ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My War - สงครามที่ไม่ได้เลือก

    ลำดับตอนที่ #10 : EP 6 : แขกที่มาเยือน

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 61


    เช้าวันต่อมา ทุกคนตื่นขึ้นมาในสภาพสลึมสะลือเต็มที่ เนื่องจากว่าเหนื่อยกันมามาก ที่ห้องของนอร์รีน ในตอนนั้นนอร์รีนตื่นขึ้นมาในสภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขาเห็นมิเชลเธอกำลังนอนหลับอยู่ข้างๆเขา แต่เมื่อมิเชลเห็นนอร์รีนตื่นขึ้นมา เธอรีบไปกอดเขาในทันทีโดยที่ไม่ปล่อยให้เขาพูดอะไรเลย

    มิเชล : นอร์รีน ฉันคิดว่าเธอจะไปอะไรไปแล้ว

    นอร์รีน : ฉันไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่หล่ะ

    มิเชล : คุณตะวันเขาทำแผลให้เธอ ฉันพาเธอมานอนหน่ะ

    นอร์รีน : ขอบใจมากนะมิเชลที่มาลำบากเพราะฉัน

    มิเชล : ไม่เป็นไรหรอกนอร์รีน มากกว่านี้ฉันก็ทำให้เธอได้ // เธอกอดนอร์รีนมากขึ้นกว่าเดิม จนทำให้เธอไปโดยแผลของนอร์รีน

    นอร์รีน : โอ๊ย เบาๆหน่อยสิ

    มิเชล : โทษทีนะ ก็ฉันดีใจนี่หน่า เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้เธอเองนะ // มิเชลรีบไปหาน้ำมาให้นอร์รีนดื่มในทันที เพราะกลัวว่าเขาจะกระหายน้ำ

     

    ที่ห้องของเอจิ เอจิตื่นขึ้นมาโดยที่หมาของเขาเลียหน้าให้เขาตื่น ในตอนนั้นเขาก็ลูบหัวหมาของเขาด้วยความเป็นห่วงมัน

    แกปลอดภัยนะ ขอบใจมากนะที่ช่วยฉัน

    แต่ในตอนนั้นเอง ฮาจิหมาของเขาก็เห่าและหันหัวไปทางไลฟ์ที่นอนอยู่ไม่ห่างจากเขา ในตอนนั้นไลฟ์ก็ได้ยินเสียงหมาเห่าแล้วก็ตื่นขึ้นมาทันที

    เอจิ : อ้าว ตื่นแล้วเหรอเธอ เป็นยังไงบ้างหล่ะ

    ไลฟ์ : นี่ ยังจะถามฉันอีก นายนั้นแหละเป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า

    เอจิ : ก็เจ็บนิดหน่อย แต่โอเคแล้วหล่ะ เธอนอนเฝ้าฉันทั้งคืนเลยเหรอ

    ไลฟ์ : ก็ฉันพานานมานอนหน่ะ แล้วก็หลับไป ขอบใจนายมากนะที่ช่วยฉัน

    เอจิ : ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่นี่เมื่อคืนเป็นยังไงบ้างหล่ะ

    ไลฟ์ : ก็เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรแล้วหล่ะ

     

    ที่ห้องของยูจีน ในตอนนั้นเองยูจีนกำลังหลับอย่างสบายใจ ในขณะที่ซิลเวียตื่นขึ้นมา สภาพของเธอในตอนนั้นดีขึ้นมากแล้ว หลังจากที่ซิลเวียตื่น โทนี่ก็ตื่นขึ้นมาด้วยอีกคน

    โทนี่ : อ้าว พี่ซิลเวีย ตื่นแล้วเหรอพี่

    ซิลเวีย : พี่หลับอยู่หล่ะมั้งจ๊ะโทนี่

    โทนี่ : ว่าแต่ พี่หายเป็นไข้แล้วเหรอครับ

    ซิลเวีย : พี่ดีขึ้นมากแล้วหล่ะจ้ะ ว่าแต่ยูจีนไปไหนหล่ะ

    โทนี่ : พี่ยูจีนเฝ้าพี่ทั้งคืนเลย ตอนนี้คงเฝ้าพระอินทร์อยู่หล่ะ

    ซิลเวียเห็นยูจีนนั้นตอนนั้นก็ไปลูบหน้าเธอในทันที จากนั้นก็เอาเสื้อคลุมของเธอไปห่มเขา

