิซ่าเขาเลยนะ
แมทธิว : จริงหรือเปล่า
ที่เอลิซ่ากับคุณนอร์ดิกเขาแบบว่า…
เมเทอร์ : นี่พวกนาย
อย่าเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้นสิ
และในขณะนั้นเอง ครอบครัวของคาเนส
เพื่อนอาร์เทอร์ ก็ถูกเชิญเข้ามาร่วมงานนี้ด้วย
โดยที่พวกเขาถูกเชิญให้ไปที่ห้องรับรองสุดหรู
ซึ่งในตอนนั้นเองพวกเขาทั้งห้าก็แปลกใจ แต่ก็ยังเดินไปต้อนรับพวกเขาตามธรรมเนียม
มาร์ธิว : สวัสดีครับ
พวกคุณคงจะเป็นแขกคนสำคัญสินะครับ
คาเนส : ใช่ครับ
ผมคาเนส เป็นเพื่อนกับอาร์เทอร์เขาครับ
ระหว่างที่กำลังแนะนำตัวกัน
อยู่ดีๆเลออนก็จ้องมองอาเรียสตาไม่กระพิบ ทำเอาเอเทอร์ต้องไปสะกิดเขา
เอเทอร์ : นี่พี่
เป็นอะไรเนี่ย มองหญิงอีกแล้วนะพี่
เลออน : ฉันว่า
ฉันเจอคนที่จะจริงจังได้แล้วหล่ะ
เอเทอร์ : ถุ๊ย
ขี้โม้หว่ะพี่ // และในขณะนั้นเอง แมทธิวก็เดินเข้าไปทำความรู้จักกับโคน่าโดยที่ยังไม่มีใครพูดอะไร
แมทธิว : สวัสดีครับ
ผมแมทธิวนะครับ คุณผู้หญิงชื่ออะไรครับ
โคน่า : อ่า
ดิฉันโคน่าค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
ดราโก้ : เอาเป็นว่า
ผมขอไปหาที่เงียบๆนั่งพักก่อนดีกว่านะครับ
อาร่า : แหม่คุณคะ
รอดิฉันด้วยสิ // ทั้งคู่เดินออกไปนั่งพักแถวนั้น
ปล่อยให้พวกคนหนุ่มสาวเขาคุยกันต่อไป
เลออน : ไม่ทราบว่า
คุณติดธุระอะไรหรือเปล่า ผมจะเลี้ยงเครื่องดื่มคุณหน่อย
อาเรียส : อ้อ
ได้ค่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ
เลออน : งั้นเชิญด้านนี้เลยครับ
// เลออนเชิญอาเรียสไปหาอะไรดื่มแถวนั้น
ในขณะที่แมทธิวก็ไปคุยกับโคน่าที่อื่นเหมือนกัน
คาลิมบ่า : ท่าทางพวกเราจะคุ้นเคยกันเร็วมากเลยนะ
เมเทอร์ : นั่นสินะ
แต่ก็ดีนะคะ จะได้รู้จักกันไว้
คาเนส : เอ๊ะ
ว่าแต่ อาเรียเขาหายไปไหนกันเนี่ย
มาร์ธิว : อาเรีย
เธอเป็นใครกันงั้นเหรอครับ
อีกด้านหนึ่งของห้องโถง ในตอนนั้นอาเรียแอบมาเดินเล่นเงียบ
แต่ในตอนนั้นเอง เธอก็เดินชนกับเอ็นเข้าอย่างจัง
ในตอนนั้นเองเธอก็ล้มลงกับพื้นทันที
อาเรีย : โอ๊ย
นี่คุณ มาเดินชนฉันทำไมหล่ะเนี่ย
เอ็น : เอ้า
อะไรกันเนี่ย มาๆๆๆ เดี๋ยวผมช่วย // เอ็นประคองอาเรียไปนั่งแถวนั้น
ซึ่งบรรยากาศค่อนข้างน่ารมย์รื่น
เอ็น : ผมขอโทษนะ
ว่าแต่คุณเป็นใครงั้นเหรอ
อาเรีย : ฉันอาเรีย
วันนี้เพื่อนฉันมาเยี่ยมนายพลอาร์เทอร์ที่นี่หน่ะ ว่าแต่นายเป็นใครกันหล่ะ
เอ็น : ผมชื่อเอ็น
เป็นพ่อค้าที่นี่ เพื่อนผมเป็นสหายกับท่านผู้นำที่นี่หน่ะ
อาเรีย : แหม่
ถ้างั้นคิดว่าจะชนใครก็ได้สินะ
เอ็น : ไม่
ผมไม่เคยคิดแบบนั้น อย่าคิดมากสิ เดี๋ยวผมช่วยนวดให้คุณแล้วกัน // เอ็นนวดเท้าให้กับอาเรีย
เผื่อว่าจะช่วยให้เธอผ่อนคลายได้บ้าง
กลับมาที่ชายแดนแคว้นเดลล์
ซอลกับเซเลนส์นำกำลังพลไปตรึงกำลังไว้ที่ชายแดน
เพื่อป้องกันข้าศึกที่อาจจะบุกเข้ามาได้ทุกเมื่อ
เซเลนส์ : นายว่า
พวกมันจะมาถึงที่นี่เมื่อไหร่หล่ะ
ซอล : ฉันก็ไม่รู้
