คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 10 : ทายาทสืบบังลังค์
เซเลนส์พาพวกของนอร์ดิกเดินทางมาเรื่อยๆ
จนเข้าสู่เขตพระราชวัง
นิโคลัสกับเอ็นแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าพวกเขาจะเข้ามาถึงจุดของพระราชวังได้ง่ายดายขนาดนี้
เอ็น : โหว
นิโคลัส นายดูสิ ไม่น่าเชื่อว่าเราจะเข้ามาถึงง่ายขนาดนี้
นิโคลัส : นั่นสิ
มาคราวที่แล้วต้องทำเรื่องขออยู่ตั้งนาน กว่าจะมาถึงได้
ซอล : พวกนายนี่
เคยมาที่นี่อย่างงั้นเหรอ เล่าให้ฟังหน่อยสิ
นิโคลัส : ก็ไม่มีอะไร
เราเคยมาขายอาวุธให้นายพลเตเวียสหน่ะ
เอ็น : ใช่
แต่นานมากแล้ว จนถึงวันนี้ กว่าจะมาถึงที่นี่ได้
ซอล : พวกนายนี่
ท่าทางจะอยากมาที่นี่จริงๆแหะ ว่าแต่นอร์ดิกนี่ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
นอร์ดิก : ผู้กองครับ
พ่อผมท่านถูกฝังไว้ที่ไหนเหรอครับ
เซเลนส์ : ว่าแล้วคุณท่านต้องพูดแบบนี้
งั้นเชิญทางนี้เลยครับ //
เซเลนส์พานอร์ดิกและพรรคพวกไปถึงแท่นที่บรรจุอัฐิของนายพลเตเวียส
เมื่อนอร์ดิกเห็นดังนั้นจึงร้องไห้ออกมาแล้วไปคำนับที่อัฐิของเขาทันที
นอร์ดิก : พ่อครับ
ผมมันอกตัญญูนัก ที่ไม่ได้มาดูใจพ่อครั้งสุดท้าย ทำไมพ่อไม่พาผมไปอยู่ด้วย
ผมจะได้อยู่กับพ่อจนวินาทีสุดท้าย // ตอนนั้นนอร์ดิกร้องไห้แทบขาดใจ
ไซโซกับเคจาต้องไปคอยดูเขาอย่างใกล้ชิด
ไซโซ : ไม่เป็นไรนะนอร์ดิก
อย่าร้องไห้แบบนี้สิ มันไม่ดีหรอกนะ
เคจา : ใช่
ท่านนายพลจะตายตาไม่หลับ ถ้าเธอเป็นแบบนี้นะ
อาบาตู : ท่านเตเวียสเป็นสุภาพบุรษพอ
ผมเชื่อว่าท่านไม่ใช่คนแบบนั้นแน่นอนครับ
นอร์ดิก : ผมรู้
ผมแค่อยากอยู่ข้างๆพ่อก่อนที่ท่านจะจากไป แม่ผมก็จากไปคนหนึ่งแล้วนะ
เซเลนส์ : เสียใจด้วยนะครับ
ตอนนี้ท่านนายพลอาร์เธอร์กำลังรอท่านอยู่นะครับ // นอร์ดิกปาดน้ำตาจากนั้นก็ไปพบนายพลอาร์เธอร์ที่ห้องโถงของพระราชวัง
นายพลอาร์เธอร์เมื่อได้เจอเขา เขาก็เข้าไปทักทายนอร์ดิกทันที
อาร์เธอร์ : นอร์ดิก
นี่เธอเติบโตขึ้นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
เนม่า : พี่นอร์ดิก
พี่ปลอดภัยดีนะคะ เสียดายที่พี่ไม่มาดูใจพ่อก่อนตาย // นอร์ดิกเข้ามากอดน้องสาวของเขา
นอร์ดิก : ไม่ต้องห่วงนะ
พี่อยู่นี่แล้วนะ
นิโคลัส : ท่านนายพลครับ
ผมมีโปรเจ็กค์ทางรถไฟมาเสนอท่านครับ
อาร์เธอร์ : ไว้ทีหลังดีกว่าครับคุณนิโคลัส
ตอนนี้ผมมีอะไรสำคัญกว่านั้น ว่าแต่นอร์ดิก เธอเอาจดหมายฉบับนั้นมาหรือเปล่าหล่ะ // นอร์ดิกยื่นจดหมายที่ยังไม่ได้เปิดให้อาร์เธอร์
ซึ่งจดหมายฉบับนี้นายพลเตเวียสกำชับนักหนาว่าห้ามเปิดก่อนที่จะอยู่ต่อหน้านายพลอาร์เธอร์
หลังจากที่ได้มา อาร์เธอร์ไม่รอช้า เปิดจดหมายฉบับนั้นอ่านทันที
“นอร์ดิกลูกรัก ถ้าลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้
พ่อคงจากลูกไปไกลแสนไกลแล้ว มีหลายเรื่องที่พ่อจะต้องพูดให้ลูกเข้าใจ
พ่อไม่อยากทิ้งลูกให้อยู่ที่โซราบอล พ่อมีเหตุผลที่ยังบอกไม่ได้ แต่ขอให้ลูกรู้ว่า
พ่อยังรักลูกและแม่ของลูกเสมอ”
เอ็น : เฮ้ย
อย่าบอกนะ ว่าเขาคือทายาทของนายพลเตเวียสหน่ะ
ซอล : ตกใจไปได้
จะอะไรนักหนา เงียบๆแล้วฟังต่อเถอะ
“พ่ออยากชดเชยเวลาที่เสียไปกับลูก
แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ลูกไม่ต้องเป็นห่วงนะ พ่อทิ้งทุกอย่างให้ลูกหมดแล้ว
ซึ่งนั้นหมายถึง ลูกจะต้องเป็นผู้นำของแคว้นริงก้า ในฐานะของทายาทนายพลเตเวียส
พ่อรู้ว่าลูกต้องทำได้ อาร์เธอร์จะคอยเป็นที่ปรึกษาให้ลูก
