คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 4 : เริ่มตามสืบ
เช้าวันต่อมา หลังจากที่กลุ่มของเนชินตื่นขึ้นมาและจัดการทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาไปพบกับกลุ่มนานะที่โรงอาหาร พวกเขาเลือกโต๊ะที่ดูจะห่างไกลผู้คนหน่อย เนื่องจากว่าอาจจะมีใครดักฟังพวกเขาอยู่ก็ได้ และในตอนนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันในทันที
“ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเราคงต้องตามสืบเรื่องของอาจารย์คาร์ลสินะ” เนชินถามไป
“อืม แต่ก่อนอื่นเลยเราจะเข้าไปสืบความลับห้องอาจารย์คาร์ลได้ไงหล่ะ??” อุโมจาถามไป
“ก็คงต้องหาอุปกรณ์ดักฟังอ่ะนะ” นานะพูดขึ้น
“แต่เราจะไปหาที่ไหนหล่ะ พอมีใครทำได้บ้างหล่ะ??” อดาเน็คถามไป
“คงต้องขอความช่วยเหลือจากนักเรียนคนอื่นแล้วหล่ะ” เอลซ่าบอกไป
“อืม ถ้างั้นฉันจะลองถามพรรคพวกฉันดูแล้วกัน” โจพูดขึ้น
“แต่ฉันว่า เราน่าจะต้องจับตาไฮน์ริชด้วยนะ มันอาจมีเอี่ยวด้วย” เขตแดนพูดขึ้น
“ไม่บอกก็รู้ ฉันจะทำยิ่งกว่าสอดแนมอีก” ฟิลิปพูดไป
“เดี๋ยวๆๆ ถึงพวกนายจะทำความผิดได้ 10 ครั้ง แต่แบบนี้มันก็เสี่ยงนะ??” คามาคุริพูดปรามไป
“นั่นสิ ยังไงเราก็ต้องระวังตัวไว้หน่อยนะ” มาเรียพูดเสริม
“ก็นะ ถ้าเราไม่เข้าถ้ำเสือ จะได้ลูกเสือได้ไงหล่ะ” คิมยูจินพูดขึ้น
“ก่อนอื่นเลยเราคงต้องเข้าไปในห้องอาจารย์คาร์ลให้ได้ก่อนหน่ะสิ” สเตลล่าพูดขึ้น
“ไม่งั้นเราก็ต้องไปสำรวจที่หน้าห้องอาจารย์ก่อนหน่ะ” อัลลันพูดขึ้น
“นั่นสิ ไม่แน่หน้าห้องพวกนั้นอาจจะมีกล้องวงจรปิดก็ได้” มาเรียน่าพูดขึ้น
“เอาไว้ฉันจะลองไปป้วนเปี้ยนดูแล้วกัน” คริสโตเฟอร์บอกไป และในตอนนั้นเอง พวกเขาก็เห็นไฮน์ริชเดินมาพร้อมกับลูกน้องของเขามาแต่ไกล ในตอนนั้นทุกคนก็สะกิดกันเพื่อให้ดูในทันที
“เฮ้ ทุกคน มันมาแล้ว” เมอร์ลิน่าพูดขึ้น แต่ดูเหมือนว่าไฮน์ริชเองจะไม่ได้ตรงดิ่งมาที่โต๊ะของพวกเขา แต่พวกนั้นกลับไปที่โต๊ะของอินเฟอร์โน่กับพรรคพวกแทน และทุกคนก็มองที่โต๊ะของอินเฟอร์โน่เป็นตาเดียว
“เฮ้ย ทุกคน ดูดิ” เนชินบอกกับทุกคนเพื่อให้ทุกคนได้เห็นในทันที
และที่โต๊ะของพรรคพวกของอินเฟอร์โน่ ในตอนนั้นกลุ่มของไฮน์ริชก็มาเพื่อคิดบัญชีหลังจากที่เกือบมีการปะทะกันเมื่อคืน ไฮน์ริชทุบโต๊ะและพูดกับพวกของอินเฟอร์โน่ในทันที
“ไง พวกมึง ได้ข่าวว่าเก๋านี่??” ไฮน์ริชถามไป
“อะไรพี่ มีอะไรกับพวกผมเหรอ??” นากะตะถามไป
“พี่ ไอ้นี่แหละที่มันกวนตีนผม!!” ลูกน้องของไฮน์ริชตะโกนออกมา
“ขำไอ้พวกขี้ฟ้องหว่ะ” วาดีนพูดขึ้น
“นั่นดิ เมื่อคืนไม่เห็นเก่งแบบนี้เลย” เรนาวอสพูดขึ้น
“เฮ้ย พวกมึงจะเอาเหรอ??” ลูกน้องของไฮน์ริชถามไป
“จะเอาก็ถอดกางเกงออกมาดิ” แม็กซ์พูดขึ้นมา ทำเอาทุกคนหัวเราะลั่นทั้งโรงอาหาร พวกของไฮน์ริชถึงกับเสียหน้ามาก
“เฮ้ย กูซื้อมุกนี้หว่ะ” เอ็ดวาร์ดพูดไป
“ฮ่าๆๆ พี่ ผมว่าเราอย่ามีเรื่องกันดีกว่า” ลาเกียครูซพูดขึ้น
“นั่นสิพี่ คนมองกันเยอะนะ ไม่อายเหรอ??” จอห์นถามเสริม
“กูไม่กลัว มึงไม่รู้เหรอว่าพวกกูเป็นใคร??” ไฮน์ริชถามไป ในตอนนั้นอินเฟอร์โน่เองก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยอารมณ์เดือด จากนั้นก็พูดขึ้น
“เฮ้ย จะเอาไงก็เอาเลยดีกว่า อย่าบ้าน้ำลายเว้ย!!” อินเฟอร์โน่ตะโกนออกมา ทำเอาไฮน์ริชถึงกับกระชากเสื้อของอินเฟอร์โน่
“มึงจะเอาสินะ??”