ต้องดูว่าพวกมันจะยึดแคว้นเดลล์ตอนไหนนะ
เซเลนส์ : ว่าแต่
นายไปไงมาไงถึงได้มาเจอท่านผู้นำได้หล่ะ
ซอล : ก็
เรื่องมันซับซ้อนนิดหน่อยหน่ะ
ในขณะเดียวกัน
มีทหารนายหนึ่งรีบวิ่งเข้ามารายงานสถานการณ์กับพวกเขาทั้งคู่อย่างเร่งรีบ
“ท่านครับ แย่แล้วครับ
มีเรือไม่ทราบฝ่ายลอยลำมาใกล้ฝั่งเราครับ”
เซเลนส์ : ตอนนี้กำลังพลของเราเตรียมพร้อมหรือยัง
“เราเตรียมปืนใหญ่จะจมเรือพวกมันแล้วครับ”
ซอล : เรืองั้นเหรอ
เดี๋ยวฉันไปดูเอง ห้ามยิงเด็ดขาด นี่เป็นคำสั่ง // ซอลรีบขี่ม้าไปยังชายฝั่งก่อนที่เซเลนส์จะตามไปด้วย ในตอนนั้นเอง ทหารริงก้าก็เตรียมปืนใหญ่จะจมเรือของพวกที่กำลังจะเทียบฝั่ง
“กลับออกไปซะ ไม่งั้นเราจะยิงพวกคุณ”
ซอล : อย่ายิงนะ
ให้พวกเขาขึ้นฝั่งก่อน เดี๋ยวนี้ // พวกทหารต้องปล่อยให้พวกเขาเทียบฝั่ง
ก่อนที่ทหารนับหมื่นนายจะยกพลขึ้นบก ในตอนนั้นชายคนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปกอดกับซอลในทันที
“ซอล ฉันนึกว่าจะไม่ได้เจอนายอีกแล้วนะเพื่อน”
ซอล : ฉันไม่เป็นไรหรอก
ยินดีมากๆเลยนะที่นายมาที่นี่
เซเลนส์ : ขอโทษนะ
พวกนายเป็นใครกันอย่างงั้นเหรอ
ซอล : พวกเขาเป็นสหายฉันเอง
พวกเขาเป็นกลุ่มปฏิวัติหน่ะ
“ขอบคุณมากนะครับ ผมชื่อไมเคิล
ตอนนี้เรามีคนสองหมื่นคนที่มาที่นี่หน่ะครับ”
ซอล : ไม่ต้องห่วงนะเซเลนส์
พวกเขาไม่มีอะไรหรอก ผมจัดการได้ ตอนนี้พวกนายไปพักด้านนั้นก่อนดีกว่านะ
ไมเคิลพาคนของเขาราวๆสองหมื่นคนไปพักผ่อนแถวๆชายหาด
“ท่านครับ เราจะเอายังไงกับพวกเขาดีครับ”
เซเลนส์ : รับพวกเขาเอาไว้
“ทั้งสองหมื่นคนเลยเหรอครับ”
เซเลนส์ : คุณนอร์ดิกสั่งไว้ ให้ดูแลพวกเขา เอาหล่ะ ให้อาหารกับพวกเขาด้วย
“ครับผม”
ในขณะเดียวกัน เฟรย์อากับพรรคพวกของเธอก็ขี่ม้ามา
พร้อมกับคาราวานสินค้าของเธอ ซอลเห็นเธอเข้าก็แปลกใจ รีบไปต้อนรับเธอในทันที
ซอล : อ้าว
คุณเฟรย์อาครับ มีธุระอะไรเหรอครับ
เฟรย์อา : ไม่มีอะไรหรอก
ฉันแค่เป็นห่วงนายหน่ะ ฉันเอาเสบียงส่วนหนึ่งมาให้หน่ะ
ซอล : ขอบคุณมากครับ
ว่าแต่ คุณไม่ทำงานเหรอวันนี้
เฟรย์อา : ก็คุณเอลิซ่าสั่งให้ฉันมาช่วยนายนี่แหละ
เอาเป็นว่าตามสบายนะ // จากนั้นเองเธอก็ไปจัดการเรื่องเสบียงให้กับคนของซอล
ไมเคิล : ใครวะเพื่อน
โคตรสวยเลยอ่ะ แฟนนายงั้นเหรอ
ซอล : บ้าเหรอ
นั่นคุณเฟรย์อา สมาชิกระดับสูงของสมาคมลับนะ
ไมเคิล : ไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้านายจะสนใจผู้หญิงหน่ะ
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เปิดใจให้เธอหน่อยก็ดีนะเพื่อน // เขาพูดทิ้งท้ายจากนั้นก็จากไป
ทางด้านของไซโซและเคจา
พวกเขาทั้งคู่นำกำลังพลห้าหมื่นไปเสริมกำลังให้กับทหารฟิลล์บอน
พวกเขาต้องเดินผ่านทะเลทรายอันร้อนระอุเพื่อไปยังจุดหมาย ดูท่าทางความร้อนจะฆ่าพวกเขาก่อนที่จะโดนทหารโซราบอลเล่นงาน
ไซโซ : เฮ้อ
ทะเลทรายนี่ร้อนเนอะพี่
เคจา : นี่ใจเสาะจังเลย
อย่าลืมสิเรายังต้องไปอีกไกลนะ
