คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ตอนที่ 21 : โซราบอลถอยทัพ
เช้าวันต่อมา
กองทัพของนอร์ดิกก็เตรียมพร้อมที่จะบดขยี้นายพลเนโรที่ตั้งกำลังพลอยู่ในเมืองหลวงแคว้นเดลล์
เขากับนายทหารคนอื่นๆนั่งวางแผนการรบกัน
ซึ่งในครั้งนี้นอร์ดิกตั้งใจจะจบศึกนี้โดยเร็ว
นอร์ดิก : คุณอาบาตูครับ
ตอนนี้แนวหน้าของเราเป็นยังไงบ้างครับ
อาบาตู : ครับ
กองพลปืนใหญ่ล้อมเมืองหลวงของเดลล์ไว้หมดแล้ว
ส่วนทหารทั้งหมดก็ตั้งมั่นไว้แล้วครับ
อาร์เทอร์ : เราควรจะปิดล้อม
แล้วให้พวกนั้นยอมแพ้โดยเร็วนะครับ
บูล : แต่ผมว่า
ในตอนนี้กำลังคุณของคุณและผม น่าจะช่วยกันบดขยี้พวกมันตอนนี้ได้เลยนะครับ
นอร์ดิก : พวกนั้นยังมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพอยู่
อย่าเพิ่งบุ่มบ่ามดีกว่าครับ
ในขณะเดียวกัน มีทหารมารายงานนอร์ดิกว่า
กลุ่มของซอลและคนอื่นๆเดินทัพมาช่วยเหลือเขา
พวกนั้นรีบเข้ามาหานอร์ดิกในเต้นท์บัญชาการของเขาทันที
เอลิซ่า : คุณนอร์ดิก
เป็นยังไงบ้างคะ ฉันเป็นห่วงคุณแทบแย่
นอร์ดิก : ผมไม่เป็นไรครับ
ตอนนี้ยังโอเคครับ
ซอล : ว่าแต่
สถานการณ์สงครามตอนนี้เป็นยังไงบ้างหล่ะ
นอร์ดิก : เรากำลังจะล้อมนายพลเนโรเอาไว้แล้วครับ
เย็นวันนี้จะโจมตีทันที
นายพลบูลที่นั่งอยู่ตรงนั้นเจอกับอาร์เทมิสพอดี
ทำเอานายพลบูลหลงรักเธอเข้าให้แล้ว
บูล : นั่น
คุณอาร์เทมิสใช่หรือเปล่าครับ
อาร์เทมิส : ใช่ค่ะ
ทำไมคุณถึงรู้จักฉันหล่ะคะ
บูล : คุณหนูอาร์เทมิสแห่งเดลล์
ผมได้ยินชื่อเสียงคุณมานานหน่ะครับ
เมเทอร์ : ฉันว่า
ตอนนี้เรากำลังเป็นต่อพวกโซราบอลมาก เราควรจะกำจัดพวกนั้นตอนนี้เลยนะคะ
เฟรย์อา : เห็นด้วยค่ะ
เราไม่ควรจะปล่อยให้พวกนั้นตั้งตัวได้นะคะ
นอร์ดิก : ถ้างั้น
ฟีนด์ คุณนำกองพลของคุณไปปิดทางหนีของพวกมันที่มอร็อคไว้
คุณน่าจะรู้นะว่าพวกมันจะหนีไปทางไหน
ฟีนด์ : ได้ครับ
ถ้างั้นผมจะจัดการเองครับ //
ในระหว่างนั้นเอง มีทหารถือจดหมายมาให้กับนอร์ดิก
นอร์ดิกรู้ทันทีว่าซิลเวียร์ส่งมาให้เขา
นอร์ดิก : เอาหล่ะครับ
ตอนนี้ทุกคนไปพักก่อน ตอนเที่ยงค่อยเคลื่อนทัพแล้วกันนะครับ
ทุกคนต่างแยกย้ายไป
มีเพียงอาร์เทมิสและเอลิซ่าเท่านั้นที่แอบสะกดรอยตามนอร์ดิกไป ในเต้นท์ของนอร์ดิก
นอร์ดิกเปิดอ่านจดหมายของซิลเวียร์อย่างใจชื่น แต่ในระหว่างนั้นเอง
อาร์เทมิสก็เผลอเดินเข้ามาในเต้นท์ของนอร์ดิก ทำเอานอร์ดิกตกใจมาก
อาร์เทมิส : คุณนอร์ดิก
คุณอ่านจดหมายของใครอยู่คะ
นอร์ดิก : อ้อ
คนรักของผมเธอส่งจดหมายมาหน่ะครับ
อาร์เทมิส : คุณมีคนรักแล้วเหรอคะ
ฉันอยากจะบอกคุณนะคะ ฉันเองก็รักคุณ แต่ว่า
ฉันคงทำอะไรไม่ได้แล้วหล่ะ
นอร์ดิก : ขอโทษด้วยนะครับ
แต่ถ้าคุณรักผม คุณต้องเข้าใจผมด้วย แต่ผมคิดกับคุณเหมือนน้องสาวคนนึงนะครับ
อาร์เทมิส : ฉันเข้าใจค่ะ
ยังไงก็ตามสบายนะคะ // อาร์เทมิสเดินออกไปจากเต้นท์โดยแอบร้องไห้ไปด้วย
ในตอนนั้นเองก็เผลอไปชนนายพลบูลที่เดินอยู่แถวนั้น
บูล : ขอโทษนะครับ
คุณเป็นอะไรหรือเปล่า
อาร์เทมิส : ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ
บูล : คุณร้องไห้ด้วยนี่
อยู่นิ่งๆนะ // บูลหยิบผ้าของเขามาเช็ดน้ำตาให้กับเธอ
และที่เต้นท์ของนอร์ดิกในตอนนั้น ไม่ได้มีแค่อาร์เทมิส แต่เอลิซ่าที่อยู่แถวนั้น เธอได้ยินทุกอย่างที่อาร์เทมิสกับนอร์ดิกพูดกัน
เธอทนไม่ไหวเดินเข้าไปหานอร์ดิกในเต้นท์ทันที
เอลิซ่า : คุณนอร์ดิก
คุณมีคนรักแล้วเหรอคะ แต่ฉันรักคุณนะคะ
นอร์ดิก : ผมขอโทษครับคุณเอลิซ่า
// เอลิซ่าเธอเปลื้องผ้าต่อหน้าเขา
และยังพยายามเข้ามาเบียดตัวใกล้เขาด้วย แต่นอร์ดิกใส่เสื้อผ้าคืนให้กับเอลิซ่าทันทีในตอนนั้น
นอร์ดิก : อย่าทำแบบนี้เลยนะครับคุณเอลิซ่า
อย่าลดคุณค่าในตัวคุณแบบนี้เลยครับ
เอลิซ่า : ฉันมันไร้ค่าไปตั้งนาน
เมื่อรู้ว่าคุณไม่รักฉันไงหล่ะคะ
นอร์ดิก : ความรักมันไม่ได้จำกัดว่าต้องรักแบบคนรักเสมอไปนะครับคุณเอลิซ่า
// เอลิซ่าทั้งอายและเสียหน้าจึงวิ่งร้องไห้ออกมาจากเต้นท์ของนอร์ดิก เธอเดินสวนผ่านอาร์เทอร์ที่เดินเข้ามาหานอร์ดิกในห้องพอดี
อาร์เทอร์ : คุณหนูครับ
นี่มันเรื่องอะไรกันครับเนี่ย // นอร์ดิกไม่กล้าตอบอะไรไป
ทางด้านของซอลและคนที่เหลือ
พวกเขาก็คุยกันเกี่ยวกับเรื่องการรบที่กำลังจะเกิดขึ้น
ซอล : ไม่น่าเชื่อเลยนะ
