คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : EP 9 : หญิงสาวปริศนา
วินบุกไปยิงกับพวกของเจ้าพ่อเคี้ยงกลางวง
โดยที่เซบและเวหาคอยยิงคุ้มกันให้
พวกนั้นยิงถล่มใส่วินแต่วินก็หลบตรงนั้นทีตรงนี้ที
ไม่ยอมให้พวกมันยิงเขาโดนฝ่ายเดียว เซบและเวหาก็คอยใส่กระสุนให้กันด้วย
โดยที่เซบจะเป็นคนยิงซะส่วนใหญ่ ส่วนเวหาก็ลกๆใส่กระสุนไป
“เวหา ขอกระสุนเพิ่มหน่อย”
เซบยื่นปืนให้เวหา
“โธ่
ใช้ให้มันประหยัดหน่อยสิเพื่อน”
“แล้ววินมันจะไม่เป็นไรเหรอนั่น”
“เอาน่า
เจ้าวินมันเก่งอยู่แล้ว” เวหายื่นปืนให้เซบ เซบก็ยิงคุ้มกันต่อไป
ในระหว่างที่วินกำลังยิงใส่พวกมัน
จู่ๆก็มีขบวนรถกระบะแล่นเข้ามา วินดูแล้วรู้ทันทีว่าพวกเจ้าพ่อเคี้ยงเอาคนมาเสริมแล้ว
วินถึงกับก่ายหน้าผาก
“บ้าเอ้ย
ต้องสกัดมันไว้ให้ได้ก่อน”
วินรู้ว่าตัวเองพกระเบิดมือมาด้วย
วินรีบวิ่งไปริมถนนเส้นที่รถจะผ่าน จากนั้นวินก็ขว้างระเบิดไป
รถคันหน้าของเจ้าพ่อเคี้ยงโดนระเบิดจนเละ เจ้าพ่อเคี้ยงที่อยู่รถคันกลางถึงกับลงมาดูทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“บ้าเอ้ย
พวกมันเป็นใครกันวะ”
“ผมก็ไม่รู้ครับพี่
จะเอายังไงดีครับ”
“หาทางเอาไอ้กล่องบ้านี่ไปให้ได้ก่อน
แล้วค่อยถอยกลับไป”
“ได้ครับพี่”
ไอ้อิฐ
ลูกน้องของเจ้าพ่อเคี้ยง นำคนบุกไปดูว่าใครโจมตีพวกเขา
จากนั้นเขาก็บอกให้ลูกน้องของเขาให้เอากล่องใหญ่ไปด้วย
“ไอ้กุ่ย
เดี๋ยวมึงให้คนเอากล่องไป ส่วนไอ้ติงนัง เดี๋ยวมึงยิงสกัดมันไว้”
เมื่อพวกมันมอบหมายงาน
พวกนั้นก็ยิงกดไปยังวิน
วินถึงกับต้องถอยออกมาเนื่องจากว่าทนแรงกดดันของพวกมันไม่ไหว
วินวิ่งกลับไปหาเซบและเวหาทันที
“ไงพวก
มีอะไรหรือเปล่า” เซบถามไป
“ยังเล่นอยู่ได้
พวกมันมีกันเยอะชิบหาย” วินพูดกลับไป
“แล้วนี่จะเอายังไงต่อดีหล่ะเนี่ย”เวหาพูด
“คงต้องกลับไปก่อนหล่ะ”
วินพูด
“แล้วกล่องพวกนั้นจะว่ายังไงหล่ะ”
เซบถาม
“ตอนนี้คงต้องปล่อยไปก่อนหล่ะ”
วินพูดไป
“นั่นสิ
ไม่ใช่ธุระอะไรของเราซะหน่อยนี่หว่า” เวหาพูด
หลังจากที่ยิงกดพวกของวินได้ไม่นาน
พวกเจ้าพ่อเคี้ยงก็หยุดยิง จากนั้นก็คุยกันต่อในทันที
“เฮ้ย ไอ้ติง
ทำไมมันหยุดยิงวะ” อิฐถามติงนังไป
“ไม่รู้ดิ
สงสัยจะหนีไปแล้วมั้ง”
“ไอ้กุย
มึงเสร็จหรือยังเนี่ย”
“เออ
เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว บ่นอยู่ได้แม่ง”
“ส่งคนไปดู
ถ้าเจอมันฆ่ามันให้เหี้ยน”
