ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Time To Kill Nazi - ข้ามเวลาฆ่านาซี

    ลำดับตอนที่ #21 : พายุลูกใหม่ที่กำลังมา

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 133
      3
      11 ก.ค. 61

    หลังจากยุทธการที่ดันเคิร์กไม่นาน โจสพาแคทเทอรีนและเด็กๆไปพักฟื้นที่สถานทูตสหรัฐ ในตอนนั้นเองโซเซียออกจากโรงพยาบาลได้แต่ก็ต้องใช้เวลาพักฟื้นพอสมควร เมื่อพวกเขามาถึง พวกเด็กๆก็พากันนั่งพักอย่างสบายใจ ในระหว่างนั้นเอง โจสก็ขอเชิญแคทเทอรีนไปคุยที่ห้องทำงานของเขา ทำเอาพวกเด็กๆสงสัย

    ธิน : เอ้ยนี่ ฉันว่าคุณโจสเขาดูแปลกๆยังไงก็ไม่รู้นะ

    โอ๊ค : แปลกเรื่องอะไรของนาย เขาอุตส่าห์ช่วยพวกเรานะ

    โซเซีย : ฉันก็เห็นด้วยนะ แปลกตรงที่เขาพยายามตีสนิทกับน้าแคทเทอรีนหน่ะสิ ใช่ป่าวหล่ะ // ธินพยักหน้า อเล็กซ์รู้จึงคิดในใจว่า พวกนายจะรู้หรือเปล่า ว่านั้นคือปู่ทวดของฉันเอง ท่านกำลังจะย้ายไปอเมริกานี่

    แซค : เออนี่อเล็กซ์ เธอไม่สงสัยอะไรเลยหน่อยเหรอ

    อเล็กซ์ : ไม่นะ คุณน้าจะทำอะไรก็ปล่อยคุณน้าเขาสิ

    นาวิน : นั่นสิ น้าเขาก็มีอายุอยู่นะ เขารู้แหละว่าเขาทำอะไรอยู่

    เอม : ว่าแต่ พวกเราจะเอายังไงต่อหล่ะ จะสู้กับพวกมันหรือเปล่า

    ออย : ก็คงต้องสู้แหละ เออนี่ พี่วิน พี่รู้วิธีใช้กำลังพี่ให้ย้อนเวลากลับไปหรือยัง

    นาวิน : พี่พยายามแล้ว แต่มันทำไม่ได้เลยเนี่ย

    ธิน : เออใช่ พูดถึงเรื่องนี้ แล้วพวกเจ้าเทราน์เนอร์หล่ะ ตอนนี้ทำอะไรอยู่

    อเล็กซ์ : ให้เดานะ คงไปเข้ากองทัพนาซีแล้วกำลังถล่มอังกฤษแน่ๆ

    แซค : มิน่าหล่ะ ฝีมือที่ดันเคิร์ก ฮัมบูร์กต้องมีเอี่ยวแน่ๆ

    โอ๊ค : ถ้างั้นศึกนี้คงเอาชนะยากแล้วหล่ะ พวกนั้นอาจจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ก็ได้

    โซเซีย : ใครจะไปยอมกันหล่ะ ถ้าเจอพวกนั้นจะลากพากลับอนาคตเดี๋ยวนี้เลย

    นาวิน : หวังไว้แบบนั้นนะ

    ที่ห้องของโจส แคทเทอรีนเข้าไปในห้อง เพื่อคุยกับโจส และนั่งดื่มอะไรด้วยกันไปพลางๆ

    โจส : คุณมาจากที่ไหนเหรอครับ

    แคทเทอรีน : ฉันหนีมาจากโปแลนด์ เจอหลานฉันและเพื่อนๆเลยพาหนีมาที่นี่ค่ะ

    โจส : คุณเคยเป็นสายลับหรืออะไรทำนองนั้นหรือเปล่าครับ

    แคทเทอรีน : คุณรู้ได้ยังไงคะเนี่ย

    โจส : ก็ไม่ยากเกินเดาหรอกครับ ผมดูท่าทางคุณต้องแค้นพวกนาซีมากๆแน่ๆ

    แคทเทอรีน : ค่ะ พวกมันฆ่าลูกชายฉัน ฉันไม่ยอมจบแค่นี้แน่ๆ

    โจส : เราทำแน่ๆครับ แต่ตอนนี้ผมขอดูแลคุณก่อนได้หรือเปล่าครับ // แคทเทอรีนแปลกใจ

    โจส : คุณไม่ต้องห่วงอะไรนะครับ ตอนนี้คุณตัดสินใจก่อนก็ได้

    แคทเทอรีนรีบเดินออกไปข้างนอก ไปเรียกอเล็กซ์ทันที

    แคทเทอรีน : อเล็กซ์ น้าขอคุยอะไรหน่อยสิ // อเล็กซ์ตามแคทเทอรีนไป ปล่อยให้คนอื่นมองอยู่ข้างหลัง

