คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่ 10 : เรือโจรสลัด
กลุ่มของเคนนี่ยังคงพยายามจะตามหาตัวมาเรียน่า ก่อนที่จะหมดเวลา 3 วันตามที่แองเจลโล่ได้ให้เวลากับพวกเขาไว้ พวกเขาตามหาเท่าไหร่แต่ก็ดูเหมือนจะไม่พบเลย พวกเขามารวมตัวกันที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง เป็นร้านสเต็กที่ดีมากของเมือง พวกเขาเข้ามาในร้าน ก่อนที่จะเริ่มพูดคุยกัน
“เฮ้อ ตามหาเป็นวันแล้ว ยังไม่ได้เบาะแสอะไรเลยแหะ” เคนนี่พูดขึ้น
“นั่นสิ ไม่รู้ว่าพวกเธอแฝงตัวกันที่ไหน” เวโรนิก้าตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก พนักงานของร้านจะเดินมาที่โต๊ะของพวกเขาเพื่อเอาเมนูมาให้พวกเขา
“รับอะไรดีคะ??” พนักงานถามพวกเขาไป
“ของฉันขอเนื้อดีๆ แบบแรร์เลยค่ะ” คามิลล่าพูดขึ้น
“ฉันเอาด้วยค่ะ” วลาเซียน่าพูดเสริม
“ผมขอมีเดียมเวลล์ดีกว่า” ซิลเวสเตอร์พูดขึ้น
“ข้าขอสุกๆเลยแล้วกัน” ไปจื่อพูดต่อ
“จัดมีเดียมแรร์มาเลย มันบดเยอะๆด้วยหล่ะ” โรเบิร์ตพูดขึ้น
“ผมเอามีเดียมแรร์ก็ดีนะครับ” วอลพูดขึ้น
“ฉันด้วย” เวโรนิก้าพูดขึ้น
“ผมก็มีเดียมแรร์นะ ว่าแต่ ร้านนะเป็นอะไรหรือเปล่าครับ เหมือนเพิ่งจะซ่อม??” เคนนี่ถามพนักงานของร้านอย่างสงสัย
“อ้อ ร้านเราเพิ่งจะโดนปล้นหน่ะค่ะ พวกมันพังร้านเราซะยับเลยค่ะ” พนักงานของร้านตอบไป
“สงสัยจะเป็นพวกเดียวกับที่เล่นงานคาสิโนของแองเจลโล่ก็ได้” เวโรนิก้าพูดขึ้น
“ห่ะ พวกคุณก็รู้เรื่องนี้เหรอคะ??” พนักงานถามอย่างสงสัย
“พวกเรานี่หล่ะที่ปะทะกับมัน พวกมันเป็นพวกจากต่างเมืองหน่ะครับ” เคนนี่ตอบไป
“อ้อค่ะ ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวรออาหารกันก่อนนะคะ” พนักงานพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเธอจะเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อสั่งอาหารกับพ่อครัว
“โอเค ว่าแต่ เราจะเอายังไงต่อหล่ะ??” เคนนี่ถามอย่างสงสัย
“ตอนนี้เรายังไม่รู้ข่าวอะไรเพิ่มเติมเลย” เวโรนิก้าพูดต่อ
“ฉันเองก็ลองถามคนที่ไว้ใจได้แล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเพิ่มเลยแหะ” วลาเซียน่าพูดขึ้น
“สงสัยมาเรียน่าคนนี้น่าจะเก็บตัวเงียบจริงๆ” ไปจื่อพูดต่อ
“แต่เอาเถอะ ยังไงเราก็ต้องหาเธอให้เจอ ไม่งั้นแย่แน่” คามิลล่าพูดขึ้น
“อยากรู้เหมือนกันว่าใครว่าจ้างพวกเรา” ซิลเวสเตอร์พูดต่อ
“ผมว่า เรื่องนี้มันมีอะไรแปลกๆด้วยครับ” วอลพูดขึ้น
“จะแปลกแค่ไหนหล่ะ เราก็สู้กันต่อ แค่นั้นแหละ” โรเบิร์ตพูดขึ้น
“ถ้าจบงานที่เวกัสแล้ว เราจะกลับไปที่แคลิฟอร์เนีย อยากเจอกับไอ้ซอกฮุนอะไรนี่เหมือนกัน ว่าแต่ เธอรู้อะไรเกี่ยวกับมันอีกหรือเปล่า??” เคนนี่ถามเวโรนิก้าไป
“ได้ยินว่ามันทำธุรกิจเถื่อนทุกรูปแบบเลยหล่ะ ตำรวจแถวนั้นก็เป็นพวกเดียวกับมันหมด แถมยังมีลูกน้องอีกเพียบเลย” เวโรนิก้าตอบไป
“แต่ก็หยุดพวกเราไม่ได้หรอก” โรเบิร์ตพูดขึ้น
“ใจเย็น เราก็ต้องรู้ว่าพวกมันมีมากแค่ไหน” ไปจื่อพูดต่อ
“นั่นสิ เราเองก็ยังต้องรู้ธุรกิจของมันด้วย” ซิลเวสเตอร์พูดต่อ
“คลับของไอ้ซอกฮุน ถ้าเราจัดการที่นั่นได้ มันก็ดิ้นเป็นเจ้าเข้านั่นหล่ะ” เวโรนิก้าตอบ
“งั้นเราคงต้องพุ่งเป้าไปที่นั่นสินะครับ” วอลพูดขึ้น
“งั้นก็ระเบิดมันทิ้งให้จบๆเลยสิ” คามิลล่าพูดขึ้น
“ฉันเห็นด้วย ฉันอยากระเบิดพวกมันเหมือนกัน” เวโรนิก้าพูดเสริม
“หาระเบิดให้ได้ก่อนดีกว่า” เคนนี่พูดขึ้น และไม่นานนัก พนักงานก็เอาสเต๊กมาเสิร์ฟให้กับพวกเขา ดูเหมือนว่าสเต๊กที่นี่จะจานใหญ่มาก
“โห ใหญ่มากเลยครับ” เคนนี่พูดขึ้น
“ทานให้อร่อยนะคะ” พนักงานของร้านพูดขึ้น ก่อนที่จะเดินออกไป และเคนนี่กับผองเพื่อนก็รับประทานสเต๊กที่อยู่ตรงหน้านั้นอย่างเอร็ดอร่อย
หลังจากที่จบมื้ออาหารแล้ว พวกเขาก็ออกมาจากร้านเพื่อกลับไปยังที่พักของพวกเขาต่อ หลังจากที่พวกเขาไม่เจอเบาะแสอะไรเลยที่เวกัส และไม่นานนัก พวกเขาก็เดินผ่านเรือโจรสลัดที่เป็นที่ที่เหล่านักท่องเที่ยวพากันมาถ่ายรูป ในตอนนั้นเอง เคนนี่ก็บอกกับคนอื่นๆ
“ฉันเคยเห็นที่นี่ในทีวี ไม่เคยได้มาจริงๆเลย”
“จริงเหรอ นายอยากถ่ายรูปหรือเปล่าหล่ะ??” เวโรนิก้าถามไป และไม่นานนัก เธอก็หยิบเอามือถือของเธอขึ้นมา จากนั้นก็ให้เคนนี่ไปถ่ายรูปที่เรือโจรสลัด แต่เมื่อเคนนี่เข้าไปใกล้เรือ จู่ๆ ตัวของเขาก็โดนมนต์สะกดอะไรบางอย่าง ทำให้เขาเดินไปขึ้นไปบนเรือ
“เดี๋ยว เคนนี่!!” เวโรนิก้าตะโกนออกมา ก่อนที่คนอื่นๆจะรีบวิ่งเข้าไปหาเขา เวโรนิก้ารีบไปกระชากตัวเคนนี่กลับมาในทันที
“เคนนี่ อะไรของนายเนี่ย??”
“มันเรียกหาฉัน” เคนนี่ตอบกลับ แต่ไม่นานนัก เวโรนิก้าจะดึงเคนนี่กลับมา และมารวมกับคนอื่นๆอย่างรวดเร็ว
“อะไรเนี่ย ที่นี่มีอะไรเหรอ??” ซิลเวสเตอร์ถามอย่างสงสัย
“สงสัยที่นี่คงจะมีผู้ใช้เวทย์ระดับสูงก็ได้ครับ” วอลตอบ
“เฮ้ ไปจื่อ นายช่วยสำรวจที่นั่นหน่อยสิ” คามิลล่าสะกิดบอกไปจื่อ
“ได้เลยๆ” ไปจื่อพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเขาจะปล่อยนกกระดาษไปมากมายเพื่อบินออกไปบริเวณเรือโจรสลัด แต่จู่ๆ น้ำใต้ท้องเรือโจรสลัดก็พุ่งขึ้นมา แล้วจัดการกับนกกระดาษของไปจื่อจนเปื่อยยุ่ย ทำเอาไปจื่อตกใจมาก
“บ้าเอ้ย สงสัยผู้ใช้เวทย์คงอยู่ที่นี่แล้วหล่ะ” วลาเซียน่าพูดขึ้น
“ฉันจะจัดการเอง ทองแดงฉันเต็มตัวเลย” โรเบิร์ตพูดขึ้น
“เดี๋ยว ไม่แน่นะ แถวนี้อาจจะเป็นที่อยู่ของมาเรียน่าก็ได้” เคนนี่พูดปรามโรเบิร์ต ก่อนที่ไม่นานนัก เคนนี่เองจะหยิบเอาสร้อยแร่ทองแดงกำเอาไว้ในมือ ก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้เรือโจรสลัดเรื่อยๆ
“คุณมาเรียน่า ผมมาดีนะ ผมไม่คิดจะมาทำอะไรคุณ ผมแค่อยากตามหาคุณเฉยๆ” เคนนี่พูดขึ้น แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ เด็กสาวคนหนึ่งก็ปรากฏตัวต่อหน้าเคนนี่
“เออ หนู มาทำอะไรที่นี่กัน??”
