ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Mask Land - สมรภูมิแยกแผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #16 : คนทรยศ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 64
      1
      30 ธ.ค. 60

    จอมยุทธ์บอกทุกคนหลังจากที่ได้รับโทรศัพท์นั้น ในสิ่งที่เขาได้ยินจากอีกฝั่งหนึ่ง

    จอมยุทธ์ : ทุกคน เรามีภารกิจใหม่หล่ะ

    เงา : ภารกิจอะไรครับหัวหน้า

    จอมยุทธ์ : ท่านผบ.แมวตาเดียวสั่งเราหน่วยของเราไปเสริมกำลังที่เมืองหน้าด่านให้ได้มากที่สุดหน่ะ

    โซ่ตวง : ผมก็ได้ยินมานะ ว่าที่นั่นรบกันหนักเลยนี่ครับ

    หมาป่าดำ : เยี่ยมเลย ในที่สุดเราก็ได้รบแล้ว

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : แล้วเราต้องไปรายงานตัวกันเมื่อไหร่คะ

    จอมยุทธ์ : เดี๋ยวนี้เลยครับ

    ดอกฝ้าย : งั้นหนูขอไปด้วยนะคะ

    จอมยุทธ์ : มีคำสั่งว่า ใครก็ตามที่ถืออาวุธได้ต้องไปร่วมครับ ส่วนใครที่ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องไปนะครับ

    แฮมเตอร์ : งั้นฉันก็คงไปไม่ได้หล่ะ ฉันคงทำอะไรได้ไม่มากกว่านี้แล้วหล่ะ

    ราชินี : ยังไงฉันก็ขอให้ทุกคนโชคดีแล้วกันนะ

    เงา : เออจริงสิ ฉันไปเจออาวุธนี่ของข้าศึก ใช้ดีมาก อยากให้เธอวิเคราะห์วัตถุดิบของมันหน่อยสิ

    แฮมเตอร์ : ได้เลย เดี๋ยวฉันดูให้

    เนสซี : ผมขอไปด้วยครับ ไหนๆเราก็อยู่ในหน่วยของคุณแล้ว

    ความมืด : เอาเถอะเพื่อน นายเอาไงฉันก็เอาด้วยหล่ะ

    กระดาษ : แล้วคลังอาวุธเราอยู่ตรงไหนหล่ะครับ

    จอมยุทธ์ : ทางนี้ครับ ตามมาเลยครับ

    จอมยุทธ์พาคนอื่นๆที่จับอาวุธสู้ได้ไปยังคลังอาวุธเพื่อเลือกอาวุธไปสู้กับพวกมัน

    ความมืด : โหว ที่นี่อาวุธทันสมัยดีนะครับเนี่ย

    เงา : แน่นอนพวก ที่นี่เรามีอาวุธที่ดีที่สุดในประเทศแล้ว

    กระดาษ : แล้วนี่ พวกนายเป็นทหารมากี่ปีแล้วเนี่ย

    โซ่ตวง : ฉันเหรอ ตอนแรกฉันก็ไม่ได้เป็นทหารหรอก แต่หัวหน้าชวนฉันเข้ามาในหน่วยนี่หน่ะสิ

    หมาป่าดำ : ฉันเป็นทหารมาตั้งนานแล้วหล่ะ

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : ส่วนฉันเป็นตำรวจมาก่อนหน่ะ

    ดอกฝ้าย : ส่วนหนูเคยรับใช้กองทัพมา 5 ปีค่ะ

    เนสซี : โหว เยี่ยมไปเลยครับ

    จอมยุทธ์ : เอาหล่ะ ผมว่าเราน่าจะรีบไปกันดีกว่าครับ ได้ยินว่าสงครามที่นั่นกำลังเดือดเลยนะครับ

    จากนั้นพวกเขาก็พาคนของหน่วยอีกจำนวนหนึ่งไปเสริมกำลังที่สมรภูมิรบ ที่กำลังรบกันอย่างดุเดือด