พ่อรู้ว่าสิ่งที่พ่อให้อาจชดเชยได้ไม่หมด แต่ที่พ่อให้คือทุกอย่างที่พ่อมีแล้ว
ขอให้ลูกปกครองริงก้าอย่าให้มีอันตรายใดๆ พ่อจะอวยพรลูกจากบนฟ้าเสมอ” เมื่ออาร์เธอร์พูดจบ ทุกคนต้องตกตะลึง เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งกลายมาเป็นผู้นำแคว้นที่ยิ่งใหญ่พอๆกับโซราบอล
เรื่องนี้ทำเอานอร์ดิกถึงกับพูดไม่ออกเลย
ไซโซ : ห่ะ
นี่นอร์ดิก นายจะได้เป็นผู้นำแคว้นจริงๆอย่างงั้นเหรอเนี่ย
เนม่า : ตอนแรกก็นึกว่าหนูจะได้ตำแหน่งซะอีก
แต่พี่มารับก็ดีแล้ว มีพี่อยู่หนูก็เบาใจแล้ว
เคจา : แต่นอร์ดิกเป็นแค่คนธรรมดานะคะ
แล้วพวกนายทหารจะไม่ก่อกบฏกันเหรอคะ
อาร์เธอร์ : พวกกบฏจะถูกประหาร
ข้อหาที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์ครับ
นิโคลัส : แบบนี้ต้องเรียกว่าท่านนอร์ดิกแล้วสินะ
เอ็น เราได้ทำทางรถไฟแล้ว
ซอล : นี่พวก
เลิกหัวการค้าซักแป๊ปนึงได้หรือเปล่าเนี่ย
เอ็น : ก็นี่ใครจะไปรู้หล่ะ
แหะๆ
นอร์ดิก : แต่ผม
ไม่มีความพร้อมจะเป็นผู้นำเท่าไหร่หน่ะครับ
อาร์เธอร์ : ไม่ต้องห่วงครับ
ผมได้รับคำสั่งให้ดูแลและเป็นที่ปรึกษาให้คุณหน่ะครับ
เซเลนส์ : ตอนนี้ทหารราวสองแสนนายพร้อมจะรับคำสั่งท่านนะครับ
นอร์ดิก : ผมจะทำเพื่อพ่อครั้งนี้
แล้วก็เพื่อแผ่นดินนอลโวร่า ผมพร้อมสำหรับทุกอย่างครับ
อาร์เธอร์ : ดีครับ
ผมเตรียมพิธีมอบตำแหน่งให้คุณเรียบร้อยแล้วครับ
กลับมายังแคว้นเดลล์
บนเทือกเขาที่มั่นของผู้เฒ่าตาร์ก นายพลบูลนำทัพม้าเคลื่อนขึ้นเขาไป
โดยที่ให้หน่วยสังเกตการณ์นำร่องขึ้นไปก่อน เมื่อนายพลบลูมาถึงค่าย
พวกมันกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ พร้อมกับก่อไฟทำอาหาร
เป็นโอกาสดีที่นายพลบูลจะลงมือโจมตี
“ท่านครับ พวกมันกำลังพักผ่อนกันอยู่เลยครับ”
บูล : สั่งทหารบุกเข้าไป
// นายพลบูลชักดาบและควบม้าบุกเข้าไปในค่ายของพวกมันอย่างห้าหาญ
ทหารของพวกมันที่ไม่ทันระวังตัวก็โดนจู่โจมอย่างง่ายดาย
พวกมันพยายามยิงสกัดแต่ก็ไม่ได้ผล
เนื่องจากทัพม้าของบูลเคลื่อนที่ได้เร็วและฆ่าศัตรูได้อย่างต่อเนื่อง
บูล : ฆ่าพวกมันให้หมด
อย่าให้พวกมันหนีรอดไปได้
พวกมันพยายามจะหนีกลับเข้าไปในป่า
แต่ทหารของนายพลบูลก็จัดการพวกมันจนเรียบ
จากนั้นกำลังพลบางส่วนก็เข้าปล้นเสบียงกับอาวุธของพวกมัน
จนกระทั่งพวกมันนำกำลังพลมาเสริม พวกของนายพลบูลก็ถอนกำลังลงจากเขามาทันที
ก่อนที่จะโดนพวกมันตามล่า
คนของผุ้เฒ่าตาร์กตายไปมากมาย
แถมอาวุธก็ถูกขโมยไปจำนวนหนึ่ง ทำให้ผู้เฒ่าตาร์กถึงกับโมโหเป็นอย่างมาก
“ใครวะ ที่มันบังอาจกระตุกหนวดฉัน”
“มันคือนายพลบูล แม่ทัพของรูดิว
ที่ตอนนี้กำลังซ่องสุมกำลังพลอยู่ครับ”
“ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั่น
ฉันจะต้องฆ่ามันให้ได้ ส่งทหารออกตามล่าพวกมันเดี๋ยวนี้”
กลับมายังชายแดนของแคว้นเดลล์ ทางผ่านไปยังริงก้า
เอลิซ่ายังคงเดินทางต่อมาเรื่อยๆโดยไม่คิดจะหยุดพัก
เพราะเธอต้องการไปให้ถึงริงก้าโดยเร็วเพื่อตามหานอร์ดิกที่นั่น
เอลิซ่า : นี่
บอกคนของเราในริงก้า ตามหาผู้ชายคนนี้ให้ที // ชายคนหนึ่งรับกระดาษแผ่นหนึ่งมาจากนั้นก็ขี่ม้ารุดหน้าไปยังริงก้าทันที
เมเทอร์ : แหม่
เพิ่งจะเคยเห็นคุณแม่เอลิซ่าวิ่งเข้าหาผู้ชายนะเนี่ย
เอลิซ่า : นี่
เธอจะแซวฉันทำไมหล่ะเนี่ย
เฟรย์อา : นี่
เธอชอบเขาแล้วถามเขาหรือเปล่าว่าชอบเธอมั้ยอ่ะ
เอลิซ่า : ทำไมห่ะ
ฉันไม่สวยตรงไหน มีแต่ผู้ชายทั่วแคว้นที่อยากได้ฉันจะตาย
เมเทอร์ : ฉันว่า
เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า ว่าแต่ เรื่องคนของสมาคมนี่เราจะเอายังไงต่อ
