คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 8 : คาสิโน
รถของเวโรนิก้าในตอนนี้ พวกเขาก็ขับเข้ามาในเขตเวกัสเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เดินทางกันต่อ ท่ามกลางแสงสีในลาสเวกัสที่ไม่เคยจาง ผู้คนมากมายพากันมาท่องเที่ยว พวกที่อยู่ในรถก็พากันดูบรรยากาศด้านนอกอย่างตื่นเต้น
“โหว เพิ่งได้มาเห็นจริงๆ ที่นี่สวยมากเลยนะครับ” วอลพูดขึ้น
“แน่นอนพวก ในคาสิโนสวยยิ่งกว่านี้อีก” โรเบิร์ตพูดเสริม
“เออ ว่าแต่ ที่อยู่ที่เธอบอกจะพาไปมันที่ไหนอ่ะ??” ซิลเวสเตอร์ถามคามิลล่า
“ขับไปตรงนั้นอีกหน่อยแล้วกัน” คามิลล่าบอกทางกับเวโรนิก้า
“อืม หาอะไรกินหน่อยมั้ยหล่ะ??” เวโรนิก้าถามไป
“ข้ายังไม่หิวดอก” ไปจื่อตอบ
“แต่ฉันเริ่มหิวนิดๆแล้วหว่ะ” เคนนี่พูดขึ้นมา
“ไม่ต้องห่วง ที่นั่นมีของให้พวกนายกินพอแน่นอน” คามิลล่าตอบ และในขณะเดียวกัน ซิลเวสเตอร์ก็มองโทรศัพท์ของเขาต่อ ในขณะที่ไปจื่อก็สังเกตได้
“เจ้าคุยกับใครงั้นหรือ??” ไปจื่อถามอย่างสงสัย
“คือว่า ยังจำมารีที่เราเจอวันนั้นได้หรือเปล่า มีคนตามล่าเธอ เธอต้องหนีมาหน่ะ” ซิลเวสเตอร์ตอบ
“ทำไมเธอถึงโดนตามล่าหล่ะครับ??” วอลถามอย่างสงสัย
“ไม่แปลกหรอก พวกมือปืน โดนสั่งเก็บได้ทุกเมื่อ เพื่อปิดปาก” โรเบิร์ตตอบ
“ช่างเถอะ ตอนนี้เราคงต้องรีบหาที่พักแล้วหล่ะ” เวโรนิก้าพูดขึ้น
“คงอีกไม่ไกลหรอกมั้งครับ” เคนนี่พูดต่อ และไม่นานนัก พวกเขาก็ขับรถมาถึงตึกหลังหนึ่ง ซึ่งมองดูด้านหน้าก็ดูเหมือนว่าจะเป็นอพาร์ทเมนท์ทั่วไป เวโรนิก้าก็ขับเข้าไปที่ด้านหลัง ซึ่งเป็นลานจอดรถ โดยมีเด็กคนหนึ่งกำลังเฝ้าอยู่ เด็กคนนั้นรีบมาที่รถของเวโรนิก้าในทันที จากนั้นก็มาเคาะที่กระจกรถของเวโรนิก้า เวโรนิก้าเปิดกระจกให้เด็กคนนั้น
“มาทำอะไรครับ??”
“นี่ฉันเอง” คามิลล่าทักทายเด็กคนนั้นไป ก่อนที่เด็กคนนั้นจะเดินออกไป และเวโรนิก้าก็สามารถจอดรถแถวนั้นได้
“โอเค ทุกคน ตามฉันมา แล้วก็ไม่ต้องทำอะไร จนกว่าฉันจะบอกนะ” คามิลล่าพูดขึ้น ก่อนที่เธอจะเดินลงจากรถ และพาคนอื่นๆเดินไปที่ด้านหลังอพาร์ทเมนท์ ไม่นานนัก คามิลล่าก็พาพวกเขามาที่ห้องๆหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นห้องโถงใหญ่
“แอ๊ด!!”
คามิลล่าเปิดประตูเข้ามา เธอก็พบกับมนุษย์คนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าเป็นปลากำลังนั่งอยู่ที่หน้าห้อง มนุษย์ปลาตัวนั้นรีบลุกขึ้นในทันทีเมื่อได้เห็นคามิลล่า
“นึกว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วซะอีก” มนุษย์ปลาพูดขึ้น
“เทอรี่ วาคูลาดอยู่หรือเปล่า??” คามิลล่าถามไป
“อยู่ แต่ตอนนี้กำลังอารมณ์เสียเลย อยากลองเสี่ยงก็ได้นะ” เทอรี่คนนั้นตอบ ก่อนที่เขาจะเปิดประตูให้กับกลุ่มของเคนนี่ คามิลล่าเองก็พาทุกคนเข้าไปด้านในทันที ซึ่งด้านในห้องโถง มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง รวมถึงสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นๆ ตั้งแต่ภูตผี ยักษ์ออร์ก และอีกมากมายในห้อง ทุกคนหันมองกลุ่มของเคนนี่กันเป็นตาเดียว
“เออ เรามาผิดที่หรือเปล่าเนี่ย??” โรเบิร์ตถามไป
“ไม่ต้องกลัวหรอก พวกเราเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว” ซิลเวสเตอร์ตอบ
“ข้าว่า พวกเราอย่ามีเรื่องกับพวกเขาดีกว่า” ไปจื่อพูดปราม
“ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นที่กบดานของพวกที่ไม่ใช่มนุษย์นะครับเนี่ย” วอลพูดขึ้น
“เฮ้ ปืนนายเตรียมพร้อมนะ??” เวโรนิก้าถามเคนนี่ไป
“ไม่ต้องห่วงหรอก อยู่หลังฉันไว้แล้วกัน” เคนนี่ตอบกลับ
“ไม่ต้องทำอะไร ฉันจะคุยเอง” คามิลล่าบอกกับทุกคน
“เฮ้ คามิลล่า นึกว่าจะไม่ได้เจอแล้วซะอีก” เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้น คามิลล่าคุ้นเคยกับเสียงนั้น เธอรีบหันไปทักทายผู้หญิงคนนั้นในทันที ร่างของเธอสีหม่น หูแหลมเหมือนกับเอลฟ์
“วลาเซียน่า สบายดีนะ??” คามิลล่าถามกลับไป และวลาเซียน่าคนนั้นก็เดินเข้ามากอดกับคามิลล่าราวกับว่าพวกเธอทั้งคู่สนิทกันมาก
“เออ เพื่อนเธอเหรอ??” เคนนี่ถามคามิลล่าไป
“อ้อ ใช่ เธอเป็นดาร์กเอลฟ์หน่ะ หนีมาจากโลกเวทย์มนต์ หลังจากที่สหประชาชาตินำกำลังบุกดินแดนเวทย์มนต์หน่ะ” คามิลล่าตอบไป
“พวกเราทุกคนก็หนีมานั่นหล่ะค่ะ พวกคุณเป็นใครกัน เพื่อนใหม่คามิลล่าเหรอ??” วลาเซียน่าถามกลับไป
“ใช่ขอรับ พวกเรารู้จักกับเธอหน่ะ กระผมไปจื่อ” ไปจื่อพูดขึ้น
“ผมซิลเวสเตอร์ครับ”
“ฉันเวโรนิก้า นี่เคนนี่”
“กระผมวอลครับ” และไม่นานนัก โรเบิร์ตเองก็ทำเสียงหล่อ จากนั้นก็ยื่นมือไปจับกับวลาเซียน่าในทันที
“ผมโรเบิร์ตครับ” เขาพูดขึ้น วลาเซียน่าเองก็จับมือกับเขาตอบด้วย
“เออ หน้าคุณไปโดนอะไรมาเหรอคะ??” วลาเซียน่าถามโรเบิร์ตไป
“เอาไว้ถ้าเราสองคนอยู่ด้วยกัน ผมจะเล่าทุกอย่างเองครับ” โรเบิร์ตตอบ และในขณะเดียวกัน จู่ๆ กลุ่มของเคนนี่ก็สัมผัสได้ถึงไอพลังอะไรบางอย่าง ทุกคนในห้องนั้นถึงกับหยุดและเงียบ ทำเอาตัวของเคนนี่ถึงกับต้องชักปืนออกมา คามิลล่าเองก็ห้ามทุกคนเอาไว้
“อย่า ฉันคุยเอง” คามิลล่าพูดขึ้น และในตอนนั้น ชายใส่ผ้าคลุมดำคนหนึ่งก็วาร์ปเข้ามาหาคามิลล่าอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“นึกว่าเธอจะไม่กลับมาอีกแล้ว..” เสียงนั้นดูต่ำและน่ากลัว แม้แต่พวกของเคนนี่เองก็ยังเกรงกลัวเล็กน้อย
“วาคูลา ฉันมีอะไรต้องทำในเวกัสนิดหน่อย แล้วนี่ก็พวกเพื่อนๆของฉัน” คามิลล่าพูดขึ้น ก่อนที่วาคูลาคนนั้นจะหันไปยังเคนนี่ จากนั้นก็เดินเข้าไปหาเขา
“ไปรู้จักกับเธอได้ยังไงกันหล่ะ??” วาคูลาถามเคนนี่
“พวกเราเจอเธอโดนตามล่า เราช่วยเธอเอาไว้หน่ะครับ” เคนนี่ตอบ
“แล้วท่านเป็นอะไรกับนางงั้นหรือ??” ไปจื่อถามไปตรงๆ วาคูลาคนนั้นเองหันหน้าไปทางไปจื่อในทันที
“เราเคยทำงานด้วยกันหน่ะ นานมากแล้วที่ไม่ได้เจอพวกที่เทพสร้างมาแบบเจ้า” วาคูลาพูดขึ้น ทำเอาทุกคนถึงกับแปลกใจมาก โดยเฉพาะไปจื่อเองที่พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ทำหน้าสงสัย
“หือ จำอดีตตัวเองไม่ได้งั้นสินะ??” วาคูลาพูดต่อ
“แล้ว พวกลุงกำลังทำอะไรที่นี่ครับ??” ซิลเวสเตอร์ถามไป
“เจ้านี่กล้าถามจริงๆนะ ก็อย่างที่วลาเซียน่าบอก พวกเราหนีการตามล่าจากพวกผู้ใช้เวทย์ รวมถึงรัฐบาลของพวกมนุษย์โลกหน่ะ” วาคูลาตอบ
“ความจริง พวกเราเองก็หนีการตามล่าจากพวกมันเหมือนกันครับ” วอลพูดขึ้น
“แล้ว พวกลุงอยู่ที่นี่ได้ไงตั้งหลายปีเนี่ย??” เวโรนิก้าถามอย่างสงสัย
“พวกเราเก่งไง สาวน้อย ไม่มีใครกล้าเปิดโปงพวกเราได้” วาคูลาตอบ ก่อนที่ตัวของวาคูลาจะเดินกลับไปหาเคนนี่ต่อ ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจในตัวของเคนนี่
“ในตัวของนาย มีพลังเวทย์มนต์ที่ฉันคุ้นเคย” วาคูลาพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เขาจะใช้มือของเขาจะโจมตีเคนนี่ เคนนี่เองก็รีบชักปืนออกมา แล้วยิงออกไป
“ปัง!!”
