NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Killer Academy - สถาบันนักฆ่าล่าเดือด (ปิดรับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 5 : โทรศัพท์ปริศนา

    • อัปเดตล่าสุด 13 ส.ค. 66


    เช้าวันต่อมา หลังจากที่กลุ่มของเนชินตื่นขึ้นมาและทำกิจวัตรประจำวันเรียบร้อยแล้ว ตัวของเขาและพรรคพวกก็พากันเข้าไปในโรงฝึกเดิมที่พวกเขาอยู่ ซึ่งตอนนี้มันกลายเป็นจุดรวมพลและแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างกันเรียบร้อยแล้ว เนชินและพรรคพวกเข้ามาแล้วก็พบกับมอร์ตี้ อาจารย์เดธ ดู๊ด และกลุ่มของนานะเองก็มารวมตัวกันด้วย

    “อ้าว นานะ มาด้วยเหรอ??” เนชินถามเธอไป

    “ก็ใช่หน่ะสิ พี่มอร์ตี้บอกเราแล้วหน่ะ ว่าต่อไปนี้ให้เรามาที่นี่หน่ะ” นานะตอบไป

    “ใช่แล้วหล่ะ ต่อไปนี้ก็อย่างที่บอก พวกเธอมาเรียนที่นี่ อาจารย์สองคนจะสอนพวกเธอเอง” มอร์ตี้บอกไป ก่อนที่ไม่นานนัก พวกเขาจะมาล้อมวงกันเพื่อพูดคุยต่อ

    “ว่าแต่ พวกพี่ได้ข่าวอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า??” คิมยูจินยกมือถามไป

    “ก็ไม่ได้อะไรมาก นอกจากว่าตอนนี้ทีมสังหารของโรแลนด์กำลังล้อมชาร์ลีอยู่ ส่วนอาจารย์คาร์ล ตอนนี้ยังไม่มีพิรุจอะไรออกมาเลย” มอร์ตี้พูดขึ้น

    “ดูเหมือนว่ามันจะเก็บงำความลับอะไรเก็บมาก แถมไม่ส่อพิรุจอีก” เดธพูดขึ้น

    “แต่ไม่น่านะ ถึงยังไงมันก็ต้องทำอะไรพลาดบ้างเซ่” ดู๊ดพูดพลางกอดอกไปด้วย

    “ก็ถ้าพวกเราไม่ตามติดตัวของอาจารย์คาร์ล คงไม่ได้อะไรหรอกค่ะ” คามาคุริพูดขึ้น

    “เมื่อวานเราขอให้พวกนั้นช่วยทำเครื่องดักฟังกับกล้องขนาดเล็กด้วยหน่ะ” อัลลันพูดขึ้น

    “พวกนั้น พวกไหนกันเหรอ??” สเตลล่าถามไป

    “ก็พวกอินเฟอร์โน่นั่นไงหล่ะ เมื่อวานกระทืบกับพวกไอ้ไฮน์ริชซะยับ” ฟิลิปพูดขึ้น

    “เฮ้ยเดี๋ยว นายบอกพวกนั้นไปเหรอ??” เอลซ่าถามไป

    “พวกเราบอกแค่ว่าจะขอเครื่องดักฟังกับกล้องพวกนั้นหน่ะ ไม่ได้บอกว่าเอาไปทำอะไร” คริสโตเฟอร์ตอบไป

    “เดี๋ยว แล้วพวกนั้นจะไม่สงสัยเหรอ??” มาเรียถามไป

    “ไม่หรอก ดูจากทรงแล้ว น่าจะสำนึกบุญคุณพวกเราอยู่ แถมอินเฟอร์โน่เองน่าจะไม่รู้เรื่องนี้” โจพูดขึ้น

    “เอาเถอะ แต่ถึงยังไง เรื่องนี้ควรให้คนรู้ให้น้อยที่สุดนะ” อดาเน็คพูดขึ้น

    “ฉันพนันได้ว่าพวกนั้นไม่เปิดปากแน่นอน ฉันมั่นใจ” อุโมจาบอกไป

    “แต่ยังไง เรื่องนี้ยิ่งรู้น้อยจะดีกว่า” มาเรียน่าพูดไป

    “ถ้าเกิดปากโป้ง ก็ปิดปากพวกแม่ง แค่นั้น” เขตแดนพูดขึ้น

    “ก็คงต้องรอดูกัน” เมอร์ลิน่าบอกไป

    “แต่ฉันก็เชื่อแบบนั้น พวกนั้นไม่เปิดปากหรอก” มอร์ตี้พูดเสริม และในตอนนั้นเอง จู่ๆ นาตาลีก็เดินเข้ามาในโรงฝึกอย่างรวดเร็ว และเดินเข้ามาหาคุยด้วย

    “เฮ้ เป็นไงบ้าง??” เดธถามไป

    “ฉันคุยกับฮิลด้าเมื่อไม่นาน เธอบอกว่า ตอนนี้ทีมของเธอใกล้จะเข้าใกล้ชาร์ลีแล้ว” นาตาลีตอบไป

    “แล้วจะยังไงต่อหล่ะ??” ดู๊ดถามต่อ

    “พวกเขาจะขอให้ชาร์ลีมอบตัวก่อนหน่ะค่ะ” นาตาลีตอบไป

    “เฮ้อ อย่างชาร์ลีเนี่ยนะ ฝันไปเถอะ” มอร์ตี้บอกไป และในตอนนั้นเอง จู่ๆ พวกเขาก็เหน้อาจารย์คาร์ลและตัวของไฮน์ริชเดินเข้ามาในโรงฝึก ในตอนนั้นทุกคนรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

    “เฮ้ อะไรกัน เห็นพวกเราเป็นตัวเชื้อโรคหรือไง??” ไฮน์ริชถามไป

    “เดี๋ยว ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ” มอร์ตี้ตอบแบบหักหน้าไฮน์ริชไป

    “มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ??” นาตาลีถามไป

    “จำไม่ได้เหรอ ว่าฉันจะต้องจับตาเนชินหน่ะ เรื่องของไอ้ชาร์ลีหน่ะ??” คาร์ลถามไป

    “ผมรู้ แต่ตอนนี้ผมกำลังรับผิดชอบเขาอยู่” เดธตอบไป

    “ใช่ หรือว่าคุณไม่ไว้ใจพวกผมหล่ะ??” ดู๊ดถามเสริม

    “ก็ได้ ถ้าไม่มีปัญหาก็ดีแล้วหล่ะ เพราะถ้ามีเมื่อไหร่ ฉันคงจะฆ่าพวกแกด้วยมือฉันเอง” คาร์ลพูดจบและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ไฮน์ริชเองก็ชี้หน้าใส่เนชิน แต่มอร์ตี้ก็ชูนิ้วกลางตอบกลับไป

    “เฮ้อ ดูเหมือนเราจะเจอตัวปัญหาจริงๆแล้วหล่ะ” เนชินพูดขึ้น

    “นั่นสิ ฉันก็กลัวเหมือนกัน ไม่รู้พวกมันคิดจะทำอะไร ถ้าเกิดพวกมันใส่ร้ายเราหล่ะ??” นานะถามไป

    “แม่งเอ้ย ถ้าวันไหนฉันจับได้ว่าไฮน์ริชมันมีเอี่ยวด้วย ฉันจะกระทืบมันให้ไส้ทะลุออกปากเลย” ฟิลิปพูดขึ้น

    “เอาน่า ใจเย็น อาจจะเป็นไส้นายที่ทะลุนะ” เมอร์ลิน่าพูดแซวไป

    “ตอนนี้เราคงต้องรีบสืบความลับของมันด่วนเลย ก่อนที่มันจะเล่นงานเรา” อุโมจาพูดขึ้น

    “นั่นสิ แต่เราคงจะเดินเข้าไปหาบอกกับพวกมันไม่ได้หรอก” อดาเน็คพูดไป

    “อืม แต่ฉันว่าฉันได้กลิ่นแปลกๆอยู่นะ” เขตแดนพูดขึ้น

    “ตอนนี้อะไรมันก็แปลกหมดหล่ะจ้ะ” เอลซ่าบอกไป

    “ตอนนี้คงต้องรอให้อุปกรณ์สอดแนมของเรามาก่อนหล่ะนะ” อัลลันพูดขึ้น

    “เออ แล้วเจ้าพวกนั้นจะให้เราจริงๆเหรอ??” สเตลล่าถามไป

    “มันให้อยู่แล้วหล่ะ ถ้าไม่ให้ก็ตามไปกระทืบแม่ง” โจพูดขึ้น

    “ยังไงก็อย่ามีเรื่องไปทั่วแล้วกัน ไม่งั้นได้นอนคุกแน่” มาเรียพูดปรามไป

    “ไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนี้โควต้าทำผิดของเรายังไม่โดนหักหน่ะ” คิมยูจินพูดขึ้น