เอลิซ่า : ฉันเตรียมการไว้แล้วหล่ะ
ฉันต้องการให้คนของเราทั่วทุกที่ทำสงครามก่อการร้ายหน่ะ
เฟรย์อา : ความคิดดีนะ
แต่ว่าเรื่องแบบนี้ต้องวางแผนกันนานมากเลยหล่ะ
เอลิซ่า : เอาเป็นว่า
เมื่อไปถึงแล้วค่อยคุยกันก็แล้วกัน
อีกด้านหนึ่งของขบวนคาราวาน
พวกของสี่พี่น้องเคลื่อนขบวนมาถึงยังชายป่าแห่งหนึ่ง
ซึ่งเหมาะจะเป็นที่พักค้างแรมกันที่นี่
เนื่องจากรอบด้านมีทั้งน้ำตกและผลไม้ป่ามากมาย
มาร์ธิวจึงสั่งให้ทหารของเขาตั้งแค้มป์แล้วออกหาอาหารแถวนั้น
เอเทอร์ : เฮ้อ
อากาศดีจริงๆเลยนะพี่ที่นี่เนี่ย
แมทธิว : จริงหว่ะ
แถมมีน้ำตกใสๆให้เราลงเล่นด้วย
เลออน : พี่มาร์ธิว
เราไปเล่นน้ำตกกันดีกว่านะพี่
มาร์ธิว : เอาสิ
พี่ก็อยากอาบน้ำอยู่พอดีเลย
พวกเขาทั้งสี่คนถอดเสื้อผ้าแล้วกระโดลงน้ำ
เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน โดยที่ไม่แคร์สายตาทหารที่อยู่รอบข้างกันเลย
เลออน : เยี่ยมไปเลย
ถ้าเอาผู้หญิงมาเล่นน้ำด้วยนี่จะดีมากเลยนะ
แมทธิว : นายเนี่ย
หายใจเข้าหายใจออกมีแต่ผู้หญิงหรือไงเนี่ย
เอเทอร์ : เออนี่พี่
พี่ว่าอีกกี่วันเราจะไปถึงริงก้าเนี่ย
มาร์ธิว : ไม่กี่วันหรอก
ถ้าเราเร่งฝีเท้าให้มากพอนะ
แมทธิว : แล้วเรื่องของสมาคมลับเนี่ย
เราจะเอายังไงต่อพี่
มาร์ธิว : ตอนนี้คนตัดสินใจเป็นเอลิซ่าหน่ะ
เอเทอร์ : ผมว่า
รอให้ไปถึงริงก้าแล้วค่อยคิดเรื่องนี้กันต่อก็ไม่สายนะพี่
เลออน : เฮ้อ
พูดถูกใจพี่ก็วันนี้แหละไอ้น้องเอ้ย
กลับมายังแคว้นมอร็อค ซึ่งในตอนนั้นทั่วทั้งดินแดนกำลังระส่ำระส่าย
ประชาชนและทหารที่แพ้ศึกต่างอพยพหนีตายกันมากมาย
โอลลี่ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่จะต้องหนีจากทหารโซราบอลเหมือนกัน
เธอพากลุ่มโจรของเธอข้ามชายป่ามาเรื่อยๆ ในระหว่างนั้นเอง
เธอดันไปเจอพวกของอราชที่กำลังเดินทางมาพอดี ทั้งสองฝ่ายไม่รู้กันและกันว่าแต่ละฝ่ายเป็นใคร
จนเกือบจะเกิดการปะทะกันแล้ว
โอลลี่ : นี่
พวกนายเป็นใครกัน บอกฉันมาเดี๋ยวนี้
อราช : ผมว่าคุณอาจอยากจะตอบคำถามนั่นก่อนนะ
// ทั้งคู่เริ่มจ้องกันตาเป็นมัน
แต่สุดท้ายโอลลี่ก็ยอมพูดขึ้นก่อนจนได้
โอลลี่ : ฉันเป็นกลุ่มโจรที่หนีจากทหารโซราบอลหน่ะ
อราช : งั้นเหรอ
แล้วเธอก็เพิ่งจะมาบอกฉันตอนนี้เนี่ยนะ
โอลลี่ : ก็ฉันไม่รู้นี่หน่า
ว่าแต่พวกนายเป็นใครกันงั้นเหรอ
อราช : ฉันก็เป็นกองโจรแบบเธอนี่แหละ
โดนพวกโซราบอลไล่มาเหมือนกัน
โอลลี่ : ว่าแต่
พวกนายตอนนี้เป็นยังไงกันบ้างหล่ะ
อราช : ก็อย่างที่เห็น
พวกโซราบอลมีเยอะกว่าเรามาก
โอลลี่ : ว่าแต่
นายจะไปแคว้นเดลล์ด้วยหรือเปล่าหล่ะเนี่ย
อราช : ใช่
ได้ยินว่าผู้กองฟีนด์เตรียมกำลังพลไว้ต่อต้านเนโรหน่ะ เธอจะไปกับฉันหรือเปล่าหล่ะ
โอลลี่ : ได้สิ
ไหนๆเราก็ได้ร่วมหัวจมท้ายกันแล้ว ฉันชื่อ โอลีเวียร์ พอล มาเดลิน
เรียกฉันโอลลี่ก็ได้นะ
อราช : ผมอราช
ฟร็อตเตอร์ ผมมาจากรูดิว ผมเป็นนายพรานมาก่อนหน่ะ
โอลลี่ : อ้อ
แสดงว่านายเป็นพรานป่ามือหนึ่งเลยสินะ
อราช : ก็ไม่เชิงหรอก
พ่อผมเป็นนายทหารเก่า เสียชีวิตไปตั้งแต่สงครามกับโซราบอลหน่ะครับ
โอลลี่ : ฉันเสียใจด้วยนะ
พ่อแม่ฉันก็ตายในสงครามเหมือนกันนะ
อราช : ครับ
คงจะไม่รังเกียจนะครับถ้าจะไปกับคนป่าอย่างผมหน่ะ
โอลลี่ : แหวะ
ฉันไปได้หมดแหละ ถ้านายไม่รังเกียจโจรอย่างฉัน
ทางด้านของฟีนด์ หลังจากที่เขานำกองลังพลของเขาเตรียมจะข้ามชายแดนไปยังแคว้นเดลล์
กองทหารของเขาพร้อมกับอาวุธหนักจำนวนหนึ่งข้ามภูเขาเพื่อหนีจากทหารโซราบอลที่กำลังตามล่าพวกเขา