ลูกปืนเวทย์มนต์ของเคนนี่พุ่งออกไปหยุดกรงเล็บของวาคูลาเอาไว้ ตัวของวาคูลาแปลกใจมาก แต่เขาก็สลัดกระสุนของเคนนี่ทิ้งลงกับพื้น
“ไอ้หนุ่ม ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกับนาย??” วาคูลาถามเคนนี่ไป
“ถ้าเรื่องเวทย์มนต์ มีตาแก่คนนึงช่วยผมเอาไว้ แล้วสอนให้ผมใช้เวทย์มนต์ แต่ชื่ออะไรผมไม่รู้หรอก” เคนนี่ตอบ ก่อนที่วาคูลาจะเสกมนต์เพื่อเผยให้เห็นภาพอะไรบางอย่าง เป็นภาพของชายแก่คนหนึ่ง เคนนี่มองอยู่ซักพักแล้วพูดขึ้น
“เฮ้ย ตาแก่คนนั้นนี่!!” เคนนี่พูดขึ้น วาคูลาเองก็ตกใจมาก ก่อนที่ไม่นานนัก เขาจะพูดขึ้น
“ผู้เฒ่าเคอร์เก้ เออ คามิลล่า เธอกับเพื่อนอยู่ที่นี่ไปก่อน ฉันอยากจะคุยอะไรกับนายคนนี้หน่อย” วาคูลาพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเขาจะเรียกให้เคนนี่ไปคุยอะไรบางอย่างกับเขา
“เฮ้ ฉันจะพาไปหาห้องให้นะ เธออยู่ห้องเดิมเธอได้หรือเปล่า??” วลาเซียน่าถามคามิลล่า
“อืม ยังไงก็ได้ แล้วมีห้องให้เพื่อนๆฉันหรือเปล่าหล่ะ??” คามิลล่าถามไป
“มีอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง ตามฉันมาเลย” วลาเซียน่าพูดกับทุกคน
ณ ห้องพักห้องหนึ่ง ซึ่งวาคูลาเองได้พาเคนนี่มานั่งคุยในห้อง ในห้องของเขาตกแต่งราวกับปราสาทในยุคกลาง บรรยากาศแอบจะวังเวง และที่กลางห้องก็มีโลงศพขนาดใหญ่ใบหนึ่งตั้งเอาไว้ที่กลางห้องด้วย
“ฉันติดนอนในโลงแบบนี้มานาน หยุดไม่ได้แล้วหล่ะ ไม่ต้องแปลกใจ” วาคูลาพูดขึ้น
“คุณต้องการพูดอะไรกับผมหล่ะ??” เคนนี่ถามวาคูลา
“ฉันแค่อยากรู้นิดหน่อย อยากดื่มอะไรมั้ย มีไวน์นะ??”
“ไม่หล่ะครับ ผมยังไม่อยากดื่มตอนนี้” เคนนี่ตอบไป
“อืม เข้าใจได้” วาคูลาพูดขึ้นและนั่งเก้าอี้เอนหลังตัวหนึ่งในห้องไปด้วย
“แล้ว คุณอยากรู้อะไร แล้วลุงรู้จักตาแก่นั่นด้วยเหรอครับ??” เคนนี่ถามวาคูลาไป
“รู้เหรอ ฉันเคยต่อสู้ร่วมกับเขา ในตอนนั้น เขาถูกใส่ร้ายว่าร่วมมือกับพวกเทพปีศาจเพื่อยึดครองดินแดนเวทย์ ข้ากับเขาช่วยต่อสู้และหนีออกมา” วาคูลาตอบ
“เทพปีศาจ แต่จะว่าไป งานของผมก็คือตามสืบหาตัวของเทพปีศาจตัวนึง ได้ยินว่าชื่อมาเรียน่าอะไรนี่หล่ะ” เคนนี่พูดขึ้น ก่อนที่วาคูลาเองจะหูผึ่งอีกรอบ แล้วพูดขึ้น
“ใครว่าจ้างนายงั้นเหรอ??”
“ผมไม่รู้ มันมาตอนที่พวกผมไม่ทันตั้งตัว มันยื่นข้อเสนอให้ผม แลกกับมันจะให้ข้อมูลกับผม เรื่องไอ้ผู้กำกับเซ็นทอร์หน่ะ มันเป็นคนทรยศหน่วยของผม ทำให้ผมต้องโดนเด้ง ผมเคยเป็นตำรวจหน่ะครับ” เคนนี่ตอบไป
“อ้อ แก้แค้นส่วนตัวงั้นเหรอ ผู้เฒ่าเคอร์เก้ยอมช่วยนายโดยการให้พลังเวทย์มนต์ของเขาเลยงั้นเหรอ อืม..” วาคูลาพูดขึ้น
“แล้ว ทำไมผู้เฒ่าคนนั้นเขาถึงหนีออกมาหล่ะครับ??” เคนนี่ถามวาคูลาไป
“เขาเป็นคนเดียวที่ไม่เห็นด้วยที่จะกักขังกลุ่มเทพปีศาจเอาไว้หน่ะ” วาคูลาตอบ
“เอาเถอะครับ ตอนนี้ผมสนแค่งานของผม” เคนนี่พูดขึ้น
“งั้นเหรอ งั้นเล่าเรื่องเจ้าให้ข้าฟังหน่อยสิ” วาคูลาพูดกับเคนนี่
“ผมก็แค่อดีตตำรวจ ไอ้พวกเคอาร์ รู้สึกว่าหัวหน้ามันชื่อดูเรอเต้ มันคงจะร่วมมือกับไอ้ผู้กำกับเซ็นทอร์ หลอกให้เพื่อนของผมไปตาย แล้วมันก็โยนความผิดให้ผม..” เคนนี่ยังเล่าไม่ทันจบ ในตอนนั้นวาคูลาก็พูดขึ้น
“ดูเรอเต้งั้นเหรอ ฉันว่าฉันรู้จักมันนะ แต่ว่ามันหักหลังฉัน ฉันตามล่ามันมานาน ที่แท้มันทำงานกับไอ้ตำรวจกังฉินนั่น” วาคูลาพูดขึ้น
“ตอนนี้ผมกำลังตามสืบเรื่องของมันอยู่ ถ้าจับมันได้ ผมอาจจะได้ข้อมูลเพิ่มก็ได้ และไอ้คนที่มันว่าจ้างผม มันอาจจะรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ได้” เคนนี่พูดขึ้น
“อืม เข้าใจหล่ะ นายมาเหนื่อยๆ กลับไปพักก่อนเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะคุยต่อ กับเพื่อนๆของนายด้วย” วาคูลาพูดขึ้น
“ครับ ขอบคุณมากครับ” เคนนี่ตอบกลับวาคูลาไป
ณ ห้องพักของกลุ่มเคนนี่ วลาเซียน่าได้พาพวกเขาเข้ามาพักบริเวณห้องใกล้ๆกับห้องเดิมของคามิลล่า โดยที่ห้องพักของพวกเขาดูจะไม่ค่อยหรูหราเท่าไหร่ แต่มันก็ทำให้พวกเขาพออยู่ได้
“โอเค พวกนายพออยู่ที่นี่ได้นะ??” วลาเซียน่าถามไป
“อ้อ แน่นอนครับ มันดีกว่าที่ผมคิดซะอีก” โรเบิร์ตทำเสียงหล่อตอบกลับเธอ
“เฮ้ นายคิดอย่างที่ฉันคิดหรือเปล่า??” ซิลเวสเตอร์สะกิดถามไปจื่อ
“แน่นอน ข้ารู้ในใจของเขา” ไปจื่อตอบ
“ว่าแต่ คุณเคนนี่ไปไหนหล่ะครับ??” วอลถามอย่างสงสัย
“เดี๋ยวเขาคงกลับมาหล่ะ เขาคงไม่เป็นไรหรอก” เวโรนิก้าตอบ
“ใช่ คุณวาคูลา ถ้าจะทำก็ทำตรงนั้นเลย ไม่เคยหลอกล่อใคร” คามิลล่าพูดเสริม และไม่นานนัก เคนนี่ก็เดินเข้ามาหาพวกเขาทุกคน เวโรนิก้ารีบเดินเข้าไปหาเคนนี่ในทันที
“เคนนี่ เป็นยังไงบ้าง??”
