NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Life Before The World End - ก่อนโลกบรรลัยขอใส่ไม่ยั้ง [ปิดรับสมัครตัวละคร]

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 4 : เทศกาลปล่อยผี

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ย. 67


    หลังจากที่ตัวของจินนั่งพักผ่อนอยู่ในห้องเงียบๆ ไม่นานนัก ก็ถึงเวลาที่จินจะต้องไปพบกับคนอื่นๆ ตามที่ได้นัดแล้ว เขาเข้าห้องน้ำและเปิดก๊อกอ่าล้างหน้า จากนั้นก็ล้างหน้าไปหนึ่งที แล้วก็เช็ดหน้าให้แห้ง ไม่นานนัก เขาก็เดินออกจากห้องน้ำ และไปหยิบโทรศัพท์ กระเป๋าตังค์ และกุญแจห้องไปด้วย จินเปิดประตูห้อง และไม่นานนัก เขาก็พบกับซิกส์ที่กำลังยืนรออยู่ที่หน้าห้องพอดี

    “อ้าว รอนานมั้ยอ่ะ ไปด้วยกันมั้ย??” จินถามซิกส์ ซิกส์พยักหน้าตอบ 

    “อืม ตามมาเลย” จินบอกกับซิกส์ จากนั้นตัวของเขาก็เดินออกไป ซิกส์เองก็เดินตามจินไปด้วย

    “เฮ้ นายไม่ค่อยพูดอะไรเท่าไหร่เลยนะ ถ้านายอยากจะพูดอะไรก็พูดได้เลย ฉันฟังได้หมด” จินบอกกับซิกส์ แต่ตัวของซิก์เองลังเลอยู่เล็กน้อย ก่อนที่ตัวของจินจะไปที่ลิฟต์ เขากดลิฟต์และลิฟต์ก็มา ไม่นานนัก จินและซิกส์ก็เดินเข้าไปในลิฟต์ทันที

    “นายมาจากที่ไหนกันเหรอ นายบอกฉันได้ ทุกเรื่องเลย??” จินถามซิกส์ไป ในตอนนั้นซิกส์เองก็แอบนิ่งไปซักพัก ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมา

    “ฉันหนีออกมา ฉันฆ่าพวกมันหมด พวกมันสมควรตาย” 

    “หนี ใครจับนายไปกัน??” จินถามไป

    “พวกชั่วหน่ะ” ซิกส์ตอบ

    “อืม ดีแล้วหล่ะที่นายหนีออกมาได้ ตอนนี้นายก็ใช้ชีวิตนายให้เต็มที่เลยสิ” จินบอกกับซิกส์ ตัวของซิกส์เองทำหน้านิ่ง แต่ก็พยักหน้าไปเล็กน้อย และไม่นานนัก ลิฟต์ก็มาถึงชั้น 2 เมื่อลิฟต์เปิดออกมา เขาก็พบกับสการ์เล็ตที่กำลังยืนอยู่หน้าลิฟต์

    “มาแล้วเหรอ กำลังรออยู่เลย”

    “อืม พาไปเลย” จินบอกกับสการ์เล็ต จากนั้นเธอก็พาจินกับซิกส์เดินเข้าไปยังห้องรับรองห้องที่ 2 ในทันที และไม่นานตัวของจินก็พบว่าตอนนี้ทุกคนกำลังรอพวกเขาอยู่แล้ว

    “แหม่ กว่าจะเสด็จมาได้นะพี่ชาย??” มายด์พูดขึ้นแซวจิน

    “อ้อๆ โทษทีๆ รอกันนานหรือเปล่า??” จินถามกลับไป

    “คิดว่านานหรือเปล่าหล่ะคะ??” ชิดจันทร์ถามแบบกวนๆ

    “ไม่นานเลยครับ” เคนตะพูดกวนบาทาชิดจันทร์ จากนั้นก็ทำหน้าลิงใส่เธอด้วย

    “เฮ้อ เล่นกันเป็นเด็กเลยนะ” ไอรีนพูดขึ้น ในตอนนั้น จินก็สังเกตเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่ง ซึ่งใบหน้าเป็นฝรั่งผิวขาวอย่างชัดเจน

    “อ้อ นี่ คุณจัน กิ๊กครูหนาหน่ะ” โอ้พูดขึ้นเป็นการแซว

    “นี่ๆ น้อยๆหน่อยเลย” ครูหนาตอบกลับ

    “สวัสดี นายสินะที่ช่วยคุณลีปเอาไว้หน่ะ” คุณจันคนนั้นพูดกับจิน

    “ก็นิดหน่อยครับ” จินตอบกลับ

    “ใช่ และหมอนี่ก็หาตีนมาตลอดทางเลย แต่ก็สนุกดี” อิชมาเอลพูดขึ้น 

    “เอาน่า อย่างน้อยพวกมันก็ไม่ได้ตามเรามาถูกนะครับ” ลุงบุญช่วยพูดขึ้น

    “ตอนนี้สถานการณ์ข้างนอกเป็นยังไงบ้างหล่ะ??” จินถามขึ้น

    “เท่าที่ฉันรู้ ตอนนี้เทศกาลปล่อยผีกำลังเริ่มขึ้นแล้ว น่าจะเละเทะกันเป็นแถบๆเลย” คุณจันตอบ

    “ก็คงจะเป็นอย่างงั้น” สการ์เล็ตพูดขึ้น

    “เออ จะว่าไป ในกลุ่มลับเนี่ย ไม่มีอะไรอัพเดทเลยเหรอครับ??” จินถามไป

    “ฉันเองพยายามจะอัพเดท แต่จู่ๆ แอดมินกลุ่มก็หายตัวไปอย่างปริศนา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันพยายามจะติดต่อแล้ว” อิชมาเอลตอบ

    “เป็นไปได้หรือเปล่าครับ ที่พวกนั้นจะปล่อยข่าวให้ทุกอย่างมันปั่นป่วน??” จินถามไป

    “นี่ แอดมินกลุ่มไม่ใช่พวกที่พูดพล่อยๆหรอกนะคะ” ชิดจันทร์บอกกับจิน และในขณะเดียวกัน อัพเดทแจ้งเตือนในกลุ่มลับก็ดังขึ้น

    “อะไรกันเนี่ย อิหร่านพยายามจะยิงนิวเคลียร์ใส่กรุงเทลอาวีฟ อิสราเอลตอบโต้ด้วยการทำลายเตหะรานซะยับ” โอ้อ่านข่าวในกลุ่มลับ

    “หะ อิสราเอลทำได้ขนาดนี้เลยเหรอครับ??” จินถามอย่างตกใจ

    “ดูจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เป็นไปได้” ไอรีนพูดต่อ

    “แบบนี้ตะวันออกกลางลุกเป็นไฟแน่ๆ” เคนตะพูดขึ้น

    “ทุกวันนี้ก็ยังไม่ลุกเป็นไฟอีกเหรอพวก??” มายด์แซวกลับไป

    “เออ ว่าแต่ ในยุโรปเป็นยังไงบ้าง??” ครูหนาถามขึ้นมา

    “เท่าที่ดู ยังไม่เห็นมีอัพเดทอะไรเลย” ลุงบุญช่วยตอบ

    “อืม ฉันว่ามันก็แปลกๆเหมือนกันนะ ฉันจะลองติดต่อกับเพื่อนฉันที่อยู่วงในดู” คุณจันพูดขึ้น จากนั้นตัวของเขาก็ลองติดต่อกับเครือข่ายของเขาในทันที ไม่นานนัก เขาก็ได้ข่าวมา

    “เฮ้ ทุกคน ฉันได้ข่าวจากเพื่อนฉันมา ตอนนี้รัสเซียกำลังระดมกำลังทุกอย่างเข้าบุกที่มั่นของยูเครน ถ้าครั้งนี้พวกนั้นทำไม่สำเร็จ พวกนั้นจะยิงนิวเคลียร์ใส่ยุโรป เพื่อนฉันตอนนี้ต้องหนีออกจากมอสโก เพราะกลุ่มลับที่นั่นโดนรัฐบาลตามล่า” คุณจันพูดขึ้น

