NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Magic Bullet - กระสุนเวทย์พิชิตโลก (ปิดรับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 9 : ช่วยเหลือ

    • อัปเดตล่าสุด 10 ส.ค. 67


    การปะทะกันเป็นไปอย่างดุเดือด ฝ่ายเจ้าหน้าที่ของคาสิโนเองก็รีบชักปืนออกมายิงต่อสู้ ส่วนเยเรน่ากับเวเรนน่าก็รีบหลบอยู่ข้างหลังแองเจลโล่ในทันที

    “ขึ้นไปข้างบนก่อนดีกว่า” แองเจลโล่พูดขึ้น

    “บ้าเอ้ย เสียดายไม่ได้เอา M4 มา” เวเรนน่าพูดขึ้น พร้อมกับถือปืนพกในมือของเธอแล้วยิงใส่กลางกบาลของมือปืนคนหนึ่ง

    “เอานี่ไปกิน” เยเรน่าใช้ปืนเวทย์มนต์ของเธอยิงกระสุนคดออกไป แล้วมันก็พุ่งไปชนกับมือปืนเป้าหมายตายไปมากมาย ส่วนแองเจลโล่เองก็พาทั้งสองคนไปหลบที่ด้านบนก่อน มือปืนที่โดนเคนนี่เตะก็ลุกขึ้นมา แต่เคนนี่ก็กระโดดถีบมันจนกระเด็นไปโดนเคาน์เตอร์ชำระเงิน

    “โคร้ม!!”

    “ไงหล่ะมึง??” เคนนี่พูดขึ้น มันรีบชักมีดออกมา แต่เคนนี่จับมีดของมันเอาไว้ จากนั้นก็หักแขนของมัน แล้วถีบมันออกไป มันคนหนึ่งเห็นเคนนี่ทำเพื่อนของมัน เลยจะยิงใส่เคนนี่ เวโรนิก้ารีบวิ่งเข้าไปและเข่าลอยใส่มันในทันที

    “ตุ๊บ!!”

    “โอ๊ย ระยำเอ้ย!!” มันพยายามจะลุกขึ้นมา แต่เวโรนิก้าก็เตะเข้าที่หน้าของมันไปจนสลบ

    “นอนยาวไปเถอะมึง!!” เวโรนิก้าพูดขึ้น ทางด้านของคนอื่นๆ มันคนหนึ่งชักปืนจะยิงคามิลล่าที่กำลังสู้กับมือปืน ไปจื่อก็เสกนกกระดาษของเขาให้บินใส่มันเพื่อรบกวน

    “เหี้ยอะไรวะเนี่ย??” มันพยายามจะปัดป้อง และไปจื่อก็ใช้พัดของเขาฟาดใส่มันจนกระเด็น จากนั้นเขาก็เดินไปหาคามิลล่า

    “เป็นอย่างไรบ้าง??”

    “ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะ” คามิลล่าตอบ ก่อนที่เธอจะเห็นมันพยายามจะลุกขึ้นมา เจอปาดาวกระจายของเธอใส่ที่ร่างของมันจนแน่นิ่ง

    “ยิงแม่งเลย!!” มือปืนพวกนั้นรีบยิงใส่คนของคาสิโนแองเจลโล่ แต่ในตอนนั้น กระสุนที่พวกมันยิงออกไปก็พุ่งไปเหมือนกับโดนกระจก รวมถึงกระสุนก็ค่อยๆร้าวไปด้วย

    “เฮ้ย อะไรวะ??”

    “อย่ามาป่วนสิครับ” วอลพูดขึ้นข้างหลังพวกมัน ก่อนที่เขาจะไล่ต่อยพวกมันไปเรื่อยๆ ส่วนโรเบิร์ตเองก็สู้และแย่งปืนจากมันมาได้ จากนั้นก็ไล่ยิงพวกมันกลับไป

    “ปังๆๆๆๆ!!”

    “เวรเอ้ย พวกมันมีเยอะชิบหาย” โรเบิร์ตพูดขึ้น พวกเขาต่อสู้กันไปซักพัก ไม่นานพวกมันก็รีบหนีออกจากคาสิโน แต่บางส่วนก็ไม่รอด เพราะหนีไม่ไหว มันคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าพยายามจะหนี แต่ซิลเวสเตอร์ก็วิ่งเข้าไปและกระโดตะครุบตัวมัน

    “ปล่อยกูนะเว้ย!!” มันตะโกนบอกซิลเวสเตอร์ แต่ซิลเวสเตอร์เองก็รีบเอามือของเขากุมขมับของมันเอาไว้ ก่อนที่ตัวของมันจะหยุดนิ่งไป

    “อยู่เฉยๆเลยมึง” ซิลเวสเตอร์พูดขึ้น และไม่นานนัก ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะสงบแล้ว ตำรวจก็รีบมาที่คาสิโนของแองเจลโล่เพื่อควบคุมสถานการณ์ ตำรวจพากันเข้ามาที่คาสิโน ก่อนที่พวกเขาจะรีบไปหาแองเจลโล่ที่หลบอยู่ด้านบนอย่างรวดเร็ว

    “คุณแองเจลโล่ เป็นยังไงบ้างครับ??” 

    “ไม่เป็นไร ผมขอลงไปดูด้านล่างก่อนแล้วกัน” แองเจลโล่บอกกับเยเรน่าและเวเรนน่า

    “มันจะดีเหรอ มันอาจจะยังมีพวกมันอยู่ก็ได้นะ??” เวเรนน่าถามไป

    “ไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนี้พวกตำรวจก็มาแล้วนี่” แองเจลโล่ตอบ

    “ถ้าอย่างงั้นก็ให้พวกเราคุ้มกันดีกว่าค่ะ” เยเรน่าพูด ก่อนที่ไม่นานนัก พวกเขาจะเดินลงมาที่ด้านล่าง ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะค่อนข้างเละเทะพอสมควร และไม่นานนัก ตำรวจคนหนึ่งก็รีบวิ่งมาหาแองเจลโล่

    “ขออนุญาตครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ??” 

    “ผมไม่เป็นไรหรอก” แองเจลโล่ตอบ ก่อนที่ในตอนนั้น แองเจลโล่ก็บังเอิญไปเจอเข้ากับเคนนี่ ที่ตอนนี้กำลังรวมตัวกับคนอื่นๆอยู่ 

    “ฉันอยากคุยกับหมอนั่นหน่อย” แองเจลโล่พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปหาพวกของเคนนี่ในทันที และทักทายกับเขา

    “เฮ้ พวกนาย ขอบใจมากนะที่ช่วย” แองเจลโล่ทักทายและยื่นมือให้เคนนี่ เคนนี่ก็จับมือตอบในทันที

    “ครับ ไม่เป็นไรครับ” เคนนี่ตอบ

    “พวกคุณเพิ่งมาที่เวกัสเหรอ??” แองเจลโล่ถามต่อ

    “พวกเราแค่มาเที่ยวหน่ะครับ” เคนนี่ตอบไป

    “แล้ว เกิดเรื่องแบบนี้บ่อยเหรอ??” เวโรนิก้าถามแองเจลโล่ไป

    “อ้อ ไม่หรอก ก็แค่ช่วงนี้หน่ะ พวกเราแค่กำลังมีปัญหากับพวกระยำนิดหน่อยหน่ะ” แองเจลโล่ตอบ

    “พวกระยำเหรอครับ??” เคนนี่ถามไป

    “ไหนๆ พวกคุณก็ช่วยผมไว้ วันนี้ผมขอเลี้ยงอาหารพวกคุณหน่อยแล้วกัน” แองเจลโล่พูดขึ้น 

    “ถ้าอย่างงั้นเชิญทางนี้ค่ะ” เยเรน่าพูดขึ้น ก่อนที่เยเรน่าจะพาพวกเขาทุกคนเดินไปยังห้องอาหารในทันที ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีคนไปหลบข้างในนั้นอยู่มากพอสมควร

    “ทุกคนครับ ทุกอย่างสงบแล้ว ไม่ต้องห่วงครับ!!” แองเจลโล่ตะโกนบอกกับลูกค้าที่ตกใจในนั้น ไม่นานนัก พวกลูกค้าก็พากันทยอยออกไป ส่วนกลุ่มของเคนนี่ก็ตามแองเจลโล่เข้ามาในห้องอาหาร VIP ห้องใหญ่ แต่ในตอนนั้น คามิลล่าก็สังเกตเห็นชายคนหนึ่งซึ่งหิ้วอีหนูคนหนึ่งมาด้วย ทั้งคู่พากันเดินออกไป คามิลล่าเองก็สะกิดวลาเซียน่าให้ดูชายคนนั้น 

    “เฮ้ นั่น สส. คนดังเลยนะ” วลาเซียน่าพูดขึ้น คามิลล่าพยักหน้า วลาเซียน่าก็เสกอะไรบางอย่างออกมา มันเป็นค้างคาวตัวขนาดเล็กที่บินออกไป และไม่นานนัก แองเจลโล่ก็เชิญทุกคนให้นั่งที่โต๊ะอาหารในทันที

    “เชิญนั่งก่อนสิครับ” แองเจลโล่พูดขึ้น ก่อนที่กลุ่มของเคนนี่ก็พากันนั่งที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว

    “อยากทานอะไรกันมั้ยครับ??” แองเจลโล่ถามไป

    “ก็ แล้วแต่คุณแองเจลโล่เลยครับ” เคนนี่ตอบ ก่อนที่เขาจะสั่งให้พนักงานคาสิโนไปเอาอาหารมาเสิร์ฟในทันที

    “ดูเหมือนว่าพวกคุณจะเป็นพวกหน้าใหม่สินะคะ พวกเราไม่คุ้นหน้าพวกคุณเลย??” เวเรนน่าถามไป

    “ใช่ครับ พวกเรามาเที่ยวเฉยๆหน่ะครับ” ซิลเวสเตอร์พูดขึ้น

    “แต่เอาจริงๆ พวกเราเองก็มาตามหาคนขอรับ” ไปจื่อพูดต่อ

    “อ้อ อย่างงั้นเหรอ แล้วพวกนายมาตามหาใครกันหล่ะ??” แองเจลโล่ถามต่อ

    “มันเป็นนักการเมืองที่เข้ามาในเวกัส เรามีอะไรจะสอบถามมันหน่อยครับ” วอลตอบ

    “อ้อ ก็อยากจะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าให้คนในเวกัสเดือดร้อนก็พอครับ” แองเจลโล่บอกกับทุกคน

    “แน่นอนค่ะ” วลาเซียน่าตอบอย่างเกร็งๆ

    “ว่าแต่ ไอ้พวกที่มันมาป่วนที่นี่ พวกมันเป็นใครคะ??” คามิลล่าถามแองเจลโล่ไป

    “พวกคุณเคยได้ยินชื่อไอ้ซอกฮุนหรือเปล่า??” แองเจลโล่ถามพวกของเคนนี่ และในตอนนั้น เวโรนิก้าก็ถึงกับกำหมัดในทันที โรเบิร์ตสังเกตเห็นเลยพูดขึ้น

    “เออ โอเคนะ??” 