พวกของเจ้าพ่อเคี้ยงค่อยๆบุกเข้าไปดูพวกของวิน
ในตอนนั้นเองวิน เซบ และเวหาก็เตรียมจะยิงสกัดพวกนั้นแล้วหนีออกไป แต่ในขณะนั้นเอง
“ปังๆๆๆๆ”
เสียงปืนดังมาจากรอบๆพวกเขา
พวกของเจ้าพ่อเคี้ยงโดนยิงตายราวใบไม้ร่วง เจ้าพ่อเคี้ยงตกใจมากไม่รู้จะทำยังไง
“ไอ้ติง ไอ้กุย
รีบถอยกลับก่อนเร็ว”
อิฐเรียกสองคนนั้นให้ถอยกลับ
แต่ไอ้ติงนังดันโดนยิงเข้าที่ขา กุยพยายามจะช่วยแต่ก็โดนอิฐห้ามเอาไว้ก่อน
“มึงช่วยไม่ได้หรอก
ถอยก่อนเร็วโว้ย”
“รีบหนีไปจากที่นี่
ทิ้งคนเจ็บเอาไว้”
เจ้าพ่อเคี้ยงรีบขึ้นรถแล้วหนีออกไป
ส่วนลูกน้องคนอื่นๆก็หนีตามออกไปด้วย
จากนั้นไม่นานชายชุดดำพร้อมปืนกลก็ออกมาเคลียร์สถานการณ์ วิน เซบและเวหาออกไปดู
ในตอนนั้นเอง เขาก็พบกับเอก ซากิริและเอย์จิที่พาคนมาที่นี่ เพื่อมาเอาเสบียง
ในตอนนั้นเองที่ซากิริเห็นเซบ ซากิริรีบเข้าไปกอดเซบในทันที โดยที่เซบตกใจเล็กน้อย
“อ่า
ไม่เป็นไรนะ” เซบพูดอย่างตะกุกตะกัก
“ฉันไม่เป็นไรหรอก
ดีที่เจอนายที่นี่ เราเจอกันครั้งที่สามแล้วนะ”
“แล้วยังไงเหรอ”
“ฉันเชื่อไง
ทุกๆอย่าง ย่อมมีสามครั้ง”
“ยินดีที่ได้พบพวกคุณที่นี่นะ”
เอกพูดกับวิน
“ครับผม พวกคุณมาทำอะไรกันที่นี่ครับ”
วินถามพวกเขากลับไป
“อ้อ
เรามาเอาของที่หน่วยเหนือส่งให้เราหน่ะ” เอกตอบไป
“โห
แล้วส่งกันทางเครื่องบินเนี่ยนะครับ” เวหาถามอย่างแปลกใจ
“อ้าว
ก็ทำไงได้หล่ะ หน่วยเหนือเราอยู่ภาคใต้นี่หน่า” เอย์จิตอบกลับ
ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ๆไอ้ติงก็ลากสังขารจะหนีเข้าไปในซอย
แต่เจอเวหาวิ่งเข้าไปถีบหน้าซะก่อน จากนั้นวินและเซบไปช่วยกันลากตัวมันมาในทันที
“ไอ้สัส
มึงทำอะไรพ่อแม่กูไว้” วินถามมันไป
“นี่มึง
มึงยังไม่ตาย”
“น้องกูอยู่ไหน
น้องกูอยู่ไหนไอ้ระยำ” วินยิงคำถามไปทันที
“กูไม่รู้โว้ย”
วินบันดาลโทสะกระทืบมันไปหลายดอก
จนเอย์จิและซากิริพยายามมาห้าม และเซบและเวหาก็รั้งๆซากิริและเอย์จิเอาไว้ด้วย
“ฉันว่าเธออย่ายุ่งดีกว่า”
เซบพูดกับซากิริ
“ทำไมถึงพูดแบบนั้นหล่ะ”
ซากิริพูดกลับ
“คุณไม่รู้เหรอ
ไอ้หมอนี่มันฆ่าครอบครัวเพื่อนผม โดนแบบนั้นก็สมควรหล่ะ” เวหาพูด
“แล้วพวกนายคิดจะใช้ศาลเตี้ยงั้นเหรอ”
“มากกว่านั้นผมก็จะทำ”
วินตะโกนบอกไป
จากนั้นก็กระทืบมันจนมันอ่วม เอกต้องเสี่ยงมาห้ามวิน
“ผมขอหล่ะ
อย่าทำแบบนี้เลย”
“แล้วจะให้ผมทำไงกับมันหล่ะ”
“ผมจะเอาตัวมันกลับไปสอบสวน
เผื่อว่าจะขยายผลได้”
