ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Time To Kill Nazi - ข้ามเวลาฆ่านาซี

    ลำดับตอนที่ #23 : แผนการใหม่ของฮัมบูร์ก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 108
      9
      28 ก.ค. 61

    เครื่องบินของเยอรมันทิ้งระเบิดปูพรมใส่ทั่วทุกหัวมุมของกรุงลอนดอน ประชาชนแถวนั้นต้องรีบหนีระเบิดกันให้วุ่น และในขณะเดียวกัน ที่สถานทูตสหรัฐในกรุงลอนดอน พวกเขาก็รีบไปหลบที่หลุมหลบภัยอย่างเร่งรีบ

    ธิน : ไม่นึกเลยว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดจะน่ากลัวขนาดนี้

    โอ๊ค : นั่นดิ แบบนี้พวกเราตายกันหมดแน่ๆ ว่าแต่พวกเราลงมากันหมดแล้วนะ

    แซค : น่าจะครบแล้วหล่ะ ตอนนี้ผู้คนส่วนใหญ่คงไปหลบที่รถไฟใต้เดินหน่ะ

    อเล็กซ์ : น้าแคทเทอรีนคะ แล้วลุงโจสเขาไปไหนหล่ะคะ

    แคทเทอรีน : เขาบอกว่าไปทำธุระด้านนอกหน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ

    เอม : โอ๊ย เมื่อไหร่มันจะหยุดซะทีเนี่ย รำคาญจะตายอยู่แล้ว

    ออย : เธอก็เดินออกไปให้โดนระเบิดข้างนอกเลยสิจ๊ะแหม่

    โซเซีย : ฉันได้ยินมาว่า ด้านนอกกำลังรบกันใหญ่เลยตอนนี้

    นากะ : นั่นสิ กองทัพอากาศอังกฤษคงจะต้องทำอะไรบางอย่างแล้วหล่ะ

    และในขณะเดียวกัน โจสก็เข้ามาในหลุมหลบภัยพอดี ทำเอาแคทเทอรีนเป็นห่วงมากๆ

    แคทเทอรีน : คุณไปไหนมาคะเนี่ย ฉันเป็นห่วงแทบแย่

    โจส : ผมไปช่วยเจ้าหน้าที่คนอื่นหนีลงหลุมหลบภัยหน่ะ

    นากะ : แล้วตอนนี้ด้านนอกเป็นยังไงบ้างหล่ะครับ

    โจส : หนักเลยตอนนี้ พวกเยอรมันถล่มไปทุกที่เลย

    แซค : ผมว่า งานนี้พวกมันคงเจาะจงสถานที่สำคัญๆแน่ๆ

    โอ๊ค : เฮ้อ แล้วนี่มีใครออกไปคุมสถานการณ์หรือยังครับ

    โจส : ตอนนี้ยังไม่มีใครหรอก ไม่มีใครกล้าออกไปตอนนี้เลย

    โซเซีย : เอ๊ะทุกคน ผมว่าเสียงเหมือนจะสงบแล้วนะครับเนี่ย

    จากนั้นเอง พวกเขาก็เดินออกไปด้านนอก ก็พบว่าพวกมันได้ค่อยๆกลับไปแล้ว

    ธิน : สงสัยพวกมันคงจะกลับไปใส่อาวุธใหม่หล่ะมั่ง

    เอม : ห่ะ หมายความว่าพวกมันจะกลับมาอีกครั้งอย่างงั้นเหรอ

    ออย : อย่าเพิ่งคิดมากไปดีกว่า ตอนนี้เรารอดูสถานการณ์ก่อนดีกว่า

    นากะ : ตอนนี้ทัพอากาศอังกฤษหายไปไหนกันหมดนะ

    ที่สนามบินแถบชายแดน โอแลนสั่งให้นักบินทุกคนขึ้นเครื่องบิน เพื่อปกป้องน่านฟ้าของอังกฤษ ในตอนนั้นเองเครื่อง spitfire ของอังกฤษพยายามต้านทานเครื่อง ME ของเยอรมัน ซึ่งลำหนึ่งเมอร์ลินเป็นคนขับ เขา dogfight ยิงเครื่องของอังกฤษอย่างไม่ยั้ง แต่มีเครื่องลำหนึ่งพยายามไล่ตามเขามา

