ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Descendant War - สมรภูมิปิตุฆาต

    ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 16 : รับศึกโซราบอล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 110
      3
      17 ธ.ค. 61

    กองเรืออังกฤษแล่นมาจอดยังน่านน้ำของริงก้า พวกเขาใช้กล้องส่องทางไกลตรวจสอบแนวป้อมริมน้ำของริงก้า พวกเขาเห็นทหารริงก้าพากันถอยทัพ ทำเอาพวกเขาแปลกใจอยากมาก

    นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย พวกมันถอยทำไม

    ลองยิงปืนใหญ่ถล่มพวกมันดูสิ

    เรือปืนของอังกฤษระดมยิงใส่ป้อมของริงก้า แต่ก็ไม่ได้ทำอันตรายพวกเขาแต่อย่างใด แถมยังไม่มีการยิงตอบโต้ด้วย

    ลองส่งทหารไปสำรวจดูสิ

    ทหารอังกฤษและอเมริกานั่งเรือเล็กเพื่อขึ้นฝั่งริงก้า หลังจากที่พวกเขามาถึง พวกเขาก็เดินสำรวจแถวนั้นในทันที

    เอาหล่ะทุกคน เตรียมพร้อมนะ

    กระบอกปืนทุกกระบอกเล็งใส่ทหารอังกฤษและอเมริกา แล้วปืนใหญ่ของริงก้าก็เตรียมพร้อมอยู่แล้ว

    เอาหล่ะ ยิงได้

    หลังจากที่นอร์ดิกมีคำสั่ง ทหารของเขาก็ระดมยิงใส่ทหารอังกฤษในทันที พวกเขาซุ่มอยู่ในป่าทำให้พวกอังกฤษมองไม่เห็น ส่วนปืนใหญ่ของริงก้าก็เล็งใส่เรือปืน ทำเอาพวกนั้นเริ่มระส่ำระส่าย

    นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย

    ยิงปืนใหญ่ใส่มันสิ

    พวกเขายิงปืนใหญ่ตอบโต้ แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากทหารอังกฤษไม่เห็นทหารริงก้า ในที่สุดทหารภาคพื้นก็วางอาวุธยอมแพ้ ส่วนกองเรือก็ตัดสินใจยกขบวนกลับ เนื่องจากจะยอมเสี่ยงอีกไม่ได้ หลังจากพวกอังกฤษถอยทัพ ทหารริงก้าได้รับชัยชนะอย่างงดงาม

    ซอล : คุณนอร์ดิกครับ พวกมันถอยกลับไปแล้วครับ

    นอร์ดิก : ดีมากทุกคน ตอนนี้ก็ปลดอาวุธพวกมันได้เลย

    เฟรย์อา : ว่าแต่ ทำไมพวกอังกฤษถึงมาที่นี่ได้งั้นเหรอ

    นอร์ดิก : ผมก็ไม่รู้ แต่ทางอังกฤษน่าจะมีคำตอบแน่ๆ

    เฟรย์อา : ถ้าแบบนั้น เราควรจะส่งจดหมายไปถามสถานทูตอังกฤษดูนะคะ

    ซอล : ผมเห็นด้วย ผมไม่ไว้ใจพวกมหาอำนาจนี่เท่าไหร่เลย

    ในระหว่างนั้นเอง อาร์เทมิสได้รับข่าวมาจากชายแดน เธอจึงรีบมาบอกกับนอร์ดิกทันที

    อาร์เทมิส : แย่แล้วค่ะ ข่าวมาจากชายแดนเดลล์ ตอนนี้กลุ่มกบฏกำลังเดินทัพมาที่นี่ค่ะ

    นอร์ดิก : แย่แล้ว พวกมันคงจะเข้าโจมตีพร้อมกันแน่ๆ รีบส่งทหารไปที่ชายแดนด่วนเลย

    อาร์เทมิส : ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง // อาร์เทมิสจัดการนำทหารและปืนใหญ่ไปประชิดชายแดนเป็นการด่วน ก่อนที่กลุ่มกบฎจะบุกเข้ามาริงก้า

     

    กลับมายังพระราชวังริงก้า หลังจากที่เอลิซ่าทำข้อตกลงกับนิโคลัส เรื่องทำทางรถไฟ นิโคลัสก็เตรียมพร้อมสำรหับงานนี้ในทันที พวกเขาเริ่มต้นจากเส้นทางรกร้างในเมืองก่อน ในตอนนั้นนิโคลัสเป็นคนคุมงานนี้ด้วยตัวเอง

    นิโคลัส : เอาหล่ะ ถ้าเราเริ่มจากตรงนี้ ตัดผ่านฟิลล์บอน น่าจะเป็นเส้นทางที่เยี่ยมไปเลย

    ในระหว่างนั้นเอง เอลิซ่าก็นำขบวนของเธอมายังสถานที่ก่อสร้างทางรถไฟในทันที เมื่อเธอพบเห็นการก่อสร้าง เธอก็เข้ามาสอบถามกับนิโคลัสในทันที

    เอลิซ่า : นี่เหรอโครงการที่นายกำลังทำอยู่ ใช้คนเยอะขนาดนี้เลย

    นิโคลัส : แน่นอนครับ ผมสร้างทางรถไฟไม่ใช่ตึกนะครับ

    เอลิซ่า : ว่าแต่ โครงการนี้จะใช้เวลานานแค่ไหนเนี่ย

    นิโคลัส : เท่าที่ดูนะ ไม่น่าจะเกินปีนี้หรอก ถ้าได้คนมาเพิ่มอีก

    เอลิซ่า : ฉันมีชาวบ้านอพยพพร้อมจะมาสร้างทางรถไฟ ตอนนี้พาพวกเขามาหานายแล้ว

    นิโคลัส : เยี่ยมไปเลย งานนี้คงต้องพึ่งเธอหน่อยหล่ะ

     