    “เออ แต่ของฉันโดนหักไป 1 เหลือ 9 แล้วอ่ะ ไปกระทืบเด็กห้องอื่นมา” มอร์ตี้พูดขึ้น ทำเอาทุกคนถึงกับปวดขมับ

    “นี่เจ๊ อย่าทำผิดมากนักสิ เราต้องใช้โควต้าให้คุ้มกับงานนะคะ” มาเรียน่าพูดขึ้น

    “เอาน่า ไม่ต้องห่วง ฉันจะพยายามควบคุมอารมณ์แล้วกัน” มอร์ตี้บอกไป

    “ก็นะ งานนี้คงต้องทุ่มกันสุดตัวหน่อยแล้วหล่ะ” คริสโตเฟอร์พูดขึ้น

    “งั้นฉันไปตามข่าวชาร์ลีก่อนนะ มีอะไรจะมาคุยด้วย” นาตาลีบอกกับทุกคนไป จากนั้นตัวของเธอก็รีบเดินออกจากโรงฝึกในทันที

    “โชคดีนะคะ”  คามาคุริพูดไล่หลังไป

    “โอเค เอาไว้ถ้าได้ข่าวเพิ่มเติม ค่อยมาคุยกันแล้วกัน ใครอยากฝึกที่นี่ก็ฝึก ใครอยากไปเรียนวิชาอื่นก่อนก็ไปได้” เดธพูดกับทุกคนไป

    “ใช่แล้ว เอาไว้ถ้ามีอะไรก็มาบอกพวกเราแล้วกัน” ดู๊ดบอกกับทุกคนไป ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปเรียนวิชาที่พวกเขาอยากเรียน บางส่วนเองก็ยังคงเรียนกับอาจารย์ทั้งคู่ต่อ

     

    ที่หน้าห้องพยาบาล ในตอนนั้นกลุ่มของลาเกียครูซเองก็กำลังรอให้อินเฟอร์โน่ออกจากห้องพยาบาล หลังจากที่ได้ข่าวว่าตอนนี้อินเฟอร์โน่ตอนนี้ลุกขึ้นได้แล้ว

    “เฮ้อ ไม่รู้ว่าหมอนั่นจะฟื้นขึ้นมาจริงๆหรือเปล่านะ” วาดีนพูดขึ้น

    “เฮ้ย หมอนั่นกระดูกเหล็กอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง” เอ็ดวาร์ดบอกไป

    “เออ แล้วของที่เราจะเอาให้พวกนั้นหน่ะ ยังไง??” แม็กซ์ถามไป

    “ของอะไรวะ อ้อ หมายถึงไอ้เครื่องดักฟังกับกล้องที่พวกเราช่วยทำงั้นเหรอ??” นากะตะถามไป

    “อ้อ เตรียมไว้แล้วหล่ะ ถ้าเจอพวกนั้นที่หอพัก ฉันจะเอาให้พวกนั้นเอง” ลาเกียครูซบอกไป

    “แล้วพวกนั้นจะเอาไปทำอะไรกันนะ??” จอห์นถามไป

    “ไม่รู้ว่าจะเอาไปสอดแนมใครหรือเปล่าดิ” เรนาวอสตั้งข้อสงสัยไป และไม่นานนัก พวกเขาก็เห็นอินเฟอร์โน่เดินออกมาจากห้องพยาบาลพร้อมกับพยาบาลคนหนึ่ง พวกเขารีบเดินไปหาอินเฟอร์โน่ในทันที

    “เฮ้ย ไงพวก นึกว่าจะตายห่าซะหล่ะ??” แม็กซ์ถามไป

    “เฮ้ย ใครตายวะ ฉันไม่ตายง่ายๆหรอกเว้ย” อินเฟอร์โน่บอกไป

    “เออ ดีแล้วหล่ะที่นายปลอดภัย” วาดีนตอบไป

    “ว่าแต่ พวกเรารอดมาได้ไงวะเนี่ย??” อินเฟอร์โน่ถามไป

    “ไปขอบคุณพวกเด็กใหม่พวกนั้นดีกว่า” ลาเกียครูซบอกไป ในตอนนั้นอินเฟอร์โน่ทำหน้างงเล็กน้อย

    “ก็เจ้าเนชินกับพวกยังไงหล่ะ แล้วอีกอย่าง พวกเราโดนจับขึ้นศาลด้วย” เรนาวอสพูดขึ้น

    “เฮ้ย ขึ้นศาลเลยเหรอ??” อินเฟอร์โน่ถามไป

    “ใช่แล้วหล่ะ ดูเหมือนว่าไอ้ไฮน์ริชกับพวกมันวางแผนกันมาดีเพื่อเล่นงานพวกเราหน่ะ” นากะตะบอกกับอินเฟอร์โน่ ในตอนนั้นตัวของอินเฟอร์โน่เองก็กำหมัดอย่างเจ็บแค้น 

    “ดูเหมือนว่าพวกมันจะรบพวกเราจริงๆแล้วหล่ะ” จอห์นพูดขึ้น

    “ถ้าพวกมันอยากจะรบ เราก็จะให้พวกมันได้รบ คราวนี้ฉันจะเผาพวกแม่งให้ราบเลย” อินเฟอร์โน่พูดไป และในตอนนั้นเอง นาตาลีที่เพิ่งจะกลับมาจากการติดต่อกับกลุ่มของเนชินก็กลับมาที่ห้องพยาบาล และมาเจอกับพวกของอินเฟอร์โน่

    “อ้าว พวกนาย หายดีแล้วเหรอ??” นาตาลีถามไป

    “ก็นิดหน่อยครับ พวกเรายังไม่ตาย” จอห์นตอบไป

    “ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่ช่วยพวกเรา” แม็กซ์พูดขึ้น

    “ไม่ต้องหรอก นายไปขอบคุณพวกของเนชินเถอะ” นาตาลีบอกไป

    “เรื่องนั้นพวกเรารู้แล้วครับ” ลาเกียครูซบอกไป

    “ว่าแต่ พวกที่มันเล่นงานเรา พวกไอ้ไฮน์ริชใช่หรือเปล่า??” อินเฟอร์โน่ยิงคำถามไปตรงๆเลย

    “เฮ้อ ฉันว่าใช่ แต่ยังไม่มีหลักฐานอะไรเล่นงานมัน พวกนายก็อย่าเพิ่งทำอะไรแล้วกัน ตอนนี้พวกมันกำลังใหญ่อยู่” นาตาลีพูดปรามพวกเขา

    “จะใหญ่แค่ไหน ผมก็จะเอาให้มันมากราบตีนพวกเราเองครับ” เอ็ดวาร์ดพูดขึ้น

    “ถ้าเราจะแก้แค้น ก็คงต้องวางแผนกันดีๆนะ” วาดีนพูดขึ้น

    “ใช่แล้วหล่ะ คราวนี้เราจะเอาให้ยับเลย” นากะตะพูดไป

    “เฮ้อ เอาไงก็เอาเถอะพวกนาย ระวังตัวแล้วกัน พวกมันอาจจะเล่นนายอีก” นาตาลีพูดจบก็เดินผ่านกลุ่มของอินเฟอร์โน่เข้าไปในห้องพยาบาลในทันที

    “เฮ้ย ไปหาไรแดกดีกว่าหว่ะ” เรนาวอสพูดไป

     

    พักเที่ยง หลังจากที่เหล่านักเรียนได้ทำการเรียนทักษะการฆ่าเพิ่มเติมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบปลายภาค ไม่นานนักกลุ่มเด็กนักเรียนหลายกลุ่มก็มาหาอะไรกินที่โรงอาหาร พวกเขาไปรับอาหารและกลับมานั่งโต๊ะตามปกติ

     

    ที่กลุ่มของโครี่ ห้อง 305 ในตอนนี้ตัวของเธอมารวมตัวกันหลังจากที่ได้อาหารแล้ว ในตอนนั้นพวกเธอก็คุยกันในทันที

