ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Time To Kill Nazi - ข้ามเวลาฆ่านาซี

    ลำดับตอนที่ #16 : ถอยทัพ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 143
      6
      10 มิ.ย. 61

    นาวินและพวกยิงปะทะกับพวกนาซีที่บุกเข้ามา พวกนั้นพยายามฝ่าเข้ามาในเมืองแต่ก็ไม่ได้ เนื่องจากทหารฝรั่งเศสบางส่วนยังคงตั้งมั่นรับไว้ ในขณะที่เสียงปืนดังไปทั่ว พวกเขาต้องตั้งรับศัตรูที่เหนือกว่า

    นาวิน : นี่ ฉันว่าเราคงต้องรับที่นี่ได้ไม่นานเท่าไหร่หรอก

    แซค : ถ้างั้นก็คงต้องถอยกลับเข้าไปในเมืองก่อนหล่ะ

    ทางด้านฮัมบูร์ก เธอสงสัยว่าทำไมถึงบุกเข้าไปได้ช้าจัง ทำให้เธอต้องติดต่อกับมิลเลอร์ทันที

    ฮัมบูร์ก : ทำไมยังบุกเข้าไปไม่ได้ซะทีเนี่ย

    มิลเลอร์ : นั่นสิ ฉันจะให้รถหุ้มเกราะขนาบข้างมันดู

    อีกด้านของแนวรบ

    นาวิน : นี่ ฉันว่าพวกมันต้องมาด้านข้างแน่ อเล็กซ์ ธิน พวกนายไปด้านซ้ายนะ ส่วนโอ๊ค โซเซียไปทางขวานะ ถ้าพวกนายไม่ไหว ถอยไปที่ตึกนั้นนะ // จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันออกไป ในขณะที่ทหารฝรั่งเศสแถวนั้นก็บาดเจ็บกันมากมาย

    แซค : เอม ออย เธอไปดูทหารพวกนั้นก่อน เร็ว

    เอมและออยต้องไปรักษาทหารที่บาดเจ็บ ส่วนนาวินกับแซคก็ยิงกับพวกมันต่อ

    นาวิน : แซค พยายามประหยัดกระสุนนะ แล้วถ้าทหารฝรั่งเศสถอย ต้องถอยทันทีนะ

    แซค : ด้วยความยินดีเลย // เขาพูดจากนั้นก็ยิงกับพวกมันต่อ

    ทางด้านอเล็กซ์และธิน พวกเขาไปป้องกันทางซ้าย ซึ่งพวกมันก็บุกเข้ามาจริงๆ อเล็กซ์เลือกที่จะขึ้นไปบนตึกเพื่อยิงพวกมันจากที่สูง ทั้งคู่ยิงพวกมันล้มตายไปมากแต่ แต่พวกมันก็ยิงถล่มตึกซะจนพรุน

    ธิน : ฉันว่าตึกนี้มันอยู่ได้ไม่นานแน่เลยเนี่ย

    อเล็กซ์ : เห็นด้วยเลย ฉันหวังว่าน้าแคทเทอรีนจะรีบกลับมานะ

    ไม่ทันไร พวกมันเอารถถัง panzer เล็งไปยังตึกที่พวกเขาอยู่

    อเล็กซ์ : ตายหล่ะ หลบเร็ว // panzer ยิงถล่มตึกจนพัง แต่อเล็กซ์พาธินกระโดดหนีออกจากตึกมาได้

    อีกด้านหนึ่ง โอ๊คและโซเซียก็มาตั้งรับกับทหารฝรั่งเศส แต่ตอนนั้นเองปืนกลของพวกเยอรมันก็ยิงกดเอาไว้ ทำให้พวกเขาไปไหนไม่ได้

