คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : พายุลูกใหม่ที่กำลังมา
หลังจากยุทธการที่ดันเคิร์กไม่นาน โจสพาแคทเทอรีนและเด็กๆไปพักฟื้นที่สถานทูตสหรัฐ
ในตอนนั้นเองโซเซียออกจากโรงพยาบาลได้แต่ก็ต้องใช้เวลาพักฟื้นพอสมควร
เมื่อพวกเขามาถึง พวกเด็กๆก็พากันนั่งพักอย่างสบายใจ ในระหว่างนั้นเอง โจสก็ขอเชิญแคทเทอรีนไปคุยที่ห้องทำงานของเขา
ทำเอาพวกเด็กๆสงสัย
ธิน : เอ้ยนี่
ฉันว่าคุณโจสเขาดูแปลกๆยังไงก็ไม่รู้นะ
โอ๊ค : แปลกเรื่องอะไรของนาย
เขาอุตส่าห์ช่วยพวกเรานะ
โซเซีย : ฉันก็เห็นด้วยนะ
แปลกตรงที่เขาพยายามตีสนิทกับน้าแคทเทอรีนหน่ะสิ ใช่ป่าวหล่ะ // ธินพยักหน้า อเล็กซ์รู้จึงคิดในใจว่า
พวกนายจะรู้หรือเปล่า ว่านั้นคือปู่ทวดของฉันเอง ท่านกำลังจะย้ายไปอเมริกานี่
แซค : เออนี่อเล็กซ์
เธอไม่สงสัยอะไรเลยหน่อยเหรอ
อเล็กซ์ : ไม่นะ
คุณน้าจะทำอะไรก็ปล่อยคุณน้าเขาสิ
นาวิน : นั่นสิ
น้าเขาก็มีอายุอยู่นะ เขารู้แหละว่าเขาทำอะไรอยู่
เอม : ว่าแต่
พวกเราจะเอายังไงต่อหล่ะ จะสู้กับพวกมันหรือเปล่า
ออย : ก็คงต้องสู้แหละ
เออนี่ พี่วิน พี่รู้วิธีใช้กำลังพี่ให้ย้อนเวลากลับไปหรือยัง
นาวิน : พี่พยายามแล้ว
แต่มันทำไม่ได้เลยเนี่ย
ธิน : เออใช่
พูดถึงเรื่องนี้ แล้วพวกเจ้าเทราน์เนอร์หล่ะ ตอนนี้ทำอะไรอยู่
อเล็กซ์ : ให้เดานะ
คงไปเข้ากองทัพนาซีแล้วกำลังถล่มอังกฤษแน่ๆ
แซค : มิน่าหล่ะ
ฝีมือที่ดันเคิร์ก ฮัมบูร์กต้องมีเอี่ยวแน่ๆ
โอ๊ค : ถ้างั้นศึกนี้คงเอาชนะยากแล้วหล่ะ
พวกนั้นอาจจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ก็ได้
โซเซีย : ใครจะไปยอมกันหล่ะ
ถ้าเจอพวกนั้นจะลากพากลับอนาคตเดี๋ยวนี้เลย
นาวิน : หวังไว้แบบนั้นนะ
ที่ห้องของโจส แคทเทอรีนเข้าไปในห้อง เพื่อคุยกับโจส
และนั่งดื่มอะไรด้วยกันไปพลางๆ
โจส : คุณมาจากที่ไหนเหรอครับ
แคทเทอรีน : ฉันหนีมาจากโปแลนด์
เจอหลานฉันและเพื่อนๆเลยพาหนีมาที่นี่ค่ะ
โจส : คุณเคยเป็นสายลับหรืออะไรทำนองนั้นหรือเปล่าครับ
แคทเทอรีน : คุณรู้ได้ยังไงคะเนี่ย
โจส : ก็ไม่ยากเกินเดาหรอกครับ
ผมดูท่าทางคุณต้องแค้นพวกนาซีมากๆแน่ๆ
แคทเทอรีน : ค่ะ
พวกมันฆ่าลูกชายฉัน ฉันไม่ยอมจบแค่นี้แน่ๆ
โจส : เราทำแน่ๆครับ
แต่ตอนนี้ผมขอดูแลคุณก่อนได้หรือเปล่าครับ // แคทเทอรีนแปลกใจ
โจส : คุณไม่ต้องห่วงอะไรนะครับ
ตอนนี้คุณตัดสินใจก่อนก็ได้
แคทเทอรีนรีบเดินออกไปข้างนอก
ไปเรียกอเล็กซ์ทันที
แคทเทอรีน : อเล็กซ์
น้าขอคุยอะไรหน่อยสิ // อเล็กซ์ตามแคทเทอรีนไป
