คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : การต่อรอง
หลังจากที่พวกของนากะมารวมตัวกัน
เซนจาก็ต่อสัญญาณของไลท์นิ่งเข้าสู่จอใหญ่ จากนั้นก็เริ่มคุยกับพวกเขาทันที
ไลท์นิ่ง : เอาหล่ะ
ทุกคน ตอนนี้เรามีข้อมูลมาใหม่แล้ว
นากะ : ข้อมูลอะไรครับ
สำคัญหรือเปล่า
ไลท์นิ่ง : น่าจะสำคัญนะคะ
เพื่อนฉันบอกว่าเขาเจอข้อมูลของเพื่อนคุณที่ซ่อนอยู่ในบ้านหน่ะ
โอ๊ค : ห่ะ
คุณเจอข้อมูลของผมแล้วสินะ แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนหล่ะครับ
ไลท์นิ่ง : ตอนนี้มันปลอดภัย
อยู่กับเพื่อนฉันค่ะ
โอ๊ค : ฉันขอคนที่เก่งคอมแบบจริงๆจังๆอีกหน่อยนะ
เพราะมันต้องใช้คนเยอะในการดัดแปลงข้อมูลหน่ะ
เซนจา : ฉันทำได้ค่ะ
ฉันเคยเรียนแฮ็กเกอร์มาค่ะ
ออก้า : แบบนี้เราก็สามารถจัดการพวก
CIA เลวๆนั่นได้แล้วใช่ป่าว
โซเซีย : ใช่แล้วหล่ะ
พวกมันต้องเสร็จเราแน่ๆ เยี่ยมเลย
เวร่า : ว่าแต่
พวกนายคิดว่าซันจีมันจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่า
เดลอา : ยังจะถามอีกเหรอ
ถึงมันไม่เกี่ยวแต่เราก็เป็นศัตรูกับมันอยู่ดีนี่
โลกิน : โอเค
มีใครคิดแผนออกหรือเปล่า ถ้าไปถึงแล้วเราจะทำยังไงต่อ
ฮาน : ถ้าให้ฉันคิดนะ
ก็แค่ประมวลผลข้อมูล แล้วก็จัดการแฉให้โลกรู้หน่ะ
โทจัง : ว่าแต่
ป่านนี้พวกมันไม่ไปดักรอเราที่สนามบินแล้วงั้นเหรอ
ไลท์นิ่ง : ไม่ต้องห่วง
พวกเราพรางสัญญาณไว้เรียบร้อยแล้ว
โทไบอัส : ใช่ครับ
แล้วอีกอย่าง หลังจากที่เครื่องของเราลงจอด จะมีรถมารับเราทันที
เดลแคน : นั่นสิ
คิดถึงเมืองของเราแทบจะแย่แล้วนะเนี่ย
ดาริน : แล้วพวกเราจะได้กลับไปเรียนหรือเปล่าเนี่ย
อยากรู้จัง
เซนจา : ไม่ต้องห่วงหรอก
เดี๋ยวฉันให้เพื่อนฉันช่วยจัดการให้
เฮสเตอร์ : ถ้าเรากลับไปแล้ว
เราจะไปอยู่ที่ไหนกันหล่ะเนี่ย
โทไบอัส : มีเซฟเฮ้าส์ซ่อนอยู่ครับ
เดี๋ยวผมจะพาไปเอง
ไอล่า : ว่าแต่
เราจะติดต่อพวกของพี่คิร่าได้หรือเปล่าหล่ะตอนนี้
มาเรียน่า : อย่าเลยตอนนี้
มันจะเป็นอันตรายกับพวกเขาเปล่าๆนะ
ซื่อหง : กลับไปได้นะ
ฉันจะกลับไปเทคเอ้าท์กิจการในไชน่าทาวน์ให้เยอะๆเลย
นากะ : เอาที่สบายใจเลยเพื่อน
ว่าแต่เซน แล้วมินโฮจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย
เซนจา : นั่นสิ
ฉันต้องให้เขามาอยู่กับฉันก่อนนะ
ในระหว่างนั้นเอง ก็มีเสียงสัญญาณดังขึ้นว่าเครื่องบินกำลังจะลงจอด
พวกเด็กๆรีบไปนั่งรัดเข็มขัดแล้วเครื่องบินก็ลงจอดยังสนามบินทันที
