ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Time To Kill Nazi - ข้ามเวลาฆ่านาซี

    ลำดับตอนที่ #12 : เจอพวกนักเลง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 154
      1
      21 พ.ค. 61

    ผ่านไปถึงช่วงต้นปี 1940 ฮัมบูร์ก  มิลเลอร์และเมอร์ลินได้เข้ารายงานตัวกับท่านผู้นำ เธอได้รับการเลื่อนยศและฉลองชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ และท่านผู้นำดูเหมือนจะปลื้มใจในตัวฮัมบูร์กมาก

    ฮิตเลอร์ : ผมยินดีมากที่ได้ยินข่าวชัยชนะของคุณ

    ฮัมบูร์ก : ขอบคุณค่ะท่านผู้นำ ดิฉันยินดี

    ฮิตเลอร์ : คุณอยากได้อะไรตอบแทนดีหล่ะ

    ฮัมบูร์ก : ดิฉันอยากไปอยู่กองทัพเรือค่ะ ฉันคิดว่าฉันจะทำได้ดีถ้าฉันได้อยู่ทัพเรือค่ะ

    ฮิตเลอร์ : งั้นเหรอ อืม งั้นเธออยากได้อะไรผู้การเอริชก็แล้วกันนะ แล้วพวกเธอทั้งสองคน มิลเลอร์ เมอร์ลินพวกนายอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า

    มิลเลอร์ : ไม่ครับท่าน พวกเรายังอยากอยู่ทัพบกต่อไปครับ

    เมอร์ลิน : และผมชอบทัพอากาศด้วยครับ ผมจะบุกอังกฤษให้ได้

    ฮิตเลอร์ : เข้าใจหล่ะ แล้วพวกคุณมีแผนยังไงกันหล่ะ

    ฮัมบูร์ก : การที่เราจะพิชิตอังกฤษได้ เราควรจะมีเรือบรรทุกเครื่องบินมากกว่านี้ แล้วก็เรือรบ เรือลาดตระเวนและเรือดำน้ำมากกว่านี้ค่ะ

    เมอร์ลิน : ทำไมต้องมีเรือบรรทุกเครื่องบินหล่ะ ช่องแคบอังกฤษใกล้จะตาย

    ฮัมบูร์ก : พวกเธอไม่รู้งั้นเหรอ ว่าเรดาร์ของพวกอังกฤษน่ากลัวแค่ไหน

    มิลเลอร์ : อืม นั่นสิ ฉันก็เคยได้ยินเรื่องนี้เหมือนกัน

    ฮิตเลอร์ : เอาหล่ะ ผมเข้าใจหล่ะ แล้วเดี๋ยวผมจะลองคิดดูอีกทีก็แล้วกัน

    ที่เนเธอร์แลนด์ อ๊อตโต้พาแคทเทอรีนมายังเซฟเฮ้าส์ของเธอ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่อยู่ของอ๊อตโต้เท่าไหร่ เมื่อแคทเทอรีนมาถึงก็ขอบคุณอ๊อตโต้ทันที

    แคทเทอรีน : ขอบใจมากนะอ๊อตโต้ แล้วว่างๆฉันจะไปเยี่ยมนะ

    อ๊อตโต้ : ยินดีครับ ว่างๆให้พวกเด็กๆเขาไปเล่นกับลูกฉันบ้างนะ แกอยากมีเพื่อนรุ่นเดียวกันด้วยหน่ะ

    แคทเทอรีน : ไม่ต้องห่วง ฉันยินดี // แคทเทอรีนพาเด็กๆเข้าไปยังบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง ซึ่งตอนแรกเด็กๆคิดว่าจะอยู่กันพองั้นเหรอ แต่เมื่อพวกเขาลงไปยังชั้นใต้ดิน พวกเขาก็เห็นพื้นที่กว้างและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงอาวุธมากมาย ทำเอาพวกเด็กๆต้องอึ้งกันเป็นแถว

    อเล็กซ์ : โหว คุณน้า มีอาวุธอยู่ในบ้านนี้เยอะแยะเลยเหรอคะ

    นาวิน : แบบนี้ตั้งเป็นกองกำลังขนาดย่อมได้เลยนะเนี่ย

    แคทเทอรีน : น้าพาพวกเธอมาที่นี่ ก็เพื่อที่จะฝึกอาวุธพวกเธอให้สู้กับพวกนาซีนั่นแหละ ตอนนี้พวกเธอไปเลือกอาวุธกันก่อนสิ // พวกเด็กๆแกย้ายกันไปดูอาวุธที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งพวกเขาดูตื่นเต้นกันมาก

