ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Axis World - สู่โลกอักษะ

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12 : แก้ไขสถานการณ์

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 62


    ปารีสเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับยามะดะอย่างไม่เกรงกลัว ซึ่งยามาดะก็สั่งให้ตำรวจเหล่านั้นถอยไปก่อน การเจรจาครั้งนี้ถ้าเกิดว่าปารีสทำพลาด ชะตาของเพื่อนๆเขาได้ลงนรกกันหมดเป็นแน่ โดยที่ในตอนนั้นเอง พวกของนนท์ก็คอยมองอยู่ห่างๆอย่างเป็นห่วง

    เผยตัวมาจนได้ไอ้หนุ่มยามะดะพูดขึ้นกับปารีส

    ขอเข้าเรื่องเลยนะครับท่าน ตอนนี้พวกผมจับตัวครอบครัวชาวเอเชียไว้ได้หลายคนแล้ว ในจำนวนนี้อาจมีพวกญี่ปุ่นและเยอรมันรวมอยู่ด้วย

    แกจะให้ฉันทำอะไร ให้ปล่อยตัวพวกแกงั้นเหรอ

    ใช่ครับท่าน ภายใน 30 นาที ถ้าท่านไม่ออกคำสั่งให้ปล่อยตัวพวกผม ท่านก็น่าจะรู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วถ้าท่านฆ่าผม ครอบครัวญี่ปุ่นรายอื่นจะมีปัญหาไปด้วยปารีสยื่นคำขาดกับยามะดะ

    ใช่ได้นี่หว่า จะรู้ได้ไงถ้าพวกฉันปล่อยไป พวกแกจะปล่อยพวกฉัน

    เอาน่าท่าน เชื่อใจผมหน่อยสิปารีสพูดอีกครั้ง จากนั้นยามะดะก็คำนวณสถานการณ์ว่าจะทำอย่างไรต่อ

    และทางด้านพวกของนนท์

    ปารีสจับคนเอเชียมาอย่างงั้นเหรอเนี่ยอลาวดี้พูดขึ้น

    แล้วพวกเธอรู้หรือเปล่าว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนซานะถามไป

    ฉันจะไปรู้ได้ยังไงหล่ะว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนลินน์รีดพูดขึ้น

    แล้วเราจะไปช่วยพวกเขาดีหรือเปล่านนท์ถามไป

    ไม่น่าจะทันหรอก 30 นาทีเองนะพวกฟรองเกอร์ตอบกลับไป

    จะให้พวกของฉันโดนฆ่าตายหมดงั้นเหรอ ฉันไม่เอาด้วยหรอกซานะพูดขึ้น

    แต่เราทำอะไรไม่ได้หรอกนะตอนนี้ฟรองเกอร์พูดขึ้น

    นั่นสิ ตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนนะอลาวดี้พูดเสริม

    ฉันจะลองเกลี้ยกล่อมปารีสดูก็แล้วกันลินน์รีดพูดออกไป

    จะดีเหรอ เดี๋ยวพวกนั้นก็จับตัวเธอหรอกนนท์พยายามพูดปราม

    เอาน่า ฉันไม่เป็นไรหรอกลินน์รีดพูดขึ้น จากนั้นเธอก็พยายามจะเข้าไปหาปารีส ในขณะที่คนอื่นๆก็ตามไปดูลินน์รีดด้วยความเป็นห่วง

    ทางด้านของยามะดะ ในตอนนั้นเองเขากำลังคิดหาทางแก้ไขเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เนื่องจากว่าถ้าเขาทำพลาดนิดเดียว ครอบครัวชาวเอเชียเหล่านั้นได้ลงนรกกันหมดแน่ และในตอนนั้นเอง ยามะดะก็พูดขึ้นในทันที

    ถ้าอยากแลกเปลี่ยนตัวประกัน ฉันต้องเจอกับพวกเขาก่อน

    ทำไมถึงพูดแบบนั้นหล่ะปารีสถามไป

    ฉันอยากแน่ใจว่าพวกแกจะไม่เล่นตุกติกยังไงหล่ะ

    ก็ได้ ถ้าอย่างงั้นพาตัวพรรคพวกของผมทั้งหมดมายังโกดังท่าเรือตะวันตก ห้ามมีตำรวจคนไหนมาด้วย ไม่งั้นท่านก็น่าจะรู้นะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

    ก็ได้ ฉันรับปาก

    หลังจากที่ยามะดะรับปาก ปารีสก็เดินออกจากพื้นที่ไป และในขณะเดียวกัน ซาโต้ที่เพิ่งจะกลับมาจากการจัดการกับอาคะสึกิ เขาก็รีบไปรายงานกับยามะดะในทันที

    ท่านครับ แย่แล้วครับผม

    เออ ซาโต้ มาพอดีเลย ติดต่อหน่วยกองกำลังของเราให้ไปยังโกดังท่าเรือตะวันตก ด่วนเลย

    อ่า ท่านครับ มีเรื่องสำคัญกว่านั้นครับ เรื่องคุณอาคะสึกิครับ

    อ้าว ฉันให้นายไปจัดการแล้วนี่ แล้วยังไงหล่ะ

    เธอชูป้ายตราตระกูลของโชกุน เราทำอะไรไม่ได้เลยครับ ทางนั้นยังจะฟ้องศาลเพื่อฟ้องร้องพวกเราครับ

