คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ถอยทัพ
นาวินและพวกยิงปะทะกับพวกนาซีที่บุกเข้ามา
พวกนั้นพยายามฝ่าเข้ามาในเมืองแต่ก็ไม่ได้ เนื่องจากทหารฝรั่งเศสบางส่วนยังคงตั้งมั่นรับไว้
ในขณะที่เสียงปืนดังไปทั่ว พวกเขาต้องตั้งรับศัตรูที่เหนือกว่า
นาวิน : นี่
ฉันว่าเราคงต้องรับที่นี่ได้ไม่นานเท่าไหร่หรอก
แซค : ถ้างั้นก็คงต้องถอยกลับเข้าไปในเมืองก่อนหล่ะ
ทางด้านฮัมบูร์ก
เธอสงสัยว่าทำไมถึงบุกเข้าไปได้ช้าจัง ทำให้เธอต้องติดต่อกับมิลเลอร์ทันที
ฮัมบูร์ก : ทำไมยังบุกเข้าไปไม่ได้ซะทีเนี่ย
มิลเลอร์ : นั่นสิ
ฉันจะให้รถหุ้มเกราะขนาบข้างมันดู
อีกด้านของแนวรบ
นาวิน : นี่
ฉันว่าพวกมันต้องมาด้านข้างแน่ อเล็กซ์ ธิน พวกนายไปด้านซ้ายนะ ส่วนโอ๊ค
โซเซียไปทางขวานะ ถ้าพวกนายไม่ไหว ถอยไปที่ตึกนั้นนะ // จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันออกไป
ในขณะที่ทหารฝรั่งเศสแถวนั้นก็บาดเจ็บกันมากมาย
แซค : เอม
ออย เธอไปดูทหารพวกนั้นก่อน เร็ว
เอมและออยต้องไปรักษาทหารที่บาดเจ็บ
ส่วนนาวินกับแซคก็ยิงกับพวกมันต่อ
นาวิน : แซค
พยายามประหยัดกระสุนนะ แล้วถ้าทหารฝรั่งเศสถอย ต้องถอยทันทีนะ
แซค : ด้วยความยินดีเลย
// เขาพูดจากนั้นก็ยิงกับพวกมันต่อ
ทางด้านอเล็กซ์และธิน พวกเขาไปป้องกันทางซ้าย
ซึ่งพวกมันก็บุกเข้ามาจริงๆ อเล็กซ์เลือกที่จะขึ้นไปบนตึกเพื่อยิงพวกมันจากที่สูง ทั้งคู่ยิงพวกมันล้มตายไปมากแต่
แต่พวกมันก็ยิงถล่มตึกซะจนพรุน
ธิน : ฉันว่าตึกนี้มันอยู่ได้ไม่นานแน่เลยเนี่ย
อเล็กซ์ : เห็นด้วยเลย
ฉันหวังว่าน้าแคทเทอรีนจะรีบกลับมานะ
ไม่ทันไร พวกมันเอารถถัง panzer เล็งไปยังตึกที่พวกเขาอยู่
อเล็กซ์ : ตายหล่ะ
หลบเร็ว // panzer ยิงถล่มตึกจนพัง
แต่อเล็กซ์พาธินกระโดดหนีออกจากตึกมาได้
อีกด้านหนึ่ง
โอ๊คและโซเซียก็มาตั้งรับกับทหารฝรั่งเศส
แต่ตอนนั้นเองปืนกลของพวกเยอรมันก็ยิงกดเอาไว้ ทำให้พวกเขาไปไหนไม่ได้
โอ๊ค : บ้าเอ้ย
เราสู้ไม่ได้แน่ถ้าไม่มีอาวุธต่อสู้รถถังหน่ะ
โซเซีย : พูดอย่างกับว่าฝรั่งเศสมีนี่หว่า
แล้วเราจะเอายังไงต่อ
โอ๊ค : ฉันว่าจะลองมัดระเบิดมือรวมกันแล้วลองขว้างไปดู
// โอ๊ครวบรวมระเบิดมือมา
