คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : สวัสดีแอนน์ แฟรงค์
พวกมันเข้าเล่นงานแคทเทอรีนและพวกเด็กๆ
ปะทะกันอย่างตะลุมบอน นาวินประเคนเข่าและศอกใส่พวกมัน แซคเตะหน้าพวกมันเรียงตัว
โอ๊คและธินก็ใช้คาราเต้ที่เรียนมาสอยพวกมัน โซเซียใช้กังฟูของเขากระโดดเตะพวกมัน
อเล็กซ์ก็ไม่น้อยหน้าจับมันหักแขนหักขาอย่างกับตุ๊กตา ส่วนเอมและออยทำอะไรไม่ได้มากนอกจากไปผสมโรงกับพวกเขา
พวกมันเริ่มเห็นท่าไม่ดี
ตัวหัวหน้ามันพยายามจะใช้ปืนยิง แต่แคทเทอรีนมาเตะปืนของมันทิ้ง
จากนั้นก็เอาปืนมันมาจ่อที่หน้าของมัน
“ใจเย็นน่าแคท มีอะไรก็ค่อยๆคุยกันได้นี่หน่า”
แคทเทอรีน : งั้นเหรอ
ฝากไปบอกไวเมอร์ลูกพี่แกด้วย ฉันจะตามไปฆ่าแกถึงที่เลย
จากนั้นแคทเทอรีนก็เอาปืนตบหน้ามัน
ตัวมันหนีไปปล่อยให้ลูกน้องอ่วมอรทัยอยู่ตรงนั้น แต่ไม่ทันไร ตำรวจแถวนั้นก็มาพอดี
แคทเทอรีนกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เลยตัดสินใจไปเอากุญแจเรือยอร์ชจากดอร์กิ้นมา
จากนั้นก็รีบหนีขึ้นเรือไป ตำรวจพยายามจะจับตัวไว้แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
อเล็กซ์ : เฮ้อ
หนีรอดซะที นึกว่าจะต้องติดคุกในเดนมาร์กแล้ว
นาวิน : ว่าแต่
เพื่อนของคุณแคทเทอรีนจะรู้หรือเปล่าครับว่าเรามา
แคทเทอรีน : ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ
ฉันส่งข้อความไปบอกเขาเรียบร้อยแล้ว
แซค : ว่าแต่
เนเธอร์แลนด์จะปล่อยภัยเหรอครับ ผมคิดว่าพวกเยอรมันต้องบุกไปที่นั่นแน่ๆ
แคทเทอรีน : เนเธอร์แลนด์เป็นแค่ทางผ่านเพื่อไปเยี่ยมเพื่อนน้าหน่ะ
ความจริงน้ามีของให้พวกเธอดูมากกว่า
โอ๊ค : ครับผม
อยากรู้จริงๆเลยครับว่ามันคืออะไร
ธิน : ว่าแต่
น้าไปทำอะไรกับพวกมันมาครับ มันถึงคิดจะทำร้ายน้า // แคทเทอรีนนิ่งไปพักนึง ทำเอาบรรยากาศรอบข้างเงียบงัน
โซเซีย : นี่
ฉันว่าอย่าเพิ่งถามตอนนี้ดีกว่านะธินเอ้ย
แคทเทอรีน : ไม่เป็นไรจ้ะ
เดี๋ยวน้าจะเล่าให้ฟังนะ //
เรื่องมีอยู่ว่า
ลูกชายคนโตของแคทเทอรีนเธอเกิดไปมีเรื่องกับพวกนาซีหัวรุนแรงเพราะมันทำร้ายคนยิว
ทำให้ลูกชายของเธอโดนไวเมอร์สั่งเก็บ เขาตายอย่างหน้าอนาถา
แคทเทอรีนพยายามใช้วิธีการทางกฎหมาย แต่ในยุคที่พวกนาซีครองอำนาจหน่ะเหรอ
อย่าหวังที่ความยุติธรรมจะมีกับพวกเชื้อสายยิว พวกมันไม่ใยดีกับเรื่องนี้เลย