    “โห หรือว่านี่ โลกมันจะล่มสลายของจริง??” จินถามไป

    “ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะไปได้ขนาดนี้” สการ์เล็ตพูดขึ้น

    “ว่าแต่ พวกเราจะทำอะไรกันต่อหล่ะคะ??” ชิดจันทร์ถามไป

    “ไม่รู้สิ หาความสุขใส่ตัวหล่ะมั้ง??” มายด์พูดขึ้นมา

    “ไม่รู้ว่าตอนนี้อเมริกากำลังทำอะไรอยู่นะ??” โอ้ถามขึ้น

    “คงจะกำลังจับตาดูสถานการณ์อยู่หล่ะมั้ง ฉันได้ข่าวมาว่าที่คาบสมุทรเกาหลีก็กำลังเดือดเลยนี่??” เคนตะถามไป

    “มันดันใกล้บ้านเราด้วยหน่ะสิ” ครูหนาพูดขึ้น

    “แต่ยังดีนะที่ในภูมิภาคเราไม่มีศึกนอก” ลุงบุญช่วยพูดขึ้น

    “แต่ศึกในสิเละเทะแน่ค่ะ” ไอรีนพูดขึ้น

    “ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้เราต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเลย” อิชมาเอลพูดขึ้น

    “ฉันไม่สนหรอก ฉันขอจัดการพวกใกล้ตัวก่อนดีกว่า” ซิกส์พูดขึ้น

    “จะว่าไป ไอ้พวกนั้นมันตามเรามาหรือยังครับ??” จินถามทุกคนไป

    “ดูเหมือนมันจะใกล้เข้ามาแล้วหล่ะ ฉันลองแกะรอยโทรศัพท์ของลูกน้องไอ้คอปเปอร์ เห็นว่าตอนนี้มันอยู่ในพัทยาแล้วด้วย” โอ้ตอบ

    “ดีเลย มาให้กระทืบถึงที่เลย” ซิกส์พูดขึ้น

    “โห โหดจริงพี่ชาย” มายด์พูดขึ้น

    “เดี๋ยวสิ พวกเราอย่าใช้แต่อารมณ์กันได้มั้ยคะ??” ชิดจันทร์ถามไป

    “นี่ อยู่ต่อหน้ามัน ถึงยังไงเราก็ไม่รอดหรอก” เคนตะตอบชิดจันทร์ไป

    “งานนี้เราจะเลี่ยงการปะทะ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ เราจะลุย เราต้องรอให้สถาณการณ์ในพัทยาวุ่นวายก่อน พวกตำรวจจะได้ไม่ตามเรา” อิชมาเอลพูดขึ้น

    “ตอนนี้ตำรวจพัทยาเองน่าจะงานหนักน่าดูนะ” ลุงบุญช่วยพูดขึ้น

    “นั่นสิ ข้างนอกก่อนที่เข้ามา ฉันก็ได้ยินเสียงปืนดังมาแต่ไกลเลย” ครูหนาพูดเสริม

    “ข้างนอกน่าจะกำลังสนุกเลย” ไอรีนพูดขึ้น

    “ยังไงก็ให้มันมีขอบเขตหน่อยแล้วกัน” สการ์เล็ตพูดขึ้น 

    “ก็หวังว่าพวกมันจะมีขอบเขตกับเรานะครับ” จินพูดขึ้น 

    “นี่ ฉันเป็นห่วงนายนะ” สการ์เล็ตพูดขึ้นมา แต่เหมือนกับว่าเธอไม่รู้ตัวว่าเธอพูด สการ์เล็ตแอบอายเล็กน้อย แล้วก็พูดว่า

    “อ่า ช่างเถอะๆ เอาเป็นว่าตอนนี้นายอย่าเพิ่งออกไปให้ใครเห็นแล้วกัน” สการ์เล็ตบอกกับจินไป

    “นี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว” สการ์เล็ตคิดในใจ

    “เฮ้อ เอาเป็นว่า ผมจะไม่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงผมแล้วกัน” จินบอกกับทุกคนไป และในขณะเดียวกันนั้นเอง พนักงานโรงแรมคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องที่พวกเขาอยู่ จากนั้นก็พูดขึ้น

    “คุณจันคะ ทุกอย่างพร้อมแล้วค่ะ”

    “อืม เดี๋ยวผมไป” คุณจันตอบ จากนั้นพนักงานก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

    “โอเค ตามผมมาครับ” คุณจันพูดขึ้น จากนั้นตัวของเขาก็เดินออกไปที่ด้านนอกอย่างรวดเร็ว ส่วนคนอื่นๆก็เดินตามคุณจันไปบ้าง พวกเขาเดินไปที่ชั้น 3 คุณจันพาทุกคนเข้าไปในห้องๆหนึ่ง ซึ่งด้านในเป็นห้องเก็บอาวุธ มีลูกกรงป้องกันเอาไว้ พร้อมกับแผงใส่รหัสผ่าน ตัวของคุณจันกดรหัสผ่านในทันที จากนั้นก็พาทุกคนเข้าไปดูคลังอาวุธด้านใน

    “โห คลังแสงเลยเหรอครับเนี่ย??” จินถามไป

    “ใช่ ฉันเก็บมานานแล้ว ห้องนี้เป็นห้องแห่งความลับเลย มีไม่กี่คนที่รู้” คุณจันตอบ

    “ว่าแต่ เราต้องใช้ปืนเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ??” จินถามไป

    “ก็นิดหน่อย ฉันอยากให้พวกนายช่วยคุ้มกันที่นี่หน่อยหน่ะ” คุณจันตอบไป

    “อ้อ ก็พอจะเข้าใจได้ จากสถานการณ์แบบนี้” สการ์เล็ตพูดขึ้น

    “ผมจะช่วยเท่าที่ช่วยได้แล้วกันครับ แต่ผมไม่เคยใช้อาวุธสงครามมาก่อน เคยฝึก M16 ตอนเรียน รด. ครั้งนึง แต่ลืมวิธีไปแล้วครับ” จินตอบ

    “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวอิชมาเอลสอนเอง” คุณจันพูดขึ้น

    ไม่กี่อึดใจ ตัวของจินก็เข้ามาอยู่ในห้องซ้อมยิงปืนห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องที่คุณจันสร้างเอาไว้ส่วนตัว ให้แขก VIP มาลองซ้อมยิง ตัวของจินใช้ปืน M4 กระบอกสั้นกระบอกหนึ่ง พร้อมกับด้ามจับด้านหน้า จากนั้นก็ลองยิงมันดู

    “ปังๆๆๆๆๆ!!”

    จินยิงเข้าเป้าบ้างไม่เข้าเป้าบ้าง ถึงแม้ว่าจินจะยิงปืนเป็น แต่ก็ยังไม่ชำนาญเท่าไหร่นัก 

    “ดีแล้ว แต่นายต้องฝึกให้ชินมือหน่อย” อิชมาเอลพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก กระสุนของจินก็หมด ตัวของเขาก็วางปืนในทันที โดยที่สการ์เล็ตก็มาดูผลงานของจินด้วย สการ์เล็ตดูเป้าของจินก็ยิ้มออกมา

    “อืม ไม่เลวนี่สำหรับครั้งแรก”

    “เฮ้อ หนวกหูชะมัดเลยครับ ผมอยากจับปืนสั้นมากกว่า” จินตอบ และในขณะเดียวกัน ทุกคนก็มารวมตัวกันหาจิน

    “เฮ้อ หนูอยากไปว่ายน้ำมากกว่า ไปว่ายน้ำกันนะคะ” ชิดจันทร์พูดชักชวนทุกคน

    “อืม ก็ดีเหมือนกัน” ไอรีนตอบ

    “ฉันขอนอนพักหน่อยแล้วกัน” อิชมาเอลพูดต่อ

    “อืม ไปหน่อยก็ดี” สการ์เล็ตพูดขึ้น

    “ผมอยากไปเดินเล่นชายหาดมากกว่า อยากไปรับลมหน่อย” จินพูดขึ้น

    “ฉันไปด้วย” ซิกส์พูดกับจิน 

    “แหม่ เดี๋ยวนี้สนิทสนมกันดีนะพวก” มายด์พูดแซวซิกส์ แต่ตัวของซิกส์ก็หันไปจ้องหน้ากับมายด์ ทำเอามายด์ถึงกับเงียบไปเลย