“ตามหาแม่หนูทำไม??” เด็กสาวคนนั้นถามเคนนี่ไป
“เออ คือว่า มีคนว่าจ้างพวกเราหน่ะ พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถ้าเจอแม่หนูแล้ว พวกเราต้องทำยังไงต่อ” เคนนี่ตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก เด็กสาวคนนั้นก็พูดต่อ
“พวกคุณไม่ควรมาที่นี่ค่ะ”
“เดี๋ยวจ้ะ แล้วทำไมถึงไม่ควรมาหล่ะ??” เวโรนิก้าถามต่อ
“จะมีคนไปหาพี่ที่ที่พวกพี่อยู่อีกไม่นาน พวกพี่รีบกลับไปดีกว่าค่ะ” เด็กสาวคนนั้นพูดจบก็เดินกลับเข้าไปในเรือทันที ปล่อยให้เคนนี่กับเวโรนิก้ายืนงงตรงนั้น
“เออ หนู..” เคนนี่พยายามจะพูด
“แม่บอกว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายนะคะ” เสียงเด็กสาวคนนั้นพูดต่อ ทำเอาเคนนี่เองไม่กล้าทำอะไรมาก
“กลับเถอะเคนนี่” เวโรนิก้าบอกกับเคนนี่ เคนนี่เองก็เดินลงจากเรือไปพร้อมกับเวโรนิก้า ในขณะที่คนอื่นๆ ก็กำลังรอพวกเขาอยู่ และเมื่อพวกเขาลงมา ทุกคนก็รีบไปหาพวกเขาในทันที
“เฮ้ เคนนี่ ไปเจออะไรมาเหรอ??” ซิลเวสเตอร์ถามเคนนี่ไป
“มาเรียน่า ฉันว่าเธออยู่ที่นี่แหละ” เคนนี่ตอบ ทำเอาทุกคนถึงกับแปลกใจมาก
“เฮ้ย จริงเหรอ แล้วนายออกมาทำไมหล่ะ??” โรเบิร์ตถามไป
“ก็นางไล่เราออกมาหน่ะสิ ไม่รู้ทำไม” เวโรนิก้าตอบ
“เฮ้อ สงสัยข้าคงต้องเจรจาพาทีกับนาง” ไปจื่อพูดขึ้น
“อย่าเลย แบบนี้แปลว่าเธอคงไม่ต้อนรับเราหรอก” คามิลล่าตอบ
“ผมว่า เรารีบกลับกันดีกว่าครับ” วอลพูดขึ้น
“เออ จริงด้วย จะว่าไป มีเด็กผู้หญิงบนเรือ บอกว่าจะมีคนไปที่คฤหาสน์ของเรา” เคนนี่ตอบ
“เอ๊ะ แล้วใครจะไปที่นั่นหล่ะ??” วลาเซียน่าถามกลับ แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้ทำอะไรต่อ จู่ๆ รถคันหนึ่งก็ขับมาทางพวกเขา ก่อนที่มันคนหนึ่งจะลดกระจกลง และระดมยิงใส่พวกของเคนนี่
“ระวัง!!” ไปจื่อตะโกนออกมา ก่อนที่เขาจะเสกกระดาษออกมาป้องกันกระสุนปืนของพวกมันเอาไว้
“ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ!!”
พวกมันยิงใส่กระดาษของไปจื่อ ในขณะเดียวกัน พวกมันอีกบางส่วนก็บุกมาทางเคนนี่ ก่อนที่พวกมันจะเล็งปืนใส่พวกเขา
“หนีเร็ว!!” เคนนี่ตะโกนออกมา ก่อนที่เขาจะซัดกระสุนคดของเขาใส่พวกมัน ทำเอาพวกมันตายกันไปมากมาย ก่อนที่พวกของเคนนี่จะรีบวิ่งเข้าไปหลบในซอยๆหนึ่ง เพื่อดูว่าจะมีใครตามพวกเขามาหรือเปล่า
“พวกมันเป็นใครกัน??” ซิลเวสเตอร์ถามอย่างสงสัย
“นั่นคนของไอ้ซอกฮุน ฉันจำมันได้ เราต้องลุยมัน” เวโรนิก้าพูดขึ้น
“ว่าไงว่าตามกันเลยครับ!!” โรเบิร์ตตะโกนออกมา ก่อนที่เขาจะชักปืนของเขาและกราดยิงพวกมันที่พยายามจะบุกเข้ามาในซอยเพื่อไล่ตามพวกเขา
“ทางนี้ครับ” วอลพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเสกกระจกขึ้นมาบานหนึ่ง ก่อนที่เขาจะพาทุกคนเข้าไปในนั้น
“รีบไปเร็ว!!” คามิลล่าตะโกนออกมา ก่อนที่เธอจะหยิบดาวกระจายและปาสกัดพวกมันเอาไว้ พวกมันเองก็ตามมาไม่ทัน และที่ด้านนอก รถคันเดิมที่ไล่ยิงกลุ่มของเคนนี่ก็จอดรถที่หน้าซอย และพากันลงมาจากรถ พร้อมกับตามล่ากลุ่มของเคนนี่
“ไหนวะ พวกมันหายไปไหนแล้ว พวกมึง ใช้กระสุนทองแดงนะเว้ย!!” ชายอ้วนคนหนึ่งตะโกนออกมา ก่อนที่มันจะเข้าไปในซอย แต่จู่ๆ พวกนั้นก็มาเห็นกระจกบานใหญ่ของวอลที่ถูกตั้งเอาไว้ พวกนั้นแปลกใจมากว่ามันคืออะไร
“กระจกอะไรวะเนี่ย??”
“เอาไงดีพี่??”
“ยิงแม่งทิ้งดิ!!” ชายอ้วนคนนั้นพูดและชักปืนจะยิงกระจกนั่นทิ้ง แต่จู่ๆ มือปริศนาก็ดึงชายอ้วนคนนั้นเข้าไปในกระจกอย่างรวดเร็ว
“วิ้ง!!”
“เฮ้ย ลูกพี่!!” บรรดาลูกน้องของชายคนนั้นทำอะไรไม่ถูกเนื่องจากตกใจอย่างมาก
“เอาไงดี ยิงกระจกทิ้งเลยมั้ย??”
“จะบ้าเหรอ เดี๋ยวลูกพี่ก็โดนขังไว้ตลอดอ่ะดิ!!”
“พรึ่บ!!”
ชายอ้วนคนนั้นมาโผล่อีกทีที่ห้องๆหนึ่ง ในตึกหลังหนึ่ง มันรีบเล็งปืนขึ้นมา แต่ในตอนนั้น
“ตุ๊บ!!”
เท้าปริศนาก็เตะเข้าที่ปืนของมัน ก่อนที่ไม่นานนัก ร่างๆหนึ่งจะเดินเข้าไปเตะที่หน้าของมันอีกรอบ
“ตุ๊บ!!”
“โอ๊ย มึงเป็นใครวะ??” ชายคนนั้ตะโกนออกมา
“เพื่อนของคนที่มึงข่มขืนยังไงหล่ะ” เสียงนั้นคือเสียงของเวโรนิก้า ทำเอามันถึงกับตกใจมาก
“เฮ้ย นี่แก!!”
“ตุ๊บ!!” ในตอนนั้นเคนนี่ก็ต่อยมันเข้าไปอีกรอบ จนตอนนี้เลือดกบปากมันอย่างต่อเนื่อง
“มึงจะทำอะไรกู มึงก็รู้ว่ากูลูกน้องใคร??”
“รู้ดิ เลยกระทืบมึงตอนนี้ไง!!” เวโรนิก้าตอบ ก่อนที่เธอจะถีบเข้าที่หน้าของมันอีกรอบ คราวนี้เวโรนิก้าก็เหยียบเข้าที่หน้าของมันไปเรื่อยๆ จนตอนนี้หน้าของมันแทบจะแหลกเละเทะแล้ว แต่นั่นก็ยังไม่สาแก่ใจของเธอ เธอรีบถอดกางเกงของมันออกมาในทันที
“มึงจะทำอะไรกู??”
“ก็ทำให้มึงทำอะไรใครไม่ได้อีกไงหล่ะ ไอ้ระยำ!!” เวโรนิก้าตะโกนออกมา ก่อนที่เธอจะกระทืบเข้าไปที่กล่องดวงใจของมันอย่างดุเดือด ทำเอาตัวของมันร้องโหยหวน
“อ๊าค ปล่อยกู!!”
เวโรนิก้าทั้งถีบทั้งเหยียบทั้งบี้กล่องดวงใจของมัน ในตอนนั้นมันก็ดิ้นจากเธอจนหลุด แต่เคนนี่ก็เตะหน้ามันซ้ำอีกครั้ง
“ตุ๊บ!!”