แคทเทอรีนจึงสะสมความแค้นกับพวกเยอรมันอย่างมาก รอวันที่จะล้างแค้นไวเมอร์
เอม : เรื่องของคุณน้าน่าเศร้าจริงๆนะคะ
ว่ามั้ยออย
ออย : นั่นสิ
ไม่ต้องห่วงนะคะ ยังไงวันหนึ่งคุณน้าต้องได้รับความยุติธรรมแน่ๆ
แคทเทอรีน : ขอบใจมากนะจ๊ะ
ณ กรุงวอร์ซอร์
หลังจากที่ทหารเยอรมันเข้าควบคุมเมืองไว้ได้เนื่องจากโปแลนด์ขอยอมแพ้ ฮัมบูร์กและพรรคพวกฉลองให้กับชัยชนะในครั้งนี้
ฮัมบูร์ก : ฉลองกันหน่อย
วันนี้พวกนายทุกคนทำได้ดีมากเลยนะ
มิลเลอร์ : ใช่แล้ว
ต่อไปฝรั่งเศส แล้วก็อังกฤษ พวกมันจะเอาอะไรมาต่อต้านเรา
เมอร์ลิน : แน่นอน
กองทัพของพวกเราแข็งแกร่งซะขนาดนี้เนี่ย ใครจะสู้ได้
ลูก้า : นี่พวกนาย
พรุ่งนี้ฉันต้องไปประจำการที่แอฟริกาตามท่านรอมเมลไปแล้วนะ
ฮัมบูร์ก : งั้นเหรอ
ฉันก็ต้องเข้าพบท่านผู้นำเหมือนกันพรุ่งนี้
เมอร์ลิน : เอาน่า
ยังไงก็ไปทันอยู่แล้วน่า ท่านรู้นี่ว่าเราพักผ่อนอยู่
มิลเลอร์ : นั่นสิ
เอ้ยนี่ เอาไส้กรอกมาเพิ่มให้พวกเราหน่อยสิ
ลูก้า : เฮ้ยนี่
กะจะให้อ้วนเป็นหมูเลยหรือไงเนี่ย // แต่ตัวเขาหยิบไส้กรอกเข้าปากไม่หยุด
มิลเลอร์ : ไม่ต้องกลัว
เดี๋ยวฉันก็กลับไปออกกำลังกายแล้ว
เมอร์ลิน : ฮัมบูร์ก
ได้ยินว่าท่านผู้นำชื่นชมในตัวเธอมากเลยนะ ฉันอิจฉาจริงๆ
ฮัมบูร์ก : ยังไม่จบแค่นี้หรอก
ฉันมีบางอย่างที่ต้องบอกท่านผู้นำด้วยหล่ะ ฉันอยากไปอยู่ทัพเรือหน่ะ
ลูก้า : จริงเหรอ
ไม่น่าเชื่อ ยังไงก็ขอให้โชคดีก็แล้วกันนะ
ด้านแนวรบตะวันออก หลังจากที่กองทัพแดงเข้ายึดได้
ออก้านึกออกว่าพวกเขาทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่ง
เขารีบมุ่งหน้าไปยังโรงงานแห่งนั้นทันที แต่ในตอนนั้นเอง
กองทัพเยอรมันก็เข้ายึดโรงงานแห่งนั้นแล้วกวาดต้อนชาวยิวออกไป
ออก้าพยายามเข้าไปหาโซเซียแต่ทหารเยอรมันห้ามไว้
“เฮ้ย นายจะไปไหน”
ออก้า : ฉันจะไปหาเพื่อนฉัน
“ตอนนี้ที่นี่อยู่ในความดูแลของเยอรมัน
โซเวียตไม่เกี่ยว”
“ไอ้พวกหมาเยอรมัน ซักวันอังกฤษจะมาฆ่าพวกแก
โซเวียตก็เหมือนกัน โง่ร่วมมือกับพวกมันอยู่ได้” เชลยคนหนึ่งตะโกนด่าทหารเยอรมัน จนโดนพวกมันซ้อมแล้วลากตัวออกไป
ทันใดนั้นเองออก้าก็เห็นดไวด์ คนที่เขารู้จักและเป็นเพื่อนกับโซเซีย
เขาจึงเข้าไปคุยด้วยทันที
ออก้า : ดไวด์
นี่ฉันออก้านะ โซเซียอยู่ที่นี่หรือเปล่า
ดไวด์ : โซเซียเหรอ