“เออพี่” ในตอนนั้นลูกน้องของไฮน์ริชสะกิดเขา ก่อนที่ไม่นานนัก พวกเขาจะเห็นกลุ่มของเนชินเดินมาทางพวกเขา ไฮน์ริชเองรีบปล่อยมือจากอินเฟอร์โน่ในทันที
“อ้าว หวัดดีครับพี่ หายดีแล้วเหรอ??” เนชินถามไป
“มึงมายุ่งอะไรด้วยวะ??” ไฮน์ริชถามไป
“อะไร พวกพี่นั่นหล่ะมาขวางทางผม” เนชินบอกไป ในตอนนั้นทั้งสองฝ่ายก็แทบจะตั๊นหน้ากันแล้ว แต่ตัวของไฮน์ริชเองก็ยกมือห้ามทุกคนไว้และเป็นฝ่ายที่ถอยออกมา
“ไม่จบแค่นี้แน่” ไฮน์ริชบอกกับพวกของเนชิน จากนั้นพวกเขาก็รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฉันไม่ขอบใจพวกนายหรอกนะเว้ย” อินเฟอรืโน่บอกกับพวกของเนชิน
“เออ พวกนายเอาตัวรอดกันให้ได้แล้วกัน” อุโมจาตอบกลับไป จากนั้นกลุ่มของเนชินเองก็เดินกลับไปที่โต๊ะของพวกเขา ท่ามกลางเสียงวิจารณ์กันเซ็งแซ่จากโต๊ะอื่นๆ
“ดูเหมือนพวกนั้นจะสิ้นฤทธิ์แล้วนะเนี่ย” เจน่าพูดขึ้น
“นั่นสิ สมน้ำหน้าพวกมันเหมือนกัน” บาตาพูดเสริม
“อืม แต่ฉันว่า ฉันเป็นห่วงหมอนั่นที่ชื่อเนชินนะ พวกนั้นคงต้องหาทางเล่นงานพวกเขาแน่ๆ” โครี่พูดขึ้น
“แต่ฉันว่าพวกนั้นไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก” หลิวชิงหยินบอกไป
“เออ จะว่าไป พวกเขาดูเหมือนจะสนิทกับกลุ่มนั้นนะ” แคทเทอรีนพูดและมองไปที่โต๊ะของกลุ่มนานะ
“ช่างเถอะ จะสนิทอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเรานี่” เอเลนอร์บอกไป
“อืม เรารีบกินแล้วรีบไปเรียนต่อดีกว่า” ฮอร์ตุสรีบพูดตัดบทและตักอาหารเข้าปาก
“นั่นสิ แล้วเดี๋ยวเราค่อยมาเจอกันนะ” อีชีเตพูดพลางดูดน้ำผลไม้กล่องไป
ที่โต๊ะอีกด้านหนึ่ง
“เฮ้ วันนี้เกือบจะได้เห็นมวยอยู่แล้วเชียว” ริวโซพูดขึ้น
“เสียดาย อยากเห็นรีแมทช์อีกซักรอบ ดีที่ฉันแทงข้างพวกเด็กใหม่” ซาชินพูดขึ้น
“แหม่ กะจะหาทุนเพิ่มอีกงั้นเหรอ??” โรสถามไป
“เอาน่า ทุกอย่างบนโลกนี้ก็ต้องใช้เงินหล่ะนะ” จินนี่พูดขึ้น
“แต่ฉันว่านะ พวกเด็กใหม่ต้องเป็นอันตรายแน่ๆ” คามิลล่าพูดขึ้น
“แต่ได้ยินว่ารุ่นพี่ที่ชื่อมอร์ตี้ช่วยพวกนั้นอยู่นี่” แมรี่พูดขึ้น
“นั่นสิ ได้ยินมาว่าติดคุกมาหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่โดนไล่ออกนี่” เอสการ์พูดขึ้น
“ถ้าอย่างงั้นเธอคงต้องมีอะไรดีแน่ๆ” โดโรธีพูดไป
ณ โรงฝึกของโรงเรียน ซึ่งตัวของเดธและดู๊ดเองก็คอยฝึกพวกของเนชินอย่างดุเดือดและทรหดอีก คราวนี้กลุ่มของเนชินมีพัฒนาการมากขึ้น ในคราวนี้สองอาจารย์ได้ฝึกให้พวกเขาได้รู้จักกับปืนชนิดต่างๆ โดยที่พวกเขาเองก็ฝึกยิงเป้าที่กำลังเคลื่อนไหวไปมา
“ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!”
กลุ่มของเนชินตอนนี้เริ่มคุ้นเคยกับปืนประจำตัวของพวกเขาแล้ว พวกเขาทำมันได้อย่างน่าพอใจ และไม่นานนักพวกเขาก็กลับมารวมตัวกับทั้งสองอาจารย์อย่างรวดเร็ว เพื่อมาฟังที่อาจารย์จะพูดต่อ
“เฮ้ วันนี้พวกนายทำกันได้ดีมาก” เดธบอกกับทุกคน
“เฮ้อ งั้นพวกเราขอนั่งพักได้มั้ยจารย์??” ฟิลิปถามแบบกวนๆ และในตอนนั้น ตัวของดู๊ดเองก็เดินไปหาฟิลิปและสกัดขาเขาลง จากนั้นฟิลิปก็ลงไปนั่งกับพื้นจริงๆ ฟิลิปได้แต่นั่งเจ็บตูดอยู่ตรงนั้น
“โอเค นั่งได้ทุกคน” ดู๊ดบอกกับพวกเด็กๆแล้วก็ลูบหัวของฟิลิปไปด้วย พวกเด็กๆเองค่อยๆนั่งอย่างระแวงเล็กน้อย แต่พวกเขาก็นั่งลงกับพื้นกันหมด
“โอเคเด็กๆ พวกฉันมีอะไรจะสารภาพกับพวกนายหน่อยหว่ะ” ดู๊ดพูดขึ้น
“อะไรจารย์ จะสารภาพรักพวกผมเหรอ??” อัลลันถามไป
“พวกนายนี่นะ ฉันจะบอกว่า พวกนายได้ยินที่มอร์ตี้เล่าให้พวกนายฟังแล้ว ใช่หรือเปล่า??” เดธถามไป ในตอนนั้นทุกคนก็มองเดธเป็นตาเดียว
“เฮ้ย จารย์ อย่าบอกนะว่า??” คิมยูจินพูดยังไม่ทันจบ
“เออ ฉันรู้หมดแล้ว ดูเหมือนว่าพวกนายคงต้องมีตัวช่วยแล้วหล่ะ” ดู๊ดพูดขึ้น
“ปัญหาคือเราจะต้องทำยังไงต่อหล่ะจารย์ จะให้ไปสืบจากอาจารย์คาร์ล ผมว่ามันไม่น่าจะใช้เรื่องง่ายเลยนะ” เขตแดนร่ายยาวออกมา
“นั่นสิจารย์ ผมว่างานนี้เราคงต้องทำอะไรให้รัดกุมหน่อย” โจพูดขึ้น
“เรื่องไอ้คาร์ลไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ฉันจะลองหาแนวร่วมดู แล้วอีกอย่าง แม่สาวที่นั่งกับพวกนายเมื่อเช้านี่ไว้ใจได้ใช่เปล่า??” เดธถามพวกเขาไป
“ไว้ใจได้แน่นอนครับ” เนชินรีบตอบอย่างรวดเร็ว
“โอเค ฉันจะได้ลิสต์เอาไว้หน่ะ” ดู๊ดตอบไป
“ตอนนี้เราคงต้องสืบเรื่องราวเพิ่มเติมหน่ะครับ หวังว่าพี่มอร์ตี้น่าจะรู้อะไรมาเพิ่มนะครับ” อุโมจาพูดขึ้น
“อืม ตอนนี้พวกนายก็รอฟังข่าวจากมอร์ตี้แล้วกัน แล้วก็หาข่าวอื่นด้วย ระหว่างนี้ก็เรียนไปตามปกติแล้วกัน” เดธพูดขึ้น แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ มอร์ตี้ก็เดินเข้ามาในโรงฝึกอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความสงสัยของทุกคน
“เฮ้ ทุกคน แย่แล้ว พวกนั้นประกาศว่า คุณชาร์ลีทรยศ!!” มอร์ตี้บอกกับทุกคน ในตอนนั้นมันทำเอาทุกคนถึงกับตกใจมาก โดยเฉพาะตัวของเนชิน