    ทางด้านพระราชวัง Mask Land ซึ่งมังกรกำลังเก็บของแล้วลี้ภัยไปยังฝรั่งเศสตามที่อีกาดำขอ

    ควีนมังกร : ระวังตัวด้วยนะคะคุณ

    คิงอีกาดำ : ครับ คุณอยู่ที่นั่นก็รักษาตัวด้วยนะครับ

    ควีนมังกร : แล้วจิงโจ้กับทุเรียนไปไหนซะหล่ะคุณ

    คิงอีกาดำ : ลูกเราขออาสาไปอยู่แนวหน้าหน่ะคุณ

    ควีนมังกร : ตายแล้ว แล้วคุณปล่อยพวกเขาไปได้ยังไงหล่ะ

    คิงอีกาดำ : ทำไงได้หล่ะ ลูกของเราเลือกแล้วหน่ะสิ

    ควีนมังกร : ฉันใจไม่ดีเลยนะรู้มั้ย

    คิงอีกาดำ : คุณไม่ต้องห่วงนะ ยังไงผมจะพาสองคนนั้นไปอยู่กับคุณให้ได้ ระฆัง คุณดูแลเมียผมให้ดีด้วยนะ

    ระฆัง : ผมจะดูแลเองครับ

    คิงอีกาดำ : ยังไงผมก็ขอให้คุณโชคดีนะครับ แล้วผมจะส่งข่าวไป

    ควีนมังกร : ได้ค่ะคุณ

    จากนั้นคิงอีกาดำก็สั่งให้ทหารไปส่งควีนมังกรที่ท่าเรือแห่งหนึ่ง เพราะสนามบินที่นั่นถูกโจมตีอย่างหนัก จากนั้นคิงอีกาดำก็ใส่ชุดทหารเต็มยศไปบัญชาการที่แนวหน้าด้วยตนเอง

    ทางด้านพวกของจอมยุทธ์ซึ่งนั่งรถมายังเมืองหน้าด่านซึ่งมีการป้องกันอย่างแน่นหนา จอมยุทธ์พาลูกน้องคนอื่นๆไปรายงานตัวกับผบ.แมวตาเดียวทันที

    แมวตาเดียว : ยินดีที่ได้เจอครับคุณยุทธ์

    จอมยุทธ์ : ครับท่าน สถานการณ์ที่นี่เป็นยังไงบ้างครับ

    แมวตาเดียว : หนักเลยครับ ปืนใหญ่พวกมันยิงทั้งวันทั้งคืนเลย

    จอมยุทธ์ : แล้วท่านจะให้พวกผมประจำการที่ไหนหล่ะครับ

    แมวตาเดียว : ตามผมมาเลย

    จากนั้นแมวตาเดียวก็พาพวกเขาไปยังแค้มป์บัญชาการซึ่งมีนายทหารหลายนายกำลังปรึกษาแผนการรบอยู่

    แมวตาเดียว : เอาหล่ะครับทุกท่าน นี่คือผู้พันจอมยุทธ์ ของหน่วยรบพิเศษ M.A.S.K ครับ

    นกอินทรี : คุณจอมยุทธ์ วีรบุรุษจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยินดีที่ได้พบคุณครับ

    จอมยุทธ์ : ครับท่านอินทรี

    แมวตาเดียว : เอาหล่ะครับทุกคน เรามาเริ่มประชุมกันเลย ตอนนี้พวกมันรุกเต็มที่ ปืนใหญ่ของพวกมันก็ยิงถล่มทุกวัน โชคยังดีที่เราอพยพประชาชนที่นี่ออกไปหมดแล้ว

    นกอินทรี : แต่เราไม่รู้จะต้านพวกมันได้นานแค่ไหนนะครับ คนของเราก็น้อยกว่ามันถึง 3 เท่าเลยนะครับ

    จอมยุทธ์ : ผมว่า เราควรจะใช้เมืองหน้าด่านให้เป็นประโยชน์นะครับ

    แมวตาเดียว : หมายความว่าไงครับคุณยุทธ์

    จอมยุทธ์ : ผมหมายถึง เราจะหลอกล่อให้พวกมันเข้ามา แล้วเราจะค่อยๆยิงตอดพวกมันให้ตายไปเรื่อยๆ จนมันอ่อนกำลัง เราจะไล่พวกมันออกไปจากเมืองครับ