ว่านอร์ดิกเขาจะเก่งขนาดนี้เนี่ย
ฟีนด์ : เท่าที่ดูนะ
ตอนนี้พวกโซราบอลกำลังอ่อนแอด้วยหล่ะ
เมเทอร์ : แบบนี้ก็ดีสิ
เราจะได้กำจัดพวกนั้นให้หมดไงหล่ะ
เฟรย์อา : ในที่สุด
งานขององค์กรของเราก็จะสำเร็จซะทีนะเนี่ย
ซอล : ถ้าถึงเดลล์เมื่อไหร่
ฉันมีงานต้องสะสางหน่ะ
ฟีนด์ : เรื่องอะไรหล่ะ
นายจะไปฆ่าใครกันหล่ะ
เฟรย์อา : ซอล
มีอะไรบอกกันได้นะ อย่าเศร้าไปสิ
ซอล : ไม่มีอะไรหรอก
// ซอลเดินหนีพวกเขาออกไป
เมเทอร์ : เป็นอะไรของเขากันนะเนี่ย
ที่ห้องขังรับรองนายทหาร
ซึ่งโซรอนกับตาร์กถูกขังอยู่ในนั้นด้วยกันทั้งคู่
ตาร์กเริ่มโวยวายและไม่พอใจที่เขาต้องถูกจองจำแบบนี้
ตาร์ก : บ้าเอ้ย
ไอ้เด็กบ้า ฉันไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่ๆ
โซรอน : แต่ฉันว่าแกหยุดเถอะ
หูจะแตกอยู่แล้วเนี่ย
ตาร์ก :ว่าแต่ ที่แกบอก เด็กคนนั้นเป็นหลานแกเหรอวะ
โซรอน : เขาเป็นลูกที่เกิดจากชู้หน่ะ
ลูกนายพลเตเวียสด้วย ตอนเด็กเขาโดนนายพลเนโรรังแกสารพัด คงจะแค้นมากๆ
ตาร์ก : แล้วทำไมมันถึงยอมมาอยู่บ้านเดียวกับนายพลเนโรหล่ะ
โซรอน : ฉันก็ไม่รู้
มันเป็นข้อตกลงระหว่างนายพลเตเวียสกับเนโรหน่ะ
ตาร์ก : เออ
เอาที่แกสบายใจเลยก็แล้วกัน
บนถนนของแคว้นริงก้า
ขบวนของนิโคลัสที่กำลังเดินทางไปยังแคว้นเดลล์
ในตอนนั้นก็มีข่าวใหม่ที่ไม่ค่อยจะดีสำหรับเขา
โดยที่ลูกน้องของเขาขี่ม้ามารายงานกับเขาในทันที
“ท่านครับ มีข่าวจากแคว้นเดลล์ครับ”
นิโคลัส : อ้าว
มีอะไรก็ว่ามาสิ
“ตอนนี้ทางริงก้าได้ล้อมเมืองหลวงเอาไว้แล้ว
ทำให้ตอนนี้มีการย้ายสถานที่ประมูลครับ”
นิโคลัส : อ้าว
แล้วพวกเขาจะย้ายไปประมูลที่ไหนหล่ะ
“ท่าเรือเขตชายแดนริงก้าครับ”
นิโคลัส : แบบนี้ก็ดีหน่ะสิ
จะได้ใกล้ทางหน่อย รีบหัวขบวนกลับเลย
“นายครับ แบบนี้สงครามจะจบแล้วเหรอครับ”
นิโคลัส : อาจจะใช่
แต่อย่าเพิ่งรีบจบเลย ฉันยังไม่ได้ขายอาวุธให้กับนอร์ดิกเลย
“ถ้างั้น นายจะเอายังไงต่อหล่ะ”
นิโคลัส : รีบไปที่งานประมูลด่วนเลย
ขบวนรถของนิโคลัสรีบเดินทางไปยังสถานที่จัดงานประมูลอาวุธใหม่ในทันที
ก่อนที่สงครามจะจบลง ซึ่งอาจจะในเร็วๆนี้
กลับมายังฟิลล์บอน
หลังจากที่กองทัพของไซโซและเคจาเข้าล้อมกองทัพของนายพลนอร์ท
ทหารโซราบอลในค่ายก็เริ่มระส่ำระส่าย
นายพลนอร์ทเก็บข้าวของๆเขาเพื่อที่จะหนีออกจากค่าย
ทิ้งทหารนับแสนให้ตายอยู่ในค่ายอย่างไม่ใยดี
นอร์ท : พวกแก
เก็บของๆฉันเสร็จหมดหรือยัง
“ครับท่าน แต่ว่าท่านจะหนีไปทางไหนหล่ะครับ”
นอร์ท : ฉันจะหนีไปทางเรือ
เข้าแคว้นบาส์กหน่ะ
“แต่ว่า แล้วทหารคนอื่นหล่ะครับท่าน”
นอร์ท : ช่างมันก่อนเถอะ
ตอนนี้เอาตัวรอดกันก่อนดีกว่า
นายพลนอร์ทรีบขนของหนีขึ้นเรือที่จอดรออยู่ที่ท่า
เขาไปพร้อมกับทหารไม่กี่ร้อยนาย ในขณัที่ปืนใหญ่ระดมยิงใส่พวกเขาอย่างหนักหน่วง
ทางด้านของกลุ่มเคจา
พวกเขาระดมยิงใส่ค่ายนายพลนอร์ท จากนั้นพวกเขาก็หยุดยิง
เพื่อสั่งให้ทหารเตรียมบุกเข้าไปในค่าย
ซิกนัส : ท่านครับ
ตอนนี้ทหารของเราพร้อมจะบุกแล้วครับ
เคจา : เอาหล่ะ
เตรียมพร้อมเอาไว้ จับเป็นนายพลนอร์ทเท่านั้น
แต่ในระหว่างนั้นเอง
ประตูค่ายของทหารโซราบอลก็เปิดออกมา
พร้อมกับทหารโซราบอลที่ถือธงขาวออกมาหาทหารริงก้า ทำเอาทหารริงก้าแปลกใจมากๆ
ไซโซ : อะไรกัน
ทำไมพวกมันถึงยอมแพ้ได้เร็วขนาดนี้
เซเลนส์ : ให้ผมสั่งยิงพวกมันได้เลยหรือเปล่าครับ
สการ์เล็ต : หยุดก่อน
ฉันจะไปเจรจากับพวกเขาเอง
เคจา : ฉันไปด้วย
// สการ์เล็ตกับเคจาขี่ม้าไปยังทหารที่ทิ้งอาวุธยอมแพ้
สการ์เล็ตรู้จักทหารพวกนั้นเป็นอย่างดีจึงเข้าไปพูดกับพวกเขา
สการ์เล็ต : นี่ทุกคน
นี่มันเรื่องอะไรกัน
“คุณสการ์เล็ตครับ เรายอมแพ้แล้วครับ”
เคจา : ยอมแพ้
แล้วนายพลนอร์ทตอนนี้อยู่ที่ไหน
“นายพลนอร์ทขึ้นเรือหนีไปแคว้นบาส์กแล้วครับ”
สการ์เล็ต : ถ้างั้นสั่งให้ทุกคนออกมา
เอาอาวุธออกมาให้หมดด้วย
ทหารริงก้าเข้าไปเคลียร์พื้นที่ด้านใน
ซึ่งทหารโซราบอลยอมแพ้อย่างโดยดี พวกเขายึดได้ทั้งปืนเล็กยาว ปืนกลและปืนใหญ่จำนวนหนึ่ง
ซึ่งมีค่ากับพวกเขาเป็นอย่างมาก
สการ์เล็ต : ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะยอมแพ้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
ไซโซ : ก็นายพลนอร์ทหนีไปแล้วนี่น่า
พวกนั้นคงไม่มีกำลังใจจะสู้หล่ะ
ซิกนัส : ว่าแต่