    “ฉันว่าจะเล่นเกมของฉันให้จบหน่ะ” โอ้พูดต่อ

    “เอาเถอะ ไปไหนก็ระวังกันด้วยนะเด็กๆ” ครูหนาพูดขึ้น

    “นั่นสิ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า” ลุงบุญช่วยพูดเสริม

    “อ่า งั้นเราแยกย้ายกันก่อนก็ได้นะ” เคนตะพูดขึ้น

    “โอเค ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวช่วงทุ่มนึง ไปเจอกันที่ห้องอาหารนะ” คุณจันพูดขึ้น ไม่นานนัก ทุกคนก็แยกย้ายกันไปในทันที ตัวของจินเดินออกไปด้านหลังของโรงแรม ซึ่งตัวของซิกส์เองก็เดินตามจินไปด้วย 

     

    ณ ร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่ง หลังจากที่ตัวของโฮมได้ช่วยเหลือชายที่ถูกยิงไปส่งโรงพยาบาลได้สำเร็จ ตัวของเขาก็ได้มานั่งกินข้าวกับน้องสาวของเขา รวมถึงมุกเองก็มานั่งกินกับเขาด้วย หลังจากที่พวกเขาทั้งคู่ได้รู้จักกันแล้ว 

    “ขอบใจนายมากเลยนะที่ช่วย ไม่งั้นเขาตายแน่” มุกพูดกับโฮม

    “ไม่ต้องห่วงค่ะพี่ พี่หนูเอาอยู่อยู่แล้ว” เทียนตอบมุกกลับ

    “ไม่อยากจะเชื่อเลยนะครับ มาเที่ยวแป๊ปเดียวก็เจออะไรแบบนี้แล้ว” โฮมพูดขึ้น

    “นั่นสิคะ ไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่รู้มันเกิดขึ้นได้ยังไง” มุกพูดต่อ

    “ว่าแต่ คุณทำงานอะไรหล่ะครับ??” โฮมถามมุกไป

    “ฉันเป็นพยาบาลจบใหม่หน่ะ ส่วนนายเป็นไรเดอร์สินะ ฉันเห็นเสื้อนาย??” มุกถามโฮมไป

    “ก็งานเสริมหน่ะครับ หาเงินเรียน แต่ตอนนี้ผมไม่ได้เรียนแล้ว ไม่รู้จะเรียนไปทำไม” โฮมพูดต่อ ทำเอาเทียนถึงกับมองหน้าพี่ชายของเธอ แต่มุกในตอนนั้นกลับถามเขา

    “เอ๊ะ อย่าบอกนะว่านายก็รู้??” 

    “เออ เรารู้เรื่องเดียวกันใช่หรือเปล่า กลุ่มลับหน่ะครับ??” โฮมถามไป 

    “โห โลกกลมจริงๆเลย” มุกพูดต่อ แต่ในขณะเดียวกัน เสียงโทรทัศน์ของร้านอาหารตามสั่งก็ดังขึ้น มันเป็นข่าวการปล้นห้างสรรพสินค้าในพัทยา

    “ขณะนี้ทางตำรวจพัทยา กำลังเข้าควบคุมความสงบ หลังจากเกิดเหตุปล้นอย่างอุกอาจ ตำรวจคาดว่า อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันกับเหตุการณ์ความวุ่นวาย ที่กำลังเกิดขึ้นในทั่วประเทศ..”

    “โห สาหัสเหมือนกันนะคะเนี่ย” เทียนพูดขึ้น

    “ก็นะ สมาชิกในกลุ่มลับตอนนี้มีหลายแสน จะพากันออกมาอาละวาดก็ไม่แปลก” มุกพูดต่อ

    “ว่าแต่ คุณอยากจะทำอะไรหล่ะ??” โฮมถามมุกไป

    “ฉันคงจะเร่ร่อนไปเรื่อยๆหน่ะ จนกว่าวันนั้นจะมาถึง” มุกตอบ

    “เออ พวกพี่เชื่อกันจริงๆเหรอคะ??” เทียนถามอย่างสงสัย

    “มาถึงตอนนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรจากโลกแตกแล้วหล่ะ” โฮมตอบ

    “นั่นสิ หวังว่าจะไม่มีใครมายิงกันในนี้นะ” มุกพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก อาหารจะมาเสิร์ฟที่โต๊ะของพวกเขา

    “มาแล้วค่ะ มีข้าวกระเพราหมูไข่ดาว สุกี้แห้ง ข้าวหมูกระเทียมค่ะ” 

    “เออ ถามหน่อยสิคะ แถวนี้มีห้องเช่าหรือเปล่าคะ??” มุกถามพนักงานเสิร์ฟไป

    “มีค่ะ แต่ไม่รู้ว่าเต็มหรือยัง ช่วงหน้าท่องเที่ยวก็แบบนี้หล่ะค่ะ” พนักงานเสิร์ฟตอบ

    “เออ ว่าแต่ แถวนี้จะมีเรื่องอะไรกันอีกหรือเปล่าครับ??” โฮมถามเธอไป

    “ปกติมันแทบไม่มีเรื่องอะไรกันเลยนะคะ นี่เป็นครั้งแรกๆเลย” พนักงานเสิร์ฟตอบ ในขณะเดียวกันนั้นเอง พวกเขาก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น

    “ปัง!!”

    ทุกคนตกใจกันมาก พวกเขารีบหลบใต้โต๊ะกันก่อนเพื่อป้องกันตัวเอง จนกระทั่งไม่นานนัก เมื่อพวกเขาเห็นว่าทุกอย่างปลอดภัยแล้ว พวกเขาก็ลุกขึ้นมาแล้วกลับมานั่งที่โต๊ะต่อ

    “คิดถูกหรือคิดผิดคะเนี่ยที่มาเที่ยว??” เทียนพูดขึ้น

    “เอาน่า มันไม่สาหัสขนาดนั้นหรอก” เทียนตอบในขณะที่ลูบหัวน้องสาวของเขาไปด้วย

     

    ช่วงบ่าย ชิริวกับคุณโสสาวก็ยังคงเดินเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาทั้งคู่ไปที่นั่นที่นี่ ก่อนที่จะมาหยุดพักที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคาเฟ่นั่งชิวสบายๆ หลังจากที่พวกเขาเดินกันมาจนเหนื่อย

    “อยากดื่มอะไรหรือเปล่าคะ??” หญิงสาวคนนั้นถามชิริว

    “ผมขอกาแฟเข้มๆแก้วนึงครับ” ชิริวตอบ และในขณะเดียวกัน พนักงานร้านคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาพวกเขาทั้งคู่ หญิงสาวรีบสั่งเครื่องดื่มในทันที

    “ขอเอสเปรซโซ่เข้มๆแก้วนึง แล้วก็ของฉันเหมือนเดิม”

    “โอเคจ้า” พนักงานเสิร์ฟตอบ ก่อนที่จะเดินกลับไป

    “เดี๋ยวฉันมานะคะ” หญิงสาวคนนั้นบอกกับชิริว ชิริวเองได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนที่จะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว หญิงสาวคนนั้นเดินไปหาบาริสต้าสาวคนหนึ่ง จากนั้นเธอก็หยิบเงินมา 1000 เอาให้กับบาริสต้าคนนั้น

    “เอานี่ ใช้หนี้หมดแล้วนะ”

    “แหม่ ไปรวยมาจากไหนเนี่ย หืม ลูกค้าเธอก็หล่อจังเลยนะ มาจากไหนเหรอ??” บาริสต้าคนนั้นถามไป

    “ญี่ปุ่นหน่ะ ท่าทางจะกระเป๋าหนักด้วย..”

