ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My War - สงครามที่ไม่ได้เลือก

    ลำดับตอนที่ #8 : EP 5 : บาดเจ็บ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 122
      6
      15 ธ.ค. 61

    ตกเย็น พวกของนอร์รีนก็มารวมตัวกันเพื่อตกลงว่าใครจะเป็นคนออกไปหาของที่ด้านนอก พวกเขามารวมตัวกันที่ห้องโถงอย่างรวดเร็วก่อนที่จะสายไปมากกว่านี้

    มิเชล : โอเค ในที่สุดทุกคนก็มาซะทีนึงนะเนี่ย

    นอร์รีน : ยูจีน ซิลเวียเป็นยังไงบ้างหล่ะตอนนี้

    ยูจีน : ตอนนี้ไข้ลดลงแล้วหล่ะ ขอบใจนายมากๆเลยนะ

    โทนี่ : ว่าแต่ คืนนี้ใครจะเป็นคนออกไปดีหล่ะ

    นอร์รีน : ผมขอออกไปเองบ้าง ยูจีนคงต้องเฝ้าแฟนของเขาอ่ะนะ

    ตะวัน : ผมไปด้วยครับ อย่างน้อยน่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง

    อลัน : ถ้างั้นฉันไปด้วย ฉันพอจะรู้ทางในเมืองนี้หน่ะ

    ไลฟ์ : ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะคะพี่ อย่าเพิ่งทิ้งหนูไปหล่ะ

    เอจิ : ผมว่านะ เราควรแบ่งคนไปเฝ้าด้านข้างอพาร์ทเม้นท์ด้วยนะ

    เอสเทอร์ : ก็จริงนะ ไม่งั้นอาจจะมีคนแบบพวกนายโผล่มาร่วมแจมด้วย

    โทนี่ : ถ้างั้นผมจะอยู่เฝ้าที่นี่เองครับ ผมน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง

    อลิซ : โอเค นี่พวกนาย ฉันกับมิสซึจดรายชื่อของที่จะให้พวกนายไปหามาด้วยหน่ะ มิสซึ ส่งให้พวกเขาไปหน่อยสิ // พวกเขารับกระดาษโน้ตใบหนึ่งจากมือมิสซึ

    มิสซึ : ของอาจจะเยอะหน่อยหน่ะครับ ยังไงก็ฝากด้วยก็แล้วกันะ

    นอร์รีน : ได้ครับ ยังไงทุกคนอยู่ที่นี่ก็ระวังตัวด้วยนะครับ

    บารีร่า : รีบกลับมานะคะพี่ เดี๋ยวจะมืดซะก่อนจะลำบาก

    ซีโร่ : พี่ อย่าเพิ่งทิ้งผมไปสิ ผมไปด้วยนะครับ

    ซีโร่ขอนอร์รีนไปด้วย นอร์รีนจึงต้องให้ซีโร่ไป จากนั้นไม่นานก็พวกเขาก็ออกเดินทางไปยังเป้าหมายของพวกเขาเพื่อหาของต่อไป

     

    และอีกด้านหนึ่งของเมือง หน่วยดอว์นซอร์ดเตรียมกำลังคนเพื่อบุกจู่โจมที่มั่นของกลุ่มกบฏในตึกแห่งหนึ่ง อเล็กซ์ซานเดอร์ถือปืนรออยู่ที่หน้าประตู โดยที่อีริคกำลังเล็งสไนเปอร์ใส่ศัตรูอยู่

    อเล็กซานเดอร์ : มาร์คแมน ยิงตัวที่นายคิดว่าจะไม่มาป่วนพวกเรา

    มาร์คแมนคือรหัสของอีริค เมื่ออีริคได้ยิน อีริคก็จัดการยิงพวกกบฏที่คุมกำลังอยู่บนดาดฟ้าและริมหน้าต่าง

    อีริค : มาร์คแมนเรียกบอส ตอนนี้ดาดฟ้าและริมหน้าต่างเคลียร์

    ซิลเวสเตอร์ : บอมบาเดียร์ ตัดสัญญาณการสื่อสารและไฟฟ้าของพวกมัน

    บอมบาเดียร์หรือเควิน เมื่อเขาได้ยินคำสั่ง เขาก็ทำการตัดสัญญาณสื่อสารและไฟฟ้าด้านในตึก ทำเอาพวกนั้นโกลาหลกันใหญ่

    บอมบาเดียร์ : ด้านในตึกเคลียร์ ตอนนี้พวกมันหมดโอกาสเรียกกำลังเสริมแล้ว

    ซิลเวสเตอร์ : ดีมาก อีสเตอร์เอ้ก ระเบิดประตูและบุกเข้าไปเลย

    อีสเตอร์เอ้ก คาสเตอร์ เมื่อเขาได้ยินคำสั่ง เขาก็แปะระเบิดที่ประตู เมื่อประตูระเบิด เขาก็บุกเข้าไปพร้อมกับปืนลูกซอง ยิงกราดกลุ่มกบฏจนแตกกระเจิง จากนั้นเขาก็เคลียร์พื้นที่ด้านใน

    คาสเตอร์ : นี่อีสเตอร์เอ้ก ย้ำ ตอนนี้พื้นที่ด้านในเคลียร์แล้ว

    ซิลเวสเตอร์ : เอาหล่ะ ถล่มให้ราบไปเลย

    พวกเขาบุกเข้าไปจัดการกลุ่มกบฏด้านใน กลุ่มกบฏพยายามจะสกัดพวกเขาแต่ไม่เป็นผล หัวหน้าของพวกมันพยายามจะหนีออกจากตึก ในตอนนั้นเองอเล็กซานเดอร์พยายามจะวิ่งตามมันไป

