คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : EP 12 : ลาก่อนน้องชาย
วินพยายามยิงสกัดคนของเจ้าพ่อเคี้ยง
โดยที่เซบพยายามจะช่วยยิงเปิดทางให้พวกเขา พวกของเจ้าพ่อเคี้ยงพยายามจะยิงวิน
แต่เจ้าพ่อเคี้ยงก็สั่งให้หยุดยิงไปก่อน เนื่องจากว่ากลัวจะโดนไข่มุกด้วย
“เฮ้ย
อย่ายิงไปด้านล่างนะโว้ย”
“แล้วนี่จะเอายังไงต่อครับนาย”
“คนของเราน้อยอยู่
มึงวอเรียกไอ้เพลิงกับคนอื่นให้กลับมาด่วนเลย”
“แล้วไอ้คนข้างล่างหล่ะครับ”
“ปล่อยมันหนีไปก่อน
แล้วค่อยไปตามเก็บมัน”
พวกของเจ้าพ่อเคี้ยงถอยกลับอีกทางหนึ่ง
ในตอนนั้นเอง ไข่มุกก็รีบบอกกับวินทันที
“นายๆ
ทางสะดวกแล้ว รีบไปเถอะ”
“มันง่ายเกินไปแหะ
แต่ไปสมทบกับเซบหน่อยดีกว่า”
วินแบกน้องชายของเขาไปด้านบน
เพื่อสมทบกับเซบและเวหาที่บุกเข้ามายิงพวกมัน โดยที่เซบและเวหาก็เห็นตัวของวินแล้วด้วย
“เฮ้ย ไอ้วิน
ทางนี้โว้ย เร็วๆ” เซบตะโกนใส่วินจากนั้นก็ยิงสกัดพวกนั้นไว้
“วินแบกใครมาด้วยหล่ะเนี่ย
ไปช่วยหน่อยดิ” เวหาพูดจากนั้นก็วิ่งเข้าไปหาวินในทันที
“ไอ้วิน
แบกใครมาด้วยหล่ะวะเนี่ย” เวหาไปช่วยวิน
“นี่น้องชายฉัน
นายช่วยแบกไปหน่อยสิ” วินยกน้องชายเขาให้กับเวหา จากนั้นเวหาก็แบกกลับไปหาเซบ
เซบรีบกันให้ทุกคนถอยกลับไปทันที
“นี่พวกนาย
เข้ามาทางไหนกันหล่ะเนี่ย” ไข่มุกถามพวกเขา
“อยากรู้งั้นเหรอ
เรามาทางประตูลับหน่ะ” เซบพูดขึ้น
“รีบไปจากที่นี่เร็ว
พาน้องฉันไปก่อน ฉันจะจัดการเอง” วินพูดจากนั้นก็ให้เซบและคนอื่นๆถอยกลับไป
โดยที่เขายิงปะทะกับพวกของเจ้าพ่อเคี้ยง
“ลูกพี่
เอายังไงดีพี่”
“ตามมันไป
เอาตัวน้องกูมาให้ได้”
พวกมันนับสิบคนตามพวกของเซบไป
และในตอนนั้นเองเจ้าพ่อเคี้ยงก็พยายามติดต่อคนอื่นไปด้วย
“เฮ้ย
แล้วคนอื่นๆไปไหนหมดวะ”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันพี่”
“แล้วไอ้เพลิงหล่ะ
มันไปไหนของมันวะ”
“ไอ้เพลิงบอกเดี๋ยวมันรีบกลับมาครับ”
“ดี
มึงรีบตามมันไปสิโว้ย”
วินและคนอื่นๆรีบพาวุ้นกลับออกไปด้านนอก
โดยที่พวกมันก็ไล่ตามมามาติดๆ พวกของวินจึงต้องยิงสกัดมันไว้
“เฮ้ยวิน
รีบไปจากที่นี่ดีกว่า เร็ว” เซบตะโกนบอก
“รู้แล้ว
พวกมึงรีบพาน้องกูไปโรงพยาบาลก่อนเร็ว” วินพูดจากนั้นก็ยิงกับพวกมัน
“น้องนายนี่ตัวหนักเป็นบ้า
แล้วไปโดนอะไรมาวะ” เวหาถามไป
“คงโดนพี่ฉันเล่นซะหนักเลยหล่ะ”
ไข่มุกพูดจากนั้นก็ช่วยกันแบกวุ้นกลับไปที่รถมอไซค์ของพวกเขา
แต่เมื่อมาถึง พวกเขาก็เห็นว่ารถของพวกเขาไม่พอที่จะพาไปได้หมด
“เฮ้ย
กูว่ารถพวกเราไปไม่พอแน่เลยหว่ะ” เวหาพูดขึ้น
“นั่นดิ
จะเอายังไงต่อดีวะเนี่ย” เซบพูดขึ้น แต่ในตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นรถกระบะคันหนึ่งไล่กวดพวกเขา
เซบยิงไปที่ด้านคนขับ จากนั้นรถก็เลี้ยวเข้าข้างทางไปทันที
“รู้แล้วจะหารถจากไหน
