ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My War - สงครามที่ไม่ได้เลือก

    ลำดับตอนที่ #13 : EP 8 : สุขสันต์วันปีใหม่ (มีเรื่องจะแจ้งให้ทุกคนทราบ)

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 62


    กลุ่มของตะวันรีบเดินทางกลับมายังที่พักของพวกเขา ก่อนที่จะมืดค่ำซะก่อน พวกเขาเดินทางมาเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงที่พักของพวกเขา จากนั้นพวกเขาก็เคาะประตูเป็นสัญญาณให้ทุกคนได้รู้แล้วเข้าไปด้านในทันที

    นอร์รีน : อ้าว ทุกคนกลับมาแล้ว เป็นยังไงกันบ้างหล่ะ // พวกเขาไม่พูดอะไรก่อนที่จะผ่านนอร์รีนไปเฉยๆ

    บารีร่า : นี่พวกพี่ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ ทำไมดูเงียบๆจัง

    ซีโร่ : ไปครั้งนี้เหมือนจะเสียเที่ยวเปล่าๆเลยหน่ะ

    อนูวา : ทำไมหล่ะ เกิดอะไรขึ้นที่เครื่องบินนั้นหล่ะ

    ตะวัน : ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เราได้เสบียงมาด้วยหน่ะ

    ยูจีน : แต่พวกนั้นเอาส่วนแบ่งของเราไปตั้งเยอะ โคตรเจ็บใจเลย

    ซิลเวีย : ใจเย็นๆสิ อย่าเพิ่งใจร้อนไปสิยูจีน

    อลัน : ผมขอโทษด้วยที่พาทุกคนมาเสี่ยงด้วยกับผมหน่ะ

    มิเชล : อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ ดูๆไปเสบียงเราก็ได้มาพอสมควรอยู่นะ

    เอสเทอร์ : แต่เท่าที่ดู มันมีพอให้พวกเราสำหรับวันเดียวนะ แล้วพรุ่งนี้จะเอายังไงต่อหล่ะ

    โทนี่ : พรุ่งนี้เราก็แค่ออกไปหาของต่อสิ ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากเลย

    ซีโร่ : พี่อลิซครับ ผมมีนี่มาให้พี่ด้วย // ซีโร่ยื่นมีดพับสวิสสารพัดประโยชน์ที่จิ๊กมาได้ให้กับอลิซ

    อลิซ : โห เยี่ยมมาก ถ้าแบบนี้คงจะทำอะไรดีๆได้เยอะเลยหล่ะ

    มิสซึ : ใช่ๆ ตอนนี้เรามีทั้งที่กรองน้ำ ที่ประกอบอาวุธ แล้วเรากำลังจะสร้างแปลงผักชั่วคราวด้วย

    เอจิ : ฉันว่า น่าจะสร้างกับดักสัตว์เล็กๆแถวนี้นะ ฉันเห็นมันวิ่งรอบๆที่พักเราด้วย

    ไลฟ์ : มีแต่หนูทั้งนั้น ฉันไม่ยอมกินมันหรอกนะเอจิ

    นอร์รีน : ไหนๆคืนนี้เราก็ไม่ต้องออกไปหาอาหาร เราก็พักผ่อนให้เต็มที่ในคืนนี้ดีกว่านะครับ

    มิเชล : จริงด้วย นี่เป็นช่วงปีใหม่ด้วย พรุ่งนี้ก็ปีใหม่แล้ว

    จากนั้นไม่นาน พวกเขาก็แยกย้ายไปพักผ่อนที่ต่างๆ ในคืนนี้พวกเขาคิดว่าพวกเขาจะพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ก่อนที่พรุ่งนี้จะต้องเผชิญชีวิตต่อ

     

    ทางด้านของหน่วยดอว์นซอร์ด หลังจากที่พวกเขาทำภารกิจสำเร็จ พวกเขาก็รีบกลับออกมาจากเขตของฝ่ายกบฏ ก่อนที่กลุ่มของพวกเขาจะถูกตามล่า ในขณะที่พวกเขาหนีออกมาได้ ก็มีสัญญาณวิทยุดังมาจากเครื่องของพวกเขา