    ตัวของชิริวในระหว่างที่รอ เขาก็หยิบโทรศัพท์มาดูแก้เบื่อ รวมถึงอัพเดทสถานการณ์ในกลุ่มลับไปด้วย แต่จนแล้วจนรอด เขาก็เจอแต่สถานการณ์ที่วุ่นวายไปทั่วโลก ก่อนที่ไม่นานนัก กาแฟของเขาจะมาเสิร์ฟถึงที่

    “กาแฟได้แล้วครับ” พนักงานเสิร์ฟพูดขึ้น ชิริวได้แต่พยักหน้ารับ จากนั้นเขาก็หยิบกาแฟขึ้นมาดื่มอย่างรวดเร็ว

     

    ณ บาร์แห่งหนึ่งในกรุงเทพ บาร์นั่งชิลสำหรับผู้ต้องการจะพักผ่อนหย่อนใจหลังจากที่เหนื่อยล้ากับการใช้ชีวิตมานาน ตัวของน้ำฝนเองก็เดินเข้ามาในบาร์นี้ แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยได้มา แต่ว่าเธอเองก็ตัดสินใจแล้ว เธอเดินเข้าไปในบาร์ จากนั้นก็ไปที่นั่งสำหรับคนเดียวในทันที

    “รับอะไรดีครับ??” บาร์เทนเดอร์ถามเธอไป

    “อ่า เอา..” น้ำฝนยังไม่ทันพูด ในตอนนั้นชายอีกคนก็พูดแทรกขึ้น

    “ผมขอวิสกี้ 2 แก้วครับ” ชยคนหนึ่งพูดขึ้นมาก่อน ตัวของน้ำฝนหันไปมองหน้าชายคนนั้น ไม่นานนักบาร์เทนเดอร์ก็เอาแก้วเหล้าให้กับชายคนนั้น

    “ให้ผมเลี้ยงนะครับ??” ชายคนนั้นถามน้ำฝน ตัวของน้ำฝนเองไม่ค่อยจะแน่ใจนัก แต่เธอก็หยิบแก้วเหล้านั่นมาดื่ม

    “ขอบคุณมากค่ะ” น้ำฝนตอบ

    “มาครั้งแรกเหรอครับ??” ชายคนนั้นถามน้ำฝน

    “ใช่ค่ะ คุณเองก็คงจะมาบ่อยสินะคะ??” น้ำฝนถามไป

    “ช่วงนี้ผมนานๆมาทีครับ ผมต้องบินไปเมืองนอกบ่อย ผมทำธุรกิจข้ามชาติหน่ะ” 

    “อ้อ ฉันทำงานในกองถ่ายหน่ะ” น้ำฝนตอบ

    “อ้อ งั้นคุณน่าจะรู้จักผม ผมศักดิ์สิทธิ์ อิทธิธนเวชครับ”

    “อ้อ คุณศักดิ์สิทธิ์นักธุรกิจสินะคะ ยินดีที่ได้เจอคุณนะคะ” น้ำฝนพูดกับชายคนนั้น

     

    กลับมายังที่ตั้งของมูลนิธิ AWF ตัวของอดาเลนเดินทางกลับมาที่สำนักงาน ซึ่งพนักงานของสำนักงานกำลังรอเธออยู่พอดี

    “อ้าว คุณอดาเลน กลับมาแล้วเหรอคะ??” 

    “อืม ต้องรีบกลับหน่อย ข้างนอกหนักกว่าที่คิด” อดาเลนตอบ

    “ค่ะ เออคือว่า มีอีเมล์ติดต่อมาค่ะ รู้สึกว่าติดต่อมาจากคุณคิวชูค่ะ” 

    “หือ คิวชูงั้นเหรอ เดี๋ยวฉันไปดู??” อดาเลนพูดขึ้น จากนั้นตัวของเธอก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของเธอในทันที และเดินไปที่หน้า MacBook Pro ของเธอ จากนั้นก็เปิดมันในทันที

    “Login”

    อดาเลนรีบเข้าโปรแกรมแชทในทันที แล้วก็พบว่ามีการแจ้งเตือนการติดต่อเข้ามา 2 สาย อดาเลนรู้ว่าเป็นใคร เลยติดต่อวีดีโอคอลกลับไปในทันที

    “การเชื่อมต่อสมบูรณ์!!”

    “สวัสดีคุณคิวชู”

    “คุณอดาเลน สบายดีนะคะ??”

    “ฉันสบายดี ได้ข่าวว่าคุณคิวชูมาอยู่เมืองไทยแล้วเหรอคะ??”

    “เพิ่งข้ามแดนมาได้ไม่นานนี่เองค่ะ เพิ่งจะไปเยี่ยมพรรคพวกที่สามเหลี่ยมทองคำมา” คิวชูตอบ

    “อ้อ คุณคงจะรู้สถานการณ์ในเมืองไทยแล้วนะคะ??” อดาเลนถามไป

    “รู้ค่ะ ดูท่าจะสาหัสกว่าที่พวกเราคิดซะอีก และฉันมีเรื่องจะมาแจ้ง สายข่าวของฉันแจ้งมา พวกเขาบอกว่า ตอนนี้ในตะวันออกกลาง กำลังจะมีสงครามเต็มรูปแบบแล้ว และมันขยายแนวแน่ๆ” คิวชูพูดขึ้น

    “โห แบบนี้ที่แปลว่าโลกแตก อาจจะหมายถึงแบบนี้” อดาเลนพูดขึ้น

    “เป็นไปได้ แต่เราต้องยื้อมันออกไปให้ได้นานที่สุดหล่ะนะ” คิวชูพูดต่อ

    “แล้วทางจีนมีท่าทีอะไรหรือเปล่าคะ??” อดาเลนถามคิวชู

    “ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ แต่เดาได้ว่าคงเตรียมเปิดสงครามแน่ๆ” คิวชูตอบ

    “งานนี้คงเละเทะหน่อยนะคะ ฉันเองก็คงออกไปไหนไม่ได้มาก มีแต่คนออกมาก่อความไม่สงบในไทยกันเยอะเลย” อดาเลนพูดขึ้น

    “อีกไม่นานทางการไทยก็คงจะเข้ามาจัดการเรื่องนี้แน่นอน ถึงตอนนั้น ก็เข้าแผนฉันแล้วหล่ะ” คิวชูพูดขึ้น

    “คุณจะทำอะไรหล่ะคะ??” อดาเลนถามไป

    “ฉันจะก่อการในไทยนิดหน่อย ส่วนคุณก็จัดการเรื่องเงินบริจาคไป ฉันอยากสั่งอาวุธกับเสบียงเพิ่มด้วยหน่ะ” คิวชูบอกกับอดาเลน

    “อ้อ ช่วงนี้ของจะเข้ามายากหน่อย แต่จะรีบจัดการให้ค่ะ ของล็อตล่าสุดจะมาอีกไม่กี่วันนี่แน่นอนค่ะ” อดาเลนพูดขึ้น

    “ค่ะ ยังไงฉันก็ฝากด้วยนะคะ ช่วงนี้ฉันติดต่อคุณไม่ได้มาก ไม่รู้ว่าจะมีใครสอดแนมพวกเราหรือเปล่า” คิวชูพูดต่อ

    “ค่ะ ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ”

    “ออกจากการสนทนา..”

    คิวชูผละตัวออกมาจากคอมของเธอ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาใครบางคน

    “ฮัลโหล ของที่สั่งมา เตรียมส่งให้พร้อมนะ” อดาเลนพูดขึ้น

     

    กลับมายังโบสถ์ของกลุ่มกางเขนดำ หลังจากที่พวกเขาได้ทำการเผาคนนอกรีตจนไหม้เกรียมไปแล้ว พวกเขาก็ปล่อยให้พวกนั้นถูกตรึงเอาไว้และเน่าตายกลางสายลม และไม่นานนักกลุ่มบาทหลวงก็พากันแยกย้ายไปลาดตระเวนต่อ ส่วนตัวของคาลลาฮาน เขากลับเข้าไปในห้องสวดมนต์ โดยที่ตัวของเขาเป็นคนนำบาทหลวงสวดมนต์ที่กลางห้องโถง หลังจากที่สวดกันเสร็จแล้ว คาลลาฮานเองก็พูดกับทุกคน

    “เอาหล่ะ ท่านทั้งหลาย ในตอนนี้พวกนอกรีตกำลังจะตอบโต้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ พวกเราต้องทำงานกันหนักขึ้น พวกท่านพร้อมจะสู้เพื่อปกป้องดินแดนศักดิ์สิทธิ์หรือไม่??” คาลลาฮานถามไป

    “พร้อมครับ!!”

