ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Time To Kill Nazi - ข้ามเวลาฆ่านาซี

    ลำดับตอนที่ #19 : ขอต้อนรับสู่อังกฤษ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 119
      5
      3 ก.ค. 61

    พวกของนาวินรีบหนีไปขึ้นเรือของแคทเทอรีน อเล็กซ์ดีใจมากที่เธอเจอแคทเทอรีน เพราะกลัวว่าแคทเทอรีนจะเป็นอะไรไป

    อเล็กซ์ : คุณย่า เอ้ย คุณน้า นึกหว่าจะถึงหนูไปซะแล้ว

    แคทเทอรีน : น้าไม่มีวันทิ้งหนูไปไหนหรอกจ้ะ

    แซค : แล้วทำไมคุณน้าถึงเพิ่งจะมาหล่ะครับเนี่ย

    แคทเทอรีน : อ้อ น้าเพิ่งดักฟังวิทยุของพวกมันได้ เลยคิดว่าพวกมันต้องมาที่นี่แน่ๆ

    ในตอนนั้นเอง ก็เกิดการปะทะกันหนักหน่วงขึ้น ทหารสัมพันธมิตรตายไปมากมาย พวกของนาวินเลยต้องรีบหนีไปจากที่นี่

    ธิน : รีบขึ้นเรือดีกว่าครับตอนนี้ ไม่งั้นตายกันหมดแน่ // พวกเขาทยอยกันขึ้นเรือ แต่ในตอนนั้นเอง โซเซียถูกลูกปืนยิงเข้าที่แขน ทำเอาเขาล้มลงบนเรือทันที

    โอ๊ค : แย่แล้ว เอม ออย ช่วยโซเซียด้วย // เอมและออยพากันปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้

    โซเซีย : ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า คิดมากไปได้

    เอม : โชคดีนะเนี่ยที่กระสุนไม่ถูกจุดสำคัญ พอทนไหวนะโซเซีย // โซเซียพยักหน้า

    ออย : หนูว่ารีบหนีไปจากที่นี่กันเถอะค่ะ // ในตอนนั้นเอง ก็มีทหารอังกฤษบางส่วนขอมาขึ้นเรือของแคทเทอรีน แคทเทอรีนจำต้องรับพวกเขาขึ้นมาด้วย

    นาวิน : รีบไปจากที่นี่ดีกว่าครับ ไม่งั้นเราตายกันหมดแน่ // เรือของแคทเทอรีนค่อยๆแล่นออกไป พร้อมกับเรือลำอื่นๆที่มารับทหารสัมพันธมิตร

    อีกด้านหนึ่ง มิลเลอร์พยายามจะกำจัดทหารอังกฟษให้ได้มากที่สุด ในระหว่างที่พวกเขากำลังปะทะกัน ก็มีวิทยุจากฮัมบูร์กเข้ามาทันที

    ฮัมบูร์ก : ถอยทัพเดี๋ยวนี้ ถ้ามีใครรู้เรื่องนี้เราตายกันหมดแน่

    มิลเลอร์ : ก็ได้ งั้นฉันจะรีบถอยเดี๋ยวนี้แหละ // มิลเลอร์ต้องพาคนถอยกลับออกไป อีกด้านหนึ่งฮัมบูร์กได้พยายามติดต่อเมอร์ลินทันที

    ฮัมบูร์ก : เมอร์ลินๆ นายเป็นยังไงบ้าง ตอบฉันด้วย

    เมอร์ลิน : ฉันไม่เป็นไรหรอก โชคดีนะที่กลับถึงฐานได้เนี่ย

    ฮัมบูร์ก : เยี่ยม เดี๋ยวนายรีบมาหาฉัน ด่วนเลย

    ในขณะเดียวกัน ก็มีวิทยุด่วนติดต่อมาจากสำนักงานใหญ่ ติดต่อโดยตรงมาหาฮัมบูร์ก เธอรับสายทันที