“ไม่เป็นไร แค่สอบถามอะไรนิดหน่อยหน่ะ เราจะช่วยคุณวาคูลาสืบเรื่องของไอ้ดูเรอเต้ด้วย” เคนนี่ตอบไป
“ไอ้ดูเรอเต้ ไอ้ระยำนั่น ฉันตามล่ามันมานานมาก แต่มันก็หลบหนีไปได้ทุกที” วลาเซียน่าพูดต่อ
“เออ มันนี่เองที่จัดการกับเพื่อนของนาย เคนนี่??” คามิลล่าถามเคนนี่ เคนนี่เองก็พยักหน้าตอบ
“แล้วมีข่าวอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับไอ้นั่นบ้างหล่ะครับ??” เคนนี่ถามอย่างสงสัย
“ฉันส่งสายของฉันออกไปตามสืบมัน ได้ข่าวว่าตอนนี้มันกำลังทำงานให้ตำรวจคนหนึ่ง..” วลาเซียน่าพูดขึ้น แต่ในขณะเดียว ค้างคาวตัวหนึ่งก็บินมาเกาะที่ไหล่ของวลาเซียน่า จากนั้นเธอก็พูดขึ้น
“โอเค ไอ้ระยำนั่นมันเผยตตัวออกมาอีกแล้ว มันกลับเข้ามาในเวกัส” วลาเซียน่าพูดขึ้น
“ห่ะ มันกล้ากลับมาถิ่นเดิมมันเลยเหรอครับ??” ซิลเวสเตอร์ถามไป
“ข้าว่า เขาต้องมั่นใจว่าเขาปลอดภัย” ไปจื่อพูดต่อ
“ว่าแต่ มันอยู่ที่ไหนหล่ะครับ??” โรเบิร์ตถามไป
“สายของฉันรายงานมาว่า มันไปพักอยู่ที่โรงแรมคาสิโนของแองเจลโล่หน่ะ” วลาเซียน่าพูดขึ้น
“งั้นเราก็บุกเข้าไปในนั้นเลยสิ” เวโรนิก้าพูดขึ้น
“ฆ่าตัวตายชัดๆ แองเจลโล่เป็นขาใหญ่ของเวกัส ไปทำอะไรแบบนั้น ไม่ดีแน่ๆ” วลาเซียน่าพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ พวกเราพอจะมีวิธี เราจะแอบเข้าไปข้างใน และจัดการกับมันเงียบๆครับ” เคนนี่ตอบ
“ที่นั่นเป็นคาสิโนไฮเอ็น จะเข้าไปต้องมีเงินเล่นนะ” วลาเซียน่าพูดขึ้น
“พวกเราพอจะมีเงินอยู่ ไม่ต้องห่วง” ซิลเวสเตอร์ตอบ
“อืม แต่เราจะโกงพนันที่นั่นเหรอ??” ไปจื่อถามไป
“ฉันเคยได้ยินว่าใครที่โกงพนันที่นั่น ศพไม่สวยซักคน” วลาเซียน่าพูดต่อ
“ถ้าอย่างงั้น ก็คงต้องรบกับพวกมันสินะ” คามิลล่าพูดขึ้น
“ทุกคนไม่ต้องห่วง ฉันมันเซียนพนัน ฉันจะบอกทุกคนเองว่าต้องทำยังไงถึงจะไม่มีใครสงสัยเรา” โรเบิร์ตพูดขึ้น
“ก็คงต้องใช้วิธีเดิมๆหล่ะนะครับ” วอลพูดขึ้น
“โอเค เราคงต้องปลอมตัวเข้าไป เงินเรายังพอมี เราจะใช้ทุกแดงกับงานนี้ แต่ถ้าเกิดว่าทุกอย่างพัง ก็ลุยเละ” เวโรนิก้าพูดขึ้นมา
“ถ้าอย่างงั้นฉันจะไปกับพวกเธอด้วย” วลาเซียน่าพูดขึ้น
“นี่เธอ เอาจริงเหรอ??” คามิลล่าถามไป
“อ้อ ไม่ต้องห่วง อยู่หลังผมไว้แล้วกันครับ” โรเบิร์ตทำเสียงหล่อกลับไป
“โอเค ถ้าอย่างงั้นเราคงต้องเตรียมพร้อมแล้วหล่ะ” เคนนี่บอกกับทุกคน
กลับมายังตึกสำนักงานของสภาจอมเวทย์ ในตอนนี้จีโอเดินเข้ามาในห้องทำงานของเอ็นวาด้วยหน้าตาตื่นเล็กน้อย โดยที่เจ้าหน้าที่ผ้าคลุมขาวระดับสูงคนอื่นๆก็มารออยู่ที่ห้องทำงานของเอ็นวา และเมื่อจีโอมาถึง เขาเรียกจีโอมาคุในทันที
“ท่านคะ ได้ข่าวเทนเนอร์หรือยังคะ??” จีโอถามไป
“อืมเพิ่งได้ข่าวเมื่อกี้นี้เอง ไหนจะข่าว หน่วยของเราก็โดนเล่นงานที่นิวยอร์ก ไหนจะผู้เฒ่าซาลาซาร์ที่โดนเล่นงานอีก” เอ็นวาพูดขึ้น ทำเอาจีโอตกใจมาก
“ห่ะ ท่านซาลาซาร์โดนแล้วเหรอคะ??” จีโอถามอย่างตกใจ
“ใช่ ฉันเพิ่งรู้เมื่อกี้นี่เอง” เอ็นวาตอบ
“แต่ว่า มันเป็นฝีมือใครหล่ะครับ??” สมาชิกคนหนึ่งถามไป
“สายของผมรายงานมาว่า พวกเทพปีศาจจัดการพวกเทนเนอร์ ส่วนหน่วยเยเกอร์หน่วยหนึ่งของเราในนิวยอร์ก โดนพวกไอ้โครวี่เล่นงาน แต่ท่านซาลาซาร์ เรายังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใครครับ” ชายชุดคลุมขาวคนหนึ่งพูดขึ้น
“ถ้ามันทำกับเทนเนอร์ได้ มันก็ทำกับคนอื่นได้นะครับ”
“แต่ว่า เทนเนอร์ก็มีกำลังของ Magic Hunt ไปด้วยตั้งเยอะ แปลว่าพวกเทพปีศาจมันต้องเตรียมการไว้ก่อนแล้ว” จีโอออกความเห็น
“ตอนนี้เราต้องจัดการกับพวกเทพปีศาจนั่นก่อน ไม่อย่างงั้น พวกเราตายกันหมดแน่” เอ็นวาพูดกับทุกคนไป
กลับมายังฐานที่มั่นของกองกำลังโกเทย์ หลังจากที่พวกเขาต่อสู้กับกองกำลังของมิไรและปะทะกับตัวมิไร พวกเขาก็กลับมาคุยกันต่อ
“ดูเหมือนว่ามิไรมันจะมีดีกว่าที่เราคิดนะเนี่ยตอนนี้” เรียวเฮพูดขึ้น
“ใช่ ดูเหมือนว่ามันจะมีพลังมากกว่าช่วงแรกที่คุณอาคุมะเจอกับมันนะเนี่ย” หู่ลงพูดขึ้น
“ระยำเอ้ย อย่าให้เจออีกแล้วกัน ไม่งั้นฉันจะขยี้หัวมันแน่” โซเร็นพูดอย่างเจ็บแค้น
“นี่ ขนาดท่านอาคุมะยังสูสีกับมันเลย” เลโอนาร์ดพูดปราม
“ลอบยิงมันไปเลยก็สิ้นเรื่อง” วาจจิน่าพูดขึ้น
“เฮ้อ ถ้ามันง่ายขนาดนั้น หมอนั่นคงตายไปนานแล้วหล่ะ” วาซิริสต์ตอบ
“ดาบของมันร้ายกาจนัก ด้านคมเป็นโลหะพิเศษ ส่วนด้านสันเป็นทองแดง แถมพลังเวทย์มนต์ในการควบคุมโลหะทุกอย่าง” อาคุมะพูดขึ้น
“แล้วเราจะเอายังไงต่อหล่ะ??” เรียวเฮถามไป
“มีทางเดียว เราต้องบั่นทอนกองกำลังของมัน” อาคุมะตอบ
“พวกมันก็คงต้องคิดแบบนี้เหมือนกัน ตอนนี้กลายเป็นคำถามที่ว่า ใครจะอ่อนแอและหมดแรงก่อน” วาซิริสต์พูดขึ้น
“อืม เรื่องนี้ฉันก็คิดอยู่” อาคุมะตอบ
“หรือว่าพวกเราจะไปจัดการพวกเทพปีศาจนั่นก่อนหล่ะ??” โซเร็นถามไป
“ขนาดกับไอ้มิไร เรายังทำอะไรมันแทบไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงพวกเทพปีศาจเลย” เลโอนาร์ดตอบ
“บางที เราปล่อยให้พวกนั้นเป็นหน้าที่ของพวกผ้าคลุมขาวดีกว่า” หู่ลงพูดขึ้น
“โห แบบนั้นมันไม่เจ๋งเลย” วาจจิน่าพูดอย่างอารมณ์เสีย
“มันต้องมีโอกาสให้เราจัดการบ้างสิ” อาคุมะพูดต่อ และในขณะเดียวกัน นกพิราบส่งข่าวตัวเดิมก็บินเข้ามาหาอาคุมะ จากนั้นมันก็มารายงานอะไรบางอย่าง
“แย่แล้วๆ ตอนนี้ท่านผู้เฒ่าซาลาซาร์โดนโจมตีครับ!!