    โอ๊ค : บ้าเอ้ย เราสู้ไม่ได้แน่ถ้าไม่มีอาวุธต่อสู้รถถังหน่ะ

    โซเซีย : พูดอย่างกับว่าฝรั่งเศสมีนี่หว่า แล้วเราจะเอายังไงต่อ

    โอ๊ค : ฉันว่าจะลองมัดระเบิดมือรวมกันแล้วลองขว้างไปดู // โอ๊ครวบรวมระเบิดมือมา จากนั้นก็วิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า แล้วก็ขว้างไปข้างหน้ารถหุ้มเกราะของพวกมัน ขว้างไปโดนล้อของพวกมันพอดี

    โซเซีย : เจ๋งไปเลยพวก

    แต่ในตอนนั้นเอง รถหุ้มเกราะอีกคันก็บุกเข้ามา จากนั้นก็กราดยิงทุกชีวิตที่ขวางหน้า ทำเอาโอ๊คกับโซเซียต้องถอยออกมา

    อีกด้านของสมรภูมิ

    ฮัมบูร์ก : มิลเลอร์ ขนาบข้างไปให้มากที่สุด แล้วสั่งให้คนบุกเข้าเมืองเลย

    มิลเลอร์ : รับทราบ ฉันจะจัดการเอง

    ฮัมบูร์ก : เมอร์ลิน ช่วยเอาเครื่องบินทิ้งระเบิดปิดทางออกพวกมันหน่อย

    เมอร์ลิน : ขอปฏิเสธ พวกอังกฤษบุกมาอย่างหนัก ฉันต้องไปป้องกันเส้นทางลำเลียงหน่ะ // เมอร์ลินขับเครื่องบินของเขาสู้กับเครื่องบินของอังกฤษอย่างกล้าหาญ ทางด้านสองสาวเอม ออย พวกเธอต้องชวยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ทหารฝรั่งเศส

    เอม : คนนี้เสียเลือดมากเลย ถ้าไม่พาเขาออกไป เขาตายแน่

    ออย : ของฉันก็เหมือนกันเนี่ย ทำใจดีๆไว้นะคะคุณ

    ในตอนนั้นเอง ทหารฝรั่งเศสก็เริ่มถอย นาวินกับแซคต้องถอยด้วยเนื่องจากกระสุนใกล้จะหมดเต็มที

    ณ กรุงปารีส จูเลียสต้องเข้ามาสืบความลับที่บาร์แห่งหนึ่ง ซึ่งนายพลฝรั่งเศสคนหนึ่งได้คุยกับชายอังกฤษอีกคน จูเลียสเห็นชายฝรั่งเศสคนนั้นเข้าห้องน้ำไป จูเลียสตามเข้าไป จากนั้นก็ใช้ผ้าปิดหน้า เขาเห็นชายคนนั้นกำลังฉี่อยู่ที่โถ เขาลากคอมันเข้าห้องน้ำ จากนั้นก็รีดความลับจากเขา

    บอกทุกอย่างที่แกพูดกับคนอังกฤษคนนั้นมา เดี๋ยวนี้

    เรื่องอะไรฉันต้องบอกแก ห่ะ

    ก็เพื่อลูกเมียนายจะได้ปลอดภัยยังไงหล่ะ

    ห่ะ อย่านะ ก็ได้ๆ

    เขาบอกทุกอย่างให้กับจูเลียส จากนั้นจูเลียสก็ทำให้เขาสลบ จากนั้นก็หนีออกไปทางหลังร้าน ในขณะที่ตำรวจฝรั่งเศสก็ตามล่าตัวเขา

    จูเลียสได้ที่อยู่ของมือสังหารคนที่ฆ่านายพลเยอรมันคนหนึ่ง เขาต้องส่งข้อมูลนี้ไปให้ทางหน่วย แต่เอ๊ะ ลองไปตรวจสอบที่นั่นให้แน่ชัดก่อนดีกว่า โดยที่เขาไม่รู้ว่า คนที่เขาจะไปหาคือคนที่เขารู้จัก

    ทางด้านของเคท เธอนั่งดื่มไวน์โดยที่ไม่สนว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก ในขณะเดียวกัน เธอก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง มีใจความว่าให้เธอหนีไปอังกฤษซะ เพราะมีคนกำลังตามล่าตัวเธออยู่ เธอไม่สนใจเท่าไหร่เพราะว่าเธอไม่อยากไปไหนอีกแล้ว