“ท่านครับ
ตอนนี้หน่วยของเรากำลังจะถึงแคว้นเดลล์แล้วครับ”
ฟีนด์ : ฉันเข้าใจ
แต่ทหารของเราเหนื่อยกันมามาก พักที่นี่ก่อนก็แล้วกัน
“ท่านครับ ท่านว่าพวกมันจะตามพวกเรามาได้หรือเปล่า”
ฟีนด์ : พวกมันต้องตามมาอยู่แล้วหล่ะ
แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงพวกเราหรอก
“ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่ต้องทิ้งบ้านเรามาแบบนั้นครับ”
ฟีนด์ : เข้มแข็งไว้ทหาร
ท่านนายพลกำลังมองดูพวกนายอยู่นะ
“ครับผม ผมทราบครับ”
ฟีนด์ : อืม
ตอนนี้ทุกคนเหนื่อยมามากแล้ว ไปพักก่อนดีกว่า
ทางด้านกองทัพโซราบอล ในขณะนั้นสถานการณ์ของพวกเขาไม่สู้ดีเท่าไหร่
ทหารหลายนายล้มป่วยจากไข้ป่าและอาหารไม่เพียงพอ
แถมยังโดนโจรป่าหลายก๊กนำกำลังปล้นพวกเขา
ทำให้การเดินทัพสู่แคว้นเดลล์แทบจะต้องหยุดชะงักไป
นายพลเนโรถึงขั้นต้องตรวจเยี่ยมทหารด้วยตัวเอง
เนโร : ล้มป่วยไปเท่าไหร่กันบ้างหล่ะ
คูเปอร์ : ตอนนี้มีทหารราวสามหมื่นนายที่ล้มป่วย
บางส่วนก็ตายเป็นพันแล้วครับ
เนโร : สั่งทหารให้เผาศพเท่านั้น
เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อระบาดได้ // เนโรพูดพลางไอคอกแคกไป
โซรอน : ท่านพี่
ผมว่าเรารีบออกจากมอร็อคแล้วไปยังแคว้นเดลล์โดยเร็วดีกว่านะครับ
นอสต้าร์ : นั่นสิครับพ่อ
ผมว่าพวกมันกำลังอ่อนแอเลยนะครับตอนนี้
คูเปอร์ : ผมว่า
เราควรพักทัพไว้ที่ชายแดนแคว้นเดลล์ก่อนดีกว่านะครับ
เนโร : ทำไมนายถึงคิดแบบนั้นงั้นหล่ะ
คูเปอร์ : ถึงแม้ว่าทางนั้นจะรบกันเองอยู่
แต่ถ้ามีข่าวว่ากองทัพของเราจะบุกเข้าแคว้นเดลล์ พวกมันอาจจะรวมตัวกันขับไล่พวกเราก็ได้
แถมที่นั่นยังมีสถานทูตประเทศต่างๆอีก ถ้าเราทำอะไรลงไป
เราอาจจะเสียมากกว่าได้นะครับ
เนโร : ฉันก็เห็นด้วยกับนายนะ
โซรอน : แต่พี่ครับ
ผมว่าเราควรจะจัดการพวกมันให้หมดนะครับ
เนโร : ตอนนี้ยังก่อนดีกว่า
คูเปอร์ สั่งทหารเราให้ตรึงกำลังไว้ก่อน อย่าเพิ่งบุกจนกว่าฉันจะสั่ง // จากนั้นเองคูเปอร์ก็พานายพลเนโรไปรักษาตัวต่อ
คูเปอร์ : ท่านครับ
ผมว่าท่านรีบกลับไปให้หมอดูอาการดีกว่านะครับ
เนโร : ถ้าพวกเขารู้ว่าฉันไป
ทหารของเราจะเสียกำลังใจนะ
คูเปอร์ : ผมทราบครับ
งั้นผมจะให้หมอจากโซราบอลมาที่นี่นะครับ
ทางด้านนอก
โซรอนกับนอสต้าร์เพิ่งจะผิดหวังที่ทำให้เนโรเดินทัพ
แต่พวกเขาทั้งคู่ยังไม่ยอมตัดใจง่ายๆ ในขณะเดียวกัน
พวกเขาเห็นผู้กองเอ็ดเวิร์ดเพิ่งจะนำกำลังพลกลับมา
โซรอนได้โอกาสจึงออกคำสั่งกับเขาทันที
โซรอน : เอ็ดเวิร์ด
ทหารของฉัน ในที่สุดนายก็กลับมา
เอ็ดเวิร์ด : ท่านครับ
มีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ
โซรอน : ฉันอยากให้นายนำกำลังพลบางส่วนแทรกซึมเข้าสู่แคว้นเดลล์หน่ะ
เอ็ดเวิร์ด : แต่ว่า
ผมได้ยินว่าท่านนายพลเนโรสั่งให้ตรึงกำลังไว้ก่อนนี่ครับ
โซรอน : อ้อ
ฉันว่า ฉันอยากจะส่งคนไปสอดแนมสถานการณ์ด้านในหน่ะ
เอ็ดเวิร์ด : ว่าแต่
ผมต้องไปคนเดียวเหรอครับ
โซรอน : ไม่หรอก
ผมจะให้กองร้อยของคุณแทรกซึมเข้าไปยังใจกลางพวกมันหน่ะ
เอ็ดเวิร์ด : ครับท่าน
ผมจะรีบไปเตรียมคนของผมครับ // เอ็ดเวิร์ดเดินไปที่กองร้อยของเขาจากนั้นก็เรียกรายงานตัวทหารของเขาทันที
“ผู้กองครับ เรียกพวกเรามามีอะไรเหรอครับ”
เอ็ดเวิร์ด : เราได้รับคำสั่งใหม่
ให้เข้าแทรกซึมที่แคว้นเดลล์หน่ะ
“ว่าแต่ เราจะนำกำลังพลไปกี่นายดีครับ”
เอ็ดเวิร์ด : ให้ห้ากองร้อยของเราไปตรึงกำลังและสังเกตการณ์ไว้ที่ชายแดนของพวกมันก่อนหน่ะ