“ทำแบบนั้น มันก็รอดตัวไปได้อีกหน่ะสิ”
วินพูดด้วยความโกรธ
“ฉันรู้นะว่าเธออาจสิ้นศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม
แต่ฉันให้สัญญาด้วยเกรียติ มันต้องได้รับโทษอย่างสาสม” เอกพยายามขอวิน
จนวินต้องปล่อยตัวมันออกมา จากนั้นคนของวินก็ลากไอ้ติงขึ้นรถไปในทันที
โดยที่เอกเป็นคนคุมตัวไปเอง วินหัวเสียเดินออกไปจากจุดเกิดเหตุ ในตอนนั้นเอง
เซบก็เดินไปหาซากิริด้วย
“เธอ
ฉันขอโทษนะที่พูดกับเธอแบบนั้นหน่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก
ฉันไม่ถือหรอก ฉันเข้าใจดี ขอตัวก่อนนะ” ซากิริหอมแก้มเซบไปหนึ่งที
ส่วนเอย์จิก็โบกมือข้างหลังให้เวหาไปด้วย เวหารีบมาแซวเพื่อนของเขาทันที
“โห
ไม่จีบกันเลยหล่ะวะ”
“ยังไม่ใช่ตอนนี้หว่ะ
เฮ้ย แล้วไอ้วินไปไหนวะ”
เซบหันไปเห็นวินกำลังเดินหัวเสียออกไป
ทั้งเซบและเวหาซึ่งรีบไล่ตามวินไปทันทีเพื่อดูว่าเขาเป็นยังไง
ณ
โรงพยาบาลของวาเดลเรีย
ในตอนนั้นเองพวกบุรุษพยาบาลและคนอื่นๆก็ช่วยๆกันคุ้มกันโรงพยาบาลแห่งนี้อย่างขันแข็ง
เนื่องจากพวกชาวบ้านกลัวว่าจะมีการปะทะกันของกลุ่มเจ้าพ่อทำให้โรงพยาบาลเสียหายอีก
ตกดึกในตอนนั้นเอง
วาเดลเรียก็กลับไปนอนที่ห้องของเธอเนื่องจากไม่มีคนไข้ที่เจ็บหนักในตอนนี้
เธอโทรศัพท์หาคนๆหนึ่งในทันทีเนื่องจากว่าเธออยากคุยกับเขามานานแล้ว
เมื่ออีกฝ่ายรับสาย เธอก็คุยในทันที
“คุณเอกคะ
ปลอดภัยดีนะคะ”
“ผมปลอดภัยดีครับ”
“คุณไปรับเสบียงเป็นยังไงบ้างคะ”
“อ้อ
ผมปลอดภัยดีครับ ตอนนี้กำลังเอากลับไปอยู่”
“แล้วคุณจะไปถึงเมื่อไหร่คะ”
“ไม่น่าจะเกินเที่ยงคืนนี้แหละ
ที่โรงพยาบาลเป็นยังไงบ้างครับ”
“คนเจ็บมากขึ้นทุกวันค่ะ
มีชาวบ้านมาหลบภัยด้วย”
“อ้าว
ทำไมหล่ะครับ”
“ชาวบ้านกลัวว่าจะมีการปะทะกัน
เพราะแก๊งค์สามแก๊งค์จะมาประชุมกันค่ะ”
“เรื่องนั้นผมรู้แล้วหล่ะ
ยังไงผมจะจัดการเอง”
“ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ
ดูแลตัวเองด้วยนะคะ”
“คุณก็เช่นกันครับ”
ณ หน่วย The
Nation ในตอนนั้นเองเอเรียน่ากำลังตามหาเกรซ
ในตอนนั้นเองเธอก็เจอเกรซกำลังอยู่ในห้อง เพื่อทำอะไรบางอย่าง
พร้อมกับสารเสพติดสีเขียวตัวใหม่ ที่เธอเอามาทดลองอะไรบางอย่าง
“เกรซ
เธอทำอะไรอยู่หน่ะ”
“ฉันกำลังลองสกัดสารของมัน
เผื่อว่าทำยาแก้ได้”
“มันทำได้ด้วยงั้นเหรอ”
“ไม่รู้สิ
ถ้าฉันรู้จักสารตัวนี้ดีพอ”
“แล้วส่วนประกอบหลักๆตอนนี้มีอะไรบ้างหล่ะ”
