ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sorova - เมื่อประเทศฉันมันบัดซบ

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 4 : เดินหน้าสู่เขต 3

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ย. 63


    กลุ่มของเนวิสค่อยๆย่องเข้าไปด้านในค่าย เป้าหมายของพวกเขาคือประตูใหญ่ของค่าย เนวิสวิ่งไปแงะสังกะสีที่ปิดอยู่ริมกำแพงชั้นสอง พวกเขาต้องทำเงียบๆเพื่อไม่ให้คนของอาริสรู้ตัว 

    “พวกคุณคิดว่าพวกมันจะรู้ตัวหรือเปล่า??” เนวิสถามไป

    “ก็ไม่หรอก เว้นแต่วันนี้พวกมันจะไม่เสพยากันทั้งค่าย” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “ถึงยังไงมันก็สู้เราไม่ได้หรอก มีแต่พวกติดยา ตัวงี้เหลืองเลย” วาลิน่าพูดขึ้น และมาร์ตินก็พยักหน้าไปด้วย จากนั้นพวกเขาก็เปิดทางได้สำเร็จ แล้วก็เข้าไปในเขตประตูใหญ่ได้แล้ว

    “โอเค ลูซิน่า เธอมองเห็นอะไรบ้าง??” วาลิน่าถามลูซิน่าที่กำลังบังคับโดรนสังเกตการณ์ที่ด้านหน้า

    “มีการ์ดอยู่ 13 คนได้ อาวุธเบา แต่ดูเหมือนพวกมันกำลังเมาเลย” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “แต่พวกมันส่วนใหญ่ออกันที่ประตู ถ้าพวกมันเจอเราซักคน คงแตกตื่นทั้งค่ายแน่” รอนนี่พูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้นคงต้องรีบเปิดประตูเลยหล่ะ” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “ระวังด้วยนะ พวกมันอาจจะกำลังจับตามองเราอยู่ก็ได้!!” เรนิต้าพูดขึ้น

    “ได้ ถ้าอย่างงั้นฉันลุยเอง!!” เนวิสพูดขึ้น จากนั้นเขาก็ค่อยๆย่องไปที่หน้าประตูใหญ่ ซึ่งมาร์ตินก็แอบตามไปด้วย เนวิสจับมันคนหนึ่งล็อกคอเพื่อเล่นงาน มันคนหนึ่งเห็นเนวิสจึงพยายามจะยิง แต่มาร์ตินก็วิ่งเข้าไปต่อยและเตะมันจนร่วง เนวิสทิ้งศพมันไว้ จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ประตูในทันที ซึ่งประตูเป็นประตูเลื่อนแบบง่ายๆ เขากับมาร์ตินรีบวิ่งไปประตูในทันที

    “เอาหล่ะ เตรียมตัวนะ!!” เนวิสบอกกับมาร์ติน มาร์ตินพยักหน้า จากนั้นพวกเขาก็ช่วยกันเลื่อนประตูในทันที

    และด้านในโกดังใหญ่ ซึ่งเป็นที่พักของอาริส ด้านในเป็นห้องผลิตยาเสพติดขนาดใหญ่ ซึ่งพวกเขาใช้แรงงานของชาวบ้านที่กระด้างกระเดื่องมาทำงาน ส่วนตัวอาริส เขาก็กำลังเสพยาอยู่ด้านในอย่างเมามาย และในตอนนั้นเอง ชายผอมแห้งคนหนึ่งก็ลากเด็กหญิงคนหนึ่งมาหาอาริส เพื่อเอามาบำเรอเขานั่นเอง

    “นายครับ นังเด็กนี่ตัวหอมมากเลยนะครับ!!”

    “ฮือๆๆ ปล่อยหนู อย่าทำอะไรหนูเลย!!”

    “จะกลัวอะไรจ๊ะ พี่มีอาหารให้กินนะ มานอนกับพี่หน่อยดีกว่า” อาริสพูดขึ้น จากนั้นพวกมันก็ลากเด็กคนนั้นมาหาอาริส ซึ่งอาริสก็เตรียมยาให้เธอเสพ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร 

    “ปัง!!”

    “เฮ้ย เกิดอะไรขึ้นวะ??” อาริสถามไป จากนั้นเขาก็หยิบปืนพกมากระบอกหนึ่ง และชายคนหนึ่งห็รีบวิ่งมาหาอาริสในทันที

    “นายครับ แย่แล้วครับ!!”

    “อะไรของมึงวะ??” อาริสถามอย่างสงสัย

    “ข้าศึกบุกครับนาย!!”

    “ข้าศึกห่าอะไรวะ ส่งคนไปสู้กับมันเด่ เว้ย คนจะนอน!!” อาริสตะโกนออกไป

    “ตู้ม!!” เสียงระเบิดดังมาจากด้านนอก ทำเอาอาริสถึงกับตกใจ

    “นายครับ เราหนีกันเถอะครับ”

    “เออๆๆ พวกมึงรีบไปขนเงินเลย เดี๋ยวกูจะไปขนของก่อน” อาริสพูดขึ้น จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ห้องของเขาในทันที

    และที่ด้านนอก กลุ่มของเนวิสได้บุกเข้าไปโจมตีคนของอาริสอย่างดุเดือด หลังจากที่พวกเขาเปิดประตูใหญ่ได้สำเร็จ คนของอาริสพยายามจะต้านทานไว้ แต่พวกเขารบไม่เป็นและร่างกายอ่อนแอจากฤทธิ์ยาเสพติด พวกเขาจึงพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย

    “ทุกคน ไอ้อาริสมันต้องอยู่ด้านในแน่ๆ!!” วาลิน่าพูดขึ้นจากนั้นก็ยิงปืนกลใส่พวกมัน

    “ถ้าอย่างงั้นฉันไปเอง!!” เนวิสพูดขึ้น จากนั้นเขาก็วิ่งเข้าไปด้านในทันที มาร์ตินเห็นตอนนั้นก็รีบตามเนวิสไปด้วยเพื่อช่วยคุ้มกันเขา

    “เฮ้ สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง??” ลูซิน่าวอถามคนอื่นๆไป

