ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Time To Kill Nazi - ข้ามเวลาฆ่านาซี

    ลำดับตอนที่ #10 : กับดัก

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ค. 61


    เรือของแคทเทอรีนแล่นมาเรื่อยๆ ฝ่าคลื่นลมมาถึงเดนมาร์ก ซึ่งแคทเทอรีนตั้งใจจะมาพักที่นี่ก่อน จากนั้นก็จะนั่งเรือของเธอไปต่อยังเนเธอร์แลนด์ เหล่าเด็กๆที่ห้อยติดมาด้วยต่างพากันเมาคลื่นกันให้วุ่นเลยทีเดียว

    นาวิน : อ้วก!! สาบานได้ ฉันจะไม่ยอมขึ้นเรืออีกเด็ดขาด

    ธิน : นั่นดิ คลื่นลมแรงเยอะมากโคตรๆเลย ฉันไม่ขึ้นเรืออีกแล้ว

    อเล็กซ์ : ใจเย็นๆสิ เราต้องนั่งเรือไปเนเธอร์แลนด์กันต่อนะ

    แคทเทอรีน : เดี๋ยวน้าจะหาซื้อยาแก้เมาคลื่นให้พวกเธอเองนะ

    โอ๊ค : ก็ดีเหมือนกันครับ ผมจะตายหยังเขียดอยู่แล้วเนี่ย

    เอม : แล้วนี่เราจะต้องไปไหนกันต่อคะคุณน้า

    แคทเทอรีน : เราต้องรีบเดินทางไปยังท่าเรือฝั่งตะวันตก เพื่อไปหาเพื่อนของน้า เพื่อเอาเรือเขาหน่ะ

    โซเซีย : ก่อนจะเจอพวกเขาเนี่ย ผมคงนอนตายอยู่แถวนี้ก่อนหล่ะ

    จากนั้นพวกเขาก็เดินทางด้วยรถขนส่งไปกันต่อเรื่อยๆ จนมาถึงในตัวเมือง พวกเขาตกลงกันว่าจะหาที่พักกันแถวนี้ก่อน

    ออย : เย้ ในที่สุดก็เข้าเมืองมาแล้ว หนูไปหาอะไรกินก่อนนะคะ

    แซค : งั้นเดี๋ยวผมไปทางนี้นะครับ

    แซคเดินเข้าเมืองไปเรื่อยๆ หาของกินแถวนั้น ในขณะเดียวกัน แซคก็ได้ยินข่าวประกาศทางวิทยุเกี่ยวกับการประกาศ เกี่ยวกับการรบที่โปแลนด์

    ขณะนี้  ทางเยอรมันได้บุกโปแลนด์ ยึดเมืองหน้าด่านสำคัญเป็นที่เรียบร้อย

    ว่าแล้ว พวกหมาเยอรมันมันต้องทำสงครามชาวบ้านแถวนั้นินทากัน

    แซค : อีกไม่นาน ฝรั่งเศสและอังกฤษจะต้องเข้าร่วมสงครามแน่ครับ

    นี่ ไอ้หนุ่ม นายแน่ใจได้ยังไงเนี่ย

    แซค : ผมมั่นใจ อังกฤษไม่ยอมทอดทิ้งโปแลนด์แน่ๆ

    และในขณะนี้ มีรายงานจากทาง BBC ว่า อังกฤษและฝรั่งเศส ได้ประกาศสงครามกับเยอรมนีอย่างเป็นทางการแล้ว โปแลนด์จะไม่ถูกโดดเดี่ยวอีกต่อไป

    แซค : นั่นไง ฉันว่าแล้ว // จากนั้นแซคก็รีบกลับมาไปหาทุกคน เพราะกลัวว่าทุกคนจะรอนานและเป็นห่วงเขา

    ณ กรุงลอนดอน โจสได้ยินข่าวที่พวกนาซีบุกโปแลนด์ ทำเอาเขาแทบคลั่ง ในตอนนั้นเขานั่งคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอเมริกาอยู่