“ว่าแต่ เราจะออกเดินทางเมื่อไหร่หล่ะครับ”
เอ็ดเวิร์ด : พรุ่งนี้รุ่งเช้า
เดินทางกันได้เลย
กลับมายังแคว้นฟิลล์บอน
ในขณะนั้นสการ์เล็ตกำลังนำกำลังพลของเธอเข้าสำรวจโอเอซิสแถวนั้น
เพื่อดูว่าพอจะมีแหล่งน้ำที่จะใช้ได้หรือเปล่า ทหารของเธอขี่ม้าสำรวจไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งมาเจอโอเอซิสแห่งหนึ่ง
ทำเอาทั้งทหารหญิงและทหารชายธรรมดาของเธอดีใจกันใหญ่
“เย้ น้ำอยู่ข้างหน้าแล้ว ไปดื่มันดีกว่าพวกเรา”
สการ์เล็ต : มีโอเอซิสแถวนี้ด้วยเหรอ
มันแปลกๆอยู่นะ พอลลี่ เธอว่าหรือเปล่า // พอลลี่
ทหารหญิงคู่ใจของสการ์เล็ตตอบเธอด้วยความสงสัย
พอลลี่ : นั่นสิคะ
ฉันว่ามันแปลกๆอยู่นะ
หลังจากที่ทหารชายไปดื่มน้ำที่โอเอซิสนั้น
พวกเขาก็โดนกับดักที่วางเอาไว้ นั่นก็คือระเบิดที่วางเอาไว้แล้วนั้นเอง
สการ์เล็ต : แย่แล้ว
ถอยออกมา พวกเราโดนหลอก //
ในตอนนั้นเอง
กลุ่มโจรทะเลทหารพากันยิงทหารโซราบอลจากบนเนินอย่างสนุกสนาน
ทหารของโซราบอลพยายามยิงสวน แต่พวกมันล้อมทหารโซราบอลเอาไว้ทุกที่
ทำเอาสการ์เล็ตต้องยิงปืนด้วยตัวเองเลย
สการ์เล็ต : ถ้าเราหนีออกไปไม่ได้
เราตายกันหมดแน่ๆ
พอลลี่ : ดิฉันจะพาท่านออกไปเองค่ะ
// พอลลี่ขี่ม้าจากนั้นก็ยิงสวนกับพวกโจรเพื่อเปิดทางให้ทหารโซราบอลหนีได้
เธอควบม้าไล่พวกโจรให้ถอยกลับออกไปได้บางส่วน จากนั้นเธอก็ให้สัญญาณกับทหารทันที
พอลลี่ : ทุกคน
รีบหนีกลับไปในเมืองก่อน เร็วเข้า
ทหารโซราบอลคุ้มกันการถอนกำลังเข้าไปในเมือง
ในขณะที่กลุ่มโจรก็พยายามไล่ตาม แต่ในตอนนั้นเอง ซิกนัสก็ขี่ม้าตามมา
เพื่อห้ามกลุ่มโจรเอาไว้
ซิกนัส : ใจเย็นไว้
ไม่ต้องตามพวกมันไปหรอก
“ทำไมหล่ะครับท่าน พวกมันกำลังถอยนะครับ”
ซิกนัส : พวกมันคงเตรียมรอเล่นงานเราในเมืองหน่ะ
ตอนนี้จัดการดูแลคนเจ็บแล้วยึดอาวุธพวกมันให้หมด // กลุ่มโจรยึดอาวุธจากศพของทหารโซราบอลแล้วก็ดูคนแลคนเจ็บ
จากนั้นก็ไปรายงานเรื่องกับหัวหน้าของเขาทันที
“ท่านครับ พวกโซราบอลตายหลายร้อย
แถมเรายังยึดปืนยาวของพวกมันได้ครับ”
ซิกนัส : แล้วพวกเราตายไปเท่าไหร่หล่ะ
“คนของเราตายไปสามสิบ บาดเจ็บอีกราวร้อยคนครับผม”
ซิกนัส : แล้วสถานการณ์ที่อื่นเป็นยังไงบ้างหล่ะ
“ตอนนี้เราจัดการทหารโซราบอลที่โอเอซิสอื่นจนพวกมันถอยไปแล้วครับ”
ซิกนัส : ดีมาก
เราจะทำให้พวกมันอยู่ไม่ได้จนหนีกลับบ้านแทบไม่ทันเลย
“แน่นอนครับ”
กลับมายังคฤหาสน์ของมาร์ธ่า
มาร์ธ่าเริ่มจะขึ้นวันดีคืน เนื่องจากซิลเวียร์เป็นหมอที่เก่งมาก
วันนี้เป็นวันที่เธอต้องปรุงอาหารให้มาร์ธ่าทาน หลังจากที่เธอปรุงเสร็จ
เธอก็ชิมทุกอย่างเพื่อตรวจว่าเป็นอันตรายหรือเปล่า
มาร์ธ่า : นี่
หนูซิลเวียร์ ความจริงหนูไม่ต้องชิมทุกอย่างก็ได้นะจ๊ะ
ซิลเวียร์ : ก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อนสินะคะ
ซาร่า : รู้จ้ะ
แต่บางทีก็ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้นะจ๊ะ
ในตอนนั้นเอง
มีทหารนายหนึ่งเดินเข้ามาในบ้านของมาร์ธ่า
จากนั้นก็เดินเข้าไปรายงานตัวกับคุณหญิงมาร์ธ่าทันที
“คุณหญิงมาร์ธ่าครับ”
มาร์ธ่า : เธอเป็นทหารของเนโรนี่
มีอะไรงั้นเหรอ
“ผมอยากให้คุณซิลเวียร์ไปรักษาท่านนายพลหน่อยครับ”
ซาร่า : ห่ะ
เนโรเป็นอะไรงั้นเหรอ
“ท่านนายพลเป็นไข้ป่าครับ อาการหนักขึ้นทุกวันครับ”
ซิลเวียร์ : ทหารของท่านนายพลไม่ชำนาญพื้นที่
แถมยังติดโรคจากท้องที่อีกหน่ะค่ะ
“คุณซิลเวียร์ ช่วยไปกับเราด้วยนะครับ”
ซิลเวียร์ : ว่าแต่
ถ้าฉันไป ใครจะดูแลคุณหญิงหล่ะคะ