    หน่วยเหนือเรียกดอว์นซอร์ด เปลี่ยน

    อเล็กซานเดอร์ : นี่ดอว์นซอร์ดรับทราบ เปลี่ยน ภารกิจสำเร็จ

    ว่าแต่พวกนายเจอของที่อยู่ในนั้นหรือเปล่า เปลี่ยน

    ซิลเวสเตอร์ : เราระเบิดเครื่องบินจนไม่เหลือซาก คงไม่เจออะไรหรอก

    ดีมาก คราวนี้พวกนายกลับมาได้ เลิกกันจากนั้นสัญญาณก็หายไป

    คาสเตอร์ : เสียดายหว่ะ ไม่ได้ยิงกับพวกแม่งแบบมันส์ๆเลยเนี่ย

    อีริค : อยากมันส์หรือเปล่าหล่ะเพื่อน กลับไปเขตพวกกบฏสิแหม่

    เควิน : ว่าแต่ ทำไมทางหน่วยเหนือถึงถามเรื่องนี้หล่ะ

    อเล็กซ่า : ช่างมันเถอะ ไม่น่าสำคัญอะไรหรอก ว่าแต่พรุ่งนี้ก็ปีใหม่แล้วนี่

    คาสเตอร์ : จริงด้วย หัวหน้า ไหนๆก็จะปีใหม่แล้ว คืนนี้เราขอดื่มหน่อยนะครับ

    อีริค : นั่นสิครับหัวหน้า ผมไม่ได้ดื่มอะไรมานานแล้ว

    อเล็กซานเดอร์ : ได้สิ ฉันเองก็อยากผ่อนคลายอยู่เหมือนกัน

    ซิลเวสเตอร์ : ว่าแต่พวกนายมีอะไรดื่มกันแล้วอย่างงั้นเหรอ

    เควิน : ผมไปจิ๊กเหล้าจากพวกบฏมาได้ น่าจะพอแบ่งพวกเรานะครับ

    อเล็กซ่า : ใครจะกินก็กินไปนะ ฉันขอนอน ไม่ไหวหล่ะ

    จากนั้นพวกเขาก็เดินทางหาที่ปลอดภัยสำหรับพักผ่อนในคืนพิเศษคืนนี้

     

    บนเครื่อง C-130 สัญชาติไทย หลังจากที่เครื่องแล่นมาใกล้จะถึงจุดกระโดดร่ม หน่วยรบพิเศษไทยก็รีบให้สัญญาณกับคนอื่นๆ เพื่อเตรียมการโดดร่มทันที

    อีก 3 นาทีจะถึงเป้าหมายลูกเรือในนั้นตะโกนบอกพวกเขา

    เอาหล่ะทุกคน พอผมให้สัญญาณ กระโดดได้เลยนะครับ

    เมื่อเครื่องบินแล่นไปได้ซักพัก ลูกเรือก็ให้สัญญาณโดดร่มในทันที

    เอาหล่ะ ไปๆๆๆ

    พวกเขากระโดดร่มกันทีละคน ไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงคนสุดท้าย จากนั้นเองเครื่องบินก็หันหัวเลี้ยงกลับไปยังทางเดิมที่จากมา หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็ลงมาถึงพื้นอย่างปลอดภัย

    อรุณ : เอาหล่ะทุกคน ปลอดภัยกันนะ

    เดชา : ครับหัวหน้า ตอนนี้เราจะเอายังไงต่อครับ

    เจตนา : นี่พวก เอาแผนที่มาดูได้หรือเปล่า ตอนนี้เราอยู่ไหน

    เนตรหยิบอุปกรณ์แผนที่ของเขามาดู จากนั้นก็ดูว่ากลุ่มเขาอยู่ที่ไหน

    เนตร : เอาหล่ะ ตอนนี้เราอยู่ตรงนี้ เป้าหมายของเราอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลหน่ะ

    จินตโล : 10 กิโลงั้นเหรอ เดินกันไกลเลยสิงานนี้

    เดชา : จะกลัวอะไรหล่ะ เดินไปแป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว

    อรุณ : เอาหล่ะ ฉันว่าเราต้องรีบออกไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า ไม่งั้นพวกมันอาจจะตามเรามา

    เจตนา : เห็นด้วยครับหัวหน้า ผมก็ชักเสียวๆหลังอยู่เนี่ย

    จินตโล : เนตร นายรีบไปสำรวจด้านหน้าก่อน ดูว่าปลอดภัยหรือเปล่า

    เนตร : ได้เลย เดี๋ยวฉันจะรีบมา // เนตรรีบวิ่งไปตรวจสอบเส้นทางด้านหน้า จากนั้นก็ให้สัญญาณทุกคนตามเขามา

     

    กลับมายังเขตเมืองโซราติก เร็นและเอ็ดเวิร์ดก็เดินทางต่อเรื่อยๆ เพื่อที่จะหาความช่วยเหลือหรือของเพิ่มเติม เผื่อว่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือมาบ้าง แต่พวกเขาทั้งคู่ก็ยังไม่ยอมละทิ้งภารกิจของเขาไป พวกเขาเดินเข้าไปในเมืองเรื่อยๆโดยที่พวกเขาทั้งคู่ก็ปรึกษากันถึงเรื่องนี้

    เร็น : เฮ้อ เมื่อไหร่จะได้ไปทำงานของฉันซะทีเนี่ย

    เอ็ดเวิร์ด : เอาน่า ยังไงนายก็ได้ทำงานอยู่แล้วหล่ะ

    ในขณะเดียวกัน ก็มีชายสามคนเดินพร้อมอาวุธเดินเข้ามาหาพวกเขา เพื่อทำการตรวจค้นหาอาวุธหรือของอันตรายจากพวกเขา

    เฮ้ย พวกแกเป็นใครกันวะ

    เอ็ดเวิร์ด : นี่ฉันเอง เอ็ดเวิร์ด จำฉันไม่ได้เหรอ

    อ้าว เอ็ดเวิร์ด นายเองเหรอ ว่าแต่นายมากับใครวะ

    เร็น : อ้อ ฉันเป็นเพื่อนเขาหน่ะ พวกนายพาฉันสองคนไปค่ายของพวกนายหน่อยได้หรือเปล่า

    พวกเขาสามคนพาเร็นและเอ็ดเวิร์ดเดินทางไปยังตึกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่หลบภัยของเหล่ากบฏทั้งหลาย พวกเขาเห็นสภาพด้านในซึ่งไม่ค่อยจะน่าอภิรมณ์เท่าไหร่ รอบข้างมีแต่คนบาดเจ็บและคนหิวโซที่กำลังรออาหารอยู่ สามคนนั้นให้เร็นกับเอ็ดเวิร์ดนั่งท่ามกลางผู้คนเหล่านั้น