    พลัก

    หัวหน้ากลุ่มกบฏยังไม่ทันจะหนี มันดันโดนอเล็กซ่าเตะเข้าเบ้าหน้าซะก่อน จากนั้นหัวหน้าของพวกมันก็ล้มลงในทันที โดยที่อเล็กซ่าจับตัวมันเอาไว้ได้

    อเล็กซ่า : ฉันจับตัวมันไว้ได้แล้วค่ะหัวหน้า

    อเล็กซานเดอร์ : ทำดีมาก เดี๋ยวฉันจะเอามันไปเอง

    อเล็กซ่า : หวังว่าท่านคงจะไม่รุนแรงเกินไปนะคะ ไม่งั้นเขาไม่ยอมพูดแน่

    อเล็กซานเดอร์ : ไม่ต้องห่วงหรอก // อเล็กซานเดอร์ลากคอหัวหน้ากลุ่มกบฏไปด้านในห้องโถง เตรียมพร้อมจะทำการเค้นข้อมูลจากมัน

     

    และที่อีกด้านหนึ่งของเมือง ซึ่งไม่ห่างจากเขตในตัวเมืองเท่าไหร่ อนูวาเดินทางต่อไปเรื่อยๆเพื่อหาทางติดต่อกับกลุ่มกบฏในเมือง แต่เธอเดินทางมาหลายชั่วโมงแล้วยังไม่เจอกลุ่มกบฏตามที่หวังเลย มองไปทางไหนก็เจอแต่ชาวบ้านที่มาขออาหารกับซากเมืองร้างๆที่เพิ่งจะโดนถล่ม ระหว่างที่เธอกำลังเดินทาง เธอดันมาเนอกลุ่มคนถือปืนคนหนึ่งเดินมาหาเธอ มันเจออนูวาแล้วตกใจ เพราะมันรู้ว่าเธอเป็นใคร เขารีบวันทยหัตถ์เธอในทันที

    ท่านอนูวาครับ ผมร้อยเอกรูกี้ จากหมู่พอร์กกี้ครับ

    อนูวา : อะไรกัน นี่พวกนายมาที่นี่ทำไมกัน

    รูกี้ : ท่านนายพลส่งผมมาช่วยหน่ะครับ

    อนูวา : โอเค ว่าแต่สถานการณ์เป็นยังไงบ้างหล่ะ

    รูกี้ : ครับ ตอนนี้ทหารของประธานาธิบดีเริ่มทำการรุกคืบในแถบชานเมืองแล้วครับ

    อนูวา : ตอนนี้ฉันยังติดต่อกลุ่มกบฏไม่ได้เลย ที่เจอก็โดนบดขยี้กันหมด

    รูกี้ : แล้วแบบนี้จะทำยังไงต่อดีหล่ะครับ

    อนูวา : เอาแบบนี้นะ ฉันจะลองติดต่อกับชาวบ้านแถวนี้ พวกนายปลอมตัวเป็นพวกกบฏอยู่แถวนี้ไปก่อนแล้วกัน

    รูกี้ : แต่ว่าจะดีเหรอครับ

    อนูวา : ฉันจัดการได้น่า ไม่ก็พวกนายคอยดูฉันห่างๆก็แล้วกัน // ในขณะนเดียวกันเธอก็เห็นอพาร์ทเม้นท์หลังหนึ่ง เธอคิดว่าเธอจะเข้าไปพักด้านในนั้น เธอสั่งให้ทหารของเธอไปตรวจดูรอบๆก่อน ก่อนที่เธอจะเข้าไปพักผ่อนด้านใน

     

    ณ กระทรวงกลาโหม ประเทศไทย หลังจากที่ทางการไทยได้รับข่าวว่ามีนักบินทหารไทยถูกโจมตีโดยกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่โซราติก ทางการไทยได้เร่งประชุมเรื่องนี้เป็นการด่วน เนื่องจากพวกเขาต้องการตัวนักบินกลับคืนและต้องการทราบว่าฝ่ายไหนอยู่เบื้องหลังเรื่อง ในห้องประชุมห้องหนึ่ง นายทหารยศสูงคนหนึ่งเดินเข้ามาด้านในห้องโดยที่ลูกน้องคนอื่นกำลังรอเขาอยู่ นายทหารคนนั้นรีบนั่งลงแล้วเริ่มประชุมทันที

    ท่านทั้งหลาย ตอนนี้พวกท่านคงจะทราบข่าวจากโซราติก เรื่องนักบินของเราแล้วสินะ

    ทางเราได้ยื่นคำขาดกับทางโซราติกเรียบร้อยแล้วครับ ถ้าพวกเขายังหาคนผิดไม่ได้ จะถือว่าพวกเขาประกาศสงครามกับเราครับ

    ตอนนี้ชีวิตนักบินของเราสำคัญกว่านะครับ ตอนนี้พวกคุณมีแผนอะไรหรือเปล่าหล่ะ

    ทางผมจะส่งหน่วยรบพิเศษหน่วยนี้เข้าไปช่วยเหลือเขาครับนายทหารคนหนึ่งยื่นเอกสารส่งให้นายพลใหญ่