    แซค : นี่ ฉันชอบปืนไรเฟิลแบบนี้อ่ะ ยิงไกลๆแบบนี้ฉันชอบ // แซคชอบปืนไรเฟิล Lee enfield ของอังกฤษ

    โอ๊ค : โหว คุณน้ามีดาบซามูไรด้วยเหรอครับเนี่ย // โอ๊คคว้าเอาดาบซามูไรมาแล้วก็ปืนกลอีกกระบอกหนึ่ง

    ธิน : ฉันขอลองกระบอกนี้ก็แล้วกัน เห็นในเกมแล้วเยี่ยมมาก // เขาไปดูปืนกลขนาดกลางกระบอกหนึ่ง

    โซเซีย : เฮ้ยนี่ ปืนกลมือแบบนี้ฉันชอบอ่ะ ขออันนี้แล้วกัน // โซเซียเลือกปืนกล sten ของอังกฤษ

    เอม : ฉันไม่ค่อยถนัดใช้อาวุธอ่ะ แล้วเธอหล่ะออย

    ออย : ฉันขอแค่ปืนธรรมดาก็พอ ฉันไม่เรียกร้องอะไรมากหรอก

    แคทเทอรีน : หนูเอม หนูออย งั้นน้าจะสอนการปฐมพยาบาลในสนามรบเบื้องต้นให้ก็แล้วกันนะ อยู่ที่นี่พวกเธอคงต้องฝึกกันหนักหน่อยนะทุกคน

    รับทราบครับ//ค่ะพวกเด็กๆพูดพร้อมกัน

    ที่แนวรบด้านตะวันออกฝั่งโซเวียต ออก้าถูกเรียกตัวโดยผู้บังคับบัญชาของเขา

    ออก้า ที่คุณไปวุ่นวายในเขตเยอรมันนี่จริงหรือเปล่า

    ออก้า : ท่านครับ ผมไม่ได้เข้าไปวุ่นวายครับ ผมแค่ไปหาเพื่อนครับ

    งั้นเหรอ ทางเยอรมันเขาเขียนจดหมายมาเตือนฉันหน่ะ

    ออก้า : ผมเสียใจครับท่าน

    แต่ช่างเถอะ ฉันมีงานให้นายทำหน่ะ

    ออก้า : งานอะไรครับท่าน

    ตอนนี้ที่ฟินแลนด์กำลังรบกันหนักเลยหล่ะ ฉันอยากให้นายไปที่นั่น

    ออก้า : ได้เลยครับท่าน ผมจะทำให้ดีที่สุดเลยครับ // ออก้าขึ้นรถบรรทุกเตรียตัวเดินทางไปฟินแลนด์ ซึ่งตอนนั้นสงครามกำลังปะทุอย่างหนัก

    ปลายเดือนมกราคม ณ ท่าเรือแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ เจลามี่ได้มาถึงท่าเทียบเรือ โดยที่มีรถคันหนึ่งมารอรับเขา เขารีบไปขึ้นรถคันนั้นทันทีเพื่ออกเดินทางไปทำหน้าที่ของเขา

    เสียใจด้วยนะเรื่องเจเลมี่หน่ะ

    เจลามี่ : นี่นายรู้เรื่องได้ยังไงกันหล่ะ

    ก็ฉันมีสายอยู่บนเรือหน่ะ ว่าแต่นายเตรียมพร้อมกับงานของนายนะ

    เจลามี่ : ฉันพร้อมแล้วหล่ะ พาฉันไปที่พักของฉันเลยสิ

    พี่ครับ พี่ไม่ต้องห่วง ผมจะตามล่าพวกที่มันทำกับพี่ให้ได้

    เจลามี่มองดูรูปของพี่สาวของเขาที่เพิ่งตายไป เขาสาบานจะต้องตามสืบเรื่องนี้ให้ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง รวมถึงทำงานของพี่สาวเขาให้สำเร็จอีกด้วย

    ณ มหาสมุทรแห่งหนึ่ง ซึ่งกัสกำลังนั่งเรือกลับไปเยอรมัน เพื่อไปตามหาวิคเตอร์คนที่ทำให้เธอเป็นข่าวในประเทศ เธอมองท้องฟ้าอยู่แถวนั้นเพื่อผ่อนคลาย ระหว่างนั้นเองก็มีคนมาชวนเธอไปนั่งดื่มด้วยคน