    และที่บ้านพักหลังใหญ่ของคาเนส สี่หนุ่มของตระกูลช่วยกันย้ายของให้ครอบครัวของคาเนส เนื่องจากว่าพวกเขาต้องกลับไปที่ฟิลล์บอนตามเดิม และดูเหมือนว่าหนุ่มๆในตระกูลจะดูตื่นเต้นพอสมควร เนื่องจากจะได้ไปเที่ยวท่ฟิลล์บอนเป็นครั้งแรก

    ดราโก้ : ในที่สุด เราก็ได้กลับบ้านของเราซะทีนะเนี่ย

    อาร่า : นั่นสิคะ ว่าแต่ คาเนสเขาจะไม่กลับไปด้วยอย่างงั้นเหรอ

    โคน่า : พี่เขาบอกหนูว่าจะขออยู่ปรึกษางานกับนายพลอาร์เทอร์หน่ะค่ะ

    แมทธิว : ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมสั่งให้คนของผมคอยคุ้มกันให้แล้ว

    เลออน : ว่าแต่ พี่จะไม่ไปกับพวกเราด้วยงั้นเหรอ

    มาร์ธิว : ไม่หรอก พี่มีธุระต้องทำที่นี่หน่ะ พวกนายไปก็ดูแลกิจการของเราที่นั่นด้วยก็แล้วกัน

    เอเทอร์ : สบายใจได้เลยพี่ ผมจะดูแลแทนพวกพี่ๆเขาเอง

    คาลิมบ่า : เออนี่ ทุกคน อาเรียเขาไปไหนงั้นเหรอ มีใครเห็นมั้ย

    อาเรียส : นั่นสิ ไม่เห็นนางตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่รู้ว่าไปไหน

    ดราโก้ : พ่อว่าอาเรียเขาคงจะตามเรามาทีหลังหล่ะนะ

    อาร่า : ใช่ ได้ยินว่าช่วงนี้เธอสนิทกับหนุ่มคนหนึ่งนี่หน่า

    มาร์ธิว : เอาหล่ะครับ ยังไงก็ระวังตัวกันด้วยนะทุกคน

    แมทธิว : ได้เลยพี่ พี่อยู่ที่นี่ก็ดูแลเมเทอร์เขาด้วยนะพี่

    เลออน : ไม่ต้องห่วงหรอก พี่แกระวังตัวดีๆอยู่แล้วน่า

    เอเทอร์ : ผมว่านะ เรารีบไปกันก่อนดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวจะมืด เดินทางลำบากอีก

    คาลิมบ่า : โอเคครับ ถ้างั้นเราไปกันเลยครับผม

    จากนั้นไม่นาน ขบวนคาราวานของพวกเขาก็เริ่มเคลื่อนตัว ท่ามกลางความตื่นเต้นของสาวๆที่กำลังจะได้กลับบ้านของเธอ

    โคน่า : เย้ๆ จะได้กลับบ้านซะที น่าตื่นเต้านนะพี่

    อาเรียส : นั่นสิ กลับไปได้นะจะมาหาอะไรกินให้สะใจไปเลย

    กลับมายังพระราชวังของนอร์ดิก ในขณะที่อาเรียเพิ่งจะได้ข่าวว่าพวกของโคน่ากำลังจะกลับ เธอก็รีบเก็บของๆเธอในทันทีเพื่อที่จะติดตามคนอื่นๆไปให้ทัน ในตอนนั้นเอง เอ็นที่กำลังตามหาเธอก็เข้ามาหาเธอในห้องทันที

    อาเรีย : นี่นาย จะเข้ามาในห้องฉันทำไมหล่ะเนี่ย

    เอ็น : แล้วเธอจะไปไหนอย่างงั้นเหรอ

    อาเรีย : ฉันจะกลับฟิลล์บอนตามเพื่อนฉันหน่ะ

    เอ็น : เอ้า แล้วเธอจะไปยังไงหล่ะ ฉันขอพาเธอไปได้หรือเปล่า

    อาเรีย : หะ นายจะพาฉันไปเนี่ยนะ

    เอ็น : ไม่ได้รบกวนหรอก ฉันมีรถม้าคอยไปส่งเธออยู่หน่ะ

    อาเรีย : ก็ได้ ยังไงก็ขอบใจนายมากๆเลยนะ

    เอ็น : ไม่เป็นไรหรอก ถือซะว่าฉันขอโทษเธอที่ชนเธอล้มแล้วกัน

     

    อีกด้านหนึ่งของพระราชวัง ในคอกม้า ในขณะที่ฟีนด์กำลังจะขี่ม้าไปยังค่ายทหารของเขา ในตอนนั้นเอง เมเทอร์ก็มารอม้าของเธอพอดี ทั้งคู่จึงได้เจอกันในตอนนั้น

    เมเทอร์ : นี่นายจะไปไหนอย่างงั้นเหรอ

    ฟีนด์ : ผมจะกลับไปเตรียมกองทัพของผมเพื่อสู้ศึกหน่ะ

    เมเทอร์ : งั้นเหรอ ฉันนึกว่ามอร็อคจะยอมแพ้แล้วซะอีก

    ฟีนด์ : ไม่มีทาง แบบนั้นไม่ใช่ผมแน่ๆ

    เมเทอร์ : ฉันเองก็มาจากมอร็อคเหมือนกันนะ

    ฟีนด์ : จริงเหรอ ยินดีจริงๆที่ได้เจอคุณครับ

    เมเทอร์ : ถ้าไม่ว่าอะไร ฉันขอไปด้วยกับนายได้หรือเปล่าล่ะ

    ฟีนด์ : ได้สิครับ // ทั้งคู่รีบขึ้นมาจากนั้นก็ควบไปยังชายแดนริงก้าในทันที

     

    ที่ฟิลล์บอน เคจาปล่อยตัวสการ์เล็ตเพื่อให้เธอออกมาเดินเล่น โดยที่เธอจะคอยมาคุมด้วย เคจาพาสการ์เล็ตมาเดินชมความงามของทะเลทรายแถวนั้น พลางพูดเรื่องเก่าๆของพวกเธอทั้งคู่ไปด้วย