    คุณฮัมบูร์ก คุณทำเกินกว่าเหตุไปแล้วนะ

    ฮัมบูร์ก : ฉันทำอะไรเหรอคะท่าน

    คุณขัดคำสั่งของท่านผู้นำ ที่ไม่ให้บุกโจมตี

    ฮัมบูร์ก : ดิฉันไม่ได้บุกโจมตีค่ะ แค่ยันพวกมันเอาไว้ไม่ให้ไปไหนค่ะ

    ถ้าคุณกลับมาเบอร์ลิน หวังว่าคุณจะตอบคำถามท่านผู้นำได้นะจากนั้นสายก็ตัดไป ปล่อยให้ฮัมบูร์กทำท่าเซงอยู่ตรงนั้น ในขณะเดียวกัน มิลเลอร์ก็กลับมาถึงพอดี

    มิลเลอร์ : กลับมาแล้วนะ แผนเธอได้ผลเกินคาดเลยหล่ะ

    ฮัมบูร์ก : ก็คงจะเป็นอย่างงั้นอ่ะ

    มิลเลอร์ : แล้วเมอร์ลินอยู่ที่ไหนหล่ะเนี่ย

    ฮัมบูร์ก : เดี๋ยวเขาคงมาหล่ะ ตอนนี้ไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ

    กลับมายังเบลเยี่ยม ซาบอนกลับมายังบ้านของเขา จากนั้นก็ไปนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่โซฟาคนเดียว นึกถึงเรื่องราวเก่าๆของเขา เขาดื่มไปซักพัก จากนั้นก็เรียกคู่ขาของเขามาหา

    คุณซาบอนค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ

    ซาบอน : เธอต้องมากับฉัน // ซาบอนจิกหัวผู้หญิงคนนั้นขึ้นไปบนห้องนอน จากนั้นก็เหวี่ยงเธอขึ้นไปบนเตียง

    อีกแล้วเหรอคะ

    ซาบอน : ใช่ ขึ้นไปนอนบนนั้นนะ // ผู้หญิงคนนั้นขึ้นไปนอนบนเตียงในขณะที่ซาบอนเอาแต่ดื่มแล้วดื่มอีก ผู้หญิงคนนั้นเตรียมเชือกสำหรับมัดไว้บนเตียงนอน จากนั้นซาบอนก็จัดการมัดมือมัดเท้าของเธอติดกับเตียงนอนทันที

    ซาบอน : ดื่มหน่อยมั้ย // ซาบอนยื่นเหล้าให้เธอแต่เธอไม่ดื่ม ซาบอนเลยไปหยิบแส้มา จากนั้นก็พูดว่า

    มาสนุกกับฉันเถอะที่รัก

    กลับมาที่บ้านของเคท ในตอนนั้นเองทหารเยอรมันได้ยึดปารีสอย่างสมบูรณ์ ทั้งคู่ไม่กล้าออกไปไหนเลย พวกเขาเลยได้แต่อยู่ในบ้าน นั่งปรับทุกข์คุยกัน ทั้งคู่ดื่มไวน์จนเมา จากนั้นก็เริ่มเปิดประเด็นทันที

    เคท : ฉันถามเธอตรงๆนะ เธอมาทำอะไรที่ฝรั่งเศสงั้นเหรอ

    จูเลียส : ก็อย่างที่ผมบอกนั่นแหละ ผมไม่อยากเป็นทหารเลยหนีมาหน่ะครับ

    เคท : แล้วทำไมเธอถึงไปที่เยอรมันหล่ะ

    จูเลียส : ผมไปหางานทำที่นั่น กะว่าจะซักพักนึง แต่ผมเจอกับชายคนหนึ่ง

    เคท : เจอกับใครอย่างงั้นเหรอ

    จูเลียส : ผมไม่รู้ชื่อหรอก เขาอยากให้ผมเป็นสายลับ

    เคท : แล้วนายก็มาสืบเรื่องของฉันอย่างงั้นเหรอ

    จูเลียส : ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณอยู่ที่นี่ แล้วคุณหล่ะ คุณทำงานอะไรงั้นเหรอ

