ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Descendant War - สมรภูมิปิตุฆาต

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่ 13 : จุดเริ่มต้นของการเผชิญหน้า

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 50
      2
      10 พ.ย. 61

    หลังจากที่นอร์ดิกได้มีคำสั่งให้จัดเตรียมกองทัพ นอร์ดิกก็นั่งเตรียมแผนการเพื่อตอบโต้พวกโซราบอลในทันที เขากับอาร์เทอร์นั่งปรึกษากันในห้องอยู่นาน ในขณะเดียวกัน อาร์เทมิสกับเอลิซ่าก็เดินเข้ามาในห้องเพื่อเข้ามาร่วมแผนการด้วย

    เอลิซ่า : สวัสดีค่ะ ดิฉันรบกวนหรือเปล่าคะ

    นอร์ดิก : อ้อ ไม่รบกวนหรอกครับ เชิญก่อนสิครับ

    อาร์เทมิส : ตอนนี้คุณก็นำกำลังเตรียมเข้าสู้กับพวกโซราบอลแล้วสินะ

    อาร์เทอร์ : ตอนนี้เราแค่รอดูสถานการณ์ก่อนหน่ะครับ  

    นอร์ดิก : ใช่ครับ ตอนนี้พวกโซราบอลต้องผ่านแคว้นเดลล์ ซึ่งตอนนี้กำลังวุ่นวายหนัก พวกมันคงจะอ่อนกำลังลงในไม่ช้าครับ

    ในขณะเดียวกัน อาบาตูในตอนนั้นเองก็วิ่งเข้ามาส่งจดหมายให้กับนอร์ดิก เนื่องจากเขาได้รับข้อความจากมาร์ธ่ามาแล้ว

    อาบาตู : คุณหนูครับ มีจดหมายจากคุณหญิงมาส่งหน่ะครับ // นอร์ดิกรีบหยิบมา จากนั้นก็เก็บเอาไว้ก่อน

    นอร์ดิก : เดี๋ยวผมอ่านทีหลังเองครับคุณอาบาตู

    และในตอนนั้นเอง นิโคลัสก็เดินเข้ามาพร้อมกับแผนโครงการใหม่เกี่ยวกับทางรถไฟของเขา เขาเข้ามาโดยที่นอร์ดิกกำลังคุยกับคนอื่นๆอยู่

    นิโคลัส : นอร์ดิก พวก ฉันมีแผนทางรถไฟมาเสนอให้นายหน่ะ

    เอลิซ่า : ทางรถไฟ นี่จะสร้างกันตอนนี้เลยงั้นเหรอ

    นิโคลัส : แน่นอนครับ เพราะเส้นทางจากที่นี่ไปโซราบอลลำบากมาก แถมฟิลล์บอนกำลังมีคนเดินทางไปขุดน้ำมัน งานนี้จึงเหมาะมากเลยครับ

    อาร์เทมิส : เฮ้อ หัวการค้ามากๆเลยเพื่อนนอร์ดิกคนนี้

    นอร์ดิก : งั้นเหรอ แล้วแผนการสร้างจะมีกี่เดือน แล้วค่าใช้จ่ายหล่ะ

    นิโคลัส : ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่หรอก เพราะเรามีคนงานอพยพมาใหม่เยอะมาก ส่วนเงินเราค่อยคุยกันทีหลังก็ได้

    อาร์เทอร์ : คุณหนูว่ายังไงครับ

    นอร์ดิก : ผมว่าน่าสนใจนะ เพราะในอนาคตเราอาจต้องใช้มัน เอาเป็นว่า นายไปจัดการหาของมาก่อนแล้วกัน

    นิโคลัส : ได้เลย ฉันรู้ว่าจะต้องไปหาที่ไหน

     

    และในพระราชวัง ห้องรับรองแขก สี่หนุ่มพร้อมหนึ่งสาวจากตระกูลดังก็กำลังนั่งพักผ่อนอย่างสบายใจ เนื่องจากว่าเขาเป็นแขกคนสำคัญของนอร์ดิก

    เมเทอร์ : นี่พวกนาย เบาๆหน่อยสิ เล่นเป็นเด็กไปได้

    มาร์ธิว : นั่นสิ ทำอะไรเป็นเด็กๆไปได้นะพวกนายเนี่ย

    เอเทอร์ : โธ่พี่ มาอยู่ในที่สบายๆแบบนี้ทั้งทีนะเนี่ย

    เลออน : ใช่ งานนี้ต้องขอบคุณพี่เอลิซ่าเขาเลยนะ

    แมทธิว : จริงหรือเปล่า ที่เอลิซ่ากับคุณนอร์ดิกเขาแบบว่า

    เมเทอร์ : นี่พวกนาย อย่าเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้นสิ

    และในขณะนั้นเอง ครอบครัวของคาเนส เพื่อนอาร์เทอร์ ก็ถูกเชิญเข้ามาร่วมงานนี้ด้วย โดยที่พวกเขาถูกเชิญให้ไปที่ห้องรับรองสุดหรู ซึ่งในตอนนั้นเองพวกเขาทั้งห้าก็แปลกใจ แต่ก็ยังเดินไปต้อนรับพวกเขาตามธรรมเนียม

    มาร์ธิว : สวัสดีครับ พวกคุณคงจะเป็นแขกคนสำคัญสินะครับ

    คาเนส : ใช่ครับ ผมคาเนส เป็นเพื่อนกับอาร์เทอร์เขาครับ

    ระหว่างที่กำลังแนะนำตัวกัน อยู่ดีๆเลออนก็จ้องมองอาเรียสตาไม่กระพิบ ทำเอาเอเทอร์ต้องไปสะกิดเขา

