คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 3 : ขอต้อนรับสู่ Black Maple
เช้าวันต่อมา
"ปีเตอร์ มาเร็วจังเลยวันนี้!!"
"แน่นอนครับหลวงพ่อ นายหน่ะ วันนี้นายต้องไปพบนายอำเภอนะ เพื่อพิสูจน์ว่านายไม่ใช่พวกเข้าเมืองผิดกฎหมายหน่ะ" ปีเตอร์พูดขึ้น ในตอนนั้นเองทองสุกก็ทำได้แต่พยักหน้า
"นี่ นายไม่ตกใจเลยเหรอ??" ปีเตอร์ถามทองสุกไป
"ก็ท่านทำตามหน้าที่ของท่าน ข้าเป็นคนต่างถิ่น ข้าก็ต้องเคารพกฎบ้านเมืองท่านหน่ะ" ทองสุกพูดขึ้น
"โอ้ว พูดได้ดีนี่ งั้นฉันรอนายกินเสร็จก่อนแล้วค่อยไปแล้วกัน!!" ปีเตอร์พูดขึ้น และจากนั้นไม่นาน ทองสุกก็ทานอาหารเสร็จ จากนั้นปีเตอร์ก็พาเขาออกไปจากโบสถ์ในทันที
"นี่หลวงพ่อ เดี๋ยวจะพาเขากลับมาอย่างไม่บุบสลาย ถ้าเขาไม่ใช่พวกผิดกฎหมายนะ" ปีเตอร์พูดขึ้น และในตอนนั้นเอง ปีเตอร์ก็จูงม้ามาด้วยตัวหนึ่ง เขาเอาม้าตัวนั้นให้กับทองสุกในทันที
"นี่นาย เอาม้าไปด้วย แล้วอีกอย่างนะ มีชื่อหรือเปล่า??" ปีเตอร์ถามไป
"ข้าทอง... อ่า เขาเรียกข้าว่า ทอดด์ หน่ะ!!"
"ชื่อเท่นี่หว่าทอดด์ ตามฉันมาเลย!!"
ปีเตอร์พูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็พากันควบม้าเข้าไปในเมืองในทันที พวกเขาขี่ม้าไปเรื่อยๆตามถนน แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆก็มีหญิงสาวขี่ม้าสองคนมาดักหน้าพวกเขา ปีเตอร์ในตอนนั้นก็ถึงกับหยุดม้าในทันที
"อ้าว นึกว่าใคร ยัยลิงทะโมนกับยัยซกม๊กนี่หน่า!!"
"นี่ คุณตำรวจ หาเรื่องพวกเราอีกแล้วนะ!!" หญิงสาวนามว่าแคลิเฟอร์พูดขึ้น
"ฉันมาดูเขาหน่ะ กลัวว่าคุณจะทำอะไรเขาหน่ะ" เจสสิก้าพูดขึ้น
"เฮ้อ เออๆ ตามฉันมาแล้วกัน" ปีเตอร์พูดขึ้น จากนั้นพวกเขาทั้งสี่คนก็ควบม้าเดินทางเข้าเมืองในทันที และในไม่กี่อึดใจ พวกเขาก็มาเจอกับทางเข้าเมือง ซึ่งแค่เส้นทางเข้าเมืองก็ดูหรูหราแล้ว และเมื่อพวกเขาเดินทางเข้ามาในเมือง ทองสุกก็สัมผัสได้ถึงความหรูหราของเมือง ทองสุกได้แต่มองตะลึงงัน ทำเอาปีเตอร์ต้องดึงสติของเขากลับมา
"นี่ๆ เดี๋ยวนายก็ได้เดินทั้งเมืองเองแหละ" ปีเตอร์บอกกับทองสุกไป และในตอนนั้นเอง พวกเขาก็ขี่ม้ามาเรื่อยๆจนถึงสถานีตำรวจประจำเมือง ซึ่งด้านนอกมีตำรวจมากมายทั้งผิวขาวผิวดำเดินไปมา ปีเตอร์ในตอนนั้นสั่งให้ทองสุกลงจากม้า จากนั้นก็พาเขาเข้าไปในทันที
"เออนี่ ถ้านายเจอนายอำเภอ นายถามอะไรนายต้องบอกไปตามตรงนะเฟ้ย" ปีเตอร์พูดขึ้น
"อ้อ ได้ขอรับ!!" ทองสุกพูดขึ้น จากนั้นก็เดินตามปีเตอร์ไปด้วย
"นี่ นายคนนั้นเหรอที่ช่วยเธอไว้จากไอ้พวกแก๊งค์ฮัวโกสต์หน่ะ??" แคลิเฟอร์ถามไป
"ใช่ๆ ดีนะที่อินเดียนแดงมาช่วย ไม่งั้นฉันตายแน่" เจสสิก้าพูดขึ้น
"น่าสนใจ งั้นเราตามไปด้วยดีกว่า" แคลิเฟอร์พูดขึ้น จากนั้นพวกเธอทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในสถานีตำรวจด้วย และเมื่อเข้ามาด้านใน ตอนนั้นทั้งนายอำเภอ มีน่าและชายผิวดำอีกคนกำลังยืนรอพวกเขาอยู่
"อ้าว ปีเตอร์ มาแล้วเหรอคะ พาใครมาด้วยเนี่ย??" มีน่าถามไป
"ใช่ๆ นี่คือคนที่ฉันเล่าให้ฟังเมื่อวานหน่ะ" ปีเตอร์พูดขึ้น
"อืม ถ้างั้นนั่งก่อนสินายหน่ะ" นายอำเภอพูดขึ้น จากนั้นก็ไปนั่งกับทองสุกที่โต๊ะตัวหนึ่ง และในตอนนั้นเอง เจสสิก้ากับแคลิเฟอร์ก็เข้ามาด้วย ทำเอาตำรวจพวกนั้นถึงกับไม่กล้ามายุ่งกับเธอเลย
"แย่แล้ว สองตัวป่วนมาแล้ว พวกเราหนีเร็ว ฮ่าๆๆๆๆ" ชายผิวดำคนหนึ่งพูดขึ้น
"นี่คุณบอริส วันนี้ไม่ตลกนะ" แคลิเฟอร์พูดขึ้น
"ว่าแต่ เธอมาทำอะไรเนี่ย ปกติพวกเธอกลัวสถานที่แบบนี้นี่??" มีน่าถามพวกเธอไป
"ก็ฉันมาดูหน่ะ กลัวว่านายอำเภอจะทำอะไรเขา" เจสสิก้าพูดขึ้น
"เอาหล่ะ บอริส มีน่า ไปเรียกพวกเรามาคุยหน่อย ที่ด้านหลังโรงพักนะ" ปีเตอร์พูดขึ้น จากนั้นตัวเขากับคนที่เขาเรียกก็ตามไปที่ด้านหลัง ทำเอาทั้งเจสสิก้าและแคลิเฟอร์ถึงกับเบะปากไป และในตอนนั้นเอง นายอำเภอก็ทำการพูดคุยกับทองสุกในทันทีเพื่อถามประวัติของเขาไป
"เอาหล่ะ นายมีเอกสารยืนยันอะไรหรือเปล่า??" นายอำเภอถามไป และในตอนนั้นเองทองสุกก็ยื่นเอกสารคนเข้าเมืองให้กับนายอำเภอในทันที นายอำเภออ่านไปซักพักก็พูดขึ้น
"ทอดด์ ซีล อืม นั่นคงเป็นชื่อที่พวก ตม. ตั้งให้นายแน่ ว่าแต่นายมาจากไหนกันหล่ะ??"