    เคท : ฉันเป็นมือปืนรับจ้างหน่ะ

    จูเลียส : ล้อผมเล่นหรือเปล่าเนี่ย อย่างคุณเนี่ยนะ

    เคท : ไม่ล้อเล่นหรอก ฉันเคยเห็นสงครามตั้งแต่ยังเด็กๆหน่ะ

    จูเลียส : ผม ผมไม่รู้ว่าผมจะทำยังไงต่อ ถ้าผมไม่ส่งข้อมูลไปให้เขา เขาฆ่าผมตายแน่

    เคท : ไม่ต้องกลัวหรอกนะ เธออยู่ที่นี่ไม่มีใครทำอะไรเธอได้หรอก // ในตอนนั้นเองทั้งคู่เริ่มเมาไม่รู้เรื่อง ทั้งคู่ช่วยแบกกันไปขึ้นเตียงนอน จูเลียสพยายามจะไปนอนเตียงของตัวเองแต่ไปไม่ไหว เลยล้มตัวลงนอนข้างๆเคท

    เคท : นายจะนอนตรงนี้เลยงั้นเหรอ

    จูเลียส : ครับ ผม ไป ไม่…. // จากนั้นเขาก็นิ่งไป เคทก็ลากตัวเขามาอยู่บนหมอนเหมือนกับตัวเองแล้วนอนอยู่ข้างๆเขา

    กลับมายังกรุงลอนดอน ในตอนนั้นเองโจสกำลังเขียนรายงานกลับไปยังวอชิงตัน ในตอนนั้นเองเพื่อนของเขาก็นำข่าวสำคัญมาบอกเขา

    โจส ฉันมีข่าวดีมาบอก

    โจส : อะไรเหรอ รีบหน่อยหล่ะ ฉันกำลังเขียนรายงานส่งไปทางวอชิงตันอยู่

    ตอนนี้ทางเราช่วยทหารที่ติดอยู่ที่ดันเคิร์กได้แล้วนะ

    โจส : จริงเหรอ เยี่ยมไปเลย พระเจ้ายังเข้าข้างเราอยู่

    ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังแล่นเรือมาหาเราแล้ว

    โจส : ดีเลย เอางี้นะ โมริค เอาข้อมูลของฉันไปทำข่าวด้วยนะ

    ได้เลย

    เพื่อนของโจสเดินออกไป ส่วนโจสก็เขียนรายงานต่ออย่างเร่งรีบ ในตอนนั้นเองก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาหาเขา

    สวัสดีครับ สถานทูตสหรัฐครับ

    คุณโจสใช่หรือเปล่าครับ ผมอยากเจอคุณ

    นี่คุณเป็นใครกันครับ

    ตอนนี้คุณยังไม่รู้หรอก แต่ถ้าคุณมาเจอผมคุณจะรู้เองจากนั้นเขาก็วางสายไป

    ทางด้านของนูโวร่า เรือที่เธอโดยสารกำลังเข้าใกล้แผ่นดินแม่ของอิตาลีเข้าไปทุกที ในตอนนั้นเองลูกน้องของเธอก็มารายงานข่าวที่ได้ยินมากับเธอ

    นูโวร่า : มีอะไรงั้นเหรอ

    มีข่าวสำคัญจะรายงานให้ทราบครับ

    นูโวร่า : รีบๆหล่ะ ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญหล่ะก็น่าดู

    ตอนนี้พวกอังกฤษที่ดันเคิร์กได้รับการช่วยเหลือจนหมดแล้วครับ

    นูโวร่า : ห่ะ อะไรนะ เป็นไปไม่ได้

    ยิ่งไปกว่านั้นอีกครับ มีหญิงคนหนึ่งที่ทำงานในเบอร์ลิน หนีไปอยู่อังกฤษครับ

    นูโวร่า : แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันงั้นเหรอ

    เธอเป็นคนอิตาลีครับ

    นูโวร่า : ห่ะ ไม่ได้การหล่ะ สั่งคนของเราในอังกฤษพยายามตามหาตัวเธอ แล้วฆ่าทิ้งซะ

    ได้ครับ

    ณ กรุงลอนดอน หลังจากที่คาริน่ามาถึงรัฐสภา เธอรีบร้อนขึ้นไปหาหัวหน้าใหญ่ของที่นี่ทันที

    ดิฉันมาพบผู้บังคับบัญชาของที่นี่คาริน่ายื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้เขาดู

    เชิญด้านนี้ค่ะเธอพาคาริน่าไปยังห้องรับรองห้องหนึ่ง ในห้องนั้นมีชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่