“มีสารพิเศษหลายตัว
ตอนนี้ฉันกำลังจัดส่วนประกอบอยู่หน่ะ”
“อ้อ
แล้วใช้เวลานานมั้ยกว่าจะเสร็จหน่ะ”
“อย่างต่ำน่าจะ
3 วันได้หน่ะ”
“โห
หวังว่าจะหายาแก้เจอนะ”
ณ
ห้องพักของอาเปียวและอาเหลา ในละแวกนั้น
ทั้งคู่ได้ยินเสียงปืนและการปะทะกันแถวนั้น
เขาเรียกให้ลูกน้องมารายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทันที
“นายครับ
มีอะไรเรียกผมเหรอครับ”
“ฉันได้ยินเสียงยิงกัน
มันเกิดอะไรขึ้น” อาเปียวถามเขาไป
“มีการส่งของกัน
พวกเจ้าพ่อเคี้ยงยิงกับพวกกลุ่มชุดดำครับ”
“ต้องเป็นพวก Nation
แน่ๆ
มันพยายามหาการสนับสนุนจากภายนอกอยู่” อาเหลาพูด
“แม่งเอ้ย
ทำไมมันต้องเป็นหนามตำใจฉันด้วย ไอ้พวกซากเน่าๆจากยุคเก่าเนี่ย”
“อย่าเพิ่งสนใจเลย
รอดูพรุ่งนี้ดีกว่า” อาเหลาพูดจากนั้นก็มุดหัวนอนในทันที
กลับมายังจังหวัดสมุทรปราการ
สุวรรณกำลังรอข่าวการชิงเสบียงที่เพิ่งจะส่งมา ในตอนนั้นเองสุวรรณก็เปิด Skype
ของเขาแล้วเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
คุยกับลูกน้องของเขาแต่ละคนในทันที
“ติ๋ม ฟาฟา
ได้อะไรคืบหน้าเกี่ยวกับเสบียงหรือเปล่า”
“อ้อ
เมื่อคืนมีการปะทะกันค่ะ” ติ๋มพูดขึ้น
“กับพวก The
Nation งั้นเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ
เท่าที่ดู พวกนั้นมีแค่ 3 คนเองค่ะ แถมไม่น่าใช่พวก Nation ด้วย” ฟาฟาพูดเสริม
“พวกมันเป็นใครกันนะ”
“จะให้ผมไปลองสืบดูหรือเปล่าครับ”
เสือถามเจ้านาย
“ลองไปสืบดูก็ได้
ว่าพวกมันเป็นใครกัน”
“แต่ว่า
มันก็คงจะแค่ชาวบ้านธรรมดาๆนะครับ” คูไกบอกเจ้านายเขาไป
“มันสู้กับพวกเจ้าพ่อได้ขนาดนั้น
ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ”
“อืม
แล้วเรื่องของพวก NSA นี่ยังไงต่อหล่ะครับ” ภาคินถามไป
“ตอนนี้วางกำลังป้องกันไว้ก่อน
รอให้ฉันยึดกรุงเทพได้ฉันจะไปลุยกับมัน ติ๋ม ฟาฟา
เขตของเราที่ภาคอีสานเป็นยังไงบ้าง”
“ค่ะท่าน ตอนนี้เรากำลังรบกับพวกเจ้าพ่อในเขตนั้นอยู่ค่ะ”
ติ๋มพูดขึ้น
“เราชนะพวกนั้นได้ที่หลายจังหวัด
พวกมันกำลังถอยร่นอยู่ค่ะ” ฟาฟาพูด
“อืม
ถ้างั้นไม่ต้องกังวลอะไรมาก เสือ ภาคิน คูไก
พวกนายจัดการเรื่องที่กรุงเทพก็แล้วกัน”
“ได้ครับผม”
เสือรับคำสั่ง
กลับมายังฐานของยามาโมโตะ
หน่วย NSA ซึ่งในตอนนั้นเองเขากำลังรอข่าวเกี่ยวกับการส่งเสบียงไปให้กับหน่วย The
Nation ในตอนนั้นเอง
