ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Descendant War - สมรภูมิปิตุฆาต

    ลำดับตอนที่ #29 : ตอนที่ 24 : คำสั่งเสีย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 64
      4
      6 ก.พ. 62

    กองทัพริงก้าของนอร์ดิกจัดการยิงปืนใหญ่ใส่แถวรับของโซราบอล ทหารโซราบอลเริ่มจะระส่ำระส่ายเนื่องจากว่าพวกเขาถูกปิดล้อมและขาดเสบียง นอร์ดิกวางแผนการหาทางลับเพื่อบุกเข้าไปยังโซราบอล จับตัวนายพลเนโร เพราะไม่อยากเสียเวลากับสงครามยืดเยื้อเขาเรียกให้อาร์เทอร์และคนอื่นๆมาเข้าประชุมหารือด้วยกันในทันที

    นอร์ดิก : ผมจะหาช่องทางลับ แล้วให้ทหารบุกเข้าไป จับตัวนายพลเนโรโดยเร็ว คุณอาบาตู คุณนำทหารไปเสาะหาเส้นทาง

    อาบาตู : ได้ครับว่าแต่ คุณหนูจะจับเป็นนายพลเนโรเหรอครับ

    นอร์ดิก : แน่นอนครับ มันต้องรับโทษก่อนตาย ว่าแต่ตอนนี้ทางใต้เป็นยังไงบ้างครับ

    อาร์เทอร์ : ตอนนี้ทหารของเรากำลังจะบุกเข้าใจกลางแคว้นบาส์ก แต่ว่า

    นอร์ดิก : แต่ว่าอะไรครับคุณอาร์เทอร์

    อาร์เทอร์ : คือว่า คุณไซโซถูกยิง ตอนนี้ยังหาตัวเขาไม่พบครับ

    ซอล : คุณไซโซอย่างงั้นเหรอครับ แล้วตอนนี้หาตัวเขาเจอหรือยังครับ

    อาร์เทอร์ : เคจากำลังสั่งคนของเธอให้หาตัวเขาอย่างเต็มที่ครับ

    เฟรย์อา : ป่านนี้ไม่รู้ว่าไซโซเขาจะเป็นยังไงบ้างหล่ะนะ

    นอร์ดิก : ถ้าเรายังไม่เห็นร่างของเขา เขาอาจจะยังไม่ตาย เอาเป็นว่า เราจะทำยังไงกับพวกโซราบอลต่อดีหล่ะ

    บูล : ผมจะนำกำลังไปเจาะแนวรับที่อ่อนแอที่สุดของโซราบอลเองครับ

    ฟีนด์ : ถ้าอย่างงั้นผมจะไปกับคุณด้วย อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่านะครับ

    อาร์เทมิส : ตอนนี้กองพลปืนใหญ่ของพวกมันยังแข็งแกร่งอยู่นะคะ

    เมเทอร์ : ยังไงกระสุนของมันก็ต้องมีวันหมด แถมยังโดนปิดล้อมแบบนี้ด้วย

    อาร์เทอร์ : แต่เราไม่ควรจะปล่อยปละละเลยทางด้านหลังนะครับ มหาสมุทรตรงนี้น่าจะพอให้พวกมันหนีได้

    นอร์ดิก : เห็นด้วยครับ เราคงต้องรีบจัดการหน่อยหล่ะ

    ในขณะที่พวกเขากำลังวางแผนการรบอยู่ด้านใน ตอนนั้นเองก็มีทหารนายหนึ่งมารายงานเรื่องการรบกับเขา

    ท่านครับ ขอรายงานครับ

    อาร์เทอร์ : มีเรื่องอะไรกันงั้นเหรอ

    มีธงขาวยกมาจากแนวรับของพวกโซราบอลครับ

    อาบาตู : คุณหนูครับ อาจจะเป็นกับดักก็ได้นะครับ

    นอร์ดิก : จัดกำลังคนไปดูก่อน ไม่รู้ว่าพวกมันคิดอะไรอยู่กันแน่

    นอร์ดิกนำทหารริงก้าไปยังแนวรับของโซราบอล จากนั้นเอง พวกเขาก็เห็นทหารและชาวบ้านบางส่วนยกธงขาวยอมแพ้ต่อพวกเขา จากนั้นเองทหารริงก้าก็เคลียร์พื้นที่โดยรอบ จากนั้นก็มีชาวบ้านคนหนึ่งเดินถือธงขาวมาหานอร์ดิก

    พวกเรายอมแพ้แล้ว อย่าทำอะไรพวกเราเลยครับ

    นอร์ดิก : หะ นี่นายพลเนโรรู้เรื่องนี้หรือยังครับเนี่ย

    ตอนนี้มีชาวบ้านหลายคน และทหารบางส่วนต้องการยอมแพ้ครับ

    นอร์ดิก : ว่าแต่ คุณย่ามาร์ธ่าอยู่ที่ไหนงั้นเหรอครับ

    คุณหญิงมาร์ธ่ากำลังพักผ่อนอยู่ในแคว้นบาส์กครับ คุณคือท่านนอร์ดิกใช่หรือเปล่าครับ

    นอร์ดิก : ใช่ครับ ทำไมคุณลุงถึงรู้จักผมได้หล่ะ

    ผมรู้จักคุณหญิงมาร์ธ่าเป็นอย่างดี ผมเคยไปพบคุณหญิงท่านบ่อยๆ แล้วผมก็เคยทำงานในวังด้วยครับ

    นอร์ดิก : ผมเข้าใจหล่ะ ยังไงคุณพาคนที่ยอมแพ้ไปทางอื่นนะครับ

    ในระหว่างที่พวกเขากำลังพูดกันอยู่ จู่ๆก็มีขบวนรถม้าขบวนหนึ่งเข้ามาหากองทัพของนอร์ดิก ทหารองครักษ์พยายามจะคอยคุ้มกัน แต่นอร์ดิกสั่งห้ามพวกเขาเอาไว้ก่อน ซึ่งขบวนรถม้านั้น คือขบวนของมาร์ธ่านั่นเอง นอร์ดิกดีใจมากที่ได้เจอมาร์ธ่าในตอนนี้

    มาร์ธ่า  :นอร์ดิก หลานรักของย่า // นอร์ดิกรีบวิ่งเข้าไปกอดมาร์ธ่าในทันทีโดยไม่รีรอ

    นอร์ดิก : คุณย่าครับ ผมคิดถึงคุณย่ามากเลยครับ

    ซาร่า  :นอร์ดิก โตเป็นหนุ่มแล้วนะจ๊ะเธอเนี่ย

    นอร์ดิก : คุณน้าซาร่าครับ คิดถึงคุณน้าจังเลยครับ

    และหนึ่งในคนสำคัญของนอร์ดิก ซิลเวียร์ ทั้งคู่ได้พบหน้ากันครั้งแรกในตอนนั้น นอร์ดิกวิ่งเข้าไปกอดซิลเวียร์ในทันที ราวกับว่าทั้งคู่ไม่ได้กอดกันมานานมาก