    เชิญนั่งสิครับคาริน่านั่งทันที จากนั้นก็เริ่มการสนทนา

    เอาหล่ะ ผมได้อ่านจดหมายของคุณหมดแล้ว เสียใจด้วยนะกับเรื่องที่คุณเจอมา

    คาริน่า : ค่ะ ดิฉันอยากหาที่มาหลบภัยหน่ะค่ะ

    แน่นอนครับ คุณเขียนจดหมายมาว่าคุณรู้อะไรเกี่ยวกับเครื่องถอดรหัสนี่

    คาริน่า : ค่ะ พวกมันกำลังทำปรับปรุงเครื่องอินิกม่าแบบใหม่หน่ะค่ะ

    แล้วทำไมคุณถึงหนีมาที่นี่หล่ะ

    คาริน่า : ดิฉันว่าต้องมีคนกลั่นแกล้งดิฉันแน่ๆค่ะตอนนี้

    ผมเข้าใจนะ เดี๋ยวผมจะทำเรื่องให้คุณไปทำงานที่หนึ่งนะ

    คาริน่า : งานอะไรอย่างงั้นเหรอคะ

    งานถอดรหัสหน่ะ ตอนนี้คุณพักอยู่ที่ๆผมจัดไว้ให้ก็แล้วกัน

    คาริน่า : ขอบคุณค่ะ

    กลับมายังแอริโซน่า สหรัฐอเมริกา โคเวอร์ตื่นเช้ามาใส่รองเท้าหนังของเขา พร้อมกับใส่กางเกงขาสั้น แม่เขารู้สึกแปลกใจเพราะโคเวอร์ไม่เคยตื่นเช้าขนาดนี้

    ลูกจ๊ะ ทำไมตื่นเช้าจังหล่ะวันนี้

    โคเวอร์ : ผมจะฝึกวิ่งครับแม่

    ห่ะ แล้วลูกจะวิ่งจากไหนไปไหนหล่ะ

    โคเวอร์ : ผมจะวิ่งขึ้นเขาลูกนั้นหน่ะครับแม่ ไปก่อนนะครับ // โคเวอร์รีบวิ่งไปทันที เขาวิ่งไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก็มีชาวบ้านแถวนั้นมาทักทายเขา แต่ในตอนนั้น

    โคเวอร์เริ่มจะเหนื่อย จนเขาต้องเปลี่ยนเป็นเดินแทน เนื่องจากเขาไม่เคยวิ่งไกลๆแบบนี้มาก่อน

    โอ้ย ตาย แบบนี้จะรอดหรือเปล่าเนี่ย

    เขาเดินสลับวิ่งเพื่อขึ้นไปบนเขา พยายามแล้วพยายามอีก แต่สุดท้ายยังไม่ถึงตีนเขาเลย เขาก็ต้องนั่งหอบอยู่แถวนั้นซะแล้ว

    เอาน่า วันหนึ่งฉันจะต้องวิ่งไปถึงยอดเขาให้ได้ แต่ฉันน่าจะเอาม้ามาด้วยนะเนี่ย

    ที่ท่าเรือเนเธอร์แลนด์ หลังจากที่ออก้ามาถึง ในตอนนั้นพวกนาซีก็ได้ยึดครองประเทศทั้งหมดแล้ว แต่ออก้าไม่ยอมแพ้ เขาออกตามหาโซเซียไปเรื่อยๆ ในระหว่างนั้น เขาเห็นทหารนาซีกำลังจับกุมคนยิวบางส่วนไป ในตอนนั้นเองโซเซียเห็นคนที่เขารู้จักคนหนึ่ง ซึ่งนั้นก็คือลินดา เจ้านายเก่าของพวกโซเซียนั้นเอง ออก้าวิ่งเข้าไปคุยกับเธอในทันที

    ออก้า : คุณลินดาครับ

    ลินดา : ห่ะ เธอเป็นใครงั้นเหรอ

    ออก้า : คุณเห็นโซเซีย เพื่อนของผมหรือเปล่าครับ

    ลินดา : ฉันยังไม่เจอพวกเขาเลยตั้งแต่มาเนเธอร์แลนด์หน่ะ

    ออก้า : อ้าว แล้วผมจะไปตามหาพวกเขาที่ไหนเหรอครับ

    ลินดา : เธอลองถ้าชาวยิวแถวนั้นดูสิ

    ออก้า : แล้วผมจะต้องไปถามที่ไหนหล่ะครับ // แต่ไม่ทันไร ทหารนาซีก็เอาตัวเธอไปแลว แล้วพวกมันพยายามจะลากออก้าออกไป ออก้าเห็นเลยต้องหนีมาก่อน เขาเดินตามถนนหาไปเรื่อยๆ แต่ระหว่างนั้นเอง เขาไม่รู้ว่ามีคนสะกดรอยตามเขามาอยู่