    ว่าแต่ แกมาแถวนี้ต้องการอะไร เอ็ดเวิร์ด

    เอ็ดเวิร์ด : ฉันต้องการกระสุนหน่อยหน่ะ อาจจะต้องใช้เยอะเลยหล่ะ

    ว่าแต่ นายจะไม่ดื่มกับพวกเราก่อนเหรอ

    เร็น : อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ พวกฉันไม่มีเวลาเท่าไหร่หน่ะ

    เฮ้พวก ฉันไม่ได้พูดกับนายซะหน่อย

    ว่าแต่เอ็ดเวิร์ด นายจะเอากระสุนพวกนี้ไปทำอะไรวะ

    เอ็ดเวิร์ด : ฉันมีงานต้องทำหน่อยหน่ะ ไว้กลับมาได้ฉันมาบอกแล้วกัน

    ท่าทางจะงานใหญ่นะเนี่ย ไปเอากระสุนให้เขาหน่อยสิจากนั้นชายคนหนึ่งเดินเข้าไปยังห้องเก็บอาวุธ แล้วก็เอามาให้เอ็ดเวิร์ดกับเร็น เพื่อเช็คว่ากระสุนพวกนั้นมีพอหรือเปล่า

    หวังว่าคงจะพอสำหรับพวกนายนะ

    เร็น : ก็คงจะพอแล้วหล่ะ เพราะงานนี้สำหรับฉันคงไม่ต้องใช้เยอะหรอก // เร็นพูดพลางใส่กระสุนลงในแม็คกาซีน แล้วก็เก็บแม็คกาซีนพวกนั้นเข้าไปในกระเป๋าของเขา

     

    ณ เขตเครื่องบินตก หลังจากที่ฮาน่าและเทเรซ่าได้เสบียงกลับมา พวกเธอก็ดีใจกันมากเนื่องจากว่าเสบียงพวกนี้พอจะเลี้ยงดูพวกกลุ่มกบฏได้ไปอีกซักพัก พวกเขารีบคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในทันที

    ฮาน่า : ดูสิ เสบียงพวกนี้น่าจะช่วยคนของเราได้ไปอีกซักพักเลยนะ

    ลูลู่ : ว่าแต่ พวกที่เราเจอวันนี้จะเป็นยังไงบ้างเนี่ย

    เดม่อน : น่าจะตะบันหน้าไอ้เด็กเวรนั้นให้ฟันร่วงเลยเนี่ย

    เทเรซ่า : ดีแล้ว อาจจะเป็นเธอก็ได้นะที่จะฟันร่วงหน่ะ

    เดม่อน : ไม่มีทางหรอก บอกได้เลย ไม่เคยเจอเด็กเวรแบบนั้นมาก่อนเลย

    ฮาน่า : นี่ เดม่อน นายไม่ควรไปพูดแรงกับพวกเขาแบบนั้นนะ

    ลูลู่ : เธอจะสนอะไรหล่ะ ไม่เห็นต้องแคร์อะไรเลย เอ๊ะ หรือว่าเธอจะแคร์

    เทเรซ่า : นี่ ลูลู่ อย่าหาเรื่องกันดีกว่าน่า

    ฮาน่า : ถ้าฉันจะแคร์เธอจะทำอะไรได้หล่ะ ที่พวกเขาพูดก็ถูกแล้วหล่ะ

    เดม่อน : แหม่ ท่าทางเธอจะชอบคนในกลุ่มนั้นนะฮาน่า

    เทเรซ่า : นี่ พอได้แล้วพวกนายเนี่ย ไหนๆก็ได้ของมาแล้ว รีบกลับบ้านกันดีกว่า

    ลูลู่ : ก็ดีเหมือนกัน วันนี้วันสิ้นปีซะด้วย เผื่อจะได้ฉลองกัน

    และมาที่ฐานลับของกลุ่มกบฏในตึกแห่งหนึ่ง เทโจกับพรรคพวกกำลังตรวจสอบความเสียหายที่พวกเขาถูกโจมตีมา ซึ่งความเสียหายที่เขาเจอแทบจะหนักหนาสำหรับเขา เนื่องจากเขาเสียคนไปมากมาย

    เทโจ : เราเสียคนของเราไปเท่าไหร่หล่ะ

    ตอนนี้ที่นับได้ มีประมาณยี่สิบคนครับ

    เทโจ : พวกเขาที่ตาย ล้วนแต่เป็นสหายของฉัน พวกนายรู้ใช่หรือเปล่า

    รู้ครับ แต่ว่ากลุ่มของเราส่วนใหญ่ก็ยังพอสู้ได้ครับ

    เทโจ : ฉันรู้ แต่ฉันแค่ไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว

    ในขณะเดียวกัน มีชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงานข่าวกับเทโจ

    เทโจ มีชาวบ้านหนีมาอยู่กับเราอีกนับสิบคนเลย

    เทโจ : แล้วพวกเขาเป็นยังไงกันบ้าง บาดเจ็บกันหรือเปล่า

    ดูท่าทางจะหิวโซมากเลยครับ แต่ว่า มีกลุ่มผู้หญิงมาด้วยนะครับ

    เทโจ : เฮ้อ ความจริงเราไม่รับผู้หญิงนะถ้ารบไม่ได้ แต่พาพวกเขาเข้ามาก่อน จากนั้นค่อยส่งต่อไปยังเขตปลอดภัย