    “เออ รู้จักกับมันเหรอคะ??” เยเรน่าถามเวโรนิก้าไป

    “มันเป็นไอ้สารเลว มันทำเพื่อนฉัน ฉันตามเล่นคนของมันมาตลอด..” เวโรนิก้าพูดขึ้น

    “เออ เสียใจด้วยนะ” เคนนี่พูดปลอบเวโรนิก้า

    “แล้วมันเป็นใครหล่ะครับ??” วอลถามอย่างสงสัย

    “เท่าที่ตามข่าว มันเป็นบอสของคลับเถื่อนคลับหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย ในนั้นมีเรื่องอื้อฉาวเยอะมาก” ซิลเวสเตอร์ตอบ

    “แปลว่าไอ้ซอกฮุนผู้น่ามันคงระยำต่ำช้าน่าดู” ไปจื่อพูดขึ้น

    “ใช่ ถ้าฉันเจอมันนะ ฉันสัญญาว่าฉันจะเลาะฟันมันให้หมดจากปากเลย” เวโรนิก้าตอบ และในตอนนั้นเอง เจ้าหน้าที่คาสิโนคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาแองเจลโล่อย่างรวดเร็ว

    “นายครับ เราจับคนของพวกมันคนนึงไว้ แต่ดูเหมือนตอนนี้มันจะเมายานะครับ” 

    “เมายาเหรอ??” แองเจลโล่ถามไป

    “ฝีมือนายสินะ??” โรเบิร์ตสะกิดซิลเวสเตอร์ไป

    “งั้นเอาตัวมันไปขังไว้ก่อนเลย” แองเจลโล่บอกกับลูกน้องของเขาไป

    “พวกคุณทำได้ยังไงเนี่ย เป็นผู้ใช้เวทย์เหรอ??” เวเรนน่าถามไป

    “ก็ทำนองนั้นค่ะ” คามิลล่าตอบ

    “แล้วพวกคุณจะเอายังไงต่อหล่ะ??” แองเจลโล่ถามกลุ่มของเคนนี่

    “ถ้ามันเป็นเรื่องของเวโรนิก้า พวกผมจะช่วยเอง” เคนนี่บอกกับแองเจลโล่ไป เวโรนิก้าถึงกับมองหน้าเคนนี่

    “พวกคุณจะทำได้เหรอ??” แองเจลโล่ถามต่อ

    “พวกเราก็มาจากแคลิฟอร์เนียเหมือนกัน เราไปจัดการพวกมันก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยาก ป่านนี้พวกมันคงต้องวิ่งแจ๋นไปฟ้องเจ้านายมัน และพวกมันก็เห็นหน้าพวกเราหมดแล้ว” เคนนี่พูดขึ้น

    “ถ้ามันเห็นหน้าพวกเรา ก็ดี ให้พวกมันมาเลย” เวโรนิก้าพูดต่อ

    “อืม ถ้าอย่างงั้น พวกคุณจะเอายังไงก็ว่ามาเลยแล้วกัน” แองเจลโล่พูดต่อ และไม่นานนัก พนักงานเสิร์ฟของคาสิโนแองเจลโล่ก็พากันเสิร์ฟอาหารให้กับทุกคน มันมีอาหารหรูมากมาย 

    “โห โคตรหรูเลย” วลาเซียน่าพูดขึ้นและสะกิดคามิลล่า

    “แต่เดี๋ยว พวกเธอเป็นแวมไพร์นี่หน่า” โรเบิร์ตบอกกับพวกเธอทั้งคู่

    “พวกเรากินอาหารมนุษย์ได้น่า” คามิลล่าตอบ

    “อ้อ ถ้าจะเอาเลือดสดๆก็ได้นะคะ” เยเรน่าพูดขึ้น

    “อ้อ ไม่ดีกว่าค่ะ รบกวนไปแล้ว” วลาเซียน่าตอบกลับ

    “ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดเรื่องงานอะไรเลย กินก่อนดีกว่าครับ” แองเจลโล่บอกกับทุกคน ก่อนที่พวกเขาทุกคนจะเอ็นจอยกับมื้ออาหารมื้อนี้กัน

    “เอานี่ อาหารจีนของนาย” ซิลเวสเตอร์พูดขึ้นพลางเลื่อนจานเป็ดปักกิ่งให้กับไปจื่อ

    “ข้าอยากกินอย่างอื่นบ้างดีกว่า” ไปจื่อตอบ ในขณะที่ไปกินขาหมูเยอรมันแทน

    “เฮ้ เวโรนิก้า ไม่ต้องห่วงนะ เรื่องนี้พวกเราจะช่วยเธอเอง” เคนนี่บอกกับเวโรนิก้าไป

    “อืม ขอบใจนะ” เวโรนิก้าตอบ

    “อืม น่าสนใจจริงๆ” วอลพูดขึ้นพลางหยิบไวน์ขึ้นมาดม ดูเหมือนว่าเขาจะเรียนรู้วิธีการดื่มไวน์ของมนุษย์มาบ้าง

    “เคนนี่ ถ้านายกลับไป นายจะทำยังไงเหรอ??” แองเจลโล่ถามเคนนี่ไป

    “ก็ไม่มีอะไร ผมจะไปบุกถล่มไอ้พวกนั้นซะ” เคนนี่พูดขึ้น

    “อ้อ ถ้าอย่างงั้น คุณต้องการอะไรก็บอกแล้วกัน” แองเจลโล่พูดต่อ และพวกเขาก็นั่งทานอาหารกันอย่างต่อเนื่อง 

    เวลาผ่านไปประมาณหลายชั่วโมง จู่ๆ กลุ่มของเคนนี่ก็เดินมาที่ด้านหน้าคาสิโน โดยที่แองเจลโล่เองก็เดินมาส่งพวกเขาที่หน้าประตูคาสิโนด้วย ในตอนนั้นยังไม่มีลูกค้าเข้ามามากนัก แองเจลโล่เองก็คุยกับเคนนี่

    “เฮ้ ฉันมีเรื่องต้องบอกพวกนาย” แองเจลโล่พูดขึ้น

    “เรื่องอะไรครับ??” เคนนี่ถามกลับ

    “พวกเราทำงานร่วมกับ Magic Hunt หน่ะ” แองเจลโล่ตอบ ทำเอาพวกของเคนนี่ถึงกับตกใจมาก

    “ห่ะ นี่พวกคุณเป็นพวกมันงั้นเหรอ??” เวโรนิก้าถามไป

    “ก็ไม่เชิงหรอก เราแค่ทำงานด้วยกันเฉยๆหน่ะ” เยเรน่าตอบ

    “แล้วพวกคุณจะทำอะไร จะจับพวกเรางั้นเหรอ??” โรเบิร์ตถามไป

    “นี่ ถ้าเราจะจับพวกนาย พวกเราคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้หรอก” เวเรนน่าตอบ

    “แล้วท่านต้องการอันใดเล่า??” ไปจื่อถามต่อ

    “พวกนายช่วยฉันไว้ แล้วเราก็มีศัตรูร่วมกัน พวกนายเองก็ไม่ใช่พวกผู้ใช้เวทย์ระยำอย่างที่ฉันคิด เฮ้อ เอาเป็นว่า ฉันให้เวลาพวกนาย 3 วัน ฉันจะหลอกพวก Magic Hunt ว่าไม่เจอนาย แต่ถ้าหลังจากนั้น ฉันก็คงต้องทำตามหน้าที่” แองเจลโล่พูดต่อ

    “ห่ะ 3 วันเองเหรอ??” ซิลเวสเตอร์ถามไป

    “ไม่เป็นไรหรอก 3 วันยังพอมีเวลาเหลือๆ” คามิลล่าพูดปราม

    “ยังไงพวกเราก็ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับอาหาร” วลาเซียน่าบอกกับแองเจลโล่

    “พวกนายรีบไปเถอะ ไอ้คนที่พวกนายตามหา ก็ขอให้เจอไวๆแล้วกันนะ” แองเจลโล่พูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเขาจะเดินกลับเข้าไปในคาสิโน

    “เออ แล้ว สส. ที่เราจะล่าตัวหล่ะครับ??” วอลถามขึ้นมา

    “ฉันเอาตัวมันไปซ่อนไว้แล้วหล่ะ” วลาเซียน่าตอบ

    “หือ คุณทำได้ยังไงครับ??” เคนนี่ถามอย่างสงสัย

    “ค้างคาวของฉัน ถ้ามันไปกัดใคร มันจะเกิดภาพหลอน แล้วมันจะทำตามทุกอย่างที่ฉันควบคุม ตามฉันมาสิ” วลาเซียน่าพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของวลาเซียน่าจะรีบวิ่งพากลุ่มของเคนนี่เดินไปที่ซอยเล็กๆซอยหนึ่งในละแวกใกล้เคียง แล้วพวกเขาก็เจอกับชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งกอดเข่าอยู่ที่ซอยนั้น ซึ่งก็คือ สส. คนดังที่เคนนี่กำลังตามตัวนั่นเอง