“ห่ะ อะไรกัน ฝีมือใครกันหล่ะ??” อาคุมะถามอย่างตกใจ
“เรายังไม่ทราบครับ แต่ว่า หน่วยเยเกอร์ของกองกำลังผ้าคลุมขาวก็โดนโจมตี พวกมันฆ่าจอมเวทย์ระดับสูงไปด้วยครับ” นกพิราบตัวนั้นพูดต่อ
“แปลว่าพวกมันเริ่มเดินเกมแล้วสินะ” วาซิริสต์พูดขึ้น
“แต่ว่า การเจรจาระหว่างสภาจอมเวทย์กับรัฐบาลของพวกมนุษย์ ตอนนี้กำลังจะเริ่มครับ” นกพิราบพูดต่อ
“เฮ้อ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพวกนั้นจะรักษาสัญญา” หู่ลงพูดขึ้น
“พวกเราก็เหมือนกัน” โซเร็นพูดติดตลก
“เฮ้อ ตลกตายโหงแหละ!!” วาจจิน่าพูดต่อ
“เฮ้ ใจเย็น นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ” เลโอนาร์ดพูดขึ้น
“พวกสภาจอมเวทย์จะเอายังไงก็เอาเถอะ” เรียวเฮพูดขึ้น
“ถ้าอย่างงั้นก็ต้องเตรียมลุยแล้วหล่ะ” อาคุมะบอกไป
“ถ้าอย่างงั้นข้าไปก่อนหล่ะ ข้ามาบอกแค่นี้แหละ” นกพิราบตัวนั้นพูดขึ้น ก่อนที่มันจะบินออกไปอย่างรวดเร็ว
“แล้วนี่ เราจะลุยที่ไหนต่อหล่ะ??” เรียวเฮถามไป
“ฉันจะลุยกับไอ้มิไรมันก่อน เอาตามที่ว่า พวกเราจะจัดการกับพวกลิ่วล้อของมัน แต่ถ้าเจอพวกเทพปีศาจ หรือพวกผู้ใช้เวทย์กลุ่มอื่น ก็ถือว่าเป็นของเล่นฆ่าเวลาแล้วกัน” อาคุมะพูดขึ้น
“ว่าไงว่าตามกันเลย” เรียวเฮพูดต่อ
กลับมายังฐานที่มั่นของกองกำลัง Magic Hunt หลังจากที่พวกเขาทำการเค้นความลับจากหัวหน้าแก๊ง Izzy ได้แล้ว ในตอนนี้พวกเขาก็สามารถลักพาตัวชาร์ลี คนที่เป็นนายหน้าของคนในรัฐบาลและติดต่อกับแก๊งต่างๆ ชาร์ลีคนนั้นโดนปิดตา และได้แต่ตะโกนด่าคนที่จับเขามา
“เฮ้ย พวกมึง จับกูมาทำไมวะ มึงรู้เปล่ากูลูกน้องใคร??”
“รู้สิ ถ้าไม่รู้พวกเราจะจับมาเหรอ??” โยมิถามกลับไป
“ถ้ามึงรู้ว่ากูเป็นใครก็ปล่อยกูสิวะ!!” ชาร์ลีพูดต่อ แต่เอเตียนก็ต่อยหน้าของชาร์ลี
“ตุ๊บ!!”
“กูไม่ปล่อย มีอะไรมั้ย??” เอเตียนถามไป
“บาๆบูๆบับๆ” อันจิพูดต่อ
“ระยำเอ้ย มึงจะเอายังไงกับกูวะ??” ชาร์ลีคนนั้นถามต่อ
“คือว่า พวกเราอยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับคนที่คุณทำงานให้ค่ะ” ไอจังพูดต่อ
“ใช่ ถ้านายยอมบอกดีๆ คนของฉันอาจจะเบามือกับนายก็ได้นะ” โยมิพูดขึ้น
“เออๆๆ อะไรวะ??” ชาร์ลีถามไป
“เฮ้ย พูดดีๆสิวะ!!” เอเตียนตะโกนออกมา
“ใจเย็น เรารู้มาจากหัวหน้าแก๊ง Izzy มันบอกมา ว่าแกหน่ะทำงานกับมัน ฉันอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมของคนในรัฐบาลหน่ะ” โยมิพูดต่อ
“แม่ง ไอ้ระยำเอ้ย!!” ชาร์ลีสบถออกมา
“นี่ ไม่ได้ให้ด่ามัน แค่อยากรู้ข้อมูลเพิ่ม” อันจิบอกกับชายคนนั้น
“เอ้า นึกว่าพูดไม่รู้เรื่องซะอีก ฉันทำงานให้ สส.จาค็อปหน่ะ” ชาร์ลีตอบ
“จาค็อป อ้อ ฉันว่าฉันรู้จักนะคะ” ไอจังพูดขึ้น
“ว่าแต่ ไอ้ระยำนั่นมันมีแผนอะไรหรือเปล่า??” โยมิถามมันต่อ
“พวกนั้นต้องการยึดอำนาจหน่ะ อีกไม่นาน เดี๋ยวพวกกลุ่มจอมเวทย์กับพวกฉันก็จะสงบศึกแล้ว” ชาร์ลีคนนั้นตอบ
“เรื่องนั้นฉันไม่อยากรู้หรอก ฉันอยากรู้ว่าไอ้จาค็อปมันรู้อะไรบ้าง??” โยมิพูดต่อ
“ก็ไปถามมันเองดิ มันชอบไปเที่ยวผู้หญิงร้าน Red Lotus ลองไปหามันดูสิ” ชาร์ลีพูดต่อ ก่อนที่ไม่นานนัก เอเตียนจะใช้ท่อแป๊ปฟาดเข้าที่หน้าของชาร์ลีจนถึงกับนอนนิ่ง
“โห จะตีหมดทุกคนเลยเหรอคะเนี่ย??” ไอจังถามเอเตียนไป
“ก็ถ้ากวนส้นตีนนักมันก็ต้องโดนแบบนี้หล่ะ” เอเตียนตอบ
“บลาๆพูพี” อันจิพูดต่อ
“เอาเป็นว่า เราจะไปตามล่าตัวไอ้ สส.จาค็อป..” โยมิยังพูดไม่ทันจบ ในตอนนั้นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็ลากตัวชายคนหนึ่งเข้ามาในห้องที่โยมิอยู่
“เอ้า จับมาได้แล้วเหรอ??” โยมิถามไป
“คาหนังคาเข้าเลยครับ” เจ้าหน้าที่ตอบ
“ผมขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว!!” คนที่โดนจับตอนนี้พูดอย่างลนลาน แต่เอเตียนก็ใช้ท่อแป๊ปของเขากระทุ้งเข้าที่ท้องของมันจนมันถึงกับร่วง
“แกทำงานให้พวกมันมานานเท่าไหร่แล้ววะ??” โยมิถามชายคนนั้นไป
“ไม่นานนี่เองครับ ผมต้องใช้เงิน แม่ผม..”
“อย่าอ้าง!!” เอเตียนตะโกนออกมา ก่อนที่จะใช้ท่อแป๊ปกระแทกเข้าที่หน้าของชายคนนั้นต่อ
“บลาๆๆบับบู” อันจิพูดต่อ
“ไอจัง เอามันไปเค้นความลับต่อ” โยมิบอกกับไอจังไป
กลับมายังคาสิโนของแองเจลโล่ ในวันนี้ตัวของแองเจลโล่ก็กำลังนั่งคุยกับชายคนหนึ่งอยู่ที่ห้องอาหาร VIP โดยที่เยเรน่าเองก็อยู่ด้วย
“ไม่ต้องห่วงนะครับ เรื่องพวกที่มาป่วนผมจะจัดการ คุณเดวิด” แองเจลโล่พูดขึ้น
“ขอบคุณมากครับ ผมพลาดเองที่ประมาทพวกมัน” เดวิดคนนั้นตอบ
“ตอนนี้คุณก็ต้องระวังตัวด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าพวกมันจะทำอะไรอีก” เยเรน่าพูดขึ้น และในขณะเดียวกัน เวเรนน่าก็เดินเข้ามาในห้องที่แองเจลโล่อยู่ และทักทายเขาในทันที
“เฮ้ คุณเดวิด มาด้วยเหรอ??” เวเรนน่าพูดขึ้น
“อ้อ ผมกำลังจะกลับพอดี เวเรนน่า ช่วงนี้เธอต้องระวังด้วยนะ” เดวิดพูดกับเวเรนน่า
“อืม เอาเป็นว่า ถ้ามีอะไรเดี๋ยวผมติดต่อไป” แองเจลโล่พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะยื่นเช็คเงินสดใบหนึ่งให้กับเดวิด เดวิดคนนั้นก็รีบรับมาในทันที
“ขอบคุณมากครับ” เดวิดพูดจบก็เดินออกจากห้องไป และในตอนนั้นเวเรนน่าก็มานั่งที่แทนเดวิดที่เพิ่งจะออกจากห้องอาหารไป
“เวเรนน่า ช่วงนี้ร้านเธอเป็นยังไงบ้างหล่ะ??” แองเจลโล่ถามเวเรนน่า
“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรหรอก รอให้พวกมันมาสิ แม่จะยิงให้” เวเรนน่าตอบ
“แต่ยังไงก็ต้องระวังนะคะ ฉันลองตามข่าวจากสายของฉัน ช่วงนี้ดูเหมือนมีพวกเอเชียหน้าใหม่เข้ามาในเวกัสกันเพียบเลยค่ะ” เยเรน่าพูดขึ้น
“ตอนนี้เราต้องสืบให้ได้ ว่าพวกมันรวมตัวกันที่ไหน” แองเจลโล่บอกไป
“จริงด้วย เยเรน่า ตอนนี้พอจะได้ข่าวบ้างหรือเปล่า??” เวเรนน่าถามไป
“ตอนนี้เหรอ ดูเหมือนว่าพวกนั้นมักจะชอบไปรวมตัวกันที่ร้านอาหารจีนที่เพิ่งจะเปิดใหม่ในเวกัสหน่ะ” เยเรน่าตอบไป
“อืม ถ้าอย่างงั้น ก็ไปสืบหาข่าวในนั้นที มันต้องมีใครยอมพูดอะไรบ้างหล่ะ” แองเจลโล่พูดขึ้น
“มันก็เดิมๆนั่นหล่ะ พวกนี้มันเปิดปากได้ด้วยเงิน” เวเรนน่าพูดขึ้น
“ตอนนี้ฉันกำลังหาคนที่มันพอจะเป็นหนอนได้อยู่ค่ะ” เยเรน่าพูดขึ้น และในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่คาสิโนคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องอาหารที่พวกเขาอยู่
“นายครับ”
“อืม มีอะไรหล่ะ??” แองเจลโล่ถามไป