    บ้าเอ้ย จะตามขึ้นมาถึงเมื่อไหร่หล่ะเนี่ย

    เมอร์ลินขับเครื่องบินหายเข้าไปในกลีบเมฆ จากนั้นก็พุ่งลงมายิงเครื่องบินลำนั้นจนตก แล้วก็บินฉวัดเฉวียนอีกหลายทาง แต่ในตอนนั้นเอง ก็เกิดเหตุขัดข้องขึ้นมา

    เฮ้อ น้ำมันหมดอีกหล่ะ ฉันไปดีกว่า

    เมอร์ลินขับเครื่องบินของเขากลับฐานไป ในขณะนั้นเอง มิลเลอร์ก็มานั่งรอเขาอยู่ตรงลานบินพอดี เมื่อเครื่องบินลงจอด เขาก็ลงมาจากเครื่องทันที

    เมอร์ลิน : อ้าว นี่นายไม่ได้ไปไหนเหรอวันนี้หน่ะ

    มิลเลอร์ : วันนี้ก็ไม่ได้ไปไหนหรอก เป็นยังไงบ้างวันนี้

    เมอร์ลิน : ก็เรื่อยๆหว่ะ พวกอังกฤษอ่อนชะมัดเลย

    มิลเลอร์ : เออ ให้มันได้อย่างงี้ตลอดนะ ว่าแต่ ฮัมบูร์กได้ติดต่อมาบ้างหรือเปล่า

    เมอร์ลิน : เธอแค่อยากรู้ว่าเวลาออกบินถล่มกี่โมงเท่านั้นแหละ

    มิลเลอร์ : งั้นเหรอ เธออยากรู้ไปทำไมหล่ะ ว่าแต่กองเรือของเธออยู่ที่ไหนหล่ะ

    เมอร์ลิน : น่าจะที่ไหนซักแห่งแถวทะเลเหนือหล่ะมั้ง เออนี่ ฉันต้องไปก่อนหล่ะ

    มิลเลอร์ : เออๆ โชคดีนะนาย

    ณ ที่ไหนซักแห่งในทะเลเหนือ ฮัมบูร์กประจำการอยู่บนเรือประจัญบาน H-39 ที่เธอตั้งเป็นเรือธงของเธอ เธอกำลังรอเวลาที่จะบุกโจมตีอังกฤษอยู่

    ท่านฮัมบูร์กครับ ผมนาวาตรีซีซาร์ มารายงานตัวครับ

    ฮัมบูร์ก : มาช้าไปหน่อยนะ ว่าแต่เรือบรรทุกเครื่องบินที่ฉันให้เตรียมหล่ะ

    ครับ เรือบรรทุกเครื่องบินและเครื่องบินที่ท่านต้องการพร้อมแล้วครับ

    ฮัมบูร์ก : ดีมาก ตอนนี้เหลือแค่รอเวลาเท่านั้นแหละ

    ว่าแต่ ทำไมท่านต้องใช้พลร่มด้วยหล่ะครับ

    ฮัมบูร์ก : ฉันว่าจะบุกเข้ายึดพระราชวังบัคกิ้งแฮมหน่ะ

    แต่ผมว่า การทำแบบนี้มันจะเสียทหารโดยเปล่านะครับ

    ฮัมบูร์ก : ฉันต้องการให้พวกมันยอมแพ้โดยเร็วหน่ะ ต้องโจมตีในจุดกึ่งกลางของมันเลย

    หวังว่ากองเรือของอังกฤษจะไม่ตรวจเจอพวกเราก่อนนะครับ

    ฮัมบูร์ก : ตอนนี้ก็ต้องหวังพึ่งหน่วยข่าวกรองของเราด้วยส่วนหนึ่งหล่ะ เอาหล่ะ ทุกคนไปประจำที่ได้แล้ว