    “สวัสดีครับท่าน สส.” เคนนี่พูดขึ้น

     

    ทางด้านของแองเจลโล่ ตัวของเขาเดินกลับเข้ามาในคาสิโน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าจะตีสองแล้ว ตัวของเขาเดินขึ้นไปบนชั้นสอง โดยที่เยเรน่าและเวเรนน่าเองก็เดินตามขึ้นไปด้วย

    “คุณแองเจลโล่ เราจะไม่รายงานเรื่องของพวกเขาจริงๆเหรอคะ??” เยเรน่าถามไป

    “เอาน่า แค่กลุ่มเล็กๆ คงไม่มีอะไรมากหรอก” แองเจลโล่ตอบ

    “เอาเถอะค่ะ ถ้าพวกนั้นไม่ทำทะลึ่งกับเราก็พอ” เวเรนน่าพูดต่อ

    “ตอนนี้ฉันสนใจจะรบกับไอ้ซอกฮุน อย่าเพิ่งไปคิดถึงเรื่องอื่นเลยดีกว่า” แองเจลโล่พูดต่อ และในขณะเดียวกันนั้นเอง จู่ๆ พวกเขาก็เห็นวงกลมเทเลพอร์ตปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา และชายชุดขาวคนหนึ่งก็เดินผ่านเข้ามาจากวงกลม และเดินมาอยู่ตรงหน้าของแองเจลโล่ แต่ในระหว่างนั้น ชายคนนั้นก็เห็นว่าคาสิโนของแองเจลโล่นั้นดูจะยับเยิน

    “โห ที่นี่อย่างกับโดนพายุถล่มเลยแหะ คุณแองเจลโล่”

    “ก็ใช่ เราเพิ่งมีปัญหานิดหน่อยหน่ะ” แองเจลโล่ตอบ

    “ผมเสียใจด้วย ผมอยากรู้จริงๆว่ามันเป็นใคร แต่ว่า ผมมีเรื่องจะแจ้ง ท่านโยมิสั่งมาว่าช่วงนี้ อยากให้คุณคุมสถานการณ์ในเวกัสให้อยู่ เพราะว่าช่วงนี้พวกหน้าใหม่เข้ามาในเมืองกันมาก และดูเหมือนว่า มาเรียน่า เทพปีศาจธาตุน้ำที่เคยหายตัวไป จะกบดานที่นี่” 

    “ห่ะ อะไรนะ ใต้จมูกพวกเราเลยนะคะ??” เยเรน่าถามไป

    “เออ เธอคือใครเหรอ??” เวเรนน่าถามอย่างสงสัย

    “หนึ่งในเทพปีศาจที่ฉันเคยเล่าให้เธอฟังหน่ะ แล้วก็เป็นเทพที่สาบสูญ” แองเจลโล่ตอบ

    “เอาเป็นว่าฉันมาบอกแค่นี้แหละ นายจัดการเรื่องปัญหาของนายไปแล้วกัน ฉันจะรีบกลับไปรายงานคุณโยมิ” ชายคนนั้นพูดจบก็เดินกลับเข้าไปในวงกลมเทเลพอร์ตนั่นในทันที 

    “ตอนนี้รีบเคลียร์พื้นที่ก่อนแล้วกัน เยเรน่า ฉันฝากด้วย” แองเจลโล่พูดกับเธอ

    “ได้เลยค่ะ” เยเรน่าตอบและเดินลงไปที่ชั้นล่าง

    “ไปพักก่อนดีกว่านะ” เวเรนน่าพูดกับแองเจลโล่

     

    ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ณ ห้องใต้ดินห้องหนึ่ง หลังจากที่กลุ่มของเคนนี่ได้ตัวของ สส. คนดังมาแล้ว เคนนี่ได้จับ สส. คนนั้นมัดเอาไว้กับเก้าอี้ตัวหนึ่ง โยที่พวกเขาก็ยืนล้อมเคนนี่เอาไว้ สส. คนนั้นเมื่อได้สติ เขาก็แปลกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น

    “เฮ้ย พวกมึงเป็นใคร ปล่อยกูนะเว้ย!!” สส. คนนั้นตะโกนออกมา

    “สวัสดีครับท่าน สส.” เคนนี่ทักทาย สส. คนนั้น สส.คนนั้นเมื่อได้เห็นหน้าเคนนี่ก็ตกใจมาก

    “เฮ้ย แก ไอ้ตำรวจคนนั้น!!”

    “ขอบคุณที่ยังจำผมได้ ดูเหมือนว่าคุณพร้อมจะตอบคำถามผมแล้วนะ” เคนนี่บอกกับ สส. คนนั้น

    “เดี๋ยวๆๆๆ มึงไปเคลียร์กับไอ้ผู้กำกับเซ็นทอร์เองดิ จะมายุ่งกับกูทำไม??” สส. คนนั้นถามไป

    “มันก็แค่ฟันเฟืองนึง กูอยากล้มทั้งระบบหว่ะ จะพูดดีๆ หรือจะให้เพื่อนกูช่วย??” เคนนี่ถามไป 

    “ช่วยห่าอะไรวะ??” สส.คนนั้นถามต่อ และไม่นานนัก ซิลเวสเตอร์ก็เอามือกุมหัวของ สส. คนนั้น เพื่อทำการสะกดจิต สส. คนนั้น ไม่นานนัก สส. คนนั้นก็เริ่มเปลี่ยนแววตาแล้ว

    “เอาหล่ะ ท่าน สส. นอกจากไอ้ผู้กำกับเซนทอร์ แล้วยังมีใครที่ร่วมมือกับมันอีก บอกทุกอย่างมาให้หมด??” เคนนี่ถาม สส. คนนั้น ก่อนที่ สส. ที่ถูกซิลเวสเตอร์สะกดจิตจะบอกทุกอย่างกับเขา เคนนี่เองก็พอใจ ก่อนที่ซิลเวสเตอร์จะใช้พลังกับเขาอีกครั้ง และ สส. คนนั้นก็ถึงกับหลับไป เคนนี่ก็เดินเข้าออกมาด้านนอก ซึ่งคนอื่นๆก็ตามเขามาด้วย

    “เฮ้ เคนนี่ ฉันว่าเรื่องนี้มันใหญ่เกินมือพวกเราแล้วหล่ะ” ซิลเวสเตอร์พูดขึ้น

    “แต่ถึงยังไง มันก็ต้องลองเสี่ยงดูนะ เราทำกันมาถึงขั้นนี้แล้ว จะให้จบแค่นี้เหรอ??” โรเบิร์ตถามกลับไป

    “ฉันรู้ ฉันเองก็คงไม่หยุดแค่นี้หรอก” เคนนี่ตอบ และในขณะเดียวกัน วาคูลาเองก็เดินเข้ามาหาพวกเขาในห้องชั้นใต้ดินด้วย

    “เฮ้ เป็นยังไงกันบ้างพวกนาย??”

    “คุณวาคูลา มีอะไรหรือเปล่าคะ??” วลาเซียน่าถามเขาไป

    “ก็แค่มาดูหน่ะว่าพวกเธอเอาใครเข้ามาด้วย” วาคูลาตอบ

    “เราแค่สอบถามอะไรไอ้ สส. นี่หน่อย ดูเหมือนว่าพวกมันจะร่วมมือกับคนอีกมากในรัฐบาลครับ” ซิลเวสเตอร์ตอบ

    “ดูท่าพวกนายคงจะเจอของแข็งแล้วหล่ะ แล้วถ้าพวกนายปล่อยมันไป มันจะไม่ไปบอกคนอื่นเหรอ??” วาคูลาถามไป

    “ไม่หรอกขอรับ หมอนั่นจะจำอะไรไม่ได้เลย” ไปจื่อตอบ

    “อืม พวกนายทำได้อยู่แล้วหล่ะ แล้วเรื่องมาเรียน่า นายจะเอายังไงต่อ??” วาคูลาถามไป

    “เออ จริงด้วย เราต้องตามหาเธออีกนี่??” เวโรนิก้าพูดเสริม

    “แล้ว ทางพวกคุณไม่มีเบาะแสอะไรบ้างเลยเหรอ??” คามิลล่าถามวาคูลา

    “ฉันก็พยายามตามหาอยู่ แต่ก็ไม่เจอเลย” วาคูลาตอบ

    “อืม ช่วงนี้เราอาจจะต้องอดหลับอดนอนกันหน่อยหล่ะครับ” วอลพูดขึ้น

    “ผมอาจจะอยู่เวกัสแค่ 3 วันนะครับ” เคนนี่บอกกับวาคูลา

    “อ้าว ทำไมอย่างงั้นหล่ะ??” วาคูลาถามอย่างสงสัย

    “คือว่า คุณแองเจลโล่ เจ้าของบ่อนดังนั่น ทำงานกับพวก Magic Hunt พวกเขาให้เวลาเรา 3 วันเพื่อที่จะอยู่ในเวกัสครับ” เคนนี่ตอบ

    “งั้นเหรอ ถ้างั้นฉันจะลองให้คนของฉันช่วยสืบแล้วกัน ฉันขอตัวก่อนแล้วกัน” วาคูลาตอบ ก่อนที่ตัวของเขาจะเดินออกไป

    “โอเคตอนนี้ ตอนนี้พวกนายยังไหวหรือเปล่า หรือยังพอไปได้??” เคนนี่ถามไป

    “เดี๋ยวฉันจะไปบอกกับพรรคพวกฉันให้ช่วยสืบแล้วกัน ตอนนี้พวกนายไปพักกันก่อนแล้วกัน” วลาเซียน่าตอบ ก่อนที่ตัวของเธอจะเดินออกไปที่ด้านนอกในทันที 

    “โอเค พวกเราแยกไปพักกันก่อนดีกว่า พอได้ข่าวแล้วเดี๋ยวเราค่อยว่ากันอีกที” เคนนี่บอกกับทุกคนไป ก่อนที่ไม่นานนัก ทุกคนก็แยกย้ายกันออกไป เหลือแค่เวโรนิก้าที่อยู่กับเคนนี่