ไปเร็ว”
วินแบกน้องชายของตัวเองไปขึ้นรถกระบะคันนั้น
จากนั้นคนอื่นๆก็รีบตามขึ้นไปในทันที วินลากศพของมันออกมา
จากนั้นก็รีบสตาร์ทรถในทันที
“เฮ้ย เซบ
นายยิงสกัดพวกมันได้หรือเปล่า” เวหาพูดจากนั้นก็วางร่างของวุ้นลง
“พอได้อยู่
นายดูน้องวินให้ดีแล้วกัน” เซบเช็คกระสุนของตัวเอง
“นี่ รีบไปเร็ว
พวกนั้นตามมาแล้ว” ไข่มุกชี้ไปด้านหลัง ซึ่งมอไซค์และรถอื่นๆของพวกมันกำลังไล่ตามเขามา
“เอาหล่ะ
จับแน่นๆนะทุกคน”
วินเหยียบคันเร่ง
จากนั้นรถก็เคลื่อนออกไป เป็นการไล่ล่าบนถนนอย่างดุเดือด
วินพยายามจะสลัดรถของพวกมัน แต่พวกมันก็เร่งเครื่องแล้วยิงรถของวินอย่างไม่ลดละ
“บ้าเอ้ย
พวกมันตามมาอยู่ได้ ยิงมันหน่อยสิเซบ” เวหาตะโกนบอก
“รู้แล้ว
นายลองมายิงเองสิโว้ย” เซบยิงหัวมันจนมอไซค์ล้มลงไป
“นี่
หนีเข้าไปในซอย เราน่าจะรอดนะ” ไข่มุกชี้ทางเข้าไปในซอย
“ได้เลย
จับแน่นๆหล่ะ” วินดริฟท์รถเข้าไปในซอย โดยที่พวกมันยังคงตามมาอย่างไม่ลดละ
“บ้าเอ้ย
จะเอายังไงต่อดีเนี่ย” เวหาพูดอย่างกังวล
“เอานี่ไปกินเลย”
วินเหยียบเบรกอย่างแรง
จากนั้นรถของพวกมันก็มาชน จนกระทบเป็นลูกโซ่ ทำเอาพวกนั้นถึงกับลงไปนอนกอง
“วู้
สะใจชิบเป๋งเลยเพื่อน” เซบพูดขึ้น แต่มันคนหนึ่งได้สติขึ้น
แล้วปีนขึ้นรถกระบะแล้วยิงกระจกด้านหลัง เซบหยิบปืนของมันพยายามจะแย่งกลับมา
“ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ไข่มุกพยายามจะตีมันเพื่อช่วยเซบ
แต่ในตอนนั้นเอง วินก็ชักมีดออกมาแล้วขว้างใส่หัวมันจนมันตายคาที่
เซบดึงมีดออกแล้วถีบศพมันออกไปจากรถ จากนั้นรถของพวกเขาก็ค่อยๆขับไปต่อ
“โอ้ย เกือบตาย
ว่ามั้ยเพื่อน” เวหาพูดกับเซบ
“โธ่
แกไม่ได้ยิงเหมือนฉันทำเป็นพูดนะ” เซบตอบกลับไป
“แล้วนี่
มีใครเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย” ไข่มุกถามไป
“ฉันไม่เป็นไร
ว่าแต่น้องฉันหล่ะ เป็นยังไงบ้าง” วินถามอย่างเป็นห่วง เวหาจึงไปดูอาการในทันที
“โห
ตัวซีดมากเลย ฉันว่าพาเขาไปโรงบาลเถอะหว่ะ” เวหาพูดขึ้น
“ไหนขอฉันดูหน่อยสิ”
เซบถลกแขนเสื้อของวุ้นดู
ก็พบรอยเข็มฉีดยามากมาย
“ท่าทางจะโดนจนพรุนเลยนะเนี่ย”
เซบพูดขึ้น
“สงสัยพี่ฉันคงให้น้องเธอเสพยาหน่ะ”
ไข่มุกพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหรอก
ผมคิดบัญชีกับมันแน่” วินตะโกนออกไป
“นี่
นายบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่ทำพี่ฉัน” ไข่มุกตอบกลับ
“ฉันว่าพาน้องนายไปโรงบาลก่อนเถอะ
เวหา ขอพิกัดโรงพยาบาลหน่อยสิ” เวหาได้ยินจึงหยิบแท็บเล็ตของเขาขึ้นมาแล้วเชื่อมต่อข้อมูลแผนที่ดูในทันที
“อยู่อีก 3
กิโลหน่ะ ขับตรงไปเรื่อยๆนะ”
วินรีบขับรถไปให้ถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
ก่อนที่น้องชายเขาจะเป็นอะไรไป