    เอเทอร์ : นี่พี่ เป็นอะไรเนี่ย มองหญิงอีกแล้วนะพี่

    เลออน : ฉันว่า ฉันเจอคนที่จะจริงจังได้แล้วหล่ะ

    เอเทอร์ : ถุ๊ย ขี้โม้หว่ะพี่ // และในขณะนั้นเอง แมทธิวก็เดินเข้าไปทำความรู้จักกับโคน่าโดยที่ยังไม่มีใครพูดอะไร

    แมทธิว : สวัสดีครับ ผมแมทธิวนะครับ คุณผู้หญิงชื่ออะไรครับ

    โคน่า : อ่า ดิฉันโคน่าค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

    ดราโก้ : เอาเป็นว่า ผมขอไปหาที่เงียบๆนั่งพักก่อนดีกว่านะครับ

    อาร่า : แหม่คุณคะ รอดิฉันด้วยสิ // ทั้งคู่เดินออกไปนั่งพักแถวนั้น ปล่อยให้พวกคนหนุ่มสาวเขาคุยกันต่อไป

    เลออน : ไม่ทราบว่า คุณติดธุระอะไรหรือเปล่า ผมจะเลี้ยงเครื่องดื่มคุณหน่อย

    อาเรียส : อ้อ ได้ค่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ

    เลออน : งั้นเชิญด้านนี้เลยครับ // เลออนเชิญอาเรียสไปหาอะไรดื่มแถวนั้น ในขณะที่แมทธิวก็ไปคุยกับโคน่าที่อื่นเหมือนกัน

    คาลิมบ่า : ท่าทางพวกเราจะคุ้นเคยกันเร็วมากเลยนะ

    เมเทอร์ : นั่นสินะ แต่ก็ดีนะคะ จะได้รู้จักกันไว้

    คาเนส : เอ๊ะ ว่าแต่ อาเรียเขาหายไปไหนกันเนี่ย

    มาร์ธิว : อาเรีย เธอเป็นใครกันงั้นเหรอครับ

    อีกด้านหนึ่งของห้องโถง ในตอนนั้นอาเรียแอบมาเดินเล่นเงียบ แต่ในตอนนั้นเอง เธอก็เดินชนกับเอ็นเข้าอย่างจัง ในตอนนั้นเองเธอก็ล้มลงกับพื้นทันที

    อาเรีย : โอ๊ย นี่คุณ มาเดินชนฉันทำไมหล่ะเนี่ย

    เอ็น : เอ้า อะไรกันเนี่ย มาๆๆๆ เดี๋ยวผมช่วย // เอ็นประคองอาเรียไปนั่งแถวนั้น ซึ่งบรรยากาศค่อนข้างน่ารมย์รื่น

    เอ็น : ผมขอโทษนะ ว่าแต่คุณเป็นใครงั้นเหรอ

    อาเรีย : ฉันอาเรีย วันนี้เพื่อนฉันมาเยี่ยมนายพลอาร์เทอร์ที่นี่หน่ะ ว่าแต่นายเป็นใครกันหล่ะ

    เอ็น : ผมชื่อเอ็น เป็นพ่อค้าที่นี่ เพื่อนผมเป็นสหายกับท่านผู้นำที่นี่หน่ะ

    อาเรีย : แหม่ ถ้างั้นคิดว่าจะชนใครก็ได้สินะ

    เอ็น : ไม่ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น อย่าคิดมากสิ เดี๋ยวผมช่วยนวดให้คุณแล้วกัน // เอ็นนวดเท้าให้กับอาเรีย เผื่อว่าจะช่วยให้เธอผ่อนคลายได้บ้าง

     

    กลับมาที่ชายแดนแคว้นเดลล์ ซอลกับเซเลนส์นำกำลังพลไปตรึงกำลังไว้ที่ชายแดน เพื่อป้องกันข้าศึกที่อาจจะบุกเข้ามาได้ทุกเมื่อ

    เซเลนส์ : นายว่า พวกมันจะมาถึงที่นี่เมื่อไหร่หล่ะ

    ซอล : ฉันก็ไม่รู้ ต้องดูว่าพวกมันจะยึดแคว้นเดลล์ตอนไหนนะ

    เซเลนส์ : ว่าแต่ นายไปไงมาไงถึงได้มาเจอท่านผู้นำได้หล่ะ

    ซอล : ก็ เรื่องมันซับซ้อนนิดหน่อยหน่ะ

    ในขณะเดียวกัน มีทหารนายหนึ่งรีบวิ่งเข้ามารายงานสถานการณ์กับพวกเขาทั้งคู่อย่างเร่งรีบ

    ท่านครับ แย่แล้วครับ มีเรือไม่ทราบฝ่ายลอยลำมาใกล้ฝั่งเราครับ

    เซเลนส์ : ตอนนี้กำลังพลของเราเตรียมพร้อมหรือยัง

    เราเตรียมปืนใหญ่จะจมเรือพวกมันแล้วครับ

    ซอล : เรืองั้นเหรอ เดี๋ยวฉันไปดูเอง ห้ามยิงเด็ดขาด นี่เป็นคำสั่ง // ซอลรีบขี่ม้าไปยังชายฝั่งก่อนที่เซเลนส์จะตามไปด้วย ในตอนนั้นเอง ทหารริงก้าก็เตรียมปืนใหญ่จะจมเรือของพวกที่กำลังจะเทียบฝั่ง

    กลับออกไปซะ ไม่งั้นเราจะยิงพวกคุณ

    ซอล : อย่ายิงนะ ให้พวกเขาขึ้นฝั่งก่อน เดี๋ยวนี้ // พวกทหารต้องปล่อยให้พวกเขาเทียบฝั่ง ก่อนที่ทหารนับหมื่นนายจะยกพลขึ้นบก ในตอนนั้นชายคนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปกอดกับซอลในทันที

    ซอล ฉันนึกว่าจะไม่ได้เจอนายอีกแล้วนะเพื่อน

    ซอล : ฉันไม่เป็นไรหรอก ยินดีมากๆเลยนะที่นายมาที่นี่

    เซเลนส์ : ขอโทษนะ พวกนายเป็นใครกันอย่างงั้นเหรอ

    ซอล : พวกเขาเป็นสหายฉันเอง พวกเขาเป็นกลุ่มปฏิวัติหน่ะ

    ขอบคุณมากนะครับ ผมชื่อไมเคิล ตอนนี้เรามีคนสองหมื่นคนที่มาที่นี่หน่ะครับ

    ซอล : ไม่ต้องห่วงนะเซเลนส์ พวกเขาไม่มีอะไรหรอก ผมจัดการได้ ตอนนี้พวกนายไปพักด้านนั้นก่อนดีกว่านะ

    ไมเคิลพาคนของเขาราวๆสองหมื่นคนไปพักผ่อนแถวๆชายหาด

    ท่านครับ เราจะเอายังไงกับพวกเขาดีครับ

    เซเลนส์ : รับพวกเขาเอาไว้

    ทั้งสองหมื่นคนเลยเหรอครับ

    เซเลนส์ : คุณนอร์ดิกสั่งไว้ ให้ดูแลพวกเขา เอาหล่ะ ให้อาหารกับพวกเขาด้วย

    ครับผม

    ในขณะเดียวกัน เฟรย์อากับพรรคพวกของเธอก็ขี่ม้ามา พร้อมกับคาราวานสินค้าของเธอ ซอลเห็นเธอเข้าก็แปลกใจ รีบไปต้อนรับเธอในทันที

    ซอล : อ้าว คุณเฟรย์อาครับ มีธุระอะไรเหรอครับ

    เฟรย์อา : ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่เป็นห่วงนายหน่ะ ฉันเอาเสบียงส่วนหนึ่งมาให้หน่ะ

    ซอล : ขอบคุณมากครับ ว่าแต่ คุณไม่ทำงานเหรอวันนี้

    เฟรย์อา : ก็คุณเอลิซ่าสั่งให้ฉันมาช่วยนายนี่แหละ เอาเป็นว่าตามสบายนะ // จากนั้นเองเธอก็ไปจัดการเรื่องเสบียงให้กับคนของซอล

    ไมเคิล : ใครวะเพื่อน โคตรสวยเลยอ่ะ แฟนนายงั้นเหรอ

    ซอล : บ้าเหรอ นั่นคุณเฟรย์อา สมาชิกระดับสูงของสมาคมลับนะ

    ไมเคิล : ไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้านายจะสนใจผู้หญิงหน่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เปิดใจให้เธอหน่อยก็ดีนะเพื่อน // เขาพูดทิ้งท้ายจากนั้นก็จากไป

     

    ทางด้านของไซโซและเคจา พวกเขาทั้งคู่นำกำลังพลห้าหมื่นไปเสริมกำลังให้กับทหารฟิลล์บอน พวกเขาต้องเดินผ่านทะเลทรายอันร้อนระอุเพื่อไปยังจุดหมาย ดูท่าทางความร้อนจะฆ่าพวกเขาก่อนที่จะโดนทหารโซราบอลเล่นงาน

    ไซโซ : เฮ้อ ทะเลทรายนี่ร้อนเนอะพี่

    เคจา : นี่ใจเสาะจังเลย อย่าลืมสิเรายังต้องไปอีกไกลนะ

    ไซโซ : โอ๊ยตาย ถ้าเราไม่มีน้ำตอนนี้ เราจบเห่แน่ครับ

    เคจา : พี่รู้ พี่ก็หิวน้ำเหมือนกับนายนั้นแหละ

    แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เจอโอเอซิสขนาดใหญ่ มากพอที่จะเลี้ยงทหารของริงก้า ทหารริงก้าเห็นตอนนั้นไม่รอช้ารีบวิ่งไปยังโอเอซิสแห่งนั้นทันที แต่พวกเขาดันมาเจอกองโจรทะเลทหารซะก่อน พวกเขาทั้งสองฝ่ายเกือบจะปะทะกันแล้ว แต่ยังไงที่หัวหน้าของกลุ่มโจรได้ห้ามเอาไว้ก่อน จากนั้นเองหัวหน้าของกลุ่มโจรก็ไปเจรจากับทหารริงก้าในทันที

    ซิกนัส : สวัสดีครับ พวกคุณเป็นทหารริงก้าหรือเปล่าครับ

    ไซโซ : ใช่ครับ ตัวจริงเสียจริงเลยครับเนี่ย

    ซิกนัส : ขอบคุณสวรรค์ ขอเชิญพวกคุณไปพักผ่อนก่อน แล้วพวกคุณสองคนมากับผมได้หรือเปล่าครับ

    เคจา : ได้ค่ะ // ทหารของริงก้ารีบไปพักเหนื่อยที่โอเอซิสแถวนั้น จากนั้นเองซิกนัสก็พาไซโซกับเคจาไปยังเต้นท์ของเขาซึ่งมีแผนการรบวางไว้อยู่

    ซิกนัส : ตอนนี้ต้องบอกไว้เลยนะครับ พวกโซราบอลกำลังจะประชิดเมืองหลวงแล้ว ถ้าพวกมันมาถึง มันยึดได้แน่ๆ

    ไซโซ : ว่าแต่ พวกนายมาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ

    ซิกนัส : เรามาหาเสบียงกับน้ำดื่มเพิ่มเติมหน่ะครับ

    เคจา : ฉันว่า  ตอนนี้เราควรจะตัดกำลังพวกมันก่อนดีกว่านะ

    ซิกนัส : เราเคยทำมาแล้วครับ แต่ก็โดนทหารหญิงของพวกมันจัดการจนเละเลยครับ

    ไซโซ : ทหารหญิง ใครกันอย่างงั้นเหรอครับ

    ซิกนัส : ได้ยินว่าเธอชื่อสการ์เล็ต ลูกสาวนายพลนอร์ทหน่ะครับ // เคจาได้ยินชื่อถึงกับต้องตกตะลึง