เขาไม่อยู่ตั้งนานแล้ว ได้ยินวาไปเนเธอร์แลนด์กับน้าเขา
ออก้า : เนเธอร์แลนด์เนี่ยนะ
จริงเหรอเปล่า
ดไวด์ : ฉันได้ยินมาแบบนั้น
ออก้า อย่าไว้ใจพวกเยอรมัน // จากนั้นมันก็ลากตัวดไวด์ไป
ส่วนออก้าก็ต้องคอตกออกมา
ทางด้านรถของเจเลมี่ เมื่อเขามาถึงท่าเรือ
เจเลมี่ก็เดินมาขึ้นเรือโดยที่มีชายคนหนึ่งรออยู่
“เจลามี่ นายรอนานมั้ย” ใช่แล้ว เจลามี่
เขาคือน้องชายของเจเลมี่ที่ชื่อคล้ายกัน เมื่อคนพี่มาถึง
เขาก็โดนลอบยิงจากด้านบนเรือ ร่างของเจเลมี่ล้มลงไปทันที เจลามี่ตกใจมาก
พยายามจะไปประคองพี่สาวของเขาไว้ ส่วนมือปืนก็โดนจับส่งตำรวจจนได้
เจเลมี่ : เจลามี่
ฉันคงไม่รอดแล้วหล่ะ
เจลามี่ : แข็งใจไว้นะพี่
พี่ต้องรอดเพื่อประเทศนี้นะพี่
เจเลมี่ : ไม่
เธอต้องทำงานนี้แทนฉัน ฉันเชื่อในตัวเธอนะ
เจลามี่ : แต่ผมไม่เก่งเหมือนพี่นะครับ
เจเลมี่ : ไม่ต้องห่วง
ยังไงเธอต้องทำได้ ทุกอย่างอยู่ในเอกสารนี้แล้ว ฉันฝากด้วยนะ
เจเลมี่หมดลมไปในอ้อมแขนของเจลามี่
เขาร้องไห้อย่างเสียสติจนแทบบ้า แต่ยังไงเขาก็ต้องทำงานของเขาต่อไป
เขาปาดน้ำตาแล้วขึ้นเรือไปยังอังกฤษทันที
ณ ประเทศไทย หลังจากที่กัสกลับมาได้ไม่นาน
เธอก็มีข่าวในไทยว่าเธอไปนอนกับนายทหารเยอรมันมา
ทำเอาเธอเครียดจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร
เธอต้องคอยให้สัมภาษณ์กับสื่อทุกวันเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวนี้
“คุณกัสคะ
เรื่องของคุณกับนายทหารเยอรมันนี่เป็นยังไงคะ”
กัส : เรารู้จักกันเฉยๆค่ะ
ไม่มีอะไรมาก
“แล้วตอนนี้เขาใช่แฟนของคุรหรือเปล่าคะ”
กัส : ตอนนี้ยังเรียกไม่ได้
แต่อนาคตไม่แน่ค่ะ
“คุณคิดว่ามันจะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือเปล่าคะ”
กัส : ดิฉันไม่ขอตอบเรื่องนี้ค่ะ
ฉันขอตัวนะคะ // เธอหัวเสียเดินเข้าบ้านพักของเธอไป
เธอพยายามจะไปควบคุมตัวเองไม่ให้เสียสติ แต่ทำยังไงได้ ข่าวบ้าพวกนี้มันมาสุมอยู่ในหัวทั้งวัน
“คุณวิคเตอร์ ยังไงคุณต้องรับผิดชอบฉัน” เธอพยายามรวบรวมเงินเพื่อเดินทางไปเยอรมันโดยเร็ว
โดยที่ไม่รับงานแสดงอื่นๆที่เขามาหาเธอ
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากที่รัตหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว
