คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : EP 9 : เมฆหมอกเริ่มเคลื่อนตัว
เช้าวันต่อมาหลังจากการฉลองปีใหม่
ทุกคนตื่นมาในสภาพที่ไม่ค่อยจะสดชื่นเท่าไหร่นัก พวกเขาทำต่างกิจวัตรของแต่ละคน
หลังจากเสร็จแล้ว พวกเขาก็ไปรวมตัวกันที่ห้องโถงรับแขก เพื่อพุดคุยและมารวมตัวกัน
นอร์รีน
: หวังว่าทุกคนคงจะพักผ่อนกันพอนะครับ
เอสเทอร์
: ว่าแต่ วันนี้มีอะไรกินบ้างหล่ะเนี่ย
มิสซึ
: เสบียงเราหมดแล้ว มีแต่น้ำดื่มที่พอกินอยู่หน่ะ
ซีโร่
: อะไรนะพี่ นี่วันนี้เราจะไม่มีอะไรกินเลยเหรอ
อลิซ
: ก็เมื่อคืนเรากินเสบียงกันจนหมดแล้วนี่หน่า
ไลฟ์
: แล้วแบบนี้เราจะเอายังไงกันต่อดีหล่ะเนี่ย
มิเชล
: ถ้างั้นคืนนี้เราคงต้องออกไปหาเสบียงให้ได้หน่ะ
ยูจีน
: โอเคค่ะ ถ้างั้นทีมชุดเดิมก็ไปนะคะ ส่วนที่เหลือก็เฝ้าอยู่ที่นี่
ตะวัน
: ก็ดีนะครับ คราวนี้เราต้องได้เสบียงมาแน่ๆ
อนูวา
: เรื่องเสบียงไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง
ซิลเวีย
: คุณจะทำยังไงหล่ะคะ พอจะบอกเราได้หรือเปล่า
ในตอนนั้นเอง
หมาของเอจิก็วิ่งกลับมา พร้อมกับซากกิ้งก่าในปาก มันเอามากองต่อหน้าทุกคน
เอจิ
: ฮาจิ นี่นายหาอาหารมาให้พวกเรางั้นเหรอ
บารีร่า
: ห่ะ กิ้งก่าเหรอคะ จะกินได้หรือเปล่าหล่ะเนี่ย
มิสซึ
: พอจะกินได้นะครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง // มิสซึเก็บกิ้งก่าที่ตายแล้ว
จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องครัว จากนั้นเอจิก็ให้ฮาจิออกไปหาอาหารเพิ่มเติมต่อ
อลัน
: ถ้างั้น มีอะไรกินก็คงต้องกินไปก่อนหล่ะนะ
สตอร์ม
: นั้นสิ แต่ฉันไม่เกี่ยวหรอกนะ หนักกว่านี้ฉันก็กินมาแล้ว
นอร์รีน
: ว่าแต่ มีข่าวอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกภายนอกหรือเปล่าอ่ะ
อลิซ
: ฉันฟังวิทยุมา ได้ยินว่าตอนนี้รัฐบาลเริ่มจะเคลื่อนพลเข้ามาในเมืองแล้ว
สตอร์ม
: ถ้าพวกมันมาถึง เราตายกันหมดแน่ คงต้องสู้กับพวกมันหล่ะ
อลัน
: ฉันเข้าใจนายนะ แต่ตอนนี้เราจะทำอะไรได้หล่ะ
ไลฟ์
: ใช่ค่ะพี่ อาวุธเราก็แทบไม่มีซะอย่าง จะไปสู้กับใครได้คะ
มิเชล
: ใจเย็นๆก่อนนะคะ เราจะไม่สู้กับใครถ้าไม่จำเป็น โอเคนะคะ
เอสเทอร์
: อย่าเพิ่งคิดเรื่องนั้นเลย คิดว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรกินก่อนดีกว่ามั้ย
โทนี่
: ไม่ต้องกลัวหรอก คืนนี้ฉันจะออกไปหาอะไรให้เอง
อลิซ
: พวกเธอ ได้กลิ่นอะไรหอมๆมาทางนี้หรือเปล่าอ่ะ // พวกเขาดมกลิ่นหอมเหมือนมีอะไรย่างมาแต่ไกล
ซิลเวีย
: เหมือนใครกำลังย่างอะไรอยู่นะคะเนี่ย
ยูจีน
: ไม่แน่นะ มิสซึอาจจะทำอะไรให้พวกเรากินอยู่ก็ได้นะ
และในตอนนั้นเอง
มิสซึก็ออกมาพร้อมกับกิ้งก่าที่จับมาได้ ย่างไฟหอมๆให้ทุกคนได้กินกัน
มิสซึ
: แบ่งๆกันกินนะทุกคน ของมันมีน้อยหน่ะ
ซีโร่
: มันจะกินได้เหรอครับเนี่ย // ซีโร่หยิบเข้าปากโดยที่ไม่ค่อยเต็มใจ
แต่เขารู้สึกว่าต้องหยิบมากินอีก
ซีโร่
: โห อร่อยจริงๆครับพี่
บารีร่า
: ไหนๆ ลองกินดูหน่อยสิ // บารีร่าหยิบเข้าปากบ้าง