    ซิลเวียร์ : นอร์ดิกคะ ไม่ได้เจอกันนานมากเลยนะคะ

    นอร์ดิก : ซิลเวียร์ ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน // นอร์ดิกจูบกับกับซิลเวียร์อย่างดูดดื่ม จากนั้นก็พามาคุยกับคนอื่นๆ

    มาร์ธ่า : นี่เป็นทหารของหลานๆอย่างงั้นเหรอจ๊ะ

    นอร์ดิก : ใช่ครับ คนนี้คือซอล เพื่อนของผม แล้วนี่ผู้กองฟีนด์แห่งมอร็อค นายพลบูลแห่งรูดิว แล้วก็อาร์เทมิสผู้ครองแคว้นเดลล์ครับ

    ซาร่า : ว่าแต่ ไซโซกับเคจาไปไหนซะหล่ะ

    นอร์ดิก : เคจากำลังยึดแคว้นบาส์ก ส่วนไซโซ เรากำลังตามหาอยู่ครับ ว่าแต่ ทำไมพวกคุณย่าถึงได้มาที่นี่กันหล่ะครับ

    ซิลเวียร์ : อ้อ คือว่า เรารู้ว่าเธอจะมาที่นี่ เราเลยเสี่ยงชีวิตมาเพื่อคุยกับเธอหน่ะ

    ซอล : คุยงั้นเหรอครับ ว่าแต่คุยเรื่องอะไรกันหล่ะ

    เฟรย์อา : ใจเย็นสิ นี่มันเรื่องในครอบครัวนะ อย่ายุ่งดีกว่า

    ซิลเวียร์ : คือ คุณย่ามาร์ธ่าไม่อยากให้คุณทำอะไรนายพลเนโรหน่ะ

    นอร์ดิก : หะ จะให้ผมไว้ชีวิตมันอย่างงั้นเหรอครับ

    มาร์ธ่า : ถือว่าย่าขอหล่ะ อย่าทำอะไรเขาเลยนะ

    บูล : แต่ว่า ถ้านายพลบูลยังอยู่ เขาคงไม่ยอมง่ายๆแน่

    อาร์เทมิส : นั่นสิ นายพลบูล เขาไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆด้วยนี่สิ

    ซาร่า : ไม่แน่นะจ๊ะ คุณมาร์ธ่าอาจจะพูดให้พวกคุณก็ได้

    ฟีนด์ : ตอนนี้จะทำยังไงก็ทำเถอะครับ ขอให้สงครามจบเร็วๆ

    เมเทอร์ : นั่นสิ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ๆเลยเนี่ย

    มาร์ธ่า : เชื่อย่าเถอะนะ เรื่องนี้ย่าจะจัดการเอง

    นอร์ดิก : คุณอาร์เทอร์ คุณคิดว่ายังไงครับ

    อาร์เทอร์ : ก่อนนายพลเตเวียสจะตาย ท่านขอไว้ว่าให้จับตัวเขาเป็นๆครับ

    นอร์ดิก : ถ้าอย่างงั้น เราคงต้องจับตัวเขาเอาไว้ก่อนหน่ะ

    ซอล : ว่าแต่ นอร์ดิก นายจะทำยังไงต่อหล่ะกับเรื่องนี้

    นอร์ดิก : สั่งให้ทหารล้อมที่นี่ไว้ก่อนก็แล้วกัน

    ฟีนด์ : นายพลเนโรคงไม่ยอมง่ายๆแน่ๆครับ

    เฟรย์อา : หรือว่าเรื่องนี้มันจะเป็นกลลวงกันหล่ะคะ

    มาร์ธ่า : พวกเธอไม่ต้องเป็นห่วง นอร์ดิก พาทหารไปกับย่า ย่าจะคุยกับเนโรเขาเอง

    นอร์ดิก : คุณอาบาตู จัดทัพหลวงให้ผม ผมจะเดินหน้าเข้าเมืองครับ

    นอร์ดิกนำทหารหลวงของเขาเตรียมเดินทัพเข้าไปในเมือง จากนั้นพวกเขาก็เคลื่อนพลผ่านแนวรับไป โดยมีมาร์ธ่าอยู่ด้าหน้าขบวน

    บูล : ว่าแต่มันจะได้ผลอย่างงั้นเหรอ

    อาร์เทมิส : ฉันเป็นห่วงนอร์ดิกเขาหน่ะ ส่งกองทัพของเราตามไปด้วยดีกว่า

    ในขณะเดียวกัน อราชและโอลลี่ก็นำกองโจรของพวกเขาเตรียมโจมตีเข้าไปในเมือง พวกเขาไปติดต่อเมเทอร์ก่อนเพื่อที่จะไปทักทายและขอบคุณพวกเขา

    โอลลี่ : คุณเมเทอร์คะ ตอนนี้เรากำลังจะบุกเข้าไปในโซราบอลค่ะ

    เมเทอร์ : ฉันว่าไม่ต้องแล้วหล่ะ พวกเธอตามฉันเข้าไปในเมืองก็แล้วกัน

    อราช : อะไรนะครับ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ

    ฟีนด์ : อ้อ ตอนนี้คุณนอร์ดิกกำลังนำทัพบุกเข้าไปในโซราบอลหน่ะ

    โอลลี่ : ถ้าเป็นแบบนี้ สงครามก็คงจะจบลงแล้วสินะคะ

    อราช : เยี่ยมไปเลย ในที่สุดมันก็จบลงซะที

    ในระหว่างนั้นเอง ก็มีคนมาส่งข่าวให้กับเมเทอร์ เขาขี่ม้าเข้ามาหาเมเทอร์อย่างเร่งรีบ
    เมเทอร์
    : มีข่าวมาเหรอ เรื่องอะไรกันหล่ะ

    น้องชายของคุณ แมทธิวและเลออนกำลังกลับไปมอร็อคหน่ะครับ

    เมเทอร์ : จริงเหรอ ถ้างั้นฉันต้องรีบกลับไปก่อนหล่ะ

    ฟีนด์ : คุณกลับไปก่อนก็ได้นะครับ ผมจะจัดการทางนี้ให้คุณเอง แล้วผมจะไปหาคุณนะครับ

    เมเทอร์ : ขอบคุณนะคะ // เมเทอร์จูบฟีนด์ก่อนที่เธอจะไป โดยที่ในตอนนั้นเธอพาอราชและโอลลี่กลับไปด้วย

     