เขาก็ออกจากโรงพยาบาลทันทีและถูกเรียกตัวกลับไปที่กรุงเทพ เพื่อเข้าพบกับผู้บังคับบัญชาของเขา
เมื่อเขามาถึง ผบ.หน่วยก็นั่งรอเขาอยู่แล้ว
“เอาหล่ะคุณรัต นั่งก่อนสิ”
รัต : ท่านครับ
ท่านมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ
“ผมได้รับรายงานเรื่องของคุณที่ชายแดนกัมพูชาแล้ว
ทำได้ดีมาก ผมเลยอยากมอบหมายงานๆนี้ให้คุณ”
รัต : ครับท่าน
งานอะไรครับ
“ผมอยากจะให้คุณเป็นสายลับหน่ะ ในตอนนี้
ความขัดแย้งของเราที่อินโดจีนตอนนี้กำลังปะทุอย่างหนัก ผมกลัวว่าจะเกิดสงครามใหญ่
ผมเลยอยากให้คุณเข้าแทรกซึมพื้นที่กัมพูชาหน่ะ”
รัต : ได้ครับท่าน
ว่าแต่ ผมจะต้องเปลี่ยนชื่อใหม่หรืออะไรใหม่หรือเปล่าครับ
“ทุกอย่างอยู่ในซองนี้หมดแล้วหล่ะ อีก 3 วันจะมีคนมารับตัวคุณไป เอาหล่ะ โชคดีนะ”
ณ ค่ายยุวชนนาซี กรุงเบอร์ลิน
เด็กคนอื่นๆกลับบ้านกันหมดเพราะเป็นช่วงหยุดฉลองชัยชนะ แต่โยชิตะไม่มีที่ไหนให้ไป
เขาเลยตัดสินใจอยู่ที่ค่ายชั่วคราว โดยที่มีภารโรงแถวนั้นอยู่เป็นเพื่อนเขา
ภารโรง : ไม่กลับบ้านเหรอเรา
โยชิตะ : อ้อ
ผมไม่มีบ้านอยู่หรอกครับ พวกพี่ๆของผมก็ไปทำงาน ไม่ก็ไปทำสงครามหน่ะครับ
ภารโรง : แล้วพ่อแม่ของเธอไปไหนซะหล่ะ
โยชิตะ : ท่านไม่อยู่ที่นี่หรอกครับ
คุณลุงหน่ะ เคยเป็นทหารใช่หรือเปล่าครับ
ภารโรง : เธอรู้ได้ยังไงหล่ะ
โยชิตะ : ดูจากท่าทางที่ลุงทำผมก็พอรู้หน่ะครับ
ภารโรง : ใช่แล้วหล่ะ
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งหน่ะ
โยชิตะ : คุณลุงเล่าให้ผมฟังหน่อยได้หรือเปล่าครับ
ผมอยากฟังจากปากคุณลุงหน่ะ
ภารโรง : โอเค
เดี๋ยวลุงจะเล่าให้ฟังนะ //
ลุงคนนั้นเล่าเรื่องของเขาให้โยชิตะฟังจนหมด
โยชิตะก็นั่งฟังด้วยความเพลิดเพลิน
เหมือนกับว่าเขาได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้มานานแล้ว
ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส
อลิสกับรินเพิ่งจะส่งข้อมูลสำคัญให้กับทางเยอรมัน
พวกเธอได้รับค่าตอบแทนที่คุ้มค่าแล้วส่งเงินและของบางส่วนไปให้โยชิตะน้องชายของเธอ
รินเองก็เขียนจดหมายถึงเขาเช่นเดียวกัน
อลิส : เฮ้อ
หวังว่าโยชิตะเขาจะได้รับไปนะ
ริน : นั่นสิพี่
กลัวว่าจะส่งไปที่เยอรมันไม่ได่หน่ะสิพี่ // ระหว่างนั้นเอง
สาวนักเต้นกลุ่มหนึ่งที่ไม่ถูกกับพวกเธอก็เดินมาเจอพอดี
“นี่หล่อนๆ มาดูพวกหมูเยอรมันนี่สิ พวกบ้าสงคราม”