ปล่อยให้คนอื่นมองอยู่ข้างหลัง
แซค : มีใครพอจะบอกได้หรือเปล่าว่ามันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย
นาวิน : ฉันก็ไม่รู้
ลองไปถามคุณโจสดูสิ // แซคเดินดุ่มๆเข้าไปในห้อง
เดินเข้าไปถามโจสที่นั่งอยู่ในห้อง
แซค : ขอคุยอะไรหน่อยได้หรือเปล่าครับ
โจส : มีอะไรงั้นเหรอครับ
แซค : คุณพูดอะไรกับน้าแคทเทอรีนครับ
โจส : เธอจะรู้ไปทำไมงั้นเหรอ
แซค : ก็แค่รู้สึกแปลกๆหน่ะครับ
คุณพอจะบอกผมได้หรือเปล่าหล่ะ
อีกด้านหนึ่ง แคทเทอรีนพาอเล็กซ์ไปคุยที่ด้านนอก
อเล็กซ์แปลกใจเล็กน้อยกับท่าทางของแคทเทอรีน
อเล็กซ์ : เรียกหนูมามีอะไรหรือเปล่าคะ
แคทเทอรีน : น้าว่า
เขาคงกำลังจีบน้าอยู่หน่ะ
อเล็กซ์ : แล้วน้าตกลงหรือเปล่าคะ
แคทเทอรีน : น้ายังไม่ได้พูดอะไรหรอก
น้าออกมาก่อนหน่ะ
อเล็กซ์ : โธ่คุณน้า
ถ้าน้าชอบเขาก็ตกลงไปสิคะ
แคทเทอรีน : แหม่
คือ น้าก็ต้องสงวนท่าทีหน่อยสิ น้าไปก่อนนะ
ที่ห้องพักรับรองนายทหาร
ในระหว่างที่ฮัมบูร์กกำลังนั่งพักกับทหารคนอื่นๆ อลิส ริน
โยชิตะก็เข้ามาหาเธอในห้องทันที
อลิส : พี่ฮัมบูร์ก
สบายดีนะคะพี่
ฮัมบูร์ก : อ้าว
เป็นไงบ้างหล่ะ คิดถึงทุกคนจังเลย
ริน : นั่นสิพี่
คิดถึงพี่มากๆ ไม่โทรมาหาเลยนะพี่
โยชิตะ : ยินดีกับพวกพี่ด้วยนะครับที่ฝรั่งเศสหน่ะ
มิลเลอร์ : ขอบใจมากไอ้น้องชาย
คิดถึงนายเหมือนกันนะเนี่ย
เมอร์ลิน : เสียดายนะ
ถ้าลูก้ามาเนี่ยจะครบเครื่องกว่านี้นะ
แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ
ลูก้าก็เดินเข้ามาในห้องพอดี ท่ามกลางความตกใจของทุกคน
ลูก้า : เป็นไงบ้างทุกคน
ไม่เจอกันนาน สบายดีนะ
ฮัมบูร์ก : อ้าว
ว่าไงลูก้า ไม่เจอกันนานเลยนะ
มิลเลอร์ : ที่แอฟริกาเป็นยังไงบ้างหล่ะ
เล่าให้ฟังหน่อยสิ
ลูก้า : ไม่ไหวๆ
สู้รบไม่เป็นโล้เป็นพาย อีกหน่อยเราคงต้องไปช่วยหล่ะ
เมอร์ลิน : เฮ้อ
พวกอิตาลีนี่มันอิตาลีจริงๆเลยนะเนี่ย
อลิส : เออนี่
มีใครเห็นพี่เทราน์เนอร์บ้างคะ
ริน : นั่นสิ
ช่วงนี้พี่แกหายไปนานเลยนะคะเนี่ย
ลูก้า : เทราน์เนอร์งั้นเหรอ
เขาเคยไปแอฟริกาเหมือนฉันหน่ะกับเพื่อนเขาอีกคนหนึ่ง
โยชิตะ :
แล้วตอนนี้เขากลับมาหรือยังครับพี่
แต่พูดยังไม่ทันขาดคำเทราน์เนอร์ วิคเตอร์และกัสก็เข้ามาในห้อง
โดยทั้งสองคนสภาพเหมือนเพิ่งจะแฮงค์มาอย่างหนัก
ฮัมบูร์ก : โห
พวกนาย ท่าทางจะหนักเลยสินะเมื่อคืน
เทราน์เนอร์ : นิดหน่อยหน่ะ
เจ้าวิคเตอร์มันชวนหน่ะ
วิคเตอร์ : นี่นาย
ลูก้า นายมาทำอะไรที่นี่หล่ะเนี่ย