เธอบอกว่ามันอร่อยมาก จนคนอื่นๆก็มาแบ่งกัน สุดท้ายกิ้งก่าย่างก็หมดอย่างรวดเร็ว
ตะวัน
: จากไม่ชอบกลายมาเป็นชอบซะงั้นนะเนี่ย // และในตอนนั้นเอง
ฮาจิก็คาบกิ้งก่ามาได้อีกแล้ว ฮาจิรีบเก็บมันมาในทันที
จากนั้นเขาก็ลูบหัวฮาจิเอาไว้
เอจิ
: เป็นไงบ้างเอจิ ได้มาแค่นี้เองเหรอเดี๋ยวฉันเก็บไว้เผื่อแกเองนะ
จากนั้นพวกเขาก็รอมิสซึย่างกิ้งก่าอย่างใจจดใจจ่อ
แต่มันก็มีไม่มากพอสำหรับทุกคนเท่าไหร่
อีกด้านหนึ่งของเมือง
หน่วยดอว์นซอร์ดที่เพิ่งจะฉลองกันอย่างสนุกสนาน
ก็ตื่นขึ้นมาโดยที่ส่วนใหญ่ยังแฮงค์กันอยู่
หลังจากที่ทุกคนทำกิจวัตรส่วนตัวของทุกคนเสร็จ
พวกเขาก็มานั่งกินข้าวเพื่อไม่ให้ท้องตัวเองว่าง
อเล็กซานเดอร์
: เอาหล่ะ หวังว่าทุกคนคงจะสนุกกันนะเมื่อคืน
คาสเตอร์
: แน่นอนหัวหน้า ว่าแต่อเล็กซ่าทำอาหารเสร็จหรือยังเนี่ย
และในตอนนั้นเอง
อเล็กซ่าก็ยกอาหารมาให้กับทุกคนได้ทานกัน
อเล็กซ่า
: มากินกันเร็วทุกคน กำลังร้อนๆเลยเนี่ย
ซิลเวสเตอร์
: แหม่ นี่ยังน่ากินเหมือนเดิมเลยนะเนี่ย
อีริค
: ได้กินอะไรแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ว่าแต่วันนี้มีภารกิจอะไรหรือเปล่าเนี่ย
เควิน
: วันนี้ไม่น่าจะมีนะ ไม่มีวิทยุติดต่อเข้ามาเลย
คาสเตอร์
: ก็ดีแล้วหล่ะ วันนี้ฉันอยากพักบ้าง ถ้าเหล้าเหลือจะถอนให้ซะใจเลย
อีริค
: นี่พวก ยังจะกินอีกเหรอเนี่ยแหม่ เพลาๆบ้างเถอะ
อเล็กซานเดอร์
: ว่าแต่ตอนนี้สถานการณ์การรบเป็นยังไงบ้างหล่ะเนี่ย
ซิลเวสเตอร์
: ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาลือกันว่ารัฐบาลเริ่มกวาดล้างพวกมันแล้วนี่
เควิน
: ก็ดีนะครับ สงครามบ้าๆนี่จะได้จบลงซะที // เขาพูดพลางตักอาหารเข้าปาก
อเล็กซ่า
: นี่ เวลากินไม่ต้องพูดมากก็ได้นะ
ณ
เขตชานเมืองหลวงโซราติก หน่วยรบพิเศษไทยก็ได้แฝงตัวเข้าไปในเมือง
ฝ่าการตรวจจับของทหารลาดตระเวนแถวนั้น
และในตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นกระท่อมหลังหนึ่ง เหมาะจะเป็นที่พักและหลบภัยแก่พวกเขา
พวกเขาเลยตกลงกันว่าจะเข้าพักกันที่นั่นก่อนจะเดินทางต่อ
เดชา
: หัวหน้า เราพักที่นี่ก่อนดีกว่า โคตรเหนื่อยเลยเนี่ย
อรุณ
: โอเค ทุกคนไปพักก่อน แล้วอย่าลืมว่าระเบิดไว้รอบๆด้วยหล่ะ
พวกเขาแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
บางคนก็ไปวางระเบิดเพื่อป้องกันตัว บางคนก็ออกไปสำรวจเส้นทาง
จากนั้นไม่นานทุกคนก็กลับมายังกระท่อมหลังนั้น
จินตโล
: หัวหน้า ผมวางเคลย์มอร์ไว้รอบๆนี้แล้วนะครับ
เนตร
: ผมไปสำรวจแถวนี้มา
อีกไม่นานเราจะถึงเมืองหลวงที่คาดว่าผู้พันหายตัวไปแล้วครับ
เจตนา
: ไม่รู้ว่าในเมืองจะมีพวกมันมากแค่ไหนนะ
อรุณ
: ทุกคนลืมเป้าหมายกันแล้วเหรอ เราต้องทำงานนี้ให้เงียบที่สุด
เดชา
: เข้าใจครับหัวหน้า แต่สงครามกลางเมืองแบบนี้ ไม่ง่ายเลยนะครับ
เนตร
: ไม่งานที่จะอู้งานเลยใช่หรือเปล่าหล่ะ // ทุกคนรอบข้างพากันขำกับมุกของเขา
เจตนา
: อย่าเพิ่งล้อเล่นกันสิ คุยกันเรื่องานก่อนดีกว่าหว่ะ
จินตโล