    โทนี่ : ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอนอนต่อนะพี่ // โทนี่หลับไปโดยที่ซิลเวียยังไม่พูดอะไรซักคำ

     

    อีกด้านหนึ่ง ในห้องของมิสซึ มิสซึตื่นขึ้นมาจะไปจัดการเรื่องอาหารในครัว ในระหว่างนั้นเอง เขาก็เห็นอลิซกำลังนั่งดักฟังสัญญาณวิทยุอยู่ มิสซึเห็นจึงเดินเข้าไปหาเธอในทันที

    มิสซึ : อลิซ เธอทำอะไรอยู่งั้นเหรอ

    อลิซ : เงียบหน่อยสิ ฉันกำลังฟังนี่อยู่ // และระหว่างนั้นเอง ก็มีสัญญาณข่าวจากรัฐบาลแทรกเข้ามา
    ในขณะนี้ ทางรัฐบาลได้ปราบปรามและกวาดล้างกลุ่มกบฏอย่างหนัก ทางประธานาธิบดีเชื่อว่ากลุ่มกบฏจะถูกกำจัดลงได้ภายใน 10 วันเป็นอย่างน้อย แต่รัฐบาลยังคงมีแผนที่จะปิดล้อมกลุ่มกบฏต่อไป…”

    มิสซึ : ไม่น่าเชื่อว่ารัฐบาลจะกำจัดกลุ่มกบฏได้เร็วแบบนี้

    อลิซ : ไม่รู้สิ ยังไงก็รอดูสถานการณ์ไปก่อนก็แล้วกัน

    มิสซึ : เดี๋ยวฉันไปจัดการอาหารในครัวก่อนก็แล้วกันนะ

    อลิซ : ได้เลยจ้า แล้วเจอกันนะ

    และอีกด้านหนึ่งของห้อง อลันที่บังเอิญได้ยินข้อความทางวิทยุ เขาก็เกิดระส่ำระส่ายในใจ ทำเอาเขาเผลอไปเดินชนกับเอสเทอร์ ทำเอาเขาต้องขอโทษเธอยกใหญ่

    เอสเทอร์ : นี่คุณ นึกยังไงมาเดินชนฉันเนี่ย

    อลัน : ขอโทษด้วยครับ คือว่าผมฟุ้งซ่านนิดหน่อยหน่ะ

    เอสเทอร์ : นายคิดอะไรของนายอยู่งั้นเหรอ

    อลัน : ผมได้ข่าวมา ตอนนี้กลุ่มกบฏเพื่อนของผมกำลังโดนรัฐบาลจัดการอยู่หน่ะ

    เอสเทอร์ : ห่ะ นี่พวกเขาเริ่มจะรุกคืบกันแล้วเหรอ

    อลัน : ความจริงผมอยากจะกลับไปรบอีกครั้งด้วยซ้ำ แต่น้องสาวผมอยู่ที่นี่หน่ะ

    เอสเทอร์ : ไลฟ์หน่ะเหรอ ว่าแต่ตอนนี้คุณจะทำยังไงต่อหล่ะ

    อลัน : ผมก็ไม่รู้ ตอนนี้ผมยังคิดอะไรไม่ออกหน่ะ

    เอสเทอร์ : ฉันว่าคุณไปหาอะไรกินก่อนดีกว่านะ จะได้ไม่คิดมาก

    อลัน : ก็ดีเหมือนกันนะ // อลันรีบเดินไปทางห้องครัวในทันที

     

    ที่ห้องของซีโร่ ในตอนนั้นเองซีโร่กับบารีร่าก็นอนด้วยกัน แต่จากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งคู่ก็ตื่นขึ้นมารับแสงแดดในยามเช้าทันที เนื่องจากว่าพวกเขาทั้งคู่นอนมากันมากพอแล้ว