    สการ์เล็ต : ที่นี่สวยจังเลย เสียดายที่สงครามมันยังไม่จบ

    เคจา : ฉันว่า เราไม่ควรมาสู้กันเลยนะ

    สการ์เล็ต : ทำยังไงได้หล่ะ ฉันทำหน้าที่ของฉันหน่ะ

    เคจา : ฉันว่า เธอควรจะเป็นคนกำหนดหน้าที่ของเธอเอง ไม่ใช่ให้ใครมากำหนดแบบนี้

    สการ์เล็ต : แต่ฉันต้องทำเพื่อพ่อฉันนะ

    เคจา : ฉันเข้าใจ แต่เธอต้องมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้างสิ

    สการ์เล็ต : ถ้าอย่างงั้น มันคงจะไม่ใช่ตอนนี้หรอกนะ

    กลับมายังค่ายทหารของฟิลล์บอน ในตอนที่พอลลี่กำลังถูกขังในห้องพิเศษอยู่ ไซโซได้รับหน้าที่ให้ดูแลเธอเนื่องจากเธอเป็นคนของสการ์เล็ต ในตอนนั้นเองไซโซก็เอาอะไรไปให้เธอกินเนื่องจากกลัวว่าเธอจะหิวตาย

    ไซโซ : เอ้านี่ กินอะไรหน่อยจะได้มีแรง

    พอลลี่ : แกฆ่าฉันซะดีกว่า ฉันจะไม่ยอมตกเป็นเชลยหรอก

    ไซโซ : อะไรของเธอ ถ้าเธอเป็นอะไรไปแล้วนายเธอหล่ะ

    พอลลี่ : ฉันจะไปช่วยคุณสการ์เล็ตออกมาเดี๋ยวนี้เลย

    ไซโซ : ฉันว่า นายเธอกับพี่ฉันกำลังสนิทกันอยู่ ไม่ต้องไปช่วยหรอก

    พอลลี่ : นี่แกทำอะไรกับนายฉัน

    ไซโซ : ทำอะไร ไม่ได้ทำอะไรหรอก เชิญตามสบายเลยนะ // ไซโซเดินจากไป ปล่อยให้พอลลี่เก็บความเจ็บปวดอยู่ในใจ

     

    อีกด้านหนึ่ง ที่สนามยิงปืนของค่าย ซิกนัสกับเซเลนส์กำลังช่วยกันฝึกทหารริงก้าและฟิลล์บอนร่วมกัน ทหารฟิลล์บอนรู้สึกอุ่นใจที่ได้อาวุธใหม่จากริงก้ามามาก 

     

    กลับมายังแคว้นเดลล์ หุบเขาที่มั่นของผู้เฒ่าตาร์ก กองทัพของบูลเตรียมพร้อมที่จะบุกขึ้นไปทำลายล้างทหารของผู้เฒ่าตาร์ก โดยที่ทหารม้าของเขาเตรียมพร้อมจู่โจมแล้ว

    บูล : ตอนนี้ทหารของเราพร้อมหรือยัง

    พร้อมแล้วครับ ว่าแต่ทำไมท่านนายพลถึงคิดจะบุกไปด้านหน้าหล่ะ

    บูล : ก็เพราะพวกมันจะไม่ป้องกันด้านหน้ามากไปยังไงหล่ะ เตรียมพร้อมบุกได้

    ทหารม้าของบูลควบม้าบุกเข้าไปยังแนวรับของผู้เฒ่าตาร์ก พวกมันเมื่อเห็นนายพลบูลบุกมา พวกมันก็เตรียมเข้าประจำการป้องกันที่แนวรับในทันที พวกมันพยายามยิงสกัดทัพม้าเอาไว้แต่ทัพม้าของนายพลบูลบุกมาอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนของผู้เฒ่าตาร์กเสียกำลังไปมาก หลังจากที่ทัพม้าบุกเข้าไปแล้วทัพบุกก็บุกเข้ามาเสริมอีก ในตอนนั้นพวกเขาก็มาถึงปากประตูค่ายของผู้เฒ่าตาร์กแล้ว

    บูล : ฆ่าพวกมันให้เหี้ยน อย่าปล่อยให้รอดแม้แต่คนเดียว

    ผู้เฒ่าตาร์กเห็นท่าไม่ดีจึงนำม้าของตัวเองพร้อมกับทหารบางส่วนหนีออกไปทางด้านหลัง นายพลบูลพยายามขี่ม้าไล่ตามไป แต่ทหารของตาร์กก็สกัดเขาเอาไว้ นายพลบูลคว้าปืน mauser ของเขายิงใส่ผู้เฒ่าตาร์กแต่กระสุนเฉียดแจนไปนิดเดียว จากนั้นผู้เฒ่าตาร์กก็รีบควบม้าหนีไป

    หลังจากที่การรบยุติลง ทหารของนายพลบูลก็เคลียร์พื้นที่โดยรอบ ก่อนที่จะรายงานให้นายพลบูลทราบ

    ท่านครับ ตอนนี้พวกเรายึดค่ายของมันได้ทั้งหมดแล้วครับ

    บูล : เฮ้อ แต่ฉันจับตัวมันมาไม่ได้หน่ะสิ

    ตอนนี้พวกมันก็ไม่มีอำนาจอะไรอีกแล้วนะครับ

    บูล : ฉันเข้าใจ แต่คนอย่างไอ้เฒ่าสารพัดพิษนั่นมันรอโอกาสอยู่แน่ๆ

    แล้วท่านจะทำยังไงต่อครับ

    บูล : ฉันจะรวบรวมทหารในเขตนี้ให้มากที่สุด แล้วตั้งรับพวกโซราบอลก่อนที่พวกนั้นจะบุกมา

     