จากนั้นก็วิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้า แล้วก็ขว้างไปข้างหน้ารถหุ้มเกราะของพวกมัน ขว้างไปโดนล้อของพวกมันพอดี
โซเซีย : เจ๋งไปเลยพวก
แต่ในตอนนั้นเอง รถหุ้มเกราะอีกคันก็บุกเข้ามา
จากนั้นก็กราดยิงทุกชีวิตที่ขวางหน้า ทำเอาโอ๊คกับโซเซียต้องถอยออกมา
อีกด้านของสมรภูมิ
ฮัมบูร์ก : มิลเลอร์
ขนาบข้างไปให้มากที่สุด แล้วสั่งให้คนบุกเข้าเมืองเลย
มิลเลอร์ : รับทราบ
ฉันจะจัดการเอง
ฮัมบูร์ก : เมอร์ลิน
ช่วยเอาเครื่องบินทิ้งระเบิดปิดทางออกพวกมันหน่อย
เมอร์ลิน : ขอปฏิเสธ
พวกอังกฤษบุกมาอย่างหนัก ฉันต้องไปป้องกันเส้นทางลำเลียงหน่ะ // เมอร์ลินขับเครื่องบินของเขาสู้กับเครื่องบินของอังกฤษอย่างกล้าหาญ
ทางด้านสองสาวเอม ออย พวกเธอต้องชวยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ทหารฝรั่งเศส
เอม : คนนี้เสียเลือดมากเลย
ถ้าไม่พาเขาออกไป เขาตายแน่
ออย : ของฉันก็เหมือนกันเนี่ย
ทำใจดีๆไว้นะคะคุณ
ในตอนนั้นเอง ทหารฝรั่งเศสก็เริ่มถอย
นาวินกับแซคต้องถอยด้วยเนื่องจากกระสุนใกล้จะหมดเต็มที
ณ กรุงปารีส
จูเลียสต้องเข้ามาสืบความลับที่บาร์แห่งหนึ่ง
ซึ่งนายพลฝรั่งเศสคนหนึ่งได้คุยกับชายอังกฤษอีกคน
จูเลียสเห็นชายฝรั่งเศสคนนั้นเข้าห้องน้ำไป จูเลียสตามเข้าไป
จากนั้นก็ใช้ผ้าปิดหน้า เขาเห็นชายคนนั้นกำลังฉี่อยู่ที่โถ เขาลากคอมันเข้าห้องน้ำ
จากนั้นก็รีดความลับจากเขา
“บอกทุกอย่างที่แกพูดกับคนอังกฤษคนนั้นมา
เดี๋ยวนี้”
“เรื่องอะไรฉันต้องบอกแก ห่ะ”
“ก็เพื่อลูกเมียนายจะได้ปลอดภัยยังไงหล่ะ”
“ห่ะ อย่านะ ก็ได้ๆ”
เขาบอกทุกอย่างให้กับจูเลียส จากนั้นจูเลียสก็ทำให้เขาสลบ
จากนั้นก็หนีออกไปทางหลังร้าน ในขณะที่ตำรวจฝรั่งเศสก็ตามล่าตัวเขา
จูเลียสได้ที่อยู่ของมือสังหารคนที่ฆ่านายพลเยอรมันคนหนึ่ง
เขาต้องส่งข้อมูลนี้ไปให้ทางหน่วย แต่เอ๊ะ ลองไปตรวจสอบที่นั่นให้แน่ชัดก่อนดีกว่า โดยที่เขาไม่รู้ว่า
คนที่เขาจะไปหาคือคนที่เขารู้จัก
ทางด้านของเคท
เธอนั่งดื่มไวน์โดยที่ไม่สนว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก ในขณะเดียวกัน
เธอก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่ง มีใจความว่าให้เธอหนีไปอังกฤษซะ