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
ณ โรงพยาบาลของวาเดลเรีย ในตอนนั้นเองเธอกำลังตรวจสอบคนไข้คนอื่นๆในโรงพยาบาลอย่างเร่งรีบ
ในตอนนั้นเอง รถกระบะของวินก็มาถึงโรงพยาบาล
จากนั้นพวกเขาก็แบกร่างของวุ้นลงมาจากรถ แล้วเข้าไปในโรงพยาบาลในทันที
“ใครก็ได้ช่วยด้วย”
บุรุษพยาบาลรวมถึงตัววาเดลเรียเองก็รีบมาดูอาการของน้องชายของวินในทันที
“นี่
เขาไปโดนอะไรมาเนี่ย” วาเดลเรียถามไป
“ผมก็ไม่รู้
คงจะโดนหนักมาเลยครับ” วินตอบไป
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง
คุณรอตรงนี้แหละ” วาเดลเรียเข็นเตียงเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
จากนั้นวินและคนอื่นๆก็รออยู่หน้าห้องไปด้วยความเป็นห่วง
“ถึงมือหมอแล้ว
คงไม่เป็นไรหรอก” เวหาไปแตะไหล่วิน
“แต่ดูอาการเขาแย่มากเลยนะตอนนี้”
วินพูดขึ้น
“ใจเย็นๆสิ
เดี๋ยวหมอเขาก็ช่วยได้เองแหละ” ไข่มุกพูดขึ้น
“นั่นสิ
นายต้องใจเย็นไว้ก่อนนะ” เซบพูดขึ้น
“ไม่รู้หล่ะ
ถ้าน้องฉันเป็นอะไรได้ ฉันฆ่ามันแน่” วินพูดอย่างอาฆาต
“นี่
นายลืมที่สัญญากับฉันแล้วเหรอ” ไข่มุกแย้งขึ้น
“เธอไม่เห็นเหรอ
น้องฉันกำลังจะตายนะ”
“น้องคุณอาจจะไม่ตายก็ได้
คุณต้องใจเย็นๆก่อนสิ”
และในขณะเดียวกัน
วาเดลเรียก็ออกจากห้องมาอย่างถอนใจ วินรีบไปหาเธอในทันที
“หมอครับ
น้องชายผมเป็นยังไงบ้างครับ”
“คือ
ร่างกายของน้องชายคุณอ่อนแอมาก ถึงจะประคองอาการได้ก็คงไม่นาน น้องชายคุณโดนเฮโรอีนในปริมาณมาก
ทำให้ตอนนี้ร่างกายของเขาใกล้จะพังอยู่แล้ว” วาเดลเรียพูดอย่างเศร้าๆ
“แปลว่าอะไรครับหมอ
แปลว่าน้องผมจะตายอย่างงั้นเหรอครับ”
“ถึงเขาไม่ตาย
เขาก็คงต้องเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิตหน่ะค่ะ”
“ไม่ หมอ
ผมขอร้อง ช่วยน้องผมด้วย” วินคุกเข่าขอร้องวาเดลเรียให้ช่วย
“คือ
มีแค่วิธีเดียว น้องคุณจะได้ไม่ทรมานยังไงหล่ะ” วาเดลเรียพูดขึ้น
“นี่หมอจะฆ่าน้องผมเหรอครับ”
“เฮ้ยวิน
กูว่าที่หมอพูดก็ถูกนะ ให้น้องมึงได้หลับสบายเถอะ” เซบพูดขึ้น
“นั่นสิ
น้องนายคงไม่อยากอยู่แบบนี้หรอก” เวหาพูดเสริม โดยที่วินในตอนนั้นก็ถึงกับร้องไห้ออกมา
วินทำอะไรไม่ถูก จากนั้นวาเดลเรียก็กลับเข้าไปในห้อง ไปทำอะไรบางอย่าง
จากนั้นไม่กี่นาทีต่อมา
วาเดลเรียก็เข็นร่างของวุ้นออกมาโดยที่มีการคลุมหน้าไว้ด้วย
วินไปกอดศพของเขาโดยที่ร้องไห้ไปด้วย
“วุ้น พี่ขอโทษ
หลับให้สบายนะ ขอให้ไปเจอกับพ่อแม่นะ”
บุรุษพยาบาลนำร่างของวุ้นไปเก็บไว้ด้านใน
ส่วนวินในตอนนั้นก็เอาแต่นั่งร้องไห้โดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น
“ฉันเสียใจด้วยนะ”
ไข่มุกมาแตะไหล่ของวิน
“ฉันจะฆ่ามัน
เธอไม่ต้องมาห้ามฉัน”วินหัวเสียเดินออกไปด้านนอกในทันที
ปล่อยให้ไข่มุกยินมองหลังเขาอยู่ตรงนั้น
กลับมายังหน่วย