    บ้าเอ้ย ถ้าอย่างงั้น นายคงต้องหายตัวไปซักพักแล้วล่ะ รอข่าวเงียบฉันจะติดต่อนายไปเอง

    ได้ครับท่าน

    และที่พวกของนนท์ ในตอนนั้นเองลินน์รีดก็ได้ฟังที่ปารีสพูดทั้งหมด เธอจึงเปลี่ยนใจในทันทีแล้วไปบอกกับพวกของนนท์ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปจากนี้

    นนท์ ปารีสจับพวกของเธอไปที่โกดังท่าเรือตะวันตกลินน์รีดบอกกับทุกคนไป

    งั้นเหรอ แล้วเราจะเอายังไงกันต่อดีหล่ะนนท์ถามคนในกลุ่มไป

    เราจะลองไปดูหรือเปล่า เผื่อทำอะไรได้ฟรองเกอร์พูดขึ้น

    ใช่ เราจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้นะซานะบอกกับทุกคนไป

    ถ้าอย่างงั้นรีบไปขึ้นรถกันเถอะ เร็วเลย

    อลาวดี้พูดขึ้นจากนั้นพวกเขาก็รีบไปขึ้นรถกระบะคันหนึงที่จอดอยู่ในซอยเปลี่ยว จากนั้นอลาวดี้ก็สตาร์ทรถแล้วขับรถออกไปในทันที

    นี่ โกดังมันอยู่ไกลแค่ไหนเนี่ยซานะถามพวกเขาไป

    ถ้ารถไม่ติด ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงหล่ะ เอ๊ะ หรือจะ 10 นาทีอลาวดี้พูดจากนั้นก็เร่งเครื่องหนักขึ้น จนทำเอาพวกเขาแทบจะนั่งไม่ติดกับเบาะ

    โอ้ย ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ฟรองเกอร์พูดในขณะที่จับตัวยึดไว้อยู๋

    ถ้าไม่รีบแล้วจะไปถึงได้ไงหล่ะนนท์บอกกับฟรองเกอร์

    เฮ้อ ไม่น่ารอดแน่ๆลินน์รีดพูดในขณะที่อลาวดี้ก็เร่งเครื่องยนต์ไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่ทอดยาวไปยังโกดังท่าเรือ

     

    กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ลับที่เดิม สมาชิกกกลุ่มกบฏที่อยู่ด้านในก็เตรียมอาวุธเพื่อรีบไปช่วยปารีสตามที่ปารีสติดต่อมา ซึ่งพวกเขานำครอบครัวของชาวเอเชียนับร้อยคนไปรวมกันไว้ยังโกดังตามที่ปารีสบอก จากนั้นพวกเขาก็ติดต่อเรือเพื่อที่จะช่วยพวกเขาหลบหนีเผื่อว่าจะมีการปะทะกันเกิดขึ้น โดยที่ในตอนนั้นเอง ออลเรียสก็กำชับเหล่ากบฏอย่างหนึ่งในทันที

    พวกเธอสัญญากับฉันได้หรือเปล่า

    ครับคุณย่า ว่ามาเลยครับดันเต้บอกกับเธอไป

    ไม่ว่าจะยังไง ห้ามฆ่าผู้บริสุทธิ์เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมานะ

    โธ่คุณย่า ปารีสรู้ดีว่าต้องทำยังไงโจอี้พูดเสริม

    แบบที่ทำเมื่อวันนั้นเหรอชายคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น

    ไอ้บ้าอีธาน จะหาเรื่องกันถึงไหนวะ

    ในตอนนั้นเองดันเต้เกือบจะวางมวยกับอีธาน แต่โจอี้ก็ไปแยกพวกเขาทั้งคู่ออกมาก่อนที่เหตุการณ์จะแย่ลงไปมากกว่านี้

    มึงไปไกลๆให้พ้นหน้ากูเลยนะเว้ย

    ดันเต้พูดขึ้นจนอีธานต้องเดินออกไป จากนั้นเขาก็พูดขึ้นกับโจอี้

    จับตาดูอีธานไว้ ฉันว่าหมอนี่น่าสงสัย

    เฮ้ย ใจเย็นสิโว้ย ฉันรู้ว่านายโกรธอยู่

    ไม่ใช่แบบนั้น แกเชื่อเซนส์ฉันสิ

    เออๆ จะพยายามก็แล้วกัน

     

    กลับมายังกรุงไซง่อน อินโดจีบ ประเทศเวียดนาม หลังจากที่โกโร่ได้ข่าวเกี่ยวกับสงครามเวียดนามที่เกิดขึ้น เขาก็รีบกลับไปยังสำนักข่าวโตเกียวไทม์ในกรุงไซง่อนในทันที เพื่อที่จะไปรายงานตัวกับบก.ที่ควบคุมงานข่าวอยู่ที่นั่น หลังจากที่เขาและซุนกิวมาถึง บก.สำนักพิมพ์ก็มาคุยกับพวกเขาในทันที