กลับมาที่ Los santé ตอนนั้นเอง มินโฮกลับมาที่บ้านของเขา ก็พบว่าบ้านของเขาถูกงัด
มินโฮรีบวิ่งขึ้นไปที่ชั้นสองเพื่อไปหยิบปืนของเขา แต่ตอนนั้นเองก็พบว่ามีคนมานั่งรอเขาที่ห้องอยู่แล้ว
“หวัดดี มินโฮ คิดถึงนายจังเลยหว่ะ”
จากนั้นเองมินโฮก็โดนจับล๊อคแขนทั้งสองข้างเอาไว้
มินโฮ : นี่แก
แกมันหมารับใช้ไอ้ซันจีนี่หน่า
“ขอแนะนำตัวหน่อยนะ ฉันวิคเตอร์
ฉันแอบมองนายมาพักนึงแล้ว”
มินโฮ : ถ้าเซนจากลับมา
พวกแกไม่รอดแน่ๆ
“ยัยนั้นป่านนี้คงตายไปแล้วหล่ะ
แต่ตอนนี้คุณซันจีสั่งไม่ให้ฉันทำอะไรแกหน่ะสิ”
มินโฮ : แกมันบ้า
ทั้งแกและนายแกมันปีศาจ
ถ้าฉันออกไปได้ฉันฆ่าพวกแกแน่
“ปากแบบนี้ฉันชอบ
แต่ฉันมีอะไรให้นายได้สนุกกว่านี้อีก จับมันไปขึ้นรถ แล้วเอาไปไว้ตามที่นายสั่งซะ”
พวกมันวางยามินโฮจากนั้นก็เอาตัวเขาขึ้นรถออกไป
กลับมายังพวกของคิร่า
ในตอนนั้นเองพวกเขาย้ายไปอยู่ที่โรงละครสัตว์ของคามิลล์ เพระที่นั่นปลอดภัยจาก CIA มากกว่าที่ไหนๆ หลังจากที่คามิลล์ได้ข่าวเซนจา
เธอก็มาบอกข่าวกับคนอื่นๆทันที
คามิลล์ : นี่
ทุกคน มีข่าวมาใหม่ เซนจาและเพื่อนเขากำลังจะกลับมาแล้ว
คิร่า : งั้นก็แปลว่า
พวกของนากะก็จะกลับมาด้วยหน่ะสิ
สตีฟ : เยี่ยมไปเลย
ไม่ได้เจอยัยห้าวนั้นตั้งนานแล้วเนี่ย
ซากุระ : ว่าแต่
พวกเราจะไปรอรับพวกเขาดีหรือเปล่าหล่ะ
โรเบอร์โต้ : อย่าดีกว่า
ตอนนี้เดี๋ยวจะโดนสังเกตเอาได้ง่ายหน่ะ
ในขณะเดียวกัน ฮันเตอร์ก็โทรมาหาพวกเขา
โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่
เจซซิน : ฮัลโหล
ฮันเตอร์ โทรมาอีกอะไรงั้นเหรอ
ฮันเตอร์ : ตอนนี้คุณเซบาสเตียนจัดการเรื่องของคุณฮาเกนได้แล้วนะ
เจซซิน : จริงเหรอ
งั้นเดี๋ยวฉันจะไปบอกเธอให้
ฮันเตอร์ : เออ
แล้วอีกอย่าง ตอนนี้ซันจีกำลังโดนสอบปากคำอยู่ เรากำลังได้เปรียบพวกมัน
เจซซิน : ขอบใจนะที่นายจัดการเรื่องนี้ให้
ขอบคุณมากนะ // จากนั้นสายก็ถูกตัดไป
เจซซิน : นี่ทุกคน
ตอนนี้พวกของซันจีกำลังลำบาก เราต้องอาศัยจังหวะนี้เล่นงานพวกมันนะ
สตีฟ : แต่เราจะทำอะไรได้หล่ะ
เซนจาไม่อยู่ด้วยตอนนี้
เจซซิน : นี่
ฮาเกน เพื่อนฉันจัดการเรื่องของเธอเรียบร้อยแล้วนะ
ฮาเกน : ขอบคุณมากครับ
ว่าแต่ตอนนี้เราจะให้ข้อมูลกับโอ๊คเขาได้เมื่อไหร่หล่ะ
โรเบอร์โต้ : คงต้องรอให้เซนจาเขาติดต่อมาก่อนหน่ะครับตอนนี้
ซากุระ : แล้วตอนนี้เซบาสเตียนเขากำลังทำอะไรอยู่หล่ะเนี่ย
คามิลล์ : ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ
นี่ทุกคน ละครสัตว์ของคณะฉันกำลังจะเริ่มแล้ว ไปกันเถอะ
คามิลล์พาพวกเขาไปดูการแสดงละครสัตว์ประจำปีที่จัดขึ้น
พวกเขาดูท่าทางสนุกสนานมากที่ได้เห็นอะไรแบบนี้ครั้งแรก
ที่บ้านของเซบาสเตียน
ในขณะที่เขากำลังนั่งคุยธุระกับมิเชล ในตอนนั้นเอง อังเดรก็กลับมาบ้านพร้อมกับรัน
วิ่งเข้ามาคุยกับเขาเรื่องที่เขาเจอมาทันที
เซบาสเตียน : อ้าว
อังเดร นายออกไปเที่ยวกับแฟนมางั้นเหรอ
อังเดร : น้าเซบครับ
ผมอยากให้น้าดูนี่หน่ะครับ // รันยื่นโทรศัพท์ให้เซบาสเตียนดู
เขาดูซักพักก็พูดออกมาว่า
เซบาสเตียน : นี่มันพวก
CIA นี่หน่า แล้วอีกพวกหนึ่งหล่ะ
มิเชล :
ฉันเคยเห็นมันนะคะ นี่มันพวกแก๊งค์ค้ามนุษย์นี่หน่า
รัน : ไม่พอนะคะ
ยังมีแก๊งค์ในเมืองด้วยนะคะ ไม่รู้มันคุยอะไรกัน
เซบาสเตียน : นั่นสิ
ช่วงนี้พวกแก๊งค์กำลังอาละวาดหนักเลยนี่หน่า
มิเชล : ฉันว่า
พวกมันคงต้องก่อความวุ่นวายในเมืองแน่ๆ
แต่ในขณะเดียวกัน ฮันเตอร์ก็โทรมาหาเซบาสเตียน
เขารับสายทันที
เซบาสเตียน : ฮัลโหล
ฮันเตอร์ มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย
ฮันเตอร์ : เซนจากำลังจะกลับมาแล้วนะ
เซบาสเตียน : งั้นเหรอ
แล้วพวกเขาจะไปพักที่ไหนงั้นเหรอ
ฮันเตอร์ : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
ต้องรอทางนั้นติดต่อมาอีกที แค่นี้ก่อนนะ // จากนั้นสายก็ถูกตัดไป
อังเดร : พวกพี่นากะกำลังจะกลับมาด้วยหรือเปล่าครับ
เซบาสเตียน : พี่ว่าคงจะกลับมาด้วยนะ
รัน : เยี่ยมไปเลยสิพี่
ถ้าพวกนากะมาเมืองนี้ก็คงจะปลอดภัยหล่ะ
มิเชล : ตอนนี้เราควรจะเป็นฝ่ายรุกบ้างนะ
อย่าให้พวกมันทำเราฝ่ายเดียว
เซบาสเตียน : เห็นด้วยนะ
ตอนนี้ต้องรอให้เซนจาเธอติดต่อหลับมาก่อนนะ
ณ ซอยแห่งหนึ่งในแถบที่อันตรายที่สุดในเมือง
หญิงคนหนึ่งกำลังไล่ต่อยกลุ่มนักเลงหลายคนจนลงไปหมอบกันพื้น
ทำเอาพวกมันหมดทางที่จะต่อสู้
“พวกแกพลาดเองนะที่มาเหยียบจมูกฉัน”
“ยัยบ้า ถ้าลูกพี่ฉันรู้ แกตายแน่”
“งั้นเหรอ” จากนั้นเธอก็เอาผงขาวของพวกมันมา
จากนั้นก็ค่อยๆฉีกทีละถุง แล้วก็ตักน้ำผสมกับน้ำยาแถวนั้น จากนั้นก็เดินมาหามัน
“เฮ้ย แกคิดจะทำอะไร ของนั้นมีค่าเป็นล้านเลยนะ”
“โทษทีหว่ะ พอดีฉันเป็นพวกแพ้ฝุ่นหน่ะ
แค่อยากจะทำความสะอาดให้”
จากนั้นเธอก็ราดลงบนผงขาวของพวกมัน
“แก แกไม่ได้ตายดีแน่”
“ก็อาจจะใช่ แต่ก่อนฉันจะตาย
ฉันขอบอกก่อนเลยแล้วกัน ฉันคือ ทศกัณฐ์ จำไว้” จากนั้นเธอก็ไล่ฆ่าพวกมันทีละคน
แล้วก็ทิ้งศพไว้เพื่อขู่เตือนชาวแก๊งค์คนอื่นๆ