    และที่พระราชวังเขตเมืองหลวง อราชเตรียมพร้อมที่จะรวบรวมกำลังคนชาวรูดิวที่อพยพหนีตายมา เพื่อที่จะตั้งกลุ่มต่อต้านทหารโซราบอลที่กำลังจะบุกมายังริงก้า ในขณะเดียวโอลลี่ก็สงสัยว่าอราชกำลังทำอะไรอยู่กันแน่

    โอลลี่ : อราช นายกำลังทำอะไรอยู่หน่ะ

    อราช : ฉันว่าจะรวบรวมชาวรูดิวที่อพยพมา ตั้งกองโจรจัดการกับพวกโซราบอลหน่ะ

    โอลลี่ : นายจะเปิดสงครามกับพวกมันงั้นเหรอ

    อราช : ฉันทำเพื่อแคว้นรูดิวของฉันหน่ะ

    โอลลี่ : ฉันเข้าใจนะ แต่ตอนนี้เรายังทำอะไรไม่ได้หรอก

    อราช : มันก็ต้องลองหน่อย ฉันต้องทำเพื่อพ่อฉันหน่ะ

    โอลลี่ : ว่าแต่ นายคิดจะสู้กับพวกมันยังไงหล่ะ

    อราช : ผมจะจัดการกับพวกมันไปเรื่อย จนกว่าพวกมันจะถอนกำลังออกไปจากรูดิว

    โอลลี่ : ถ้าแบบนั้น นายต้องมีแนวหลังต้องช่วยนะ

     

    และที่กองทัพของโซราบอล ในขณะที่พวกเขาเข้ายึดเมืองหลวงของเดลล์ได้เรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็จัดการความเสียหายที่เกิดขึ้นในทันที แต่ในขณะเดียวกัน คณะทูตของอเมริกาและอังกฤษก็รีบมาเข้าพบโซรอนอย่างหัวเสีย เนื่องจากทหารของพวกเขาเพิ่งจะโดนพวกริงก้าถล่มมา โซรอนต้องรีบพาพวกเขาไปยังห้องรับรองท่านที

    ท่านโซรอน ท่านจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง

    โซรอน : ทำไมครับ มันเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ

    ทหารของเราโดนริงก้าจัดการมาหน่ะสิ

    โซรอน : ทำไมครับ ผมก็นึกว่าพวกท่านจัดการได้ซะอีก

    ตอนนี้ทางลอนดอนกดดันผมให้อธิบายเรื่องนี้ทุกวัน ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

    โซรอน : ท่านก็แค่บุกเข้าไปจัดการพวกมันต่อสิครับ

    ไม่มีทาง เราเสียทหารไปอย่างหนัก กองเรือของเราจะไม่รุกล้ำน่านน้ำของริงก้า เราทำได้แค่ส่งอาวุธให้ท่าน หวังว่าท่านจะเข้าใจนะ

    ทางคณะทูตรีบเดินออกไป ก่อนที่โซรอนจะทุบโต๊ะดังปัง นอสต้าร์เห็นดังนั้นจึงรีบมาดูเขาในทันที

    นอสต้าร์ : เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ

    โซรอน : ก็พวกอังกฤษหน่ะสิ มันบอกว่าจะไม่ยอมบุกริงก้าอีกแล้ว

    นอสต้าร์ : บ้าเอ้ย นี่พวกมันจะหักหลังเราเหรอ

    โซรอน : ไม่หรอก พวกเขาบอกว่าจะส่งอาวุธให้เราเหมือนเดิมหน่ะ

    ที่ด้านนอกค่าย คูเปอร์กำลังจัดการเคลียร์พื้นที่ของเมืองโดยรอบเพื่อหาผู้บาดเจ็บและฟื้นฟูเมือง แต่ระหว่างนั้นเอง ทหารอังกฤษคนหนึ่งก็เกิดเดินมาชนเขา แถมยังไม่ยอมขอโทษเขาอีก ทำเอาคูเปอร์ต้องเรียกทหารคนนั้นมาคุยด้วย

    คูเปอร์ : นี่มันอะไรกัน มาชนฉันทำไม

    ใครชนแกวะ ไอ้พวกล้าหลังเอ้ย

    คูเปอร์ : แกว่าใครล้าหลังวะ พูดให้มันดีๆนะเว้ย

    แล้วแกจะทำไมวะ ไอ้หมาโซราบอลเอ้ย

    คูเปอร์โกรธจัดต่อยหน้าทหารอังกฤษนายนั้น ทำเอาทหารคนอื่นๆมาช่วยผสมโรงจนเกือบมีมวยกัน ในตอนนั้นโซรอนต้องรีบออกมาจัดการสถานการณ์ โดยที่โซรอนให้ทหารอังกฤษกลับไปก่อน ส่วนโซรอนก็ไปชำระความเอากับคูเปอร์ต่อ

    โซรอน : นี่มันบ้าอะไรกัน ไปต่อยเขาทำไม

    คูเปอร์ : มันมาเดินชนผมก่อนหน่ะครับ

    โซรอน : แล้วแกไปต่อยเขาทำไม นั่นเป็นทหารอังกฤษนะ

    คูเปอร์ : หมายความว่าจะให้มันมาทำอะไรทหารคนอื่นแบบนี้เหรอครับ

    โซรอน : เอาเป็นว่าอย่าให้มีเรื่องแบบนี้อีก ไม่งั้นนายโดนปลดแน่

    โซรอนรีบเดินกลับเข้าไปด้านใน ปล่อยให้คูเปอร์โมโหอยู่ตรงนั้น

    และอีกด้านหนึ่ง เอ็ดเวิร์ดที่กำลังหลงป่าอยู่ เขาเดินทางหาทางออกไปเรื่อยๆเพื่อกลับไปรวมกำลังกับทัพโซราบอล เขาเดินทางมาเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเดินทางไปที่ไหน ระหว่างนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาใกล้เขา เขาหยุดนิ่งแล้วชักดาบออกมา เนื่องจากว่าเขาไม่มีกระสุนเหลือแล้ว สิ่งที่เขาเห็นในตอนนั้นก็คือทหารริงก้าถือปืนเล็กยาวเข้ามาใกล้เขา พยายามจะดูว่าเขาเป็นใครกันแน่