    เคจา : เธอมาที่นี่ด้วยเหรอ ฉันจะจัดการเรื่องนี้ ตัดกำลังพวกมันแบบเดิมนี่แหละ ฉันรู้ว่าต้องทำยังไงกับเธอ

    ซิกนัส : ทำยังไงเหรอครับ // เคจายิ้มที่มุมปาก

     

    กลับมายังแคว้นเดลล์ หลังจากที่ผู้เฒ่าตาร์กสั่งให้ทหารบุกเข้าแนวรับของนายพลบูล นายพลบูลยิงปืนใหญ่ใส่ทหารของตาร์กสกัดเอาไว้ แต่ทหารของตาร์กก็ยังไงบุกเข้าไปเรื่อยๆราวกับสายน้ำหลาก

    ตาร์ก : ยิงปืนใหญ่ของเราใส่พวกมันบ้างสิ

    ผู้เฒ่าตาร์กสั่งให้ปืนใหญ่ยิงกดแนวรับของนายพลบูล แต่นายพลบูลขุดแนวรับเพื่อรับมือไว้ก่อนแล้ว ทำให้ปืนใหญของตาร์กทำอะไรไม่ได้มาก

    บูล : ถ้าพวกมันเข้ามาใกล้ ยิงปืนกลหมุนได้เลยนะ

    เมื่อทหารของตาร์กวิ่งเข้ามาในระยะปืนกล ปืนกลแบบหมุนก็ยิงสกัดพวกเขาเอาไว้ ทำให้ทหารของตาร์กแทบจะบุกเข้าไปไม่ได้เลย

    ตาร์ก : บ้าเอ้ย มันมีอาวุธแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

    ผมก็ไม่ทราบครับ ผมว่าเราถอยก่อนดีกว่านะครับ

    ตาร์ก : บ้าเอ้ย สั่งถอนกำลังก่อน ไว้ค่อยจัดการกับมันใหม่ // ทหารของตาร์กพากันถอนกำลัง แต่ทิ้งคนเจ็บเอาไว้ นายพลบูลสั่งทหารให้เคลียร์พื้นที่โดยรอบป้องกันไม่ให้พวกของตาร์กย้อนกลับมาโจมตี

    บูล : พวกมันถอนกำลังไปแล้ว ยึดอาวุธของพวกมันให้หมด

    ท่านครับ แล้วพวกที่บาดเจ็บจะทำยังไงหล่ะครับ

    บูล : ฆ่าให้หมด ถ้าใครมันคิดจะขัดขืน

    จากนั้นนายพลบูลก็เดินจากไป ปล่อยให้ทหารของเขาฆ่าทุกคนที่ขัดขืนเขา

     

    กลับมายังชายแดนแคว้นเดลล์ กลุ่มของอราชและโอลลี่ก็เดินทางมาเรื่อยๆ จนถึงชายแดนแคว้นริงก้าในจนได้ ในขณะนั้นเอา ทหารริงก้าก็เดินเข้ามาตรวจสอบกลุ่มของพวกเขา ว่าเป็นอันตรายต่อริงก้าหรือเปล่า

    พวกคุณเป็นใครกันอย่างงั้นเหรอ

    อราช : ผมเป็นชาวมอร็อค หนีมาจากการโจมตีของพวกโซราบอลหน่ะครับ

    โอลลี่ : ใช่ค่ะ พวกเราเป็นเพื่อนกับสมาชิกที่นี่หน่ะค่ะ

    พวกเราต้องขอค้นพวกคุณหน่อยหล่ะ

    พวกเขาทำการตรวจค้นอาวุธและของอันตรายของอราชกับโอลลี่เพิ่มเติม ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ให้ทั้งคู่ผ่านด่านไปได้ พวกเขามาถึงแคว้นริงก้าได้โดยสำเร็จซะที

    โอลลี่ : สำเร็จแล้ว ฉันต้องไปเจอคุณเอลิซ่าซะทีหล่ะ

    อราช : เอลิซ่า นายใหญ่ของกลุ่มสมาคมลับงั้นเหรอ

    โอลลี่ : ใช่ ฉันต้องไปรายงานสถานการณ์กับเธอหน่อยหล่ะ

    อราช : งั้นก็โชคดีนะ

    โอลลี่ : แล้วนายจะไปไหนต่ออย่างงั้นเหรอ

    อราช : ฉันก็ไม่รู้ ฉันยังไม่แน่ใจว่าจะเอายังไงต่อ

    โอลลี่ : ถ้านายยังคิดไม่ออก นายก็มากับฉันก่อนก็ได้นะ

    อราช : จะดีเหรอ เธอไม่ว่าเหรอ

    โอลลี่ : ไม่หรอก เราเจออะไรด้วยกันมาเยอะนี่นะ แค่นี้จะกลัวอะไรหล่ะ

    อราช : ได้สิ ขอบใจมากนะ

    และอีกฝากหนึ่ง กองทัพของฟีนด์ก็เคลื่อนพลมาอย่างสิ้นหวัง เนื่องจากทหารของเขาตายไปมากมาย ตอนนี้เขาแทบจะไม่เหลือกำลังใจอะไรในการรบอีกแล้ว

    ท่านครับ อีกไม่กี่อึดใจก็จะถึงริงก้าแล้วครับ

    ฟีนด์ : ฉันรู้ แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าจะยังไหวหรือเปล่านะ

