ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sorova - เมื่อประเทศฉันมันบัดซบ

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 5 : สงครามเขต 3

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 63


    ช่วงสายในวันถัดมา หลังจากที่กองทัพของโดนาทอร์ยึดเมืองหลวงได้เบ็ดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชาวเมืองหลวงก็ไชโยโห่ร้องกันใหญ่ มีการเฉลิมฉลองกันในเมืองอย่างสนุกสนาน พวกของเนวิสก็เดินออกมาร่วมฉลองที่ใจกลางเมืองหลวงด้วย ทั้งเมืองกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และท่ามกลางการเฉลิมฉลอง มีการลากตัวอาริสและพรรคพวกมาแห่ประจานกันรอบเมืองด้วย รวมถึงพวกที่เคยสนับสนุนนายพลปราฟยาฟก็ไม่รอด พวกเขาโดนแห่ประจานพร้อมกับเสียงโห่ของชาวเมืองที่โห่ขับไล่พวกเขา

    “ไปตายซะ ไปตายตามเผด็จการของพวกมึงไป!!”

    “เฮ้อ แม้ว่าไอ้พวกนี้จะไม่ใช่ตัวการใหญ่ แต่ก็มีส่วนที่ทำให้ประเทศนี้พินาศเหมือนกัน” เนวิสพูดขึ้น

    “ใช่ ไอ้พวกที่อยู่นอกประเทศด้วย ไอ้พวกนี้มันระยำ” เรนิต้าพูดขึ้น

    “ไม่ต้องห่วง ถึงยังไงพวกมันก็ต้องมาที่นี่อยู่แล้ว” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “ใช่ ตอนนี้เราติดต่อกับพวกเราที่อยู่นอกประเทศได้แล้ว พวกเขาจะลากมันกลับมาเอง” รอนนี่พูดขึ้น

    “แต่ว่า พาสปอร์ตประเทศเรายังใช้ไม่ได้นะ” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “เรื่องพาสปอร์ตไม่ต้องห่วง ฉันจัดการเรียบร้อยแล้วหล่ะ” วาลิน่าพูดขึ้น

    “ว่าแต่ เรื่องที่เราจะบุกเขต 3 นี่จะเอายังไงหล่ะ??” เนวิสถามไป

    “พวกมันคงเอากำลังมารับเราแล้วหล่ะ แต่เรายึดปืนครกของพวกมันมาด้วยส่วนหนึ่ง เราจะถล่มพวกมันให้เละเลย” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “ใช่ ตอนนี้จำนวนของเราก็เยอะมากขึ้นด้วย บุกเขต 3 ไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอก” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “แต่พวกมันก็มีกำลังนะ เยอะด้วย ไหนจะรถหุ้มเกราะอีก” เรนิต้าพูดปรามไป

    “ฉันรู้จักไอ้สิรานิสดี ไอ้บ้านี่มันขี้ขลาด มันต้องเอากองกำลังชั้นดีคุ้มกันมันอยู่แล้ว” วาลิน่าพูดขึ้น

    “อืม สงสัยงานนี้คงต้องไปสำรวจก่อนหล่ะ ว่ากองกำลังของมันเป็นยังไง” รอนนี่พูดขึ้น และมาร์ตินก็พยักหน้าไปด้วย

    “คุณมาร์ติน คุณพอจัดการได้หรือเปล่าครับ??” เนวิสหันไปถามมาร์ตินไป มาร์ตินได้แต่พยักหน้า

    “งานนี้เราต้องออมกองกำลังไว้ อย่าเพิ่งเข้าชนจนกว่าเราจะแน่ใจว่าเราจะเป็นต่อ” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “ตอนนี้ฉันลองให้คนส่งโดรนไปสำรวจแล้วหล่ะ คิดว่าช่วงเที่ยงโดรนน่าจะกลับมา” รอนนี่พูดขึ้น

    “ถ้ากลับมาเมื่อไหร่ เราจะวางแผนกันต่อ เราคิดว่าจะโจมตีช่วงดึกนี่แหละ พวกมันขี้เกียจจะตาย” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “ใช่ๆ งานนี้ต้องเล่นพวกมันให้จบเลย ได้ยินว่าบ้านของไอ้สิรานิสมันเก็บเงินดอลล่าห์ไว้เป็นล้าน เราจะเอามาถลุงให้หมดเลย” วาลิน่าพูดขึ้น

    “ฉันว่า เก็บไว้ซื้ออาวุธยิงรถถังของพวก Khorne ดีกว่า” เรนิต้าพูดขึ้น

    “นั่นดิ ฉันได้ข่าวมาว่าพวกมันเก็บ T72 ไว้เกือบร้อยคันเลย” รอนนี่พูดขึ้น

    “บ้าแล้ว ถ้าอย่างงั้นเราก็คงต้องซื้อ Javelin ซักกระบอกแล้วหล่ะ” เนวิสพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง จู่ๆพวกเขาก็ได้ยินเสียงประกาศจากชายคนหนึ่งซึ่งขับรถกระบะก็ประกาศอะไรบางอย่าง ซึ่งดึงดูดความสนใจจากชาวบ้านได้หลายคน

    “พ่อแม่ที่น้องทั้งหลาย เรามีข่าวดีอีกหนึ่งข่าว ฟังทางนี้ คุณปราบี้กับคุณพาร์นิต้ากลับมาแล้ว พวกเราไปต้อนรับเขาที่สนามบินกันเถอะ!!” 

    เมื่อเขาพูดจบ ชาวบ้านต่างพากันโห่ร้องดีใจกันยกใหญ่ พวกเขาบางส่วนก็รีบเดินเท้าไปที่สนามบินกันอย่างตื่นเต้น ส่วนพวกของอาริส ในตอนนั้นเองทหารของโดนาทอร์ก็พาพวกนั้นไปที่ศาลอาญาในเมืองทันที พวกเขาถูกลำเลียงไปที่นั่น บางส่วนก็หวาดกลัว บางส่วนก็ร้องไห้และพยายามร้องขอความเมตตาจากฝ่ายโดนาทอร์

    “พวกแกคิดว่าเราจะฆ่าแกใช่ไหม แต่ไม่ใช่ เราคือมนุษย์ที่มีอารยะธรรม ไม่เหมือนกับพวกแก ไอ้พวกคนเถื่อนทั้งหลาย พวกแกต้องโดนขึ้นศาล และลงโทษตามกฎหมายสากล พวกแกควรจะขอบคุณคุณโดนาทอร์ซะ!!”