    นั่นมันชุดทหารโซราบอล แกเป็นพวกโซราบอลใส่หรือเปล่า

    เอ็ดเวิร์ด : ใช่ แล้วพวกแกจะทำไมหล่ะ

    ทิ้งอาวุธลงเดี๋ยวนี้ ถ้าแกยังไม่อยากตาย

    เอ็ดเวิร์ด : ฝันไปเถอะ ข้ามศพฉันไปก่อน

    พวกนั้นพยายามจับตัวเอ็ดเวิร์ด แต่เอ็ดเวิร์ดก็ใช้เพลงดาบของเขาจัดการกับทหารริงก้า ทำเอาพวกนั้นเริ่มจะถอยออกมา

    จ่าครับ ยิงมันเลยมั้ยครับ

    ไม่ต้อง มันจะหมดแรงแล้ว

    เอ็ดเวิร์ด : แน่จริงพวกแกก็เข้ามาสิ

    เอ็ดเวิร์ดต่อสู้จนสุดชีวิต แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออีกแล้ว จากนั้นทหารริงก้าก็เอาปืนฟาดเข้าไปที่ท้ายทอยของเขา จนเขาสลบไปทันที

    เอาตัวมันกลับไปริงก้าเดี๋ยวนี้

    ทหารริงก้าลากตัวเอ็ดเวิร์ดกลับไปอย่าทุลักทุเล โดยที่ยึดอาวุธของเขาไปจนหมด

     

    กลับมายังคฤหาสน์ของมาร์ธ่า หลังจากที่นายพลเนโรฟื้นร่างกายของตัวเองจนเต็มที่แล้ว เขาก็มีแผนที่เตรียมออกไปนำทัพอีกครั้ง โดยที่เขาบอกมาร์ธ่าโดยทันทีเมื่อมาร์ธ่ามาเยี่ยมเขาถึงที่

    เนโร : ท่านแม่ ผมจะกลับไปนำทัพอีกครั้งนึงครับ

    มาร์ธ่า : อะไรกัน นี่ลูกยังไม่หายดีเลยนะ

    เนโร : แต่ว่าผมกลับมาแข็งแรงดีแล้ว อีกอย่างเราก็กำลังรวมประเทศได้แล้วด้วย

    ซาร่า : พี่ไม่เห็นด้วยนะเนโร ที่เนโรจะกลับไปหน่ะ

    มาร์ธ่า : ใช่ ลูกจะกลับไปเสี่ยงให้อาการกำเริบอีกทำไมหล่ะ

    เนโร : ผมไม่อยากให้ทหารของผมสู้ลำพังนี่ครับแม่

    ซาร่า : เฮ้อ พี่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับเราแล้วนะ

    เนโร : ไม่ต้องห่วงหรอกครับพี่ ผมไม่เป็นไรหรอก // เนโรพูดจากนั้นก็เตรียมไปใส่ชุดทหารของเขา

    และด้านหนึ่งของบ้าน ห้องพักของซิลเวียร์ ในตอนนั้นเองเธอกำลังอ่านจดหมายที่นอร์ดิกส่งมาให้ เธอคิดถึงนอร์ดิกสุดหัวใจ จนเธอต้องเขียนตอบกลับเขาไปโดยเร็ว เธอไม่รอช้ารีบไปเขียนจดหมายถึงเขาในทันที

    นอร์ดิกที่รัก ฉันอ่านจดหมายที่เธอส่งมาให้ฉันแล้ว ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในสงครามสินะ ฉันสวดภาวนาอ้อนวอนต่อพระเจ้าทุกวัน ขอให้เธอปลอดภัย ตอนนี้ทหารโซราบอลเริ่มอ่อนแอเต็มที นายพลเนโรก็คงจะรบไม่ไหวแล้ว ฉันอยากจะไปอยู่ข้างกายเธอแต่ไม่อยากทิ้งคุณหญิงมาร์ธ่าหน่ะ หวังว่าเธอคงเข้าใจนะ แต่ไม่ว่ายังไงหัวใจฉันจะยังอยู่กับเธอเสมอ ฉันรอวันที่เธอจะมาหาฉันที่โซราบอลนะ รักเธอเสมอ ซิลเวียร์

    หลังจากที่เธอเขียนจนจบ เธอก็รีบนำจดหมายฉบับนั้นไปให้คนใช้ของเธอในทันที

    ซิลเวียร์ : เอาไปส่งตามที่อยู่จ่าหน้าตรงนี้นะ

    ได้ขอรับ

    เมื่อคนใช้ได้รับคำสั่ง เขาก็รีบนำจดหมายไปส่งในทันที

     

    กลับมายังน่านน้ำแห่งหนึ่งในแคว้นเดลล์ กองเรือจักรวรรดิเยอรมันที่เพิ่งจะออกจากน่านน้ำแคว้นเดลล์ พวกเขาก็ออกเดินทางแล่นไปตามน่านน้ำเพื่อไปยังแคว้นริงก้า เพื่อไปหลบภัยชั่วคราว แอนตาร์กติกได้รับหน้าที่ให้ดูแลและคุ้มกันขบวนเรือขนส่งและท่านทูต ในระหว่างที่เธอกำลังแล่นเรืออยู่บนเรือธงของเธอ นายทหารคนหนึ่งก็มารายงานเรื่องกับเธอในทันที