    ได้เลยครับ  ลูกน้องของเขารีบพาชาวบ้านพวกนั้นเข้ามาในที่มั่นของพวกเขาทันที

     

    อีกฝากหนึ่งของเมือง หลังจากที่สตอร์มหนีมาจากพวกกินคนได้ เขาก็เดินทางต่อไปเรื่อยๆพร้อมกับนกเหยี่ยวของเขา เขาเดินเท้ามาเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางข้างหน้าของเขาจะต้องเจอกับอะไร

    เฮ้อ มีแต่นายเท่านั้นแหละที่เป็นเพื่อนฉัน ว่ามั้ยบูลเขาพูดกับนกเหยี่ยวของเขา ในขณะเดียวกัน เขาก็มาเจออพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง เขาไม่รอช้าที่จะเข้าไปในนั้นทันที

    ขอให้มีอะไรให้กินด้วยเถอะนะ

    สตอร์มเปิดประตูเข้าไปด้านใน แต่ประตูมันล็อคมาจากด้านนอก เขาถอดใจคิดว่าคงจะเข้าไปไม่ได้แล้ว แต่ในตอนนั้นเอง ก็มีคนมาเปิดประตูรับเขา ซึ่งเป็นคนคุ้นเคยมากๆ

    พี่สตอร์ม

    สตอร์ม : ไลฟ์ พี่อลัน ทุกคนยังไม่ตายเหรอครับ // ทั้งสามคนรีบเข้ามากอดกัน

    อลัน : ดีใจด้วยนะที่เห็นแกยังไม่ตาย

    ไลฟ์ : แต่พี่ดูเหมือนไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะคะ

    สตอร์ม : ฉันเพิ่งไปเจอเรื่องแย่ๆมา แต่ช่างมันเถอะนะ

    อลัน : ทำไมหล่ะ นายไปเจออะไรมางั้นเหรอ

    สตอร์ม : อย่าให้เล่าเลยพี่ เรื่องมันเศร้าหน่ะ

    ในขณะเดียวกัน นอร์รีนที่เพิ่งจะลงมาด้านล่าง ก็เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

    นอร์รีน : ทุกคนครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ

    ไลฟ์ : คุณนอร์รีนคะ นี่พี่ชายฉันเองค่ะ

    นอร์รีน : ครับ ดีจังเลยที่ได้เจอกัน เข้ามาข้างในก่อนดีกว่านะครับ

    อลัน : เข้ามาข้างในก่อนสิ มีอะไรให้นายกินด้วย

    ทั้งสามพี่น้องรีบเข้ามาด้านในทันที ก่อนที่จะมีใครสังเกตเห็นพวกเขา

     

    ที่โกดังเก็บสินค้าของมาร์ค ในตอนนั้นเองมาร์คกำลังเมาอย่างเต็มที่ หลังจากที่เขาสร่างได้ไม่นาน ลูกน้องของเขาก็รีบมาบอกข่าวกับเขาในทันที

    นายครับ มีข่าวมาบอกครับ

    มาร์ค : มีอะไร รีบๆบอกมาสิ

    เครื่องบินที่ตกตอนนี้ โดนระเบิดทิ้งไปแล้วครับ

    มาร์ค : ห่ะ แล้วพวกแกได้เอาเสบียงออกมาหรือเปล่า

    เราเอาออกมาไม่ทันครับนาย

    มาร์ค : ห่ะ นี่มันบ้าอะไรกัน ไม่ได้เรื่องกันเลยพวกแกเนี่ย

    แล้วก็มีอีกข่าวหนึ่งครับนาย

    มาร์ค : มีอะไร แค่นี้ยังแย่ไม่พออีกเหรอ

    คนของเราไปเจอมาครับ มีคนมาขายของเถื่อนให้ชาวบ้านแข่งกับเราครับ

    มาร์ค : ห่ะ นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย โธ่เว้ย

    จะเอายังไงต่อดีครับนาย

    มาร์ค : สืบให้รู้ ว่าพวกนั้นเป็นใคร พยายามตัดกำลังพวกนั้นทุกทาง ขโมยของมันได้เลยยิ่งดี // เขาพูดพลางซัดเหล้าเข้าไปอีกหนึ่งเป๊ก

    อีกด้านหนึ่งของเมือง ในตอนนั้นเองเวร่าก็เข้ามาคุมการขายของเถื่อนในเมือง เธอขายของให้กับรัฐบาล ฝ่ายกบฏและชาวบ้านทั่วไป กิจการของเธอดูเหมือนจะเฟื่องฟูมาก แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีทหารนายหนึ่งมารายงานเธอในทันทีในเรื่องที่เขาได้ยินมา

    ท่านครับ

    เวร่า : มีอะไร ฉันกำลังเช็คเงินที่ได้อยู่

    สายข่าวของเราสืบมาได้ครับ มีคนขายของเถื่อนแข่งกับเราด้วยครับ

    เวร่า : ห่ะ งั้นเหรอ พอรู้มั้ยว่าพวกมันเป็นใคร

    เราไม่ทราบรับ แต่ตอนนี้เรารู้รังของพวกมันแล้วครับ

    เวร่า : งั้นเหรอ ดี ฉันจะไปเจอหน้ามันซะหน่อย อยากรู้ว่ามันจะเป็นใคร

    ได้ครับท่าน แล้วจะให้เราเอาคนไปเยอะหรือเปล่าครับ

    เวร่า : ไม่ต้องเยอะหรอก ต้องไปแบบไม่ให้มันรู้ตัวหน่ะ

    ครับ ตอนนี้ทหารฝ่ายรัฐบาลกำลังขาดแคลนเหล้าและกระสุนอยู่ครับ

    เวร่า : ได้เลย เราจะขายให้มันในราคางามๆ ส่วนตอนนี้ฉันขอไปเจอหน้าคู่แข่งของฉันก่อนก็แล้วกัน