เพราะมีคนกำลังตามล่าตัวเธออยู่ เธอไม่สนใจเท่าไหร่เพราะว่าเธอไม่อยากไปไหนอีกแล้ว
“เฮ้อ นายคนที่ชื่อจูเลียสนั่น
ป่านนี้เขาจะเป็นยังไงบ้างนะเนี่ย”
ในขณะเดียวกัน เธอก็นึกขึ้นได้
หรือเราจะไปหาเขาที่เยอรมันดี จะบ้าเหรอ ถ้ากลับไปตอนนี้ฉันตายแน่
ว่าแล้วก็กลับมานอนเพ้อต่อดีกว่า
ณ กรุงลอนดอน
โจสพาตัวของนูโวร่ามายังสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง
ตำรวจพวกนั้นสอบสวนเธอแบบกดดันไม่มีหยุด แต่เธอไม่มีทีท่าว่าจะคายอะไรออกมา
“บอกมาเดี๋ยวนี้ เธอต้องการที่ลักพาตัวเขาทำไม”
“ใช่
แล้วทางอิตาลีอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือเปล่า”
นูโวร่า : พวกของฉันทำเองทั้งหมด
ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล
“ยังจะปากแข็งอีก ถ้ามุสโสลินีไม่อยู่เบื้องหลัง
แล้วจะเป็นใครหล่ะ”
นูโวร่า : แกจะเชื่อหรือเปล่าก็แล้วแต่
แต่แกจะไม่มีวันได้อะไรจากฉันแน่นอน
ตำรวจคนหนึ่งเดินออกมา แล้วส่ายหน้าทันที
“เฮ้อ ไม่ยอมบอกอะไรเลยครับยัยนี่”
โจส : ผมว่า
เธอต้องการอยากจะรู้ความลับของผมที่ผมส่งไปทางวอชิงตันแน่นอน
“ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้นหล่ะ”
โจส : เธอถามผมเกี่ยวกับความลับที่ผมได้มาจากเยอรมันหน่ะครับ
“งั้นเราคงต้องส่งเธอไปขังที่อื่นชั่วคราวก่อน
เพราะที่นี่ตกเป็นเป้าได้ง่ายเกินไป”
โจส : แล้วแต่คุณนะครับ
ยังไงก็ฝากดูแลด้วยหล่ะ //
ในขณะเดียวกัน นูโวร่าก็ยิ้มมุมปาก
จากนั้นก็ขอยืมโทรศัพท์จากตำรวจ แต่เขาไม่ให้ เธอเลยพูดว่า
“ช่างมันเถอะ ยังไงเดี๋ยวฉันก็ได้ออกไปแล้ว”
กลับมายังกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี
คาริน่าก็ยังคงทำงานของเธอต่อไป โดยที่เพื่อนร่วมงานของเธออิจฉาเธอมาก
เป็นคนอิตาลีแท้ๆแต่เก่งกว่าคนเยอรมันซะอีก
“ฉันจะต้องเขี่ยยัยนั้นให้พ้นทางซะแล้ว”
“แล้วเธอจะทำยังไงหล่ะ ยัยนั้นฉลาดจะตาย”
“ไม่ต้องห่วง ฉันมีวิธีของฉันก็แล้วกัน”
คาริน่าถอดรหัสได้ข้อมูลมาใหม่
พบว่าจะมีการเคลื่อนทัพเรือของอังกฤษไปยังที่ไหนซักแห่ง
คาริน่า : ท่านคะ
ฉันได้ข้อมูลมาใหม่ค่ะ
“อืม
ดูเหมือนว่าทัพเรืออังกฤษจะเคลื่อนไปทางตะวันออก มาทางเรานะ”
คาริน่า : หรือว่าพวกมันจะมาที่ฝรั่งเศสคะ