ไซโซ : โอ๊ยตาย
ถ้าเราไม่มีน้ำตอนนี้ เราจบเห่แน่ครับ
เคจา : พี่รู้
พี่ก็หิวน้ำเหมือนกับนายนั้นแหละ
แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เจอโอเอซิสขนาดใหญ่
มากพอที่จะเลี้ยงทหารของริงก้า
ทหารริงก้าเห็นตอนนั้นไม่รอช้ารีบวิ่งไปยังโอเอซิสแห่งนั้นทันที
แต่พวกเขาดันมาเจอกองโจรทะเลทหารซะก่อน พวกเขาทั้งสองฝ่ายเกือบจะปะทะกันแล้ว
แต่ยังไงที่หัวหน้าของกลุ่มโจรได้ห้ามเอาไว้ก่อน จากนั้นเองหัวหน้าของกลุ่มโจรก็ไปเจรจากับทหารริงก้าในทันที
ซิกนัส : สวัสดีครับ
พวกคุณเป็นทหารริงก้าหรือเปล่าครับ
ไซโซ : ใช่ครับ
ตัวจริงเสียจริงเลยครับเนี่ย
ซิกนัส : ขอบคุณสวรรค์
ขอเชิญพวกคุณไปพักผ่อนก่อน แล้วพวกคุณสองคนมากับผมได้หรือเปล่าครับ
เคจา : ได้ค่ะ
// ทหารของริงก้ารีบไปพักเหนื่อยที่โอเอซิสแถวนั้น
จากนั้นเองซิกนัสก็พาไซโซกับเคจาไปยังเต้นท์ของเขาซึ่งมีแผนการรบวางไว้อยู่
ซิกนัส : ตอนนี้ต้องบอกไว้เลยนะครับ
พวกโซราบอลกำลังจะประชิดเมืองหลวงแล้ว ถ้าพวกมันมาถึง มันยึดได้แน่ๆ
ไซโซ : ว่าแต่
พวกนายมาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ
ซิกนัส : เรามาหาเสบียงกับน้ำดื่มเพิ่มเติมหน่ะครับ
เคจา : ฉันว่า
ตอนนี้เราควรจะตัดกำลังพวกมันก่อนดีกว่านะ
ซิกนัส : เราเคยทำมาแล้วครับ
แต่ก็โดนทหารหญิงของพวกมันจัดการจนเละเลยครับ
ไซโซ : ทหารหญิง
ใครกันอย่างงั้นเหรอครับ
ซิกนัส : ได้ยินว่าเธอชื่อสการ์เล็ต
ลูกสาวนายพลนอร์ทหน่ะครับ //
เคจาได้ยินชื่อถึงกับต้องตกตะลึง
เคจา : เธอมาที่นี่ด้วยเหรอ
ฉันจะจัดการเรื่องนี้ ตัดกำลังพวกมันแบบเดิมนี่แหละ ฉันรู้ว่าต้องทำยังไงกับเธอ
ซิกนัส : ทำยังไงเหรอครับ
// เคจายิ้มที่มุมปาก
กลับมายังแคว้นเดลล์ หลังจากที่ผู้เฒ่าตาร์กสั่งให้ทหารบุกเข้าแนวรับของนายพลบูล
นายพลบูลยิงปืนใหญ่ใส่ทหารของตาร์กสกัดเอาไว้
แต่ทหารของตาร์กก็ยังไงบุกเข้าไปเรื่อยๆราวกับสายน้ำหลาก
ตาร์ก : ยิงปืนใหญ่ของเราใส่พวกมันบ้างสิ
ผู้เฒ่าตาร์กสั่งให้ปืนใหญ่ยิงกดแนวรับของนายพลบูล
แต่นายพลบูลขุดแนวรับเพื่อรับมือไว้ก่อนแล้ว ทำให้ปืนใหญของตาร์กทำอะไรไม่ได้มาก
บูล : ถ้าพวกมันเข้ามาใกล้
ยิงปืนกลหมุนได้เลยนะ
เมื่อทหารของตาร์กวิ่งเข้ามาในระยะปืนกล
ปืนกลแบบหมุนก็ยิงสกัดพวกเขาเอาไว้ ทำให้ทหารของตาร์กแทบจะบุกเข้าไปไม่ได้เลย
ตาร์ก : บ้าเอ้ย
มันมีอาวุธแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
“ผมก็ไม่ทราบครับ ผมว่าเราถอยก่อนดีกว่านะครับ”
ตาร์ก : บ้าเอ้ย
สั่งถอนกำลังก่อน ไว้ค่อยจัดการกับมันใหม่ // ทหารของตาร์กพากันถอนกำลัง
แต่ทิ้งคนเจ็บเอาไว้
นายพลบูลสั่งทหารให้เคลียร์พื้นที่โดยรอบป้องกันไม่ให้พวกของตาร์กย้อนกลับมาโจมตี
บูล : พวกมันถอนกำลังไปแล้ว
ยึดอาวุธของพวกมันให้หมด
“ท่านครับ แล้วพวกที่บาดเจ็บจะทำยังไงหล่ะครับ”
บูล : ฆ่าให้หมด
ถ้าใครมันคิดจะขัดขืน
จากนั้นนายพลบูลก็เดินจากไป