    แซค : มีใครพอจะบอกได้หรือเปล่าว่ามันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย

    นาวิน : ฉันก็ไม่รู้ ลองไปถามคุณโจสดูสิ // แซคเดินดุ่มๆเข้าไปในห้อง เดินเข้าไปถามโจสที่นั่งอยู่ในห้อง

    แซค : ขอคุยอะไรหน่อยได้หรือเปล่าครับ

    โจส : มีอะไรงั้นเหรอครับ

    แซค : คุณพูดอะไรกับน้าแคทเทอรีนครับ

    โจส : เธอจะรู้ไปทำไมงั้นเหรอ

    แซค : ก็แค่รู้สึกแปลกๆหน่ะครับ คุณพอจะบอกผมได้หรือเปล่าหล่ะ

    อีกด้านหนึ่ง แคทเทอรีนพาอเล็กซ์ไปคุยที่ด้านนอก อเล็กซ์แปลกใจเล็กน้อยกับท่าทางของแคทเทอรีน

    อเล็กซ์ : เรียกหนูมามีอะไรหรือเปล่าคะ

    แคทเทอรีน : น้าว่า เขาคงกำลังจีบน้าอยู่หน่ะ

    อเล็กซ์ : แล้วน้าตกลงหรือเปล่าคะ

    แคทเทอรีน : น้ายังไม่ได้พูดอะไรหรอก น้าออกมาก่อนหน่ะ

    อเล็กซ์ : โธ่คุณน้า ถ้าน้าชอบเขาก็ตกลงไปสิคะ

    แคทเทอรีน : แหม่ คือ น้าก็ต้องสงวนท่าทีหน่อยสิ น้าไปก่อนนะ

    ที่ห้องพักรับรองนายทหาร ในระหว่างที่ฮัมบูร์กกำลังนั่งพักกับทหารคนอื่นๆ อลิส ริน โยชิตะก็เข้ามาหาเธอในห้องทันที

    อลิส : พี่ฮัมบูร์ก สบายดีนะคะพี่

    ฮัมบูร์ก : อ้าว เป็นไงบ้างหล่ะ คิดถึงทุกคนจังเลย

    ริน : นั่นสิพี่ คิดถึงพี่มากๆ ไม่โทรมาหาเลยนะพี่

    โยชิตะ : ยินดีกับพวกพี่ด้วยนะครับที่ฝรั่งเศสหน่ะ

    มิลเลอร์ : ขอบใจมากไอ้น้องชาย คิดถึงนายเหมือนกันนะเนี่ย

    เมอร์ลิน : เสียดายนะ ถ้าลูก้ามาเนี่ยจะครบเครื่องกว่านี้นะ

    แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ ลูก้าก็เดินเข้ามาในห้องพอดี ท่ามกลางความตกใจของทุกคน

    ลูก้า : เป็นไงบ้างทุกคน ไม่เจอกันนาน สบายดีนะ

    ฮัมบูร์ก : อ้าว ว่าไงลูก้า ไม่เจอกันนานเลยนะ

    มิลเลอร์ : ที่แอฟริกาเป็นยังไงบ้างหล่ะ เล่าให้ฟังหน่อยสิ

    ลูก้า : ไม่ไหวๆ สู้รบไม่เป็นโล้เป็นพาย  อีกหน่อยเราคงต้องไปช่วยหล่ะ

    เมอร์ลิน : เฮ้อ พวกอิตาลีนี่มันอิตาลีจริงๆเลยนะเนี่ย

    อลิส : เออนี่ มีใครเห็นพี่เทราน์เนอร์บ้างคะ

    ริน : นั่นสิ ช่วงนี้พี่แกหายไปนานเลยนะคะเนี่ย

    ลูก้า : เทราน์เนอร์งั้นเหรอ เขาเคยไปแอฟริกาเหมือนฉันหน่ะกับเพื่อนเขาอีกคนหนึ่ง

    โยชิตะ : แล้วตอนนี้เขากลับมาหรือยังครับพี่

    แต่พูดยังไม่ทันขาดคำเทราน์เนอร์ วิคเตอร์และกัสก็เข้ามาในห้อง โดยทั้งสองคนสภาพเหมือนเพิ่งจะแฮงค์มาอย่างหนัก

    ฮัมบูร์ก : โห พวกนาย ท่าทางจะหนักเลยสินะเมื่อคืน

    เทราน์เนอร์ : นิดหน่อยหน่ะ เจ้าวิคเตอร์มันชวนหน่ะ

    วิคเตอร์ : นี่นาย ลูก้า นายมาทำอะไรที่นี่หล่ะเนี่ย

    ลูก้า : ฉันก็มาเยี่ยมเพื่อนฉัน ว่าแต่นายเถอะ กลับมาแล้วทำงานอะไรหล่ะ

    วิคเตอร์ : ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณซะหน่อย // วิคเตอร์หัวเสียเดินออกไปด้านนอก