    โจส : ผมว่าแล้วไม่มีผิด พวกมันต้องบุกประเทศไหนซักประเทศแน่ๆ

    ผมเข้าใจนะโจส แต่คุณไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้เราประกาศสงครามกับพวกเยอรมันแล้ว

    โจส : แต่ท่านครับ ท่านไม่รู้ศักยภาพของพวกเยอรมันดีพอนะครับ

    ผมรู้ แต่ตอนนี้เราประกาศสงครามกับเยอรมันไม่ได้ คุณก็รู้นี่

    โจส : แล้วเราจะรอให้พวกมันมาลอนดอนหรือไงครับ

    คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พวกมันบุกข้ามช่องแคบมาไม่ได้หรอก

    โจส : ทำไมท่านถึงคิดแบบนั้นหล่ะครับ

    พวกเยอรมันไม่มีกองเรือที่จะต่อกรกับอังกฤษหรอก ไม่ต้องห่วง

    โจส : คุณคิดดีแล้วใช่มั้ย การชะล่าย่ามใจ จะมีภัยไปทุกหย่อมหญ้านะครับ

    ในขณะเดียวกัน ที่ท่าเรือแห่งหนึ่งแถวกรุงลอนดอน ชายคนหนึ่งถือกระเป๋าใบหนึ่ง ซื้อตั๋วเรือจะออกไปจากอังกฤษ เขาคิดถึงคำพูดที่เขาพูดกับพ่อในคืนวันนั้น

    ลูกต้องสมัครเป็นทหาร พวกเยอรมันกำลังจะก่อสงคราม

    ผมไม่อยากเป็นทหารครับ ทำไมพ่อต้องบังคับผมด้วย

    จูเลียส ประเทศชาติต้องการลูก ลูกต้องปกป้องมันจากพวกนาซีนะลูก

    ทำไมพ่อต้องบังคับให้ผมไปฆ่าคนด้วย ผมไม่อยากทำ

    ทุกอย่างต้องมีการเสียสละ อย่าทำตัวเป็นเด็กไปหน่อยเลยจูเลียสเดินหัวเสียออกจากบ้านไป แต่เขาได้ยินคำพูดสุดท้ายของพ่อสำหรับเขา

    ถ้าแกออกไป แกไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพ่อ

    เขาเจ็บใจมากที่พูดกับพ่อไปแบบนั้น แต่ทำยังไงได้ เขาไม่อยากฆ่าใคร เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นทหาร เขาอยากจะหนีไปให้ไกล แต่ระหว่างนั้น ก็มีเสียงมาเตือนสติเขา

    คุณคะ คุณต้องการจองตั๋วเรือไปไหนคะ

    จูเลียส : อ่า ฝรั่งเศสครับ ขาไปเที่ยวเดียวครับผม

    ณ เมืองแห่งหนึ่งในโปแลนด์ พวกเขาพักอยู่ที่เมืองแห่งนั้น จากนั้นก็นั่งคุยกันถึงเรื่องที่จะยึดเมืองหลวง

    มิลเลอร์ : ฉลองกันหน่อยพวกเรา วอร์ซอร์อยู่ข้างหน้าแล้ว พวกนายรู้มั้ย

    เมอร์ลิน : นั่นสิ ต่อไปนี้ไม่มีอะไรจะหยุดพวกเราได้แล้วหล่ะ

    ระหว่างนั้นเอง ลูก้าก็มาเรียกให้เมอร์ลิน มิลเลอร์และฮัมบูร์กไปพบกับท่านจอมพล

    ลูก้า : นี่พวกนาย ท่านจอมพลกำลังเรียกหาอยู่หน่ะ ตอนนี้เลย

    ฮัมบูร์ก : มีอะไรหรือเปล่าอ่ะ

    ลูก้า : น่าจะเรื่องสำคัญ ไปกันก่อนสิ // ลูก้าพาทั้งสามคนไปยังเต้นท์ของท่านจอมพล ซึ่งท่านก็กำลังรอทั้งสามคนอยู่