    “ดี พระผู้เป็นเจ้าจะพาพวกเขาไปยังดินแดนสวรรค์แน่นอน ขอพระเจ้าคุ้มครอง” คาลลาฮานพูดขึ้น จากนั้นเขาก็ออกไปจากโพเดี้ยมที่ใช้เทศนา จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆเพื่อกลับไปที่ห้องนอน แต่ในตอนนั้น บาทหลวงคนหนึ่งก็รีบวิ่งมาหาเขา และเอาไอแพดมาอีกแล้ว

    “ท่านครับ ท่านวลาเดียสติดต่อมาแล้วครับ”

    “อืม คุยเลย” คาลลาฮานตอบ และไม่นานนัก บาทหลวงก็เปิดสัญญาณในไอแพดให้กับคาลลาฮานในทันที

    “คาลลาฮาน”

    “ท่านวลาเดียส มีอะไรหรือเปล่าครับ??”

    “ตอนนี้จัดการพวกนอกรีตเป็นยังไงบ้าง??” วลาเดียสถามไป

    “เราเผาพวกมันไปแล้ว แต่เราเลือกที่จะเก็บคนไทยเอาไว้ เผื่อว่าจะใช้ประโยชน์จากพวกมันได้ครับ อีกอย่าง มันจะเป็นการดีกว่า ถ้าจะกันรัฐบาลของพวกมันไม่ให้มายุ่งกับเรื่องนี้” คาลลาฮานตอบ

    “เอาเถอะ ตอนนี้พวกท่านต้องระวังกันด้วย ตอนนี้พวกนอกรีตมันเริ่มจะ...” วลาเดียสยังพูดไม่ทันจบ แต่ในตอนนั้นเอง

    “ปังๆๆ!!”

    เสียงปืนดังมาจากด้านนอกโบสถ์ ตัวของคาลลาฮานแปลกใจเล็กนอยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่นานนัก บาทหลวงคนหนึ่งก็วิ่งมารายงานสถานการณ์กับเขา

    “ท่านขอรับ เราปะทะกับพวกนอกรีตครับ!!”

    “พวกมันเป็นใครกัน??” คาลลาฮานถามไป

    “เราไม่ทราบแน่ชัด แต่เห็นว่าพวกมันมีผ้าโผกหัวด้วยครับ”

    “หรือว่าจะเป็นพวกโจรมุสลิมระยำนั่น??” วลาเดียสถามไป

    “พวกมันมีความเชื่อเกี่ยวกับวันสิ้นโลก พวกมันคงจะรอโอกาสนี้มานาน” คาลลาฮานตอบ

    “คาลลาฮาน ส่งกำลังของเราไปสู้กับพวกมันเลย” วลาเดียสพูดขึ้น

    “รับทราบครับ” คาลลาฮานตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก วลาเดียสจะตัดสัญญาณหายไป ส่วนคาลลาฮานเองก็รีบเดินไปที่ชั้นหอคอยของโบสถ์ ซึ่งด้านบนนั้นมีระฆังใบใหญ่อยู่ คาลลาฮานรีบไปสั่นระฆังอย่างรวดเร็ว

    “เกร๊ง!!”

    คาลลาฮานสั่นระฆังเป็นสัญญาณอะไรบางอย่าง ก่อนที่ไม่นานนัก พวกบาทหลวงที่นอนอยู่ในโรงนอนก็พากันตื่นขึ้นมา จากนั้นก็รีบหยิบปืน AK ที่อยู่บนหัวเตียงของพวกเขา จากนั้นก็ออกไปที่ด้านนอกโรงนอนในทันที

    “ตอนนี้พวกเราคงกำลังมารวมตัวกันที่นี่ครับ” บาทหลวงคนหนึ่งบอกกับคาลลาฮาน

    “อืม ไปบอกพวกเราทุกคนให้เตรียมพร้อม” คาลลาฮานสั่งบาทหลวงของเขา

     

    กลับมายังคฤหาสน์ของลี่หยาง ในวันนี้ตัวของลี่หยางเองก็คุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ในห้อง 

    “อืม เอาเป็นว่าฉันจะรอต้อนรับเธอแล้วกัน”

    “แล้วนี่ ขากลับจะกลับด้วยหรือเปล่า??”

    “อืม เอาไว้เรากลับพร้อมกันแล้วกัน”

    “เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ” ลี่หยางพูดจบก็วางสายไป และในขณะเดียวกัน คนใช้สาวของลี่หยางก็เดินเข้ามาในห้องของเธอ

    “คุณหยางคะ น้ำพร้อมแล้วค่ะ”

    “โอเค เดี๋ยวฉันไป” ลี่หยางตอบ จากนั้นตัวของเธอก็เดินไปยังห้องอาบน้ำในทันที ซึ่งน้ำอาบของลี่ยหงาเตรียมไว้พร้อมอยู่แล้ว แต่ในระหว่างที่เธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอรีบรับสายในทันที

    “ฮัลโหล??”

    “ว่าไงนะ ที่พัทยางั้นเหรอ??”

    “อืม บอกพวกเราให้เก็บตัวกันไปก่อน ไปเรียกพวกเราให้รวมตัวกันที่นั่นด้วย”

    “โอเคๆ” ลี่หยางพูดจบก็วางโทรศัพท์เอาไว้บริเวณริมขอบอ่างอางน้ำ จากนั้นเธอก็ค่อยๆหย่อนตัวของเธอลงอ่างอาบน้ำในทันที

    “นี่แม่บ้าน ไปเรียกเหยามาพบฉันหน่อย” ลี่หยางบอกกับแม่บ้านของเธอ แม่บ้านของเธอก็เดินออกไปในทันที ส่วนตัวของลี่หยางก็หยิบแก้วไวน์มาจิบไวน์

     

    กลับมายังคฤหาสน์หลังใหญ่ของไม้และโรส หลังจากที่ตัวของเขาถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว ตัวของเขากับโรสก็เดินเข้าไปในห้องนอนของพวกเขาในทันที โดยที่พวกเขาจะบรรเลงเพลงรักกัน แต่อนหน้านั้น พวกเขาทั้งคู่ก็กอดและนัวเนียกันไปก่อน

    “แหม่ คุณจะแก้ตัวเรื่องที่ไปเที่ยวมางั้นเหรอ??” โรสถามไป 

    “ก็ บางทีมันก็ต้องลองของใหม่กันบ้างหน่ะครับ แต่ผมเองป้องกันตลอด ไม่ให้มันตกมาถึงคุณแน่นอน” ไม้พูดขึ้นและลูบแก้มของโรส

    “แหม่ แต่ถ้ามันเป็นความสุขของคุณ ฉันก็ยินดีค่ะ” โรสตอบไป

    “แบบนี้สิ ผมเลยยกให้คุณเป็นที่หนึ่ง อีพวกนั้นก็แค่ของทานเล่นของผม ถ้าคุณบอกให้ผมฆ่าพวกมัน ผมก็จะฆ่าพวกมันให้คุณ” ไม้พูดขึ้น ก่อนที่เขาจะจูบโรส แต่ในขณะเดียวกัน โทรศัพท์ของไม้ก็ดังขึ้น ไม้รีบรับสายในทันที

    “ฮัลโหล โซ่ ว่าไงหล่ะ??”

    “หะ อะไร คอปเปอร์มันทำอย่างงั้นงั้นเหรอ??”

    “แล้วเหตุการณ์เป็นยังไงบ้าง??”

    “โอเค ลูกจัดการได้หรือเปล่า??”