    บารีร่า : ซีโร่ ตื่นแล้วเหรอ หลับสบายหรือเปล่า

    ซีโร่ : ก็โอเคนะ หวังว่าเธอก็คงสบายดีนะ

    บารีร่า : ก็สบายดีนะ แต่จะสบายดีกว่านี้ถ้ามีตุ๊กตาหมีซักตัวนะ

    ซีโร่ : ตุ๊กตางั้นเหรอ เวลาแบบนี้ยังเล่นตุ๊กตาอีกเหรอเนี่ย

    บารีร่า : ก็ฉันชอบนี่หน่า ก่อนจะมีสงครามฉันลืมเอาตุ๊กตาจากที่บ้านมาด้วย

    ซีโร่ : งั้นเหรอ ก็สมกับเด็กดีนี่หน่า

    บารีร่า : แหม่ พูดอย่างกะตัวเองไม่เด็กเลยนะ

    ซีโร่ : ฉันไม่ใช่เด็กซะหน่อย เอาเป็นว่าฉันไปหาอะไรกินดีกว่า

     

    ด้านหน้าอพาร์ทเม้นท์ อนูวาและตะวัน ทั้งสองคนช่วยกันเฝ้าอยู่ห้องโถงรับรองอพาร์ทเม้นท์เผื่อว่าจะมีใครเข้ามา ในตอนนั้นเองทั้งคู่ก็นั่งคุยกันอยู่ด้านล่างเพื่อทำความรู้จักกันให้มากขึ้น

    ตะวัน : คุณเป็นใครมาจากไหนอย่างงั้นเหรอ

    อนูวา : คุณถามฉันทำไมอีกหล่ะ ฉันบอกทุกคนไปแล้วไง

    ตะวัน : ดูจากท่าทางการพูด อาวุธที่คุณพก กับความสามารถของคุณ ผมว่าคุณต้องไม่ธรรมดา ไม่ต้องโกหกผมหรอก ผมเป็นทหาร ผมมองทหารด้วยกันออกนะครับ

    อนูวา : ฉันเป็นทหารค่ะ งานของฉันคือติดต่อกับกลุ่มกบฎหน่ะค่ะ คุณอย่าบอกใครก็แล้วกันนะ แล้วคุณหล่ะ

    ตะวัน : ผมเป็นนักบินของสหประชาชาติ ถูกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายยิงตก เลยได้มาอยู่ที่นี่หน่ะครับ ผมไม่แน่ใจว่าฝีมือใคร

    อนูวา : ไม่ใช่พวกฉันแน่ๆ พวกฉันไม่สั่งโจมตีแน่นอน กลุ่มกบฏก็ไม่น่าจะมีอาวุธต่อสู้อากาศยานนะคะ

    ตะวัน : คุณคิดว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลอย่างงั้นเหรอครับ

    อนูวา : ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่ไม่ต้องห่วง ยังไงฉันก็จะพาคุณกลับบ้านให้ได้

    ตะวัน : ขอบคุณมากนะครับ

     

    ณ สนามบินอู่ตะเภา ประเทศไทย กลุ่มหน่วยรบพิเศษหน่วยหนึ่งได้รับคำสั่งให้มารายงานตัวกับผู้บังคับบัญชาที่กำลังรอเขาอยู่ในเต้นท์แห่งหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่พวกเขามาถึง ผู้บังคับบัญชาก็สั่งให้พวกเขานั่งลงในทันที จากนั้นก็เริ่มแผนการที่พวกเขาวางไว้ในทันที

    เอาหล่ะ สวัสดีทุกท่าน วันนี้ที่ผมไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก เพราะภารกิจนี้เร่งด่วน คุณคงจะรู้นะว่าเป็นงานแบบไหน ผู้กองอรุณ

    อรุณ : ครับ ผมพอทราบเบื้องต้นแล้วครับ เรื่องนักบินที่หายไป

    ใช่แล้วหล่ะ เขาคือเรืออากาศเอกตะวัน เขาปฏิบัติภารกิจร่วมกับสหประชาชาติที่เขตโซราติก แต่ตอนนี้เราพบว่าเขาถูกโจมตีและสูญหายไปในแผ่นดินโซราติก ภารกิจของพวกคุณก็คือ พาตัวเขากลับมาให้ได้ มีใครมีคำถามอะไรหรือเปล่า

    เนตร : แล้วมีกฎการปะทะกันหรือเปล่าครับท่าน

    คุณปกป้องตัวเองได้ในกรณีที่ถูกโจมตีก่อน

    เจตนา : ว่าแต่ เรามีสายข่าวด้านในโซราติกหรือเปล่าครับท่าน

    ภารกิจนี้เร่งด่วน เราจึงหาสายข่าวในตอนนี้ไม่ได้

    เดชา : แล้วระยะเวลาปฏิบัติภารกิจหล่ะครับ เส้นทางหนีด้วย

    คุณพาร้อยเอกตะวันมายังเขตป่าตรงจุดนี้ เราได้ติดต่อกองกำลังพื้นที่เอาไว้แล้ว แล้วเราจะส่งเครื่องมารับ ภารกิจนี้ไม่จำกัดเวลาแต่ต้องพาเขาออกมาให้ได้