    นกอินทรี : ความคิดดีนี่ครับ

    ระหว่างนั้นเองทุเรียนกับจิงโจ้ในชุดทหารก็มาต้องรับทหารทุกคนพอดี ทุกคนเลยทำความเคารพต้องรับเจ้าชายทั้งสองคน

    ทุเรียน : ตามสบายครับทุกคน

    จิงโจ้ : การรบเป็นยังไงบ้างครับวันนี้

    แมวตาเดียว : เราโดนถล่มหนักเลยครับ อ่ะ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว จอมยุทธ์ คุณกับหน่วยของคุณช่วยคุ้มกันองค์ชายด้วย

    จอมยุทธ์ : ผมจะดูแลเองครับ

    ทุเรียน : อ้อ ผู้พันจอมยุทธ์ ผมได้ยินชื่อเสียงคุณมานาน ยินดีที่ได้เจอครับ

    จอมยุทธ์ : ครับผม

    จิงโจ้ : คุณจอมยุทธ์ คุณพาผมไปยังแนวหน้าหน่อยสิ ผมจะไปดูด้วยตัวเอง

    จอมยุทธ์ : งั้นเชิญทางนี้เลยครับ // จอมยุทธ์พาทุเรียนและจิงโจ้ไปยังแนวหน้าเพื่อดูเหตุการณ์การรบ ด้านหน้าของพวกเขาเป็นสภาพที่โดนปืนใหญ่ถล่มอย่างหนัก แทบไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดไหนอยู่รอดได้เลย

    เงา : ถล่มแบบนี้ใครมันจะรอดวะ

    โซ่ตวง : ก็พวกมันรอดไง กำลังจะมาโจมตีเราด้วย

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : ดูท่า พวกมันคงจะหลบอยู่ในรูพวกนั้นนะ

    หมาป่าดำ : มิน่าหล่ะ ฝ่ายเรายิงปืนใหญ่ไปทีไรก็ทำอะไรพวกมันไม่ได้เลย

    ดอกฝ้าย : แล้วรถถังพวกมันมีมากแค่ไหนคะ

    จอมยุทธ์ : ผมว่า ช่วงนี้มันยังไม่เอาออกมาโชว์มากกว่า

    เนสซี : รถถังของพวกมันต้องเป็น T-34 85 แน่นอน เพราะโซเวียตสนับสนุนพวกมันอยู่

    ความมืด : ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ พวกเราจะเอาอะไรไปสู้กับมันหล่ะ

    กระดาษ : นั่นสิ ลำพังปืนต่อสู้รถถังและรถถังเราคงทำอะไรไม่ได้มากหรอก

    ระหว่างนั้นจิงโจ้กับทุเรียนก็ใช้กล้องส่องทางไกลของตัวเองดูบ้าง

    จิงโจ้ : ดูนั้นสิ เละไม่เป็นท่าเลยเนี่ย

    ทุเรียน : นั้นสิพี่ พวกมันฆ่าทุกคนไม่มีเว้นเลย

    จิงโจ้ : พี่ว่า เราน่าจะกลับไปที่ฐานก่อนดีกว่านะ

    ระหว่างนั้นเอง พวกมันก็ยิงปืนใหญ่อีกระลอกหนึ่ง ทำเอาทุกคนต้องหมอบลง

    จอมยุทธ์ : รีบพาองค์ชายเข้าไปหลบเร็ว

    จากนั้นพวกเขาก็พาเจ้าชายทั้งสองคนไปหลบในสนามเพลาะ

    เงา : สงสัยมันคิดจะถล่มเมืองนี้แหงะๆเลยหว่ะ

    โซ่ตวง : พวกนายคิดว่า พวกมันจะโจมตีหรือเปล่าอ่ะ

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : ตอบยากหน่ะสิ มันยิงถล่มมาหลายรอบแล้วแต่ยังไม่บุกซะที