    ผู้คุมคนหนึ่งพูดขึ้น บางส่วนก็ถึงกับร้องไห้และคุกเข่าลงกับพื้น แต่ดูเหมือนอาริสจะกลัวมากกว่าใครเพื่อน

    “ความจริงไอ้พวกห่านี่ น่าจะโดนยิงทิ้งให้หมด” เนวิสพูดขึ้น

    “เอาเถอะ แต่ที่เขาประกาศ คุณปาร์บี้กำลังจะกลับมาเหรอ??” วาลิน่าถามไป

    “นั่นสิ ไม่ได้เจอเขามาตั้งนานแล้ว น่าจะไปต้อนรับเขานะ” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “ฉันว่า เราสนใจงานของเราตอนนี้ดีกว่า” รอนนี่พูดขึ้น

    “ใช่ ฉันคิดว่าถ้าเราได้เขต 3 เราจะได้เสบียงมาอีกเยอะเลย แถวนั้นเป็นเขตเสบียงทั้งนั้น” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “เขต 3 กว้างใหญ่มาก อาจจะใช้เวลาหลายวันกว่าจะยึดหมด” เนวิสพูดขึ้น

    “ไม่ต้องห่วง พวกนั้นฟังคำสั่งสิรานิสโดยไม่คิดจะถาม ถ้าเล่นงานมันได้ เขต 3 ก็เป็นของเรา” เรนิต้าพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง มาร์ตินก็ใช้ภาษามือบอกอะไรบางอย่าง และวาลิน่าก็เข้าใจที่มาร์ตินจะสื่อด้วย

    “หือ จะเอา UGV มาใช้งั้นเหรอ??” วาลิน่าถามไป

    “เราเก็บมันไว้ที่โกดังของเรา ไม่รู้จะยังใช้ได้หรือเปล่านะ??” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “แถมโปรแกรมเป็นภาษารัสเซีย นายคงต้องขับแล้วหล่ะฟรอนเทียร์” เรนิต้าพูดขึ้น

    “ได้ ไม่ยากหรอก ก็เหมือนบังคับรถนั่นแหละ” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “มีรถทั้งหมด 5 คัน ต้องใช้ประหยัดๆหน่อยหล่ะ” รอนนี่พูดขึ้น

    “ผมว่า ถ้าจะบุกเขต 3 เนี่ย ใช้คันเดียวก็พอหล่ะ” เนวิสพูดขึ้น ในระหว่างที่กำลังคุยกันนั้นเอง รอนนี่ก็ได้รับโทรศัพท์จากสายของเขาที่สอดแนมเขต 3 เขาคุยกันอยู่ซักพัก จากนั้นก็มาบอกคนอื่นๆในทันที

    “ทุกคน สายของฉันที่เขต 3 ติดต่อมาแล้ว เขาบอกว่ากองกำลังของสิรานิสมีประมาณ 4 พัน แต่แปลกนะ พวกมันจะใช้โล่ปราบจลาจล ปืนพก ปืนยิงแก๊สน้ำตากับรถฉีดน้ำมาป้องกันพวกเรา แทนที่จะใช้อาวุธหน่ะ” รอนนี่พูดขึ้น

    “หรือว่า อาจจะเป็นกับดักของพวกมัน??” ลูซิน่าถามไป

    “มันคงจะเอาอาวุธทั้งหมดไปคุ้มกันสิรานิสมันหน่ะ” วาลิน่าพูดขึ้น

    “มันส่งคนมาตาย อาวุธก็แทบไม่มี มันคิดว่ามันจะเอามาปราบม็อบเหรอ??” ฟรอนเทียร์ถามไป

    “มันคงคิดว่าพวกเรามีไม่มาก แถมอาวุธน้อย เลยออมอาวุธไว้คุ้มกันบ้านมันดีกว่า” เรนิต้าพูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้น เราก็ถล่มมันให้พวกมันขวัญเสีย จากนั้นก็ใช้ UGV กรุยทางเข้าไปเลย แบบนี้พวกเราชนะแน่ๆ” เนวิสพูดขึ้น

    “อืม จริงด้วย เกราะของ UGV หนาประมาณ 3 เซน น่าจะกันกระสุนพวกมันได้ระดับหนึ่งหน่ะ” รอนนี่พูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้นกลับไปเราก็ระดมกำลังเลย พวกมันคงเตรียมคนไว้รอแล้วหล่ะ” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “สั่งคนของเราให้เอา UGV มาสมทบด้วย แล้วเจอกันที่ชายแดนเขต 3 เลย” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “ได้ๆ เดี๋ยวฉันจัดการเองเรื่องนั้น” วาลิน่าพูดขึ้น

    “โอเค เรากลับไปที่ค่ายของเราก่อนดีกว่า แล้วค่อยว่ากัน” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น 

    “นั่นดิ อยากหาอะไรกินอยู่พอดีเลย ไปกันเถอะ” เรนิต้าพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็เดินทางกลับไปที่รังของพวกเขา เพื่อเตรียมการโจมตีเขต 3 ต่อไป

     

    ณ สนามบินนานาชาติ ใกล้ท่าเรือเมืองหลวง ซึ่งประชาชนชาวโซโรวาหลายคนได้ไปต้อนรับปาร์บี้และพาร์นิต้าที่สนามบินอย่างอบอุ่น และโดนาทอร์กับปาโบลก็ไปด้วย เมื่อปาร์บี้เข้ามายังอาคารในสนามบิน ประชาชนหลายคนก็โห่ร้องดีใจกันยกใหญ่ และโดนาทอร์ในตอนนั้นก็ไปกอดกับทั้งคู่ในทันทีอย่างอบอุ่น

    “ขอต้อนรับกลับบ้านเรานะครับ!!” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “หลายปีมาแล้วนะคะ คุณปาร์บี้ คุณโดนาทอร์” พาร์นิต้าพูดขึ้น

    “เมียผมบอกว่า ถ้าผมไม่ชนะ ห้ามกลับฝรั่งเศสเด็ดขาด” ปาร์บี้พูดขึ้น ทำเอาพวกเขาถึงกับเฮฮากันท่ามกลางความมืดมน

    “ว่าแต่ คุณเวเรียส คุณพีต้าร์ และคุณอเมร่าหล่ะครับ??” ปาโบลถามอย่างสงสัย

    “พวกเขาบอกว่าอีก 3 วันพวกเขาจะมาที่นี่ค่ะ” พาร์นิต้าพูดขึ้น

    “ตอนนี้สงครามที่นี่เป็นยังไงบ้างหล่ะ??” ปาร์บี้ถามโดนาทอร์ไป

    “ตอนนี้เรายึดเมืองหลวงได้แล้ว แต่สงครามยังไม่จบดีหน่ะ” โดนาทอร์พูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง ทหารของโดนาทอร์คนหนึ่งก็มารายงานอะไรบางอย่างกับเขาอย่างรวดเร็ว

    “ท่านครับ มีข่าวจากชายแดนเขต 2 ครับ!!”