ที่บ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ชายวัยกลางคนดูมีภูมิฐานคนหนึ่งกำลังนั่งดูทีวีกับเด็กชายคนหนึ่ง
ซึ่งเป็นลูกชายของเขา บรรยากาศเหมือนพ่อลูกกำลังมีความสุขกันก็ไม่ปาน
“พ่อครับ ทำไมเราถึงย้ายมาอยู่ที่นี่หล่ะครับ”
“พ่อมีเหตุผลหน่ะ แต่ไม่ต้องห่วง
ลูกจะไม่เป็นไรหรอก”
“แต่เมืองนี้เป็นเมืองอันตรายลำดับต้นๆของประเทศเลยนะครับ”
“ยูจีน ลืมที่พ่อสอนไว้แล้วเหรอ ลูกต้องเข้มแข็งนะ”
“ครับพ่อเซฮุน
ผมแค่คิดถึงเพื่อนๆที่เกาหลีหน่ะครับ”
“พ่อเข้าใจ มาตั้งไกลก็ต้องคิดถึงเพื่อนเป็นธรรมดา
เดี๋ยวพ่อว่าจะหาโรงเรียนดีๆให้ลูกนะ”
“ที่นี่ผมคงไม่มีเพื่อนแน่ๆครับ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก
เดี๋ยวให้พี่แอนดี้เขาคอยดูแลลูกก็แล้วกัน”
“จริงด้วย พี่แอนดี้หายไปไหนกันหล่ะครับเนี่ย”
“สงสัยคงออกไปเที่ยวไหนซักแห่งหล่ะมั่ง”
“จริงๆเลยนะครับเนี่ยพี่คนนี้” จากนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็นั่งดูทีวีกันต่อ
กลับมายังถนนแห่งหนึ่งในเมือง
แซคและเจนกำลังขับรถพาทริชกลับบ้าน ในตอนนั้นเองก็เกิดการปล้นที่ร้านเพชรขึ้น
แซคกับเจนเตรียมปืนเพื่อจัดการกับคนร้ายทันที
แซค : อยู่ในรถก่อนนะ
ห้ามออกมานะทริช // ทริชปิดประตูรถ
เจน : ไม่รู้ว่าพวกมันมีกี่คนกันแน่
ระวังตัวหน่อยนะ
แซค : หยุดนะเว้ย
ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ // พวกมันตกใจยิงปืนสู้กับแซค
แซคและเจนก็ทำการตอบโต้กลับ เสียงปืนดังไปมาทั่วถนน ตอนนั้นเอง
พวกมันเห็นท่าว่าจะไม่ดีแล้ว เลยจับคนแถวนั้นเป็นตัวประกัน
“ถอยไป ไม่งั้นฉันยิงเด็กคนนี้แน่ๆ”
แซค : ใจเย็นๆนะ
// เขาทั้งคู่ค่อยๆลดปืนลง
จากนั้นมันก็ยิงที่ขาแซคจนแซคล้มลง
เจน : แซค
ไม่นะ // ทริชเป็นห่วงแซคเลยเข้ามาดูอาการ
มันเห็นเลยจะยิงทริช แต่เจนก็คว้าปืนของเธอยิงเข้าที่หัวของมันพอดี
ทริชเข้าไปดูอาการของแซคที่ถูกยิงทันที
ทริช : แซค
ทำใจดีๆไว้นะ ฉันจะโทรเรียกหมอให้นะ
เจน : แจ้งศูนย์
ที่ย่าน AE มีเจ้าหน้าที่ถูกยิง ขอรถฉุกเฉินด่วน
ทริช : ทำใจดีๆ
มองหน้าฉันนะแซค อย่าเป็นอะไรไปนะ
แซค : ฉันไม่เป็นไรมากหรอก
ในตอนนั้นเอง รถฉุกเฉินก็มาพอดี พวกเขาพาแซคขึ้นรถพยาบาลไป
เจน : ฉันว่าเราตามพวกเขาไปดีกว่านะ
ทริช : ได้สิ
ไปกันเลย
ที่บ้านของลอเรน
ตอนนั้นเองลอเรนได้รับโทรศัพท์จากคามิลล์
เธอดีใจมากเลยไปบอกข่าวนั้นกับอัลเบิร์ตทันที
ลอเรน : อัลเบิร์ต
มีข่าวดีมาบอก