มาร์ธ่า : ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ
ความจริงฉันไม่เป็นไรมากแล้วหล่ะ
ซาร่า : เอาเป็นว่า
เธอไปดูแลน้องฉันดีกว่านะจ้ะ
ซิลเวียร์ : ได้ค่ะ
ถ้างั้นพาฉันไปหาท่านนายพลทีสิ // ทหารของนายพลเนโรพาเธอไปขึ้นรถม้า
โดยที่เธอเตรียมยาบางส่วนสำหรับรักษาติดไปด้วย
กลับมายังสถานทูตเยอรมัน
ในระหว่างที่แอนตาร์กติกกำลังจัดการเรื่องเกี่ยวกับนักโทษที่เธอจับมาได้
ในขณะนั้นเอง มีทหารเยอรมันคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ
โดยที่มีชายใส่สูทคนหนึ่งเดินตามมาด้วย
“ขอรายงานครับ ชายคนนี้เป็นตัวแทนของแคว้นเดลล์
มาเจรจาเกี่ยวกับนักโทษครับ”
แอนตาร์กติก : สวัสดีค่ะ
คุณมีธุระอะไรกับดิฉันคะ
“ผมชื่ออิริค เป็นผู้แทนจากแคว้นเดลล์
เราจะมารับนักโทษพวกนี้ไปลงโทษครับ”
แอนตาร์กติก :
ตัวแทนงั้นเหรอ ว่าแต่ คุณทำงานให้ใครอย่างงั้นเหรอ
อิริค : นายกเทศมนตรีของผม
ตอนนี้กำลังเป็นรักษาการณ์ชั่วคราวครับ
แอนตาร์กติก : ว่าแต่
ท่านนายกเทศมนตรีไม่มาเองเหรอ
อิริค : ท่านติดธุระด่วนหน่ะครับ
ท่านให้ผมถือหนังสือนี้มาให้คุณด้วย // แอนตาร์กติกนำกระดาษนั้นมาอ่านดู
แอนตาร์กติก : ก็ได้
งั้นฝากให้คุณช่วยจัดการด้วยก็แล้วกัน // ชายคนนั้นคำนับจากนั้นก็เดินจากไป
จากนั้นแอนตาร์กติกก็เรียกทหารของเธอมาหา
แอนตาร์กติก : จับตาดูเขาไว้
ฉันได้กลิ่นแปลกๆจากเขาหน่ะ
“ได้ครับท่าน”
กลับมายังสถานทูตรัสเซีย
โทมารอฟหัวเสียอย่างมากที่เสียรู้คนอย่างอเล็กซ์สกี้
เรื่องนี้ทำเอาเขาต้องสืบหาความจริงให้ได้ว่าใครเป็นหนอนบ่อนไส้
โทมารอฟ : นี่
เรือขนอาวุธของเราตอนนี้อยู่ที่ไหนหล่ะ
“ตอนนี้เรากำลังส่งคนออกติดตามหาทั่วเกาะที่ใกล้เคียงแถวนั้นครับ”
โทมารอฟ : อเล็กซ์สกี้มันต้องไปรับอาวุธเองแน่ๆ
“ทำไมท่านถึงคิดแบบนั้นหล่ะครับ”
โทมารอฟ : เพราะฉันรู้นิสัยมันดี
มันเป็นคนใจร้อน มันต้องมาดูผลงานของมันเร็วๆแน่ๆ
“ท่านครับ ว่าแต่
ทหารของเราที่ทำงานให้มันหล่ะครับ จะทำยังไงต่อ”
โทมารอฟ : สอบสวนทุกคน
ฉันจะเป็นคนสอบสวนพวกเขาเอง
“ได้ครับท่าน”
โทมารอฟ : อเล็กซ์สกี้
อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยแกไปง่ายๆนะ
ที่เกาะลึกลับแห่งหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเกาะที่ไม่มีอะไร
แต่ที่นั่นเป็นแหล่งรวมของโจรสลัดที่ออกอาละวาดแถวแคว้นบาส์ก และในตอนนั้นเอง
ชายที่เป็นโจรสลัดคนหนึ่งวิ่งเข้าไปรายงานข่าวให้กับเจ้านายของเขาที่กำลังนั่งดื่มเหล้ารัมอยู่
“นายหญิงลอเรนซ์ครับ
ตอนนี้พวกเรากำลังโดนกวาดล้างจากพวกโซราบอลครับ”
หญิงสาวในชุดโจรสลัดเหน็บปืนเลิกดื่มเหล้าจากนั้นก็เดินมาหาเขาทันที
ลอเรนซ์ : ตอนนี้พวกเราหนีรอดมาได้เท่าไหร่หล่ะ
“แค่ไม่กี่ร้อยครับ
แต่เรือของเราโดนพวกอเมริกายึดหมดเลยครับ”
ลอเรนซ์ : ดูเหมือนว่าพวกโซราบอลกับอเมริกาจะทำข้อตกลงอะไรกันบางอย่างนะ
“ว่าแต่ เราจะเอายังไงต่อดีครับ”
ลอเรนซ์ : ฉันจะไปช่วยพวกของฉันออกมา
พวกอเมริกันจะซักแค่ไหนกันเชียว
“ตอนนี้กองเรือของพวกมันมีเรือที่ดีกว่าเรานะครับ”
ลอเรนซ์ : ฉันมีวิธีจัดการพวกมัน
ทำตามที่ฉันบอกก็แล้วกัน รีบจัดกำลังคนขึ้นเรือด่วนเลย
เธอรีบเกณฑ์คนขึ้นเรือจากนั้นก็เตรียมออกเดินทางช่วยเหลือคนของเธอที่โดนจับไป
ที่ท่าเรือลับแถบชายแดนแคว้นเดลล์ ริงก้า
หลังจากที่เรือขนอาวุธมาเทียบท่า คนงานท่าเรือก็รีบขนอาวุธทุกอย่างลงจากเรือทันที
ก่อนที่ทหารรัสเซียจะตามมาเจอพวกเขา
“คุณอเล็กซ์สกี้ครับ
อาวุธที่คุณต้องการมาถึงแล้วครับ”