    “อืม ฝากจัดการก่อนแล้วกัน ถ้าพ่อเจอมัน พ่อจะตบมันซักฉาด” ไม้พูดจบก็วางสายไป

    “มีอะไรเหรอคะคุณ??” โรสถามไป

    “เฮ้อ เจ้าคอปเปอร์มันก่อเรื่องอีกแล้วหน่ะสิ” ไม้ตอบ

    “ใจเย็นๆนะคะคุณ อาจจะไม่ร้ายแรงก็ได้” โรสพูดขึ้น

    “มันส่งพวกของมันไปปล้นธนาคารหน่ะ” ไม้ตอบ

    “แต่ถ้าพวกลูกเราหนีรอด ก็ไม่น่าเป็นอะไรนี่คะ??” โรสถามขึ้น

    “ถ้าเป็นอย่างงั้นผมจะไม่กลัวเลย แต่นี่ พวกที่เจ้าคอปเปอร์ส่งไปโดนฆ่าตายกันหมด เหมือนกับว่าอีกแก๊งนึงรอดักปล้นซ้ำอยู่หน่ะ” ไม้ตอบ ทำเอาตัวของโรสตกใจมาก

    “นี่มันเรื่องอะไรกันคะเนี่ย??”

    “ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ดีเจ้าคอปเปอร์มันไม่ได้อยู่ตรงนั้น” ไม้ตอบ

    “แบบนี้ก็โล่งใจได้สินะคะ” โรสพูดขึ้น

    “ยังหรอก เจ้าโซ่มันบอกว่า เพื่อนไอ้คอปเปอร์มันหนีไปได้คนนึง ถ้ามันโดนจับได้ เราจะมีปัญหา คงต้องส่งคนไปตามเก็บมัน” ไม้พูดขึ้น

    “อ้อ แบบนั้นก็ดีค่ะ” โรสพูดขึ้น และในขณะเดียวกัน ไม้ก็โทรศัพท์หาใครบางคนอย่างรวดเร็ว

    “ฮัลโหล เออ ฉันเอง ฉันมีงานให้ทำ ฉันอยากให้นายเก็บโจรปล้นธนาคารที่หนีไปได้แถวบางนา ตอนนี้มันน่าจะกำลังหนี แกจัดการไหวมั้ย??”

    “ดี รีบจัดการเลย อย่าให้มันรอด” ไม้ตอบ ก่อนที่เขาจะวางสายไป 

    “ใจเย็นก่อนนะคะคุณ เรามาสนุกกันดีกว่า จะได้หายเครียดนะคะ” โรสพูดขึ้น จากนั้นตัวของเธอก็ใช้มือลูบไล้ไปตามร่างกายของสามีเธอ

    “แหม่ คุณนี่กระสันจริงๆ” ไม้พูดขึ้น

    “แล้วคุณไม่เหรอคะ??” โรสถามกลับไป

    “ถ้าเมียอยากขนาดนี้ แล้วผัวจะไม่สนองได้ยังไงหล่ะ??” ไม้ตอบโรสไป

     

    ณ ถนนสายตะวันออก รถของผู้กองโซ่ ที่ตอนนี้กำลังเดินทางไปยังพัทยา เพื่อตามหาตัวน้องชายตัวดีของเขา ในขณะเดียวกันนั้นเอง โทรศัพท์ของโซ่ก็ดังขึ้น เขารีบรับสายในทันที

    “ฮัลโหล??”

    “ผู้กองโซ่ ผมหมวดอานัส สน.บางนาครับ”

    “อ้าว ผู้หมวด ว่าไงครับ??” ผู้กองโซ่ถามไป

    “ผมลองสืบสวนเรื่องแล้ว ศพของพวกมันส่วนใหญ่ถูกยิงด้วยกระสุน 5.56 มันต้องเป็นอาวุธสงครามแน่ๆ ตรวจสอบของของพวกมันเพิ่มเติม ผมว่าเงินของพวกมันหายไปหมดเลย ส่วนกล้องวงจรปิด เราตรวจพบการเจาะระบบครับ” 

    “หือ แปลว่ากล้องโดนแฮ็กเหรอครับ??” ผู้กองโซ่ถามไป

    “ผมว่า ไอ้พวกนี้มันต้องมืออาชีพ แถมอาวุธก็ดีกว่าของทางการด้วย แต่ที่ผมสงสัยก็คือ ทำไมพวกมันไม่เอาเงินธนาคารไป??” ผู้หมวดถามไป

    “คงต้องจับพวกมันให้ได้ก่อนหล่ะมั้งครับ??” ผู้กองโซ่ถามไป

    “ครับ ข้อมูลที่เรามีก็ประมาณนี้ครับ”

    “โอเคครับ ขอบคุณครับ” ผู้กองโซ่พูดจบก็วางสายไป 

    “เป็นยังไงบ้างครับผู้กอง??”

    “เฮ้อ ดูเหมือนว่าไอ้พวกนี้มันจะหินกว่าที่เราคิดแหะ แต่ฉันว่ามันต้องไปทางตะวันออกแน่ๆ ถ้าฟังจากคนเห็นเหตุการณ์” ผู้กองโซ่บอกไป

     

    ณ พัทยา ตอนนี้กลุ่มของคอปเปอร์เดินทางมาถึงเรียบร้อยแล้ว พวกเขามาที่วิลล่าแห่งหนึ่งซึ่งพวกเขาจองเอาไว้เป็นสถานที่กบดานเรียบร้อยแล้ว คอปเปอร์รีบลงจากรถ และเดินเข้าไปในวิลล่าทันที โดยที่มือก็ถือโทรศัพท์คุยกับใครบางคนไปด้วย

    “ฮัลโหล ตอนนี้มึงอยู่ไหนวะ??” คอปเปอร์ถามคนปลายสายไป

    “ผมกำลังหลบอยู่ในบางนา รอจังหวะหนีออกมาพี่”

    “ไอ้สัส มึงอย่าโดนจับได้นะมึง” คอปเปอร์พูดขึ้น

    “แน่นอนพี่ ผมหาทางหนีได้อยู่แล้ว แล้วเดี๋ยวผมจะตามไปสมทบเองพี่”

    “เฮ้ยๆๆๆ ไม่ต้องมา มึงหนีไปกบดานก่อนเลย เดี๋ยวกูเอาเงินให้” คอปเปอร์ตอบ

    “โอเคพี่” คอปเปอร์ได้ยินดังนั้นก็วางสายไป ก่อนที่ลูกน้องของเขาจะเดินไปหาเขา

    “เฮ้ คอปเปอร์ เป็นยังไงบ้าง??”

    “ตอนนี้บอกให้มันหนีไปกบดานที่อื่นแล้ว แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพ่อฉันคงส่งคนไปตามเก็บมันเอง” คอปเปอร์ตอบ

    “หือ จะทำได้เหรอวะ??”

    “แน่นอน พ่อกูต้องรู้เรื่องนี้จากพี่กูแล้วแน่ๆ พ่อกูไม่ยอมปล่อยให้กูเป็นอะไรไปหรอก” คอปเปอร์ตอบ

    “เออ แล้วนี่เราจะเอายังไงกันต่อหล่ะ??”

    “เอายังไงหล่ะ ก็สนุกให้เต็มที่สิวะ” คอปเปอร์พูดขึ้น จากนั้นตัวของเขาก็เดินเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว 

    “เออ เตรียมตัวด้วย ตอนเย็นไปหาที่เที่ยวกัน” คอปเปอร์พูดขึ้น

    “ได้เลย เดี๋ยวแนะนำที่ให้ รับรองว่าเด็ดแน่นอน”

    “เออ ให้มันจริง” คอปเปอร์ตอบกลับไป

     

    ณ โรงแรมอีกแห่งในพัทยา ตัวของแฮปปี้แสดงโชว์ในห้องอาหารห้องหนึ่ง ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้ชมมาก หลังจากนั้นไม่นาน แฮปปี้เองก็ก้มหัวเพื่อเป็นการบอกลา และในตอนนั้นเอง เศรษฐีคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ จากนั้นก็พูดกับเธอ

    “คุณนักมายากล คุณจะรับมีดของผมได้หรือเปล่า ถ้าคุณรับมันได้ ผมจ่ายให้คุณเลยแสนนึงครับ??”