ลูก้า : ฉันก็มาเยี่ยมเพื่อนฉัน
ว่าแต่นายเถอะ กลับมาแล้วทำงานอะไรหล่ะ
วิคเตอร์ : ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณซะหน่อย
// วิคเตอร์หัวเสียเดินออกไปด้านนอก
กัส : ต้องขอโทษด้วยนะคะ
เมื่อคืนเขาดื่มหนักไปหน่อยหน่ะ
อลิส : ช่างมันเถอะค่ะ
ให้เขาพักผ่อนนั้นแหละดีแล้ว // จากนั้นกัสก็ตามวิคเตอร์ไปด้านนอก
มิลเลอร์ : จริงสิ
วันนี้วิคเตอร์มันมากับแฟนมันด้วย ว่าแต่พวกนายไม่คิดจะมีหน่อยเหรอ
เมอร์ลิน : ตอนนี้ฉันยังหาไม่ได้เลยหว่ะ
นายหล่ะลูก้า
ลูก้า : ไม่รู้สิ
ฉันเจอเธอครั้งหนึ่ง ที่เยอรมันนี่แหละ เธอห้าวๆแต่ก็น่ารักดี ชื่ออเล็กซ์
ชื่อเหมือนผู้ชายมากเลยแหะ
ฮัมบูร์กและเทราน์เนอร์ได้ยินจึงหูผึ่งทันที
เทราน์เนอร์ : นายบอกว่าอเล็กซ์งั้นเหรอ
ผู้หญิงเชื่อเหมือนผู้ชายเนี่ย
ลูก้า : ทำไมหล่ะ
พวกนายรู้จักเธองั้นเหรอ
ฮัมบูร์ก : ผู้หญิงที่ชื่อเหมือนผู้ชายไม่มีในยุคนี้แน่ๆ
ต้องเป็นเธอคนเดียวแน่ๆ
ลูก้า : จริงเหรอ
แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหนอย่างงั้นเหรอ
อลิซ : ทำไมหล่ะคะ
คุณสนใจอเล็กซ์เขาอย่างงั้นเหรอคะ
โยชิตะ : ผมได้ยินว่า
เธอย้ายไปโปแลนด์แล้วก็ไม่ได้ข่าวอีกเลยครับ
มิลเลอร์ : ท่าทางคงจะถูกต้อนไปค่ายกักกันแล้วหล่ะแบบนี้
ฮัมบูร์ก : ไม่มีทางค่ะ
เธอไม่ใช่ยิว ไม่มีทางถูกจับหรอก
เมอร์ลิน : ถ้างั้นก็คงลำบากหน่อย
โปแลนด์ตอนนี้ได้ยินว่าค่อนข้างวุ่นวายนี่
เทราน์เนอร์ : จริงด้วย
ถ้าเป็นแบบนี้ พวกเจ้านาวินก็ยังอยู่หน่ะสิ
อลิส : ว่าแต่
ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ
มิลเลอร์ : พวกเธอพูดถึงใครกันงั้นเหรอ
ริน : เราเคยรู้จักพวกเขาหน่ะค่ะ
แต่เมื่อเกิดสงคราม เราไม่เจอพวกเขาเลยค่ะ
โยชิตะ : ถ้างั้น
คงต้องตามหาพวกเขาที่โปแลนด์สินะ
ลูก้า : พวกนาย
ฉันมีธุระหน่ะ ฉันขอตัวก่อนนะ // จากนั้นลูก้าก็รีบร้อนเดินออกไป
เมอร์ลิน : เอ้า
จะรีบไปไหนของเขากันนะ
อีกด้านหนึ่ง วิคเตอร์เดินหัวเสียออกมา
โดยที่มีกัสเดินตามต้อยๆออกมา กัสสงสัยเลยวิ่งเข้าไปถามวิคเตอร์ทันที
กัส : คุณวิคเตอร์คะ
ทำไมถึงต้องหงุดหงิดขนาดนี้ด้วย
วิคเตอร์ : ผมไม่อยากเจอหน้าไอ้หมอนั่นหน่ะ
กัส : แล้วคุณไม่อยากเจอเพื่อนๆคุณงั้นเหรอ
วิคเตอร์ : ช่างมันเถอะ
ไม่เกี่ยวกับคุณซะหน่อย
กัส : นี่
คุณยังไม่สร่างเมาใช่หรือเปล่า เดี๋ยวฉันพากลับบ้านนะ
ลูก้าไปเขียนจดหมายขอลาพักร้อน
จากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางในทันที
“คุณลูก้าครับ จะไปที่ไหนเหรอครับ”
“โปแลนด์หน่ะ”
“โปแลนด์ตอนนี้ไม่น่าเที่ยวเท่าไหร่นะครับ”
“ไม่ต้องห่วง แล้วผมจะรีบกลับมาครับ”
บนถนนแห่งหนึ่ง ซึ่งกำลังทอดยาวไปเยอรมัน
ซาบอนขับรถไปยังเยอรมันเพื่อที่จะไปรับตำแหน่งใหม่ ในตอนนั้นเอง มีรถคันหนึ่งขับมาไล่จี้กับเขา
เขาพยายามเร่งเครื่องแล้วสลัดมัน แต่มันก็ยังตามมาอยู่ไม่ห่าง
“ไอ้บ้าเอ้ย จะตามมาถึงไหนวะ”
จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นชักปืนออกมาแล้วยิงรถของซาบอน
ทำเอาเขาต้องขับหลบ จากนั้นเองมันก็ยิงยางรถเขา
ทำเอารถของเขาเสียหลักและพลิกคว่ำอยู่ริมทาง
พวกมันเดินลงจากรถแล้วก็ยิงกระหน่ำใส่รถอย่างไม่ลดละ
จากนั้นพวกมันก็เดินจากไป
แต่เขาไม่ตาย แล้วพยายามคลานออกมาจากรถ
จนกระทั่งตำรวจเยอรมันมาดูเหตุการณ์
“เป็นอะไรมากมั้ยครับคุณ”
ซาบอน : ก็อย่างที่เห็น
ผมยังไม่ตายหน่ะ
“คุณรู้มั้ยพวกมันเป็นใคร”
ซาบอน : ผมไม่รู้
แต่คงได้รู้แน่ๆ เพราะมันทิ้งป้ายทะเบียนไว้ตรงนั้นหน่ะ // ซาบอนชี้ให้ตำรวจเยอรมันเห็น
“ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะจัดการให้ทันที”
ซาบอน : ขอบคุณครับ
กลับยังฝรั่งเศส ที่บาร์แห่งหนึ่ง
หัวหน้าของจูเลียสกำลังคุยอะไรบางอย่างกับนายพลคนหนึ่งในห้องส่วนตัว
ในขณะที่จูเลียสกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ แต่พวกเขาเหมือนมีปากเสียงกัน
จากนั้นมันก็จัดการเก็บหัวหน้าของจูเลียส
จูเลียสออกจากห้องน้ำพอดีแล้วเห็นเหตุการณ์แต่ทำอะไรไม่ได้
จนกระทั่งพวกมันได้เดินจากไป จูเลียสไปดูสภาพของหัวหน้าของเขาที่เพิ่งจะถูกยิงไป
จูเลียส : หัวหน้าครับ
ทำใจดีๆไว้นะครับ ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล
“ไม่ทันแล้ว ยังไงฉันก็ตายอยู่ดี
ฉันรู้อยู่แล้วว่าพวกมันจะเก็บฉันหน่ะ”
จูเลียส : ไม่ครับ
ผมจะพาคุณหนีไปเอง
“ไม่หรอก ยังไงฉันก็ไม่รอดหรอก
นายต้องไปตามที่อยู่นี่ ฉันเก็บข้อมูลบางอย่าง มันเป้นของนายแล้ว แล้วถ้าเป็นไปได้
หนีกลับอังกฤษซะ”
จากนั้นเขาก็สิ้นลมอยู่ตรงนั้น
จูเลียสพยายามหนีออกไปบาร์ เพื่อกลับไปยังบ้านของเคท
เพื่อเตรียมของจะหนีไปจากปารีส
เคท : อ้าว
จูเลียส กลับมาเร็วจังเลย
จูเลียส : เคท
ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว คุณพาผมไปที่อยู่นี่ได้หรือเปล่าครับ // เคทนำกระดาษนั่นออกมากางดู
เคท : โปรตุเกสเลยเหรอ
ฉันพอจะรู้หล่ะ
จูเลียส : งั้นคุณพาผมไปหน่อยนะ
คุณจะไปกับผมหรือเปล่า
เคท : ฉัน…..