    “กำลังยิงกันหนักเลย ไอ้อาริสน่าจะอยู่ด้านในแน่ๆ” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “ระวังไว้ด้วย มันอาจจะมีกองกำลังของมันรออยู่” รอนนี่ตะโกนแทรกไป

    “แล้วนี่ เนวิสหายไปไหนหล่ะ??” เรนิต้าถามไป

    “เขาวิ่งเข้าไปด้านในกับมาร์ตินหน่ะ พวกเรากำลังจะตามเข้าไป!!” วาลิน่าพูดขึ้น จากนั้นพวกเธอก็พยายามฝ่าพวกมันตามเนวิสไปในทันที

    และที่ด้านใน อาริสที่ยังไม่ทันจะสร่างยาก็รีบสั่งให้ลูกน้องรีบขนเงินอย่างรวดเร็ว โดยที่ในเมืองของเขาก็จับเด็กสาวที่น่าสงสารเอาไว้ด้วย

    “เฮ้ย รีบๆขนเงินสิโว้ย!!”

    “ครับๆ พวกเรากำลังรีบอยู่ครับ” ลูกน้องของเขาพูดขึ้น แต่ในตอนนั้นเอง

    “ปังๆๆๆ”

    พวกเขาได้ยินเสียงปืนที่ด้านนอกก็ตกใจ ทำเอาพวกเขาถึงกับลนเข้าไปอีก พวกนั้นลนลานถึงกับทำเงินตกไว้มากมาย แต่ในตอนนั้นเอง

    “ปังๆๆๆ”

    เนวิสวิ่งฝ่าลูกน้องของอาริสจนมาถึงตัวเขา อาริสลนลานทำอะไรไม่ถูกจึงจับเด็กคนนั้นมาแล้วเอาปืนจ่อในทันที

    “อย่าเข้ามานะเว้ย ไม่งั้นอีเด็กนี่ตาย!!” 

    “งั้นเหรอ มึงตัวใหญ่กว่าเด็ก เป้ายิงของกูมีเยอะหว่ะ” เนวิสพูดขึ้น จากนั้นก็เล็งปืนไปที่หัวของเขา

    “กูยิงจริงๆนะเว้ย อย่านะเว้ย!!”

    “เหรอ ก็ลองดูสิว่ามือใครจะไวกว่ากัน!!” เนวิสตะโกนไป แต่ดูเหมือนอาริสจะทำอะรไม่ได้ อยู่ๆเขาก็วางปืนลงแล้วปล่อยเด็กออกมา

    “ยอมแล้ว!!” อาริสพูดขึ้น จากนั้นเนวิสก็วิ่งไปต่อยหน้ามันแล้วจับตัวมันไว้ มาร์ตินที่เพิ่งจะมาถึงก็มาช่วยด้วย พวกเขาพากันลากตัวอาริสออกมาสมทบกับคนอื่นๆที่อยู่ด้านนอก จากนั้นก็คุยกันต่อในทันที

    “จับมาได้หล่ะ กำลังเมายาเลย ด้านในพวกมันปั๊มยาบ้าขาย มีเงินเป็นฟ่อนๆเลย เงินดอลล่าห์ด้วย!!” เนวิสพูดขึ้น

    “เยี่ยม ส่งคนของเราไปเก็บเงินมาให้หมด!!” วาลิน่าพูดขึ้น

    “สถานการณ์เป็นยังไงบ้างทุกคน??” ลูซิน่าถามผ่านวอไป

    “จับตัวอาริสได้แล้ว คนของเราตายไป 10 คน แต่พวกเราชนะใสๆเลย” วาลิน่าตอบไป

    “ดีๆ เพราะฉันได้ข่าวการรบที่กราโดสกำลังเดือดเลย” รอนนี่พูดขึ้น

    “ความจริงแล้วพวกเราน่าจะไปสมทบกับพวกเขานะ” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “ไม่ต้องห่วงหรอก เราส่งคนบางส่วนไปช่วยพวกเขาแล้วหล่ะ” เรนิต้าพูดขึ้น

    “อืม ตอนนี้เราต้องเคลียร์พื้นที่ก่อน ยึดอาวุธพวกมัน ใครยังขวางทางก็ฆ่าให้หมด” เนวิสพูดขึ้น จากนั้นมันก็ไปคุยกับอาริสต่อในทันที

    “ไอ้ทาร์เน่ลูกพี่ของมึงอยู่ที่ไหน??” 

    “ฃ ตอนนี้น่าจะย้ายมาอเมริกาแล้วหล่ะ เขากำลังคุมตลาดยาเสพติดที่นั่น” อาริสพูดขึ้น

    “ตอนไอ้ปราฟยาฟยังอยู่ มึงนี่มันกร่างไปทั่ว วันนี้มึงเป้นหมาหัวเน่าแล้ว รับรองเลยว่ามึงไม่รอดแน่ๆ!!” เนวิสพูดขึ้นและใช้สันปืนฟาดมันจนสลบไป

     

    และที่กราโดส ทหารของโดนาทอร์กำลังรบกับพวก Khorne และกลุ่มพันธมิตรในพื้นที่อย่างดุเดือด แต่ตอนนี้ฝ่ายของโดนาทอร์กำลังได้เปรียบอย่างมาก เนื่องจากกองกำลังค่อนข้างมีความเข้มแข็งและมีกำลังใจดี โดนาทอร์ซึ่งกำลังวางแผนในเต้นท์ของเขากับปาโบล ในตอนนั้นชายคนหนึ่งก็วิ่งมาหาโดนาทอร์และมารายงานข่าวกับเขาในทันที

    “ท่านครับ พวก Khorne เริ่มจะถอยไปแล้วครับ!!”

    “ดี ถ้าพวกมันถอยก็อย่าเพิ่งตามหล่ะ เราต้องปักหลักยันไว้ก่อน” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “มีอีกข่าวหนึ่งครับ ตอนนี้กองกำลังของเรา ยึดภูวิสมาได้แล้วครับ จับตัวอาริสได้ด้วยครับ!!”