    กลับมายังสนามบินอังกฤษแถบชายแดนอีกครั้ง คราวนี้เครื่องบินของอังกฤษกลับมาในสภาพที่ยับเยิน โอแลนเห็นแล้วแทบคลั่ง เพราะทำไมเครื่องบินเยอรมันถึงเก่งกาจได้เพียงนี้

    โอแลน : ดูเหมือนว่า เราใกล้จะแพ้สงครามทุกทีแล้วสินะ

    ท่านครับ ทำไมถึงพูดแบบนี้หล่ะครับ

    โอแลน : ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่พูดเกินจริงไปหน่อยหน่ะ

    ว่าแต่เครื่องบินใหม่เป็นยังไงบ้างครับ

    โอแลน : ตอนนี้ฉันกำลังปรับปรุงอยู่ แต่ตอนนี้ พวกนายต้องพึ่งฝีมือและความกล้าของพวกนายไปก่อน

    ผมได้ยินว่า นักบินอเมริกาจะมาช่วยเรารบแล้วนี่ครับ

    โอแลน : นั่นสิ แต่นั่นยังอาจช่วยอะไรไม่ได้มากหรอก

    ในขณะเดียวกัน การโจมตีระลอกสองก็เริ่มขึ้น พวกนักบินก็เตรียมขึ้นบินรอบสอง เพื่อปกป้องน่านฟ้าอังกฤษจากพวกเยอรมัน

    ในขณะเดียวกัน ในลอนดอน เจลามี่ขับรถอยู่บนถนนหลังจากที่การระเบิดยุติลงชั่วคราว เขาพยายามจะกลับไปที่บานของเขา แต่ในขณะนั้นเอง เขาก็เห็นคนบาดเจ็บจากเหตุระเบิดมากมาย เขาจึงต้องลงจากรถเพื่อไปช่วย

    เจลามี่ : เป็นยังไงบ้างครับ ทำใจดีๆไว้นะครับ // เขากับคนอื่นๆช่วยกันแบกร่างของคนเจ็บไปรักษาอยู่เรื่อย สภาพในตอนนั้นมีแต่ซากศพ คราบเลือด และเสียงร้องไห้ดังไม่ขาดสาย ในขณะเดียวกัน ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาสะกิดที่เสื้อเขา

    พี่ขา ตามหาแม่ให้หนูที

    เจลามี่ : ไม่ต้องห่วงนะ พี่จะตามหาแม่ให้เธอเอง

    จากนั้นเอง เจลามี่ก็จูงมือเด็กน้อยคนนั้นไป ตามหาแม่ให้เธอ แต่ในตอนนั้นเธอก็พบเห็นแม่ที่กำลังร้องไห้หาลูกอยู่ พร้อมกับกองซากศพอีกมากมาย

    หนูจะได้เจอแม่หนูมั้ยคะ

    เจลามี่ : ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวก็คงเจอแล้วหล่ะ

    แต่ในตอนนั้นเอง เด็กผู้หญิงคนนั้นก็เจอแม่ของเธอ แต่เธอนอนจมกองเลือด เธอวิ่งเข้าไปหาแม่เธอแต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร แม่ของเธอก็สิ้นใจอยู่ตรงนั้นแล้ว เด็กคนนั้นร้องไห้อยู่นาน จนเจลามี่ต้องไปปลอบใจเธอ

    เสียใจด้วยนะหนู แม่เธอไปดีแล้ว

    หนูไม่มีแม่อีกแล้ว

    ไม่ต้องห่วงนะหนู ยังไงแม่เขาจะอยู่ในใจหนูเสมอนะ

    กลับมายังเยอรมัน ซาบอนทำงานที่นี่มาได้หลายเดือนแล้ว งานที่เขาได้รับคือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานทูตเบลเยี่ยม ในเยอรมนี และในวันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังนั่งทำงานอยู่ มีนายทหารเยอรมันคนหนึ่งต้องการอยากพบเขา จึงเดินเข้าห้องมาหาเขาทันที