จูเลียส : ถ้าคุณไม่ไป
ผมไปเองก็ได้ ยังไงก็ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับ
เคท : ก็ได้ค่ะ
งั้นฉันไปเก็บของก่อนนะ //
เคทกับจูเลียสช่วยกันเก็บของขึ้นรถ
เพื่อจะหนีไปจากฝรั่งเศส ตอนนั้นเองเคทเป็นคนขับรถ แล้วพาเขาออกไป
จูเลียส : พยายามเลี่ยงด่านตรวจไว้นะครับ
เคท : คุณไปทำอะไรมาอย่างงั้นเหรอคะ
จูเลียส : ผมโดนหักหลัง
ตอนนี้พวกมันคงกำลังตามล่าผมหน่ะ ตอนนี้หัวหน้าผมตายแล้ว
เคท : ถ้างั้น
คุณคงต้องหนีกลับอังกฤษแล้วหล่ะ
จูเลียส : ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วหล่ะ
ผมขอโทษนะที่พาคุณมาเกี่ยวเรื่องนี้
เคท ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแบบนี้ฉันเจอมาเยอะแล้วหล่ะ
กลับมายังอิตาลี นูโวร่านั่งทำงานอยู่บนโต๊ะ
เพื่อสืบหาร่องรอยของคนทรยศ ซึ่งเธอก็สืบหาได้หลายคน แต่ในขณะเดียวกัน
ลูกน้องเธอก็เดินเข้ามาหาเธอเพื่อคุยอะไรบางอย่าง
“ขออนุญาตครับคุณนูโวร่า”
นูโวร่า : มีอะไรหรือเปล่า
ฉันกำลังทำงานอยู่
“ท่านผู้นำอยากให้คุณไปปราศัยในเมืองหน่ะครับ”
นูโวร่า : เฮ้อ
งานนี้อีกแล้ว น่าเบื่อจริงๆ
“ว่าแต่ คุณสืบหาตัวพวกทรยศได้หรือยังครับ”
นูโวร่า : ก็บางส่วนแล้วหล่ะ
ตอนนี้กำลังส่งไปให้ทางตำรวจลับจัดการหน่ะ
“ก็ขอให้โชคดีกับการทำงานนะครับ”
นูโวร่า : เอาหล่ะ
ไปปราศรัยกันดีกว่า ขับรถให้ฉันที // นูโวร่าแต่งตัวแล้วก็ไปขึ้นรถที่ลูกน้องเตรียมไว้ให้
กลับมายังบ้านพักของคาริน่า
เธอกำลังเขียนจดหมายกลับบ้าน ในตอนนั้นเอง เพื่อนร่วมงานของเธอก็เข้ามาเยี่ยมเธอในฐานะสมาชิกใหม่ของทีม
“สวัสดี คาริน่า ทำอะไรอยู่เหรอ”
คาริน่า : อ้อ
ฉันเขียนจดหมายกลับบ้านอยู่หน่ะ
“เอ๊ะ แต่ทางนั้นจะปลอดภัยอย่างนั้นเหรอ”
คาริน่า : ไม่ต้องห่วงหรอก
ฉันมีเพื่อนที่ทำงานที่ไปรษณีย์อยู่หน่ะ
“ดีจัง ว่าแต่ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่หล่ะ”
คาริน่า : ฉันรู้สึกว่ามีคนกำลังจะใส่ความฉัน
ฉันรู้ตัวก่อนเลยหนีมา
“แย่จังเลยนะ
ได้ยินว่าตอนนี้ทางเยอรมันกำลังแข็งแกร่งอยู่นี่”
คาริน่า : ตอนนี้ทำได้แค่รออเมริกาเข้าร่วมสงครามสินะ
“นั่นสิ พวกเขาจะรอกันไปถึงเมื่อไหร่นะ”
คาริน่า : ไม่ต้องห่วงหรอก
อีกไม่นานแน่นอน
ณ รัฐแอริโซน่า โคเวอร์กลับบ้านมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเข้าทุกวัน
แม่ของเขาก็รอคอยเขาด้วยความเป็นห่วง
เมื่อเขากลับมาแม่เขาก็เอาน้ำมาให้เขาดื่มทันที
“อ้าว ลูกจ๊ะ กลับมาแล้วงั้นเหรอ ดื่มน้ำหน่อยสิ”
โคเวอร์ : ขอบคุณครับแม่
กำลังหิวเลย
“ลูกวิ่งทุกวันเลยนะเนี่ย
นายอำเภอก็เพิ่งมาคุยกับแม่เรื่องลูกนี่แหละ”
โคเวอร์ : คุยเรื่องอะไรกันเหรอครับ
“เขาจะช่วยเรื่องในการเข้ากองทัพของลูกหน่ะ”
โคเวอร์ : ครับแม่
แต่ผมอยากฝึกตัวเองหน่ะ เข้ากองทัพจะได้แข็งแรงหน่ะ
“โอเคลูก งั้นแม่ไปเตรียมอาหารให้นะ”
โคเวอร์วิ่งไปเปิดวิทยุฟัง
ก็พบว่ามีข่าวจากอังกฤษแทรกเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องที่ดันเคิร์ก