“เหมือนเดิมครับ เราจับตัวพวกมาป่วนได้ คราวนี้มาในรูปแบบทัวร์จีนครับ”
“โห ทำขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย??” แองเจลโล่ถามไป
“ครับ คราวนี้มีทั้งผู้หญิงกับคนแก่ด้วยครับ” เจ้าหน้าที่คาสิโนพูดต่อ
“ห่ะ นี่มันใช้งานคนแก่เลยเหรอ??” เวเรนน่าถามไป
“แล้วนี่ เอาตัวพวกมันไปไหนแล้วหล่ะ??” เยเรน่าพูดต่อ
“เราเอาไปเก็บห้องสอบสวนเหมือนเดิมแล้วครับ เรากำลังสอบพวกมันอยู่” เจ้าหน้าที่ตอบ
“โอเค แล้วพวกที่ส่งไปโรงพัก ตอนนี้มันพูดอะไรเพิ่มหรือยัง??” แองเจลโล่ถามไป
“มันยังไม่ยอมพูดอะไรเพิ่มเลยครับ”
“บอกผู้กำกับ ให้พวกมันโดนเล่นในห้องพักหน่อย เผื่อมันจะยอมพูด” แองเจลโล่พูดต่อ
“เออ ฉันกลัวว่ามันจะตายพอดีสิคะ” เยเรน่าพูดขึ้น
“ไม่หรอก ไอ้พวกระยำนี่ตายยาก” เวเรนน่าพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงหรอก ผู้กำกับรู้ว่าต้องทำยังไง” แองเจลโล่พูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เขาจะลุกขึ้นยืนในทันที
“เอาหล่ะ กลับห้องก่อนดีกว่า” แองเจลโล่พูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเขาจะเดินออกไปด้านนอกห้องอาหาร และไม่นานนัก เขาก็เดินผ่านคาสิโน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ทุกอย่างกำลังปกติ
“อืม ดูเหมือนว่าบ่อนเราลูกค้าจะน้อยลงไปหน่อยนะเนี่ย” แองเจลโล่พูดขึ้น
“สงสัยน่าจะเป็นเรื่องพวกที่ป่วนบ่อนเราค่ะ” เยเรน่าพูดต่อ
“เชือดไก่ให้ลิงดูซักตัวก็น่าจะดีนะคะ” เวเรนน่าพูดขึ้น
“แต่ว่าเรื่องมันจะใหญ่โตขึ้นหน่ะสิ” แองเจลโล่พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินขึ้นไปบนบันได เพื่อไปขึ้นลิฟต์และกลับห้องเพนเฮ้าส์ โดยที่แองเจลโล่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองแองเจลโล่อยู่
“อ้าว จะแทงมั้ยพี่ชาย??” พนักงานคาสิโนถามชายคนนั้นไป
“แทงสิ” ชายคนนั้นตอบกลับ
ทางด้านของแองเจลโล่ ในตอนนี้ตัวของเขาก็เดินทางกลับมาที่ห้องเพนเฮ้าส์ เพื่อพักผ่อนต่อ ในตอนนี้ตัวของเขาได้มานั่งที่โซฟาหรูเพื่อพักผ่อน โดยที่เวเรนน่าเองก็อยู่กับเขาด้วย
“เออ ดิฉันขอตัวนะคะ” เยเรน่าพูดขึ้น ก่อนที่เธอจะพาซารีน่า สัตว์เลี้ยงของเธอให้เดินตามออกไป
“เฮ้ จะเอาไวน์หรือแชมเปญหล่ะ??” เวเรนน่าถามแองเจลโล่
“แชมเปญแล้วกัน” แองเจลโล่พูดขึ้น ก่อนที่เวเรนน่าจะเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์และหยิบเอาแชมเปญมาขวดหนึ่ง แล้วรินมันใส่แก้วสองแก้ว ก่อนที่จะเดินกลับไปและเอาแก้วหนึ่งให้กับแองเจลโล่ในทันที
“ได้แล้ว” เวเรนน่าพูดขึ้น ก่อนที่แองเจลโล่จะหยิบแก้วแชมเปญมา
“ขอบใจนะ ช่วงนี้หนักหนาจริงๆ” แองเจลโล่พูดขึ้น
“เอาน่า นายต้องผ่อนคลายหน่อยสิ” เวเรนน่าพูดขึ้น พร้อมกับชนแก้วแชมเปญกับแองเจลโล่ ก่อนที่จะดื่มพร้อมกัน
“แล้วนี่ ร้านปืนของเธอมีคนคุ้มกันพอหรือเปล่าหล่ะ??” แองเจลโล่ถามเธอไป
“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันเตรียมทุกอย่างหมดแล้ว” เวเรนน่าตอบ
“อืม ถ้าต้องการคนเพิ่มก็บอกนะ” แองเจลโล่พูดต่อ
“ไม่ต้องห่วง เธอก็รู้นี่ว่าร้านฉันเป็นยังไง” เวเรนน่าพูดต่อและจิบแชมเปญไปอีกที
“อืม ฉันแค่เป็นห่วงหน่ะ” แองเจลโล่พูดต่อ
“ฉันว่า เราเลิกพูดเรื่องงานกันซักวันดีกว่านะ” เวเรนน่าพูดขึ้น ก่อนที่เธอจะยื่นหน้าเข้าไปจูบกับแองเจลโล่ แองเจลโล่เองก็วางแก้วแชมเปญและจูบตอบรับเธอ
ณ ถนนเส้นหนึ่งซึ่งจะเดินทางไปยังเวกัส มารีขับรถและเดินทางไปยังเวกัส หลังจากที่ตัวของมารีถูกตามล่า เธอก็รีบหนีไปยังเวกัสตามที่ซิลเวสเตอร์บอก เพราะตอนนี้ซิลเวสเตอร์ก็เดินทางมาถึงเวกัสแล้ว มารีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จากนั้นก็ส่งข้อความหาเขา
“ฉันจะถึงเวกัสแล้วนะ”
“งั้นเหรอ แล้วเธอจะไปพักที่ไหนหล่ะ??” ซิสเวสเตอร์ถามกลับ
“ฉันมีที่ของฉันแล้วหล่ะ”
“ถ้าเธอไม่มีที่ไป มาหาฉันก็ได้นะ”
“นี่ เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย ตอนนี้ฉันเองก็กำลังโดนตามล่า มันจะดีกับนาย ถ้านายอยู่ห่างฉัน” มารีตอบ
“แต่มันจะดีกว่า ถ้าพวกเราช่วยเธอนะ” ซิลเวสเตอร์ตอบกลับ
“โอเค เอาไว้ถึงแล้วฉันจะบอกแล้วกัน” มารีพูดขึ้น ก่อนที่เธอจะวางโทรศัพท์ไว้ตรงที่นั่งด้านหน้า แล้วขับรถต่อเพื่อเข้าเวกัส
“ไชโย ลาสเวกัส” มารีพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เธอจะเห็นป้ายขนาดใหญ่ที่ขึ้นว่าต้อนรับสู่ลาสเวกัส จากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาและโทรหาใครบางคน
“ฮัลโหล ฉันจะมาถึงแล้ว มารับฉันที”
กลับมายังรังของดีค่อน หลังจากที่พวกเขาทำงานตามที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จแล้ว พวกเขาก็กลับมาที่อพาร์ทเมนท์ โดยที่ตัวของเขาก็รีบลงจากรถ และเดินเข้าไปในห้องๆหนึ่ง ซึ่งมีพรรคพวกของเขากำลังนั่งเล่นคอมอยู่
“อ้าว กลับมาแล้วเหรอพี่??”
“เออ เงินเข้าหรือยัง??” ดีค่อนถามไป
“เข้าเรียบร้อยพี่ ทุกเม็ด” ลูกน้องของเขาตอบ
“ดี เดี๋ยวเราเอาเงินมาแบ่งกัน” ดีค่อนพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง คนของดีค่อนคนหนึ่งก็รีบวิ่งมาหาเขาอย่างหน้าตาตื่น
“ลูกพี่ แย่แล้วพี่ พวกแก๊งที่เทกซัสมันตามเรามาพี่!!”
“โห มาได้ทันเวลาพอดีเว้ย อย่างกับรู้ใจ” ดีค่อนพูดขึ้น
“โห ดูเหมือนว่าจะเก็บงานไม่เนียนนะพี่” ลูกน้องของเขาอีกคนพูดขึ้น
“เราต้องทำให้พวกมันรู้ว่าใครใหญ่ที่สุดที่นี่ บอกพวกเราเตรียมตัว” ดีค่อนพูดขึ้น ก่อที่ลูกน้องคนอื่นๆ ที่เพิ่งจะไปลุยกับแก๊งที่เทกซัส ก็รีบพากันกลับเข้าไปในอพาร์ทเมนท์ของพวกเขา
“เตรียมความพร้อมเอาไว้แล้วกัน” ดีค่อนพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเขาจะเดินขึ้นไปที่ชั้นบนสุด เพื่อที่จะเข้าห้องนอนของเขา แต่ในขณะเดียวกัน ลูกน้องของเขาคนหนึ่งก็รีบเดินเข้ามาหาเขา
“ลูกพี่ครับ”
“อะไรอีกวะ ฉันจะนอนแล้ว??” ดีค่อนถามไป
“คือว่า ผมเจอไอ้นี่ในห้องทำงานของบาร์ที่เราเพิ่งจะไปถล่มมาอ่ะพี่” ลูกน้องของเขาตอบ ก่อนที่จะยื่นเอกสารอะไรบางอย่างให้กับดีค่อน
“อะไรวะ??” ดีค่อนถามไป
“ผมเองอ่านแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อเลยครับ” ลูกน้องของดีค่อนพูดขึ้น แต่เมื่อดีค่อนได้อ่านมันแล้ว ตัวของเขาก็ตกใจมาก และดูเหมือนว่าเขาจะช็อกไปซักพัก
“แม่งเอ้ย เราอาจจะต้องไปจากที่นี่เลย” ดีค่อนพูดขึ้น
“เออ ขนาดนั้นเลยเหรอพี่??”