    จอมพลเฟดอร์ : เอาหล่ะ ตามสบายนะทุกคน วันนี้ฉันมีข่าวดีมาบอก

    เมอร์ลิน : เรื่องอะไรครับท่าน

    จอมพลเฟดอร์ : จากวีรกรรมการรบของพวกคุณทุกคน ท่านผู้นำพอใจมาก พวกคุณจะได้รับการเลื่อนยศ ส่วนฮัมบูร์ก ท่านผู้นำต้องการเจอกับเธอเป็นพิเศษเลยหล่ะ

    ฮัมบูร์ก : ได้ค่ะท่าน แล้วจะให้ดิฉันไปพบเมื่อไหร่หล่ะคะ

    จอมพลเฟดอร์ : หลังจากที่ยึดวอร์ซอร์ได้หน่ะ เออนี่ ลูก้า นายต้องไปประจำการร่วมกับอิตาลีนะ พวกเขาขอความช่วยเหลือหน่ะ

    ลูก้า : ทราบแล้วครับท่าน ผมจะจัดการเอง

    จอมพลเฟดอร์ : เอาหล่ะทุกคน ตอนนี้อังกฤษกับฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเราแล้ว มิลเลอร์ เมอร์ลิน เตรียมพร้อมกับศึกที่กำลังจะมาถึงด้วย

    มิลเลอร์ เมอร์ลิน : ครับท่าน

    ณ รัฐสภากรุงวอร์ซอร์ พวกเขากำลังประชุมกันถึงเรื่องสงครามที่กำลังปะทุอยู่ในประเทศตอนนี้

    ท่านประธานาธิบดีคะ ตอนนี้พวกมันอยู่หน้าประตูกรุงวอร์ซอรแล้วค่ะ

    ท่านครับ ตอนนี้ทหารของเรากำลังแย่ โซเวียตก็ดักตีเราจากตะวันออกอีก เราไม่มีทางหนีแล้ว

    เราต้องคำนึงถึงประชาชนของเราเป็นอันดับแรก เราคงต้องยอมแพ้มันหล่ะ

    เจเลมี่ : แต่ท่านคะ จะยอมแพ้พวกมันจริงๆเหรอคะ

    อาจจะยิ่งกว่านั้น ผมจะต้องส่งคุณไปที่อังกฤษ ไปทำภารกิจอะไรบางอย่าง ทุกอย่างอยู่ในซองนี่แล้ว ฉันไว้ใจเธอนะถึงต้องการให้เธอทำงานนี้เขายื่นซองฉบับหนึ่งให้เธอ จากนั้นก็ให้คนขับรถพาเธอไปส่งยังที่แห่งหนึ่ง เธอเปิดซองเอกสารนั้นดู เธอก็พบว่าตัวเธอเองต้องปฏิบัติงานนี้แบบลับๆ เพื่อกู้ศักดิ์ศรีของชาวโปแลนด์กลับมา

    เจเลมี่ : นี่ โชเฟอร์ พาฉันไปที่สถานีลับนะ

    เธอต้องทำให้สำเร็จนะเจเลมี่ ประเทศนี้หวังพึ่งเธอนะ

    เจเลมี่ : ฉันเข้าใจ ไม่ต้องห่วง ฉันจะทำให้ดีที่สุด

    ทางด้านแนวรบตะวันออก กองทัพแดงที่อยู่แนวหน้า บุกทะลวงเข้ามาเรื่อยๆจนใกล้จะถึงเมืองหลวง ออก้าตามหาโซเซียไปทั่วทุกที่