“ก็ไม่แน่นะ
เดี๋ยวผมจะลองส่งเรื่องนี้ไปทางหน่วยดู”
คาริน่ากลับมายังโต๊ะทำงาน โดยที่เธอไม่รู้ว่า
เธอกำลังจะต้องเจอกับอะไร
ณ รัฐแอริโซน่า อเมริกา
โคเวอร์ได้ไปส่งพ่อของเขาที่รถบัสซึ่งกำลังจะไปสถานีรถไฟ
โคเวอร์ : พ่อครับ
ส่งจดหมายมาหากันบ้างนะครับ
“ได้สิลูก พ่อจะส่งรูปของฮาวายมาให้”
“อยู่ที่นั่นก็รักษาตัวด้วยนะคะคุณ”
“ได้สิครับ ผมจะดูแลตัวเองอย่างดีเลย”
โคเวอร์ : พ่อครับ
ผมอยากเข้าร่วมกองทัพครับ
“แนะ พูดเรื่องนี้อีกแล้วนะ แต่เอาเถอะ
ถ้าลูกอยากจะเป็นทหารแล้วพ่อคงจะขัดใจไม่ได้หรอก”
“ลูกคนนี้นี่ พ่อเขาจะไปอยู่แล้วยังจะอะไรอีกเนี่ย”
โคเวอร์ : ยังไงก็รักษาตัวด้วยนะครับพ่อ
ผมรักพ่อนะครับ
“ได้ลูก โชคดีนะ”
โคเวอรืและแม่ของเขาได้แต่มองรถคันนั้นค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป
จากนั้นโคเวอร์ก็กอดแม่ของเขา
โคเวอร์ : พ่อเขาจะกลับมาเมื่อไหร่ครับแม่
“อีกไม่กี่ปีหรอกลูก ไม่ต้องห่วงนะ”
ณ กรุงมอสโคว รัสเซีย
หลังจากที่ออก้ากลับมาถึงไม่นาน เขานึกสนุกอยากจะไปเที่ยวกรุงวอร์ซอร์
เขสจึงขอแม่ของเขาไปทันที
ออก้า : แม่ครับ
ผมอยากไปโปแลนด์ครับแม่
“อ้าว ทำไมหล่ะลูก”
ออก้า : ผมอยากไปหาเพื่อนหน่ะครับแม่
“แม่ว่าเพื่อนลูกป่านนี้ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนแล้วนะลูก”
ออก้า : ไม่ต้องห่วงครับแม่
ผมจะรีบไปแล้วรีบกลับมา
“แล้วลูกมีเงินแล้วเหรอลูก”
ออก้า : มีครับแม่
ไม่ต้องห่วงครับผม // ออก้ารีบไปเก็บกระเป๋าจากนั้นก็ล่ำลาแม่ของเขา
ออก้า : ผมไปก่อนนะครับแม่
“รักษาตัวให้ดีนะลูก”
ออก้า : ครับแม่
แล้วผมจะรีบกลับมาครับ //
ออก้าออกจากบ้านไป เพื่ออกตามหาโซเซีย
คนที่เขาอยากจะเจอมากที่สุด
ณ ป่าลึกแห่งหนึ่งในแถบกัมพูชา
รัตลากสังขารตัวเองหนีพวกมันออกมา ในขณะที่พวกมันกำลังตามล่าตัวเขาอยู่
เสียงปืนดังลั่นไปทั่วป่า รัตต่อสู้กับพวกมันจนกระสุนใกล้จะหมด
แต่พวกมันก็ยังตามล่าเขาไม่เลิก
ในขณะเดียวกัน เขาก็มาถึงหน้าผาแห่งหนึ่ง
ซึ่งข้างหน้าเป็นน้ำตก รัตมาหยุดอยู่ตรงนั้นในขณะที่พวกมันเข้ามาล้อมเขาไว้
“ว่าไง คิดจะหนีไปไหนอีก”
รัต : แกไม่มีวันได้อะไรไปจากฉันเด็ดขาด
“งั้นเหรอ ข้างหลังแกเป็นเหวลึกขนาดนั้น