“อะไรกันครับ ทำไม มันเป็นไปได้ยังไงครับ??” มอร์ตี้ถามไป
“ฉันก็ไม่รู้หรอก แต่ตอนนี้โรแลนด์กำลังเตรียมหน่วยของหมอนั่นออกตามล่าชาร์ลีแล้ว และอยกาจะบอกให้รู้นะ ถ้าทางโรงเรียนส่งพวกนั้นไป เป้าหมายนั้นต้องเป็นเป้าหมายอันตรายมาก” มอร์ตี้บอกไป
“แบบนี้แย่แน่ๆครับ” เนชินพูดขึ้น
“พวกนายรีบตามฉันมา ตอนนี้พวกนั้นเรียกทุกคนมารวมตัวหน่ะ” มอร์ตี้บอกกับทุกคนไป
ในตอนนั้นกลุ่มของเนชินรีบออกไปด้านนอกเพื่อดูสถานการณ์ในทันที แล้วก็พบว่าตอนนี้บรรดานักเรียนทุกคนต่างมารวมตัวกัน รวมถึงพวกครูอาจารย์ทั้งหมดก็มารวมตัวกันด้วย ในตอนนั้นเมื่อคาร์ลที่อยู่บนเวทีและเขาเห็นเนชิน เขาก็รีบวิ่งลงมาหาเนชินในทันที แต่ในตอนนั้นอาจารย์เดธกับดู๊ดก็ขวางเอาไว้ก่อน
“หลีกไป!!” คาร์ลตะโกนออกมา
“นี่คุณจะทำอะไรของคุณเนี่ย??” เดธถามกลับไป ในตอนนั้นพวกนักเรียนก็มองกลุ่มของเนชินเป็นตาเดียว ส่วนอาจารย์คนอื่นๆก็รีบเดินมาหาด้วย
“แก แกเป็นสายให้ไอ้ชาร์ลีใช่ไหม??” คาร์ลถามไป
“อะไร ผมไม่รู้เรื่อง??” เนชินถามอย่างสงสัย
“นี่ คุณคาร์ล ผมว่าคุณใจเย็นก่อนดีกว่านะ” โกเมซพูดขึ้น
“นั่นสิคะ ทำแบบนี้ไปจะได้อะไรคะ??” ซินพูดเสริม
“ไอ้ระยำ พวกแกยังปกป้องมันอีกเหรอ??” คาร์ลถามอย่างโกรธแค้น
“นี่ คุณไม่มีหลักฐานอะไรอยู่ๆจะมากล่าวหาแบบนี้ได้ไงหล่ะ??” ดู๊ดถามไป
“นั่นสิคะ ใจเย็นๆก่อนนะคะ เราเองก้ยังไม่รู้แน่ชัดเลยว่าชาร์ลีเป็นคนทำจริงๆหรือเปล่า” นาตาลีพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เอ็ดมันด์จะเดินเข้ามาห้ามศึกอย่างรวดเร็ว
“อ้าว คุณเอ็ดมันด์มาพอดีเลย” โอเด็ตพูดขึ้น
“คุณเอ็ดมันด์ อย่ามายุ่งเรื่องนี้เลย” คาร์ลพูดขึ้น
“ผมต้องรับผิดชอบเด็กนักเรียนที่นี่ทุกคน เนชิน ตอนเจอกัน เขาพูดอะไรกับเธอบ้างหรือเปล่า??” เอ็ดมันด์ถามเขาไป
“เราแนะนำตัวกันไม่กี่คำ จากนั้นผมก็หมดสติไป เขาพาผมมาที่นี่ครับ” เนชินบอกไป
“โกหก แกอย่ามาโกหก!!” คาร์ลตะโกนออกมา
“เดี๋ยวสิคุณคาร์ล ทำแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่คะ??” เชเพิร์ดถามไป
“นี่พวกแกจะรุมฉันเหรอ??” คาร์ลถามในขณะที่เตรียมจะชักปืน แต่เดธกับดู๊ดก็ชักปืนออกมาบ้าง
“เดี๋ยว ทุกคน ฟังที่คุณเอ็ดมันด์พูดก่อนดีกว่า!!” อิซาเบลล่าตะโกนออกมา ก่อนที่สถานการณ์จะเริ่มคุกรุ่น
“ตอนนี้ชาร์ลียังเป็นผู้ต้องสงสัย ผมต้องการจะคุยกับเขาก่อน เพราะฉะนั้นตอนนี้อย่าเพิ่งทำอะไรเลย ส่วนนาย เนชิน เราจะจับตาดูนายไว้ ถ้านายทำอะไรโง่ๆจริงๆ ฉันคงช่วยนายไม่ได้ เข้าใจนะ” เอ็ดมันด์พูดไป ก่อนที่ตัวของเขาจะเดินออกไปในทันที
“ได้ยินแล้วนะครับคุณคาร์ล” เก็นโซพูดย้ำกับคาร์ล ตัวของคาร์ลถึงกับหน้าเสียและเดินออกไปเลย ตัวของเดธกับดู๊ดเองก็ปตะไหล่ของเนชินไป
ทางด้านของกลุ่มผู้คุมกฎ ในตอนนี้พวกเขาก็มารวมตัวกันเพื่อดูสถานการณ์ไปพลางๆ ในตอนนั้นมอร์ตี้ก็เดินมาทางพวกเขา พวกนั้นเลยคุยกับมอร์ตี้ในทันที
“เฮ้ มอร์ตี้ ตอนนี้เป็นยังไงต่อเนี่ย??” ออร์ฟิอุสถามไป
“ฉันเชื่อว่าเนชิน รวมถึงชาร์ลีทำแบบนั้นแน่” มอร์ตี้พูดขึ้น
“มอร์ตี้ ฉันรู้ว่าเธอกับชาร์ลีสนิทกัน แต่บางที..” ซองชาวจินยังพูดไม่ทันจบ ในตอนนั้นคนอื่นก็พูดแย้งขึ้นมาก่อน
“แต่คุณเอ็ดมันด์ก็บอกมานี่ ว่าตอนนี้เขาเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่” อารีแอคเน่พูดขึ้น
“นั่นสิ ฉันเห็นด้วย ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดอะไรขนาดนั้นเลย” เอาส์ติสพูดเสริม
“เอาเป็นว่า ถ้าฉันเจอหมอนั่น ฉันจะลองถามมันเองแล้วกัน” มอร์ตี้พูดขึ้น
“ฉันว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำแน่นอน” โทโมเอะพูดขึ้น
“นั่นสิ คงต้องสืบให้รู้ความจริง” ลิลิธพูดขึ้น
“แต่ตอนนี้เราจะเริ่มจากตรงไหนหล่ะ??” มอร์ตี้ถามไป และในตอนนั้นทุกคนก็ถึงกับนิ่งไปเลย
ทางด้านของไฮน์ริช ไฮน์ริชเองยืนมองกลุ่มของเนชินอย่างเจ็บแค้น แต่จู่ๆ ริคกี้ก็เดินไปเดินมาแถวนั้น ไฮน์ริชรีบเดินไปหาเขาในทันที
“เฮ้ เป็นไงบ้าง??”
“ก็ไม่เป็นไงหรอก เมื่อเช้ามินโฮรีบไปเลย” ริคกี้ตอบไป
“เออ ก็หน่วยสังหารนี่ ยังไงก้ต้องไปตามคำสั่งอ่ะนะ” ไฮน์ริชบอกไป
“แล้วแกจะเอาไงต่อกับไอ้พวกนั้นหน่ะ??” ริคกี้ถามไป
“ไอ้เวรนั่นต้องมีเอี่ยวกับชาร์ลีแน่ๆ” ไฮน์ริชพูดขึ้น
“เออ ฉันรู้ แต่เรายังไม่มีหลักฐานอะไรไง คงต้องจับตัวไอ้ชาร์ลีให้ได้ก่อน” ริคกี้บอกไป
“ฉันจะจับตาดูพวกมัน เอาให้พวกมันขยับไปไหนไม่ได้เลย” ไฮน์ริชบอกกับริคกี้ไป
ณ น่านฟ้าแห่งหนึ่งในเขตเม็กซิโก เครื่องบินพาณิชย์ลำหนึ่งได้บินอยู่เหนือน่านฟ้า และกำลังแลนดิ้งลงที่รันเวย์สนามบินแห่งหนึ่ง และเมื่อเครื่องจอดแล้ว คนบนเครื่องก็ลงมาจากเครื่อง และคนพวกนั้นก็คือทีมสังหารซึ่งนำโดยโรแลนด์นั่นเอง และเมื่อพวกเขาลงมาไม่นานนัก ก็มีรถตู้คันหนึ่งขับมาจอดที่หน้าพวกเขา จากนั้นคนขับก็ลดกระจกลง
“เชิญครับ!!”