“ใช่ๆ แต่เราประกาศสงครามกับมันแล้วนี่พี่
พวกแกเละเป็นจุลแน่”
อลิส : จะบ้าเหรอ
ฉันมาจากออสเตรียนะเฟ้ย อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่า
ริน : ใช่ๆ
แล้วเธอคิดเหรอว่ากองทัพของเธอจะทำอะไรได้
“ปากดีนะอีนี่ ตบมันเลย”
พวกหล่อนพยายามจะตบทั้งสองคน แต่อลิสกับรินแข็งกว่า
ทั้งคู่จิกหัวพวกนั้นจากนั้นก็ทั้งตบทั้งต่อย ทำเอาพวกนั้นน่วมไปตามๆกัน
“อีบ้า นี่เธอทำกับผมฉันแบบนี้เหรอ”
อลิสไม่ฟังตบหน้าพวกนั่นต่อ
จนพวกนั้นต้องหนีออกไป ส่วนรินกับอลิสก็กลับมานั่งอยู่แถวนั้น
อลิส : เฮ้อ
โคตรเหนื่อยเลย แต่ก็ดีแล้ว หมั่นไส้มันมานานแล้ว
ริน : แต่พวกมันจะไปฟ้องเจ้านายมันหรือเปล่าพี่
อลิส : ไม่ต้องห่วงหรอก
เท่าที่แซคเล่าให้ฟัง อีกไม่นานฝรั่งเศสก็จะยึดที่นี่แล้ว
ริน : แซค
จริงด้วยพี่ ไม่ได้เจอพวกนั้นนานแล้วนะพี่ ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน
อลิส : นั่นสิ
แต่เอาเถอะ ซักวันคงต้องได้เจอเองหล่ะ
ณ ท่าเรือแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส
หลังจากที่จูเลียสมาถึง เขาก็เดินทางต่อไปเยอรมันทันที
แต่ในช่วงนั้นไม่มีรถไฟไปเยอรมันเลย เขาจึงต้องหารถแถวนั้นเพื่อเดินทางต่อ
เขาเดินมาเจอรถคันหนึ่งที่กำลังขนของขึ้นรถอยู่
เขาจึงลองเดินเสี่ยงดวงเข้าไปถามชายคนนั้น
จูเลียส : คุณครับ
คุณจะไปไหนเนี่ย
“ฉันจะไปเยอรมันหน่ะ”
จูเลียส : คุณจะไปทำไมเหรอครับ
“ฉันมีงานต้องทำนิดหน่อยหน่ะ”
จูเลียส : ผมขอไปด้วยนะครับ
จะคิดเงินผมก็ให้
“นายจะไปทำอะไร”
จูเลียส : ผมจะไปเที่ยวหาเพื่อนหน่ะครับ
“โอเค งั้นนายมากับฉัน เงินฉันไม่คิดหรอก”
ณ กรุงลอนดอน
โจสทำงานอยู่ที่สถานทูตอเมริกาในอังกฤษ
เขาต้องคุยกับเจ้าหน้าที่อังกฤษทุกวันเรื่องของอเมริกา
ว่าพวกเขาจะเข้าร่วมสงครามด้วยหรือไม่
“คุณโจส
คุณว่าอเมริกาจะเข้าร่วมสงครามหรือเปล่าครับ”
โจส : เราดำเนินนโยบายเป็นกลางหน่ะครับ
“งั้นเหรอครับ คุณคิดว่าอเมริกาจะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเหรอครับว่าเกิดสงคราม”
โจส : คุณต้องเข้าใจนะครับ
ตอนนี้กองทัพอเมริกากำลังประสบปัญหาอยู่ครับ
“แล้วแนวรบทางด้านแปซิฟิกหล่ะ
ได้ยินว่าทางญี่ปุ่นกำลังโจมตีจีนอยู่นี่”
โจส : ผมเชื่อว่า
รูสเวตต์คงจะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดแน่นอนครับ