อัลเบิร์ต : เรื่องอะไรเหรอครับ
ลอเรน : พวกของนากะเขาจะมาที่นี่กันแล้วค่ะ
อัลเบิร์ต : ห่ะ
จริงเหรอครับ มันอันตรายนะครับ
ลอเรน : ไม่ต้องห่วงค่ะ
เขาบอกว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ในช่วงได้ประกันตัวหน่ะ
อัลเบิร์ต : เฮ้อ
แต่ผมไม่ไว้ใจ CIA พวกนั้นเลยครับ
ลอเรน : ฉันว่า
คุณน่าจะลองไปพบกับพวกนากะเขาดูนะคะ
อัลเบิร์ต : คุณช่วยผมสืบได้หรือเปล่า
ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน ผมจะไปคุยกับพวกเขา
ลอเรน : เดี๋ยวฉันจัดการเองค่ะ
กลับมายังสำนักงาน FBI อลิซซ่านำข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดมาประมวลผลกัน
โดยที่มีคอนเนอร์ช่วยเหลืออีกแรงด้วย ในตอนนั้นเอง
อลิซซ่าก็เกิดนึกอะไรออกได้บางอย่าง เธอไม่รอช้าบอกคอนเนอร์ทันที
อลิซซ่า : ฉันลองประติดประต่อเรื่องดูแล้ว
ฉันมีข้อคิดเห็นอย่างนี้นะ
คอนเนอร์ : ว่าไงครับ
คุณคิดอะไรออกงั้นเหรอ
อลิซซ่า : ฉันว่า
ต้องมีกลุ่มใหญ่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่ๆ
คอนเนอร์ : คุณคิดว่ากลุ่มไหนงั้นเหรอ
อลิซซ่า : พวกนายทุน
แล้วก็พวกหนอนบ่อนไส้ในหน่วยงานใหญ่ๆ
เพราะที่ผ่านมาพวกแก๊งค์ไม่เคยเฮิมเกริมอย่างนี้มาก่อนเลย
คอนเนอร์ : เพียงแต่ตอนนี้
เรายังไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังสินะครับ
อลิซซ่า : นั่นสิ
แต่ถ้าเราลองตรวจสอบเส้นทางการเงินของมัน น่าจะพอเดาได้นะ
คอนเนอร์ : ดูนี่สิครับ
ประวัตินายนี่น่าสนใจนะครับ // เขายื่นเอกสารแผ่นหนึ่งให้อลิซซ่า
อลิซซ่า : ซันจี
อามาซากิสตอร์ม นายทุนชื่อดัง เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งค์ในเมือง
ประวัตินายนี่ยาวเป็นหางว่าวเลยแหะ
คอนเนอร์ : ผมว่า
เราควรจะสืบจากหมอนี่ก่อนนะครับ
ณ สำนักงานกระทรวงป้องกันประเทศ
หลังจากที่อดัมทำการป้องกันระบบของประเทศเสร็จ เขาได้ข้อมูลที่มาของไวรัส
จากนั้นก็ขับรถลับบ้าน ระหว่างทาง
เขาเจอหญิงสาวคนหนึ่งกำลังมีเรื่องกับพวกนักเลงแถวนั้นพอดี
“อย่ามาขวางพี่ดีกว่า น้องสาว”
“ปล้นของคนไม่มีทางสู้แบบนี้ ไม่อายหมาบ้างเหรอห่ะ”
“ปากดีนักยัยนี่”
พวกมันพยายามรุมทำร้ายเธอ
แต่เธอก็สวนพวกมันไปได้หลายหมัด
อดัมเห็นว่าเธอไม่น่าจะไหวเลยเข้าไปช่วยทันทีโดยการขว้างมีดใส่แขนมัน
“โอ๊ย มึงมายุ่งอะไรด้วยวะ”
อดัม : รังแกผู้หญิงแบบนี้
พวกแกไปเอากระโปรงมาใส่เถอะหว่ะ
“มึงจะเอาใช่ไหม ลุยมันเลย”