กลุ่มของโรแลนด์รีบขึ้นรถตู้ในทันที จากนั้นรถคันนั้นก็ขับออกจากสนามบินอย่างรวดเร็ว
“ขอต้อนรับสู่เม็กซิโกครับ” คนขับรถบอกพวกเขาไป
“ครับผม ดีใจที่ได้เจออีกคร้าบ” บาลอร์ตอบกลับไป
“โอเค เรามาคุยกันก่อนดีกว่าว่าเราจะเอายังไงต่อ??” มาทิลด้าพูดขึ้น
“ก่อนอื่น เราต้องแน่ใจตำแหน่งของคุณชาร์ลีก่อน” เบลลาทริกซ์พูดขึ้น
“อ่ะนะ แต่ชาร์ลีจะยอมเปิดเผยง่ายๆงั้นเหรอ เอาจริงๆ ฉันยังไม่เชื่อเลยว่าเขาอยู่ที่นี่” เว่ยเฟยหลงพูดขึ้น
“จริงด้วย ยังจำได้หรือเปล่าฉายาของชาร์ลีคืออะไร” ฮิลด้าพูดเสริม
“ฉันจะโค่นเขาและจบงานนี้เอง” มินโฮพูดขึ้น
“เดี๋ยวสิ นายเองก็ไม่เคยทำอะไรชาร์ลีได้นี่??” ลุดวิกพูดขึ้น
“ฉันรู้ว่านายคิดอะไร แต่เรื่องนี้เราต้องทำอะไรให้รัดกุม ไม่แน่ ชาร์ลีอาจจะรอต้อนรับเราอยู่ก็ได้” โรแลนด์พูดขึ้น และไม่นานนัก เบลลาทริกซ์เองก็เอาคอมพิวเตอร์ของเธออกมา จากนั้นก็เปิดข้อมลให้คนอื่นๆดู
“โอค สายของเราบอกมาว่า เจอหมอนั่นครั้งสุดท้ายที่นี่” เบลลาทริกซ์พูดขึ้นและให้ทุกคนได้เห็นป่าแห่งหนึ่ง
“โห โลเคชั่นเจ๋งดี ป้องกันง่าย หนีก็ง่ายด้วย” บาลอร์พูดขึ้น
“แต่บางที ฉันว่าชาร์ลีอาจทำให้เราเข้าใจก็ได้ว่าเขาอยู่ที่นั่น” เว่ยเฟยหลงพูดขึ้น
“ก็อาจจะใช่ แต่เราก็ต้องไปดูให้แน่ใจก่อนหน่ะ” โรแลนด์พูดขึ้น
“ชารืลีอาจจะวางกับดักเราไว้ก็ได้นะคะ” ฮิลด้าพูดขึ้น
“ฉันไม่กลัวหรอก ฉันจะจัดการเขาเอง” มินโฮบอกไป
“เออ ใจเย็นนะ นายคนเดียวจัดการชาร์ลีไม่ได้หรอก” มาทิลด้าพูดขึ้น
“เออ คราวนี้ฉันเห็นด้วยกับเธอนะ” ลุดวิกพูดขึ้น
“โอเค เราจะบุกเข้าไปในป่า ปิดเส้นทางเอาไว้ให้หมด” โรแลนด์พูดขึ้น
“แต่ว่า เราคงต้องใช้คนเพิ่มนะคะ” ฮิลด้าพูดขึ้น
“ฉันจะติดต่อทางโรงเรียน ว่าจ้างกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ให้ล้อมเขาไว้” มาทิลด้าพูดขึ้น
“โห คิดว่าหมอนั่นจะยอมแพ้ง่ายๆเหรอ??” บาลอร์ถามไป
“จริงด้วย ถ้าอย่างงั้น เราอาจจะต้องเจ็บกันหน่อย” เว่ยเฟยหลงบอกไป
“ก็บอกแล้วไง ฉันจะจัดการเอง” มินโฮพูดขึ้น
“นี่พวก ฉันรู้ว่านายคิดอะไรอยู่ แต่ใจเย็นก่อนดีกว่า” ลุดวิกพูดขึ้น
“นั่นสิ เราจะบอกให้เขายอมแพ้ก่อน ถ้าไม่ได้ผลจริงๆ ก็คงต้องเป็นไปตามนั้น” เบลลาทริกซ์พูดไป
“งานนี้เราจะลงมือตอนกลางคืน เพราะเวลานั้นพวกเราถนัดที่สุดหน่ะ เราจะบุกเข้าป่าไป 5 ทาง ใช้กล้องมองกลางคืน แล้วจับตัวเขาให้ได้” โรแลนด์พูดขึ้น
“แต่ถ้าฉันเกิดมือลั่น ก็ช่วยไม่ได้นะ” ลุดวิกพูดขึ้น
“เอาเถอะ ยังไงก็ลองดูแล้วกัน” มินโฮพูดขึ้น
“งานนี้คงต้อใช้อาวุธกับชุดเกราะเต็มอัตราแล้วหล่ะ” เบลลาทริกซ์พูดขึ้น
“เออ แค่นั้นไม่พอหรอก ยังจำที่ฝรั่งเศสได้หรือเปล่าหล่ะ ที่โดนหน่วยสวาทล้อมหน่ะ??” บาลอร์บอกไป
“นั่นสิ ถ้าอยากจับหมอนั่น งานนี้ได้เสียเลือดเนื้อกันบานเบอะแน่ๆ” เว่ยเฟยหลงพูดขึ้น
“ถ้าใครบาดเจ็บก็ออกมาเจอฉันแล้วกัน” ฮิลด้าบอกกับทุกคนไป
“เฮ้อ ฟังแล้วอบอุ่นเลย” มาทิลด้าพูดขึ้น ก่อนที่ในตอนนั้น คนขับรถก็พูดขึ้นมา
“อีก 30 นาทีจะถึงบ้านแล้วนะครับ!!”
กลับมายังโรงเรียน ในตอนนี้มีการประชุมระหว่างอาจารย์เพื่อคุยกันเกี่ยวกับการฆาตกรรมเฮนรี่ รวมถึงการทรยศของชาร์ลี เอ็ดมันด์เรียกอาจารย์รวมถึงเจ้าหน้าที่มาคุย โดยที่ในตอนนั้น หญิงสาวใส่แว่นคนหนึ่งก็เดินมาเสิร์ฟกาแฟให้กับเอ็ดมันด์ด้วย
“ขอบใจมากนะฟิโอล่า” เอ็ดมันด์บอกไป ก่อนที่ไม่นานนัก การประชุมก็เริ่มต้นขึ้น
“เอาหล่ะทุกคน ตอนนี้ทุกคนก็น่าจะรู้แล้วนะ ว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น” เอ็ดมันด์พูดขึ้น
“จะไปคิดมากทำไมหล่ะครับ ก็จับไอ้เนชินมาสอบปากคำก็สิ้นเรื่อง” คาร์ลพูดขึ้น
“เดี๋ยวสิคร้าบ ถ้าเกิดว่าหมอนั่นไม่รู้อะไรจริงๆ คุณจะทำไงหล่ะ??” ดู๊ดถามไป
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามันจะไม่รู้!!” คาร์ลพูดขึ้น
“คุณอยากจะฆ่าเขาก็บอกมาเถอะ” เดธพูดสั้นๆไป
“แต่เรื่องนี้มันมีเงื่อนงำจริงๆนะครับ แล้วอีกอย่าง ผมคิดว่าชาร์ลีไม่ใช่คนแบบนั้น เขาเป็นลูกศิษย์คุณด้วย คุณไม่เชื่อใจเขาเหรอ??” โกเมซถามไป ในตอนนั้นทำเอาคาร์ลถึงกับเงียบไป
“นั่นสิ แล้วใครมีความเห็นอะไรหรือเปล่าคะ??” ซินถามไป
“จะว่าไป คุณเองก็ส่งชาร์ลีไปทำภารกิจนี้นี่ แล้วใครติดต่อกับชาร์ลีหล่ะ??” อิซาเบลล่าถามคาร์ลกลับไป ทำเอาคาร์ลถึงกับพูดไม่ออก
“งั้นก็แปลว่า เรื่องนี้อาจมีคนนอกเอี่ยวด้วยสินะคะ” โอเด็ตพูดขึ้น
“เออนะ มันเป็นใครกันนะ ผมก็อยากรู้??” เก็นโซถามไป
“หรือว่า คนนอกร่วมมือกับคนในคะ??” นาตาลีถามต่อ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครตอบได้เลยซักคน เพราะทุกคนไม่รู้ว่าเรื่องนี้เริ่มต้นจากไหน
“คุณคาร์ล คุณไม่รู้อะไรเพิ่มจริงๆเหรอ??” เอ็ดมันด์ถามไป แต่ในตอนนั้นคาร์ลเองก็ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความไม่รู้