“ดูเหมือนว่าเราจะไปเจอตออย่างจังแล้วหล่ะ” ดีค่อนพูดต่อ
“งั้นผมจะไปบอกคนอื่นนะพี่” ลูกน้องของดีค่อนพูดขึ้นก่อนจะเดินออกไป
กลับมายังบ้านของมิไร หลังจากที่เขาได้เข้าปะทะกับกองกำลังโกเทย์ ตัวของเขาก็หมั่นฝึกฝนการต่อสู้รวมถึงพลังเวทย์มนต์ของเขามากขึ้น โดยที่คนของเขาเองก็คอยดูเขาฝึกไปด้วย ในขณะเดียวกัน แม่บ้านของบ้านก็เดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับน้ำชาถ้วยหนึ่ง
“ชามาแล้วค่ะ” แม่บ้านพูดขึ้น
“ครับ” มิไรพูดจบก็หยุดดาบ ก่อนที่เขาจะสลัดดาบ จากนั้นก็เดินไปดื่มชา
“นายครับ ช่วงนี้ฝึกหนักนะครับ” ลูกน้องของเขาพูดขึ้น
“แน่นอน ดูเหมือนไอ้อาคุมะมันจะมีฝีมือขึ้นหน่ะ” มิไรตอบ
“แต่ดูเหมือนว่า ต่อให้เอาพวกมันทั้งหมดมาสู้กับนาย มันก็สู้นายไม่ได้นะครับ” ลูกน้องของเขาพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เขาก็ดื่มชาเสร็จ จากนั้นก็เก็บดาบของเขา
“อาคุมะ มันกับฉัน เรามีความหลังฝังใจกันมานานนิดหน่อย” มิไรพูดขึ้น
“ทำไมเหรอครับ??”
“ก็แค่เคยฝึกที่เดียวกัน เราสองคนได้แต่ชิงความเก่งกาจกันมาตลอด” มิไรบอกไป
“แต่ดูเหมือนว่ามันจะสู้นายไม่ได้นะครับ”
“มันก็ไม่แน่ ถ้ามันร่วมมือกับพวกอื่นหน่ะ ดูเหมือนว่าฉันต้องหาพวกซะแล้วสิ” มิไรพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง ลูกน้องของมิไรคนหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว
“นายครับ!!”
“มีอะไรหล่ะ??” มิไรถามไป
“มีข่าวว่าหลายฝ่ายตอนนี้ส่งคนไปที่เวกัส พวกนั้นส่งคนไปตามหาอะไรบางอย่างในนั้นครับ”
“เหรอ พวกมันไปหาอะไรที่นั่นวะ??” มิไรถามไป
“ตอนนี้เรากำลังส่งคนเข้าไปสืบอยู่ครับ”
“เวกัสตอนนี้คุมโดยแองเจลโล่ ได้ยินว่ามันทำงานกับ Magic Hunt ด้วย หรือว่ามันจะไปเก็บปแองเจลโล่หล่ะ??” มิไรถามลูกน้องของเขา
“ผมว่าไม่น่าใช่ครับ”
“จะยังไงก็ช่างเถอะ เอาไว้ไปสืบมาให้ได้ก่อนแล้วกัน” มิไรบอกไป
กลับมายังคลับของซอกฮุน หลังจากที่ตัวของเขาได้ส่งคนไปป่วนที่เวกัส เขาก็ยังคงตามเรื่องอย่างใกล้ชิด เนื่องจากว่าเขาแค้นแองเจลโล่ที่หยามน้ำหน้าเขา และในขณะเดียวกัน ลูกน้องของซอกฮุนก็เดินเข้ามาหาเขาต่อ
“ลูกพี่!!”
“เออ ว่าไงหล่ะ??” ซอกฮุนถามไป
“ตอนนี้คนของเรากำลังเตรียมจะลุยที่คาสิโนของมันแล้วพี่”
“จริงเหรอ แล้วจะได้ผลเหรอ??” ซอกฮุนถามไป
“แน่นอนพี่ แผนนี้ผมเตรียมไว้แล้วรับรองว่าได้ผลแน่นอน”
“เออ ขอให้มันได้ผลจริงเถอะ แล้วฉันจะมีรางวัลให้อย่างงาม” ซอกฮุนพูดต่อ
“ได้เลยพี่”
“เออ ว่าแต่ เรื่องของไอ้คู่แข่งเราหน่ะ จะยังไง??” ซอกฮุนถามไป
“โครวี่เหรอครับ ตอนนี้เรากำลังหาทางสกัดขามันอยู่ครับ”
“เออ เขี่ยมันออกไปให้พ้นจากเกมให้ได้ ไม่ว่าจะยังไง” ซอกฮุนพูดต่อ
“แต่ไอ้โครวี่มันไม่ใช่ธรรมดานะครับ เราอาจจะต้องวางแผนให้รัดกุมกว่านี้” ลูกน้องของเขาพูดปราม
“พวกแกมีน้ำยาอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก” ซอกฮุนบอกลูกน้องไป
กลับมายังอพาร์ทเมนท์ที่เฟทใช้ในการซ่อนตัวจากกองกำลัง Magic Hunt ในวันนี้ตัวของเขาเดินลงไปที่ด้านล่างอพาร์ทเมนท์เพื่อเดินทางไปที่ไหนซักแห่ง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็เจอกับลอร่าที่กำลังอยู่ข้างล่างพอดี
“คุณจะไปไหนเหรอคะ??” ลอร่าถามเขาไป
“ผมมีงานต้องทำนิดหน่อยหน่ะครับ” เฟทตอบ
“เหรอคะ แล้วคุณจะไปที่ไหนหล่ะ??” ลอร่าถามย้ำอีกครั้ง
“ผมจะไปเวกัส แต่ว่าผมจะรีบกลับมาครับ” เฟทพูดขึ้น ทั้งๆที่ตัวของเขาเองก็ไม่รู้จะพูดไปทำไม
“บ้าเอ้ย ไม่รู้ตัวเลย” เฟทนึกในใจ
“ได้สิ ถ้าคุณอยากจะกลับมาก็กลับมาได้เลยนะคะ” ลอร่าบอกกับเฟท
“ครับ ผมกลัวว่าเจ้านายคุณจะว่าคุณหน่ะสิ” เฟทพูดต่อ
“อ้อ ฉันไม่ซีเรียสหรอกค่ะ ความจริงฉันก็ไม่ได้อยากทำงานอะไรที่นี่อยู่แล้ว” ลอร่าตอบ
“อ้อครับ ผมจะกลับมานะครับ” เฟทบอกกับลอร่า และในขณะเดียวกัน เขาก็เห็นชายแก่คนหนึ่งเดินเข้ามาในโรงแรม และดูท่าทางไม่ค่อยจะสบอารมณ์เท่าไหร่
“ลอร่า ที่นี่เป็นยังไงบ้าง ได้ข่าวว่าโดนกลุ่มคนปริศนาค้นอยู่นี่ เธอแอบให้พวกผู้ใช้เวทย์เข้ามาเหรอ??”
“เปล่านะคะ ที่นี่ก็ไม่เห็นมีใครเลย” ลอร่าตอบกลับ
“แล้วนี่ แกเป็นใคร ลูกค้าเหรอ จะเช็คเอาท์แล้วเหรอ??” ชายคนนั้นถามเฟทต่อ
“ใช่ครับ” เฟทตอบ
“อ้อ แล้วนี่หมอนี่จ่ายตังค์หรือเปล่าเนี่ย??” ชายคนนั้นถามต่อ
“ก็จ่ายแล้วค่ะ” ลอร่าตอบ
“อย่าไปว่าเขาเลยครับ เขาเพิ่งจะมีปัญหากับครอบครัวนิดหน่อย” เฟทบอกกับเธอ ทำเอาชายคนนั้นถึงกับแปลกใจและไปคุยกับเฟท
“นายเป็นหมอดูเหรอ??”