    กัส : ต้องขอโทษด้วยนะคะ เมื่อคืนเขาดื่มหนักไปหน่อยหน่ะ

    อลิส : ช่างมันเถอะค่ะ ให้เขาพักผ่อนนั้นแหละดีแล้ว // จากนั้นกัสก็ตามวิคเตอร์ไปด้านนอก

    มิลเลอร์ : จริงสิ วันนี้วิคเตอร์มันมากับแฟนมันด้วย ว่าแต่พวกนายไม่คิดจะมีหน่อยเหรอ

    เมอร์ลิน : ตอนนี้ฉันยังหาไม่ได้เลยหว่ะ นายหล่ะลูก้า

    ลูก้า : ไม่รู้สิ ฉันเจอเธอครั้งหนึ่ง ที่เยอรมันนี่แหละ เธอห้าวๆแต่ก็น่ารักดี ชื่ออเล็กซ์ ชื่อเหมือนผู้ชายมากเลยแหะ

    ฮัมบูร์กและเทราน์เนอร์ได้ยินจึงหูผึ่งทันที

    เทราน์เนอร์ : นายบอกว่าอเล็กซ์งั้นเหรอ ผู้หญิงเชื่อเหมือนผู้ชายเนี่ย

    ลูก้า : ทำไมหล่ะ พวกนายรู้จักเธองั้นเหรอ

    ฮัมบูร์ก : ผู้หญิงที่ชื่อเหมือนผู้ชายไม่มีในยุคนี้แน่ๆ ต้องเป็นเธอคนเดียวแน่ๆ

    ลูก้า : จริงเหรอ แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหนอย่างงั้นเหรอ

    อลิซ : ทำไมหล่ะคะ คุณสนใจอเล็กซ์เขาอย่างงั้นเหรอคะ

    โยชิตะ : ผมได้ยินว่า เธอย้ายไปโปแลนด์แล้วก็ไม่ได้ข่าวอีกเลยครับ

    มิลเลอร์ : ท่าทางคงจะถูกต้อนไปค่ายกักกันแล้วหล่ะแบบนี้

    ฮัมบูร์ก : ไม่มีทางค่ะ เธอไม่ใช่ยิว ไม่มีทางถูกจับหรอก

    เมอร์ลิน : ถ้างั้นก็คงลำบากหน่อย โปแลนด์ตอนนี้ได้ยินว่าค่อนข้างวุ่นวายนี่

    เทราน์เนอร์ : จริงด้วย ถ้าเป็นแบบนี้ พวกเจ้านาวินก็ยังอยู่หน่ะสิ

    อลิส : ว่าแต่ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ

    มิลเลอร์ : พวกเธอพูดถึงใครกันงั้นเหรอ

    ริน : เราเคยรู้จักพวกเขาหน่ะค่ะ แต่เมื่อเกิดสงคราม เราไม่เจอพวกเขาเลยค่ะ

    โยชิตะ : ถ้างั้น คงต้องตามหาพวกเขาที่โปแลนด์สินะ

    ลูก้า : พวกนาย ฉันมีธุระหน่ะ ฉันขอตัวก่อนนะ // จากนั้นลูก้าก็รีบร้อนเดินออกไป

    เมอร์ลิน : เอ้า จะรีบไปไหนของเขากันนะ

    อีกด้านหนึ่ง วิคเตอร์เดินหัวเสียออกมา โดยที่มีกัสเดินตามต้อยๆออกมา กัสสงสัยเลยวิ่งเข้าไปถามวิคเตอร์ทันที

    กัส : คุณวิคเตอร์คะ ทำไมถึงต้องหงุดหงิดขนาดนี้ด้วย

    วิคเตอร์ : ผมไม่อยากเจอหน้าไอ้หมอนั่นหน่ะ

    กัส : แล้วคุณไม่อยากเจอเพื่อนๆคุณงั้นเหรอ

    วิคเตอร์ : ช่างมันเถอะ ไม่เกี่ยวกับคุณซะหน่อย

    กัส : นี่ คุณยังไม่สร่างเมาใช่หรือเปล่า เดี๋ยวฉันพากลับบ้านนะ

    ลูก้าไปเขียนจดหมายขอลาพักร้อน จากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางในทันที

    คุณลูก้าครับ จะไปที่ไหนเหรอครับ

    โปแลนด์หน่ะ

    โปแลนด์ตอนนี้ไม่น่าเที่ยวเท่าไหร่นะครับ

    ไม่ต้องห่วง แล้วผมจะรีบกลับมาครับ

    บนถนนแห่งหนึ่ง ซึ่งกำลังทอดยาวไปเยอรมัน ซาบอนขับรถไปยังเยอรมันเพื่อที่จะไปรับตำแหน่งใหม่ ในตอนนั้นเอง มีรถคันหนึ่งขับมาไล่จี้กับเขา เขาพยายามเร่งเครื่องแล้วสลัดมัน แต่มันก็ยังตามมาอยู่ไม่ห่าง