    หมาป่าดำ : คงจะรอให้พวกเราหมดแรงก่อนหล่ะมั้ง

    เนสซี : คงต้องดูอ่ะครับว่าพวกมันยิงนานแค่ไหน

    ความมืด : หรือไม่ ก็ต้องดูว่ามันจะเอารถถังมาด้วยหรือเปล่านะ

    กระดาษ : ไม่แน่นะ ว่าแต่ใครจะส่องกล้องออกไปดูหล่ะ

    ดอกฝ้าย : เอามานี่ เดี๋ยวฉันดูเอง // ดอกฝ้ายคว้ากล้องจากมือเนสซีมา เพื่อดูสถานการณ์ข้างหน้า

    ดอกฝ้าย : นั่น ดูเหมือนรถถังของพวกมันกำลังจะเตรียมพร้อมบุกแล้วนะ

    เนสซี : ถ้าแบบนั้น เรารีบกลับไปรายงานที่หน่วยเถอะ

    ที่หน่วย M.A.S.K ซึ่งแฮมเตอร์กำลังดูส่วนประกอบของอาวุธที่โซ่ตวงยึดมาได้

    แฮมเตอร์ : โหว อัตรายิงเร็วมากเลยนะเนี่ย แถมบรรจุกระสุนได้เยอะอีก

    ระหว่างนั้นเองราชินีก็เอาอาหารที่ทำมาให้แฮมเตอร์

    ราชินี : กินไรยังอ่ะ

    แฮมเตอร์ : ก็นิดหน่อยอ่ะ

    ราชินี : ฉันทำนี่มาให้กินนะ

    แฮมเตอร์ : ขอบใจมากเลยนะ

    ราชินี : มีอะไรเกี่ยวกับปืนนี้ใหม่หรือเปล่าอ่ะ

    แฮมเตอร์ : เป็นปืนที่ประสิทธิภาพสูงมากเลยหล่ะ น้ำหนักพอดีๆ อัตรายิงเร็วและแรงมากเลยด้วย

    ราชินี : โหว แล้วเธอจะทำไงต่อหล่ะ

    แฮมเตอร์ : ฉันว่าจะวิจัยชิ้นส่วนแล้วประดิษฐ์อาวุธใหม่ดูอ่ะ

    ราชินี : โหว เยี่ยมเลย นี่เธอ เธอว่าสงครามทางนั้นจะเป็นไงบ้างอ่ะ

    แฮมเตอร์ : คงจะรบกันหนักเลยอ่ะที่นั่น

    ราชินี : คิดถึงโซ่.. เอ้ย เพื่อนๆของเราจังอ่ะ

    แฮมเตอร์ : จะบอกว่าคิดถึงนายโซ่ตวงก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องอายแล้ว

    ราชินี : ก็ได้

    แฮมเตอร์ : แล้วนี่นายโซ่รู้หรือยังอ่ะ

    ราชินี : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ฉันอยากจะบอกนะ แต่ยังไม่ถึงเวลาเลย

    แฮมเตอร์ : ต้องรอให้จากกันก่อนใช่มั้ยถึงจะบอกได้เนี่ย

    ราชินี : ก็….

    แฮมเตอร์ : เรื่องบางอย่าง เก็บไว้นานไประวังจะไม่ได้บอกนะ

    ทางด้านเมืองหน้าด่าน ซึ่งมาถึงเวลาเย็น ทหารส่วนใหญ่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ จิงโจ้กับทุเรียนมานั่งกินข้าวกับพวกของจอมยุทธ์ด้วย เพื่อที่อยากจะสนิทสนมกับเขาและเรียนรู้การสงครามด้วย