    คุณครับ เจ้าของห้อง 334 อยากชวนคุณไปดื่มกับเขาหน่ะครับ

    กัส : ขอโทษนะ ฉันยังไม่มีอารมณ์ตอนนี้หน่ะ

    อ้อครับ

    กัส : ว่าแต่ ใครกันหน่ะที่ชวนฉันหน่ะ

    เป็นนายทหารเยอรมันคนหนึ่งครับ เขาบอกเขาสนใจในตัวคุณ

    ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอไปหานายทหารเยอรมันคนนั้นที่นั่งรอเธออยู่ เมื่อเขาเห็นเธอเขาได้รินไวน์ต้อนรับเธอทันที

    สวัสดีครับคุณผู้หญิง จะรังเกียจมั้ยถ้าผมจะเลี้ยงคุณหน่ะ

    กัส : ยินดีค่ะ ว่าแต่ฉันถามอะไรคุณหน่อยได้หรือเปล่าคะ คุณรู้จักนายทหารคนหนึ่งที่ชื่อ วิคเตอร์มั้ยคะ

    วิคเตอร์ อ้อ ผมรู้จัก คุณรู้จักเขางั้นเหรอ

    กัส : ยิ่งกว่ารู้จักซะอีกค่ะ

    อ้าว งั้นเหรอ งั้นผมจะพาคุณไปหาเขาเอง แต่คุณช่วยดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยก็แล้วกันนะ

    กัส : ยินดีค่ะ

    ณ ชายแดนกัมพูชา เขาต้องปลอมตัวเข้าไปสืบข่าวเรื่องของพวกฝรั่งเศสในแถบอินโดจีน เขาต้องปลอมตัวอยู่กับพวกชาวเขาที่เร่รอนอยู่ตามชายแดน จากนั้นก็หาทางส่งข่าวไปยังคนที่เขาไว้ใจได้

    ดูเหมือนว่าพวกฝรั่งเศสกำลังเตรียมสะสมอาวุธกันอยู่ ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะรายงานต่อไปเขาส่งโทรเลขของเขาในกระท่อมแห่งหนึ่งส่งกลับไปยังกรุงเทพ หลังจากที่เขาส่งเสร็จ เขาก็กลับมาพักผ่อน โดยที่ดูสร้อยเส้นเดิม ที่โอ๊คเคยให้เขาไว้ก่อนที่จะจากมา มันเป็นของชิ้นเดียวที่เขาได้มาจากเขา ทำไมฉันต้องคิดถึงเขาทุกวันเลยนะ

    โอ๊ค ทำไมฉันต้องคิดถึงนายทุกวันเลยนะ นี่ฉันกำลังคิดอะไรกับนายหล่ะเนี่ย

    เขาถามตัวเองแบบนี้ทั้งวัน แต่ก็ไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ เพราะรัตก็มีหน้าที่ของเขาที่จะต้องทำเหมือนกัน

    คูณราต ม่ายทางาเหรอครับชาวเขาคนหนึ่งมาหาเขา

    ทำเสร็จแล้วหล่ะ ผมมาพักผ่อนหน่ะ

    สร้อยเส้งนี่สวยจางเลยคับ คุงได้มาจากที่ไหน

    ของเพื่อนผมเองหล่ะลอซู

    มางสวยมากเลยนาครับ

    ณ บ้านพักของโยชิตะ หลังจากที่โยชิตะเสร็จภารกิจของเขามาหลายวัน เขาก็กลับมานั่งพักที่ค่าย แต่วันนี้เป็นวันพิเศษ ซึ่งเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ อลิสและรินกลับมาเยอรมันเพื่อมาเยี่ยมเขา โยชิตะดีใจมากที่พี่สาวและรินของเขามา

    โยชิตะ : สวัสดีครับพี่ แล้วก็รินด้วย ทำไมพี่ผ่านแดนฝรั่งเศสมาได้หล่ะครับ

    อลิส :  พี่มาเส้นทางพิเศษหน่ะ เธออยู่ที่นี่สบายดีนะ

    โยชิตะ : สบายดีครับพี่ แล้วรินหล่ะ สบายดีนะ

    ริน : ฉันสบายดีจ้ะ ไม่ต้องห่วงหรอก

    โยชิตะ : พี่กินอะไรกันมาหรือยังครับ เดี๋ยวผมไปทำอะไรให้กิน

    อลิส : พี่ว่าพี่ทำให้เธอดีกว่า // ระหว่างนั้นเอง อลิสก็ไปเข้าครัว เพื่อทำอะไรให้น้องชายเธอกิน ส่วนโยชิตะก็นั่งคุยกับรินอยู่ตรงนั้น