“เฮ้อ จะได้นิ่งๆซะที” เคนนี่พูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เวโรนิก้าจะกระทืบเข้าที่กล่องดวงใจของมันอีกรอบ จนคราวนี้มันถึงกับนอนแน่นิ่งไปเลย
“เออ ผมว่าพอแล้วมั้งครับ ผมเสียวยังไงชอบกล??” วอลพูดขึ้นพลางกุมเป้าตัวเอง
“เออ แล้วจะเอายังไงกับมันต่อหล่ะ??” ซิลเวสเตอร์ถามต่อ
“ก็คงปล่อยให้เขาได้ไปพบเทพเจ้าหล่ะ” ไปจื่อตอบ
“อย่างมันคงลงนรกแน่” เวโรนิก้าพูดขึ้น
“นั่นสิ หวังว่านรกคงจะรับมันไปนะ” คามิลล่าพูดต่อ
“งั้นเราไปจากที่นี่กันดีกว่า” โรเบิร์ตพูดขึ้น
“เดี๋ยว ป่านนี้พวกมันคงไม่ตามหาลูกพี่กันให้ว่อนแล้วเหรอ??” วลาเซียน่าถามต่อ
“ไม่ต้องห่วง เราอยู่ห่างจากพวกมันอยู่พอสมควร วอล พาเราออกไปจากที่นี่หน่อย” เคนนี่พูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก วอลจะเสกกระจกขนาดใหญ่ออกมาอีกครั้ง
“ตามเข้ามาเลยครับ” วอลพูดขึ้น ก่อนที่จะชวนทุกคนเข้ามาในกระจกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ภาพจะตัดกลับมาที่ถนนเส้นหนึ่ง ซึ่งอยู่บริเวณที่พักของพวกเขาพอดี
“โอเค มาถึงกันแล้วครับ” วอลพูดขึ้น หลังจากที่ทุกคนพากันทยอยออกมาจากกระจกของวอล
“แม่งเอ้ย สะใจชิบหายเลยหว่ะ” เวโรนิก้าพูดขึ้น
“เฮ้อ ป่านนี้มันคงนอนเน่าไปแล้วมั้ง” เคนนี่พูดเสริม
“แล้วถ้าเกิดว่ามันยังไม่ตายหล่ะ??” ซิลเวสเตอร์ถามอย่างสงสัย
“ก็ให้มันวิ่งแจ๋นกลับไปฟ้องไอ้ซอกฮุนซะ” เวโรนิก้าตอบ
“แต่เดี๋ยวนะ แล้วค่ายมวยพ่อเจ้าจะไม่เป็นอะไรหรือ??” ไปจื่อถามไป
“ไม่หรอก พวกมันไม่กล้าทำอะไรค่ายพ่อฉันหรอก” เวโรนิก้าตอบ
“แล้วนี่ เราจะเอายังไงกันต่อหล่ะ งานก็ยังไม่สำเร็จด้วย??” โรเบิร์ตถามไป
“ก็สำเร็จแล้วนี่ พวกนั้นให้พวกเราไปเจอกับมาเรียน่า แต่เธอไล่เรากลับมา เราก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย” คามิลล่าตอบ
“แต่ฉันว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ กลับไปฉันคงต้องรายงานท่านวาคูลาหน่อยนะ” วลาเซียน่าพูดขึ้น
“ครับ ผมเองก็อยากคุยกับเขาเหมือนกัน” เคนนี่ตอบ
“ถ้างั้นเรากลับกันดีกว่า ฉันอยากจะพักแล้วหล่ะ” เวโรนิก้าบอกกับทุกคนไป
กลับมายังสำนักงาน CIA จีโอกลับมาทำงานของเธอตามปกติ เพื่อตามหาข่าวที่ว่าจะเป็นประโยชน์อย่างอื่นเพิ่มเติม และในขณะเดียวกัน ตัวของเธอก็หยิบเอาเข็มกลัดที่เธอเจอบริเวณที่เกิดเหตุเอามาดูด้วย
“อืม นี่มันของเวนิสนี่หน่า เวนิสไม่ได้ไปร่วมกับเทนเนอร์ในวันนั้น แล้วหมอนั่นไปทำอะไร??” จีโอถามอย่างแปลกใจ และในขณะเดียวกัน เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็เดินเข้ามาใกล้เธอ เธอรีบเก็บเข็มกลัดไปก่อนในทันที
“เฮ้ จีโอ”
“อ้าว มีอะไรเหรอเดนิส??” จีโอหันกลับไปถามหญิงสาวคนที่เดินมาหาเธอ
“ตอนนี้ทีมภาคสนามกำลังลงพื้นที่ที่เวกัสหน่ะ”
“เวกัสเหรอ พวกนั้นไปทำอะไรกันที่นั่นหล่ะ??” จีโอถามต่อ
“มีข่าวมาว่าพวกผู้ใช้เวทย์หลายกลุ่ม กำลังจะไปที่นั่น ดูเหมือนว่ากำลังจะตามหาอะไรบางอย่างหน่ะ เออ เดี๋ยวฉันไปส่งเอกสารก่อนนะ” เดนิสพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเธอจะเดินออกไป ส่วนตัวของจีโอนั้น เธอรีบหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา และส่งข้อความให้ใครบางคนไปด้วย
“พวก CIA กำลังจะไปที่เวกัส”
เธอเก็บโทรศัพท์ในทันที ก่อนที่ไม่นานนัก เธอจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ของเธอและเดินออกไปด้านนอกห้อง
“เฮ้ ฉันไปทำธุระแป๊ปนะ” จีโอพูดกับคนในห้องทำงาน ก่อนที่เธอจะเดินออกไปด้านนอกตึก เธอแอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามเธอมา ก่อนที่จะวาร์ปตัวเองเพื่อเดินทางกลับไปยังตึกสำนักงานของสภาจอมเวทย์
กลับมายังฐานที่มั่นของกองกำลังโกเทย์ หลังจากที่อาคุมะได้จัดการกับหุ้นส่วนของมิไรได้เรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้ตัวของเขาก็กลับมากบดาน เพราะเขาคิดว่ามิไรเองจะต้องมาแก้แค้นเขาแน่ๆ
“ต่อไปเราจะเอายังไงต่อดีหล่ะ??” โซเร็นถามขึ้นมาอย่างสะใจ
“ถ้าเราตัดแขนตัดขาของมันได้ ไอ้มิไรจะกลายเป็นหมาหัวเน่าไปเลย” หู่ลงพูดเสริม
“แต่ถึงยังไง กำลังของพวกมันก็ยังเข้มแข็งอยู่ดี” เลโอนาร์ดพูดปราม
“ว่าแต่ ทำไมเราถึงไม่ลุยต่อหล่ะครับ??” วาซิริสต์หันไปถามอาคุมะไป
“ฉันรู้จักมิไรมันดี เราต้องเก็บตัวเงียบไปก่อน” อาคุมะพูดขึ้น
“ทำไมอย่างงั้นหล่ะครับ??” เรียวเฮถามอย่างสงสัย
“มันจะต้องฟาดงวงฟาดงาแน่ๆ เราจะทำให้มันร้อนรนแบบนี้แหละ” อาคุมะตอบ
“เฮ้อ น่าเบื่อชะมัด” วาจจิน่าพูดขึ้นพลางกอดอกไปด้วย แต่ในขณะเดียวกัน จู่ๆ ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณโกดังที่พวกเขาอยู่กัน
“ตู้ม!!”
กลุ่มของอาคุมะตกใจกันมาก พวกเขารีบไปดูพื้นที่ในทันที และเมื่อได้เห็นเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาก็ตกใจเป็นอย่างมาก
“อะไรวะเนี่ย มันเกิดอะไรขึ้น??” อาคุมะตะโกนถามคนของเขา และไม่นานนัก ลูกน้องของเขาคนหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว
“นายครับ!!”
