NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Killer Academy - สถาบันนักฆ่าล่าเดือด (ปิดรับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 6 : อาจารย์คนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 20 ส.ค. 66


    เช้าวันต่อมา ในวันนี้กลุ่มของเนชินก็รีบทำธุระส่วนตัวและมารวมตัวกับมอร์ตี้และเหล่าอาจารย์ที่รวมหัวกันในแผนการนี้ด้วย ที่โรงฝึกเดิมของเดธและดู๊ด เนื่องจากไม่อยากให้มีการขาดช่วงชาดตอน นาตาลีก็เอาอาหารจากโกเมซมาให้กับทุกคนที่โรงฝึกด้วย

    “ทุกคน อาหารมาแล้ว กินเสร็จแล้วต้องรีบทิ้งหล่ะ” นาตาลีพูดขึ้น จากนั้นตัวของนาตาลีเองก็รีบแจกอาหารให้กับทุกคนในทันที ก่อนที่ทุกคนจะนั่งกินกันตรงนั้นอย่างเอร็ดอร่อย

    “เออ ว่าแต่ ดักฟังไอ้คาร์ลเป็นยังไงบ้างหล่ะ??” มอร์ตี้ถามพวกของเน็ตโต้ไป

    “เฮ้อ พูดตรงๆนะพี่ อาจารย์คาร์ลแทบไม่ส่อพิรุจอะไรออกมาเลย” คิมยูจินพูดพลางถอนหายใจออกมา

    “โห ดูท่าแกจะนิ่งจริงๆนะ” คามาคุริพูดไป

    “แต่เห็นเจ้าเขตแดนว่ามันมีอะไรแปลกๆหน่ะ” โจพูดขึ้นพลางสะกิดเขตแดนไป

    “ใช่ คือว่า คิมยูจินกับมาเรีย เจอโทรศัพท์ที่ลิ้นชักชั้น 3 โต๊ะของแกใช่หรือเปล่า คือว่า เรามองแกจากกล้องวงจรปิด แกเปิดลิ้นชักทั้งหมด แต่เหมือนแกจะไม่รู้เลยว่าโทรศัพท์หาย” เขตแดนพูดขึ้น ในตอนนั้นคนอื่นๆก็งงเป็นไก่ตาแตกไปอีก

    “เออ ฉันว่าอย่างอาจารย์คาร์ล คงจะเรียกนักเรียนทั้งหมดมารวมตัวกันตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว” เมอร์ลิน่าพูดขึ้น

    “นั่นสิ เว้นแต่ว่า มันอาจจะมีอะไรแปลกๆก็ได้” มาเรียพูดขึ้น

    “ฉันว่าไม่น่าจะขนาดนั้นหรอกมั้ง บางที อาจารย์แกอาจจะนิ่งไว้ก่อน แล้วค่อยสืบหาตัวคนขโมยทีหลังก็ได้มั้งนะ” สเตลล่าพูดขึ้น

    “ฉันว่าไม่หรอก เรื่องคุณไดม่อนนี่คอขาดบาดตายมาก ไม่มีใครไม่กล้าอยู่นิ่งหรอก แม้แต่มันเอง” เดธพูดปรามไป

    “แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงหล่ะครับเนี่ย??” อัลลันถามพลางเกาหัวไปด้วย

    “หรือว่า นั่นอาจจะเป็นโทรศัพท์ปลอมหรือเปล่า??” ดู๊ดถามไป ในตอนนั้นทุกคนก็หันไปหามอร์ตี้

    “มอร์ตี้ เอาโทรศัพท์ไปจรวจสอบหรือยังครับ??” อุโมจาถามไป

    “ตอนนี้กำลังให้คนที่ไว้ใจได้เช็คอยู่อ่ะ ถ้ามีอะไรในเครื่อง จะเอามาให้ดู แต่น่าจะไม่ใช่เครื่องปลอม” มอร์ตี้ตอบไป

    “เรื่องนี้ยิ่งสืบยิ่งงแหะ” อดาเน็คพูดขึ้น

    “เออ นั่นสิ เมื่อคืนก็นั่งฟังกันแทบตายว่าไอ้คาร์ลจะเผยไต๋อะไรมา แต่ก็ไม่เลย แปลกๆแหะ” ฟิลิปพูดขึ้น

    “หรือว่าอาจารย์คาร์ลจะไม่เกี่ยวจริงๆหล่ะ??” เอลซ่าถามต่อ

    “เอ้ย ถ้าอาจารย์คาร์ลไม่เกี่ยวแล้วใครจะเกี่ยวหล่ะ ฉันว่า เราอาจจะยังไม่เจอหลังกฐานชัดๆ อย่าเพิ่งด่วนสรุปเลย” คริสโตเฟอร์พูดขึ้น

    “เฮ้อ งานนี้คงต้องใช้ความอดทนสูง มันอาจจะรอให้เราตบะแตกก็ได้” มาเรียน่าพูดไป

    “เออนี่เนชิน แล้วเธอคิดว่าไงหล่ะ??” นานะถามเขาไป

    “ตอนนี้ทุกอย่างคงอยู่ในโทรศัพท์ที่พี่มอร์ตี้ได้มาแล้วหล่ะ” เนชินบอกไป

    “นั่นหล่ะ ถ้าเราอดทน..” มอร์ตี้ยังพูดไม่ทันจบ ในตอนนั้วพกเขาก็สังเกตได้ว่ามีคนเข้ามาในโรงฝึก อาจารย์เดธกับดู๊ดรีบหยิบปืนขึ้นมาเล็งเตรียมยิงในทันที 

    “เดี๋ยว พวกเรามาดี!!” ต้นทางเสียงพูดขึ้นพลางยกมือ ซึ่งนั่นก็คือกลุ่มของอินเฟอร์โน่นั่นเอง 

    “เฮ้ย พวกมึงมาทำอะไรที่นี่วะ ยังไม่เปิดโรงฝึกเว้ย??” อาจารย์ดู๊ดถามไป

    “พวกเรามาดีครับ เราแค่อยากมาช่วย” ลาเกียครูซพูดขึ้น

    “พวกนี้ไว้ใจได้ครับ พวกเราเคยช่วยพวกเขา” เนชินบอกกับอาจารย์ดู๊ดไป

    “ฉันไม่รู้หรอกว่าพวกนายจะทำอะไร แต่ถ้ามันจะทำให้ฉันเผาไอ้ไฮน์ริชทั้งเป็นได้ ฉันเอาด้วย” อินเฟอร์โน่พูดไป

    “นี่พวกมึงโกหกกูหรือเปล่าวะ??” อาจารย์เดธถามไป

    “เราพูดจริงครับ พวกเราแค่อยากมาช่วยหน่ะ” นากะตะบอกไป

    “ใช่ครับ พวกเราไม่ยอมเป็นเป้านิ่งให้พวกไฮน์ริชมันหรอกครับ” แม็กซ์พูดเสริม

    “แล้วพวกเธอต้องการอะไรหล่ะ??” นาตาลีถามไป

    “เราแค่ขอเล่นงานไอ้ไฮน์ริช หรือไอ้คาร์ลด้วย แค่นั้นพอครับ” เรนาวอสบอกไป

    “ใช่ พวกคุณวางแผนจะเล่นงานพวกมันใช่เปล่า ผมมีเงินจ่ายด้วยนะ??” เอ็ดวาร์ดบอกไป

    “พวกเราไม่ต้องการเงิน แต่ถ้าพวกแกโกหก ฉันรับรองว่าพวกแกโดนถลกหนังทั้งเป็นแน่ๆ” มอร์ตี้พูดขึ้น

    “แน่นอพี่ ตามนั้นเลย” วาดีนบอกไป

    “ว่าแต่ พวกคุณกำลังคุยอะไรกันหล่ะ??” จอห์นถามอย่างสงสัย 

    “ก็เรื่องไอ้คาร์..” มอร์ตี้ยังพูดไม่ทันจบ ในตอนนั้นก็มีเสียงฝีเท้ามาอีกแล้ว นั่นคือเสียงของกลุ่มของไฮน์ริชนั่นเอง ไฮน์ริชเดินเข้ามาพร้อมกับลูกน้องของเขาอีกเพียบ ในตอนนั้นเนชินและคนอื่นๆก็รีบไปประจันหน้ากับมัน