“ผมหวังว่า
การกระทำของญี่ปุ่นจะทำให้คุณเข้าร่วมสงครามได้นะครับ”
ทางด้านนูโวร่า เมื่อเธอมาถึงลอนดอน
เธอก็ได้รับคำสั่งให้เข้าทำงานที่สถานทูตอีตาลี
เพื่อประชาสัมพันธ์โฆษณาชวนเชื่อของผู้นำของเธอ
แล้วก็เป็นสายลับในอีกด้านหนึ่งด้วย เธอต้องเปลี่ยนชื่อแซ่ รวมทั้งต้องไม่ให้ใครจำได้ว่าเธอเป็นใคร
“สวัสดีครับคุณนูโวร่า เรากำลังรอคุณอยู่พอดีเลย”
นูโวร่า : สวัสดีค่ะทุกคน
ทุกคนคงจะรู้ดีนะว่าฉันเป็นใคร
“ครับผม พวกเราทราบดี”
นูโวร่า : ฉันขอให้ทุกคนทำงานให้เต็มที่
แล้วดำเนินการอย่างลับๆ เอาหล่ะ ไปได้
นูโวร่ากลับไปนั่งโต๊ะของเธอเอง
จากนั้นเธอก็ดูงานที่ได้รับมอบหมายบนโต๊ะของเธอ ซึ่งงานของเธอ
เธอต้องตามหาตัวชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นทูตสหรัฐแล้วสืบหาข้อมูลจากเขาให้ได้
ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ โจส สมิธ ชายคนที่เธอรู้จักเป็นอย่างดีนั่นเอง
“สวัสดีคุณโจส ฉันจะเจอคุณให้ได้”
ที่แนวรบด้านแอฟริกา
ทหารเยอรมันหลายหน่วยได้เข้ามาช่วยทหารอิตาลีรบ
วิคเตอร์กับเทราน์เนอร์ก็เพิ่งจะมาถึงพอดี
พวกเขาตื่นตาตื่นใจกับดินแดนทะเลทรายแถวนั้นมาก
วิคเตอร์ : ในที่สุด
เราก็มาถึงกันแล้ว สมรภูมิรบแรกของเรา
เทราน์เนอร์ : แต่ที่นี่ร้อนเป็นบ้าเลยเนี่ย
พวกนายว่ามั้ย
วิคเตอร์ : กลัวอะไรหล่ะ
ฉันชอบมากเลยหล่ะ เจอแต่หนาวมาทั้งชีวิตเนี่ย
เทราน์เนอร์ : เอาที่สบายใจเลยพวก
ในช่วงเดียวกัน
เทเรซ่าก็กำลังช่วยรักษาทหารแถวนั้นอยู่
เธอก็ต้องออกมาต้อนรับทหารเยอรมันที่มาใหม่ เธอก็ได้เจอกับวิคเตอร์โดยบังเอิญ
เทเรซ่า : วิคเตอร์
นี่คุณมาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย
วิคเตอร์ : คุณเทเรซ่า
ในที่สุดผมก็เจอคุณ คุณรู้มั้ยผมคิดถึงคุณมากแค่ไหน
เทราน์เนอร์ : ใครกันเนี่ย
นายรู้จักเธองั้นเหรอ
วิคเตอร์ : แน่นอน
เธอเป็นแฟนฉันเองหล่ะ
เทเรซ่า : ใครบอกว่าฉันเป็นแฟนนาย
พวกนายเพิ่งจะมาใหม่ ไปรายงานตัวด้านนั่นสิ
วิคเตอร์ : แล้วเธออยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง
สบายดีมั้ย
เทเรซ่า : ฉันสบายดี
ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก
เทราน์เนอร์ : ฉันว่าฉันไปรายงานตัวด้านนั้นดีกว่า
ไปกันเถอะวิคเตอร์ // เทราน์เนอรากแขนวิคเตอร์ไปยังศูนย์บัญชาการ