คุณจะเอายังไงต่อดีหล่ะครับ
เคจา : เราจะเคลื่อนพลข้ามแคว้นบาส์กในทันที
แล้วรีบบุกประชิดโซราบอลโดยเร็ว
ในตอนนั้นเอง
เซเลนส์ก็มารายงานการเคลียร์พื้นที่กับพวกเขา
เซเลนส์ : ท่านครับ
เราจับเชลยได้ราวเก้าหมื่นคน บางส่วนหนีข้ามพรมแดนไป
และเรายึดอาวุธพวกนั้นมาได้เยอะแยะเลยครับ บางส่วนอยากจะเข้าร่วมทัพกับเราด้วยครับ
ไซโซ : จะดีเหรอ
พวกเขาจะไม่ทรยศเราทีหลังงั้นเหรอ
สการ์เล็ต : ไม่หรอกค่ะ
ดิฉันจะเป็นหัวหน้าของพวกเขาเอง
เคจา : ยังไงก็รีบจัดการก็แล้วกัน
แล้วก็รีบเคลื่อนทัพด่วนเลย
ไซโซ : ผมจะไปตามล่านายพลนอร์ท
ช่วยหาเรือรบให้ผมที ผมจะไปตามจับเขาเอง
สการ์เล็ต : น่าจะลองไปดูที่ท่าเรือนะคะ
พวกเขารีบเคลื่อนกำลังประชิดแคว้นบาส์ก
เพื่อปิดล้อมโซราบอลเอาไว้แล้วจบสงครามในครั้งนี้ ส่วนไซโซและทหารของเขารีบนำเรือออกติดตามนายพลนอร์ทโดยเร็ว
ที่เมืองหลวงของฟิลล์บอน บ้านของดราโก้
ซึ่งเอเทอร์พาพอลลี่ไปที่บ้านของดราโก้ เพื่อหาที่พักให้เธอ ท่ามกลางความตกใจของคนในบ้าน
ที่จู่ๆเอเทอร์พาผู้หญิงเข้ามาในบ้าน
เอเทอร์ : สวัสดีครับทุกคน
คนนี้พอลลี่ เพื่อนผมเองครับ
ดราโก้ : อ้าว
สวัสดีจ้ะ ไปไงมาไงหล่ะเนี่ย
แมทธิว : โห
เดี๋ยวนี้พาสาวมานอนที่บ้านแล้วเหรอเนี่ย
เอเทอร์ : ไม่ใช่พี่
เธอไม่มีที่พัก ผมเลยจะพาเธอมาพักที่นี่ก่อนหน่ะ
พอลลี่ : สวัสดีนะคะทุกคน
ฉันคงไม่รบกวนพวกคุณนะคะ
อาร่า : โอ๊ย
ไม่รบกวนอะไรเลยจ้ะ เรายินดีจ้ะลูก
เลออน : นายนี่ก็ตาถึงไม่เบาเลยนะเนี่ย
ถ้าเลือกเธอเนี่ย
อาเรียส : ว่าแต่
บ้านของเธออยู่ที่ไหนอย่างงั้นเหรอจ๊ะ
พอลลี่ : บ้านหนูอยู่รูดิว
แต่อาศัยที่โซราบอลค่ะ
โคน่า : ว่าแต่ เธอมีญาติอยู่ที่นั่นหรือเปล่าหล่ะจ้ะ
พอลลี่ : มีพ่อกับแม่อยู่หน่ะค่ะ
คาลิมบ่า : ถ้างั้น
คงต้องพาเธอกลับไปส่งด้วยแล้วหล่ะ
ดราโก้ : เอาเป็นว่า
เธออยู่ที่นี่ไปก่อน รอสงครามสงบแล้วค่อยกลับนะจ๊ะ
เลออน : เออนี่เอเทอร์
นายได้ข่าวพี่ๆเราหรือยังหล่ะ
เอเทอร์ : ยังเลยพี่
ไม่รู้ว่าสงครามมันไปถึงไหนแล้ว
แมทธิว : เฮ้อ
ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ข่าวเลยเนี่ย
อาเรียส : นี่
ถ้าเกิดเรื่องมันสงบแล้ว เราจะส่งเธอกลับบ้านนะพอลลี่
โคน่า : ใช่ๆ
คาลิมบ่า เพื่อนนายทำงานที่ท่าเรือนี่ น่าจะไปส่งเธอได้นะ
คาลิมบ่า : โอเค
เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง
อาร่า : แล้วหนูกินอะไรมาหรือยังจ๊ะ
เดี๋ยวน้าทำอะไรให้กินเอง
อาร่าพาพอลลี่ไปนั่งที่โต๊ะอาหารเพื่อที่จะทำอะไรให้เธอกินหน่อย
อีกด้านหนึ่งของฟิลล์บอน ในเขตของการสร้างทางรถไฟ
เอ็นพาอาเรียมาดูการก่อสร้างที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
อาเรียเห็นทางรถไฟที่ก่อสร้างได้อย่างรวดเร็วก็ต้องตกตะลึงไปกับมัน
อาเรีย : โห
ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าทางรถไฟจะสร้างได้เร็วขนาดนี้
เอ็น : นี่คือฝีมือของพวกผู้อพยพหน่ะ
มีกันเป็นแสนๆคนเลยนะ
อาเรีย : ถ้าเป็นแบบนี้
อีกไม่นานคงจะสร้างตัดผ่านเมืองนี้ได้หน่ะ
ในขณะเดียวกัน
คนคุมการก่อสร้างก็มาคุยกับเอ็นในทันที
“คุณคงจะเป็นคุณเอ็นสินะครับ”
เอ็น : ใช่ครับ
ผมมาที่นี่เพื่อดูแลการสร้างทางรถไฟหน่ะครับ
“คุณนิโคลัสเล่าให้ผมฟังแล้วครับ
เชิญทางนี้เลยครับ”
เขาพาเอ็นและอาเรียไปยังห้องทำงาน
ซึ่งในห้องนั้นมีเครื่องส่งโทรเลขอยุ่เครื่องหนึ่ง
อาเรียเข้าไปดูทันทีว่าใช้งานได้หรือเปล่า
อาเรีย : คุณมีเครื่องส่งโทรเลขด้วยงั้นเหรอคะ
เอ็น : อ้อครับ
แต่มันใช้ไม่ได้แล้วหล่ะครับ
อาเรีย : เดี๋ยวฉันจะลองซ่อมมันดูนะคะ
เอ็น : คุณซ่อมได้ด้วยเหรอครับ
อาเรีย : พอได้ค่ะ
เดี๋ยวฉันจะลองซ่อมดูค่ะ //
อาเรียหาอุปกรณ์แถวนั้นมาซ่อมเครื่องส่งโทรเลข
โดยมีเอ็นคอยมองอยู่
กลับมายังพระราชวังริงก้า
คาเนสและเนม่าก็นั่งดื่มด้วยกันจนเริ่มจะเมาทั้งคู่
คาเนสพาเนม่าไปที่ห้องนอนของเธอ ห่มผ้าให้เธอแล้วจะเดินออกไป แต่เนม่าจับมือคาเนสเอาไว้ก่อน
เนม่า : อยู่กับฉันก่อนสิคะคุณคาเนส
คาเนส : คุณเนม่า
มันไม่ดีนะครับ ที่เราอยู่ด้วยกันสองต่อสองแบบนี้
เนม่า : ไหนคุณบอกว่าคุณจะอยู่กับฉันยังไงหล่ะคะ
คาเนสขึ้นไปนอนเตียงเดียวกับเธอในทันที
จากนั้นก็ลูบหน้าเธอไปด้วย
คาเนส : คุณเนม่า
ผมรักคุณนะครับ
เนม่า : คุณคาเนส
คุณ…..