: เออหว่ะ ว่าแต่ เราจะตามหาผู้พันเจอได้ที่ไหนหล่ะ
เดชา
: คงต้องปลอมตัวเป็นกลุ่มกบฏ ไปถามพวกนั้นหล่ะมั้ง
อรุณ
: ความคิดดีนะ เราต้องติดต่อกับกลุ่มกบฏ ให้พวกเขาตามหาผู้พัน
จินตโล
: อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะครับ เราจะไว้ใจพวกนี้ได้เหรอครับ
เนตร
: ยังไม่ลองดูเลยจะรู้ได้ยังไงหล่ะวะ
เจตนา
: นั่นสิ เอาเป็นว่าเรามาลองติดต่อกลุ่มกบฏในพื้นที่ให้ได้ก่อนดีกว่าหว่ะ
กลับมายังเขตเมืองโซราติก
หลังจากที่สองหนุ่มเอ็ดเวิร์ดและเร็นได้อาวุธและกระสุนจำนวนหนึ่งมาแล้ว
พวกเขาทั้งคู่ก็พร้อมที่จะทำภารกิจของพวกเขาให้สำเร็จ
นั่นก็คือสังหารประธานาธิบดีของโซราติกนั่นเอง พวกเขาหารถมาได้คันหนึ่ง
จากนั้นพวกเขาก็ขับไปถามเส้นทางที่หมายของพวกเขา
เร็น
: นี่นายจะพาฉันไปไหนเหรอ
เอ็ดเวิร์ด
: ค่ายทหารหน่ะ เราจะไปเล่นค่ายของพวกมันก่อน
เร็น
: นี่นายจะไปเล่นค่ายทหารโดยมีแค่สองคนนี่นะ
เอ็ดเวิร์ด
: ฉันคนเดียวยังเคยเผาค่ายพวกมันมาแล้ว
เร็น
: แล้วงานของฉันหล่ะ นายยังไม่ลืมนะเฟ้ย
เอ็ดเวิร์ด
: แน่นอน
ในตอนนั้นเอง
พวกเขาก็มาหยุดรถที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกทิ้งร้างเอาไว้
พวกเขาจอดรถแอบเอาไว้ในที่ปลอดภัย
จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อที่ถูกทิ้งร้าง
เร็น
: นี่นายจะมาหาอะไรกินในนี้หรือไง
เอ็ดเวิร์ด
: เปล่าหรอก จะพานายมาดูอะไรนี่หน่อย
เอ็ดเวิร์ดพาเร็นไปบนดาดฟ้าร้านสะดวกซื้อ
และให้เขามองไปทางเหนือของปั๊ม จากนั้นพวกเขาก็เห็นกลุ่มทหารกำลังลาดตระเวนอยู่รอบๆแถวนั้นอยู่
เร็น
: ทหารทั้งนั้นเลย นายคิดจะทำอะไรเนี่ย
เอ็ดเวิร์ด
: อีกไม่กี่อึดใจเราก็ได้จะทำงานแล้ว
เร็น
: ก็ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะ แล้วนายจะรออะไรอีกหล่ะ
เอ็ดเวิร์ด
: รอจนกว่าพวกมันจะไปลาดตระเวนที่อื่น แล้วเราก็บุกเข้าไปไงหล่ะ
พวกเขาเฝ้ารออยู่ในปั๊มน้ำมันตลอดทั้งคืน
รอดูพวกทหารจะมีปฏิกิริยาอะไรต่อไป
ทางด้านของกลุ่มกบฏ
หลังจากที่พวกเขาทำการฉลองในค่ำคืนปีใหม่ พวกเขากลับต้องเจอปัญหาใหม่
เนื่องจากว่ากองทัพรัฐบาลใกล้จะบุกเข้ามาจับพวกเขาแล้ว
กลุ่มของเทเรซ่าถูกหัวหน้าเรียกมาพบในทันที ทั้งๆที่พวกเขาเพิ่งจะเหนื่อยจากการฉลองอย่างหนัก
”เอาหล่ะ หวังว่าจะมากันครบทุกคนแล้วนะ”
เทเรซ่า
: ก็คงจะครบแล้วนะคะหัวหน้า
ลูลู่
: หัวหน้าเรียกเรามามีอะไรคะ เรากำลังมึนๆเลยเนี่ย
“เดม่อนดักฟังข่าวกรองของรัฐบาลได้ บอกไปสิเดม่อน”
เดม่อน
: ได้ยินว่าตอนนี้เขาเริ่มจะกวาดล้างเราแล้วหน่ะ
เทเรซ่า
: แสดงว่า รัฐบาลคงจะเบื่อทำสงครามยืดเยื้อแล้วสินะ
“เพราะฉะนั้น เราต้องรายงานเรื่องนี้ไปให้ทางสหประชาชาติ
ให้โลกได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่”
ลูลู่
: ไม่ง่ายเลยนะคะหัวหน้า
จะว่าไปแทบไม่มีนักข่าวต่างประเทศมาที่นี่ซักพักแล้ว
เดม่อน
: ฉันได้ยินมานะ รัฐบาลฆ่าพวกผู้สื่อข่าวต่างประเทศไม่มีเว้นเลย
เทเรซ่า
: ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ ไม่งั้นทางสหประชาชาติคงจะตอบโต้ไปนานแล้วหล่ะ
“ยังไงก็ตามแต่ เราต้องดำเนินการโดยเร็ว
เราจะให้พวกนั้นตัดขาดเราจากโลกภายนอกให้ได้”
ลูลู่
: แต่จะว่าไป เคยมีผู้หญิงคนหนึ่ง บอกว่าอยากติดต่อกับพวกเรานะคะ
“เธอคนนั้นเป็นใครกันหล่ะ”
ลูลู่
: ฉันก็ไม่รู้ แต่ท่าทางไม่ธรรมดาซะด้วย
“ลองพาผู้หญิงคนนั้นมาหาเราก่อน เผื่อว่าเธอจะมีอะไรดีๆก็ได้ เอาหล่ะ
ไปได้แล้ว” พวกเขารีบออกจากห้องของหัวหน้าอย่างรวดเร็ว
เทเรซ่า
: เห็นทีเราคงต้องกลับไปเจอกับพวกเขาแล้วสินะ
เดม่อน
: เอ๊ะ ว่าแต่ฮาน่าไปไหนซะหล่ะ // เขาถามทุกคนอย่างแปลกใจ
และในขณะเดียวกัน มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขา
เพื่อมารายงานตัวกับหัวหน้ากลุ่มกบฏ
ในตอนนั้นเขาก็แนะนำให้ชายคนนี้รู้จักกับทุกคนในทันที
“เอาหล่ะทุกคน เขาคือคีธ แดนเวิร์ส เขาจะมาอยู่กับพวกนายทุกคน”
คีธ : สวัสดีครับทุกคน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ
เทเรซ่า
: ยินดีเช่นกันค่ะ ว่าแต่คุณทำอะไรมาก่อนหล่ะ
คีธ : ผมเป็นนักศึกษา ว่างๆก็ทำงานสตั๊นแมนด้วยหน่ะ
เดม่อน
: เอาหล่ะ ว่าแต่ นายใช้ปืนเป็นหรือเปล่าหล่ะ
คีธ : ใช้เป็นสิ พวกคุณจะให้ผมทำอะไรอย่างงั้นเหรอ
ลูลู่
: ก็แค่ให้นายช่วยเป็นผู้คุ้มกันให้หน่อยหน่ะ เดี๋ยวฉันจะหาปืนให้นายเอง
และอีกด้านหนึ่งของกลุ่มกบฏ
เทโจได้ไปตรวจเยี่ยมผู้คนที่มาอาศัยอยู่กับเขา
เทโจให้อาหารและน้ำกับผู้อพยพเหล่านั้น และจัดหาที่พักให้พวกเขา ในตอนนั้นเอง
เทโจได้สะดุดตาหญิงสาวกลุ่มหนึ่ง
ซึ่งพวกเธอดูจะแต่งตัวกันเกินกว่าที่จะเป็นชาวบ้านทั่วไป ซึ่งพวกเธอมีทั้งหมดแปดคน
ดูท่าทางจะกลัวมาก
เทโจ
: พวกเธอนี่ แต่งตัวไม่ธรรมดา ท่าทางจะไม่ใช่คนที่นี่สินะ
“ใช่ค่ะ ดิฉันชื่อจูซม เราเป็นนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปหน่ะค่ะ ว่าแต่
คุณเป็นใครกันเหรอคะ”
เทโจ
: เรียกผมว่าเทโจก็พอครับ // ในตอนนั้นเอง
หญิงสาวคนหนึ่งก็รีบคุยกับเขาในทันที
อามินะ
: คุณเป็นคนญี่ปุ่นเหรอคะ หนูชื่ออามินะ มาจากญี่ปุ่นเหมือนกันนะคะ
ส่วนนี่ก็เพื่อนๆเรา คนนี้ไคล่า คนนี้ชิสา คนนี้ซนแช คนนี้ซายอน นี่ก็จียอน
แล้วสุดท้ายก็ยู่อี๋ค่ะ
เทโจ
: ชื่อพวกคุณผมจำได้ไม่หมดหรอก ว่าแต่ พวกคุณมาทำอะไรกันที่นี่หล่ะ
ชิสา
: พวกเรามาทำการแสดงคอนเสิร์ตที่นี่ แต่ว่าสงครามดันเกิดซะก่อนค่ะ
จูซม
: ก็เพราะพวกเธอนั่นแหละไปขึ้นรถไม่ทัน ซวยกันหมดเลยเนี่ย
ไคล่า
: นี่ อย่าเพิ่งโทษกันเองสิ แค่นี้ก็แย่กันมามากพอแล้ว ยิ่งชินเฮก็หายไปอีก
เทโจ
: คุณพูดถึงใครกันงั้นเหรอ
ซนแช
: หัวหน้าของวงเราหน่ะค่ะ เราผลัดหลงกันตอนเกิดสงครามหน่ะ
เทโจ
: ผมเสียใจด้วยนะครับ ว่าแต่ พวกคุณจะไปที่ไหนกันต่อหล่ะ
ซายอน
: เราก็จะหนีไปจากประเทศนี้สิคะ เราพยามยามติดต่อสถานทูตเกาหลี
แต่พวกเขาก็ไปกันหมดแล้ว
จียอน
: พวกคุณพอจะช่วยเราออกไปจากที่นี่ได้หรือเปล่าคะ
เทโจ
: เอาจริงๆนะ ตอนนี้ตัวเองฉันยังช่วยไม่รอดเลย
แต่ว่าพวกเธออยู่ที่นี่กันไปก่อนได้นะ ลูกน้องฉันจะช่วยดูแลเอง