    “เหรอ มีอะไรหล่ะ??” โดนาทอร์ถามไป

    “พวกนั้นเอากำลังคนและรถถังมาตรึงกำลังไว้ที่นั่น พร้อมกับรถถังเป็นสิบๆคันเลยครับ”

    “โห นี่พวกมันมีรถถังเยอะขนาดนี้เลยเหรอ??” ปาโบลถามไป

    “คงเป็นรถถังที่พวกมันซื้อมากินส่วนแบ่งหน่ะ” พาร์นิต้าพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง กลุ่มเด็กหนุ่มในชุดนักศึกษากลุ่มหนึ่งทั้งชายหญิงก็เอาดอกไม้ช่อใหญ่มาให้กับปาร์บี้ ซึ่งดูเหมือนปาร์บี้จะชอบมาก

    “เราเป็นนักศึกษากฎหมาย เรามามอบมันให้คุณครับ!!”

    “อืม ผมขอบคุณทุกคนมากครับ หลังจบสงครามนี้ พวกเราจะร่วมมือกันกอบกู้เศษซากของตุลาการที่ถูกทำลายกลับคืนมา พวกคุณทุกคนต้องมีส่วนร่วมกับมัน!!” ปาร์บี้พูดกับนักศึกษาพวกนั้น

    “เอาหล่ะ ว่าแต่ เรื่องสงครามเราจะอายังไงต่อหล่ะ??” ปาโบลถามอย่างสงสัย

    “เราคงต้องตรึงกำลังไว้จนกว่าจะมีกำลังมาเสริม เราต้องเตรียมปืนยิงรถถังไว้จัดการพวกมันแล้วหล่ะ” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “ผมจะไปหา RPG กับปืนต่อสู้รถถังเพิ่มนะครับ” ปาโบลพูดขึ้น

    “แล้วพวกมันจะไม่โจมตีเราอย่างงั้นเหรอครับ??” ปาร์บี้ถามโดนาทอร์ไป

    “มันยังไม่กล้าหรอก เพราะพวกมันอาจจะโดนเขตอื่นโจมตีได้” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้น เราจะลองใช้ประชาคมโลกช่วยดีหรือเปล่าคะ??” พาร์นิต้าถามไป

    “อืม ก็น่าสนใจนะ ตอนนี้เราคงต้องใช้ทุกอย่างที่มีหล่ะ” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “ผมไม่ค่อยเชื่อหรอกว่าพวกนั้นจะช่วยได้ แต่เอาเถอะ ตอนนี้เราควรใช้ทุกอย่างที่มี คนของเรามีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอกครับ” ปาโบลพูดทิ้งท้ายไว้

    และอีกฝากหนึ่งของสนามบิน ในตอนนั้นเองหญิงสาวคนหนึ่งก็ได้ถ่ายรูปของโดนาทอร์และคนอื่นๆไว้ จากนั้นก็พยายามแทรกตัวออกมาจากพื้นที่ แล้วไปที่ห้องๆหนึ่ง จากนั้นก็เอาแท็ปแล็ตของเธอมาทำอะไรบางอย่าง

    “เจซซินเรียกฐาน ฉันกำลังส่งรูปไป!!” เจซซินพิมพ์ไป จากนั้นก็อัพโหลดรูปไปด้วย

    “โห คนใหญ่มาเองเลยนะเนี่ย!!”

    “ใช่ค่ะ และเท่าที่ดักฟัง ได้ยินว่าสมาชิกพรรคที่เหลืออาจจะกลับมาด้วยค่ะ” เจซซินพิมพ์ตอบไป

    “อืม จับตาดูพวกเขาไว้ก่อน”

    “ฉันยังมีอีกงาน ฉันต้องจับตาองค์กรลับที่นี่ ซึ่งน่าจะกำลังดำเนินงานอยู่” เจซซินพิมพ์ไป

    “อ้อ กลุ่มภาคีนั่นหน่ะเหรอ ระวังด้วยนะ ได้ยินมาว่าพวกมันอันตรายมาก”

    “ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันพอรู้ว่าต้องทำยังไง แล้วจะให้ฉันเค้นพวกมันซักคนหรือเปล่าคะ??” เจซซินถามไป

    “ถ้าเธอจะเอาอย่างงั้น ก็ทำให้เงียบๆหน่อยนะ”

    “ค่ะ เรื่องนั้นฉันจัดการเอง แล้วจะติดต่อไปนะคะ” เจซซินพูดขึ้น จากนั้นเธอก็เก็บอุปกรณ์ของเธอในทันที จากนั้นเธอก็เดินออกไปจากห้องๆนั้นในทันที และในตอนนั้นเอง เธอก็เดินไปชนกับแม่บ้านที่ทำความสะอาดสนามบินคนหนึ่ง

    “อุ๊ย ขอโทษจ้ะ!!”

    “ไม่เป็นไรค่ะป้า” เจซซินพูดขึ้น จากนั้นเธอก็เดินออกไปที่หน้าสนามบินในทันที ซึ่งมีรถมอไซค์คันหนึ่งจอดรออยู่ เธอเดินไปขี่มอไซค์แล้วขับออกจากสนามบินในทันที

     

    กลับมายังเขต 2 ซึ่งกลุ่ม Khorne ได้นำกำลังส่วนใหญ่มาตรึงกำลังไว้ที่เขตชายแดนระหว่างเขต 2 กับเขตเมืองหลวง พวกเขานำทั้งปืนใหญ่ ปืนกล และรถถังไปตรึงกำลังไว้ รวมถึงรถถัง T-72 ซึ่งเป็นรถถังประจัญบาน และตัวเรดเดวิลก็เดินทางมาตรวจสอบกำลังพลของเขาด้วยตัวเองด้วย สูราจาเป็นคนที่พาไปดูด้วยตัวเอง

    “ตอนนี้เรานำกำลัง 1 หมื่นกว่านายมาตรึงไว้หมดแล้วครับ!!”