    กรมรบพิเศษที่ 3 หน่วยที่ 5 พวกคุณแน่ใจเหรอว่าจะให้พวกเขาไป

    ท่านครับ เรื่องแบบนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่มือดีเข้าไปเท่านั้นครับ

    ก็ได้ ถ้าอย่างงั้นรีบติดต่อหน่วยนี้ในทันที ก่อนที่เหตุการณ์จะแย่ไปกว่านี้ ไปจัดการได้

    หลังจากการประชุมสิ้นสุดลง พวกเขาก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของพวกเขาต่อ

    และที่ทำเนียบประธานาธิบดีโซราติก ประธานาธิบดีโซราติกกำลังเคร่งเครียดอย่างหนัก เนื่องจากทางการไทยยื่นคำขาดให้เขาหาตัวนักบินไทยโดยด่วน ไม่เช่นนั้นทางการไทยจะตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับโซราติกทั้งหมด รวมถึงอาจจะใช้ยุทธวิธีทางการทหารกับโซราติกด้วย เขาเรียกผู้ช่วยของเขามาหาเขาในทันที

    ท่านประธานาธิบดีครับ

    ตอนนี้หาตัวนักบินคนนั้นเจอหรือยัง

    ยังเลยครับท่าน แต่ตอนนี้ทางเราได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจไปยังสถานทูตไทยแล้วครับ

    แค่นั้นมันยังไม่พอ ตอนนี้ทางการไทยและ UN กดดันฉันมาทุกวัน ให้จัดการเรื่องสงครามและนักบินบ้าที่โดนยิงตกนั้น

    ผมว่า ส่งคนไปสำรวจให้ทั่วเมืองเลยดีหรือเปล่าครับ

    ไม่ได้ ตอนนี้พวกกบฏยังเข้มแข็งอยู่ พยายามถ่วงเวลาสหประชาชาติไว้จนกว่าเราจะบดขยี้กลุ่มกบฏได้หมด จัดการตามนั้น

    ได้ครับท่าน

    เลขาของประธานาธิบดีรีบร้อนออกไปจากห้อง ปล่อยให้ประธานาธิบดีนั่งดื่มเหล้าด้วยความเครียด

     

    และที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตร้างแห่งหนึ่ง พวกของนอร์รีนเดินทางโดยที่อลันเป็นคนนำทางพวกเขามา เนื่องจากว่าที่นี่เป็นแหล่งเก็บเสบียงอีกแหล่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อพวกเขามาเห็น สภาพของมันก็พังยับไปบางส่วน จนพวกเขาคิดว่าไม่รู้จะมีของที่พวกเขาต้องการอยู่ด้านในหรือเปล่า

    นอร์รีน : ดูสภาพเหมือนเพิ่งจะโดนถล่มมาเลยนะเนี่ย

    ตะวัน : นั่นสิ พวกนายแน่ใจนะว่าจะมีของให้พวกเราในนี้

    อลัน : แน่ใจสิ ตอนที่ฉันมาตอนแรกยังไม่มีใครไปเอาของข้างในเลยนะ

    ซีโร่ : ผมว่า เราแยกย้ายกันไปหาของดีกว่านะพี่

    หลังจากนั้น พวกเขาก็แยกย้ายเข้าไปในแต่ละส่วนของห้าง เพื่อสำรวจหาของที่จำเป็น แต่ในห้างนั้นไม่ได้มีแค่พวกเขา อลันเดินไปที่ด้านหลังของห้าง ซึ่งเขาได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง ในตอนนั้นเอง เขาได้เสียงปึงปังๆด้านหลัง อลันจึงรวบรวมความกล้าเพื่อเปิดประตูเข้าไปดู แต่ในตอนนั้นเอง เขาเห็นภาพที่เหล่าทหารคนหนึ่งกำลังช่วยกันรุมถอดเสื้อหญิงสาวผู้น่าสงสารคนหนึ่งเพื่อที่จะย่ำยีเธอ ในตอนนั้นเอง เขาก็โดนสันปืนฟาดเข้าที่ท้ายทอย

    ไอ้บ้าเอ้ย ไหนว่าจะไม่มีคนมาไง

    ช่างมันเถอะ มันคงจะมาแค่คนเดียว เรามาสนุกกันต่อดีกว่าหว่ะ

    มันหันไปรุมเล่นงานผู้หญิงต่อ คราวนี้ผู้หญิงขัดขืนอย่างหนักจนโดนมันต่อยเข้าที่หน้าท้อง ทำเอาเธอไม่มีแรงขัดขืน

    ต้องให้ออกกำลังหรือไงวะ

    มันค่อยๆถอดเสื้อเธอออกทีละชิ้นต่อหน้าอลัน ในขณะเดียว นอร์รีน ตะวันและซีโร่ที่กำลังหาเพื่อนเขาอยู่ เขาเดินผ่านมาก็พบว่าเพื่อนของเขาโดนทหารเล่นงานอยู่ ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็คุยกันว่าจะเอายังไงต่อ

    ซีโร่ : แย่หล่ะ พี่อลันกำลังแย่ ต้องช่วยพี่เขาแล้ว

    นอร์รีน : แล้วเราจะทำยังไง เราไม่มีปืนซักกระบอกเลยนะ

    ตะวัน : ผมจัดการเอง ถ้าผมให้สัญญาณทุกคนรีบวิ่งหนีไปคนละทางเลยนะ

    ตะวันคว้ากระป๋องน้ำอัดลมกระป๋องหนึ่งปาใส่หัวมัน ทำเอาพวกมันต้องถือปืนเตรียมพร้อมต่อสู้