คาเนส : ผมไม่อยากจะเก็บไว้อีกแล้ว
ผมรักคุณนะครับ
เนม่า : คุณคาเนส
ฉันก็รักคุณนะคะ ขอบคุณที่อยู่กับฉัน
ทั้งคู่กำลังจะจูบกันตอนนั้น
แต่ทหารมาเคาะประตูหน้าห้องนอนของเนม่า
คาเนสจำเป็นต้องไปคุยกับทหารยามด้านหน้าในทันที
คาเนส : คุณหนูกำลังนอนอยู่ครับ
มีอะไรหรือเปล่าครับ
“มีข้อความจากคุณอาร์เทอร์
เขาอยากให้คุณเนม่าไปสมทบกับเขาที่เดลล์ครับ” ทหารให้ข้อความจากนั้นก็เดินจากไป
ส่วนคาเนสก็เดินกลับเข้าไปหาเนม่า
เนม่า : มีอะไรหรือเปล่าคะคุณ
คาเนส : อ้อ
คุณอาร์เทอร์ต้องการให้เราไปหาเขาที่แคว้นเดลล์ครับ
เนม่า : เยี่ยมไปเลย
ถ้างั้นพรุ่งนี้ก็ไปกันเลยนะคะ
คาเนส : แต่คืนนี้
เราได้อยู่กันสองคนแล้วนะครับ
คาเนสรุกเข้าไปจูบเนม่า
จากนั้นทั้งคู่ก็มีสัมพันธ์อันลึกซึ่งร่วมกัน
กลับมายังริงก้า โอลลี่พาอราชไปหาเมเทอร์นายของเธอเพื่อไปขอกำลังสนับสนุนเรื่องอาวุธ พวกเขาเดินทางมาถึงค่ายชายแดนของริงก้า
เธอจะไปขอเข้าพบกับเมเทอร์แต่ทหารยามแถวนั้นห้ามเอาไว้ก่อน
โอลลี่ : ฉันมาหาคุณเมเทอร์
นายหญิงของฉันหน่ะ
“พวกเขาออกจากค่ายนี้ไปแล้วครับ”
โอลลี่ : หะ
แล้วพวกเขาไปไหนเหรอคะ
“พวกเขาไปที่แคว้นเดลล์เพื่อโจมตีโซราบอลแล้วครับ”
โอลลี่เดินออกมาพบกับอราชที่รอเธออยู่ด้านนอก
อราช : เป็นยังไงบ้าง
เจอนายหญิงของเธอหรือเปล่า
โอลลี่ : เมเทอร์ออกจากค่ายไปที่แคว้นเดลล์แล้ว
อราช : อ้าว
ว่าแต่ เราจะไปเจอกับเธอได้ที่ไหนหล่ะ
โอลลี่ : ที่ค่ายทหารในเดลล์
เราต้องรีบไปกันแล้วหล่ะ
อราช : ป่านนี้สงครามจะเป็นยังไงบ้างหล่ะเนี่ย
โอลลี่ : ฉันก็ไม่รู้
ถ้าอยากรู้ก็คงต้องไปดูกันหล่ะ
กลุ่มของอราชเดินทางไปยังค่ายทหารแคว้นเดลล์
เพื่อที่จะตามหาเมเทอร์ ขอกำลังสนับสนุนทางอาวุธกับเธอ
กลับมายังค่ายทหารในแคว้นเดลล์
หลังจากที่มาร์ธิวพาเอ็ดเวิร์ดย้ายที่คุมขังไปยังค่ายทหารใหม่ของริงก้า
พวกเขาเดินทางมาเรื่อยๆจนถึงค่าย
หลังจากนั้นก็มีการส่งตัวนักโทษเข้าไปยังคุกแห่งใหม่ ในขณะเดียวกัน
มาร์ธิวดันไปเจอกับเมเทอร์ น้องสาวของเธอที่อยู่ที่ค่ายพร้อมกับคนอื่นๆ
เมเทอร์ : พี่มาร์ธิว
มาทำอะไรที่นี่คะ แล้วคนอื่นๆหล่ะคะ
มาร์ธิว : อ้อ
พี่มาส่งเพื่อนพี่หน่ะ น้องๆคนอื่นไปเที่ยวที่ฟิลล์บอนอยู่หน่ะ
เอ็ดเวิร์ด : ในที่สุดก็มาเจอคนที่คุ้นเคยสินะเนี่ย
เมเทอร์ : หนูมาช่วยคุณนอร์ดิกรบกับพวกโซราบอลค่ะ
เอ็ดเวิร์ด : การรบ
งั้นเหรอ ตอนนี้การรบเป็นยังไงบ้างหล่ะ
เมเทอร์ : ทหารริงก้ากำลังรุกไล่โซราบอลกลับออกไปจากแคว้นเดลล์แล้วค่ะ
มาร์ธิว : แปลว่า
มันจะจบลงแล้วสินะเนี่ย
เอ็ดเวิร์ด : ตอนนี้นายพลเนโรเป็นยังไงบ้างหล่ะครับ
เมเทอร์ : ตอนนี้เขาปิดตัวเองอยู่ในค่าย
เรากำลังจะเข้าล้อมเข้าเร็วๆนี้
มาร์ธิว : ฉันว่า
ฉันจะไปคุยกับคุณนอร์ดิก ให้นายอยู่ห้องขังดีๆหน่อยหน่ะ
เอ็ดเวิร์ด : ฉันไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากนายเลยนะ
มาร์ธิว : นายต้องขอ
ฉันเป็นห่วงนายนะ
เอ็ดเวิร์ด : ยังไงก็ขอบใจนายมากเลยนะ
มาร์ธิว : แล้วฉันจะเยี่ยมนายบ่อยๆก็แล้วกันนะ
เอ็ดเวิร์ด : มาสิ
ฉันจะรอต้อนรับนายอย่างดีเลย
กลับมายังบ้านพักตากอากาศแห่งหนึ่งที่แคว้นบาส์ก
ซึ่งตระกูลของของนายพลเนโรใช้มันเป็นบ้านพักตากอากาศมานาน มาร์ธ่า
ซาร่าและซิลเวียร์มาพักผ่อนกันอย่างสุขสำราญ โดยที่พวกเธอใช้เวลาร่วมกัน
ทั้งทำอาหารและนั่งพักอยู่ริมทะเล แต่ความสุขก็อยู่ได้ไม่นาน
คนของมาร์ธ่าก็เดินมารายงานข่าวกับเธอในทันที
“นายหญิงครับ มีข่าวการรบมาครับ”
มาร์ธ่า : มีอะไรกันหล่ะ
ว่ามาสิ
“ตอนนี้ทหารริงก้าเข้าประชิดชายแดนแคว้นบาส์ก
นายพลนอร์ทเพิ่งจะหนีไปไม่นานมานี่ครับ”
ซาร่า : หะ
ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเร็วขนาดนี้ แล้วมีอะไรอีกมั้ย