    เฮ้อ นายคนที่ชื่อจูเลียสนั่น ป่านนี้เขาจะเป็นยังไงบ้างนะเนี่ย

    ในขณะเดียวกัน เธอก็นึกขึ้นได้ หรือเราจะไปหาเขาที่เยอรมันดี จะบ้าเหรอ ถ้ากลับไปตอนนี้ฉันตายแน่ ว่าแล้วก็กลับมานอนเพ้อต่อดีกว่า

    ณ กรุงลอนดอน โจสพาตัวของนูโวร่ามายังสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ตำรวจพวกนั้นสอบสวนเธอแบบกดดันไม่มีหยุด แต่เธอไม่มีทีท่าว่าจะคายอะไรออกมา

    บอกมาเดี๋ยวนี้ เธอต้องการที่ลักพาตัวเขาทำไม

    ใช่ แล้วทางอิตาลีอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือเปล่า

    นูโวร่า : พวกของฉันทำเองทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล

    ยังจะปากแข็งอีก ถ้ามุสโสลินีไม่อยู่เบื้องหลัง แล้วจะเป็นใครหล่ะ

    นูโวร่า : แกจะเชื่อหรือเปล่าก็แล้วแต่ แต่แกจะไม่มีวันได้อะไรจากฉันแน่นอน

    ตำรวจคนหนึ่งเดินออกมา แล้วส่ายหน้าทันที

    เฮ้อ ไม่ยอมบอกอะไรเลยครับยัยนี่

    โจส : ผมว่า เธอต้องการอยากจะรู้ความลับของผมที่ผมส่งไปทางวอชิงตันแน่นอน

    ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้นหล่ะ

    โจส : เธอถามผมเกี่ยวกับความลับที่ผมได้มาจากเยอรมันหน่ะครับ

    งั้นเราคงต้องส่งเธอไปขังที่อื่นชั่วคราวก่อน เพราะที่นี่ตกเป็นเป้าได้ง่ายเกินไป

    โจส : แล้วแต่คุณนะครับ ยังไงก็ฝากดูแลด้วยหล่ะ // ในขณะเดียวกัน นูโวร่าก็ยิ้มมุมปาก จากนั้นก็ขอยืมโทรศัพท์จากตำรวจ แต่เขาไม่ให้ เธอเลยพูดว่า

    ช่างมันเถอะ ยังไงเดี๋ยวฉันก็ได้ออกไปแล้ว

    กลับมายังกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี คาริน่าก็ยังคงทำงานของเธอต่อไป โดยที่เพื่อนร่วมงานของเธออิจฉาเธอมาก เป็นคนอิตาลีแท้ๆแต่เก่งกว่าคนเยอรมันซะอีก

    ฉันจะต้องเขี่ยยัยนั้นให้พ้นทางซะแล้ว

    แล้วเธอจะทำยังไงหล่ะ ยัยนั้นฉลาดจะตาย

    ไม่ต้องห่วง ฉันมีวิธีของฉันก็แล้วกัน

    คาริน่าถอดรหัสได้ข้อมูลมาใหม่ พบว่าจะมีการเคลื่อนทัพเรือของอังกฤษไปยังที่ไหนซักแห่ง