    จินตโล : อาวุธของพวกเราที่ใช้ได้หล่ะครับท่าน

    พวกคุณเลือกเอาเองได้ตามสะดวก มีใครมีคำถามอีกมั้ยทุกคนเงียบในตอนนั้น

    เอาหล่ะ เลิกประชุมได้ มีเครื่อง C-130 รอคุณอยู่ด้านนอก 1 ทุ่มขึ้นเครื่องทันทีจากนั้นผู้บังคับบัญชาก็เดินออกจากเต้นท์ไป

     

    กลับมายังโซราติก ตึกร้างที่กบดานของกลุ่มกบฏ ในตอนนั้นเองคาสเตอร์กำลังซ้อมกบฏที่จับตัวมาได้จนมันน่วม พวกเขาทรมานมันอยู่นานสองนานจนเริ่มจะทนไม่ไหวกับมันแล้ว

    คาสเตอร์ : แม่งเอ้ย นี่มันคนหรือหินเนี่ย ไม่ยอมปริปากอะไรเลย

    อีริค : ก็ไม่ต้องเค้นความลับแล้วหล่ะ ฆ่าแม่งก็จบเรื่อง

    เควิน : นี่ หัดใช้สมองซะบ้าง เปลี่ยนวิธีบ้างสิ

    ซิลเวสเตอร์ : จะเอาวิธีไหนหล่ะ เราลองมาหลายวิธีแล้วนะ

    อเล็กซานเดอร์ : นั่นสิ ถ้ามันไม่พูดอีกฉันฆ่ามันแล้วนะ

    ในขณะเดียวกันนั้นเอง เควินขอให้อเล็กซ่าเอายาที่เธอเคยเล่าให้ฟังมา บรรจุใส่เข็มฉีดยาแล้วฉีดเข้าไปในตัวของกบฏคนนั้น

    อเล็กซ่า : เควิน นี่นายจะทำแบบนี้จริงๆเหรอ

    นี่พวกแกฉีดอะไรให้ฉันวะเนี่ยชายคนนั้นมีการเวียนศีรษะ อ่อนแรง คลื่นไส้ ใจเต้นอย่างหนัก มันเกือบจะอ้วกใส่ทุกคนในนั้นแล้ว

    เควิน : ถ้าแกไม่ยอมบอก จะฉีดเพิ่มอีกเข็มก็ได้นะ

    อย่าๆๆๆ ฉันยอมบอกแล้วๆ

    อเล็กซานเดอร์ : เอาหล่ะ บอกมาเดี๋ยวนี้ ว่าที่ๆพวกแกอยู่ มีที่ไหนบ้าง

    พวกฉันอยู่ทุกที่ แม้แต่ตอนนี้กำลังจ้องเล่นงานพวกแกอยู่ก็ได้ ทางที่ดีพวกแกกลับบ้านกันไปซะดีกว่า ไม่งั้นแกอาจจะได้เอาชีวิตมาทิ้งที่นี่ก็ได้

    คาสเตอร์โมโหจัดจึงยิงหัวมันจนตายคาที่ในทันที

    อีริค : เฮ้ย นี่แกยิงมันทำไมวะเนี่ย

    คาสเตอร์ : ช่างแม่งดิวะ ยังไงมันก็ไม่ยอมบอกเราอยู่ดีหล่ะ

    ซิลเวสเตอร์ : เอาหล่ะ ช่างมันก่อนเถอะ อเล็กซ่า จัดการที่เหลือด้วยนะ

    อเล็กซ่า : รับทราบค่ะ

     

    ณ เขตเมืองแห่งเดิมซึ่งเร็นและเอ็ดเวิร์ดไปกบดานอยู่ หลัจากที่แสงอาทิตย์ยามเช้าเริ่มส่องประกาย ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงปืนดังมาจากด้านนอก ในขณะนั้นเองรัฐบาลก็เริ่มการโจมตีอีกระลอก ทั้งเร็นและเอ็ดเวิร์ดรีบวิ่งไปยังแนวหลังในทันทีก่อนที่จะโดนฆ่า