"ประเทศสยามจ้ะ" ทองสุกตอบไป
"อ้อ รู้สึกว่าประเทศนี้เป็นประเทศเดียวที่ยังเป็นเอกราชอยู่ นายมาทำอะไรที่นี่หล่ะ??" นายอำเภอแม็กซ์ถามไป
"ก็ ฉันแค่อยากลืมอดีตหน่ะจ้ะ ฉันเคยเป็นทหาร ฉันเลย อยากไปที่ไหนก็ได้ไกลๆหน่ะ" ทองสุกพูดขึ้น
"อ้อ นายมีเอกสารยืนยันก็ดีแล้วหล่ะ แต่นายควรจะเข้าใจนะ เมืองนี้เป็นเมืองที่มีกฎหมาย นายคงไม่อยากไปที่เขตอื่นหรอก แล้วนายจะต้องขอบคุณฉัน เอาเป็นว่าเอกสารถูกต้อง ยินดีต้อนรับแล้วกัน" นายอำเภอพูดขึ้น จากนั้นก็ยื่นเอกสารให้กับทองสุกคืน
"ขอบคุณมากจ้ะ" ทองสุกพูดขึ้นและไหว้เขาไป จากนั้นตัวเขาเองก็เดินออกไปด้านนอกสถานีตำรวจ และในตอนนั้นเอง เจสสิก้ากับแคลิเฟอร์ที่เห็นเขาเดินออกไปก็ตามเขาไปด้วย
"นี่ นายหน่ะ จะไปไหนเหรอ??" เจสสิก้าถามไป
"อ้อ ฉันว่าจะกลับโบสถ์หน่ะจ้ะ" ทองสุกตอบไป
"อย่าเพิ่งกลับเลย ฉันจะพานายเที่ยวเมืองหน่อย ไปกันเถอะ" แคลิเฟอร์พูดขึ้น จากนั้นเธอก็ไปเอาม้าของทั้งสามคนมา จากนั้นพวกเขาก็ไปเที่ยวด้วยกันในเมืองทันที
และทางด้านของปีเตอร์ ในตอนนั้นเองตัวเขาและตำรวจคนอื่นๆที่เขาไว้ใจก็มารวมตัวกันเพื่อประชุมอะไรบางอย่าง และเมื่อพวกเขาทุกคนมารวมตัวกัน พวกเขาก็เริ่มเปิดประเด็นคุยกันในทันที
"เอาหล่ะ บอริส นายเล่าความเคลื่อนไหวในไวท์ยอร์กหน่อยสิ" ปีเตอร์พูดขึ้น
"ได้ครับ ตอนนี้ได้ยินว่าพวกเดอะแคลนกำลังเตรียมกำลังคนทำอะไรบางอย่าง ตอนนี้พวกมันใช้ทาสให้เก็บเกี่ยวธัญพืชอย่างเอาเป็นเอาตาย เหมือนกับว่าพวกมันต้องการจะเก็บเสบียงเพื่อทำสงครามหน่ะ" บอริสพูดขึ้น
"งั้นเหรอ ถ้างั้นเราคงต้องเตรียมพร้อมแล้วหล่ะ ได้ยินว่าพวกมันเริ่มมาหากินในเขตเมืองแล้ว" มีน่าพูดขึ้น
"อืม ฉันก็ว่าอยู่ ตอนนี้เราต้องรู้ให้ได้ว่าพวกมันกำลังจะทำอะไร ถ้าเราจับพวกมันได้ซักคน เราน่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น" ปีเตอร์พูดขึ้น
"ถ้าเราจับมันได้ เราจะเอามันมาส่งคุณครับ" ตำรวจคนหนึ่งพูดขึ้น
"ดี งานนี้ระดมตำรวจกับพวกอาสามาให้ได้มากที่สุด งานนี้สงครามใหญ่อาจจะได้เกิดแน่ๆ" ปีเตอร์บอกกับตำรวจคนอื่นๆไป
และด้านในเมือง เจสสิก้าและแคลิเฟอร์พาทองสุกเดินเที่ยวเมืองกันทั้งวัน ทองสุกไม่เคยเห็นเมืองที่มีชีวิตชีวาแบบนี้มาก่อน เมืองที่ทุกคนอยู่กันอย่างสงบสุข และในตอนนั้นเอง ทั้งสองคนก็พาทองสุกเข้ามาในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งด้านหน้าเป็นบาร์สำหรับนักดื่ม ในตอนนั้นเจสสิก้าก็พาพวกเขาไปนั่งกันที่โต๊ะตัวหนึ่ง ซึ่งเจสสิก้าพาทองสุกมาหาอะไรกิน และในตอนนั้นเอง หญิงสาวคนหนึ่งก็เดินมาที่โต๊ะของพวกเขา
"อ้าว เจสสิก้า พาหนุ่มมาด้วยเหรอ จะกินอะไรหล่ะ??"