    “เดี๋ยวฉันไปนอนก่อนนะ” เคนนี่บอกกับเวโรนิก้า

    “โอเค ได้เลย” เวโรนิก้าบอกกับเคนนี่ แต่ในตอนนั้น ดูเหมือนว่าเวโรนิก้าจะยังอ้ำอึ้งไม่กล้าบอกอะไรบางอย่างกับเขา เคนนี่เองก็เห็น เขาเลยพูดขึ้น

    “เออ เธอโอเคนะ??” เคนนี่ถามเวโรนิก้าไป

    “ก็โอเค ขอบใจมากนะที่นายช่วยฉัน ฉันจะไม่ลืมเลย” เวโรนิก้าบอกกับเคนนี่

    “ไม่ต้องห่วงหรอก ถึงยังไงไอ้พวกนั้นมันก็จำหน้าเราได้อยู่แล้ว หนีไปยังไงก็ไม่รอด สู้ลองบวกกับมันซักตั้งก็ไม่เสียหาย” เคนนี่ตอบ

    “อืม จริงด้วย” เวโรนิก้าบอกกับเคนนี่ ในตอนนั้นเคนนี่เองก็แตะไหล่เธอเพื่อให้กำลังใจ แต่ในตอนนั้นเวโรนิก้าก็รีบผละออกอย่างรวดเร็ว

    “เออ ฉันขอโทษนะ ฉันแค่อยากให้กำลังใจเธอเฉยๆ” เคนนี่รีบเก็บมืออย่างรวดเร็ว

    “ไม่ๆๆๆ ไม่หรอก มันเป็นคำสาปของฉัน ถ้าใครแตะต้องฉัน ฉันจะดูดพลังและเวทย์มนต์ของคนนั้นมาหน่ะ ตอนที่ฉันเกิด ฉันโดนตราหน้าว่าเป็นเด็กปีศาจ เพราะฉันดูดพลังของแม่ฉันมาจนหมดจนแม่ฉันตายหน่ะ” เวโรนิก้าตอบ แต่ในตอนนั้นเอง เคนนี่เองก็ยื่นนิ้วก้อยให้กับเวโรนิก้าไป ทำเอาเธอแปลกใจ

    “นี่นาย..”

    “เอาน่า นิดเดียว ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก ถอดถุงมือด้วยก็ได้” เคนนี่บอกกับเวโรนิก้า เวโรนิก้าเองลังเลเล็กน้อย แต่ดูเหมือนว่าเธอเองก็ยอมเกี่ยวก้อยกับเคนนี่ 

    “อืม แบบนั้นแหละ” เคนนี่พูดขึ้น แต่ในตอนนั้น เคนนี่เองก็ดูเหมือนจะหมดแรงเล็กน้อย เวโรนิก้าก็รีบเอามือออกมาในทันที

    “นี่ นายห่วงตัวเองด้วยสิ” เวโรนิก้าพูดขึ้น

    “ไม่เป็นไรหรอก ถึงยังไงฉันก็ต้องพักผ่อนอยู่ดี” เคนนี่ตอบ และในขณะเดียวกัน วลาเซียน่าก็เดินเข้ามาหาเคนนี่ด้วย

    “เฮ้ เคนนี่ ถ้านายยังไม่นอน ไปหาคุณวาคูลาหน่อยสิ”

    “อ้อ โอเคครับ” เคนนี่ตอบ

    “นายไปเถอะ ฉันเองก็อยากพักเหมือนกัน” เวโรนิก้าบอกกับเคนนี่

    “โอเค ไว้เจอกันนะ” เคนนี่บอกเธอ ก่อนที่ตัวของเขาจะเดินตามวลาเซียน่า เวโรนิก้ายิ้มให้เคนนี่ข้างหลัง ก่อนที่เธอจะเดินกลับห้องพักของเธอ 

     

    ณ ป่าที่ไหนซักแห่ง ซึ่งเป็นจุดที่กองกำลังผ้าคลุมขาวโดนซุ่มโจมตี หน่วยเยเกอร์ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ โดยที่จีโอก็มาตรวจพื้นที่ร่วมด้วย เธอลองเดินไปทางที่เทนเนอร์โดนเล่นงาน โดยที่เจ้าหน้าที่อีกคนก็เดินตามจีโอมาด้วย

    “คุณจีโอครับ เป็นยังไงบ้างครับ??” 

    “แกะรอยพวกมันไม่ได้เลย” จีโอตอบ

    “ผมว่า พวกมันคงหนีไปไหนต่อไหนแล้วหล่ะครับ” 

    “ไม่แน่ พวกมันอาจจะยังอยู่แถวนี้ ระวังทุกฝีก้าวด้วยหล่ะ” จีโอตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก จอมเวทย์ระดับสูงคนหนึ่งจะเดินเข้ามาหาจีโอด้วย

    “เป็นยังไงบ้างหล่ะ??”

    “ไม่เจออะไรเลย สงสัยมันไปที่อื่นแล้วหล่ะ รีบไปรายงานคุณเอ็นวาเถอะ” จีโอตอบ

    “ได้ ฝากเธอคุ้มกันพวกเราที่เหลือด้วยแล้วกัน” จอมเวทย์คนนั้นพูดขึ้น ก่อนที่จะเดินออกไป ส่วนจีโอเองก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างอยู่ตรงต้นไม้ มันเป็นเข้มกลัดอะไรบางอย่าง จีโอรีบหยิบมันขึ้นมาในทันที

    “มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเนี่ย??” จีโอถามไป ก่อนที่เสียงฝีเท้าของใครบางคนจะดังเข้ามา เธอรีบเก็บเข็มกลัดในทันที

    “คุณจีโอครับ กลับกันเถอะครับ” เจ้าหน้าที่บอกกับจีโอ จีโอก็เดินตามเจ้าหน้าที่คนนั้นไป ในขณะที่ตัวของจีโอก็ได้แต่เก็บความสงสัยของเข็มกลัดนั้นเอาไว้

     

    ณ บาร์แห่งหนึ่งในย่านแคลิฟอร์เนีย ด้านในบาร์ตอนนี้กำลังมีการปะทะกันอย่างหนัก เนื่องจากอาคุมะนำพรรคพวกของเขาบุกเข้าไปและจัดการกับทุกคนในนั้น

    “ตุ๊บ!!”

    อาคุมะใช้ธงมะตอยของเขาฟาดใส่ชายคนหนึ่งจนกระเด็นออกไปและโดนชั้นวางขวดเหล้า

    “ไอ้เทนโดมันอยู่ไหน??” อาคุมะตะโกนออกมา แต่ดูเหมือนว่ายังไม่มีอะไรตอบสนองเลย

    “ดูเหมือนมันจะหนีไปแล้วหล่ะ” เรียวเฮพูดขึ้น

    “ไม่นะ พวกเราปิดทางเข้าออกหมดแล้วนี่??” วาจจิน่าถามไป

    “ปิดที่นี่อย่าให้ใครเข้าออกได้ ไม่ว่าใคร” อาคุมะพูดขึ้น แต่จู่ๆ ชายคนหนึ่งซึ่งถือปืนกล M4 และเดินเข้ามากราดยิงพวกของอาคุมะ

    “ปังๆๆๆๆ!!”

    “เข้ามาเลย!!” ชายคนนั้นตะโกนออกมา

    “โอ๊ย ทำอะไรหน่อยสิวะ??” วาซิริสต์พูดขึ้น ในขณะที่กำลังหลบอยู่หลังโต๊ะตัวหนึ่ง ไม่นานนัก เลโอนาร์ดก็ยิงเข็มอะไรบางอย่างออกจากมือของเขา

    “จึก!!”

    “เฮ้ย อะไรวะ??” ชายมือปืนคนนั้นหยุดยิงและยกปืนขึ้นมา จากนั้นก็หันกลับไปยิงใส่พวกเดียวกันเอง

    “ปังๆๆๆๆๆๆ!!”

    “ฮ่าๆๆๆ เยี่ยมไปเลย!!” โซเร็นที่ได้เห็นก็ตะโกนออกมา

    “แบบนี้คงจะสู้พวกมันได้” หู่ลงพูดต่อ และในขณะเดียวกัน เสียงของชายคนหนึ่งก็ตะโกนดังออกมา 

    “พอได้แล้ว!!” อาคุมะที่ได้ยินเสียงในตอนนั้นก็ยกมือขึ้นมา จากนั้นก็ปรากฏร่างของชายคนหนึ่งเดินลงมาจากชั้นสอง โดยที่ในมือก็ถือดาบคาตะนะเล่มหนึ่งมาด้วย

    “กว่าจะโผล่ออกมานะ” อาคุมะพูดขึ้น

    “อาคุมะ ไอ้ระยำ นี่แกกล้ามาถล่มที่ของฉันเหรอ??”

    “แน่นอน และยิ่งกว่านี้ฉันก็จะทำ และตอนนี้ ไอ้มิไรมันคุ้มหัวแกไม่ได้แน่” อาคุมะพุดขึ้น

    “เฮ้อ ฉันไม่ต้องให้มันมาช่วยหรอก แค่ฉันก็จัดการกับแกได้แล้ว!!” ชายคนนั้นตะโกนออกมา ก่อนที่จะชักดาบออกมาจากฝักอย่างรวดเร็ว

    “ดูเหมือนว่าฉันจะต้องเสียศิษย์ร่วมสำนักแล้วหล่ะ” อาคุมะพูดชึ้น

    “เออ ไอ้หมารับใช้สภาจอมเวทย์!!” เทนโดคนนั้นตะโกนออกมา ก่อนที่เขาจะกระโดดใส่อาคุมะ แต่อาคุมะก็ใช้ธงมะตอยของเขากันเอาไว้ได้

    “ย้าก!!” เทนโดนตะโกนออกมา ก่อนที่เขาจะกระโดดฟันอาคุมะอีกรอบ แต่คราวนี้ อาคุมะก็หลบได้และใช้ธงมะตอยของเขาฟาดจนกระเด็น

    “ตุ๊บ!!”