ยู่อี๋
: ขอบคุณมากๆนะคะ แต่ฉันอยากให้คุณช่วยหาหัวหน้าวงของเราด้วยค่ะ
เทโจ
: ผมไม่รับปากนะ แต่ก็ได้นะครับ ผมจะลองดู
จูซม
: ขอบคุณนะคะ
เทโจ
: พวกนาย ดูแลพวกเธอให้ดีด้วย
เทโจสั่งให้ลูกน้องของเขาดูแลเกิร์ลกรุ๊ปสาวกลุ่มนี้
เนื่องจากว่าพวกเธอเป็นชาวต่างชาติในประเทศโซราติก
ณ
ห้องพักของประธานาธิบดี เขาเพิ่งจะได้รับข่าวมาว่าทางสหประชาชาติเตรียมจะตอบโต้ขั้นเด็ดขาดกับทางโซราติกแล้ว
ในตอนนั้นเอง เขาเรรียกเลขาของเขามาคุยกับเขาในทันที
“ท่านครับ เรียกผมมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“อีกไม่กี่วันฉันต้องให้คำตอบกับทางสหประชาชาติแล้วเรื่องนายทหารที่หายไป
กับเรื่องสงครามกลางเมืองเนี่ย”
“ตอนนี้เราให้สายของเราตามหาแล้วครับ”
“ว่าแต่ พวกดอว์นซอร์ดมันรู้หรือเปล่า ว่ามีอะไรอยู่บนเครื่องบินนั้นหน่ะ”
“ไม่รู้ครับท่าน พวกมันทำลายเครื่องบินไม่เหลือซากเลยครับ”
“ดี อย่าให้แผนของเราแตกหล่ะ นายก็รู้นะว่าอเล็กซานเดอร์มันเป็นคนยังไง”
เขาพูดพลางซัดบุหรี่เข้าปอดไปหนึ่งมวน
ที่โกดังเก็บสินค้าของมาร์ค
หลังจากที่มาร์ครู้ว่าใครเป็นคนมาขายของเถื่อนแข่งกับเขา
เขาพยายามจะหาทางเอาคืนกับกลุ่มนั้น แต่ทันใดนั้นเอง
ก็มีทหารกลุ่มหนึ่งพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้ามาในโกดังของมาร์ค
ลูกน้องของมาร์คทำอะไรไม่ได้เนื่องจากไม่มีอาวุธที่ดีพอ พวกนั้นบุกเข้าไปถึงห้องนอนของมาร์ค
มาร์คถึงกับทำอะไรไม่ถูก และในตอนนั้นเอง เวร่าก็เดินเข้าไปในห้องของเขา
เวร่า
: แกใช่มั้ย ที่มาขายของเถื่อนแข่งกับฉันหน่ะ // มาร์คเห็นผู้หญิงสวยๆแบบนี้
มีหรือเขาจะไม่หื่นกาม
มาร์ค
: ใจเย็นสิครับคนสวย เอาเป็นว่า เรามาดื่มอะไรเย็นๆแล้วคุยธุรกิจกันดีกว่ามั้ยครับ
// เขาไปหยิบเหล้ามาริน
เวร่า
: ใครอยากจะคุยกับแกอย่างงั้นเหรอห่ะ
มาร์ค
: ลองดูก่อนก็ไม่เสียหลายนี่ครับคนสวย // เขาเชิญเวร่านั่งลงบนโต๊ะ
เวร่าก็ยอมนั่งอย่างโดยดี
เวร่า
: นี่แกอยากจะคุยอะไรอย่างงั้นเหรอ
มาร์ค
: แค่อยากคุยธุรกิจหน่ะ ดื่มหน่อยมั้ยครับ // เขายื่นเหล้าให้กับเธอ
เธอก็หยิบมาดื่ม
เวร่า
: ธุรกิจ แกจะให้ฉันทำอะไร
มาร์ค
: ก็ไม่มีอะไรมาก คุณมีกำลังพล ผมมีโกดังใหญ่เก็บของ
เราทั้งคู่จะทำกำไรในเมืองนี้อย่างงามเลยหล่ะ
เวร่า
: น่าสนใจนี่ ว่าแต่ ทำไมฉันต้องลงทุนกับนายหล่ะ
มาร์ค
: อย่างแรก ผมมีโกดังกระจายสินค้าใจกลางเมือง
พร้อมจะค้าขายกับทุกคนในเมืองนี้ อย่างที่สอง ถ้าผมได้คนของคุณช่วย
เราจะแข็งแกร่งขึ้นมากเลยหล่ะ
เวร่า
: น่าสนใจนี่หน่า
มาร์ค
: ว่าแต่ คุณให้คนของคุณออกไปก่อนได้หรือเปล่าหล่ะครับ / / เวร่าปัดมือให้ทหารของเธอออกไปด้านนอก
เวร่า
: แล้วเราจะแบ่งกำไรกันยังไงหล่ะ
มาร์ค
: คุณก็รู้ คนอย่างผมสปอร์ตอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับคนสวยๆแบบคุณ
คุณอยากได้เท่าไหร่หล่ะ // มาร์คเดินไปข้างหลังเธอพร้อมกับหอมผมของเธอ
เวร่า
: แบ่งกัน 50 50 ก็ได้ ฉันแฟร์ๆอยู่แล้ว
มาร์ค