    สวัสดีคุณซาบอน

    ซาบอน : สวัสดีครับท่าน วันนี้มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ

    ผมอยากให้คุณช่วยสืบความลับของพวกต่อต้านในประเทศคุณให้หน่อยหน่ะ

    ซาบอน : ว่าแต่ ทำไมท่านถึงไม่ไปตามที่เบลเยี่ยมหล่ะครับ

    ผมได้ยินมาว่าหัวหน้าของพวกมันมากบดานที่เยอรมันหน่ะ

    ซาบอน : ห่ะ มันกล้ามากเลยนะครับเนี่ย

    ใช่แล้วหล่ะ ผมอยากให้คุณช่วยหน่อย นี่คือค่าจ้างของคุณนายทหารคนนั้นยื่นซองเงินไปให้

    ซาบอน : วางใจได้เลยครับ รอฟัข่าวดีจากผมได้เลย

    ยังไงก็ขอให้โชคดีหล่ะจากนั้นพวกเขาก็เดินออกจากห้องไป

    กลับมายังอังกฤษ ที่บ้านพักสุดหรูริมทะเลแห่งหนึ่ง หลังจากที่จูเลียสพาเคทหนีมาได้ พวกเขาทั้งสองคนก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่นั่น เนื่องจากว่าบ้านหลังนี้เป็นของจูเลียสมานาน แต่เขาไม่เคยมาซักที

    เคท : นี่ จูเลียส เมื่อไหร่คุณจะไปพบพ่อคุณซะทีหล่ะ

    จูเลียส : ผมไม่รู้ว่าท่านจะคิดยังไงกับผมตอนนี้

    เคท : นี่จูเลียส คุณต้องเข้มแข็งไว้สิ พ่อคุณคงอยากเจอคุณมากนะคะ

    ในขณะเดียวกัน มีชายแก่คนหนึ่งเดินมาสำรวจแถวบ้าน อยู่ดีๆเขาก็ไขกุญแจเข้ามาในบ้านได้ จูเลียสคว้าปืนออกไปดู ก็พบว่าเป็นคนที่เขารู้จัก

    จูเลียส : อ้าว พ่อบ้านฮอร์ค คุณมาที่นี่ได้ยังไงครับ

    ฮอร์ค : คุณหนูครับ ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอคุณหนูอีก

    เคท : เขาเป็นใครอย่างงั้นเหรอคะ

    จูเลียส : เขาเป็นพ่อบ้านที่บ้านพ่อผมหน่ะครับ

    ฮอร์ค : ตอนนี้พ่อคุณกำลังป่วย เขาเรียกร้องตามหาแต่คุณหนู เขาอยากให้คุณหนูกลับบ้านหน่ะครับ

    จูเลียส : ห่ะ พ่อเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ

    ฮอร์ค : พ่อนอนป่วยตั้งแต่คุณหนูออกจากบ้านไปหน่ะครับ กรุณรากลับบ้านเถอะนะครับ

    เคท : จูเลียส คุณต้องกลับไปหาพ่อคุณเดี๋ยวนี้นะคะ

    จูเลียส : แต่ว่า!!

    เคท : ถ้าคุณไม่ไป ฉันจะลากคุณไปเอง พ่อคุณกำลังรอคุณอยู่นะคะ

    จูเลียส : ก็ได้ คุณฮอร์คครับ พาผมไปพบพ่อทีครับ

    ฮอร์ค : ได้เลยครับ ขึ้นรถมาเลยครับ

    ฮอร์คพาทั้งคู่ไปขึ้นรถที่จอดอยู่ แล้วรีบขับออกไปทันที

    ที่อิตาลี หลายเดือนผ่านไป นูโวร่าเธอเป็นแกนนำหลักในการกวาดล้างผู้ต่อต้านในพื้นที่ ในขณะเดียวกัน เธอได้รับรายงานใหม่จากลูกน้องของเธอ ทำเอาเธอตื่นเต้นมากๆ