“ทางด้านกองทัพของนายพลเนโร
เขากำลังโดนพวกโซราบอลปิดล้อมอยู่ครับ”
ซิลเวียร์ : แสดงว่า
สงครามครั้งนี้กำลังจะจบลงแล้วสินะ
มาร์ธ่า : ฉันหวังว่านอร์ดิกจะไม่ทำอะไรเนโรนะ
ซาร่า : หนูว่า
เราน่าจะร่นระยะเวลาอยู่ที่นี่นะคะ
ซิลเวียร์ : ใช่ค่ะ
สงครามกำลังใกล้เข้ามานะคะ
มาร์ธ่า : แม่ว่า
คนของนอร์ดิกคงจะไม่ทำอะไรแม่หรอกนะ
ในขณะเดียวกัน เสียงปืนใหญ่ก็ดังเข้ามาเรื่อยๆ
ทำเอาคนใช้ของมาร์ธ่าเริ่มจะหวาดกลัวกันไปทั่ว
ซาร่า : แม่คะ
ฟังเสียงปืนใหญ่สิคะ ดังเข้ามาใกล้ทุกวัน
ซิลเวียร์ : ใช่ค่ะ
ฉันว่าเราควรจะไปจากที่นี่พรุ่งนี้ได้ยิ่งดีนะคะ
มาร์ธ่า : ได้
ถ้าอย่างงั้น พรุ่งนี้ให้รีบเก็บของ กลับโซราบอลในทันทีเลย
กลับมายังเมืองหลวงแคว้นเดลล์
นายพลเนโรและคูเปอร์กำลังวางแผนของเขาเพื่อจู่โจมทหารริงก้ากลับไป
เขาพยายามหากองทัพที่อ่อนแอที่สุดเพื่อที่จะโจมตีเข้าไป
เนโร : กองทัพริงก้าเข้าล้อมมันเราที่ไหนบ้างล่ะ
คูเปอร์ : แทบจะทุกเขตเลยครับ
ตอนนี้พวกเขาตั้งแนวปืนใหญ่เตรียมยิงเราแล้วครับ
เนโร : เราน่าจะบุกสายฟ้าแลบในเขตนี้
พวกมันน่าจะอ่อนแอนที่สุดแล้ว
คูเปอร์ : ผมเห็นด้วยครับ
ทหารม้าของเราน่าจะพอฝ่ามันได้
เนโร : แต่ว่า
ทหารของเราตอนนี้เป็นยังไงบ้างหล่ะ
คูเปอร์ : ตอนนี้ย่ำแย่มากแล้วครับ
พวกเขาแทบจะไม่มีกำลังใจออกรบเลยครับ
เนโร : ทหารของเราเหลือมากแค่ไหนกันหล่ะ
คูเปอร์ : ทั้งหมดที่มีอยู่สองแสนคนครับ
แต่มีคนเจ็บเกือบครึ่ง แถมที่เหลือก็ไม่กล้าออกรบแล้วครับ
ในขณะเดียวกัน
มีทหารนายหนึ่งเข้ามารายงานเรื่องกับนายพลเนโร
“ท่านนายพลครับ
นายพลจอร์จและราชนาวีจักรวรรดิอังกฤษมาขอพบครับ”
ในตอนนั้นเอง
นายพลจอร์จก็เดินเข้ามาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ท่ามกลางสายตาของเนโรและคูเปอร์
จอร์จ : จะไม่เอาชามาเสิร์ฟผมหน่อยเหรอครับ
คูเปอร์ : สวัสดีครับท่านนายพล
เดี๋ยวผมจะเอาชามาให้ก็แล้วกัน
จอร์จ : ว่าแต่
นายพลโซรอนหายไปไหนกันหล่ะเนี่ย
เนโร : โซรอนเป็นน้องชายผม
ผมเป็นแม่ทัพใหญ่ที่นี่ ท่านมีธุระอะไร
จอร์จ : อ้อๆ
ท่านแม่ทัพ เราเป็นพันธมิตรกันนะครับ
เนโร : คุณมาช่วยโซรอนตั้งแต่เมื่อไหร่
จอร์จ : ก็ได้ซักพักแล้วครับ
ว่าแต่ ตอนนี้ท่านจะไม่ทำอะไรหน่อยเลยเหรอครับ
เนโร : ผมกำลังทำอยู่
หรือว่าท่านมีแผนที่ดีกว่านี้กันหล่ะ
ในขณะเดียวกัน
มีทหารนายหนึ่งเดินเข้ามารายงานเรื่องสถานการณ์ที่ฟิลล์บอนกับเขา
“ท่านครับ มีข่าวจากฟิลล์บอนครับ”
เนโร : เออใช่
นายพลนอร์ทโจมตีไปถึงไหนแล้วเนี่ย
“นายพลนอร์ทโดนทหารริงก้าปิดล้อม
พวกโซราบอลกำลังจะเข้าโจมตีแคว้นบาส์กแล้วครับ”
เนโร : หะ
แล้วตอนนี้นายพลนอร์ทหายไปไหนแล้วหล่ะ
“นายพลนอร์ทหนีมาได้ครับ” คูเปอร์ที่เพิ่งมาได้ยินเหตุการณ์ก็ถึงกับตกตะลึงในทันที
คูเปอร์ : ท่านครับ
เราต้องรีบถอยกลับไปโซราบอลด่วนเลยนะครับ
เนโร : ไม่
เราจะไม่ยอมถอยเด็ดขาด
คูเปอร์ : แต่ว่า
ถ้าพวกริงก้ายึดแคว้นบาส์กได้เมื่อไหร่ พวกนั้นอาจจะยึดโซราบอลได้โดยเร็วนะครับ
เนโร : บัดซบ
จะให้ฉันกลับโซราบอลอย่างงั้นเหรอ
คูเปอร์ : อย่างน้อยก็ยังรักษาทหารไว้ได้นะครับท่าน
จอร์จ : นี่มันเรื่องอะไรกัน
อธิบายผมได้หรือเปล่า
เนโรกำมือแน่น ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
ได้แต่กัดฟันกล้ำกลืนกับความอัปยศในครั้งนี้
กลับมายังทะเลอาณาเขตของแคว้นเดลล์
เรือปืนของแอนตาร์กติกยิงถล่มใส่ทหารโซราบอลอย่างหนัก
ทำเอาทหารโซราบอลเริ่มระส่ำระส่าย แต่ในระหว่างนั้นเอง
เธอได้รับข้อความมาจากทางริงก้า ขอเชิญเธอไปพบกับพวกเขา
“ท่านครับ มีข้อความจากผู้นำริงก้าให้ไปพบหน่ะครับ”
แอนตาร์กติก : ขอพบฉันอย่างงั้นเหรอ
คุณนอร์ดิก
“คงจะเป็นเรื่องที่เราโจมตีพวกเดลล์และโซราบอลหน่ะครับ”