“ตอนนี้เราต้องจับมือกันให้แน่นนะครับ” เดธพูดขึ้น
“ผมรู้ แต่จะว่าไป เรื่องนี้เริ่มตั้งแต่ไดม่อนหางานสังหารประธานาธิบดีรัสเซีย แต่งานไม่สำเร็จหน่ะ” เอ็ดมันด์พูดขึ้น ทำเอาทุกคนถึงกับร้องอ๋อ
“เออ จะว่าไป ไดม่องเองโดนพวกเราประหารไปแล้วนี่??” คาร์ลถามไป
“เฮ้อ เสียดายผมไม่ได้ฆ่ามันเอง ใช่เปล่าเดธ??” ดู๊ดถามไป
“แต่เรายังไม่รู้เลยนะคะว่าไดม่อนทำงานให้ใคร” นาตาลีพูดขึ้น แต่ในตอนนั้น เลขาของเอ็ดมันด์ที่ชื่อฟิโอล่าก็พูดขึ้น
“เออ จะว่าไป ช่วงนั้นไดม่อนคุยโทรศัพท์กับใครบ่อยด้วยค่ะ”
“จริงด้วย ถ้าเราสืบหาโทรศัพท์ของหมอนั่นเจอ ก็น่าจะรู้อะไรบ้างนะครับ” เก็นโซพูดขึ้น
“ว่าแต่ เราจะไปหาจากที่ไหนหล่ะ??” โอเด็ตถามไป
“จะว่าไป ตอนฉันทำความสะอาดห้องเขา ฉันค้นหาห้องของเขาแล้ว ไม่เจออะไรเลยค่ะ” ซินบอกไป
“หมอนั่นอาจจะเอาไปทิ้งที่ไหนแล้วก็ได้” โกเมซพูดขึ้น
“แต่ถึงยังไง ก็น่าจะแกะรอยสัญญาณได้บ้างนะ” อิซาเบลล่าพูดขึ้น
“โอเค เราลองสืบเรื่องนี้ดูแล้วกัน ตอนนี้คงต้องหาโทรศัพท์เครื่องนั้นให้ได้” เอ็ดมันด์บอกไป
ช่วงพักเที่ยง ในตอนนี้กลุ่มนักเรียนทุกกลุ่มต่างพากันแยกย้ายไปพักผ่อนก่อนที่จะไปเรียนต่อ และที่กลุ่มของโครี่ กลุ่มของโครี่มานั่งคุยกันบริเวณโต๊ะพักผ่อนหน้าหอพัก จากนั้นพวกเธอก็มาคุยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกลางวัน
“เออนี่ พวกเธอ เมื่อกลางวันมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่หล่ะ??” บาตาถามไป
“มีข่าวมาว่าคนที่ชื่อชาร์ลี ได้ยินว่าเคยเป็นผู้คุมกฎมาก่อนคุณมอร์ตี้ทรยศหน่ะ” เจน่าตอบไป
“เออ จะว่าไป ตั้งแต่หมอนั่นเข้ามา โรงเรียนนี้ก็มีอะไรแปลกๆนะ” เอเลนอร์พูดขึ้น
“ฉันว่าไม่นะ ฉันได้ยินมาว่าเรื่องมันเกิดมาก่อนหน้านั้นแล้วนี่” โครี่พูดขึ้น
“แหม่ ฉันว่าเธอชอบหมอนั่นจริงๆแล้วหล่ะ” หลิวชิงหยินบอกไป
“แต่ได้ยินว่าอาจารย์คาร์ลหัวเสียมากเลยนี่” ฮอร์ตุสพูดขึ้น
“ก็แน่หล่ะ ได้ยินว่าชาร์ลีก็เป็นลูกศิษย์เขาด้วยนี่” อีชีเตพูดขึ้น
“แล้วคุณชาร์ลีทรยศโรงเรียนทำไมหล่ะ รู้อยู่ว่าจะไม่รอด??” แคทเทอรีนถามไป
“ฉันว่า มันอาจมีลับลมคมในมากกว่าที่เราคิดนะ” โครี่พูดขึ้น
“ลองสืบเรื่องนี้ดูมั้ยหล่ะ??” เจน่าถามไป
“จะบ้าเหรอ เราไม่รู้เลยนะว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ อาจจะใหญ่กว่าที่เราคิดก็ได้” เอเลนอร์พูดปรามไป
“บางทีฉันว่าอาจารย์คาร์ลหน่ะน่าสงสัย” บาตาพูดขึ้น
“นั่นสิ ฉันว่าอาจจะมีเบื้องหลังเป็นคนที่คาดไม่ถึงก็ได้” อีชีเตพูดขึ้น
“เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งใช้อคติตัดสินคนสิ” แคทเทอรีนพูดปรามพวกเธอไป
“เอาเถอะ คงต้องรอดูกันต่อไปแหะ” ฮอร์ตุสพูดขึ้น
“ยังไงเราก็ต้องระวังตัวกันด้วยนะ” หลิวชิงหยินบอกไป
และอีกด้านหนึ่ง บริเวณโต๊ะนั่งซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเรือนไม้เก่า ในตอนนั้นดูเหมือนว่าพวกเธอกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ในระหว่างนั้นพวกเธอก็คุยนั่นคุยนี่ไปด้วย
“เฮ้ ได้ยินเรื่องเมื่อกลางวันหรือเปล่า เรื่องที่เด็กที่นี่ทรยศหน่ะ??” เอสการ์ถามไป
“ฉันว่าไม่น่าจะใช่นะ อาจจะมีเงื่อนงำอะไรก็ได้” แมรี่พูดไป
“น่าสนุกดีนี่ ฉันว่าอาจจะมีเรื่องมันส์ๆอีกก็ได้” ซาชินพูดขึ้น
“เฮ้อ เดี๋ยวเธอได้สนุกกว่านี้แน่” ริวโซตอบไป
“นี่ ถ้าเป็นอย่างงั้น พวกเราก็อาจไม่รอดนะ” โดโรธีพูดขึ้น
“งานนี้อาจจะมีคนนอกมาเอี่ยวก็ได้นะ” คามิลล่าพูดขึ้น
“เออ แล้วเราจะสืบยังไงหล่ะ??” จินนี่ถามไป และในตอนนั้นเอง ตัวของแมรี่เองก็เอาคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเล็กของเธอขึ้นมา จากนั้นเธอก็หาข้อมูลของเธอต่อ
“เฮ้ แบบนี้จะปลอดภัยเหรอ??” เอสการ์ถามไป
“ไม่ต้องห่วง ฉันจัดการเอง” แมรี่บอกไป
“นี่ โดนจับขึ้นมาฉันไม่หารนะ” คามิลล่าพูดขึ้น
“ถ้ามันมาจับ ฉันจะถลกหนังมันให้” ซาชินพูดขึ้น
“ใช่ แล้วฉันจะเอาไส้มันออกมายทำ BBQ เลย” ริวโซพูดเสริม ก่อนที่ไม่นานนัก ตัวของโรสเองจะเดินออกจากเรือยไม้มาด้วยอาการเซงๆ ทุกคนเลยรีบหันไปหาเธออย่างรวดเร็ว
“เฮ้ เป็นไงมั่งอ่ะ??” จินนี่ถามไป
“รู้มั้ยฉันเพิ่งไปนอนกับใครมา รุ่นพี่ริคกี้หน่ะ” โรสบอกไป ทำเอทุกคนถึงกับอึ้งมาก
“จริงเหรอ แล้วเป็นไงอ่ะ??” โดโรธีถามอย่างตื่นเต้น
“โอ้ย เล็กและไวมากๆ สงสัยจะอดมานาน ไม่สะใจเลย” โรสพูดอย่างอารมณ์เสีย
ณ บริเวณโรงฝึกที่อาจารย์เดธกับดู๊ด ในตอนนี้กลุ่มของเนชินก็กำลังนั่งรอสถานการณ์อะไรบางอย่างกับเพื่อนๆของเขา และในตอนนั้นเอง มอร์ตี้เองก็เดินเข้ามาในโรงฝึก แล้วก็มาพร้อมกับพวกของนานะด้วย พวกเธอรีบมาหากลุ่มของเนชินในทันที
“เฮ้ เนชิน เป็นยังไงบ้าง??” นานะถามเขาไป