    นูโวร่า : มีอะไรจะคุยอย่างงั้นเหรอ ว่ามาสิ

    ตอนนี้เราได้เบาะแสสำคัญของแกนนำกลุ่มแล้วครับ

    นูโวร่า : แล้วตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหนหล่ะ

    พวกมันกำลังจะหนีออกจากชายแดนไปยังกรีซ ผ่านไปแอฟริกาครับ

    นูโวร่า : งั้นรีบเสริมกำลังที่ชายแดน ห้ามไม่ให้พวกมันออกไปเด็ดขาด

    แล้วมีอีกเรื่องที่ต้องแจ้งครับ

    นูโวร่า : มีอะไรอีกก็ว่ามาสิ

    เดือนหน้าคุณต้องไปที่เยอรมันอีกครั้งครับ

    นูโวร่า : ทำไมเหรอ จะให้ฉันไปทำอะไรหล่ะ

    ไปเจรจาเรื่องการส่งกำลังมาช่วยอิตาลีทำสงครามหน่ะครับ

    นูโวร่า : งั้นเหรอ แค่นี้เอง เดี๋ยวฉันจัดการให้

    ผ่านไปหลายเดือน อลันยังคงสร้างเครื่องถอดรหัสของตัวเอง โดยที่ไม่ยอมหยุดพัก โดยที่คาริน่ามาช่วยเขาดัดแปลงบ่อยๆ ซึ่งจริงๆแล้วคาริน่าเองเป็นคนช่วยทำงานแทนเขาในการถอดรหัส

    คาริน่า : เป็นยังไงบ้างคะ เครื่องถอดรหัสของคุณ

    อลัน : ตอนนี้ผมพยายามดัดแปลงอยู่หน่ะ

    คาริน่า : ฉันว่า คุณควรจะพักผ่อนบ้างนะคะ

    อลัน : ไม่ได้หรอกครับ พวกเยอรมันกำลังไล่ฆ่าพวกเราอยู่

    คาริน่า : ตอนนี้ฉันกำลังตามแกะรหัสกองเรือเยอรมันต้องสงสัยลำหนึ่งอยู่ค่ะ

    อลัน : กองใหญ่มากหรือเปล่าหล่ะครับ

    คาริน่า : ค่อนข้างใหญ่พอสมควรค่ะ เท่าที่ฉันเดานะคะ

    อลัน : ถ้างั้น ผมคงต้องรีบหน่อยหล่ะ

    คาริน่า : เฮ้อ ฉันไม่น่าบอกคุณเลย คุณจะพักอยู่แล้วแท้ๆ

    อลัน : ยังไงผมก็ขอบคุณมากนะครับ

    กลับมายังแอริโซน่า สหรัฐอเมริกา โคเวอร์ฟิตร่างกายจดพร้อมจะเข้ารับราชการทหารแล้ว วันนี้เป็นอีกวันที่เขาจะส่งจดหมายให้พ่อของเขา ระหว่างที่เขากำลังไปส่งจดหมาย นายอำเภอคนเดิมก็ขี่ม้ามาหาโคเวอร์ทันที

    สวัสดีโคเวอร์ มาส่งจดหมายอย่างงั้นเหรอ

    โคเวอร์ : ครับผม วันนี้ไปตรวจการที่ไหนมาเหรอครับ

    ก็แถวนี้แหละ เออนี่ ว่าแต่เราจะเข้าไปสมัครทหารเมื่อไหร่หล่ะ

    โคเวอร์ : ถ้าเปิดรับเมื่อไหร่ผมจะไปหล่ะครับ

    อ้อๆ ถ้าฉันได้ข่าวฉันจะมาบอกนายก็แล้วกัน แล้วจะมีรถบัสไปส่งนายด้วย

    โคเวอร์ : ขอบคุณมากครับ ผมจะเป็นทหารให้ได้เลยครับ

    ดีๆ ได้ยินว่าตอนนี้พวกอักษะกำลังกำแหงไปทั่วยุโรปเลย เหลือแต่อังกฤษเท่านั้นที่มันพิชิตไม่ได้