ลูกน้องของเขาก็เข้ามาด้านในห้องเพื่อรายงานสถานการณ์ให้เขาได้ฟังในทันที
“ท่านครับ
มีข่าวเกี่ยวกับการส่งเสบียงของเราครับ”
“อ่า ว่าไงหล่ะ”
“มีการยิงปะทะกันเพื่อชิงเสบียงครับ”
“ห่ะ
พวกไหนยิงกันหล่ะ”
“เป็นพวกเจ้าพ่อในท้องที่ครับ”
“แล้วเสบียงที่เราส่งไปหล่ะ
เป็นยังไงบ้าง”
“อ่า ตอนนี้ทาง
Nation ยืนยันแล้วว่าเขาจะเอาเสบียงไปได้แล้วครับ”
“ดี
แล้วพวกของนายสุวรรณหน่ะ”
“ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวของพวกมันครับ”
“ฉันชักไม่ไว้ใจพวกมันแล้วหล่ะ
ไม่รู้มันจะทำอะไรต่อ”
“จะให้ผมตามสืบพวกมันมั้ยครับท่าน”
“ก็ดี
ไปจัดการตามนั้นก็แล้วกัน”
ยามาโมโตะให้ลูกน้องออกจากห้องไป
จากนั้นเขาก็นั่งนึกอะไรบางอย่างอยู่ในห้อง
กลับมายังเหลามังกรฟ้า
ในขณะที่พวกพนักงานในร้านกำลังปรับปรุงร้านกันเพื่อต้องรับเจ้าพ่อที่กำลังจะมาใช้บริการ
จู่ๆก็มีเสียงปืนออกมาจากด้านนอก เรย์จึงตัดสินใจปิดร้าน
และให้ลูกน้องไปหาที่หลบอยู่ด้านใน
เรย์ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่หาที่หลบเพื่อคุ้มกันตัวเธอเอง
ในตอนนั้นเองลูกน้องของเธอมาเข้ามาหาเธอด้วยความกลัว
“คุณเรย์คะ
นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
ฉันจะลองถามที่ Nation ดูนะ”
เรย์โทรศัพท์ติดต่อคนในหน่วยทันที
จากนั้นอีกฝ่ายก็ตอบรับสายมา
“สวัสดีค่ะ
คุณเอก นี่ฉันเรย์นะคะ”
“อ้าว คุณเรย์
นี่ฉันเอเรียน่านะคะ คุณเอกไม่อยู่ค่ะ”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”
“อ้อ
คุณเอกกับพรรคพวกไปชิงเสบียงที่หน่วยเหนือส่งมาหน่ะค่ะ”
“ฉันได้ยินเสียงปืนด้วยหล่ะ”
“สงสัยพวกเขาจะปะทะกับพวกเจ้าพ่อหน่ะค่ะ”
“อ้อ
เข้าใจหล่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ” จากนั้นเรย์ก็วางสายไป
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณเรย์”
“อ้อ
หน่วยทหารคงจะยิงปะทะกับพวกเจ้าพ่อหน่ะ”
“น่าจะฆ่าพวกมันให้หมดเลยนะคะ”
“ก็หวังไว้แบบนั้น
ยังไงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วหล่ะ ไปพักผ่อนเถอะ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
ณ
ตึกหลังหนึ่งแถบเหลามังกรฟ้า หลังจากที่ชนและโซระได้ยินเสียงปืนและการปะทะกัน
พวกเขาทั้งคู่ได้ดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ เขาพบว่าพวกของเจ้าพ่อเคี้ยงโดนชายสามคนจัดการ
โดยที่ชนกับโซระก็ได้เห็นทั้งสามคนกำลังเดินออกไป