    “เฮ้ ทุกคน ฝึกวันนี้เป็นยังไงบ้างอ่ะ??” โครี่ถามไป

    “เฮ้อ โคตรเหนื่อยเลย แต่ก็สนุกดีแหะ” เจน่าพูดไป

    “ก็นะ ยังไงก็ต้องฝึก เพราะได้ยินมาว่าสอบปลายภาคจะสาหัสมาก” ฮอร์ตุสพูดขึ้น

    “นั่นสิ ว่าแต่การสอบจะเป็นยังไงเนี่ย??” เอเลนอร์ถามไป

    “ได้ข่าวว่าพวกเขาจะให้พวกเราเล่นเกมฆ่าแบบ Battle Royals หน่ะ” บาตาพูดขึ้น

    “เฮ้อ เรื่องนี้ฉันถนัดอยู่แล้ว” หลิวชิงหยินพูดขึ้น

    “ใจเย็น ยังมีนักเรียนอีกหลายกลุ่มที่พร้อมจะหักกับเรานะ” แคทเทอรีนพูดปรามไป

    “กลัวอะไรหล่ะ พวกเรารับมือไหวอยู่แล้ว” อีชีเตพูดขึ้น 

    “ใช่กลุ่มนั้นหรือเปล่า??” โครี่ถามไป และในตอนนั้นทุกคนก็เหลือบไปเห็นกลุ่มเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง บนโต๊ะอาหารอีกฟากของโรงเรียน

    “ดูเหมือนจะมีแต่พวกเหลือขอนะ” อีชีเตพูดขึ้น

    “แล้วเราจะเอายังไงหล่ะ??” แคทเทอรีนถามไป

    “ก็ตีกับพวกมันเลยดิ” หลิวชิงหยินตอบไป

    “จะบ้าเหรอ มีเด็กโดนจับขังคุกเพราะตีกันมานักต่อนักแล้ว” เอเลนอร์พูดขึ้น

    “นั่นสิ อีกอย่างมีกล้องวงจรปิดติดไว้ทั่วเลยด้วย” ฮอร์ตุสพูดเสริม

    “เฮ้อ คงฉะกับพวกนั้นได้ในสนามทีเดียวสินะ” เจน่าพูดขึ้น

    “ดูเหมือนพวกนางก็ยังกลัวๆนะ ไม่อย่างงั้นพวกนางคงมาท้าพวกเราประลองแล้วหล่ะ” บาตาบอกไป

    “นั่นสิ ตอนนี้พวกเราก็ระวังตัวไว้หน่อยแล้วกัน” เอเลนอร์พูดขึ้น

    “เออ ว่าแต่ เรื่องของอาจารย์คาร์ลนี่จะยังไงต่อหล่ะ??” หลิวชิงหยินถามไป

    “ฉันได้ข่าววงในมา ได้ยินมาว่าพวกเขากำลังจะจับคุณชาร์ลีได้แล้ว” เจน่าพูดขึ้น

    “โห แต่ฉันได้ยินมาว่าคุณชาร์ลีเก่งมากเลยนะ จะจับได้จริงเหรอ??” อีชีเตถามไป

    “แต่หน่วยสังหารที่ส่งไปก็นำโดยคุณโรแลนด์เลยนะ” แคทเทอรีนตอบไป

    “โห งานนี้น่าจะเละเทะแน่ๆ” บาตาพูดขึ้น

    “เอาเถอะ ตอนนี้พวกเราอย่าเพิ่งสงสัยอะไรแล้วกัน ไม่รู้ว่าจะมีใครเอาเรื่องของพวกเราไปรายงานแบบผิดๆด้วยหรือเปล่า” โครี่พูดปรามทุกคนไป

    “ได้เลย ตอนนี้ก็คงต้องระวังยัยพวกนั้นแล้วสินะ” ฮอร์ตุสพูดและดูดนมช็อกโกแลตไปด้วย

     

    และอีกด้านหนึ่งของโรงอาหาร ที่โต๊ะของกลุ่มเด็กห้อง 402 ในตอนนี้ตัวของแมรี่เองก็เอาแต่นั่งกดแท็บเล็ตพกพาของเธอไปเรื่อยๆ ในขณะที่คนอื่นๆก็นั่งกินอาหารและพักผ่อนหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งเช้า

    “เฮ้ แมรี่ ไม่กินไรหน่อยไง??” จินนี่ถามไป

    “เอาน่า เดี๋ยวฉันกินเอง” แมรี่พูดจบก็ตักอาหารเข้าปากไปด้วย

    “โห เธอนี่จริงๆเลยนะ” เอสการ์พูดขึ้น

    “เฮ้อ เหนื่อยชิบเป๋งเลยวันนี้ เนอะ” คามิลล่าพูดขึ้น

    “เฮ้อ ฉันอยากไปฝึกต่อจริงๆ กำลังสนุกเลย” ริวโซพูดขึ้น

    “เออ ว่าแต่คนจริงที่เราได้ฝึกกับพวกมันนี่เป็นใครกัน??” โรสถามไป

    “ได้ยินว่าพวกนั้นทำผิดข้อหายกพวกไปทำร้ายร่างกายหน่ะ” โดโรธีบอกไป

    “เฮ้อ จะใครก็ช่าง ให้ฉันได้ถลกหนังมันก็สนุกแล้ว” ซาชินบอกไป

    “อืม แต่ปกติแค่ทำร้ายร่างกาย ไม่น่าถึงขั้นโดนประหารด้วยการโดนจับมาเป็นหนูทดลองนะ??” จินนี่ตั้งข้อสังเกตไป

    “ได้ข่าวมาว่าไอ้พวกนั้นโดนอาจารย์เดธกับดู๊ดจับได้ โดนกระทืบแทบตาย” คามิลล่าพูดขึ้น

    “เออ เท่าที่ฉันรู้มานะ ได้ยินว่าไอ้พวกนั้นทำงานให้ไฮน์ริชด้วย” แมรี่พูดและกดแท็บเล็ตของเธอต่อ

    “อย่าบอกนะว่าเป็นการปิดปากหน่ะ??” โดโรธีถามไป

    “เฮ้อ เอาเถอะ อย่าไปคิดอะไรเยอะเลย ไม่ใช่พวกเราซะหน่อย” ซาชินพูดขึ้น

    “เห็นด้วยเลย ถ้าไอ้พวกนั้นโดนเล่นงาน พวกมันก็ต้องหาเด็กใหม่มาให้พวกเราฆ่าหน่ะสิ” ริวโซพูดขึ้น

    “เออ ระวังหน่อย อาจจะเป็นเธอที่โดนฆ่าแทน” โรสพูดแซวกลับไป

    “แต่ฉันก็กลัวนะ ถ้าพวกมันเกิดเหม็นขี้หน้าเราหล่ะ??” เอสการ์ถามไป

    “ฉันว่าไม่หรอก ฉันเคยนอนกับพี่ริคกี้ ฉันจะให้เขาช่วย” โรสพูดไป

    “เฮ้อ ไอ้คนไม่เอาอ่าวพรรค์นั้นอย่าไปหวังอะไรเลย” จินนี่พูดไป

    “เอาเถอะ ถ้าพวกมันคิดจะเล่นกับเรา ฉันจะฆ่าให้หมด ทั้งโรงเรียนเลยก็ได้” ริวโซพูดขึ้น

    “เดี๋ยว พวกนักเรียนแต่ละคนไม่ใช่กระจอกๆนะ” โดโรธีพูดปรามไป

    “เอาน่า ถ้าพวกเราร่วมมือกัน ก้น่าจะเอาตัวรอดได้” ซาชินพูดขึ้น

    “เออนะ จะเอายังไงก็เอาเถอะ” คามิลล่าพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง จู่ๆแมรี่ก็พูดขึ้น

    “ทุกคน กลับไปคืนนี้ฉันมีของดีให้ดู” 

    “เอาเถอะ ขอให้มันดีจริงๆนะ” เอสการ์ตอบไป

     

    ณ ห้องพักของผู้คุมกฎ ในตอนนี้กลุ่มผู้คุมกฎได้เอาอาหารที่โกเมซทำให้พวกเขามารวมกันที่ห้อง แล้วเอามานั่งกินด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย และในตอนนั้นเอง มอร์ตี้เองก็เดินเข้ามาในห้องด้วย

    “เฮ้ มอร์ตี้ มากินด้วยกินสิ!!” ลิลิธตะโกนบอกมอร์ตี้

    “อืม ก็ดีเหมือนกัน กำลังคิดถึงพวกนายเหมือนกัน สอนพวกเด็กๆจนเหนื่อยกันแย่เลย” มอร์ตี้บอกไป