: เยี่ยมไปเลย ถ้างั้น ยินดีที่ได้รู้จักคุณนะครับ ผมมาร์ค แล้วคุณหล่ะ
เวร่า
: ฉันเวร่า // มาร์คดึงมือเธอมาจูบ
จากนั้นทั้งคู่ก็ดื่มด้วยกันต่อ
และอีกด้านหนึ่งในเมือง
ในขณะที่อันนากำลังขับรถของเธอเพื่ออกตามหาลูกชายของเธอในเขตของกลุ่มกบฏ
แต่ในระหว่างทางนั่นเอง เธอยังไม่ทันจะออกรถไปไหนได้ไกล
ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินมาตัดหน้ารถของเธอ ทำเอาเธอเกือบจะเบรคไม่ทัน
เธอรีบลงไปดูหญิงสาวคนนั้นในทันที หญิงสาวคนนั้นคือชินเฮ สาวสวยคนดังนั่นเอง
อันนา
: เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ
ชินเฮ
: ขอโทษด้วยนะคะ หนูกำลังหาทางหนีอยู่คะ
อันนา
: เธอจะไปไหนเหรอจ๊ะ
ชินเฮ
: หนูหนีมาจากระเบิดของกองทัพ กำลังตามหาเพื่อนๆในวงค่ะ
อันนา
: แล้วเธอพอจะรู้หรือเปล่าว่าเพื่อนเธออยู่ที่ไหน
ชินเฮ
: หนูก็ไม่รู้ แต่ได้ยินจากชาวบ้านแถวนั้นว่า
พวกเธออยู่ในเขตกลุ่มกบฏหน่ะค่ะ
อันนา
: ฉันก็จะไปที่นั่นเหมือนกันนะ
ชินเฮ
: ว่าแต่ หนูขอไปด้วยคนได้หรือเปล่าคะ
อันนา
: ถ้างั้นขึ้นมาเลยจ้ะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอเอง // ชินเฮรีบขึ้นรถของอันนา
จากนั้นรถก็เคลื่อนตัวไปยังเขตของกลุ่มกบฏในทันที
อีกด้านหนึ่งของเมือง
ซีวิลก็ออกเดินทางเร่รอนไปเรื่อยๆ เพื่อหาอาหารกินประทังชีวิตไปวันๆ เขาเดินทางมาเรื่อยๆ
จนกระทั่งถึงเขตๆหนึ่ง
ซึ่งในตอนนั้นเองเขาก็เห็นชายกลุ่มหนึ่งพร้อมอาวุธกำลังนั่งล้อมวงทานอะไรกันอยู่
ซีวิลมองไปแถวๆนั้น หาจังหวะซุ่มเพื่อขโมยอาหารที่พวกเขากำลังนั่งกินกัน
แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงปืนดังมาแต่ไกล ซึ่งมีโจรกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาพยายามจะชิงอาหารจากชายกลุ่มนั้น
จนเกิดการยิงปะทะกัน ซีวิลอาศัยจังหวะนี้แอบเข้าไปหยิบอาหารของพวกนั้น
เขารีบหยิบใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว แต่ในตอนนั้นเอง ชายคนหนึ่งเห็นซีวิลเข้า
จึงไล่ยิงซีวิลจนเขาตกใจหนีไปทางอื่น
“เฮ้ย หยุดนะเว้ย” มันยิงกดซีวิลจนเขาแทบจะโงหัวไม่ขึ้น
“มึงรู้มั้ยว่ามึงกำลังปล้นของๆใคร มึงไม่ตายดีแน่” มันกระหน่ำยิงเข้าไปเรื่อยๆ
จนกระสุนของเขาหมด และในตอนนั้นเอง เขาก็โดนกลุ่มโจรยิงมาจากด้านหลังจนล้มลง
ซีวิลอาศัยจังหวะนั้นเดินหนีไป
“เฮ้ย คิดว่าแกจะรอดไปได้อย่างงั้นเหรอ” ซีวิลสะกิดใจกับคำพูดของชายคนนั้น
“จะบอกอะไรให้นะ ไอ้พวกที่อยู่ข้างนอก มันก็ต้องฆ่าแกเหมือน
แกคิดว่าแกกำลังทำอะไรอยู่วะ”
ในตอนนั้นเอง
ซีวิลเดินเข้าไปหามัน จากนั้นก็ควักขนมปังที่ขโมยมาได้ กินต่อหน้ามัน
จากนั้นก็พูดว่า
“ฉันคิดว่า ขนมปังของแกอร่อยดีหว่ะ”
ซีวิลเดินออกมาพร้อมกับทานขนมปังไปด้วย
ปล่อยให้ชายคนนั้นขาดใจตายอย่างช้าๆ
กลับมาในตัวเมือง
เขตตึกสูงระฟ้า ซึ่งกลุ่มกบฏกลุ่มหนึ่งใช้มันเป็นฐานที่มั่น กลุ่มกบฏกลุ่มนี้ล้วนแต่เป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถ
แต่แล้ว ชายคนหนึ่งได้ข่าวมาใหม่จากหน่วยข่าวกรอง เขารีบวิ่งมาบอกทุกคนในทันที