    โยชิตะ : ไม่ตามพี่อลิสเข้าไปงั้นเหรอ

    ริน : ไม่ดีกว่า ฉันไม่อยากไปรบกวนพี่เธอหน่ะ

    โยชิตะ : งานของเธอเป็นยังไงบ้างหล่ะ คงจะสบายดีนะ

    ริน : ก็ไม่สบายขนาดนั้นหรอก พูดตรงๆนะ ฉันคิดถึงพวกพี่ๆทุกคนที่จากมาหน่ะ

    โยชิตะ : นั่สิพี่ ป่านนี้พี่นาวิน พี่อเล็กซ์จะเป็นยังไงบ้างหล่ะเนี่ย

    ระหว่างนั้นเอง อลิสก็กลับมาพร้อมกับอาหารที่เธอทำ จากนั้นเธอก็เสริฟมันให้กับน้องคนอื่นๆ

    อลิส : คุยอะไรกันอยู่งั้นเหรอ เสียงดังเชียว

    โยชิตะ : คิดถึงพวกพี่นาวินหน่ะครับ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง

    อลิส : พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คงไม่เป็นไรหรอก

    โยชิตะ : นั่นสิ ถ้าพี่ธินยังอยู่คงได้ทะเลาะกับพี่แน่ๆ

    อลิส : แน่ กินไปเถอะหนูน้อย

    ณ เส้นทางลับแห่งหนึ่งที่ชายแดนเยอรมัน ฝรั่งเศส พวกเขาต้องพักรถกันก่อนเนื่องจากมืดค่ำแล้ว พวกเขาตกลงกันว่าจะนอนที่โรงนาแห่งหนึ่ง

    เออนี่ นายนอนตรงนั้นไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะดูรถหน่อย ไม่รู้มันเป็นอะไร

    จูเลียส : ได้ครับ ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ

    เขาไปซุกหัวนอนในโรงนาแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็แหงะหล่ะ ถ้าเขากลับไปอังกฤษ เขาก็ต้องไปเข้าร่วมกับกองทัพอีก เขาอยากเป็นอิสระมากกว่า ระหว่างที่เขากำลังซุกหัวนอนอยู่ ก็มีรถอีกคันหนึ่งมาจอดแถวนั้นเหมือนกัน จากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาหาที่นอนในโรงนาเดียวกับเขา ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือเคทนั่นเอง จูเลียสรู้สึกตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรมาก

    เคท : นึกว่าที่นี่จะไม่มีคนมานอนซะอีก

    จูเลียส : ผมก็นึกอยู่เหมือนกัน แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่หน่ะ

    เคท : ฉันมีงานของฉันที่ต้องมาทำ แล้วนายหล่ะ

    จูเลียส : ผม ไม่รู้สิ แค่อยากไปเรื่อยๆหน่ะ แล้วคุณเป็นใครหล่ะ

    เคท : เรียกฉันว่าเคทก็ได้ แล้วนายหล่ะ

    จูเลียส : ผมจูเลียส มาจากลอนดอน อังกฤษหน่ะ

    เคท : นายจะไปทำบ้าอะไรที่เยอรมัน ฆ่าตัวตายชัดๆ

    จูเลียส : ผมไม่บอกใครหรอกว่าผมมาจากอังกฤษหน่ะ // ระหว่างนั้นเอง เจ้าของรถก็เข้ามาหาจูเลียส เพื่อบอกความคืบหน้าเรื่องรถของเขา

    อ้าว รบกวนหรือเปล่าอ่ะ รถเสร็จแล้วนะ แต่คงต้องไปกันต่อพรุ่งนี้เช้า นอนที่นี่ไปก่อนก็แล้วกันจูเลียสพยักหน้า จากนั้นก็ซุกหัวนอนที่เดียวกับเคท