    อ้าว โกโร่ กลับจากเบลารุสมาจนได้นะ

    ครับบก. สบายดีนะครับ

    สบายดี เออนี่ โกโร่ ซุนกิว มาคุยกับฉันในห้องหน่อยแล้วกัน

    บก. พาโกโนร่และซุนกิวเข้าไปในห้องของเขา โดยที่บก.ก็ลากเอาเก้าอี้อีกตัวมาให้ทั้งคู่นั่ง หลังจากนั้น บก.ก็เริ่มการสนทนาในทันที

    เอาหล่ะโกโร่ ข่าวที่นายแพร่ออกไป ตอนนี้ทางการไทยรู้เรื่องแล้ว เขาชื่นชมนายนะ เขาอยากให้นายไปที่ฮานอย เพื่อรายงานข่าวที่นั่น

    หัวหน้าครับ ที่ฮานอยกำลังวุ่นวายเลยนะครับซุนกิวพูดขึ้น

    ก็อันตรายอยู่แล้วหล่ะ แต่ถ้าไม่มีข่าวนี้ เราจะทำยังไงหล่ะบก.ตอบกลับไป

    ครับ ผมเข้าใจ แล้วสถานการณ์ที่นั่นเป็นยังไงบ้างครับโกโร่ถามอย่างสงสัย

    เท่าที่ทราบจากสายข่าว ตอนนี้ทางการไทยได้ทิ้งระเบิดปูพรมกรุงฮานอยอีกครั้งแล้ว

    งานนี้ไม่ง่ายแน่ๆครับท่านซุนกิวพูดอย่างเป็นกังวล

    ว่าแต่ จะให้เราไปเมื่อไหร่ครับโกโร่ถามบก.ของเขาไป

    เย็นนี้เลย ผมจะให้ฮอไปส่งคุณก็แล้วกัน

    ได้ครับผมโกโร่พูดกับ บก. ของเขาไป

     

    ณ เขตอิลลินอยส์ เขตปกครองตัวเองสหรัฐอเมริกา โซลขับรถที่เขาขโมยมาไปตามทางเพื่อเข้าสู่มิชิแกนเพื่อทำงานใหญ่อะไรบางอย่าง ซึ่งหน่วยเคมเปนไตสั่งให้เขาไป เขาขับรถมาได้ซักพัก เขาก็มาจอดรถที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งซึ่งเป็นปั๊มน้ำมันเล็กๆ โดยมีร้านสะดวกซื้อด้วย เขารีบขับไปจอดจากนั้นก็เติมน้ำมันเอง โดยที่ในขณะเดียวกัน มีชายไร้บ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้รถของเขาโดยที่ถือแก้วน้ำมาแก้วหนึ่งด้วย

    ขอเศษเงินให้ผมด้วย

    โซลเห็นดังนั้นจึงหยิบแบงค์แบงค์หนึ่งให้กับเขาไป ซึ่งเป็นเงินญี่ปุ่น

    คุณให้เงินญี่ปุ่นอย่างงั้นเหรอ

    ทำไมหล่ะ ผมมีแค่นั้นหล่ะ หรือว่ามันใช้ไม่ได้โซลถามกลับไปทันที

    ไม่มีอะไรหรอกครับ ขอบคุณมาก

    หลังจากที่โซลเติมน้ำมันเสร็จ เขาก็เดินเข้าไปในร้านอาหารในทันทีเพื่อหาซื้ออะไรกิน เมื่อเขาเข้าไปในร้าน เจ้าของร้านก็รอต้อนรับทันที

    ยินดีต้อนรับครับ ที่นี่ไม่มีอาหารญี่ปุ่นนะครับ จะเอาอะไรมั้ยครับ

    ขอฮ็อทด็อกพิเศษที่หนึ่ง โคล่าแก้วใหญ่ด้วยโซลพูดขึ้น จากนั้นชายคนนั้นก็ทำอาหารให้กับโซล เมื่อโซลได้อาหาร เขาก็รีบกินในทันที

    ครั้งแรกที่เขตนี้สินะเจ้าของร้านถามโซลไป

    ใช่ ผมมีธุระนิดหน่อยหน่ะ

    งั้นเหรอ คุณจะไปที่ไหนหล่ะ

    ผมจะข้ามไปดีทรอยต์

    จะไปหางานทำเหรอ ที่นั่นคนเอเชียหางานยากหน่อยนะ พวกคนขาวแย่งงานไปหมดเลย

    ขอบคุณที่บอก ขอบคุณสำหรับอาหารนะ โซลวางเงินไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็เดินออกจากร้านไป แต่ๆจู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูมาจากหลังบ้าน ชายคนนั้นรีบไปเปิดประตู ก็พบว่าเป็นชายไร้บ้านคนเดิมที่มาขอเงินจากโซล

    นั่นรถของคาเรน มันฆ่าเขาแน่ๆ รีบโทรบอกไวเวิร์นเร็ว

     

    กลับมายังที่มั่นของกลุ่มไวเวิร์น เจนนี่ไปรับโทรศัพทสายหนึ่งซึ่งติดต่อเข้ามา หลังจากที่เธอรับสายและคุยกับคู่สนทนาปลายสาย เธอรีบเดินไปหาไวเวิร์นในทันที