    “แม่งเอ้ย!!” เทนโดตะโกนออกมา ก่อนที่เขาจะจู่โจมอีกรอบ แต่อาคุมะคราวนี้ฟาดเทนโดอีกรอบจนคราวนี้เทนโดคนนั้นกระเด็นออกไป ดาบของเขาก็หลุดออกจากมือด้วย ส่วนอาคุมะเองก็วิ่งเข้าไปหามันอีกรอบ แล้วเหยียบเข้าที่ร่างของมัน

    “ตุ๊บ!!”

    “อ๊าค!!” เทนโดคนนั้นร้องออกมาเสียงดังลั่น

    “ไอ้อาคุมะ กูจะไปรอเจอมึงในนรก!!” เทนโดคนนั้นตะโกนออกมา

    “เออ รอนานหน่อยนะเว้ย” อาคุมะตอบ ก่อนที่อาคุมะจะใช้ธงมะตอยของเขาที่ติดไฟแทงเข้าไปที่ร่างของเทนโด จนร่างของเทนโดคนนั้นก็ไหม้กลายเป็นตอตะโกอย่างรวดเร็ว

     

    กลับมายังฐานที่มั่นของกองกำลัง Magic Hunt โยมิที่เป็นแกรนด์มาสเตอร์สูงสุดในกลุ่มก็กำลังนั่งฟังข่าวจากลูกน้องของเธอ ตัวของเธอเมื่อได้ยินข่าวก็ตกใจมาก และในขณะเดียวกัน วงกลมเทเลพอร์ตก็ปรากฏขึ้นมา ซึ่งเอเตียนและคนอื่นๆก็โผล่ออกมาจากวงกลมนั้น และรีบเดินเข้ามาหาโยมิอย่างรวดเร็ว

    “คุณโยมิครับ ไอ้จาค็อปไม่อยู่ที่เวกัสครับ..” เอเตียนพูดขึ้น

    “ฉันรู้แล้ว ฉันเพิ่งจะรู้ตะกี้นี้เอง” โยมิบอกไป ทำเอาทุกคนถึงกับแปลกใจ

    “อะไรกันคะ รู้ได้ยังไงกันคะ??” ไอจังถามอย่างสงสัย

    “บลาๆบีๆ” อันจิพูดต่อ

    “ใช่ คนของเรารายงานมาว่า จาค็อปหายตัวไปจากโรงแรมของแองเจลโล่หน่ะ” โยมิตอบ

    “เออ จะว่าไป ผมไปคุยกับแองเจลโล่มาด้วย เขาก็ไม่เจอกับจาค็อปเหมือนกัน” เอเตียนตอบ

    “บูบี หายไปเฉยๆเลย” อันจิพูดต่อ

    “แล้วลองหาทั้งเวกัสหรือยังหล่ะ??” โยมิถามต่อ

    “เราลองถามสายข่าวแล้วไม่มีใครรู้เลยค่ะ” ไอจังตอบ

    “บ้าเอ้ย นี่มันอะไรกันเนี่ย??” โยมิถามไป

    “แล้วแบบนี้เราจะเอายังไงต่อหล่ะครับ??” เอเตียนถามไป

    “บาลาๆบีๆ” อันจิพูดต่อ

    “เดี๋ยว แบบนั้นได้ป่วนกันทั้งเมืองแน่” ไอจังสะกิดบอกอันจิ

    “ฉันเห็นด้วย ถ้าเราปิดเมืองค้นหาขนาดนั้น ไม่ดีแน่ๆ” โยมิพูดต่อ

    “ถ้าอย่างงั้น พวกเราจะลองไปสืบหาดูนะครับ” เอเตียนพูดขึ้น และในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาโยมิ และรายงานอะไรบางอย่าง

    “ท่านครับ เราสืบมาแล้ว มีข่าวมาว่าพวกเทพปีศาจก็แอบเข้ามาในเวกัสเหมือนกันครับ”

    “บลาๆบีๆ” อันจิพูดขึ้นพลางยกมือสองข้างขึ้นประมาณไหล่

    “แล้วพวกนั้นไปทำอะไรในเวกัสคะ??” ไอจังถามอย่างสงสัย

    “ก็เพราะมาเรียน่าไง ไม่แน่ เราอาจจะต้องส่งคนไปตามล่าตัวเธอให้ได้ก่อน” โยมิตอบ

    “เออ ท่านครับ เราสืบทราบมาว่ากลุ่มที่เคยเล่นงานพวกผ้าคลุมขาว และกำลังป่วนงานของเราอย่างหนัก คือไอ้พวกนี้ครับ” เจ้าหน้าที่พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเสกอะไรบางอย่างออกมา มันเป็นรูปภาพคล้ายโฮโลแกรม ซึ่งมีใบหน้าของเคนนี่และพรรคพวกคนอื่นๆขึ้นมา

    “ไม่คุ้นเลยแหะ??” เอเตียนถามขึ้น

    “บลาๆๆๆ” อันจิพูดพลางทำหน้าสงสัย

    “พวกนี้มันพวกโนเนมนี่ แล้วพวกมันเกี่ยวอะไรคะ??” ไอจังถามไป

    “มีข่าวมาว่าพวกมันก็อยู่ในเวกัสเหมือนกัน ดูเหมือนว่าพวกมันก็ต้องมาตามหาอะไรเหมือนกัน พวกมันไม่ได้มาแค่เล่นพนันบาคาร่าแน่ๆ” เจ้าหน้าที่ตอบ

    “ฉันไม่อยากโฟกัสพวกโนเนม แต่ใส่ใจไว้ก่อนก็ได้” โยมิตอบ

    “เราต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าไอ้พวกนั้นมันมีพลังอะไร” เอเตียนพูดขึ้น

    “แต่ฉันว่า คงต้องสืบให้ได้ก่อนนะคะว่าพวกมันอยู่ไหน” ไอจังพูดปราม

    “บูบีๆ เหมี๊ยว” อันจิพูดต่อ

    “โอเค ถ้าอย่างงั้น นำกำลังของเราเตรียมการล้อมเวกัสเอาไว้ แล้วรายงานฉันเป็นระยๆหล่ะ” โยมิพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเธอจะเดินออกไป

    “เราไปเวกัสกันดีกว่า” เอเตียนพูดกับทุกคน

     

    ณ อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งในเวกัส ในตอนนี้มารีเดินทางมาที่อพาร์ทเมนท์แห่งนี้เพื่อหลบภัย หลังจากที่เธอโดนตามล่า เพื่อนของเธอที่เป็นพนักงานของโรงแรม และเมื่อเธอได้เจอกับมารี เธอเดินไปต้อนรับมารีในทันที

    “เฮ้ มารี เป็นยังไงบ้าง ไปไงมาไงถึงมาเวกัสเนี่ย??”

    “อ้อ มาตามหาคนนิดหน่อยหน่ะ” มารีตอบ

    “อืม เสียใจด้วยนะเรื่องฮาน่าหน่ะ” 

    “เฮ้อ ไม่ต้องห่วง ฉันจะตามแก้แค้นมันแน่” มารีตอบไป

    “ว่าแต่ เธอรู้หรือเปล่าว่าใครมันตามล่าเธอ??” 

    “คงต้องตามสืบกับไอ้นางจ้างคนล่าสุด ที่มันจ้างให้ฉันฆ่า สส.เลเบอร์แมนหน่ะ” มารีตอบ

    “อ้อ ไอ้นั่นมันอยู่ในเวกัสด้วย ฉันเพิ่งได้ข่าว มันอยู่ที่โรงแรมบลูโลตัสหน่ะ” 

    “บลูโลตัสงั้นเหรอ มันไปทำอะไรที่นั่นหล่ะ??” มารีถามต่อ

    “ไม่รู้เหมือนกัน แต่พนักงานคาสิโนที่นั่นบอกฉันมาหน่ะ ฉันเองก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลย”

    “เดี๋ยวฉันจะไปดูเอง ขอบใจมากนะที่ช่วย” มารีบอกกับเพื่อนของเธอ ก่อนที่เพื่อนของเธอจะยื่นกุญแจห้องๆหนึ่งให้กับมารีเพื่อให้เธอเข้าพัก

     

    กลับมายังอพาร์ทเมนท์ของดีค่อน ในตอนนี้กองกำลังปริศนาได้ขับรถเข้ามาล้อมอพาร์ทเมนท์เอาไว้ พวกนั้นรีบลงมาจากรถ พร้อมอาวุธครบมือ พวกมันบุกเข้ามาในอพาร์ทเมนท์ของดีค่อน แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเหลือ

    “เฮ้ย พวกมึง ไปค้นชั้นอื่นดู!!” พวกมันรีบออกคำสั่งกัน ก่อนที่จะกระจายกำลังออกไปเพื่อค้นหาในอพาร์ทเมนท์ 

    “เฮ้ย เจออะไรมั้ย??”

    “ไม่เจอเลยพี่!!”

    “แม่งเอ้ย พวกมันหายไปไหนวะ??” พวกมันพากันบ่นขึ้น แต่เมื่อพวกมันบุกเข้าไปในห้องๆหนึ่ง ระเบิดที่ติดตั้งเอาไว้หน้าประตูก็ทำงานในทันที

    “ตู้ม!!”

    “เฮ้ย อะไรวะ??” พวกมันตะโกนออกมาอย่างตกใจ แต่ก็ตกใจได้ไม่นาน พวกเขาก็ต้องตกใจอีกรอบ

    “ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ!!” เสียงปืนดังกระหน่ำรอบตึก กองกำลังที่ซุ่มอยู่รอบตึกก็ไล่ยิงพวกที่อยู่ด้านในอย่างดุเดือด 

    “บ้าเอ้ย รีบไปหลบในห้องเร็ว!!”

    “มันอาจจะมีระเบิดซ่อนก็ได้นะพี่!!”

    “บ้าเอ้ย งั้นก็รีบหนีสิวะ!!”