    ณ แคว้นเดลล์ ชายแดนมอร็อค นิโคลัสเดินทางมากับเอลิซ่า ในตอนนั้นตามทางก็มีแต่ทหารริงก้าคอยรักษาความสงบ ดูเหมือนว่าสถานการณ์กำลังจะเป็นไปด้วยดี

    นิโคลัส : ดูเหมือนว่าสงครามกำลังจบแล้วนะครับ

    เอลิซ่า : นั่นสิ แบบนี้ฉันก็จะได้กลับบ้านฉันแล้วสินะ

    นิโคลัส : อ้อๆ บ้านคุณที่มอร็อคสินะ

    เอลิซ่า : ใช่แล้วค่ะ ฉันกำลังจะกลับบ้านแล้ว

    นิโคลัส : ว่าแต่ ถ้าคุณได้กลับบ้านแล้ว คุณจะทำยังไงต่อหล่ะ

    เอลิซ่า : ฉันจะติดต่อสมาชิกในกลุ่มสมาคมลับ ให้กลับมารวมตัวกันหน่ะ

    นิโคลัส : กลุ่มของคุณ ว่าแต่ตอนนี้พวกเขาไปอยู่ที่ไหนหล่ะ

    เอลิซ่า : พวกเขาหนีไปที่แต่ละเมือง เพื่อหนีพวกโซราบอลหน่ะ

    นิโคลัส : อืม ส่วนผมก็คงต้องไปพบกับนอร์ดิกก่อน

    เอลิซ่า : ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันขอไปโซราบอลกับคุณก็แล้วกัน

    นิโคลัส : อ้าว ทำไมเป็นงั้นหล่ะครับ

    เอลิซ่า : ฉันมีธุระนิดหน่อยหน่ะ ยังไงก็พาฉันไปหน่อยนะ

    นิโคลัส : ก็ได้ครับ // ทั้งคู่รีบเดินทางข้ามพรมแดนแคว้นเดลล์ เพื่อไปยังโซราบอลอย่างรวดเร็ว

     

    กลับมายังแคว้นบาส์ก หลังจากที่กองทัพของเคจาบุกเข้ายึดป้อมของโซราบอล พวกเขาก็รีบเคลียร์พื้นที่ในป้อม แต่นายพลนอร์ทยังคงหลบหนีไปได้ ในตอนนั้นเอง ซิกนัสและเซเลนส์ได้มารายงานสถานการณ์กับเคจา

    ซิกนัส : คุณเคจาครับ เราหาตัวนายพลนอร์ทไม่เจอครับ

    เคจา : ไม่ต้องแล้วหล่ะ ไม่จำเป็นแล้ว

    เซเลนส์ : แต่ว่า มันจะดีเหรอครับ ปล่อยตัวเขาไปแบบนั้น

    เคจา : ตอนนี้เขาไม่เหลือกองทัพอีกแล้วหล่ะ แล้วก็ไปพานายทหารสองคนมาที่นี่หน่อยสิ

    ซิกนัสและเซเลนส์พาตัวสกายและอาร์เมอร์มาพบกับเคจา เพื่อสอบถามสถานการณ์เกี่ยวกับโซราบอลในตอนนี้

    เคจา : เอาหล่ะ พวกนายสองคน ประจำการที่กองพลไหนหล่ะ

    สกาย : เราสังกัดนายพลโซรอนหน่ะครับ

    สการ์เล็ต : นายพลโซรอนเหรอ ว่าแต่ตอนนี้แคว้นบาส์กเหลือทหารเท่าไหร่หน่ะ

    อาร์มเมอร์ : ตอนนี้เหลือไม่กี่หมื่นในแคว้นบาส์กครับ

    สการ์เล็ต : พวกนายสองคนเป็นทหารฝีมือดี นายต้องอยู่กับพวกเราก่อน

    สกาย : จะว่ายังไงก็ได้ครับ ผมเป็นเชลยแล้วนี่

    อาร์มเมอร์ : คุณคิดว่า โซราบอลกำลังจะชนะสงครามหรือเปล่าครับ

    เคจา : แน่นอน นายพลเนโรแทบจะไม่เหลืออะไรแล้วหล่ะตอนนี้

    ซิกนัส : ว่าแต่ เราจะยึดแคว้นบาส์กเอาไว้เลยดีหรือเปล่าครับ

    เคจา : ยังไม่ต้องหรอก ตอนนี้พวกมันกำลังเสียขวัญ คงไม่ต้องรีบร้อนอะไรมาก

    สการ์เล็ต : ถ้าอย่างงั้น ไปประกาศให้ทั่ว ว่าริงก้าได้ยึดแคว้นบาส์กเอาไว้แล้ว พวกชาวบ้านจะได้ไม่ตอบโต้หน่ะ

    เคจา : ว่าแต่ เรื่องของไซโซเป็นยังไงบ้างตอนนี้

    เซเลนส์ : ตอนนี้เราให้คนของเราสำรวจตามเกาะต่างๆแล้วครับ

    เคจา : ดีมาก ฉันต้องเจอน้องฉันให้ได้ พวกนายไปพักผ่อนกันก่อนก็แล้วกัน

     

    กลับมายังแคว้นเดลล์ ขบวนคาราวานของครอบครัวดราโก้เดินทางข้ามชายแดนเพื่อกลับไปยังมอร็อค โดยที่พวกเขาส่งจดหมายไปถึงพวกพี่ๆของเขาให้กลับมายังมอร็อค เพื่อร่วมงานหมั้นของเลออนและแมทธิว ซึ่งพวกเขาดูจะตื่นเต้นกันมาก ในระหว่างที่พวกเขากำลังจะข้ามพรมแดนไปยังแคว้นมอร็อค พวกเขาตั้งแคมป์ไฟชั่วคราวเพื่อพักผ่อนแถวนั้น

    ดราโก้ : พวกเราพักกันที่นี่ก่อนนะ บรรยากาศดีมากเลย

    อาร่า : นั่นสิคะคุณ ไม่รู้เลยนะคะว่าครั้งสุดท้ายที่มาเที่ยวป่าคือเมื่อไหร่

    โคน่า : หิวจังเลย น่าจะหาอะไรกินแถวนี้ก่อนนะคะ

    อาเรียส : ตอนนี้เลออนกับแมทธิวเขากำลังไปตกปลาแถวนี้หน่ะ

    ดราโก้ : เออใช่ ป่านนี้คาลิมบ่ากับอาเรียจะเป็นยังไงบ้างหล่ะเนี่ย

    อาร่า : ใช่ๆ อยากให้ทั้งคู่มาร่วมงานด้วยจังเลยนะ

    โคน่า : หนูเพิ่งได้รับโทรเลขจากอาเรีย ตอนนี้เธอสบายดีค่ะ เธอไปทำงานกับเจ้าของทางรถไฟแถบนี้หน่ะค่ะ