ทั้งคู่ช่วยกันอัดนักเลงพวกนั้น พวกมันพยายามจะใช้อาวุธสู้แต่ก็ทำอะไรทั้งคู่ไม่ได้
จนกระทั่งพวกมันล้มทั้งหมด ตอนนั้นเองเสียงหวอตำรวจก็ดังมา
ทั้งคู่เลยพากันไปขึ้นรถแล้วก็ขับออกไป
“เฮ้อ เกือบซวยแล้วมั้ยหล่ะ
ความจริงฉันรับมือพวกนั้นได้สบายอยู่แล้ว”
อดัม : แหม่
ไม่น่าออกไปช่วยเลย ถ้าได้ยินแบบนี้
“แต่ยังไงก็ขอบใจมากนะ แก๊งค์พวกนั้นมันเหลือขอ
ต้องเจอซะบ้าง ว่าแต่นายเป็นใครงั้นเหรอ”
อดัม : เรียกผมอดัมก็ได้
ว่าแต่คุณหล่ะ
“ฉันชื่อพิม ยินดีที่ได้รู้จักนะ อดัม”
อดัม : เช่นกัน
ว่าแต่คุณจะไปลงที่ไหนหล่ะ
พิม : ไม่รู้สิ
เออนี่ ช่วยจอดร้านอาหารจีนตรงนั้นให้หน่อยสิ // อดัมไปจอดแถวนั้น
จากนั้นพิมก็ลงไปซื้อของ แล้วก็กลับขึ้นมา จากนั้นรถก็ขับออกไป
อดัม : คุณซื้ออะไรมากินเนี่ย
พิม : ซาลาเปาหน่ะ
ฉันชอบกินมากเลยนะ ฉันซื้อมาแบ่งให้นายด้วย
อดัม : ขอบใจนะ
กำลังหิวอยู่พอดีเลย
พิม : นี่
ยังไงก็ขอบใจมากนะสำหรับเรื่องวันนี้
อดัม : ไม่เป็นไรหรอก
หลังจากที่ซันจีโดนสอบปากคำ ในตอนนั้นเอง CIA ก็โทรมาหาเขาพอดี
ซันจี : นี่แก
คิดจะแกล้งฉันหรือเปล่าเนี่ย
“ผมอยากจะเตือนคุณ ว่าอย่าทำอะไรนอกลู่นอกทางกว่านี้”
ซันจี : เอาที่สบายใจเลยแล้วกัน
// จากนั้นก็วางสายไป
“แบบนี้จะปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้วนะครับ”
ซันจี : ฉันรู้
แต่ตอนนี้ติดต่อวิคเตอร์ให้หน่อยสิ // ลูกน้องโทรศัพท์หาวิคเตอร์ทันที
จากนั้นซันจีก็คุยกับเขา
ซันจี : วิคเตอร์
เรื่องที่ฉันให้ทำเป็นยังไงบ้าง
วิคเตอร์ : เรียบร้อยแล้วครับ
แล้วเมื่อไหร่จะให้ผมทำซะทีครับ
ซันจี : ยังไม่ใช่ตอนนี้
รอฉันมีคำสั่งก่อนก็แล้วกัน ติดต่อยัยเซนจาให้ฉันที
ที่เซฟเฮ้าส์ของเซนจา
หลังจากที่พวกเขามาถึงได้ไม่นาน ก็มีโทรศัพท์ลึกลับโทรมาหาเธอ ในตอนนั้นเธอก็รับสายทันที
เซนจา : ฮัลโหล
นั่นใครพูดหน่ะ
ซันจี : จำเสียงฉันคนนี้ไม่ได้งั้นเหรอ
เซนจา : ไอ้ซันจี
แกโทรมาได้ยังไงหล่ะเนี่ย
ซันจี : ฉันจะไม่พูดมาก
ตอนนี้มินโฮโดนฉันจับตัวไป ถ้าอยากเจอมันอีก ให้ไปหาฉันตามที่อยู่ที่ฉันจะส่งไปนี้
ไปคนเดียวนะ ถ้าเจอคนอื่น เธอก็น่าจะรู้นะ ว่ามินโฮจะเจออะไร // จากนั้นสายก็ถูกตัดไป
======================================================================
มินโฮกำลังตกที่นั่งลำบาก พวกเขาจะไปช่วยได้ทันหรือไม่ ติดตามชมต่อตอนหน้าเด้อ
เผอิญเขียนไวกว่าปกติ 5555
อยากจะมาบอกว่า เนื้อเรื่องดำเนินมาใกล้จะจบแล้ว แหะๆ
ความคิดเห็น