ปล่อยให้ทหารของเขาฆ่าทุกคนที่ขัดขืนเขา
กลับมายังชายแดนแคว้นเดลล์
กลุ่มของอราชและโอลลี่ก็เดินทางมาเรื่อยๆ จนถึงชายแดนแคว้นริงก้าในจนได้ ในขณะนั้นเอา
ทหารริงก้าก็เดินเข้ามาตรวจสอบกลุ่มของพวกเขา ว่าเป็นอันตรายต่อริงก้าหรือเปล่า
“พวกคุณเป็นใครกันอย่างงั้นเหรอ”
อราช : ผมเป็นชาวมอร็อค
หนีมาจากการโจมตีของพวกโซราบอลหน่ะครับ
โอลลี่ : ใช่ค่ะ
พวกเราเป็นเพื่อนกับสมาชิกที่นี่หน่ะค่ะ
“พวกเราต้องขอค้นพวกคุณหน่อยหล่ะ”
พวกเขาทำการตรวจค้นอาวุธและของอันตรายของอราชกับโอลลี่เพิ่มเติม
ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ให้ทั้งคู่ผ่านด่านไปได้
พวกเขามาถึงแคว้นริงก้าได้โดยสำเร็จซะที
โอลลี่ : สำเร็จแล้ว
ฉันต้องไปเจอคุณเอลิซ่าซะทีหล่ะ
อราช : เอลิซ่า
นายใหญ่ของกลุ่มสมาคมลับงั้นเหรอ
โอลลี่ : ใช่
ฉันต้องไปรายงานสถานการณ์กับเธอหน่อยหล่ะ
อราช : งั้นก็โชคดีนะ
โอลลี่ : แล้วนายจะไปไหนต่ออย่างงั้นเหรอ
อราช : ฉันก็ไม่รู้
ฉันยังไม่แน่ใจว่าจะเอายังไงต่อ
โอลลี่ : ถ้านายยังคิดไม่ออก
นายก็มากับฉันก่อนก็ได้นะ
อราช : จะดีเหรอ
เธอไม่ว่าเหรอ
โอลลี่ : ไม่หรอก
เราเจออะไรด้วยกันมาเยอะนี่นะ แค่นี้จะกลัวอะไรหล่ะ
อราช : ได้สิ
ขอบใจมากนะ
และอีกฝากหนึ่ง
กองทัพของฟีนด์ก็เคลื่อนพลมาอย่างสิ้นหวัง เนื่องจากทหารของเขาตายไปมากมาย
ตอนนี้เขาแทบจะไม่เหลือกำลังใจอะไรในการรบอีกแล้ว
“ท่านครับ อีกไม่กี่อึดใจก็จะถึงริงก้าแล้วครับ”
ฟีนด์ : ฉันรู้
แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าจะยังไหวหรือเปล่านะ
“ท่านครับ ท่านอย่าเพิ่งยอมแพ้ตอนนี้สิครับ”
ฟีนด์ : ฉันไม่ได้ยอมแพ้
ฉันแค่เหนื่อยเท่านั้นเอง
“ผมเข้าใจครับ แต่ตอนนี้เรายังไม่ตายนี่ครับ”
ฟีนด์ : ขอบใจมากนะผู้หมวด
ว่าแต่ตอนนี้ทหารเราเหลือแค่ไหนกันหล่ะ
“ตอนนี้เราเหลือทหารแค่ 700 กว่านาย แถมกระสุนของเราก็ใกล้จะหมดแล้ว”
ฟีนด์ : แล้วเสบียงของเราหล่ะ
“เหลือพอแค่ 2 วันครับ”
ฟีนด์ : แค่นั้นก็น่าจะพอแล้วหล่ะ
อีกไม่นานเราก็จะถึงแล้วสินะ
“ครับท่าน”
กลับมายังกองทัพของโซราบอล ชายแดนแคว้นเดลล์
หลังจากที่กองทัพโซราบอลสั่งยิงปืนใหญ่ใส่พื้นที่แคว้นเดลล์ทั่วตารางนิ้ว
จากนั้นไม่นานโซรอนก็สั่งให้กองทัพของเขาเข้าเหยียบแคว้นเดลล์ในทันที
โซรอน : คูเปอร์
สั่งให้ทหารของเราบุกเข้าไป เราต้องยึดแคว้นเดลล์ใหได้
คูเปอร์ : ได้ครับท่าน
// คูเปอร์ขี่ม้าไปสั่งการทหารให้เข้าโจมตีแคว้นเดลล์ทันที
หลังจากนั้นไม่นาน
พวกเขาก็ถูกกองทัพและกองโจรของเดลล์โจมตีอย่างหนัก ทำเอาพวกเขาต้องตั้งขบวนใหม่เพื่อตอบโต้พวกมัน
คูเปอร์ : ทหารม้า
ตามฉันมาทางนี้ // คูเปอร์พาทหารม้าของเขาฝ่าแนวยิงของพวกมัน
แล้วเข้าโจมตีทางด้านข้างที่การป้องกันด้อยกว่า
วิธีนี้ทำให้คูเปอร์จัดการแนวรับของพวกมันเอาไว้ได้
โซรอน : สหายเดลล์ทั้งหลาย
ฉันกำลังจะไปหาแกแล้ว
จากนั้นเอง
ทหารของโซราบอลก็บุกเข้าไปยังแนวรับของพวกเดลล์ ผลักดันให้ทหารเดลล์ถอยกลับไปได้