    “มึงมาทำไมวะ??” เนชินถามไป

    “ก็ไม่มีอะไร อาจารย์คาร์ลสั่งให้ฉันมาดูพวกแก ในฐานะผู้คุมกฎหน่ะ” ไฮน์ริชตอบไป

    “เฮ้ย กูว่ามึงจะล้ำเส้นไปแล้วนะ” มอร์ตี้พูดขึ้น

    “ฉันทำตามหน้าที่หน่ะมอร์ตี้ อย่าโกรธกันเลยนะ ส่วนแก ทำไมวะ จะหาพรรคพวกเพิ่มงั้นเหรอ คิดว่าจะรอดจากฉันได้งั้นเหรอ??” ไฮน์ริชหันไปทางอินเฟอร์โน่และถามเขา ทำเอาอินเฟอร์โน่ถึงกับหัวร้อนขึ้นมา เขาพุ่งเข้าเตรียมจะเล่นไฮน์ริชอย่างรวดเร็ว แต่คนอื่นๆห้ามไว้ก่อน

    “ไม่ต้องให้ใครช่วยก็ได้เว้ย มึงมาเดี่ยวกับกูดิ!!” อินเฟอร์โน่ตะโกนออกมา

    “ฮ่าๆๆ นี่พรรคพวก ฉันกับแกยังมีเวลาเล่นกันอีกเยอะ หาพวกไว้ให้เยอะๆเถอะ ถ้าคิดว่ามันจะช่วยแกได้หน่ะ” ไฮน์ริชพูดไป

    “อ้อเหรอ แล้วถ้าฉันจะเป็นพวกกับหมอนี่ด้วยหล่ะ แกจะว่าไง??” มอร์ตี้ถามไป

    “เออ แล้วพวกฉันสองคนด้วย แกจะเอาไง??” อาจารย์เดธกับดู๊ดถามพร้อมกันด้วย 

    “ใจเย็นจารย์ ผมมานี่ไม่ได้มาหาเรื่อง แต่ก็นะ อาจารย์สอนไอ้พวกนี้ดีผมก็โล่งใจ จะได้กลับไปบอกอาจารย์คาร์ลว่าไม่มีไรต้องห่วง” ไฮน์ริชบอกไป

    “เออ มึงระวังตัวเองให้ดีเถอะวะ” มอร์ตี้พูดไป

    “ฮ่าๆๆๆ โอเคๆๆๆๆ ตอนนี้พวกแกยังรอดอยู่ แต่วันหน้าไม่แน่” ไฮน์ริชพูดยิ้มเยาะและเดินออกจากโรงฝึกในทันที ปล่อยให้อินเฟอร์โน่หัวร้อนตรงนั้นต่อ

    “นายได้เอาตีนเหยียบหน้าพวกมันแน่ ไม่ต้องห่วง” เนชินพูดขึ้นพลางแตะไหล่อินเฟอร์โน่ไป แต่อินเฟอร์โน่ยังคงหัวร้อนและปัดมือเนชินออกไปเล็กน้อย

    “เอาเป็นว่า หลังจากนี้พวกเรามาประชุมกันที่นี่บ่อยๆแล้วกัน” มอร์ตี้พูดขึ้น

    “ได้ แต่ถ้าพวกนายเหยียบหน้ามันก่อนฉัน ฉันก็ไม่ไว้พวกนายด้วย พวกเราไปเถอะ” อินเฟอร์โน่พูดจบจากนั้นก็เดินออกไปจากโรงฝึกก่อนเพื่อไม่ให้ใครสงสัยไปมากกว่านี้

    “ดูเหมือนตอนนี้ไอ้ไฮน์ริชน่าจะระแคะระคายแล้ว ยังไงก็ระวังให้มากกว่านี้แล้วกัน” มอร์ตี้บอกกับทุกคนไป

    “ได้เลยพี่” เนชินตอบกลับไป

     

    ผ่านไปถึงช่วงพักกลางวัน ในวันนี้กลุ่มนักเรียนห้อง 305 ก็ยังคงรวมตัวกันหลังจากที่เรียนวิชาการฆ่าอัพเกรดตัวเอง และที่ห้องสวดมนต์ห้องหนึ่ง กลุ่มของโครี่ไปนั่งสวดมนต์กัน และเมื่อสดวเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเธอก็กลับไปนั่งคุยกันต่อ

    “ในที่สุดก็ได้สวดมนต์ซักทีแหะ” โครี่พูดขึ้น

    “นั่นสิ รู้สึกดีมากเลย เนอะ??” เอเลนอร์พูดและหันไปสะกิดคนอื่นๆ

    “เออนี่ ว่าแต่สถานการณ์ในโรงเรียนตอนนี้เป็นยังไงบ้างอ่ะ??” หลิวชิงหยินถามไป

    “จะว่าไป ตั้งแต่มีข่าวมาว่าคุณชาร์ลีทรยศ ไหนจะผู้บริหารที่ค่อยๆตายไปทีละคนอีก??” บาตาพูดขึ้น

    “เออ จริงด้วย ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นใครหล่ะนะ” เจน่าพูดขึ้น

    “แต่ไม่น่าต้องห่วงหรอก พวกเราเป็นนักเรียนนี่ ไม่ใช่ผู้บริหารซะหน่อย” อีชีเตพูดขึ้น

    “แต่ก็ไม่แน่นะ เราก็ไม่ควรประมาทเรื่องนี้ ไม่แน่วันนึงพวกเราอาจจะโดนหางเลขไปด้วยก็ได้” ฮอร์ตุสพูดขึ้น

    “นั่นสิ ถ้าพวกมันจะเอา ฉันจะเล่นพวกมันให้หมดเลย” แคทเทอรีนพูดขึ้น

    “พวกเธอไม่ต้องห่วง ถ้าพวกมันทำอะไรฉัน ทางวาติกันไม่ปล่อยเรื่องนี้แน่ๆ และฉันจะช่วยพวกเธอเอง” โครี่พูดขึ้น

    “เฮ้อ ช่วยให้อุ่นใจขึ้นเยอะเลย” หลิวชิงหยินพูดไป

    “แต่ว่า พวกเธอคิดว่าใครจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หล่ะ??” เจน่าถามไป

    “จะใครหล่ะ ก้ต้องอาจารย์คาร..” อีชีเตพูดขึ้นยังไม่จบ ในตอนนั้นแคทเทอรีนก็ปิดปากเธอไว้ก่อน

    “เดี๋ยวสิ ไม่แน่อาจมีใครแอบฟังก็ได้” 

    “นั่นสิ ตอนนี้เราไว้ใจใครไม่ได้เลยแหะ” เอเลน่าพูดขึ้น

    “แล้วเราจะคุยกันได้ที่ไหนหล่ะ??” บาตาถามไป

    “เรากลับไปที่ห้องของเราก่อนดีกว่า” ฮอร์ตุสพูดขึ้น

    “นั่นสิ เราไปก่อนดีกว่า” โครี่พูดจบในตอนนั้นทุกคนในกลุ่มก็พากันออกจากห้องสวดมนต์ก่อน จากนั้นพวกเธอก็เดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงหอพักหญิง ซึ่งในตอนนี้ไม่ค่อยมีใครอยู่แถวนั้นแล้ว พวกเธอกลับเข้าไปในห้องของเธอ จากนั้นพวกเธอก็คุยกันต่อ

    “โอเค น่าจะไม่มีใครดักฟังพวกเราแล้วนะ” โครี่พูดขึ้น

    “เออ ว่าแต่ เรื่องอาจารย์คาร์ลพวกเธอว่าไงหล่ะ??” เอเลนอร์ถามไป

    “ฉันไปแอบได้ยินลูกน้องของไอ้ไฮน์ริชมันคุยกันนะ มันบอกกันว่าอาจารย์คาร์ลนี่หล่ะที่ใช้คุณชาร์ลีไปทำงานให้หน่ะ” บาตาพูดขึ้น

    “โห นี่เธอหาข่าวได้เก่งนะเนี่ย” เจน่าพูดขึ้น

    “ว่าแต่ อาจารย์คาร์ลจะทำแบบนี้ไปทำไม ทำไมเขาไม่ฆ่าคุณเอ็ดมันด์ไปเลยหล่ะ??” อีชีเตถามไป

    “ฉันว่า เขาอาจอยากให้สถานการณ์มันดูแนบเนียนกว่านี้หน่ะ” แคทเทอรีนพูดขึ้น

    “ยังจะหวังแนบเนียนอะไรอีกหล่ะ แค่นี้ก็ไม่มีใครทำอะไรแกได้แล้วนี่??” หลิวชิงหยินถามต่อ