    โซเซีย นายอยู่ไหน ตอบฉันสิ

    น้าครับ เห็นผู้ชายหน้าตาประมาณนี้หรือเปล่าครับ

    โซเซีย ตอบฉันสิ นายอยู่ไหน

    แต่ในตอนนั้นเอง ทหารโซเวียตคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเขาทันที

    นี่ ออก้า เพื่อนของนายคงไม่อยู่แล้วหล่ะ คงหนีสงครามไปแล้วหล่ะ หรือไม่ก็คงจะ…”

    ออก้า : ไม่ ฉันจะยอมหยุดหาตัวเขาแน่

    เอาน่า ใจเย็นๆ ตอนนี้เราต้องกลับไปรายงานตัวที่ค่ายก่อนนะออก้าหัวเสียกลับไปรายงานตัวต่อหัวหน้าหน่วย แต่เขาเชื่อว่าโซเซียยังไม่ตาย

    ณ ประเทศไทย รัตตื่นขึ้นมาโดยสภาพที่ยังไม่เข้าใจอะไร เขาอยู่ในโรงพยาบาลทหารในเมือง จากนั้นก็มีชายคนหนึ่งมาคุยกับเขา

    รัต : นี่คุณเป็นใครกัน

    ผมดูประวัติคุณแล้ว ประวัติการรบของคุณเกินขั้นที่เราประเมิน

    รัต : คุณต้องการอะไรจากผม

    นี่สร้อยของคุณหรือเปล่า รัตรีบคว้ามันมาสวม จากนั้นก็รีบตัดบทเข้าเรื่องกับชายคนนั้น

    รัต : คุณจะเอาอะไร ว่ามาเลยดีกว่า

    คุณรู้ใช่ไหม สงครามกำลังเข้ามาทุกขณะ ผมเล็งเห็นความสามารถของคุณ ผมเลยอยากชวนคุณมาเข้าร่วม

    รัต : เข้าร่วมอะไร

    ตอนนี้คุณยังไม่ต้องรู้หรอก ถ้าวันไหนผมต้องการคุณ ผมจะหาคุณอีกที ไม่นานหรอกจากนั้นเขาก็เดินออกไป แต่ก่อนไปเขาก็พูดคำพูดสุดท้ายกับเขา

    คุณก็ลองคิดดูนะ คุณอยากรับใช้ประชาชนหรือเปล่า สร้อยเส้นนั้นสวยดีนะ คนที่ให้เขาคงเป็นคนสำคัญสำหรับคุณรัตงงเล็กน้อยกับคำพูดคำนั้น แต่ก็พยายามจะทำความเข้าใจ แล้วก็เก็บนามบัตรที่เขาให้เอาไว้กับตัว

    ณ ค่ายกักกันในเมือง วิคเตอร์กับเทราน์เนอร์ทำงานไม่ทันไร เขาก็นึกสนุก อยากจะทำอะไรที่มันน่าตื่นเต้นหน่อย

    วิคเตอร์ : นี่ ฉันเริ่มเบื่องานแบบนี้แล้วหว่ะ ฉันอยากทำงานอื่น

    เทราน์เนอร์ : แล้วนายคิดจะไปทำอะไรงั้นเหรอ

    วิคเตอร์ : ที่แนวรบแอฟริกากำลังต้องการทหารเยอรมัน ฉันส่งชื่อฉันกับนายไปที่นั่นแล้ว

    เทราน์เนอร์ : ห่ะ แอฟริกา ที่กำลังรบกันอยู่ตอนนี้งั้นเหรอ

    วิคเตอร์ : ใช่แล้วหล่ะ

    เทราน์เนอร์ : แต่ฉันไม่เห็นด้วย ทำไมต้องไปช่วยมุสโสลินีรบด้วยหล่ะเนี่ย ตัวถ่วงแท้ๆ