ในตอนนั้นเองพวกเขาก็คุยกันในทันที
“เออชน
แกเห็นสามคนนั้นหรือเปล่าวะ” โซระถาม
“เห็นดิ
แกว่ามันเป็นใครวะ” ชนถามกลับ
“ฉันก็ไม่รู้
แต่ว่ามันต้องไม่ธรรมดาแน่นอนหว่ะ”
“เออดิ
กล้าบวกกับเจ้าพ่อขนาดนั้น”
“มีพวกทหารมาเอี่ยวด้วย
หรือว่าพวกมันจะเป็นพวกทหารหล่ะ”
“ไม่น่าใช่นะ
พวกนั้นดูไม่เหมือนทหารเลย”
“แล้วมันเป็นใครกันแน่วะ”
“หรือจะลองสืบพวกมันดีหล่ะ”
“จะสืบพวกมัน
สืบยังไงกันหล่ะ”
“ก็ลองติดตามพวกมันดู
ว่ามันจะไปไหน มันจะทำอะไร มันเป็นใคร”
“อ่า
รอให้เสร็จงานเจ้าพ่อสิงห์ก่อนเถอะหว่ะ”
“เออ
กูรับรองว่าไม่พลาดแน่นอน”
“นี่นายแน่ใจนะเพื่อน”
“แน่นอน
ถ้าไม่สำเร็จ อย่างน้อยลูกน้องมันก็ตายกันเป็นเบือหล่ะ”
“แล้วพวกเจ้าพ่อคนอื่นๆหล่ะ”
“เก็บมันไว้ก่อนแล้วกัน
เผื่อวันหนึ่งมันอาจใช้งานเรา”
“แล้วแต่นายนะเพื่อน”
พวกเขาทั้งคู่กลับเข้าไปนอนอยู่ในห้อง
เพื่อรอการประชุมของแต่ละแก๊งค์ต่อไป
และอีกด้านหนึ่งของตึก
แองเจลล่าพยายามจะเข้าไปยังเหลามังกรฟ้า โดยการเข้าไปด้านหลังของตึก
เธอจัดการแงะประตูเข้าไปในร้าน จากนั้นเธอก็ค่อยๆย่องเข้าไปในร้าน พยายามเดินให้เงียบที่สุดเพราะไม่อยากให้พนักงานในร้านได้ยิน
ในตอนนั้นเองเธอต้องไปหลบในห้องเก็บอาหาร เนื่องจากว่ามีคนเดินมา
“เฮ้ย
มึงว่าจะมีคนมาเก็บพวกเจ้าพ่อหรือเปล่าวะ”
“แน่นอน
ต้องมีคนมาลอบฆ่าแน่ๆ”
“ถ้างั้นร้านนี้คงพังไม่มีชิ้นดีแน่ๆ”
“นั่นสิ
ดีไม่ดีอาจโดนปิดร้านไปเลยก็ได้”
หลังจากที่สองคนนั้นเดินผ่านไป
แองเจลล่าก็ย่องเบาต่อไปยังโต๊ะที่พวกเจ้าพ่อจะไปนั่งกินกัน
ในตอนนั้นเองก็มีลูกน้องของเถ้าแก่หยงสองคนเฝ้าอยู่
แองเจลล่าใช้ปืนยิงยาสลบยิงใส่มัน จากนั้นก็จับมันนั่งเก้าอี้เพื่อไม่ให้คนสงสัย
แล้วเธอก็เข้าไปในห้องรับรองที่พวกเจ้าพ่อจะไปนั่งทานอาหาร
จากนั้นเธอก็ไปเช็คที่โต๊ะ แต่จู่ๆเธอก็พบกับระเบิดที่ถูกติดตั้งเอาไว้แล้ว
ทำเอาเธอแปลกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น
“อะไรเนี่ย
มีคนทำงานนี้ด้วยเหรอเนี่ย”
แอลเจลล่าพยายามจะติดตั้งระเบิดเพิ่ม
แต่จู่ๆก็มีคนเดินมา
“เฮ้ย พวกมึง
เฝ้ายามเป็นไงบ้าง”
แองเจลล่าปีนไปบนเพดาน
เธอเปิดช่องแอร์แล้วเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในนั้น ซึ่งคนที่เดินมาดูก็คือรามนั่นเอง
“ไอ้พวกนี้นี่
หลับยามกันอีกแล้ว” รามเรียกลูกน้องอีกสองคนมาแทนที่
“เออนี่