    “ไอ้อาริส มันเคยมาหาเรื่องคุณด้วยนี่ ใช่หรือเปล่า??” ปาโบลถามไป

    “เรายึดเมืองหลวงได้แล้ว แต่กองกำลังของมันยังมีมากกว่าเราอยู่” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “ผมว่า พวกมันคงต้องออมกำลังไว้ปิดล้อมพวกเราแน่นอน” ปาโบลพูดขึ้น

    “ก็เป็นไปได้ สั่งคนของเราสร้างแนวป้องกันเมืองหลวงกับเขต 2 ทันที” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “พื้นที่แถบนั้นเป็นที่ราบ คงต้องวางกองกำลังแล้วหล่ะครับ” ปาโบลพูดขึ้น

    “แล้วนี่ ได้ข่าวปาร์บี้พาร์นิต้าหรือเปล่า??” โดนาทอร์ถามอย่างสงสัย

    “คนของเรารายงานมาว่าพวกเขาจะถึงท่าเรือวันพรุ่งนี้ครับ!!”

    “สั่งคนของเราคุ้มกันด้วยหล่ะ” ปาโบลพูดขึ้น

    “พวก Khorne มันไม่จบแค่นี้แน่ ยังไงก็ต้องระวังไว้หน่อยหล่ะ” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “ถ้าเราเกณฑ์คนจากเขต 3 กับ 4 มาช่วยเราได้ งานของเราน่าจะง่ายขึ้นนะ” ปาโบลออกความเห็นไป 

    “อืม พยายามส่งข้อความไปหาพวกเขา เพื่อถามดูว่าใครอยากจะร่วมกับเราบ้าง” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “ท่านครับ พวกมันถอยไปหมดแล้วครับ!!” ทหารคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา จากนั้นโดนาทอร์ก็วิ่งไปดูในทันที เขาใช้กล้องส่องทางไกลมองออกไปก็พบว่าพวก Khorne ถอยกันไปหมดแล้ว บางส่วนก็ยอมแพ้และทิ้งอาวุธ ทำให้กองทัพของโดนาทอร์ยึดพื้นที่อย่างรวดเร็ว

     

    กลับมายังเขต 4 ซึ่งอยู่ภายใต้การคุ้มครองของ UN ช่วงเช้ามืด เจซซินที่เพิ่งจะมาถึงก็จัดการเรื่องอาวุธและอุปกรณ์ของเธอ ก่อนที่จะเตรียมปฏิบัติการ หลังจากนั้นเธอก็ออกจากเต้นท์มา แล้วมาพบกับมารีนเนอร์ที่อยู่ที่ค่ายด้วย ทั้งคู่จึงรีบคุยกันในทันที

    “สวัสดีค่ะ ได้นอนบ้างแล้วนะคะ??” มารีนเนอร์ถามไป

    “ก็นิดหน่อยค่ะ ขอบคุณสำหรับการต้อนรับนะคะ” เจซซินพูดขึ้น

    “ว่าแต่ คุณมาทำงานอะไรที่นี่คะ??” มารีนเนอร์ถามไป

    “งานของฉันคือจับตากลุ่มของโดนาทอร์ค่ะ” เจซซินพูดขึ้น

    “ได้ข่าวว่าเมืองหลวงกำลังหนักเลยนะคะตอนนี้” มารีนเนอร์พูดขึ้น

    “ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นไงบ้าง” เจซซินพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง มีทหารคนหนึ่งเดินมารายงานข่าวกับมารีนเนอร์อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

    “คุณมารีนเนอร์ครับ พวกของโดนาทอร์ยึดทั้งเมืองหลวงได้แล้วครับ!!”

    “จริงเหรอ พวกเขาชนะเร็วขนาดนี้เลยเหรอ??” เจซซินถามไป

    “แบบนี้กองทัพในเขตอื่นคงอยู่ไม่ติดเก้าอี้แน่ๆ” มารีนเนอร์พูดขึ้น

    “เอาเป็นว่า ฉันคงต้องไปจัดการสถานการณ์แล้วหล่ะ” เจซซินพูดขึ้น จากนั้นเธอก็ใส่เสื้อคลุมของเธอ

    “คุณมีรถหรือเปล่า??” มารีนเนอร์ถามไป

    “ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันหาได้อยู่แล้ว!!” เจซซินพูดขึ้น จากนั้นเธอก็เดินออกจากค่ายไปในทันที ซึ่งเป้าหมายของเธอคือเมืองหลวงที่กำลังมีการปะทะกันครั้งใหญ่

     

    กลับมายังเขต 2 ของกลุ่ม Khorne ซึ่งหัวหน้ากลุ่ม เรดเดวิล กำลังนอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจ แต่ในตอนนั้นเอง ลูกน้องของเขาคนหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาในห้องนอนของเขา แล้วมารายงานสถานการณ์กับเขาในทันที

    “ท่านครับ แย่แล้วครับ!!”

    “มีอะไรวะ คนกำลังหลับสบายเลย” เรดเดวิลถามอย่างหงุดหงิด

    “พวกของโดนาทอร์มันยึดเมืองหลวงได้มั้งหมดแล้วครับ!!”

    “หะ อะไรกันวะ ฉันส่งคนไปเป็นพันเลยนะเว้ย??” เรดเดวิลถามไป

    “พวกเขาโจมตีเราหนักมาก แถมพวกมันรบนอกรูปแบบกับเราด้วยครับ”

    “เออ ช่างมันเถอะ ไหนๆเราก็จะถอยออกมาจากเมืองหลวงอยู่แล้ว” เรดเดวิลพูดขึ้น

    “แล้วเราจะโจมตีพวกมันต่อดีหรือเปล่าครับ??”

    “ไม่ต้องรีบร้อน ยังไงเราก็ชนะมันง่ายไอยู่แล้ว”

    “ว่าแต่ ถ้าพวกมันบุกเขต 2 ล่ะครับ??” ลูกน้องของเขาถามไป

    “มันไม่กล้าหรอก ถ้ามันอยากฆ่าตัวตายนะ” เรดเดวิลพูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้น เราก็แค่รอให้พวกมันอ่อนแอ แล้วโจมตีสินะครับ”

    “พวกแกเอากำลัง 3 พันไปตรึงชายแดนเขต 2 กับเมืองหลวงไว้ ถ้าสบโอกาสก็ยิงพวกมัน ยิงฉาบฉวยนะ ไม่ต้องเอาจริง” เรดเดวิลสั่งไป

    “รับทราบครับผม!!”