Nation ซึ่งในตอนนั้นเองเอกและคนของเขาก็กำลังเตรียมตัวเพื่อกวาดล้างอิทธิพลของเจ้าพ่อในเขตกรุงเทพ
โดยที่เอย์จิ ซากิริเป็นหน่วยนำ ส่วนเกรซและเอเรียน่าจะเป็นหน่วยเสริม
โดยที่พวกเขาก็วางแผนในการกวาดล้างในทันที
“เอาหล่ะ
ตอนนี้มีอยู่สามแก๊งค์หลักที่เราต้องกำจัด โดยที่ตอนนี้
แก๊งค์ของเถ้าแก่หยงอ่อนแอที่สุด เราจะอาศัยจังหวะนี้จับตัวเถ้าแก่เลย”
“ว่าแต่อาเปียวหล่ะครับ
เรายังเข้าไม่ถึงตัวมันเลยนะครับ” เอย์จิแย้งขึ้น
“ตัดรากไม่ให้เหลือต้น
ถ้าสิ้นเถ้าแก่หยงแล้ว ต่อไปอาเปียวจะเอาอะไรให้ซุกหัวหล่ะ” เอกพูดขึ้น
“แล้วอีกสองแก๊งค์ที่เหลือหล่ะคะ
จะเอายังไงต่อ” ซากิริถามไป
“เราจะค่อยตัดกำลังพวกมัน
แล้วค่อยจัดการบุกเข้าถึงตัวหัวมันเลย”
“คงต้องใช้คนเยอะมากเลยนะคะ
แล้วคนของเราจะพอเหรอคะ” เอเรียน่าถาม
“เราจะต้องลงมือเร็ว
เล่นงานตอนพวกมันไม่รู้ตัวสิ”
“ค่ะท่าน
แล้วท่านจะจัดการกับเถ้าแก่หยงยังไงคะ” เกรซถามไป
“เราจะปิดล้อมพวกมันที่บ้านของมัน
ปิดทางเข้าออกให้หมด แล้วจัดการอย่าให้เหลือ” จากนั้นเอกก็ชี้ตำแหน่งบนแผนที่เพื่อวางกำลัง
“จุดแรก
เราจะให้รถหุ้มเกราะของหน่วยที่ 1 กับ 2 ไปปิดทาง เพราะเป็นถนนใหญ่
ส่วนสองทางที่เป็นซอยแคบ เราจะให้หน่วยที่ 3 ที่ 4 ของเราจู่โจมเร็วและเงียบ
เมื่อเราประชิดตัวบ้าน เราจะให้เฮลิคอปเตอร์กระหน่ำยิงเข้าไปในบ้าน
ถ้าเถ้าแก่หยงยอมแพ้ เราจะจับเป็นเขา”
“แต่ว่า
ถึงเราจะโชคดี เราก็ต้องเล่นงานพวกมันตอนกลางคืนนะครับ” เอย์จิพูดขึ้น
“นั่นสิคะ
ถ้าเราบุกไปตอนนี้ เราอาจโดนพวกมันตลบหลังได้นะคะ” ซากิริพูดแย้ง
“ก็เพราะแบบนี้ยังไงหล่ะ
เราถึงต้องลงมือเร็ว เราจะจับตัวมันโดยเร็ว
ตอนกลางคืนเราไม่มีพลุไฟมากพอที่จะลงมือหน่ะ แล้วอีกอย่างคือ”
“อีกอย่างคืออะไรหล่ะคะ
พอจะบอกได้มั้ย” เอเรียน่าถามไป
“คือทางผู้ใหญ่
เขาให้เราเร่งจัดการกวาดล้าง เพื่อรับศึกใหม่ที่กำลังมาถึงหน่ะ”
“หมายถึงพวกไหนกันหล่ะคะ”
เกรซถามไป
“พวกของนายสุวรรณ
ที่ตอนนี้พวกมันกำลังยิงถล่มกรุงเทพอย่างหนักเลย
เราต้องเตรียมรับศึกพวกมันโดยเร็ว ไม่อย่างงั้นกรุงเทพได้วอดวายแน่ เอาหล่ะ
อย่าเสียเวลาเลย รีบไปกันดีกว่า”
พวกของเอกเตรียมกำลังของเขาเพื่อบุกจับกุมกวาดล้างกลุ่มเจ้าพ่อที่ยังหลงเหลืออยู่
ที่บ้านของอาเปียว
เขาสั่งให้คนของเขาตามล่าตัวโมเอกะ โดยที่เขาเองระดมคนออกตามหาไปทั่ว
เนื่องจากเขาเจ็บใจที่โดนคนใช้ของเขาเล่นงานซะจนหมดรูป
“นี่
พวกแกเจอตัวมันหรือยัง”
“ยังเลยครับพี่”
“แล้วนี่รู้ตัวมั้ยว่ามันไปไหนแล้ว”
“ผู้หญิงตัวคนเดียวคงไปไหนได้ไม่ไกลหรอกครับ”
“รีบๆจับตัวมันมา
อย่าช้าหล่ะ”
คนของอาเปียวระดมคนออกตามหา
ในขณะที่โมเอกะก็กำลังหาทางหนี เธอพยายามหลบลูกน้องของอาเปียวทางนั้นทีทางนี้ที แต่ดูเหมือนว่าพวกนั้นก็ล้อมเธอไว้หมด
“บ้าเอ้ย