    ไวเวิร์น มีข่าวมาจากร้านดาร์ตี้ เขาสงสัยว่าคนที่ฆ่าคาเรนกำลังจะผ่านมาที่มิชิแกนหน่ะ

    นี่เธอพูดจริงหรือเปล่าเนี่ยโบซอลถามเจนนี่

    ใช่ คุณบาร์ตันบอกฉันเองเนี่ย

    แล้วเขาจะมาทางไหนงั้นเหรอไวเวิร์นถามไป

    ถ้าสำหรับคนที่ไม่เคยมา คงต้องมาทางหลวงแน่ๆโบซอลพูดขึ้น

    ถ้าอย่างงั้นก็เอาคนไปดักที่ทางหลวงไว้ก่อนแล้วกันไวเวิร์นพูดขึ้น

    ดีนะที่มันไม่ทำอะไรคุณบาร์ตันหน่ะเจนนี่พูดขึ้น

    สงสัยมันคงไม่รู้ว่าคุณบาร์ตันเป็นสายหน่ะไวเวิร์นพูดขึ้น

    แล้วเรื่องกำแพงเขตแดนนี่เราจะเอายังไงต่อหล่ะโบซอลถามพวกเขาไป

    เราพอจะทำลายกำแพงได้หรือเปล่าหล่ะไวเวิร์นถามไป

    ดูแล้วไม่น่าจะง่ายแน่ๆเจนนี่ออกความเห็น แค่ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน พวกเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนดังมาแต่ไกล

    ปืนใหญ่ รีบหาที่หลบเร็ว

    พวกของไวเวิร์นรีบหนีเข้าที่กำบังในทันทีเพื่อหลบจากแรงระเบิด ก่อนที่เครื่องบินทิ้งระเบิดจะทิ้งใส่พวกเขาอย่างหนักหน่วง

    บ้าเอ้ย นี่มันอะไรวะเนี่ยไวเวิร์นพูดขึ้น

    สงสัยพวกมันเตรียมกวาดล้างเราแล้วหล่ะโบซอลพูดขึ้น

    พ่อจ๋าแม่จ๋า อย่าให้หนูเป็นอะไรเลยเจนนี่พูดในขณะที่เอามือปิดหูเอาไว้

     

    กลับมายังศูนย์บัญชาการหน่วย SS มิชิแกน ในตอนนั้นเองแองเจลล่ากำลังนั่งเขียนรายงานเกี่ยวกับการสร้างกำแพงเพื่อส่งให้กับนายพลสติฟท์ ในตอนนั้นเอง นายพลสติฟท์ก็เดินเข้ามาหาเธอในห้อง ในขณะที่เธอกำลังเขียนรายงาน แองเจลล่ารีบทำความเคารพเขาในทันที

    ท่านนายพลคะ

    ตามสบายแองเจลล่าแองเจลล่านั่งลงเขียนรายงานต่อ

    ผมส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดปูพรมใส่พวกมันเรียบร้อยแล้ว คุณแน่ใจนะว่าพิกัดถูกต้อง

    แน่นอนค่ะ ฉันให้สายข่าวของฉันสืบมาแล้ว

    แล้วเรื่องกำแพงเขตแดนนี่ไปถึงไหนแล้วหล่ะนายพลสติฟท์ถามไป

    ฉันกำลังเขียนรายงานชี้แจงค่ะแองเจลล่าตอบไป

    โอเค ตอนนี้ทั้งภายในและภายนอกจักรวรรดิกำลังมีการก่อจลาจล เราต้องทำให้แน่ใจว่าพวกมันจะทำไม่สำเร็จแน่ๆ

    รับทราบค่ะท่าน

    ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน จู่ๆทหารอีกคนหนึ่งก็เดินเข้ามาด้านในห้องทันที

    ขออนุญาตครับท่าน

    มีอะไรหล่ะ ว่ามาเลย

    เรามีรายชื่อของกลุ่มกบฏที่เราจับมาได้แล้ว บางส่วนหลบหนีมาจากเขตญี่ปุ่นครับ

    งั้นเหรอ ติดต่อทางสถนทูตญี่ปุ่นในแคลิฟอร์เนีย ให้เขาจัดการเรื่องนี้ด้วย

    ได้ครับท่านทหารคนนั้นเดินออกไป ส่วนนายพลสติฟท์ก็เดินออกไปตามเขาเหมือนกัน

     

    ณ ถนนทางหลวงเส้นหนึ่ง ซึ่งทอดยาวไปยังชายแดนสตาลินกราด ซึ่งพวกของเรซนอร์ฟต้องไปช่วยเหลือในการก่อกบฏที่นั่น เนื่องจากว่าอีกไม่นานกองทัพเยอรมันจะส่งกำลังบุกเข้าไปกวาดล้าง เรซนอร์ฟพากำลังคนของเขาไปบางส่วนเพื่อช่วยเหลือในการกบฏครั้งนี้