    เขากำลังตามหาคนอยู่ค่ะตอนนี้

    แล้วดูเหมือนว่าจะเป็นอันตรายหรือเปล่าหล่ะ

    น่าจะไม่นะคะ แต่ยังไงฉันก็จะตามดูอีกที

    กลับมายังหมู่บ้านแห่งหนึ่งในกัมพูชา ในตอนนั้นเองรัตพยายามจะหนีออกจากหมู่บ้าน แต่ทหารญวณแถวนั้นอยู่เต็มไปหมด รัตพยายามลอบเร้นสังหารทหารญวณที่ละคน และในตอนนั้นเอง พวกมันก็พาชาวบ้านทุกคนมารวมตัวกัน จากนั้นก็พยายามเรียกให้รัตออกมา

    ฉันรู้ว่าแกอยู่แถวนี้ ถ้าแกไม่ออกมา ฉันจะเริ่มฆ่าชาวบ้านทีละคน

    มันยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่ ชาวบ้านกลัวจนลนลาน รัตจึงต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง

    ในตอนนั้นเอง รัตวิ่งเข้าไปในป่า จากนั้นก็ยิงพวกมัน หลังจากนั้นรัตก็ตะโกนออกไปว่า

    แน่จริงแกก็มาจับตัวฉันสิ

    พวกมันรีบตามล่าตัวรัตทันที แต่เนื่องจากพวกมันไม่มีรถ เลยตามได้ไม่สะดวก

    โธ่เอ้ย รีบตามตัวมันไปสิ

    รัตวิ่งมาเรื่อยๆ จนเข้าป่าลึกแห่งหนึ่ง ซึ่งพวกมันก็ตามมาติดๆ แต่พวกมันไม่กล้าทำอะไร เพราะมีข่าวร่ำลือว่าป่าแห่งนั้นต้องคำสาป

    ท่านครับ ป่านี้เป็นป่าต้องคำสาปนะครับ เคยได้ยินว่าใครเข้าไปจะไม่มีวันได้กลับออกมาครับ

    เหลวไหล ถ้าพวกแกไม่เข้าไป พวกแกได้ตายตรงนี้แน่

    พวกมันพาคนเข้าไปในป่านั้นเพื่อตามหารัต ซึ่งรัตในตอนนั้นแปลกใจคิดว่าทำไมพวกมันไม่ตามมา

    พวกมันไม่ตามมาแล้ว รู้สึกว่าป่านี้มีอะไรแปลกๆนะ ขอสำรวจหน่อยดีกว่า

    รัตเดินเข้าไปในป่าลึกเพื่อสำรวจหาทางออก

    กลับมายังอังกฤษ โอแลนได้รับข่าวจากนักบินที่เพิ่งกลับมาจากดันเคิร์ก นักบินคนนั้นกลับมาในสภาพสะบักสะบอม โอแลนเปิดประเด็นถามเขาทันที