    “แล้วนี่ สงครามที่อื่นเป็นยังไงบ้าง??” เรดเดวิลถามไป

    “ตอนนี้เขต 3 กำลังวุ่นวายหนัก ส่วนเขต 4 พวก UN ยังตรึงกำลังอยู่ครับ!!”

    “เออ ถึงยังไงเราก็ยังเป็นต่อพวกมัน แล้วนี่ยาของฉันเมื่อจะมาส่งเนี่ย??” เรดเดวิลถามอย่างสงสัย

    “คาดว่าพรุ่งนี้เที่ยงครับ!!”

    “ดี ถ้ามาถึงเมื่อไหร่ก็บอกแล้วกัน แล้วนี่ไอ้สูราจามันไปไหนของมันเนี่ย??” เรดเดวิลถามไป

    “คงจะไปเที่ยวในซ่องหล่ะมั้งครับ??”

    “เออๆ ปล่อยมันเถอะ ฉันเองก็อยากจะนอนเหมือนกัน” เรดเดวิลพูดขึ้น จากนั้นเขาก็ลากสังขารตัวเองกลับเข้าไปในห้องนอนของเขา เขาล้มตัวลงนอนบนเตียง จากนั้นก็คิดอะไรไปเรื่อยเพื่อให้นอนหลับ 

     

    กลับมายังเขต 4 ค่ายทหารเก่า ในตอนนั้นเองบาร์มามัสก็กลับมาถึงค่ายจนได้ พวกเขาเอารถเข้าไปจอดด้านใน จากนั้นก็เรียกลูกน้องคนอื่นๆมาช่วยกันยกของในทันที ซึ่งคนอื่นๆก็รีบมาช่วยกันยกของด้วยความยินดี

    “ทุกคน มีเสบียงกับอาวุธเยอะเลย มาเอาไปเร็ว!!” เคนโนช่าพูดขึ้น

    “เสบียงที่เราได้มานี่เยอะมากเลยนะครับ” โอมเมอร์พูดขึ้น

    “แน่นอน อย่างน้อยก็เลี้ยงพวกเราได้เป็นเดือนหน่ะ” บาร์มามัสพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง ทหารของเขาคนหนึ่งก็มารายงานข่าวกับเขา

    “ลูกพี่ มีข่าวจากเมืองหลวง ตอนนี้กำลังรบกันใหญ่เลย!!”

    “จริงเหรอ แล้วผลการรบเป็นยังไงบ้างหล่ะ??” บาร์มามัสถามไป

    “สายของเราบอกมาว่า คุณโดนาทอร์ชนะ ยึดทั้งเมิองหลวงได้แล้วครับ”

    “โห เร็วขนาดนี้เลยเหรอ ฉันว่ามันแปลกๆนะ” เคนโนช่าพูดขึ้น

    “ทำไมหล่ะครับ??” โอเมอร์ถามอย่างสงสัย

    “ปกติพวก Khorne ไม่น่าแพ้เร็วขนาดนี้นะ” เคนโนช่าพูดขึ้น

    “ก็ไม่แน่ พวกที่ส่งไปอาจจะเป็นพวกปลายแถวก็ได้” บาร์มามัสพูดขึ้น

    “แล้วนี่ กองกำลังของโดนาทอร์มีเท่าไหร่หล่ะ??” เคนโนช่าถามอย่างสงสัย

    “เราก็ไม่รู้แน่ครับ แต่ตอนนี้อาจจะมีเป็นพัน”

    “หรือว่า เราจะร่วมมือกับพวกเขาดีครับ??” โอเมอร์ถามไป

    “ใจเย็น ไม่รู้ว่าเขาจะชนะได้หรือเปล่านะ??” บาร์มามัสพูดขึ้น

    “แต่ฉันว่า ถ้าได้เขาช่วย อาจจะช่วยประเทศนี้ได้นะ” เคนโนช่าพูดขึ้น

    “นั่นสิครับ ผมเห็นด้วยนะครับถ้าเราจะร่วมกับเขา” โอเมอร์พูดเสริม

    “ก่อนอื่นเลยเราต้องเล่นงานไอ้แก่มาร์ชินให้ได้ก่อน” บาร์มามัสพูดขึ้น

    “เออนี่ ทหารของพวกมันมีเยอะแค่ไหน พอรู้หรือเปล่า??” เคนโนช่าถามคนของเธอไป

    “เท่าที่เราไปนับล่าสุด น่าจะ 4000 ได้นะครับ!!”

    “พวกมันมีเยอะกว่าเรา แบบนี้คงต้องเล่นสงครามกองโจรแล้วหล่ะ” บาร์มามัสพูดขึ้น

    “แต่เท่าที่ผมดู พวกมันไม่ค่อยโผล่หัวออกมาจากค่ายเลยนะครับ” โอเมอร์พูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้นก็ต้องล่อให้มันออกมา แถวนั้นมีไร่ข้าวโพดอยู่ ซึ่งพวกมันกำลังปลูกข้าวโพดเป็นเสบียง ถ้าเราจัดการที่นั่นได้ มันต้องออกมาคุมเองแน่ๆ” เคนโนช่าพูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้น สั่งคนของเราให้ไปสำรวจไร่ข้าวโพดนั่นก่อน” บาร์มามัสพูดขึ้น

    “เราได้อาวุธเพิ่มขึ้นทั้งปืนกลและจรวด เราไม่ต้องกลัวรถหุ้มเกราะของมันแล้วหล่ะ” เคนโนช่าพูดขึ้น

    “ผมว่า เราน่าจะทำระเบิดขวดให้เยอะขึ้นนะครับ” โอเมอร์พูดขึ้น

    “แต่ตอนนี้เราขาดทั้งผ้า น้ำมัน จะไปหาที่ไหนหล่ะ??” เคนโนช่าถามไป

    “ก็ลองใช้อย่างอื่นที่ติดไฟได้มาแทนดูแล้วกัน เรายึดน้ำมันก๊าดของมันมาได้มากโข น่าจะพอรบกับพวกมันได้ งานนี้เราหันหลังกลับไม่ได้แล้วหล่ะ” บาร์มามัสบอกกับทุกคนไป

     

    กลับมาที่บ้านของแองเจลิก้า ในตอนนั้นเองการรบซึ่งเป็นไปอย่างดุเดือด แม้แต่เธอก็ยังได้ยินเสียงปืน เธอตื่นขึ้นมาแต่เช้ามืดเพื่อรดน้ำผักกับเลี้ยงสัตว์ไปด้วย เธอเดินไปเอาข้าวโปรยให้ไก่ที่อยู่แถวนั้นกินด้วย

    “เอ้า มากินกันเร็วๆจ้า!!”