    “อืม แค่นี้เองเหรอ มีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า??” เรดเดวิลถามไป

    “เราจัดแนวปืนใหญ่ไว้ด้านหลัง ส่วนรถถัง T72 ก็มาที่นี่หมดแล้วครับ” สูราจาพูดขึ้น

    “อืม ดีแล้วหล่ะ” เรดเดวิลพูดขึ้น

    “ทำไมเราไม่บุกเมืองหลวงเลยหล่ะครับ??” สูราจาถามไป

    “ถึงคนของเราจะเยอะกว่ามัน แต่ชาวเมืองโวโรวานั่นยังจัดว่าอันตรายอยู่ พวกนั้นต้องสู้ตายแน่ๆ”

    “พวกมันอาจจะไม่ทำถึงขนาดนั้นหรอกครับ” สูราจาพูดปรามไป

    “แกยังไม่เข้าใจความโกรธแค้นของพวกมันดีพอ พวกมันพร้อมจะตายเพื่อต่อต้านพวกเรา” เรดเดวิลพูดขึ้น

    “ครับ แล้วเขตอื่นหล่ะครับ เราจะเอายังไงครับ??”

    “ตอนนี้รอดูสถานการณ์ไปก่อน พวกมันไม่มีปัญญาโจมตีเราหรอก” เรดเดวิลพูดขึ้น

    “ผมว่า ตอนนี้ไอ้พวกเขต 6 กับ 7 กำลังอันตรายนะครับ”

    “ใช่ แต่มันต้องผ่านเขต 5 มาก่อนหน่ะสิ” เรดเดวิลพูดขึ้น

    “อ้อ เขตของไอ้เด็กเมื่อวานซืนนั่นเหรอครับ เรายกพลไปไม่กี่คนก็เล่นงานมันได้แล้วครับ” สูราจาพูดขึ้น

    “ก็ใช่ แต่มันก็มีกำลังอยู่ อย่าเพิ่งประมาทไปแล้วกัน” เรดเดวิลตอบไป

    “ท่านครับ ตอนนี้เครื่องบินของพวกเรากำลังจะซ่อมเสร็จแล้ว รอแค่อะไหล่มาถึงก็พอแล้วครับ” สูราจารายงานเรดเดวิลไป

    “ดี ถ้าเรามีกำลังทางอากาศ เราจะครองประเทศนี้!!” เรดเดวิลพูดขึ้น จากนั้นเขาก็เกิดหมดแรงและอ่อนแรงขึ้นมา สูราจาถึงกับต้องประคองเขา

    “ท่านครับ ผมจะพาไปพักนะครับ!!”

    “ก็ดีเหมือนกัน เตรียมรถให้ฉันดู จัดการที่เหลือด้วยแล้วกัน” เรดเดวิลพูดขึ้น จากนั้นทหารก็ช่วยกันพาเขาไปที่รถเพื่อกลับที่พักในทันที

     

    กลับมายังเขต 4 ซึ่งเคนดนช่าและบาร์มามัสก็ได้จัดแนวรบเพื่อป้องกันค่ายของตัวเอง พวกเขาทั้งเสริมแนวป้องกันและวางกำลังไว้ตามจุดต่างๆ ในระหว่างที่พวกเขากำลังลงมือทำอย่างแข็งขัน ในตอนนั้นเอง มีผู้หญิงขี่ม้าคนหนึ่งเดินทางมาที่ค่ายของเขา กลุ่มทหารพยายามจะขวางทางไว้ แต่โอเมอร์ดันมาเห็นเขา เลยทักไปในทันที

    “พี่แองเจลิก้า ทางนี้ครับ!!” 

    แองเจลิก้ารีบขี่ม้าไปหาโอเมอร์ในทันที และทั้งเคนโนช่ากับบาร์มามัสก็มาหาแองเจลิก้าในทันที

    “อ้าว แองจี้ เป็นยังไงบ้าง??” เคนโนช่าถามไป

    “เมื่อเช้ามีพวกของไอ้แก่มาร์ชินผ่านหน้าบ้านฉันไป ไม่รู้มันจะไปไหน” แองเจลิก้าพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง พวกเขาก็ได้ยินเสียงกระดิ่งดังมาจากด้านหน้าค่าย ทำเอาพวกเขาต้องไปที่ด้านหน้าในทันที ซึ่งพวกเขาก็เห็นรถหลายคันพร้อมกับชายติดอาวุธมากมายมาที่หน้าค่าย

    “พวกแม่งมาแล้ว ทุกคน เตรียมพร้อม!!” บาร์มามัสพูดขึ้น จากนั้นก็เตรียมอาวุธเพื่อป้องกันค่ายของพวกเขาในทันที ทันใดนั้นเขาก็เห็นชายคนหนึ่งเดินมาที่หน้าค่าย จากนั้นก็ตะโกนในทันที

    “ยอมแพ้แล้วร่วมมือกับพวกเราซะ!!”

    “ปัง!!”

    บาร์มามัสไม่ฟังอะไรและยิงชายคนนั้นจนร่วง จากนั้นเคนโนช่าก็ไปหยิบปืนกลไปกราดยิงพวกนั้นในทันที

    “ปังๆๆๆ”

    กลุ่มศัตรูพยายามหาที่หลบ พวกนั้นพยายามใช้รถเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้กำแพง แต่พวกเขาก็ปาระเบิดเพลิงใส่รถของพวกมันจนเพลิงลุกไหม้

    “พรึ่บ!!”

    รถของพวกมันค่อยๆไหม้ แต่พวกมันก็ยังไม่ละความพยายาม 

    “บุกเข้าไป!!”

    พวกมันใช้คนวิ่งเข้ามาที่แนวกำแพง แต่ก็ถูกปืนกลของเคนโนช่าที่เพิ่งจะได้มาไล่ยิงจนยับ พวกมันถึงกับเข้ามาไม่ได้ มันคนหนึ่งถือสไนเปอร์กำลังจะซุ่มยิงเคนโนช่า แต่ในตอนนั้นเอง

    “ปัง!!”

    ในตอนนั้นเองแองเจลิก้าก็ถือปืนแล้วยิงสวนกลับไป ทำเอามันถึงกับล้มลงไปในทันที

    “พวกเรา ดันพวกมันกลับไป!!”

    บาร์มามัสพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ระดมขว้างระเบิดที่ขโมยมาได้ใส่พวกมัน เป็นแนวกำแพงเหล็ก จากนั้นพวกมันก็เริ่มล่าถอยเนื่องจากว่ารถของพวกมันเริ่มเสียหายแล้ว

    “พวกเรา ถอย!!”

    “ตามไปฆ่ามันให้หมด!!” เคนโนช่าพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ระดมยิงใส่พวกมันตอนกำลังหนี ในตอนนี้พวกมันก็ถอยไปกันหมดแล้ว พวกของบาร์มามัสก็พากันโห่ร้องกันใหญ่

    “เย้!!”