    โอแลน : ปลอดภัยดีนะ ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

    ผมไม่เป็นไรครับ แต่ผมมีข่าวดีมาบอกครับ

    โอแลน : ว่ามาเลย ฉันฟังอยู่

    ตอนนี้ทหารที่ดันเคิร์ก เราช่วยกลับมาได้หมดแล้วครับ

    โอแลน : เยี่ยมไปเลย แล้วมีข่าวอะไรต่อหรือเปล่าหล่ะ

    นักบินบางส่วนเครื่องบินตกและถูกจับเป็นเชลยครับ

    โอแลนนั่งเข่าทรุดอยู่ตรงนั้น ทหารคนอื่นๆต้องมาช่วยดูเขา

    ฉันมันส่งพวกเขาไปตายแท้ๆเลย

    อย่ากังวลไปเลยครับ ไม่มีใครโทษคุณหรอก

    โอแลน : แล้วทหารที่ดันเคิร์กมีใครถูกจับไปบ้างหล่ะ

    ก็ มีบางส่วนครับ แถมเราปะทะกับพวกมันด้วย

    โอแลน : พวกมันจะต้องชดใช้ แต่เอาเถอะ พวกคุณไปทำหน้าที่ของคุณต่อดีกว่า

    และในกรุงลอนดอน หลังจากที่เจลามี่ได้พักฟื้นตัวเองเสร็จ เพื่อนของเขาก็ได้เข้ามาคุยกับเขาเรื่องแผนการกู้ชาติของเขาทันที

    เฮ้ เจลามี่ ตอนนี้เรากำลังจะก่อการหน่ะ

    เจลามี่ : จริงเหรอ ก่อการในโปแลนด์ตอนนี้มันอันตรายนะ

    ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก ฉันว่าจะต้องระดมเงินทุนไปก่อนหน่ะ

    เจลามี่ : แล้วจะใช้เวลานานแค่ไหนหล่ะ

    ฉันก็ไม่รู้ รอเวลาและโอกาสดีๆอยู่หน่ะ

    เจลามี่ : ตอนนี้เราต้องมีอาวุธและแผนการก่อนนะ

    ตอนนี้ฉันก็ยังไม่มีแผนการที่แน่ชัดเท่าไหร่ แต่ไม่นานหรอก

    เจลามี่ : แล้วตอนนี้จะให้ฉันทำอะไรไปก่อนหล่ะ

    ไม่มีอะไรมาก พยายามระดมเงินทุนจากทั่วโลก ทำการก่อการครั้งนี้ให้สำเร็จก็พอ

    เจลามี่ : ฉันก็หวังไว้แบบนั้น เออนี่ ถ้านายไม่ใช่รถ ฉันขอยืมรถนายหน่อยสิ

    นายจะขับไปไหนงั้นเหรอ

    เจลามี่ : ฉันมีธุระนิดหน่อยหน่ะ

    ณ ค่ายยุวชนนาซีแห่งหนึ่ง ในขณะที่โยชิตะกำลังคุมเด็กๆในการฝึกฝนร่างกาย ในตอนนั้นเอง ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดที่หน้าค่าย จากนั้นเธอสองคนก็ลงมาจากรถ แล้วก็เข้ามาหาโยชิตะทันที

    อลิส : เฮ้ โยชิตะ พี่กลับมาแล้วนะ

    โยชิตะ : พี่ครับ กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลย

    ริน : ไม่คิดถึงฉันบ้างเลยเหรอจ๊ะ

    โยชิตะ : แหม่ ก็คิดถึงเหมือนกัน มากๆด้วย เข้าไปคุยข้างในก่อนสิพี่

    โยชิตะพาทั้งคู่เข้าไปนั่งพักที่ห้องรับรอง อลิสซื้อของมาฝากเด็กๆในค่ายด้วย ทำเอาพวกเด็กๆดีใจกันใหญ่ จากนั้นเองเธอก็มานั่งคุยกับโยชิตะทันที

    อลิส : โยชิตะ เธออยู่ที่นี่สบายดีหรือเปล่าหล่ะ

    โยชิตะ : ผมสบายดีครับ แล้วพี่หล่ะ

    อลิส : พี่สบายดี ตอนนี้ภารกิจของพี่ก็ไม่มีแล้วด้วย

    โยชิตะ : แล้วเธอหล่ะริน เป็นยังไงบ้าง บอกฉันหน่อยสิ

    ริน : ฉันไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ฉันกำลังจะไปเบอร์ลินต่อ ผ่านที่นี่มาเลยอยากแวะมาหานาย

    โยชิตะ : แล้วงานที่ฝรั่งเศสเป็นยังไงบ้างครับ

    อลิส : ก็สบายๆหน่ะ ตอนนี้งานก็ไม่มีหล่ะ

    ริน : ไม่รู้ว่าเขาจะส่งตัวไปที่ไหนอีกหรือเปล่านะเนี่ย

    โยชิตะ : งั้นก็ดีสิครับ พี่จะได้อยู่กับผมไปก่อน เออนี่ ผมได้ข่าวมาว่าพี่เทราน์เนอร์และพี่ฮัมบูร์กจะกลับมาเบอร์ลินด้วย