จะไปทางไหนหล่ะเนี่ย”
แต่ในตอนนั้นเอง
โมเอกะก็ไปชนกับผู้ชายคนหนึ่งเข้า ชายคนนั้นก็หยุดนิ่งไป
แล้วจู่ๆลูกน้องของอาเปียวก็ตามมาเจอเข้าในทันที
“เฮ้ย
ปล่อยมันมาให้กูนะเว้ย”
แต่ชายคนนั้นก็หยุดนิ่งไป
ไม่พูดไม่จาอะไรเลย
“อยากเจ็บตัวเหรอวะ”
พวกมันเข้าเล่นงานชายคนนั้น
แต่ชายคนนั้นเล่นงานกลับจนพวกมันถอย พวกของอาเปียวใช้อาวุธแทบจะทุกชนิด
แต่ก็สู้ชายคนนั้นไม่ได้ หลังจากที่จัดการเสร็จ
ชายคนนั้นก็จูงมือโมเอกะเดินออกไปจากบริเวณนั้นในทันที
“นี่คุณ
จะพาฉันไปไหนเนี่ย”
“อย่าถามมากน่า
ตามผมมาก็พอ”
“แล้วคุณเป็นใครกันเนี่ย”
“อย่ารู้เลย
รู้แค่ช่วยคุณไว้ได้ก็พอ”
ชายคนนั้นยังคงจูงมือโมเอกะออกไปเขตของอาเปียว
โดยที่พวกนั้นยังตามมาไม่ถึง
กลับมายังจังหวัดสมุทรปราการ
ในขณะที่สุวรรณและพรรคพวกกำลังเตรียมเข้าล้อมกรุงเทพ
ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ได้รับรายงานว่ากองเรือของหน่วย NSA กำลังล่วงล้ำเข้ามายังเขตอ่าวไทย
สุวรรณเตรียมปืนชายฝั่งไว้พร้อมสำหรับป้องกัน
และเรียกคนของเขามาเพื่อรับมือกับปัญหานี้ทันที
“ฟาฟา คูไก
ติ๋ม พวกคุณสามคนต้องเตรียมป้องกันพื้นที่ อย่าให้พวกมันขึ้นบกได้”
“แต่ว่า
เรามีจรวด sam แค่ 7 ลูกนะครับ” คูไกตอบไป
“ตอนนี้เราต้องประหยัดจรวด
ใช้จัดการแค่เรือปืนของพวกนั้นก็พอ”
“แล้วปืนชายฝั่งของเราจะยันพวกมันไว้ได้หรือเปล่าคะ”
ติ๋มถาม
“เรื่องนี้คงต้องเพิ่งฟาฟาแล้วหล่ะ
เรื่องการหาจรวดใหม่เนี่ย”
“ได้ค่ะ
ดิฉันจะลองจัดการดูค่ะ” ฟาฟาตอบไป
“เราจะล่อให้พวกมันมาในระยะปืนของเรา
แล้วค่อยจัดการเรือพวกมันทีละลำ
ให้เรือเร็วของเราพลีชีพไปติดระเบิดที่เรือพวกมันด้วย”
“แต่ว่ามันต้องใช้คนเยอะมากเลยนะคะ”
ติ๋มพูดแย้ง
“นั่นสิครบ
แล้วไหนเรื่องที่เราจะต้องยึดกรุงเทพอีก” คูไกพูดเสริม
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง
ฉันเตรียมการไว้แล้ว พวกนายไปจัดการตามนั้นก็แล้วกัน”
“รับทราบค่ะ”
ฟาฟาพูด
“เอาปืนใหญ่ของเรายิงขู่พวกมันไปหน่อยสิ”
สุวรรณสั่งให้ปืนใหญ่กระบอกหนึ่งยิงไปทางอ่าวไทย
แต่ก็ไม่มีสัญญาณอะไรตอบกลับมาเลย ไม่มีแม้แต่การยิงตอบโต้
“พวกมันทำไมถึงเงียบไปคะ”
ฟาฟาถาม
“พวกมันคงรอให้เข้าใกล้ระยะของเราได้หน่ะ”
“ถ้าอย่างงั้น
เราคงต้องรอดูไปก่อนหน่ะค่ะ” ติ้มพูดขึ้น
“ผมจะไปติดต่อเสือกับภาคิน
ไม่รู้สองคนนั้นไปถึงไหนแล้ว” คูไกพูดจากนั้นก็เดินออกไปทันที
อีกด้านหนึ่ง
ชายปริศนาก็กำลังเฝ้าโมเอกะที่กำลังนอนหลับอย่างเหน็ดเหนื่อย
หลังจากที่หนีมาจากพวกของอาเปียวได้ แต่ในขณะเดียวกัน ชายอีกคนหนึ่งก็ถือปืนเดินมาหาเขา
โดยที่เขากำลังนั่งคิดอะไรไปเรื่อย
“เฮ้ย เสือ
เป็นยังไงบ้าง ข่าวที่ให้หาหน่ะ”
“อ้าว
ภาคินเหรอ ตอนนี้พวกเจ้าพ่อกำลังฟัดกันเละเลยหล่ะ