    ได้ครับ ผมจะเตรียมรถให้นะครับ

     

    กลับมาในเมือง ซึ่งเป็นจัตุรัสใจกลางเมือง มีชาวบ้านผู้น่าสงสารเดินกันเต็มถนน บ้างก็มาขอทาน ข้างก็มาขายสมบัติแลกกับของกิน บางคนถึงขั้นขายลูกของตัวเองราวกับว่าลูกของพวกเขาเป็นหมูเป็นหมา ในตอนนั้นอันนาตั้งแผงขายองุ่นของเธอ ชาวบ้านมาขอซื้อแลกกับสมบัติทุกชนิด ซึ่งเธอก็ขายให้ในราคาที่ค่อนข้างเป็นธรรมสำหรับพวกเขา แต่เธอก็พยายามถามชาวบ้านเรื่องของลูกตัวเองที่หายไป แต่ก็ไม่มีชาวบ้านคนไหนรู้เลย ทำเอาเธอแทบจะคอตก

    ในตอนนั้นเอง เธอเห็นแม่คนหนึ่งพยายามอุ้มทารกเอามาให้เธอ อันนาสงสัยจึงถามหญิงคนนั้นไป

    อันนา : สวัสดีค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ

    ฉันเอาลูกมาขายให้คุณค่ะ ขออะไรให้เรากินหน่อย

    อันนา : นี่คุณ จะขายลูกจริงๆเหรอคะ

    ฉันอดมาหลายวันแล้ว ฉันคงไม่มีนมให้ลูกกินหน่ะค่ะ

    อันนา : เดี๋ยวแป๊ปนึงนะคะ // อันนาให้องุ่นและขนมปังจำนวนหนึ่งกับเธอ

    อันนา : ฉันให้ฟรีค่ะ แต่อย่าคิดขายลูกตัวเองอีกเลยนะคะ มันทรมานนะคะ ที่มาเสียลูกไปเพราะเรื่องแค่นี้หน่ะค่ะ

    ขอบคุณมากๆเลยนะคะ

    อันนา : ว่าแต่ คุณเคยเห็นเด็กคนนี้หรือเปล่าคะ // อันนายื่นรูปลูกชายของเธอให้นางดู

    เหมือนฉันจะเคยเห็นนะคะ

    อันนา : จริงหรือเปล่าคะ ช่วยบอกฉันหน่อยนะคะว่าเขาอยู่ที่ไหน

    เหมือนว่าเขาจะอยู่ในเขตของฝ่ายกบฏนะคะ

    อันนา : จริงเหรอคะ คุณพอจะรู้หรือเปล่าว่ามันอยู่ที่ไหน

    อยู่ทางด้านนั้น ขับรถไปประมาณ 1 กิโลก็น่าจะถึงหน่ะค่ะ

    อันนา : ขอบคุณมากๆเลยนะคะ

    อันนารีบเก็บของขึ้นรถ จากนั้นก็รีบไปตามที่หญิงคนนั้นบอกทาง

    และไม่ห่างกันจากตรงนั้น มีหญิงสาวคนหนึ่งในชุดที่ดูไม่ค่อยจะเข้ากับชาวเมืองซักเท่าไหร่ เธอพยายามเดินขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง ในตอนนั้นเองเธอเดินไปชนกับหญิงแก่คนหนึ่ง หญิงแก่คนนั้นล้ม เธอรีบช่วยดึงหญิงคนนั้นขึ้นมาในทันที

    เป็นอะไรหรือเปล่าคะคุณยาย

    ขอบใจมากจ้ะ ว่าแต่หนูเป็นใครกันงั้นเหรอ

    หนูชื่อชินเฮ หนูเป็นชาวเกาหลี เป็นนักร้องมาร้องเพลงที่นี่หน่ะค่ะ

    งั้นเหรอจ๊ะ แล้วหนูกำลังมองหาอะไรอยู่หล่ะหญิงแก่คนนั้นถามอย่างซื่อๆ

    หนูพลัดหลงกับเพื่อนหน่ะค่ะ หนูพยายามตามหาแต่ไม่พบเลยค่ะ

    ขอโทษทีจ้ะหลาน ยายก็ไม่รู้เหมือนกัน

    จากนั้นเอา จู่ๆก็มีคนตะโกนมาแต่ไกล

    พวกมันยิงมาแล้ว รีบหาที่หลบเร็ว

    ลูกปืนใหญ่ที่ฝ่ายรัฐบาลยิง ตกใส่ประชาชนแถวนั้น ชาวบ้านรวมทั้งตัวชินเฮก็ต่างหาที่หลบกันให้วุ่น เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว จากนั้นไม่นานมันก็สงบลง ชินเฮเดินออกมาจากที่กำบัง แต่คุณยายที่เธอช่วยไว้กลับโดนระเบิดตายคาที่ ทำเอาเธอถึงกับร้องไห้ออกมา