    คาริน่า : ท่านคะ ฉันได้ข้อมูลมาใหม่ค่ะ

    อืม ดูเหมือนว่าทัพเรืออังกฤษจะเคลื่อนไปทางตะวันออก มาทางเรานะ

    คาริน่า : หรือว่าพวกมันจะมาที่ฝรั่งเศสคะ

    ก็ไม่แน่นะ เดี๋ยวผมจะลองส่งเรื่องนี้ไปทางหน่วยดู

    คาริน่ากลับมายังโต๊ะทำงาน โดยที่เธอไม่รู้ว่า เธอกำลังจะต้องเจอกับอะไร

    ณ รัฐแอริโซน่า อเมริกา โคเวอร์ได้ไปส่งพ่อของเขาที่รถบัสซึ่งกำลังจะไปสถานีรถไฟ

    โคเวอร์ : พ่อครับ ส่งจดหมายมาหากันบ้างนะครับ

    ได้สิลูก พ่อจะส่งรูปของฮาวายมาให้

    อยู่ที่นั่นก็รักษาตัวด้วยนะคะคุณ

    ได้สิครับ ผมจะดูแลตัวเองอย่างดีเลย

    โคเวอร์ : พ่อครับ ผมอยากเข้าร่วมกองทัพครับ

    แนะ พูดเรื่องนี้อีกแล้วนะ แต่เอาเถอะ ถ้าลูกอยากจะเป็นทหารแล้วพ่อคงจะขัดใจไม่ได้หรอก

    ลูกคนนี้นี่ พ่อเขาจะไปอยู่แล้วยังจะอะไรอีกเนี่ย

    โคเวอร์ : ยังไงก็รักษาตัวด้วยนะครับพ่อ ผมรักพ่อนะครับ

    ได้ลูก โชคดีนะ

    โคเวอรืและแม่ของเขาได้แต่มองรถคันนั้นค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป จากนั้นโคเวอร์ก็กอดแม่ของเขา

    โคเวอร์ : พ่อเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ครับแม่

    อีกไม่กี่ปีหรอกลูก ไม่ต้องห่วงนะ

    ณ กรุงมอสโคว รัสเซีย หลังจากที่ออก้ากลับมาถึงไม่นาน เขานึกสนุกอยากจะไปเที่ยวกรุงวอร์ซอร์ เขสจึงขอแม่ของเขาไปทันที

    ออก้า : แม่ครับ ผมอยากไปโปแลนด์ครับแม่

    อ้าว ทำไมหล่ะลูก

    ออก้า : ผมอยากไปหาเพื่อนหน่ะครับแม่

    แม่ว่าเพื่อนลูกป่านนี้ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนแล้วนะลูก

    ออก้า : ไม่ต้องห่วงครับแม่ ผมจะรีบไปแล้วรีบกลับมา

    แล้วลูกมีเงินแล้วเหรอลูก

    ออก้า : มีครับแม่ ไม่ต้องห่วงครับผม // ออก้ารีบไปเก็บกระเป๋าจากนั้นก็ล่ำลาแม่ของเขา

    ออก้า : ผมไปก่อนนะครับแม่

    รักษาตัวให้ดีนะลูก

    ออก้า : ครับแม่ แล้วผมจะรีบกลับมาครับ // ออก้าออกจากบ้านไป เพื่ออกตามหาโซเซีย คนที่เขาอยากจะเจอมากที่สุด

    ณ ป่าลึกแห่งหนึ่งในแถบกัมพูชา รัตลากสังขารตัวเองหนีพวกมันออกมา ในขณะที่พวกมันกำลังตามล่าตัวเขาอยู่ เสียงปืนดังลั่นไปทั่วป่า รัตต่อสู้กับพวกมันจนกระสุนใกล้จะหมด แต่พวกมันก็ยังตามล่าเขาไม่เลิก

    ในขณะเดียวกัน เขาก็มาถึงหน้าผาแห่งหนึ่ง ซึ่งข้างหน้าเป็นน้ำตก รัตมาหยุดอยู่ตรงนั้นในขณะที่พวกมันเข้ามาล้อมเขาไว้

    ว่าไง คิดจะหนีไปไหนอีก

    รัต : แกไม่มีวันได้อะไรไปจากฉันเด็ดขาด

    งั้นเหรอ ข้างหลังแกเป็นเหวลึกขนาดนั้น แล้วแกจะทำยังไงดีหล่ะ

    รัต : คิดว่าคนอย่างฉันจะยอมแพ้ง่ายๆอย่างงั้นเหรอ

    ถ้าแกคิดแบบนั้น ฉันจะสงเคราะห์ให้แก

    มันจะยิงใส่รัตแต่รัตกระโดดลงหน้าผาไป พวกมันไปชะเง้อมองดูข้างล่าง ก็พบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ตามหามัน เผื่อมันยังไม่ตาย ฉันอยากได้ความลับของมันอีก