แล้วตอนนี้พวกมันกำลังจะโดนกวาดล้างด้วย แล้วทางนายเป็นยังไงบ้าง”
“ของฉันเหรอ
ตอนนี้พวก Nation กำลังไล่กวาดล้างกันหว่ะ แล้วนี่ นายมากับใครวะ” ภาคินถามอย่างสงสัย
“อ้อ
เธอหนีมาจากพวกเจ้าพ่อหน่ะ ฉันบังเอิญไปเจอ”
“เหรอ
แล้วแกจะเอายังไงกับเธอต่อหล่ะวะ”
“ไม่รู้สิ
คงต้องรอดูกันไปหล่ะนะ”
ทางด้านกองเรือของยามาโมโตะ
ในขณะที่เขากำลังล่วงเข้ามายังเขตอ่าวไทย ก็มีลูกปืนใหญ่ลูกหนึ่งมาตกแถวๆกองเรือของเขา
ซึ่งลูกปืนใหญ่ลูกนั้นมาตกอยู่แถวๆหน้าเรือเขา ซึ่งห่างไปประมาณ 2 เมตรได้
ยามาโมโตะที่อยู่บนเรือธงก็รีบมาดูในทันที
“หะ
นี่มันอะไรกันเนี่ย” เขาถามนายทหารของเขา
“มีลูกปืนใหญ่ยิงมาจากชายฝั่งครับ”
“สงสัยพวกมันคงแค่อยากจะขู่เราหน่ะ”
“ลองยิงจรวดของเราตอบโต้ไปมั้ยครับ”
“อย่าเพิ่ง
เรามีจรวด Exocet น้อยเกินไป แถมเรายังไม่มีพิกัดที่แน่นอนด้วย”
“แล้วเราจะเอายังไงต่อหล่ะครับ”
“ตอนนี้กำลังทางอากาศที่ลักลอบยกพลขึ้นบกนี่ไปถึงไหนแล้ว”
“ตอนนี้พวกเขายังไม่รายงานมาเลยครับ”
“ถ้าอย่างงั้นยิงปืนใหญ่ล่อมันก่อน
ให้พวกมันดึงความสนใจมาที่เรา”
“ได้ครับ”
นายทหารคนนั้นรีบกลับลงไปในเรือเพื่อติดต่อกับหน่วยรบของพวกเขา
กลับมายังเหลามังกรฟ้า
ในตอนนั้นเองเรย์ใช้เวลาปรับปรุงร้านอยู่ซักพัก
จากนั้นก็เปิดใหม่เพื่อให้คนได้เข้ามาทานอาหารกัน ในตอนนั้นเอง
เรย์ก็ได้ยินชายสองคนกำลังนั่งคุยกันที่โต๊ะๆหนึ่ง
ซึ่งพวกเขาพูดคุยอะไรกันบางอย่าง เรย์ได้ยินไม่ถนัด เธอจึงเข้าไปใกล้ๆไปแอบฟังดู
“นี่
แล้วคนของแกมันจะไว้ใจได้เหรอวะ”
“ได้ดิ โธ่
แกมั่นใจหน่อย”
“เออ
คุณสุวรรณสั่งไว้ ของนี้สำคัญมาก ห้ามพลาดเด็ดขาด”
ในตอนนั้นเอง
เรย์ก็เดินไปที่โต๊ะนั้นในทันที เพื่อไปคุยกับชายสองคนนั้น
“สวัสดีค่ะ
อาหารร้านเราถูกปากมั้ยคะ” เรย์ถามอย่างซื่อๆ
“อ้อ
อร่อยมากครับ”
“อ่า
รถบรรทุกด้านนอกพวกนั้นของคุณเหรอคะ” เรย์ถาม
“อ้อ ใช่ครับ
บรรทุกอะไหล่รถหน่ะครับ”
“เรากำลังจะไปที่โรงงานในภาคใต้หน่ะครับ”
“อ้อ
ขับไกลอยู่นะคะเนี่ย” เรย์พูดขึ้น
“ครับผม
ถ้าไม่รบกวน ยังไงก็คิดเงินเลยก็ได้ครับ” เรย์เรียกพนักงานมาคิดเงินลูกค่า
จากนั้นชายสองคนนั้นก็รีบเดินออกไป
ในตอนนั้นเองเรย์ก็เรียกพนักงานคนหนึ่งที่เฝ้าหน้าร้านมาคุยด้วยในทันที
“คุณเรย์ครับ
เรียกผมมีอะไรเหรอครับ”
“อ้อ
มีรถบรรทุกขบวนหนึ่งกำลังออกไป ไม่ค่อยปลื้มที่เห็นฉัน
ฉันอยากให้นายเอาทะเบียนรถไปสืบหน่อย จำทะเบียนได้ใช่หรือเปล่า”
“จำได้อยู่ครับ”
“ก็ดี
ไปจัดการตามนั้นแล้วกัน” จากนั้นพนักงานชายคนนั้นก็เดินออกไป
กลับมายังคอนโดชั่วคราวของชนและโซระ
หลังจากที่พวกเขาพักผ่อนกันมาได้ซักพัก
พวกเขาก็ตื่นขึ้นมาเพื่อเตรียมการบุกรังของเจ้าพ่อสิงห์
โดยที่พวกเขาเตรียมปืนกลและระเบิดทุกชนิดไปด้วย
โดยที่พวกเขาขนอาวุธไปในรถยนต์ที่พวกเขาขโมยมา