    อาเรียส : ว้าว ไม่รู้ว่าแค่ไปทำงานอย่างเดียวหรือเปล่านะ

    ทางด้านของเลออนกับแมทธิว ในตอนนั้นเองทั้งคู่ก็นั่งตกปลาด้วยกัน และคนของเขาก็ช่วยกันตกปลาด้วยบางส่วน เพื่อที่จะเอามาเลี้ยงคนที่มากับขบวนด้วย

    เลออน : เฮ้อ ยังจำตอนที่เราอพยพมาได้หรือเปล่าพี่

    แมทธิว : จำได้สิ ตอนนั้นเราโดน้ำตกเล่นกันด้วย // ตอนนั้นเอง ปลาเริ่มจะกินเบ็ดแล้ว ทั้งสองคนดีใจกันมาก

    เลออน : ว้าว ตัวใหญ่มากเลย แบบนี้น่าจะกินได้หลายคนแหะ

    แมทธิว : อย่างนายแค่คนเดียวก็หมดแล้วหล่ะ เอาไปให้คนอื่นๆดีกว่า // จากนั้นทั้งคู่ก็กลับไปยังขบวน เพื่อที่จะนำปลาที่ได้เอามาย่างให้คนอื่นๆกิน

     

    และที่เรือสำราญลำหนึ่ง ที่คาลิมบ่ากำลังพาพอลลี่กลับไปยังบ้านของเธอ เรือลำนั้นแล่นมาเรื่อยๆตามแรงลม ในห้องผู้โดยสาร ระหว่างที่กัปตันเรือกำลังขับเรือของเขา ในตอนนั้นเอง เขาก็เห็นธงโจรสลัดบุกเข้ามา

    แย่แล้ว โจรสลัด เตรียมอาวุธให้พร้อม

    กลุ่มโจรสลัดบุกเข้ามาในเรือ ปล้นและฆ่าทุกคนที่คิดขัดขืน พอลลี่และเอเทอร์ที่อยู่บนเรือที่ได้ยินเรื่อง พวกเขาพยายามหาที่ซ่อนตัวแล้วก็สู้กับพวกโจรสลัด ทั้งคู่ยิงสกัดพวกมันเอาไว้แต่พวกมันก็มีกันเยอะมากๆ

    พอลลี่ : เอายังไงดีหล่ะ เราไม่รอดแน่ๆ

    เอเทอร์ : คุณคาลิมบ่า รีบไปที่เรือบดเร็วเลยครับ

    คาลิมบ่า : ได้เลย งั้นตามฉันมาที่นี่เลย // ระหว่างที่พวกเขากำลังหนี จู่ๆก็มีกลุ่มโจรสลัดจับตัวพวกเขาเอาไว้ได้ โดยที่พวกมันเอาตัวพวกเขาไปหานายของพวกเขาที่อยู่บนเรือโจรสลัดด้วย

    นายหญิงลอเรนซ์ครับ พวกนี้มันขัดขืนการปล้นของพวกเรา ท่าทางมันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ

    ลอเรนซ์ : ฉันว่าพวกเขาก็ดูไม่มีพิษสงอะไรนะ

    พอลลี่ : แน่จริงปล่อยฉันสิ จะได้รู้ว่ามีหรือไม่มี

    ลอเรนซ์ : แหม่ ปากดีจังเลยนะจ๊ะสาวน้อย ไม่ต้องกลัวไปหรอก

    เอเทอร์ : ถ้าพวกคุณทำอะไรพวกเรา พวกคุณเดือดร้อนแน่

    ลอเรนซ์ : ทำไมเหรอ ใครจะทำอะไรฉันได้งั้นเหรอ

    คาลิมบ่า : กองทัพริงก้าจะตามมากวาดล้างพวกแกยังไงหล่ะ

    ลอเรนซ์ : อุ๊ย น่าสนใจ ยังไงพวกคุณก็กลับไปที่เกาะของฉันก่อนก็แล้วกันนะ พาตัวพวกเขาไป

    พวกโจรสลัดนำตัวพวกเขาไปขึ้นเรือ แล้วก็ทรัพย์สินอื่นๆที่ปล้นมาได้เอาขึ้นเรือ จากนั้นก็กลับไปยังเกาะของพวกเขา ก่อนที่ทางการจะมาล่าตัวพวกเขา

     

    กลับมายังฟิลล์บอน เขตการสร้างทางรถไฟ ในตอนนั้นเองอาเรียได้รับโทรเลขข่าวจากโคน่า ซึ่งโคน่ากับอาเรียสกำลังจะหมั้นกับชายหนุ่มตระกูลดังแห่งนอลโวร่า ซึ่งตัวอาเรียก็ดีใจมาก ในตอนนั้นเองเธอจึงไปคุยกับเอ็นเพื่อที่จะขอกลับไปยังมอร็อค

    อาเรีย : เอ็น คือฉันมีอะไรจะบอกหน่ะ

    เอ็น : อ้อ มีอะไรอย่างงั้นเหรอ

    อาเรีย : ฉันว่าจะไปมอร็อคหน่อยหน่ะ

    เอ็น : อ้าว มีธุระอะไรหรือเปล่าหล่ะ

    อาเรีย : คือเพื่อนฉันจะหมั้นหน่ะ ฉันจะกลับไปหาพวกเขาหน่อยหน่ะ

    เอ็น : งั้นเหรอ ก็ดีหน่ะสิ ฉันอยากไปด้วยจัง

    อาเรีย : อ้าว นายไม่อยู่คุมทางรถไฟที่นี่เหรอ

    เอ็น : ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวไม่นานก็คงเสร็จแล้ว อีกอย่างฉันจะไปหาเพื่อนฉันด้วย

    อาเรีย : เพื่อนนาย ใช่เจ้าของทางรถไฟหรือเปล่าหล่ะ

    เอ็น : ใช่ๆ ไม่รู้หมอนั่นจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย

    อาเรีย : ถ้างั้น เราก็รีบไปกันเลยดีกว่านะ

    เอ็น : ได้เลย เดี๋ยวฉันให้คนไปเตรียมรถม้าก่อน เธอไปเก็บของมาก็แล้วกัน

    อาเรียรีบไปเก็บของๆเธอ แล้วก็รีบไปขึ้นรถม้าที่เอ็นจัดหาไว้ให้ ทั้งคู่ออกเดินทางทันทีโดยใช้เส้นทางลัด ซึ่งคาดว่าไม่กี่วันคงจะถึงมอร็อคโดยเร็ว

     