"ขอเหมือนเดิมนะคะ แล้วก็ขอให้นายคนนี้ด้วย" เจสสิก้าพูดขึ้น ทำเอาเด็กเสิร์ฟเดินไปทำอาหารในทันที
"บอกให้นะ ร้านนี้อร่อยที่สุดในเมืองเลย" แคลิเฟอร์พูดขึ้น
"จ้ะ ขอบคุณมากนะจ๊ะที่พาฉันมาหน่ะ" ทองสุกพูดกับพวกเธอสองคน
"นี่ นายต้องหัดพูดอะไรให้มันทันสมัยกว่านี้หน่อยนะ" เจสสิก้าพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง จู่ๆพวกเขาก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายมาจากด้านหน้าบาร์ ซึ่งในตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นชายกลุ่มหนึ่งกำลังจับก้นเด็กเสิร์ฟในร้าน ทำเอาเธอถึงกับตบหน้าคนพวกนั้น
"หืม อีนี่ มึงตบกูเหรอ??" ชายคนนั้นตบหน้าเด็กเสิร์ฟคนนั้นจนล้มลง และมันพยายามจะทำร้ายเธอต่อ แต่ในตอนนั้นเอง
"หมับ!!" ทองสุกไปคว้าแขนชายคนนั้นไว้
"ปล่อยนางซะดีกว่า"
"เฮ้ย แกยุ่งอะไรด้วยวะ??" มันตอบกลับไป จากนั้นก็จะต่อยทองสุก แต่ทองสุกหลบได้แล้วต่อยมันจนร่วง
"ตุ๊บ!!"
"ไอ้ระยำ!!" มันอีกคนพูดขึ้น จากนั้นก็หยิบขวดมาฟาดทองสุก แต่ทองสุกเตะขวดจนแตก จากนั้นก็หมุนตัวเตะหมอนั่นเข้าที่ท้องจนกระเด็น ทำเอามันลงไปกองกับพื้น
"ถ้าไม่อยากตาย ออกจากร้านไปซะ!!" ทองสุกตะโกนออกไป ทำเอาคนอื่นๆที่กลัวทองสุกก็รีบไปหิ้วปีกคนที่โดนต่อยจนร่วง แล้วรีบพากันออกจากร้านในทันที ส่วนตัวทองสุกก็กลับไปนั่งที่โต๊ะ ทำเอาเจสสิก้ากับแคลิเฟอร์ถึงกับทึ่งไปในทันที
"โห นี่ นายต่อยมันไม่กี่หมัดพวกมันก็หนีแล้ว เจ๋งอ่ะ" แคลิเฟอร์พูดขึ้น
"ฉันแค่สั่งสอนไปหน่ะ" ทองสุกพูดขึ้น
"ดีนะที่พวกมันไม่มีปืน ไม่งั้นมันอาจยิงนายไปแล้วนะเนี่ย" เจสสิก้าพูดขึ้น
"ฉันไม่กลัวหรอก" ทองสุกตอบกลับไป จากนั้นอาหารมาก็ที่โต๊ะของพวกเขา พวกเขาทานอาหารกันในทันที
และอีกด้านหนึ่งของเมือง ในเขตตลาดซึ่งไม่ห่างจากร้านอาหารที่เจสสิก้าอยู่นัก ในตอนนั้นเอง พวกเขาก็มองไปยังกลุ่มนักเลงที่เพิ่งจะโดนต่อยเดินออกมาจากร้านเป็นตาเดียว พวกนั้นลากสังขารของตัวเองไปขึ้นม้า จากนั้นก็รีบพากันหนีออกจากเมืองในทันที ในตอนนั้นเอง โฮมุระที่ออกมาเดินจ่ายตลาดก็แปลกใจ โดยที่ทั้งจอห์นกับเอ็ดเวิร์ดก็มาซื้อหาของกินก็มาเจอกับโฮมุระด้วย
"อ้าว คุณโฮมุระ มาซื้ออะไรเหรอครับ??" จอห์นถามเธอไป
"อ้อ มาซื้อปลาหน่ะค่ะ คุณรู้หรือเปล่าคะในร้านอาหารมีเรื่องกันหน่ะ??" โฮมุระถามไป
"มีเรื่องอีกแล้วเหรอ นี่ขนาดมีตำรวจนะเนี่ย ว่าแต่ในร้านมีใครบ้างหล่ะ??" เอ็ดเวิร์ดถามไป และในตอนนั้นเอง ชาร์ล็อตกับอเล็กซ์พี่ชายของเธอที่มาจ่ายตลาดด้วย เมื่อเห็นโฮมุระ ทั้งคู่ก็มาหาในทันที
"อ้าว สวัสดีค่ะคุณโฮมุระ" ชาร์ล็อตทักทายไป
"อ้าว หนูชาร์ล็อตเหรอ สบายดีนะจ๊ะ??"
"มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าครับเนี่ย??" อเล็กซ์ถามอย่างสงสัย
"ในร้านอาหารคงจะมีเรื่องกันอีกแล้วหล่ะ" เอ็ดเวิร์ดบอกไป
"อีกแล้วเหรอคะ หนูว่าต้องเป็นเจสสิก้าแน่ๆเลย ไม่ไหวๆ" ชาร์ล็อตพูดขึ้น
"นี่ๆๆ รู้ดีจังเลยนะเราเนี่ย" อเล็กซ์พูดขึ้นพลางยีหัวเธอไป
"เอาเถอะ ถ้ามีเรื่องกับยัยลิงทะโมนนั่น ไอ้พวกนั้นก็คงเป็นนักเลงกระจอกๆหน่ะ" จอห์นพูดขึ้น
"คุณโฮมุระคะ เดี๋ยวดิฉันขอไปซื้อเครื่องเทศร้านคุณเหมือนเดิมนะคะ" ชาร์ล็อตพูดขึ้น
"ได้จ้ะ เดี๋ยวไปซื้อได้เลยนะ มีคนของฉันขายอยู่หน่ะ" โฮมุระพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง พวกเขาก็เห็นทั้งเจสสิก้า แคลิเฟอร์ รวมถึงตัวทองสุกเองเดินออกมาจากร้านอาหาร ทำเอาพวกเขามองกันเป็นตาเดียว
"หือ ไอ้หมอนั่น ใครกันวะ??" เอ็ดเวิร์ดถามอย่างสงสัย
"นั่นสิ เป็นชาวเอเชียเหมือนคุณด้วย คุณโฮมุระ" จอห์นถามไป
"อืม ถ้าอย่างงั้นว่างๆฉันจะลองถามสองคนนั้นแล้วกัน" โฮมุระบอกกับทุกคนไป และในขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ๆพวกเขาก็ได้รู้สึกถึงเงาของใครคนหนึ่งที่มายืนมองด้วย โฮมุระและคนอื่นๆรีบหันไปดูในทันที ร่างที่พวกเขาเห็นก็คือหญิงสาวชนพื้นเมืองคนหนึ่งในชุดคาวบอยพร้อมหิ้วปืนลูกซองยืนอยู่หลังพวกเขา
“อ้าว คุณลิงซ์เองเหรอคะ??” โฮมุระทักทายเธอไป
“บังเอิญผ่านมาหน่ะ ฉันจะเอาของพวกนี้มาขายหน่ะ”
“คุณลิงซ์ ผมขอเขากวางใหม่หน่อยนะครับ” จอห์นพูดขึ้น
“แล้วดีหมีหล่ะครับ คุณเอามาขายหรือเปล่า??” เอ็ดเวิร์ดถามไป
“ไปดูที่ร้านฉันแล้วกันค่ะ” ลิงซ์ตอบไป จากนั้นเธอก็เอาของป่าของเธอไปไว้ที่ร้านของเธอในทันที
และอีกด้านหนึ่งของเมือง ในตอนนั้นเอง เนย์มาร์ก็ขี่ม้าเดินทางมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงเมือง Black Maple จนได้ เขาขี่ม้ามาตามถนนเรื่อยๆ แต่ในตอนนั้นเอง ม้าของเขาก็เกือบจะชนกับหญิงสาวคนหนึ่ง
"เฮ้ย!!"
เขารีบดึงม้าขึ้นมา ส่วนหญิงสาวคนนั้นก็ตกใจจนถึงกับนั่งลงไปกับพื้น ในตอนนั้นเองเนย์มาร์ก็ลงมาดูผู้หญิงคนนั้นในทันที
"เป็นอะไรหรือเปล่า... อ้าว คุณคือผู้หญิงที่บาร์นี่" เนย์มาร์พูดขึ้น
"อ้าว คุณ คุณเนย์มาร์ใช่หรือเปล่า??" เธอคนนั้นถามไป
"คุณชื่อซิ่วอิงสินะ ชื่อจีนเรียกยากหน่อย ขอโทษด้วยนะที่เกือบชนคุณ" เนย์มาร์พูดขึ้น จากนั้นก็ช่วยดึงมือเธอขึ้นมา
"แล้วนี่ คุณมาทำอะไรในเมืองเหรอ??" เนย์มาร์ถามไป
"อ้อ ฉันมาซื้อเหล้าเพิ่มหน่ะ"
"แต่ว่า ถนนด้านนอกอันตรายอยู่นะ คุณไม่กลัวเหรอ??" เนย์มาร์ถามเธอไป
"ไม่หรอก ฉันมีปืนหน่ะ ฉันมาซื้อเหล้าที่นี่มานานแล้ว เอาเป็นว่าขอบคุณมากนะคะที่มาช่วยฉัน" ซิ่วอิงพูดขึ้น จากนั้นเธอก็เดินแบกลังเหล้าของเธอขึ้นไปบนรถม้า ส่วนตัวเนย์มาร์ก็ขี่ม้าเข้าไปในเมืองต่อเพื่อหาที่พักของเขา
กลับมายังเขตของกลุ่มอีกาดำ แบล็คเวอร์จิเนีย ในวันนั้นเองคารีนก็นำกำลังพลของเธอออกปล้นคฤหาสน์ของเศรษฐีเพิ่มเติม เพื่อหาเงินทุนสำหรับซื้ออาวุธและกระสุน คารีนขี่ม้านำขบวนโดยที่มีคาเตอร์และนาธานไล่ติดตามไปด้วย พวกเขาเดินทางมาจนถึงบ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง ซึ่งด้านในมีทาสผิวดำกำลังถูกบังคับให้ทำงานอย่างหนัก ส่วนกลุ่มคนขาวก็ถือปืนคอยคุมด้วย คารีนเห็นเหตุการณ์จึงวางแผนสดๆไปในตอนนั้นเลย
"เอาหล่ะ นาธาน นายไปซุ่มยิงบนต้นไม้" เธอสั่งนาธานไป จากนั้นนาธานก็ลงจากม้าแล้วปีนต้นไม้ไปในทันที
"แล้วเราจะเอายังไงกับทาสหลังจากปล้นเสร็จหล่ะ??" คาเตอร์ถามเธอไป
"ปล่อยพวกเขาให้หมด แล้วก็ปล้นทุกอย่าง เผาบ้านมันให้เหี้ยนด้วย" คารีนพูดขึ้น จากนั้นเธอก็ชักปืนขึ้นมา
"ปัง!!"
"พวกเรา ลุย!!"
กลุ่มของคารีนควบม้าตะลุยไปที่หน้าบ้าน และในตอนนั้นเองกลุ่มคนในบ้านก็รีบสั่นระฆังเตือน และในตอนนั้นเอง นาธานก็ไล่ยิงคนที่อยู่บนกำแพงและหอคอยด้วย คารีนและกลุ่มของเธอถือเอาระเบิดขวดที่ทำจากเหล้าราคาถูกๆปาไปที่กำแพง จากนั้นก็จุดไฟในทันที
"พรึ่บ!!"