“อะไร เกิดอะไรขึ้น??” อาคุมะถามคนของเขา
“คนของเราเจอวิถีกระสุนมันยิงมาจากด้านนอกครับ เราพยายามจะตามไป แต่ไม่ทันครับ”
“บ้าเอ้ย ฝีมือใครวะเนี่ย??” เรียวเฮถามอย่างสงสัย
“ฉันว่า ต้องเป็นคนของไอ้มิไรแน่ๆ!!” วาจจิน่าพูดขึ้น
“แม่งเอ้ย เราไปลุยมันเลยดีกว่า!!” โซเร็นพูดขึ้นด้วยอาหารหัวเสีย
“เดี๋ยวสิ ตอนนี้เราจะไปสู้อะไรมันได้หล่ะ??” หู่ลงถามกลับไป
“ดูเหมือนว่ามันจะตั้งใจยั่วเรากลับ” เลโอนาร์ดพูดต่อ
“บ้าเอ้ย แล้วพวกมันรู้ที่อยู่เราได้ไงกัน??” วาซิริสต์ถามไป
“สืบให้ได้ว่าพวกไหนมันทำกับเราแบบนี้ พวกมันอาจจะเป็นใครก็ได้” อาคุมะพูดขึ้น ก่อนที่ลูกน้องของเขาจะรีบเดินออกจากโกดังไป
“เออ ว่าแต่ เรื่องที่เวกัสจะเอายังไงหล่ะคะ??” วาจจิน่าถามขึ้น
“เราจะเดินทางไปเวกัสกันเลย” อาคุมะตอบ
“ก็ดีเหมือนกันครับ ผมอยากเล่นพนันอยู่พอดี” โซเร็นพูดขึ้น
“นายมีเงินเหรอพวก??” เลโอนาร์ดถามกลับไป
“ไม่รู้ว่าที่นั่นจะมีอะไร แต่ก็ต้องลองดูหล่ะ” หู่ลงพูดขึ้น
“ไม่แน่ พวกไอ้มิไรมันอาจจะไปที่นั่นด้วยครับ” วาซิริสต์พูดพลางเกาหัวไปด้วย
“’งานนี้ก็คงต้องปะทะกับพวกเทพปีศาจไปด้วย งานใหญ่เลย” เรียวเฮพูดขึ้น
“ฉันจะลองติดต่อกับพวกสภาจอมเวทย์ดู ดูว่าพวกนั้นอยากจะให้เราทำอะไร” อาคุมะพูดขึ้น
“เฮ้อ ว่าไป ฉันไม่อยากฟังไอ้พวกนั้นเลย” เรียวเฮพูดขึ้น
“เอาน่า ทนๆไปอีกหน่อยแล้วกัน” อาคุมะพูดปรามเขากลับไป ก่อนที่ตัวของเขาจะเดินกลับไปที่ห้องของเขา ส่วนคนอื่นๆเองก็แยกย้ายกันไป ปล่อยให้พวกลูกน้องพากันเคลียร์พื้นที่
กลับมายังฐานที่มั่นของโยมิและกลุ่ม Magic Hunt ในตอนนี้พวกเขาก็เตรียมเดินทางไปยังเวกัส เพื่อไปสืบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่าทำไมกลุ่มผู้ใช้เวทย์ถึงได้ไปรวมตัวกันที่นั่น แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง ลูกน้องของโยมิคนหนึ่งก็รีบวิ่งไปรายงานอะไรบางอย่างกับโยมิ
“ขออนุญาตครับ เราเจอตัวไอ้ สส.จาค็อปแล้วครับ”
“เหรอ มันอยู่ที่ไหนหล่ะ??” โยมิถามอย่างสงสัย
“เราตามไปสืบมันที่โรงพัก แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้กระทั่ง มันไปทำอะไรที่เวกัสครับ” ลูกน้องของโยมิตอบไป
“หะ ขนาดนั้นเลยเหรอ??” โยมิถามอย่างแปลกใจ
“ดูเหมือนว่า พวกมันต้องโดนกลุ่มผู้ใช้เวทย์เล่นงานแน่นอนครับ” เอเตียนพูดขึ้น
“แต่ว่า พวกไหนที่จะมีพลังเวทย์ได้ขนาดนี้กันหล่ะคะ??” ไอจังถามอย่างแปลกใจ
“บลาๆบีๆ” อันจิพูดขึ้นพลางทำแขนแบบฉันไม่รู้
“หรือว่า จะเป็นไอ้พวกหน้าใหม่ ที่เราเคยเห็นหน่ะ??” โยมิถามอย่างสงสัย
“แต่ว่า พวกนั้นจะมีพลังเยอะขนาดนี้เลยเหรอคะ??” ไอจังถามขึ้น
“ไม่ต้องห่วง ยังไงเราก็จับพวกมันได้อยู่แล้ว” เอเตียนตอบ
“อยากเห็นหน้าพวกมันจริงๆ” อันจิพูดขึ้น
“เออ พูดรู้เรื่องบ้างก็ดี” เอเตียนพูดต่อ
“ถ้าอย่างงั้น ก็ต้องลองสืบเรื่องของพวกมันด้วย ฉันอยากรู้ว่าพวกมันทำอะไรกันอยู่” โยมิพูดขึ้น
“รับทราบครับ” ลูกน้องของโยมิรับคำสั่งและรีบเดินออกไป
“พวกนั้นอาจจะทำงานให้ใครก็ได้นะคะ” ไอจังพูดขึ้น
“เออ เป็นไปได้ คงต้องไปถามมัน” โยมิตอบ
“บูบีๆ” อันจิพูดขึ้น และในขณะเดียวกัน นกพิราบส่งข่าวตัวหนึ่งก็บินเข้ามาหาโยมิ โยมิเองก็ยื่นแขนให้มันเกาะในทันที และมันก็เริ่มพูดขึ้น
“ทางสภาจอมเวทย์ บอกให้พวกเราไปรวมตัวกันที่เวกัส”
“พวกเราก็กำลังไปนี่ไง มีอะไรสำคัญหล่ะ??” โยมิถามไป
“มีข่าวมาว่าพวกเทพปีศาจตอนนี้ไปรวมตัวกันที่เวกัส และทางเรายืนยันที่อยู่ของมาเรียน่าได้แล้ว เราต้องจับกุมเธอ” นกตัวนั้นพูดต่อ
“หะ มาเรียน่าเนี่ยนะคะ ไม่อยากจะเชื่อเลย??” ไอจังถามอย่างแปลกใจ
“ไม่รู้ว่าไปได้ข่าวมาจากไหนนะ” เอเตียนพูดเสริม
“บลาๆบูบี” อันจิพูดต่อ
“อืม เราจะเตรียมกำลังของเราแล้วกัน” โยมิบอกกับนกตัวนั้น
“อ่ะ แล้วอีกอย่าง ไอ้กลุ่มพวกหน้าใหม่ในเวกัส พวกเราต้องการจับเป็นพวกมัน มันคนหนึ่งมีพลังเวทย์ที่เราสงสัยอยู่” นกตัวนั้นพูดทิ้งท้าย ก่อนที่มันจะบินออกไปในทันที
“โอเค สรุปก็ตามนั้น” โยมิพูดขึ้น
“ฉันจะไปบอกพวกเราให้เตรียมพร้อมนะคะ” ไอจังพูดขึ้น
“อืม ไปที่คาสิโนของแองเจลโล่หล่ะ” โยมิพูดขึ้น
“เอยากไปกินอะไรที่นั่นเหมือนกัน” เอเตียนพูดขึ้น
“นาๆๆๆๆๆ” อันจิพูดต่อ
“เอาเถอะ ตอนนี้รีบไปเตรียมพร้อมแล้วกัน ไปเถอะ” โยมิบอกกับทุกคน ก่อนที่ทุกคนจะรีบแยกย้ายกันออกไป ส่วนตัวโยมิเองก็เดินกลับเข้าไปในห้องของเธอเพื่อเตรียมตัว
กลับมายังคาสิโนของแองเจลโล่ ในตอนนี้ตัวของเขาก็ยังคงอยู่และซ่อมแซมคาสิโนที่เพิ่งจะโดนถล่ม และเนื่องจากความเสียหายไม่มากนัก ตัวของเขาเลยสามารถซ่อมแซมมันได้อย่างง่ายดาย ตัวของเขาเองก็ยืนดูสถานการณ์กับเยเรน่าอยู่ที่ชั้น 2 ด้วย
“ตอนนี้เราวางกำลังคนเอาไว้เต็มพื้นที่ ตรวจสอบทุกคนที่เข้ามาแล้ว รับรองว่าพวกมันแฝงตัวเข้ามาไม่ได้แน่นอนค่ะ” เยเรน่าพูดกับแองเจลโล่
“อืม แบบนั้นก็โอเคแล้วหล่ะ” แองเจลโล่ตอบ
“ว่าแต่ จะไม่ไปพักที่ห้องก่อนเหรอคะ??” เยเรน่าถามไป
“ยังก่อนดีกว่า ฉันอยากให้แน่ใจหน่ะ” แองเจลโล่ตอบ
“ค่ะ เข้าใจค่ะ”
“ว่าแต่ เจ้าพวกนั้น ตอนนี้อยู่ที่ไหนหล่ะ??” แองเจลโล่ถามเยเรน่าต่อ
“ตอนนี้เราตามหาพวกนั้นไม่เจอค่ะ ไม่รู้ว่าไปซ่อนตัวอยู่ไหน เดี๋ยววันมะรืนฉันจะบอกกับผู้กำกับเรื่องนี้ค่ะ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันแค่บอกให้พวกนั้นไปจากเมืองนี้ ถ้าพวก Magic Hunt รู้ พวกนั้นก็คงไม่รอด” แองเจลโล่พูดขึ้น
“ว่าแต่ พวกนั้นจะเอายังไงต่อหล่ะคะ??”