    “อืม ช่วงนี้ไม่ต้องเข้าคุกบ่อยแล้วสิ” ซองชวาจินพูดขึ้น

    “นี่ ฉันว่านะ เธอเองก็อย่าแหกกฎมากไปนักสิ” เอาส์ติสพูดเตือนเธอ

    “เฮ้อ ถ้ากฎมันออกแบบมาให้ทำตามได้ ใครมันจะแหกกฎหล่ะ” มอร์ตี้ตอบไป

    “เออนี่ แล้วริคกี้หายไปไหนหล่ะ??” อารีแอคเน่ถามไป

    “หมอนั่นคงกำลังจะตามข่าวมินโฮอยู่หล่ะมั้ง” ออร์ฟิอุสตอบ

    “แต่ว่า ตอนนี้ยังไม่มีข่าวอะไรเพิ่มเติมเลยนะคะ” โทโมเอะพูดขึ้น

    “ฉันได้ยินมาว่า ตอนนี้พวกเขากำลังล้อมคุณชาร์ลีอยู่หน่ะ” มอร์ตี้พูดไป

    “โห งานนี้คุณชาร์ลีจะรอดมั้ยเนี่ย??” ออร์ฟิอุสถามไป

    “ฉันว่าไม่หรอก พวกนายก็รู้ฝีมือของหมอนั่นนี่” ซองชวาจินพูดขึ้น

    “นั่นสิ ชาร์ลีนี่ของจริงเลย ฉันเองก็แอบเสียดายที่เขาไปอยู่หน่วยสังหารหน่ะ” เอาส์ติสพูดไป

    “ได้ข่าวว่าคุณเอ็ดมันด์สั่งไว้ว่าต้องจับเป็น ฉันว่าเขาไม่น่าเป็นไรหรอก” โทโมเอะพูดขึ้น

    “แต่ก็น่าเป็นห่วงนะ ถ้าเกิดเขาโดนปิดปากขึ้นมาหล่ะ??” อารีแอคเน่ถามไป

    “นั่นสิ อาจจะมีใครสั่งเก็บเขาก็ได้” ลิลิธพูดขึ้น

    “อืม ฉันไปก่อนนะ มีอะไรจะมาส่งข่าว” มอร์ตี้บอกกับทุกคนหลังจากที่กินอะไรไปไม่กี่คำ จากนั้นเธอก็เดินออกไปในทันที

    “ดูเหมือนว่าเธอจะห่วงหมอนั่นนะ” ซองชวาจินพูดขึ้น

    “ก็แน่หล่ะ เขาสละตำแหน่งนี้ให้เธอนี่หน่า” ลิลิธพูดขึ้น

    “แล้วเขากำลังทำอะไรของเขากันนะ??” เอาส์ติสถามไป

    “ไม่รู้สิ เรื่องนี้มันมีเงื่อนงำเยอะมาก ฉันเองก็ยังคิดอะไรไม่ออก” ออร์ฟิอุสพูดขึ้น

    “อย่าไปอะไรเลย เดี๋ยวสืบไปเจอตออีกจะยุ่งนะ” โทโมเอะพูดปรามไป

    “แต่ยังไงก็ต้องรู้ไว้ก่อน เราจะได้เอาตัวรอดได้หน่ะ” อารีแอคเน่บอกไป

     

    อีกด้านหนึ่งของโรงเรียน ที่สวนประจำโรงเรียน ซึ่งดูสงบร่มรื่น ซึ่งบรรดากลุ่มอาจารย์ก็พากันมานั่งเพื่อพักผ่อนกัน ในตอนนั้นเอง โกเมซก็ทำอาหารมาให้กับทุกคนที่กำลังรออยู่ได้ทานกัน 

    “ทุกคน มาแล้ว!!” โกเมซพูดขึ้นและเอาอาหารเสิร์ฟให้กับทุกคนที่กำลังรออยู่ได้ทานในทันที

    “เออ จะว่าไป อาจารย์เดธกับดู๊ดไปไหนล่ะ??” โอเด็ตถามไป

    “ได้ข่าวว่าตอนนี้กำลังคุมเจ้าเด็กของชาร์ลีอยู่หน่ะ” เก็นโซตอบไป

    “เออ ฉันอยากรู้มานานหล่ะ พวกนายว่าชาร์ลีจะทำอย่างงั้นจริงหรือเปล่า??” อิซาเบลล่าถามไป

    “หัวเด็ดตีนขาด ฉันก็ยังบอกว่าไม่” เชเพิร์ดตอบไป

    “ฉันเห็นด้วย ฉันก็คิดว่าชาร์ลีไม่น่าทำแบบนั้น” ซินพูดเสริม

    “ฉันก็ว่างั้น งานนี้อาจจะมีเบื้องหลัง ไม่แน่อาจจะเป็นอาจารย์คาร์ลที่ใส่ร้ายแน่ๆ” โกเมซพูดขึ้น

    “ก็อาจใช่ แต่ถึงยังไงเราก็ทำได้แค่สงสัย ไม่มีหลักฐานนะ” โอเด็ตพูดขึ้น

    “มอร์ตี้ดูจะทำงานหนักน่าดูเลยนะ” อิซาเบลล่าพูดขึ้น

    “ก็แน่หล่ะ เธอก็รู้นี่ว่าชาร์ลีเป็นเพื่อนมอร์ตี้” ซินพูดขึ้น

    “เฮ้อ ถ้าฉันมีเพื่อน ฉันก็คงจะทำแบบนั้นเหมือนกัน” เชเพิร์ดพูดขึ้น

    “นั่นสิ ยังไงก็ต้องรอฟังข่าวหน่ะ” เก็นโซพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก นาตาลีเองจะรีบวิ่งมาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว เพื่อรายงานข่าวอะไรบางอย่าง

    “เฮ้ ทุกคน มีข่าวใหม่ ยืนยันมาแล้ว ตอนนี้พวกโรแลนด์กำลังบุกเข้าโจมตีชาร์ลีที่กำลังซ่อนตัวหน่ะค่ะ” นาตาลีพูดไป

    “ห่ะ เริ่มแล้วเหรอ เร็วจัง??” เก็นโซถามอย่างตื่นเต้น

    “งานนี้น่าจะเจ็บกันหนักหลายคนแน่ๆ” อิซาเบลล่าพูดขึ้น

    “ฉันเป็นห่วงพวกทีมสังหารมากกว่า” ซินพูดขึ้น

    “เฮ้ แต่โรแลนด์ก็ไม่ใช่กระจอกๆนะ ไหนจะคนอื่นๆอีก” เชเพิร์ดพูดปรามไป

    “ไม่รู้ว่าคุณเอ็ดมันด์จะเอายังไงต่อนะ” โอเด็ตพูดขึ้น

    “เฮ้อ แต่ไม่ว่ายังไง ก็คงจะเลี่ยงการสูญเสียคนสำคัญไปไม่ได้แล้วหล่ะ” โกเมซบอกกับทุกคนไป

     

    และที่ห้องของเอ็ดมันด์ ในตอนนี้ตัวของเขากำลังนั่งตรวจสอบเอกสาร โดยที่ฟิโอน่า เลขาของเขาก็อยู่กับเขาด้วย ในขณะเดียวกันนั้นเอง คาร์ลก็เดินเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ไปคุยกับเอ็ดมันด์

    “อ้าว คุณคาร์ลคะ ว่าไงคะ??” ฟิโอน่าถามเขาไป

    “ตอนนี้เรื่องของชาร์ลีไปถึงไหนแล้วครับ??” คาร์ลถามไป

    “อ้อ ตอนนี้ผมสั่งเอาไว้แล้ว ว่าให้จับตัวเขาเป็นๆ” เอ็ดมันด์บอกไป

    “ถ้าจับมันได้ ผมจะคุยกับมันเอง” คาร์ลบอกไป

    “แต่ว่า เขาจะยอมเหรอคะ??” ฟิโอน่าถามไป

    “บางทีหมอนั่นอาจจะรู้อะไรเพิ่มก็ได้ เว้นแต่ว่าจะมีใครอยากปิดปากหมอนั่น” คาร์ลบอกไป

    “ตอนนี้ฉันสั่งโรแลนด์ไปแล้วหล่ะ” เอ็ดมันด์บอกไป

    “ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคิดบ้าอะไรอยู่ แม่งเอ้ย” คาร์ลพูดขึ้น

    “ว่าแต่ เจ้าหนุ่มที่ชื่อเนชินนี่เป็นยังไงบ้างคะ??” ฟิโอน่าถามไป

    “ตอนนี้ยังไม่มีพิรุจอะไร แต่อย่าให้มีแล้วกัน ไม่งั้นผมคงจะยิงมันแน่” คาร์ลพูดขึ้น

    “เออ ฉันว่าใจเย็นดีกว่านะคะ เขาอาจจะไม่รู้อะไรก็ได้ค่ะ” ฟิโอน่าพูดปรามเขาไป

    “นั่นสิ ยังไงเดธกับดู๊ดก็จับตาดูหมอนั่นอยู่ คงไม่มีอะไรหรอก” เอ็ดมันด์บอกกับคาร์ลไป แต่ดูเหมือนว่าตัวของคาร์ลจะยังไม่คลายความกังวลเลยแม้แต่น้อย

     

    อีกด้านหนึ่ง บริเวณห้องสื่อสารของโรงเรียน ในตอนนั้นตัวของริคกี้เองก็กำลังนั่งรออะไรบางอย่างอยู่ในห้องอย่างลยนลาน และในตอนนั้นเอง ตัวของไฮน์ริชก็เดินผ่านมาเจอกับริคกี้เข้าพอดี เขาเลยเดินเข้าไปในห้องและคุยกับริคกี้ในทันที

    “เฮ้ย ริคกี้ ทำไรอยู่เนี่ย??”