    นี่มันอะไรกันเนี่ย ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเธอคิดในใจจากนั้นก็ร้องไห้ออกมาไม่หยุด

     

    อีกฝากหนึ่งของเมือง ในเขตของชาวบ้านที่เก็บตุนเสบียงอาหารเอาไว้เพื่อประทังชีวิตของพวกเขา ซึ่งเหตุการณ์ดูเหมือนจะเป็นปกติ แต่ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงดังจากชาวบ้านตะโกนมา

    ช่วยด้วย มีขโมยขึ้นบ้าน

    เมื่อชาวบ้านคนอื่นได้ยิน พวกเขารีบหยิบทั้งปืนและอาวุธอื่นที่พอจะหาได้ ออกตามล่าขโมยในทันที พวกเขาโกรธมากราวกับจะฆ่าคนขโมยคนนั้นให้ตายคามือ ในขณะที่ขโมยคนนั้นรีบวิ่งออกไปที่อื่นโดยที่ในปากยังเคี้ยวขนมปังอยู่

    ไอ้บ้าเอ้ย แม่งหนีไปได้อีกแล้ว

    คอยดูเถอะ ถ้าคราวหน้ามันมา จะยิงมันให้ไส้แตกเลย

    ชายคนนั้นโล่งใจ ดูเหมือนว่าจะเขาจะปลอดภัยแล้ว เขาจึงนั่งถอนหายใจอยู่แถวนั้น พลางหยิบน้ำที่เขาขโมยมาได้ขึ้นมาดื่มด้วย

    เกือบตายแล้วมั้ยหล่ะซีวิลเอ้ยเขาชื่อ ซีวิล มาเจลต้า คนตกงานที่ตอนนี้มีชีวิตราวกับคนจรจัด หลังจากที่มีสงครามกลางเมืองชีวิตเขาก็ยิ่งตกต่ำลงไปอีก เขานั่งกินขนมปังพลางคิดถึงเรื่องเก่าๆ วันที่ชีวิตของเขาตกต่ำลงมาถึงทุกวันนี้

    ผมไล่คุณออก

    แม่ครับ แม่อย่าตายนะครับแม่

    คนเฮงซวยอย่างแก เป็นได้แค่สวะจนวันตายแหละวะ

    คำพูดพวกนี้เข้ามาในหัวเขา ในตอนเด็กเขาผ่านอะไรมาเยอะ ทำให้เขากลายเป็นพวกที่เห็นแก่ตัว ชอบเอาตัวรอดเสมอ ทำไงได้ โลกมันโหดร้าย แต่ฉันต้องไม่ตายสิวะ

    หลังจากที่เขากินอะไรเสร็จ เขาก็ออกเดินทางต่อไปเรื่อยๆ เผื่อว่าทางข้างหน้าจะมีอะไรให้เขาเสี่ยงโชคบ้า เขาคิดอยู่อย่างเดียวว่า จะทำยังไงให้ตัวเองมีชีวิตรอดต่อไปอีกวัน

     

    กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ค่ำคืนปีใหม่เป็นไปอย่างเรียบง่าย มิสซึทำอาหารที่คิดว่าน่าจะอร่อยที่สุดให้ทุกคนทาน ทุกคนก็กินกันอย่างเต็มที่ และก็นั่งกินด้วยกันจนสนิทสนมกัน มองภายนอกดูราวกับว่าเป็นครอบครัวใหญ่ก็ไม่ปาน พวกเขานั่งคุยกันซักพัก จากนั้นก็แยกย้ายกันไปนั่งบนดาดฟ้าแต่ละคู่ เพราะว่าปีใหม่จะต้องมีดอกไม้ไฟที่ประเทศของเขาทุกครั้ง ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะมีแต่จรวดที่ลอยอยู่บนฟ้าก็ตาม ก็ยังมีการจุดดอกไม้ไฟเพื่อเฉลิมฉลองอย่างสนุกสนาน ในตอนนั้นเองนอร์รีนเกิดเหนื่อยและลงไปที่ห้องของเขา มิเชลจึงตามไปดูด้วยความเป็นห่วง

    มิเชล : นอร์รีนจ๊ะ มีอะไรหรือเปล่าอ่ะ

    นอร์รีน : ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่มานั่งหลบมุมเฉยๆหน่ะ

    มิเชล : งั้นเหรอ ปีใหม่ปีนี้เธอว่าเป็นยังไงหล่ะ

    นอร์รีน : ก็โอเคนะ ถ้าไม่ติดเรื่องสงครามนี่จะดีมากเลยหล่ะ

    มิเชล : เออนี่ ฉันถามอะไรหน่อย ฉันเจอไอ้นี่ใต้เตียงเธอ หมายความว่าไงอ่ะ // มันคือถุงยางที่ยังไม่หมดอายุชิ้นหนึ่ง ทำเอานอร์รีนตกใจมาก

    นอร์รีน : เออ ไม่ใช่ของฉันนะ คือ….

    มิเชล : ไม่ต้องอายหรอก ยังไม่หมดอายุด้วย ไหนๆเราก็อยู่ด้วยกันแล้ว ทำไมเราไม่….