    ไอ้บ้าเอ้ย จะตามมาถึงไหนวะ

    จากนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นชักปืนออกมาแล้วยิงรถของซาบอน ทำเอาเขาต้องขับหลบ จากนั้นเองมันก็ยิงยางรถเขา ทำเอารถของเขาเสียหลักและพลิกคว่ำอยู่ริมทาง

    พวกมันเดินลงจากรถแล้วก็ยิงกระหน่ำใส่รถอย่างไม่ลดละ จากนั้นพวกมันก็เดินจากไป

    แต่เขาไม่ตาย แล้วพยายามคลานออกมาจากรถ จนกระทั่งตำรวจเยอรมันมาดูเหตุการณ์

    เป็นอะไรมากมั้ยครับคุณ

    ซาบอน : ก็อย่างที่เห็น ผมยังไม่ตายหน่ะ

    คุณรู้มั้ยพวกมันเป็นใคร

    ซาบอน : ผมไม่รู้ แต่คงได้รู้แน่ๆ เพราะมันทิ้งป้ายทะเบียนไว้ตรงนั้นหน่ะ // ซาบอนชี้ให้ตำรวจเยอรมันเห็น

    ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะจัดการให้ทันที

    ซาบอน : ขอบคุณครับ

    กลับยังฝรั่งเศส ที่บาร์แห่งหนึ่ง หัวหน้าของจูเลียสกำลังคุยอะไรบางอย่างกับนายพลคนหนึ่งในห้องส่วนตัว ในขณะที่จูเลียสกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ แต่พวกเขาเหมือนมีปากเสียงกัน จากนั้นมันก็จัดการเก็บหัวหน้าของจูเลียส จูเลียสออกจากห้องน้ำพอดีแล้วเห็นเหตุการณ์แต่ทำอะไรไม่ได้ จนกระทั่งพวกมันได้เดินจากไป จูเลียสไปดูสภาพของหัวหน้าของเขาที่เพิ่งจะถูกยิงไป

    จูเลียส : หัวหน้าครับ ทำใจดีๆไว้นะครับ ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล

    ไม่ทันแล้ว ยังไงฉันก็ตายอยู่ดี ฉันรู้อยู่แล้วว่าพวกมันจะเก็บฉันหน่ะ

    จูเลียส : ไม่ครับ ผมจะพาคุณหนีไปเอง

    ไม่หรอก ยังไงฉันก็ไม่รอดหรอก นายต้องไปตามที่อยู่นี่ ฉันเก็บข้อมูลบางอย่าง มันเป้นของนายแล้ว แล้วถ้าเป็นไปได้ หนีกลับอังกฤษซะ

    จากนั้นเขาก็สิ้นลมอยู่ตรงนั้น จูเลียสพยายามหนีออกไปบาร์ เพื่อกลับไปยังบ้านของเคท เพื่อเตรียมของจะหนีไปจากปารีส

    เคท : อ้าว จูเลียส กลับมาเร็วจังเลย

    จูเลียส : เคท ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว คุณพาผมไปที่อยู่นี่ได้หรือเปล่าครับ // เคทนำกระดาษนั่นออกมากางดู

    เคท : โปรตุเกสเลยเหรอ ฉันพอจะรู้หล่ะ

    จูเลียส : งั้นคุณพาผมไปหน่อยนะ คุณจะไปกับผมหรือเปล่า

    เคท : ฉัน…..

    จูเลียส : ถ้าคุณไม่ไป ผมไปเองก็ได้ ยังไงก็ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับ

    เคท : ก็ได้ค่ะ งั้นฉันไปเก็บของก่อนนะ // เคทกับจูเลียสช่วยกันเก็บของขึ้นรถ เพื่อจะหนีไปจากฝรั่งเศส ตอนนั้นเองเคทเป็นคนขับรถ แล้วพาเขาออกไป

    จูเลียส : พยายามเลี่ยงด่านตรวจไว้นะครับ

    เคท : คุณไปทำอะไรมาอย่างงั้นเหรอคะ

    จูเลียส : ผมโดนหักหลัง ตอนนี้พวกมันคงกำลังตามล่าผมหน่ะ ตอนนี้หัวหน้าผมตายแล้ว

    เคท : ถ้างั้น คุณคงต้องหนีกลับอังกฤษแล้วหล่ะ

    จูเลียส : ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วหล่ะ ผมขอโทษนะที่พาคุณมาเกี่ยวเรื่องนี้

    เคท  ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแบบนี้ฉันเจอมาเยอะแล้วหล่ะ