    คราวนี้เราจะไม่พลาดแบบคราวที่แล้วๆดาโกวิชพูดขึ้นอย่างมั่นใจ

    ถามหน่อยสิครับ ทำไมศึกครั้งนั้นเราถึงแพ้หล่ะเอลซาร์วินด์ถามดาโกวิชไป

    ตอนแรกเรากำลังจะขับไล่พวกมันออกไปได้แล้ว แต่จู่ๆพวกมันก็มีกองกำลังมาจากไหนก็ไม่รู้โจมตีเรากลับ พวกเราพยายามต้านพวกมันแต่ต้านไม่ไหว มันฆ่าเพื่อนฉันแล้วทิ้งศพเขาไว้ในแม่น้ำโวลก้า มันเกือบจะฆ่าฉันด้วย โชคดีที่คุณเรซนอร์ฟพาฉันหนีไปได้ หลังจากนั้น ธงนาซีก็โบกสะบัดไปทั่วสตาลินกราด จากนั้นก็แทบจะทั้งรัสเซีย สตาลินหนีเอาตัวรอดไป ตอนนี้เขาน่าจะหนีไปเม็กซิโกแล้วหล่ะดาโกวิชเล่าทุกอย่างที่เขาเห็นให้ทุกคนฟัง

    เฮ้อ สตาลินนี่สตาลินจริงๆ พวกฉันตายไปกว่า 100 คนที่สตาลินกราด ฉันไม่ยอมจบแค่นี้แน่ๆเรซนอร์ฟพูดขึ้น

    งานนี้กองพลของเยอรมันได้เผาสตาลินกราดเป็นจุลแน่ๆเอลซาร์วินด์พูดขึ้น

    ก็ว่างั้นแหละ ผมนั้นคงอยากล้างแค้นให้การตายของฮิตเลอร์หน่ะดาโกวิชพูดขึ้น

    ก็คงจะเป็นอย่างงั้นหน่ะเรซนอร์ฟพูดขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน จู่ๆก็มีเครื่องบินทิ้งระเบิดของเยอรมันก็บุกเข้าไปกระหน่ำทิ้งระเบิดใส่เมืองสตาลินกราดอย่างบ้าคลั่ง แม้พวกเขาอยู่ห่างออกไปพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงแรงระเบิดที่มีมากมายมหาศาล

    ถล่มแบบนั้นใครมันจะรอดวะเอลซาร์วินด์ถามอย่างแปลกใจ

    ตอนสตาลินกราดครั้งแรก เราโดนหนักกว่านี้ยังรอดมาได้เลยดาโกวิชพูดขึ้น

    งานนี้พวกเยอรมันคงเทหมดหน้าตักกับเมืองนี้ เราต้องติดต่อกับกองกำลังในพื้นที่ เพื่อเตรียมการตั้งรับพวกมันเรซนอร์ฟพูดขึ้น

    ผมก็ว่างั้น แต่คราวนี้ผมจะไม่แพ้พวกมันแน่ๆดาโกวิชพูดขึ้น

    จัดไปพี่ชาย พี่เอาไงผมก็เอาด้วยหล่ะเอลซาร์วินด์พูดเสริม

    ไม่ต้องห่วง แพ้ชนะจะวัดกันที่ชาวรัสเซียทุกคนนี่หล่ะเรซนอร์ฟพูดขึ้น จากนั้นเขาก็ขับรถไปเรื่อยๆตามเส้นทางเพื่อเข้าเมืองสตาลินกราด

     

    ณ ท่าเรือเมืองเคปทาวน์ แอฟริกาใต้ เรือของมิคาอิลก็มาจอดเทียบท่าเนื่องจากว่าต้องการหาเสบียงและเชื้อเพลิงเพิ่ม หลังจากที่เรือของเขาเข้าถึงท่าเรือสำเร็จ จู่ๆก็มีชายผิวดำคนหนึ่งมารอต้อนรับเขาในทันที โดยที่มิคาอิลก็เดินลงจากเรือไปหาเขาในทันที

    ว่าไงอาบาตู

    ว่าไงคุณมิคาอิล ขอต้อนรับสู่แอฟริกาใต้ครับทั้งคู่เข้าไปกอดกันในทันที

    ได้ข่าวว่าคุณจะไปจีนนี่อาบาตูถามมิคาอิล

    ใช่ๆ ฉันต้องการความช่วยเหลือหน่อย อยากได้เสบียงกับเชื้อเพลิงหน่ะ

    อ้าว คุณไม่ดื่มด้วยกันหน่อยเหรอ

    แน่นอน แต่ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้างหล่ะมิคาอิลถามอาบาตู

    อ้อ ตอนนี้ทัพเรือสเปนกับอิตาลีกำลังเข้ามายังอียิปต์แล้ว กำลังรุกลงมาแอฟริกา ตอนนี้เครื่องบินของพวกมันเต็มไปหมดเลยครับอาบาตูตอบไป

    งั้นเหรอ อยากให้ช่วยอะไรก็บอกได้หล่ะ

    ตอนนี้เราอยากได้อาวุธต่อต้านอากาศยานเพิ่มหน่ะครับ ขอเยอะๆเลยครับ

    ได้ ฉันมีกระสุนปืนต่อสู้อากาศยานอยู่ แล้วนี่เป็นของขวัญให้นาย

    มิคาอิลพาอาบาตูเดินขึ้นไปบนเรือ จากนั้นก็เปิดกล่องๆหนึ่งให้กับอาบาตูดูในทันที แล้วก็พูดกับเขาว่ามันคืออะไร