    นอร์รีน : จะดีเหรอ เธอไม่โกรธฉันเหรอมิเชล

    มิเชล : ไม่หรอก ก็เราเป็นคนรักกันนี่นะ ถ้าไม่ทำสิแปลก // มิเชลเขยิบเข้ามาใกล้นอร์รีนจากนั้นก็ถอดเสื้อของเธอออก นอร์รีนก็ถอดเสื้อตาม จากนั้นเขาก็บรรเลงรักกับมิเชลบนเตียงทั้งคืน

     

    ทางด้านคู่ของยูจีนและซิลเวีย ทั้งคู่นั่งดูดอกไม้ไฟด้วยกัน จากนั้นยูจีนก็กอดซิลเวียไว้ท่ามกลางสายลมอันหนาวเหน็บ

    ยูจีน : ดอกไม้ไฟปีนี้สวยดีนะ

    ซิลเวีย : ที่เธอเห็นหน่ะมันจรวด ของจริงอยู่ตรงนั้นหน่ะ // เธอชี้ไปอีกด้านหนึ่ง

    ยูจีน : นั่นสิ ทำไมสงครามต้องเกิดที่นี่ด้วยเนี่ย

    ซิลเวีย : เราเลือกได้ที่ไหนหล่ะ แต่ยังไงก็ยังดีนะที่เราได้อยู่ด้วยกัน // จากนั้นทั้งคู่ก็จูบกันอย่างหวานชื่น

    ยูจีน : สิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้ คือฉันมีเธออยู่กับฉัน

    ซิลเวีย : ขอบใจนะยูจีน ปีใหม่ปีนี้ฉันไม่ต้องการอะไรแล้วหล่ะ

     

    ทางด้านคู่ของไลฟ์กับเอจิ ซึ่งทั้งคู่กำลังเลี้ยงดูฮาจิพร้อมกับดูดอกไม้ไฟไปด้วย ฮาจิแม้ว่าจะตกใจเสียงดอกไม้ไฟแต่ทั้งคู่ก้ยังช่วยกันปลอบหมาของพวกเขาไว้ได้

    ไลฟ์ : ดูท่าฮาจิจะกลัวดอกไม้ไฟนะ

    เอจิ : ความจริงหมาทุกตัวก็กลัวนะครับ

    ไลฟ์ : จริงด้วย ปีใหม่ปีนี้สนุกดีนะ ว่ามั้ย

    เอจิ : คิดถึงบ้านที่ญี่ปุ่นเหมือนกันนะครับ

    ไลฟ์ : ญี่ปุ่นเหรอ ฉันอยากไปนะ ถ้าว่างๆพาฉันไปหน่อยสิ

    เอจิ : ได้สิครับ เดี๋ยวผมมานะครับ // ในตอนนั้นเอจิจะลงไปยิงกระต่ายข้างล่าง แต่ในตอนนั้นเองชายสองคนก็ขวางเขาเอาไว้ ซึ่งนั้นก็คืออลันกับสตอร์มนั้นเอง

    อลัน : คุยอะไรกับน้องสาวฉันเหรอ

    เอจิ : เปล่าครับ ก็เรื่องทั่วไปหน่ะครับ

    สตอร์ม : เธอเป็นน้องฉัน นายรู้ใช่หรือเปล่าห่ะ

    เอจิ : ผมก็ต้องรู้สิ ถามอะไรแปลกๆ

    อลัน : ว่าแต่ นายคิดว่าน้องสาวฉันเป็นยังไง

    เอจิ : เธอก็น่ารักดีนะครับ

    สตอร์ม : งั้นเหรอ ฉันจะรอดูกันว่านายจะคิดยังไงกับเธอ // อลันกับสตอร์มเดินขึ้นไปชั้นบนดาดฟ้าต่อ

     

    และคู่ต่อมา ในขณะที่เอสเทอร์กำลังเบื่อ เธอลงมานั่งปลีกตัวคนเดียวข้างล่าง ระหว่างนั้นเอง โทนี่ก็ดันมาเดินชนกับเธอ ทำเอาเธอหัวเสียมากแทบจะวีนใส่เขา

    เอสเทอร์ : นี่นาย มองไม่เห็นคนหรือไงเนี่ย

    โทนี่ : เอ้า ก็ผมไม่รู้นี่หน่าว่าคุณจะมา คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า

    เอสเทอร์ : ไม่ต้องมายุ่งกับฉันหรอก // แต่ตอนนั้นเองเธอก็ดันเจ็บที่หัวไหล่

    โทนี่ : ไหน เดี๋ยวผมดูให้คุณก็แล้วกันนะ

    เอสเทอร์ : ใครใช้ให้นายมายุ่งกับฉันเนี่ยห่ะ // โทนี่ไม่ฟัง นวดหัวไหล่ให้เธอจนเธอสบายขึ้น

    โทนี่ : หวังว่าคงสบายขึ้นแล้วนะ

    เอสเทอร์ : ขอบใจนะ ว่าแต่ เธอจะไปไหนหรือเปล่าหล่ะ

    โทนี่ : ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมเบื่อๆหน่ะ

    เอสเทอร์ : ถ้างั้น มานั่งคุยกับฉันหน่อยสิ

     

    ทางด้านอลิซกับมิสซึ ในตอนนั้นเองทั้งคู่ก็นั่งดูดาวด้วยกันอีกมุมหนึ่ง ในตอนนั้นเอง มิสซึคลำหาอะไรซักอย่างในกระเป๋า อลิซตกใจจึงถามเขาไป