“เฮ้ย โซระ
มึงไปเอารถมาจากไหนวะ” ชนถามไป
“กูคิดว่าพวกของไอ้สิงห์คงต้องเดินกลับบ้านกันไกลเลยหว่ะ”
โซระตอบไปจากนั้นก็วางอาวุธลงในรถ
“แน่ใจนะว่าจะสะอาดไม่มีร่องรอย”
“แน่นอน
รับประกันได้เลย”
หลังจากนั้นไม่นาน
พวกเขาขับรถออกไปในทันที
“เออนี่ชน
แล้วแกรู้ได้ไงว่าพวกมันจะได้ผลหล่ะ” โซระถามไป
“แน่นอน ฉันรู้วิธีเข้าไปถึงในห้องนอนมันเลย”
“เออ
รีบๆหน่อยแล้วกัน ฉันอยากนอนเต็มแก่แล้ว”
“เมื่อกี้ก็เพิ่งจะนอนไป
จะนอนอีกแล้วเหรอ”
“ทำไมวะ
ช่วงนี้ฉันง่วงบ่อยหน่ะ”
“มึงน่าจะไปหาหมอบ้างนะเว้ย”
“เฮ้อ
ไม่มีหมอไหนรักษาฉันได้หรอกหว่ะ” โซระพูดจากนั้นก็สูบบุหรี่ไปด้วย
“มึงนี่
สูบอยู่ได้ ทุกวันเลยนะเว้ย”
“เออน่า
ก็มันเบื่อนี่หว่า ทำไงได้”
“บุหรี่เดี๋ยวนี้ยิ่งหายากด้วยช่วงนี้”
“ฉันรู้แหล่งก็แล้วกัน
นายสนใจหรือเปล่าหล่ะ”
“ไม่หรอก
มะเร็งแดกตายพอดี”
ชนพูดจากนั้นก็ขับรถไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่จะไปยังแหล่งกบดานของเจ้าพ่อสิงห์
เพื่อตามฆ่าเขา
กลับมายังบ้านของเถ้าแก่หยง
หลังจากที่แองเจลล่ามาพักที่ห้องของเธอ ในตอนนั้นเองเธอก็ได้ข้อความจากเครื่องมือสื่อสารของเธอ
เธอรีบเปิดอ่านในทันที
“แองเจลล่า
เราจะบุกจับเถ้าแก่หยงวันนี้ ในอีกไม่กี่ชั่วโมง”
แองเจลล่าเตรียมอาวุธสำหรับการบุกไปจัดการตัวเถ้าแก่หยง
แต่ในตอนนั้นเอง รามก็เดินเข้ามาหาเธอในห้องโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
“คุณแอน
คุณทำอะไรอยู่ครับ”
แองเจลล่าตกใจมากจนปืนหลุดจากมือ
ในตอนนั้นเองรามก็เดินมาดูปืนของแอนในทันที
“นี่คุณพกปืนด้วยเหรอครับเนี่ย”
และในตอนนั้นเอง
รามก็เหลือบไปเห็นเครื่องมือสื่อสารของแองเจลล่า เขาไปเปิดอ่านในทันที
เมื่อเขาเจอข้อความเข้าจึงตกใจทันที แองเจลล่ารีบคว้ามันกลับมาในทันที
“คุณเป็นใครกันแน่”
รามถามไป
“ฉันแองเจลล่า
เจ้าหน้าที่พิเศษ คุณรามคะ คุณต้องไปจากที่นี่ ฉันไม่อยากเห็นคุณเป็นอะไรไป”
“คุณหลอกใช้ผม”
“ฉันไม่เคยหลอกใช้คุณจริงๆนะคะ
คุณเป็นคนดี ฉันรู้ คุณไม่ควรมาอยู่ที่นี่เลย”
“ผมทำเพื่อความอยู่รอดหน่ะ”
“แล้วต้องแลกกับสังคมมันเลวร้ายลงเหรอคะ
เชื่อฉันเถอะคุณราม ไปจากที่นี่กับฉันนะ”
ในขณะเดียวกัน
ลูกน้องคนหนึ่งของรามก็เดินเข้ามาในห้อง พบกับแองเจลล่าที่กำลังถือปืนในมือ
มันเล็งปืนใส่เธอในทันที
“เฮ้ย
มึงจะทำอะไรลูกพี่กูวะ”
“ไอ้จุก วางปืน
กูให้ปืนเธอเองแหละ จะได้ไว้ป้องกันตัวหน่ะ” รามตอบกลับไป
“แต่ว่าเถ้าแก่สั่งว่า…”
“มึงก็ลองไปบอกสิ
กูรับรองมึงเป็นศพแน่ๆ” ลูกน้องของรามหน้าเจื่อนเดินออกไปด้านนอก ส่วนรามก็เดินออกไปเหมือนกัน
แต่ก็ทิ้งท้ายกับแองเจลล่าไว้
“ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่
แต่ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะ” รามเดินออกไปโดยที่แองเจลล่าได้แต่มองอยู่ห่างๆ