    ในระหว่างที่เธอกำลังโปรยอยู่นั่นเอง จู่ๆก็มีเสียงรถดังเข้ามาใกล้ ทำเอาเธอต้องหยุดให้อาหาร จากนั้นก็รีบวิ่งมาหลบในบ้านทันที

    “อะไรกันเนี่ย??”

    แองเจลิก้าสังเกตเห็นขบวนรถทั้งรถบรรทุกและรถยนต์ค่อยๆแล่นผ่านถนนบ้านเธอไป แต่เธอก้ยังคงนิ่งและสังเกตการณ์เพื่อดูว่าพวกนั้นเป็นใคร

    “นั่นมันอะไรกันนะ??”

    แต่ในตอนนั้นเอง เธอก็สังเกตเห็นธงที่ติดอยู่กับรถคันหนึ่ง ซึ่งเป็นธงของกลุ่มมาร์ชิน เธอตกใจมากเมื่อได้เห็น

    “พวกมันมาทำอะไรแถวนี้เนี่ย ต้องรีบบอกบาร์มแล้วหล่ะ!!” แองเจลิก้าคิดในใจ จากนั้นเธอก็ค่อยๆย่องกลับเข้าไปในบ้านของเธอในทันที

     

    ณ เขตชายแดนเมืองหลวง ซึ่งความวุ่นวายกำลังปะทุถึงขีดสุด พวกของปีเตอร์ได้สังเกตการณ์พื้นที่รอบๆ แล้วก็พบว่ากองกำลังของ Khorne และชาวบ้านกลุ่มอื่นๆกำลังล่าถอยออกจากเมืองหลวง โดยที่แจ๊คกี้กับดีมีทรีก็คอยบอกสถานการณ์ไปด้วย

    “ท่านคะ พวก Khorne กำลังล่าถอยค่ะ!!” การ์เซียพูดขึ้นพลางดูทางกล้องส่องทางไกล

    “ดูเหมือนว่าพวกของโดนาทอร์กำลังไล่บี้พวกมันออกจากเมืองหลวงแล้วหล่ะ” เมสันพูดขึ้น

    “อีกไม่นาน โดนาทอร์คงจะยึดเมืองหลวงได้แล้วหล่ะ” ดีมีทรีพูดขึ้น

    “แล้วเราจะเอายังไงต่อหล่ะครับ นี่ก็ตี 5 กว่าๆแล้ว” เจสันถามไป

    “โอเค เราจะฝ่าพวกเขาเข้าไปในเมืองก่อน พวกนายพอรู้เส้นทางนะ??” ปีเตอร์ถามแจ๊คกี้ไป

    “รู้สิ พวกเราใช้เส้นทางนั้นออกมาเจอพวกคุณนี่หล่ะ” แจ๊คกี้พูดขึ้น

    “วาเลเรีย เสบียงของเราเหลือเยอะแค่ไหน??” ซาโตะถามไป

    “น่าจะพออยู่ได้ประมาณ 3 วันค่ะ” วาเลเรียพูดขึ้น

    “ผมว่า เราน่าจะไปหาอาหารในเมืองนะครับ” คาเตอร์พูดขึ้น

    “ถ้าเรื่องอาหาร ผมมีที่ที่พอไว้ใจได้” ดีมีทรีพูดขึ้น

    “เรื่องกระสุนกับยุทธภัณฑ์อื่น คงต้องรอแล้วหล่ะ” มิคาเอลพูดขึ้น

    “ผมมีสายอยู่ในเมือง ผมจะพาพวกคุณไปติดต่อเขาเอง” แจ๊คกี้พูดขึ้น

    “ได้เลย ซาโตะ ออกเดินทางกันเลย!!” ปีเตอร์พูดขึ้น

    “รับทราบค่ะ ทุกคน เก็บของ อีก 3 นาทีเดินทาง!!” ซาโตะพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็รีบเก็บของของพวกเขา และออกเดินทางเข้าเมืองหลวงในทันที

     

    เช้าวันต่อมา หลังจากที่กองทัพของโดนาทอร์ได้ปลดปล่อยเมืองหลวงได้ทั้งหมด ชาวบ้านหลายคนก็พากันโห่ร้องดีใจและเดินฉลองไปตามถนน พวกเขาต้อนรับทหารของโดนาทอร์เป็นอย่างดี และในตอนนั้นเอง อเล็กซานเดอร์ก็ได้มองมาจากร้านของเขาด้วย โดยที่ฟรานชิสก้ามาเยี่ยมเขาพอดี

    “อเล็กซ์ สงครามมันจบแล้ว!!” 

    “ยังหรอก พวกเขาแค่ยึดเมืองหลวงได้ ยังเหลืออีกหลายเขตที่ต้องรบอีก” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “ฉันว่าจะไปที่ท่าเรือ ฉันอยากกลับบ้านหน่ะ”

    “ใจเย็นๆ ตอนนี้ท่าเรือยังไม่มีเรือต่างชาติเข้ามาเลย พวกเขายังกังวลเรื่องสถานการณ์หน่ะ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “เมื่อคืนพวกมาเฟียที่อยู่แถวบ้านก็พากันหนีไปหมด คงจะเข้าป่ากันหมดแล้วหล่ะ”

    “ฉันว่าฉันจะขายสัตว์เลี้ยงในร้านด้วย เผื่อใครอยากซื้อหน่ะ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “ยังมีให้ขายอีกเหรอ??”