พวกเขาจัดการทหารเดลล์ได้อย่างง่ายดาย
“ท่านครับ ตอนนี้เรายึดพื้นที่ตรงนี้ได้แล้วครับ
เอายังไงต่อดีครับ”
คูเปอร์ : สั่งทหารม้า
จัดการพวกที่คิดจะหนี อย่าให้พวกมันตั้งกำลังโต้กลับได้
ทหารม้าของโซราบอลจัดการกับพวกที่กำลังจะถอยอย่างง่ายดาย
ทหารแคว้ลเดลล์ระส่ำระส่ายอย่างหนัก จนต้องหนีกลับเข้าไปในเมือง
อีกฝากหนึ่ง
หลังจากที่ทหารของเอ็ดเวิร์ดได้ทำการพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว
พวกเขาก็ออกเดินทางเพื่อเข้าสำรวจแคว้นเดลล์ต่อไป
พวกเขาได้รับคำสั่งให้สำรวจรอบเมืองและจัดการกลุ่มกบฏที่คิดจะต่อต้าน
พวกเขานำกำลังสำรวจแถบนั้นทั้งวันทั้งคืน แต่ในขณะนั้นเอง
พวกเขาก็โดนลอบโจมตีจากทหารที่ไม่ทราบฝ่าย
พวกเขาต้องรีบหาที่หลบจากนั้นก็ยิงตอบโต้พวกมัน
เอ็ดเวิร์ด : ทหาร
อย่าให้พวกมันล้อมเราได้ โจมตีด้านข้างของพวกมัน
เอ็ดเวิร์ดนำทหารของเขาฝ่าออกไป
จากนั้นก็เริ่มจัดการพวกมันที่ด้านข้าง ทหารของเขาจัดการกับพวกมันได้อย่างง่ายดายเพราะมีอาวุธที่ทันสมัยกว่า
จากนั้นไม่นานพวกมันก็ถอยกลับไป จากนั้นเอ็ดเวิร์ดก็รีบเคลียร์พื้นที่ในทันที
“ท่านครับ ไอ้หมอนี่มันยังไม่ตายครับ”
เอ็ดเวิร์ด : พาเขามาทางนี้
ฉันมีอะไรจะถามเขาหน่อย //
ทหารคนนั้นลากตัวชายที่บาดเจ็บมาหาเอ็ดเวิร์ด
เอ็ดเวิร์ด : พวกนายเป็นใคร
แล้วสังกัดกองทัพไหนเหรอ
“พวกเรา พวกเราเป็นกลุ่มกบฎหน่ะ”
เอ็ดเวิร์ด : งั้นเหรอ
ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้ใครกำลังคุมแคว้นเดลล์อยู่หน่ะ
“ตอนนี้แคว้นเดลล์ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคน 5 กลุ่มครับ”
เอ็ดเวิร์ด : เป็นพวกไหนบ้างหล่ะ
“ผมก็ไม่รู้ ผมก็แค่ชาวบ้านธรรมดาที่อยากได้เงินหน่ะครับ”
เอ็ดเวิร์ด : ปล่อยมันไปก่อน
ท่าทางเขาจะไม่รู้อะไรมากเท่าไหร่นะ
“จะดีเหรอครับท่าน”
เอ็ดเวิร์ด : ไม่เป็นไรหรอกน่า
ปล่อยเขาไปเถอะ // ทหารของเอ็ดเวิร์ดจำใจต้องปล่อยตัวชายคนนั้นกลับไป
กลับมายังฟิลล์บอน ในตอนนั้นเองสการ์เล็ตได้รับคำสั่งให้ไปเสริมกำลังกับนายพลนอร์ทเพื่อเตรียมเข้าโจมตีเมืองหลวงที่กำลังจะแตก
ปืนใหญ่ของโซราบอลยิงเข้าเมืองทั้งวันทั้งคืน
จนชาวบ้านในนั้นระส่ำระส่ายไม่เป็นอันทำอะไร จากนั้นไม่นาน
สการ์เล็ตนำกำลังพลมารวมกับนายพลนอร์ทในทันที
สการ์เล็ต : ท่านพ่อ
เรียกหนูมามีอะไรหรือเปล่าคะ
นอร์ท : ตอนนี้เรากำลังจะบุกเข้าไปในเมืองหลวงแล้ว
ฉันจะใช้ทหารทั้งหมดที่มีเพื่อบุกเข้าไป
หลังจากนั้นไม่นาน
ประตูของเมืองหลวงแคว้นฟิลล์บอนก็แตกแล้ว ทหารของโซราบอลก็โห่ร้องดีใจกันยกใหญ่
พอลลี่ : ท่านคะ
ตอนนี้ประตูเมืองเปิดเรียบร้อยแล้วค่ะ
นอร์ท : เยี่ยม
สั่งทหารของเราบุกเข้าไป
หลังจากที่มีคำสั่ง
สการ์เล็ตกับพอลลี่ก็นำกำลังพลของเธอบุกเข้าไปในเมือง
จากนั้นพวกเธอก็จัดการทหารฟิลล์บอนที่อยู่ในเมืองอย่างดุเดือด ทหารฟิลล์บอนพยายามป้องกันเมืองอย่างเต็มที่แต่กองทัพโซราบอลมีมากกว่า