แอนตาร์กติก : ฉันเข้าใจหล่ะ
ว่าแต่ สถานการณ์สงครามเป็นยังไงบ้างหล่ะ
“ทางเราได้ข่าวมาว่าพวกโซราบอลกำลังถอยร่นครับ”
แอนตาร์กติก : ดีมาก
ตอนนี้ทางริงก้ากำลังทำอะไรอยู่หล่ะ
“พวกเขากำลังเตรียมขับไล่ทหารโซราบอลกลับไปครับ”
แอนตาร์กติก : โอเค
สั่งให้ปืนใหญ่หยุดยิง แล้วให้กองเรือของเราเคลื่อนขึ้นฝั่ง
“ครับ ว่าแต่เราจะเทียบท่าที่ไหนดีครับ”
แอนตาร์กติก : มีท่าเรืออยู่แถวค่ายทหารริงก้า
เราจะรีบไปสมทบกับพวกเขาในทันที
กองเรือของแอนตาร์กติกหยุดรบ
จากนั้นก็เคลื่อนไปเทียบท่าเพื่อสมทบกับทหารริงก้าต่อไป
ที่ริงก้า เขตเช่าของรัสเซีย
หลังจากที่โทมารอฟรักษาตัวได้ไม่นาน
เขาก็ได้ข่าวจากสายของเขามาว่าจะมีการส่งมอบอาวุธที่กลุ่มโจรขโมยมาได้
ส่งให้กับอเล็กซ์สกี้
โทมารอฟ : ให้ทหารของเราเตรียมพร้อม
เราจะออกตามล่าพวกมันเดี๋ยวนี้หล่ะ
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคำสั่งมาใหม่
ให้โทมารอฟนั่งเรือไปยังแคว้นเดลล์ ทำเอาโทมารอฟถึงกับสงสัย
โทมารอฟ : นี่มันอะไรกันครับเนี่ย
“มีคำสั่งด่วนให้คุณนั่งเรือไปแคว้นเดลล์เดี๋ยวนี้เลย
พร้อมกับกองเรือปืนของคุณด้วย”
โทมารอฟ : อะไรกัน
ผมกำลังจะไปจับตัวอเล็กซ์สกี้อยู่นะ
“เลิกคิดถึงเขาก่อน
นี่เป็นคำสั่งมาจากทางมอสโควเลยนะ”
โทมารอฟ : พวกคุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“คุณไม่ต้องห่วง จะมีคนจัดการแทนคุณเอง”
โทมารอฟ : ก็ได้
แต่อย่าให้ผมรู้ก็แล้วกัน ผมจะลากไส้พวกคุณออกมาให้หมดเลย // จากนั้นโทมารอฟก็เดินออกไปอย่าหัวเสีย
โดยที่มีลูกน้องของเขาตามไปด้วย
“ท่านครับ แล้วแบบนี้จะเอายังไงกันต่อครับ”
โทมารอฟ : จะเอายังไงหล่ะ
ก็ไปเตรียมเรือเพื่ออกเดินทางสิ
กลับมายังฟิลล์บอน
อี้ชิงและเจ้าเหวินกำลังรอคนของอเล็กซ์สกี้มารับของที่ขโมยมาได้
ซึ่งพวกเขารอนานมาก แต่ก็เข้าใจเนื่องจากว่าระยะทางจากฟิลล์บอนถึงบาส์กค่อนข้างไกลและทุรกันดาน
เจ้าเหวิน : พวกฝรั่งนั่นยังไม่มากันอีกเหรอเนี่ย
อี้ชิง : คงจะยังหน่ะ
เดินทางไม่ใช่ใกล้ๆนะจ๊ะ
เจ้าเหวิน : ได้ยินว่าพวกริงก้ากำลังสร้างทางรถไฟนี่
อี้ชิง : จริงด้วย
ท่าทางการคมนาคมแถบนี้จะดีขึ้น ฉันจะได้มาทำธุรกิจที่นี่ด้วย
เจ้าเหวิน : หัวการค้าดีจริงๆนะเธอเนี่ย
อี้ชิง : พูดถึงริงก้า
ได้ยินว่าหล่อมาก ฉันอยากจะเห็นตัวจริงซะแล้วเนี่ย
เจ้าเหวิน : ทำไมต้องเข้าเรื่องผู้ชายตลอดเลยเนี่ย
อี้ชิง : พูดไม่ได้หรือไง
ว่าแต่ เสบียงของเราจะอยู่ได้กี่วันกันหล่ะ
เจ้าเหวิน : ทั้งอาหารและน้ำดื่มที่มี
น่าจะสามวันได้
อี้ชิง : เข้าใจหล่ะ
ถ้าครบสามวันแล้วพวกนั้นไม่มา ก็ยุติการค้ากันได้เลย
เจ้าเหวิน : เข้าใจหล่ะ
กลับมายังแคว้นเดลล์
ซึ่งในขณะนั้นสงครามกำลังปะทุอย่างหนัก แพททรีเซียตัดสินใจออกจากบ้านเพื่อไปยังค่ายทหารของริงก้า
ติดต่อกับนอร์ดิก เพื่อจะเตือนเขาว่าพ่อของเธอกำลังจะทำอะไรต่อจากนี้
เธอเรียกรถม้าคันหนึ่งให้ไปส่งที่ค่ายทหารของริงก้า เมื่อเธอไปถึง
เธอพยายามติดต่อนายทหารคนหนึ่ง เพื่อขอเข้าพบกับนอร์ดิก
“ฉันมาขอพบกับผู้นำริงก้าค่ะ”
“สักครู่ครับ เดี๋ยวผมจะลองพาคุณไปนะครับ”
ทหารคนนั้นพาแพททรีเซียไปหานอร์ดิก
ซึ่งในตอนนั้นนอร์ดิกกำลังเตรียมพร้อมออกสู้ศึก
“ท่านผู้นำครับ มีสุภาพสตรีท่านนี้มาขอพบครับ” แพททรีเซียเห็นนอร์ดิกในชุดทหารที่ดูองอาจ
ทำเอาเธอตกหลุมรักเขาขึ้นมาในทันที
นอร์ดิก : คุณครับมีอะไรหรือเปล่าครับ
เชิญนั่งก่อนได้นะครับ
แพททรีเซีย : อ้อ
ค่ะ
นอร์ดิก : ว่าแต่
คุณมีธุระอะไรถึงมาพบผมหล่ะ
แพททรีเซีย : พ่อของฉัน
นายพลจอร์จให้กองเรือจักรวรรดิอังกฤษ กำลังจะทำสงครามกับคุณหน่ะค่ะ
นอร์ดิก : นี่
ทางอังกฤษมาเข้าร่วมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