    “มันก็ไม่แน่นะ อาจารย์คาร์ลอาจจะไม่ได้หน้าหนาขนาดนั้น แต่ดูเหมือนช่วงนี้พี่ไฮน์ริชเองจะดูกร่างกว่าปกตินะ” ฮอร์ตุสพูดขึ้น

    “ดูเหมือนว่ามันจะได้อำนาจเต็มจากอาจารย์คาร์ลแล้ว” บาตาพูดขึ้น

    “แบบนี้ พวกมันอาจจะมีอำนาจชี้ซ้ายชี้ขวาใครก็ได้นี่” เจน่าพูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้น เราคงต้องทำตัวเงียบๆ ไม่ให้พวกมันมองอ่ะ” แคทเทอรีนพูดขึ้น

    “เฮ้อ แต่ถึงยังไงพวกเราก็ต้องโดนเข้าซักวันอ่ะ” หลิวชิงหยินพูดขึ้น

    “เอาจริงๆนะ ฉันว่าเราหาพวกเอาไว้ดีกว่า พวกเด็กใหม่นั่นไง” อีชีเตพูดขึ้น

    “อืม แบบนี้ก็ดีนะ หลายหัวดีกว่าหัวเดียวหน่ะ” หลิวชิงหยินพูดขึ้น

    “แล้วเธอจะว่าไงหล่ะ โครี่??” เอเลนอร์ถามไป

    “ฉันเห็นด้วยนะ อย่างน้อยมีอะไรก็ได้ช่วยเหลือกันได้” โครี่พูดไป

    “ตอนนี้เราก็คงต้องติดต่อกับพวกนั้นก่อนหล่ะ” ฮอร์ตุสบอกไป

     

    และอีกด้านหนึ่งของโรงเรียน นักเรียนห้อง 402 บริเวณเรือนไม้หลังหนึ่งที่บรรดาพวกเด็กชอบไปจู๋จี๋กัน กลุ่มเด็กห้อง 402 ก็มานั่งกันที่โต๊ะไม้แถวนั้น และไม่นานนัก พวกเธอก็เห็นโรสออกมาจากเรือนไม้ พร้อมกันนั้นก็ถือเงินออกมาปึกหนึ่ง เธอรีบมาหาคนอื่นๆในทันที

    “เฮ้ เป็นไงบ้าง??” จินนี่ถามโรสไป และในตอนนั้นตัวของโรสก็โชว์เงินปึกหนึ่งให้ทุกคนได้ดู

    “โห ได้มาเท่าไหร่เนี่ย??” เอสการ์ถามไป

    “1000 แนะ พี่ริกกี้แกขอเบิ้ลหน่ะ” โรสตอบไป

    “เฮ้อ ดีนะ นอนถ่างขาก็หาเงินได้” โดโรธีพูดไป และในตอนนั้นเอง ตัวของทุกคนก็สังเกตเห็นว่าแมรี่กำลังเคร่งเครียดกับการทำคอมของเธอ ทำให้คนอื่นๆต้องรีบสะกิดเธอ

    “ทำไมดูเครียดจังอ่ะ??” คามิลล่าถามไป

    “ดูเหมือนว่าเราจะเจออะไรซับซ้อนแหะ พวกเธอพร้อมที่จะฟังหรือเปล่าหล่ะ??” แมรี่ถามไป ในตอนนั้นทุกคนก็หันมาทางเธอในทันที

    “ฟังหน่อยก็ได้ อยากฟังเหมือนกัน” ริวโซพูดขึ้น

    “หวังว่ามันน่าจะเป็นเรื่องฆ่าๆกันนะ” ซาชินพูดติดตลกไป

    “เอาหล่ะ ฉันลองจับสัญญาณอะไรบางอย่างมาได้จากห้องอาจารย์คาร์ลเมื่อวาน แต่ตอนดึกมันก็หายไป ตอนนี้มันกลับมาอีกแล้ว” แมรี่พูดไป

    “หือ สัญญาณอะไรของเธอหน่ะ??” จินนี่ถามไป

    “ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอะไรซักอย่าง น่าจะโทรศัพท์อ่ะ เหมือนว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ห้องอาจารย์คาร์ลแล้ว ฉันยังหาตำแหน่งปัจจุบันที่แน่ชัดของมันไม่เจอเลย” แมรี่บอกไป

    “แปลว่า เป็นอย่างที่เราคิด อาจารย์คาร์ลอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จริงๆด้วย” เอสการ์พูดขึ้น

    “แต่ว่า เรายังไม่มีหลักฐานอะไรแน่ชัดเลยนี่??” โดโรธีถามไป

    “เราก็ไปถามใครให้มันบอกก็ได้” ซาชินพูดขึ้น

    “นั่นสิ กรีดเลือดมันออกมาซะหน่อย มันก็เปิดปากแล้ว” ริวโซพูดเสริม

    “มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ใครบ้างหล่ะที่จะรู้เรื่องนี้??” จินนี่พูดขึ้น

    “นั่นสิ แล้วคนรู้ก็น่าจะเป็นคนสนิทของอาจารย์แกด้วยนะ” โรสพูดเสริม

    “คนสนิทของอาจารย์คาร์ลคงมีไม่กี่คนอ่ะ อย่างเจ้าไฮน์ริชไง” คามิลล่าพูดขึ้น

    “ใช่ แต่มันจะพูดอะไรบ้างหล่ะ??” เจน่าถามไป ในตอนนั้นตัวของโรสเองก็เกิดคิดอะไรออกขึ้นมา เธอเลยพูดขึ้น

    “ไม่แน่นะ ถ้าฉันทำให้หมอนั่นสบายตัวได้นิดหน่อย ไม่แน่หมอนั่นอาจจะคายออกมาหมดก็ได้” โรสพูดขึ้น

    “จริงด้วย เธอนี่ตัวแทนหมู่บ้านเลยนะเนี่ย” เอสการ์พูดไป

    “แต่ว่า ทำไมเราถึงไม่ปาดคอมันซะหน่อยหล่ะ??” ซาชินถามไป

    “นี่ คิดว่าเธอจะทำอะไรเขาได้งั้นเหรอ??” โดโรธีถามไป

    “ได้ไม่ได้ก็ต้องลองดูก่อนสิ” ริวโซพูดไป

    “แต่ฉันว่าวิธีของโรสน่าจะเวิร์คกว่านะ ถ้าทำแบบที่พวกเธอสองคนบอก อาจจะเป็นพวกเธอที่โดนปาดคอก็ได้” คามิลล่าพูดไป

    “ตอนนี้คงต้องหาเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนั้นให้ได้หน่ะ ถ้าหาได้ เราอาจจะสืบอะไรเพิ่มก็ได้” แมรี่พูดขึ้น

    “ถ้างั้น ฉันจะลองสืบจากรุ่นพี่ริกกี้กับไฮน์ริชดูก็แล้วกัน” โรสพูดขึ้น

    “โอเค แต่ถ้าไม่ได้เรื่องอะไร เห็นทีจะต้องเชือดซักคนสองคนแล้วหล่ะ” ซาชินพูดขึ้น

    “เฮ้ ฆ่าคนในโรงเรียนโทษประหารเลยนะ??” คามิลล่าพูดปรามไป

    “ก็ทำลายหลักฐานไง พวกเราพอทำได้นี่” ริวโซบอกไป

    “เฮ้อ ว่าไงว่าตามกันเลย” จินนี่พูดขึ้น

    “ก็นะ เอาเป็นว่าเราเล่นกันตามนี้ก่อนแล้วกัน” เอสการ์พูดไป

    “ใช่ แต่ว่าเรื่องนี้พวกเราต้องเก็บเป็นความลับหน่อยแล้วกัน” โดโรธีบอกไป

     

    ณ ห้องพักของเหล่าผู้คุมกฎ ในวันนี้พวกเขาได้ทำการตัดสินคดีของเด็กกลุ่มหนึ่งที่ทำร้ายร่างกายกัน กลุ่มผู้คุมกฎตัดสินให้เด็กพวกนั้นเข้าคุกกันหมด แต่ในตอนนั้นกลุ่มเด็กพวกนั้นก็โวยวายและไม่ยอมรับคำตัดสินขึ้นมา

    “เฮ้ย อะไรกันวะ ทำไมพวกเราต้องโดนขังอย่างกับหมาด้วย แต่บางกลุ่มไม่เห็นจะโดนอะไรเลย ไม่ยุติธรรมนี่หน่า!!” ในตอนนั้นไฮน์ริชที่ได้ยินก็ถึงกับเอามือทุบโต๊ะดังปัง