    ท่านครับ ท่านอย่าเพิ่งยอมแพ้ตอนนี้สิครับ

    ฟีนด์ : ฉันไม่ได้ยอมแพ้ ฉันแค่เหนื่อยเท่านั้นเอง

    ผมเข้าใจครับ แต่ตอนนี้เรายังไม่ตายนี่ครับ

    ฟีนด์ : ขอบใจมากนะผู้หมวด ว่าแต่ตอนนี้ทหารเราเหลือแค่ไหนกันหล่ะ

    ตอนนี้เราเหลือทหารแค่ 700 กว่านาย แถมกระสุนของเราก็ใกล้จะหมดแล้ว

    ฟีนด์ : แล้วเสบียงของเราหล่ะ

    เหลือพอแค่ 2 วันครับ

    ฟีนด์ : แค่นั้นก็น่าจะพอแล้วหล่ะ อีกไม่นานเราก็จะถึงแล้วสินะ

    ครับท่าน

     

    กลับมายังกองทัพของโซราบอล ชายแดนแคว้นเดลล์ หลังจากที่กองทัพโซราบอลสั่งยิงปืนใหญ่ใส่พื้นที่แคว้นเดลล์ทั่วตารางนิ้ว จากนั้นไม่นานโซรอนก็สั่งให้กองทัพของเขาเข้าเหยียบแคว้นเดลล์ในทันที

    โซรอน : คูเปอร์ สั่งให้ทหารของเราบุกเข้าไป เราต้องยึดแคว้นเดลล์ใหได้

    คูเปอร์ : ได้ครับท่าน // คูเปอร์ขี่ม้าไปสั่งการทหารให้เข้าโจมตีแคว้นเดลล์ทันที

    หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็ถูกกองทัพและกองโจรของเดลล์โจมตีอย่างหนัก ทำเอาพวกเขาต้องตั้งขบวนใหม่เพื่อตอบโต้พวกมัน

    คูเปอร์ : ทหารม้า ตามฉันมาทางนี้ // คูเปอร์พาทหารม้าของเขาฝ่าแนวยิงของพวกมัน แล้วเข้าโจมตีทางด้านข้างที่การป้องกันด้อยกว่า วิธีนี้ทำให้คูเปอร์จัดการแนวรับของพวกมันเอาไว้ได้

    โซรอน : สหายเดลล์ทั้งหลาย ฉันกำลังจะไปหาแกแล้ว

    จากนั้นเอง ทหารของโซราบอลก็บุกเข้าไปยังแนวรับของพวกเดลล์ ผลักดันให้ทหารเดลล์ถอยกลับไปได้ พวกเขาจัดการทหารเดลล์ได้อย่างง่ายดาย

    ท่านครับ ตอนนี้เรายึดพื้นที่ตรงนี้ได้แล้วครับ เอายังไงต่อดีครับ

    คูเปอร์ : สั่งทหารม้า จัดการพวกที่คิดจะหนี อย่าให้พวกมันตั้งกำลังโต้กลับได้

    ทหารม้าของโซราบอลจัดการกับพวกที่กำลังจะถอยอย่างง่ายดาย ทหารแคว้ลเดลล์ระส่ำระส่ายอย่างหนัก จนต้องหนีกลับเข้าไปในเมือง

    อีกฝากหนึ่ง หลังจากที่ทหารของเอ็ดเวิร์ดได้ทำการพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ออกเดินทางเพื่อเข้าสำรวจแคว้นเดลล์ต่อไป พวกเขาได้รับคำสั่งให้สำรวจรอบเมืองและจัดการกลุ่มกบฏที่คิดจะต่อต้าน พวกเขานำกำลังสำรวจแถบนั้นทั้งวันทั้งคืน แต่ในขณะนั้นเอง พวกเขาก็โดนลอบโจมตีจากทหารที่ไม่ทราบฝ่าย พวกเขาต้องรีบหาที่หลบจากนั้นก็ยิงตอบโต้พวกมัน

    เอ็ดเวิร์ด : ทหาร อย่าให้พวกมันล้อมเราได้ โจมตีด้านข้างของพวกมัน

    เอ็ดเวิร์ดนำทหารของเขาฝ่าออกไป จากนั้นก็เริ่มจัดการพวกมันที่ด้านข้าง ทหารของเขาจัดการกับพวกมันได้อย่างง่ายดายเพราะมีอาวุธที่ทันสมัยกว่า จากนั้นไม่นานพวกมันก็ถอยกลับไป จากนั้นเอ็ดเวิร์ดก็รีบเคลียร์พื้นที่ในทันที

    ท่านครับ ไอ้หมอนี่มันยังไม่ตายครับ

    เอ็ดเวิร์ด : พาเขามาทางนี้ ฉันมีอะไรจะถามเขาหน่อย // ทหารคนนั้นลากตัวชายที่บาดเจ็บมาหาเอ็ดเวิร์ด

    เอ็ดเวิร์ด : พวกนายเป็นใคร แล้วสังกัดกองทัพไหนเหรอ

    พวกเรา พวกเราเป็นกลุ่มกบฎหน่ะ

    เอ็ดเวิร์ด : งั้นเหรอ ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้ใครกำลังคุมแคว้นเดลล์อยู่หน่ะ

    ตอนนี้แคว้นเดลล์ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคน 5 กลุ่มครับ

    เอ็ดเวิร์ด : เป็นพวกไหนบ้างหล่ะ

    ผมก็ไม่รู้ ผมก็แค่ชาวบ้านธรรมดาที่อยากได้เงินหน่ะครับ

    เอ็ดเวิร์ด : ปล่อยมันไปก่อน ท่าทางเขาจะไม่รู้อะไรมากเท่าไหร่นะ

    จะดีเหรอครับท่าน

    เอ็ดเวิร์ด : ไม่เป็นไรหรอกน่า ปล่อยเขาไปเถอะ // ทหารของเอ็ดเวิร์ดจำใจต้องปล่อยตัวชายคนนั้นกลับไป

     