    “กลับไปเลยไอ้พวกบ้าเอ้ย!!” โอเมอร์ตะโกนไล่พวกมันออกไป ในวันนี้พวกเขาได้ชัยชนะอย่างงดงาม

     

    กลับมาที่เขตหนึ่งของชานเมืองหลวง หลังจากที่พวกเขาเดินทางมาถึงสถานที่นัดพบตามภารกิจ ซึ่งเป็นโกดังใหญ่หลังหนึ่ง พวกเขาพยายามเก็บอาวุธไว้เพื่อไม่ให้ใครเห็น และในตอนนั้นเอง แจ๊คกี้ก็อาสาเป็นคนเจรจากับเจ้าของสถานที่ให้กับปีเตอร์ ซึ่งในตอนนั้นเองเขาก็ออกมารอแล้ว แจ๊คกี้รีบไปคุยกับเขาในทันที

    “คุณอเล็กซานเดอร์ พวกเขาคือคนที่เราบอกครับ!!” แจ๊คกี้พูดขึ้น 

    “โอเค ถ้างั้นตามมาเลย!!” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น จากนั้นก็พาพวกเขาเข้าไปด้านในโกดังในทันที ซึ่งด้านในอเล็กซานเดอร์ก็เลี้ยงสัตว์ไว้มากมาย ทำเอาทหารของปีเตอร์ถึงกับตกใจเล็กน้อย

    “เอาหล่ะครับ พวกคุณทำตัวตามสบายนะครับ สัตว์เลี้ยงผมไม่ทำอะไรพวกคุณหรอก อย่าไปแหย่มันหล่ะ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “ขอบใจมากนะ เราไม่รบกวนนายมากหรอก” ดีมีทรีพูดขึ้น

    “เอาหล่ะ ทุกคน มีข่าวอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า??” ปีเตอร์ถามไป

    “ครับ ได้ยินมาว่าตอนนี้ปาร์บี้กับพาร์นิต้ากลับมาที่โซโรวาแล้วครับ” เจสันพูดขึ้น

    “แบบนี้ก็หมายถึง สส ของประเทศนี้ทั้งหมดก็กลับมาสิคะ” การ์เซียพูดขึ้น

    “ถ้าเป็นแบบนั้น พวกเขาคงเริ่มเดินหมากกันแล้วสินะครับ” เมสันพูดขึ้น

    “กองกำลังของพวกเขาเข้มแข็งมาก งานนี้งานช้างแน่ๆ” เบ็ตเก็ตต์พูดขึ้น

    “นั่นสิ กองกำลังของพวกเขา คงมีไม่ต่ำกว่า 3000 ไหนจะอาวุธที่โดนาทอร์สั่งมาอีก” คัดเตอร์พูดขึ้น

    “แล้วภารกิจของเราคืออะไรคะตอนนี้??” มิคาเอลถามอย่างสงสัย

    “งานของเราตอนนี้คือ จับตาดูกองกำลังของโดนาทอร์ แล้วก็กลุ่มใต้ดินลึกลับหน่ะ ฉันอธิบายให้ฟัง” ซาโตะพูดขึ้น จากนั้นเธอก็เดินออกมาคุยกับทุกคนในทันที

    “มีกองกำลังใต้ดิน ซึ่งทางวอชิงตันสงสัยว่าจะเป็นพวกที่เคยลักลอบเจาะระบบเรา และเราได้ข่าวมาว่ารอนนี่ โรบินสัน และมาร์ติน วอล์กเกอร์ ได้ไปกบดานกับพวกนี้หน่ะ หัวหน้าแก๊งค์มีสองคน คนพี่ชื่อลูซิน่า คนพี่ และวาลิน่าคนน้อง” ซาโตะพูดขึ้น

    “โห รอนนี่ที่เคยมีข่าวหน้าหนึ่งในอเมริกาเหรอคะ??” การ์เซียถามไป

    “หมอนี่หล่ะ ที่มันแฮ็กระบบของแพนตาก้อนจนเละหน่ะ” เจสันพูดขึ้น

    “ถ้ามันมาอยู่ที่นี่ด้วย เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนะ” เบ็ตเก็ตต์พูดขึ้น

    “คงจะยากหน่ะ ขนาดฉันกับแจ๊คกี้พยายามตามตัวมันแต่ยังไม่ได้ผลเลย” ดีมีทรีพูดขึ้น

    “ใช่ ไอ้หมอนี่มันเหมือนมนุษย์ล่องหนหน่ะ สโนวเดนที่ว่าแน่ยังแพ้หมอนี่เลย” แจ๊คกี้พูดขึ้น

    “โห เก่งขนาดนี้แล้วทำไมมันมาอยู่ที่นี่หล่ะ??” เมสันถามไป

    “เคยได้ยินคำว่า อุดมการณ์สร้างโลกมั้ยหล่ะ??” มิคาเอลถามแบบกวนๆไป 

    “ก็นะ พูดอย่างกับเราไม่มีอุดมการณ์นั่นหล่ะ” คัดเตอร์พูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง อเล็กซานเดอร์ก็เอาเครื่องดื่มมาให้กับพวกทหารที่มาทำภารกิจในทันที

    “เอ้า ดื่มน้ำกันหน่อยทุกคน!!” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น จากนั้นก็แจกจ่ายน้ำดื่มให้กับทุกคน และพวกเขาก็รับมันมาในทันที

    “ขอบคุณมากนะครับ ที่คอยช่วยพวกเราหน่ะ” แจ๊คกี้พูดขึ้น

    “นั่นสิครับ ถ้าไม่ได้คุณช่วย เราคงทำงานลำบากแน่” ดีมีทรีพูดเสริม

    “โอ้ย ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่ผมอยากให้พวกคุณช่วยคนๆหนึ่งหน่อยครับ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “ช่วย ช่วยอะไรเหรอครับ บอกมาได้เลยครับ??” ปีเตอร์ถามไป

    “ผมอยากให้คุณช่วยผู้หญิงคนหนึ่งออกจากประเทศนี้หน่อยครับ เธอเป็นคนต่างประเทศ เธอหนีออกจากประเทศนี้ไม่ทันหน่ะ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “แล้วทำไมถึงไม่ไปที่สถานทูตหล่ะ??” ซาโตะถามไป

    “สถานทูตที่นี่โดนปิดหมดแล้ว ที่นี่แทบไม่เหลือชาวต่างประเทศเลย” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “ตอนนี้ที่ปลอดภัยก็น่าจะเป็นเขต 4 เขตสหประชาชาติตอนนี้ปลอดภัยอยู่” แจ๊คกี้พูดขึ้น

    “ก็นะ แต่ว่าตอนนี้พรมแดนแทบจะปิดหมดแล้ว สงครามกำลังปะทุหนักเลย” ดีมีทรีพูดขึ้น

    “ได้ ถ้างั้นผมจะลองส่งเธอไปที่เขต 4 ก็แล้วกัน แต่ผมไม่รู้นะว่าจะสำเร็จหรือเปล่า” ปีเตอร์พูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้น เราน่าจะติดต่อกับคนของเราที่เขต 4 ก่อนนะคะ” ซาโตะพูดขึ้น

     

    กลับมาที่บ้านพักของฟรานซิสก้า หลังจากที่ทหารของโดนาทอร์เข้ายึดได้ทั้งเมืองหลวงสำเร็จ ตอนนี้เขตบ้านพักของเธอได้กลายเป็นพื้นที่พักของชาวบ้านที่เพิ่งมาอาศัยใหม่ ในวันนั้นเอง กลุ่มชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นก็เดินมาต่อแถวกันเพื่ออะไรบางอย่าง ในตอนนั้นเองเธอก็เดินออกมาดูในทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเธอก็ไปถามชาวบ้านแถวนั้นด้วย

    “ขอโทษนะคะ มีอะไรหรือเปล่าคะ??”