ปล่อยให้วิคเตอร์ตาลอยแบบนั้นไม่อยู่นานเลยหล่ะ
ณ ซอยแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส
ชายคนหนึ่งเดินถือซองเอกสารแผ่นหนึ่งเดินเข้าซอย แล้วทิ้งเอาไว้บนฝาถังขยะแถวนั้นแล้วก็เดินจากไป
ปล่อยให้ผู้หญิงท่าทางจรจัดคนหนึ่งเอาเอกสารนั่นไป
เมื่อเธอได้เอกสารเธอก็เปิดอ่านทันที
“เคท งานนี้เธอต้องข้ามเขตไปเยอรมัน
ฉันมีงานให้เธอทำ เธอต้องสังหารชายคนนี้ ในรูปเป็นรูปของนายทหารคนหนึ่ง”
หญิงสาวคนนั้นอ่านดูอย่างละเอียด
จากนั้นเธอก็กลับเข้าไปเตรียมของในบ้าน ซึ่งมีปืนไรเฟิล Lee-Enfield ของอังกฤษ ติดกล้องเล็งสำหรับซุ่มยิง
หลังจากที่เธอเตรียมยุทธภัณฑ์เสร็จ เธอก็เปลี่ยนชุดแล้วออกเดินทางทันที แต่ก่อนไป
เธอไปร้านไวน์แห่งหนึ่งจากนั้นก็ซื้อไวน์มาขวดหนึ่ง
เจ้าของร้านรู้จักเธอดีเลยเตรียมไวน์ให้เธอ
“จะไปฆ่าคนอีกแล้วสินะเคท”
“ก็นี่มันชีวิตทหารรับจ้างแบบฉันนี่หน่า
แล้วเจอกันนะ” หลังจากที่เธอได้ของ เธอก็ออกเดินทางไปเยอรมันทันที
ไม่กี่วันถัดมา
หลังจากที่เรือยอร์ชของแคทเทอรีนมาเทียบท่าที่ชายฝั่งเนเธอร์แลนด์
จากนั้นพวกเขาก็ผูกเรือไว้แล้วมายังจุดที่เพื่อนของแคทเทอรีนนัดไว้ทันที จากนั้น
เธอก็เห็นเขาจอดรถบรรทุกอยู่ตรงโคนต้นไม้
แคทเทอรีน : อ๊อตโต้
นั่นนายใช่มั้ย
อ๊อตโต : แคทเทอรีน
เธอปลอดภัยดีนะ ฉันได้ข่าวที่โปแลนด์แล้ว
อีดิธ : แคทเทอรีน
เธอจำฉันได้มั้ยจ๊ะ
แคทเทอรีน : จำได้สิ
เธอก็สบายดีนะ
อ๊อตโต : ลูกแอนน์
มาร์ก๊อต สวัสดีน้าแคทเทอรีนสิลูก
แอนน์ มาร์ก๊อต : หวัดดีค่ะคุณน้า
แคทเทอรีน : ว้าว
หนูแอนน์ มาร์ก๊อต โตขึ้นมากเลยนะเนี่ย
อเล็กซ์ : พวกเรา
ดูนั่นสิ แอนน์ แฟรงค์ตัวจริงเสียงจริงเลยนะเนี่ย // เธอกระซิบกับเพื่อนๆของเขา
แคทเทอรีน : อ๊อตโต
นี่หลานสาวฉัน อเล็กซ์ ส่วนนี่ก็เพื่อนๆของหลานสาวฉันนะ // เด็กๆทักทายครอบครัวแฟรงค์
จากนั้นพวกเขาก็รีบขึ้นรถเพื่อไปส่งพวกของแคทเทอรีน ณ ที่พักของเธอทันที
======================================================================
พวกเด็กๆได้เจอกับแอนน์ แฟรงค์ตัวจริงเสียงจริง แต่ในขณะเดียวกันสงครามก็เริ่มเดือดขึ้น พวกเด็กๆจะผ่านมันไปได้หรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยนะ พยายามรีบปั่นเอาใจคนเปิดเทอม แหะๆ
ความคิดเห็น