    ต้นเดือนกุมภาพันธ์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในขณะที่โจสกำลังขับรถกลับไปยังบ้านพักของเขา ระหว่างนั้นเอง รถของเขาก็เสียแล้วหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น ทำเอาเขาต้องเรียกช่างมาช่วย ระหว่างนั้นเอง เขารู้สึกแปลกๆหมือนมีใครไล่ตามเขามา เขาชักปืนออกมา ระหว่างนั้นเอง ก็มีคนกลุ่มหนึ่งพกอาวุธจะมาจัดการเขา โจสพยายามยิงสกัดไว้แล้วก็หลบหนีเข้าไปในซอยแห่งหนึ่ง เขาได้พบเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งมีผ้าปิดปาก ซึ่งถือปืนเตรียมจัดการกับเขา

    โจส : พวกแกเป็นใคร ใครส่งแกมา

    ไม่ต้องรู้ว่าใครส่งเรามา เพียงแต่ให้รู้ว่าวันนี้ฉันจะมาจับตัวคุณ

    โจส : งั้นเหรอ ฉันว่าคงไม่มีทางหรอก

    โจสยิงใส่มันจากนั้นก็หนีไปอีกทางหนึ่ง ในตอนนั้นเอง เขาก็พบเจ้าหน้าที่ทางสถานทูตที่มาช่วยเขาพอดี พวกมันเห็นว่ามีคนมาช่วยโจสเลยวิ่งหนีไป

    โจส ปลอดภัยนะ เป็นอะไรหรือเปล่า

    โจส : ฉันไม่เป็นไรหรอก ฉันอยากรู้ว่าพวกมันเป็นใคร

    นายต้องรู้แน่ แต่ตอนนี้กลับบ้านก่อนดีกว่า

    โจส : ก็ดีเหมือนกัน

    อีกด้านหนึ่ง พวกที่จะมาชิงตัวโจสนั้นคือนูโวร่านั่นเอง เธอโกรธมากที่จับตัวเขาไม่ได้

    นูโวร่า : นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย พวกมันมาจากไหนกัน

    ผมก็ไม่ทราบครับท่าน

    นูโวร่า : คงต้องหลบซ่อนตัวกันซักพักก่อนก็แล้วกันงานนี้

    ที่แนวรบแถบแอฟริกา หลังจากที่ลูก้าเพิ่งจะมาถึงได้ไม่นาน แต่เนื่องจากจอมพลรอมเมลไม่มาเพราะกำลังเตรียมพร้อมกับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น ลูก้าเตรียมสมุดไว้จดบันทึกเหตุการณ์ต่างๆที่เขาเจอแล้วส่งกลับไปยังเยอรมัน

    วันแรกของการเดินทาง ผมเพิ่งจะมาถึงที่นี่ อากาศร้อนมาก ผมแทบอยากจะโดดลงคลองแถวๆนั้น ทหารที่นี่ก็ดูเข้มแข็ง มีกำลังใจ ผมอยากจะลองไปดูพื้นที่ของสนามรบด้วยตัวเองดู แต่ตอนนี้ผมร้อนและเหนื่อยมากจริงๆ

    อีกด้านหนึ่ง วิคเตอร์ก็ยังพยายามจะจีบเทเรซ่าให้ได้ เขาตื้อเธอทุกอย่าง ตามติดเธอไปทุกที่ไม่ว่าเธอจะไปไหน ทำเอาเทเรซ่าปวดหัวทั้งวัน

    เทเรซ่า : นี่คุณ จะตามติดฉันไปถึงไหนหล่ะเนี่ย

    วิคเตอร์ : โธ่คุณ ผมชวนไปทานอะไรกันตั้งหลายครั้งแล้วแต่คุณยังไม่ยอมไปซะที

    เทเรซ่า : ฉันมีงานเยอะแยะที่ต้องทำ คนป่วยก็ตั้งเยอะนะ

    เทราน์เนอร์ : ฉันว่าก็ถูกของเธอนะ เรามีทำงานนะไม่ใช่มาเดินเล่นเนี่ย

    วิคเตอร์ : ช่างหัวมันเถอะ ตอนนี้ฉันอยากคุยกับเธอนะ เทเรซ่า

    เทเรซ่า : นี่ เลิกตามฉันซะทีได้ไหมห่ะ

    ระหว่างนั้นเอง ลูก้าก็เดินเข้ามาหยุดสถานการณ์นี้ทันที เพราะเสียงพูดของพวกเขาดังมาก