    “ฉันกำลังรอข่าวพวกทีมสังหารอยู่หน่ะ” ริคกี้ตอบไป

    “เฮ้ย แล้วมาหาอะไรที่นี่หล่ะ ตอนนี้พวกนั้นกำลังล้อมจับไอ้ชาร์ลีอยู่” ไฮน์ริชบอกไป

    “แต่ฉันก็ยังไม่ไว้ใจ นายก็รู้จักไอ้ชาร์ลีนี่”

    “เออ แต่หน่วยสังหารบุกไปขนาดนั้น ใครจะรอดหล่ะ อย่าลืมสิว่าทีมของโรแลนด์ไปกันครบเลย ไหนจะพวกหน่วยเสริมอื่นอีก ต่อให้เป็นชาร์ลีก็เถอะ ฉันว่ายังไงมันก็ไม่รอด เชื่อฉันสิ” ไฮน์ริชพูดไป

    “เออๆ เอาเถอะ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะยังไงต่อ” ริคกี้พูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง คนของไฮน์ริชคนหนึ่งก็รีบเดินเข้ามาหาไฮน์ริชอย่างรวดเร็ว

    “เฮ้ ไฮน์ริช”

    “เออ เป็นไงบ้างวะ??” ไฮน์รืชถามไป

    “ตามให้แล้ว ตอนนี้มีข่าวมาว่าชาร์ลีกำลังหนีเข้าไปในถ้ำอยู่หน่ะ ตอนนี้พวกเขาปิดล้อมถ้ำทุกทางแล้ว” เพื่อนของไฮน์ริชตอบไป

    “จริงเหรอ แล้วยังไงต่อหล่ะ??” ไฮน์ริชถามต่อ

    “ชาร์ลีไม่น่ารอดแน่ ถ้ารอดก็เทพเจ้าแล้วหล่ะ” 

    “เฮ้อ ยังไงก็ต้องรอดูหล่ะนะ” ริคกี้พูดพลางถอนหายใจไป 

    “เออ เชื่อเหอะ มินโฮไม่เป็นไรหรอก” ไฮน์ริชพูดขึ้นและแตะไหล่ของริคกี้ไปด้วย

     

    ณ เขตป่าแห่งหนึ่ง บริเวณหน้าถ้ำ ซึ่งตอนนี้กลุ่มของโรแลนด์ได้นำกำลังติดตามชาร์ลี และไล่ต้อนชาร์ลีเข้าไปในถ้ำแห่งนี้ ในตอนนี้โรแลนด์และคนที่เหลือกำลังปิดทางเข้าออกถ้ำเอาไว้ และสั่งให้หน่วยเสริมหาทางเข้าถ้ำที่เหลือและพยายามปิดล้อมเอาไว้ให้ได้นานที่สุด ในระหว่างนั้นพวกเขาก็กำลังตกลงกันว่าจะบุกเข้าไปดีหรือเปล่า

    “บ้าเอ้ย เราบุกเข้าไปเลยดีกว่า” มินโฮพูดขึ้น แต่ในตอนนั้นมาทิลด้าก็จับไหล่เขาเอาไว้

    “เฮ้ยเดี๋ยว บุกไปตอนนี้ ชาร์ลีอาจจะดักรอเราอยู่ก็ได้” มาทิลด้าบอกไป

    “เฮ้อ อยากจะฆ่ามันนักเชียว บุกเลยดีกว่า” ลุดวิกพูดขึ้น

    “เดี๋ยวสิ เดี๋ยวพวกเราก็โดนเล่นงานอีกหรอก” เว่ยเฟยหลงพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง ฮิลด้าก็เดินมาหาพวกเขาที่รออยู่หน้าถ้ำอย่างรวดเร็ว

    “เฮ้ ฮิลด้า เป็นยังไงบ้าง??” โรแลนด์ถามไป

    “พวกเราตายไป 46 แล้ว เจ็บไปอีก 38 ถ้ายังยืดกันอยู่แบบนี้ ไม่ดีแน่” ฮิลด้าพูดขึ้น

    “โห ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายแล้วสินะครับ ชาร์ลีวางกับดักมาเป็นอย่างดี ไหนจะดักยิงพวกเราได้แม่นยำมาก” บาลอร์พูดขึ้น

    “แต่มันอาจจะไม่เหลือกระสุนแล้วก็ได้นะ” เบลลาทริกซ์พูดขึ้น 

    “งั้นต้องลองไปคุยกับมันหน่อยหล่ะ” โรแลนด์พูดขึ้น และในตอนนั้นเอง บาลอร์ขออาสาค่อยๆเดินเข้าไปเจรจากับชาร์ลีด้านใน เขารีบยกมือขึ้นและค่อยๆเดินไปหน้าถ้ำในทันที

    “คุณชาร์ลี ใจเย็นนะคร้าบ ผมว่าคุณมอบ..” ยังไม่ทันที่บาลอร์จะพูดจบ

    “ปัง!!”

    “บาลอร์ วันนี้ฉันยังไม่ฆ่าแก แต่นัดต่อไป แสกหน้าแกแน่!!” ชาร์ลีตะโกนกลับออกมา บาลอร์ได้แต่ทำหน้าบอกบุญไม่รับและเดินออกไปอย่างเซ็งๆ จากนั้นเขาก็ทำหน้าหมดหวังใส่โรแลนด์

    “ผมว่ามันให้คำตอบแล้วนะครับ” มินโฮพูดไป

    “เดี๋ยวสิ ก็ให้เจ้าบาลอร์ไปนี่นะ ชาร์ลีคงจะฟังหล่ะ” เว่ยเฟยหลงบอกไป

    “แต่ถ้ายืดเยื้อแบบนี้ ไม่ดีแน่ๆ มันอาจจะหนีได้นะ” เบลลาทริกซ์พูดขึ้น

    “งั้นฉันไปคุยเอง” โรแลนด์พูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้นฉันไปด้วยค่ะ” ฮิลด้าพูดกับโรแลนด์

    “โอเค งั้นฉันระวังหลังให้เอง” ลุดวิกพูดไป ก่อนที่ไม่นานนัก ทั้งคู่ก็จะเดินไปที่หน้าถ้ำ

    “ขอให้สำเร็จนะคร้าบ” บาลอร์พูดขึ้น 

    “พวกเราก็ไปช่วยหนุนหลังพวกเขาดีกว่า” มาทิลด้าพูดต่อ และเมื่อโรแลนด์กับฮิลด้าเดินมาถึงหน้าถ้ำ พวกเขาก็เจรจากับชาร์ลีในทันที

    “เฮ้ ชาร์ลี ฉันเอง โรแลนด์!!”

    “โรแลนด์ ถ้านายห่วงชีวิตเด็กของนาย พาพวกนั้นหนีไปดีกว่า!!”

    “คุณชาร์ลี มันเกิดอะไรขึ่น คุณไม่ใช่คนแบบนี้นี่คะ??” ฮิลด้าถามต่อ

    “ฮิลด้า นี่ไม่ใช่เรื่องของเธอ อย่ามายุ่งดีกว่า ฝากไปปิดปากไอ้บาลอร์ด้วย!!” ชาร์ลีตะโกนออกมา ก่อนที่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ มินโฮก็เดินมาที่หน้าถ้ำพร้อมปืนไรเฟิลกระบอกหนึ่ง จากนั้นก็ตะโกนออกมา

    “เฮ้ย ชาร์ลี แน่จริงแกก็ออกมาสิวะ ไอ้หน้าตัวเมีย!!” 