“อ้อ ไม่เป็นไรหรอก แค่ตกใจนิดหน่อยหน่ะ” เนชินตอบไป
“ว่าแต่ ตอนนี้ได้ข้อมูลว่าไงบ้างครับ??” เนชินถามไป
“เฮ้อ ดูเหมือนว่าตอนนี้ ไม่ว่านาย หรือใคร ก็ช่วยหอนั่นไม่ได้แล้วหล่ะ” มอร์ตี้ตอบไป ก่อนที่ไม่นานนัก ตัวของเดธและดู๊ดก็จะเดินเข้ามาในโรงฝึกด้วยอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่รีบเดินเข้าไปหากลุ่มของเนชินในทันที
“เป็นไงบ้างจารย์??” มอร์ตี้ถามพวกเขาทั้งคู่ไป
“ตอนนี้คุณเอ็ดมันด์สั่งให้ฉันจับตาดูนายหน่ะ” เดธตอบไป
“ใช่ พวกนายไม่รู้หรอก ว่ากว่าเราจะขอร้องคุณเอ็ดมันด์ได้รากเลือกแค่ไหน” ดู๊ดพูดพลางกอดอกไป
“แล้วในที่ประชุมเขาว่ายังไงบ้างหล่ะ??” มอร์ตี้ถามไป ก่อนที่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ นาตาลีก็เข้ามาในโรงฝึกแล้วมาคุยกับทุกคนในทันที
“เฮ้ พวกนาย ฉันรู้เรื่องแล้วนะ ฉันจะปล่อยให้พวกนายแก้ปัญหาคนเดียวได้ไงหล่ะ”
“ดีเลยจารย์ จารย์รู้อะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า??” มอร์ตี้ถามไป
“เธอเล่าเรื่องไดม่อนให้พวกเด็กๆฟังดีกว่า” นาตาลีพูดขึ้น ในตอนนั้นแม้แต่มอร์ตี้เองก็ถึงกับอึ้ง
“ไดม่อน ใครเหรอครับ??” คริสโตเฟอร์ถามอย่างสงสัย
“ไดม่อน เพนตาซา หมอนั่นเคยเป็นหนึ่งในผู้บริหารของโรงเรียนหน่ะ” เดธพูดขึ้น
“ไดม่อน เพนตาซา นักธุรกิจชื่อดังเหรอครับ ผมไม่นึกเลยว่าจะเป็นผู้บริหารที่นี่ด้วย” คิมยูจินพูดขึ้น
“โห นี่นายรู้จักนักธุรกิจด้วยเหรอเนี่ย แนวๆๆ” อัลลันพูดแซวเขาไป
“แล้วก็งานลอบสังหารประธานาธิบดีรัสเซียหน่ะ ประมาณว่า ไดม่อนต้องการหามือสังหาร พร้อมทีมสังหารไปที่นั่นหน่ะ” ดู๊ดพูดต่อ
“ฉันจำได้ว่างานนั้น ก่อนไป หมอนั่นสละตำแหน่งผู้คุมกฎให้ฉัน หมอนั่นไปแทนเพื่อนเขาที่เป็นหน่วยสังหารที่เพิ่งตายไปหน่ะ” มอร์ตี้พูดเสริม
“โห เรื่องชักอิลุงตุงนังขึ้นเว้ย” ฟิลิปพูดพลางเกาหัว
“เฮ้ย นายฟังอย่างเดียวเถอะ” โจพูดพลางตบกบาลเขาไป
“แต่หลังจากนั้น พอหมอนั่นกลับมา หมอนั่นแทบจะไม่ยอมพูดอะไรเลย พูดแต่ว่าภารกิจลุล่วง แต่ดูเหมือนพวกนักเรียนที่ส่งไปตายกันหมด ฉันพยายามหาคำตอบ แต่หลังจากนั้นหมอนั่นก็ออกทำภารกิจอีก แล้วกลับมาอีกที หมอนั่นก็พานายมา แล้วก็หายเข้ากลีบเมฆนี่หล่ะ” มอร์ตี้บอกกับเนชินไป
“แล้วอยู่ดีๆ พี่เขาก็ส่งข้อความมาว่ากำลังโดนหักหลังสินะครับ” เขตแดนพูดขึ้น
“ไม่เข้าใจอ่ะ มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย??” เอลซ่าถามอย่างสงสัย
“แล้วทำไมเราถึงไมลองเริ่มสืบกันเลยหล่ะ??” คามาคุริถามไป
“เดี๋ยวก่อนสิ ไม่แน่อาจจะมีสายคอยสอดแนมเราอยู่ก็ได้” อดาเน็คพูดปรามไป
“จริงด้วย แล้วอาจารย์คาร์ลพอจะอยู่ในลิสต์ผู้ต้องสงสัยได้หรือเปล่าคะ??” มาเรียน่าถามไป
“เท่าที่ดู ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ ดูจากอาการเขาแล้ว??” นาตาลีพูดขึ้น
“บางทีอาการมันก็หลอกคนอื่นกันได้นะคะ” มาเรียพูดขึ้น
“แต่เอาจริงๆ มานั่งสงสัยกันแบบนี้คงไม่ได้อะไรหรอกค่ะ” สเตลล่าพูดขึ้น
“จะไปยากอะไรหล่ะ ก็เริ่มจากอาจารย์คาร์ลเลยสิ” อุโมจาพูดขึ้น
“เออ แต่จะเข้าไปในห้องอาจารย์แกได้ยังไงกันหล่ะ??” เมอร์ลิน่าถามไป
“หน้าห้องอาจารย์แกมีกล้องวงจรปิด พร้อมยามอีกสองคน ฉันพอจะจัดการยามได้” นาตาลีพูดขึ้น
“ส่วนเรื่องกล้อง ไม่น่าจะยากหรอก” มอร์ตี้พูดไป
“โอเค เอาไว้ถ้ามีอะไรเดี๋ยวจะมาอัพเดทอีกที ระหว่างนี้ก็ระวังคนกลุ่มอื่นด้วยหล่ะ” เดธพูดขึ้น
“ใช่ ตอนนี้พวกเราจะพยายามหาข่าวให้เต็มที่เลย” ดู๊ดพูดเสริม ในขณะที่ทุกคนก็ได้แต่มองหน้ากัน
ตกเย็น หลังจากที่เหล่านักเรียนเรียนกันเสร็จแล้ว กลุ่มเด็กก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน แต่บางส่วนก็ยังเลือกที่จะฝึกฝนกันต่อ ราวกับว่าพวกเขาไม่เหน็ดไม่เหนื่อย และเช่นเดียวกับกลุ่มของอินเฟอร์โน่ ในตอนนั้นตัวของเขาก็ออกมาจากโรงฝึกและเดินปลีกวิเวกคนเดียว แต่ในตอนนั้นเอง
“ตุ๊บ!!”
ใครบางคนเอาไม้ตีเข้าที่หัวของเขาจนล้มลง และกลุ่มคนที่ใส่โม่งสีดำก็วิ่งกรูเข้ามา พวกนั้นรุมซ้อมอินเฟอร์โนแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ไม่นานนัก พรรคพวกของอินเฟอร์โน่ก็เข้ามาเห็น
“เฮ้ย ทำอะไรวะ??”
พวกของอินเฟอร์โนรีบวิ่งเข้ามาช่วยเขาในทันที เกิดการปะทะกันชุลมุน แต่พวกมันมีมากกว่าและใช้อาวุธเป็นท่อนไม้ ทำให้พวกของอินเฟอร์โน่เริ่มจะเสียเปรียบ
“ฟิ้ว!!”
“ตุ๊บ!!” ก้อนหินปริศนาพุ่งเข้าหัวของพวกโม่งดำอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย ทางนี้!!” เสียงนั้นคือเสียงของเนชินและพรรคพวก เนชินกับพวกรีบวิ่งเข้าไปและตะลุมบอนกับกลุ่มโม่งดำพวกนั้นในทันที ในตอนนี้ทั้งสองฝ่ายมีคนเท่ากันแล้ว และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครยอมใครกันเลย แต่พวกเขาฟัดกันได้ไม่นาน
“ปริ๊ด!!”