    ท่านแอนตาร์กติกครับ น่านน้ำริงก้าอยู่ด้านหน้าครับ

    แอนตาร์กติก : ให้สัญญาณกับทางริงก้า ว่าเราขอเทียบท่าริงก้าเดี๋ยวนี้เลย

    ได้ครับนายทหารคนนั้นรีบวิ่งไปรายงานอย่างรวดเร็ว

    ในระหว่างนั้นเอง ทูตเยอรมันก็เดินมาขอพบกับแอนตาร์กติกในทันที

    ท่านแม่ทัพ ผมว่าเราควรจะกลับเยอรมันนะครับ

    แอนตาร์กติก : ดิฉันได้รับคำสั่งให้ปกป้องชาวเยอรมันที่อยู่ที่นี่ค่ะท่านทูต

    ผมรู้ แต่เราคงจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นานหรอกครับ

    แอนตาร์กติก : ถ้าถึงริงก้าเมื่อไหร่ เราก็ปลอดภัยเองหล่ะค่ะ

    แต่พวกโซราบอลแข็งแกร่งนัก ผมกลัวว่าริงก้าจะไม่รอดหน่ะสิ

    แอนตาร์กติก : ไม่ต้องห่วง ดิฉันจะพาทุกคนออกไปถ้าเกิดปัญหา

    และอีกด้านหนึ่ง ชายแดนแคว้นเดลล์ หลังจากที่โทมารอฟจัดการกับเครื่อข่ายของอเล็กซ์สกี้ได้สำเร็จ เขาก็ต้องคุ้มกันคณะทูตและประชาชนของรัสเซียไปยังแคว้นริงก้าเนื่องจากต้องหนีภัยสงคราม ในระหว่างที่กำลังเดินทาง ทหารก็เหน็ดเหนื่อยเหมื่อยล้าเนื่องจากเดินทางกันมาไกลมาก โทมารอฟตัดสินใจให้ขบวนพักผ่อนกันก่อน ส่วนตัวเขาก็ไปนั่งพักที่โขดหินที่หนึ่ง โดยที่นั่งดื่มน้ำไปด้วย

    ท่ามนครับ เราตรวจเช็คอาวุธที่ยึดมาได้แล้ว มีอาวุธที่ขโมยมาจากประเทศอื่นด้วยครับทหารคนหนึ่งมารายงานโทมารอฟเรื่องอาวุธ

    โทมารอฟ : ดูท่าทางอเล็กซ์สกี้มันจะสร้างศัตรูไปทั่วเลยนะ

    ครับ แล้วแบบนี้จะให้ทำยังไงกับอาวุธเหล่านี้ครับ

    โทมารอฟ : ตรวจสอบดูว่าอาวุธพวกนี้เป็นของใครบ้าง แล้วจัดการส่งคืนให้พวกเขา

    แล้วถ้าเป็นอาวุธเถื่อนหล่ะครับ

    โทมารอฟ : ยึดไว้ให้หมด อย่าให้ใครเอาไปใช้ประโยชน์ได้

    ว่าแต่ท่านครับ อีกนานหรือเปล่าครับกว่าจะถึงริงก้า

    โทมารอฟ : ไม่ไกลหรอก แค่พวกนายเข้มแข็งและอดทนไว้

     

    ที่แคว้นบาส์ก โรงน้ำชาแห่งหนึ่งซึ่งดูหรูหรามีระดับ ชายฉกรรจ์จากทั่วแคว้นต่างอยากมาสัมผัส และในห้องอาบน้ำห้องหนึ่ง ซึ่งนายหญิงแห่งโรงน้ำชาแห่งนี้กำลังอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์

    นายหญิงอี้ชิงคะ คุณอเล็กซ์สกี้มาขอพบค่ะ

    เธอทำความสะอาดร่างกายอีกพักก่อนที่จะเช็ดตัวและออกมาพบกับอเล็กซ์สกี้ในชุดคลุมสีแดงแบบจีน

    อี้ชิง : สวัสดีค่ะคุณอเล็กซ์สกี้

    อเล็กซ์สกี้ : ไม่ต้องมาเสียงหวานกับฉันหรอกน่า ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดีอยู่

    อี้ชิง : แหม่ คงจะเป็นเรื่องที่พวกรัสเซียยึดอาวุธท่านไปสินะคะ

    อเล็กซ์สกี้ : นี่เธอรู้แล้วอย่างงั้นเหรอ

    อี้ชิง : แหม่ๆๆ คนอย่างคุณก็เครียดไม่กี่เรื่องหรอก แต่ไม่ต้องห่วง ฉันมีแผนไว้แล้ว

    อเล็กซ์สกี้ : อย่างเธอเนี่ยนะจะมีแผนให้ฉันหน่ะ

    อี้ชิง : พวกรัสเซียต้องขนอาวุธเข้าริงก้าแน่ๆ ในตอนนั้นฉันมีคนพร้อมจะชิงอาวุธไปแล้วค่ะ

    อเล็กซ์สกี้ : แล้วเป็นพวกไหนหล่ะ

    อี้ชิง : ให้ใครรู้ไม่ได้นอกจากฉัน ขอแค่คุณยอมจ่ายให้ฉันมากกว่าที่ตกลงกันไว้หน่อยนะคะ

    อเล็กซ์สกี้ : คุณนี่มันร้ายจริงๆ // อเล็กซ์สกี้เอาหน้ายื่นจะหอมแก้มอี้ชิง แต่เธอเอามือบังหน้าเขาไว้ก่อน

    อี้ชิง : ใจเย็นสิคะ จ่ายฉันมาก่อน แล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามที่คุณต้องการ

    อเล็กซ์สกี้ : แบบนี้หนึ่งล้านคงไม่พอ ฉันให้เธอสองล้านไปเลยเอามั้ย

    อี้ชิง : ยินดีที่ได้ทำงานด้วยกันนะคะ // จากนั้นทั้งคู่ก็พากันไปเข้าห้องส่วนตัวของอี้ชิง

     

    ที่บ้านพักของนายพลจอร์จ ห้องของแพททรีเซีย ในตอนนั้นเธอนอนกอดกับแมทธิวอยู่บนเตียง เนื่องจากทั้งคู่มีความสัมพันธ์แบบชู้สาวมานาน เนื่องจากแพททรีเซียรักน้องแมทธิวมาก จนยอมให้เขาทุกอย่าง