แล้วแกจะทำยังไงดีหล่ะ”
รัต : คิดว่าคนอย่างฉันจะยอมแพ้ง่ายๆอย่างงั้นเหรอ
“ถ้าแกคิดแบบนั้น ฉันจะสงเคราะห์ให้แก”
มันจะยิงใส่รัตแต่รัตกระโดดลงหน้าผาไป
พวกมันไปชะเง้อมองดูข้างล่าง ก็พบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ตามหามัน เผื่อมันยังไม่ตาย
ฉันอยากได้ความลับของมันอีก”
ณ สำนักงานวิจัยอาวุธแห่งหนึ่งในอังกฤษ
ชายคนหนึ่งกำลังคิดค้นอาวุธแบบใหม่ ซึ่งจะช่วยให้อังกฤษมีชัยเหนือเยอรมันได้
เขานั่งคิดอยู่ตั้งนาน จนกระทั่ง
“คุณโอแลน นั่งหลับอีกแล้วนะครับเนี่ย”
ใช่แล้ว เขาคือโอแลน ทอมซิก เป็นวิศวกรกองทัพ
และหัวหน้าของเขา เซอร์
แฟรงก์ วิตเทิล
ซึ่งเขากำลังคิดค้นเครื่องยนต์แบบใหม่ให้กับทางอังกฤษอยู่
โอแลน : ขอโทษครับท่าน
ผมกำลังนึกอะไรอยู่
แฟรงก์ : เอาเถอะ
คุณต้องรีบหน่อยหล่ะ ตอนนี้นักบินของเรากลัวเครื่อง ME ของพวกนาซีมากหล่ะ
โอแลน : ครับผม
ตอนนี้ผมกำลังหาเครื่องแบบใหม่ที่บินได้เร็วกว่าอยู่ครับ
แฟรงก์ : ผมอยากให้คุณรีบหน่อยหล่ะ
คุณคงไม่อยากให้มันมาถึงลอนดอนใช่มั้ยหล่ะ
โอแลน : ครับผม
ตอนนี้ที่ทำได้ก็แค่ปรับปรุง spitfire ให้ดีหน่ะครับ
แฟรงก์ : เข้าใจหล่ะ
ยังไงก็เต็มที่นะ
ณ ในเขตชานเมืองของลอนดอน
เจลามี่นอนเจ็บอยู่บนเตียง หลังจากที่ดีขึ้น เขาตื่นขึ้นมาโดยที่มีชายคนหนึ่งกำลังทำอาหารรอเขาอยู่
“คุณปู่คะ พี่ชายเขาฟื้นแล้ว”
เจลามี่ : นี่ผมมาอยู่ที่ไหนครับเนี่ย
“บ้านฉันเองหล่ะเจ้าหนุ่ม นี่หลานสาวฉันเอลลี่”
เจลามี่ : หวัดดีจ้า
ฉันหิวจังเลย
เอลลี่ : กินนี่ก่อนสิคะพี่
กำลังร้อนๆเลย // เจลามี่ทานอาหารที่ชายคนนั้นทำให้อย่างเอร็ดอร่อย
“ว่าแต่นายเป็นใครงั้นเหรอ แล้วไปโดนอะไรมา”
เจลามี่ : ผมเจลามี่
เป็นเจ้าหน้าที่ของโปแลนด์ที่มาทำงานในอังกฤษครับ
“งั้นเหรอ เสียใจด้วยนะเรื่องประเทศของนายหน่ะ”
เจลามี่ : ครับ
แต่ผมว่าต้องมีคนอยากให้ผมตายแน่ๆ
“ทำไมถึงคิดแบบนี้งั้นหล่ะ”
เจลามี่ : เพราะงานของผมคงจะทำให้พวกมันเสียประโยชน์หน่ะ
แต่ยังไงก็ขอบคุณคุณลุงมากนะครับ
“ยังไงก็อยู่ซะที่นี่ก่อนแล้วกัน
ไม่มีใครรู้หรอกว่าพ่อหนุ่มอยู่ที่นี่หน่ะ”
เจลามี่ : ขอบคุณมากครับ
กลับมายังกรุงปารีส รินกับอลิสก็เพิ่งจะได้ความลับมาใหม่