“พวกนั้นคงต้องทำงานตามที่ได้รับว่าจ้าง แต่ฉันแปลกใจก็คือ ใครเป็นนายจ้างของพวกนั้น??” แองเจลโล่ถามต่อ
“ฉันจะให้สายของฉันสืบให้เองค่ะ”
“อืม ว่าแต่ ตอนนี้เวเรนน่าถึงบ้านยังหล่ะ??” แองเจลโล่ถามเยเรน่าต่อ
“คนของเราส่งให้ถึงแล้วค่ะ”
“โอเค แบบนั้นก็ดีแล้วหล่ะ” แองเจลโล่ตอบ และในขณะเดียวกัน คนของหน่วย Magic Hunt คนเดิมก็เดินเข้ามาหาแองเจลโล่ เพื่อพูดคุยอะไรบางอย่าง
“ขอบคุณที่เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่เหนือบ่ากว่าแรงอะไรหรอก ว่าแต่ มีอะไรหรือเปล่า??” แองเจลโล่ถามกลับ
“คุณโยมิบอกว่าจะเดินทางมาที่นี่หน่ะครับ”
“คุณโยมิจะมาเหรอ แปลว่าต้องมีเรื่องใหญ่สินะ??” เยเรน่าถามกลับไป
“ก็ประมาณนั้นครับ อาจจะเป็นงานใหญ่ด้วย”
“ว่าแต่ เรื่องอะไรหล่ะ??” แองเจลโล่ถามไป
“เรื่องพวกเทพปีศาจที่เข้ามาในเมืองนายหน่ะ ไหนจะพวกผู้ใช้เวทย์หลายกลุ่ม ไม่รู้ว่าพวกมันมาทำหอกอะไรกันเยอะแยะ แต่ช่างมันเถอะ เราจะจัดการพวกมันรวดเดียวไปเลย” คนของ Magic Hunt พูดขึ้น
“งานใหญ่อยู่นะคะเนี่ย” เยเรน่าพูดขึ้น
“เดี๋ยวผมจะกลับไปที่หน่วยก่อนแล้วกัน รอต้อนรับกันด้วยนะ” สมาชิก Magic Hunt พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปยังประตูเทเลพอร์ตของเขาที่เตรียมเอาไว้แล้ว
“ดูเหมือนว่าจะเรื่องใหญ่กว่าที่คิดนะเนี่ย” แองเจลโล่พูดขึ้น
“คิดว่าคุณโยมิจะมาตามล่าพวกนั้นด้วยหรือเปล่าคะ??” เยเรน่าถามไป
“ฉันว่าไม่หรอก พวกนั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับพวก Magic Hunt หรอก” แองเจลโล่ตอบ
“ตอนนี้เราคงต้องรอต้อนรับพวกนั้นสินะคะ” เยเรน่าพูดขึ้น
“อืม ก็ตามปกตินั่นแหละ” แองเจลโล่ตอบ
“หวังว่าพวกนั้นจะไม่เจอคุณโยมินะคะ” เยเรน่าพูดขึ้น
“ไม่หรอก ฉันว่าพวกนั้นมันนกรู้ มันคงเผ่นไปก่อนแล้วหล่ะ ฉันจะไปพักหน่อย ฝากข้างล่างด้วยแล้วกันนะ” แองเจลโล่บอกกับเยเรน่าไป
กลับมายังร้านขายปืนของเวเรนน่า ในวันนี้ตัวของเธอกำลังทดลองปืนประจำกายรุ่นใหม่ของกองทัพสหรัฐ ที่เพิ่งจะประจำการได้ไม่นาน
“ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ”
เวเรนน่ายิงได้อย่างแม่นยำ เข้าเป้าทุกนัด ก่อนที่ไม่นานนัก เธอจะวางปืนของเธอเอาไว้ตรงที่วางปืนข้างๆเธอ
“ยิงดีชะมัดเลยกระบอกนี้” เวเรนน่าพูดขึ้น
“ครับ แต่ว่ามันไม่ได้ใช้กระสุน 5.56 คงต้องซื้อกันล็อตใหม่เลยครับ” เด็กที่ร้านขายปืนพูดขึ้น
“ฉันก็เลยยังใช้ M4 อยู่ไงหล่ะ” เวเรนน่าตอบ
“ครับ ว่าแต่ เหตุการณ์ข้างนอกตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ พวกมันหน่ะครับ??”
“ตอนนี้น่าจะเบาลงแล้วหล่ะ ถ้าไม่เบา ฉันจะทำให้มันเบาเอง” เวเรนน่าตอบ
“ครับ ยังดีที่มันไม่กล้ามาที่นี่..” เด็กที่ร้านปืนยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาที่หน้าร้าน
“ตู้ม!!”
เวเรนน่าตกใจมาก เธอรีบหยิบปืนของเธอและรีบออกมาดูที่ด้านนอกในทันที ไม่นานนัก เธอก็พบว่าถังขยะซึ่งไม่ไกลจากหน้าร้านของเธอระเบิดขึ้น คนแถวนั้นพากันตกใจมาก
“อะไรกันวะเนี่ย??” เวเรนน่าถามอย่างสงสัย
“ไม่รู้ว่าพวกไหนป่วนอ่ะพี่”
“บ้าเอ้ย ใกล้ร้านเราด้วย ตอนนี้ก็ระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน” เวเรนน่าพูดขึ้น ก่อนที่เธอกับเด็กของร้านจะพากันกลับเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว
“ตรวจสอบพื้นที่รอบๆ ฉันไม่อยากให้ใครมาวางระเบิดร้านฉัน” เวเรนน่าพูดขึ้น
“ได้เลยครับเจ๊”
“อืม ไม่รู้ว่าพวกมันจะเล่นอะไรต่อ ยังไงก็ระวังตัวด้วย ได้ยินจากแองเจลโล่ บอกว่าพวกมันมาจากต่างเมือง ไอ้พวกนี้มันระยำด้วย” เวเรนน่าพูดขึ้น
“แล้วไงเจ๊ พวกเราก็ระยำกว่าอยู่แล้ว” เด็กของร้านพูดพลางหัวเราะร่าออกมา
ณ ที่ไหนซักแห่ง บริเวณหลังคาสิโนบลูโลตัส คาสิโนที่ผู้คนพากันเข้ามาเล่นการพนันมากไม่แพ้ที่อื่น ด้านหลังคาสิโนซึ่งดูเหมือนจะไม่ค่อยมีใครอยากมาเท่าไหร่
“ตุ๊บ!!”
หญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือมารีนั่นเอง เธอกำลังเตะชายคนหนึ่งที่กำลังนอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น
“อะไรของแกวะ??” ชายคนนั้นตะโกนออกมา แต่มารีเองก็เตะเข้าที่หน้าของชายคนนั้นไปอีกรอบ
“แกใช่มั้ยที่ว่าจ้างฉันให้ไปฆ่า สส. เลเบอร์แมนนหน่ะ??” มารีถามชายคนนั้นไป
“ฉันมันแค่นายหน้า คนจ้างคือรัฐมนตรีคาร์ลอสเว้ย!!” ชายคนนั้นตะโกนออกมา
“อ้อ ฉันรู้จักมัน” มารีตอบ
“เออ มึงก็ไปเอาเรื่องกับมันดิวะ!!” ชายคนนั้นตอบ
“อ้อ ขอบใจ” มารีตอบ ก่อนที่เธอจะใช้ปืนเก็บเสียงของเธอยิงเข้าที่หัวของมันจนตายคาที่
“ปัง!!”
“ตายห่าซะไอ้ควาย” มารีพูดขึ้น ก่อนที่เธอจะรีบเดินออกจากบริเวณคาสิโนในทันที และในขณะเดียวกัน เธอก็หยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา แล้วส่งข้อความหาใครบางคน
“เฮ้ ซิลเวสเตอร์ ฉันมีเรื่องให้ช่วยนิดหน่อย เดี๋ยวไว้ฉันไปหานายแล้วกัน” มารีพูดขึ้น ก่อนที่เธอจะเก็บโทรศัพท์ และเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตัวของเธอจอดรถรอเอาไว้แล้ว เธอรีบไปขึ้นรถในทันทีเพื่อออกเดินทาง
“โอเค หวังว่าจะไม่เจอพวกมันตั้งด่าน” มารีพูดขึ้น
ณ ถนนเส้นหนึ่งซึ่งออกนอกเมือง กลุ่มของดีค่อนตอนนี้ต้องรีบหนีออกมาจากเมือง เนื่องจากกลัวว่าจะโดนคนบางกลุ่มตามล่า พวกเขาเดินทางไปยังฝั่งตะวันตกของสหรัฐเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน ลูกน้องของดีค่อนคนหนึ่งก็ยิงคำถามกับเขา
“เออ ลูกพี่ ผมถามอะไรหน่อยได้มั้ยพี่??”
“เออ ว่าไงหล่ะ??” ดีค่อนถามไป
“บาร์ของพวกที่เราไปลุยมา ฉันเพิ่งรู้ ว่าพวกมันเป็นของกลุ่ม DF หน่ะ” ดีค่อนพูดขึ้น
“หะ พวก DF เหรอครับ ทำไมพวกเราถึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย??” ลูกน้องของเขาถามไป
“ดูเหมือนว่าพวกแม่งจะใช้เราจัดฉากทำอะไรบางอย่าง คนของเราที่รับงานมา ยังอยู่หรือเปล่า ฉันมีเรื่องจะสอบถามมันหน่อย” ดีค่อนพูดขึ้น
“ครับ ผมจะไปเรียกมันมาคุยครับ” ลูกน้องของเขาพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เขาจะหยิบวิทยุขึ้นมาเพื่อเรียก
“เฮ้ เบน ลูกพี่จะเรียกคุยหน่อย”
“เออพี่ เบนมันหายไปแล้วครับ” เสียงปลายสายวิทยุตอบกลับมา ทำเอาทั้งดีค่อนและลูกน้องของเขาที่ถือวิทยุตกใจมาก
“เฮ้ย เป็นไปได้ยังไง เมื่อวานยังเห็นมันอยู่เลย??”
“มันเป็นไปแล้วครับ มันหายไปตั้งแต่ตอนที่พวกข้าศึกมันบุกมาหาเราแล้วครับ”
“ระยำเอ้ย นี่มันหักหลังฉันเหรอ??” ดีค่อนถามไป
“จะไปตามหามันได้ที่ไหนหรือเปล่า??”
“ไม่ทราบครับ มันไม่มีครอบครัวด้วยครับ”
“แม่งเอ้ย ทำยังไงก็ได้ให้ตามหามันให้ได้!!” ดีค่อนพูดอย่างโกรธแค้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง โทรศัพท์ของดีค่อนก็ดังขึ้น เขารีบรับสายในทันที
“เออ ว่าไงหล่ะ??”