    ณ สำนักงานวิจัยอาวุธแห่งหนึ่งในอังกฤษ ชายคนหนึ่งกำลังคิดค้นอาวุธแบบใหม่ ซึ่งจะช่วยให้อังกฤษมีชัยเหนือเยอรมันได้ เขานั่งคิดอยู่ตั้งนาน จนกระทั่ง

    คุณโอแลน นั่งหลับอีกแล้วนะครับเนี่ย

    ใช่แล้ว เขาคือโอแลน ทอมซิก เป็นวิศวกรกองทัพ และหัวหน้าของเขา เซอร์ แฟรงก์ วิตเทิล ซึ่งเขากำลังคิดค้นเครื่องยนต์แบบใหม่ให้กับทางอังกฤษอยู่

    โอแลน : ขอโทษครับท่าน ผมกำลังนึกอะไรอยู่

    แฟรงก์ : เอาเถอะ คุณต้องรีบหน่อยหล่ะ ตอนนี้นักบินของเรากลัวเครื่อง ME ของพวกนาซีมากหล่ะ

    โอแลน : ครับผม ตอนนี้ผมกำลังหาเครื่องแบบใหม่ที่บินได้เร็วกว่าอยู่ครับ

    แฟรงก์ : ผมอยากให้คุณรีบหน่อยหล่ะ คุณคงไม่อยากให้มันมาถึงลอนดอนใช่มั้ยหล่ะ

    โอแลน : ครับผม ตอนนี้ที่ทำได้ก็แค่ปรับปรุง spitfire ให้ดีหน่ะครับ

    แฟรงก์ : เข้าใจหล่ะ ยังไงก็เต็มที่นะ

    ณ ในเขตชานเมืองของลอนดอน เจลามี่นอนเจ็บอยู่บนเตียง หลังจากที่ดีขึ้น เขาตื่นขึ้นมาโดยที่มีชายคนหนึ่งกำลังทำอาหารรอเขาอยู่

    คุณปู่คะ พี่ชายเขาฟื้นแล้ว

    เจลามี่ : นี่ผมมาอยู่ที่ไหนครับเนี่ย

    บ้านฉันเองหล่ะเจ้าหนุ่ม นี่หลานสาวฉันเอลลี่

    เจลามี่ : หวัดดีจ้า ฉันหิวจังเลย

    เอลลี่ : กินนี่ก่อนสิคะพี่ กำลังร้อนๆเลย // เจลามี่ทานอาหารที่ชายคนนั้นทำให้อย่างเอร็ดอร่อย

    ว่าแต่นายเป็นใครงั้นเหรอ แล้วไปโดนอะไรมา

    เจลามี่ : ผมเจลามี่ เป็นเจ้าหน้าที่ของโปแลนด์ที่มาทำงานในอังกฤษครับ

    งั้นเหรอ เสียใจด้วยนะเรื่องประเทศของนายหน่ะ

    เจลามี่ : ครับ แต่ผมว่าต้องมีคนอยากให้ผมตายแน่ๆ

    ทำไมถึงคิดแบบนี้งั้นหล่ะ

    เจลามี่ : เพราะงานของผมคงจะทำให้พวกมันเสียประโยชน์หน่ะ แต่ยังไงก็ขอบคุณคุณลุงมากนะครับ

    ยังไงก็อยู่ซะที่นี่ก่อนแล้วกัน ไม่มีใครรู้หรอกว่าพ่อหนุ่มอยู่ที่นี่หน่ะ

    เจลามี่ : ขอบคุณมากครับ

    กลับมายังกรุงปารีส รินกับอลิสก็เพิ่งจะได้ความลับมาใหม่ ในขณะที่พวกเธอกำลังจะส่งข้อมูลให้กับทางหน่วย ก็มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาหาพวกเธอ

    อลิส : สวัสดีค่ะ นั่นใครพูดคะ

    โยชิตะ : พี่ครับ นี่ผมเองนะครับพี่

    อลิส : โยชิตะ นี่เธอโทรมาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย

    โยชิตะ : ทางหน่วยเขาให้ใช้โทรศัพท์ของทางหน่วยหน่ะครับผม รินอยู่ตรงนั้นหรือเปล่าครับ

    อลิส : อยู่ๆ จะคุยงั้นเหรอ เดี๋ยวพี่เรียกให้ ริน โยชิตะอยากคุยกับเธอ

    ริน : โยชิตะ เธอสบายดีนะ

    โยชิตะ : ริน ฉันสบายดี ฉันคิดถึงเธอนะ เลยพยายามโทรหา

    ริน : แหม่ เขินจังเลย ตอนนี้ได้ยินเสียงระเบิดลงทุกวันเลยเนี่ย

    โยชิตะ : ไม่ต้องห่วงนะครับพี่ พวกเขาจะไม่ถล่มกรุงปารีสแน่นอนครับ

    อลิส : นี่ โยชิตะ เธอรู้ได้ยังไงหล่ะเนี่ย

    โยชิตะ : ฮัมบูร์กบอกผมมาครับพี่ แค่นี้ก่อนนะครับพี่ ผมรักพี่นะครับ // จากนั้นสายก็ถูกตัดไป

    ริน : ทำไมโยชิตะเขาตัดสายไปหล่ะคะพี่

    อลิส : สงสัยคงกลัวว่าจะถูกดักฟังหน่ะ ช่างมันเถอะ

    กลับมายังบ้านของดอร์ชมันต์ เขาได้ข่าวดีจากวิคเตอร์ว่าจะรีบกลับมาเร็วๆนี้ เขาเลยไปบอกกัสทันที

    ดอร์ชมันต์ : คุณกัส ผมมีข่าวดีจะบอกคุณหน่ะ

    กัส : มีอะไรงั้นเหรอคะ

    ดอร์ชมันต์ : ผมได้ข่าวจากวิคเตอร์เขาแล้วหล่ะครับ ผมไม่อยากรอจนเช้าเลยมาบอก

    กัส : ว่าไงคะ วิคเตอร์เขามีอะไรเหรอคะ

    ดอร์ชมันต์ : วิคเตอร์จะกลับเยอรมันเร็วๆนี้ครับผม

    กัส : จริงเหรอคะ ดีใจจังเลย

    ดอร์ชมันต์ : ถ้าผมได้ข่าวอะไรใหม่ ผมจะบอกคุณทันที ยังไงตอนนี้คุณพักผ่อนให้สบายดีกว่านะครับ

    กัส : ขอบคุณมากค่ะ ฝันดีนะคะ

    ณ สนามบินแห่งหนึ่งแถบแอฟริกา วิคเตอร์และเทราน์เนอร์ก็เตรียมพร้อมกลับมาที่เยอรมัน แต่วิคเตอร์ก็ยังไม่หายเจ็บดีเท่าไหร่