    เร็น : แนวหลังของเราอยู่อีกไกลหรือเปล่าเนี่ย

    เอ็ดเวิร์ด : ไม่ไกลหรอก นายรีบตามฉันมาเถอะน่า

    ระหว่างที่พวกเขาทั้งคู่กำลังวิ่งหนีกลุ่มทหาร พวกเขาก็เจอแนวรับของกลุ่มกบฏอย่างใจหวัง ซึ่งพวกนั้นตั้งปืนกลและปืนใหญ่เตรียมรับมือเอาไว้แล้ว

    มาทางนี้เร็ว

    ทั้งเร็นและเอ็ดเวิร์ดกระโดดเข้าไปยังแนวรับอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาก็ยิงปืนใหญ่ใส่รถถังจนรถถังของข้าศึกพังยับ จากนั้นพวกเขาก็จัดการยิงถล่มพวกมันต่อในทันที

    เอ็ดเวิร์ด : สนใจสู้กับพวกมันด้วยหรือเปล่าหล่ะ

    เร็น : ได้เลย ฉันฆ่าได้เยอะกว่านายแน่ๆ

    พวกเขาร่วมด้วยช่วยกันยิงขับไล่กองทัพรัฐบาล จนพวกนั้นต้องยอมถอยทัพออกไปก่อน ศึกครั้งนี้กลุ่มกบฏได้ชัยอย่างงดงาม

    เร็น : สำเร็จแล้ว ว่าแต่ เราจะไปไหนกันต่อดีหล่ะ

    เอ็ดเวิร์ด : ฉันจะเข้าไปตั้งหลักในเมือง ดูว่าตะมีกระสุนให้เก็บเพิ่มอีกหรือเปล่านะ

     

    ณ เส้นทางของเขตที่ 12 ในขณะที่พวกของเทเรซ่ากำลังเดินทางมาเรื่อยๆเพื่อไปพบกับกลุ่มกบฏที่เหลือ ในตอนนั้นพวกเขาก็เดินไปแล้วก็พูดคุยกันไปด้วยเพื่อผ่อนคลาย

    เทเรซ่า : อยากกินไอติมเย็นๆซักโคนจังเลยนะ

    เดม่อน : ฉันอยากกินพิซซ่ามากกว่า อยากมากๆเลย

    ลูลู่ : ฉันทำพิซซ่าอร่อยนะ นายก็รู้นี่หน่า

    เดม่อน : จริงเหรอ ชักจะอยากลองกินแล้วสิเนี่ย

    ลูลู่ : นี่ ฉันไม่ได้โม้นายนะ

    เทเรซ่า : ถ้ามีวัตถุดิบพอ พิซซ่าซักมื้อก็ไม่เลวเลยนะ // แต่ในขณะที่กำลังพูดกันอยู่ กองกำลังไม่ทราบฝ่ายพร้อมอาวุธก็เดินเข้ามาหาพวกเขา พร้อมกับตรวจสอบทันทีว่าเป็นพวกไหน

    เทเรซ่า : ฉันเอง เทเรซ่า หมอของพวกนายยังไงหล่ะ

    อ้าว คุณเทเรซ่า เป็นยังไงบ้างครับ คุณแพททริคล่ะ

    เดม่อน : แพททริคตายแล้ว เราเองก็เกือบไม่รอดหน่ะ

    เสียใจด้วยนะครับ

    ลูลู่ : แล้วหัวหน้าอยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่าหล่ะ

    ไม่อยู่ครับ แต่ถ้าเดินไปตามถนนอีกหน่อย ในตัวเมืองหัวหน้าเขาจะพักอยู่ที่นั่นครับ

    เทเรซ่า : ขอบใจมากนะ เราต้องเดินทางกันต่อแล้วหล่ะ

    พวกเขาออกเดินทางกันต่อเพื่อทำภารกิจของเขาให้เสร็จลุล่วงไป

     

    และอีกด้านหนึ่งของเมือง สตอร์มตื่นขึ้นมาในตอนเช้า พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในที่กำบังอันมืดมิด เขาหาทางออกมาจากที่นั่น เพื่อเดินทางต่อไป ในขณะเดียวกัน นกเหยี่ยวของเขาก็บินมาแต่ไกล สตอร์มยื่นแขนให้กับนกตัวนั้นมาเกาะบนแขนเขา