    แมทธิว : เป็นอะไรไปพี่ ไม่คุ้นเคยกับผมงั้นเหรอ

    แพททรีเซีย : พี่มาคิดๆดู พี่ว่า สิ่งที่เราทำมันไม่ถูกนะ

    แมทธิว : เรื่องไหนหล่ะพี่ เรื่องที่เรานอนด้วยกัน หรือเรื่องที่คุยกับพ่อวันนี้หล่ะ

    แพททรีเซีย : พี่รักเธอ เธอก็รู้ แต่เธอคิดว่าพ่อคิดผิดเหรอเรื่องการรบหน่ะ

    แมทธิว : ผมรู้จักพวกริงก้าดี พวกนั้นเข้มแข็งมาก อาจจะมากกว่าโซราบอลด้วยซ้ำ

    แพททรีเซีย : แล้วนายจะทำยังไง เดินเข้าไปบอกพ่อให้ล้มเลิกงั้นเหรอ

    แมทธิว : ผมว่าน่าจะให้พ่อเจอกับความพ่ายแพ้ดูซักครั้ง

    แพททรีเซีย : แล้วนายคิดจะทำอะไรกับพ่อเราหล่ะ

    แมทธิว : ไม่ต้องห่วงหรอกพี่ ผมคิดเอาไว้แล้ว

    แมทธิวเดินไปใส่เสื้อผ้าของเขา จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องในทันที

    และในสวนของบ้าน นายพลจอร์จที่กำลังนั่งดื่มชาอยู่ที่สวนของเขา ในขณะเดียวกันนั้นเอง ทหารของเขาก็มารายงานเรื่องการรบให้เขาฟังเป็นการด่วน

    ท่านครับ มีข่าวการรบจากริงก้ามาครับ

    จอร์จ : จริงเหรอ การรบเป็นยังไงบ้างหล่ะ

    ฝ่ายเราพ่ายแพ้ครับ

    จอร์จ : หะ แกล้อฉันเล่นใช่หรือเปล่าเนี่ยหะ

    ฝ่ายเราแพ้จริงครับ เราเสียทหารไปสามสิบนาย บาดเจ็บอีกนับร้อย และเรือบางส่วนก็โดนพวกมันยึดไปครับ

    จอร์จ : ทำไมกัน ทำไมถึงพวกเราถึงแพ้ได้หล่ะ

    ผมว่า เราอาจเจอศัตรูที่แข็งแกร่งแล้วหล่ะครับ

    จอร์จ : งั้นสั่งให้กองเรือที่เหลือไปจัดการมัน ฉันจะเป็นคนนำทัพเอง

    คงไม่ได้แล้วครับท่าน ทางลอนดอนสั่งมาว่าห้ามไม่ให้เรารุกล้ำแผ่นดินริงก้าอีกครับ

    จอร์จ : บ้าเอ้ย คอยดูเถอะ มันไม่จบแค่นี้แน่

     

    และที่ชายแดนริงก้า ในขณะที่กลุ่มต่อต้านศาสนจักรกำลังเดินทางมาเรื่อยๆเพื่อเข้าสู่แคว้นริงก้า ในตอนนั้นเอง ก็มีกลุ่มชายชุดดำขี่ม้ามานับสิบคนถือปืนไล่ยิงพวกเขา พวกเขาต้องหาที่หลบแถวนั้นกันยกใหญ่

    โอเมก้า : พวกนาย รีบยิงสกัดพวกมันไว้ก่อน เร็ว

    เบต้า อัลฟ่าและเดลต้าหยิบปืนของพวกเขาขึ้นมายิงสกัดพวกมันเอาไว้ ในขณะที่กลุ่มคนร้ายก็ไล่ตามพวกเขาอย่างไม่ลดละ

    ชาร์ลี : โอ้ย เมื่อไหร่เราจะถึงริงก้าซะทีเนี่ย

    เบต้า : ชาร์ลี บรรจุกระสุนให้ฉันหน่อย เร็วเลย // เบต้ายื่นปืนให้ชาร์ลีใส่กระสุน

    อัลฟ่า : กระสุนนายเหลืออีกเยอะหรือเปล่าเดลต้า // เขาพูดพลางยิงสกัดพวกมัน

    เดลต้า : เหลือไม่เท่าไหร่ ยังไงก็ประหยัดกระสุนหน่อยก็แล้วกัน

    พวกมันยิงถล่มรถม้าของพวกเขาอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ยังพอต้านทานพวกมันได้ แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ควบม้าไปเจอด่านทหารอยู่ข้างหน้า ซึ่งด่านนั้นเมื่อเห็นขบวนรถม้าก็รีบตั้งป้อมปืนยิงในทันที

    ชาร์ลี : แย่แล้ว ทหาร เอายังไงดีคะพี่

    โอเมก้ารีบชูตราสัญลักษณ์ของเขาที่อยู่ในอกเสื้อ จากนั้นเขาก็ตะโกนใส่พวกทหารว่า
    เราเป็นพันธมิตรพวกท่าน เรากำลังถูกตามล่า

    เบต้า : เฮ้ย แย่แล้ว กระสุนหมด // เบต้าพูดอย่างหัวเสีย

    แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อกลุ่มชายชุดดำขี่ม้ามายังด่าน ทหารที่ด่านก็ยิงใส่พวกนั้นจนล้มตายไปมากมาย ทำเอาทหารชุดดำไม่กล้าไล่ตามพวกเขาต่อแล้วถอนกำลังกลับไป

    เดลต้า : เราปลอดภัยแล้ว ใช่หรือเปล่าเนี่ย

    อัลฟ่า : ดูท่าจะใช่ เรามาถึงริงก้าแล้วสินะเนี่ย

     