    “มินโฮ ไม่ต้องห่วง เราได้วัดกันแน่ อยู่ที่ว่านายจะมีกึ๋นมากพอหรือเปล่า แต่ฉันว่า ถ้านายยังอยากกลับไปหาริคกี้หล่ะก็ กลับไปตอนนี้ดีกว่า” ชาร์ลีตอบกลับมา ในตอนนั้นมินโฮก็สติแตกและเล็งปืนใส่ถ้ำ

    “เฮ้ย เดี๋ยว!!” โรแลนด์ตะโกนออกมา แต่ในตอนนั้นชาร์ลีก็ยิงสวนใส่ไหล่มินโฮ มินโฮเซไปเล็กน้อย ในตอนนั้นทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ก็รีบมาช่วยมินโฮในทันที

    “ระยำเอ้ย!!” มินโฮตะโกนออกมา จากนั้นเขาก็ยิงลูกระเบิด M203 ใส่ถ้ำในทันที และเมื่อยิงไปเรื่อยๆ ก็ทำให้ถ้ำเริ่มสั่นไหว

    “เฮ้ยเดี๋ยว เราต้องจับเป็นนะ!!” เบลลาทริกซ์ตะโกนออกมา แต่ก็ไม่ทันแล้ว จู่ๆ ถ้ำนั้นก็ถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว พวกเขารีบหาที่หลบในทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้หินร่วงลงมาใส่พวกเขา

    “เวรเอ้ย หลบเร็ว!!” มาทิลด้าตะโกนออกมา ก่อนที่พวกเขาจะหลบกันอย่างทุลักทุเล และเมื่อทุกอย่างสงบลงแล้ว พวกเขาก็ลุกขึ้นมาในทันที

    “เป็นไรเปล่า??” โรแลนด์ตะโกนถามทีมของเขาไป

    “ผมปลอดภัย!!” บาลอร์ตอบไป

    “เหมือนกัน!!” เว่ยเฟยหลงพูดต่อ

    “บ้าเอ้ย มินโฮ งานดีชิบหาย” ลุดวิกสบถออกมา ฮิลด้าที่เห็นมินโฮบาดเจ็บก็รีบไปดูเขาในทันที

    “ปิดแผลไว้ก่อนนะ” ฮิลด้าพูดขึ้นจากนั้นก็รีบทำแผลให้กับมินโฮอย่างรวดเร็ว

    “บ้าเอ้ย หินปิดปากถ้ำหมดเลย” ลุดวิกสบถออกมา

    “เออ ฉันว่ามันอาจจะตายในถ้ำแล้วก็ได้” บาลอร์พูดขึ้น

    “เป็นไปได้นะ ถ้าถ้ำไม่มีทางออก หมอนั่นอาจจะตายในนั้นก็ได้” เว่ยเฟยหลงพูดขึ้น

    “แล้วเราจะเอายังไงต่อหล่ะ??” เบลลาทริกซ์ถามไป

    “เฮ้อ รายงานกลับไปที่โรงเรียนเลย มินโฮ ฉันต้องรายงานความจริงนะ” โรแลนด์พูดขึ้น

    “ได้ ฉันรับผิดชอบทุกอย่างเอง” มินโฮบอกไป   

    “บ้าเอ้ย ไม่น่าเป็นแบบนี้เลย” มาทิลด้าสบถออกมา

     

    กลับมายังโรงเรียน ในห้องพักของเอ็ดมันด์ เอ็ดมันด์ได้รับรายงานจากหน่วยสังหารที่เขาส่งไปว่าชาร์ลีตอนนี้อาจจะตายคาถ้ำไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นสิ่งที่เอ็ดมันด์ไม่อยากให้เป็นเลย ตัวของเขารีบกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานของเขาเพื่อคิดว่าจะเอายังไงต่อ

    “ตราบใดที่เรายังไม่เจอศพ ผมก็ยังไม่เชื่อหรอกว่าชาร์ลีจะตายแล้ว” เอ็ดมันด์พูดขึ้น

    “แต่ว่า หน่วยสังหารรายงานมานี่คะว่าถ้ำนั่นไม่มีทางออกนี่คะ??” ฟิโอน่าถามเอ็ดมันด์ ในขณะที่เสิร์ฟน้ำให้กับเขาด้วย

    “เรียกประชุมครูทุกคนตอนนี้เลย” เอ็ดมันด์บอกกับฟิโอน่าในทันที

    และไม่นานนัก เมื่อเหล่าครูและอาจารย์ทุกคนมารวมตัวกันในห้องประชุมแล้ว ตัวของเอ็ดมันด์ก็รีบเริ่มการประชุมในทันที

    “เอาหล่ะ ทุกคน ตอนนี้มีข่าวยืนยันมาแล้ว ตอนนี้ชาร์ลีติดอยู่ในถ้ำที่ถล่ม มีความเป็นไปได้ว่าเขาเสียชีวิตแล้ว” เอ็ดมันด์พูดขึ้น ทำเอาทุกคนที่อยู่ในห้องตกใจกันมาก

    “เดี๋ยวครับ ผมว่าชาร์ลีไม่น่าเสียท่าง่ายขนาดนี้นะครับ มันเกิดอะไรขึ้นครับ??” คาร์ลลุกขึ้นถามไป

    “ทีมของเราใช้ระเบิดยิงเข้าไป แต่พลาดทำให้หินถล่มลงมาหน่ะครับ” เอ็ดมันด์ตอบไป

    “แต่ถ้าเรายังไม่เจอศพ เราก็ยังปักใจเชื่อไม่ได้นะครับ” เดธพูดขึ้น

    “ผมก็คิดแบบนั้น ตอนนี้เราทำได้แค่เฝ้าถ้ำนั่นไว้ ไม่ให้ใครออกมาหน่ะ” เอ็ดมันด์พูดต่อ

    “เออ แล้วถ้าเกิดชาร์ลีเป็นอะไรไป เราจะสืบจากไหนต่อครับ??” โกเมซถามไป

    “เรื่องสืบข่าวไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนี้ผมเตรียมทางออกไว้แล้วหล่ะ” เอ็ดมันด์พูดไป

    “เออ แล้วเรื่องของเบาะแสเพิ่มเติมที่ไดม่อนทิ้งเอาไว้หล่ะ ได้เรื่องหรือยัง??” คาร์ลถามคนในห้องประชุมไป แต่ก็ไม่มีใครตอบกลับมาเลย

    “ดูเหมือนจะมืดแปดด้านแล้วค่ะเรื่องนี้” โอเด็ตบอกไป

    “เฮ้อ คนที่เกี่ยวข้องกับไดม่อนก็ลงหลุมกันหมด ไม่รู้จะไปสืบจากไหนต่อ” เก็นโซพูดขึ้น

    “ถ้าเป็นแบบนี้ ต่อไปผู้บริหารคนไหนก็โดนเล่นงานได้สิครับ” ดู๊ดพูดขึ้น

    “นั่นสิ แบบนี้พวกครูอาจารย์ก็อาจจะโดนด้วยนะคะ” ซินพูดขึ้น

    “จะไม่มีใครต้องโดนอีกแล้ว ตอนนี้ทุกคนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาด้วยหล่ะ” เอ็ดมันด์พูดขึ้น

    “อ้อ รับทราบเลยค่ะ” นาตาลีตอบไป

    “แล้วเรื่องของเนชินหล่ะคะ จะเอายังไงต่อ??” อิซาเบลล่าถามไป

    “ยังไม่ต้องทำอะไรหรอก เดธกับดุ๊ดจัดการได้อยู่แล้วหล่ะ” เอ็ดมันด์ตอบไป

    “ว่าไงว่าตามกันเลยค่ะ” เชเพิร์ดพูดขึ้น

     

    ตกเย็น หลังจากที่การประชุมของเหล่าอาจารย์และผู้บริหารของโรงเรียนได้เสร็จสิ้นลงอย่างรวดเร็ว ด้วยความสงสัยว่าชาร์ลีได้ตายอยู่ในถ้ำเรียบร้อยแล้ว ในตอนนั้นกลุ่มของเนชินเองก็เดินมาที่หน้าหอพัก แต่ในตอนนั้น พวกเขาก็เจอกับกลุ่มของอินเฟอร์โน่เข้าก่อน ทั้งสองฝ่ายเห็นก็ทักทายกันในทันที

    “เฮ้ ว่าไง??” ลาเกียครูซทักทายพวกเขา

    “เออ หายดีแล้วนะนาย??” เนชินถามและหันไปทางอินเฟอร์โน่

    “เออ ฉันไม่ตายง่ายๆหรอก คราวหลังไม่ต้องแส่ก็ได้” อินเฟอร์โน่ตอบไป

    “ด้วยความยินดี แต่ระวังแล้วกัน พวกมันเล่นนายอีกแน่” อุโมจาพูดขึ้น

    “ช่างแม่ง ถ้าพวกมันมา ฉันจะฟัดกับพวกมันเอง” จอห์นตอบไป

    “เอาเถอะ ยังไงก้เอาตัวให้รอดแล้วกัน” ฟิลิปพูดขึ้น

    “ใช่ พวกฉันอาจไม่ได้อยู่ช่วยพวกนายตลอดนะเว้ย” โจตอบไป

    “เออ ฉันไม่กลัวพวกมันหรอก” แม็กซ์บอกไป

    “ว่าแต่ วันนี้พวกนายเจอพวกมันอีกหรือเปล่า??” อัลลันถามไป

    “ไม่นะ วันนี้ไม่ได้อะไรเลย” นากะตะตอบไป

    “ก็แน่หล่ะ ถ้าพวกมันก่อนเรื่องอีกที โดนจับได้แน่” คิมยูจินตอบไป

    “ฉันว่า บางทีเราก็ควรจะเล่นพวกมันกลับไปบ้างนะ” วาดีนพูดขึ้น

    “เดี๋ยวๆๆ จะทำไงหล่ะ ไฮน์ริชมีอาจารย์คาร์ลหนุนอยู่นี่??” คริสโตเฟอร์ถามไป

    “งั้นเราก็ต้องเล่นมันแบบเงียบๆ ไม่ให้มันรู้ตัวหน่ะ ไม่ว่าจ้างคนอื่นก็ได้ ไม่งั้นก็เล่นคนใกล้ตัวมันก็ได้” เอ็ดวาร์ดออกความเห็นไป