    สตอร์ม : บูล เป็นยังไงบ้าง ขอโทษทีที่ฉันไม่มีอะไรให้นายกินนะ

    นกตัวนั้นบินออกจากมือเขา จากนั้นก็บินนำทางเขาไปที่ไหนซักแห่ง เมื่อสตอร์มมาถึง ก็พบว่ามีถังน้ำอยู่ใบหนึ่ง ซึ่งด้านในมีน้ำอยู่ สตอร์มรีบวิ่งไปใกล้ถังน้ำนั้นทันที

    สตอร์ม : จะกินได้หรือเปล่าเนี่ย

    สตอร์มยื่นมือไปกวักเอาน้ำมาดื่ม ก็พบว่าน้ำรสชาติพอใช้ได้ เขาจึงยื่นหน้าเข้าไปดื่มมันเลย ล้างหน้าไปในยามเช้าด้วย มันทำให้เขาสดชื่นทันตาเห็น

    สตอร์ม : แกคงจะลองดื่มแล้วสินะว่ามันดื่มได้หรือเปล่า

    แต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง ดันมีคนแก่คนหนึ่งเปิดประตูออกมา เอาไม้ถือจะไล่ตีเขาโดยไม่ทราบเหตุผล

    แก อย่ามายุ่งกับน้ำของฉันนะ

    สตอร์ม : ผมขอโทษ ผมไม่รู้ว่าเป็นน้ำของคุณลุง เอามีดของผมไปแทนนะครับ

    ในตอนนั้นเอง มีเด็กชายคนหนึ่งวิ่งออกมา เหมือนกับว่าเขาพยายามจะหนีจากลุงคนนั้น

    ช่วยผมด้วย อย่าให้เขากินผมนะ ช่วยผมด้วยชายแก่คนนั้นล็อคแขนมันไว้แต่ไม่ทัน เด็กชายคนนั้นวิ่งไปด้านหลังสตอร์ม จากนั้นก็เอาเข็มอะไรบางอย่างจิ้มเข้าไปที่เขา สตอร์มโดนเข้าไปถึงกับมึนหัวในทันที

    สตอร์ม : พวกแก พวกแกคิดจะทำอะไรฉันวะ

    จากนั้นสตอร์มก็หมดสติไป ส่วนลุงคนนั้นกับเด็กชายก็พากันแบกสตอร์มเดินเข้าไปด้านใน

    ตัวหนักเหมือนกันนะไอ้นี่ ท่าทางจะเนื้อแน่นด้วย

    จะทำอะไรก็รีบทำเถอะลุง ผมหิวแล้วเนี่ย

    พวกเขารีบลากสตอร์มเข้าไปด้านใน นกของเขาพยายามขวางเอาไว้แต่ไม่ทันซะแล้ว

     

    ทางด้านโกดังเก็บสินค้าของมาร์ค วันนี้เขาขี้เกียจออกไปหาของข้างนอก เขาจึงนอนกอดสมบัติอยู่กับบ้าน เขามองดูนาฬิกาเรือนของนอร์รีนที่เขาเพิ่งไปแลกมาได้ เขาชอบมันเป็นพิเศษและดูเหมือนจะเก็บไว้กับตัวอยู่ตลอดเวลา และในขณะเดียวกัน ลูกน้องของเขาก็เข้ามาพบเขาทันที

    นายครับ มีเรื่องจะบอกครับ

    มาร์ค : มีอะไรเหรอ สำคัญหรือเปล่า

    ตอนนี้รัฐบาลเริ่มโจมตีตามแนวชายแดนแล้วครับ

    มาร์ค : งั้นเหรอ ดูเหมือนว่ารัฐบาลอยากจบเกมนี้เร็วๆสินะ

    ก็คงจะเป็นอย่างงั้นครับ ว่าแต่สมบัตินี่เราจะเอายังไงต่อครับ

    มาร์ค : ใจเย็นสิ นี่ยังไม่ได้เท่ากับทุนของฉันเลยนะ

    แต่ว่า

    มาร์ค : ไม่มีแต่ทั้งนั้น ฉันสัญญาว่าทุกคนจะได้ส่วนแบ่งตามที่ตกลงแน่นอน
    ครับนาย