เขาฟังอย่างใจจดใจจ่อ แล้วเขาก็ดีใจมากที่ทหารสัมพันธมิตรกลับบ้านอย่างปลอดภัย
จากนั้นก็เป็นข่าวจากทางฮาวาย ซึ่งเหตุการณ์ยังเป็นปกติ ทำให้เขาเบาใจลงได้
ตอนนี้เขารอแต่จดหมายที่พ่อของเขาจะส่มาให้เท่านั้น
ณ โกดังร้างแห่งหนึ่งในกรุงอัมสเตอร์ดัม
เนเธอร์แลนด์ ออก้าถูกจับมัดไว้กับเก้าอี้
โดยมีชายคนหนึ่งกับผู้หญิงคนที่เขารู้จักบนเรือสำราญมาด้วย เมื่ออก้าตื่นขึ้นมา
ก็เริ่มทำการสอบสวนทันที
“แกมาทำอะไรที่เนเธอร์แลนด์ ไอ้หมาคอมมี่”
ออก้า : ฉันมาตามหาเพื่อน
ผิดตรงไหนเหรอวะ
“งั้นเหรอ ทำไมแกต้องไปคลุกคลีกับพวกยิวด้วยหล่ะ”
ออก้า : หรือว่าพวกแกรู้ว่าเพื่อนฉันอยู่ที่ไหนหล่ะ
“ปากดีนะแก
ป่านนี้เพื่อนแกคงโดนจับเข้าค่ายไปแล้วหล่ะ”
ออก้า : ถ้าพวกแกทำอะไรเพื่อน
ฉันเอาแกตายแน่
“ไม่ต้องห่วง แกยังไม่ตายง่ายๆหรอก
ตอนนี้แกยังมีประโยชน์กับฉันอยู่” ตอนนั้นเองออก้าก็แอบแกะเชือกที่มัดอยู่
ระหว่างที่พวกมันกำลังปรึกษากัน ออก้ายั่วโมโหพวกมันเพื่อให้พวกมันเข้ามาใกล้
จากนั้นเขาก็แกะเชือกออกมาแล้วแย่งปืนจากมันมาจ่อหัวมันไว้
ทำเอาพวกมันไม่กล้าทำอะไร
ออก้า : พวกแกถอยไปให้หมดนะเว้ย
// ออก้าพยายามถอยออกจากโกดัง
แต่ตัวหัวหน้าก็ยิงตัวประกันทิ้ง จากนั้นก็พยายามตามล่าตัวออก้ากลับมา
“จับมันให้ได้ อย่าให้มันหนีไปเด็ดขาด”
กลับมายังป่าลึกลับแถวชายแดนกัมพูชา
รัตเตรียมของไว้เพื่อจะกลับประเทศของตน ตนจึงถามทางกลับจากสองตายาย ในตอนนั้นเอง
พวกมันก็ไล่ตามมาเรื่อยๆ ยายจึงอาสานำทางไป ส่วนคุณตาจะไปคอยถ่วงเวลาพวกมันไว้ให้
รัต : ขอบคุณมากนะครับคุณตา
ถ้าเป็นไปได้ตารีบหนีกลับมาเลยนะครับ ผมไม่อยากให้มันทำร้ายตา
ตา : ไม่เป็นไรหรอก
ตาอยู่มาป่านนี้ยังไงก็ตาลูก
จากนั้นเอง ยายก็อาสาพารัตเดินเลาะป่าเพื่อไปยังอีกฝากของชายแดน
ในตอนนั้นเองรัตก็ได้ยินเสียงร้องโวยวาย และเสียงปืนดังลั่นมาอีกทาง
รัตเห็นท่าไม่ดีเลยพยายามจะกลับไปช่วยคุณตา แต่ยายห้ามไว้ก่อน
รัต : สงสัยมันคงจะจับคุณตาได้
ผมจะไปช่วยเองครับ
ยาย : ไม่ต้องหรอก
ตาเขาคงจัดการได้หน่ะ ไปกันต่อเถอะ
พวกเขาเดินต่อมาเรื่อยๆ จนมาถึงน้ำตกแห่งหนึ่ง
จากนั้นยายก็หายไป รัตตกใจมาก พยายามตามหาแต่ก็ไม่เจอ
เขาจึงคิดว่าตนเองโดนดีเข้าแล้ว เขาจึงพยายามหนีไปตามทางเรื่อย
แต่เหมือนมีอะไรไล่หลังเขามา เขาพยายามหนีสุดชีวิต จนกระทั่ง
“เฮ้ย หยุด”
ทหารนายหนึ่งเล็งปืนไปทางเขา เขาพูดภาษาไทย
รัตเลยโล่งใจพูดตอบไปทันที
รัต : ใจเย็นๆ
ผมเป็นคนไทย เป็นทหารหน่ะ //
เขาโชว์บัตรที่เขาพกมาให้ดู
“อ้าว ผู้กองครับ ไปทำอะไรที่ชายแดนมาครับ”
รัต : เรื่องมันยาวหน่ะ
ช่วยติดต่อศูนย์ใหญ่ให้ผมที
“รับทราบครับผม”
รัตยังสงสัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น
แต่ลึกๆแล้วก็ขอบคุณตายายสองคนนั้น ว่างๆผมจะทำบุญไปให้บ่อยๆนะครับ
กลับมายังกรุงลอนดอน โอแลนนั่งดื่มฉลองกับแฟรงค์