พวกเอ็งสองคน แบกไอ้สองตัวนี้ไปนอนก่อน เดี๋ยวกูดูที่นี่เอง”
มันสองคนแบกคนที่นอนสลบไป
ส่วนรามก็ไปนั่งเฝ้าอยู่ด้านหน้า
แองเจลล่ารีบเคลื่อนตัวไปตามช่องแอร์จากนั้นก็ไปถึงทางออกของร้าน จากนั้นเธอก็รีบกลับไปยังตึกที่เธออยู่เพื่อรอดูสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้ต่อไป
กลับมาที่รังของเจ้าพ่อเคี้ยง
ในตอนที่เพลิงหัวแตก ลูกน้องของเจ้าพ่อเคี้ยงก็พาเพลิงไปทำแผล ในตอนนั้นเอง
ในระหว่างที่ทำแผล ลูกน้องของเจ้าพ่อเคี้ยงก็ถามเพลิงในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา
“ไอ้เพลิง
มึงไปโดนอะไรมาวะ”
“อ่า คือ
หัวผมไปชนกับเพดานหน่ะพี่”
“อ้าว
ไปทำไงถึงได้โดนวะ”
“ก็อุบัติเหตุไงพี่”
“อ้าว
วันหลังแกก็ระวังๆหน่อยสิวะ”
“ได้พี่
ผมจะระวัง”
ในขณะที่พวกเขากำลังทำแผลกัน
จู่ๆลูกน้องคนหนึ่งของเจ้าพ่อเคี้ยงก็มาตะโกนบอกทุกคนในห้องทันทีด้วยความกลัว
“ทุกคน
คุณไข่มุกหายไป แย่แล้ว”
“เฮ้ย
จริงเหรอวะ หายไปไหนหล่ะ”
“กูก็ไม่รู้เหมือนกันโว้ย”
“เหรอ
ส่งคนออกไปหาสิโว้ย ถามคุณหนูเป็นอะไรไปเราตายหมดแน่” พวกมันรีบส่งคนไปตามหาคุณไข่มุกในทันทีอย่างเร่งด่วน
ในขณะที่เพลิงยังคงหวั่นใจอยู่เล็กน้อย
“เฮ้ย
เป็นอะไรไปวะเพลิง”
“อ่า
ไม่มีอะไรครับพี่”
“เหรอ ดูมึงสั่นๆยังไงชอบกลนะ”
“เปล่าพี่
ผมก็เป็นแบบนี้แหละ”
“มึงพอรู้มั้ยว่าทำไมคุณไข่มุกหายไป”
“ผมก็ไม่รู้สิพี่
ลองตามตัวแล้วถามดูสิพี่”
“เออ
เอ็งก็ต้องไปช่วยหาด้วย เข้าใจนะ”
ชายคนนั้นเดินออกไป
ปล่อยให้เพลิงนั่งคิดอยู่คนเดียวว่าจะทำยังไงต่อไป
กลับมายังโรงแรมของเกรท
ซึ่งในตอนนั้นเองเธอก็แช่น้ำนมอยู่ในอ่างอย่างสบายอารมณ์ และในขณะเดียวกัน
เธอก็คุยโทรศัพท์กับลูกน้องของเธอที่เธอสั่งให้ตามสืบเรื่องของวิน
“นี่ ฉันเกรทนะ
เรื่องที่ฉันให้ไปสืบเป็นยังไงบ้าง”
“ครับคุณเกรท
ผมรู้แล้วว่าสามคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ครับ”
“กำลังทำอะไรหล่ะ”
“พวกเขากำลังตามเก็บพวกเจ้าพ่ออยู่ครับ”
“งั้นเหรอ อืมๆ”
“จะให้ผมจัดการพวกมันไปก่อนหรือเปล่าครับ”
“อย่าเพิ่งทำอะไรพวกเขา”
เกรทพูดด้วยเสียงแข็ง
“ทำไมหล่ะครับ
มันอาจฆ่าลูกค้าเรานะครับ”
“ลูกค้าฉันมีทั่วประเทศ
แล้วอีกอย่าง สามคนนั้นอาจมีใครหนุนหลังก็ได้”
“ได้ครับคุณเกรท”
จากนั้นสายโทรศัพท์ก็ตัดไป
กลับมายังพวกของวิน
ซึ่งในตอนนั้นเองวินก็หัวเสียเดินออกไป จากนั้นก็ไปนั่งกอดเข่าอยู่คนเดียว