    โคเวอร์ : ถ้าพวกมันประกาศสงครามกับเรา ผมจะไปเยือนถึงประเทศมันเลยครับ

    ฉันจะรอดูก็แล้วกันนะ

    กลับมายังสหภาพโซเวียต หลังจากที่ออก้ารอดมาจากเนเธอร์แลนด์แล้ว เขารับจ้างทำนากับแม่เขา ซึ่งพ่อของเขาตายในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ด้วยความที่พี่ชายของแม่เป็นข้าราชการ พวกเขาเลยโชคดีหน่อย และในระหว่างที่พวกเขาทำนา พี่ของแม่เขาก็มาเยี่ยมพวกเขาทันที พวกเขาเลยออกไปต้อนรับ

    สวัสดีจ้ะน้อง หวัดดีออก้า โตขึ้นเยอะเลยนะเนี่ยเรา

    ออก้า : คุณลุงครับ มาถึงที่นี่เลยเหรอครับเนี่ย

    ว่าแต่ เธอมาที่นี่มีธุระอะไรหรือเปล่าหล่ะ

    ผมได้ยินว่าออก้าเพิ่งกลับมาจากเนเธอร์แลนด์ ผมอยากสอบถามอะไรเขาหน่อย มากับลุงหน่อยสิออก้าเดินตามลุงของเขาเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ของโซเวียตอยู่สองสามคน จากนั้นลุงของออก้าก็เริ่มถามเขาทันที

    นี่ พวกนาซีมันทำอะไรกับเธอหรือเปล่า แล้วเธอได้บอกอะไรพวกมันมั้ย

    ออก้า : ผมว่ามันจับผิดคนหน่ะ ผมแค่ไปตามหาเพื่อน

    แล้วทำไมพวกมันต้องตามเธอด้วยหล่ะ

    ออก้า : มันคิดว่าผมเป็นสายลับหล่ะมั้งครับ มันถามว่าผมไปทำอะไรที่นั่น

    แล้วยังไงต่อหล่ะ พวกมันไม่ได้อะไรไปใช่มั้ย

    ออก้า : ก็ผมจะมีอะไรให้พวกมันหล่ะครับ ผมโชคดีแค่ไหนแล้วที่หนีมาได้

    ก็ดีแล้วหล่ะ เดี๋ยวฉันจะรายงานไปยังเบื้องบนเพื่อช่วยเธอก็แล้วกัน ระหว่างนี้ เธออย่าออกจากโซเวียตหล่ะ มันอันตราย

    ออก้า : ครับผม ขอบคุณมากนะครับ

    กลับมายังกรุงเทพ ประเทศไทย ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักศึกษากำลังประท้วงเพื่อเรียกร้องดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงคืนมา นักศึกษาประท้วงกันทั้งวันทั้งคืน หนึ่งในแกนนำก็มีพิมด้วย ในระหว่างที่พิมกำลังช่วยกันแจกใบปลิวอยู่ เธอก็นั่งพักอยู่แถวนั้นพร้อมกับเพื่อนเธอที่แจกใบปลิวด้วยกันพอดี

    แก้ว : เออนี่ วันนี้เป็นยังไงบ้าง เหนื่อยหรือเปล่า

    พิม : ก็นิดหน่อยหน่ะ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้อะไรมากหรอก

    แก้ว : เธอคิดว่าท่านผู้นำของเราจะทำยังไงต่อหล่ะ

    พิม : ฉันก็ไม่รู้ กำลังรอฟังข่าวอยู่หน่ะสิ อย่าเพิ่งคิดอะไรเลย

    แก้ว : เฮ้อ แต่วันนี้ก็แจกไปเยอะมากจริงๆนะ ดูสิแจนระบบไปหมดเลย

    พิม : เอาน่า อย่าขี้เกียจไปหน่อยเลย แจกต่อเถอะ

    ในขณะเดียวกัน ก็มีข่าวประกาศทางวิทยุ หลังจากที่ประกาศเสร็จ นักศึกษาคนหนึ่งก็มาตะโกนบอกทุกคนแถวนั้นทันที