    กลับมายังอิตาลี นูโวร่านั่งทำงานอยู่บนโต๊ะ เพื่อสืบหาร่องรอยของคนทรยศ ซึ่งเธอก็สืบหาได้หลายคน แต่ในขณะเดียวกัน ลูกน้องเธอก็เดินเข้ามาหาเธอเพื่อคุยอะไรบางอย่าง

    ขออนุญาตครับคุณนูโวร่า

    นูโวร่า : มีอะไรหรือเปล่า ฉันกำลังทำงานอยู่

    ท่านผู้นำอยากให้คุณไปปราศัยในเมืองหน่ะครับ

    นูโวร่า : เฮ้อ งานนี้อีกแล้ว น่าเบื่อจริงๆ

    ว่าแต่ คุณสืบหาตัวพวกทรยศได้หรือยังครับ

    นูโวร่า : ก็บางส่วนแล้วหล่ะ ตอนนี้กำลังส่งไปให้ทางตำรวจลับจัดการหน่ะ

    ก็ขอให้โชคดีกับการทำงานนะครับ

    นูโวร่า : เอาหล่ะ ไปปราศรัยกันดีกว่า ขับรถให้ฉันที // นูโวร่าแต่งตัวแล้วก็ไปขึ้นรถที่ลูกน้องเตรียมไว้ให้

    กลับมายังบ้านพักของคาริน่า เธอกำลังเขียนจดหมายกลับบ้าน ในตอนนั้นเอง เพื่อนร่วมงานของเธอก็เข้ามาเยี่ยมเธอในฐานะสมาชิกใหม่ของทีม

    สวัสดี คาริน่า ทำอะไรอยู่เหรอ

    คาริน่า : อ้อ ฉันเขียนจดหมายกลับบ้านอยู่หน่ะ

    เอ๊ะ แต่ทางนั้นจะปลอดภัยอย่างนั้นเหรอ

    คาริน่า : ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันมีเพื่อนที่ทำงานที่ไปรษณีย์อยู่หน่ะ

    ดีจัง ว่าแต่ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่หล่ะ

    คาริน่า : ฉันรู้สึกว่ามีคนกำลังจะใส่ความฉัน ฉันรู้ตัวก่อนเลยหนีมา

    แย่จังเลยนะ ได้ยินว่าตอนนี้ทางเยอรมันกำลังแข็งแกร่งอยู่นี่

    คาริน่า : ตอนนี้ทำได้แค่รออเมริกาเข้าร่วมสงครามสินะ

    นั่นสิ พวกเขาจะรอกันไปถึงเมื่อไหร่นะ

    คาริน่า : ไม่ต้องห่วงหรอก อีกไม่นานแน่นอน

    ณ รัฐแอริโซน่า โคเวอร์กลับบ้านมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยเข้าทุกวัน แม่ของเขาก็รอคอยเขาด้วยความเป็นห่วง เมื่อเขากลับมาแม่เขาก็เอาน้ำมาให้เขาดื่มทันที

    อ้าว ลูกจ๊ะ กลับมาแล้วงั้นเหรอ ดื่มน้ำหน่อยสิ

    โคเวอร์ : ขอบคุณครับแม่ กำลังหิวเลย

    ลูกวิ่งทุกวันเลยนะเนี่ย นายอำเภอก็เพิ่งมาคุยกับแม่เรื่องลูกนี่แหละ

    โคเวอร์ : คุยเรื่องอะไรกันเหรอครับ

    เขาจะช่วยเรื่องในการเข้ากองทัพของลูกหน่ะ

    โคเวอร์ : ครับแม่ แต่ผมอยากฝึกตัวเองหน่ะ เข้ากองทัพจะได้แข็งแรงหน่ะ

    โอเคลูก งั้นแม่ไปเตรียมอาหารให้นะ

    โคเวอร์วิ่งไปเปิดวิทยุฟัง ก็พบว่ามีข่าวจากอังกฤษแทรกเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องที่ดันเคิร์ก เขาฟังอย่างใจจดใจจ่อ แล้วเขาก็ดีใจมากที่ทหารสัมพันธมิตรกลับบ้านอย่างปลอดภัย จากนั้นก็เป็นข่าวจากทางฮาวาย ซึ่งเหตุการณ์ยังเป็นปกติ ทำให้เขาเบาใจลงได้ ตอนนี้เขารอแต่จดหมายที่พ่อของเขาจะส่มาให้เท่านั้น

    ณ โกดังร้างแห่งหนึ่งในกรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ ออก้าถูกจับมัดไว้กับเก้าอี้ โดยมีชายคนหนึ่งกับผู้หญิงคนที่เขารู้จักบนเรือสำราญมาด้วย เมื่ออก้าตื่นขึ้นมา ก็เริ่มทำการสอบสวนทันที