    กลับมายังฟิลล์บอน ในตอนนั้นเองสการ์เล็ตได้รับคำสั่งให้ไปเสริมกำลังกับนายพลนอร์ทเพื่อเตรียมเข้าโจมตีเมืองหลวงที่กำลังจะแตก ปืนใหญ่ของโซราบอลยิงเข้าเมืองทั้งวันทั้งคืน จนชาวบ้านในนั้นระส่ำระส่ายไม่เป็นอันทำอะไร จากนั้นไม่นาน สการ์เล็ตนำกำลังพลมารวมกับนายพลนอร์ทในทันที

    สการ์เล็ต : ท่านพ่อ เรียกหนูมามีอะไรหรือเปล่าคะ

    นอร์ท : ตอนนี้เรากำลังจะบุกเข้าไปในเมืองหลวงแล้ว ฉันจะใช้ทหารทั้งหมดที่มีเพื่อบุกเข้าไป

    หลังจากนั้นไม่นาน ประตูของเมืองหลวงแคว้นฟิลล์บอนก็แตกแล้ว ทหารของโซราบอลก็โห่ร้องดีใจกันยกใหญ่

    พอลลี่ : ท่านคะ ตอนนี้ประตูเมืองเปิดเรียบร้อยแล้วค่ะ

    นอร์ท : เยี่ยม สั่งทหารของเราบุกเข้าไป

    หลังจากที่มีคำสั่ง สการ์เล็ตกับพอลลี่ก็นำกำลังพลของเธอบุกเข้าไปในเมือง จากนั้นพวกเธอก็จัดการทหารฟิลล์บอนที่อยู่ในเมืองอย่างดุเดือด ทหารฟิลล์บอนพยายามป้องกันเมืองอย่างเต็มที่แต่กองทัพโซราบอลมีมากกว่า สุดท้ายพวกเขาก็ต้องถอยทัพออกจากเมืองไป

    สการ์เล็ต : พอลลี่ จัดการล้อมพวกมันเอาไว้ อย่าให้มันหนีไปได้

    พอลลี่ : แล้วพวกชาวบ้านที่เหลือจะทำยังไงคะ

    สการ์เล็ต : อย่าทำอะไรชาวบ้านเด็ดขาด

    หลังจากที่พอลลี่ได้รับคำสั่ง เธอก็นำทหารของเธอเข้าจัดการพวกฟิลล์บอนที่กำลังหนี ทหารฟิลล์บอนบางส่วนก็เริ่มวางอาวุธยอมแพ้กันแล้ว ทำให้พวกโซราบอลเข้ายึดเมืองหลวงได้อย่างสมบูรณ์แบบทันที

     

    กลับมายังคฤหาสน์ของมาร์ธ่า มาร์ธ่าและซาร่าได้แต่เฝ้าไข้ของนายพลเนโรอยู่ไม่ห่าง  ในขณะที่นายพลเนโรก็ยังไม่ได้สติอะไรเลย ซิลเวียร์ยังคงคอยรักษาตามอาการให้เนโรอยู่เรื่อยๆ

    มาร์ธ่า : เมื่อไหร่เนโรเขาจะฟื้นเนี่ยจ๊ะ

    ซิลเวียร์ : ตอนนี้ฉันกำลังจัดยาใหม่ให้ท่านนายพลเขาอยู่หน่ะค่ะ

    ซาร่า : เขาหลับไปแบบนี้มาวันนึงเต็มๆแล้วนะ

    ซิลเวียร์ : ท่านนายพลเริ่มอ่อนแอลงมาก แถมอายุก็เยอะแล้วด้วยค่ะ

    มาร์ธ่า : เฮ้อ ลูกเอ้ย เมื่อไหร่จะเลิกทำสงครามนี่ซะทีนะ

    ซาร่า : แม่คะ เนโรเขาก็ทำตามหน้าที่เขาอยู่นะคะ

    ซิลเวียร์ : ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หลังจากจบตรงนี้แล้วท่านนายพลอาจจะทำอะไรไม่ได้ไปอีกพักนึงหล่ะค่ะ

    มาร์ธ่า : เฮ้อ ก็ขอให้เขาฟื้นขึ้นมาให้ได้ก่อนดีกว่านะ

     

    กลับมายังแคว้นเดลล์ แอนตาร์กติกกับแพททรีเซียเดินสะกดรอยตามชายที่ชื่ออิริคไปยังซอยลึกลับแห่งหนึ่ง จนกระทั่งอิริคไปหยุดอยู่กับชายคนหนึ่ง จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็เริ่มเจรจากัน ในขณะที่แอนตาร์กติกกับแพททรีเซียก็แออบฟังอยู่ห่างๆ

    อิริค : นี่ นักโทษที่นายต้องการก็ได้แล้ว แล้วของที่ฉันต้องการหล่ะ

    ไม่ต้องห่วง คุณอเล็กซ์สกี้จะให้แกเอง

    แพททรีเซีย : อเล็กซ์สกี้ ไอ้หมอนี่มันเป็นใครงั้นเหรอ

    แอนตาร์กติก : อเล็กซ์สกี้งั้นเหรอ อ้อ ฉันนึกออกแล้ว

    แพททรีเซีย : เธอนึกอะไรออกงั้นเหรอ

    แอนตาร์กติก : เรื่องนี้ต้องไปถามโทมารอฟเขาหน่ะ

    แพททรีเซีย : โทมารอฟ เขาเป็นใครอย่างงั้นเหรอ

    แอนตาร์กติก : เขาเป็นผบ.ทัพเรือแห่งจักรวรรดิรัสเซียหน่ะ

    ในระหว่างนั้นเอง พวกเขาทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน จากนั้นก็ถือปืนไปทางแอนตาร์กติกและแพททรีเซีย