    ทุกคน รัฐบาลประกาศสงครามกับฝรั่งเศสแล้ว

    เรื่องจริงหรือเปล่าวะ

    เรื่องจริง ท่านผู้นำเพิ่งจะประกาศเมื่อกี้นี่เอง

    หลังจากได้ยินคำประกาศ เหล่านักศึกษาเฮกันใหญ่ จากนั้นก็โห่ร้องกันอย่างต่อเนื่อง

    แก้ว : พิม ได้ยินหรือเปล่า รัฐบาลเราประกาศสงครามแล้ว

    พิม : เยี่ยมไปเลย หวังว่าเราจะได้ดินแดนคืนมาบ้างนะ

    ที่บ้านของรัต หลังจากที่เขาพักฟื้นได้หลายเดือน เมื่อเขาได้ยินประกาศทางวิทยุ เขาก็ถอนหายใจทันที

    รัต : ผมคงต้องไปทำสงครามอีกหล่ะครับเนี่ย

    จะดีเหรอลูก แต่ลูกยังไม่หายดีเลยนะ

    รัต : มันเป็นหน้าที่ของผมนี่ครับแม่ ยังไงผมก็ต้องทำครับ

    นั่นสินะ ยังไงลูกก็ต้องห่วงตัวเองไว้บ้างนะ

    รัต : รัฐบาลเห็นว่าฝรั่งเศสตอนนี้อ่อนแอ เลยหวังจะเข้ายึดดินแดนคืน

    แต่พ่อก็ว่าอ่อนแอจริงนะ ฝรั่งเศสเพิ่งจะแพ้เยอรมันไปหน่ะสิ

    รัต : ศึกนี้อาจไม่ง่ายสำหรับผม แต่ผมจะทำให้เต็มที่ที่สุดก็แล้วกัน

    ยังไงก็ขอให้พระคุ้มครองนะลูก

    กลับมายังเยอรมนี ที่ค่ายของยุวชนนาซี หมู่ของโยชิตะต้องไปทำงานอย่างหนึ่ง นั้นก็คือ กวาดต้อนชาวยิวเข้าค่ายกักกัน ซึ่งในตอนนั้นเอง เขาต้องมาทำงานร่วมกับวิคเตอร์และเทราน์เนอร์ด้วย วิคเตอร์และเทราน์เนอร์อาสาช่วยสอนงานให้โยชิตะและพรรคพวกด้วย

    วิคเตอร์ : นี่ โยชิตะ ถ้าพวกยิวมันลงมา นายช่วยจัดให้มันเข้าแถวนะ

    โยชิตะ : ผมเข้าใจแล้ว ว่าแต่ทำไมต้องเรียกหมู่ของผมมาด้วยหล่ะ

    เทราน์เนอร์ : ก็ถือซะว่าเป็นการสอนงานไปก็แล้วกัน ช่วงนี้ต้องขอให้หมู่ของเธอมาช่วยก่อนหล่ะ

    ระหว่างที่พูดคุยกัน รถไฟของพวกนาซีก็มาพอดี จากนั้นพวกเขาก็เริ่มไล่ต้อนชาวยิวลงมาจากรถไฟทันที

    วิคเตอร์ : เอาหล่ะ ไอ้พวกหมูยิว รีบๆลงมาสิโว้ย

    เทราน์เนอร์ : เออ รีบๆลงมา อย่าให้ฉันต้องกระทืบพวกแกเลยนะเว้ย

    โยชิตะ : เอาหล่ะ รีบๆลงมา แล้วก็เข้าแถวด้วยนะ // ระหว่างที่กำลังโกลาหลอยู่ เด็กหญิงคนหนึ่งพยายามหาแม่ของเธอ วิคเตอร์พยายามจับเด็กนั้นมา แต่เธอไปหลบอยู่หลังโยชิตะ