    กลับมายังมอร็อค ซึ่งขบวนของคาเนสและเนม่ากำลังเดินทางไปยังโซราบอล พวกเขาเดินทางอย่างเร่งรีบเพื่อที่จะไปให้ทันคำขอของนอร์ดิก ซึ่งในตอนนั้นกำลังจะเข้ายึดโซราบอลได้แล้ว เนม่าดูจะเป็นห่วงพี่ชายของเธอเอามาๆ คาเนสก็ได้แต่ตามมาเป็นเพื่อน

    เนม่า : ทุกคน คงต้องรีบเดินทางกันหน่อยนะคะ

    คาเนส : อ่า เท่าที่ผมดู ผมว่าพวกเขาก็เร่งเดินทางกันเต็มที่แล้วนะครับ

    เนม่า : ฉันต้องรีบไปให้ทันพี่ชายฉันหน่ะค่ะ

    คาเนส : ผมเข้าใจ ไม่รู้ว่าป่านนี้สงครามจะเป็นยังไงบ้างนะครับ

    เนม่า : ได้ยินว่า ทหารของเรากำลังจะยึดโซราบอลได้แล้วนะคะ

    คาเนส : เข้าใจครับ แต่ไม่รู้ว่าพวกโซราบอลจะยอมง่ายๆหรือเปล่านะครับ

    เนม่า : ฉันก็คิดว่างั้นแหละ

    คาเนส : อีกไม่นานคงจะเข้าเขตรูดิว จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็คงถึงโซราบอลครับ

    เนม่า : เอายังไงก็ได้นะคะ แต่ขอให้ไปถึงเร็วๆก็พอ

    คาเนส : ครับผม

     

    และอีกด้านหนึ่งของมอร็อค เอ็ดเวิร์ดและมาร์ธิวทั้งคู่ตั้งใจว่าจะกลับไปที่มอร็อคก่อน เพื่อที่จะไปร่วมงานหมั้นของเลออนและแมทธิว ในตอนนั้นเองพวกเขาทั้งคู่ควบม้าไปเรื่อยๆ เพื่อหวังที่จะกลับไปให้ถึงที่บ้านพวกเขาโดยเร็วที่สุด

    เอ็ดเวิร์ด : น้องๆพวกนายจะหมั้นงั้นเหรอ ก็ยินดีด้วยนะ

    มาร์ธิว : ขอบใจนะ ฉันเลยต้องชวนนายไปหล่ะ

    เอ็ดเวิร์ด : ว่าแต่ นายเคยคิดอยากจะหมั้นหรืออะไรหรือเปล่าหล่ะ

    มาร์ธิว : อยากนะ แต่เหมือนกับว่า ฉันไม่ค่อยชอบผู้หญิงเท่าไหร่หน่ะ

    เอ็ดเวิร์ด : อ้าว ทำไมเป็นอย่างงั้นหล่ะ

    มาร์ธิว : ฉันรู้สึกดีกับผู้ชายด้วยกันมากกว่าหน่ะ นี่น้องๆฉันยังไม่รู้เลยนะ

    เอ็ดเวิร์ด : ฉันเองก็ชอบผู้ชายเหมือนกันนะ

    มาร์ธิว : งั้นเหรอ แล้วนายเคยชอบใครบ้างไหมหล่ะ

    เอ็ดเวิร์ด : ฉันชอบนายหน่ะ ฉันรู้สึกดีกับนาย ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ

    มาร์ธิว : บ้า นายนี่นะชอบแกล้งฉันอยู่เรื่อยเลยนะเนี่ย

     

    และอีกด้านหนึ่งของมอร็อค นายพลโซรอนควบม้าตัวหนึ่งเดินทางไปยังโซราบอล เพื่อทำงานอะไรซักอย่าง ในตอนนั้นเองเขาพาผู้ติดตามมาด้วยคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนายทหารที่รับใช้โซรอนมานาน พวกเขาเร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืนเพื่อไปทำงานอะไรบางอย่าง

    นายครับ ว่าแต่ นายจะกลับไปโซราบอลทำไมหล่ะครับ

    โซรอน : ฉันจะไปทำงานอะไรบางอย่าง

    งานอะไรเหรอครับ

    โซรอน : ฉันว่า ฉันจะไปสังหารนายพลเนโร เพื่อที่จะปิดปากมันหน่ะ มันอ่อนแอ เลยทำอะไรไม่สำเร็จซักอย่าง

    แต่นี่มันกบฏชัดๆนะครับ

    โซรอน : เดี๋ยวนอร์ดิกก็จะชนะสงครามแล้ว เขาคงต้องสั่งประหารนายพลเนโรแน่ๆ ไม่แน่นอร์ดิกหลานฉันอาจจะให้รางวัลฉันด้วยซ้ำ

    ครับ ว่าแต่ นายพลเนโรรู้เรื่องอะไรเหรอครับ

    โซรอน : เรื่องมันนานตั้งแต่ยุคราชวงศ์แล้วหล่ะ

    ได้ครับนายท่าน ผมจะช่วยนายท่านเอง

     

    กลับมายังเกาะร้างแถวแคว้นเดลล์ แอนตาร์กติกและโทมารอฟพยายามรอความช่วยเหลือ โดยที่ทั้งคู่ก็ได้แต่หาอยู่หากินด้วยกันบนเกาะร้าง ในตอนนั้นเองโทมารอฟจับปลาทะเลแถวนั้นมาให้แอนตาร์กติกที่กำลังก่อกองไฟอยู่พอดี

    แอนตาร์กติก : โห ได้ปลามาเยอะเลยนะเนี่ย

    โทมารอฟ : ใช่ๆ เดี๋ยวฉันย่างให้เธอเลยก็แล้วกันนะ // โทมารอฟเอาปลาเสียบไม้ย่างให้แอนตาร์กติกในขณะที่ไฟกำลังร้อนๆ

    แอนตาร์กติก : นายคิดว่าเราจะรอดไปได้หรือเปล่า

    โทมารอฟ : ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงเธอได้รอดกลับไปแน่ๆ

    แอนตาร์กติก : ขอบใจมากนะ แต่ฉันรู้ว่ายังไงฉันก็คงไม่รอดหน่ะ เราติดเกาะมาหลายวันแล้ว ไม่เห็นมีเรือผ่านมาแถวนี้เลย

    โทมารอฟ : เธอต้องใจเย็นหน่อยสิ อย่าไปคิดมาก

    แอนตาร์กติก : ฉันจะพยายามนะ // ในระหว่างที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ ปลาที่ย่างก็สุกในทันที แอนตาร์กติกหยิบมากินในทันทีโดยไม่รีรอ

    โทมารอฟ : ใจเย็นๆสิ เดี๋ยวปากก็พองหรอก

    แอนตาร์กติก : ก็ฉันหิวนี่หน่า ทำยังไงได้หล่ะ

    โทมารอฟ : ถ้างั้นเธอก็เปาให้หายร้อนก่อนสิ // โทมารอฟเอาปลาของแอนตาร์กติกมาเป่าให้ จากนั้นก็ยื่นปลาให้เธออีกครั้ง