    เฮ้ย ใครวะ ตามไปฆ่าแม่งเลย

    พวกมันสามถึงสี่คนก็รีบตามหาคนที่ปากระป๋องใส่เขา แต่อีกคนหนึ่งไม่ตามไป พยายามจะไปเล่นงานผู้หญิงคนนั้นต่อ

    เหลือแค่เราสองคนแล้วน้องสาว

    แต่ในตอนนั้นเอง อลันตื่นขึ้นมาล็อคคอมัน มันพยายามขัดขืนแต่สู้แรงเขาไม่ได้ จากนั้นมันก็สิ้นใจตายคามืออลันไปอย่างดื้อ จากนั้นอลันก็ไปดูอาการของผู้หญิงที่กำลังนอนเจ็บอยู่

    อลัน : คุณครับ เป็นยังไงบ้างครับ คุณปลอดภัยแล้วนะ

    ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยฉัน ฉันจะไม่ลืมเลย

    อลัน : คุณอยู่ที่นี่ก่อนนะครับ ผมจะไปช่วยเพื่อนผมก่อน // จากนั้นอลันก็วิ่งไปพร้อมกับปืนกลของทหารที่นอนตายตรงนั้น

    อีกด้านหนึ่ง ทหารสี่นายก็ไล่ตามล่าพวกของนอร์รีนที่หนีไปคนละทาง ในตอนนั้นเองพวกมันสองคนตามล่าตะวันซึ่งวิ่งไปอีกทาง แต่ระหว่างที่กำลังวิ่งตาม ชั้นวางสินค้าก็ล้มใส่พวกมันสองคน ทำเอาพวกมันตกใจกันยกใหญ่ จากนั้นตะวันก็จัดการปลดอาวุธของพวกมันทั้งคู่

    เฮ้ย มึงเป็นใครกันวะ

    ตะวัน : เป็นคนที่จะมากระทืบแกยังไงหล่ะ // ตะวันวิ่งเข้าไปประเคนหยัดมวยกับพวกมัน พวกมันชักมืดออกมาจะเล่นงานเขา แต่ฝีมือของตะวันเหนือชั้นกว่า ทำเอาพวกมันล้มไม่เป็นท่าอย่างง่ายดาย

    อีกด้านหนึ่ง ทหารคนหนึ่งวิ่งไล่ตามซีโร่ไป แต่ก็ไล่ตามซีโร่ไม่ทันซะที ทำเอาเขาถึงกับต้องพักหายใจอยู่ตรงนั้น

    ไอ้บ้าเอ้ย เด็กบ้าไรวะ วิ่งเร็วชิบหาย

    แต่ในตอนนั้นเอง ซีโร่ก็ปาขวดแก้วใส่มัน มันหยิบปืนมาจะยิงซีโร่ตรงนั้นแต่มีคนมาฟาดมันด้านหลังซะก่อน ซึ่งนั้นก็คือนอร์รีนนั้นเอง มันโกรธจัดจะเล็งปืนใส่นอร์รีน แต่ทั้งคู่แย่งปืนกันไปกันมา ในตอนนั้นเอง มันอีกคนหนึ่งพยายามจะยิงใส่นอร์รีน แต่ซีโร่ปากระป๋องน้ำแถวนั้นใส่มันเข้าหน้า จากนั้นซีโร่ก็วิ่งไปชนมันจนล้ม จากนั้นก็พยายามต่อยมันตอนที่ยังนอนอยู่

    หืม ไอ้เด็กเวรเอ้ย

    มันจับซีโร่เหวี่ยงไปโดนชั้นวางของ จากมันก็ชักมืดออกมาหวังจะฆ่าซีโร่

    นอร์รีน : ซีโร่ อดทนไว้ก่อนนะ // นอร์รีนเหยียบเท้ามันจากนั้นก็แย่งปืนมันมาแล้วฟาดเข้าไปที่หัวมันจนมันล้มลง จากนั้นก็รีบวิ่งไปช่วยซีโร่ นอร์รีนเอาปืนฟาดมันแต่มันไม่เป็นไร มันหันกลับมาเอามีดแทงเข้าที่ท้องของนอร์รีน

    ซีโร่ : พี่นอร์รีน // ซีโร่วิ่งเข้ามาจะแย่งมีดจากมัน แต่มันเหวี่ยงซีโร่จนล้มลง มันพยายามจะแทงซีโร่ แต่ทว่า

    พลั๊ก

    อลันกับตะวันมาช่วยเอาไว้ได้ ทำเอาซีโร่ถึงกับโล่งใจในทันที

    อลัน : เป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยนะ

    ซีโร่ : พี่นอร์รีนถูกแทงครับ ช่วยด้วยครับพี่

    ทั้งคู่รีบเข้าไปดูอาการของนอร์รีนในทันที เขาโดนแทงเข้าที่หน้าท้องด้านซ้าย ตะวันพยายามหาอะไรปิดแผลเอาไว้

    ตะวัน : ยังดีนะไม่โดนจุดสำคัญ แต่ต้องเย็บแผลเขาด่วนเลย

    ในขณะเดียวกัน หญิงสาวคนที่ถูกอลันช่วยเอาไว้ก็เดินตามมาดูทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