    วิคเตอร์ : โยชิตะ จับมันให้กลับเข้าแถวหน่อยสิ

    โยชิตะ : ผมจะพาเด็กคนนี้ไปหาแม่เธอเอง

    เทราน์เนอร์ : นี่ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยหล่ะ

    โยชิตะ : ผมแค่ไม่อยากให้พวกมันแตกแถวหน่ะ ถ้าเป็นแบบนี้สงสัยจะดิ้นไม่อยู่แน่

    โยชิตะลากเธอไปรวมกับคนแก่และผู้หญิงแถวนั้น จากนั้นเขาก็พูดกับเธอว่า

    นี่ แม่เธอคงอยู่แถวนั้น แล้วก็เงียบปากด้วยจากนั้นเธอก็เจอแม่ของเธอพอดี แล้วโยชิตะก็เดินออกไป

    โยชิตะ : เห็นมะพี่ แบบนี้จะได้เงียบซะที ค่อยยังชั่ว

    วิคเตอร์ : เอาเถอะ นายนี่มันฉลาดดีนี่หว่า

    เทราน์เนอร์ : แน่นอน ความฉลาดหมอนี่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยนะ

    กลับมายังฝรั่งเศส อลิสกับรินยังคงทำงานอยู่ที่บาร์ แต่เปลี่ยนที่ใหม่ เนื่องจากว่าพวกใต้ดินชอบมาสังสรรค์กันที่นี่ โดยเธอต้องเปลี่ยนชื่อและนามสกุล แล้วก็เปลี่ยนสีผมใหม่ เพื่อไม่ให้ใครจำเธอได้

    อลิส : ใจเย็นๆไว้นะ งานนี้ไม่ต้องซีเรียสเท่าไหร่หรอก

    ริน : หนูว่า มันจะไม่เหมือนงานอื่นหน่ะพี่

    อลิส : ทำไมถึงคิดแบบนั้นหล่ะ

    ริน : ก็พวกกบฏเนี่ยหูตาไวอย่างกับสัปปะรดนะพี่

    อลิส : ไม่ต้องห่วงหรอก ทำตามที่พี่บอก แล้วจะดีเอง นั่นไง เป้าหมายของเรามาแล้ว

    เมื่อเธอเห็นชายสองคนเดินมา จากนั้นพวกเธอก็เริ่มงานทันที

    บนเรือธง H-39 ที่ฮัมบูร์กประจำการอยู่ อีกไม่กี่เดือนถัดมา ซึ่งจะเป็นช่วงปีใหม่แล้ว ฮัมบูร์กคิดแผนการบางอย่างขึ้นได้ในตอนนั้น เธอจึงสั่งการไปยังลูกน้องคนอื่นๆทันที

    ฮัมบูร์ก : ซีซาร์ เมอร์ลินจะเข้าโจมตีอีกครั้งเมื่อไหร่หล่ะ

    ซีซาร์ : น่าจะอีกไม่กี่วันครับผม

    ฮัมบูร์ก : ดีมาก

    ขณะเดียวกัน เมอร์ลินก็โทรศัพท์มาพอดี ฮัมบูร์กรับสายอย่างใจจดใจจ่อ

    นี่ ฮัมบูร์ก เรากำลังจะโจมตีอีกครั้งในช่วงบ่ายนี้ แล้วเจอกันนะจากนั้นสายก็ตัดไป

    ฮัมบูร์ก : เหลือเวลาอีกไม่นานเท่าไหร่สินะ ซีซาร์ สั่งกองบินของเราให้เตรียมพร้อม

    ซีซาร์ : ครับผม

    ======================================================================

    ฮัมบูร์กมีแผนอะไรอยู่ในใจกันแน่ ถ้าอยากรู้ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า 

    ขอคนละเม้นท์ด้วยนะคร้าบ

    ช่วงนี้อาจจะไม่ค่อยได้มาอัพ เพราะได้งานทำแล้ว ตื่นเช้าทุกวัน แทบจะกินนอนบนรถโดยสารแล้ว

    ขนาดเขียนนิยายยังเขียนในโทรศัพท์เลย 555 

    ยังไงก็ติดตามกันเรื่อยๆนะครับ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×