    “อ้อ คุณโดนาทอร์มาแจกน้ำกับเสบียงหน่ะค่ะ!!” ชาวบ้านคนหนึ่งพูดขึ้น

    “ใช่ๆ ได้ยินว่าทีมวิศวกรจะมาทำน้ำประปาให้เราด้วย เราจะมีน้ำใช้กันแล้ว!!” หญิงสาวอีกคนพูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้นก็ดีสิคะ” ฟรานซิสก้าพูดขึ้น จากนั้นเธอก็วิ่งกลับเข้าไปในบ้าน จากนั้นเธอก็เอาถังน้ำใบหนึ่งมาด้วย แล้วก็มาต่อแถวรับน้ำด้วย

    “เฮ้อ ในที่สุดมันก็จบแล้วสินะคะ” ฟรานซิสก้าพูดขึ้น

    “โอ้ย ไม่จบแค่นี้หรอก ยังมีไอ้พวกโง่ที่เขตอื่นยังต่อต้านคุณโดนาทอร์อยู่” หญิงชาวบ้านคนหนึ่งพูดขึ้น

    “ใช่ ไอ้พวกนี้น่าโดนจับประหารให้หมดเลย”

    “พวกมันแต่ละตัวเคยรับใช้ไอ้ปราฟยาฟทั้งนั้น พวกมันไม่ยอมง่ายๆหรอก พวกนี้มันต้องถึงมือถึงตีน” ชายแก่ชาวบ้านคนหนึ่งพูดขึ้น

    “ฉันก็หวังว่ามันจะจบโดยเร็วนะคะ” ฟรานซิสก้าพูดขึ้น

    “แน่นอน ตอนนี้กองทัพของคุณโดนาทอร์แข็งแกร่ง ประเทศเราจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง!!”

    “แต่ถึงยังไง ก็ต้องกอบกู้สาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศก่อนนะคะ ถ้าประชาชนอยู่ได้ ประเทศนี้ก็ขับเคลื่อนต่อได้ค่ะ” ฟรานซิสก้าพูดขึ้น

    “พูดถูกแม่หนู วิสัยทัศน์ไม่เลว!!”

    “ค่ะ หนูเองก็เคยเรียนมาเหมือนกันค่ะ ตอนนี้อนาคตจะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณแล้วหล่ะค่ะ” ฟรานซิสก้าบอกกับชาวบ้านทุกคนไป

     

    และที่เขต 4 เขตสหประชาชาติ มารีนเนอร์ก็ยังคงรอเสบียงจากสหประชาชาติที่กำลังจะส่งมาให้ชาวบ้าน แต่ในวันนี้ ภาพที่เธอเห็นก็คือชาวบ้านหลายคนพยายามเดินทางไปยังเขตเมืองหลวง ทำเอามารีนเนอร์ถึงกับสงสัยเล็กน้อย ซึ่งในตอนนั้นเอง ชาวบ้านบางส่วนก็มาปลุกระดมชาวบ้านในเขต 4 ให้เดินทางไปที่เมืองหลวงด้วย

    “นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเขาถึงไปที่เมืองหลวงหล่ะ??” มารีนเนอร์ถามอย่างสงสัย จากนั้นเธอก็ไปฟังที่ชายคนหนึ่งตะโกนบอกชาวบ้านคนอื่นๆ

    “ทุกคน ตอนนี้คุณโดนาทอร์กลับมาแล้ว เขากำลังจะกลับมากอบกู้ประเทศของเรา ตอนนี้เขาต้องการกำลังคนเพื่อกอบกู้บ้านเมือง มีใครอยากจะร่วมกับเขาบ้าง??”

    “พวกเราไปๆๆๆ” ชาวบ้านบางส่วนตะโกนขึ้นมา มารีนเนอร์อกมาคุยกับชายคนนั้นในทันที

    “ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าคะ??”

    “เราไม่ต้องพึ่งพวกคุณอีกแล้ว คุณโดนาทอร์กลับไปแล้ว เขาจะกลับมาช่วยประเทศเรา!!”

    “อ่า นี่ข่าวจริงหรือเปล่าคะ??” มารีนเนอร์ถามไป

    “คุณอยากจะไปดูที่เมืองหลวงก็ได้นะ!!”

    “ใจเย็นๆก่อนนะคะ ตอนนี้เรากำลังแจกจ่ายอาหารให้พวกคุณ เราอยากให้พวกคุณรับอาหารไปก่อน แล้วพวกคุณจะไปที่ไหนก็ได้!!” มารีนเนอร์พูดขึ้น จากนั้นเจ้าหน้าที่สหประชาชาติก็เริ่มการแจกจ่ายอาหารในส่วนที่เหลือ ส่วนตัวมารีนเนอร์ก็รีบกลับเข้าไปในค่ายของเธอ เพื่อคุยกับทหารที่รักษาความปลอดภัยให้เธอด้วย

    “ดูเหมือนว่าข่าวที่เราได้มาจะเป็นจริงแล้วสินะ” มารีนเนอร์พูดขึ้น

    “แล้วนี่เราจะเอายังไงต่อหล่ะครับ??” ทหารของเธอถามไป

    “แจกอาหารให้พวกเขาก่อน พวกเขาอยากจะไปที่ไหนก็ได้ มันสิทธิ์ของเขา หน้าที่ของเราคือแจกจ่ายอาหารให้พวกเขา” มารีนเนอร์พูดขึ้น

    “แล้วถ้าพวกนั้นเอาเสบียงไปช่วยกองทหารในเมืองหลวงหล่ะครับ??”