    “จริงด้วย คงต้องดูว่าใครอยู่ใกล้ตัวพวกมันบ้าง” เขตแดนบอกไป

    “นั่นสิ นายว่าไงหล่ะ??” เรนาวอสถามอินเฟอร์โน่ไป

    “ฉันไม่อยากร่วมมือกับพวกนายหรอก แต่ถ้าเพื่อกระทืบไอ้เวรนั่น ฉันยอมเอาด้วยก็ได้” อินเฟอร์โน่บอกไป

    “เออ ก็แล้วแต่ ตอนนี้อย่าเพิ่งให้ใครเห็นพวกเราติดต่อกันแล้วกัน ถ้าไม่อย่างงั้นอาจจะมีใครเอาไปฟ้องไฮน์ริชก็ได้” อุโมจาพูดไป

    “โอเค แยกกันก่อนแล้วกัน” เนชินบอกไป ในตอนนั้นกลุ่มของอินเฟอร์โน่ก็เข้าที่พักอย่างรวดเร็ว ส่วนลาเกียครูซก็เอากระเป๋าอะไรบางอย่างให้กับพวกของเนชิน พวกของเนชินรับมา จากนั้นก็เปิดมันดูในทันที และพบว่าด้านในมีเครื่องดักฟังขนาดเล็ก รวมถึงอุปกรณ์บันทึกเสียง และกล้องวงจรปิดขนาดเล็กไม่กี่เครื่อง

    “โห เยี่ยมเลยแหะ” เนชินพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง ตัวของมอร์ตี้เองก็มาเจอกับพวกของเนชินพอดี 

    “เฮ้ พวกนาย ทางนี้” มอรี้บอกกับพวกเขา จากนั้นก็รีบพาพวกเขาไปพบกับคนอื่นๆในทันที พวกเขาเดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงเขตโรงยิมเดิมที่พวกเขามาใช้พื้นที่ในการประชุม ซึ่งในตอนนั้น กลุ่มของนานะ รวมถึงเดธกับดู๊ด และนาตาลีที่กำลังรอพวกเขาอยู่

    “เฮ้ มาเลย” นาตาลีทักพวกเขา ก่อนที่ไม่นานนักพวกเขาก็จะมารวมตัวกันเพื่อประชุมกันต่อ

    “โอเคครับ ว่าไงครับ??” เนชินถามไป

    “ตอนนี้มีข่าวมาว่าคุณชาร์ลีตายแล้ว แต่เรื่องนี้ยังไม่ยืนยันนะ” นาตาลีบอกกับทุกคนไป ในตอนนั้นพวกนักเรียนชายต่างก็พากันตกใจมาก

    “อะไรกัน นี่พวกเธอรู้แล้วเหรอ??” เนชินถามไป

    “ก็ใช่ อาจารย์เขาก็บอกพวกเราแล้วอ่ะ” นานะตอบไป

    “ว่าแต่ พวกคุณเชื่อหรือเปล่าว่าเขาตายแล้ว??” อุโมจาถามไป

    “ถ้าถามฉัน ฉันไม่เชื่อหรอก ถ้ายังไม่เห็นศพหมอนั่นหน่ะ” เดธตอบไป

    “หน่วยสังหารบอกว่า ถ้ำถล่มปิดทาง ถ้าไม่มีทางออก เขาอาจตายในถ้ำก็ได้นะ” อดาเน็คพูดขึ้น

    “ตอนนี้ความลับทุกอย่างคงตายไปพร้อมกับเขาแล้วสินะครับ” อัลลันพูดขึ้น

    “นั่นสิ ว่าแต่ นั่นกระเป๋าอะไรอ่ะ??” คามาคุริถามเมื่อสังเกตเห็นกระเป๋าที่กลุ่มของเนชินถือมา กลุ่มของเนชินเปิดมันออกมา ก็เป็นเครื่องดักฟังกับกล้องวงจรปิดขนาดเล็ก พวกเขาหยิบของพวกนั้นออกมาดูในทันที 

    “โอเค ไมค์ดักฟังอยู่นี่ น่าจะเชื่อมต่อกับเครื่องบันทึกเสียง” โจพูดขึ้น

    “ถ้าเราเอาไปติดที่โต๊ะของอาจารย์คาร์ลได้ จะดีมากเลยนะ” มาเรียพูดขึ้น

    “แต่เรื่องของเรื่องคือ เราจะเข้าไปในห้องยังไงหล่ะ??” คริสโตเฟอร์ถามไป

    “นั่นสิ หน้าห้องมันมีทั้งยามและกล้องด้วย??” ฟิลิปถามเสริม

    “ถ้าเราจัดการกับยามและดับกล้องวงจรปิดได้ ก็น่าจะดี” มาเรียน่าพูดขึ้น

    “เรื่องกล้องวงจรปิด ถ้าจัดการที่ห้องควบคุมได้ ก็ไม่ยากเย็นหรอกนะ” สเตลล่าบอกไป

    “ห้องกล้องวงจรปิดเหรอ ฉันจะจัดการเอง” นาตาลีพูดขึ้น

    “ส่วนพวกยาม ฉันรู้จักพวกมัน” มอร์ตี้พูดขึ้นและยิ้มมุมปากไป

    “แต่ว่าเราจะลงมือตอนไหนหล่ะคะ??” เมอร์ลิน่าถามไป

    “ถ้าเราลงมือคืนนี้หล่ะครับ??” คิมยูจินถามไป

    “อืม นั่นสิ คนจะเข้าไปก็คงต้องรู้เรื่องเครื่องนั่นนี่หน่อย” เอลซ่าพูดขึ้น และในตอนนั้นมาเรียก็ยกมือขึ้นในทันทีเพราะเธอเองก็พอจะรู้เรื่องอุปกรณ์พวกนี้

    “ถ้าอย่างงั้น พวกเราซักคนก็คงต้องไปด้วยหล่ะ” เขตแดนพูดขึ้น ก่อนที่ในตอนนั้น ตัวของคิมยูจินที่พอจะรู้เรื่องอุปกรณ์ก็ยกมือขึ้น

    “โอเค ที่เหลือเรามาวางแผนกันดีกว่า” มอร์ตี้พูดขึ้น

    “เวลาเคอร์ฟิว 2 ทุ่ม ถ้าเป็นไปได้ เรารีบทำให้เสร็จก่อนที่เวลาเคอร์ฟิวดีกว่า” เดธพูดขึ้น ในขณะนั้นพวกเขาก็ดูนาฬิกาของตัวเอง

    “ตอนนี้ 6 โมง 15 หล่ะนะ” ดู๊ดพูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้นก็ไปกันเลย” มอร์ตี้พูดขึ้นจากนั้นก็รีบพากันไปยังตึกหลักของสำนักงานในทันที

     

    กลุ่มของเนชินพากันมาถึงประตูด้านหลังของอาคาร ซึ่งมอร์ตี้ใช้มันในการเข้าออกตึกบ่อยๆ โดยที่ตัวของนาตาลีนั้นอาสาจะไปที่ห้องกล้องวงจรปิดเพื่อลบข้อมูล ส่วนอาจารย์เดธกับดู๊ดก็คอยช่วยดูต้นทางให้ มอร์ตี้พาพวกเด็กๆ เข้าไปที่ประตูหลัง จากนั้นก็ค่อยๆเดินไปเรื่อยๆเพื่อตรงไปที่หน้าห้องของคาร์ล แล้วก็เป็นอย่างที่เธอคิด ตรงนั้นมียามสองคนกำลังเฝ้าหน้าประตูอยู่

    “รอนี่นะ” มอร์ตี้พูดขึ้น และในตอนนั้นตัวของเธอก็เดินอาดๆไปที่หน้าประตู โดยที่ยามสองคนนั้นก็เจอกับเธอเข้า

    “เฮ้ย มอร์ตี้ เดี๋ยวนี้ไม่ต้องเข้าออกคุกแล้วสินะ??”