กลับมายังคอนโดของเกรท
เธอกลับมาในขณะที่คนของเธอกำลังช่วยกันขนของเพื่อย้ายที่อยู่ใหม่
เนื่องจากว่าเธอกำลังโดนบัญชีดำอยู่ เกรทรีบไปดูความเรียบร้อยของการขนย้ายในทันที
“นี่
ของๆฉันเป็นยังไงบ้างเนี่ย” เกรทถามลูกน้องของเธอ
“ตอนนี้เรากำลังขนย้ายอยู่ครับ”
“นี่ ว่าแต่
เครื่องผลิตยาของฉันหล่ะ”
“เราย้ายไปเก็บเรียบร้อยแล้วครับ”
“ดี แล้วทองคำกับอาหารของฉันหล่ะ”
“ก็เก็บแล้วเหมือนกันครับ”
“ดีมาก
เสร็จงานนี้พวกแกไปรับของกันได้”
“ว่าแต่
เราจะย้ายไปกี่วันดีครับ”
“ก็ซักพักนึง
จนกว่าพวกมันจะเลิกตามฉันหน่ะ”
“ได้ครับ”
ลูกน้องของเธอยังคงช่วยกันขนของอย่างขยันขันแข็ง
เพื่อเตรียมหนีจากหน่วยงานลับที่กำลังตามล่าตัวเธออยู่
และที่รังของเจ้าพ่อเคี้ยง
ในตอนนั้นเอง เพลิงก็กลับมาหาเคี้ยงหลังจากที่โดนเรียกตัวกลับมา
เพลิงก็มาหาเจ้าพ่อเคี้ยงในทันที
“ลูกพี่ครับ
มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ไอ้เพลิง
ฉันมีเรื่องจะบอกแก”
“มีอะไรเหรอครับ”
“ไอ้คนที่แกเล่าให้ฟัง
มันจับตัวน้องสาวฉันไป” เพลิงถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก
“เป็นไปไม่ได้”
“มันเป็นไปแล้ว
ฉันกำลังตามล่าตัวพวกมันอยู่”
“ถ้าอย่างงั้นผมไปตามล่ามันเองครับ”
“นายคิดว่าจะทำได้เหรอวะ”
“ได้ครับ
ผมรู้จักมันดีครับว่ามันจะไปที่ไหน”
“ดี
ไปตามน้องสาวฉันกลับมา ฆ่าพวกมันให้เหี้ยน แล้วแกอยากได้อะไร ฉันให้ทุกอย่าง”
“จริงนะครับพี่”
“เออ แน่นอน
ตอนนี้แกก็ไปทำงานของแกได้แล้ว” เคี้ยงแตะไหล่ของเพลิง
จากนั้นเพลิงก็พาลูกน้องของเขาบางส่วนออกไปตามล่าตัววินในทันที
ณ
โรงพยาบาลของวาเดลเรีย วินเดินออกมาจากโรงพยาบาล
จากนั้นก็นั่งร้องไห้อยู่ด้านหน้าที่นั่ง ไข่มุกเดินตามเขามา แล้วมานั่งข้างๆเขาในทันที
“ฉันเสียใจด้วยนะวิน”
“คุณจะมาพูดเพื่อพี่คุณใช่หรือเปล่าหล่ะ”
“ไม่
ฉันพูดแทนตัวของฉันเองนะ”
“เธอจะไม่ให้ฉันฆ่าพี่เธอใช่หรือเปล่าหล่ะ”
“ฉันจะไม่ขอแบบนั้นอีกแล้วหล่ะ
ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่”
และในขณะเดียวกัน
เซบและเวหาก็เดินออกมาตามหาวิน
“เฮ้ย วิน
คุณหมอเขาบอกว่า นายจะเอาศพน้องนายไปทำพิธีได้นะ” เวหาพูดไป
“เออนี่
ว่าแต่นายจะเอายังไงต่อวะ”
“เอาศพน้องฉันเก็บไว้ที่นี่ก่อน
รอจบเรื่องนี้ ฉันจะทำศพให้น้องฉันเอง”
“แล้วนายจะทำยังไงต่อหล่ะ”
“ฉันจะตามหาตัวมันเอง
แล้วงานนี้มันจะไม่จบแค่นี้แน่ๆ”
วินพูดกับทุกคน
แววตาของเขาดุร้ายราวกับว่าจะฆ่าทุกคนที่อยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้
==================================================================
วินจะมีแผนอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
ความคิดเห็น