    แอนตาร์กติก : รีบไปจากที่นี่กันดีกว่า ต้องเจอตัวโทมารอฟหน่อยหล่ะ

    แพททรีเซีย : ยินดีเลย

    จากนั้นทั้งคู่ก็ค่อยๆย่องออกไปจากที่เกิดเหตุ ก่อนที่สองคนนั้นจะตามจับเธอได้ทัน

    อีกด้านหนึ่งของแคว้นเดลล์ เมื่อหน่วยของโทมารอฟมาถึงท่าเรือลึกลับ พวกเขาก็สำรวจพื้นที่แถวนั้นก่อนที่จะเตรียมตัวเข้าโจมตี

    ท่านครับ ตอนนี้หน่วยของเราปิดล้อมท่าเรือนั่นได้แล้วครับ

    โทมารอฟ : บุกเข้าไปได้เลย

    ทหารรัสเซียบุกเข้าไปยังท่าเรือแห่งนั้น ฆ่าคนของอเล็กซ์สกี้ตายไปมากมาย พวกมันที่เหลือเมื่อเห็นทหารรัสเซียก็พากันทิ้งของ จากนั้นก็พยายามหนีเข้าไปในป่า

    โทมารอฟ : จับพวกมันให้หมด อย่าให้พวกมันรอดไปได้

    ทหารรัสเซียบุกเข้าไปถึงด้านในท่าเรือ จากนั้นพวกเขาก็ทำการค้นหาอาวุธที่ถูกขโมยมา เมื่อพวกเขาตรวจสอบ ก็พบว่าอาวุธเหล่านั้นเหลือแค่บางส่วน อีกส่วนหนึ่งหายไปอย่างไร้ร่องรอย

    โทมารอฟ : อาวุธอีกส่วนหายไปไหน ลากตัวคนของมันมาตรวจสอบสิ // ทหารรัสเซียจับตัวพวกมันมา จากนั้นก็เริ่มเค้นข้อมูลจากมัน เขาทรมานชายคนนั้นจนมันคายความลับออกมาให้โทมารอฟ

    ผมบอกแล้ว อาวุธที่เหลือตอนนี้ถูกส่งไปยังกองทัพของนายพลคนหนึ่งหน่ะ

    โทมารอฟ : นายพลคนไหนวะ

    ผมก็ไม่รู้ ผมไม่ได้รับผิดชอบตรงส่วนนั้น

    โทมารอฟ : นี่ สืบหาให้ได้ว่าอาวุธที่เหลือไปส่งให้กับนายพลคนไหน ฉันไม่สนหรอกนะคนที่อยู่เบื้องหลังจะเป็นใคร

    รับทราบครับผม

     

    ณ คฤหาสน์ของนายพลจอร์จ วันนี้นายพลจอร์จจะต้องเข้าไปร่วมประชุมกับนายทหารอังกฤษคนอื่นๆ เพื่อหารือกันว่าจะทำอย่างไรต่อหลังจากที่พวกโซราบอลบุกเข้ามา เขากับที่ปรึกษาของเขาคุยกันระหว่างที่รอรถม้ามารับ

    จอร์จ : นี่ นายว่าพวกโซราบอลจะบุกเข้ามาถึงแคว้นเดลล์ได้หรือเปล่า

    ผมว่า อาจจะได้นะครับ พวกนั้นมีกำลังหลายแสนเลยนะครับ

    จอร์จ : แล้วใครเป็นคนนำทัพมางั้นเหรอ

    นายพลโซรอน น้องชายนายพลเนโรครับ

    จอร์จ : เฮ้อ ที่แท้ก็ส่งแค่น้องชายมา เมื่อไหร่รถม้าจะมาเนี่ย

    คงอีกไม่กี่อึดใจหล่ะครับ

    และในทันใดนั้น รถม้าคันงามก็มารับพวกเขาทั้งคู่พอดี

    จอร์จ : มาซะที เออนี่ เอาชาร้อนมาให้ฉันดื่มด้วยนะ

    ได้ครับท่าน

    และอีกฝากหนึ่งของเมือง แมทธิวกับเพื่อนใหม่ชาวรัสเซียของเขาที่เพิ่งจะเมาอย่างเต็มที่ แมทธิวอาสาจะพาชายคนนั้นกลับไปส่งที่บ้าน เพื่อที่จะล้วงความลับอะไรบางอย่างจากเขา

    ไม่นึกเลยว่าเราจะเข้าขากันได้ดีขนาดนี้มิคาอิล

    แมทธิว : นั่นสินะ นายเมามากแล้ว กลับไปพักก่อนดีกว่า

    ขอบใจนายมากเลยหว่ะพวก

    แมทธิว : ว่าแต่บ้านของนายอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ

    อยู่ตรงถนนด้านหน้า เลี้ยวขวาไปได้เลย

    แมทธิวแบกชายคนนั้นไปยังบ้านหลังหนึ่ง จากนั้นก็เปิดประตูบ้านให้กับชายคนนั้น จากนั้นชายคนนั้นก็เข้าบ้านไป

    นี่มิคาอิล เอาไว้ว่างๆฉันจะพานายไปเยี่ยมคุณอเล็กซ์สกี้เขานะ

    แมทธิว : ขอบใจนายมากๆนะ

    หลังจากที่ชายคนนั้นปิดประตูบ้าน แมทธิวก็บันทึกข้อมูลของเขาที่เขาได้มา เตรียมส่งไปหาพ่อของเขาในทันที

    แมทธิว : อเล็กซ์สกี้ แกเป็นใครกันนะ ฉันต้องรู้ให้ได้

     

    และที่โบสถ์ลึกลับที่เดิมในแคว้นเดลล์ สี่พี่น้องกลุ่มเดิมยังคงรอข่าวจากพี่ใหญ่ของพวกเขา ที่กำลังเดินทางไปยังริงก้า พวกเขารออย่างใจจดใจจ่อ และกลัวว่าพี่ของพวกเขาจะเป็นอะไรไประหว่างเดินทาง