“ลูกพี่ ไอ้เบนมันตายแล้วพี่ ศพของมันโดนวางไว้กลางถนนเลยพี่ ตอนนี้พวกตำรวจกำลังตามสืบอยู่..”
“อะไรนะ บ้าเอ้ย ซับซ้อนกว่าที่คิดอีกนะเนี่ย” ดีค่อนพูดขึ้นมา
ณ คาสิโนบลูโลตัสในเวกัส ที่ด้านหลังคาสิโน ซึ่งไม่ค่อยมีใครเข้าไปทางนั้นมากนัก ประตูหลังที่พนักงานคาสิโนคนหนึ่งกำลังยืนรอใครบางคน และไม่นานนัก กลุ่มของมิไรก็วาร์ปมายังประตูด้านหลัง ซึ่งพนักงานคาสิโนเมื่อได้เห็นก็เดินเข้ามาหาเขาในทันที
“ไม่เข้าประตูหน้าเหรอครับ??”
“ไม่อยากให้ใครรู้หน่ะ” มิไรตอบ
“ครับ เราเตรียมห้องพักเดิมไว้ให้แล้วครับ”
“อืม แล้วช่วงนี้มีข่าวอะไรบ้างมั้ยหล่ะ??” มิไรถามพนักงานคาสิโนต่อ
“ดูเหมือนว่ามีพวกหน้าใหม่เข้ามาในเวกัสมากขึ้นเรื่อยๆครับ”
“งั้นเหรอ มีพวก Magic Hunt หรือเปล่า??” มิไรถามต่อ
“คิดว่าน่าจะมีครับ”
“อืม แค่นี้หล่ะ พาฉันไปที่ห้องที่” มิไรพูดขึ้น ก่อนที่พนักงานคาสิโนจะพาพวกของมิไรเดินไปที่ลิฟต์ตัวหนึ่ง ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อให้แขกที่ไม่ประสงค์จะเผยตัวได้มาเข้ามา มิไรกับลูกน้องคนสนิทเดินเข้าไปในลิฟต์ ก่อนที่พนักงานลิฟต์จะกดลิฟต์ให้
“คิดถึงโจอี้เหมือนกันหว่ะ” มิไรพูดขึ้น
“เขาน่าจะกำลังรออยู่ครับ” พนักงานคาสิโนตอบ
“ไม่ต้องห่วง ฉันไปหาหมอนั่นแน่” มิไรพูดต่อ
“ช่วงนี้คุณโจอี้งานยุ่งนิดหน่อย แต่เขาคงจะหาเวลามาพบคุณแน่นอนครับ” พนักงานคาสิโนบอกกับมิไร
กลับมายังคลับของซอกฮุน ในตอนนี้ตัวของซอกฮุนเองพยายามจะหาคำตอบว่าคนกลุ่มไหนที่เล่นงานคนของเขา โดยที่ตัวของเขากำลังนั่งเสพกามกับหญิงสาวคนหนึ่ง ในขณะเดียวกัน ลูกน้องของเขาคนหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว
“ลูกพี่!!”
“เฮ้ย มึงจะเข้ามาตอนนี้ทำห่าอะไรวะ??” ซอกฮุนตะโกนถามกลับไปอย่างอารมณ์เสีย
“ไอ้วังเพียวมันโดนเก็บแล้วพี่!!”
“หะ อะไรนะ ไอ้วังเพียวเหรอ??” ซอกฮุนตะโกนออกมาแล้วรีบลุกขึ้น ทั้งๆที่ท่อนล่างของตัวเองยังเปลือยอยู่
“ใช่พี่ ร่างมันโดนกระทืบไข่ซะแหลกเลยพี่!!”
“หะ ฝีมือใครวะเนี่ย??” ซอกฮุนถามต่อ
“ผมลองถามพวกเราดู น่าจะเป็นพวกเดียวกับที่เล่นงานเราที่คาสิโนครับ”
“แม่งเอ้ย ระดมคนตามล่ามันให้ได้ ไม่ว่ายังไง!!” ซอกฮุนตะโกนออกมา และในขณะเดียวกัน ลูกน้องของซอกฮุนอีกคนก็รีบวิ่งมาหาเขา
“ลูกพี่!!”
“เฮ้ย อะไรอีกวะ??” ซอกฮุนตะโกนถามอีกรอบ
“ขบวนรถขนของของเราโดนโจมตีครับ!!”
“เฮ้ย โดนโจมตีเหรอ ยังไงวะ??” ซอกฮุนถามไป
“มันมาดักหน้าขบวน ฆ่าพวกเรา และปล่อยของที่อยู่ในนั้นออกมาจนหมดเลยครับ”
“แม่งเอ้ย สืบให้ได้ว่าฝีมือใคร ฉันจะไปเวกัส ไปดูหน้าไอ้พวกนั้นหน่อยว่าพวกมันเป็นใคร” ซอกฮุนพูดขึ้น
“งั้นเดี๋ยวผมไปเตรียมรถนะพี่” ลูกน้องของซอกฮุนคนหนึ่งพูดขึ้นแล้วรีบเดินออกไปในทันที
“เอาคนกับอาวุธไปให้เยอะๆเลยนะเว้ย!!” ซอกฮุนบอกกับลูกน้องอีกคนไป
“โอเคลูกพี่” ลูกน้องอีกคนได้ยินก็รีบเดินออกไปในทันที
“ส่วนเธอ ทำให้ฉันเสร็จต่อ!!” ซอกฮุนบอกกับอีหนูในห้องของเขา
กลับมายังบ้านพักของเฟท หลังจากที่เขาได้เจอกับซาดิน ตัวของเขาก็กลับมานั่งพักที่บ้านของเขา เขานั่งเพ็งมองสร้อยของตัวเองเพื่อดูคำทำนายเพิ่มเติม
“อะไรวะเนี่ย ขนาดนี้เลยเหรอ??”
“แล้วฉันจะไปหาไอ้พวกนั้นได้ที่ไหนหล่ะ??”
“ใครก็ได้บอกฉันที” เฟทพยายามจะหาคำตอบ แต่ในตอนนั้นเอง
“พี่คะ..”
เสียงของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้น เฟทลืมตาขึ้นมา ก่อนที่จะพบว่า เด็กสาวคนเดิมที่เขาเคยเจอได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาแล้ว เขาเองตกใจมาก
“พี่คะ ช่วยแม่หนูด้วย หนูไม่อยากให้พวกมันมาเอาแม่หนูไป..” เด็กสาวคนนั้นพูดขึ้น
“ใครกันเหรอจะมาเอาไป??” เฟทถามไป
“ศัตรูของแม่ พวกมัน กลัวว่าแม่จะเอาความลับของพวกมันไปบอกกับคนอื่น..”
“ความลับงั้นเหรอ??” เฟทถามไป
“ไปที่เรือโจรสลัดสิคะ..” เด็กสาวคนนั้นพูดต่อ ก่อนที่ไม่นานนัก เด็กสาวคนนั้นจะค่อยๆเฟดตัวเองจางหายไป เฟทเองรีบลุกขึ้นในทันที
“หักหลังงั้นเหรอ ความลับงั้นเหรอ มันเรื่องอะไรกันเนี่ย??” เฟทถามอย่างสงสัย
ณ บริเวณท่อระบายน้ำแห่งหนึ่งในชั้นใต้ดินของเวกัส พื้นที่ที่ดูไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่ เนื่องจากมันทั้งเหม็น สกปรก ราวกับว่ามีแค่หนูเท่านั้นที่อยู่ในนั้นได้ แต่ด้านในยังมีเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่ง กลุ่มนั้นคือเหล่าเทพปีศาจ รวมถึงตัวของซาดินเองด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สนใจบรรยากาศด้านในท่อระบายน้ำเลยแม้แต่น้อย
“ข้าสัมผัสได้ถึงนาง” ยิเมียร์พูดขึ้น
“นั่นสิ ยิ่งเดินเข้าใกล้ก็รู้สึกได้เลย” บาร์บาทอสพูดเสริม
“ดูเหมือนว่านางต้องการให้เราไปทางนั้นนะ” ซาดินพูดขึ้นและชี้ไปยังลูกกรงที่ปิดกั้นท่อระบายน้ำ ซึ่งมันขวางทางพวกเขาเอาไว้
“คงต้องทำลายลูกกรงนี่หล่ะ” อาร์เทมิสพูดขึ้น
“พลังพวกเราทำลายง่ายๆอยู่แล้ว” ไรจินพูดขึ้น
“อย่าทำให้นางตกใจสิ” มอลอซพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก ตัวของเธอจะเดินไปที่ลูกกรงนั้น และไม่นานนัก มอลอซเองก็ใช้มือของเธอจับลูกกรงนั้น จากนั้นก็หลับตาไปด้วย
“มาเรียน่า ถ้าเธอได้ยิน ฉันมาหาเธอแล้วนะ..”
“แว่บ!!”