    คุณคะ เพื่อนคุณถูกแทง

    อลัน : ครับ ผมต้องรีบพาเพื่อนไปแล้ว ว่าแต่คุณเป็นใครครับ

    ฮาน่า : ฉันชื่อฮาน่า ขอบคุณพวกคุณมากนะคะที่ช่วยฉัน ไม่งั้นฉันแย่แน่ๆ

    ตะวัน : ซีโร่ รีบไปเก็บของๆเรามาเร็ว เราต้องไปกันแล้ว // ซีโร่รีบวิ่งไปหยิบของที่เขาเก็บมาได้เป็นการด่วน

    อลัน : ผมต้องไปแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะครับ ผมชื่ออลันนะครับ

    หลังจากที่ซีโร่เก็บของที่จำเป็นมาได้ พวกเขาก็รีบแบกทั้งของและนอร์รีนกลับไปยังอพาร์ทเม้นท์เพื่อรักษาอาการของเขาเป็นการด่วน

     

    ที่อพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีน ในขณะที่โทนี่กำลังถือปืนเฝ้าอพาร์ทเม้นท์ ในตอนนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้โทนี่ โทนี่ได้ยินจึงรีบวิ่งไปเตือนทุกคนในทันที ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะเจอเรื่องใหญ่ซะแล้ว

    โทนี่ : แย่แล้วทุกคน มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังมาทางนี้

    เอจิ : พวกไหนกันหน่ะ อย่าบอกนะว่าเป็นพวกโจรหน่ะ

    ยูจีน : ฉันจะสู้กับพวกมันเอง เอสเทอร์ ไลฟ์ เธอช่วยเฝ้าซิลเวียในห้องฉันด้วยนะ

    ไลฟ์ : แล้วพวกเธอจะไหวเหรอ พวกมันอาจจะมีเยอะก็ได้

    เอสเทอร์ : นั่นสิ แถมอาวุธก็มีน้อย จะทำยังไงหล่ะ

    มิสซึ : ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมเคยเรียนต่อสู้มาบ้าง

    อลิซ : ส่วนฉันเหรอ ฉันก็ต่อยคนเป็นเหมือนกันนะ

    มิเชล : เอาเป็นว่า ทำตามที่ฉันบอกก็แล้วกัน ฉันมีแผนแล้ว

    ในขณะเดียวกัน พวกมันก็เข้ามาด้านในอพาร์ทเม้นท์เพื่อทำการค้นหาของด้านใน มันค้นทุกซอกทุกมุมเพื่อหาของที่จำเป็นเพื่อเอาไปใช้งาน พวกมันค่อยๆเดินสำรวจด้านในเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเห็น

    ลูกพี่ ลูกพี่ว่าจะมีคนอยู่ที่นี่หรือเปล่า

    ฉันก็ไม่รู้ ที่นี่ดูเงียบวังเวงจังเนี่ย

    ระหว่างที่พวกมันกำลังเดินสำรวจ คนของมันก็โดนลอบฆ่าไปที่ละคนจากฝีมือของเอจิและยูจีน ทำเอาพวกมันเริ่มจะสงสัยว่าคนของมันหายไปไหน

    เฮ้ย พวกแกอยู่ไหนกันวะ

    สงสัยมันจะไปสูบบุหรี่กันแถวนี้มั้งพี่ ไอ้พวกนี้ บุหรี่ยิ่งหายากๆอยู่

    แต่ในขณะที่แอบซ่อน บารีร่าเผลอไปชนกันแจกันจนล้มเข้าโดนไม่ได้ตั้งใจ ทำเอาพวกมันชักอาวุธออกมา แล้วเดินไปตามเสียงแจกันที่แตก แต่ในระหว่างที่มันกำลังเข้ามาใกล้ หมาของเอจิก็วิ่งไปกระโจนใส่มันพอดี

    อ๊าคคค บ้าเอ้ย!!”

    หลังจากที่ความแตก พวกเขาก็เผยตัวออกมาแล้วเข้าไปตะลุมบอนกับมันในทันที พวกเขาต่อสู้กันท่ามกลางแสงไฟอันน้อยนิดที่มีอยู่รอบข้าง ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันแต่พวกโจรเริ่มจะอ่อนแอแล้ว ในตอนนั้นเองเอจิก็ชักดาบซามูไรจัดการกับมัน ไลฟ์โดนตบจนล้มลง มันพยายามจับตัวเธอไปแต่เอจิขวางเอาไว้ ทำให้มันคนหนึ่งชักมีดออกมาแทงเขาจนล้มลง

    ไลฟ์เห็นเอจิโดนแทงตรงหน้าจึงร้องให้คนช่วย หมาของเอจิกัดโจรที่แทงเอจิจนร้องโหยหวน และในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงปืนดังขึ้นมาจากด้านอก ซึ่งคนยิงก็คืออนูวาที่นอนพักอยู่แถวนั้น เธอได้ตามรอยเสียงเอะอะโวยวายมาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น