    มันคือจรวดนำวิถี panzerschreck 75 ของใหม่จากเยอรมัน เพื่อนของฉันเอามาขายให้ ยิงได้ถึงระยะของเครื่องบินทิ้งระเบิด

    หู้ว คุณทำให้ผมอึ้งได้ตลอดเลยนะคุณมิคาอิล

    แน่นอน ผมมีมาเสนอให้คุณ 20 กระบอก มากพอจะสกัดเฮลิคอปเตอร์ของพวกเยอรมันแน่นอน

    ได้เลย คุณอยากได้อะไรก็บอกก็แล้วกัน คุณมิคาอิล

     

    กลับมายังเส้นทางทะเลทราย ที่จะไปซาอุดิอาราเบีย ในตอนนั้นเองขบวนคาราวานของออร์ลินด้าก็เดินทางต่อไปเรื่อยๆ ผ่านทะเลทรายอันร้อนรุ่ม แต่พวกเธอก็ยังคงเดินทางต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็มาเจอกับโอเอซิสแห่งหนึ่ง ซึ่งดูพอจะรองรับของพวกเขาได้ทุกคน พวกเขาก็เดินเข้าไปพักผ่อนและตั้งแคมป์กันที่นั่นในทันที

    เอาหล่ะ พักที่นี่กันก่อนก็แล้วกัน

    กลุ่มของออร์ลินด้าพากันตั้งแคมป์อยู่แถวนั้น บางคนก็ก่อไฟเพื่อปรุงอาหาร บางคนก็นอนพักเนื่องจากว่าเดินทางมานาน และในขณะเดียวกัน จู่ๆมีชายคนหนึ่งขี่ม้าไล่ตามพวกเขามา พวกของออร์ลินด้าเตรียมเล็งปืนจะยิงชายคนนั้น แต่จู่ๆบาโธรี่ก็ยกมือขึ้นเพื่อห้ามทหาร จากนั้นชายคนนั้นก็ลงจากม้า แล้ววิ่งมาหาบาโธรี่

    นี่ของที่คุณต้องการครับ

    ชายคนนั้นยื่นซองเอกสารให้ ส่วนบาโธรี่ก็ยื่นเงินให้กับชายคนนั้น จากคนนั้นได้เงินแล้วขึ้นม้าแล้วรีบขี่ออกไป เธออ่านข้อความในเอกสาร ออร์ลินด้าตกใจแล้วถามเธอในทันที

    มีอะไรหรือเปล่าบาโธรี่

    อ้อ สายข่าวของฉันส่งข่าวมาค่ะ จากทั่วโลกด้วย

    เหรอ มีอะไรบางหล่ะ

    ค่ะ ข่าวแรกตอนนี้ ที่อเมริกา ตอนนี้กลุ่มกบฏอาละวาดหนัก และเริ่มก่อการในเขตปกครองฝ่ายอักษะแล้ว ข่าวที่สอง เม็กซิโกตอนนี้พวกกบฏได้ยึดครองทั้งประเทศเรียบร้อยแล้ว ญี่ปุ่นและเยอรมันเตรียมส่งทหารไปยึดคืน ข่าวที่สาม ที่รัสเซียตอนนี้กำลังถูกจู่โจมอย่างหนัก มีการก่อกบฏที่สตาลินกราด ข่าวที่สี่ ทางการไทยตอนนี้ส่งทหารเข้าบุกฮานอย เพื่อเตรียมยึดกลับมา และข่าวสุดท้าย ตอนนี้นายพลพักจุงฮียึดอำนาจในแมนจูเรียเรียบร้อยแล้ว และกำลังส่งกองกำลังของเขากวาดล้างกบฏช่วยประธานาธิบดีจีนค่ะบาโธรี่บอกไป

    อืม ตอนนี้ทั่วโลกกำลังจะลุกเป็นไฟสินะออร์ลินด้าออกความเห็น

    แสดงว่า พวกอักษะอาจจะไม่รบกันเองก็ได้นะคะ

    ไม่หรอก ถ้าถึงจุดหนึ่ง เขาต้องรบกันแน่ เชื่อฉันสิ

    คุณออร์ลินด้ามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอคะ

    ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยหล่ะ ตอนนี้เราแค่รอเวลา

    เวลาอะไรเหรอคะบาโธรี่ถามอย่างสงสัย

    รอเวลาเอาคืนยังไงล่ะ ตอนนี้เราไปพักผ่อนกันดีกว่านะ

    ออร์ลินด้าพูดขึ้น จากนั้นพวกเธอก็นั่งพักผ่อนกันอย่างสบายใจต่อไป

     

    กลับมายังบริษัทอาคะสึกิ คอปเปอร์เรชั่น หลังจากที่เธอโดนพวกของซาโต้บุกเข้าค้นบริษัท โดยที่พยายามจะแบล็คเมล์เธอ เธอจึงยื่นหนังสือและรวบรวมหลักฐานทุกอย่างเพื่อยื่นฟ้องศาลญี่ปุ่นในแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่รัฐของญี่ปุ่นต้องรับผิดหนักกว่าพลเรือนหลายเท่า ในระหว่างที่เธอกำลังให้ลูกน้องช่วยกันรวบรวมหลักฐาน จู่ๆก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาเธอ ลูกน้องของเธอตรวจสอบสายก็พบว่าสายปลอดภัย เธอจึงรีบไปรับสายในทันที