เพลิงได้เผาไหม้กำแพงพวกนั้นจนแทบไม่เหลืออะไร และเมื่อกำแพงได้พังทลายลง กลุ่มของไอรีนก็ควบม้าเข้าไปด้านในบ้าน จากนั้นก็ไล่ยิงกลุ่มคนขาวติดอาวุธที่อยู่ด้านในทันที
"ปังๆๆๆ"
ด้านในเกิดการชุลมุนเป็นอย่างมาก ทาสผิวดำพากันหลบหนีไปที่อื่น ส่วนพวกยามผิวขาวก็โดนยิงตายไปเรื่อยๆ ทีละศพสองศพ และที่ด้านในบ้าน ชายอ้วนคนหนึ่งก็รีบไปหยิบปืนลูกซองของเขาด้านบนบ้านมา ใส่กระสุนและลงมาด้านล่างในทันที
"พวกเรา สู้มัน!!"
ชายคนนั้นพยายามจะเดินออกมาจากบ้าน แต่กลุ่มของคารีนได้ยิงถล่มอย่างหนัก และในช่วงเดียวกัน จู๋ๆก็ได้มีมนุษย์ชุดดำกลุ่มหนึ่งควบม้ามาด้านหลังของไอรีน จากนั้นก็ยิงถล่มบ้านหลังนั้นอย่างเมามันส์ คารีนสงสัยว่าพวกนั้นเป็นใคร จึงลงจากม้าแล้วไปถามในทันที
"นี่ พวกคุณเป็นใครกันเนี่ย??"
"ฉันก็มาทำอะไรเหมือนคุณนี่แหละ" หญิงสาวชุดดำพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง ชายอ้วนผิวขาวก็ถือลูกซองจะออกมายิง แต่นาธานที่ซุ่มอยู่ด้านนอกก็ยิงชายอ้วนคนนั้นจนล้มลง คารีนวิ่งไปเตะปืนหมอนั่น จากนั้นก็เอาปืนจ่อหัวมันในทันที
"เฮ้อ เจอกันจนได้นะไอ้แก่!!" คารีนพูดขึ้น แต่ในตอนนั้นเอง
"นั่นแขกของฉัน ฉันจัดการเอง" หญิงสาวชุดดำพูดขึ้น จากนั้นเธอก็ลงจากหลังม้า แล้วเดินมาหาชายคนนั้นในทันที พร้อมกับชักมีดของเธอออกมาด้วย ทำเอาชายอ้วนคนนั้นถึงกับตัวสั่น
"อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันมีเงิน มีทอง มีทาส มีอาหาร อยากได้อะไรเอาไปเลย!!"
"ฉันไม่ได้อยากได้ ฉันแค่อยากชำระความกับแก แกรู้จักจอห์น วิลค์ส บูธ น้องชายแกหรือเปล่า??" เธอถามหมอนั่นไป
"ทำไม น้องฉันก็โดนแขวนคอไปแล้ว นี่เธอเป็นใครเนี่ย??"
"ประธานาธิบดีที่น้องชายแกฆ่า นั่นหล่ะพ่อฉัน!!" เธอคนนั้นพูดขึ้น จากนั้นเธอก็เอามีดเชือดคอของหมอนั่นในทันที มันค่อยๆตายอย่างทรมาน ส่วนตัวคารีนเองก็พูดกับเธอต่อในทันที
"นี่คุณคือ..??"
"ฉันลอร่า ลินคอล์น ฉันตามล่าหมอนี่มานานแล้ว เพิ่งรู้ว่ามันมากบดานที่นี่" ลอร่าพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง คาเตอร์ก็รีบวิ่งมารายงานสถานการณ์กับคารีนในทันที
"คุณคารีนครับ ทรัพย์สินที่เราได้มา เรายึดปืนพวกมันได้หลายสิบกระบอก เงิน 3000 ดอลล่าห์ พันธบัตรรัฐบาลจำนวนหนึ่ง ทาสกว่า 94 คน แถมยังมีเสบียงอีกครับ" คาเตอร์พูดขึ้น
"อืม ดีแล้ว ปล่อยทาสพวกนั้นให้หมด ขนสมบัติไป แล้วเผาบ้านนี้ซะ หนีก่อนที่ตำรวจจะมา" คารีนพูดขึ้น
"แล้วนี่ พวกคุณมาจากไหนกันเหรอ??" ลอร่าถามอย่างสงสัย
"เรามีค่ายอยู่ที่เขตแบล็คเวอร์จิเนียหน่ะ ถ้าคุณอยากติดต่อเรา ก็มาได้นะคะ" คารีนพูดขึ้น
"ไว้เจอกันนะคะ พวกเราไป!!" ลอร่าพูดขึ้น จากนั้นพวกของเธอก็ขี่ม้าออกไปจากบ้านหลังนั้นในทันที ส่วนพวกของคารีนก็ทำการปล้นเอาทุกอย่างจากบ้านหลังนั้นไปทั้งหมด และได้เผาบ้านหลังนั้นจนแทบไม่เหลือชิ้นดี
กลับมายังเขตไวท์ยอร์ก ถิ่นของรูเบ็น ในตอนนั้นเองพวกเขาก็เช็คเสบียงทั้งหมดที่พวกเขาเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งเสบียงมีมากมายเกินนับคณา รวมถึงฝ้ายที่พวกเขาบังคับให้พวกคนดำปลูกด้วย
"อืม ตอนนี้เรามีเสบียงเยอะมากพอที่จะทำสงครามแล้ว เอาฝ้ายพวกนี้ไปขายให้หมด ส่วนพวกทาส พยายามให้พวกมันทำลูกออกมาเยอะๆ เราจะได้เอาพวกมันไปขายต่อ" รูเบ็นพูดขึ้น
"งานนี้เราได้เงินกันมากมายแน่ๆครับ" ลูกน้องของเขาพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง จู่ๆชายคนหนึ่งก็รีบวิ่งมารายงานข่าวกับพวกเขา
"คุณรูเบ็นคร้าบ แย่แล้วคร้าบ!!"