อเล็กซ์สกี้ : ดีมาก
ขนไปไว้ยังภูเขานาร์ท่า ถ้าพวกนายทำได้ ฉันจ่ายไม่อั้น
“แล้วเรือพวกนี้จะทำยังไงต่อหล่ะครับ”
อเล็กซ์สกี้ : จมเรือทิ้งซะ
ทำลายหลักฐานให้หมด
“ได้ครับท่าน”
กลับมายังสถานทูตอังกฤษในแคว้นเดลล์
หลังจากที่นายพลจอร์จมาถึง เขาหัวเสียเดินเข้าไปยังสถานทูตเพื่อขอพบกับทุกคนในนั้น
แต่ในตอนนั้นเอง ก็มีเหล่าบรรดานายพลอังกฤษกำลังรอเขาอยู่พอดี
“ท่านนายพล ผมกำลังรอท่านอยู่พอดีเลย”
จอร์จ : ผมหน่ะสิเป็นฝ่ายที่ต้องตามหาพวกท่าน
นี่มันเรื่องอะไรกันครับ
“ท่านนายพล ใจเย็นๆ มีอะไรค่อยๆพูดกันก็ได้”
จอร์จ : งั้นเหรอ
ที่พวกคุณส่งผมไปฆ่าชาวบ้านบนเกาะนั้น จะว่ายังไงครับ
“ทางเราก็ได้รับรายงานมาว่า
คุณปราบโจรสลัดไม่สำเร็จ คุณจะว่ายังไงครับ”
จอร์จ : งั้นเหรอครับ
// นายพลจอร์จหัวเสียไปหยิบของที่อยู่ในห่อมาเขวี้ยงใส่พวกเขา
จอร์จ : ใช่ครับ
นี่คืออาวุธของพวกมัน มีแต่มีด ขวาน กับธนูล่าสัตว์ พวกมันน่ากลัวจริงๆครับ
“นี่ ท่านนายพล อย่ามาล้อเล่นกับพวกเรานะ”
จอร์จ : งั้นเหรอ
พวกคุณวางแผนอะไรอยู่กันแน่ แต่อย่าให้ผมรู้ก็แล้วกัน
ไม่งั้นผมอาจจะยิงพวกคุณทุกคนให้ตายตรงนี้เลยก็ได้ // จากนั้นเขาก็เดินจากไป
กลับมายังชายแดนแคว้นฟิลล์บอน ครอบครัวของโคน่ากำลังเบียดเสียดกับชาวบ้านแถวนั้นเพื่ออพยพไปยังแคว้นริงก้า
ขบวนผู้อพยพมีเป็นจำนวนมากและเบียดเสียดกันพยายามจะเข้าไปยังเขตของริงก้าให้ได้
คาลิมบ่า : โอ้ย
คนเยอะขนาดนี้เราจะเข้าไปได้ไงหล่ะเนี่ย
ในตอนนั้นเอง คาเนสก็พาขบวนของพวกเขาลัดไปอีกทางหนึ่ง
เพื่อเข้าไปยังเส้นทางพิเศษที่เตรียมไว้
“เดี๋ยวก่อน พวกคุณเป็นใครกัน” ทหารริงก้าคนหนึ่งห้ามเอาไว้
คาเนส : ผมชื่อคาเนส
ผมเป็นเพื่อนกับอาร์เทอร์ คุณน่าจะรู้จักนะ
“สวัสดีครับ เชิญทางนี้เลยครับ” ทหารริงก้าเปิดทางให้ครอบครัวของคาเนสเดินทางเข้าไปยังริงก้าได้อย่างสะดวกโยธิน
โคน่า : โหว
พี่คะ พี่รู้จักท่านนายพลอาร์เธอร์ด้วยเหรอคะ
คาเนส : แน่นอน
พี่กับเขาเราทำงานด้วยกันหน่ะ
ดราโก้ : ว่าแต่
ตอนนี้ท่านนายพลจะเป็นยังไงบ้างหล่ะเนี่ย
อาร่า : ได้ยินว่าตอนนี้อาร์เทอร์กำลังทำศึกอยู่นี่คะ
อาเรีย : แต่ว่า
ตอนนี้เท่าที่ได้ข่าวมา ท่านนายพลจัดการกลุ่มกบฏได้หมดแล้วนะคะ
อาเรียส : แบบนี้ก็ดีหน่ะสิ
อย่างน้อยก็น่าจะพอสู้กับโซราบอลได้นะ
โคน่า : นี่
คาลิมบ่า ตอนนี้คนของเราที่ห้องแล็ปเป็นยังไงบ้างเนี่ย
คาลิมบ่า : ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ก็มาอยู่กับเราหมดแล้ว
ตอนนี้ห้องแล็ปเรากำลังว่างเลย
อาร่า : ว่าแต่
ลูกจะกลับมาเปิดห้องแล็ปที่นี่หรือเปล่าจ๊ะ
โคน่า : แน่นอนค่ะ
หนูไม่หยุดง่ายๆแค่นี้หรอก
ดราโก้ : พ่อว่า
เอาไว้ถึงซอร์มก่อน แล้วค่อยว่ากันดีกว่านะ
คาเนส : ผมเตรียมบ้านใหญ่ให้เราแล้วครับ
น่าจะพออยู่กันได้ซักระยะ
อาเรียส : นี่พี่
แล้วพี่ไม่ไปทำงานอะไรของพี่งั้นเหรอ
คาเนส : เดี๋ยวรอพี่เจอกับนายพลอาร์เทอร์เขาก่อนสิ
แล้วพี่จะคุยกับเขาเอง
และอีกด้านหนึ่งของแคว้นเดลล์
อาร์เทมิสได้นำกำลังพลของเธอเดินทางไปเรื่อยๆเพื่อขอเข้าพบกับนายพลอาร์เทอร์
ในตอนนั้นเองเธอก็เคลื่อนทัพมายังเมืองซอร์มแล้ว
เธอจึงสั่งให้ทหารของเธอตั้งค่ายอยู่แถวนั้นไปก่อน
เพื่อที่เธอจะไปเจรจากับนายพลอาร์เธอร์อีกครั้ง
อาร์เทมิส : ฉันต้องการพบท่านนายพลอาร์เทอร์
เขาอยู่หรือเปล่า
“ตอนนี้ท่านนายพลกำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับท่านเลดี้”
อาร์เทมิส : ธุระอะไรงั้นเหรอ
พอจะบอกฉันได้หรือเปล่า