    “เฮ้ย มึงว่าใครไม่ยุติธรรมวะ??” ไฮน์ริชถามไป

    “เดี๋ยวสิ จะร้อนตัวทำไมกันหล่ะ??” มอร์ตี้ที่มาร่วมตัดสินด้วยถามไป ก่อนที่ไม่นานนัก เจ้าหน้าที่จะพาเด็กพวกนั้นออกไปก่อนเพื่อลดความตึงเครียดของสถานการณ์

    “อะไรกัน ก็เห็นอยู่ว่าพวกมันด่าพวกเรานี่??” ริกกี้พูดขึ้น

    “เดี๋ยวนะ พวกนั้นก็ยังไม่บอกนี่ว่าพวกไหน ใจเย็นก่อนสิ” ซองชวาจินบอกไป ก่อนที่ในตอนนั้นไฮน์ริชจะรีบเดินออกนอกห้องพิจารณาในทันที โดยที่ริคกี้เองก็เดินตามไปด้วย

    “เฮ้อ บิดตูดออกไปเลย” เอาส์ติสพูดขึ้น

    “ดูเหมือนช่วงนี้พวกเขาจะดูเครียดๆนะ” อารีแอคเน่พูดขึ้น

    “ฉันว่า คงต้องไปทำอะไรมามากกว่า” โทโมเอะตอบไป

    “เฮ้อ ไม่รู้ว่าพวกนั้นคิดอะไรกันอยู่นะ” ออร์ฟิอุสพูดขึ้น

    “จะว่าไปมันก็แปลกจริงๆนะ เธอมีความเห็นอะไรหรือเปล่า มอร์ตี้??” ลิลิธถามไป

    “ไม่รู้สิ..” มอร์ตี้พูดสั้นๆไป

    “ไม่เอาน่า เธอก็รู้นี่ว่าฉันไว้ใจเธอมากกว่าพวกมัน” เอาส์ติสพูดขึ้น

    “นั่นสิ บอกกันได้นะ เธอก็รู้จักพวกเรานี่” ออร์ฟิอุสพูดขึ้น ในตอนนั้นมอร์ตี้เองรีบพาทุกคนเข้าไปในห้องๆหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องพักของผู้คุมกฎหลังตัดสินคดี และไม่นานนักพวกเขาก็คุยกันในทันที

    “คือฉันสงสัยว่า อาจารย์คาร์ลกำลังทำอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่” มอร์ตี้พูดขึ้น

    “ก็ไม่แปลกหรอก เขาคงอยากจะขึ้นมาครองโรงเรียนแทนคุณเอ็ดมันด์อยู่แล้ว” ซองชวาจินพูดขึ้น

    “แต่ปัญหาคือ เรายังไม่มีหลักฐานนี่คะ” โทโมเอะพูดขึ้น

    “นั่นสิคะ ถ้าเรามีหลักฐานเชื่อมโยง ไม่แน่ไอ้ไฮน์ริชอาจจะหายกร่างไปเลยก็ได้” ลิลิธพูดขึ้น

    “เออ แล้วเขาจะหายกร่างยังไงหล่ะ??” อารีแอคเน่ถามไป

    “ก็ฉันคิดว่าไอ้สองตัวนั้นอาจจะมีเอี่ยวไม่มากก็น้อยด้วยหน่ะสิ” โทโมเอะพูดขึ้น

    “ฉันเองก็กำลังตามสืบเรื่องนี้อยู่ ไม่อย่างงั้นอาจจะมีใครตายอีกก็ได้” มอร์ตี้พูดขึ้น

    “อืม ยังไงเธอก็ระวังด้วยหล่ะ พวกนั้นอาจจะระแคะระคายเรื่องเธอแล้วก็ได้” ซองชวาจินพูดขึ้น

    “แน่นอน ฉันพอมีวิธีสืบอยู่” มอร์ตี้พูดไป

    “เออใช่ ว่าแต่พวกเด็กใหม่ตอนนี้เป็นยังไงบ้างหล่ะ??” ลิลิธถามไป

    “ช่วงนี้เหรอ พวกเขามีพรสวรรค์กันนะ ฝึกได้แบบก้าวกระโดดเลย” มอร์ตี้ตอบไป

    “โห ดูท่าทางสองอาจารย์น่าจะฝึกได้ดีนะ” อารีแอคเน่พูดขึ้น

    “ก็นะ อาจารย์แกปั้นใครนี่ได้ดีย์ทุกคน” โทโมเอะพูดแซวไป

    “ก็หวังว่าพวกนั้นจะไม่ตายก่อนนะ” ออร์ฟิอุสพูดจบก็กอดอกไป

    “เออ ยังไงก็ลองจับตาดูพวกนั้นด้วยแล้วกันนะ” เอาส์ติสพูดขึ้น

    “ได้ๆ ฉันจะจัดการเอง” มอร์ตี้ตอบไป

     

    กลับมายังห้องพักอาจารย์ ในวันนี้บรรดากลุ่มอาจารย์ได้ถูกเรียกประชุมโดยอาจารย์คาร์ล ในตอนนั้นอาจารย์ทุกคนก็มารวมตัวกันในทันที มีแค่อาจารย์เดธ ดู๊ดและนาตาลีที่กังวลเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่เขาจะเรียกคุย

    “เอาหล่ะทุกคน มากันครบแล้วสินะ” คาร์ลพูดขึ้น

    “เออ ว่าแต่เรียกพวกเรามา มีอะไรหรือเปล่าครับ??” อาจารย์เดธถามไป

    “ช่วงนี้เจ้าพวกเด็กใหม่ที่คุณฝึกเป็นยังไงบ้างหล่ะ??” คาร์ลถามทั้งคู่ไป

    “นี่ ผมจัดการได้อยู่แล้วน่า เข้าเรื่องดีกว่าครับเจ้านาย??” ดู๊ดถามต่อ

    “ตอนนี้ยืนยันมาแล้ว เจ้าชาร์ลีทรยศเราจริงๆ เรามีหลักฐานหน่ะ” คาร์ลพูดขึ้น ในตอนนั้นทุกคนถึงกับอึ้งไปในทันที 

    “นี่ชาร์ลีทำอย่างงั้นจริงๆเหรอคะ??” นาตาลีถามไป

    “แล้วท่านมีหลักฐานอะไรหล่ะคะ??” อิซาเบลล่าถามไป และในตอนนั้น คาร์ลเองก็วางเอกสารอะไรบางอย่างที่โต๊ะของเขา และแจกให้ทุกคนได้อ่าน

    “นี่เป็นข้อความที่ถอดรหัสมาแล้ว ดูเหมือนว่าชาร์ลีจะแอบติดต่อกับคนนอกเพื่อจัดการเรื่องนี้” คาร์ลพูดขึ้น ในตอนนั้นทุกคนก็เอาเอกสารมาอ่านดูในทันที

    “นี่มันอะไรกันเนี่ย??” เก็นโซถามอย่างสงสัย

    “งั้นก็แปลว่า ชาร์ลีเองก็เตรียมการมานานแล้วสินะคะ” โอเด็ตพูดขึ้น

    “แต่ว่า ปลายสายการสนทนานี่ใครกันคะ??” ซินถามไป แต่ในตอนนั้นดูเหมือนว่าตัวของคารืลเองจะตอบไม่ได้

    “เออ ท่านครับ ไม่รู้เหรอครับ??” โกเมซถามต่อ

    “พูดตรงๆนะ ผมยังไม่รู้” คาร์ลพูดขึ้น

    “ห่ะ ไม่รู้เหรอคะ แล้วมาบอกเป็นตุเป็นตะเลย??” เชเพิร์ดพูดไป ในตอนนั้นตัวของอาจารย์คาร์ลก็ไม่พอใจอย่างหนัก

    “ผมกำลังหาคำตอบอยู่ พวกคุณไม่ต้องห่วง ผมไม่ใส่ร้ายใครแน่ๆ ผมเองก็ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องจริงเหมือนกัน ผมจะไปคุยกับท่านเอ็ดมันด์เพื่อเรียกประชุม พวกคุณรอนี่ก่อนแล้วกัน” คาร์ลพูดจบก็รีบลุกขึ้นเดินออกไปในทันที