เสียงนกหวีดจากอาจารย์เดธและดู๊ดดังขึ้น พร้อมกันนั้นอาจารย์เดธก็ชักปืนออกมาและยิงขึ้นฟ้าต่อ
“ปัง!!”
“พวกกูเอาจริงนะเว้ย!!” ดู๊ดตะโกนออกมา ในตอนนั้นกลุ่มโม่งดำก็รีบเผ่นออกไปในทันที กลุ่มของเนชินพยายามจะไล่ตามไปแต่ก็ไม่ทัน ราวกับว่าพวกมันวางแผนกันมาแล้วว่าจะหนีไปทางไหน
“เฮ้ย ช่วยด้วย!!” ในตอนนั้นนากะตะเองรีบหามอินเฟอร์โน่ในสภาพที่เลือดอาบหัวขึ้นมา และทั้งสองกลุ่มก็รีบแบกร่างของอินเฟอร์โน่ไปห้องพยาบาลในทันที พวกเขาช่วยกันแบกและเจอกับนาตาลีที่อยู่ในห้อง
“เอาขึ้นเตียงเลย” นาตาลีพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็พาอินเฟอร์โน่ไปรักษาในทันที นาตาลีเอาตัวอินเฟอร์โน่เข้าไปทำแผลในห้องทำแผลและผ่าตัด โดยที่กลุ่มของเนชินและอินเฟอร์โน่ก็ยืนรอที่หน้าห้อง
“เจ็บกันตรงไหนบ้างเปล่า??” เนชินหันไปถามพวกของอินเฟอร์โน่ไป
“อ้อ พวกเราไม่เป็นไรหรอก ขอบใจมากนะเว้ย” ลาเกียครูซบอกไป
“เอาเถอะ ความจริงพวกเราก็อยากยืดเส้นยืดสายพอดี” ฟิลิปตอบไป
“ว่าแต่ พวกแม่งเป็นใครวะ??” คิมยูจินถามไป
“ให้ฉันเดานะ ต้องมีไอ้ไฮน์ริชเอี่ยวด้วยแน่ๆ” นากะตะพูดขึ้น
“จริงด้วย เกือบเล่นกันเมื่อกลางวันนี้นี่” แม็กซ์พูดเสริม
“ห่าเอ้ย ไปลุยกับพวกแม่งเลยดีกว่า” จอห์นพูดอย่างเจ็บแค้น
“เดี๋ยวสิ อย่าลืมดิว่าตอนนี้ใครถือหางพวกมันอยู่” เขตแดนพูดปรามไป
“นั่นสิ เดี๋ยวไอ้อาจารย์คาร์ลมันก็ช่วยไอ้ไฮน์ริชอยู่ดี จำตอนที่เราประลองกันได้มั้ยหล่ะ??” โจพูดเสริม
“แต่ถ้าอยู่แบบนี้ พวกมันอาจจะเล่นงานเราเรื่อยๆนะ” วาดีนพูดขึ้น
“พวกฉันรู้ แต่เราจะทำอะไรได้นอกจากจะป้องกันตัวเองหน่ะ??” อัลลันพูดไป
“แต่ถึงยังไงเราก็คงต้องทำอะไรซักอย่างแล้วหล่ะ” เรนาวอสพูดขึ้น
“ใช่ ไม่แน่เราอาจต้องเปิดศึกกับพวกแม่ง” คริสโตเฟอร์พูดไป
“เออ ถ้าพวกนายเอาไว้ พวกฉันเอาด้วยแล้วกัน” เอ็ดวาร์ดพูดไป ก่อนที่ไม่นานนัก นาตาลีจะเดินออกมาจากห้องพยาบาลอย่างรวดเร็ว เพื่อมาคุยกับพวกเขา
“เป็นยังไงบ้างครับจารย์??” อุโมจาถามไป
“ตอนนี้ปลอดภัยหล่ะ แผลนิดหน่อย อึดจริงหว่ะพวกนาย” นาตาลีบอกไป ก่อนที่ในตอนนั้นเอง กลุ่มผู้คุมกฎซึ่งทำโดยมอร์ตี้ก็เดินเข้ามาในห้องพยาบาลอย่างรวดเร็วเพื่อมาหากลุ่มของเนชิน
“พี่มอร์ตี้ มีไรครับ??”
“พวกนายต้องไปเข้าห้องสอบสวนหน่ะ เพราะเรื่องเมื่อกี้” มอร์ตี้บอกไป
“อะไรกัน พวกเราเพิ่งจะโดนยำตีนมานะพี่??” เนชินถามไป
“เออ ฉันรู้ แต่พวกเราต้องทำตามหน้าที่หน่ะ” เอาส์ติสบอกไป
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพวกเราจะให้ความเป็นธรรมเอง” ลิลิธบอกไป
“ให้ความยุติธรรมแบบที่เราได้รับตอนที่ลงสังเวียนเหรอครับ แล้วนี่พี่ริคกี้ไปไหนซะหล่ะครับ??” เนชินถามไป
“เออ เอาเป็นว่าพวกนายไปก่อนเถอะ” ซองชวาจินพูดห้วนๆ
“แล้วอินเฟอร์โน่หล่ะครับ??” อุโมจาถามไป
“เอาไว้แผลหมอนั่นหายก่อนแล้วกัน” อารีแอคเน่ตอบไป
“ใช่ ส่วนพวกนายมากับเราเถอะ” โมโมเอะบอกไป ในตอนนั้นเนชินมองหน้ามอร์ตี้ไปด้วย แต่มอร์ตี้ก็ต้องพยักหน้าให้เป็นสัญญาณว่าพวกเขาต้องไป เพราะเธอก็เป็นหนึ่งในผู้คุมกฎเหมือนกัน
“ตามเรามาทางนี้เลย” ออร์ฟิอุสพูดขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก กลุ่มผู้คุมกฎก็พากลุ่มของเนชินและอินเฟอร์โน่เข้าไปในห้องตัดสินคดี ในห้องนั้นจะเป็นลานกว้างที่อยู่ตรงกลาง เหมือนกับเอาไว้ให้ผู้ถูกตัดสินคดียืนตรงนั้น พร้อมกันนั้นก็มีบัลลังก์สำหรับผู้คุมกฎทั้ง 9 ที่อยู่ด้านหน้าพวกเขา และที่สเตเดี้ยมด้านบนก็มีพื้นที่สำหรับคนที่เข้าประชุมด้วย กลุ่มของเนชินพากันยืนอยู่ตรงกลาง ผู้คุมกฎทั้ง 9 รีบไปขึ้นนั่งบนบัลลังก์ในทันที โดยที่ริคกี้กับไฮน์ริชมาทีหลัง
“เฮ้อ ไอ้ตัวต้นเหตุมาแล้ว” อุโมจาสบถออกมา และไฮน์ริชไม่รอช้า รีบพูดใส่ไมค์ในทันที
“พวกแกมีความผิดในข้อหา..”