    “ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องแล้วแต่พวกเขาแล้วหล่ะ เสบียงแค่นี้มันวัดผลของสงครามไม่ได้หรอกนะ แต่ชีวิตของคนตอนนี้สำคัญกว่า” มารีนเนอร์บอกกับทหารไป จากนั้นเธอก็กลับเข้าไปในเต้นท์ของเธอในทันที 

     

    กลับมายังบ้านของหลิว ในตอนนั้นเอง G ก็ยังคงเตรียมอาวุธของเขาเพื่องานลอบสังหาร ในวันนี้ ตัวของหลิวเองก็ไปเอามอไซค์คันหนึ่งมาให้กับ G ซึ่งในตอนนั้นเขาก็เรียก G มาดูด้วย

    “เฮ้พวก ฉันเอาของมาให้นายหล่ะ!!”

    G ออกมาดูในทันที และตัวเขาก็ดูมอไซค์คันนั้นไปอย่างตื่นเต้น

    “เออๆ คันนี้เป็นคันเดียวที่ดีที่สุดแล้ว ฉันหามาได้แค่นี้แหละ” หลิวพูดขึ้น และ G ก็พยักหน้า

    “เออ แต่ว่านายจะไปตอนนี้ไม่ได้นะ เขตชายแดนระหว่างเมืองหลวงกับเขต 2 โดนปิดหมดเลยตอนนี้” หลิวพูดขึ้น แต่ G ก็ยังคงแน่วแน่ในงานของเขา

    “เออ แต่ถ้านายจะไป นายก็ลองหาทางดูก็แล้วกัน จำได้ว่ามันจะมีทางลับอยู่ พวกมันน่าจะไม่ได้ปิดทางนั้น” หลิวพูดขึ้น จากนั้น G ก็หยิบแผนที่ออกมาโชว์ให้กับหลิวดู

    “เออ ทำการบ้านมาดีนี่หว่า แสดงว่านายคงติดต่อกับหน่วยของนายไว้แล้วสินะ” หลิวพูดขึ้น และ G ก็พยักหน้าไป

    “เอาเถอะ ยังไงก็ระวังตัวไว้ด้วยแล้วกัน งานนี้พวกเขต 2 มันป้องกันเขตของมันเต็มที่แน่ๆ ถ้านายจะเด็ดหัวตัวใหญ่ นายคงต้องแนบเนียนหน่อยนะพวก” หลิวพูดขึ้น และ G ก็จับมือกับหลิวไปด้วย และ G ก็ขึ้นมอไซค์ไปพร้อมกับปืนไรเฟิลของเขาในทันที หลังจากที่ G ออกไป ชายคนหนึ่งก็มาคุยกับหลิวในทันที

    “เฮียหลิว ไอ้หมอนั่นมันใครกัน??”

    “แค่พวกมือปืนหน่ะ ฉันรับงานให้ที่พักเขา แล้วนายมีข่าวอะไรให้ฉันหรือเปล่า??” หลิวถามไป

    “เรามีข่าวมาว่ามีพวกอเมริกันแฝงตัวมาอยู่ในเมืองนี้ด้วยเฮีย”

    “ดีๆ เข้าไปข้างใน เดี๋ยวลวกบะหมี่ให้กิน” หลิวบอกกับชายคนนั้นไป จากนั้นตัวเขาก็กลับเข้าไปในร้านต่อในทันที

     

    กลับมายังชายแดนเขต 5 ในตอนนั้นเองกองกำลังของแอลรอนและโรสเซียได้นำคนมาตรึงพื้นที่ไว้ ก่อนจะเตรียมบุก และในระหว่างนั้นเอง พวกเขาก็เห็นกลุ่มคนจากเขต 5 เดินทางมาประจันหน้าพวกเขา แอลรอนสั่งให้กำลังพลเตรียมพร้อมในทันที

    “บอกปืนครกทุกกระบอกให้เตรียมพร้อม!!” แอลรอนพูดขึ้น จากนั้นทหารของเขาก็เตรียมปืนครกสำหรับยิงถล่มกองทหารของเขต 5

    “พวกมันส่วนใหญ่มีแต่กุ๊ย ดูสิ แต่ละคนนี่แบกปืนยังไม่ไหวเลยม้าง??” โรสเซียพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง พวกมันก็ประกาศผ่านโทรโข่งมาทางแอลรอน

    “ออกไป..จากเขต..นี้..ซะ!!”

    พวกมันประกาศเหมือนคนที่ยังไม่ได้นอน และไม่มีแรงจะพูด ทหารของแอลรอนได้ยินก็ได้แต่หัวเราะร่า

    “ยิงเตือนมันไป 1 นัด ให้มันตื่นหน่อย!!” แอลรอนพูดขึ้น จากนั้นลูกน้องของเขาก็ยิงปืนครกไป 1 นัด

    “ตู้ม!!”

    ลูกปืนครกลูกหนึ่งตกใส่กลางวงของกลุ่มติดอาวุธเขต 5 พวกมันถึงกับแตกกระเจิงไปคนละทาง แต่บางส่วนก็ยังคงปักหลักยันพวกมันไว้ และในตอนนั้นเอง พวกมันก็ยิงตอบโต้ในทันที

    “ปังๆๆๆ”

    พวกเขต 5 พยายามยิงตอบโต้ แต่กระสุนแทบจะไม่โดนพวกของแอลรอนซักนัด ปืนบางกระบอกของพวกเขต 5 ยังใช้การไม่ได้ด้วย แต่พวกมันก็ยังคงยิงใส่พวกของแอลรอน

    “้เฮ้อ ฮาแตก ดูไอ้พวกแมลงสาบนี่สิ!!” โรสเซียพูดขึ้น

    “สงสัยคงพูดกันดีๆไม่ได้แล้วหล่ะ ระดมยิงเลย!!”

    แอลรอนพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็ระดมยิงทั้งปืนครก ปืนกล และทุกอย่างใส่พวกเขต 5 ในทันที 

    “ปังๆๆๆๆ”

    พวกเขต 5 โดนโจมตีอย่างหนัก ทำเอาพวกเขาถึงกับแตกกระเจิงกันไปคนละทาง และเมื่อพวกมันแยกย้าย แอลรอนก็เดินทัพเข้าไปในเขต 5 ในทันที พวกเขาไล่ยิงทุกคนที่ขัดขืน แต่ส่วนใหญ่ได้ทิ้งอาวุธหนีกันไปหมดแล้ว

    “ไอ้พวกนี้นี่มันอะไรกัน ทำไมมันง่ายจังเลย” โรสเซียถามไป

    “ไอ้พวกนี้ส่วนใหญ่มันแค่กุ๊ย แบกปืนยังไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ ใครที่ยอมแพ้ก็ปล่อยมันไป” แอลรอนพูดขึ้น

    “สงสัยไอ้ชาร์ลีคงนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้วหล่ะ” โรสเซียพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็เดินทัพเข้าเขต 5 ต่อไป

    และที่บ้านพักสุดหรูของไฮโซชาร์ลี ในวันนั้นเองเขาจ้างเชฟมาทำโอมากาเสะให้เขาและแฟนได้กิน แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้กิน ลูกน้องคนหนึ่งของเขาก็วิ่งมารายงานข่าวกับเขาในทันทีอย่างเร่งรีบ

    “ลูกพี่ครับ แย่แล้วครับ!!”