    “อืม ถ้าจะเอาอย่างงั้น ก็เชิญขึ้นเวทีค่ะ” แฮปปี้พูดกับเศรษฐีคนนั้น เศรษฐีคนนั้นเดินเข้ามา จากนั้นเขาก็มายืนอยู่ตรงข้ามกับแฮปปี้

    “โอเคค่ะ พร้อมนะคะ??” แฮปปี้ถามไป ในขณะที่เศรษฐีคนนั้นก็เตรียมมีดของเขามาเพื่อขว้าง

    “ขว้างใส่ได้เลยค่ะ” แฮปปี้พูดขึ้น เศรษฐีคนนั้นเตรียมความพร้อม จากนั้นก็ปามีดใส่เธอ

    “ฟิ้ว!!”

    “พลุ่บ!!”

    เมื่อทุกคนรู้สึกตัวอีกที ทุกคนก็เห็นว่ามีดของเศรษฐีคนนั้นได้หายไปแล้ว ทำเอาเศรษฐีคนนั้นถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก

    “เดี๋ยว คุณเอามีดผมไปไหน??” เศรษฐีคนนั้นถามแฮปปี้ไป

    “อืม ลองหาในกระเป๋าคุณดีมั้ยคะ??” แฮปปี้ถามกลับไป เขาลองล้วงกระเป๋าเสื้อสูทของเขา แล้วก็พบว่ามีมีดของเขาจริงๆ นั่นทำเอาผู้ชมถึงกับปรบมือกันเกรียว

    “โห คุณนี่โคตรสุดยอดเลย” เศรษฐีคนนั้นพูดขึ้น

    “อย่าลืมที่บอกนะคะ” แฮปปี้บอกกับเศรษฐีคนนั้น

     

    ทางด้านของอเล็กซ์ ในวันนี้ตัวของเขาเดินเข้ามาในร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่ง ซึ่งในวันนี้คนก็เยอะ ตามปกติของวันเสาร์อาทิตย์ เขานั่งรออยู่ซักพัก พนักงานเสิร์ฟก็เดินเข้ามาหาเขา 

    “เอาอะไรดีคะยู??”

    “คนไทยเขากินอะไรกันบ้างครับ??” อเล็กซ์ถามพนักงานกลับไปเป็นภาษาไทยที่ไม่ค่อยแข็ง พนักงานคนนั้นพยักหน้า ก่อนที่จะเดินไปหาพ่อครัว

    “อืม..” อเล็กซ์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มดูข่าวในกลุ่มลับว่ามีอะไรบ้าง 

    “ปัง!!”

    เสียงระเบิดดังขึ้นมาแต่ไกล คนทั้งร้านตอนนี้แตกตื่นกันมาก แต่ตัวของอเล็กซ์ยังนิ่งอยู่ ทุกคนรีบออกไปมุงดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น และในขณะเดียวกัน เด็กเสิร์ฟคนเดิมก็เดินเข้ามาหาอเล็กซ์

    “พี่ พี่ไม่ไปดูเหรอ??”

    “ดูทำไมหล่ะ เดี๋ยวก็โดนลูกหลงหรอก” อเล็กซ์ตอบกลับไปแบบเรียบๆ

    “เออ จริงด้วยพี่” เด็กเสิร์ฟตอบกลับ

    “นี่เธอ ช่วงนี้กลับบ้านเร็วๆหล่ะ แล้วก็ไปไหนมาไหนระวังด้วย” อเล็กซ์บอกกับพนักงานเสิร์ฟคนนั้น

    “หือ ทำไมกันหล่ะคะ??”

    “เอาน่า” อเล็กซ์ตอบ จากนั้นตัวของเขาก็ยังนั่งรออาหารอยู่ในร้าน ไม่นานนัก อาหารของเขาก็มาเสิร์ฟ มันคือข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว

    "มาแล้วค่ะ รับรองว่าอร่อยแน่นอน” พนักงานเสิร์ฟตอบ อเล็กซ์ตักเข้าปากในทันที แล้วก็พบว่ามันอร่อยมาก จากนั้นเขาก็ตักมันเข้าปากอีก

     

    กลุ่มของรินตอนนี้เดินทางมาถึงพัทยาแล้ว พวกเธอขับรถเข้ามาผ่านชายหาดที่สวยงาม ท่ามกลางคนมากมายที่ไปเที่ยวกันเนืองแน่น 

    “เฮ้ ดูสิ สวยมากเลยนะ แต่คนเยอะไปหน่อย” ทีนพูดขึ้น

    “นี่ มองถนนด้วยสิ เดี๋ยวรถชน” เอมรีบพูดสะกิดทีน

    “อืม โรงแรมอยู่ไหนหล่ะ??” รินถามเอมไป ในตอนนั้นเอมก็รีบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูในทันที

    “โอเค น่าจะอีกไม่ไกล” เอมตอบ

    “บอกทางด้วยแล้วกัน” ทีนพูดขึ้น จากนั้นตัวของเธอก็ขับรถไปเรื่อยๆ ไม่นานนัก ตัวของเอมก็พูดขึ้นมา

    “โอเค ไปอีก 100 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย”

    “จัดไป” ทีนตอบ

    “ใกล้ถึงแล้วสินะ” รินพูดขึ้น จากนั้นไม่นานนัก รถของพวกเธอก็ขับเข้าไปยังโรงแรมที่เอมจองเอาไว้ในทันที ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นโรงแรมเดียวกันกับกลุ่มของจินที่จินจองเอาไว้

    “เออ ดูข้างนอกก็ธรรมดาไปหน่อยนะ” รินพูดขึ้น

    “เอ้ย ต้องลองเข้าไปดูข้างในก่อน” ทีนพูดปราม

    “แต่ฉันลองดูรีวิวข้างในแล้วก็โอเคอยู่นะ” เอมพูดขึ้น จากนั้นตัวของเธอก็จอดรถเอาไว้ที่ลานจอดรถที่เหลือไม่กี่ที่แถวนั้น และเมื่อจอดเรียบร้อยแล้ว พวกเธอก็ลงจากรถในทันที

    “โอเค หวังว่าจะเหลือห้องนะ” รินพูดขึ้น

    “ต้องเหลือสิ” เอมพูดต่อ

    “เอาน่า ลองไปที่ล็อบบี้ก่อนค่อยว่ากัน” ทีนพูดขึ้น จากนั้นทั้งสามสาวก็เดินไปยังล็อบบี้ของโรงแรมในทันที ซึ่งตอนนี้มีแขกมากมายกำลังเช็คอินเข้าโรงแรม ตัวของรินดินมาถึงเคาน์เตอร์ จากนั้นก็พนักงานโรงแรมก็ทักทายเธอ

    “สวัสดีค่ะ มากันกี่คนคะ??”

    “3 คนค่ะ ขอเตียงใหญ่” รินตอบ 

    “อ้อค่ะ เตียงจะเอาเสริมด้วยมั้ยคะ??”

    “เสริมด้วยก็ดีค่ะ” รินตอบ จากนั้นไม่นานนัก พนักงานก็เช็คอินให้กับรินและเพื่อนๆ จากนั้นก็เอากุญแจให้กับรินในทันที

    “ห้อง 615 ค่ะ คืนละ 7000 ค่ะ” พนักงานพูดขึ้น

    “โอเคค่ะ ขอ 3 คืนก่อนค่ะ” รินพูดขึ้น จากนั้นตัวของรินก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมา และสแกนจ่ายเงินให้กับพนักงานในทันที

    “ขอบคุณค่ะ” ตัวของรินหยิบเอากุญแจมา จากนั้นก็เดินกลับไปหาเพื่อนของเธอ 

    “โอเค คนละ 7000” รินพูดขึ้น เอมและทีนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา จากนั้นก็โอนเงินให้กับรินในทันที

    “อยากรู้จริงๆว่าห้องจะดีขนาดไหน” ทีนพูดขึ้น

    “ฉันอยากไปฟิตเนสหน่อย” เอมพูดขึ้น

    “เข้าห้องก่อนแล้วกัน” รินพูดขึ้น จากนั้นไม่นานนัก พวกเธอก็พากันขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 6 ในทันที ในขณะเดียวกัน พวกเธอก็เจอกับพนักงานโรงแรมเข้าพอดี

    “ขอโทษนะคะ ฟิตเนสอยู่ชั้นไหนคะ??” รินถามไป

    “ชั้น 2 ครับ”

    “ขอบคุณค่ะ” รินตอบกลับพนักงาน

     

    ตัวของจินเดินเล่นไปตามชายหาด เขาเดินคิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อย โดยที่ตัวของซิกส์เองก็เดินตามไม่ห่าง

    “เฮ้ เดินด้วยกันก็ได้ ไม่เห็นต้องเดินตามเลย” จินพูดกับซิกส์

    “อ้อ ฉันเดินแบบนี้ดีกว่า” ซิกส์ตอบ และในตอนนั้นเอง ตัวของจินก็ดันไปชนกับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งเข้า

    “อ่า ขอโทษครับ” จินพูดขึ้น

    “ขอโทษ_วยไรวะ??” มันจะต่อยจิน แต่ซิกส์วิ่งมาจับแขนมันเอาไว้

    “มึงเสือกอะไรวะ??” มันพูดขึ้นมา แต่ซิกส์ก็ต่อยหน้ามันจนร่วง มันจะพยายามเล่นงานซิกส์ แต่จินก็วิ่งเข้าไปเตะพวกมัน 

    “ตุ๊บ!!”