ในขณะที่พวกเธอกำลังจะส่งข้อมูลให้กับทางหน่วย ก็มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาหาพวกเธอ
อลิส : สวัสดีค่ะ
นั่นใครพูดคะ
โยชิตะ : พี่ครับ
นี่ผมเองนะครับพี่
อลิส : โยชิตะ
นี่เธอโทรมาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย
โยชิตะ : ทางหน่วยเขาให้ใช้โทรศัพท์ของทางหน่วยหน่ะครับผม
รินอยู่ตรงนั้นหรือเปล่าครับ
อลิส : อยู่ๆ
จะคุยงั้นเหรอ เดี๋ยวพี่เรียกให้ ริน โยชิตะอยากคุยกับเธอ
ริน : โยชิตะ
เธอสบายดีนะ
โยชิตะ : ริน
ฉันสบายดี ฉันคิดถึงเธอนะ เลยพยายามโทรหา
ริน : แหม่
เขินจังเลย ตอนนี้ได้ยินเสียงระเบิดลงทุกวันเลยเนี่ย
โยชิตะ : ไม่ต้องห่วงนะครับพี่
พวกเขาจะไม่ถล่มกรุงปารีสแน่นอนครับ
อลิส : นี่
โยชิตะ เธอรู้ได้ยังไงหล่ะเนี่ย
โยชิตะ : ฮัมบูร์กบอกผมมาครับพี่
แค่นี้ก่อนนะครับพี่ ผมรักพี่นะครับ // จากนั้นสายก็ถูกตัดไป
ริน : ทำไมโยชิตะเขาตัดสายไปหล่ะคะพี่
อลิส : สงสัยคงกลัวว่าจะถูกดักฟังหน่ะ
ช่างมันเถอะ
กลับมายังบ้านของดอร์ชมันต์
เขาได้ข่าวดีจากวิคเตอร์ว่าจะรีบกลับมาเร็วๆนี้ เขาเลยไปบอกกัสทันที
ดอร์ชมันต์ : คุณกัส
ผมมีข่าวดีจะบอกคุณหน่ะ
กัส : มีอะไรงั้นเหรอคะ
ดอร์ชมันต์ : ผมได้ข่าวจากวิคเตอร์เขาแล้วหล่ะครับ
ผมไม่อยากรอจนเช้าเลยมาบอก
กัส : ว่าไงคะ
วิคเตอร์เขามีอะไรเหรอคะ
ดอร์ชมันต์ : วิคเตอร์จะกลับเยอรมันเร็วๆนี้ครับผม
กัส : จริงเหรอคะ
ดีใจจังเลย
ดอร์ชมันต์ : ถ้าผมได้ข่าวอะไรใหม่
ผมจะบอกคุณทันที ยังไงตอนนี้คุณพักผ่อนให้สบายดีกว่านะครับ
กัส : ขอบคุณมากค่ะ
ฝันดีนะคะ
ณ สนามบินแห่งหนึ่งแถบแอฟริกา
วิคเตอร์และเทราน์เนอร์ก็เตรียมพร้อมกลับมาที่เยอรมัน
แต่วิคเตอร์ก็ยังไม่หายเจ็บดีเท่าไหร่
เทราน์เนอร์ : เป็นไง
พอไหวหรือเปล่าเนี่ย
วิคเตอร์ : ก็ยังเจ็บอยู่นิดหน่อยหน่ะ
เทราน์เนอร์ : ความจริงแกน่าจะอยู่พักที่นี่ให้หายดีซะก่อนนะ
วิคเตอร์ : ฉันไม่อยากจะอยู่กับไอ้นายทหารขี้เก๊กคนนั้นหว่ะ
เทราน์เนอร์ : เหอะ
แกอิจฉาเขาใช่หรือเปล่าหล่ะ
วิคเตอร์ : จะบ้าเหรอ
แกก็รู้พวกแวร์มัคน่ารำคาญจะตาย
เทราน์เนอร์ : เอาเถอะ
ยังไงก็จะได้กลับไปแล้ว อย่าไปพูดถึงมันเลย
วิคเตอร์ : นั่นสิ
คิดเหมือนกันเลยหว่ะ