สุดท้ายพวกเขาก็ต้องถอยทัพออกจากเมืองไป
สการ์เล็ต : พอลลี่
จัดการล้อมพวกมันเอาไว้ อย่าให้มันหนีไปได้
พอลลี่ : แล้วพวกชาวบ้านที่เหลือจะทำยังไงคะ
สการ์เล็ต : อย่าทำอะไรชาวบ้านเด็ดขาด
หลังจากที่พอลลี่ได้รับคำสั่ง
เธอก็นำทหารของเธอเข้าจัดการพวกฟิลล์บอนที่กำลังหนี ทหารฟิลล์บอนบางส่วนก็เริ่มวางอาวุธยอมแพ้กันแล้ว
ทำให้พวกโซราบอลเข้ายึดเมืองหลวงได้อย่างสมบูรณ์แบบทันที
กลับมายังคฤหาสน์ของมาร์ธ่า
มาร์ธ่าและซาร่าได้แต่เฝ้าไข้ของนายพลเนโรอยู่ไม่ห่าง ในขณะที่นายพลเนโรก็ยังไม่ได้สติอะไรเลย
ซิลเวียร์ยังคงคอยรักษาตามอาการให้เนโรอยู่เรื่อยๆ
มาร์ธ่า : เมื่อไหร่เนโรเขาจะฟื้นเนี่ยจ๊ะ
ซิลเวียร์ : ตอนนี้ฉันกำลังจัดยาใหม่ให้ท่านนายพลเขาอยู่หน่ะค่ะ
ซาร่า : เขาหลับไปแบบนี้มาวันนึงเต็มๆแล้วนะ
ซิลเวียร์ : ท่านนายพลเริ่มอ่อนแอลงมาก
แถมอายุก็เยอะแล้วด้วยค่ะ
มาร์ธ่า : เฮ้อ
ลูกเอ้ย เมื่อไหร่จะเลิกทำสงครามนี่ซะทีนะ
ซาร่า : แม่คะ
เนโรเขาก็ทำตามหน้าที่เขาอยู่นะคะ
ซิลเวียร์ : ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ
หลังจากจบตรงนี้แล้วท่านนายพลอาจจะทำอะไรไม่ได้ไปอีกพักนึงหล่ะค่ะ
มาร์ธ่า : เฮ้อ
ก็ขอให้เขาฟื้นขึ้นมาให้ได้ก่อนดีกว่านะ
กลับมายังแคว้นเดลล์ แอนตาร์กติกกับแพททรีเซียเดินสะกดรอยตามชายที่ชื่ออิริคไปยังซอยลึกลับแห่งหนึ่ง
จนกระทั่งอิริคไปหยุดอยู่กับชายคนหนึ่ง จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็เริ่มเจรจากัน
ในขณะที่แอนตาร์กติกกับแพททรีเซียก็แออบฟังอยู่ห่างๆ
อิริค : นี่
นักโทษที่นายต้องการก็ได้แล้ว แล้วของที่ฉันต้องการหล่ะ
“ไม่ต้องห่วง คุณอเล็กซ์สกี้จะให้แกเอง”
แพททรีเซีย : อเล็กซ์สกี้
ไอ้หมอนี่มันเป็นใครงั้นเหรอ
แอนตาร์กติก : อเล็กซ์สกี้งั้นเหรอ
อ้อ ฉันนึกออกแล้ว
แพททรีเซีย : เธอนึกอะไรออกงั้นเหรอ
แอนตาร์กติก : เรื่องนี้ต้องไปถามโทมารอฟเขาหน่ะ
แพททรีเซีย : โทมารอฟ
เขาเป็นใครอย่างงั้นเหรอ
แอนตาร์กติก : เขาเป็นผบ.ทัพเรือแห่งจักรวรรดิรัสเซียหน่ะ
ในระหว่างนั้นเอง
พวกเขาทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน จากนั้นก็ถือปืนไปทางแอนตาร์กติกและแพททรีเซีย
แอนตาร์กติก : รีบไปจากที่นี่กันดีกว่า
ต้องเจอตัวโทมารอฟหน่อยหล่ะ
แพททรีเซีย : ยินดีเลย
จากนั้นทั้งคู่ก็ค่อยๆย่องออกไปจากที่เกิดเหตุ
ก่อนที่สองคนนั้นจะตามจับเธอได้ทัน
อีกด้านหนึ่งของแคว้นเดลล์
เมื่อหน่วยของโทมารอฟมาถึงท่าเรือลึกลับ
พวกเขาก็สำรวจพื้นที่แถวนั้นก่อนที่จะเตรียมตัวเข้าโจมตี
“ท่านครับ ตอนนี้หน่วยของเราปิดล้อมท่าเรือนั่นได้แล้วครับ”
โทมารอฟ : บุกเข้าไปได้เลย
ทหารรัสเซียบุกเข้าไปยังท่าเรือแห่งนั้น
ฆ่าคนของอเล็กซ์สกี้ตายไปมากมาย พวกมันที่เหลือเมื่อเห็นทหารรัสเซียก็พากันทิ้งของ
จากนั้นก็พยายามหนีเข้าไปในป่า
โทมารอฟ : จับพวกมันให้หมด
อย่าให้พวกมันรอดไปได้