    อาคะสึกิ คุณปลอดภัยนะ

    อิชิโร่ นี่คุณได้ยังไงกันว่าฉันเป็นยังไง

    ผมมีสายข่าวของผมน่า ผู้กองซาโต้เล่นหนักเลยใช่หรือเปล่า

    ใช่ ตอนนี้ฉันกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อจัดการเขาอยู่ เออนี่ เรื่องของที่คุณกำลังหาเนี่ย ฉันจัดการให้แล้ว กำลังจะส่งไปมองโกเลียแล้วหล่ะอาคะสึกิพูดขึ้น

    ผมจะบอกคุณว่า ผมมาที่แคลิฟอร์เนียแล้ว

    แคลิฟอร์เนีย คุณมาที่นี่ทำไมกัน

    ผมมีธุระนิดหน่อยหน่ะ

    หะ คุณจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ มันไม่ปลอดภัยนะสำหรับคุณ

    ไม่ต้องห่วง คุณก็รู้ผมเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว ทำไม คุณเป็นห่วงผมเหรอ

    บ้า คุณเนี่ย พูดแบบนี้ตลอด

    ผมรู้คุณยังไม่หายโกรธผม แต่ผมจะทำทุกอย่างที่ผมทำได้ก็แล้วกัน

    หมดธุระแล้วใช่หรือเปล่าในตอนนั้นเองอาคะสึกิก็วางสายไป และอีกด้านหนึ่ง ในอพาร์ทเม้นต์ลึกลับ ซึ่งเป็นที่นี่อิชิโร่นั่งโทรศัพท์อยู่

    นายครับ รถพร้อมแล้วครับ

    ดี รีบไปกันเลยดีกว่า

    อิชิโร่รีบเดินออกจากอพาร์ทเม้นต์โดยที่มีลูกน้องของเขานับสิบคอยคุ้มกัน เมื่อเขาขึ้นรถ พวกเขาก็รีบออกจากอพาร์ทเมนต์นั้นในทันที

     

    กลับมายังแคลิฟอร์เนีย หลังจากที่นาโอมิเดินทางมาถึงได้ไม่นาน เธอก็รีบไปยังมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในทันที ในตอนนั้นเอง เธอก็เห็นนักศึกษากำลังรวมตัวคุยอะไรกันบางอย่าง เธอเริ่มจะสงสัยจึงรีบไปถามในทันที

    ขอโทษนะ มีอะไรกันเหรอ

    อ่า มีคนญี่ปุ่นโดนจับเป็นตัวประกันครับ ที่โกดังท่าเรือแคลิฟอร์เนียครับ

    เออนี่ นายรู้จักผู้ชายคนนี้หรือเปล่านาโอมิยื่นรูปของนนท์ให้กับพวกเขาดู

    อ้อ นนท์เหรอครับ ได้ยินว่าเขาไปที่โกดังนั่นกับลินน์รีดด้วย

    ลินน์รีด ใครกันนาโอมิถามอย่างสงสัย

    เพื่อนใหม่นนท์เขาหน่ะครับ

    นาโอมิรีบวิ่งออกมาที่หน้ามหาวิทยาลัย ในตอนนั้นเองเธอก็โบกมือเรียกแท็กซี่แถวนั้น แท็กซี่แถวนั้นก็ผ่านมาคันหนึ่งก็จอดรับนาโอมิในทันที

    โอไฮโยแท็กซี่คนนั้นพูดกับนาโอมิ

    ฉันพูดอังกฤษได้ ช่วยไปส่งฉันที่โกดังท่าเรือแคลิฟอร์เนียหน่อยสิ

    โอ๊ย ที่นั่นโดนตำรวจล้อมอยู่นี่ครับ ผมไปก็โดนจับสิ

    เถอะน่า ฉันให้ 1000 เยน ได้หรือเปล่า

    “1000 เยนเหรอครับ งั้นขึ้นมาเลยครับ

    นาโอมิรีบขึ้นแท็กซี่ไปในทันที ก่อนที่แท็กซี่คันนั้นจะพานาโอมิไปยังโกดังท่าเรือแคลิฟอร์เนียตามที่เธอสั่ง

     

    กลับมายังกรุงเบอร์ลิน ซึ่งรถตำรวจที่อารักขามาเรียน่าพาเธอมายังศูนย์บัญชาการกองทัพ ซึ่งพ่อของเธอกำลังรอเธออยู่ รถคันนั้นค่อยๆขับมาเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาถึงยังศูนย์บัญชาการ พวกเขาก็ส่งมาเรียน่าที่นั่นพร้อมเอากระเป๋ามาให้กับเธอในทันที