    เดลต้า : เฮ้อ พี่เราก็ไปตั้งนานแล้ว เมื่อไหร่จะกลับมาหล่ะเนี่ย

    ชาร์ลี : เดี๋ยวเขาก็กลับมาเองแหละ จะกลัวอะไรหล่ะ

    อัลฟ่า : แต่ถ้ายิ่งช้า พวกศาสนจักรจะตามล่าเราง่ายขึ้นนะ

    เบต้า : เอาน่า ยังไงตอนนี้พวกศาสนจักรก็ยังไม่รู้หรอกว่าเราอยู่ที่นี่

    อัลฟ่า : นายแน่ใจได้ยังไง มีใครในนี้แน่ใจงั้นเหรอ

    เดลต้า : นี่ อย่าเพิ่งตีโพยตีพายไปสิ มันยังไม่มาที่นี่ซะหน่อย

    เบต้า : นั่นสิ ตอนนี้ห่วงเรื่องของพี่เราดีกว่านะ

    ชาร์ลี : โอเค งั้นฉันขอไปจัดการอะไรของฉันก่อนดีกว่า

     

    กลับมายังแคว้นบาส์ก เกาะที่พักของโรส ในตอนนั้นเองลอเรนซ์ก็นำกำลังคนมาเพื่อทำการเกณฑ์ชาวบ้านเพื่อเป็นโจรสลัดเข้าต่อต้านรัฐบาล หลังจากที่เธอลงมายังเกาะของโรส ชาวบ้านแถวนั้นก็มารอต้อนรับเธอในทันที

    ลอเรนซ์ : สวัสดีทุกท่าน หวังว่าทุกท่านคงจะสบายดีกันนะ

    โรส : คุณลอเรนซ์คะ มีธุระอะไรอย่างงั้นเหรอคะ

    ลอเรนซ์ : แหม่ จะไม่ต้องรับกันหน่อยเหรอจ๊ะโรส วันนี้ฉันมาเกณฑ์ชาวบ้านเพื่อเป็นโจรสลัดหน่ะ ฉันมีทองมาจ่ายด้วย

    แพท : โจรสลัดงั้นเหรอ น่าสนใจดีนี่ ว่ามั้ยเมด

    เมด : นี่ ว่าแต่เราต้องไปรบกับใครงั้นเหรอคะ

    ลอเรนซ์ : พวกโซราบอล พวกต่างชาติที่รังแกชาวบ้านหน่ะ

    เมด : น่าสนใจจัง ฉันเองก็อยากจะไปลองดูเหมือนกันนะ

    แพท : นี่ เธอจะลืมฉันได้ยังไง ฉันขอไปด้วยสิ

    โรส : นี่ พวกเธอคิดดีแล้วจริงๆงั้นเหรอ

    ลอเรนซ์ : แหม่ พวกเธอน่าจะเป็นแม่สาวนักสู้สินะ ถ้าพวกเธออยากเป็น พวกเธอก็มาได้เลย

    และอีกด้าหนึ่งของเกาะ สกายกับอาร์มเมอร์ก็สังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ดูว่าโจรสลัดพวกนั้นเป็นใคร

    อาร์มเมอร์ : นี่ สกาย นั่นลอเรนซ์แห่งบาส์กหรือเปล่าหน่ะ

    สกาย : น่าจะใช่ ไม่ผิดตัวหรอก ฉันเคยเห็นในใบปลิวอยู่

    อาร์มเมอร์ : แล้วเราจะเอายังไงต่อหล่ะ จะจัดการมันเลยหรือเปล่า

    สกาย : ตอนนี้ยังก่อน เกาะของพวกนั้นน่าจะอยู่แถวๆนี้แหละ ตอนนี้เราก็พยายามรวบรวมข้อมูลเพื่อตามล่าพวกมันดีกว่า

    อาร์มเมอร์ : เข้าใจแล้ว อยากได้อะไรก็สั่งมาเลยเพื่อน

     

    กลับมายังแคว้นริงก้า ในขณะที่นอร์ดิกกำลังจัดเตรียมกองพลเพื่อเสริมทัพให้กับพรรคพวกคนอื่นๆของเขา ในขณะนั้นเอง ชายคนหนึ่งที่ดูท่าทางลึกลับก็พยายามจะมาขอเข้าพบเขา ทหารริงก้าพยายามล้อมกรอบเขาไว้ แต่นอร์ดิกเดินเข้ามาเพื่อที่จะขอคุยกับเขาเอง ทหารคนอื่นๆจึงต้องหลีกทางให้กับนอร์ดิก

    นอร์ดิก : นี่คุณเป็นใคร ต้องการอะไรจากผมงั้นเหรอ

    ผมเป็นสมาชิกขององค์กร นกฮูกนำสาสน์ของอาร์เธน่า ต้องการขอเข้าพบกับผู้นำริงก้าหน่ะ

    นอร์ดิก : ผมนี่แหละผู้นำของริงก้า ว่าแต่คุณมีธุระอะไรกับผมอย่างงั้นเหรอ

    ผมว่าเรามีอะไรต้องคุยกันหน่อยหน่ะครับ ไม่ว่าอะไรนะครับถ้าคุณจะไปพบผมที่สวนตรงนั้นจากนั้นชายคนนั้นก็เดินนำหน้าไปก่อนเพื่อไปรอนอร์ดิก

    อาบาตู : จะเอายังไงต่อดีครับคุณหนู

    นอร์ดิก : ผมจะไปพบกับเขาเอง // นอร์ดิกเดินตามชายลึกลับคนนั้นไปยังสวนในวังของเขา เพื่อเจรจาอะไรบางอย่างกัน

    ====================================================================

    ชายลึกลับคนนี้ดูมีอะไรที่นอร์ดิกต้องการจะรู้ แต่มันจะเป็นเรื่องอะไร แล้วกองทัพโซราบอลจะเข้ายึดแคว้นเดลล์ได้หรือไม่ ติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยครัช


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×