    กลับมายังแคว้นบาส์ก ในวันธรรมดาที่โรสและสองสาวกำลังหาปลาเพื่อเตรียมไปขายในเมือง ในระหว่างที่เรือของพวกเธอกำลังจะเทียบท่า พวกเธอก็เห็นเรือรบของทหารมาจอดเทียบท่าที่เกาะของพวกเธอ ในตอนนั้นเธอแปลกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่เรือของพวกเธอเทียบท่า พวกเธอก็รีบวิ่งไปยังกลุ่มชาวบ้านที่กำลังถูกทหารล้อมอยู่ และสกายกับอาร์มเมอร์ก็เป็นผู้นำในการตรวจค้นในครั้งนี้ด้วย

    เมด : นี่ พวกนาย ทำไมต้องจับชาวบ้านมาที่นี่ด้วย

    สกาย : ขอโทษทีนะ คือว่าฉันได้รับคำสั่งให้มาตรวจเกาะแห่งนี้หน่ะ

    แพท : เกาะนี้ไม่มีอะไรซะหน่อย อย่ารังแกกันแบบนี้สิ

    อาร์มเมอร์ : ฉันรู้ แค่ขอตรวจค้นเฉยๆ พวกเธอคงไม่ว่ากันนะ

    โรส : พวกเราอยู่ที่นี่กันอย่างชาวบ้านธรรมดา ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้เลยนะคะ

    แต่ในระหว่างนั้นเอง นายทหารอเมริกันคนหนึ่งก็เดินมาตรวจสอบ พวกเขาก็คุ้นๆว่าแพทและเมดเคยฆ่าทหารอเมริกันไปสองคน ทำเอาพวกมันพยายามจะจับกุมตัวเธอไป

    จับนังสองคนนี้ไป เอามันไปสอบสวนโดยด่วน

    แพท : พวกเราทำผิดอะไร ทำไมต้องมาจับกันด้วย

    เมด : ใช่ คิดว่าพวกแกจะทำอะไรพวกเราได้ง่ายๆงั้นเหรอ

    สกาย : เธอเป็นคนของแคว้นนี้ ผมเป็นผู้รับผิดชอบ ผมจะสอบสวนเธอเอง

    นี่แก จะมายุ่งอะไรด้วย

    อาร์มเมอร์ : ที่นี่ไม่ใช่อาณานิคมของคุณ เรามีกฎหมายของเรา กรุณาเข้าใจด้วย

    โรส : เพื่อนฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะคะ ฉันสาบานได้

    สกาย : เอาเป็นว่า เธอสองคน ไปกับฉันหน่อยก็แล้วกัน

    สกายพาตัวแพทและเมดมาขึ้นเรือของพวกเขา ก่อนที่พวกเขาจะแล่นเรือออกจากเกาะเพื่อไปยังแผ่นดินใหญ่ทันที

    และที่เกาะโจรสลัดในแถบนั้น หลังจากที่มีข่าวว่าชาวบ้านถูกจับกุมไปสอบสวนมากมาย ลอเรนซ์เป็นกังวลอย่างมาก กลัวว่าชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยต้องมารับกรรมในสิ่งที่เธอทำแทน เธอจึงรีบประชุมกับลูกน้องคนอื่นๆในทันที

    ลอเรนซ์ : เราต้องช่วยเหลือชาวบ้านพวกนี้ให้ได้ พวกทหารนั้นทำเกินไปแล้ว

    แต่ผมคิดว่า ที่พวกมันทำ มันอาจจะหลอกให้เรามาติดกับก็ได้นะครับ

    ลอเรนซ์ : แต่ถึงยังไงฉันก็ต้องทำ ฉันจะไม่ยอมให้พวกเขามาเสี่ยงเพราะฉัน

    ผมว่านายหญิงต้องใจเย็นนะครับ

    ลอเรนซ์ : แล้วจะให้ฉันทำยังไงหล่ะห่ะ

    เราควรเก็บตัวเงียบไปก่อน จนกว่าพวกนั้นจะเลิกตามหาเรา ยังไงพวกนั้นคงไม่ทำอะไรชาวบ้านหรอกครับ

    ลอเรนซ์ : ฉันไม่ยอมแน่นอน ฉันต้องช่วยชาวบ้านพวกนั้นให้ได้ จัดเตรียมคนกับเรือไป เราจะไปชิงตัวชาวบ้านพวกนั้นกลับมา

    แต่ว่า…”

    ลอเรนซ์ : ฉันพูดคำไหนคำนั้น

    ได้ครับนายหญิง

     

    กลับมายังชายแดนริงก้า ในขณะที่นอร์ดิกกำลังตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากถูกโจมตีอย่างหนัก จู่ๆก็มีหน่วยสอดแนมมาขอเข้าพบเขาในทันทีด้วยความเร่งด่วน

    ท่านครับ ตอนนี้พวกโซราบอลเตรียมเคลื่อนทัพออกจากเมืองหลวงแล้วครับ

    นอร์ดิก : พวกมันมีกำลังมากน้อยแค่ไหน

    คงไม่น้อยไปกว่าสี่ถึงห้าแสนครับผม

    นอร์ดิก : จัดการเตรียมแนวรับของเราให้พร้อม ฉันจะไล่พวกมันกลับไปให้หมดเอง

    ได้ครับท่าน

    ทหารของนอร์ดิกเตรียมพร้อมกองทัพและแนวรับของพวกเขา เพื่อรับศึกของโซราบอลที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้

    ==================================================================

    กองทัพโซราบอลกำลังจะมาถึงในไม่ช้า พวกเขาจะรับศึกที่กำลังจะมาถึงอย่างไร ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า
    มีเรื่องจะประกาศเน้อ
    ช่วงนี้กระผมอาจจะมาอัพนิยายช้า ในอาทิตย์หน้าผมรับปากไม่ได้ว่าจะลงหรือเปล่า ช่วงนี้งานยุ่งจริงๆครับ
    เรื่องนี้ปั่นหนักมาก 
    ขอคนละเม้นท์ด้วยจ้า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×