    อ่า เรามาส่งแค่นี้นะครับ

    ค่ะ ขอบคุณที่มาส่งนะคะ

    รถตำรวจพวกนั้นขับออกไป โดยที่ทหารในศูนย์บัญชาการก็มารับช่วงในการดูแลมาเรียน่าต่อ พวกเขาแบกกระเป๋าให้กับเธอ แล้วก็พาเธอไปหาพ่อของเธอที่อยู่ในห้องบัญชาการในทันที พวกเขาพาเธอมาที่หน้าห้อง จากนั้นก็เคาะประตูเรียก

    ท่านครับ คุณมาเรียน่ามาถึงแล้วครับ

    จากนั้นไม่นาน ชายคนหนึ่งในชุดนายทหารและมีเหรียญตราติดเสื้อมากมายก็เดินออกมาด้านนอก จากนั้นเขาก็มากอดมาเรียน่าในทันที

    ลูกพ่อ เป็นยังไงบ้าง บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า

    หนูไม่เป็นไรค่ะพ่อ ดีที่พวกเขาช่วยหนูทัน

    นั่นสิ พ่อเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะ แต่ทำยังไงได้หล่ะ ตอนนี้ทุกอย่างมันเกินจะควบคุมแล้ว

    พ่อคะ มีกลุ่มต่อต้านยังเคลื่อนไหวในเยอรมันนะคะ

    พ่อรู้ ตอนนี้พ่อกำลังดำเนินการอยู่หน่ะ

    ตั้งแต่เกิดเรื่อง คุณพ่อได้พักบ้างหรือยังคะ มาเรียน่าถามด้วยความเป็นห่วง

    ก็พักบ้างแล้วหล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก ว่าแต่ลูกเดินทางเป็นยังไงบ้างหล่ะ

    เฮ้อ อย่างกะสงครามเลยค่ะ

    พ่อเข้าใจ ลูกไปพักผ่อนที่บ้านเราก่อนดีกว่า พ่อจะให้คนไปส่งนะ

    แล้วพ่อหล่ะคะ มาเรียน่าถามไป

    พ่อมีงานนิดหน่อยหน่ะ เทราน์ ไปส่งลูกสาวฉันที เขาสั่งลูกน้องของเขาให้พามาเรียน่าไปขึ้นรถของเธอด้านนอก จากนั้นคนของเขาก็คอยคุ้มกันมาเรียน่าเพื่อกลับบ้านของเธอในทันที

     

    กลับมายังท่าเรือแคลิฟอร์เนีย โกดังแห่งหนึ่ง ซึ่งด้านในเต็มไปด้วยบรรดาเชลยญี่ปุ่นและชาวเอเชียหลายครอบครัวซึ่งถูกจับไว้ ในตอนนี้ครอบครัวชาวเอเชียกว่าหลายชีวิตยังไม่รู้ว่าใครจะมาช่วยพวกเขา และกลุ่มกบฏยังคงคุมตัวพวกเขาไว้อย่างแข็งขัน

    เฮ้ย ปารีสจะกลับมาเมื่อไหร่วะ ชายคนหนึ่งใส่หน้ากากปิดหน้าถามเพื่อนของเขา

    เดี๋ยวก็คงมานั่นแหละ ใจเย็นสิวะ

    บ้าเอ้ย บอกให้พวกเราพาพวกมันมาที่นี่ แล้วยังไงต่อหล่ะ

    นี่แกอย่าบ่นได้หรือเปล่าวะ

    และที่ด้านนอกอีกด้านหนึ่ง พวกของนนท์ก็มาถึงเขตโกดังโดยที่พวกเขาพยายามหลบหลีกจากตำรวจที่มาคอยอารักขาความปลอดภัยในพื้นที่ โดยที่นาและพรรคพวกของเขาก็เล่นงานกลุ่มกบฏแล้ววางร่างพวกเขาไว้แถวนั้น โดยที่พวกเขาพยายามจะไม่ฆ่าใครเนื่องจากลินน์รีดขอเอาไว้ เมื่อมาถึงโกดังแห่งหนึ่ง พวกเขาก็ปรึกษษกันในทันทีว่าจะทำอย่างไรต่อไป

    ในโกดังนี้น่าจะจับคนเอเชียเอาไว้นะ อลาวดี้พูดขึ้น

    ถ้าอย่างงั้นเราต้องรีบไปช่วยพวกเขานะ ซานะพูดขึ้น แต่ลินน์รีดปรามไว้ก่อน

    ใจเย็นสิ พวกที่ล้อมที่นี่มีเยอะนะ เราต้องอย่าให้พวกเขารู้ตัว ฉันจะจัดการกับพวกเขาเอง

    ถ้างั้นเราจะเล่นกันแบบนี้นะ ลินน์รีด อลาวดี้ พวกนายสองคนไปจัดการกับยาม ส่วนฉันกับคนที่เหลือจะพยายามไปช่วยพวกเขาเอง นนท์ออกความคิดเห็นไป

    ได้อย่างงั้นก็อย่าเสียเวลาเลย ไปกันเลยดีกว่า

    ฟรองเกอร์พูดเสริม จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันไปช่วยเหลือตัวประกันที่ยังอยู่ด้านในอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะเกิดอะไรรุนแรงขึ้นต่อไป

    ===================================================================================

    พวกของนนท์จะช่วยตัวประกันและแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ และเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig?view_as=subscriber ซับแนลผมด้วยเน้อ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×