เจ้านายของเขา กับเรื่องที่ปฏิบัติการที่ดันเคิร์ก ได้รับผลที่ดีเกินคาด
ในตอนนั้นเองก็มีเพื่อนวิศวกรนั่งดื่มร่วมกับเขาด้วย
แฟรงค์ : เฮ้อ
โชคดีมากเลยที่ทหารเรากลับมาอย่างปลอดภัย
โอแลน : ผมว่า
พวกมันคงเตรียมการจะบุกอังกฤษแน่ๆครับ
โอเว่น : ฉันว่าไม่มีทาง
กองเรือของพวกเยอรมันไม่มีประสิทธิภาพพอ แถมช่องแคบก็เตรียมการไว้พร้อมแล้ว
โอแลน : แต่ฉันว่าเราไม่ควรประมาทพวกมันนะ
พวกมันเอาชนะฝรั่งเศสได้ในไม่กี่เดือน พวกมันคงมาเคาะประตูหน้าบ้านเราเร็วๆนี้แน่ๆ
แฟรงค์ : ตอนนี้เราควรจะปรับปรุงเครื่องบินของเราให้สู้กับพวกมันได้ดีกว่า
โอเว่น : เราพยายามจะยึดเครื่องบินมันมาดูส่วนประกอบ
แต่ไม่ได้ผลซะทีเนี่ย
โอแลน : ฉันว่า
เราควรจะใช้ฝีมือสู้กับพวกมันก่อน รอจนกว่าเราจะคิดค้นได้หน่ะ
แฟรงค์ : แต่ผมว่า
พวกเยอรมันคงไม่อยู่รอให้เราคิดทันหรอกนะ
กลับมายังอิตาลี
เทเรซ่ายังคงหัวปั่นกับการรักษาคนป่วย
แต่โชคยังดีที่กองทัพของเธอยังพอรุกคืบได้บ้าง ในตอนนั้นเอง
ก็มีเสียงเตือนภัยดังไปทั่วค่าย
“ลูกปืนใหญ่ หาที่หลบเร็ว”
พวกเขารีบหาที่หลบกันให้วุ่น
บางส่วนก็ไปถูกเต้นท์รักษาผู้ป่วย เทเรซ่าเอาตัวไปขวางเอาไว้
ลูกปืนใหญ่ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า ทุกอย่างโกลาหล แต่หลังจากที่มันสิ้นสุด
พวกเขาก็มาสำรวจความเสียหายและรักษาคนเจ็บ ในตอนนั้นเอง
เทเรซ่าต้องไปช่วยแบกคนเจ็บเข้ามาอีก คราวนี้งานก็ล้นมือไปกันใหญ่
“คุณหมอครับ คนนี้เขาเสียเลือดมากเลยครับ”
เทเรซ่า : ให้มอร์ฟีนแล้วพาเขาไปทางนั้นก่อนนะ
“หมอครับ ช่วยดูทางนี้หน่อยครับ”
เทเรซ่า : ฉันไปเอง
เอายาฆ่าเชื้อมาให้ฉันด้วย
เทเรซ่าต้องรักษาคนเจ็บซ้ำไปซ้ำมา
แต่ยังไงเธอก็ต้องทำ เพราะเธอเป็นหมอนี่หน่า
ทางด้านตะวันออก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรุงเทพ
ประเทศไทย หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งเขียนงานอยู่บนโต๊ะอย่างเคร่งเครียด
ในระหว่างนั้นเอง เพื่อนของเธอก็เดินเข้ามาทักทายและหยอกเธอในทันที
“นี่พิม ทำอะไรอยู่จ๊ะ” ใช่แล้ว เธอชื่อพิม ณิชารีย์ กิจมีเกียรติดี นักศึกษาและนักกิจกรรมที่กำลังโด่งดังในธรรมศาสตร์
พิม : นี่
แก้ว มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ฉันตกใจหมด
“แหม่ เครียดไปได้
ว่าแต่เธอเขียนเรื่องอะไรอีกหล่ะ”
พิม : ก็เรื่องพิพาทที่อินโดจีนหน่ะ
ตอนนี้กำลังเป็นที่น่าสนใจเลยเชียวนะ
“ไม่น่าจะไปยุ่งเลยนี่ แถวนั้นก็เป็นของลาว กัมพูชา
ไม่เกี่ยวกับเราซะหน่อย”
พิม : ใครว่าหล่ะ
นั้นเป็นดินแดนของเราในอดีตเลยนะ ฉันค้นคว้ามานานกว่าจะเอามาเขียนได้เนี่ย
“เหรอ แล้วเธอจะทำยังไงต่อหล่ะ”
พิม : ฉันเหรอ
ว่าจะเขียนเป็นบทความเล็กๆแจกเป็นใบปลิวหน่ะ
“ก็ดีนี่ ยังไงก็สู้ๆนะ”
ณ กรุงลอนดอน เจลามี่กลับมายังบ้านพักของตัวเอง
ในขณะนั้นเอง เขาก็ได้รับคำสั่งให้ไปพบกับทูตอเมริกา เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการก่อการที่โปแลนด์