    “เฮ้อ ไม่รู้ว่าหลักฐานนี่เมคขึ้นมาหรือเปล่า??” เชเพิร์ดพูดขึ้น

    “ถ้าเป็นการสนทนา ก็ต้องมีคลิปเสียงสิ” อิซาเบลล่าพูดขึ้น

    “เออ นั่นสิ หรือว่าอาจารย์แกจะเปิดตอนประชุมหล่ะ??” โอเด็ตถามไป

    “ก็นะ จะได้รู้กันไปเลย” ซินพูดไป

    “แต่ฉันว่า หลักฐานของแกก็ดูแปลกๆเหมือนกันนะ” โกเมซพูดขึ้น

    “แต่เรายังตัดสินอะไรไม่ได้หรอก คงต้องรอการประชุมนะคะ” นาตาลีพูดขึ้น

    “เฮ้ พวกนาย ว่าแต่เจ้าเด็กใหม่ดูเป็นยังไงบ้างหล่ะ มีอะไรน่าสงสัยหรือเปล่า??” เก็นโซถามไป

    “ไม่เลย เอาจริงๆ หมอนั่นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชาร์ลีทำอะไรอยู่” เดธตอบไป

    “ใช่ พวกฉันฝึกหมอนั่นมากับมือ ไม่มีทางหรอก” ดู๊ดบอกไป 

    “เออ แต่พวกนายต้องระวังด้วยนะ ไม่รู้คาร์ลมันจะทำอะไรอีกหรือเปล่า” โกเมซพูดขึ้น

    “เออ ถ้าฉันว่าเขาจะทำ เขาทำไปนานแล้วหล่ะ” โอเด็ตพูดไป

    “ตอนนี้ยังหาวิธีจะเล่นงานเขาแบบไม่น่าเกลียดไม่ได้ไงหล่ะ” เชเพิร์ดพูดขึ้น

    “แต่ว่า ถ้าเกิดเจ้าเด็กใหม่นั่นทรยศขึ้นมา พวกนายจะเอายังไง??” อิซาเบลล่าถามไป

    “ถ้าเป็นอย่างงั้น ฉันจะยิงหัวมันด้วยมือฉันเองเลย” ดู๊ดพูดไป

    “ใช่ แต่ถ้าไม่มีหลักฐาน ก็คงทำอะไรไม่ได้” เดธพูดเสริม

    “ยังไงตอนนี้ก็อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยดีกว่านะคะ คงต้องรอหลักฐานออกมาก่อน” นาตาลีพูดขึ้น

    “ก็นะ ว่าไงว่าตามกันเลย” เก็นโซพูดขึ้น

    “ก็คงต้องมาดูกันค่ะว่าคุณเอ็ดมันด์จะเอายังไงต่อ” ซินพูดขึ้น ก่อนที่ในตอนนั้นเอง ตัวของอาจารย์คาร์ลก็เดินเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว และมาบอกอะไรบางอย่างกับทุกคน

    “เอาหล่ะ เย็นนี้ พวกเราจะมีประชุมกัน ทุกคนเลย” คาร์ลพูดจบก็เดินออกไปข้างนอกในทันที

     

    ณ สนามบินแห่งหนึ่งในเม็กซิโก เครื่องบินพาณิชย์ลำหนึ่งกำลังจอดรออยู่ที่รันเวย์ และไม่นานนัก รถตู้คันหนึ่งก็ขับมาที่สนามบินอย่างรวดเร็ว และขับมาจอดอยู่ข้างๆเครื่องบิน ซึ่งเครื่องบินลำนั้นเป็นเครื่องบินของทางสถาบันที่มารับทีมสังหารกลับไป หลังจากที่พวกเขาได้สังหารชาร์ลีไปแล้ว พวกเขารีบลงจากรถในทันทีเพื่อเตรียมขึ้นเครื่อง

    “ผมขอตัวก่อนนะครับ!!” คนขับรถตะโกนบอกพวกเขา ก่อนที่ไม่นานนัก รถตู้ก็ขับออกจากสนามบินไปในทันที ส่วนกลุ่มของโรแลนด์เองก็มารวมตัวกันก่อน

    “โอเค ทุกคนไม่ลืมอะไรนะ??” โรแลนด์ถามไป และในตอนนั้นก็ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่ได้ลืมอะไรไว้

    “โอเค ขึ้นเครื่องเลย” โรแลนด์พูดขึ้น และในตอนนั้นพวกเขาก็รีบขึ้นเครื่องกันในทันที พวกเขารีบไปนั่งที่นั่งที่พวกเขาจองกันมาแต่แรก จากนั้นก็คุยกันต่อในทันที

    “มินโฮ ฉันคงต้องรายงานเรื่องของนายนะ” โรแลนด์บอกกับมินโฮไป

    “เออ ตามสบายเลย” มินโฮตอบไป

    “เฮ้ยมินโฮ ฉันว่านายต้องใจเย็นกว่านี้นะ” มาทิลด้าพูดขึ้น

    “นั่นสิ ทำแบบนี้มันจะมีประโยชน์อะไรหล่ะ” ฮิลด้าพูดเสริม

    “ไม่รู้ว่าชาร์ลีจะตายจริงๆหรือเปล่านะ” บาลอร์พูดขึ้น

    “นี่ พูดออกมาได้ ขนาดนั้นจะรอดได้ไงหล่ะ??” เว่ยเฟยหลานถามไป

    “เออ แต่ฉันเห็นด้วยนะ ตราบใดที่ไม่เจอศพ เราก็ปักใจเชื่อไม่ได้” ลุดวิกพูดขึ้น

    “แต่ว่า ตอนนี้พวกตำรวจที่ทางสถาบันจ่ายเงินไว้แล้วก็ปิดทางเข้าออกถ้ำหมดแล้วนี่” เบลลาทริกซ์พูดขึ้น

    “เออ แต่ฉันคิดว่าชารืลีไม่น่าจะเป็นอะไรง่ายๆหรอก” โรแลนด์พูดขึ้น

    “ถ้าฉันเจอมันอีก ฉันจะฆ่ามันเอง” มินโฮพูดขึ้น

    “นี่ นายจะอะไรนักหนาเนี่ย จะแค้นอะไรหมอนั่นนักหนา??” เบลลาทริกซ์ถามไป

    “เอาน่า ถ้ามินโฮทำได้ก็ให้เขาทำก็ดีนะครับ” บาลอร์พูดขึ้นพลางเอนหลังนอนไปอย่างสบายใจ

    “นี่ นายเองก็ระวังเหมือนกัน ชาร์ลีกำลังหมายหัวนายอยู่” เว่ยเฟยหลานพูดขึ้น

    “แต่ฉันสงสัยนะ ชาร์ลีกำลังทำอะไรของหมอนั่นนะ??” ฮิลด้าถามไป

    “นั่นสิ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” มาทิลด้าพูดขึ้น

    “ชารืลีอาจจะไม่ได้ทำเรื่องนี้คนเดียวก็ได้” ลุดวิกพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เครื่องบินของพวกเขาจะเร่งความเร็วมากขึ้น จากนั้นก็ค่อยๆเทคออฟออกจากสนามบิน และไม่นานนัก เครื่องบินก็ขึ้นสู่น่านฟ้าเรียบร้อยแล้ว

    “เฮ้อ ฉันเกลียดเวลาเครื่องขึ้นจริงๆ ถ้าฉันปวดฉี่ตอนนั้นจะทำไง??” บาลอร์ถามไป

    “นี่ เป็นช้ำรั่วหรือไงวะนาย??” เว่ยเฟยหลานถามไป

    “ฉันว่า ถ้าชาร์ลีรอดไปได้ หมอนั่นกลับมาแน่” มินโฮพูดขึ้น

    “เออ ถ้าถึงตอนนั้นก็ค่อยว่ากันแล้วกันนะ” มาทิลด้าพูดขึ้น

    “แต่ฉันว่าหมอนั่นกลับมาแน่ ไม่ต้องสืบเลย” เบลลาทริกซ์พูดขึ้น

    “นั่นสิ เรายังต้องตามล่าพวกที่เกี่ยวข้องกับชาร์ลีอีก ไม่งั้นพวกมันเล่นงานโรงเรียนเราแน่” ฮิลด้าพูดขึ้น

    “เฮ้ โรแลนด์ แล้วนายจะเอาไงหล่ะ??” ลุดวิกสะกิดถามโรแลนด์ไป

    “ก็คงต้องแล้วแต่ว่าทางโรงเรียนจะเอายังไงต่อ” โรแลนด์พูดขึ้น ก่อนที่ในตอนนั้นเอง เจ้าหน้าที่บนเครื่องบินก็รีบมาบอกอะไรบางอย่างกับพวกเขา

    “โรแลนด์ ตอนนี้ที่โรงเรียนมีประชุมตอนเย็นหน่ะ” 