    วิคเตอร์  : เอาน่า ถือซะว่าช่วยพวกมันหน่อยก็แล้วกัน ว่าแต่นายกลัวเหรอ

    เทราน์เนอร์ : ฉันไม่ได้กลัวหรอก แค่ไม่เห็นด้วย ที่จะไปช่วยพวกมันหน่ะ

    ณ ปารีส ฝรั่งเศส อลิสกับรินทำงานเป็นนักร้องกลางคืนบังหน้า แต่ความจริงเธอสืบข่าวของพวกอังกฤษและฝรั่งเศส แล้วส่งกลับไปยังเบอร์ลิน แรกๆเธอเข้ากับคนที่นี่ไม่ค่อยได้ แต่ตอนนี้เธอทำได้ดีมาก ไม่มีใครสงสัยพวกเธอเลยว่าพวกเธอเป็นใคร

    อลิส : เฮ้อ เหนื่อยอ่ะพี่ เกือบจะต้องไปนอนกับมันซะแล้ว

    ริน : นี่พี่ เมื่อคืนหนูมันก็เกือบนอนกับหนูเหมือนกัน

    อลิส : ไม่ต้องกลัวหรอก แค่อย่าลืมที่พี่บอกก็แล้วกัน

    ริน : นี่พี่ หนูได้ยินว่าทางฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมันแล้วนี่

    อลิส : ใช่แล้วหล่ะ อีกไม่นาน เราคงต้องไปทำงานที่อื่นต่อ

    ริน : หนูได้ยินนะพี่ มีนายทหารคนหนึ่งเมา แล้วพูดกับหนูว่าจะสร้างป้อมมายิโนอะไรซักอย่างนี่แหละพี่

    อลิส : อ้อ ป้อมมายิโน่ เข้าใจหล่ะ เรื่องนี้คงต้องรายงานไปทางเบื้องบนให้เร็วที่สุด

    ริน : มันสำคัญมากขนาดนั้นเลยเหรอพี่

    อลิส : ใช่แล้วหล่ะ เชื่อพี่ เธอต้องเข้มแข็งเอาไว้นะ

    ในกรุงเบอร์ลิน โยชิตะกับพรรคพวกต้องแจกใบปลิวเพิ่มสงคราม แถมยังต้องเร่ขายพันธบัตรให้กับรัฐบาล เนื่องจากโยชิตะเป็นเด็กที่ฉลาดและโด่งดังไปทั่วเยอรมัน เขากลายเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆไปโดยปริยาย

    หลังจากที่แจกเสร็จ เขาก็มานั่งพักอยู่แถวๆร้านกาแฟ โดยมีเพื่อนเขาตามมาด้วย

    เฮ้ยนี่ โยชิตะ จะมาก็ไม่บอกเลยนะเนี่ย

    โยชิตะ : โทษทีหว่ะ ฉันมานั่งคิดอะไรนิดหน่อย

    คิดอะไรของนายอยู่งั้นเหรอ

    โยชิตะ : คิดถึงพี่สาวฉัน แล้วก็คนอื่นๆหน่ะ

    เอาหน่า พวกเขาไปทำหน้าที่เพื่อชาติของเรานี่หน่า

    โยชิตะ : ก็ใช่ แต่ปกติ ฉันไม่ค่อยชินเวลาห่างกับใครนานๆหน่ะ

    ฉันเข้าใจนะ ฉันก็คิดถึงแม่ที่อยู่มิวนิคเหมือนกัน

    โยชิตะ : ก็คงงั้น ขอบใจมากนะ ไปหาไรดื่มกันเถอะ

    กลับมายังอิตาลี นูโวร่าเธอกลับไปเพื่อรายงานตัวต่อท่านผู้นำ และรับงานใหม่ที่นั่น เมื่อรถของเธอมาถึง เธอก็มาพบมุสโสลินีโดยทันที