    พวกมันพากันหนีออกจากตึกอย่างทุลักทุเล แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาโดนดักเอาไว้ทุกทางแล้ว ไม่นานนัก กองกำลังที่ซุ่มอยู่รอบตึกก็บุกเข้ามาในตึก จากนั้นก็ไล่ยิงพวกมันอย่างสนุกมือ

    “ปังๆๆๆๆๆ!!”

    และที่ด้านนอกตึก ตัวของดีค่อนที่ซุ่มอยู่ด้านนอก ดูกองกำลังของเขาบุกเข้าไปในตึก และสังหารผู้บุกรุกเข้ามา 

    “ดูสิลูกพี่ พวกมันโคตรโง่เลย!!”

    “เออ แต่เราก็อยู่ที่นี่ไม่ได้เหมือนกัน” ดีค่อนตอบ

    “ไม่ต้องห่วงพี่ เรากลับไปบ้านเก่าเราก็ได้” 

    “เออ เตรียมพร้อมแล้วกัน” ดีค่อนตอบ และในขณะเดียวกัน ลูกน้องของดีค่อนคนหนึ่งก็รีบวิ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว เพื่อมารายงานอะไรบางอย่าง

    “ลูกพี่ครับ เราจัดการพวกมันได้หมดแล้ว เอายังไงต่อครับ??”

    “ฆ่าพวกมันให้หมด ทิ้งศพเอาไว้” ดีค่อนตอบ

     

    กลับมายังคลับของซอกฮุน ในตอนนี้ตัวของเขากำลังตามข่าวคนของเขาที่บุกเข้าไปที่คาสิโนแองเจลโล่ แต่ไม่นานนัก ลูกน้อของเขาก็รีบวิ่งมารายงานข่าวกับเขา

    “ลูกพี่ครับ!!”

    “เออ พวกเราเป็นยังไงบ้างวะ??” ซอกฮุนถามไป

    “พวกเราโดนเก็บไปเยอะเลยครับ บางส่วนก็โดนตำรวจจับด้วยครับ!!” ลูกน้องของเขาพูดอย่างลนลาน ทำเอาซอกฮุนตอนนั้นแปลกใจมาก

    “เฮ้ย เป็นไปได้ยังไงวะ เราส่งคนไปตั้งเยอะนะเว้ย??” ซอกฮุนถามไป

    “มีคนไปช่วยมันครับ”

    “ใครวะ??” ซอกฮุนถามต่อ

    “มันเป็นหน้าใหม่ที่เข้ามาในเมืองครับ เราถ่ายรูปพวกมันมาแล้วครับ” ลูกน้องของซอกฮุนพูดขึ้น ก่อนที่จะเอารูปของกลุ่มเคนนี่ให้กับซอกฮุนได้ดู ในตอนนั้นซอกฮุนที่ได้เห็นรูปของเวโรนิก้าก็ตกใจมาก

    “เฮ้ย อีนี่มัน กูบอกให้มึงเก็บมันไปแล้วไง??” ซอกฮุนถามไป

    “ก็ตอนนั้นมันหนีไปได้ ลูกพี่บอกไม่ต้องไปสนใจมันนี่ครับ”

    “ไอ้ห่าเอ้ย!!” ซอกฮุนตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด

     

    กลับมายังบ้านของมิไร ในตอนนี้ตัวของเขาได้ทราบข่าวของเทนโดที่ถูกกลุ่มโกเทย์เล่นงานแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะทำให้เขาโมโหมากพอสมควร เขากำดาบในมือเอาไว้แน่น ลูกน้องของเขาก็ดูจะไม่กล้าทำอะไรมาก 

    “ระยำเอ้ย พวกมันรู้ได้ยังไงว่าต้องไปเล่นงานเทนโดวะ??” มิไรตะโกนออกมา

    “เออ ทางเราก็ไม่ทราบครับท่าน”

    “แบบนี้ต้องมีข่าวรั่วแน่ๆ” มิไรพูดขึ้น

    “เออ ท่านครับ ผมว่าเราอย่าเพิ่งสงสัยกันเองเลยครับ” ลูกน้องคนหนึ่งของมิไรพูดขึ้น

    “แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงวะ??” มิไรถามอีกครั้ง

    “ถ้ามันเล่นแบบนี้ได้ เราก็ต้องเล่นแบบเดียวกันกลับบ้างครับ”

    “เหรอ แล้วแกมีแผนงั้นเหรอ??” มิไรถามต่อ

    “เราจะส่งคนไปเล่นงานแนวร่วมของอาคุมะมันบ้าง ถ้ามันเล่นเพื่อนเรา เราก็เล่นเพื่อน” ลูกน้องของเขาตอบ ในตอนนั้นมิไรเองก็ลองนั่งคิดดูว่าพอจะมีใครที่สนิทกับอาคุมะอยู่บ้าง

    “แล้วถ้าเกิดว่าไม่มีหล่ะ??” มิไรถามต่อ

    “เราคงต้องเล่นคนในกลุ่มมันเลยหล่ะครับ”

    “เหรอ จะจัดการยังไงหล่ะ พวกมันเองก็ใช่ว่าจะเคี้ยวได้ง่ายๆ??” มิไรถามอีก

    “ผมพอจะรู้จักมือสังหาร ที่พอจะทำงานนี้ได้ ผมจะจัดการเองครับ”

    “เออ ไปจัดการเลย ฉันจะไม่ยอมให้อาคุมะจัดการฉันได้ฝ่ายเดียวหรอก แล้วที่เวกัสเป็นยังไงบ้าง??” มิไรถามเรื่องเวกัสกับลูกน้องของเขาต่อ

    “ดูเหมือนว่าตอนนี้กำลังวุ่นวายเลยครับ”

    “แล้วนี่พวกเราต้องเอายังไงหล่ะ??” มิไรถามต่อ

    “เราก็แค่รอ ให้พวก Magic Hunt มันอ่อนแอ จากนั้น เราก็บุกไปจัดการพวกมันซะ” ลูกน้องของเขาตอบ

    “เออ เตรียมคนของเราให้พร้อมแล้วกัน งานนี้น่าจะมีมือดีๆไปกันหลายคนแน่ๆ เราอาจจะได้พวกระดับสุงๆ มาเสริมพลังให้กับพวกเรา” มิไรพูดต่อ

     

    กลับมายังเวกัส ในตอนนี้เฟทได้เดินทางมาถึงเรียบร้อยแล้ว ตัวของเขาเดินไปตามถนนเพื่อหาเบาะแสที่เขาต้องการตามหา เขาเดินไปตามถนนดูนั่นดูนี่ไปเรื่อยๆ ไม่นานนัก เขาก็เจอกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเขา 

    “พี่คะ มีคนรอพี่อยู่ในซอยนั้นค่ะ” เด็กสาวคนนั้นพูดกับเฟททางกระแสจิต ก่อนที่เธอจะเดินออกไป ตัวของเฟทเองก็ตกใจเล็กน้อย ก่อนที่ตจะเดินไปตามที่เด็กสาวคนนั้นบอก และเมื่อเขาเดินเข้ามาในซอยเล็กๆซอยหนึ่ง จู่ๆก็มีหอกเล่มหนึ่งมาจ่อคอเขาไว้

    “หอกแบบนี้ มีคนเดียวที่ใช่มัน นี่ท่าน..” เฟทพูดขึ้น ก่อนที่ชายคนนั้นจะโผล่ออกมาให้เฟทได้เห็น เฟทรีบคำนับชายคนนั้นในทันที

    “ท่านซาดิน..”

    “ไม่น่าเชื่อว่าคนมีดวงจิตแบบนายจะมาที่นี่” ซาดินพูดขึ้น

    “แต่ผมสัมผัสถึงท่านไม่ได้เลย” เฟทพูดต่อ

    “ฉันหวังว่าที่นายมาที่นี่ นายต้องมีเหตุผลแน่ๆ” ซาดินพูดขึ้น

    “ผมมาเพื่อตามหามาเรียน่า เทพปีศาจที่กบดานอยู่ที่นี่ครับ” เฟทตอบ

    “งั้นเหรอ นายเชื่อว่าอยู่ที่นี่จริงๆเหรอ??” ซาดินถามต่อ

    “สัญชาตญาณของผมไม่เคยพลาดครับ” 

    “ฉันรู้ คนดวงจิตแบบนาย ไม่มีอะไรพลาดแน่” ซาดินตอบ

    “ว่าแต่ ท่านคงไม่ได้ตามหาสิ่งเดียวกันกับที่ผมตามหาอยู่แน่ๆ” เฟทพูดต่อ

    “ฉันกำลังตามหาคนกลุ่มหนึ่งหน่ะ” ซาดินตอบ

    “หาใครกันครับ??”

    “ลองอ่านความคิดฉันดูสิ” ซาดินบอกกับเฟท ในตอนนั้นตัวของเฟทก็หยิบเอาสร้อยของเขาออกมา จากนั้นก็ทำการทำนายอนาคต และไม่นานนัก เขาก็ลืมตาขึ้น

    “อะไรกัน พวกที่ผมไม่รู้จักเลย??” เฟทถามขึ้น

    “ใช่ แต่พวกนั้นมีอะไรบางอย่างในตัว ที่ฉันต้องรู้ให้ได้” ซาดินตอบ

    “ครับ ถ้าอย่างงั้นก็ขอให้ท่านโชคดี ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะซ่อนตัวอยู่ในที่ที่อันตรายอยู่ครับ” เฟทตอบ

    “อันตรายงั้นเหรอ แค่ไหนกันหล่ะ??” ซาดินถามต่อ

    “ก็เป็นแหล่งรวมของพวก อ่า ช่างมันเถอะ เป็นว่ามันอยู่ที่นี่ครับ” เฟทพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เขาจะเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษโน้ตตัวหนึ่ง จากนั้นก็ยื่นมันให้กับซาดิน

    “แล้วนายจะตามหามาเรียน่าด้วยหรือเปล่า??” ซาดินถามต่อ

    “ผมตามหาแน่ๆ แต่เดี๋ยวจะมีคนมาหาท่าน ผมไม่ได้รับเชิญกับงานนี้ แล้วเจอกันนะครับ” เฟทพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเขาจะเดินออกจากซอยนั้นไป และไม่นานนัก ซาดินก็หันกลับไป แล้วก็พบกับเทพปีศาจทั้งห้า ที่แอบมาอยู่ด้านหลังพวกเขา