    อลิส : จริงเหรอ ฉันอยากไปเยี่ยมพวกเขาจัง

    โยชิตะ : ดีเลยพี่ อีกไม่กี่วันผมก็มีโอกาสเข้าเบอร์ลินหล่ะ ไว้เราไปเยี่ยมพวกพี่ๆเขากันนะ

    ริน : ได้เลย งั้นเดี๋ยววันไหนเธอว่างฉันจะมารับก็แล้วกัน

    กลับมาที่ห้องพักสุดหรูของวิคเตอร์ หลังจากที่เขาและกัสมาถึง พวกเขาก็มานั่งพักผ่อนกันทันที

    กัส : นี่คุณหายไปไหนมา ฉันตามหาคุณตั้งนาน

    วิคเตอร์ : ผมไปทำสงครามมาหน่ะ ตอนนี้อยากกลับมาแล้ว

    กัส : ดีสิคะ งั้นคุณก็มาอยู่กับฉันที่นี่สิ

    วิคเตอร์ : ช่วงนี้ผมมีงานหน่ะ ว่าจะไปทำกับเจ้าเทราน์เนอร์ด้วย

    กัส : เดี๋ยวสิคุณ เพิ่งจะกลับมาเนี่ยจะทำงานอีกแล้วเหรอ

    วิคเตอร์ : ตอนนี้ยังหรอก เดี๋ยวผมมานะ // เขารีบไปโทรศัพท์หาเทราน์เนอร์ทันที

    เทราน์เนอร์ : วิคเตอร์เหรอ มีอะไรหรือเปล่าอ่ะ

    วิคเตอร์ : ฉันอยากชวนนายไปดื่มหน่อยอ่ะ

    เทราน์เนอร์ : โหเพื่อน ขอฉันพักก่อนไม่ได้เหรอเนี่ย

    วิคเตอร์ : งั้นเย็นนี้เจอกัน เดี๋ยวฉันจะไปรับนาย

    เทราน์เนอร์ : ได้ๆ นายเลี้ยงนะ

    กลับมาบนเครื่องบินลำหนึ่ง แถบน่านฟ้ากรีซ ลูก้ากำลังนั่งลงคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนนายทหารที่รับใช้เขาเกิดสงสัยขึ้นมา เขาจึงลองถามลูก้าดู

    คุณลูก้าครับ คิดอะไรอยู่เหรอครับ

    ลูก้า : ผมก็คิดอะไรไปเรื่อยหน่ะครับ ไม่มีอะไรหรอก

    เรื่องผู้หญิงหรือเปล่าครับผม

    ลูก้า : เอ๊ย คุณรู้ไดไง อ

    ผมไม่รู้เลยนะครับ ผมเดาเอาเฉยๆ ผมเดาถูกด้วยเหรอเนี่ย

    ลูก้า : ก็ได้ๆ คุณชนะ ไม่มีอะไรหรอก

    ร้อยวันพันปีไม่เห็นว่าคุณคิดถึงผู้หญิงคนไหนนี่ แล้วคุณคิดถึงใครเหรอ

    ลูก้า : คุณอาจจะหาว่าผมบ้า แต่ผมเจอเธอแค่ครั้งเดียว แต่ผมกลับคิดถึงอยู่ตลอด เธอดูห้าวๆแต่ก็น่ารักดีครับ

    ห้าวด้วยเหรอ ชอบแนวนี้ก็ไม่บอก

    ลูก้า : แหม่ เธออาจจะไม่ได้ห้าวตลอดเวลาก็ได้นี่ครับ

    “555 ผมล้อเล่นหน่ะ ถ้าคุณได้เจอเธอครั้งที่สอง อย่าปล่อยให้หลุดมือนะครับ

    กลับมายังแอฟริกา หลังจากที่ทัพอากาศอิตาลีบินถล่มค่าย พวกมันก็บุกเข้ามาอีกระลอกหนึ่ง พวกเขาใช้รถถังนำ จากนั้นก็กระหน่ำยิงเข้ามาในค่าย ทหารอาหรับพวกนั้นไม่มีอาวุธที่ทันสมัยเพียงพอ พวกเขาจึงถูกตีจนถอยร่น