    นูโวร่า : ท่านคะ มีอะไรให้ฉันรับใช้คะ

    มุสโสลินี : มีงานใหม่ให้เธอหน่ะ ฉันว่าเธอคงชอบแน่ๆ

    นูโวร่า : มีอะไรสั่งมาได้เลยค่ะ ท่านผู้นำ

    มุสโสลินี : ยังจำนักการทูตสหรัฐที่เธอเคยเจอได้หรือเปล่า

    นูโวร่า : จำได้ค่ะท่าน ดิฉันต้องขออภัยที่จับเขามาไม่ได้ก่อน

    มุสโสลินี : ไม่ต้องหรอก สายของเรารายงานมาว่ามันอยู่ที่อังกฤษ ฉันอยากให้เธอและคนของเธอช่วยตามเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุด ฉันอยากรู้ว่ามันรู้อะไรเกี่ยวกับแผนการของเราบ้าง

    นูโวร่า : รับทราบค่ะท่าน ท่าจะให้ฉันไปอังกฤษเลยหรือเปล่าคะ

    มุสโสลินี : ใช่แล้วหล่ะ ตอนนี้เลย แต่เธอจะต้องเปลี่ยนชื่อและนามสกุลใหม่ก่อนเข้าไป

    กลับมายังแนวรบด้านแอฟริกา ในขณะนั้น ทหารเยอรมันชุดแรกถูกส่งเข้ามาเพื่อกอบกู้สถานการณ์ ทหารอิตาลีบางส่วนดีใจมาก บางส่วนก็ไม่พอใจ เพราะกลัวว่าสงครามจะยืดเยื้อ เทเรซ่าก็เป็นหนึ่งในคนที่ไม่เห็นด้วยเช่นเดียวกัน

    คุณหมอเทรครับ เยอรมันส่งคนมาช่วยเราแล้วครับ

    เทเรซ่า : เฮ้อ แบบนี้สงครามก็ต้องยืดเยื้อไปอีก ไม่ดีเลยเนี่ย

    ก็จริงนะครับคุณหมอ ไม่น่ามาตายเพราะมุสโสลินีเลย

    เทเรซ่า : ใจเย็นสิ ถ้าใครมาได้ยินเข้าจะแย่เอานะ

    เธอออกไปสงบสติอารมณ์ด้านนอก นึกถึงบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง นึกถึงพิซซ่าที่แม่ชอบทำให้ทาน น้องชายตัวดีของเธอที่ทำให้เธอมาที่นี่ แต่เธอหวังว่าน้องเธอจะไม่โดนเกณฑ์มาก็พอ

    เฮ้อ เบื่อจัง อยากหนีไปให้ไกล แล้วก็ นาย เอิ่ม นายที่ฉันยังจำชื่อไม่ได้ แต่ก็เอาเถอะ ฉันอยากเจอเธออีกจังเลย ไม่รู้ว่าสงครามนี้จะต้องยาวนานไปถึงไหนกันระหว่างนั้นเอง ก็มีคนมาเรียกเธอ เพื่อไปต้อบรับทหารเยอรมันที่มาถึง

    คุณหมอเทรครับ ผู้การให้คุณไปต้อนรับทหารเยอรมันหน่ะครับเธอต้องจำใจไป โดยที่ยังนึกถึงเรื่องเก่าๆได้ไม่หมดเลย

    กลับมายังเดนมาร์ก ที่ท่าเรือด้านตะวันตก แคทเทอรีนเปลี่ยนใจจะไม่พักในเมืองเพราะเดินทางมาถึงได้เร็วกว่าที่คาด พวกเขาเลยตัดสินใจไปยังท่าเรือตะวันตกทันที เธอมาหาคนรู้จักคนหนึ่ง ที่เธอรู้จักเขาดี เพราะคนเป็นคนเฝ้าท่าเรือแห่งนี้