    แอนตาร์กติก : ขอบใจมากเลยนะ ฉันจะไม่ลืมที่นายช่วยเลย

    โทมารอฟ : ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้คอแค่เราทั้งคู่รอดไปได้ก็แล้วกัน

    แอนตาร์กติก : เออ เดี๋ยวนะ เหมือนฉันได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง

    ในตอนนั้นเอง มีเรือชาวประมงมาแล่นผ่านไปแถวนั้น ทั้งคู่พยายามตะโกนขอความช่วยเหลือ โดยที่ดทมารอฟยิงปืนขึ้นฟ้าเป็นสัญญาณ เรือประมงลำนั้นได้ยินเสียงปืนจึงแล่นเข้าไปยังเกาะที่พวกเขาทั้งคู่อยู่ในทันที

    อ้าว พวกคุณ เรือพวกคุณมาจมแถวนี้งั้นเหรอ

    แอนตาร์กติก : ใช่ค่ะ เรากำลังหาทางกลับขึ้นไปแผ่นดินใหญ่ พอช่วยเราได้หรือเปล่าคะ

    อ้อ ได้สิ ลุงกำลังจะกลับขึ้นไปพอดีเลย ตามมาสิ

    โทมารอฟ : ขอบคุณมากๆเลยครับ

    ทั้งคู่รีบขึ้นไปยังเรือประมงในทันที จากนั้นก็เรือก็เคลื่อนตัวออกจากเกาะไป

     

    กลับมายังแคว้นบาส์ก ในตอนนั้นเองอี้ชิงก็กลับมายังโรงน้ำชาของตัวเองจนได้ หลังจากที่หลบหนีมาจากทหารรัสเซีย ในตอนนั้นเองเธอรีบเอาเงินที่ได้มาเช็คดูในทันที

    อี้ชิง : พวกแกนับด้วย ว่าเงินครบหรือเปล่า

    พวกนั้นใช้เวลาซักพัก จนนับเงินกับครบ

    เงินครบครับผม

    อี้ชิง : ดีมาก เดี๋ยวคงต้องแบ่งสรรบันส่วนกันหน่อยหล่ะ ว่าแต่ เจ้าเหวินตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

    อ้อ ยังไม่พบตัวเลยครับ

    อี้ชิง : เรียกเหยาย๋ามาหาฉันหน่อยสิ // จากนั้นไม่นาน ลูกน้องของเอก็มาหาเธอในทันที

    เหยาย๋า : มีอะไรหรือเปล่าคะนายหญิง

    อี้ชิง : ฉันอยากให้เธอจัดการเจ้าเหวินหน่อยหน่ะ

    เหยาย๋า : งั้นเหรอคะ ทำไมหล่ะคะ

    อี้ชิง : อย่างน้อยถ้าเขาถูกจับได้ มันก็สาวมาถึงตัวฉันไม่ได้ยังไงหล่ะ ถ้าเธอทำได้ ฉันจะแบ่งเงินส่วนของเจ้าเหวินให้

    เหยาย๋า : ได้ค่ะนายหญิง แล้วฉันจะรีบจัดการค่ะ

    อี้ชิง : แล้วก็อย่าให้รู้ตัวว่าเธอเป็นใคร ไม่งั้นเราซวยกันหมดแน่

    เหยาย๋า : ได้ค่ะ

     

    ทางด้านของอเล็กซ์สกี้ หลังจากที่เขาได้อาวุธจำนวนมหาศาลที่ได้จากการปล้น เขาก้เริ่มเคลื่อนไหวในทันที โดยที่เขาได้นัดเจรจากับนายพลแม็กกี้ เพื่อการเริ่มงานของเขา ในตอนนั้นเองแมทธิวก็ได้เข้าร่วมกับพบปะกันด้วย ที่บาร์แห่งหนึ่ง แมทธิวใช้ผ้าปิดหน้าตัวเองเพื่อไม่ให้นายพลแม็กกี้จำได้ หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายมาถึง พวกเขาก็เริ่มเจรจากันในทันที

    อเล็กซ์สกี้ : ท่านนายพล ท่านแน่ใจนะว่าแผนของท่านจะได้ผล

    แม็กกี้ : แน่นอน เราได้แพะรับบาปเป็นนายพลจอร์ส รับรองว่าเขาจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวแน่นอน จะได้ทำงานง่ายขึ้น

    แมทธิวฟังทุกคนพูดแล้วก็จดบันทึกทุกคำพูดที่ได้ประชุม

    แม็กกี้ : ได้ข่าวว่าคุณได้อาวุธมาแล้วนี่หน่า

    อเล็กซ์สกี้ : แน่นอน ผมจะเตรียมกำลังพลและเรือรบของคุณ เพื่อทำการก่อการในรัสเซียหน่ะ

    แม็กกี้ : ถ้าคุณทำสำเร็จ อย่าลืมส่วนแบ่งของผมด้วยก็แล้วกัน

    อเล็กซ์สกี้ : แน่นอนครับ

    แมทธิว : พวกมันคิดจะก่อการในรัสเซีย แต่ทำไมต้องมารวมกำลังที่นี่ด้วยหล่ะ ไม่เข้าใจเลย // แมทธิวคิดในใจอยู่ตอนนั้น

    มิคาอิล เอาของมานี่หน่อยสิ

    แมทธิวส่งกระเป๋าเงินให้กับอเล็กซ์สกี้ อเล็กซ์สกี้ให้กระเป๋านั้นกับนายพลแม็กกี้ ในนั้นมีเงินสดจำนวนหลายแสนปอนด์ เป็นค่าตอบแทนนายพลแม็กกี้
    แม็กกี้
    : ดีมาก หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันอีกเรื่อยๆนะครับ // แมทธิวพยายามติดตามดูเรื่องของนายพลแม็กกี้อยู่เรื่อยๆ เพื่อที่จะหาความลับที่พวกเขาซ่อนอยู่

     

    กลับมายังโบสถ์ลึกลับในริงก้า กลุ่มพี่น้องต่อต้านศาสนจักรกำลังรอฟังข่าวเกี่ยวกับการสนับสนุนด้านกำลังอาวุธจากทางริงก้า ในระหว่างที่พี่น้องทั้งสี่คนกำลังรอฟังข่าว โอเมก้าพี่ใหญ่ของพวกเขาก็กลับมายังโบสถ์ในทันที

    ชาร์ลี : พี่คะ กลับมาแล้วเหรอคะ เป็นยังไงบ้าง

    โอเมก้า : เราต้องรีบไปโซราบอลในทันทีเลยทุกคน เรื่องอาวุธไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว

    เดลต้า : เกิดอะไรขึ้นครับพี่ ทำไมต้องกลับไปโซราบอลหล่ะครับ

    โอเมก้า : ตอนนี้พวกริงก้ากำลังจะบุกประชิดชายแดนโซราบอลแล้ว พวกมันกำลังกำลังแพ้หน่ะ

    อัลฟ่า : หะ ถ้าทางโซราบอลแพ้ พวกศาสนจักรอยู่ไม่ได้แน่

    เบต้า : อย่ารอช้าเลยพี่ ผมจะรีบไปเตรียมของนะ // พวกเขาไม่รอช้า รีบไปเตรียมอาวุธและกระสุนทั้งหมด รวมถึงส่งข่าวไปยังสมาชิกคนอื่นๆให้เตรียมพร้อมด้วย เนื่องจากพวกเขาต้องเดินทางไปยังโซราบอลโดยเร็ว

     

    กลับมายังเกาะแคว้นบาส์ก ไซโซยังคงติดอยู่บนเกาะโดยที่มีโรสคอยดูแล โรสไปไหนไซโซก็ตามติดไปตลอด จนทั้งคู่เริ่มจะสนิทกันมากขึ้นแล้ว และเนื่องจากทั้งคู่ถูกชะตากันมานาน ความใกล้ชิดจึงมีมากขึ้น วันหนึ่งไซโซกับโรสไปช่วยกันหาปลา เรือของเธอไปจอดพักที่เกาะเล็กๆแห่งหนึ่ง เพราะทั้งคู่อยากจะพักเหนื่อยด้วยกัน โดยที่ทั้งคู่นั่งอยู่ใต้ต้นมะพร้าวต้นเดียวกันด้วย
    โรส
    : คุณไซโซคะ คุณเป็นทหารหรือเปล่าคะ เห็นใส่ชุดทหารด้วย

    ไซโซ : ใช่ครับ ผมเป็นทหารริงก้าหน่ะ

    โรส : เมื่อไหร่สงครามจะจบลงซะทีหล่ะคะ

    ไซโซ : ไม่นานหรอกครับ ผมรับรอง // ไซโซเอามือของตัวเองไปกุมมือของโรสเอาไว้ ทำเอาโรสถึงกับหน้าแดง

    ไซโซ : คุณโรสครับ ผมชอบคุณนะครับ

    โรส : คุณชอบฉันเหรอคะ แต่คนเมืองจะเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าคะ ที่หลอกให้รักแล้วก็จากไป

    ไซโซ : ไม่ใช่ผมแน่นอนครับ ผมรักคุณด้วยใจจริง ถ้าสงครามสงบ ผมจะพาคุณไปอยู่กับผมนะครับ

    โรส : คุณไซโซ

    ไซโซยื่นหน้าเข้าไปประกบปากกับโรส จากนั้นก็กดตัวโรสลง พวกเขาพลอดรักกันบนเกาะอย่างหวานชื่น ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นใจให้แก่พวกเขา

    และบนเกาะบ้านของโรส ในตอนนั้นเองแพทและเมดก็ทำงานรอโรสกลับมา แต่ในตอนนั้นเธอก็ยังไม่กลับมาซะที ทำเอาทั้งคู่เริ่มจะเป็นห่วงโรสกันแล้ว พวกเธอมาคุยกันในระหว่างที่กำลังทำปลาตากแห้งกันด้วย

    แพท : นี่ โรสเธอหายไปนานแล้วนะ

    เมด : ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เธอไม่เป็นไรหรอก

    แพท : ไม่รู้สิ เห็นออกไปตั้งนานแล้ว ยังไม่กลับมาซะที

    เมด : เอ๊ะ หรือว่าจะมีอะไรกับหนุ่มคนนั้นนะ

    แพท : นี่เธอ คิดอะไรบ้าๆ อย่างโรสเนี่ยนะ

    เมด : ช่างมันเถอะ ยังไงก็รีบทำต่อดีกว่า เดี๋ยวเอาปลาไปขายในเมืองไม่ทัน ได้ยินว่าทหารริงก้าจะมาซื้อเสบียงเราด้วย
    พวกเธอก้มหน้าก้มตาทำงานกันต่อไป ให้รีบเสร็จทันก่อนจะเอาไปขายที่ตลาดในเมือง

     

    บนเกาะโจรสลัดของลอเรนซ์ ลอเรนซ์และลูกน้องก็มาฉลองกันโดยที่จับพอลลี่ เอเทอร์และคาลิมบ่ามาด้วย พวกนั้นฉลองด้วยกันดื่มเหล้ากันอย่างหนักหน่วง ในตอนนั้นเองเอเทอร์พยายามจะใช้ใบมีดเล็กๆตัดเชือก เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ

    พอลลี่ : เอเทอร์ นายจะทำอะไรของนายหล่ะ // เธอกระซิบข้างหู

    เอเทอร์ : ก็แค่พยายามตัดเชือกหน่ะ ไม่ต้องห่วง

    ในตอนนั้นเอง พวกมันคนหนึ่งเอาเหล้ามาให้ทั้งสามคนดื่ม พอลลี่กับเอเทอร์แทบจะไม่แตะต้อง แต่คาลิมบ่าดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว

    คาลิมบ่า : เฮ้อ มีดีแค่นี้เองเหรอวะ

    ลอเรนซ์ : พวกเรา ลากตัวหมอนั่นมาให้ฉันหน่อยสิ // พวกมันลากตัวคาลิมบ่ามาหาลอเรนซ์

    ลอเรนซ์ : นายคิดว่านายเก่งกว่าฉันงั้นเหรอ

    คาลิมบ่า : ลองดูก็ได้นะน้องสาว ถ้าฉันชนะต้องปล่อยพวกเราสามคนหล่ะ

    ลอเรนซ์ : ได้ คิดว่าฉันกลัวเหรอ ไปเอาเหล้ามา

    กลุ่มโจรสลัดไปเอาเหล้ามาเพิ่มให้ทั้งคู่ ลอเรนซ์และคาลิมบ่าดื่มกันอย่างเมามันส์ โดยที่พอลลี่และเอเทอร์ได้แต่มองอย่างห่วงๆ

    พอลลี่ : นี่ นายว่าเขาจะรอดหรือเปล่าเนี่ย

    เอเทอร์ : ฉันก็ไม่รู้ แต่ถ้าเป็นฉันไม่รอดแน่ๆ

    ทั้งคู่ดื่มกันไปกันมาหลายชั่วโมง จนกระทั่งกลุ่มโจรคนอื่นๆถึงกับเมาเหล้าไป ลอเรนซ์ดื่มสู้คาลิมบ่าไม่ไหว ล้มลงต่อหน้าเขา คาลิมบ่าถึงกับไชโยโห่ร้องออกมา และในตอนนั้นเองเขาตัดสินใจพาเธอเข้าในนอนในห้อง คาลิมบ่าลากสังขารของลอเรนซ์เข้าไปในห้องนอนจากนั้นก็ทั้งเธอลงที่เตียง แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็ไปไม่ไหวเนื่องจากเมามาก เขาล้มตัวลงนอนเตียงเดียวกับลอเรนซ์ นอนติดกันทั้งคืนโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