    แกมาทำอะไรที่เนเธอร์แลนด์ ไอ้หมาคอมมี่

    ออก้า : ฉันมาตามหาเพื่อน ผิดตรงไหนเหรอวะ

    งั้นเหรอ ทำไมแกต้องไปคลุกคลีกับพวกยิวด้วยหล่ะ

    ออก้า : หรือว่าพวกแกรู้ว่าเพื่อนฉันอยู่ที่ไหนหล่ะ

    ปากดีนะแก ป่านนี้เพื่อนแกคงโดนจับเข้าค่ายไปแล้วหล่ะ

    ออก้า : ถ้าพวกแกทำอะไรเพื่อน ฉันเอาแกตายแน่

    ไม่ต้องห่วง แกยังไม่ตายง่ายๆหรอก ตอนนี้แกยังมีประโยชน์กับฉันอยู่ตอนนั้นเองออก้าก็แอบแกะเชือกที่มัดอยู่ ระหว่างที่พวกมันกำลังปรึกษากัน ออก้ายั่วโมโหพวกมันเพื่อให้พวกมันเข้ามาใกล้ จากนั้นเขาก็แกะเชือกออกมาแล้วแย่งปืนจากมันมาจ่อหัวมันไว้ ทำเอาพวกมันไม่กล้าทำอะไร

    ออก้า : พวกแกถอยไปให้หมดนะเว้ย // ออก้าพยายามถอยออกจากโกดัง แต่ตัวหัวหน้าก็ยิงตัวประกันทิ้ง จากนั้นก็พยายามตามล่าตัวออก้ากลับมา

    จับมันให้ได้ อย่าให้มันหนีไปเด็ดขาด

    กลับมายังป่าลึกลับแถวชายแดนกัมพูชา รัตเตรียมของไว้เพื่อจะกลับประเทศของตน ตนจึงถามทางกลับจากสองตายาย ในตอนนั้นเอง พวกมันก็ไล่ตามมาเรื่อยๆ ยายจึงอาสานำทางไป ส่วนคุณตาจะไปคอยถ่วงเวลาพวกมันไว้ให้

    รัต : ขอบคุณมากนะครับคุณตา ถ้าเป็นไปได้ตารีบหนีกลับมาเลยนะครับ ผมไม่อยากให้มันทำร้ายตา

    ตา : ไม่เป็นไรหรอก ตาอยู่มาป่านนี้ยังไงก็ตาลูก

    จากนั้นเอง ยายก็อาสาพารัตเดินเลาะป่าเพื่อไปยังอีกฝากของชายแดน ในตอนนั้นเองรัตก็ได้ยินเสียงร้องโวยวาย และเสียงปืนดังลั่นมาอีกทาง รัตเห็นท่าไม่ดีเลยพยายามจะกลับไปช่วยคุณตา แต่ยายห้ามไว้ก่อน

    รัต : สงสัยมันคงจะจับคุณตาได้ ผมจะไปช่วยเองครับ

    ยาย : ไม่ต้องหรอก ตาเขาคงจัดการได้หน่ะ ไปกันต่อเถอะ

    พวกเขาเดินต่อมาเรื่อยๆ จนมาถึงน้ำตกแห่งหนึ่ง จากนั้นยายก็หายไป รัตตกใจมาก พยายามตามหาแต่ก็ไม่เจอ เขาจึงคิดว่าตนเองโดนดีเข้าแล้ว เขาจึงพยายามหนีไปตามทางเรื่อย แต่เหมือนมีอะไรไล่หลังเขามา เขาพยายามหนีสุดชีวิต จนกระทั่ง

    เฮ้ย หยุด

    ทหารนายหนึ่งเล็งปืนไปทางเขา เขาพูดภาษาไทย รัตเลยโล่งใจพูดตอบไปทันที

    รัต : ใจเย็นๆ ผมเป็นคนไทย เป็นทหารหน่ะ // เขาโชว์บัตรที่เขาพกมาให้ดู

    อ้าว ผู้กองครับ ไปทำอะไรที่ชายแดนมาครับ

    รัต : เรื่องมันยาวหน่ะ ช่วยติดต่อศูนย์ใหญ่ให้ผมที

    รับทราบครับผม

    รัตยังสงสัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ลึกๆแล้วก็ขอบคุณตายายสองคนนั้น ว่างๆผมจะทำบุญไปให้บ่อยๆนะครับ

    กลับมายังกรุงลอนดอน โอแลนนั่งดื่มฉลองกับแฟรงค์ เจ้านายของเขา กับเรื่องที่ปฏิบัติการที่ดันเคิร์ก ได้รับผลที่ดีเกินคาด ในตอนนั้นเองก็มีเพื่อนวิศวกรนั่งดื่มร่วมกับเขาด้วย