“เดี๋ยวสิ ยังไม่ทันจะทำตามขั้นตอนเลยนี่” มอร์ตี้พูดขึ้น
“เฮ้ย รู้ได้ยังไงวะ??” ริคกี้ถามไป
“ถึงฉันติดคุกมาเยอะ ฉันก็ยังไม่ลืมระเบียบนะเว้ย เราต้องบอกสถานการณ์ให้พวกเขาได้รู้ก่อน” มอร์ตี้ตอบไป และในตอนนั้นเอง ซองชวาจินก็เริ่มพูดขึ้น
“เอาหล่ะ พวกนายก่อเรื่องทะเลาะวิวาทกันไม่นานมานี้ พวกนายจะว่าไง??” ซองชวาจินถามไป
“พวกเราแค่ป้องกันตัว ผิดตรงไหนครับ??” เรนาวอสถามไป
“ใช่ แล้วไอ้พวกที่มันเล่นงานเรา พวกคุณจับมาได้ซักตัวหรือยัง??” นากะตะถามไป
“อะไร พวกแกพูดเรื่องอะไรกันวะ??” ไฮน์ริชถามไป
“ยังจะมาถามอีก คุณก็รู้แก่ใจอยู่แล้ว??” คิมยูจินพูดขึ้น
“ใช่ แน่จริงจับพวกนั้นมาสอบด้วยสิ!!” โจตอบไป
“ใช่ๆ พวกคุณไม่เห็นทำอะไรเลย??” แม็กซ์พูดบ้าง จนกลุ่มผู้คุมกฎต้องให้พวกเขาหยุด
“เงียบก่อน ค่อยๆอธิบายสิ!!” ออร์ฟิอุสบอกไป
“ครับ ยังไงก็ต้องหาหลักฐานมาให้ได้สินะ” วาดีนพูดไป
“ถ้าพวกแกไม่มีหลักฐาน พวกแก..” ไฮน์ริชยังไม่ทันพูดจบ ในตอนนั้นเองอาจารย์เดธและดู๊ดก็ลากชายชุดดำกลุ่มที่เล่นงานพวกของอินเฟอร์โน่เข้ามาในศาล จากนั้นก็โยนพวกมันลงกับพื้น ทำเอาไฮน์ริชถึงกับหน้าเจื่อน
“อ้าว คุณไฮน์ริช ตกใจทำไมคร้าบ??” เขตแดนพูดแบบกวนๆใจ
“อาจารย์คะ พวกนี้เป็นใครคะ??” อารีแอคเน่ถามไป
“ไอ้พวกนี้มันโง่ หนีไปซ่อนที่บ้านต้นไม้หน่ะ” เดธตอบไป
“เฮ้ย พูดไปดิว่าเกิดอะไรขึ้น ห่ะ??” ดู๊ดพูดขึ้นและเตะใส่พวกมันอย่างรวดเร็ว
“พวกมึงใช่หรือเปล่าที่เล่นงานพวกกู??” เอ็ดวาร์ดถามพวกมันไป
“ใช่ครับ” ชายชุดดำคนนั้นพูดอย่างหวาดกลัว ทำเอาไฮน์ริชถึงกับตกใจอย่างได้ชัด
“โอเค แล้วใครจ้างพวกนายหล่ะ??” มอร์ตี้รีบถามต่อเลย ในตอนนั้นพวกมันก็ไม่กล้าพูดอะไร
“เฮ้ย ตอบไปดิวะ!!” จอห์นพูดขึ้น
“นั่นดิ ไม่เห็นเก่งแบบเมื่อกี้เลย!!” ลาเกียครูซพูดเสริม ในตอนนั้นไฮน์ริชกับริคกี้พยายามจะพูดขึ้น แต่เอาส์ติสขวางเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยว ไฮน์ริช ให้พวกมันตอบก่อน” เอาส์ติสพูดขึ้น แต่ยังไม่ทันที่พวกมันจะพูด ในตอนนั้นเอง เสียงของชายคนหนึ่งจะตะโกนดังขึ้น
“หยุดนะ!!”
เสียงของชายคนนั้นก็คือคาร์ลนั่นเอง คาร์ลเดินเข้ามาในการพิจารณาคดี ในตอนนั้นไฮน์ริชก็ยิ้มออกมาได้
“เดี๋ยวนะคะอาจารย์ นี่คุณจะขัดขวางการพิจารณาเหรอ??” ลิลิธถามไป
“ไอ้พวกนี้ทำผิดก็เอามันเข้าคุกไปสิ จะอะไรมากมายนักหล่ะ??” คาร์ลบอกไป
“แต่ว่า ทำแบบนี้มันผิดกฎนะคะ??” โทโมเอะถามไป
“อะไร ผมก็จะเอามันไปเข้าคุกนี่ไง ไม่เอามันไปหล่ะ??” คาร์ลถามไป และไม่นานนัก เจ้าหน้าที่ของศาลก็รีบลากตัวชายชุดดำกลุ่มนั้นออกไปในทันที
“อะไรกันวะ จบแค่นี้เหรอ??” คริสโตเฟอร์บอกไป
“นั่นดิ แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ ให้พวกเราเสียเวลามาขึ้นศาลทำไมเนี่ย??” อัลลันถามเสริม
“โรงเรียนนี้แม่งไม่มีความเป็นธรรมเลย ไม่ต้องมีศาลก็ได้ม้าง” ฟิลิปพูดขึ้นพลางทำท่าถุ๊ยน้ำลายลงพื้น ในตอนนั้นกลุ่มผู้คุมกฎเหมือนจะไม่พอใจเล็กน้อย แต่มอร์ตี้พูดขึ้น
“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอกก็มันเรื่องจริง หรือพวกนายจะเถียง เอาหล่ะ การพิจารณาคดีจบแค่นี้ พวกนายไม่มีความผิด” มอร์ตี้บอกกับทุกคนและเคาะค้อนไม้เหมือนกับว่าผู้พิพากษาได้ทำการลงโทษแล้ว จากนั้นกลุ่มของเนชินและอินเฟอร์โน่ก็รีบออกจากศาลในทันที แต่ในระหว่างนั้น พวกเขาก็คุยอะไรกันบางอย่างไปด้วย
“เฮ้ ขอบใจมากที่ช่วย” เรนาวอสพูดขึ้น
“เรื่องเล็กน่า แต่ถ้าอยากตอบแทน ฉันอยากให้ช่วยอะไรหน่อย พวกนายหาเครื่องดักฟังให้ฉันได้หรือเปล่า กล้องสอดแนมด้วยก็ดี ไม่ต้องถามนะว่าเอาไปทำอะไร??” อุโมจายิงคำถามไป ในตอนนั้นพวกนั้นก็มองหน้ากันในทันที
“พอช่วยได้หรือเปล่าหล่ะ??” เนชินถามไป
“อืม ฉันจะลองดูแล้วกัน แต่ยังไม่รับปากนะ” ลาเกียครูซบอกไป
เวลาประมาณ 2 ทุ่ม เวลาที่กลุ่มเด็กนักเรียนจะต้องอยู่ในห้องพักกันแล้ว ในระหว่างนั้น กลุ่มของเนชินเองก็พานอนพักผ่อนกันบนเตียงเนื่องจากเหนื่อยกันมาทั้งวัน แต่ในตอนนั้น มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น คริสที่อยู่เตียงล่างก็รีบลุกขึ้นและไปเปิดประตูในทันที และหน้าห้องก็พบว่ามีแม่บ้านคนหนึ่งมารออยู่
“มอร์ตี้ฝากเอานี่มาให้พวกนาย” แม่บ้านคนนั้นพูดจบก็เอากระเป๋าอะไรบางอย่างมาให้กับคริส คริสเองรีบรับมาและปิดประตูห้องอย่างรวดเร็ว และเมื่อคริสเปิดกระเป๋านั้นออกมา ก็พบว่าด้านในเป็นโทรศัพท์มือถือรวม 8 เครื่อง พวกเขารีบหยิบขึ้นมาและแจกจ่าย แต่เมื่อเปิดมา พวกเขาก็พบว่าโทรศัพท์นั้นไม่มีฟังก์ชั่นให้โทรศัพท์ มีแต่ห้องแชทห้องหนึ่งเท่านั้น
“อะไรของพี่เขาเนี่ย??” เนชินถามอย่างแปลกใจ และทุกคนก็เปิดแอพในทันที และเมื่อเปิดเข้ามา พวกเขาก็เจอกับข้อความในห้องแขท
“ได้โทรศัพท์กันแล้วนะ??” กลุ่มของเนชินมั่นใจว่าเป็นมอร์ตี้แน่ๆ ในตอนนั้นเนชินเองก็พิมพ์ข้อความลงไปในทันที
“ได้แล้วครับ”
“อืม ดี ตอนนี้พวกนายต้องใช้โทรศัพท์นี้คุยกับฉันนะ ฉันกำลังแจกมันให้พวกแฟนของนาย พวกเธอน่าจะได้รับแล้ว”
“อ่า ครับผม” เนชินตอบกลับไป ท่ามกลางทุกคนในกลุ่มที่ยังสับสนอยู่เล็กน้อย
=====================================================================
การสืบเรื่องราวของคาร์ลจะเป็นยังไงต่อ และเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ
https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย
ให้ของขวัญเป็นกำลังใจกันได้ครัช ไหว้หล่ะ
ความคิดเห็น