ในตอนนั้นลูกกรงก็ค่อยๆหายไป ทุกคนที่เห็นตกใจมาก ไม่นานนัก มอลอซเองก็เดินนำไปเป็นคนแรก
“เฮ้ รอด้วยสิ” ซาดินพูดขึ้น ก่อนที่พวกเขาทุกคนจะเดินตามมอลอซไป พวกเขาเดินไปเรื่อยๆ และพวกเขาก็พบว่ามีบ่อน้ำขนาดใหญ่บ่อหนึ่ง รายล้อมไปด้วยเครื่องประดับมากมาย น้ำในบ่อดูจะสะอาดและบริสุทธิ์ และไม่มีสิ่งมีชีวิตใดกล้าเข้าใกล้มันด้วย
“ที่นี่งั้นเหรอ??” ยิเมียร์ถามไป
“มาเรียน่า เธอได้ยินฉันหรือเปล่า??” บาร์บาทอสตะโกนออกไป
“พวกเรามาแล้วนะ เธออยู่ในนั้นหรือเปล่า??” อาร์เทมิสถามเสริม และไม่นานนัก บ่อน้ำนั้นก็ค่อยๆเปล่งแสงออกมา พวกเขามองมันอย่างตื่นเต้น
“ออกมาแล้วสินะ” ไรจินพูดขึ้น และไม่นานนัก หญิงสาวคนหนึ่งก็โผล่ออกมาจากบ่อน้ำ เธอว่ายน้ำขึ้นมา และเกาะขอบบ่อเอาไว้
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” หญิงสาวคนนั้นพูดขึ้น
“มาเรียน่า เธอสบายดีนะ??” มอลอซถามเธอไป
“ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ ถ้าดูจากตอนนี้นะ ดีใจที่ได้พบท่านซาดิน” มาเรียน่าพูดขึ้น
“มาเรียน่า ฉันอยากรู้ว่า..” ซาดินยังพูดไม่ทันจบ
“เรารู้ว่าท่านจะถามอะไร มีหลายอยากที่พวกนายอยากรู้ เรื่องที่ฉันหายไป แล้วไหนจะเรื่องพวกสภาจอมเวทย์อีก” มาเรียน่าพูดขึ้น
“เรานึกว่าเธอจะร่วมมือกับพวกสภาจอมเวทย์ซะอีก” บาร์บาทอสพูดขึ้น
“ยังเหมือนเดิมเลยนะบาร์บาทอส ถ้าฉันไม่หนี ฉันคงไม่ทันได้โดนผนึก คงจะตายจากน้ำมือพวกมันเลยหล่ะ” มาเรียน่าพูดขึ้น ทำเอาทุกคนแปลกใจมาก
“หะ ตายเลยเหรอ??’ อาร์เทมิสถามไป
“ใช่ ฉันหนีออกมา แล้วพบรักกับมนุษย์ ฉันมีลูกสาวให้เขา แต่ก็นะ พวกมนุษย์อายุขัยสั้นกว่า ฉันต้องทนเห็นสามีฉัน และลูกสาวฉันตายตั้งแต่อายุยังน้อย” มาเรียน่าพูดขึ้น
“ฉันเสียใจด้วย แต่ทำไม เธอถึงต้องหนีมาหล่ะ??” ไรจินถามต่อ
“ฉันจะให้พวกสภาจอมเวทย์เจอตัวฉันไม่ได้ ฉันเป็นเทพตนเดียวที่ยังไม่ถูกดึงพลังไป พวกนายก็รู้นี่” มาเรียน่าพูดขึ้น
“ฉันเองก็เคยได้ยินเรื่องนี้ แต่ทำไมพวกสภาจอมเวทย์ถึงต้องไล่ล่าเธอแบบนั้น เธอไปรู้เรื่องอะไรของพวกมันงั้นเหรอ??” ซาดินถามไป
“พวกสภาจอมเวทย์ มันมีแผนการที่จะยึดครองทั้งโลกเวทย์มนต์ และโลกมนุษย์ โลกของพวกมนุษย์ก็กำลังเป็นอันตรายเหมือนกัน” มาเรียน่าพูดขึ้น
“เดี๋ยว แต่ดินแดนเวทย์มนต์ก็โดนทำลายไปแล้วนี่??” มอลอซถามไป
“นั่นก็คือส่วนหนึ่งของแผน พวกมันสร้างเรื่องเพื่อต้องการเดินทางไปยังโลกมนุษย์ คนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง มันคือ..” มาเรียน่าอธิบายทุกอย่างออกมา ทำเอาทุกคนที่ได้ฟังนั้นตกใจกันมาก
“อะไรกันเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย” มอลอซพูดขึ้น
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเป็น” ไรจินพูดเสริม
“ท่านซาดิน ท่านรู้จักพวกหน้าใหม่ที่เข้ามาในเมืองหรือไม่ มีพวกหนึ่ง ฉันจะให้ลูกสาวฉันนำทางคุณไป ฉันต้องคุยกับพวกเขา” มาเรียน่าพูดขึ้น
“ก็ได้ วางใจได้เลย” ซาดินพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเขาจะรีบเดินออกไปในทันที ส่วนเทพปีศาจตนอื่นๆก็ยังอยู่ในนั้น
“เธอยากตามหาพวกนั้นทำไมกัน??” อาร์เทมิสถามไป
“เขามีพลังที่ฉันสนใจ และฉันต้องเตือนพวกเขา พวกเขาพยายามตามหาฉัน ไม่รู้ว่ามีใครว่าจ้างมา” มาเรียน่าพูดขึ้น
“จ้างพวกหน้าใหม่เนี่ยนะ??” บาร์บาทอสถามไป
“เฮ้อ ฉันอาจจะต้องไปจากที่นี่แล้วหล่ะ อีกไม่นาน” มาเรียน่าพูดขึ้น
“งั้นไปกับพวกเราสิ พวกเราจะคุ้มกันเธอเอง” มอลอซพูดขึ้น
“แต่เรื่องนี้มันใหญ่กว่าที่พวกเธอคิดนะ” มาเรียน่าพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหรอก พวกสภาจอมเวทย์ตามล่าเรา พวกเราก็สู้กับพวกมันได้ ไม่ต้องห่วงหรอก” บาร์บาทอสพูดขึ้น
“ใช่ มากับพวกเราเถอะ” อาร์เทมิสพูดเสริม
“ขอบใจนะ ฉันขอโทษที่ทิ้งพวกนายมา ฉันพยายามจะแก้ไขเรื่องนี้ และฉันจะหยุดมันเอง” มาเรียน่าพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วง เธอได้ทำแน่” ไรจินพูดขึ้น
“แต่ว่า ฉันจะต้องเจอกับพวกหน้าใหม่พวกนั้นให้ได้ก่อน” มาเรียน่าพูดขึ้น
“อืม เอาแบบนั้นก็ได้ พวกเราจะอยู่ที่นี่ก่อนแล้วกัน” มอลอซบอกกับมาเรียน่าไป
กลับมายังคฤหาสน์ของโครวี่ ในวันนี้ตัวของเขาและกลุ่มของเขากำลังเดินทางไปยังเวกัส เพื่อไปร่วมวงการต่อสู้ระหว่างกลุ่มผู้ใช้เวทย์กับกลุ่มสภาจอมเวทย์ โครวี่ตอนนี้กำลังเลือกชุดสูทของเขา ในระหว่างนั้นเอง เลขาของเขาก็เดินเข้ามาในห้องแต่งตัวของเขาเพื่อมาคุยอะไรบางอย่าง
“ท่านคะ คุณยูจีนมาแล้วค่ะ”
“อืม เดี๋ยวฉันไป” โครวี่ตอบ
“ยังใส่สูทตัวเก่งเหมือนเดิมเลยนะคะ” เลขาของเขาพูดขึ้น
“ไม่งั้นก็ไม่ใช่โครวี่ตัวจริงหน่ะสิ” โครวี่ตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก เขาจะเลือกหยิบเน็คไทเส้นหนึ่ง ซึ่งเป็นสีแดงมาใส่
“ปกติใส่สีน้ำเงินนี่คะ” เลขาพูดขึ้น
“อยากลองเปลี่ยนบ้างหน่ะ” โครวี่ตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก เขาจะเดินออกไปนอกห้องแต่งตัวพร้อมกับเลขาของเขา และไม่นานนัก เขาก็เจอกับยูจีนที่กำลังเตรียมประตูเทเลพอร์ตเพื่อพาพวกเขาไปยังเวกัส
“ว่าไงยูจีน??”
“คุณโครวี่ แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอครับ??”
“ใช่ แล้วนี่สถานการณ์ในเวกัสเป็นยังไงบ้างหล่ะ??” โครวี่ถามไป
“ตอนนี้หลายฝ่ายเริ่มเข้าไปแล้ว เหลือแค่รอไฟเขียวเปิดฉากปะทะครับ” ยูจีนตอบ
“อืม เข้าใจหล่ะ คุณเลขา ที่พักของเราพร้อมยัง??” โครวี่ถาม
“พร้อมแล้วค่ะ”
“งั้นออกเดินทางกันเลย” โครวี่ตอบ
“เชิญทางนี้เลยครับ” ยูจีนพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เขาจะพาโครวี่เข้าไปยังวงกลมเทเลพอร์ต ไม่นานนัก โครวี่ก็เดินทางมาถึงที่พักของเขา มันเป็นโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งโครวี่ซื้อเอาไว้ โรงแรม 5 ดาวแห่งนี้ต้อนรับแขกระดับ VIP มากมาย และเมื่อโครวี่เดินทางมาถึง พนักงานของโรงแรมก็เดินมาต้อนรับเขาในทันที
“สวัสดีครับคุณโครวี่ กลับมาแล้วเหรอครับ??”