ทหารรัสเซียบุกเข้าไปถึงด้านในท่าเรือ
จากนั้นพวกเขาก็ทำการค้นหาอาวุธที่ถูกขโมยมา เมื่อพวกเขาตรวจสอบ
ก็พบว่าอาวุธเหล่านั้นเหลือแค่บางส่วน อีกส่วนหนึ่งหายไปอย่างไร้ร่องรอย
โทมารอฟ : อาวุธอีกส่วนหายไปไหน
ลากตัวคนของมันมาตรวจสอบสิ // ทหารรัสเซียจับตัวพวกมันมา
จากนั้นก็เริ่มเค้นข้อมูลจากมัน เขาทรมานชายคนนั้นจนมันคายความลับออกมาให้โทมารอฟ
“ผมบอกแล้ว
อาวุธที่เหลือตอนนี้ถูกส่งไปยังกองทัพของนายพลคนหนึ่งหน่ะ”
โทมารอฟ : นายพลคนไหนวะ
“ผมก็ไม่รู้ ผมไม่ได้รับผิดชอบตรงส่วนนั้น”
โทมารอฟ : นี่
สืบหาให้ได้ว่าอาวุธที่เหลือไปส่งให้กับนายพลคนไหน
ฉันไม่สนหรอกนะคนที่อยู่เบื้องหลังจะเป็นใคร
“รับทราบครับผม”
ณ คฤหาสน์ของนายพลจอร์จ
วันนี้นายพลจอร์จจะต้องเข้าไปร่วมประชุมกับนายทหารอังกฤษคนอื่นๆ
เพื่อหารือกันว่าจะทำอย่างไรต่อหลังจากที่พวกโซราบอลบุกเข้ามา
เขากับที่ปรึกษาของเขาคุยกันระหว่างที่รอรถม้ามารับ
จอร์จ : นี่
นายว่าพวกโซราบอลจะบุกเข้ามาถึงแคว้นเดลล์ได้หรือเปล่า
“ผมว่า อาจจะได้นะครับ
พวกนั้นมีกำลังหลายแสนเลยนะครับ”
จอร์จ : แล้วใครเป็นคนนำทัพมางั้นเหรอ
“นายพลโซรอน น้องชายนายพลเนโรครับ”
จอร์จ : เฮ้อ
ที่แท้ก็ส่งแค่น้องชายมา เมื่อไหร่รถม้าจะมาเนี่ย
“คงอีกไม่กี่อึดใจหล่ะครับ”
และในทันใดนั้น
รถม้าคันงามก็มารับพวกเขาทั้งคู่พอดี
จอร์จ : มาซะที
เออนี่ เอาชาร้อนมาให้ฉันดื่มด้วยนะ
“ได้ครับท่าน”
และอีกฝากหนึ่งของเมือง
แมทธิวกับเพื่อนใหม่ชาวรัสเซียของเขาที่เพิ่งจะเมาอย่างเต็มที่ แมทธิวอาสาจะพาชายคนนั้นกลับไปส่งที่บ้าน
เพื่อที่จะล้วงความลับอะไรบางอย่างจากเขา
“ไม่นึกเลยว่าเราจะเข้าขากันได้ดีขนาดนี้มิคาอิล”
แมทธิว : นั่นสินะ
นายเมามากแล้ว กลับไปพักก่อนดีกว่า
“ขอบใจนายมากเลยหว่ะพวก”
แมทธิว : ว่าแต่บ้านของนายอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ
“อยู่ตรงถนนด้านหน้า เลี้ยวขวาไปได้เลย”
แมทธิวแบกชายคนนั้นไปยังบ้านหลังหนึ่ง
จากนั้นก็เปิดประตูบ้านให้กับชายคนนั้น จากนั้นชายคนนั้นก็เข้าบ้านไป
“นี่มิคาอิล
เอาไว้ว่างๆฉันจะพานายไปเยี่ยมคุณอเล็กซ์สกี้เขานะ”
แมทธิว : ขอบใจนายมากๆนะ
หลังจากที่ชายคนนั้นปิดประตูบ้าน แมทธิวก็บันทึกข้อมูลของเขาที่เขาได้มา
เตรียมส่งไปหาพ่อของเขาในทันที
แมทธิว : อเล็กซ์สกี้
แกเป็นใครกันนะ ฉันต้องรู้ให้ได้
และที่โบสถ์ลึกลับที่เดิมในแคว้นเดลล์
สี่พี่น้องกลุ่มเดิมยังคงรอข่าวจากพี่ใหญ่ของพวกเขา ที่กำลังเดินทางไปยังริงก้า
พวกเขารออย่างใจจดใจจ่อ และกลัวว่าพี่ของพวกเขาจะเป็นอะไรไประหว่างเดินทาง
เดลต้า : เฮ้อ
พี่เราก็ไปตั้งนานแล้ว เมื่อไหร่จะกลับมาหล่ะเนี่ย
ชาร์ลี : เดี๋ยวเขาก็กลับมาเองแหละ
จะกลัวอะไรหล่ะ
อัลฟ่า : แต่ถ้ายิ่งช้า
พวกศาสนจักรจะตามล่าเราง่ายขึ้นนะ
เบต้า : เอาน่า
ยังไงตอนนี้พวกศาสนจักรก็ยังไม่รู้หรอกว่าเราอยู่ที่นี่
อัลฟ่า : นายแน่ใจได้ยังไง
มีใครในนี้แน่ใจงั้นเหรอ