เขาพยายามจะไม่คิดถึงอะไร แต่ภาพวันที่พวกมันมาฆ่าครอบครัวของเขายังคงเข้ามาในหัว
“อย่า
อย่าทำอะไรลูกฉันเลย อยากได้อะไรก็เอาไป”
“พวกแกต้องการอะไรกันแน่วะ”
“พี่ครับ
ช่วยผมด้วย”
“ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด
ฉันจะฆ่าแก”
“พวกมันทุกคนต้องชดใช้”
ในตอนนั้นเอง
เซบและเวหาพยายามจะเข้าไปหาเขา เพื่อพยายามปลอบใจเขา
“วิน
ไม่เป็นไรนะเว้ย” เซบพูดขึ้น
“บ้าเอ้ย
มันมาอยู่ตรงหน้าฉันแท้ๆแล้ว แต่ฉันทำอะไรไม่ได้”
วินพูด
“เอาน่า
เขาคงต้องทำตามกฎหมายหล่ะนะ” เวหาพยายามพูดในแง่ดี
“งั้นเหรอ
แล้วมันจะติดคุกกี่ปี 5 ปีเหรอ หรือ 10 ปีหล่ะ” วินพูด
“ใจเย็นน่าวิน
ฉันเชื่อนะว่าพวกเขาไม่ปล่อยมันไว้แน่” เวหาพูด
“แต่ฉันยังไม่ค่อยเชื่อใจเท่าไหร่หว่ะ”
วินพูด
“นั่นสิ
ไม่รู้มันจะออกจากคุกมาก่อนกำหนดหรือเปล่า” เซบพูด
“ก็ถ้ามันออกมาก็ไปฆ่ามันก็ได้”
เวหาพูดปลอบใจ
“ฉันรู้
แต่ฉันเจ็บใจ”
แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน
จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าเดินมาทางพวกเขา ทั้งสามคนเล็งปืนไปทางเสียงฝีเท้า
แต่สุดท้ายแล้ว กลับมีผู้หญิงคนหนึ่งที่อุ้มตุ๊กตามาด้วยเดินมาทางเขา
ในสภาพที่หมดแรง ในตอนนั้นเธอกำลังจะล้มลง วินรีบไปรับเธอมาไว้ในอ้อมอกเขาไว้ทันที
“คุณๆ
ทำใจดีๆไว้นะครับ” วินพยายามปลุกเธอแต่ไมได้ผล
“เอาไงต่อดีวะ
ไม่รู้เธอมาจากไหนด้วย” เซบถาม
“ลองแบกเธอไปนอนพักก่อนดีกว่า”
เวหาแนะนำ
จากนั้นพวกเขาทั้งสามคนก็แบกเธอไปนอนในห้องที่พวกเขาพักอยู่
จากนั้นเขาก็ช่วยกันดูเธอไม่ให้เป็นอะไรไป
“คงจะเหนื่อยอ่ะ
เธอหลับปุ๋ยไปเลย” เวหาพูด
“เธอมาจากไหนกันเนี่ย
นายรู้หรือเปล่า”
“ถามฉันแล้วันจะถามใครหล่ะเพื่อน”
วินพูดตอบไป
“เอาแบบนี้ เราก็รอเธอฟื้นมาก่อนสิ แล้วค่อยถามไป”
เวหาพูด
“โอเค
ถ้าอาการเธอไม่ดีขึ้น ก็แบกเธอไปโรงพยาบาลก็แล้วกัน” เซบพูด
“เดี๋ยวฉันเฝ้าผู้หญิงคนนี้เอง
พวกนายไปพักดีกว่า”
เซบและเวหาไปนอนอยู่อีกห้องหนึ่ง
ซึ่งวินก็คอยอยู่ข้างๆผู้หญิงปริศนาคนนั้น
====================================================================
ในวันพรุ่งนี้ที่กลุ่มเจ้าพ่อจะมานัดประชุมกัน เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ
นิยายใหม่จ้า ไปอ่านด้วยเน้อ
https://writer.dek-d.com/shinobinon/writer/view.php?id=1960647
ความคิดเห็น