    เทราน์เนอร์ : เป็นไง พอไหวหรือเปล่าเนี่ย

    วิคเตอร์ : ก็ยังเจ็บอยู่นิดหน่อยหน่ะ

    เทราน์เนอร์ : ความจริงแกน่าจะอยู่พักที่นี่ให้หายดีซะก่อนนะ

    วิคเตอร์ : ฉันไม่อยากจะอยู่กับไอ้นายทหารขี้เก๊กคนนั้นหว่ะ

    เทราน์เนอร์ : เหอะ แกอิจฉาเขาใช่หรือเปล่าหล่ะ

    วิคเตอร์ : จะบ้าเหรอ แกก็รู้พวกแวร์มัคน่ารำคาญจะตาย

    เทราน์เนอร์ : เอาเถอะ ยังไงก็จะได้กลับไปแล้ว อย่าไปพูดถึงมันเลย

    วิคเตอร์ : นั่นสิ คิดเหมือนกันเลยหว่ะ

    จากนั้นเอง เครื่องบินก็ค่อยๆขึ้นและออกจากสนามบิน เพื่อกลับไปยังกรุงเบอร์ลินทันที

    ณ ค่ายทหารแถบแอฟริกา ในขณะที่เทเรซ่ากำลังรักษาทหารที่บาดเจ็บ จู่ๆก็มีเครื่องบินนับร้อยจู่โจมเข้ามา ทำเอาพวกเขาต้องหาที่หลบกันให้วุ่น

    บราฮัม : เทเรซ่า หาที่หลบเร็ว

    เครื่องบินที่ระเบิดถล่มทุกอย่างที่ขวางหน้า บราฮัมพยายามพาเทเรซ่าหาที่หลบระเบิด ในขณะที่ทหารคนอื่นๆต่างโดนระเบิดกันให้วุ่น

    หลังจากที่เสียงระเบิดดับลง พวกเขาก็พากันไปดูคนบาดเจ็บ ว่าเป็นยังไงกันบ้าง รอบข้างมีแต่ทหารและนักโทษโดนระเบิดกันมากมาย เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังไปทั่ว

    เทเรซ่า : นี่ รีบพาคนเจ็บเข้าไปข้างในก่อนเร็ว

    พวกเขาลำเลียงคนเจ็บไปด้านใน ในขณะที่หมอคนอื่นๆก็พากันรักษาอย่างเร่งรีบ

    เทเรซ่า : ไม่รู้ว่ายาจะพอหรือเปล่านะเนี่ย

    บราฮัม : ทางสัมพันธมิตรส่งยามาช่วยอยู่ คิดว่าน่าจะพอนะ

    เทเรซ่า : ก็หวังไว้แบบนั้นนะ // เธอพูดพลางทำแผลให้กับทหารที่นอนอยู่บนเตียง

    กลับมายังฝรั่งเศส ทั้งทหารฝรั่งเศสและทหารอังกฤษถอยร่นออกไปจากเมือง พวกของนาวินก็ต้องถอยออกมาเหมือนกัน

    นาวิน : อเล็กซ์ น้าของเธออยู่ที่ไหนหล่ะตอนนี้

    อเล็กซ์ : ไม่รู้สิ คงไปเตรียมเรืออยู่หล่ะมั้งตอนนี้

    แซค : แล้วเราจะต้องถอยไปที่ไหนหล่ะเนี่ย

    ธิน : ฉันว่านะ ดันเคิร์กแน่นอน

    โอ๊ค : ดันเคิร์กในตำนานงั้นเหรอ อยากไปจัง

    โซเซีย : แหม่ ก็เราไม่มีที่ไปแล้วสินะเนี่ย

    เอม : เอาไงก็เอาเถอะพี่ ตอนนี้หนูอยากไปจากที่นี่แล้วเนี่ย

    ออย : อย่าบ่นหน่อยเลย นี่มันสงครามนะเนี่ย

    ทางด้านฮัมบูร์ก หลังจากที่ยึดเมืองได้แล้ว เธอก็เตรียมพร้อมไล่ต้อนทหารฝรั่งเศสทันที

    ฮัมบูร์ก : เตรียมคนให้พร้อม พวกมันต้องถอยไปดันเคิร์กแน่ๆ

    มิลเลอร์ : ทำไมเธอถึงแน่ใจจังเลยหน่ะ

    ฮัมบูร์ก : เพราะสัญชาตญาณของฉันมันบอกยังไงหล่ะ บอกเมอร์ลินด้วย เตรียมทัพอากาศของเขาให้พร้อม งานนี้พวกมันจะต้องไม่รอด // จากนั้นเธอก็ยิ้มที่มุมปาก

    ======================================================================

    พวกของนาวินถูกตีจนถอยออกไป พวกเขาจะทำอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อตอนต่อไปจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครับ ไหว้หล่ะ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×