    จิงโจ้ : กินให้เยอะครับเลยนะครับ

    ทุเรียน : พี่นั่นแหละ กินเยอะๆเถอะ ผอมจนเนื้อติดกระดูกหล่ะ

    จอมยุทธ์ : ครับ

    ทุเรียน : พวกคุณเป็นทหารมาได้กี่ปีแล้วเนี่ย

    จอมยุทธ์ : หลายสิบปีแล้วครับ

    เงา : ของผมไม่กี่ปีหรอกครับ ไม่นานนี่เอง

    โซ่ตวง : ผมก็เหมือนกันเงาครับ

    หมาป่าดำ : ของฉันเข้าประจำการสิบปีได้ค่ะ

    แมงมุมแม่ม่ายดำ : ของฉัน ฉันเคยเป็นตำรวจมาก่อนที่จะมาเป็นทหารหน่ะค่ะ

    ดอกฝ้าย : ฉันเพิ่งสมัครเข้าหน่วยได้ไม่นานเองครับ

    เนสซี : เหมือนกันครับ ผมเป็นอดีตทูตหน่ะ แต่ลาออกมาอยู่หน่วยของคุณยุทธ์หน่ะครับ

    จิงโจ้ : อ้าว ทำไมถึงออกมาหล่ะครับ

    เนสซี : เหตุผลส่วนตัวหน่ะครับ

    ความมืด : ผมก็เหมือนกับเนสซีหล่ะครับ แต่ผมเป็นนักสืบเอกชนมาก่อนหน่ะ

    กระดาษ : ส่วนผมก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ของกองทัพหน่ะครับ

    ทุเรียน : ครับผม พวกคุณทำงานดีๆกันทั้งนั้นเลยนะ

    ระหว่างที่คุยกันนั้นเอง เงาก็สังเกตเห็นนายทหารคนหนึ่งกำลังจะลักลอบออกจากค่าย เงาจึงเตือนจอมยุทธ์

    เงา : หัวหน้าครับ ดูนั่นสิครับ

    จอมยุทธ์ : มีอะไรเหรอ

    เงา : นั่นใช่นายเพชรหรือเปล่าครับนั่น

    จอมยุทธ์ : งั้นเหรอ งั้นรอฉันแป๊ปนึงนะ

    จอมยุทธ์สะกดรอยตามเพชรซึ่งออกจากค่ายไปยังแนวของข้าศึก เงากับโซ่ตวงเป็นห่วงจึงตามมาดู

    เงา : ใช่นายเพชรหรือเปล่าครับนั่น

    จอมยุทธ์ : ผมว่าน่าจะใช่

    โซ่ตวง : มันกำลังทำอะไรของมันนะ

    พวกนั้นเห็นเพชรคุยอะไรกับพวกมันซักอย่าง จากนั้นมันก็พาเพชรเข้าไปในค่าย

    เงา : หรือว่า มันจะทรยศพวกเราหน่ะ

    โซ่ตวง : อาจเป็นไปได้ ฉันได้กลิ่นแปลกๆจากมันอยู่นะ

    จอมยุทธ์ : ฉันว่าเรากลับไปรายงานเรื่องนี้ที่ค่ายดีกว่า

    แต่ไม่ทันไร พวกมันก็ยิงปืนใหญ่อีกชุดหนึ่งถาโถมเข้ามาที่แนวของพวกเขา

    จอมยุทธ์ : แย่แล้ว รีบกลับเข้าไปในหลุมหลบภัย เร็ว

    พวกเขารีบหนีเข้าไปในหลุมเพลาะ พวกเขาต้องทนรับแรงระเบิดจากปืนใหญ่นั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ระหว่างนั้นเอง พวกเขาก็เห็นรถถังของพวกมันเตรียมดาหน้าเข้ามายังฐานที่มั่น

    พวกมันมาแล้วสินะ ทุกคน เตรียมพร้อมประจำตำแหน่งยิง

    ==========================================

    ติดตามชมกันต่อตอนหน้าจ้า

    ผมมีเรื่องจะสารภาพ เนื่องจากกระผมต้องเรียนมหาลัยเป็นเทอมสุดท้าย จากนั้นก็ต้องไปทำงานต่อแล้ว ซึ่งกระผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้มาเขียนอีกเมื่อไหร่ แต่ยังไงก็จะพยายามมานะครับ


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×