    เทเรซ่า รีบอพยพคนเจ็บไปก่อนเร็ว

    แต่ในขณะนั้นเอง เทเรซ่าก็โดนระเบิดจนหมดสติ จากนั้นก็เกิดความวุ่นวายไปอีกสักพักหนึ่ง เมื่อเธอฟื้นขึ้นมา ทหารอิตาลีก็มาเคลียร์ความเสียหายเรียบร้อยแล้ว เทเรซ่าตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง ทหารอิตาลีก็มาดูเธอทันที

    คุณ อ้าวนั่น คุณหมอเทรนี่ ไม่เป็นไรนะครับ

    เทเรซ่า : อ้อ คือฉัน ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย

    คุณถูกจับมาที่นี่เหรอครับ ปลอดภัยแล้วครับ

    เทเรซ่า : มันเกิดอะไรขึ้นหล่ะคะ แล้วคนอื่นๆเป็นยังไงบ้าง

    เชลยบางส่วนหนีไปอ่ะครับ แถมเป็นพวกเราด้วย จับได้เมื่อไหร่มันโดนประหารแน่ๆ

    เทเรซ่า : ช่างมันก่อนเถอะ ตอนนี้มีใครบาดเจ็บบ้างหรือเปล่าอ่ะ

    ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณหมอไปพักผ่อนด้านนั้นก่อนดีกว่านะครับ

    เทเรซ่าถูกทหารอิตาลีพาไปพักผ่อนที่ด้านหนึ่ง แต่เธอก็พยายามจะช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บคนอื่นๆด้วย

    กลับมายังฝรั่งเศส ฮัมบูร์กได้มาเจอกับมิลเลอร์และเมอร์ลินที่กลับมาพอดี พวกเขาได้ร่วมฉลองถึงความสำเร็จอย่างงดงามที่ดันเคิร์ก

    มิลเลอร์ : เยี่ยมไปเลย เรากำจัดพวกอังกฤษงี่เง่าไปมากโขเลยวันนี้

    ฮัมบูร์ก : อย่าดีใจมากไปหล่ะ พวกเราคงต้องถูกสอบสวนเรื่องนี้

    เมอร์ลิน : ฉันไม่รู้ว่าท่านผู้นำคิดอะไรอยู่กันแน่เนี่ย

    ฮัมบูร์ก : ช่างมันเถอะ เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจัดการเอง

    บนเรือของแคทเทอรีน พวกเขาพยายามช่วยโซเซียไว้ไม่ให้ไม่เป็นอะไรไปมากกว่านี้ เอมและออยช่วยปฐมพยาบาลเขาอย่างเต็มที่

    เอม : อดทนไว้นะโซเซีย นายต้องเข้มแข็งเอาไว้

    ออย : ตอนนี้ฉันห้ามเลือดได้แล้วหล่ะ โชคดีกระสุนไม่ได้ฝังไว้

    ธิน : เขาเสียเลือดมากเลยเนี่ย ถ้าเราไม่ถึงเร็วๆนี้เขาไม่รอดแน่

    โซเซีย : ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่เป็นไรมากหรอก

    อเล็กซ์ : อีกไกลมั้ยคะกว่าจะถึงเนี่ย

    แคทเทอรีน : อีกไม่ไกลหรอกจ้ะ อยู่ข้างหน้านั่นไง // พวกเขาเห็นชายฝั่งอังกฤษอยู่ข้างหน้าโดยที่มีทหารอังกฤษรอต้อนรับอยู่มากมาย

    แซค : พวกเรารอดตายแล้ว โซเซีย นายรอดแล้ว

    โอ๊ค : ใช่ แข็งใจเอาไว้นะเพื่อน นายต้องไม่เป็นไร

    นาวิน : รีบเอาเรือเทียบฝั่งเลยครับทุกคน

    แคทเทอรีนรีบเอาเรือเทียบท่าทันที ทหารอังกฤษบนฝั่งเอาเปลมาแบกโซเซียไปทำแผล ส่วนคนที่เหลือก็ตามไปดูอาการด้วย

    ======================================================================

    พวกเขาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย แต่โซเซียบาดเจ็บหนัก เขาจะรอดหรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×