    “อ้อ พวกเราคงไปไม่ทันหรอก” โรแลนด์ตอบไป

    “เรียกประชุมเหรอ เรื่องอะไรหล่ะ??” มินโฮถามไป

    “มีข่าวมาว่าอาจารย์คาร์ลเจอหลักฐานผู้สมคบคิดร่วมกับชาร์ลีหน่ะ” เจ้าหน้าที่เครื่องบินบอกไป

    “ห่ะ เราจะรู้ตัวพวกมันแล้วเหรอ??” มาทิลด้าถามไป

    “อืม มันง่ายไปหน่อยนะ??” เว่ยเฟยหลานพูดขึ้น

    “โห ขนาดนี้ยังว่าง่ายอีกเหรอเพื่อน??” บาลอร์ถามพลางสะกิดเว่ยเฟยหลานไป

    “แล้วมันเป็นหลักฐานอะไร ใครเจอหล่ะ??” เบลลาทริกซ์ถามไป

    “เห็นว่าเป็นอาจารย์คาร์ล”

    “อาจารย์คาร์ล ฉันไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่เลย” ฮิลด้าพูดขึ้น

    “อาจจะใช่ แต่ทำไงได้หล่ะ คงต้องดูหลักฐานก่อน” ลุดวิกพูดขึ้น

    “ฉันว่า ตอนนี้อะไรมันก็น่าจะเกิดขึ้นได้แล้วหล่ะ” โรแลนด์พูดขึ้น

    “แต่ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าไอ้คนที่ชาร์ลีมันคุยด้วยเป็นใคร” มินโฮพูดขึ้น

    “โธ่ ถ้าจะถึงขนาดนั้น น่าจะต้องตามหากันหัวปั่นเลยหล่ะ” บาลอร์พูดขึ้น

    “คนอย่างชาร์ลี ไม่ใช่ประเภทที่จะทิ้งอะไรให้คนสืบได้ง่ายๆด้วย” เว่ยเฟยหลานพูดขึ้น

    “สงสัย คงต้องกลับไปดูหลักฐานก่อน แล้วค่อยว่ากัน” ฮิลด้าพูดขึ้น

    “นั่นสิ ถ้าเรารู้แล้ว คงไปสืบกันต่อได้” มาทิลด้าพูดขึ้น

    “น่าจะสืบกันนานเลย พวกนายก็รู้นี่ว่าคนอย่างชาร์ลีทำอะไรได้” เบลลาทริกซ์พูดขึ้น

    “นั่นสิ กลับไปถึงแล้วค่อยว่ากันดีกว่า” ลุดวิกบอกไป

    “เฮ้อ กลับไปฉันจะให้คุณโกเมซทำสเต๊กให้กิน” โรแลนด์พูดขึ้น

    “เฮ้ แต่ฉันอยากกินอย่างอื่นมากกว่า” บาลอร์พูดขึ้น

    “ให้เดานะ เนื้อคนสินะ??” เว่ยเฟยหลานพูดขึ้น ในตอนนั้นมันทำเอาฮิลด้าถึงกับส่ายหน้า

    “นี่ พอๆๆ แกล้งฮิลด้าอีกแล้วนะ” มาทิลด้าพูดขึ้น

    “ช่างเถอะ ฉันชินแล้วหล่ะ” ฮิลด้าตอบไป

    “เอาเถอะ มินโฮ ช่วงนี้นายก็ใจเย็นหน่อยแล้วกัน ฉันขอ” เบลลาทริกซ์บอกกับเขาไป

    “ฉันไม่รับปากนะ ไม่อยากผิดสัญญากับใคร” มินโฮพูดไป

    “เฮ้อ งานนี้ไม่ต้องสืบเลยว่าจะจบยังไง” ลุดวิกพูดขึ้นพลางเอนหลังนอนอย่างสบายใจ

     

    กลับมายังสถาบัน Killest ในตอนนี้ตัวของเอ็ดมันด์ได้ทำการเรียกประชุมทั้งผู้บริหาร อาจารย์ และเหล่านักเรียนทุกคน หลังจากที่ตัวของอาจารย์คาร์ลได้อ้างว่าหาหลักฐานเพิ่มเติมที่จะเอาผิดชาร์ลีได้แล้ว และเมื่อทุกคนมารวมตัวกันเรียบร้อยแล้ว เอ็ดมันด์ก็พูดขึ้นในทันที

    “เอาหล่ะครับทุกคน วันนี้ผมเรียกทุกคนมาประชุม เพราะคุณคาร์ลบอกว่าเจอหลักฐานเกี่ยวกับชาร์ลีเพิ่มเติม ฉันอยากให้ทุกคนได้รับรู้กันหน่ะ” เอ็ดมันด์ประกาศผ่านไมค์ ในตอนนั้นทุกคนต่างมองหน้ากันในทันที

    “เอาหล่ะ เปิดได้!!” คาร์ลตะโกนบอกกับเจ้าหน้าที่ และในตอนนั้นเจ้าหน้าที่ก็เปิดคลิปเสียงในทันที แต่แทนที่จะเป็นเสียงคนพูด แต่กลับเป็นเสียงครางแบบหนังผู้ใหญ่แทน

    “โอ้ย...ซื้ด..อ่า..”

    เสียงนั้นทำเอานักเรียนทุกคน รวมถึงอาจารย์บางคนถึงกับหัวเราะกลิ้งกันลั่นทั่วห้องประชุม ในตอนนั้นอาจารย์คาร์ลแปลกใจเลยรีบวิ่งไปหาเจ้าหน้าที่ในทันที พร้อมกับชักปืนออกมาจ่อหัวเจ้าหน้าที่

    “เฮ้ย มึงเล่นบ้าอะไรวะ??”

    “เดี๋ยวครับจารย์ ผมก็เล่นคลิปเสียงที่อาจารย์ส่งมาให้เนี่ย??” เจ้าหน้าที่พูดขึ้น พร้อมกับเปิดมันให้คาร์ลฟังอีกรอบ 

    “งั้นฉันจะส่งไปใหม่” คาร์ลพูดขึ้นและส่งคลิปเสียงไปให้เจ้าหน้าที่อีกรอบ แต่คราวนี้เขาลองเปิดมันฟังก่อน แล้วก็พบว่าเป็นไม่ใช่เสียงที่เขาต้องการ 

    “บ้าเอ้ย อะไรวะเนี่ย??” คาร์ลตะโกนออกมาอย่างโมโห จากนั้นก็เดินกลับไปข้างหน้า ซึ่งตอนนั้นบรรดานักเรียนยังคงหัวเราะร่ากันอย่างสนุกสนาน

    “อาจารย์ เรียกเรามาจะเปิดของดีให้เราดูก็ไม่บอก!!”

    “ใช่จารย์ ถ้าพวกผมมีอารมณ์ขึ้นมาจารย์ต้องรับผิดชอบนะ ฮ่าๆๆๆ!!” ในตอนนั้นเสียงเด็กนักเรียนก็พากันเยาะเย้ยคาร์ล เอ็ดมันด์ตอนนั้นรีบเดินไปหาคาร์ลในทันที

    “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ยคุณคาร์ล??” เอ็ดมันด์ถามไป

    “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน มีคนส่งคลิปเสียงมาให้ผม เมื่อคืนผมฟังแล้วยังเป็นเสียงไอ้ชาร์ลีอยู่เลย” คาร์ลพูดขึ้นและเปิดโทรศัพท์ดู และเมื่อเขาได้ดูห้องแชทปริศนา ก็พบว่าทั้งห้องแชททและไอดีถูกลบไปแล้ว

    “เฮ้ย อะไรวะเนี่ย??” คาร์ลถามไป

    “อ้าว แล้วคุณไม่ได้แคปหน้าจอไว้เหรอคะ??” ฟิโอน่าถามไป ในตอนนั้นตัวของคาร์ลเองก็เพิ่งจะคิดได้ ในตอนนั้นตัวของคาร์ลก็แทบจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีแล้ว

    “เอางี้ ผมจะทำเป็นลืมเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วกัน” เอ็ดมันด์พูดไป

    “เดี๋ยว ผมพูดจริงนะ เอาโทรศัพท์ของผมไปกู้คืนข้อมูลก็ได้ เผื่อจะเจออะไร” คาร์ลบอกไป ก่อนที่เขาจะยื่นโทรศัพท์ให้กับเอ็ดมันด์ ในตอนนั้นเอ็ดมันด์ก็เต็มใจรับมา

    “อ่าๆๆ คุณฟิโอน่า เอาโทรศัพท์ไปตรวจสอบด้วยหล่ะ”