แพททรีเซีย : เป็นการตัดสินใจของพ่อฉันคนเดียว
ไม่เกี่ยวกับทางอังกฤษค่ะ
นอร์ดิก : แล้วทำไมท่านนายพลต้องทำแบบนี้กันนะ
แพททรีเซีย : เขาลงทุนกับสงครามนี้ไว้มาก
เขาไม่มีทางยอมง่ายๆค่ะ
นอร์ดิก : แต่ช่างมันเถอะครับ
ไม่ว่าจะประเทศไหน ผมก็พร้อมสู้เสมอหล่ะ ตอนนี้ผมกำลังจะไปสู้กับพวกนั้นแล้ว
คุณจะพักก่อนก็ได้นะครับ ส่วนผมขอตัวก่อนหล่ะ
นอร์ดิกใส่ชุดและเดินออกไป
ปล่อยให้แพททรีเซียใจลอยอยู่ตรงนั้น
และอีกด้านหนึ่งของค่าย
นายพลอาร์เทอร์กำลังเกณฑ์พลเพื่อจู่โจมทหารโซราบอล ระหว่างที่เขากำลังตรวจทหาร
จู่ๆก็มีชายลึกลับคนหนึ่งขี่ม้าเข้ามาหานายพลอาร์เทอร์ ฝ่าทหารของอาร์เทอร์เข้ามา
นายพลอาร์เทอร์สงสัยจึงเข้าไปถามเขาด้วยตัวเอง
อาร์เทอร์ : คุณเป็นใคร
ทำไมถึงมาที่นี่
โอเมก้า : ผมเป็นสมาชิกกลุ่มลับ
ที่เคยมาคุยกับนายน้อยของคุณหน่ะ
อาร์เทอร์ : ว่าแต่
คุณมาทำอะไรที่นี่หล่ะ
โอเมก้า : เราต้องการการสนับสนุนทางด้านอาวุธหน่ะ
อาร์เทอร์ : ถ้าเรื่องนี้คงต้องถามนายน้อยนอร์ดิกหน่ะ
โอเมก้า : ว่าแต่
พวกคุณกำลังจะไปที่ไหนกันเหรอ
อาร์เทอร์ : เรากำลังจะโจมตีพวกโซราบอลหน่ะ
ไม่รู้ว่าสงครามนี้จะจบยังไงนะ
โอเมก้า : ผมเข้าใจนะ
อาร์เทอร์ : เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนี้ให้ก็แล้วกัน
คุณรอที่นี่ก่อนก็ได้นะ
ทางด้านของแมทธิว
เขากับเพื่อนใหม่ของเขายังคงเดินทางผ่านฟิลล์บอนไปเรื่อยๆ
เพื่อที่จะไปรับอาวุธที่กลุ่มโจรจีนขโมยมาได้
พวกเขาเร่งขบวนอย่างสุดขีดเพื่อที่จะทำงานให้เสร็จไป
แมทธิว : เออนี่
เมื่อไหร่เราจะถึงซะทีหล่ะเนี่ย
คอสกาย่า : เท่าที่ดูนะ
เย็นนี้น่าจะถึงนั้นแหละ
แมทธิว : ก็ต้องรับหน่อยหล่ะ
ฉันอยากกลับไปนอนใจจะขาด
คอสกาย่า : เหมือนกัน
ฉันว่าถ้าเสร็จงาน จะไปหาเหล้ากินหน่ะ
แมทธิว : ก็ดีนะ
ว่าแต่ คนที่เห็นมาคุยกับคุณอเล็กซ์สกี้ ที่เป็นทหารอังกฤษหน่ะ
คอสกาย่า : อ้อ
นายพลแม็กกี้ เราค้าขายด้วยกันมาซักพักแล้วหล่ะ
แมทธิว : งั้นเหรอ
ไม่ยักรู้ว่าพวกนายค้าขายกับพวกนายทหารด้วย
คอสกาย่า : แน่นอน
เราขายหมด เหล้า ปืนเถื่อน แล้วก็อีกหลายอย่างหน่ะ
แมทธิว : เข้าใจหล่ะ
ฉันของีบซักพักนึงนะ
แมทธิวรีบเก็บข้อมูลที่เข้าได้มา
ซึ่งนั่นก็คือนายพลแม็กกี้ติดต่อกับกลุ่มก่อการร้ายรัสเซีย
แต่ว่าเขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่ แมทธิวได้แต่นอนคิด
เขาคงต้องได้คำตอบในซักวันหล่ะ
กลับมายังชายแดนแคว้นบาส์ก
สกายและอาร์เมอร์กำลังเคลื่อนทัพเพื่อเข้าช่วยเหลือกองทัพของนายพลนอร์ท
แต่ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทัพ
มีทหารนายหนึ่งวิ่งหนีมาจากแคว้นฟิลล์บอนโดยไม่มีอาวุธอะไรเหลืออยู่เลย
สกายและอาร์มเมอร์สงสัยจึงเข้าไปถามทหารคนนั้น
สกาย : นี่
ทหาร มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไม่มีอาวุธมาด้วยหล่ะ //
ทหารคนนั้นเหนื่อยจึงยังไม่ตอบอะไร
อาร์มเมอร์ : ใจเย็นทหาร
ค่อยๆพัก หายใจก่อน แล้วค่อยๆพูดก็ได้
“ทหารริงก้ากำลังบุกมา ค่ายเราแตก
ในตอนนั้นผมเห็นนายพลนอร์ทหนีไปแล้ว ทหารริงก้าจับพวกเรานับแสนคนไป สงครามจบแล้ว”
สกาย : ใจเย็น
ทหาร อาวุธในมือเรายังมี มันยังไม่จบ
อาร์มเมอร์ : ตอนนี้พวกนั้นมีทหารอยู่เท่าไหร่หล่ะ
“มีราวๆเกือบสองแสนคนได้ครับ”
อาร์มเมอร์ : หะ
สองแสน นี่นายล้อฉันเล่นใช่หรือเปล่าเนี่ย
สกาย : สองแสน
พวกเรามีแค่สามหมื่นกว่าๆเองนะ
อาร์มเมอร์ : ถ้าเราไปต่อ
เราตายแน่ เราจะเอายังไงต่อดีหล่ะ
สกาย : นายพลนอร์ทก็หนีไปแล้วด้วย
ฉันว่า เรากลับไปประจำการต่อบาส์กต่อดีกว่า
“ท่านครับ ท่านต้องรีบหนีเดี๋ยวนี้
พวกริงก้ากำลังจะมานะครับ”
อาร์มเมอร์ : เอาหล่ะทหาร
ไปพักก่อน สั่งทหารของเรา ให้ถอยกลับไปที่บาส์กโดยด่วนเลย