    “ฉันมีหมาสงครามขายอยู่ 30 กว่าตัว ถ้าพวกเขาอยากซื้อนะ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “อืม ก็ดีนะ อย่างน้อยก็ไม่เปลืองอาหารหน่ะ”

    “ทหารของโดนาทอร์ต้องการหลายอย่าง อาวุธ แล้วก็ยุทธปัจจัย ได้ยินว่าคุณปาโบลยึดเงินจากคนของนายพลปราฟยาฟได้เป็นล้าน เงินดอลล่าห์ด้วย” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “ฉันกำลังรอข่าวอยู่ ถ้าได้เรื่องอะไรก็บอกด้วยแล้วกัน” ฟรานชิสก้าพูดขึ้น

    “ได้เลย ฉันจะให้เพื่อนฉันตามข่าวดู แต่เมืองหลวงตอนนี้ปลอดภัยแล้วหล่ะ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “ยังไงก็ได้ ฉันอยากไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”

    “เอาน่า ยังไงเธอก็ได้ไปแน่ๆ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

     

    และอีกด้านหนึ่งในเมือง ร้านบะหมี่ของหลิว ในตอนนั้นเองหลิวก็กลับมาจากการหาวัตถุดิบด้านนอก เขาเปิดประตูเข้ามาก็พบกับ G ที่กำลังนั่งอยู่ในบ้าน เขาวางวัตถุดิบเอาไว้ และ G ก็มาดูในทันที

    “ไงพวก ด้านนอกนี่กำลังดีใจกันใหญ่เลย!!” หลิวพูดขึ้นจากนั้นก็เอาแป้งไปไว้ที่ลานบะหมี่ของเขา

    “อยากรู้ไหมทำไม ก็โดนาทอร์ตอนนี้ยึดเมืองหลวงได้หมดแล้วหน่ะสิ” หลิวพูดขึ้น จากนั้นเขาก็เตรียมทำบะหมี่เพื่อเตรียมขาย

    “ช่วยเอากระดูกหมูมาหน่อยสิ!!” หลิวบอกกับ G ไป G ยกกระดูกหมูมาใส่ลงในหม้อต้มทันที จากนั้นเขาก็เทน้ำใส่หม้ออย่างรวดเร็ว

    “แจ๋ว เป็นงานดีนี่ เปิดไฟตุ๋นเลย”

    หลิวพูดขึ้น จากนั้น G ก็เปิดเตาแก๊สและลองตุ๋นน้ำซุป จากนั้นก็รอไปก่อน

    “เออนี่ ฉันติดต่อหารถได้แล้วนะ เย็นนี้เขาจะเอามาจอด แต่เป็นมอไซค์นะ ได้เปล่า??” หลิวถามไป จากนั้น G ก็พยักหน้าไป

    “อ่าๆ ไม่เรื่องมากแบบนี้ก็ดีหล่ะ ล้อเล่นๆ หยอกๆ!!” หลิวแซวไป แต่ G ทำได้แค่ส่ายหน้า

    “อ่าๆ เดี๋ยวอั๊วทำเสบียงให้ แต่ตอนนี้ชายแดนเขต 2 ข้ามไปยากอยู่นะ นายเอาจริงเหรอ??” หลิวถามไป แต่ G ก็พยักหน้าอย่างมั่นใจ

    “อ่าๆ ก็แล้วแต่นะ ยังไงก็ลองดูแล้วกัน” หลิวพูดทิ้งท้ายไว้

     

    กลับมายังค่ายของแอลรอน ในวันนั้นเองเขาก็ได้เตรียมกำลังพลได้ราว 2000 นายเพื่อเตรียมโจมตีเขต 5 ของชาร์ลี ในวันนี้เขาเตรียมรถยนต์ติดแผ่นเหล็กและปืนกลมาเป็นหัวหอกในการโจมตีด้วย และได้ตรวจทหารก่อนจะลุยด้วยตัวเอง

    “เรามีคนแค่ 2000 ที่พอจะโจมตีได้นะ!!” โรสเซียพูดขึ้น

    “2000 ก็พอแล้ว อย่างไอ้ชาร์ลีนี่มันขี้หมา เก่งแต่กับคนไม่มีทางสู้” แอลรอนพูดขึ้น

    “เฮ้อ ป่านนี้มันคงนอนกับเมียดาราของมันสบายใจเฉิบหล่ะ”

    “ใช่ เราถึงจะใช้จังหวะนี้โจมตีเร็วยังไงหล่ะ” แอลรอนพูดขึ้น

    “แล้วพวกมันมีคนกับอาวุธเยอะแค่ไหนหล่ะ??” โรสเซียถามไป

    “ก็มี แต่เชื่อเถอะ พวกมันมีแต่พวกขี้ยาทั้งนั้น”

    “ได้ยินว่าเงินที่อยู่ในบ้านของมันมีหลายล้านดอลล่าห์ ถ้ายึดได้เมื่อไหร่ จะเอามาเปรมให้หมดเลย” โรสเซียพูดขึ้น

    “แน่นอน เธอได้ส่วนแบ่งแน่นอน” แอลรอนพูดขึ้น

    “แล้วพวกเขต 7 นี่ เราจะเอายังไงต่อหล่ะ??” โรสเซียถามไป

    “พวกนั้นคงยังตรึงกำลังไว้หน่ะ รอโอกาสไปก่อน ไอ้บอริสไม่เท่าไหร่หรอก แต่นังบาร์บาร่าเนี่ยแหละ ฉันยังกังวลอยู่” แอลรอนพูดขึ้น

    “อืม นั่นสิ ได้ยินว่ามีนายพลจีนหนุนหลังด้วย” โรสเซียพูดขึ้น

    “อืม ตอนนี้เราต้องเก็บทรัพยากรจากเขตของชาร์ลีมันก่อนดีกว่า เตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน!!” แอลรอนพูดขึ้นและสั่งทหารของเขา

    และอีกด้านหนึ่งที่เขต 5 บ้านหลังใหญ่ของไฮโซชาร์ลี หมอนั่นกำลังเสพโคเคนและมีแฟนสาวที่เป็นดารานางแบบนอนเปลือยอยู่บนเตียง แต่ยังไม่ทันที่ชาร์ลีจะสร่างเมา ลูกน้องของเขาก็วิ่งเข้ามารายงานข่าวกับเขาในทันที

    “ลูกพี่ แย่แล้วครับ!!”