“ทุกคน มีข่าวใหม่ ยืนยันมาแล้ว”
“อะไรของนายหล่ะมีกัส” ชายคนหนึ่งถามไปอย่างสงสัย
“ตอนนี้รัฐบาลเริ่มจะกลาดล้างกลุ่มของเราแล้ว
รีบไปเรียกทุกคนมาคุยเดี๋ยวนี้”
หลังจากนั้นไม่นาน
ทุกคนรีบมารวมตัวกัน เพื่อหารือวางแผนกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ทาเคชิ
: เอาหล่ะทุกคน รู้กันหรือยังว่าตอนนี้รัฐบาลกำลังจะกวาดล้างพวกเราแล้ว
// ชายหนุ่มซึ่งเป็นทหารเก่าพูดขึ้น
ริกโก้
: แหม่ นึกว่าข่าวใหม่ซะอีก ฉันรู้แล้วหล่ะ
ซักวันหนึ่งพวกมันต้องเล่นงานเราแน่ๆ
ไซม่อน
: นี่ แล้วพวกนายจะทำยังไงกันต่อหล่ะฮะ คงจะไม่อยู่เฉยๆแน่ๆใช่ป่าว
ดราก้อน
: ฉันรู้ แต่ตอนนี้เราโดนล้อมทุกด้าน แล้วจะทำยังไงกันต่อหล่ะ
อัลเบิร์ต
: ฉันว่า เราน่าจะติดต่อกับชาวบ้านในพื้นที่ให้ช่วยเหลือเรานะ
ซุนฮยอน
: แต่พวกเขาไม่ใช่ทหารนะ ฉันกลัวว่า พวกเขาอาจช่วยเราไม่ได้มาก
มินโฮ
: ว่าแต่ ทำไมไม่ลองติดต่อกลุ่มกบฏในพื้นที่ดูก่อนหล่ะ
ทาเคชิ
: ตอนนี้พวกเขาเริ่มไม่ไว้ใจกันเองแล้ว ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไง
ไซม่อน
: ขื้นเป็นแบบนี้ต่อ ฉันตายแน่ๆเลย ฉันยังไม่อยากตายนะ
ริกโก้
: อย่างนายคงไม่ตายหรอก คงไปบำเรอให้ทหารรัฐบาลก่อนหน่ะ
อัลเบิร์ต
: อย่าเพิ่งพูดเล่นกันสิ เราน่าจะลองหาทางดูก่อนนะ
มีกัส
: ฉันจะลองติดต่อกับกลุ่มสหประชาชาติดู
ให้พวกเขารู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน่ะ
ซุนอยอน
: นายคิดว่า พวกเขาจะช่วยเราได้อย่างงั้นเหรอ
ดราก้อน : ยังไง
ฉันก็ไม่ยอมตายโดยที่ยังไม่ได้สู้หรอกนะ ขอเสี่ยงกับพวกมันหน่อยดีกว่า
มินโฮ : ถ้างั้น
เราก็เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆกันเลยดีกว่านะ
พวกเขาเตรียมอาวะและทุกอย่างเท่าที่มี
เพื่อเตรียมรับมือกับคนของรัฐบาลที่จะเข้ามากวาดล้างพวกเขาในเร็วๆนี้
ตกเย็น กลุ่มของนอร์รีนกำลังเตรียมออกหาเสบียง
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งปิดหน้าและถืออาวุธครบมือเดินบุกเข้ามาทางด้านข้างของอพาร์ทเม้นท์มาเพื่อปล้นพวกเขา
ในตอนนั้นพวกเขาต้องป้องกันตัวจากพวกมัน
“เฮ้ย พวกเรา ค้นให้หมด หาอาหารมาให้ได้”
พวกนั้นพยายามจะค้นทั้งอพาร์ทเม้นท์
แต่พวกของนอร์รีนพยายามจะสกัดมันเอาไว้ ทั้งสองฝ่ายตะลุมบอนกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
พวกมันวิ่งขึ้นไปบนอพาร์ทเม้นท์แต่มิสซึพยายามขวางเอาไว้
พวกนั้นรุมทำร้ายมิสซึแต่อลิซก็เข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทันพอดี
อลิซ : นี่นาย
มีสมาธิหน่อยสิ อยู่ข้างหลังฉันไว้นะ
มิสซึ : ฝันเถอะ
ผมก็สู้เป็นเหมือนกันนะ // พวกนั้นพยายามเล่นงานทั้งคู่ต่อ
แต่ในตอนนั้นตะวันและอนูวามาช่วยพวกเขาด้วย
ทั้งคู่ทั้งต่อยทั้งเตะกลุ่มโจรพวกนั้นจนมันอ่วมกันไปหลายคน
อนูวา : ดูเหมือนว่าพวกมันจะพยายามขโมยของเรานะ
เราต้องป้องกันเสบียงของเรา
ตะวัน : ผมจัดการเอง
// ตะวันรีบวิ่งขึ้นไปป้องกันเสบียงเอาไว้