    แฟรงค์ : เฮ้อ โชคดีมากเลยที่ทหารเรากลับมาอย่างปลอดภัย

    โอแลน : ผมว่า พวกมันคงเตรียมการจะบุกอังกฤษแน่ๆครับ

    โอเว่น : ฉันว่าไม่มีทาง กองเรือของพวกเยอรมันไม่มีประสิทธิภาพพอ แถมช่องแคบก็เตรียมการไว้พร้อมแล้ว

    โอแลน : แต่ฉันว่าเราไม่ควรประมาทพวกมันนะ พวกมันเอาชนะฝรั่งเศสได้ในไม่กี่เดือน พวกมันคงมาเคาะประตูหน้าบ้านเราเร็วๆนี้แน่ๆ

    แฟรงค์ : ตอนนี้เราควรจะปรับปรุงเครื่องบินของเราให้สู้กับพวกมันได้ดีกว่า

    โอเว่น : เราพยายามจะยึดเครื่องบินมันมาดูส่วนประกอบ แต่ไม่ได้ผลซะทีเนี่ย

    โอแลน : ฉันว่า เราควรจะใช้ฝีมือสู้กับพวกมันก่อน รอจนกว่าเราจะคิดค้นได้หน่ะ

    แฟรงค์ : แต่ผมว่า พวกเยอรมันคงไม่อยู่รอให้เราคิดทันหรอกนะ

    กลับมายังอิตาลี เทเรซ่ายังคงหัวปั่นกับการรักษาคนป่วย แต่โชคยังดีที่กองทัพของเธอยังพอรุกคืบได้บ้าง ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงเตือนภัยดังไปทั่วค่าย

    ลูกปืนใหญ่ หาที่หลบเร็ว

    พวกเขารีบหาที่หลบกันให้วุ่น บางส่วนก็ไปถูกเต้นท์รักษาผู้ป่วย เทเรซ่าเอาตัวไปขวางเอาไว้ ลูกปืนใหญ่ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า ทุกอย่างโกลาหล แต่หลังจากที่มันสิ้นสุด พวกเขาก็มาสำรวจความเสียหายและรักษาคนเจ็บ ในตอนนั้นเอง เทเรซ่าต้องไปช่วยแบกคนเจ็บเข้ามาอีก คราวนี้งานก็ล้นมือไปกันใหญ่

    คุณหมอครับ คนนี้เขาเสียเลือดมากเลยครับ

    เทเรซ่า : ให้มอร์ฟีนแล้วพาเขาไปทางนั้นก่อนนะ

    หมอครับ ช่วยดูทางนี้หน่อยครับ

    เทเรซ่า : ฉันไปเอง เอายาฆ่าเชื้อมาให้ฉันด้วย

    เทเรซ่าต้องรักษาคนเจ็บซ้ำไปซ้ำมา แต่ยังไงเธอก็ต้องทำ เพราะเธอเป็นหมอนี่หน่า

    ทางด้านตะวันออก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรุงเทพ ประเทศไทย หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งเขียนงานอยู่บนโต๊ะอย่างเคร่งเครียด ในระหว่างนั้นเอง เพื่อนของเธอก็เดินเข้ามาทักทายและหยอกเธอในทันที

    นี่พิม ทำอะไรอยู่จ๊ะ ใช่แล้ว เธอชื่อพิม ณิชารีย์ กิจมีเกียรติดี นักศึกษาและนักกิจกรรมที่กำลังโด่งดังในธรรมศาสตร์

    พิม : นี่ แก้ว มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ฉันตกใจหมด

    แหม่ เครียดไปได้ ว่าแต่เธอเขียนเรื่องอะไรอีกหล่ะ

    พิม : ก็เรื่องพิพาทที่อินโดจีนหน่ะ ตอนนี้กำลังเป็นที่น่าสนใจเลยเชียวนะ

    ไม่น่าจะไปยุ่งเลยนี่ แถวนั้นก็เป็นของลาว กัมพูชา ไม่เกี่ยวกับเราซะหน่อย

    พิม : ใครว่าหล่ะ นั้นเป็นดินแดนของเราในอดีตเลยนะ ฉันค้นคว้ามานานกว่าจะเอามาเขียนได้เนี่ย

    เหรอ แล้วเธอจะทำยังไงต่อหล่ะ

    พิม : ฉันเหรอ ว่าจะเขียนเป็นบทความเล็กๆแจกเป็นใบปลิวหน่ะ

    ก็ดีนี่ ยังไงก็สู้ๆนะ

    ณ กรุงลอนดอน เจลามี่กลับมายังบ้านพักของตัวเอง ในขณะนั้นเอง เขาก็ได้รับคำสั่งให้ไปพบกับทูตอเมริกา เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการก่อการที่โปแลนด์ เมื่อเจลามี่มาถึง พวกเขาก็นั่งคุยกันทันที