"มีอะไรงั้นเหรอ ว่ามาเลย??" รูเบ็นถามไป
"ดไวท์กับเจดีนจะโดนนายอำเภอแขวนคอพรุ่งนี้เช้าครับ!!" รูเบ็นได้ยินก็ถึงกับตกในทันที
"ห่ะ นี่พวกเขาประหารกันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ??" รูเบ็นถามไป
"ผมว่า เราไปช่วยพวกนั้นดีกว่านะพี่" ลูกน้องของเขาพูดขึ้น
"ไม่ ถ้าพวกเราไปตอนนี้ เราจะตายกันหมด นายอำเภอคงกำลังล่อให้พวกเราออกมาหน่ะ" รูเบ็นพูดขึ้น
"แล้วพี่จะปล่อยให้นายอำเภอนั่นเหยียบหัวเล่นแบบนี้งั้นเหรอ??"
"คอยดูเถอะ ถ้าเราได้อาวุธมาเมื่อไหร่ เราจะยึดทั้งเมืองเลยยังได้ แล้วที่นี่ฉันจะฆ่าพวกมันทุกคนเลย" รูเบ็นพูดขึ้น
"แล้วนี่เราจะเอายังไงต่อครับ??"
"ตอนนี้ก็เงียบๆกันไปก่อน พยายามปล้นตามชานเมืองให้หนักขึ้น แต่ต้องระวังๆด้วยหล่ะ" รูเบ็นบอกไป จากนั้นลูกน้องของเขาก็ไปเตรียมการในทันที
กลับมายังเขตของกลุ่ม AUS ซึ่งพวกเขาก็ยังคงฝึกทหารกันต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจของพวกเขา คลีฟแลนด์ในตอนนั้นก็กำลังฝึกยิงปืนไรเฟิลของเธอ เธอเล็งเป้าหมายไปยังกระป๋องเปล่า จากนั้นก็เหนี่ยวไกไปในทันที
"ปัง!!"
ลูกปืนนั้นยิงเข้าเป้า ทำเอาคลีฟแลนด์พอใจเป็นอย่างมาก และในขณะเดียวกัน ชายคนหนึ่งก็มารายงานข่าวกับเธอในทันที
"คุณคลีฟแลนด์ครับ รายงานครับ!!"
"มีอะไร??" เธอถามในขณะที่กำลังใส่กระสุนนัดต่อไป
"เราคิดว่าพบความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมของร็อคกี้ โฮเกอร์กับมาร์ค โรแดนแล้วครับ" ลูกน้องของเธอพูดขึ้น ทำเอาคลีฟแลนด์ถึงกับหยุดใส่กระสุนในทันที
"จริงเหรอ พวกมันอยู่ที่ไหนหล่ะ??"
"ได้ยินว่าพวกมันจะมาสำรวจการปกครองในเขตตะวันออกหน่ะครับ"
"ฉันถามว่าพวกมันอยู่ที่ไหน??" เธอถามไปอีกรอบ
"อ้อ สายของเราบอกว่าอีก 7 วันมันจะมาถึงเมืองนี้ครับ" ลูกน้องเธอรายงานไป
"ดี เราจะลอบฆ่ามันทั้งคู่ รวมถึงเครือข่ายของมันด้วย" คลีฟแลนด์พูดขึ้น
"ตามล่าพวกมันมานานหลายปี ตั้งแต่สงครามกลางเมืองแล้ว"
"ใช่ ไอ้คนทรยศ แล้วนี่มันยังไปเข้าร่วมกับพวกฝ่ายเหนือ แถมยังคิดคดกับฝ่ายเหนืออีก ถ้าฉันเจอมัน ฉันจะจับมันมาเผาทั้งเป็นเลย" คลีฟแลนด์พูดต่อ จากนั้นเธอก็ยิงเป้าเพื่อซ้อมมือต่อในทันที
และที่ค่ายทหารในเขตภาคตะวันออก ในตอนนั้นเองหน่วยของเจสันก็ได้รับแจ้งว่ามีการปล้นกันที่บ้านหลังใหญ่หลังหนึ่ง พวกเขานำกำลังพลอาวุธเบาขี่ม้าไปยังจุดเกิดเหตุ และในไม่กี่อึดใจ พวกเขาก็มาถึงยังบ้านที่เพิ่งจะถูกปล้น ภาพที่พวกเขาเห็นก็คือบ้านหลังใหญ่รวมถึงโรงนาถูกไฟเผาทั้งหมด ทุกอย่างถูกเผาแทบไม่เหลือซาก เจสันลงจากม้าแล้วไปดูสภาพในพื้นที่นั้น จากนั้นก็เรียกลูกน้องไปตรวจสอบที่เกิดเหตุในทันที
"ถ้าเจออะไร มาบอกผมด้วยหล่ะ!!" เจสันพูดขึ้น จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในบ้านที่ถูกเผา ในตอนนั้นเอง เขาก็พบกับธงสมาพันธรัฐที่ถูกเผาไม่หมด เขาหยิบมันขึ้นมาดู จากนั้นก็เขวี้ยงลงพื้นในทันที และในตอนนั้นเอง ลูกน้องของเขาคนหนึ่งก็รีบมารายงานเขาในทันที
"ท่านครับ เราตรวจสอบแล้วครับ!!"
"เหรอ รายงานผมมาสิ??" เจสันถามไป
"ครับ ทุกอย่างในบ้านถูกขโมยไปจนหมด ส่วนพวกที่ตายมีแต่พวกคนขาวครับ"
"อืม ถ้าอย่างงั้นบ้านนี้ก็คงเลี้ยงทาสไว้สินะ ถึงได้มีคนขาวเยอะขนาดนี้" เจสันพูดขึ้น และในขณะเดียวกัน ทหารอีกคนก็พาชายผิวดำคนหนึ่งเดินมาหาเจสัน จากนั้นก็รายงานเจสันในทันที
"ท่านครับ เราเจอคนดำคนหนึ่งยังไม่ตายครับ!!" ทหารพาชายคนดำมาอยู่ต่อหน้าเจสัน เจสันเห็นดังนั้นเลยไปถามเขาในทันที
"นี่ คุณครับ ไม่ทราบว่านี่ฝีมือใคร??"