    อนูวา : นี่มันอะไรกัน จะปล้นกันแถวนี้หรือไงห่ะ

    พวกมันทนไม่ไหวแยกย้ายหนีกันไป โทนี่พยายามจะไล่ยิงมันแต่ยูจีนห้ามเอาไว้ก่อน

    ยูจีน : โทนี่ ไม่ต้องหรอก ปล่อยมันไป

    โทนี่ : เดี๋ยวมันก็กลับมาฆ่าเราหรอกพี่ จะปล่อยไปทำไม

    ยูจีน : เปลืองกระสุนเปล่าๆน่า ช่างมันเถอะ

    ไลฟ์ : ใครก็ได้ช่วยด้วย เอจิโดนแทง ช่วยด้วย // ไลฟ์พยายามเอามือเธอปิดแผลของเอจิเอาไว้ จากนั้นทุกคนก็รีบไปดูอาการของเอจิทันที

    เอสเทอร์ : ตายแล้ว เขาจะเป็นไรหรือเปล่าเนี่ย

    มิเชล : เดี๋ยวฉันจัดการเอง พวกเธอไปเอายามาหน่อยสิ // พวกเขารีบไปเอายาและอุปกรณ์ทำแผลให้มิเชล จากนั้นเธอก็เตรียมพร้อมที่จะทำแผลให้กับเอจิ

    มิสซึ : เร็วเข้าหน่อยนะ ไส้เขาจะไหลออกมาแล้วเนี่ย

    ในตอนนั้นเอง ในระหว่างที่พวกเขากำลังทำแผลกันอยู่ ในตอนนั้นเองกลุ่มของนอร์รีนก็กลับมาพอดี ในตอนนั้นบารีร่าก็ออกมารอรับพวกเขา

    บารีร่า : พี่นอร์รีน กลับมาแล้วเหรอคะ พี่นอร์รีน??

    ซีโร่ : พี่นอร์รีนโดนแทง รีบเคลียร์พื้นที่หน่อยสิ

    อลิซ : แย่แล้ว ทุกคน ทางนี้นอร์รีนก็บาดเจ็บ ช่วยด้วย

    มิเชลที่ได้ยินตอนนั้นเกือบจะทิ้งเอจิไปดูนอร์รีนแล้ว แต่นอร์รีนขอให้ไปช่วยเอจิก่อน มิเชลในตอนนั้นเป็นห่วงนอร์รีนมากจนทำอะไรไม่ถูก

    ตะวัน : คุณไปช่วยเอจิเถอะ ผมทำแผลให้เขาเอง

    อนูวา : ฉันทำเอง ฉันเคยเรียนเย็บแผลมา คุณไปนั่งพักดีกว่า // ยูจีนพามิเชลไปนั่งพักอยู่แถวนั้น ในขณะที่ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการรักษาคนเจ็บที่นอนอยู่

    อลัน : แล้วแบบนี้ทั้งคู่จะเป็นยังไงบ้างเนี่ย

    ซิลเวีย : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน หวังว่าพวกเขาจะไม่เป็นไรนะ

    การทำแผลดำเนินต่อไปเรื่อยๆทั้งคืน พวกเขาต่างพยายามช่วยชีวิตคนของเขาอย่างสุดความสามารถในขณะที่ปัจจัยต่างๆไม่เอื้ออำนวย

     

    ณ เขตเมืองซึ่งถัดมาจากชานเมืองไม่กี่กิโลเมตร หลังจากที่เร็นและเอ็ดเวิร์ดหนีจากกลุ่มทหารมาได้ พวกเขาก็มานั่งพักกันที่ตึกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นตึกร้าง หลังจากนั้นพวกเขาก็นั่งคุยกันเพื่อรับฟังเรื่องราวของแต่ละฝ่าย

    เร็น : โชคดีนะที่เราหนีมาได้ ว่าแต่นายมาทำอะไรที่นี่หล่ะ

    เอ็ดเวิร์ด : เออน่า เรื่องมันยาว ไม่ต้องรู้หรอก

    เร็น : เฮ้ย ไม่เออน่าดิ เอาดีๆ เราคนชาติเดียวกันนะ

    เอ็ดเวิร์ด : ก็ได้ ฉันมาจาก MI6 รับคำสั่งมาเพื่อดูความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีที่นี่หน่ะ

    เร็น : งั้นเหรอ ฉันก็ MI6 เหมือนกัน แต่ของฉันเหนือชั้นกว่า

    เอ็ดเวิร์ด : จริงเหรอ เหนือกว่ายังไงหล่ะ

    เร็น : ของฉันต้องสังหารประธานาธิบดีหน่ะสิ

    เอ็ดเวิร์ด : เออหว่ะ เหนือกว่าจริงๆ ว่าแต่นายจะเอายังไงต่อหล่ะ

    เร็น : ฉันจะต้องทำงานให้เสร็จไม่ว่ายังไง

    เอ็ดเวิร์ด : แต่ตอนนี้ฉันขอพักก่อนดีกว่า ไม่ไหวหว่ะ ฝันดีเน้อ // เอ็ดเวิร์ดนอนหลับไปดื้อๆ โดยที่เร็นแทบจะกุมขมับ แล้วนอนพักตามเขาไปด้วย

     

    ณ ตึกร้างแห่งหนึ่งในเขตชุมชน เส้นทางเขต 12 กลุ่มของเทเรซ่าก็หาที่นอนเพื่อที่จะพักผ่อนเพื่อเดินทางต่อ ในตอนนั้นเองเดม่อนก็พยายามฟังวิทยุเพื่อจับความเคลื่อนไหวของกลุ่มทหาร ในขณะเดียวกัน เดม่อนก็เรียกทุกคนมาฟังวิทยุที่เขาดักสัญญาณได้ในทันที