    “รับทราบค่ะ” ฟิโอน่าพูดจบก็รีบรับโทรศัพท์มาในทันที จากนั้นตัวของเอ็ดมันด์ก็รีบเดินออกไปในทันที ปล่อยให้ตัวของคาร์ลถึงกับหน้าเสียตรงนั้น

    “คุณคาร์ล คุณชอบแบบนี้ก็ไม่บอก ผมจะได้ส่งไปให้คุณ ไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย!!” ดู๊ดตะโกนใส่คาร์ลไป จากนั้นไม่นานนักทั้งอาจารย์และเหล่านักเรียนก็พากันออกจากหอประชุมไปในทันที ปล่อยให้ตัวของคาร์ลถึงกับกำหมัดไปเลย และเมื่อทุกคนไปกันหมดแล้ว ในตอนนั้นตัวของไฮน์ริชและริคกี้ก็เดินเข้าไปหาอาจารย์คาร์ลในทันที

    “เออ โอเคนะครับอาจารย์??” ไฮน์ริชถามไป

    “พวกเธอเชื่อฉันใช่หรือเปล่า??” คาร์ลถามทั้งคู่ไป

    “แน่นอนครับ เพียงแต่เราไม่รู้ว่าใครเล่นกับเราแบบนี้” ริคกี้ตอบไป

    “นั่นสิ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน” คาร์ลพูดขึ้น

    “ผมว่า อาจจะเป้นไอ้พวกนั้นที่ต้องการแกล้งอาจารย์ก็ได้นะครับ พวกเด็กใหม่หน่ะ??” ไฮน์ริชพูดขึ้น

    “เออ แต่ว่า พวกเด็กใหม่มันรู้เรื่องนี้ได้ยังไงครับ??” ริคกี้ถามไป

    “ฉันก็ไม่รู้ แต่ช่วงนี้คงต้องจับตาดูพวกมันหน่อย ไอ้พวกนั้นมันอาจจะกำลังทำอะไรที่เราคาดไม่ถึงก็ได้” คาร์ลพูดขึ้น

    “ผมจัดการเองครับจารย์” ไฮน์ริชพูดขึ้น

    “เออ ผมขอพูดอะไรหน่อยนะครับ” ริคกี้พูดขึ้น ในตอนนั้นทั้งคู่ก็รีบหันไปมองริคกี้ในทันที

    “ผมอาจจะคิดผิด แต่บางที ไอ้พวกนั้นอาจจะกำลังรอให้เราทำอะไรโง่ๆออกมาก็ได้นะครับ” ริคกี้พูดขึ้น

    “เอาน่า เรื่องนี้ฉันรับมือได้ นายไม่ต้องห่วง” ไฮน์ริชตอบไป

    “อืม เอาไว้พวกหน่วยสังหารกลับมา ฉันจะเรียกคุยอีกที” คาร์ลบอกกับทั้งคู่ไป

     

    หลังการประชุมจบลงแล้ว ในตอนนี้เสียงวิจารณ์ต่างก็ลือกันให้แซ่ดในหมู่เด็กนักเรียน มีเหรอที่บรรดาเด็กนักเรียนจะไม่เอาไปพูดกันต่อ

    ณ กลุ่มนักเรียนห้อง 305

    “เฮ้ ได้ยินเรื่องวันนี้หรือเปล่า สะใจอาจารย์คาร์ลชิบหาย” บาตาพูดอย่างเริงร่า

    “นั่นดิ ต้องโดนบ้างซะแล้ว” เจน่าพูดเสริม

    “แต่ฉันว่า งานนี้อาจจะต้องมีลับลมคมในอะไรแน่ๆ” เอเลนอร์พูดขึ้น

    “นั่นสิ ฉันว่าอาจารย์คาร์ลคงไม่หยุดแค่นี้หรอก” โดโรธีพูดเสริม

    “ฉันว่า เกมนี้อาจจะมีมือที่มองไม่เห็นกำลังเล่นงานเขา” แคทเทอรีนพูดขึ้น

    “พี่ฮอร์ตุส พี่ว่าน่าจะเป็นฝีมือของพวกเด็กใหม่หรือเปล่า??” โครี่ถามไป

    “ไม่หรอก พวกเด็กใหม่พวกนั้นคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอก” ฮอร์ตุสพูดขึ้น

    “ฉันเห็นด้วยกับแคทเทอรีนนะ เกมนี้มันต้องมีฝ่ายที่สามที่เรายังไม่รู้” หลิวชิงหยินออกความเห็นไป

     

    และที่กลุ่มนักเรียนห้อง 402 พวกเธอเดินคุยกันในขณะที่กำลังเดินกลับไปที่หอพักของพวกเธอ ในตอนนั้นพวกเธอเองก็เดินคุยกันไประหว่างทางด้วย

    “เฮ้ แมรี่ อย่าบอกฉันนะว่าเรื่องวันนี้เป็นฝีมือของเธอ??” คามิลล่ารีบถามแมรี่ในทันที

    “ไม่ เอาจริงๆ ฉันยังไม่รู้เลยว่าไอ้คลิปเสียงที่อาจารย์คาร์ลว่ามันเป็นยังไง แต่ฉันว่า มันอาจมีมือที่มองไม่เห็นเข้ามาร่วมเกมนี้ด้วย” แมรี่พูดขึ้น

    “เออเนอะ แต่ไม่รู้อาจารย์คาร์ลจะเอาไงต่อนะ” จินนี่พูดขึ้น

    “นั่นสิ สงสัยแกคงไม่หยุดแค่นี้แน่ๆ” โดโรธีตอบไป

    “เอาเถอะ ยังไงฉันก็ฆ่าพวกมันได้อยู่ดี” ซาชินพูดขึ้น

    “ดี แล้วฉันจะฆ่าซ้ำ” ริวโซพูดเสริม และในตอนนั้นเอง โรสเองก็เดินออกจากกลุ่มไปในทันที

    “เฮ้ ไปไหนหน่ะ??” เอสการ์ถามไป

    “คิดว่าไปไหนหล่ะจ้ะ??” โรสถามกลับไป ทุกคนก็เป็นอันรู้กันว่าโรสไปไหน 

     

    กลับมายังโรงฝึกของเดธและดู๊ด ในตอนนี้กลุ่มของเนชินรวมถึงตัวของมอร์ตี้ก็กลับมารวมตัวอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้พูดอะไร ในตอนนั้นกลุ่มของอินเฟอร์โน่เองก็มาสมทบกับพวกของเนชินด้วย 

    “เฮ้ คุยด้วยได้เปล่า??” ลาเกียครูซทุกทายทุกคนไป

    “อ้าว พวกนาย ว่าไงหล่ะ??” เนชินถามไป

    “ไม่มีอะไร ก็แค่อยากรู้ด้วยคนว่าพวกนายจะทำไรต่อ ไหนๆตอนนี้เราก็กำลังจะเล่นไอ้ไฮน์ริชด้วยกันนี่??” อินเฟอร์โน่ถามไป

    “ตอนนี้พวกเรากำลังสงสัยอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นหน่ะ พี่มอร์ตี้ ว่าไงหล่ะ??” อุโมจาถามไป

    “อืม ไม่รู้สิ ฉันว่านะ เกมนี้มันอาจจะมีฝ่ายที่ 3 มาร่วมด้วยก็ได้” มอร์ตี้พูดขึ้น

    “จริงด้วยค่ะ อาจจะมีใครที่พยายามจะเล่นงานอาจารย์คาร์ลด้วย” นานะพูดขึ้น

    “ว่าแต่ ฝีมือใครกันหล่ะ แล้วพวกนั้นรู้หรือเปล่าว่าเราทำอะไร??” อดาเน็คถามต่อ

    “ฉันว่านะ ถ้าพวกมันรู้ พวกเราคงตายกันหมดแล้วหล่ะ” คิมยูจินพูดขึ้น

    “แต่ฉันว่านะ พวกที่นายว่า อาจจะรอจังหวะอยู่ก็ได้” นากะตะพูดขึ้น

    “ใช่ ฉันว่าพวกเราต้องรู้ก่อนว่าฝ่ายที่ 3 เป็นใคร” แม็กซ์พูดเสริม

    “ก็นะ แต่เราจะสืบยังไงหล่ะ ไม่มีใครได้ข่าวเลยเหรอ??” สเตลล่าถามไป

    “อืม จะว่าไป อาจารย์คาร์ลเองก็มีคนไม่ชอบหน้าแกอยู่มาก โดยเฉพาะพวกผู้บริหารด้วยหน่ะ” นาตาลีพูดขึ้น