กลับมายังเกาะบ้านของโรส
หลังจากที่สามคนกลับมาถึง พวกเธอก็รีบกลับบ้านของโรสเพื่อพักผ่อน
ในตอนนั้นเองพ่อแม่ของโรสก็ออกมาต้อนรับพวกเธอ
“โรสลูก เป็นยังไงบ้างลูก”
โรส : ค่ะแม่
หนูปลอดภัยดีค่ะ เพื่อนหนูก็ปลอดภัยดี
“ว่าแต่ ชาวบ้านที่เหลือไปไหนกันหมดหล่ะ”
โรส : บางคนก็ยังโดนจับ
บางคนก็ถูกโจรสลัดพาหนีออกมาได้ค่ะ
เมด : แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ
ตอนนี้พวกโซราบอลกำลังถอยร่นแล้วค่ะ
แพท : ได้ยินว่าทหารริงก้ากำลังจะเข้ามาบาส์กแล้วนะคะ
“แม่ว่า พวกลูกๆพากันไปพักก่อนดีกว่านะ”
พวกเธอทั้งสามคนไปพักผ่อนกันที่กระท่อมของพวกเธอ
จากนั้นพวกเธอก็นั่งคุยกันต่อ
โรส : ว่าแต่
สองหนุ่มของเธอจะเป็นยังไงบ้างหล่ะตอนนี้
เมด : นั่นสิ
ได้ยินว่าพวกเขาทั้งคู่จะไปรบกับริงก้าแล้วนี่
แพท : ไม่รู้ว่าพวกเขาจะรอดกลับมาหรือเปล่านะ
ฉันคิดถึงเขาจัง
และที่เกาะวอลล์พี
ลอเรนซ์นำชาวบ้านบางส่วนไปส่งที่เกาะแห่งนั้น
ชาวบ้านเมื่อได้กลับบ้านก็รีบกลับไปเจอหน้าครอบครัวและคนที่รัก
ลอเรนซ์ : เดี๋ยวบอกชาวบ้านให้รู้ด้วยนะ
ว่าให้ซ่อนตัวซักพักก่อน อย่าเพิ่งทำอะไร
“แต่ว่า ถ้าพวกโซราบอลมันตามล่าเราจะทำยังไงครับ”
ลอเรนซ์ : ฉันว่านะ
พวกนั้นคงจะไม่มีเวลามาตามล่าเราหรอก
ในระหว่างนั้นเอง
กลุ่มชาวบ้านบางส่วนก็มาขอเข้าร่วมกับลอเรนซ์ ซึ่งเธอก็ไม่ทราบเช่นกันว่าทำไม
“นายหญิงครับ เราขอเข้าร่วมเป็นโจรสลัดด้วยครับ”
ลอเรนซ์ : ทำไมหล่ะคะ
พวกคุณจะมาเป็นโจรทำไม
“เราต้องการปกป้องตัวเองจากพวกนายทาสต่างชาติ
และพวกโซราบอลที่ช่วยอะไรเราไม่ได้ครับ”
ลอเรนซ์ : ฉันเข้าใจความรู้สึกของพวกคุณทุกคนนะคะ
“พวกเราไม่อยากโดนพวกต่างชาติจับเราไปขายเป็นทาสอีกแล้วนะครับ”
ลอเรนซ์ : เอาหล่ะ
ฉันจะรับพวกคุณไว้ก่อน รอดูจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นนะคะ
ลอเรนซ์พาชาวบ้านบางส่วนไปเข้าร่วมกับกลุ่มโจรสลัด
โดยที่เธอไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก
กลับมายังเมืองหลวงของแคว้นเดลล์
หลังจากที่ทหารริงก้ากระหน่ำยิงปืนใหญ่เข้าแนวรับของโซราบอล
จากนั้นกองทัพของนอร์ดิกก็มาล้อมเมืองเตรียมบุกเข้าไปจับนายพลเนโรด้านใน
ซอล : ฟีนด์
นายนำกำลังพลไปปิดทางหนีพวกมันเอาไว้นะ
ฟีนด์ : ได้เลย
ฉันพอจะรู้ว่าพวกมันจะหนีไปทางไหน
เมเทอร์ : นี่
ว่าแต่ เอลิซ่าเธอหายไปไหนกันหล่ะเนี่ย
เฟรย์อา : ไม่รู้สิ
เธอคงพักผ่อนอยู่แถวนี้หล่ะมั้ง
นอร์ดิก : คุณอาร์เทอร์ครับ
เตรียมส่งสัญยาณบุกทันทีนะครับ
แต่ในระหว่างนั้นเอง
ก็มีชาวแคว้นเดลล์บางส่วนในเมืองเดินออกมาจากประตู
ทหารริงก้าเกือบยิงแต่นอร์ดิกห้ามเอาไว้ก่อน
นอร์ดิกรีบขี่ม้าไปดูว่าชาวบ้านพวกนั้นจะทำอะไร
“ได้โปรด อย่ายิงเลยครับท่าน พวกเรายอมแล้ว”
นอร์ดิก : ผมไม่ทำอะไรพวกคุณหรอกครับ
ว่าแต่ทหารโซราบอลอยู่ไหนหล่ะครับ
“พวกนั้นถอนทัพแล้วทิ้งเมืองไปแล้วครับ”
อาร์เทอร์ : ว่าไงนะ
พวกนั้นถอนทัพไปตั้งแต่เมื่อไหร่
“เมื่อชั่วโมงที่แล้วครับ
พวกเขารีบหนีกลับโซราบอลไป ได้ยินว่าตอนนี้พวกเขาบุกแคว้นบาส์กครับ”
นอร์ดิก : ดูเหมือนว่าไซโซกับเคจาจะไปถึงที่นั่นแล้วนะเนี่ย
สั่งทหารของเราไปตรวจสอบในเมืองโดยด่วนเลย
ทหารริงก้านำกำลังพลบุกเข้าไปในเมือง
เพื่อตรวจสอบว่าทหารโซราบอลยังอยู่ในเมืองหรือไม่
===================================================================
พวกโซราบอลถอยทัพกลับไปแล้ว นอร์ดิกจะทำอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครับ
ผมมีนิยายเรื่องใหม่ครัช จะมาจริงๆจังๆหลังจากเรื่องนี้จบครับ ซึ่งน่าจะอีกไม่นาน
http://writer.dek-d.com/shinobinon/writer/view.php?id=1910606
อย่าลืมไปสมัครกันเน้อ
ความคิดเห็น