    “อะไรกันวะ ไอ้ห่า กำลังหนุกเลย!!” ไฮโซชาร์ลีตะโกนโวยวายจนแฟนของเขาตื่น

    “กลุ่มโจรจากเขต 6 กำลังมาโจมตีเขตเราครับ!!” 

    “อะไรวะ ก็ส่งคนไปลุยกับมันดิ!!” ชาร์ลีพูดขึ้น

    “แต่คนของเราอาจจะสู้กับมันไม่ได้นะครับ”

    “กูบอกว่าสู้ได้ก็สู้ได้สิวะ!!” ชาร์ลีตะโกนออกไป จากนั้นลูกน้องของเขาก็เดินออกไปในทันที

    “นี่คุณ เสียงดังโวยวายอะไรเนี่ย??” แฟนของเขาที่เพิ่งจะตื่นถามไป

    “ไม่มีอะไรหรอก กลับไปนอนเถอะ ชาร์ลีพูดขึ้น

    “อืมๆ ฉันอยากกินโอมากาเสะจัง”

    “อ่าๆ เดี๋ยวฉันจ้างเชฟมา ใจเย็นๆ” ชาร์ลีตอบไปเพื่อตัดรำคาญ

     

    กลับมายังเขต 7 ของบาร์บาร่า ในวันนั้นเองบาร์บาร่าก็ได้นั่งจิบชาพร้อมกับนายพลจางและคุยเรื่องธุรกิจที่กำลังไปได้สวยในตอนนี้ ในระหว่างนั้นเอง ทหารจีนคนหนึ่งก็วิ่งมากระซิบข้างหูนายพลจาง ทำเอานายพลจางถึงกับตกใจ

    “มีอะไรหรือเปล่าคะท่าน??” บาร์บาร่าถามไป

    “โดนาทอร์ กองกำลังของมันยึดเมืองหลวงได้แล้ว” นายพลจางพูดขึ้น

    “อืม กองกำลังของเขาไม่น่ากลัวหรอกค่ะ” บาร์บาร่าพูดขึ้น

    “แต่ตอนนี้ชาวบ้านหลายคนสนับสนุนมันมาก มันอาจจะเป็นเสี้ยนหนามเราในอนาคตก็ได้” นายพลจางพูดขึ้น

    “แหม่ ท่านก็มีกองกำลังนี่คะ จะกลัวไปทำไม??”

    “ผมรู้ แต่ผมยังเปิดหน้าไม่ได้ไง ขนาดทหารของผมยังไม่ให้ใส่เครื่องแบบเลย” นายพลจางพูดขึ้น

    “ถ้าอย่างงั้นเราคงต้องรับมือแต่เนิ่นๆแล้วหล่ะค่ะ ไอ้พวกทาสพวกนั้น ให้พวกมันทำงานอย่างเอาเป็นเอาตายไปเลย เราต้องรีบก่อนที่พวกมันจะมาที่นี่” บาร์บาร่าพูดขึ้น

    “ใช่ ถูกต้อง เราต้องโกยก่อนที่พวกมันจะรู้ตัว” นายพลจางพูดขึ้นพลางจิบชาไปด้วย

    “ถ้าอย่างงั้นเราคงต้องถ่วงเวลาพวกมันจนกว่าจะจบนะคะ” บาร์บาร่าพูดขึ้น

    “แต่เราต้องเพิ่มจำนวนคนงานด้วยนะ” นายพลจางพูดขึ้น

    “ถ้าเรื่องนั้นดิฉันจะจัดการเอง” บาร์บาร่าตอบไป จากนั้นเธอก็จิบชาต่อไป

    และอีกฝากหนึ่ง เมืองพีนัทในเขต 7 ซึ่งเรซนอร์ฟและโพคลอนสกายากำลังนั่งคุยกับชายคนหนึ่งในห้องอย่างดุเดือด ท่ามกลางชายติดอาวุธหลายคนที่กำลังยืนอารักขาอย่างเนืองแน่น

    “คุณไม่รู้เหรอผมเสียไปเยอะแค่ไหน ผมทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว!!” 

    “ไม่เอาน่าโบริส นายอย่าแถต่อไปเลยดีกว่า” เรซนอร์ฟพูดขึ้น

    “นี่ ผมเป็นหุ้นส่วนไม่ใช้ลูกน้องของคุณนะ เข้าใจไว้ด้วย”

    “จริงเหรอ แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นนายจะรับผิดชอบยังไงหล่ะ??” โพคลอนสกายาถามไป

    “ฉันเตรียมคนของฉันไว้คุ้มกันพื้นที่แล้ว ถ้าพวกนายส่งอาวุธมาให้ ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย”

    “ก็ได้ ฉันเชื่อใจแกนะเว้ย อย่าให้งานนี้พังอีก แค่เราโดนโจมตีก็แย่พออยู่แล้ว” เรซนอร์ฟพูดขึ้น

    “เรื่องอาวุธหน่ะไม่ต้องห่วง ฉันจะติดต่อคุณบาร์บาร่าเอง” โพคลอนสกายาพูดขึ้น

    “อ่าๆ บอกเธอด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง เรายังควบคุมทุกอย่างได้อยู่” 

    “ดี แล้วก็เสบียงที่ฉันขอหน่ะ แกจะส่งมาให้เมื่อไหร่??” เรซนอร์ฟถามไป

    “ไม่กี่วันหรอก เดี๋ยวฉันจะรีบส่งไปให้” 

    “ดี ยังไงก็จัดการด้วยหล่ะ” โพคลอนสกายาพูดขึ้น

    “แล้วเราจะกลับมาอีกรอง อย่าทำให้ฉันผิดหวังหล่ะ” เรซนอร์ฟพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็เดินออกบ้านของโบริสในทันที

    “ไอ้ระยำเอ้ย!!” โบริสพูดไล่หลังพวกนั้นไป

     

    กลับมายังเขต 3 ของสิรานิส ซึ่งดูจะเป็นเขตที่ไม่ค่อยมีความเสถียรภาพ กลุ่มลูกน้องของสิรานิสได้ใช้กำลังในการกดขี่ข่มเหงชาวเมืองและชาวบ้านในพื้นที่อย่างโหดร้าย การทำร้าย การฆ่า การข่มขืนเกิดขึ้นไม่เว้นวัน ส่วนสิรานิสได้อาศัยอยู่ในบ้านพักของเขาอย่างสบายอารมณ์ และในวันนั้นเอง ลูกน้องของเขาก็มารายงานข่าวที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงอย่างเร่งรีบ

    “ท่านครับ พวกกบฏได้ยึดทั้งเมืองหลวงแล้ว ตอนนี้บาง่สวนกำลังมาที่เขตของเราครับ!!”