     

    กลับมายังโซราบอล ในห้องบัญชาการของนายพลเนโร ในตอนนั้นเองเขาได้ลงมาบัญชาการการรบด้วยตัวเอง แม้ว่าจะเหลือทหารอยู่ไม่มาก เขากับคูเปอร์อดหลับอดนอนเพื่อวางแผนการที่จะฝ่าวงล้อมพวกโซราบอลออกไป

    เนโร : คูเปอร์ ฉันว่าเราน่าจะเจาะทัพพวกมันที่นี่ได้นะ

    คูเปอร์ : เห็นด้วยครับ แต่ว่า เราควรจะป้องกันด้านข้างด้วยครับ เพราะทหารของเขาคงจะคุ้มกันไม่ได้ ทหารริงก้ามีมากกว่าเราหลายเท่าครับ

    เนโร : เราจะจู่โจมพวกมันแบบสายฟ้าแลบ ไม่ให้พวกมันรู้ตัว

    จอร์จ : ท่านนายพล ผมว่าท่านควรจะตั้งรับในเมืองมากกว่านะครับ

    เนโร : ผมจะไม่ยอมโดนพวกมันปิดล้อมอีกต่อไปแล้ว

    ในขณะเดียวกันนั้นเอง มีจดหมายส่งมาถึงนายพลจอร์จ เขาไม่รอช้าเปิดอ่านมันในทันที

    นายพลแม็กกี้ต้องงานจะเล่นงานพ่อ ผมกำลังจะตามดูแผนมันต่อไป พ่อต้องรีบหยุดเขาเดี๋ยวนี้ แมทธิวนายพลจอร์จเก็บจดหมายนั้นไปทันที

    จอร์จ : ท่านสุภาพบุรุษ ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ ผมมีธุระ // นายพลจอร์จรีบออกไปด้านนอกในทันที

    เนโร : ไปซะได้ก็ดี

    ในขณะที่เนโรกำลังวางแผนการรบ จู่ๆก็มีทหารเข้ามารายงานสถานการณ์กับนายพลเนโร

    ท่านครับ พวกริงก้า มันจับคุณหญิงมาร์ธ่าไปครับ

    เนโร : ห่ะ มันจับแม่ฉันไปอย่างงั้นเหรอ

    คูเปอร์ : จะเอายังไงต่อดีครับท่าน

    เนโร : นำกำลังทหารทั้งหมดไปกับฉัน ฉันจะไปช่วยแม่ฉันกลับมา

    นายพลเนโรนำกำลังทหารทั้งหมดออกไปด้านนอก ในขณะที่นอร์ดิกนั้นพามาร์ธ่าเข้ามาในเมือง ทหารโซราบอลไม่กล้าทำอะไรคุณหญิงมาร์ธ่า จำเป็นต้องเปิดทางให้กับนอร์ดิก และในตอนนั้นเอง นายพลเนโรกับนอร์ดิกก็มาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง

    เนโร : ปล่อยแม่ฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้เด็กนรก

    นอร์ดิก : ฉันเป็นสัตว์นรกก็เพราะแก แล้ววันนี้ฉันจะมาคิดบัญชีกับแก

    มาร์ธ่า : เนโร หยุดเดี๋ยวนี้ แม่ขอร้อง ให้สงครามนี้มันจบทีเถอะ

    เนโร : แม่ แม่จะให้มันหยามเกียรติผมเหรอ ใครเป็นลูกแม่กันแน่

    มาร์ธ่า : นอร์ดิกก็เป็นหลานฉัน ฉันเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แม่ขอให้มันหยุดแค่นี้เถอะ

    เนโร : ถ้าแกไม่ปล่อยแม่ฉัน ฉันจะฆ่าแก // เนโรเล็งปืนไปยังนอร์ดิก

    นอร์ดิก : แกคิดว่าใครจะไวกว่ากันหล่ะ

    ซาร่า : หยุดเถอะเนโร ถ้าเธอไม่หยุดก็ยิงพี่แทนซะเถอะ

    เนโร : นี่ ทุกคน ทำไมกัน

    มาร์ธ่า : แกไม่เห็นหน้าทหารกับประชาชนในแผ่นดินนี้งั้นเหรอ เขาต้องทนกับสงครามบ้าๆนี่มานานแค่ไหนแล้ว ถึงเวลาหยุดมันซะที ไม่งั้นฉันจะตายต่อหน้าแกให้ดู

    เนโรกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ แต่สุดท้ายเขาก็ยอมวางปืน พร้อมกับสั่งให้ทหารวางปืน เพราะนายพลเนโรรักแม่ของเขามาก

    นอร์ดิก : จับตัวมันเอาไว้ // ทหารของนอร์ดิกจับนายพลเนโรเอาไว้ จากนั้นอนร์ดิกก็ถือปืนไปหานายพลเนโร จากนั้นก็จ่อหัวเขา

    นอร์ดิก : ฉันจะทำให้แกทรมานอย่างถึงที่สุดเลยไอ้ระยำ // แต่ในตอนนั้นเอง นายพลอาร์เทอร์ก็มาห้ามนอร์ดิกเอาไว้ จากนั้นก็พูดกับนอร์ดิก

    อาร์เทอร์ : คุณหนูครับ ท่านนายพลห้ามตายเด็ดขาด นี่คือคำสั่งเสียจากนายพลเตเวียสนะครับ

    นอร์ดิก : ไม่ต้องห่วง ผมไม่ทำให้มันตายง่ายๆหรอก

    อาร์เทอร์ : ไปที่บ้านของนายพลเนโรสิครับ ผมมีคำสั่งเสียสุดท้ายของท่านเตเวียสจะอ่าน

    นอร์ดิก : ได้สิครับ ทหาร ลากตัวไอ้เนโรกลับไปบ้านมัน

    ทหารริงก้าพาตัวนายพลเนโรกลับไปยังบ้านของเขา เพื่อให้อาร์เทอร์เปิดคำสั่งเสียสุดท้ายของนายพลเตเวียสให้คนในครอบครัวได้ฟังอย่างพร้อมเพรียงกัน 

    ======================================================================

    นายพลเตเวียสมีคำสั่งเสียสุดท้าย แต่มันคือออะไรกันแน่ แล้วเรื่องราวของนอร์ดิกจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
    ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครัช


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×