    และอีกด้านหนึ่งของเมือง มีกองทัพด้านตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพวกเขาตั้งแนวรับเอาไว้อย่างแน่นหนา ชนิดที่ว่าไม่มีอะไรที่จะสามารถฝ่าไปได้ และในตอนนั้นเองมีนายทหารหญิงคนหนึ่งกำลังใช้กล้องส่องทางไกลมองไปที่เมืองหลวงของโซราติก

    อย่างใจเย็น

    ท่านเวร่าครับ กำลังมองอะไรอยู่เหรอครับทหารของเธอเดินเข้ามาสอบถาม

    เวร่า : ฉันกำลังมองดูสงครามที่อยู่ด้านหน้าหน่ะ ว่าแต่ เรื่องที่ฉันให้ไปจัดการเป็นยังไงบ้าง

    ตอนนี้ทั้งเสบียงและเชื้อเพลิงของเราเตรียมพร้อมนำออกไปขายแล้วครับ

    เวร่า : ดีมาก จำไว้หล่ะ เรื่องนี้อย่าบอกให้ใครรู้ แม้กระทั่งรัฐบาล

    แต่ผมเพิ่งได้ข่าวมา ตอนนี้รัฐบาลเริ่มไล่ตีฝ่ายกบฏแล้วครับ

    เวร่า : เข้าใจหล่ะ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเริ่มเดินหมากแล้ว เริ่มขายสินค้าได้ ให้กับพวกกบฏและรัฐบาล แต่อ่าให้ใครรู้เด็ดขาดว่าเป็นฝีมือเรา

    ว่าแต่ ท่านจะไม่บุกเข้าไปเหรอครับ

    เวร่า : ยังไงซะพวกกบฏคงต้านได้ไม่นาน เราอยู่ที่นี่รอรับส่วนแบ่งดีกว่า // เวร่าให้กล้องส่องทางไกลกับทหารคนนั้นก่อนที่จะเดินลงจากหอคอยไป

     

    และอีกด้านหนึ่ง อันนาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอขับรถเข้าไปในเมืองต่อ ฝ่าซากศพของเหล่าทหารและกบฏที่นอนเรียงรายอยู่เต็มพื้น พร้อมกับซากปรักหักพังของเมือง เป้าหมายของเธอคือขับรถไปยังบ้านของพ่อเธอเอง เพื่อดูว่าลูกชายคนเล็กอยู่กับเธอหรือเปล่า เมื่อเธอไปถึง เธอไม่รอช้ารีบเข้าไปในบ้านของพ่อเธอในทันที แต่ทันใดนั้นสิ่งที่เธอพบ มีแต่พ่อของเธอที่ร้องไห้ไม่หยุด เธอแปลกใจมากจึงเดินเข้าไปถามเขาในทันที

    อันนา : คุณพ่อคะ ร้องไห้ทำไมเหรอคะ

    อันนา พ่อขอโทษ ลูกของเธอหายไปหน่ะ

    เธอรีบวิ่งเข้าไปปลอบพ่อของเธอในทันที จากนั้นเธอก็ถามพ่อของเธอเรื่องลูก

    อันนา : พ่อคะ แล้วเขาไปอยู่ที่ไหนเหรอคะ

    พ่อไม่แน่ใจ วันนั้นเกิดการปะทะ พ่อจะพาหลานไปหลบด้านใน แต่ระเบิดก็มาตกแถวบ้านเรา ตอนนั้นพ่อสลบไป ตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอเขาอีกเลย

    อันนา : โธ่ ลูกแม่ // เธอร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย

    พ่อพยายามเข้าเมืองตามหาแต่ไม่เจอเลย พ่อเสียใจ

    อันนา : ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ มันเป็นอุบัติเหตุ เดี๋ยวหนูจะจัดการหาลูกของหนูเองค่ะ พ่อไปพักด้านในก่อนนะคะ

    อันนาพาพ่อของเธอไปนอนพักด้านใน ส่วนเธอก็เริ่มออกตามหาลูกที่พลัดหลงไปในเมือง

     

    กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ในขณะนั้นเองพวกเขาก็มารวมตัวกันที่ชั้นล่าง เพื่อทำการประชุมหารือกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและพูดคุยว่าจะมีแผนอย่างไรต่อไป