    อลิซ : นี่มิสซึ นายหาอะไรของนายหน่ะ // ในตอนนั้นเอง มิสซึหยิบเอาห่อช็อคโกแล็ตก้อนหนึ่งยื่นให้กับเธอ

    มิสซึ : ฉันให้เธอนะ ลองกินดูสิ หวังว่าเธอจะชอบนะ

    อลิซหยิบช็อคโกแล็ตเข้าปากเธอ เธอกินมันด้วยความอร่อยอย่างล้นเหลือ

    อลิซ : อร่อยจัง เธอไปหามาจากไหนเหรอ

    มิสซึ : ฉันแอบทำไว้หน่ะ วัตถุดิบหาได้แค่นี้ สุขสันต์วันปีใหม่นะ

    อลิซ : ขอบใจมากนะมิสซึ ว่าแต่ ฉันถามอะไรหน่อยสิ นายคิดยังไงกับฉันกันแน่

    มิสซึ : เธอ ถามแบบนี้ทำไมเหรอ

    อลิซ : นายบอกฉันมาดีกว่าน่า นายชอบฉันใช่หรือเปล่าหล่ะ

    มิสซึ : ก็ได้ ฉันชอบเธอหน่ะ // มิสซึตอบโดยไม่คิดหน้าคิดหลังในตอนนั้น จากนั้นอลิซก็หอมแก้มเขา

    อลิซ : ฉันก็ชอบเธอเหมือนกันนะ

     

    มาที่อีกคู่หนึ่ง ในตอนนั้นเองตะวันและอนูวานั่งเฝ้ายามด้วยกันอยู่ด้านล่าง เผื่อว่าจะมีใครมาฉวยโอกาสปล้นพวกเขาในช่วงปีใหม่ ในตอนนั้นเองพวกเขาก็คุยกันท่ามกลางเสียงดอกไม้ไฟที่ดังไปทั่วแถวนั้น

    ตะวัน : ผมคิดถึงประเทศของผมจัง ช่วงปีใหม่แบบนี้

    อนูวา : ฉันอยากรู้เหมือนที่เมืองไทยตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

    ตะวัน : ถ้าคุณอยากรู้ ผมจะพาคุณไปถ้าเราออกไปได้นะ

    อนูวา : ขอบคุณนะ แต่ว่าฉันยังมีงานที่ต้องทำหน่ะ

    ตะวัน : ว่าแต่ คุณจะเริ่มติดต่อกลุ่มกบฏตอนไหนหล่ะ

    อนูวา : ไม่ต้องอื่นไกลหรอก พวกนายนี่แหละ มีสมาชิกกลุ่มกบฏมาหานายนี่นะ

    ตะวัน : แล้วถ้าคุณติดต่อได้ คุณจะทำยังไงต่อหล่ะ

    อนูวา : ฉันมีแผนของฉันก็แล้วกัน ฉันบอกคุณไม่ได้หรอก

    ตะวัน : ผมเข้าใจ ยังไงก็ขอให้งานของคุณสำเร็จนะครับ

     

    ทางด้านซีโร่กับบารีร่า ในตอนนั้นเองบารีร่าก็ออกมาเล่นวิ่งไล่จับกันข้างนอก ทั้งคู่เล่นกันไปกันมาอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งเหนื่อยกันทั้งคู่ จากนั้นพวกเขาก็มานั่งพักด้วยกันแถวนั้น

    บารีร่า : นี่ ไม่ได้เล่นอะไรแบบนี้มานานแล้วนะ

    ซีโร่ : นั่นสิ เธอทำฉันเหนื่อยเลยนะเนี่ย

    บารีร่า : อะไรกัน แค่นี้เหนื่อยแล้วเหรอเนี่ย

    ในตอนนั้นเอง ซีโร่ให้ตุ๊กตาหมีตัวหนึ่งกับบารีร่า ซึ่งในตอนนั้นมันทำให้เธอชอบใจมันมากๆ

    บารีร่า : นี่ เธอไปหามาจากไหนเนี่ย

    ซีโร่ : ไม่ต้องรู้หรอกน่า ฉันหามาให้เธอได้ก็แล้วกัน

    บารีร่า : ฉันยังคิดชื่อตุ๊กตาตัวนี้ไม่ออกเลยเนี่ย

    ซีโร่ : ไม่ต้องห่วงหรอก เธอมีเวลาคิดทุกวันอยู่แล้วนี่

    บารีร่า : ขอบใจเธอมากนะที่อุตส่าห์หามาให้ฉันหน่ะ

    ซีโร่ : ไม่เป็นไรหรอก

    ค่ำคืนปีใหม่ของเขาดำเนินไปดูราวกับว่ามันมีแต่ความสุข แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า วันพรุ่งนี้พวกเขาจะต้องเจอกับอะไรต่อไปข้างหน้า

    =====================================================================

    ตอนนี้พิเศษฉลองช่วงปีใหม่ เอาเป็นว่า สุสันต์ปีใหม่นะครับทุกคน
    ตัวละครใหม่ของคุณ Midorisann จะออกมาแค่หัวหน้าวงก่อนนะครับ ส่วนคนอื่นๆจะตามมาทีหลัง 
    มีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทราบ
    หลังจากนี้ตัวละครของพวกคุณจะเริ่มตายกันแล้วนะครับ (สามารถส่งตัวละครมาใหม่ได้)

    ส่วนเรื่อง Descentdent War ใครเป็นสาววายเตรียมเลือดสำรองไว้ได้เลย 555

    ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครัช

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×