เดลต้า : นี่
อย่าเพิ่งตีโพยตีพายไปสิ มันยังไม่มาที่นี่ซะหน่อย
เบต้า : นั่นสิ
ตอนนี้ห่วงเรื่องของพี่เราดีกว่านะ
ชาร์ลี : โอเค
งั้นฉันขอไปจัดการอะไรของฉันก่อนดีกว่า
กลับมายังแคว้นบาส์ก เกาะที่พักของโรส
ในตอนนั้นเองลอเรนซ์ก็นำกำลังคนมาเพื่อทำการเกณฑ์ชาวบ้านเพื่อเป็นโจรสลัดเข้าต่อต้านรัฐบาล
หลังจากที่เธอลงมายังเกาะของโรส ชาวบ้านแถวนั้นก็มารอต้อนรับเธอในทันที
ลอเรนซ์ : สวัสดีทุกท่าน
หวังว่าทุกท่านคงจะสบายดีกันนะ
โรส : คุณลอเรนซ์คะ
มีธุระอะไรอย่างงั้นเหรอคะ
ลอเรนซ์ : แหม่
จะไม่ต้องรับกันหน่อยเหรอจ๊ะโรส วันนี้ฉันมาเกณฑ์ชาวบ้านเพื่อเป็นโจรสลัดหน่ะ
ฉันมีทองมาจ่ายด้วย
แพท : โจรสลัดงั้นเหรอ
น่าสนใจดีนี่ ว่ามั้ยเมด
เมด : นี่
ว่าแต่เราต้องไปรบกับใครงั้นเหรอคะ
ลอเรนซ์ : พวกโซราบอล
พวกต่างชาติที่รังแกชาวบ้านหน่ะ
เมด : น่าสนใจจัง
ฉันเองก็อยากจะไปลองดูเหมือนกันนะ
แพท : นี่
เธอจะลืมฉันได้ยังไง ฉันขอไปด้วยสิ
โรส : นี่
พวกเธอคิดดีแล้วจริงๆงั้นเหรอ
ลอเรนซ์ : แหม่
พวกเธอน่าจะเป็นแม่สาวนักสู้สินะ ถ้าพวกเธออยากเป็น พวกเธอก็มาได้เลย
และอีกด้าหนึ่งของเกาะ
สกายกับอาร์มเมอร์ก็สังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ดูว่าโจรสลัดพวกนั้นเป็นใคร
อาร์มเมอร์ : นี่
สกาย นั่นลอเรนซ์แห่งบาส์กหรือเปล่าหน่ะ
สกาย : น่าจะใช่
ไม่ผิดตัวหรอก ฉันเคยเห็นในใบปลิวอยู่
อาร์มเมอร์ : แล้วเราจะเอายังไงต่อหล่ะ
จะจัดการมันเลยหรือเปล่า
สกาย : ตอนนี้ยังก่อน
เกาะของพวกนั้นน่าจะอยู่แถวๆนี้แหละ
ตอนนี้เราก็พยายามรวบรวมข้อมูลเพื่อตามล่าพวกมันดีกว่า
อาร์มเมอร์ : เข้าใจแล้ว
อยากได้อะไรก็สั่งมาเลยเพื่อน
กลับมายังแคว้นริงก้า
ในขณะที่นอร์ดิกกำลังจัดเตรียมกองพลเพื่อเสริมทัพให้กับพรรคพวกคนอื่นๆของเขา
ในขณะนั้นเอง ชายคนหนึ่งที่ดูท่าทางลึกลับก็พยายามจะมาขอเข้าพบเขา
ทหารริงก้าพยายามล้อมกรอบเขาไว้ แต่นอร์ดิกเดินเข้ามาเพื่อที่จะขอคุยกับเขาเอง
ทหารคนอื่นๆจึงต้องหลีกทางให้กับนอร์ดิก
นอร์ดิก : นี่คุณเป็นใคร
ต้องการอะไรจากผมงั้นเหรอ
“ผมเป็นสมาชิกขององค์กร นกฮูกนำสาสน์ของอาร์เธน่า ต้องการขอเข้าพบกับผู้นำริงก้าหน่ะ”
นอร์ดิก : ผมนี่แหละผู้นำของริงก้า
ว่าแต่คุณมีธุระอะไรกับผมอย่างงั้นเหรอ
“ผมว่าเรามีอะไรต้องคุยกันหน่อยหน่ะครับ
ไม่ว่าอะไรนะครับถ้าคุณจะไปพบผมที่สวนตรงนั้น” จากนั้นชายคนนั้นก็เดินนำหน้าไปก่อนเพื่อไปรอนอร์ดิก
อาบาตู : จะเอายังไงต่อดีครับคุณหนู
นอร์ดิก : ผมจะไปพบกับเขาเอง
// นอร์ดิกเดินตามชายลึกลับคนนั้นไปยังสวนในวังของเขา
เพื่อเจรจาอะไรบางอย่างกัน
====================================================================
ชายลึกลับคนนี้ดูมีอะไรที่นอร์ดิกต้องการจะรู้ แต่มันจะเป็นเรื่องอะไร แล้วกองทัพโซราบอลจะเข้ายึดแคว้นเดลล์ได้หรือไม่ ติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยครัช
ความคิดเห็น