“ก็ใช่ และผมจะบอกว่าคุณอาจจะตายในไม่กี่วัน” เฟทพูดขึ้น
“ไอ้เวรเอ้ย!!” ชายคนนั้นต่อยเข้าที่หน้าของเฟท แต่เฟทหลบได้ ก่อนที่จะเดินตัวปลิวออกจากอพาร์ทเมนท์ไป
กลับมายังแหล่งกบดานใหม่ของกองกำลังเทพปีศาจ หลังจากที่พวกเขาจัดการกับจอมเวทย์ระดับสูงของกลุ่มผ้าคลุมขาว พวกเขาก็ต้องหนีจากการตามล่าของกองกำลังผ้าคลุมขาวชั่วคราว พวกเขาหนีมายังเขตตะวันตกของสหรัฐ บริเวณเขตทะเลทรายแห่งหนึ่ง พวกเขามารวมตัวกันเพื่อประชุมกันถึงงานต่อไป
“ตอนนี้เราส่งร่างไอ้เทนเนอร์แช่แช็งไปแล้ว พวกชุดขาวมันน่าจะปั่นป่วนน่าดู” ยิเมียร์พูดขึ้น
“ก็แน่หล่ะ ป่านนี้พวกมันคงกำลังระดมกำลังตามล่าเราแล้ว” มอลอซพูดเสริม
“ก็ให้พวกมันมาสิ เราจะเล่นมันให้” บาร์บาทอสพูดขึ้น
“ว่าแต่ เรามากบดานที่ฝั่งตะวันตก เราจะทำอะไรต่อหล่ะ??” ไรจินถามไป
“เราจะไปที่เวกัสหน่ะ” อาร์เทมิสตอบ
“เวกัสเหรอ ไปเล่นการพนันสินะ??” ยิเมียร์ถามพลางกอดอกไปด้วย
“ไม่หรอก เราเชื่อว่ามาเรียน่ากำลังกบดานที่นั่น” มอลอซพูดขึ้น
“แต่ว่า ที่นั่นคนเข้าออกไปมาเยอะจะตาย เธอจะอยู่ที่นั่นเหรอ??” บาร์บาทอสถามไป
“บางครั้ง ที่ที่อันตรายที่สุด ก็เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด” อาร์เทมิสพูดขึ้น
“แต่ว่า ต้องมีหลายฝ่ายแน่ๆ ที่คิดจะตามหาตัวเธอ” ไรจินพูดขึ้น
“แต่ถึงยังไง เราก็ต้องเจอก่อนพวกนั้นให้ได้” มอลอซพูดขึ้น
“แล้วถ้าเราเจอเธอ เราจะทำยังไงต่อหล่ะ??” ยิเมียร์ถามไป
“ฉันจะลองคุยกับเธอก่อนเอง” มอลอซตอบ
“แล้วคิดว่าเธอจะยอมคุยกับเรางั้นเหรอ??” อาร์เทมิสถามไป
“ถ้าเธอไม่ยอม ก็อาจจะต้องรุนแรงหน่อย” บาร์บาทอสตอบ
“ก็หวังว่าจะไม่มีใครเอาเธอไปได้ก่อนแล้วกัน” ไรจินพูดขึ้น
“เออ แล้วเรื่องนี้ที่พวกสภาจอมเวทย์กับรัฐบาลของโลกมนุษย์ กำลังจะสงบศึกกันหน่ะ??” มอลอซถามไป
“ก็ได้ยินกองกำลังของฉันพูดกันอยู่ แต่ฉันว่า ถึงยังไงพวกมันก็ไม่ไว้ใจกันเองอยู่แล้ว” ยิเมียร์พูดต่อ
“แต่กว่าพวกมันจะขัดแย้งกันเอง พวกมันก็คงปราบพวกเราจนไม่เหลือแล้วหล่ะ” ไรจินพูดขึ้น
“ถ้าไม่อย่างงั้น เราก็จัดการกับมันก่อนสิ” บาร์บาทอสพูดขึ้น
“อืม เห็นด้วย เราต้องชิงลงมือก่อน” อาร์เทมิสพูดต่อ
“ใช่ ถ้าเราได้มาเรียน่ากลับมา สถานการณ์ของพวกเราอาจจะดีขึ้น” มอลอซพูดขึ้น
“แต่ก็อย่างที่บอก เธอเคยทิ้งพวกเราไปครั้งนึง” ยิเมียร์พูดขึ้น
“แต่ฉันไม่เชื่อว่ามาเรียน่าจะเป็นอย่างนั้น” อาร์เทมิสพูดปราม
“แล้วก็ เราคงต้องไปฟังจากปากมาเรียน่าแล้วหล่ะ” ไรจินพูดต่อ
“โอเค แล้วเราจะหาตัวเธอได้ยังไงหล่ะ ในเวกัส??” บาร์บาทอสถามไป
“ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ฉันส่งสายเข้าไปหาเพิ่มเติมแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่พวกเรา ที่มาตามหาเธอ” มอลอซพูดขึ้น
“งั้นเหรอ มันยังไงกันหล่ะ??” ยิเมียร์ถามไป
“ตอนนี้มีหน้าใหม่หลายคน กำลังดาหน้าเข้าไปในเวกัส พวกที่น่าสนใจ เป็นพวกหน้าใหม่ที่เราไม่รู้” มอลอซพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก มอลอซจะเสกเปลวไฟบนมือ จากนั้นเปลวไฟก็มีภาพของกลุ่มเคนนี่ทุกคนอยู่บนนั้น
“แล้วมันสำคัญยังไงหล่ะ??” ไรจินถามไป
“คนของฉันบอกว่าเคยเห็นคนพวกนี้ มีเอี่ยวกับหลายเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น และกำลังหลบหนีจากพวก Magic Hunt และพวกนี้คงไม่ได้มาเวกัสแค่อยากจะมาเล่นพนันแน่ๆ” มอลอซพูดขึ้น
“ก็คงต้องไปสัมภาษณ์พวกนั้นหน่อย” อาร์เทมิสพูดขึ้น
“ไอ้เรื่องสัมภาษณ์แบบนี้ฉันถนัดอยู่แล้ว” บาร์บาทอสพูดเสริม
ณ บ้านหลังหนึ่งในเวกัส บ้านที่เอล ซาดินเช่าเอาไว้เพื่อสืบหาตัวของมาเรียน่าในเวกัส ตัวของเขาเดินออกจากบ้านมา แล้วก็เจอกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงคนเดิมที่เขาเพิ่งเจอเมื่อวาน แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นเดินออกห่างจากเขาไป ตัวของเขารีบวิ่งตามเด็กคนนั้นในทันที
“เดี๋ยว!!” ซาดินตะโกนออกมา แล้วไม่นานนัก เขาก็เจอกับเด็กผู้หญิงคนเดิมมายืนอยู่ต่อหน้าเขา
“เดี๋ยว เธอจะบอกอะไรหล่ะ??” ซาดินถามอย่างสงสัย ก่อนที่ไม่นานนัก เด็กผู้หญิงคนนั้นจะชี้ไปยังคาสิโนแห่งหนึ่ง ซึ่งนั่นคือคาสิโนของแองเจลโล่ ที่ใหญ่ที่สุดในเวกัส
“ที่นั่นมีอะไรเหรอ??” ซาดินถามไป
“เดี๋ยวคุณเข้าไปก็จะรู้เองค่ะ” เด็กผู้หญิงคนนั้นตอบ
“ในนั้นสินะ” ซาดินพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก จู่ๆ ตัวของเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังวิ่งผ่านตัวของเขาไป ไม่นานนัก เขาก็รีบเสกโล่ของเขาขึ้นมา จากนั้นก็กันอะไรบางอย่างที่พุ่งใส่เขา
“เคร้ง!!”
“แน่จริงก็ออกมาเลยสิ!!” ซาดินตะโกนออกมา ก่อนที่เขาจะเสกหอกของเขาออกมาด้วย และไม่นานนัก เขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง พวกเขาเป็นเอลฟ์ แต่มีร่างกายเป็นสีเทาหมอง พวกมันถืออาวุธมาประจันหน้ากับซาดิน
“คิดว่าฉันจะกลัวพวกดาร์กเอลฟ์งั้นเหรอ??” ซาดินพูดขึ้น
กลับมายังบ้านพักของโครวี่ ในตอนนี้ตัวของเขาก็กำลังนั่งพักอยู่ในห้องรักแขก พร้อมกันนั้นก็เปิดโทรทัศน์ดูข่าวไปด้วย และเมื่อเขาเปิดมาเจอกับข่าวที่ตอนนี้ช็อคไปทั้งประเทศ
“อะไรกัน ประธานาธิบดีตายแล้วเหรอ??” โครวี่พูดขึ้นมาหลังจากที่ได้ดูข่าว และในขณะเดียวกัน เลขาของเขาก็เดินเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว
“ขออนุญาตค่ะ”
“มีอะไรเหรอ??” โครวี่ถามไป
“ตอนนี้เราสืบข้อมูลของนายซอกฮุนมาเพิ่มแล้วค่ะ”
“งั้นเหรอ เดี๋ยวรอยูจีนแป๊ปนะ” โครวี่ตอบกลับ และในไม่กี่อึดใจ ยูจีนก็เดินเข้ามาจากประตูวาร์ปของเขา และมาหาโครวี่ที่กำลังนั่งรออยู่
“เฮ้ ขายของเป็นยังไงบ้าง??” โครวี่ถามไป
“ก็ดีครับ กำไรอื้อเลยตอนนี้”
“อืม เรามีเรื่องต้องคุยกันนิดหน่อยหน่ะ คุณเลขา ว่าเลย” โครวี่พูดขึ้น
“ตอนนี้เราพอจะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับนายซอกฮุน ที่เป็นนักธุรกิจข้ามชาติแล้วค่ะ ตอนนี้เขากำลังกว้านซื้อเหมืองทองแดงหลายที่ แล้วเรายังสืบทราบมาอีกว่า คลับของมันมีการทำธุรกิจผิดกฎหมายอีกเพียบ ทั้งยาเสพติด ของเถื่อน รวมถึงลักพาตัวหญิงสาวมาถ่ายคลิปลามกค่ะ” เลขาบอกไป
“โห ดูเหมือนว่ามันจะชั่วสารพัดอย่างเลยนะครับ” ยูจีนพูดขึ้น
“เฮ้อ ถ้ามันชั่วจริง ฉันจะชั่วกว่ามันร้อยเท่า แล้วตอนนี้เราจะเล่นมันยังไงได้หล่ะ??” โครวี่ถามไป
“เราก็แค่ตัดกำลังธุรกิจของมัน ถ้าเราได้เหมืองทองแดงที่มันหมายตามาเพิ่ม งานนี้เราจะบีบมันได้ค่ะ” เลขาตอบ
“ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องเร่งมือเรื่องนี้แล้วหล่ะครับ” ยูจีนพูดขึ้น
“อืม คุณเลขา เร่งติดต่อพวกเราที่เอเชียใต้ ไม่ว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ใช้เส้นใครก็เอาเลย” โครวี่บอกเธอ
“ค่ะ ตอนนี้ฉันเตรียมทุกอย่างไว้แล้วค่ะ” เลขาตอบเขาไป
“เฮ้อ แล้วก็อีกอย่าง ฉันเพิ่งได้ข่าวว่าประธานาธิบดีเสียชีวิตแล้ว” โครวี่พูดขึ้น
“แล้วมันจะมีปัญหาอะไรเหรอคะ??” เลขาถามเขาไป
“ประธานาธิบดีคนนี้เสียชีวิตด้วยนโยบายการปราบปรามผู้ใช้เวทย์หน่ะ” โครวี่พูดขึ้น
“แต่ผมได้ยินจากสายของผมนะ พวกนั้นบอกว่า ประธานาธิบดีคนที่เพิ่งชีวิต เขาประกาศสงครามกับกลุ่มที่ Magic Hunt บางคนบอกเป็นไปได้ว่า พวก Magic Hunt นั่นหล่ะที่สั่งเก็บเขา” ยูจีนพูดเสริม
“แล้วคนที่จะมาแทนจะเป็นยังไงคะเนี่ย??” เลขาถามต่อ
“รองประธานาธิบดีเหรอ หน้าฉากก็เป็นหมารับใช้นาย แต่ความจริง มันเองก็อยากสร้างฐานอำนาจตัวเองเหมือนกัน” โครวี่ตอบกลับ
“ถ้าอย่างงั้น ผมจะไปสืบมาให้เพิ่มเติมนะครับ” ยูจีนพูดขึ้น
“อืม ข่าวของนายแม่นที่สุดแล้วหล่ะ” โครวี่บอกกับเขา
“งั้นผมขอตัวนะครับ” ยูจีนบอกับโครวี่ ก่อนที่เขาจะกลับไปยังประตูวาร์ปของเขา
“เออ แล้วตอนนี้เรามีหลักฐานอะไรพอจะเล่นงานไอ้ซอกฮุนนี่ได้หรือเปล่า??” โครวี่ถามเลขาของเขา
“ดูเหมือนตอนนี้จะยังไม่มีค่ะ มันขึ้นชื่อเรื่องเก็บหลักฐานเก่งด้วย” เลขาตอบไป
“ถึงยังไงมันก็เก็บได้ไม่มิดหรอก” โครวี่บอกเลขาไป
“ตอนนี้ทางเราเองพยายามหาวิธีเข้าถึงคลับของมันอยู่ค่ะ”
“อืม ยังไงก็ไปสืบข่าวตามนั้นก่อนแล้วกัน งานนี้เราอาจจะต้องเจอศึกใหญ่มากขึ้นก็ได้กัน” โครวี่บอกกับเลขาของเขา
กลับมายังบ้านของโสนกับมอล ในวันนี้ตัวของมอลได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง มอลเองคุยโทรศัพท์สายนั้นอยู่ซักพัก โดยที่โสนเองก็เอาชาถ้วยหนึ่งมาให้กับมอล
“มอล ดื่มชาหน่อยมั้ย??”