    โจส : สวัสดีคุณเจลามี่ ผมโจส สมิทธ์ ยินดีที่ได้รู้จัก

    เจลามี่ : ครับผม ขอคุณสำหรับความช่วยเหลือของท่านนะครับ

    โจส : ผมทราบนะว่าตอนนี้ประเทศของคุณถูกยึดครอง เรากำลังหาทางช่วยอยู่ // ในตอนนั้นเอง แซคเผลอลืมของในห้องของโจส ทำเอาสองคนตกใจเล็กน้อย

    แซค : ขอโทษครับ ผมลืมของนิดหน่อยหน่ะ

    โจส : ไม่เป็นไรครับ ตามสบายเลย

    แซค : ผมได้ยินพวกคุณพูดถึงเรื่องที่โปแลนด์กันอยู่หน่ะ พวกคุณกำลังจะทำอะไรกันครับ

    เจลามี่ : นี่ นายรู้ได้ยังไงกันเนี่ย

    แซค : ก็ผมได้ยินซักพักนึงแล้วหล่ะ ผมอยากจะบอกว่า ตอนนี้คงไม่เหมาะที่จะลงมือนะครับ

    โจส : ทำไมถึงคิดแบบนั้นหล่ะ

    แซค : ตอนนี้โซเวียตยังจับมือกับเยอรมันอยู่ ถ้าทำไปเราจะขาดการสนับสนุนนะครับ

    เจลามี่ : นายจะบอกว่า ให้รอไปโดยไม่มีกำหนดงั้นเหรอ

    แซค : ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ เพราะอีกไม่นานพวกเขาคงทำสงครามกันแน่

    โจส : จริงเหรอ แล้วทำไมพวกเขาถึงต้องรบกันด้วยหล่ะ

    แซค : ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ไว้ใจกันมานานพอสมควรหน่ะครับ เออผมได้ของๆผมแล้ว ผมไปก่อนนะครับ // จากนั้นแซคก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป

    อีกด้านหนึ่ง พวกเด็กๆก็ยังคงนั่งคุยกันอยู่ที่เดิม ในตอนนั้นเอง อเล็กซ์ก็กลับมาทันที หลังจากที่คุยกับแคทเทอรีนเสร็จ

    ธิน : กลับมาเร็วจัง เธอคุยอะไรกับคุณน้าอย่างงั้นเหรอ

    อเล็กซ์ : ฉันมีอะไรจะบอกกับทุกคน แต่พวกนายอย่าไปบอกน้าเขานะ

    ธิน : ว่ามาสิ

    อเล็กซ์ : ในอนาคตคุณโจสจะแต่งงานกับน้าแคท แล้วจะไปอเมริกาด้วยกันหน่ะ

    แซค : หมายความว่า ที่ฉันเข้าใจเรื่องคุณโจสก็ถูกสินะ

    โอ๊ค : ว่าแต่ พวกนายอยากจะไปอเมริกากันหรือเปล่าหล่ะ

    โซเซีย : ฉันอยากไปนะ ไปเที่ยวที่นั่นน่าสนุกดีนะ

    นาวิน : ฉันว่า ฉันคงจะไม่ไปหรอก

    โซเซีย : ทำไมหล่ะ

    นาวิน : ช่วงนี้ฉันฝันถึงคุณปู่ฉันบ่อยๆ ท่านบอกว่าให้พวกเรารีบกลับโลกอนาคตซะ ครั้งล่าสุดดูท่าทางท่านเป็นกังวลมากเลยนะ

    เอม : จริงด้วยสิ พวกเรามาจากอนาคตกันนี่หน่า ลืมไปแล้วเหรอ

    ออย : นั่นดิ ถ้าพวกนายไม่บอกฉันคงจะลืมไปแล้วนะเนี่ย

    แซค : ถ้าจะกลับ ฉันจะลากพวกนั้นกลับไปด้วย

    โอ๊ค : ทำไมหล่ะ ปล่อยพวกนั้นติดแหงกที่นี่ดีแล้วหล่ะ

    แซค : ถ้าพวกนั้นเปลี่ยนประวัติศาสตร์ มันจะเกิดผลเสียใหญ่เลยนะ

    นาวิน : ฉันเห็นด้วย ฉันจะสู้เพื่อจะกลับโลกอนาคตให้ได้ มีใครจะเอาด้วยบ้าง

    ทุกคนตกลงกันพร้อมจะสู้ และกำจัดพวกนาซีได้ถ้าเกิดว่าจำเป็น จากนั้นพวกเขาก็นั่งดื่มเหล้าด้วยกัน

    ======================================================================

    ฉลองวันเกิด (เกิดอยากจะอัพ)

    วันนี้ไม่รู้เป็นอะไร พลังงานมา

    ตอนต่อไปจะข้ามเวลาไปยาวหน่อย เพื่อเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบ พวกเขาจะรอดหรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าเด้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×