    “อะไรวะ ฉันกำลังจะกินอยู่เลย” ไฮโซชาร์ลีถามไป

    “พวกเราโดนเขต 6 โจมตีครับ ตอนนี้พวกมันฝ่าทหารของเรามาแล้วครับ!!”

    “พวกแกก็ส่งคนไปต้านพวกมันไว้สิโว้ย!!” ชาร์ลีพูดขึ้น จากนั้นเขาก็ยัดซูชิเข้าปากโดยไม่สนใจอะไรต่อ

     

    กลับมายังเขต 7 ในเขตของบาร์บาร่า ในวันนั้นเองเธอก็เตรียมส่งออกแร่มูลค้าหลายล้านส่งออกไปขายที่ประเทศอื่น ในระหว่างที่เธอกำลังตรวจสอบแร่พวกนั้น เรซนอร์ฟและโพคลอนสกายาก็เดินทางมาหาเธอที่นั่นด้วย เพื่อรายงานสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ในทันที

    “คุณบาร์บาร่าครับ เรามีข่าวมาแจ้งครับ” เรซนอร์ฟพูดขึ้น

    “มีอะไร ว่ามาเลย??” บาร์บาร่าถามไป

    “ตอนนี้ที่เขต 5 รบกันใหญ่แล้วค่ะ” โพคลอนสกายาพูดขึ้น

    “แล้วการรบเป็นยังไงบ้างหล่ะ??” บาร์บาร่าถามไป

    “ได้ยินว่าพวกของแอลรอนไล่ต้อนพวกเขต 5 ยับเลยครับ” เรซนอร์ฟพูดขึ้น

    “ใช่ค่ะ อีกไม่นานคงจะยึดได้ทั้งเขตหล่ะ” โพคลอนสกายาพูดเสริม

    “้เราก็เตรียมพร้อมแล้วกัน สบโอกาสเมื่อไหร่ก็ฉกทุกอย่างมาจากวพกมันเลย แล้วไอ้โบริสนี่มันว่ายังไง??” บาร์บาร่าถามไป

    “อ้อ ผมไปกดดันมันแล้วหล่ะ รับรองมันทำตามเราสั่งแน่นอน” เรซนอร์ฟพูดขึ้น 

    “ดี งานนี้ฉันลงทุนไปเยอะ ถ้ามันเกิดเป็นบ้าหรือปอดแหกขึ้นมา เก็บมันได้เลย ยังมีอีกเยอะที่พร้อมจะขึ้นแทนมัน” บาร์บาร่าพูดขึ้น

    “แน่นอนค่ะ เราจะไม่เสียอะไรไปเลย นอกจากไอ้กุ๊ยข้างถนนไม่กี่คน” โพคลอนสกายาพูดขึ้น

    “ฉันไม่สนมันหรอก นายพลจางต้องการผลประกอบการพรุ่งนี้ ถ้าฉันทำได้ เขาจะช่วยคุ้มครองเรา อย่าให้มีปัญหา ไม่งั้นก็เละแน่ๆ” บาร์บาร่าพูดขึ้น

    “ไม่ต้องห่วงครับ งานนี้ผมจะจัดการให้สะอาดไปเลย” เรซนอร์ฟพูดขึ้น

    “เออ ฉันเชื่อใจพวกเธอสองคนนะ อย่าให้มีปัญหาหล่ะ” บาร์บาร่าพูดขึ้น

    “ได้เลยค่ะ รอฟังข่าวดีจากเราได้เลย” โพคลอนสกายาตอบไป 

     

    ณ ชายแดนเขต 3 เวลาประมาณ 20:15 กลุ่มของเนวิสเดินทางมาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการจู่โจมชายแดนเขต ซึ่งเนวิสที่มาถึงก่อนก็ใช้กล้องส่องทางไกลมองดูชายแดน ซึ่งภาพที่เขาเห็นก็คือ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ถือโล่ปราบจลาจลและรถฉีดน้ำบางส่วน ทำเอาพวกของเนวิสถึงกับแปลกใจที่ได้เห็น

    “นี่ พวกมันดูถูกเราใช่หรือเปล่า ดูนี่สิ!!” เนวิสพูดขึ้นพลางส่งกล้องให้ลูซิน่าพูดขึ้น

    “มันคงคิดว่าเราเป็นกลุ่มก่อการร้ายธรรมดาหล่ะมั้ง??” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “เฮ้อ นี่พวกแม่งไม่เคยคิดจะเรียนรู้เลยหรือไง??” วาลิน่าถามอย่างสงสัย และในขณะเดียวกันนั้นเอง จู่ๆรถบรรทุกประมาณ 3 คันก็ขนของมาให้กับวาลิน่าและพรรคพวก ซึ่งเป็นกล่องใหญ่กล่องหนึ่ง พวกเขาช่วยกันเอาลงมาและเปิดกล่อง มันก็คือ UGV ขนาดใหญ่ติดอาวุธนั่นเอง

    “มาแล้ว ตัวนี้เกราะหนา 3 เซน RPG เจาะเข้าลำบาก ปืนกล minigun 12.7 กับเครื่องยิงลูกระเบิด แต่โปรแกรมมันภาษารัสเซียนะ ฟรอนเทียร์ นายต้องขับ!!” 

    “ได้เลย พร้อมจะลุยกันมานานแล้ว!!” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น จากนั้นเขาก็รีบไปที่คอมพิวเตอร์ควบคุมในทันที เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับบังคับ UGV

    “โอเค เราคงต้องให้ปืนครกยิงเปิดทางก่อนหน่ะ” เรนิต้าพูดขึ้น

    “ได้ ถ้างั้นสั่งคนของเราเตรียมพร้อม เราจะโจมตีมันเลย!!” ลูซิน่าพูดขึ้น จากนั้นเธอก็สั่งให้ปืนครกทั้ง 5 กระบอกไปประจำตำแหน่งในทันที ส่วนคนอื่นๆก็เตรียมอาวุธสำหรับการโจมตีในครั้งนี้

    ===============================================================

    สงครามครั้งนี้จะดำเนินไปอย่างไร อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig?view_as=subscriber ซับแนลหนูด้วย

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×