    “เออ ใช่ อยากเอาคืนเรื่องเมื่อปีก่อนสินะ??” มอร์ตี้ถามไป

    “แน่นอน แต่ตอนนี้พวกฉันยังไม่ว่างหว่ะ” 

    “โธ่ งั้นก็ไม่ต้องพูดดีกว่า เหม็นขี้ฟัน” ในตอนนั้นมอร์ตี้ก็เดินผ่านไปในทันที

    “เฮ้ยเดี๋ยว ถ้าอยากจะเอาก็มาเลย!!” ยามตะโกนออกมา

    “จะตีกันตรงนี้จริงเหรอ ทีอื่นดีกว่าม้าง??” มอร์ตี้ถามไป ในตอนนั้นเธอก็เดินออกไปในทันที ส่วนพวกมันสองคนก็ตามออกไปบ้าง และเมื่อพวกมันไปแล้ว พวกเด็กๆก็พากันไปที่หน้าประตูในทันที

    “แอ๊ด”

    “ประตูไม่ได้ล็อคนี่ งั้นรีบไปเลย” เนชินพูดขึ้น ก่อนที่มาเรียและคิมยูจินจะเอากล้องกับไมค์เข้าไปในห้องทันที ในขณะที่คนอื่นๆเองก็กำลังรออยู่หน้าห้อง ผ่านไป 5 นาที พวกเขารู้สึกว่ามันแปลกๆ เพราะทั้งสองคนยังไม่ยอมออกมา

    “ฉันไปดูเอง” เนชินพูดขึ้น แต่ไม่นานนักทั้งคู่ก็ออกจากห้องมาอย่างรวดเร็ว 

    “เฮ้ กว่าจะมาได้นะ” เนชินพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก พวกเขาจะได้ยินเสียงกุกกักแถวนั้น ทำเอาทุกคนตกใจกันมาก

    “ไปเร็ว” เนชินพูดขึ้น ก่อนที่ทุกคนจะรีบหนีออกจากตึกไปในทันที และเมื่อพวกเขาหนีออกมาด้านนอกแล้ว พวกเขาก็พบกับมอร์ตี้ที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว

    “อ้าวพี่”

    “เออ เรียบร้อยแล้วหล่ะ ไปเถอะ” มอร์ตี้พูดขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะรีบวิ่งออกไปในทันทีเพื่อรวมตัวกันที่เขตโรงยิม พวกเขามองนาฬิกาก็พบว่าใกล้จะ 1 ทุ่มแล้ว 

     

    ไม่นานนัก ทุกคนก็กลับมารวมตัวกันได้สำเร็จ โดยที่กลุ่มของเนชินกลับมาถึงก่อน ส่วนนาตาลี อาจารย์เดธและดู๊ด กลับมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน และเมื่อทุกคนมารวมตัวกันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็พูดคุยกันในทันที

    “โอเค ติดตั้งเครื่องดักฟังเป็นไงบ้าง??” เดธถามไป

    “ก็เรียบร้อยดีค่ะ” มาเรียตอบไป

    “แล้วเรื่องกล้องวงจรปิดหล่ะครับ??” อุโมจาถามต่อ

    “ฉันจัดการแล้ว ฉันลบคลิปตอนที่พวกนายเข้าไปในนั้นหมดแล้วหล่ะ” นาตาลีตอบไป

    “เออ ว่าแต่ ทำไมพวกนายออกมาช้าจังหล่ะ??” เนชินถามไป

    “คือว่า ฉันไปเจอของดีในห้องแกหน่ะสิ” คิมยูจินพูดขึ้น ก่อนที่ในตอนนั้น เขาจะหยิบโทรศัพท์เครื่องหนึ่งขึ้นมาให้ทุกคนได้ดูอย่างรวดเร็ว

    “มือถือเหรอ ของอาจารย์คาร์ลเหรอ??” นานะถามไป และในตอนนั้น นาตาลีเองก็คุ้นเคยกับโทรศัพท์เครื่องนั้น เธอหยิบเอามาดูในทันที

    “นี่มันโทรศัพท์คุณไดม่อนนี่” นาตาลีพูดขึ้น ทำเอาทั้งเดธและดู๊ดตกใจขึ้นมา

    “โทรศัพท์คุณไดม่อน ไปเจอในห้องของคาร์ลเนี่ยนะ??” ดู๊ดถามไป

    “งั้นก็แปลว่า ไอ้คาร์ลมันมีส่วนเรื่องคุณไดม่อนสินะคะ” มอร์ตี้พูดขึ้น

    “งั้นเราคงต้องสืบว่าเราหาเบาะแสอะไรจากโทรศัพท์นี้ได้บ้างนะ” อัลลันพูดขึ้น

    “เดี๋ยวฉันเอาไปจัดการเอง” มอร์ตี้ตอบไป

    “แปลว่า เรื่องนี้อาจารย์คาร์ลอยู่เบื้องหลังทั้งหมดสินะ” อดาเน็คพูดขึ้น

    “แต่ฉันว่า แบบนั้นมันจะดูง่ายเกินไปหน่ะสิ” เขตแดนพูดขึ้น

    “ไม่น่าง่ายหรอกนะ อาจารย์คาร์ลอยากขึ้นมาเป็นใหญ่แทนคุณเอ็ดมันด์ แค่นั้นก็น่าจะเดาออกแล้วหล่ะ” เอลซ่าพูดขึ้น

    “นั่นสิ ไม่เห็นต้องไปคิดอะไรมากเลย” คามาคุริพูดเสริม

    “แต่ฉันว่า อาจจะมีใครทำงานกับเขาด้วยก็ได้” โจพูดขึ้น

    “เออ เป็นไปได้ อาจารย์คาร์ลอาจจะไม่ได้ทำคนเดียวก็ได้” มาเรียน่าพูดเสริม

    “ตอนนี้ก็คงต้องหาหลักฐานที่จับได้จะๆสินะ” ฟิลิปพูดขึ้น

    “เอาเป็นว่า คืนนี้เรามาสอดแนมดีกว่าว่าอาจารย์แกมีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง” สเตลล่าพูดขึ้น

    “พวกเราจะถอยจับตามองว่าอาจารย์คาร์ลคุยอะไรกับใครหรือทำอะไรบ้าง” คริสโตเฟอร์พูดขึ้น

    “โอเค ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมก็มาคุยกันแล้วกัน” เมอร์ลิน่าพูดไป และในตอนนั้น จู่ๆ ภารโรงคนหนึ่งก็เห็นพวกเขากำลังยืนคุยกันอยู่ เลยตะโกนออกมา

    “ทำอะไรกันหน่ะ??”

    พวกเขาได้ยินเสียงก็ตกใจเล็กน้อย แต่ตอนนั้นเอองเดธกับดู๊ดก็ไปช่วยเคลียร์ให้

    “พวกฉันเอง” เดธบอกไป

    “อ้าว พวกคุณมาคุยกันเหรอ??” ภารโรงถามไป

    “ก็นิดหน่อย ช่วงนี้พวกฉันต้องดูแลเด็กใหม่หน่ะ” ดู๊ดตอบไป

    “ครับ นี่ก็ใกล้เคอร์ฟิวแล้วนะครับ” ภารโรงพูดจบก็เดินออกไปในทันที

    “ฉันกลับก่อนนะ เอาไว้ถ้ามีความเคลื่อนไหวของพวกหน่วยสังหาร ฉันจะบอกพวกนายแล้วกัน” นาตาลีพูดจบก็ขอแยกตัวออกไปก่อนอย่างรวดเร็ว

    “ถ้าอย่างงั้นวันนี้เราแยกย้ายก่อนดีกว่า” มอร์ตี้พูดจบทุกคนก็แยกย้ายกันไปในทันที สองอาจารย์จอมโหดก็แยกย้ายกลับไปที่ห้องพักอาจารย์ ส่วนเนชินและกลุ่มของเขาก็กลับไปที่ห้องพักของพวกเขาต่อ

    “ไม่รู้ว่าไอ้คาร์ลมันรู้หรือยังนะ ว่าโทรศัพท์อาจารย์ไดม่อนหายไป??” เนชินถามไป

    “ฉันว่ายังหรอก หรือถ้ามันรู้ มันก็อาจจะดิ้นเป็นเจ้าเข้าก็ได้” อุโมจาตอบไป

    “เอาเถอะ ขอแค่มันไม่รู้ว่าพวกเราขโมยก็พอแล้วหล่ะ พรุ่งนี้อาจจะต้องรอข่าวจากพี่มอร์ตี้ว่าจะได้อะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า” เนชินบอกกับทุกคนไป

    =====================================================================

    พวกเขาจะสืบอะไรกันต่อ และเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า 

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย 

    ให้ของขวัญเป็นกำลังใจกันได้ครัช ไหว้หล่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×