    “เพิ่งจะได้เจอคนที่มีดวงจิตแบบนี้นะเนี่ย อยากไปทำความรู้จักจัง” ไรจินพูดขึ้น

    “พวกนายมาที่นี่ได้ยังไง??” ซาดินถามไป

    “พวกเราก็วาร์ปมานั่นหล่ะครับท่าน” ยิเมียร์ตอบ

    “เราสัมผัสได้ถึงพลังของท่านที่นี่ เราเลยมาดูหน่ะค่ะ” บาร์บาทอสตอบ

    “พวกนายมาตามหามาเรียน่าใช่หรือไม่??” ซาดินถามไป

    “แน่นอน เหมือนกับที่ท่านผู้กับพ่อหนุ่มคนนั้นนั่นหล่ะ” อาร์เทมิสตอบ

    “ตอนนี้พวกเราก็ส่งคนออกตามหาอยู่ แต่เรามีเรื่องอยากจะเตือนท่าน” มอลอซพูดขึ้น

    “พวกนายอยากจะเตือนอะไรฉัน??” ซาดินถามอย่างสงสัย

    “ตอนนี้พวก Maigc Hunt กำลังล้อมที่นี่เอาไว้ พวกมันคงกำลังคุมเชิงเราอยู่ ได้ยินว่าขาใหญ่ของเวกัสเองก็ทำงานให้พวกมันด้วย” มอลอซพูดขึ้น

    “เรื่องนั้นฉันไม่สนหรอก” ซาดินตอบ

    “แต่พวกมันอาจจะเล่นงานทุกคนที่อยู่ในนี้นะคะ” อาร์เทมิสพูดขึ้น

    “นั่นสิคะ เมืองนี้อาจจะได้ลุกเป็นไฟเลย??” ไรจินพูดเสริม

    “แล้วพวกเจ้าต้องการอะไรกันหล่ะ??” ซาดินถามกลับไป

    “พวกเราคงต้องร่วมมือกันและป้องกันพวกมัน ไม่ให้พวกมันทำให้เมืองนี้เละเทะหน่ะ” ยิเมียร์ตอบ

    “แล้วทำไมพวกมันต้องมาที่นี่หล่ะ พวกมันมาทำอะไร??” ซาดินถามไป

    “พวกมันคงมาตามหาตัวมาเรียน่าเหมือนกันมั้งคะ??” บาร์บาทอสถามกลับ

    “เป็นไปได้ ดูเหมือนว่าพวกมันเองก็ต้องการใช้พลังในตัวเธอเหมือนกัน เพื่อเสริมพลังให้พวกสภาจอมเวทย์” มอลอซพูดต่อ

    “เออ เดี๋ยวนะ พวกสภาจอมเวทย์อย่างงั้นเหรอ แล้วมาเรียน่าสำคัญยังไงหล่ะ??” ซาดินถามอย่างสงสัย

    “พวกมันคงต้องการเก็บเอาพลังของเธอมาเพื่อเสริมพลังของพวกมัน เพราะมาเรียน่าเป็นตนเดียวที่ไม่ถูกผนึกเอาไว้หน่ะ” มอลอซตอบ

    “อืม ก็พอจะเข้าใจได้ พวกสภาจอมเวทย์นั้นมากด้วยเล่ห์ พวกมันคงไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่” ซาดินพูดต่อ

    “ฉันว่า พวกมันคงเล็งเป้ามาที่ท่านด้วยแน่ๆ” มอลอซพูดต่อ

    “แล้ว พวกนายมีแผนยังไงกันหล่ะ??” ซาดินถามต่อ

    “เราจะแบ่งกำลังออกไป ส่วนหนึ่งตามหามาเรียน่า ส่วนหนึ่งหลอกล่อพวกมันให้ออกห่างจากเมือง จากนั้นก็พามาเรียน่าหนีไป แบบนั้นเรายังพอมีโอกาสช่วยคนในเมืองได้” มอลอซอธิบายแผนการของเธอ

    “น่าสนใจ แต่เราต้องหาตัวมาเรียน่าให้เจอก่อน” ซาดินพูดขึ้น

    “แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะระแวงทุกคนเลย ไม่รู้จะเข้าถึงตัวเธอยังไงด้วย” ยิเมียร์พูดขึ้นพลางกอดอก

    “แต่จะว่าไป ดูเหมือนว่ามีเด็กผู้หญิงปริศนาด้วย ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร” ซาดินพูดต่อ

    “เด็กผู้หญิงเหรอคะ??” อาร์เทมิสถามอย่างสงสัย

    “หรือว่า เด็กคนนั้นจะเกี่ยวข้องกับมาเรียน่าหล่ะ??” ไรจินถามอย่างสงสัย

    “จริงด้วย ถ้าเราเจอเด็กคนนั้นอีกที เราน่าจะได้ข้อมูลอะไรจากเธอ” บาร์บาทอสพูดต่อ

    “ฉันจะลองพาไปที่ที่ฉันเจอเด็กคนนั้นดู ไม่ห่างจากที่นี่ อยากไปมั้ยหล่ะ ถ้าอยากไป ปลอมตัวด้วย” ซาดินบอกกับเหล่าเทพปีศาจตรงนั้น

    ภาพตัดมาที่เรือโจรสลัด ซึ่งสร้างเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวมาเข้าชม ซาดินและกลุ่มเทพปีศาจที่ได้มารวมตัวกันนั้นก็พากันมาเดินสำรวจพื้นที่ตรงนั้น แต่ไม่นานนัก จู่ๆ มอลอซก็หยุดนิ่ง ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างมาดึงขาเธอเอาไว้ไม่ให้เธอไปไหน

    “มอลอซ โอเคนะ??” ไรจินสะกิดมอลอซ และไม่นานนัก ตัวของมอลอซก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง

    “ทำไมกันหล่ะ มาเรียน่าส่งข้อความถึงเธอเหรอ??” ซาดินถามเธอไป

    “ใช่ เธอบอกว่า อย่าให้พวกเรามายุ่งกับเรื่องนี้” มอลอซตอบ

    “โว้ะ นั่นไง กลับเถอะ เสียเวลา” ยิเมียร์ตอบ

    “เดี๋ยวสิ เธอกำลังตกอยู่ในอันตรายนะ พวกเราไม่ได้โกรธเธอหรอกเรื่องที่เธอหายไป” อาร์เทมิสที่สนิทกับเธอพูดขึ้น

    “ไม่ใช่ เธอบอกตอนนี้เธอกำลังมีปัญหาหน่ะ” มอลอซตอบ

    “ปัญหาอะไรอีกหล่ะ??” ไรจินถามไป ก่อนที่ไม่นานนัก มอลอซเองก็พยายามจะสื่อจิตกับมาเรียน่าอีกครั้ง แต่คราวนี้ เด็กผู้หญิงคนเดิมที่ซาดินเคยเห็นก็ปรากฏร่างขึ้นมา ยิเมียร์ที่เห็นตอนนั้นก็ถึงกับตกใจ

    “ตกใจอะไรกัน??” ซาดินหันไปถามยิเมียร์

    “นั่นลูกสาวเธอ” ยิเมียร์พูดขึ้น ทำเอาคนอื่นๆถึงกับตกใจ แต่ดูเหมือนมอลอซจะไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่

    “นายก็รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ??” มอลอซถามขึ้น ในขณะที่เด็กสาวคนนั้นก็เดินไปทางอื่น

    “รีบตามเธอไปดีกว่า” ซาดินบอกกับทุกคน และรีบเดินตามเด็กสาวคนนั้นในทันที

     

    กลับมายังคฤหาสน์ของโครวี่ ในตอนนี้ตัวของเขาก็กำลังนั่งทำงานไปตามปกติ แต่ในขณะเดียวกัน เลขาของเขาก็เดินเข้ามาในห้อง 

    “นั่งสิ” โครวี่บอกกับเลขาของเขา ก่อนที่เลขาของเขาจะรีบนั่งลง

    “ท่านคะ เราเพิ่งได้ข่าวมาว่า ไอ้ซอกฮุน มันเพิ่งส่งคนไปป่วนที่เวกัสค่ะ”

    “ห่ะ ป่วน ป่วนอะไรกัน??” โครวี่ถามไป

    “ดูเหมือนว่าพวกไอ้ซอกฮุนกำลังมีสงครามกับแองเจลโล่ ขาใหญ่ของเวกัสค่ะ”

    “อย่างงั้นเหรอ แล้วมีอีกหรือเปล่าหล่ะ??” โครวี่ถามต่อ

    “มีข่าวมาว่าพวกผู้ใช้เวทย์ รวมถึงบรรดา Magic Hunt หลายๆหน่วย พากันไปที่เวกัสค่ะ” 

    “เหรอ ที่เวกัสมันมีอะไรหล่ะ??” โครวี่ถามอย่างสงสัย และในขณะเดียวกัน ยูจีนเองก็เดินทางวาร์ปกลับมาที่บ้านของโครวี่ จากนั้นก็เดินมาคุยกับเขา

    “เฮ้ ว่าไงหล่ะ??” โครวี่ถามยูจีน

    “มีข่าวยืนยันมาว่า บรรดาเทพปีศาจได้ไปรวมตัวกันที่เวกัส รวมถึงพวก Magic Hunt ด้วย ดูเหมือนว่าพวกมันจะไปตามหาตัวมาเรียน่า เทพปีศาจธาตุน้ำ ผมได้ข่าวแล้วแทบไม่อยากจะเชื่อเลย” ยูจีนพูดขึ้น

    “งั้นเหรอ ถ้าพวก Magic Hunt มากันขนาดนั้น แปลว่าไอ้พวกสภาจอมเวทย์มันต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ๆ” โครวี่พูดขึ้น