    ดอร์กิ้น นายอยู่ไหนชายอ้วนคนหนึ่งเดินมาหาเขาด้วยสภาพที่อิดโรย

    แคทเทอรีน : นี่ ดอร์กิ้น นายเป็นยังไงบ้าง ใครทำร้ายนายขนาดนี้

    ดอร์กิ้น : แคทเทอรีน ช่วยฉันด้วย มันบังคับให้ฉันทำ

    แซค : ฉันว่ามันแปลกๆแล้วพวก เตรียมตัวให้พร้อมนะ

    ในขณะนั้น ชายฉกรรจ์ถือปืนพกและกระบองนับสิบมาล้อมพวกเขา เด็กๆเหล่านั่นไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่

    นาวิน : พวกบ้านี่มันเป็นใครกันเนี่ย มีปืนด้วย

    ธิน : นั่นดิ ท่าทางพวกแม่งจะเอาเรื่องเรานะเนี่ย

    ในระหว่างนั้นเอง ก็ปรากฏชายในชุดสูทคนหนึ่ง เดินมาหาพวกเขา เมื่อแคทเทอรีนเห็นหน้าเขาก็รู้ทันทีว่าเขาเป็นใคร

    แคทเทอรีน : นี่แก ฉันจำแกได้ ไอ้สารเลว // แคทเทอรีนด่ามันเพราะว่ามันเป็นลูกน้องของคนที่ซ้อมลูกชายคนโตของเธอจนตาย

    ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ แล้วไอ้เด็กพวกนี้เป็นใครกัน

    อเล็กซ์ : เป็นใครงั้นเหรอ ฉันต้องถามพวกแกมากกว่า ว่าพวกแกเป็นใคร

    ปากดีนะอีนี่ แต่หน้ามันดูคล้ายๆเธอเลยนะแคทเทอรีน ลูกแกเหรอ

    แคทเทอรีน : แกอย่าทำอะไรหลานสาวฉันเป็นอันขาด แกฆ่าลูกชายฉันไปแล้ว ฉันไม่ยอมให้แกแตะต้องเธอหรอก

    โซเซีย : ใช่ เก่งจริงก็ข้ามศพพวกกูไปก่อนสิวะไอ้เลว

    ปากดีนะมึง วันนี้ฉันจะมาคิดบัญชีเก่ากับเธอ

    เอม : อะไรของแก พวกแกต้องการอะไร พวกเราไม่มีเงินให้นะ

    ออย : นั่นสิ ไปหากินที่อื่นเถอะ เราไม่มีอะไรที่พวกแกต้องการหรอก

    สงสัยเธอเพิ่งจะมาอยู่ใหม่ คงไม่รู้ว่ายัยนี่มันทำอะไรบ้าง

    โอ๊ค : ฉันไม่สน ถ้าพวกแกจะทำอะไรพวกเรา ก็ฆ่าฉันให้ตายก่อนสิ

    นาวิน : ใช่ แน่จริงพวกแกก็เข้ามาสิ แต่แกจะยิงคนที่ไม่มีอาวุธจริงเหรอ ชายชาตินาซีอย่างพวกแกเนี่ยนะ

    ก็ได้ พวกเรา เก็บปืน แล้วซ้อมพวกมันให้ตายให้หมด

    พวกมันเก็บปืนพกเปลี่ยนเป็นกระบองคนละท่อน จากนั้นก็เข้าโจมตีพวกของนาวินทันที

    =====================================================================

    พวกของนาวินเจอดีเข้าจนได้ แต่พวกเขาจะรอดออกมาได้หรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ แล้วกดติดตามนิยายข้าพเจ้าด้วย 

    มีเรื่องจะมาบอก

    ช่วงนี้อาจจะไม่ได้มาอัพนิยายนะครับ

    ตือข้าพเจ้ากำลังจะได้งานทำ แล้วที่นี่คงจะไม่ค่อยมีเวลามา

    แต่ไม่ต้องห่วง จะพยายามหาเวลามาเขียนจ้า

    แหะๆ

     

     

     

     

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×