เมื่อเจลามี่มาถึง พวกเขาก็นั่งคุยกันทันที
โจส : สวัสดีคุณเจลามี่
ผมโจส สมิทธ์ ยินดีที่ได้รู้จัก
เจลามี่ : ครับผม
ขอคุณสำหรับความช่วยเหลือของท่านนะครับ
โจส : ผมทราบนะว่าตอนนี้ประเทศของคุณถูกยึดครอง
เรากำลังหาทางช่วยอยู่ //
ในตอนนั้นเอง แซคเผลอลืมของในห้องของโจส ทำเอาสองคนตกใจเล็กน้อย
แซค : ขอโทษครับ
ผมลืมของนิดหน่อยหน่ะ
โจส : ไม่เป็นไรครับ
ตามสบายเลย
แซค : ผมได้ยินพวกคุณพูดถึงเรื่องที่โปแลนด์กันอยู่หน่ะ
พวกคุณกำลังจะทำอะไรกันครับ
เจลามี่ : นี่
นายรู้ได้ยังไงกันเนี่ย
แซค : ก็ผมได้ยินซักพักนึงแล้วหล่ะ
ผมอยากจะบอกว่า ตอนนี้คงไม่เหมาะที่จะลงมือนะครับ
โจส : ทำไมถึงคิดแบบนั้นหล่ะ
แซค : ตอนนี้โซเวียตยังจับมือกับเยอรมันอยู่
ถ้าทำไปเราจะขาดการสนับสนุนนะครับ
เจลามี่ : นายจะบอกว่า
ให้รอไปโดยไม่มีกำหนดงั้นเหรอ
แซค : ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ
เพราะอีกไม่นานพวกเขาคงทำสงครามกันแน่
โจส : จริงเหรอ
แล้วทำไมพวกเขาถึงต้องรบกันด้วยหล่ะ
แซค : ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ไว้ใจกันมานานพอสมควรหน่ะครับ
เออผมได้ของๆผมแล้ว ผมไปก่อนนะครับ // จากนั้นแซคก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป
อีกด้านหนึ่ง
พวกเด็กๆก็ยังคงนั่งคุยกันอยู่ที่เดิม ในตอนนั้นเอง อเล็กซ์ก็กลับมาทันที
หลังจากที่คุยกับแคทเทอรีนเสร็จ
ธิน : กลับมาเร็วจัง
เธอคุยอะไรกับคุณน้าอย่างงั้นเหรอ
อเล็กซ์ : ฉันมีอะไรจะบอกกับทุกคน
แต่พวกนายอย่าไปบอกน้าเขานะ
ธิน : ว่ามาสิ
อเล็กซ์ : ในอนาคตคุณโจสจะแต่งงานกับน้าแคท
แล้วจะไปอเมริกาด้วยกันหน่ะ
แซค : หมายความว่า
ที่ฉันเข้าใจเรื่องคุณโจสก็ถูกสินะ
โอ๊ค : ว่าแต่
พวกนายอยากจะไปอเมริกากันหรือเปล่าหล่ะ
โซเซีย : ฉันอยากไปนะ
ไปเที่ยวที่นั่นน่าสนุกดีนะ
นาวิน : ฉันว่า
ฉันคงจะไม่ไปหรอก
โซเซีย : ทำไมหล่ะ
นาวิน : ช่วงนี้ฉันฝันถึงคุณปู่ฉันบ่อยๆ
ท่านบอกว่าให้พวกเรารีบกลับโลกอนาคตซะ ครั้งล่าสุดดูท่าทางท่านเป็นกังวลมากเลยนะ
เอม : จริงด้วยสิ
พวกเรามาจากอนาคตกันนี่หน่า ลืมไปแล้วเหรอ
ออย : นั่นดิ
ถ้าพวกนายไม่บอกฉันคงจะลืมไปแล้วนะเนี่ย
แซค : ถ้าจะกลับ
ฉันจะลากพวกนั้นกลับไปด้วย
โอ๊ค : ทำไมหล่ะ
ปล่อยพวกนั้นติดแหงกที่นี่ดีแล้วหล่ะ
แซค : ถ้าพวกนั้นเปลี่ยนประวัติศาสตร์
มันจะเกิดผลเสียใหญ่เลยนะ
นาวิน : ฉันเห็นด้วย
ฉันจะสู้เพื่อจะกลับโลกอนาคตให้ได้ มีใครจะเอาด้วยบ้าง
ทุกคนตกลงกันพร้อมจะสู้
และกำจัดพวกนาซีได้ถ้าเกิดว่าจำเป็น จากนั้นพวกเขาก็นั่งดื่มเหล้าด้วยกัน
======================================================================
ฉลองวันเกิด (เกิดอยากจะอัพ)
วันนี้ไม่รู้เป็นอะไร พลังงานมา
ตอนต่อไปจะข้ามเวลาไปยาวหน่อย เพื่อเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบ พวกเขาจะรอดหรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าเด้อ
ความคิดเห็น