“ใช่ ฉันอยากมาพักผ่อนนิดหน่อยหน่ะ” โครวี่ตอบ
“ครับ เราเตรียมห้องเพนเฮ้าส์ไว้แล้วครับ”
“โอเค พาฉันไปเลย” โครวี่พูดขึ้น และพนักงานคาสิโนจะพาโครวี่ไปยังลิฟต์ตัวหนึ่ง ซึ่งมีแต่ลูกค้า VIP เท่านั้นที่จะใช้มันได้ พวกเขากดไปยังชั้นบนสุดอย่างรวดเร็ว โดยที่ยูจีนก็ไปด้วย
“เวกัสนี่ยังคึกคักเหมือนเดิมเลยนะ” โครวี่พูดขึ้น
“ใช่ครับ แล้วคุณจะไม่ผิดหวังครับ”
“อืม แล้วในเมืองนี้ตอนนี้มีอะไรวุ่นวายหรือเปล่า??” โครวี่ถามไป
“มีพวกบ้าที่ไหนไม่รู้เข้ามาในเมือง มาเล่นกับแองเจลโล่ ขาใหญ่ของเวกัสครับ”
“อ้อ ฉันรู้ว่าพวกไหน” โครวี่ตอบ และไม่นานนัก ลิฟต์ก็พาพวกเขามายังชั้นห้องเพนเฮ้าส์ ซึ่งถูกตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหรา พนักงานโรงแรมพาโครวี่เข้าไปในห้องทันที
“โอเค แค่นี้แหละ เดี๋ยวมีอะไรผมจะเรียก” โครวี่พูดกับพนักงานโรงแรม
“ครับ เดี๋ยวเชฟส่วนตัวจะตามมานะครับ” พนักงานพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินกลับลงไปข้างล่าง เหลือแค่โครวี่กับยูจีนที่ยังอยู่ที่ห้องเพนเฮ้าส์
“โอเค ฉันขอพักหน่อยแล้วกัน นายอยากจะพักด้วยหรือเปล่าหล่ะ??” โครวี่ถามยูจีน
“อ้อ ผมไปหาข่าวเพิ่มดีกว่าครับ”
“อืม ไม่เป็นไร ถ้างั้นก็โชคดีนะ” โครวี่พูดขึ้น
“ขอบคุณครับ” ยูจีนพูดจบก็เดินออกไป
ณ ถนนเส้นหนึ่งซึ่งจะออกจากเวกัส ในตอนนี้มอลกับโสนกำลังพยายามจะออกจากเวกัสหลังจากที่ได้ข้อมูลของเขามาแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไปได้ไม่ไกล พวกเขาก็เจอกบกลุ่มตำรวจที่ตั้งด่านสกัดทางเข้าออกเอาไว้ มอลรีบขับรถเข้าไปจอดที่ร้านสะดวกซื้อบริเวณชานเมืองก่อนในทันที
“พวกตำรวจตั้งด่าน ผมจะไปดูหน่อย” มอลพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเขาจะลงจากรถ จากนั้นก็เดินลงไปจากรถ และออกไปสำรวจพื้นที่ที่ตำรวจตั้งด่าน แต่ในแวบหนึ่ง เขาก็เห็นชายชุดขาวประมาณ 3 คนซึ่งเดินลาดตระเวนอยู่แถวๆด่านตรวจด้วย มอลรีบกลับไปหาโสนในทันที
“แย่หล่ะ เราออกจากเมืองไม่ได้” มอลพูดขึ้น
“อ้าว ทำไมกันหล่ะ??” โสนถามอย่างสงสัย
“พวกตามล่าผู้ใช้เวทย์อยู่กับตำรวจพวกนั้นหน่ะสิ” มอลตอบไป
“หะ เดี๋ยวนะ พวกนั้นร่วมมือกันตั้งแต่เมื่อไหร่หล่ะ??” โสนถามอยางแปลกใจ
“ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ดูเหมือนว่าเราน่าจะยังปจากที่นี่ไม่ได้” มอลตอบ
“ถ้าอย่างงั้น เรากลับสำนักงานเราก่อนดีกว่านะคะ” โสนพูดขึ้น
“นั่นสิ หวังว่าพวกตำรวจจะยังไม่เจอพวกเรานะ” มอลพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก มอลจะรีบขึ้นรถ แล้วหาทางกลับเข้าเวกัสไปในทันที
“อยากพักผ่อนอยู่พอดีเลย” โสนพูดกับมอลไป
“อืม เอาไว้เดี๋ยวผมพาไปคาสิโนนะ” มอลตอบกลับ
ณ ตึกอพาร์ทเมนท์ที่กลุ่มของเคนนี่กบดานอยู่ ซาดินเดินทางมาที่นี่ และเดินเข้าอพาร์ทเมนท์ ซึ่งเด็กคนหนึ่งที่อยู่แถวนั้นก็เดินเข้าไปหาเขา
“เข้าไม่ได้ครับ!!”
“เออ น้องชาย พี่มาหาคนหน่ะ นิดเดียวนะ” ซาดินพูดขึ้นแบบเรียบๆ แต่ทำเอาเด็กคนนั้นเกรงกลัวและไม่กล้าทำอะไร และได้แต่หลีกทางให้กับซาดิน ซาดินเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ และไม่นานนัก เขาก็พบกับกลุ่มผู้ใช้เวทย์ รวมถึงสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ ที่ตั้งกำลังพร้อมอาวุธครบมือรอเขาอยู่แล้ว
“เดี๋ยว ผมมาดีนะ ผมแค่มาตามหาคน” ซาดินพยายามพูดห้ามศึก แต่ออร์กตัวหนึ่งก็วิ่งเข้ามาและต่อยซาดิน ซาดินหยุดหมัดของออร์กตัวนั้นเอาไว้ได้ จากนั้นก็เตะออร์กตัวนั้นกระเด็นไป
“เฮ้อ คิดว่าพวกเรากลัวเทพแบบแกหรือไง??” แวมไพร์สาวตนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมถือดาบมาด้วย
“ก็ไม่กลัวอยู่แล้ว แต่ผมไม่ได้มาหาเรื่องนะ!!” ซาดินตอบ และในขณะเดียวกันนั้นเอง
“พรึ่บ!!”
วาคูลาก็พุ่งเข้ามาและมายืนอยู่ต่อหน้าซาดิน ก่อนที่การเจรจาจะพูดขึ้น
“ท่านต้องการอะไร??”
“ผมแค่มาหาคน เรื่อนี้เกี่ยวพันกับสงครามผู้ใช้เวทย์ และอีกหลายอย่างเลย” ซาดินตอบ
“พวกเราไม่สนใจสงครามพวกนั้น ถ้าพวกเจ้าอยากจะรบก็รบกันไปสิ” วาคูลาตอบ
“ท่านคิดว่าพวกมันจะไม่มายุ่งกับพวกท่านงั้นเหรอ??” ซาดินถามไป
“ก็ให้พวกมันมายุ่งดูสิ” วาคูลาตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก กลุ่มของเคนนี่จะปรากฏตัว โดยที่เคนนี่เองก็เล็งปืนใส่ซาดินคนนั้น
“คุณต้องการอะไร??” เคนนี่ตะโกนออกมา แต่ในตอนนั้น ซาดินสัมผัสได้ถึงพลังเวทย์มนต์ของเคนนี่ ตัวของเขารีบหันไปทางเคนนี่ในทันที
“นายสินะ คนที่ได้รับพลังมาจากผู้เฒ่าเคอร์เก้หน่ะ??” ซาดินถามไป
“ผมไม่อยากรู้อะไรด้วย แล้วคุณอยากจะคุยอะไรกับผม??” เคนนี่ถามไป
“ฉันรู้ว่านายกำลังทำอะไรอยู่ ใครมันกำลังตามล่านาย รู้ด้วยว่าพวกสภาจอมเวทย์กำลังจะทำอะไรต่อไป” ซาดินบอกกับเคนนี่
“ผมไม่ได้อยากรู้” เคนนี่ตอบ
“แต่เรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับหายนะของดินแดนเวทย์มนต์ รวมถึงโลกของนายด้วย รู้จักมาเรียน่า เทพปีศาจธาตุน้ำหรือเปล่า นางอยากเจอกับนาย งานของพวกนายคือตามหาเธอนี่ ไม่ใช่เหรอ??” ซาดินถามเคนนี่ ในตอนนั้นเองเคนนี่ก็แอบลังเลเล็กน้อย
“ไปที่เรือโจรสลัดเดิมสิ แล้วนายจะได้เจอกับเธอ อีกอย่าง ท่านวาคูลา บอกพวกท่านเตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน ตอนนี้กองกำลัง Magic Hunt ล้อมเวกัสไว้หมดแล้ว พวกนั้นคงจะค้นทุกอย่างเพื่อตามล่าผู้ใช้เวทย์ทุกคน ฉันมาบอกแค่นี้” ซาดินพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก ซาดินจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว เหลือแค่กลุ่มของเคนนี่ที่ยังสงสัยในเรื่องที่เกิดขึ้น
“ทำไมอยู่ดีๆเธอถึงอยากเจอพวกเรานะ??” เคนนี่พูดขึ้น
“หรือว่า เธอจะหลอกให้พวกเราไปจัดการหล่ะ??” เวโรนิก้าถามขึ้น
“ผมว่าไม่หรอก ไม่งั้นซาดินคนนั้นคงลากตัวผมไปแล้ว แต่ช่างมันเถอะ ถ้าเธออยากเจอผม ผมก็จะไปเจอ” เคนนี่บอกกับทุกคนไป
==================================================================
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมกันเน้อ
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ
https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย
ให้ของขวัญเป็นกำลังใจกันได้ครัช ไหว้หล่ะ
ความคิดเห็น