    “แล้วเราจะยืนดูเฉยๆเหรอคะ??” เลขาของโครวี่ถามไป

    “ถ้าพวกมันไปสนุกกันที่นั่น ฉันก็ขอไปร่วมด้วยแล้วกัน” โครวี่ตอบ

    “เราจะไปเวกัสกันเลยหรือเปล่าครับ??” ยูจีนถามไป

    “อยากไปอยู่เหมือนกันแหะ” โครวี่พูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้น ฉันจะเตรียมห้องพักในโรงแรมเลยนะคะ” เลขาของเขาพูดขึ้น

    “ได้เลย เหมือนเดิมนั่นหล่ะ” โครวี่บอกกับเธอ ก่อนที่ตัวของเธอจะเดินออกไปนอกห้องของเขา

    “ว่าแต่ ทำไมพวกมันต้องเล็งเป้าไปที่ยัยเทพธาตุน้ำอะไรนี่หล่ะ??” โครวี่ถามยูจีน

    “เท่าที่ผมรู้มา เธอเป็นเทพปีศาจธาตุเดียวที่ยังไม่เคยถูกผนึก แปลว่า พวกสภาจอมเวทย์อาจจะยังไม่ทำอะไรกับเธอ ไม่แน่ มันอาจจะอยากได้พลังของเธอก็ได้ครับ” ยูจีนตอบ

    “งั้นเหรอ อืม..” โครวี่พูดและตอนนั้นก็ทำหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

    “คิดอะไรอยู่เหรอครับ??” ยูจีนถามอย่างสงสัย

    “ฉันว่า ฉันมีวิธีกวนตีนพวกสภาเวทย์มนต์แล้วหล่ะ” โครวี่พูดขึ้น

    “เออ ยังไงเหรอครับ??”

    “ถ้าพวกมันอยากได้ตัวมาเรียน่า เราก็จับเธอมาก่อนสิ” โครวี่ตอบไป

    “แต่มันเสี่ยงมากเลยนะครับ อีกอย่าง มาเรียน่าก็เป็นเทพปีศาจ มันคงมีฤทธิ์เดชมากกว่าที่เราคิดแน่นอนครับ” ยูจีนพูดปรามเขา

    “ถึงยังไง พวกมันก็คงต้องแพ้ทองแดงอยู่ดี เตรียมหน่วยของเราให้พร้อมแล้วกัน” โครวี่ตอบ และในขณะเดียวกัน เลขาของโครวี่ก็เดินกลับเข้ามาในห้องของเขา

    “ท่านคะ ดิฉันเตรียมโรงแรมในเวกัสแล้วค่ะ”

    “ดี บอกหน่วย A ของเราให้เตรียมของให้พร้อมหล่ะ” โครวี่พูดขึ้น

    “ท่านจะเอาหน่วย A ไปจริงๆเหรอคะ??”

    “แน่นอน เธออยู่ที่นี่ ฝากจัดการเรื่องเหมืองทองแดง กับเหมืองออซเจนิสของเราด้วยหล่ะ อย่าให้มีปัญหา” โครวี่บอกกับเลขาของเขา

    “รับทราบค่ะ” เลขารับคำ

     

    ณ ที่ไหนซักแห่งในเวกัส ตึกสำนักงานแห่งหนึ่ง มอลขับรถเข้าไปในสำนักงานนั้นเงียบๆ โดยที่โสนก็ไปด้วย และเมื่อเขาขับเข้ามาในสำนักงาน ชายคนหนึ่งก็เดินไปที่รถของมอลอย่างรวดเร็ว เพื่อไปทักทายกับพวกเขาทั้งคู่

    “คุณโสน คุณมอล มาทำธุระอะไรเหรอครับ??”

    “อ้อ ต้องถามมอลหน่ะ เอาเป็นว่าพวกเราขอเข้าไปหน่อยสิ” โสนบอกกับชายคนนั้น ก่อนที่ชายคนนั้นจะเอาคีย์การ์ดใบหนึ่งให้กับโสน โสนเองก็รีบหยิบมา ก่อนที่พวกเขาจะลงจากรถ และเดินเข้าไปในสำนักงานทันที

    “ห้องทำงานคุณยังอยู่ดีนะ??” มอลพูดกับโสน

    “แน่นอน ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งหรอก” โสนตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก พวกเขาจะเดินทางมาถึงห้องทำงานของโสน ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย โสนใส่รหัสเพื่อเปิดประตูเข้า และเมื่อเข้ามาได้ ก็พบว่าข้างในห้องมีเซฟตู้หนึ่งอยู่ มอลรีบเดินไปที่ตู้เซฟในทันที และใส่รหัสของเขา

    “กลิ๊ก!!”

    และเมื่อเซฟเปิด เขาก็พบว่าข้างในมีเงินจำนวนหนึ่ง พร้อมกับเอกสารซองแดงซองหนึ่ง มอลหยิบเอกสารซองแดงนั้นออกมาในทันที

    “โอเค ที่เหลือก็รอกลับบ้าน ฉันจะเอามันไปเปิดที่บ้าน” มอลบอกกับโสนไป

     

    ณ สำนักงาน CIA ห้องทำงานเจ้าหน้าที่ระดับสูงห้องหนึ่ง ชายคนหนึ่งกำลังนั่งทำคอมอย่างใจจดใจจ่อ และไม่นานนัก เขาก็รีบลุกขึ้น และหยิบเอกสารที่เพิ่งจะปริ้นออกมา จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอกในทันที และเดินเข้าไปในห้องของผู้อำนวยการ CIA แล้วเขาก็เจอกับผู้อำนวยการของ CIA กำลังนั่งอ่านเอกสารอะไรบางอย่าง

    “ท่านครับ ขออนุญาตครับ!!”

    “อืม มีอะไรหล่ะ??” ผู้อำนวยการถามกลับ และไม่นานนัก เขาก็ยื่นเอกสารที่เขาได้มาให้กับผู้อำนวยการได้ดูในทันที ผู้อำนวยการคนนั้นได้ดูก็พูดขึ้น

    “พวกมันมารวมตัวกันแล้วเหรอ??”

    “ใช่ครับ ที่เวกัสครับ” 

    “ผมจัดทีมให้คุณได้ แต่ตอนนี้ รัฐบาลลงนามความร่วมมือกับพวก Magic Hunt แล้ว” 

    “เรื่องนั้นผมเตรียมพร้อมแล้วครับ”

    “เตรียมพร้อมเรื่องอะไรกันหล่ะ??”

    “ผมให้มือสังหารของเราเตรียมสังหารหัวหน้าระดับใหญ่ของพวกมัน แฟ้มข้อมูลของพวกมันตอนนี้ ผมก็ส่งให้ท่านหมดแล้วครับ” 

    “อืม ยังไงก็ลองดูแล้วกัน แล้วแน่ใจนะว่าจะไม่มีใครสาวถึงเรา??” 

    “แน่นอนครับ ผมส่งคนตามไปประกบพวกมันแล้ว ถ้ามันทำงานเสร็จ เราก็ปิดปากมันซะ”

    “โอเค ถ้าอย่างงั้นก็ไปเตรียมพร้อมกันเลยแล้วกัน” ผู้อำนวยการ CIA พูดขึ้น

    “รับทราบครับ” ชายคนนั้นพูดขึ้น ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป และไม่นานนัก ผู้อำนวยการ CIA คนเดิมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จากนั้นก็โทรไปหาใครบางคน

    “ครับท่าน”

    “ตอนนี้เราพร้อมแล้วครับ”

    “ได้เลยครับ” ผู้อำนวยการพูดจบก็วางสายไปในทันที

     

    กลับมายังตึกอพาร์ทเมนท์ที่กลุ่มของเคนนี่อาศัยอยู่ ในตอนนี้พวกเขาก็พักผ่อนกันหลังจากที่ทำงานกันมานาน ไม่นานนัก วลาเซียน่าก็เรียกให้กลุ่มของเคนนี่มาหาอะไรทานกันที่ห้องๆหนึ่ง กลุ่มของเคนนี่เองก็เดินลงมาที่ห้องเพื่อมาทานอาหารกันอย่างรวดเร็ว

    “เฮ้ มากินกันก่อนสิทุกคน” วลาเซียน่าบอกกับทุกคน ซึ่งตอนนี้อาหารบนโต๊ะก็ถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

    “ครับ ขอบคุณครับ” เคนนี่ตอบ

    “เออ มีข่าวอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า??” คามิลล่าถามวลาเซียน่าไป

    “ตอนนี้ยังไม่มีเลยอ่ะ ดูเหมือนจะยากกว่าที่คิดแหะ” วลาเซียน่าตอบ

    “ท่าทางเราจะเจอศึกหนักแล้วนะเนี่ย” เวโรนิก้าพูดขึ้น

    “เออ แต่ฉันอยากจะบอกว่า ตอนนี้เวกัสอาจจะกำลังเจอศึกใหญ่เลยหล่ะ พวกรัฐบาลกับพวก Magic Hunt เริ่มระแคะระคายแล้วว่าที่นี่กำลังจะเกิดเรื่องหน่ะ” วลาเซียน่าพูดขึ้น

    “ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมจะปกป้องคุณเอง” โรเบิร์ตพูดกับวลาเซียน่าไป

    “แล้วตอนนี้เรามีเวลาเหลือแค่ 2 วันที่จะอยู่ที่นี่” ไปจื่อพูดขึ้น

    “ฉันว่า ไอ้แองเจลโล่นั่นมันไม่รู้หรอกว่าเราอยู่ที่นี่ ผมว่าจะไปหามารีหน่อย ตอนนี้เธอมาที่เวกัสแล้ว” ซิลเวสเตอร์พูดขึ้น

    “ใจเย็นสิครับ ตอนนี้เราต้องทำงานของเราก่อนนะครับ” วอลพูดขึ้น

    “เอาเถอะค่ะ กินก่อนแล้วค่อยว่ากันนะคะ” วลาเซียน่าบอกกับทุกคน ก่อนที่ทุกคนจะพากัน

    ==================================================================

    เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมกันเน้อ

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย 

    ให้ของขวัญเป็นกำลังใจกันได้ครัช ไหว้หล่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×