"อย่า พวกคนขาว อย่าทำอะไรผมเลย..."
"นี่ ผมไม่ใช่พวกเหยียดผิว ไม่ต้องห่วง แค่บอกผมมาว่าเกิดอะไรขึ้น??" เจสันถามต่อไป
"คือ มันเกิดขึ้นเร็วมากครับ มีคนกลุ่มหนึ่งปิดหน้า พวกเขายิงยามคนขาวทุกคนที่ขวางหน้า แล้วเขาก็ปล้นทุกอย่างไป ผมกลัวมากเลยไปซ่อนในไร่ฝ้ายหน่ะครับ"
"อืม แสดงว่าคุณเป็นทาสของที่นี่สินะ ทั้งๆที่เลิกทาสไปแล้วแท้ๆ"
"ใช่ครับ ผมเห็นธงของทหารใต้อยู่ในบ้านของพวกเขาด้วยครับ"
"ว่าแต่ บ้านหลังนี้เป็นของใครกันหล่ะ??" เจสันถามต่อ
"เขาชื่อเคนนี่ บูธหน่ะครับผม"
"บูธเหรอ อ้อ คนที่ลอบสังหารท่านลินคอร์น เอาอย่างงี้ ผมจะส่งคุณไปให้ปากคำเพิ่มเติมแล้วกัน ผมรู้ว่าคนพวกนี้มันชั่ว แต่กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย คุณต้องเข้าใจนะ ทหาร พาเขาไป!!"
เจสันพูดขึ้น จากนั้นทหารของเขาก็พาชายผิวดำคนนั้นเดินออกไปในทันที
"เคลียร์พื้นที่ตรงนี้ซะ เอาศพพวกมันทั้งหมดไปเผาด้วย เราต้องรู้ให้ได้ว่าฝีมือใครกันแน่" เจสันพูดทิ้งท้ายเอาไว้
กลับมายังเมือง Black Maple ในยามเย็น หลังอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าไป ดวงจันทร์ก็ค่อยๆโผล่ขึ้นมาแทนที่ และแสงสีตามร้านก็ค่อยๆส่องแสงตามมา ร้านต่างๆเริ่มจะประดับไฟและเปิดขายของในยามค่ำคืน แล้วก็เหมือนกับคนอื่นๆ ทองสุกในตอนนั้นก็ถูกเจสสิก้าชักชวนให้มาเที่ยวในเมืองยามค่ำคืน ซึ่งทองสุกก็หลวมตัวมาด้วย และในตอนนั้นเอง ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งคู่ก็ค่อยๆเริ่มสนิทกันขึ้นมาแล้ว
"นี่ ทอดด์ นายรู้หรือเปล่า เรื่องที่นายทำเมื่อบ่ายนี่มีแต่คนชื่นชมทั้งนั้นเลยนะ" เจสสิก้าบอกเขาไป
"อ้อ ฉันก็แค่ไม่อยากให้มันทำร้ายผู้หญิงหน่ะ" ทองสุกพูดขึ้น
"อืม ก็ดีแล้วหล่ะ นายรู้ไหม ในเมืองนี้สวยงามมากเลยโดยเฉพาะยามค่ำคืน แต่ด้านนอกนี่ราวกับนรกชัดๆ" เจสสิก้าพูดขึ้น
"หือ ทำไมอย่างงั้นหล่ะ??" ทองสุกถามอย่างสงสัย
"เออใช่ นายเพิ่งจะมาใหม่ ต้องฟังเรื่องนี้สิ เมื่อก่อนนะ เมืองนี้ไม่ได้สงบสุขอย่างงี้หรอก ที่นี่อย่างกับบ้านป่าเมืองเถื่อน การปล้นฆ่าพบได้ทั่วไปในเมืองเลยหล่ะ จนกระทั่งวันหนึ่ง นายอำเภอเข้ามารับตำแหน่ง เขาก็เริ่มจัดระเบียบเมืองทีละน้อย โดยการจับโจรที่มาก่อกวนในเมือง รวมถึงปราบซุ้มโจรที่อยู่ในภูมิภาคนี้ ตำรวจในเมืองแทบจะไม่ได้หลับได้นอนกันเลย แต่สิ่งที่เขาทำ เขาทำให้เมืองนี้เหมือนกับเขตปลอดภัย ทุกคนไม่มีใครกลัวที่จะต้องเดินออกมานอกบ้าน ทำให้เมืองดูคึกคักแบบนี้ยังไงหล่ะ"
"อ้อ อย่างงี้นี่เอง แล้วเขตภายนอกเป็นยังไงบ้างหล่ะ??" ทองสุกถามต่อไป
"ฉันก็ไม่รู้ทั้งหมดเหมือนกัน แต่เท่าที่พอรู้ ตอนนี้เขตภายนอกแบ่งออกเป็น 2 เขตใหญ่ ซึ่งขับเคี่ยวกันระหว่าง 2 กลุ่มอิทธิพล เขตแรกคือเขตแบล็คเวอร์จิเนีย เขตนั้นเป็นเหมือนแดนเถื่อน แต่เป็นศูนย์รวมผู้คนทุกประเภท ทั้งผิวขาว ผิวดำ แล้วพวกอินเดียนแดงอีก ทำให้มีแต่คนอยากไปอยู่ที่นั่น ส่วนเขตที่สอง ไวท์ยอร์ก เป็นเขตพวก KKK ดีๆนี่เอง พวกมันต่อต้านคนผิวสีอื่น พวกผิวสีคนไหนหลงเข้าไป ไม่รอดกลับมาซักราย ฉันว่านายอย่าพยายามไปใกล้เขตนั้นดีที่สุดหล่ะ" เจสสิก้าบอกข้อมูลกับเขาไป
"อ้อ ถ้าไม่ได้นายอำเภอช่วยนี่ เมืองนี้คงวุ่นวายมากเลยนะ" ทองสุกพูดขึ้น และในตอนนั้นเอง แคลิเฟอร์ที่แต่งตัวคาวบอยแบบเต็มเหนี่ยวก็วิ่งมาหาพวกเขาทั้งคู่ โดยที่วันนี้เธอมาแปลก เธออาบน้ำมาด้วย ซึ่งเจสสิก้าแอบสังเกตได้
"แหม่ ไม่รอฉันเลยเหรอพวกเธอเนี่ย??"