    ลูก้า : นี่มันอะไรกันเนี่ย พวกคุณ

    วิคเตอร์ : เรากำลังคุยธุระส่วนตัวกันอยู่หน่ะ

    เทราน์เนอร์ : ความจริงพวกเขากำลังจีบกันอยู่หน่ะครับ

    เทเรซ่า : ดิฉันขอตัวนะคะ // จากนั้นเองเทเรซ่าก็เดินจากไป วิคเตอร์พยายามจะตามไปแต่ถูกห้ามไว้ก่อน

    วิคเตอร์ : แกห้ามฉันไว้ทำไม แกเป็นใครห่ะ

    ลูก้า : ผม พันตรีลูก้า ฮอฟฟ์แมน เป็นหัวหน้าหน่วยสังเกตการณ์ที่นี่หน่ะ // วิคเตอร์และเทราน์เนอร์ต่างยกมือทำความเคารพ

    เทราน์เนอร์ : ท่านครับ ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยครับ

    ลูก้า : พวกคุณ นี่เรามาช่วยเขานะไม่ใช่มาหาเรื่อง ผมว่าคุณอย่าไปรบกวนเขาอีกเลย สนใจเรื่องงานดีกว่า // จากนั้นลูก้าก็เดินจากไป

    วิคเตอร์ : โธ่เอ้ย คิดว่ามึงเป็นใครวะมาสั่งกู

    เทราน์เนอร์ : ใจเย็นๆสิ เดี๋ยวก็โดนยิงเป้าหรอก

    กลับมายังเนเธอร์แลนด์ ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ พวกเด็กๆกับครอบครัวแอนน์ก็เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น จนถึงขนาดที่พวกเขาเริ่มฝากให้พวกเด็กๆดูแลแอนน์ให้ด้วย วันนี้พวกเขาไปเดินเล่นข้างนอกด้วยกัน และวันนี้เป็นวันที่อากาศดีมากๆ เหมาะกับการเดินเล่นเป็นอย่างยิ่ง

    แอนน์ : ขอบคุณมากๆนะคะพี่มาเป็นเพื่อน วันนี้อากาศดีมากเลย

    อเล็กซ์ : ยินดีจ้า แล้วนี่ แอนน์ เธอออกจากเยอรมันตอนไหนงั้นเหรอ

    แอนน์ : พวกเธอรู้ได้ไงเหรอว่าฉันมาจากเยอรมัน

    แซค : ก็ไม่ยากเกินเดาเท่าไหร่ ความจริงน้าแคทเทอรีนบอกฉันแล้วหน่ะ

    แอนน์ : ก็ตั้งแต่ปี 1933 โน่นหน่ะจ้ะ เท่าที่จำความได้นะ

    โอ๊ค : ได้ยินว่า พวกนาซีตอนนั้นครองอำนาจกันนี่นะ

    ระหว่างนั้นเอง ก็มีกลุ่มวัยรุ่นเกเรกลุ่มหนึ่งอยู่แถวนั้น มันเห็นพวกของนาวินมันเลยเข้าไปหาเรื่องทันที

    เฮ้ย พวกแก มาแถวนี้ต้องมีค่าคุ้มครองนะเว้ย

    โซเซีย : คุ้มครองอะไรของพวกแก ฉันคุ้มครองตัวเองได้โว้ย

    เฮ้ย เด็กนั่น ลูกพวกคนรวยนี่หน่า

    ใช่ พวกยิวที่มันร่ำรวยจากการกดขี่นี่หน่าคำพูดนี่ทำให้แอนน์ตกใจเข้าไปหลบอยู่หลังอเล็กซ์

    เอม : อะไรของพวกแก พวกแกเป็นนาซีหรือยังไงห่ะ

    ออย : นั่นสิ เป็นเดือดเป็นร้อนอะไร เขาไปขโมยเงินแกตอนไหน

    คอยดูเถอะ ถ้าพวกเยอรมันมาฉันจะบอกให้เขาจับเธอไปเลย แต่ตอนนี้เธอต้องส่งเงินมาให้ฉันเดี๋ยวนี้

    ธิน : เรื่องอะไรหล่ะวะ พวกมึงคิดว่าแน่นักหรือยังไง

    นาวิน : ก็ได้ งั้นเรามาลองกันซักตั้งดีกว่า

    ======================================================================

    โปรดติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ

    ขอคนละเม้นท์ด้วยนะทุกคน 

    เป็นกำลังใจให้คนเรียนทุกคนนะครัช


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×