    มิเชล : เอาหล่ะ ทุกคนก็มากันครบแล้ว และขอต้อนรับสมาชิกใหม่ด้วยนะคะ

    อนูวา : ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ ฉันก็มีงานของฉันที่ต้องทำเหมือนกัน

    เอสเทอร์ : เอาหล่ะ ฉันขอพูดก่อนเลยนะ เราจะทำยังไงกันต่อไปหล่ะ

    โทนี่ : ก็คงต้องดูแลกันต่อไปหน่ะ จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

    มิสซึ : แล้วเรื่องหาของนี่ใครจะเป็นคนออกไปหาหล่ะ

    ยูจีน : ฉันอยากออกไปนะ แต่ฉันเป็นห่วงซิลเวียหน่ะสิ

    ซิลเวีย : ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันดีขึ้นมากแล้ว นายไปดีกว่า

    อลัน : งั้นฉันก็ขอไปด้วย ฉันไม่ยอมอยู่เฉยๆหรอก

    เอสเทอร์ : นี่นาย คิดจะทำอะไรหน่ะ

    อลัน : ฉันไม่ยอมอยู่เฉยๆในขณะที่เพื่อนๆของฉันกำลังโดนฆ่าหรอก อลิซ เธอไม่ได้บอกทุกคนเหรอ // ทุกคนมองหน้าอลิซอย่างสงสัย

    อลิซ : ก็ ฉันดักฟังวิทยุของรัฐบาล ตอนนี้พวกเขาเริ่มกวาดล้างกลุ่มกบฏตามแนวชายแดนแล้วหล่ะ

    ตะวัน : แล้วนายจะออกไปโดยไม่มีแผนอะไรอย่างงั้นเหรอ ออกไปก็ตายเปล่า ฉันเป็นทหาร ฉันรู้ดีน่า

    อนูวา : คุณบอกว่าคุณอยู่ในกลุ่มกบฏ ถ้าอย่างงั้น คุณพอจะรู้มั้ยว่าเพื่อนๆคุณอยู่ที่ไหน

    อลัน : คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงอยากรู้หน่ะ

    อนูวา : ฉันยังบอกตอนนี้ไม่ได้ แต่ฉันรับรองด้วยชีวิต ฉันไม่ได้มาร้ายกับทุกคนแน่ๆ

    เอจิ : ตอนนี้ช่างมันก่อนเถอะ ว่าแต่ใครจะออกไปดีหล่ะ

    นอร์รีน : ถ้าพวกคุณคนไหนไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะครับ

    ตะวัน : ถ้างั้น ผม อลัน ยูจีน โทนี่และซีโร่ออกไปก็ได้ครับ

    ซีโร่ : ได้เลย ผมเองก็อยากยืดเส้นยืดสายอยู่พอดีเลยเนี่ย

    บารีร่า : แหม่ ซ่าส์จริงๆเลยนะเราเนี่ย เดี๋ยวจับมัดซะเลยนะ

    ในระหว่างที่พวกเขากำลังคุยกัน ก็มีเสียงเคาะประตูมาจากด้านหน้า พวกเขาเตรียมอาวุธไว้พร้อมเผื่อว่าจะมีใครมาปล้นพวกเขา จากนั้นเองอลันก็เปิดประตูออกไปดู ก็พบว่ามีคนมาขอพบเขา นั้นก็คือฮาน่า คนที่เขาเคยช่วยเอาไว้นั้นเอง

    ฮาน่า : อลัน ฉันดีใจจริงๆที่เจอคุณ

    อลัน : ฮาน่า คุณมาที่นี่ได้ยังไงหล่ะเนี่ย

    ฮาน่า : ก็เพื่อนของฉันสะกดรอยตามพวกคุณมา ท่าทางคนที่นี่จะไว้ใจได้สินะ

    อลัน : ว่าแต่ คุณมีธุระอะไรอย่างงั้นเหรอครับ

    ฮาน่า : ฉันมีเรื่องอยากให้ช่วย ขอเข้าไปด้านในหน่อยได้หรือเปล่าคะ

    อลันรีบพาฮาน่าเข้ามาด้านใน เพื่อดูว่าเธอต้องการให้พวกเขาช่วยเหลืออะไร

    =================================================================

    ฮาน่าตามอลันมาถึงที่พักของเขา เธอต้องการอะไรกันแน่ แล้วเหตุการณ์จะเป้นอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยครัช


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×