    “งั้นก็ไม่แน่นะ อาจจะเป็นผู้บริหารคนไหนซักคนก็ได้” เดธพูดขึ้น

    “แต่ว่าจะเป็นใครหล่ะ มีตั้งเยอะเลยนะ??” ดู๊ดถามต่อ

    “เออ มีใครมีความเป็นไปได้บ้างหรือเปล่าคะ??” คามาคุริถามไป แต่เหมือนว่าจะไม่มีใครบอกอะไรได้เลย

    “ดูเหมือนว่าจะต้องรอข้อมูลจากโทรศัพท์เครื่องนั้นแล้วหล่ะ” คริสโตเฟอร์พูดขึ้น

    “ตอนนี้เราพยายามค้นหาข้อมูลอยู่ คิดว่าอาจจะได้ข้อมูลพรุ่งนี้หล่ะ” มอร์ตี้พูดขึ้น

    “เฮ้อ หวังว่าพวกมันจะไม่จับเราได้ก่อนนะ” อัลลันพูดขึ้น

    “เออ จะว่าไป เราเองหาทางหนีไว้ก่อนก็ดีนะคะ” เอลซ่าพูดขึ้น

    “เออ แล้วเราจะหนียังไงหล่ะ??” วาดีนชูมือขึ้นถามไป

    “ฉันมีทางหนีอยู่ มีลานจอดเรืออยู่ทางใต้ดิน ฉันพอจะพาไปได้” มอร์ตี้พูดไป

    “อ้อ ฉันรู้ว่ากุญแจเรือเก็บไว้ไหนนะ” ดู๊ดพูดขึ้น

    “แต่ว่า ถึงเราหนีไปได้ เราก็ต้องโดนนักฆ่าทั่วโลกตามล่าอีก” นาตาลีพูดขึ้น

    “เฮ้อ ให้มันมาเถอะ ไอ้พวกปลายแถวพวกนั้น” เดธพูดไป

    “เออ แต่ถ้ามันมีเยอะไป ก็อาจจะเล่นงานเราได้นะครับ” เขตแดนพูดปรามไป

    “นั่นสิ ถึงยังไงพวกมันก็มีมากกว่าเราตั้งเยอะ” มาเรียตอบไป

    “สรุปแล้วก็คือหนีไปไหนไม่รอดสินะโรงเรียนนี้” จอห์นพูดพลางกอดไป

    “แต่ยังไงก้ต้องลองหน่อย ฉันไม่ยอมอยู่เฉยๆให้พวกมันมาฆ่าหรอก” ฟิลิปพูดขึ้น

    “แหม่ ดุจริงนะเราเนี่ย” เมอร์ลิน่าบอกไป

    “ฉันพอมีเงินอยู่ ถ้าออกไปได้ มันน่าจะช่วยให้พวกเราซ่อนตัวได้ซักพัก” เอ็ดวาร์ดพูดขึ้น

    “แต่ว่า ซ่อนตัวแล้วยังไงต่อหล่ะ เราจะไม่ทำอะไรหน่อยเลยเหรอ??” โจถามไป

    “ไม่อย่างงั้น เราสืบกันเองก็ได้ว่าใครเป็นตัวการ” เรนาวอสพูดขึ้น

    “ก็นะ งานนี้คงต้องทำหนักกันหน่อย” มาเรียน่าบอกไป

    “ตอนนี้คงต้องรอข้อมูลจากโทรศัพท์เครื่องนั้นก่อนหล่ะนะ” มอร์ตี้พูดขึ้น

    “เอาหล่ะ ที่พวกนายต้องรู้ คือว่าตอนนี้พวกเรากำลังสืบเรื่องของอาจารย์คาร์ลอยู่ เราสงสัยว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของคุณไดม่อนหน่ะ” เนชินบอกไป

    “เออ แล้วยังไงต่อหล่ะ??” อินเฟอร์โน่ถามอย่างสงสัย

    “ก็ถ้าไอ้คาร์ลโดนเล่นงาน ไอ้ไฮน์ริชมันจะเหลืออะไรหล่ะ ถึงตอนนั้น เรากระทืบมันกลางโรงเรียนยังได้เลย” มอร์ตี้บอกไป

    “เออ ดีแหะ แบบนี้ฉันเอาด้วยแล้วกัน” อินเฟอร์โน่บอกไป

    “เอาหล่ะ ตอนนี้พวกเราคงต้องระวังตัวกันมากขึ้นนะ ไม่รู้ว่าไอ้คาร์ลมันคิดจะทำอะไรต่อหรือเปล่า” มอร์ตี้พูดขึ้น ก่อนที่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ กลุ่มของไฮน์ริชก็เดินเข้ามาในโรงฝึก ทำเอาพวกของเนชินทุกคนรีบลุกขึ้นมาในทันที

    “นี่ มาสุมหัวอะไรกันเนี่ย??” ไฮน์ริชถามไป

    “ก็ไม่ใช่เรื่องของแกนี่หว่า” มอร์ตี้บอกไป

    “เราสงสัยว่าช่วงนี้พวกแกกำลังทำอะไรอยู่” ไฮน์ริชพูดขึ้น

    “นี่ ใครสั่งมากันหล่ะ อาจารย์คาร์ลอีกหล่ะสิ??” เดธถามไป

    “อย่าลืมสิตอนนี้พวกแกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าสมรู้ร่วมคิดกับไอ้ชาร์ลีมันอยู่นะ” ไฮน์ริชพูดขึ้น

    “เฮ้อ ไหนหล่ะหลักฐาน ไม่เอาแบบคลิปเสียงวันนี้อีกนะ??” มอรืตี้ถามไป ในตอนนั้นกลุ่มของเนชินเองก็เฮฮากันยกใหญ่

    “เฮ้ย พวกแกทำฉันมิอารมณ์ต้องรับผิดชอบนะเว้ย!!” กลุ่มของอินเฟอร์โน่ตะโกนออกมา ในตอนนั้นไฮน์ริชก็เริ่มเสียหน้าเล็กน้อย

    “อย่าคิดนะว่าพวกแกจะรอดหน่ะ” ไฮน์ริชบอกไป ก่อนที่พวกนั้นจะรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว และมอร์ตี้ไม่วายชูนิ้วกลางไล่หลังพวกนั้นไปอย่างสะใจ

    “ไปซะได้ก็ดีพวกนี้” เนชินบอกไป

    “โอเค วันนี้พวกเราแยกย้ายก่อนดีกว่า” มอร์ตี้บอกกับทุกคนไป ก่อนที่พวกเขาจะแยกตัวออกจากโรงฝึกอย่างรวดเร็วเพื่อกลับไปยังโรงนอนของพวกเขา

     

    ณ ที่ไหนซีกแห่งในเขตทะเลของอเมริกา ทะเลค่อนข้างที่จะเงียบสงบ เรือลำหนึ่งได้ลอยลำเข้ามาใกล้เขตเกาะโรงเรียน โดยด้านในเรือก็มียามติดอาวุธมากมายอยู่บนนั้น และในห้องพักผู้โดยสารห้องหนึ่งที่ดูหรูที่สุด ชายวัยใกล้ชราคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่เงียบๆ ดูเหมือนว่าเขากำลังจะเข้าฌาน และในตอนนั้นเอง ชายติดอาวุธคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเขาจะมาคุยอะไรบางอย่างกับชายคนนั้น

    “ท่านรัสปูตินครับ”

    “อืม มีอะไรหล่ะ ข้ากำลังติดต่อกับพระเจ้าได้อยู่เลย??” ชายคนนั้นถามกลับด้วยเสียงดูน่ากลัว

    “เราใกล้จะถึงโรงเรียนแล้วครับ”

    “งั้นเหรอ ข้าสังเกตเห็นอะไรแปลกๆในโรงเรียนนะ” รัสปูตินพูดขึ้น

    “เออ มันคืออะไรครับ??”

    “เอาเถอะ ข้าพูดไปเจ้าคงไม่เชื่อหรอก” รัสปูตินพูดไป

    “เออ เอาเป็นว่าเราใกล้จะถึงแล้วนะครับ”

    “ดี” รัสปูตินตอบสั้นๆ แต่น้ำเสียงดูเหยือกเย็นและน่ากลัว

    =====================================================================

    อาจารย์คนใหม่คนนี้เป็นยังไงกันแน่ และเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า 

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย 

    ให้ของขวัญเป็นกำลังใจกันได้ครัช ไหว้หล่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×