    “อะไรวะ ก็แค่พวกโจรกระจอก เอาคนของเราไปต้านไว้ก็พอแล้ว” สิรานิสพูดขึ้น

    “เรากำลังระดมคนอยู่ครับ พร้อมกับรถหุ้มเกราะด้วยครับ!!”

    “ไม่ต้องเอารถหุ้มเกราะไปหรอก พวกแกเอาโล่ปราบจลาจลไปก็พอแล้ว พวกมันก็แค่กลุ่มโจรหน่ะ” สิรานิสพูดขึ้น

    “อ้อครับ แล้วรถพวกนั้นจะเอาไปไว้ไหนครับ??”

    “เอามาคุ้มกันบ้านฉันสิ พวกโจรแม่งอาละวาดทุกวัน ฉันแทบจะนอนไม่หลับอยู่แล้ว!!”

    “ได้ครับๆ ผมจะรีบจัดการครับ!!” ลูกน้องของเขารับคำสั่งไป

     

    กลับมายังที่พักของกลุ่มภาคีต่อต้าน หลังจากที่กลุ่มของเนวิสจัดการปลดปล่อยเขตภูวิสได้ทั้งหมด ตอนนี้พวกเขาได้ตรึงกำลังที่เขต 3 เรียบร้อยแล้ว เนวิสและพรรคพวกกลับมาที่ฐานเพื่ออัพเดทสถานการณ์เพิ่มเติม ก่อนที่จะดำเนินงานต่อไป

    “เฮ้ ทุกคน ขอต้อนรับกลับบ้านนะ!!” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “เรายึดอาวุธกับเงินดอลล่าห์ของไอ้อาริสมาได้เยอะเลย” เนวิสพูดขึ้น

    “โห แบบนี้เราก็รวยเละเลยหน่ะสิ” เรนิต้าพูดขึ้น

    “เราต้องเอาเงินพวกนี้ไปสมทบกับกองกำลังของคุณโดนาทอร์นะ!!” วาลิน่าพูดขึ้น

     “เออใช่ แล้วสถานการณ์ที่นี่เป็นยังไงบ้างหล่ะ??” ฟรอนเทียร์ถามไป

    “มีข่าวดีสองอย่าง ตอนนี้เราเข้าประชิดเขต 3 แล้ว แถมฉันส่งโดรนไปสำรวจ ดูเหมือนที่นั่นวุ่นวายใหญ่เลย แล้วอีกอย่าง เราติดต่อกับเครือข่ายของเราที่อยู่ทั่วประเทศได้แล้วนะ พวกเขาบอกว่ากำลังติดตามคนของนายพลปราฟยาฟทุกคน” รอนนี่พูดขึ้น

    “เยี่ยมเลย ติดต่อบอกกับพวกเขาให้จับตาดูพวกมันไว้!!” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “พวกมันเหรอ ใครกันหล่ะ??” เนวิสถามอย่างสงสัย

    “ไอ้พวกคนในรัฐบาลของนายพลปราฟยาฟ ที่มันเอาเงินของประเทศนี้ไปถลุงนอกประเทศ พอประเทศเกิดปัญหาพวกมันก็หนีไป เราจะตามจับพวกมันมาพิพากษาให้หมด” วาลิน่าพูดขึ้น

    “ใช่ พวกแม่งอยากกวนตีนประชาชนเองนี่นะ” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “ตอนนี้พวกมันแจกจ่ายเงินไปที่ธนาคารหลายประเทศทั่วโลกเลยนะ” เรนิต้าพูดขึ้น

    “ไม่ต้องห่วง ฉันจะลองจัดการเรื่องเงินดู รับรองว่าปลอดภัยแน่นอน” รอนนี่พูดขึ้น และมาร์ตินก็พยักหน้าไป

    “พื้นที่เขต 3 นี่เป็นพื้นที่ของสิรานิสใช่หรือเปล่า ถ้าจับมันได้ ฉันขอเจาะกระโหลกมันสักนักนะ หมั่นไส้มันมานานแล้ว ๆอ้หมาเลี้ยงของไอ้ปราฟยาฟเนี่ย!!” เนวิสพูดขึ้น

    “คิวยาวหน่อยนะที่รัก คิวน่าจะยาวนิดนึง!!” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “โอเค ตอนนี้เราก็เตรียมเล่นงานพวกมันที่ 3 กันเถอะ ถ้าเขต 3 เป็นของเรา พวกเราจะเริ่มขยายแนวล้อมได้ งานของเราจะง่ายขึ้น” วาลิน่าพูดขึ้น

    “ได้ ถ้าอย่างงั้นฉันจะเตรียมคนไปเลยแล้วกัน” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “ฉันขอเช็คเส้นทางการเงินของพวกมันหน่อย!!” รอนนี่พูดขึ้น

    “เดี๋ยวฉันจะติดต่อกับพวกเราที่เหลือเอง” เรนิต้าพูดขึ้น

    “งานนี้จับตัวไอ้สิรานิสมันมาให้ได้ ผมว่าคนทั้งโซโรวาคงอยากฆ่ามัน!!” เนวิสพูดขึ้นทิ้งท้าย

    =============================================================

    สงครามฏุ้ชาติของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig?view_as=subscriber ซับแนลหนูด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×