"แคลิเฟอร์ นี่เธออาบน้ำมาเหรอ??" เจสสิก้าถามอย่างสงสัย
"ก็ใช่นะ ไหนๆคืนนี้ก็ได้ออกมาเที่ยวข้างนอกแล้วนี่ แต่ฉันยังพกปืนมาอยู่นะ" แคลิเฟอร์ตอบไป
"อ่า แล้วนี่พวกเราจะไปไหนกันหรือ??" ทองสุกถามไป
"บาร์มาเรีย บาร์ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง แถมมีเรื่องให้ทำเยอะด้วย ไปกันเลย!!" เจสสิก้าพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็เดินเท้ากันต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงบาร์มาเรีย ซึ่งเป็นบาร์ที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ทั้งชายและหญิงต่างมาหาความสำราญกันที่นี่ แล้วก็ไม่ต่างอะไรจากคนอื่นๆ เจสสิก้าพาทั้งทองสุกและแคลิเฟอร์เดินตรงเข้าไปในร้านทันที แต่ดูเหมือนว่าไม่ค่อยมีใครสนใจพวกเขานัก แต่ท่ามกลางหลุ่มคนที่กำลังนั่งดื่มอยู่ในบาร์ ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทคนหนึ่งซึ่นกำลังนั่งอยู่กับเด็กสาวน่ารักคนหนึ่ง พวกเขาทั้งคู่มองทองสุกแล้วก็ได้คุยกันในทันที
"พี่คะ ดูชายคนนั้นสิ คนเอเชียหน่ะ" เด็กสาวคนนั้นพูดขึ้น
"อืม ไม่รู้ว่าคนจีนหรือเปล่า หรือญี่ปุ่น แต่ผิวของเขาเข้มไม่เหมือนคนจีนเลยนะมิเชล" ชายคนนั้นพูดขึ้น
"แล้วพี่วิลเลี่ยมจะเอายังไงต่อหล่ะ??" หญิงสาวคนนั้นถามไป
"รอดูไปก่อนแล้วกัน พี่เองก็อยากรู้เหมือนกัน" ชายที่ชื่อวิลเลี่ยมพูดขึ้น และทางด้านของทองสุก ในตอนนั้นเอง เขาก็เดินไปที่กลางบาร์ ซึ่งในตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นเวทีมวยใหญ่เวทีหนึ่งกำลังตั้งอยู่ และบรรดานักมวยก็กำลังฝึกกันที่หน้าเวที และบนเวทีก็กำลังต่อยกันอย่างเมามันส์ แล้วก็เป็นชายผิวขาวร่างยักษ์คนหนึ่งที่ได้ต่อยชายอีกคนจนร่วง จากนั้นก็มีเสียงระฆังดังขึ้น
"เป๊ง!!"
"เอาหล่ะครับพ่อแม่พี่น้อง บาร์ตัน บาสเนอร์มือขึ้นมากวันนี้ จะมีใครมาชกกับเขาต่อหรือเปล่าครับ ผู้ชนะคืนนี้ จะได้เงินถึง 100 ดอลล่าห์ และได้ดื่มส่วนตัวกับดาราดังของเรา ซูซี่ ฟาริด้า วัลเลอร์!!" โฆษกประกาศขึ้น จากนั้นซูซี่ก็เดินลงมาจากบันใดในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยและยั่วยวน จากนั้นเธอก็ตะโกนขึ้นมา
"จะมีใครกล้าไหมหนุ่มๆ??"
บาร์ตันคนนั้นชี้ไปที่ซูซี่ราวกับว่าเขาจะจองตัวเธอ แต่ในตอนนั้นเอง บาร์ตันก็เหลือบไปเห็นทองสุกที่อยู่ด้านล่าง จากนั้นเขาก็เดินไปชี้ตัวทองสุกในทันที
"เฮ้ย ไอ้คนจีน ฉันเคยเห็นแก แกต่อยเพื่อนฉันใช่หรือเปล่า??"
บาร์ตันตะโกนถาม และในตอนนั้นเอง ทองสุกก็ตอบเขากลับไป
"นี่ ฉันไม่รู้ว่าต่อยเพื่อนแกตอนไหน??"
"เมื่อกลางวันในบาร์ยังไงหล่ะ แกขึ้นมาบนเวทีเดี๋ยวนี้ ฉันจะฉีกร่างแกให้ดู!!" บาร์ตันพูดขึ้น
"นี่ ทอดด์ มันอยากจะลุยกับนาย นายจะเอายังไงหล่ะ??" เจสสิก้าถามไป และในตอนนั้นเอง ทองสุกก็ถอนหายใจ จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีในทันที จากนั้นตัวเขาก็ถอดเสื้อของเขาออก จากนั้นก็ฝากเจสสิก้าไว้ในทันที
“เอาหล่ะครับพาอแม่พี่น้อง ชายหนุ่มร่างเล็กคนนี้หาญกล้าท้าสู้แชมป์ของเรา เพราะฉะนั้น ถ้าเขาชนะ เงินรางวัลของเขาคือ 500 ดอลล่าห์ ได้ไปเลย!!”
เสียเฮของผู้ชมดังขึ้นมากขึ้นไปอีก ในตอนนั้นเองมันก็หัวเราะทองสุกและเตรียมที่จะบดขยี้เขา
“เริ่มชกได้!!”
==============================================================
ทองสุกกำลังจะขึ้นชกแล้ว และเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ
https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig?view_as=subscriber ซับแนลหนูด้วย
ความคิดเห็น