    เทเรซ่า : เดม่อน เรียกฉันมีอะไรอย่างงั้นเหรอ

    เดม่อน : ฉันดักฟังสัญญาณของรัฐบาล ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะฆ่ากลุ่มกบฏนอกเมืองแตกหมดแล้วหล่ะ

    ลูลู่ : ห่ะ แล้วแบบนี้พวกเราจะเอายังไงต่อดีหล่ะ

    เทเรซ่า : เราจะยอมแพ้ตรงนี้ไม่ได้ นายรู้ตำแหน่งที่เราจะต้องเดินทางต่อหรือเปล่า

    เดม่อน : รู้สิ ฉันพอจำทางอยู่น่า

    ลูลู่ : เฮ้อ ไม่รู้ว่าตื่นมาจะมีอะไรใส่ท้องหรือเปล่านะเนี่ย

    เทเรซ่า : แหม่ ยังจะห่วงกินอีกนะเนี่ย

    เดม่อน : แต่เธอพูดจริงนะ ผมกินแต่ขนมปังแข็งๆมาสามวันแล้วเนี่ย

    ลูลู่ : ใช่ อยากกินเนื้อกับเขาบ้างอ่ะ

    เทเรซ่า : เอาเป็นว่ารีบไปนอนกันดีกว่า จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน

    เทเรซ่าแยกตัวไปนอนอีกด้านหนึ่ง ส่วนคนอื่นๆก็ไปหาที่นอนกันตามอัธยาศัย

     

    ณ เขตชานเมืองที่ไม่ห่างจากการรบเท่าไหร่ สตอร์มรีบวิ่งไปพร้อมกับข้อมูลที่เขาได้จากหัวหน้าของเขา ในตอนนั้นเขาหันหลังกลับไปก็พบว่าลานจอดรถที่มั่นของพวกเขาโดนถล่มจนราบ เขาเสียใจแต่ทำอะไรไม่ได้มาก จึงได้แต่เดินทางต่อไปเพื่อรายงานสถานการณ์ของฝ่ายกบฏให้แนวหลังทราบ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีชายคนหนึ่งวิ่งตามเขามาเพื่อที่จะคุยกับเขา เขาสะกิดด้านหลังสตอร์มจนตกใจ

    สตอร์ม : ห่ะ จอร์จ ฉันตกใจหมด นี่นายยังไม่ตายเหรอ

    จอร์จ : ยังไม่ตายหน่ะสิ ว่าแต่นายจะไปไหนหล่ะ

    สตอร์ม : ฉันต้องไปรายงานสถานการณ์การรบให้แนวหลังรู้หน่ะ

    จอร์จ : งั้นเหรอ คงต้องรีบหน่อยหล่ะ ตอนนี้รัฐบาลแม่งกวาดล้างหนักเลยตอนนี้

    สตอร์ม : แล้วพวกของนายอยู่ที่ไหนหมดหล่ะ

    จอร์จ : ตายกันหมดแล้ว โดนเฮลิคอปเตอร์จู่โจมพวกมันเล่นงานหน่ะ

    สตอร์ม : ถ้างั้นนายก็ตัวคนเดียวแล้วสินะ

    แต่ระหว่างที่กำลังคุยกัน จอร์จก็โดนสไนเปอร์ยิงจากด้านหลัง ส่วนสตอร์มก็โดนเข้าที่แขน ทำเอาเขาต้องรีบวิ่งไปหลบอยู่ข้างทางก่อนที่มันจะยิงซ้ำอีกครั้ง

    บ้าเอ้ย จะตามไปถึงไหนกันวะ

    สตอร์มรีบหาที่หลบแถวนั้นเพื่อป้องกันตัวเองจากพลซุ่มยิงของรัฐบาลที่เต็มไปหมด

     

    ทางด้านโกดังเก็บสินค้าของมาร์ค หลังจากที่ลูกน้องของเขาและตัวเขาไปแลกของในแต่ละเขต พวกเขาก็มารวบรวมสิ่งของที่พวกเขาแลกมาได้เพื่อตรวจสอบว่ามีอะไรมีค่าบ้าง ซึ่งพวกเขาได้มาเยอะแยะมากมายเลย

    นายครับ ดูนี่สิครับ เพชรพลอย ของแพงๆทั้งนั้นเลย

    มาร์ค : ฉันบอกแกแล้ว เชื่อฉันหรือยังหล่ะ

    นายครับ นั้นนาฬิกาโรเล็กซ์ใช่หรือเปล่าครับ

    มาร์ค : แน่นอน ฉันได้มาจากไอ้หน้าจืดคนนึงหว่ะ

    แล้วนี่นายจะเอายังไงต่อครับ

    มาร์ค : เก็บของมีค่าพวกนี้เอาไว้ให้ได้มากที่สุด รอสงครามจบแล้วขนออกไปจากเมืองนี้

    แล้วเมื่อไหร่มันจะจบหล่ะครับนาย

    นั่นดิครับ สามวันนี่นานอย่างกับสามปีเลยนะครับ

    มาร์ค : ฉันรู้ แต่มันก็ต้องลงทุนกันหน่อย พวกแกนี่หัวไม่ลงทุนเลยเฮ้ย

    ครับนาย

    มาร์ค : โอเค เอาของพวกนี้ไปเก็บไว้ ส่วนเสบียงที่เหลือก็เอาไปเก็บเข้าตู้ของเราด้วยหล่ะ

     