“อืม แค่นี้ก่อนแล้วกัน เจอกันที่เวกัสนะ” มอลตอบ ก่อนที่เขาจะวางสายไป
“หือ คุณจะไปเวกัสเหรอ??” โสนถามไป
“มีปัญหาเรื่องงานที่นั่นนิดหน่อยครับ ไปกับผมนะ??” มอลบอกกับโสน
“อ้อ ได้สิ แล้วคุณจะไปเมื่อไหร่หล่ะ??”
“ตอนนี้เลย คุณไปเก็บของให้ผมหน่อยแล้วกัน” มอลตอบ ก่อนที่โสนจะวางชาถ้วยนั้นไว้ตรงโต๊ะแถวนั้น จากนั้นก็ขึ้นไปที่ชั้นสอง เพื่อไปเก็บข้าวของที่จำเป็น ส่วนมอลเองก็ใส่เสื้อนอกของเขา จากนั้นก็เดินไปที่ห้องทำงาน เขาเดินไปเปิดตู้เซฟ ซึ่งด้านในมีเอกสารอยู่ชุดหนึ่ง และไม่นานนัก โสนก็เอากระเป๋าลงมาที่ด้านล่างพอดี
“เอากระเป๋ามาแล้วนะ” โสนพูดขึ้น
“โอเค ไปเตรียมรถเลย เดี๋ยวผมตามไป” มอลพูดขึ้น ก่อนที่โสนเองจะรีบเดินออกไปด้านนอกเพื่อเตรียมรถให้กับมอล มอลหยิบเอกสารนั้นและกุญแจดอกหนึ่งและเดินตามโสนไปในทันที
ณ ทำเนียบขาวของสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ประธานาธิบดีเสียชีวิตลงแล้ว ในตอนนี้รองประธานาธิบดีที่ได้รักษาการแทนก็เริ่มการแถลงอะไรบางอย่าง แลถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลก
“สวัสดี ท่านทั้งหลาย วันนี้ ผมมายืนอยู่ต่อหน้าพวกท่าน ด้วยน้ำตา แม้ว่าท่านประธานาธิบดีที่รักของเราจะจากไป แต่เรา จะไม่ยอมให้ประเทศนี้จากไปด้วย กลุ่มผู้ใช้เวทย์มนต์ตอนนี้กำลังอาละวาดอย่างหนัก ทำให้โลกของเราเกิดความโกลาหล เรา จะสานต่อในสิ่งที่ท่านประธานาธิบดีทำ เราจะไม่ยั้งมือ เราจะไม่รีรอ เราจะคืนความสงบ กลับคืนสู่โลกใบนี้อีกครั้ง” รองประธานาธิบดีพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เขาจะออกจากโพเดี้ยม และกลับไปที่หลังฉาก โดยที่คนอื่นๆก็กำลังรอแสดงความชื่นชมเขาอยู่
“ผมรอวันนี้มานานแล้วครับท่าน”
“ใช่ครับ แล้วงานของเราจะเริ่มเดินต่อได้เลยหรือเปล่าครับ??” ชายใส่สูทอีกคนถามไป
“อืม จัดการได้เลย สงบศึกกับพวก Magic Hunt แล้วจัดการกลุ่มผู้ใช้เวทย์ที่กลุ่มอื่นทั่วโลกให้หมด แล้วถ้าทุกอย่างเรียบร้อย ก็เปิดศึกกับพวก Maguc Hunt ซะ” รองประธานาธิบดีพูดต่อ
“รับทราบครับท่าน”
และในขณะเดียวกัน โทรศัพท์ของรองประธานาธิบดีก็ดังขึ้น เขารีบหยิบมาดูในทันที และเมื่อเขาเห็นสายโทรศัพท์ เขาก็บอกกับคนของเขาในทันที
“ผมขอตัวเดี๋ยวนะ” รองประธานาธิบดีพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเขาจะเดินออกไปด้านนอกทำเนียบขาว และคุยโทรศัพท์
“ฮัลโหล”
“ครับ ผมจัดการแล้ว”
“ผมรู้ ตอนนี้ผมก็ทำทุกอย่างตามที่คุณบอกแล้ว”
“ว่าไงนะ เวกัสเหรอ??”
“จะให้ผมไปทำอะไรที่นั่นหล่ะ??”
“ตามหาคนงั้นเหรอ??”
“ถ้าอย่างงั้นผมจะลองส่งคนไปตามดูแล้วกัน”
“แล้วเรื่องพวก Magic Hunt จะเอายังไงต่อหล่ะ??”
“โอเค ได้ตามนั้น”
กลับมายังคาสิโนของแองเจลโล่ ในตอนนี้กลุ่มของเคนนี่ได้พากันมาถึงเรียบร้อยแล้ว พวกเขาตกตะลึงในความยิ่งใหญ่ของคาสิโน รวมถึงโรงแรมและเอ็นเตอร์เทนเมนท์อื่นๆ พวกเขารีบเดินเข้าไปในคาสิโนในทันที แต่ดูเหมือนว่ายามของที่นี่จะค่อนข้างเข้มงวดมาก
“โห ค้นเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ??” เคนนี่ถามเจ้าหน้าที่ไป
“ครับ ช่วงนี้เราต้องรักษาความปลอดภัยครับ” เจ้าหน้าที่ตอบ พวกเขาค้นตัวกลุ่มของเคนนี่อยู่นาน เจ้าหน้าที่ก็พบว่าพวกเขาไม่ได้พกอะไรเข้ามา เลยปล่อยให้เข้าไปในคาสิโนได้ กลุ่มของเคนนี่เมื่อได้เข้ามาด้านในแล้ว พวกเขาก็คุยกันที่หน้าคาสิโนต่อ
“บอกแล้วว่าพวกเราต้องไม่เอาอาวุธเข้าไปในนั้น” วลาเซียน่าพูดขึ้น
“เออ ว่าแต่ ทำไมพวกนั้นถึงไม่ตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ใช้เวทย์หล่ะ??” เวโรนิก้าถามอย่างสงสัย
“พวกนั้นไม่อยากเสียรายได้ แต่เอาจริงๆ ไม่มีใครแม้แต่ผู้ใช้เวทย์รอดไปได้ ถ้าทำตัวป่วนที่นี่” วลาเซียน่าพูดต่อ และในขณะเดียวกัน คามิลล่าเองก็เกิดรู้สึกแปลกๆ
“มีอันใดหรือแม่นาง??” ไปจื่อถามคามิลล่าไป
“ไม่รู้สิ ฉันได้กลิ่นแปลกๆ ไปที่คาสิโนดีกว่า” คามิลล่าตอบ
“แน่นอน มันคือกลิ่นความร่ำรวยังไงหล่ะ” โรเบิร์ตพูดขึ้น
“รวยแต่เขือสิพวก” ซิลเวสเตอร์ตอบก่อนที่จะชกเข้าไปที่ไหล่ของโรเบิร์ต
“จะว่าไป ไม่เคยมีใครรวยจากการพนันเลยนะครับ” วอลพูดขึ้น
“ผมว่า ไม่แน่นะ เป้าหมายของเราอาจจะ..” เคนนี่ยังไม่ทันจะพูดจบ ในตอนนั้นวลาเซียน่าก็รีบสะกิดทุกคนในทันที
“เฮ้ ทุกคน นั่นไง คุณแองเจลโล่” วลาเซียน่าพูดขึ้น ก่อนที่เคนนี่เองจะมองเห็นเขา เคนนี่ลองเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น แต่ในตอนนั้น เขาสังเกตเห็นชายคนหนึ่งซึ่งกำลังทำอะไรบางอย่างกับกระเป๋าใบหนึ่ง เคนนี่รู้สึกแปลกๆอยู่ซักพัก ก่อนที่ชายคนนั้นจะหยิบปืนออกมาจากกระเป๋า จากนั้นก็ยิงใส่แองเจลโล่
“หลบ!!” เคนนี่ตะโกนออกมา แล้ววิ่งไปถีบที่ปืนของมือปืนคนนั้น กระสุนกระเด็นออกไป จากนั้นเคนนี่ก็เตะเข้าไปที่หน้าของมันอีกที แต่ดูเหมือนว่า ยังมีมือปืนอีกบางส่วนที่เริ่มเผยตัวออกมาเพื่อถล่มคาสิโนของแองเจลโล่แล้ว
“ได้มันส์กันอีกแล้ว” เคนนี่สบถออกมา
================================================================
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมกันเน้อ
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ
https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย
ให้ของขวัญเป็นกำลังใจกันได้ครัช ไหว้หล่ะ
ความคิดเห็น