จากนั้นเอง เครื่องบินก็ค่อยๆขึ้นและออกจากสนามบิน
เพื่อกลับไปยังกรุงเบอร์ลินทันที
ณ ค่ายทหารแถบแอฟริกา
ในขณะที่เทเรซ่ากำลังรักษาทหารที่บาดเจ็บ จู่ๆก็มีเครื่องบินนับร้อยจู่โจมเข้ามา
ทำเอาพวกเขาต้องหาที่หลบกันให้วุ่น
บราฮัม : เทเรซ่า
หาที่หลบเร็ว
เครื่องบินที่ระเบิดถล่มทุกอย่างที่ขวางหน้า
บราฮัมพยายามพาเทเรซ่าหาที่หลบระเบิด ในขณะที่ทหารคนอื่นๆต่างโดนระเบิดกันให้วุ่น
หลังจากที่เสียงระเบิดดับลง
พวกเขาก็พากันไปดูคนบาดเจ็บ ว่าเป็นยังไงกันบ้าง
รอบข้างมีแต่ทหารและนักโทษโดนระเบิดกันมากมาย เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังไปทั่ว
เทเรซ่า : นี่
รีบพาคนเจ็บเข้าไปข้างในก่อนเร็ว
พวกเขาลำเลียงคนเจ็บไปด้านใน
ในขณะที่หมอคนอื่นๆก็พากันรักษาอย่างเร่งรีบ
เทเรซ่า : ไม่รู้ว่ายาจะพอหรือเปล่านะเนี่ย
บราฮัม : ทางสัมพันธมิตรส่งยามาช่วยอยู่
คิดว่าน่าจะพอนะ
เทเรซ่า : ก็หวังไว้แบบนั้นนะ
// เธอพูดพลางทำแผลให้กับทหารที่นอนอยู่บนเตียง
กลับมายังฝรั่งเศส
ทั้งทหารฝรั่งเศสและทหารอังกฤษถอยร่นออกไปจากเมือง พวกของนาวินก็ต้องถอยออกมาเหมือนกัน
นาวิน : อเล็กซ์
น้าของเธออยู่ที่ไหนหล่ะตอนนี้
อเล็กซ์ : ไม่รู้สิ
คงไปเตรียมเรืออยู่หล่ะมั้งตอนนี้
แซค : แล้วเราจะต้องถอยไปที่ไหนหล่ะเนี่ย
ธิน : ฉันว่านะ
ดันเคิร์กแน่นอน
โอ๊ค : ดันเคิร์กในตำนานงั้นเหรอ
อยากไปจัง
โซเซีย : แหม่
ก็เราไม่มีที่ไปแล้วสินะเนี่ย
เอม : เอาไงก็เอาเถอะพี่
ตอนนี้หนูอยากไปจากที่นี่แล้วเนี่ย
ออย : อย่าบ่นหน่อยเลย
นี่มันสงครามนะเนี่ย
ทางด้านฮัมบูร์ก หลังจากที่ยึดเมืองได้แล้ว
เธอก็เตรียมพร้อมไล่ต้อนทหารฝรั่งเศสทันที
ฮัมบูร์ก : เตรียมคนให้พร้อม
พวกมันต้องถอยไปดันเคิร์กแน่ๆ
มิลเลอร์ : ทำไมเธอถึงแน่ใจจังเลยหน่ะ
ฮัมบูร์ก : เพราะสัญชาตญาณของฉันมันบอกยังไงหล่ะ
บอกเมอร์ลินด้วย เตรียมทัพอากาศของเขาให้พร้อม งานนี้พวกมันจะต้องไม่รอด // จากนั้นเธอก็ยิ้มที่มุมปาก
======================================================================
พวกของนาวินถูกตีจนถอยออกไป พวกเขาจะทำอย่างไรต่อไป ติดตามชมต่อตอนต่อไปจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยนะครับ ไหว้หล่ะ
ความคิดเห็น