    และที่เขตชุมชนไม่ห่างจากชานเมืองเขตหนึ่ง อันนาขับรถกระบะของเธอมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาจอดรถที่บ้านหลังหนึ่ง โดยที่เธอเก็บตัวเองอย่างดี ป้องกันไม่ให้พวกโจรมาทำอันตรายเธอได้ ในระหว่างที่เธอกำลังนอนในรถ เธอก็หยิบเอารูปลูกชายคนเล็กของเธอมาดู จากนั้นภาพวันคืนเก่าๆของเธอและครอบครัวก็ย้อนกลับมาในหัวทันที สามีและลูกชายคนโตของเธอเสียชีวิตด้วยโรคมาลาเรีย เหลือแค่ลูกชายคนเล็กที่เป็นแก้วตาดวงใจของเธอ เธอไม่ต้องการอะไรมากขอแค่ให้ได้ลูกกลับไปก็พอแล้ว ในขณะที่เธอกำลังหลับอยู่ จู่ๆก็มีเสียงดังมาจากท้ายกระบะ เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับหยิงไฟฉายของเธอไปส่องดู ก็พบว่ามีวัยรุ่นคนหนึ่งกำลังกินองุ่นของเธออยู่ เธอตะโกนไปเพื่อให้เขาหยุด แต่เขาก็หยิบดาบของขึ้นมาเพื่อที่จะป้องกันตัวเอง

    ถอยออกไป อย่ามายุ่งกับของๆฉัน

    อันนา : ใจเย็นนะหนู มีอะไรค่อยๆพูดกันก็ได้นะ

    แต่ไม่ทันไร ชายหนุ่มคนนั้นก็หมดแรงล้มไปดื้อๆ โดยที่อันนารีบไปดูอาการของเขา

    อันนา : เป็นอะไรหรือเปล่าหนู

    ผม หิว….”

    อันนา : ดื่มน้ำนี่ก่อนนะจ๊ะ // อันนาพยายามป้อนน้ำให้เขา เขาพยายามดื่มน้ำจากเธออย่างรีบร้อน

    อันนา : นี่เธอไม่ได้กินอะไรมากี่วันแล้วเนี่ย

    “2 วันแล้วครับ วันนี้ก็วันที่สามแล้วครับ

    อันนา : แต่แล้ว นี่องุ่นของฉัน กินไปพลางๆก่อนได้นะ ว่าแต่เธอจะไปไหนงั้นเหรอ

    ผมจะไปมอบตัวกับรัฐบาลครับ ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมหิว

    อันนา : ใจเย็นนะจ๊ะ เดี๋ยวฉันหาอะไรให้เธอกินเอง // แต่ไม่ทันแล้ว ชายหนุ่มคนนั้นล้มตัวลงนอนอย่างดื้อๆ โดยที่อันนาพยายามจะปลุกเขาขึ้นมา เขาตายต่อหน้าอันนา เธอรีบผละตัวไปร้องไห้คนเดียวในรถทันที

     

    กลับมายังอพาร์ทเม้นท์ของนอร์รีนหลังจากที่การรักษาเป็นไปอย่างยากเย็น ในที่สุดพวกเขาก็ช่วยเหลือนอร์รีนและเอจิได้สำเร็จ โดยที่พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้เป็นอะไรมาก

    ตะวัน : ตอนนี้ทำแผลเรียบร้อยแล้วครับ แต่ต้องให้เขาพักผ่อนหน่อย

    มิเชล : เดี๋ยวฉันจะดูนอร์รีนเองค่ะ // มิเชลพานอร์รีนเข้าไปพักในห้องของเธอ

    ไลฟ์ : ถ้างั้นฉันจะดูเอจิเขาเองนะ

    โทนี่ : ว่าแต่ ขอบคุณพี่มากนะครับที่ช่วย พี่เป็นใครกันหล่ะ

    อนูวา : ฉันอนูวา ฉันหนีมาจากชานเมืองหน่ะค่ะ

    ตะวัน : ยินดีที่ได้รู้จักคุณนะครับ // ตะวันจับมือกับอนูวาพร้อมกับส่งตาหวานใส่

    เอสเทอร์ : ตอนนี้ยารักษาของเรากำลังจะหมดแล้วนะ

    ยูจีน : ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคืนพรุ่งนี้ฉันจะออกไปหาของเอง

    มิสซึ : ให้ฉันไปด้วยคนก็ได้นะ

    อลิซ : ไม่ต้องหรอก นายอยู่ทำอะไรให้เรากินที่นี่ดีกว่า

    อลัน : เฮ้อ คืนนี้เรารีบไปพักผ่อนกันดีกว่านะ

    จากนั้นไม่นานพวกเขาก็แยกย้ายกันไปนอนในห้องของแต่ละคน ในตอนนั้นเองซีโร่เอาของสิ่งหนึ่งยัดใส่มือบารีร่าอย่างดื้อๆ

    ซีโร่ : ฉันไปเจอมา อย่าบอกให้ใครรู้หล่ะ

    บารีร่าเอาของมาดู ก็พบว่ามันเป็นลูกกวาดหลากสี เมื่อเธอได้เห็นเธอจึงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในทันที

    ======================================================================

    นอร์รีนกับเอจิบาดเจ็บ แถมพวกเขาก็เพิ่งจะโดนปล้นมาหมาดๆ พวกเขาจะมีชีวิตรอดต่อไปหรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าเลยจ้า
    ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครัช


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×