    “ยำแม่งเลย!!” มันคนหนึ่งพูดขึ้น แต่ก็โดนซิกส์ถึงเข้าที่ยอดหน้าจนร่วงลงกับพื้น

    “รีบไปก่อนเร็ว!!” จินเห็นท่าไม่ดีเลยวิ่งไปสะกิดบอกกับซิกส์ ซิกส์เองรีบวิ่งตามจินไป แต่พวกมันก็ไม่ยอมตามมา ไม่นานนัก สการ์เล็ตก็วิ่งเข้ามาหาจินอย่างรวดเร็ว โดยที่ตัวของเธอนั้นใส่ชุดบีกินี่สีแดงสดพร้อมเสื้อเชิ้ตสีขาว เผยให้เห็นรูปร่างชัดเจน ตัวของจินมองแล้วแอบเคลิ้มไปตอนนั้น

    “นี่ไปมีเรื่องอีกแล้วเหรอ มาเร็ว!!”

    สการ์เล็ตดึงทั้งจินและซิกส์เข้ามาในทันที และไม่นานนัก พวกเขาก็มาถึงด้านหลังของโรงแรม ซึ่งเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำ ตอนกับซิกส์ยืนหอบอยู่แถวนั้น

    “นี่ ไปทำอะไรกันมาอีกเนี่ย??” สการ์เล็ตถามพวกเขาไป

    “ก็พวกมันมาหาเรื่องเราก่อนนี่” ซิกส์ตอบกลับไป

    “เฮ้อ แค่พวกกุ๊ยธรรมดาหน่ะ ฉันเดินไปชนมัน แต่มันจะเอาเรื่องหน่ะ” จินตอบ

    “อ่าๆ พวกนายอยู่ในนี้ไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้เหมือนว่าด้านนอกจะเริ่มเละเทะแล้ว” สการ์เล็ตบอกกับจิน จากนั้นตัวของจินก็ยักไหล่ให้ซิกส์ดู ซิกส์เองตอนนั้นก็ทำตามบ้าง จากนั้นเขาก็เดินแยกออกไป ส่วนตัวของจินเองก็เดินแยกออกไปบ้าง

     

    และที่ห้องอาหาร เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ในตอนนี้กลุ่มของจินก็มารวมตัวกันในห้องอาหาร ซึ่งพนักงานของโรงแรมเอาอาหารมาเสิร์ฟให้กับกลุ่มของจิน ในระหว่างที่กินกันอยู่นั้น ตัวของจินก็ถามสการ์เล็ต

    “เฮ้ พวกคุณไปรู้จักกับคุณจันได้ไงหล่ะ??” 

    “เขาเป็นผู้ช่วย Raven19 แอดมินกลุ่มหน่ะ เอาจริงๆ คุณจันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวจริงของแอดมินคนนี้เป็นใคร และพวกเราก็แลกเปลี่ยนข้อมูลกันหน่ะ” สการ์เล็ตตอบ 

    “ว่าแต่ สถานการณ์ในกลุ่มลับเป็นยังไงบ้าง มีข่าวอะไรอัพเดทหรือเปล่าครับ??” จินถามขึ้นมา

    “ตอนนี้เหรอ ก็ยังไม่มีอะไรมาก นอกจากสงครามที่อื่นหน่ะ แต่เหมือนว่า ในไทยเองก็โคตรจะวุ่นวายเหมือนกัน” โอ้พูดขึ้น

    “แปลว่า ตอนนี้เริ่มจะปล่อยผีกันมากขึ้นแล้วสิ” ครูหนาพูดขึ้น

    “ผมเองก็ได้ยินมาว่า ธนาคารในพัทยาโดนปล้นไปที่นึง ร้านสะดวกซื้อโดนไป 5 ที่ครับ” มายด์พูดขึ้น

    “นี่ นาย ได้ยินว่านายไปมีเรื่องกับคนที่หาดด้วยนี่??” ชิดจันทร์หันไปถามจิน

    “ก็พวกมันหาเรื่องเราก่อนนี่” ซิกส์พูดเสียงแข็ง

    “เออๆ เข้าใจได้ถ้านายพูด” เคนตะพูดต่อ

    “เอาเป็นว่า อย่าไปก่อเรื่องมากแล้วกันช่วงนี้” อิชมาเอลพูดขึ้น

    “แต่ถ้าเรื่องมันเข้ามาหา ผมก็ไม่รับปากนะครับ” จินตอบกลับ

    “เออ ยุติธรรมดีเนอะ” ไอรีนพูดต่อ

    “ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อนะ” ลุงบุญช่วยพูดอย่างปลงๆ

    “เอาเป็นว่า เราจะสร้างปัญหาให้น้อยที่สุดแล้วกัน เพราะงานของเราก็คือปกป้องที่นี่” สการ์เล็ตพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง คุณจันก็เดินเข้ามาในห้องอาหารอย่างรวดเร็ว และเดินเข้ามาหากลุ่มของจิน

    “เฮ้ เป็นไงกันบ้างหล่ะ??”

    “ก็ดีค่ะ” ครูหนาตอบไป

    “โอเค เดี๋ยวคืนนี้ผมขอคนช่วยเฝ้ายามหน่อยนะครับ” คุณจันพูดขึ้น

    “เดี๋ยวพวกเราจัดการให้ค่ะ” สการ์เล็ตตอบกลับ

    “ผมเฝ้าเองครับ ถือว่าขอโทษที่ก่อเรื่องแล้วกัน” จินพูดขึ้น

    “ก็ดี รู้แล้วก็ดี” ชิดจันทร์พูดขึ้น แต่ในตอนนั้นเอง ซิกส์ก็จ้องหน้าชิดจันทร์ราวกับจะเล่นงาน ทำเอาเธอถึงกับต้องไปโอบแขนไอรีนไว้

    “ฉันเฝ้าด้วย” ซิกส์พูดต่อ

    “โอเค พวกนายเฝ้า 4 ชั่วโมงแรก พวกฉันจะเฝ้าที่เหลือเอง” เคนตะพูดต่อ

    “ฉันเฝ้ารอบหลังแล้วกัน” ไอรีนพูดต่อ

    “โอเค จิน ฉันเฝ้ากับนาย” อิชมาเอลพูดขึ้น

    “ลุงคงต้องเฝ้ารอบหลังแล้วหล่ะ” ลุงบุญช่วยพูดต่อ

    “เอาไว้ผมจะตามข่าวที่เหลือต่อเองครับ” โอ้พูดขึ้น

    “อยากไปนอนก็ไปนอนเถอะพวก” มายด์พูดแซวโอ้

    “ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ” คุณจันพูดขึ้น จากนั้นตัวของเขาก็เดินออกไปในทันที ส่วนตัวของจินก็ยังคงนั่งกินต่อ เพราะคืนนี้เขาต้องเฝ้ายามเป็นผลัดแรก

    ==================================================================

    เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมกันเน้อ 

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย 

    ให้ของขวัญเป็นกำลังใจกันได้ครัช ไหว้หล่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×