และที่ด้านล่าง พวกมันก็บุกเข้ามาไม่หยุด มันพยายามจะฉุดบารีร่าไป
แต่ซีโร่วิ่งเข้าไปทั้งต่อยทั้งเตะเพื่อช่วยเธอ แต่มันก็รุมกระทืบซีโร่จนน่วม
จนตอนนั้นเอจิก็ชักดาบฟันพวกมันไปหลายแผล
บารีร่ารีบไปดูซีโร่แล้วก็ลากเข้าไปหลบในที่ปลอดภัยก่อน
บารีร่า : ซีโร่
แข็งใจเอาไว้นะ
ซีโร่ : ฉันไม่เป็นไรหรอก
แค่นี้สิวๆน่า
เอจิไล่ฟันพวกนั้นจนถอย
ส่วนไลฟ์และพี่ชายของเธอทั้งสองก็คอยเล่นงานพวกมัน
พวกมันคนหนึ่งพยายามใช้ปืนยิงเอจิ
“ปัง”
แต่ในตอนนั้นเอง สตอร์มดันมาขวางทางกระสุนไว้
ส่วนคนที่ยิงก็โดนฮาจิกระโจนเข้าใส่ จนมันถึงกับลงไปกองกับพื้น
ทุกคนแถวนั้นรีบเข้าไปดูอาการของสตอร์มในทันที
ไลฟ์ : พี่สตอร์ม
ทำใจดีๆเอาไว้นะคะพี่
อลัน : ใครก็ได้
มาช่วยทางนี้หน่อยครับ เขาถูกยิง
อนูวารีบวิ่งมาดูอาการของเขา
ซึ่งสตอร์มในตอนนั้นหายใจร่อแร่เต็มที
เอจิ : พี่ครับ
ผมขอโทษ ทำใจดีๆเอาไว้นะครับ
สตอร์ม : ฉันคงไม่รอดแล้วหล่ะ
ยังไงก็ฝากทุกอย่างไว้ด้วยหล่ะ โดยเฉพาะนาย อย่าทิ้งน้องสาวฉันเด็ดขาด // สตอร์มพูดได้ไม่กี่คำก็สิ้นลมตรงนั้น ทำเอาทุกคนถึงกับเลือดขึ้นหน้า
และอีกด้านหนึ่ง ยูจีนพยายามจัดการพวกมัน
โดยที่นอร์รีนกับมิเชลก็มาช่วย พวกนั้นพยายามไล่พวกมันออกไป
แต่ในระหว่างที่ยูจีนกำลังหันหลังต่อยพวกมัน
พวกมันคนหนึ่งถือมีดมาพยายามจะแทงยูจีนจากทางด้านหลัง
แต่ในตอนนั้นซิลเวียก็เอาตัวมาขวางมีดเอาไว้ ทำเอายูจีนถึงกับเดือดจัด
และยูจีนวิ่งเข้าไปต่อยหน้ามันไม่ยั้งจนหน้ากากหลุดออกมา
“นี่แก แกมันพวกของ…”
ในตอนนั้นเอง
พวกมันก็รีบหนีออกไปเพราะเห็นว่าเริ่มเสียเปรียบ
ยูจีนจะวิ่งตามไปแต่โทนี่กับนอร์รีนล็อคตัวเอาไว้ก่อน
ยูจีนรีบวิ่งไปดูอาการของซีลเวียที่ถูกแทงในทันที
ยูจีน : ซิลเวีย
ทำใจดีๆไว้นะ ใครก็ได้ช่วยด้วย
อนูวาพยายามจะเข้ามาช่วย
แต่ในตอนนั้นพวกเขาไม่มีอุปกรณ์มากพอที่จะทำแผล แถมซิลเวียก็ถูกแทงตรงจุดที่สำคัญ
ซิลเวีย : ไม่เป็นไร
ฉันรู้ว่าฉันคงไม่รอดแล้วหล่ะ
โทนี่ : อย่าพูดแบบนั้นสิพี่
ผมจะออกไปหายามาให้พี่เอง
ซิลเวีย : ไม่ต้องหรอก
ฉันจะไม่ไหวแล้ว
เอสเทอร์ : เธออย่าดื้อได้หรือเปล่า
เราจะช่วยเธอเองน่า
ซิลเวีย : ยูจีน
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะรักเธอตลอดไปนะ // ซิลเวียสิ้นลมคาอ้อมกอดของยูจีน
ทำให้ยูจีนถึงกับน้ำตาไหลออกมา
มิเชล : เสียใจด้วยนะยูจีน
ฉันเสียใจด้วย
ยูจีนได้แต่กำหมัดอยู่ตรงนั้น
เขาแค้นใจมากที่ปกป้องคนที่เขารักเอาไว้ไม่ได้
นอร์รีน : ผมว่า
เรามาช่วยกันฝังพวกเขาดีกว่าครับ ให้พวกเขาไปอย่างสงบเถอะครับ
พวกเขาช่วยกันแบกซิลเวียและสตอร์มไปฝังไว้ที่สวนหลังอพาร์ทเม้นท์
เพื่อที่จะให้พวกเขาได้พักผ่อนตลอดกาล
====================================================================
R.I.P ซิลเวียและสตอร์ม
ดูเหมือนว่ายูจีนจะรู้ว่าพวกมันจะเป็นใคร พวกเขาจะผ่านพ้นช่วงเวลาอันมืดมนนี้ไปได้หรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครับ
สุขสันต์วันเด็กด้วยจ้า
ความคิดเห็น