“ผมได้ยินว่าทายาทของท่านนายพลเตเวียสกลับมาแล้วครับ”
อาร์เทมิส : ห่ะ
เนม่าเธอกลับมาแล้วงั้นเหรอ
“ไม่ใช่ครับ เป็นผู้ชายครับ
ท่าทางเหมือนนายพลเตเวียสไม่มีผิดเลยครับ”
อาร์เทมิส : เอ๊ะ
ฉันไม่ยักรู้มาก่อนแหะว่าท่านนายพลมีลูกชายด้วย เอาเป็นว่าฉันจะรอก็แล้วกันนะ
“ครับผม”
อาร์เทมิส : ลูกชายท่านเตเวียสจะเป็นยังไงกันน้า
อยากรู้จริงๆเลย
กลับมายังแคว้นบาส์ก ในขณะนั้นเองที่โรสและเพื่อนพากันเก็บของขึ้นเรือเพื่อกลับไปที่บ้านพัก
ในตอนนั้นเองสกายกับอาร์มเมอร์ก็บังเอิญมาเห็น แล้วก็เข้ามาหาพวกเธอทันที
โรส : อ้าว
สวัสดีค่ะพวกคุณทั้งสองคน
แพท : เอ๊ะ
นี่พวกนาย จะมาทำไมอีกหล่ะเนี่ย
อาร์มเมอร์ : ก็แค่ผ่านมาหน่ะ
เลยมาดู ให้ฉันช่วยมั้ย
เมด : นี่
ไม่ต้องเลยย่ะ ฉันทำเองได้
สกาย : พวกเธอจะแบกทั้งหมดยังไงหล่ะ
เอามานี่ // สกายกับอาร์มเมอร์ช่วยพวกผู้หญิงแบกปลาขึ้นเรือ
จากนั้นพวกผู้หญิงก็ช่วยเหลือพวกเขาด้วย
เมด : ขอบใจนะ
ว่าแต่พวกนายไม่มีงานทำกันเหรอ
สกาย : ไม่อ่ะ
วันนี้พวกฉันแค่ลาดตระเวนแถวนี้เองหน่ะ
อาร์มเมอร์ : ว่าแต่
พวกคุณกำลังจะไปไหนกันงั้นเหรอ
โรส : อ้อ
เรากำลังจะกลับบ้านเราที่เกาะตรงนั้นค่ะ
แพท : ใช่
พวกนายไปได้แล้วย่ะ หมดหน้าที่แล้วนี่
สกาย : ฉันอยากไปเที่ยวเกาะของเธอหน่อย
พาฉันไปที
เมด : ห่ะ
นี่มันอะไรกัน คิดจะแกล้งฉันงั้นเหรอ
โรส : ถ้าพวกคุณอยากไปก็ขึ้นเรือมาเลยค่ะ
แพท : ทำไมฉันต้องให้พวกนายไปด้วยหล่ะ
อาร์มเมอร์ : ก็ถือเป็นค่าตอบแทนที่ฉันช่วยพวกเธอยังไงหล่ะ
ทั้งคู่กัดฟันให้ทหารทั้งสองคนขึ้นเรือ
จากนั้นโรสก็พาพวกเขาออกเดินทางไปยังเกาะของเธอทันที
กลับมายังเมืองซอร์ม พระราชวังหลวง
เป็นวันที่เหล่าบรรดานายทหารระดับสูงของริงก้าถูกเรียกมารวมตัวกัน
เพื่อเตรียมฉลองตำแหน่งใหม่หลังจากที่ตำแหน่งผู้นำของริงก้าว่างมานานหลังจากที่นายพลเตเวียสเสียชีวิต
วันนั้นเองนอร์ดิกต้องแต่งตัวด้วยเครื่องแบบทหารริงก้า
ในขณะที่ทุกคนก็ได้รับชุดสูทอย่างดีเพื่อเข้าร่วมงานนี้
ไซโซ : เต็มที่เลยนะนอร์ดิก
วันนี้พี่จะรอดูนายเอง
ซอล : เออใช่
ไม่น่าเชื่อเลยนะว่านายจะมาถึงตรงนี้ได้เนี่ยเพื่อน
เคจา : ไปเถอะนอร์ดิก
ด้านนอกกำลังรออยู่นะ // จากนั้นเอง
นอร์ดิกก็เดินออกไปที่ลานพิธีซึ่งนายพลอาร์เธอร์กำลังยืนรออยู่
ส่วนเซเลนส์ก็นำกำลังพลอารักขาอย่างดี
เนม่าเธอเห็นพี่ชายของเธอในชุดที่ดูสง่าก็รู้สึกภูมิใจขึ้นมาทันที
เนม่า : พี่คะ
ในที่สุดพี่ก็มาจนได้นะคะ //
เนม่าพานอร์ดิกไปยังลานพิธี
จากนั้นนายพลอาร์เธอร์ก็เดินไปประกาศกับเหล่าทหารระดับสูงที่มารวมตัวกันในตอนนั้น เมื่อได้เวลา
นายพลอาร์เธอร์ก็ประกาศแถลงการณ์ให้ทหารฟังทันที
อาร์เธอร์ : สวัสดีท่านทั้งหลาย
วันนี้ หลังจากที่ท่านนายพลเตเวียสถึงแก่อสัญกรรม กองทัพโซราบอลกำลังรุกรานไปทั่ว
วันนี้ ผมมีความยินดี ที่เขาคนนี้ นอร์ดิก เขาเป็นทายาทคนเดียวของนายพลเตเวียส
และวันนี้ ผมขอแต่งตั้งให้เขา เป็นผู้นำแห่งแคว้นริงก้า // นายพลอาร์เธอร์มอบหมวกประตำแหน่งให้กับนอร์ดิก
อาร์เธอร์ : หมวกนี้เคยเป็นของพ่อเธอ
อย่าทำให้ท่านผิดหวังหล่ะ
นอร์ดิก : ครับผม
======================================================================
นอร์ดิกได้รับตำแหน่งใหม่เป็นผู้นำแคว้น แต่เส้นทางของเขาจะดำเนินต่อไปอย่างไร ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
ช่วงนี้อาจจะอัพไม่เป็นเวลาต้องขออภัยเน้อ มันยุ่งมากจริงๆ
แต่ยังไงก็ขอคนละเม้นท์ด้วย แหะๆ
ความคิดเห็น